>>593 กูขอตอบในฐานะผู้ชายคนนึงที่ชอบบอกปัดผู้หญิงแบบนั้นบ่อยๆ ส่วนใหญ่กูมักใช้วลีแบบนั้นกับเรื่องที่รู้ว่าถ้าเล่าไปก็ไม่มีประโยชน์น่ะ แถมถ้าตอบความจริงไปก็รังแต่จะทำให้สาวเจ้าแกขมวดคิ้วแล้วเรียกร้องคำตอบมากกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะมันไม่สมเหตุสมผลหรือเพราะเธอไม่เข้าใจ แต่เพราะเธอไม่พร้อมจะรับฟังคำตอบนั้นไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดๆมากกว่า ไม่ใช่เพราะกูอยากทำตัวเป็นสาวน้อยที่มีหัวใจซับซ้อนซ่อนเงี่ยนเอ้ย เงื่อนนับพัน แต่มันต้องมีวิธีเผยเรื่องนั้นในเวลาที่มันเหมาะสมกว่านี้(เช่นเวลาที่เธออารมณ์ดี, เวลาที่เธอใจเย็นกว่าตอนนี้ หรือเวลาที่เราทั้งคู่พร้อมจะสื่อเรื่องนี้ถึงกัน) เพราะบางครั้งเนื้อหามันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับความรู้สึกที่ได้มอบให้คนฟังหรอก (เดาได้เลยว่าคำตอบของเขาจะกระทบความรู้สึกเธอ หรือไม่ก็ทำให้เธอมองเขาเปลี่ยนไปสักทาง) เขาเลยเลือกทางเซฟๆเพื่อถนอมความสัมพันธ์ปกติๆตอนนี้ไว้จนกว่าจะหาทางโอกาสพูดที่ดีกว่าได้
ทุกวันนี้เพื่อนผู้หญิงกูที่นิสัยชิลล์พอจะแลกเปลี่ยนความในใจด้วยกันได้นี่มีแค่2คนได้เองมั้ง (หนึ่งในนั้นดันเป็นน้องสาวอีก ที่เหลือที่ผ่านมาในชีวิตตั้งมากมายกูก็เคยคุยนะ แต่ไม่เปิดเผยอะไรมากแล้วเพราะกูว่ามันไม่มีผลดีอะไรเลยนอกจากสร้างความกังวลให้เธอเปล่าๆในเรื่องที่เธอช่วยก็ไม่ได้ หรือในเรื่องที่เราไม่ได้อยากให้เธอช่วย ฯลฯ) อนึ่งนี่ก็แค่ความเห็นกูคนเดียวน่ะนะ เอาไปแอพพลายกับเพื่อนชายเธอแล้วอาจไม่ตรง แต่เรื่องนึงที่กูอยากแนะคือความเป็นห่วงน่ะมันเป็นสิ่งดีนะ แต่ถ้ามันมากไปหรือซ่อนไว้ไม่ดีมันเขาก็คงไม่สบายใจ เพราะไม่มีผู้ชายที่ไหนชอบทำให้ผู้หญิงที่ตัวเองชอบ/สนิท/เป็นที่รักต้องเป็นกังวลหรอก ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป ไว้เขารู้สึกว่าเธอพึ่งพา(ทางจิตใจ)ได้เดี๋ยวเขาก็เดินมาปริปากบอกเธอทุกเรื่องเองนั่นแหละ