กูตั้งให้ เห็นใกล้เต็มละ
โม่งคุยเรื่องเพื่อน กระทู้แรก >>fanboi.ch/lifestyle/1526/
Last posted
Total of 1000 posts
กูตั้งให้ เห็นใกล้เต็มละ
โม่งคุยเรื่องเพื่อน กระทู้แรก >>fanboi.ch/lifestyle/1526/
เชี่ย ลิงค์ผิด >>>/lifestyle/1526/
ขอปรึกษาทริคในการพูดคุย หาเพื่อน เข้าสังคมได้ปะวะ งั้นก็ขอคำเเนะนำหน่อยสิ
กูอยู่มหาลัย ทีนี้เพื่อนเก่าๆกูมันก็ย้ายไปอยู่สาขาอื่น
กูมีเพื่อนน้อยมาก คือกูเข้าหาคนไม่เก่ง กิจกรรมไม่ชอบทำ เเต่กูดันอยากจะคุยเก่งๆ
เพื่อนในชั้นเรียน เซคก็มีนะเเต่ก็เเค่เพื่อนในชั้นเรียนว่ะ คือด้วยความที่กูคุยไม่เก่ง มุขเมิกไม่มี เข้าหาคนยาก
เวลาคุยๆก็ไม่รู้จะคุยอะไร คนอื่นๆมันก็คงอึดอัด เอาง่ายๆคือกูคุยด้วยเเล้วอึดอัด
อยากฝึกการคุยให้คุยได้ราบรื่นว่ะ กูก็เข้าใจว่าของเเบบนี้มันเปลี่ยนเเปลงกันยาก เเต่ก็อยากฝึก
ควรทำไงดีวะ อยากคุยกับคนเเปลกหน้าเก่งๆด้วยให้เขารู้สึกสบายใจเวลาคุยไรเงี้ย
>>3 ถ้าเป้าหมายมึงคืออยากให้เขาสบายใจเวลาคุย อยากคุยกะคนแปลกหน้าเก่งๆ มึงต้องเปลี่ยนความคิดก่อน จำใหม่นะว่า "คุยสนุก" ไม่เหมือนกับ "คุยเก่ง"
มึงลองหันมาเป็นฝ่ายนั่งฟังดูบ้าง
กูเองเมื่อก่อนก็เป็นคนคุยไม่เก่ง กูรู้ตัวว่ากูคุยไม่สนุก กูเลยไม่พูดมาก เน้นนั่งนิ่งๆ ฟังอย่างเดียว
แต่เพื่อนหลายคนที่ได้รู้จักกับกูบอกกูว่า กูเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ และเพื่อนๆหลายคนชอบมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้กูฟัง เขาบอกว่า เขาไว้ใจที่จะเล่าให้กูฟัง เพราะกูตั้งใจฟังเขา และให้คำแนะนำดีมาก
แต่เอาตรงๆนะ... กูไม่ได้ให้คำแนะนำไรดีเลยว่ะ กูแค่ใช้หลักจิตวิทยาทำให้เขาคิดหาคำตอบจากปัญหาได้ด้วยตัวเองต่างหาก
กูจะแนะนำทีละเรื่องนะ มึงอยากอ่านเรื่องไรก็อ่านไป กูเขียนเผื่อคนอื่นๆที่จะอ่านด้วย เผื่อได้นำไปใช้ เพราะกูเข้าใจดีว่าคนเงียบๆมันมีอุปสรรคในการเข้าสังคมยังไง และกูผ่านมันมาแล้ว
1.บุคลิก
มึงต้องพยายามไม่ทำตัวมืดมน และไม่ควรออกตัวเข้าหาคนอื่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
first impression สำคัญมาก มึงต้องคิดให้ได้ตลอด ว่ามีคนกำลังมองมึงอยู่ เพราะฉะนั้นจุดแรกที่จะเปลี่ยนให้มีคนกล้าเข้ามาพูดคุยกะมึง คือบุคลิกของตัวมึงเอง
ไม่จำเป็นต้องยิ้มตลอดเวลา แต่เวลาสบตาใคร ห้ามทำหน้าบึ้งเด็ดขาด ถ้าหน้ามึงเป็นคนหน้าดุ ก็ยิ้มกลบหน้าดุๆนั้นไป ถ้าหน้าปกติ มึงก็ลองอมยิ้มนิดนึงพอ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรู้จักนะ ถ้าคนไม่รู้จักเขามองมึงนานๆจนมึงรู้ตัว หันกลับไปยิ้มให้เขาเลย วิธีนี้ถ้าเป็นผญ อาจได้แฟน แต่ถ้าเป็นผช อาจโดนหาว่าม่อ รึเกย์ ก็ระวังๆหน่อยแล้วกัน ยิ้มนิดเดียว อย่ามากไปนะเว้ย!
ถ้ายิ้มกลับไปแล้วโดนหลบหน้าก็อย่าตกใจ คนส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น แต่ลึกๆมึงก็ได้คะแนนบวกในใจเขาไปละ
2.โอกาสคุย
มี 2 ทางให้มึงได้คุย คือ 1.รอเวลาให้มีคนเข้ามาหามึงเอง 2.มึงเข้าไปหาเค้า
ถ้ามึงเป็นคนที่บุคลิกเงียบ มึงไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มเริงร่าเข้าไปทักทายคนอื่น ให้มึงเลือกชอยส์ 1 เป็นหลักเลย ส่วนชอยส์ 2 โอกาสจะได้ทำแบบนั้นมีเฉพาะเวลาทำกิจกรรมกับคนเยอะๆ ซึ่งมึงไม่ทำกิจกรรม ดังนั้นข้อนี้กูขอไม่พูด
ถ้ามึงเปลี่ยนบุคลิกตัวเองได้สักระยะ ออร่ารอบตัวมึงจะเปลี่ยนไป และจะมีคนเข้ามาหามึงมากกว่าเดิมเอง ตอนนี้อยู่ที่มึงรับมือยังไง
เวลาคนเข้ามาหามึงเนี่ย มีหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่เขาเข้าหาเพราะหวังประโยชน์จากมึง(เอาจริงๆแม้แต่เพื่อนสนิทก็เข้าหากันเพราะต้องการ "ความสบายใจ" ดังนั้นไม่ผิดที่เขาจะเข้าหามึงเพราะประโยชน์ มึงจงดีใจที่มึงมีประโยชน์) ก็สนองเขาไป ทำตัวไม่เป็นศัตรู และยิ้มให้ถ้าเขาขยับตัวเข้ามาใกล้มึงมากขึ้น เป็นการสอนเขาอย่างลับๆว่า "ฉันเป็นมิตรกะเธอนะ เธอจะได้ประโยชน์กว่าเดิมถ้าเธอสนิทกับฉันมากกว่านี้"
(การที่มึงคุยๆกันแล้วฝ่ายไหนก้าวเข้าหา หรือปลายเท้าหันไปทางคู่สนทนา แสดงว่าฝ่ายนั้นวางใจและรู้สึกเป็นมิตรแล้ว)
3.หนทางคุยยาวๆของคนเงียบ
คืออย่าที่ว่าแหละ "คุยเก่ง" กับ "คุยสนุก" ไม่เหมือนกัน
อย่างกู กูเป็นคนคุยไม่สนุก(หมายความว่า ถ้ากูเป็นฝ่ายพูด จะไม่สนุกเฮฮาเท่าไหร่)
แต่กูคุยเก่ง เพราะกูคุยแล้ว อีกฝ่ายเข้าหากูมากขึ้น ไว้วางใจกูมากขึ้น และอยากจะคุยกับกูอีกยาวๆ
(และเวลาอยู่ในกลุ่ม กูก็ไม่ได้ไร้ตัวตนเหมือนเมื่อก่อน เพราะเมื่อคนในกลุ่มเห็นกูมีตัวตน เขาจะเป็นฝ่ายดึงกูเข้าไปร่วมวงกับเขาเอง)
วิธีการคุยของกูคือ เป็นฝ่ายฟัง และให้อีกฝ่าย "เล่า" วิธีนี้จะได้ผลที่สุดถ้ามึงได้คุยกะเพื่อนแค่ 2 คนนะ
ถ้าเป็นเพื่อนใหม่ มึงอาจบอกไว้ก่อนก็ได้ว่า มึงเป็นคนพูดไม่เก่ง เพื่อให้เขารู้สึกว่าเขาควรเป็นฝ่ายพูด
เวลาเขาเล่าอะไรมา มึงก็ใช้วิธีการ "ทวนคำ" แทนคำว่า "อืม" เพื่อแสดงให้เห็นว่า มึงเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูด อาจจะทวนด้วยคำถาม หรือแค่คำเฉยๆก็ได้
เช่น เพื่อน: เมื่อวาน"ดีใจ"มากเลย
มึง: "ดีใจ"เรื่องอะไรเหรอ?
เพื่อน:ก็เมื่อวาน บลาๆๆๆๆ
มึง: อ่อ มึง บลา มึงก็เลย บลา อย่างงี้นี่เอง ยิ้มแป้นเชียว
เพื่อน:ใช่มะ แล้ววันนี้ก็ บลาๆๆ
มึง: //ทวนคำเป็นระยะๆ
การทวนคำนี้ใช้กะตอนสงสัยได้ด้วย เช่น
เพื่อน:เหนื่อยอะ
มึง:เหนื่อย? (เชิงถาม)
เพื่อน:(ถูกบังคับให้ตอบเหตุผล)ก็เมื่อเช้าดิ ทำเลขไม่ค่อยได้เลยว่ะ
มึง:ไม่ค่อยได้เหรอ ยังไง?
เพื่อน: ก็ข้อนั้น บลาๆๆ ข้อนี้ บลาๆๆ สุดท้ายก็ทำไม่ทัน
มึง:ไม่เป็นไรมึง มันผ่านไปแล้ว แล้วตอนนี้เหลือสอบไรอีกปะเนี่ย
เพื่อน:ก็มีสอบวันนู้น วันนี้แล้วก็วันนั้น บลาๆๆๆ
มึง: อ๋อๆ เอ้ยย สอบวันเดียวกันเลย วิชาไรนะ
ฯลฯ
4.จิตวิทยา
พอมึงสนิทกันได้ระดับนึงแล้ว เขาจะเริ่มกล้าเปิดใจกะมึง ทีนี้จิตวิทยาสำคัญมาก มันจะทำให้มึงดูใส่ใจเขา และเขาจะสนิทกับมึงแบบก้าวกระโดดเลย ถ้าผ่านช่วง"ระบายทุกข์"ไปได้ สุดท้ายแล้วถ้ามึงจะกลับไปห่าง เขาก็ยังรู้สึกสนิทกับมึงเหมือนเดิม
จิตวิทยาที่กูจะสอนมียิบย่อยเยอะสัสๆ เอาเท่าที่จำได้นะ
-เวลาฟัง พยายามสบตาบ่อยๆ ถ้าไม่สะดวกมองตา ก็มองที่ดั้งจมูก(ระหว่างตา) รับรองคนโดนมองไม่รู้หรอก เขาจะคิดว่ามึงมองตาอยู่(ใช้กับเวลาที่ต้องคุยกับคนที่ไม่ชอบหน้าได้ด้วย จ้องดุๆไปที่ดั้งแม่งเลย เดี๋ยวมันกลัวเอง)
-ลอกเลียนท่าทางเขาเป็นระยะๆ เช่น เขาเอามือเกาคาง ก็ลองเกาคางตาม เขาเอามือคำโต๊ะ ก็ค้ำบ้าง อย่ามากไปนะ มันจะดูกวนตีน
เวลาคนเราทำอะไรตามๆกัน คนที่เป็นคนเริ่มทำจะรู้สึกเป็นพวกเดียวกับคนที่ทำตาม ไม่เชื่อมึงลองสังเกตเวลาเด็กๆเล่นกัน เขาจะทำท่าทางตามกันโดยไม่รู้ตัว
อันนี้ใช้กลับกันได้ด้วย คือถ้ามึงพูดอยู่แล้วอยากรู้ว่าใครตั้งใจฟังมึง ก็ลองทำท่าทางเบสิกๆดู เช่นกอดอกหลวมๆ หรือมองไปทางอื่นแวบนึง ถ้าใครทำตามคือกำลังฟังมึงอยู่ แต่อันนี้ไม่ได้หมายความว่าคนไม่ทำตามคือไม่ฟังนะเว้ย
-ปลายเท้า ถ้ามึงยืนคุยกัน มึงลองใช้หางตาสังเกตปลายเท้าดู ถ้าปลายเท้าเขาหันไปทางอื่น แสดงว่าเขาเริ่มเบื่อที่จะคุยกะมึงแล้ว แต่อาจจะไม่กล้าปิดบทสนทนาเอง มึงก็ลองหาข้ออ้างปิดการสนทนาไป
-คนที่สนิทกัน เวลาเดินด้วยกันจะก้าวเท้าไปพร้อมๆกัน
เวลาเขาทักมึงตอนเดิน มึงก็ลองไปเดินข้างเนียนๆ ให้เท้าลงจังหวะพร้อมกัน เขาจะคุยกะมึงเพลินเลย
-เรื่องแย่ๆของตัวเอง เก็บไว้ถ้าไม่มีใครถาม หรือถ้ามีใครถาม ก็ตอบเฉพาะที่เขาถาม ถ้าใครให้เล่า ก็เล่าสั้นๆ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ชอบฟังเรื่องที่ไม่เกี่ยวกะตัวเอง ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่สนุก ไม่ฮา ไม่ขำ ยิ่งไม่มีใครชอบฟัง
อันนี้ยกเว้นกะพวกที่สนิทมากๆ ยิ่งเล่ายิ่งสนิท อันนี้เล่าไปเลย
-ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ
อันนี้ใช้กะผู้หญิงได้ผลดี มึงลองสังเกตรายละเอียดเล็กๆดู แล้วทักบ้างไม่ต้องบ่อย แต่ทักให้รู้ว่า ตูใส่ใจนะ
หรือถ้าจะมุ่งสายเงียบเสน่ห์ ก็ไม่ต้องทัก แต่อาจจะเทคแคร์ด้วยการกระทำเลย เช่น รู้ว่าชอบกินขนมอะไร ถ้ามึงซื้อขนมนั้นมาพอดีก็แบ่งให้กิน เจาะจงคนที่เขาชอบขนมนั้นเลย
หรือเวลาเจอของที่รู้ว่าเขาชอบ เช่นกระเป๋าลายนั้น เคสมือถือสีนั้น ก็ลองแนะนำเขาดู(ไม่ต้องซื้อให้ นั่นทุ่มเทไป)
อันนี้ทำอย่างพองาม อย่าเยอะไป ถ้าเยอะไปเรียกหน้าม่อนะจ๊ะ (เช่นซื้อเคสมือถือที่เขาชอบมาให้เลย..อันนี้ไม่ใช่เพื่อนละ)
กูเพิ่งรู้สึกตัวว่ากูเขียนละเอียดไป ข้อความเยอะไปแล้ว
ขออภัยเพื่อนโม่งที่รู้สึกรกด้วยนะ ถ้าที่กูเขียนมันมีประโยชน์ซัก 1 ประโยค หรือทำให้ใครมีเพื่อนเพิ่มมาได้ซัก 1 คน แค่นี้กูก็ดีใจและ -/\-
ขอให้ชาวมนุษย์เงียบจงมีชีวิตที่ดีด้วยเถิด
กุสรุปให้ฟังย่อๆ
-ปรับบุคลิก อย่าทำตัวหม่น
-สบตา
-ทวนคำ แทนการใช้ อือ อืม ซ้ำๆ
-ลอกท่าทาง
-เดินจังหวะเดียวกัน
-ดูปลายเท้า
-สังเกตสิ่งเล็กๆน้อยๆ
>>12 ขอบคุณมากที่มึงเข้าใจจจ กูคิดว่าจะโดนด่าซะแล้ว บอร์ดโม่งแม่งโหดตลอด กูแทบไม่อยากเม้นอะไรเลย แต่นี่กูเจอคนที่เคยมีปัญหาเดียวกะกูกูเลยอยากช่วย(แอบทำใจไว้แล้วว่าถ้าโดนด่ากูจะนิ่ง)
ข้อมูลเรื่องจิตวิทยานั้นบางส่วนกูอ่านในหนังสืออังกฤษสักเล่มอะ คนเขียนเป็นผญที่ทำงานวงการบันเทิง แล้วต้องรับมือกับการพูดคุยเพื่อธุรกิจและข่าว เขาก็แนะนำวิธีการทำให้ดาราสนิทใจกล้าคุยกับเขา กับวิธีหยุดบทสนทนากับคนที่ไม่ชอบ ไรงี้ อ่านแล้วแบบ หูวว ล้ำสัส
กับอีกเล่มนึงเป็นหนังสือของจิตแพทย์เลย กูซื้อมาเพราะกูอยากพูดเก่งๆเนี่ยแหละ คือทั้งเล่มนี่ดีมาก สอนหมดจดและอธิบายด้วยเหตุผลวิชาการหมดเลย มีภาษาไทย อ่านแล้วงงนิดหน่อยถ้าไม่มีพื้นฐานจิตวิทยา แต่รวมๆก็ดีมาก มันทำให้เข้าใจมนุษย์มากกว่าเดิมเยอะ เล่มนี้ช่วยเรื่องการวางตัวและบุคลิกมากๆ
แต่ทั้งสองเล่มกูจำชื่อหนังสือหรือคนเขียนไม่ได้แล้วว่ะ ขอโทษนะ ; - ;
>>16 เหมือนกันๆ มู้นี้มีประโยชน์สัสๆกับพวกมีปัญหาด้านความสำพันธ์กะคนอื่นอย่างกู ไปอยู่ที่ไหนเป็นต้องถูกหมั่นไส้ตลอด ที่แย่คือกูไม่รู้ตัวเองว่าไปทำไรถึงน่าหมั่นไส้ กูโดนเพื่อนเกลียดตั้งแต่สมัยม.ต้น ม.ปลายก็โดนจับกลุ่มนินทา พอเข้ามหาลัยก็โดนตั้งแง่เพื่อนไม่คบ พอทำงานก็เหมือนจะเข้ากะคนอื่นไม่ได้อีก ทำไมกันวะ ทั้งๆที่ตอนประถมก็มีเพื่อนเยอะแยะ แต่พแเข้าม.ต้นแล้วโดนแกล้งหลังจากนั้นก็มีปัญหาตลอด
>>17 บางทีมึงลองชุบตัวก็ได้นะ ไม่จำเป็นต้องย้ายที่เรียน แต่หมายถึงให้ไปทำกิจกรรมแยกตัวออกไปจากสังคมปัจจุบันเลย ไปรู้จักคนใหม่ๆที่เขาไม่รู้จักเพื่อนมึง เผื่อเขาจะได้ไม่มองมึงแบบอคติเหมือนสังคมปัจจุบันของมึงไง
ส่วนเรื่องถูกหมั่นไส้กูว่ามันอาจจะมีมูล มึงลองสังเกตดีๆว่าเขาเดินหนีจากมึงตอนไหน หรือชักสีหน้าใส่มึงตอนไหน หรือบางทีมึงอาจจะแค่มโนไปเอง เขาอาจจะไม่ได้เกลียดมึงแต่ไม่กล้าเข้าหามึงเพราะมึงไม่ยิ้มก็ได้
ฟังจากฝ่ายเงียบละกูใจชื้นขึ้นเยอะ แต่กูอยากฟังความเห็นจากพวกคุยเก่งบ้างว่ะ
พอดีรุ่นพี่กูคนนึงเป็นคนพูดมาก(แต่พูดเก่งน่าฟัง) ชอบดันๆให้กูพยายามฝึกพูด ฝึกต่อรอง ฝึกเมาท์
ซึ่งกูไม่ชอบเลยว่ะ เขาจะชอบพูดว่า ห้ามนั่งเงียบ ให้พูดเยอะๆ กล้าๆเข้าไว้ เหมือนเขามองว่ากูขี้อายเลยไม่พูด
แต่ที่จริงกูไม่ได้ขี้อายหรอก แต่นิสัยกูไม่พูดเยอะอยู่แล้วไง
พอเจอคนเงียบที่เข้าสังคมได้กูเลยดีใจว่าแนวคิดกูไม่ผิด เพราะกูก็อยากมีสังคมโดยไม่ต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเอง
กูขอบ่นหน่อย กูทำงานกลุ่ม แล้วแม่งกูแจงงานไปเสือกไม่ทำ ตอนแรกคือกูแค่ฝากมันทำงานเล็กๆนิดหน่อยเล็กๆแค่นั้น กูจะทำส่วนอื่นรอ คือแม่งทำงานไม่ได้ไงกูก็ให้แค่นั้น แต่พอถึงวันนัดทำงานเสือกไม่มีงาน ไม่ทำห่าไร
แล้วทีนี้กูก็แจงงานส่วนอื่นไป ทำไม่ได้ ไม่มีมาถามคือมึงทำไม่ได้แต่เอางานไปหมกแม่งโคตรเสียเวลาจะทำส่วนอื่นก็ทำห่าไรไม่ได้ ต้องรอ ต้องมานั่งแก้ ที่สำคัญคือเรียกมาทำกันเสือกไม่มา มาก็โพล่หัวนิดเดียวแล้วหาย เฮ้ยมึง คือกูไม่แจงงานปรึกษางานตอนนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะไม่มีมาคุยงานนะเว้ย
>>21 เออกูเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มงานใหญ่ๆมาแล้วหลายครั้งกูพอเข้าใจความรู้สึก มันจะมีคนบางส่วนที่ไม่ทำเหี้ยไรเลยแต่ไม่ยอมบอกว่าไม่ทำ ต้องรอหมดเวลาละให้กูไปทวงงาน ถึงบอกว่าทำไม่ได้
มึงลองกระจายอำนาจให้ดีๆ ให้คนทวงงานเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่มึง เช่น กูมีกลุ่ม 10 คน มี 3 คนเป็นเพื่อนสนิทกันและดูเหมือน 1 ใน 3 คนนั้นเป็นหัว มึงก็บอกงาน(ที่ทำ 3 คน)กับไอ้คนนั้นคนเดียวพอ ละให้มันไปแบ่งงานกันเอง ให้คนรับผิดชอบเป็นแค่คนเดียวในนั้นพอ
พอมันเป็นเพื่อนสนิทกันมันจะเกิดการเกรงใจ อย่างน้อยก็ทำให้มันทำงานได้(เพราะเกรงใจเพื่อนในกลุ่มตัวเอง ถ้าไม่ทำงาน=เพื่อนลำบาก)
พยายามสร้างสถานการณ์ที่มึงไม่ต้องไปง้อ แต่เขาต้องมาง้อมึงแทน เช่น ใครไม่ทำงานมึงไม่ใส่ชื่อและบอกอาจารย์
ถ้าเพื่อนจะเกลียดมึงเพราะเขาไม่ทำงานก็ปล่อยมันไป มันนินทาอะไรมึงไม่ได้อยู่แล้วเพราะมึงไม่ได้ผิดอะไร เขาต่างหากที่ผิด
ทุกวันนี้ทำงานแล้วเพื่อนที่มหาลัยไม่ค่อยจะมีใครเป็นฝ่ายมาคุยกับกูเลยว่ะ กูต้องเป็นฝ่ายทักคนอื่นก่อนตลอดมันเซ็งๆไงไม่รู้
พวกทักกูก่อนก็มีแต่พวกขอยืมตังอย่างเดียว
กูรำคานพวกที่เหนกูออนเฟสตี3ตี4แล้วหาว่ากูซุ่ม ซุ่มเหี้ยอะไรติดเอฟขนาดนี้ เอาจริงๆกูจะซุ่มไม่ซุ่มอ่านตอนไหนก็เรื่องของกู ไม่เสือกดิ
>>24 อิพวกนั้นในใจคิดระแวงว่าคนอื่นจะเอาชนะมัน(กลัวแพ้) ไม่ต้องไปให้ราคา กูเองขนาดกูบอกไม่อ่านๆๆๆๆ คือกูไม่อ่านจริงเพราะกูขี้เกียจ แต่พอใกล้สอบกูก็อ่านรอบนึงแล้วไปสอบ กลับทำได้คะแนนดี(เพราะกูอ่านแบบเข้าใจไม่ปล่อยผ่าน นานแค่ไหนก็อ่านให้จบ)
ละพอมันมาถามคะแนน มันก็มาด่ากู "ทำไมตอนถามชอบบอกไม่รู้ๆไม่อ่านๆ ที่แท้ซุ่มมาตลอดสินะ" ฟวย ก็ตอนนั้นกูไม่ได้อ่านเลยจริงๆนี่หว่า ในห้องเรียนก็ไม่ได้ฟัง จะให้กูตอบไรวะ
ใครมีวิธียิ้มแหยๆบ้างวะ กูนึกไม่ออกว่าจะทำไงส่องกระจกก้ไม่รู้อีกว่ายิ้มดีรึยัง โดนด่าเอ๋อประจำ -_-
เพื่อนฆ่าตัวตาย แต่ช่วยไว้ได้ทัน เลิกคบกันมะ
รำคาญเพื่อนตัวเองว่ะ แม่งไม่เคยพยายามอะไรด้วยตัวเองเลย ต้องให้คนอื่นช่วยทั้งๆที่เป็นเรื่องง่ายๆมันก็ทำได้
แต่บอกไปมันก็นอยด์อีก กูควรทำไงดีวะ
ทำใจ
>>32 ต้องเลิกรำคาญมันและเลิกแนะนำมันอะ คนบางคนแม่งชอบมีปัญหาเวลาเจอคนมาสั่งสอน ต้องให้มันตื่นเองดู กูเองก็เป็นคนไทป์นั้นมาก่อน ตอนนั้นเวลามีคนมาสอนกู(โดยเฉพาะสอนแบบด่าหรือบอกให้กูทำฯลฯ) กูมักจะรู้สึกว่าไอ้นี่คงแค่อยากมีส่วนในความสำเร็จของกู อย่ามาสอนกู กูรู้อยู่แล้วว่ากูควรทำอะไร ปัญหาคือกูไม่มีความอยากส่วนตัวและกำลังใจ ถ้าไม่คิดจะช่วยเหลือกันในเรื่องนี้ก็ได้โปรดใสหัวไปไกลๆพลีส กูรำคาญ แต่ก็ไม่รู้จะตรงเคสนายมั้ยนะโม่ง หวังว่าอดีตแสนทุเรศกูจะพอเป็นไอเดียให้ได้
กูรู้สึกแย่จัง กูเป็นคนติดเพื่อนมากๆ ไม่ได้แสดงออกหรอกแต่พอเพื่อนเริ่มไปสนิทกับคนอื่นกูจะรู้สึกแย่ เหมือนเสียจุดยืน แต่กูก็ไม่ได้ไปงอแงกับมันหรอก พอเป็นงี้ทีไรกูก็ถอยๆออกมาไม่ค่อยคุยกับมันบ่อยเหมือนเดิม เคยคุยครั้งนึงมันก็ตอบแห้งๆกูเลยไม่ทัก แต่พอทำงี้มันห่างกันมากกว่าเดิมอีก มันก็ติดเพื่อนใหม่ กูไม่อยากเป็นคนรู้จักมันเลย
กูขอพื้นที่ระบาย ไม่รู้ว่ากูมาถูกมู้ไหม 5555 กูเป็นพวกหน้านิ่งว่ะ บางทีติดจะเย็นชามากๆ แต่ไม่ใช่ไรว่ะกูเป็นคนขี้อายมากๆ กูไม่รู้จะทำยังไงเลยปั้นหน้านิ่งๆไว้ก่อน เวลาอยู่กับคนอื่นหรือคนอื่นมาคุยกับกูแม่ง กูรู้สึกได้ว่าเขาอึดอัด และสุดท้ายแม่งก็เงียบกันไป กูไม่รูจะทำไงกับตัวเองดีว่ะ55555 การเริ่มความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่สำหรับกูจึงเป็นเรื่องยากสุดๆ กูเเสดงออกไม่เก่งเลย แต่อย่างเพื่อนกูมีเพื่อนเยอะนะ เเต่กูไม่สนิทกับใครจริงๆสักคน ลึกๆเเล้วกูกลัว เมื่อตอนที่กูเรียนมปลายกูโดนเพื่อนที่กูรักมากๆทำให้กูสิ้นหวัง ท้อเเท้ โทษตัวเอง รู้สึกเเย่ มันเป้นความเจ็บฝังใจมากๆ กูเลยคิดว่าถ้ากูเลิกที่จะผูกพันกับใครกูคงจะเสียใจน้อยลง กูเเม่งขี้ขลาดจังว่ะ
โหลดแอพแชทไม่ดัง พวก Telegram Wechat Whatapp มาใช้คุยใช้หาเพื่อนในนี้ก็ดีนะ ไม่อยากโชว์ข้อมูลก็ไม่ต้องใส่
กูขอระบายหน่อย เดี๋ยวมาไปหยิบกระดาษกับสีแปป
สำหรับโม่งที่อยากคุยเก่งๆ หรือว่าหาเทคนิคพูดคุย
กุแนะนำหนังสือ "The Fine Art of Small Talk"
กุลองแล้ว มันดีและช่วยชีวิตกุไว้มากตอนที่กุต้องปรับตัวมาเข้าทำงาน
มันไม่ต้องฝืนตัวเองมากเวลาจะหาเรื่องคุย
มึงแค่ถามเค้าไปเรื่อยๆให้เค้าเล่าเรื่องของตัวเองมา มึงก็จับประเด็นในเรื่องเล่าเค้าอะ มาถามเค้าต่ออีกแล้วก็แสดงความคิดเห็นบ้าง
มึงไม่ต้องเหนือยคิดเยอะ แล้วยังดูใส่ใจคนอื่นด้วย
>>46 กูใช้วิธีนี้เข้าสังคมในมหาลัยกะคนที่ทั้งสนิทและไม่สนิท
เน้นถามๆให้อีกฝ่ายพูดๆมาเยอะๆเพราะกูขี้เกียจพูด...
แต่กูไม่เคยอ่านเล่มที่มึงบอกนะ
จะแฟนคลับเกาหลีหรือพวกติดแฟนหรือเด็กเรียนจนถึงคุอนิเมะกูก็คุยได้เรื่อยๆ
เพราะถามๆเวลามันพูดๆนี่ละ ไม่ก็ถามเหตุการข่าวปัจจุบันเอาชีวิตประจำวันทั่วไป
เอาจริงๆอาจเป็นเพราะกูขี้เสือกด้วยแหละกูชอบฟังความเห็นคนหลายๆแบบ
บางคนนี่น่าสงสารมากเขาติดนิสัยพูดมากไม่รู้ตัว พูดไม่คิด พูดไม่รู้เรื่อง
เค้าไม่รู้ตัวว่าโดนรำคาญ ไปๆมาๆคุยเองกูยังรำคาญก็มี
เวลาถามอะไรๆดูมันยิ่งเข้าใจคนมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวทำให้มึงเป็นผู้ฟังที่ดี
เวลาฟังได้หัดสบตาคนบ่อยๆสังเกตคนพูดด้วยลองพยายามดูโม่ง สู้ๆ
ใครที่เขาทำท่ารำคาญมึง แนะนำให้ค่อยๆถอยมาเลยแล้วเริ่มคุยดะไปเรื่อยๆ
มันต้องมีที่มึงโอเคสักคนบ้างละ
ตอนแรกกูเข้ามาในม.ด้วยความหว่าเว้มาก กูเกลียดม.ที่อยู่เลยแหละ
แต่แม่งไม่มีทางเลือก อาจารย์ก็ไม่ค่อยได้เรื่องครูมัธยมกูยังเก่งกว่าอีก
ช่วงแรกเพื่อนไม่มี มีคนมาชวนคุยแล้วอยู่กลุ่มนั้นประมาณอาทิตย์หนึ่ง
เอาตัวรอดได้ยิ้มได้ไม่อึดอัดแต่ไม่ค่อยโอเคเพราะกลุ่มนั้นเขามีแฟนแล้ว
กูไม่มีไงไม่ค่อยมีไรคุยมีแต่ถามกะแสดงความเห็นคุยได้แค่เรื่องทั่วไป
แต่ก็ไม่เยอะอยู่ดี ก็มันไม่สนิทไม่มีโมเม้นแหย่ล้อเล่นได้แบบเพื่อนกันจริงๆ
อารมแบบกูไม่กลืนไปกะคนในกลุ่มอะ
พอเจอเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งกูเนียนไปนั่งกะเขาเพราะกูทำเป็นมาสาย
(รอที่นั่งแถวๆกลุ่มเดิมเต็ม)กูดันโอเคกับอีกกลุ่มเฉยและคบมาตอนนี้
พอเจอเพื่อนกลุ่มเก่าก็คุยได้ดีขึ้นนิดหนึ่ง
ที่สำคัญมึงยิ้มบ่อยๆเว้ย กูเปลี่ยนร่างไวมากตอนรับน้องกูนิ่งแบบมึงบอกเลย
เพราะกูรำคาญการรับน้องมาก วันสุดท้ายนี่ไม่มาเลยสัส แกล้งป่วย555
เวลายิ้มกูจะอารมดีขึ้นไม่รู้เกี่ยวไหม แต่ตอนกูรมเสียนี่ไม่มีกระจิตกระใจยิ้มเลย
พออารมซาๆลงก็ยิ้มได้เหมือนเดิม อารมดีขึ้นด้วยเข้ากะคนอื่นง่ายด้วย
อีกอย่างกูเพิ่งคิดได้ตอนหลังๆว่าระหว่างทำหน้าเฉยๆกับยิ้มนี่ยิ้มง่ายกว่าวะ
มันดูเป็นมิตรอะมึงได้ภาพลักคนบ้ามานิดหนึ่งมันดีนะ
เพราะชาวบ้านจะไม่คิดมากเวลาเข้าหา ไม่คิดมากเวลาคุยด้วยไม่เกร็ง
ไม่รู้ว่าช่วยอะไรมึงได้ไหมแต่สู้ๆนะ การอยู่คนเดียวต่อให้มีความสุขแค่ไหน
ถ้ามันมากไปมันจะทำให้มึงไม่มีความสุขกับการเข้าสังคมได้
พยายามหาตวามสุขเวลาอยู่กะคนอื่นทีละนิดๆให้ชินที่ได้อยู่กับคนอื่นบ้าง
สู้ๆโม่ง หวังว่าจพช่วยมึงได้บ้างนะ ถ้าช่วยอะไรไม่ได้ขอโทษที่ทำมึงเสียเวลาอ่านละกัน
>>47 จะลองเอาวิธีมึงไปใช้ แต่กูขี้รำคาญนี่ดิ แถมขาดนิสัยชอบเสือกแบบมึงอีก 5555555
กูทำกิจกรรมคณะแทบทุกงานนะ ซึ่ง กูบอกเลย ถ้ากูไม่ทำกิจกรรมเหี้ยพวกนี้ กูคงมีเพื่อน6-7คนจากคนทั้งหมดสองร้อยกว่าคน ถึงกูจะไม่สนิทอะไรมากก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็พอมีเพื่อนไปกินข้าวด้วย คุยเล่นด้วย กวนประสาทในบางครั้ง
ขอแนะนำแล้วกันว่าถ้ามึงไม่ใช่มนุษย์สายเฟรนด์ลี่ ยิ้มง่าย และขี้รำคาญ ไม่ชอบพูดเรื่องตัวเอง ไปหากิจกรรมหรืองานที่ทำร่วมกับคนอื่นเยอะๆซะ เขาจะรู้จักมึงเองโดยที่มึงไม่ต้องตีสนิทอะไรวุ่นวาย ถ้ามึงโผล่หน้าให้เพื่อนเห็นบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็จะจำได้เองแหละว่ามึงเคยมาช่วยงานมัน คราวหน้ามึงจะเป็นคนแรกๆที่โดนเรียกตัวไปทำงาน ถถถถถถถถ
อยากคุยกับคนคนนึง แต่กลัวเขารำคาญว่ะ คือไม่ได้ทะเลาะอะไรนะ แต่เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากสมัยม.ปลาย แต่พอเขาไปเรียนคนละมหาลัยบวกกับเขาได้ทุนไปเมืองนอกก็เริ่มห่างกัน เขาอยู่ที่นั่นหลายปี เวลาออนก็ไม่ค่อยตรงกันเลยไม่ได้คุยมาก เคยนอนดึกๆคุยแต่เขาก็ดูยุ่งๆถามคำตอบคำ เราก็ไม่อยากเซ้าซี้เพราะเห็นอัพสเตตัสว่าเรียนหนัก แต่กลายเป็นว่าเขาไปสนิทกับคนอื่นแทน มีอะไรก็ไประบายกับคนนั้น เรามารู้ทีหลังทุกที แถมกว่าจะรู้ ปัญหามันก็จบไปแล้วด้วย เคยลองถาม มีอะไรก็บอกเราได้นะเว้ย เผื่อเราจะช่วยได้ โดนตอบกลับมาว่าไม่เกี่ยวกับแกมั่ง เรื่องนี้แกไม่ต้องยุ่งหรอกเราจัดการเองมั่งล่ะ พูดไปแกก็ไม่รู้เรื่องหรอกอย่าสนใจเลยมั่งล่ะ แล้วก็ไปคุยกับเพื่อนใหม่ของเขาดูหนุงหนิงดี แต่เวลาเราเมนท์บ้าง ดันข้ามคอมเมนท์เราเฉยเลย ทุกวันนี้ก็ไม่กล้าทักแล้วว่ะ กลัวเขาจะรำคาญ พอจะมีวิธีไหนไม่ให้ชวนคุยแล้วน่าเบื่อมั่งมะ จะพูดแต่เรื่องเก่าๆก็จะดูเป็นคนย้ำคิดย้ำทำไปหน่อย แต่ไม่มีเรื่องจะคุยจริงๆ
กูก็เคย เคยมีเพื่อนทางเนตคนนึง คุยกันได้เพราะชอบเรื่อง้ดียวกันแล้วเค้าก็ไปลากอีกคนมารวมกลุ่มด้วย จนวันนึงเค้าย้ายไปเรียนนอก ก็ห่างๆกันไป มาเจออีกทีแม่งกลายเป็นคนดังในเนตไปซะละ แถมอีคนที่ไปลากมาก็ยังคุยอยู่จนถึงทุกวันนี้ (ทำเอาสงสัยว่ามันสนิทกันมาตั้งแต่แรกแล้วป่าววะ ส่วนกูแค่เพิ่งโผล่ ผ่านมาก็ผ่านไป) พอตอนนี้จะไปคุยไปทักก็ไม่กล้า กลัวรำคาญ เพิ่งมารู้ทีหลังด้วยว่าเค้าก็คุยไปทั่วแหละ เจอใครสนใจเหมือนกันก็ชวนคุยไปหมด กูเคยถามถึงคนที่ถูกลากเข้ากรุ๊ปว่ตอนนั้นว่าเป็นไงมั่งเผื่อมีโอกาสกลับมารวมกลุ่มกันอีก ก็บอกแต่ยุ่ง ไม่ว่าง กูก็ไม่กล้าถามเฟสอะไรพวกนี้ไว้ติดต่อโดยตรงด้วย กลายเป็นปัจจุบันกูถูกลบถูกลืมซะแล้ว เหอๆ
ถ้าเกิดว่ามึงไม่ได้ทำอะไรเลยแต่มีคนเข้าหามึงแบบไม่ค่อยเกรงใจมึงจะทำไงวะ ไม่เกรงใจกลับ? มันไม่ได้แก้ปัญหารึป่าวพวกมึงว่าไง
อยากระบายเรื่องเพื่อนเหมือนกันครับ คือโดนเพื่อนลืมอยู่ตลอดเลย กลุ่มผมที่นับ ๆ ว่าเจอกันก็ประมาณ 5 คนครับรวมผมด้วย
เวลาเขาไปไหนมาไหนกันหรือเล่นเกมก็ไม่เคยชวน มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นผมก็จะเป็นคนที่รู้เป็นคนสุดท้ายตลอด
เคยถามตรง ๆ ครับว่าโกรธอะไรรึเปล่าบอกได้นะ ก็จะตอบมาว่าไม่ได้โกรธอย่าคิดมาก แต่สิ่งที่ทำกันมันก็ทำให้ต้องเอามาคิดตลอด
ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนคุยไม่สนุกแหละครับ แล้วก็มีปมเรื่องเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนโตขึ้น ๆ
ในกลุ่มเพื่อนผมก็ยังเป็นอากาศอยู่ดี เคยชวนคุยชวนเล่นเกมครับ แต่ก็เหมือนผ่าน ๆ ไป เหมือนเค้าจะอยากคุย อยากเล่นกับคนอื่นมากกว่า
เรื่องความชอบหรือรสนิยมของผมก็ไม่เหมือนในกลุ่มเพื่อนเลย เช่น เพื่อนชอบดูหนังฮีโร่ แต่ผมไม่ชอบดู
เพื่อนชอบเล่นเกม FPS แต่ผมไม่ชอบเล่น เพราะเล่นแล้วเวียนหัว ประมาณนี้แหละครับ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเจอหน้าค่าตากันเหมือนเดิมครับ
เจอกันทีไรผมก็เป็นอากาศทุกทีไร้ตัวตน...
เพื่อนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสุดท้ายแล้วครับเพราะโต ๆ กันหมดแล้ว วัยทำงาน ผมควรทำยังไงดีครับ
ขอโทษนะครับที่ยาวไปหน่อย ขอบคุณที่อ่านครับ
>>54 เหมือนผมเลย 55555 เพื่อนเคยชวนเล่นฮอน แต่ดันเล่นไม่เก่ง สุดท้ายโดนด่า แถมหลังจากนั้นไม่เคยชวนอีกเลย บางครั้งเหมือนมันสบายใจที่อยู่คนเดียวน่ะจะได้ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่มันก็ไม่ใช่ มันมีอะไรที่เราอยู่ร่วมกับเขาได้ละ กิจกรรมอะไรที่สามารถทำร่วมได้ ถ้าพร้อมจะปรับตัว ถ้าไม่ไหว ลองก็ลองหาไลฟ์สไตล์ที่ไม่ต้องสังคมมาก แต่มีความสุขเอา
>>54 เคยเป็นคล้ายๆกันเลยเราคุยไม่ค่อยสนุก อารมณ์แบบ ถ้าต้องมากินข้าวสองคนในกลุ่มคงเลือกมากับเราเป็นคนสุดท้ายอะ
เพื่อนชอบดอทแต่กูไม่ชอบ ชอบพวก FPS บลาๆ เยอะ ฝืนชีวิตนิดหน่อยเวลาอยู่กับเพื่อน แต่หลายๆครั้งก็สนุกดีเวลาอยู่
แล้วมันทำเรื่องที่กูไม่ชอบนิดหน่อย แต่ตอนนั้นกูปี2ไง เริ่มเรียนแยกภาคพอดี
เลยตัดสินใจออกมาพยายามหาเพื่อนในภาคแทน (ตอนนั้นกูค่อนข้างหักดิบเลย มีตามมาบ่นบ้างหายไปไหน)
ก็ได้เจอเพื่อนที่อยู่แล้วสบายใจกว่าเยอะ ไม่ได้ฝืนตัวเอง
กูก็ไม่ใช่ไม่มองหน้าเพื่อนเก่ากันเลยนะ เจอหน้าก็ทักทายกันปกติ กับคนที่ไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็ไม่ได้อยู่กันบ่อยๆเหมือนแต่ก่อน
ส่วนบางอย่างที่ทำบ่อยๆตอนอยู่กับกลุ่มเก่าอย่างดูหนังแล้วกลุ่มใหม่ไม่ค่อยดู ตอนมีเรื่องที่อยากดูมากๆกูลองไปดูคนเดียวมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ
ตอนนั้นกูปี2 ยังมีโอกาสหาเพื่อนด้วยหละเลยเลือกแบบนี้ (และก็โชคดีพอสมควร) ซึ่งอันนี้กูคงตอบให้ตรงๆไม่ได้อะ
กูว่าคงต้องถามตัวเองหละว่าอยู่กับมันแล้วสบายใจไหม ถ้าไม่มีมันอยู่ยังไง โอเคไหม
ขอบคุณที่อ่าน (กลายเป็นกูระบายไปซะงั้น)
กูเคยแคร์เพื่อนสนิทกูมากหลังๆมันผิดคำพูดบ่อยฟีลแบบเหมือนกูเป็นของตายไงไม่รู้ คือกูให้เกียรติเพื่อนกูตลอด ถ้ากูอารมไม่ดีกูจะทิ้งแชทไว้ตอบทีหลังแต่เพื่อนกูบางเรื่องกูไม่อยากคุยพอมันจับอาการได้มันก็เหวี่ยงใส่กูเลยหว่ะ กับเพื่อนคนอื่นมันทำดีด้วยเข้าขั้นอวยละมันชอบมาบ่นกับกูว่าอยู่กับคนอื่นละอึดอัด แรกๆกูโอ๋มันนะตอนนี้แบบรู้สึกว่าต้องเอาอกเอาใจมันฝ่ายเดียวพอมีเรื่องอยากบ่นก็มาหาพอกูมีเรื่องนิ่ไม่สนใจ ออกแนวเมินกับสมน้ำหน้ากู แต่เพื่อนคนนี้เคยไม่คุยกับกูเป็นเดือนอ่ะ ละมาขอโทษกูทีหลังบอกว่ามันเรียนหนักทั้งที่มันอ่านแชทกูละไม่ตอบเอง ทิ้งไว้เป็นเดือนจะให้กูเสร่อทักไปอ่อ กูว่ากูพอแล้วหว่ะ ไปปรับความเข้าใจกูยิ่งดูงี่เง่าแต่จะตีตัวออกห่างไงดีคนเคยสนิทกันมากอ่ะ
ขอบ่นเฉยๆ มีเพื่อนในห้องคนนึงที่กูไม่ค่อยชอบมัน(และกูสัมผัสได้ว่ามันก็ไม่ชอบกูเหมือนกัน) แต่มันเป็นที่รักของทุกคนในห้อง วันนึงเพื่อนในห้องแม่งคุยกันว่าจะจัดงานวันเกิดให้มัน และให้ทุกคนช่วยกันจ่ายตังค์หารค่าของขวัญ กูนี่แบบWTF ทำไมกูต้องจ่ายเงินกูซื้อของให้อีนี่ด้วยวะ กูโคตรหงุดหงิด แต่ก็ทำห่าไรไม่ได้ กูดูเลวเนอะ แต่กูไม่ชอบมันจริงๆ
กูไม่กลับไทยมานานมาก เกือบ 10 ปีได้แล้วหลังจากจบม.ปลาย หลังจากกลับไปพักผ่อนเจอเพื่อนเก่าๆ ไปโรงเรียนเก่าคุยกับครู
สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปเลยระหว่างกูกับเพื่อนก็คือ พวกกูยังเรียกกันด้วยชื่อพ่อชื่อแม่กับฉายาอยู่เพราะแม่งติดปากไปแล้ว
คำแรกที่กูทักเพื่อนเก่ากูคนนึงหลังไม่ได้เจอกันนานคือ ไอ้เหี้ย กูคิดถึงมึงสัสๆวิชัย ซึ่งวิชัยคือชื่อพ่อมันนั่นเอง แม่งเป็นอะไรที่ฮาสัสมาก
ตอนอยู่กันหลายๆคน เออ แล้วมีเพื่อนกูคนนึงแม่มันชื่อเล่นว่าแต๋ว ทั้งกลุ่มกูไม่มีใครจำชื่อมันได้เลย มาถึงเรียกกันเห้ยแต๋วๆๆๆ
พวกกูก็นั่งนึกไอสัสชื่อมันคืออะไรวะ นึกอยู่นานกว่าจะนึกออกเพราะสมัยเรียนก็ไม่เคยเรียกเลย
กูมีความรุ้สึกว่าเพื่อนสมัยเด็กๆนี่ดูจริงใจกว่าเพื่อนที่มาคบกันตอนโตเยอะเลย เพราะมีอะไรก็คุยกันได้หมด กูไปห้องซ้อมย้อนความหลังเล่นกันแต่เพลงเก่าๆกูไม่ได้แตะกีตาร์มาเกือบ 5 ปีเล่นอย่างกาก จริงๆมันก็กากกันทุกคนแต่มันสนุกจริง ไปเตะบอลนี่ก็ฮาสัส เพราะนึกถึงอะไรเก่าๆ ในกลุ่มกูมีเพื่อนคนนึงมันไม่ค่อยเต็ม แม่งเอาถุงเท้ามันใส่เป็นถุงมือบอล มันตลกสัสๆ
อ้อ แต่มีที่เปลี่ยนไปอย่างนึง คือเพื่อนผู้หญิงว่ะ กูมีเพื่อนสนิทเป็นทอมคนนึงก็อยุ่กลุ่มกูนี่ล่ะ 10 ปีผ่านไปมันก็ยังคงความเป็นทอมไว้เหมือนเดิมกูนับถือมันจริงๆมันเคยบอกกูไว้ว่ามันคือทอมที่แท้จริงกูฮา ภูมิใจในความเป็นทอมสัสๆ เออ มันก็มาเล่าให้กูฟังว่าเพื่อนผุ้หญิงมันเปลี่ยนไปจริงๆ
เพราะที่มาโรงเรียนเก่านี่มันบอกหลายคนมากทำเหมือนเป็นคนอื่นกันไปแล้ว บางคนที่ยังสนิทกันก็มาจับกลุ่มมองว่าเพื่อนผู้ชายคนไหนน่าจับไปทำผัว
เชี่ยกูสยองเลย แล้วกลุ่มกูอนาคตดีทุกคนด้วยเลยฮอตสัสอันนี้มันบอกมานะกูไม่ได้มโน แต่ว่าพวกกูคงไม่เอาหรอก พูดเป็นเสียงเดียวกันเลย
ตอนม.ต้นอีเหี้ยนี่กูจีบตั้งนานเสือกไปเอารุ่นพี่ เพื่อนกูอีกคนก็ตอนนั้นกูก็เคยจีบอีนี่แม่งไปคบเด็กห้องอินเตอร์กูไม่เอามันหรอกสัสกบฏต่อกู
ไอ้เชี่ยกูฮา มาไทยได้เจอเพื่อนเก่าๆนี่มันเป็นอะไรที่ดีจริงๆ
มึง ถ้ามึงมีเพื่อนที่ชอบโกหก(เรื่องงาน ประมาณจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวส่งๆ อะไรทำนองนี้ เอ้อ แต่ไม่เคยส่งงานสายจากกำหนดจริงนะ แต่แค่โกหกเรื่องความคืบหน้า ไม่ก็เรื่องของขวัญวันเกิด บอกจะให้ แต่ก็ลืมจนไม่ได้ให้ซักที)แล้วก็เป็นพวกรู้มาก คือหูตาไวอะ ชอบสังเกตแล้วก็วิเคราะห์จนบางทีเรื่องที่คิดว่าเป็นความลับ ไอ้นี่ก็รู้หมดจนน่ากลัวอะ มึงจะยังคบมันเป็นเพื่อนอยู่มั้ยวะ
>>63 แล้วมันไม่ดีตรงไหนวะ กุงง มันช่างสังเกตก็ไม่มีไรไม่ดี ส่วนเรื่องโกหกเรื่องงานไปถึงไหนแล้วแต่ก็เสร็จตรงเวลาก็ไม่เห็นมีไรเสียหาย ส่วนเรื่องของขวัญถ้าคนมันลืมมึงก็ลองเตือนความจำมันดิ กุว่ามันก็ปกติ ถ้ามันโกหกเรื่องงานว่าจะเสร็จแต่สุดท้ายไม่เสร็จนี่สิน่าคิด เรื่องมันรู้มากถ้ามันรู้แบบขี้เสือกนี่ก็น่าคิด ส่วนเรื่องของขวัญกุไม่รู้เพราะปกติพวกกุกับเพื่อนไม่คิดเล็กคิดน้อย ถ้ามันเป็นแบบกุยกตัวอย่างนี้กุก็ไม่ยุ่ง แต่ที่มึงบอกมามันเสียหายตรงไหนวะ
>>67 กูไม่ได้แสดงท่าทีว่ารู้นะ เก็บเงียบถ้าไม่จำเป็นน่ะแหละ..ส่วนเรื่องอึดอัดนี้กูลืมคิดจริงๆว่ะ เพราะเวลาเพื่อนถามประมาณคนนั้นรู้สึกยังไง อะไรแบบไหนแล้วกูดันวิเคราะห์ตรงทุกครั้งเนี่ย กูคิดแค่ว่าอยากให้เขาสบายใจขึ้นเพราะจะได้มีอะไรซักอย่างให้เชื่อจริงๆ ไม่ได้นึกเลยว่าเพื่อนจะระแวงกูขนาดนี้
ช่วงนี้กูกับเพื่อนผชคนนึงแบบห่างๆกันแบบแปลกๆ
คือคิดว่าเป็นเพราะเพื่อนกูชอบไปชง ว่ากูกับเขาเป็นแฟนกัน
กูชอบเขา เขาชอบกู อะไรแบบนี้
คือกูโดนเพื่อนแซวบ่อยมาก แต่ฝั่งผชกูไม่รู้ว่าขนาดไหน
แบบกูก็อึดอัด แบบโอ่ย พวกมึงเป็นอะไรมากมั้ย กูกับเขาเป็นเพื่อนกันเฉยๆ
แล้วช่วงนี้เพื่อนผชก์คนนี้เขาก็แบบแปลกๆไปก่บกูพอสมควร
กูรู้สึกได้อยู่
บ่นในเฟซในทวิตก็ไม่ได้เพื่อนฟอล เซ็ง
เพื่อนในกลุ่มกูเป็นคนเห็นแก่ตัว จนกูคบกับมันแล้วกูเหนื่อยใจอ่ะ เวลากูขอให้ช่วยอะไรที่มันจะไม่ได้ประโยชน์ มันก็จะปฏิเสธ ชอบอ้างว่าตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย แล้วก็ไม่ค่อยชอบช่วยเหลือคนอื่น แบบมันจะเห็นว่าเรื่องคนอื่นไม่ใช่เรื่องของตัวมันเอง
ล่าสุดกูทะเลาะกับเพื่อนอีกคน มันก็ไม่ช่วยห้ามอะไรเลย เพราะมันไม่เห็นว่าเรื่องของเพื่อนในกลุ่มเป็นปัญหาของมัน
แล้วมันก็ไม่ชอบให้ไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของมันด้วย ชอบพูดประมาณว่า เรื่องของกูๆๆ จนกูก็สงสัยนะว่าทั้งที่ก็เป็นเพื่อนกัน ทำไมแม่งไม่ค่อยเปิดใจให้พวกกูเลย นี่กูเป็นเพื่อนกับมันอยู่ฝ่ายเดียวรึเปล่าวะ
เห็นว่าเมื่อก่อนมันไม่มีเพื่อนคบ กูเลยคิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้มันไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไงกับเพื่อนถึงจะดีรึเปล่า
กูเคยถามถึงปัญหาชีวิตที่มันเคยเจอมาหลายๆอย่าง เผื่อกูจะได้รู้ว่าทำไมมันถึงกลายเป็นคนแบบนี้ แต่พอกูแตะเรื่องชีวิตมันนิดๆหน่อยๆแม่งก็ดราม่าทันที ไม่ยอมเปิดใจให้กูจริงๆ หรือกูควรรอให้มันพูดออกมาเองวะ กลัวว่าแม่งจะไม่มีวันนั้น เพื่อนคนอื่นในกลุ่มกูจะทนกันไม่ไหวซะก่อนด้วย
จริงๆกูอยากปรึกษาพวกนักจิตวิทยาอะไรทำนองนี้เลย อยากรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่คนเราจะไม่เปิดใจให้คนอื่น สนใจแต่ตัวเองจนเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้
แล้วกูก็คิดว่า มันไม่น่าจะรู้ตัวด้วย ว่าการกระทำหลายๆอย่างของมันคือมันกำลังเห็นแก่ตัวอยู่อ่ะ(หรือกูมองโลกในแง่ดีเกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้นะ)
เกิดมากูก็ไม่เคยเจอคนประเภทนี้เลย มันทำให้กูเหนื่อยใจจริงๆ แต่กูก็ทิ้งมันไม่ได้ด้วย กูควรทำยังไง ถึงจะไม่รู้สึกเหนื่อยแบบนี้วะ เห้อออ
เปลี่ยนห้องเรียนแล้วไม่มีคนรู้จักอยู่เลยตั้งรกรากไงดีวะ
>>70 กูเหมือนเป็นพวกไม่เปิดใจเหมือนกันนะ แล้วก็ไม่ชอบเล่าปัญหาหรือเรื่องส่วนตัวอะไรให้คนอื่น(แม้แต่คนในครอบครัว)ฟังด้วย กูรู้ตัวดีว่าบางทีกูก็เก็บกด แต่ส่วนหนึ่งกูก็ไม่อยากให้ใครเห็นด้านอ่อนแอของกู เพราะกูรู้สึกแม่งไม่เท่เลย55 กูว่าเพื่อนมึงก็อาจจะคิดคล้ายๆกับกูนะ ไม่กล้าจะเล่าอะไรออกไปเพราะกลัวว่าคนอื่นจะทิ้งตัวเองไป เพื่อนมึงอาจจะมีปมสมัยก่อนอยู่ก็ได้แหละ ถ้าถึงขนาดจะปฏิเสธคนอื่นขนาดนั้น มันก็แสดงว่ามึงสำคัญกับเขามากเลยไม่อยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงแหละ
(ส่วนเรื่องไม่ช่วย กูไม่ออกความเห็นนะ กูมีเพื่อนที่เวลาในกลุ่มทะเลาะอะไรกัน มันจะบอกให้ไปเคลียร์กันเองเพราะเป็นปัญหาของคนสองคน จะว่ามันถูกมันก็ถูก แต่กูก็เป็นพวกทนเห็นบรรยากาศมาคุไม่ได้อยู่ดี555)
เออมึง อยากได้คำแนะนำว่ะ คือกูมีเพื่อนสนิทอยู่สองที่ เพื่อนสมัยม.ต้นกับม.ปลาย แล้วทีนี้ ปรากฏเอนท์ติดมาอยู่คณะเดียวกัน กูดีใจนะ ที่ได้เจอแม่งสองที่เลย แต่แบบ กูจะทำยังไงดีวะ..กูไม่อยากเลือกสนิทอะ แต่เพื่อนมันก็เป็นคนละแบบกันเลย..
เออ แล้วถามหน่อย กลุ่มเพื่อนสนิทกูมันน้อยใจที่กูไปดูหนังกับเพื่อนคนอื่น แต่ไม่ชวนมันอะ คือสำหรับกู ใครชวน กูก็ไป แล้วหนังที่กูดูมันก็แนวเฉพาะทางอะ บวกกับกูไม่ใช่พวกชอบชวนคนอื่นก่อนอยู่แล้วด้วย แล้วเขาชวนกู กูก็ไปดูกับเขา กูคิดแค่นี้ว่ะ ไม่เคยน้อยใจอะไรถ้าเพื่อนสนิทกูมันไปดูกันเองด้วย แต่กูก็ขี้เกียจมีปัญหา อย่างน้อยกูอยากจะเข้าใจว่าที่กูทำมันขนาดต้องงอนกันอะไรเลยเหรอ
กุมีเพื่อนสนิท ค่อนข้างเป็นคนคิดมาก อมทุกข์ กุก็อยู่กับเขามาตลอด
พอกุมาเจอเพื่อนที่สภาพจิตนอมอล กุรู้สึกรีเฟรชชิ่งมาก แบบกุไม่ต้องเจอออร่ากระแสอะไรลบๆ
กุรู้สึกผิด แต่ก็รู้สึกว่า ควรห่างกะเพื่อนสนิทกุหน่อยดีไหม เหมือนคิดมากกะคิดมากมาเจอกันแล้วมันแย่ลงแฮะ
ไม่ได้เลิกคบ แต่แค่เว้นสเปซบ้าง กุไม่อยากพ่นเรื่องเศร้า แล้วก็ฟังเรื่องเคล้าน้ำตาของเขาอีกแล้วอ่ะ
เพื่อนที่สนิทที่สุดในมหาลัยจะลาออกเฉยเลยว่ะ รู้สึกเสียศูนย์เลย ขนาดแค่มันไม่ไปมอกูยังรู้สึกโหวงๆละนี่ถ้าแม่งไม่อยู่ก็จะรอดมั้ย กลุ่มกูแม่งก็เล็กๆด้วย นี่เพื่อนจะออกไปอีกสองคน กูนี่ทำอะไรไม่ถูกเลยเห้อ
>>75 เออกุเจอปัญหานี้อยู่เลย ช่วงนี้ไม่รู้เพื่อนกูเป็นอะไรแม่งดูซึมๆ เหนื่อยๆ ว่ะ ชอบบ่นอะไรด้านลบตลอดเวลา กูเลยนอยด์ไปด้วย กว่าจะกู้อารมณ์ตัวเองให้กลับมาโอเคได้ก็ใช้เวลา ตื่นเช้ามาเจอแม่งถอนหายใจใส่อีกละ รู้สึกอยากไปอยู่ไกลๆ สักระยะนึงเลยอะ ไม่ใช่ไม่อยากร้บฟังแต่มันก็มีผลกระทบกับตัวกูเหมือนกัน กูไม่โอเคอะ
ไม่รู้มู้นี้ถูกเปล่า แต่กูขอระบายนิดนึง คือกูเป็นหัวหน้าวงดนตรีที่กูกับเพื่อนฟอร์มขึ้นมาในโรงเรียน แล้วมันมีรุ่นน้องเข้าวงมาเมื่อปีที่แล้ว เป็นเด็กม.สี่ วงกูค่อนข้างได้รับความนิยมอยู่เพราะคนเล่นเป็นหญิงล้วนแล้วดูมีกิมมิคเฉพาะตัว แต่ทีนี้เพราะปีหน้ากูจะจบไปจากรร.แล้วก็เลยห่วงน้องที่อยู่วงเดียวกัน มันแม่งดันเป็นน้องคนเดียวในกลุ่มเลยด้วย นิสัยมันยิ่งขี้แยขี้ตกใจอีก กูเลยห่วงว่าปีที่พวกกูไม่อยู่แล้ว น้องแม่งจะอยู่ได้เปล่าวะ กูก็กะจะดันมันให้เป็นหัวหน้าวงแทนกูในเปิดเทอมนี้แล้วช่วยมันหาสมาชิกเข้าวง แต่เพื่อนกูอีกคนมันไม่โอว่าถ้าจะหาสมาชิกใหม่ เหมือนเพื่อนมันอยากให้จบที่รุ่นมันไปเลยเพราะกูกับมันเป็นคนเริ่ม ไม่ต้องการคนสานต่อ ส่วนเพื่อนอีกคนที่เป็นนักร้องก็โนคอมเม้นบอกให้ตัดสินใจเอง น้องมันก็คิดมากกลัวว่ามันเป็นภาระให้รุ่นพี่ต้องมาช่วยเลยว่าจะพยายามเต็มที่แต่ยังไม่รู้ที่เพื่อนกูอีกสองคนพูด
กูลังเลอยู่ว่าจะเอาไงดี กูห่วงน้องมัน ดูนิสัยแล้วไม่น่ารอดด้วยเพราะมันคุมใครไม่ได้เลย เผลอๆจะเหวี่ยงเองอะไรเอง..แต่เพราะมันดูเสียใจมากๆที่กูลองเปรยๆไปว่าจะยุบวงนี่แหละ..กูเลยตัดสินใจไม่ถูกอยู่
กูไปเจอเพื่อนในเน็ตคนหนึ่ง วงการคอสนี่หละ คุยในเน็ตสองสัปดาห์ แล้วมันมีงานคอสก็เลยจะไปมีทติ้งกัน เขานัดกูไป พอถึงวันนั้นกูก็ไปแบบง่ายๆของกูไม่ได้คอสกูไม่ใช่สายคอส แต่คนนั้นเขาชอบคนที่คอส พอกูไปถึงงานกูก็เดินหาเขาพอเจอทักทายกันในกลุ่ม พอทักทายแนะนำตัวเสร็จ เขาก็หันไปคุยซุบซิบกับเพื่อนในกลุ่มแบบไม่ให้กูได้ยิน แต่กูมันเหี้ย กูเลยถามไปเลยว่าคุยไรกันเหรอเราไม่ควรรู้เหรอถึงต้องกระซิบอะ เขาก็ไม่ตอบกูเว่ยกูเลยเดินไปทักคนอื่นที่เขามาวันนี้ด้วยก็คุยได้ไม่กี่คำก็เดินออกมาดูของขายในงานแล้วกูจะเดินไปหากลุ่มนั้นอีกรอบปรากฎว่าคนที่นัดกูมาเขาทำท่าตีตัวออกห่างไม่อยากเข้าใกล้กูแล้วก็ทำตัวเลี่ยงๆกูตลอด กูเห็นแบบนั้นกูเลยออกมาจากงานนั้นแล้วไปที่อื่นต่อเลย แล้วอีกสองวันกูต้องเจอคนนี้อีกคราวนี้กูเห็นหน้าเขากูก็ไม่ทัก เขาก็ไม่ทักกูเว่ย ต่างคนต่างทำเป็นไม่รู้จักกันไปเลย
กูยอมรับว่ากูน้อยใจว่ะเจอกันทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นใส่กูด้วย กูบอกเลยว่ากูไม่ได้มาแบบโรคจิตหรือเชิงชู้สาวอะไรทั้งนั้น คนนั้นก็เพศเดียวกัน คือมาเจอแบบเพื่อนจริงๆ สองวันถัดมากูเลยตัดสินใจไม่ทักเขาอีก กูไม่รู้หรอกว่ากูทำถูกไหมแต่คนนั้นไม่อยากคุยกับกูนี่แล้วกูทำไมจะต้องทำตัวเฟลนด์ลี่ไปทักทายก่อนด้วยวะ
>>84 กูว่าถ้าอีกฝ่ายเเสดงท่าทีชัดขนาดนั้นมึงคงไม่ต้องถามให้เคลียร์อีกเเล้วอ่ะ ไม่มีประโยชน์ เอาเวลาไปหาเพื่อนที่ศีลเสมอกันดีกว่า
เเล้วคนที่ควรติดค้างใจควรเป็นฝ่ายนั้นที่ทำตัวเสียมารยาาทกับมึง ไม่ใช่มึงที่ต้องเก็บมาคิดซะเอง กูถึงบอกว่าคนเเบบนี้คิดไปก็รกสมองเปล่าๆ
กูเคยเจอคล้ายๆนะ เเต่เปลี่ยนเป็นเพื่อนที่สนิทกันตั้งเเต่ประถมที่ไม่เจอกันหลายปีนัดเจอ กูเลยไปหา พอไปเเล้วเหมือนกูไม่เข้าพวกซะงั้น
ฝั่งนั้นคุยกันเหมือนฝูงชะนีขี้เม้าขี้นินทา เเล้วคือกูไม่ชอบไม่อยากร่วมวงเลยขอตัวกลับเเล้วก็เลิกคบไปเลย กูรำคาญ
>>85 มึงก็เด็ดขาดดี ของกูนี่เพิ่งเคยคุยกันแค่สองสัปดาห์เองนะเหย กูเลยรู้สึกว่ามันน้อยไปนะ ที่จะทำให้คนนึงอยู่ดีๆก็เมินกัน หรือเพราะกูหน้าตาไม่ดีวะ แต่งตัวมาก็เชยๆด้วยอะมึง กูลากแตะเสื้อยืดเกงธรรมดาๆ รูปลักษณ์ภายนอกแม่งก็จำเป็นว่ะกับการมีสังคม ตอนนี้กูยังหาเหตุผลอยู่เลยนะเว้ย กูไม่ชอบมีศัตรูอะ มันไม่มีอะไรดีเลย เพราะตอนนี้คนนั้นเขาตั้งแง่กับกูเต็มที่เลยเว้ย อย่างถ้ากูเสนออะไรมาแม่ขัดไม่เลี้ยงเลยอะ กูก็เบื่อๆเซ็งๆอะ
>>86 มนุษย์ขี้เหม็นก็เเบบนี้เเหละมึง บางคนรู้จักกันเป็น10ปีสันดานลึกๆเป็นไงยังดูไม่ออกเลย จะเอาอะไรกับ2อาทิตย์วะ
กูมองต่างซะอีกว่าคนที่รู้จักผิวเผินในระยะสั้นๆ ยิ่งกล้าทำกิริยาไม่ดีใส่ เพราะไม่สนิทไรมาก ไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจ
ผลประโยชน์ทางสังคมรึก็ไม่มีให้ เลยไม่จำเป็นต้องเเคร์ก็ได้
เเต่เรื่องการเเต่งตัวดีๆกูเห็นด้วยนะ ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าคนเรามองกันที่ภายนอก ต่อให้ปากบอกว่าเห้ย คนเราต้องดูที่จิตใจสิ อย่าดูภายนอก
สุดท้ายเเล้วก็ไม่ทำอย่างปากพูดสักที เเต่ไม่ได้หมายความว่าต้องฝืนจนไม่ใช่ตัวเองอ่ะนะ เอาเเค่ระดับที่เราสบายใจ+ไม่ขัดบรรยากาศโดยรวมก็พอ
ปล. คนไม่มีศัตรูกูว่าไม่มีว่ะ ทำใจไปนะ มีทั้งคนชอบไม่ชอบปนกันเป็นเรื่องธรรมดา ปล่อยวางซะแล้วมึงจะสบายใจ
กูเบื่อเพื่อนคนนึงว่ะ กูเป็นคนชอบโดดคาบเช้าแล้วมันก็ไม่เคยเก็บชีทเรียนให้กูแต่เก็บให้อีกคน พอกูไม่ได้เก็บให้มันเพราะตอนนั้นเห็นมันมานั่งก่อนแล้วใครจะรู้ว่ามันยังไม่หยิบ มันก็บ่นเรื่องชีททั้งวันว่ามันจ่ายตังเรียนไม่ได้เรียนฟรีพอกูบอกให้ซีซิเพราะเวลากูไม่ได้ชีทไหนกูก็ซี แม่งก็ด่ากูว่าบ้านกูรวยถึงกับใช้ตังเป็นว่าเล่น พอมันได้คะแนนน้อยกูก็เคยบอกมันแล้วว่าอ่านแต่กูอ่านแบบพอผ่าน กูก็ได้50-60%นะ มันได้40%เอากูไปด่ากับเพื่อนอีกคน ว่ากูบอกไม่อ่านแล้วได้เยอะ(เยอะพ่อง)กูขี้โกหก แล้วหลังจากนั้นมันก็บ่นในไลน์เรื่องคะแนนมันทุกวันหรือมันจะลาออก บลาๆๆกูก็ปลอบมันปลอบไปปลอบมามันจะให้กูออกด้วยเพราะกูก็เคยบ่นแต่กูไม่เคยบ่นว่าจะลาออกเลยนะเว้ยแล้วก่อนกูจะเล่าบ่นเรื่องที่กูเจอกูก็ถามมันแล้วว่าจะให้กูเล่าไหม เพราะตอนนั้นกูก็ไม่ติดใจอะไรแล้วกูเล่าไม่เล่าก็มีค่าเท่ากัน อารมณ์กูโอเคนานแล้ว มันก็บอกกูให้เล่าๆมันอยากรู้ หลังจากนั้นไม่นานมันก็ยกเรื่องที่กูเล่ามาด่าว่ามันไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของใคร เออ พอวันนี้กูได้น้อยกูได้30%มันก็ไม่ปลอบกูด้วยเว้ย ความรู้สึกกูตอนนี้คือเหมือนกูคบกับคนที่ระบายใส่กูจริงๆด้วยอะ แบบพอกูมีปัญหาก็ไม่คิดช่วยกู แต่พอมันมีปัญหาหาเรื่องกูอย่างนั้นอย่างโน้น หาเรื่องจริงงๆอะกูไม่ได้พูดกับมันแบบนี้แล้วมันก็เอาไปนินทากับเพื่อนว่ากูทำอย่างนู้นอย่างนี้ ดีนะที่เพื่อนกูไม่เชื่อเพราะกูพูดให้เพื่อนกูอีกคนฟังด้วย มันเคยมีปัญหากับกูตั้งแต่เทอม1ละแต่ตอนนั้นกูโง่ พยานปากน้อยหลังจากนั้นกูเลยคุยกับมันแค่ในไลน์กลุ่มเพราะจะได้มีพยานหลายๆเสียง
เพื่อนมึงเมนส์มาอย่าคิดมากสิ่
ที่ รร มีงาน กูกับเพื่อนคนนี้ต้องไปช่วยงาน แล้วกูติดธุระซึ่งก็เป็นงานช่วยโรงเรียนงานเดียวกันแต่คนละฝ่ายแถมสเกลใหญ่กว่า กูก็ไปทำอันนั้นก่อน แม่งก็มาโกรธกูเว้ย พอกูว่างก็พยายามมาช่วย บอกมีอะไรให้ทำมั้ย แม่งทำเย็นชาใส่กูอีก งานก็เอาไปทำคนเดียวไม่แบ่งคนอื่น แล้วมาบ่นว่าเหนื่อยไม่มีใครช่วย กูจะบ้าตาย
กูก็เคยเจอเอาไปด่ากับเพื่อนลับหลังเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่กูก็คิดว่าก็พยายามทำดีกับมันละนะ
เป็นเพื่อนของเพื่อนที่กูเสือกจำชื่อมันได้ เลยฝากเพื่อนเตือนให้มันไปถอนเพราะมันไม่เข้าเรียนไม่มาสอบมิดเทอม
แต่มาจี้ให้กูไปก่อนรัว ๆ ทำท่าเหมือนรีบโคตร ๆ ให้พาไปหาอาจารย์เป็นเพื่อน ตอบไลน์ช้าไป 3 นาทีก็โทรมาเลย ทั้ง ๆ ที่กูบอกห้อง ชื่ออาจารย์หมดแล้ว ให้มันลองถามรปภ.ใต้ตึกก็ได้ถ้ารีบ แต่เสือกนั่งรอกู ตอนแรกเห็นมันเงียบไป นึกว่ามันหาอาจารย์เรียบร้อย กูก็ขึ้นเรียนตามปกติ จากนั้นมันเดินมาหากูให้กูไปหาอาจารย์เป็นเพื่อน ทั้งที่อาจารย์อยู่หน้าห้อง ยังไม่เริ่มสอนด้วยซ้ำ ... (ห้องประชุมอะนะ วิชาใหญ่)
มาพีคตรงรู้ทีหลังว่าระหว่างที่มันจี้กู มันก็ด่ากูกับเพื่อนไปด้วย บอกกูเย็นชาใส่ ตอนกูเดินขึ้นห้องเพราะคิดว่ามันหาอาจารย์แล้วก็บอกกูเมินมัน (กูจะเห็นมึงไหม แล้วไม่ทักกูหละ) ซึ่งกูก็ไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว เรื่องเก่าเกินจะรื้อมาสะสาง
รู้งี้น่าจะปล่อยมัน F ไปเลยดีไหม ไม่บอกมัน มันก็คงลืมว่าลงวิชานี้ใว้ กูก็ไม่ต้องโดนด่าฟรีด้วย
หวังว่าพวกมึงจะไม่ต้องตัดเพื่อนทั้งกลุ่ม เพราะคนแย่ ๆ คนเดียวนะ สู้ ๆ
>>92 ถ้ามึงยังมีเมตตาบ้างมึงก็หาโอกาสเหมาะๆบอกมันว่ากูขอโอกาสอธิบายหน่อย ถ้ามึงใจเย็นพอ,ฉลาดใช้คำพูดพอก็น่าจะปรับความเข้าใจได้
แต่กูรู้สึกนะว่าพอขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วบางทีผิดใจกันด้วยเรื่องงี่เง่าแบบนี้ปุ๊บมันจะตั้งแง่มึงยาวไปเลย. เพราะอีโก้มันเยอะน่ะ แต่กูเคยเป็นคนที่งี่เง่ามาก่อนกูก็อยากได้โอกาสแก้ตัวบ้างเหมือนกันในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย
>>93 โอ้ว มีคนอ่านอยู่ด้วยเวลานี้
ถ้าวันนึงได้คุยกับพวกนั้นอีกละมันหยิบเรื่องนี้มาพูด กูก็คงอธิบายไปตามเรื่องนั้นหละ คิดว่าคงไม่โกรธอะไร
แต่ตอนนี้กูปลงได้แล้วอะนะ ชีวิตปัจจุบันก็แฮปปี้ดี เลยคิดว่าช่างมันไป
ปล.ได้ยินว่ามันจะจบทัน 4 ปีด้วย ตอนแรกกูคิดว่ามันจะโดนไทร์ด้วยซ้ำ ก็ดีเหมือนกันนะ
มาบ่นเองบ้างนิดนึง อิเหี้ย
ตอนนี้กูรู้สึกหลุดพ้นและว่างเปล่ามาก เหมือนชีวิตกำลังรีเซทเลยว่ะ
เพิ่งรู้สึกตัดขาดกับเพื่อนที่เลิกคบกันมาเป็นปีๆได้ไม่นานนี้เอง
แค่บางทีมันนอยด์ๆเหมือนกันว่ะ บอกไม่ถูก
เหมือนเรื่องชีวิตกูที่ผ่านมานี่เป็นความฝันอะ ที่กูคิดว่าเป็นเพื่อนกันมานาน สนิทกัน อะไรนี่แม่งไม่ีอะไรจริงเลย งงตัวเองชิบหาย
บางครั้งอยากขุดเรื่องเก่าๆขึ้นมาก็เริ่มนึกไม่ออกแล้วด้วย แปลกๆดี
เหมือนกูไม่เหลือความทรงจำอะไรกับพวกแม่งเลยอีกแล้วว่ะ
แต่ตอนนี้คือก็มีสังคมดีๆอยู่แหละ พอโอเคอยู่
้
มาโพสต์ให้ตัวเองฮึบ
กูผ่านช่วงเหี้ยๆมาได้ก็เพราะบอร์ดโม่งนี่แหละ
เพราะงั้นขอให้พวกมึงโชคดี
กูแม่งงี่เง่าว่ะ ตอนนี้กำลังปรี๊ดสัด
คนเป็นเพื่อนนี่ต้องคอยเอาใจคอยรองรับอารมณ์คอยคุยด้วยตลอดเวลาที่ฝ่ายนึงอยากคุยมากขนาดไหน
มีธุระกันบ้างไม่ได้เลยรึไงวะ อยากมีเวลาเป็นของตัวเองบ้างก็ไม่ได้
พอบอกว่าไม่ว่ามีธุระก็โดนโกรธโดนงอนว่าไม่สนใจไม่ต้องมายุ่งก็ได้ ไม่บอกก็ไม่ได้รู้ทีหลังโกรธใส่อีก
กูทำแย่กับเพื่อนแล้วเขาให้อภัยกู กูไม่รู้ว่าจริงๆแม่งคิดยังไงหรอกนะ แต่ถ้าให้พูดถึงการกระทำ เขาก็คุยกับกูเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น กูรู้สึกว่าตัวเองเหี้ยมาก ควรทำยังไงดี
กูชอบพี่คนหนึ่งมากเว้ย คลั้งไคล้นางมาก จนเพื่อนกูแม่งก็ชอบพี่เค้าตามกูด้วย ต่อมากูจีบพี่เค้า แล้วได้เป็นแฟน แล้วนางยังไม่เลิกชอบพี่เค้าว่ะ เที่ยวมาวอแว โพสข้อความประมาณเมื่อไหร่จะเลิกกัน แอบชอบคนมีแฟนงี้อ่ะ กูควรทำไงดี กูรักเพื่อนน่ะ เอาไม้ง่ามฟาดหน้ามันดีมั้ย เสี้ยนนักอย่างนี้ทำไงให้มันหายคันดี อุส่าส่งคลิปเย ไปให้ดูยังไม่หายเ-ี่ยนอีก แม่ง
เออ กูเข้าใจแหละว่ามันมีสิทธิชอบได้อ่ะ แต่เที่ยวมาโฟส แล้วมาทักเเชทถามนู้นนี้ บอกว่ากูเป็นงี้ บอกว่ากูแม่งชอบทำนู้นนี้ กูต้องเลือกว่ากูจะทำยังไงกับมันหรอ ทำไมมันไม่เลือกว่าต้องทำยังไงกับแฟนเพื่อน กุถามมันน่ะ ว่าต้องการแฟนกูมากขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมทำงี้อ่ะ กูเพื่อนมึงน่ะ คนปกตินี้เค้าจำเป็นต้องมายุ่งกับคนที่มีแฟนแล้วหรอ มันมีอย่างนี้ด้วย กูเกรงใจมันนะเว้ย ไม่ได้ไปตบต่อยว่าให้เลิกยุ่งแฟนกุอ่ะ แต่มันนี้สิล้ำเส้นเกินไปแล้ว กุเฉยๆกับมันมากน่ะ อยากทำไรก็ทำไปเชิญ กูมั่นใจว่าผู้ชายดีพอ ถ้าเกิดเเย่งไปได้ก็แย่งไป ยังไงมันจะถูกคราหน้าว่าแย่งแฟนเพื่อน แต่การที่มันไปพูดว่าชอบนู้นนี้นั่น โฟสแซะกูงี้อ่ะ มันใช่หรอ
หมอดูเคยบอกว่าทีหอกูมีผีผู้หญิง
ความคิดของกูคือ 1.อย่างน้อยกูก็ไม่ได้อยู่คนเดียวสินะ (ไร้เพื่อนระดับอัลติเมต มึงอุ่นใจทำซากไร) 2.ยังดีนะไม่ใช่ผีผู้ชาย เพราะกุแก้ผ้าในห้องบ่อยๆ
กูมีเพื่อนในเนตคนนึง คบกันมาเจ็ดแปดปีแล้วล่ะ ไปดูหนัง ไปทานข้าว ไปนั่นไปนี่กัน คุยกันทุกเรื่อง นอนค้างบ้านกันด้วย เรียกว่าสนิทกันมาก รู้ทุกเรื่อง แต่อยู่ๆวันนึงเขาก็ไปติดอย่างอื่นแทน เหมือนจูนกันไม่ติดก็เลยไม่มีอะไรคุย แล้วเขาก็ไปคุยกับเพื่อนใหม่ เวลากูทักไปก็ถามคำตอบคำ หนักๆเข้าก็อ่านแล้วไม่ตอบเลย ไปเมนท์แซวเขาก็ตอบทุกความเห็นยกเว้นกู กูก็มาถามตัวเองว่ากูทำอะไรผิดไปวะ ก่อนหน้านั้นยังปกติดีเลย ยิ่งเห็นสเตตัสที่เคยคุยกับเขาแต่เขาไปแท็กเพื่อนใหม่คนนั้นแทน แม่งโครตน้อยใจอะ แต่ถามว่าเราทำอะไรผิดไปรึเปล่าก็ดันบอกว่าเปล่าอีก กูควรทำยังไงดี
กุคบกับเพื่อนมาประมาณห้าปี เป็นเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิต แต่ตอนนี้มีปัญหาดังนี้
1.เพื่อนกุมักมีปัญหากับแฟน คาราคาซัง ซึ่งกุช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่รับฟัง ฟังแล้วก็เครียด แต่ถ้าไม่ฟังก็รู้สึกผิด เพราะเพื่อนไม่มีใครอีกแล้วนอกจากกุ
นางไม่เล่าให้ใครฟังนอกจากน้องสาวตัวเอง กับกุ กุไล่ไปหาจิตแพทย์ไม่รู้นางยอมไปหรือยัง [กุเสียสุขภาพจิต ชีวิตติดลูป]
2. กุเกลียดเวลาที่เวลากุอยากเจอนาง กุก็ยอมถ่อนั่งรถตู้ข้ามจังหวัดต่อบีทีเอสไปหานาง แต่นางไม่เป็นงั้น จะขอเจอในจุดที่ใกล้บ้านนางที่สุด นั่งรถเมล์ไปได้ คือกุรู้สึกว่า กุทำอะไรต้องสะดวกนางอยู่เรื่อย จนกูหงุดหงิดพาลไม่อยากเจอ [ทำไมกุจ่ายได้ มึงจ่ายไม่ได้]
3.ชีวิตนางไม่เคยว่าง เลิกงานนางต้องไปหาแฟน เสาทิดนางต้องอยู่กับครอบครัว กุนัดทีคือข้ามเดือนเจอกัน อันนี้กุเข้าใจนะ ว่าทุกคนมีธุระ แต่ถ้าเป็นเพื่อนกันแต่แทบไม่ได้แฮงค์เอ้าท์กันเลย เจอทีไรก็มีแต่เรื่องหนักๆมาให้กุฟัง มันทำให้กุทุกข์ทรมาน
ข้อดีของนาง เป็นคนดี ใจเย็น เสียสละ นิสัยค่อนข้างดี แต่อมทุกข์ แบกโลก มีกรอบในการใช้ชีวิตแปลกๆ ประมาณนี้แหละ
ขอคำแนะนำด้วย
กุไม่คุยกับนางมาสองอาทิดแล้ว นางคงรู้สึกได้ คือกุไม่อยากชวนทะเลาะ แต่ไม่รู้จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจให้นางฟังโดยไม่ทำให้นางเจ็บได้ยังไง อยากเป็นเพื่อนต่อ แต่ก็ไม่ชอบในสิ่งที่ต้องเจอ
กูกับเพื่อนในกลุ่มรำคาญเพื่อนกุชิบหาย เมื่อก่อนแมร่งเพื่อนมีแฟนชอบมาประชด ด่าคนนู้นคนนี้ว่าติดแฟนบ้างอะไรบ้าง แต่พอตัวเองมีแฟนเสือกเห่อมอยอวดแฟนลงเฟซทุกวัน พวกกูนี่แช่งให้เลิกกันแมร่งทุกวันจะได้รอด่าซ้ำ
>>110 กูเคยเป็นแบบมึง อยู่ดีๆ ก็โดนเมินซะงั้น พอถมว่าโกรธอะไรกันรึเปล่าอิห่านั่นก็บอกว่าเปล่านี่ ปกติดี แต่เมินกู ไม่คุยกับกูซะงั้น ดังนั้นกูฟันเฟิร์มว่าให้มึงลืมมันไปซะเหอะ มันไม่ใช่เพื่อนแท้ของมึง แค่เพื่อนที่หาทีเ่กาะแดกเท่านั้น พอมึงหมดประโยชน์หรือมันได้คนใหม่มันก็เขี่ยมึงทิ้งไม่ไยดี มึงแคร์มากก็เจ็บมาก กว่ากูจะผ่านจุดที่เสียใจและไม่มีพวกมันในชีวิตได้ก็เกือบครึ่งปีว่ะ สู้ๆ นะมึง เคสนี้สรุปว่ามึงไม่ผิด มันแค่ไม่เอามึงแล้วนั่นแหละ /ขออภัยที่พูดตรงๆ เคสมึงกะกูเหมือนกันมาก
>>114 กอดๆมึง จริงๆกูก็ไม่ได้มีอะไรให้เขานะ นอกจากรูปวาดเองบ้าง แต่งฟิคให้บ้าง แต่เหมือนเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้แล้ว เลยตัดกูออกไปจากวงจรชีวิตเขาเลย ไปคุยกับเพื่อนใหม่แทน พูดแล้วก็เศร้าแฮะ คบกันมาตั้งเจ็ดแปดปี คุยกันทุกเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องการ์ตูนที่ดู กูเจ็บชิบหายเลยว่ะ เหมือนคนอกหักอะ
เพื่อนโม่ง กูขอพื้นที่ระบายหน่อยว่ะ กูแม่งน้อยใจเพื่อนชิบหายเลย เวลามันขอให้กูไปโน่นไปนี่กับมันกูก็ไปด้วยตลอดไม่เคยปฏิเสธ แต่พอกูขอให้มันมาเป็นเพื่อนกูบ้างแม่งเสือกไม่มาทั้งที่มันก็ว่าง(แม่งบอกขี้เกียจ) กูรู้ว่าคิดงี้กับเพื่อนแล้วกูคงดูงี่เง่า แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ะ กูแม่งรู้สึกเหมือนตัวเองไม่สำคัญโคตรๆเลย
>>116 ไม่เพื่อนมึงอาจจะขี้เกียจจริงๆก็ได้นะมึง ความขี้เกียจแม่งไม่เข้าใครออกใครอ่ะ แม่งอาจจะอยากนอนเปื่อยนอนหน้าโง่เล่นๆที่บ้านก็ได้ใครจะไปรู้ (เพราะกูก็เป็น)
แต่ต้องถามมึงแหละว่าเพื่อนมึงมันเป็นงี้บ่อยมั้ย ถ้านานๆทีเป็นก็เออ อีห่านี่แม่งสล็อตเข้าสิง ถ้าบ่อยนี่กูว่าชักจะไม่ดี ถ้าแม่งไม่เห็นมึงเป็นเพื่อนที่จะหิ้วไปไหนก็ได้ก็อาจจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญมึงแล้วแหละ
ปล.อย่าใส่ใจกับการให้คำปรึกษากูมาก กูยังไม่ได้นอน มึนเมาขั้นสุด
ทำไมพอกุไม่ใส่ใจเพื่อน หายไปจากชีวิตมัน มันถึงได้มาทักกุ กดไลค์รูปกุ พยายามทำตัวเฟรนด์ลี่ใส่กุ
ทั้งๆที่ตอนยังดีๆอยู่ กุต้องเป็นฝ่ายเปล่งพลังเฟรนด์ลี่ใส่มันทุกทาง แล้วมันก็จะอืมๆอือๆ แบบไม่สนใจ
อย่าไม่ใส่ใจกุวันที่กุไม่อยากสนใจมึงแล้วได้มั้ย.....
ปรึกษาหน่อยตอนนี้กูมีเพื่อนคนนึงว่ะ เป็นเพื่อนในกลุ่มที่ตอนแรกไม่ได้สนิทไรมากแค่คุยระดับนึง ทีนี้คนในกลุ่มแม่งทำงานกันไปหมดเหลือกูกับแม่ง แม่งก็เริ่มมาสนิทกับกูโทรคุย ชวนไปเที่ยวงี้ และชอบมาปรึกษาปัญหาชีวิตกับกู เรื่องเรียนมหาลัยเรื่องครอบครัวเรื่องผญ ซึ่งจริงๆกูแม่งชอบอยู่คนเดียวมากกว่าว่ะแต่กูก็ไม่ได้อะไรก็ไปๆกับแม่ง บอกปัดบ้างบางทีขี้เกียจงี้ ทีนี้ปัญหาคือตอนนี้กูกำลังจะทำงานต้นเดือนหน้าแล้ว แม่งก็ยังพยายามคุยกับกูไม่เลิก กูบอกอ้อมๆแล้วนะว่าถ้าทำงานอาจจะคุยไม่ได้อีก แม่งก็ยังจะตื๊อแถมด่าเพื่อนอีกคนที่มันทำงานจนคุยไม่ได้ให้กูฟัง วันนี้ก็ทะเลาะกับพ่อแม่เรื่องเด็กๆแล้วโทรหากูขอมาหากูบอกแม่งไม่มีใครแล้วกูแม่งเงิบเลยไอ้สัส วันอาทิตย์กะจะนอนสบายๆเลยหาเรื่องบอกพ่อให้ไปธุระ ปฏิเสธแม่งไป แต่กูเริ่มกังวลถ้ากูทำงานแล้วจะเอาไงดีวะ เวลาให้คำปรึกษากับแม่งกูก็ต้องปั้นคำพูดให้มันดูดีๆถนอมน้ำใจมันอีกเพราะเคยมีเพื่อนที่พูดตรงๆโดนแม่งด่าไปแล้วว่าพูดไม่เข้าหูฟังแล้วเครียด น่ารำคาญชิบหาย แต่อีกใจก็สงสารแม่ง ดูแม่งเครียดไปได้หมดทุกเรื่อง
เพื่อนโม่งมีไครเป็นแบบกูตอนนี้มั้ย กูคบเพื่อนคงนึงมานานมากแบบรู้ใส้รู้พุงทุกอย่างแล้ว เมื่อก่อนมันเคยสนุกนะอยากพูดไรก็พูด อยากทำไรก็ทำ สนิทมากเลยหละ แต่ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไรหว่ะเหมือนระยะห่างมันเพิ่มขึ้น ไม่กล้าที่จะทำงั้น ไม่กล้าจะพูดงี้กลัวมันจะทำร้ายจิตใจ จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์มันเบาบางจนแทบไม่เหลือแล้ว กูควรทำไงดีว่ะ
เพื่อนโม่ง ถ้ามึงถูกเพื่อนในกลุ่มบอกชอบ แล้วมึงก็รู้สึกดี มึงจะคบมั้ย กูเคยคบคนเพราะรู้สึกดี แล้วก็เลิกกันว่ะ แบบมันรู้สึกดีอยู่เดือนเดียวนอกนั้นก็เบื่อ รำคาญไปหมด กูกลัวทำร้ายจิตใจเค้า แล้วกลัวจะเข้าหน้าไม่ติดกับเพื่อนในกลุ่มอีกเป็นสิบๆด้วย
กูมีเหมือนกันสัส แต่ไม่ได้มีปัญหากับแม่งตรงๆ มีกับเมียแม่ง อีดอกนี่ขี้หึงเหี้ยๆ โซยวายไม่ยอมให้กูคุยกับผัวไม่ให้กูเล่นเกมด้วยห้ามคุยห้ามหีห้ามแตดสั่น ล่าสุดกูเล่นเกมกับพวกแม่งอีดอกนี่งอนงี่เง่าวิ่งไปตายทำตัวควายๆ ในเกม กูโคตรรำคาญอีห่าด่าแม่งเละเด็กกระหรี่หวงควยแม่งไม่ตอบออกเกม กูตามในด่าในห้องรวมต่อ ตอนนี้กูเล่นเกมคนเดียวแม่งละสัสเพราะมันจะไม่ยอมเล่นถ้ามีกูในเกม(แม่งหีสั่นคิดว่ากูจะแย่งแม่งอมควย ) กูบอกให้เลิกคบมันไม่ฟังทั้งที่อีอย่างงี้แม่งเป็นพิษชีวิตชิบหายทำห่าอะไรคุยกับเพศตรงข้ามแปลว่านอกใจ
กูขอบ่นแป๊บ กูเคยมีเพื่อนสนิทนะไปไหนมาไหนสามคน ไปๆมาๆ แม่งไปสนิทกันเองอยู่สองคนแล้วทิ้งกู ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันเลยนะ จู่ๆ มันทำเหมือนโกรธเกลียดกูมาแต่ปางไหน สุดท้ายก็เลิกเป็นเพื่อนกันไป กูก็เกลียดหน้าแม่งไปเลย ส่วนพวกมันก็ไปสวีทกันเอง บล็อคกูทิ้ง กูก็งงนะเว้ยว่ากูทำอะไรผิด ข้องใจมาก นิสัยก็ขี้นินทาทั้งคู่ว่ะ กูคิดว่ากูอาจจะโดนนินทาลับหลัง ตอนนี้กูไม่ได้อยากคุยกันมันแล้วนะ แต่เห็นหน้าพวกแม่งแล้วหงุดหงิดอยากจะเข้าไปตบทุกทีเลยว่ะ อยากจะปล่อยวางให้พวกมันเป็นอากาศธาตุแต่ทำไม่ได้สักที ตอนนี้ได้แค่เกลียดน้อยลง
กูขอระบายแปป กูรู้สึกว่ากูเกิดมาเป็นคนที่ไม่สมควรมีเพื่อนเลยวะ กูนิสัยแย่ด้วย เรื่องเพื่อนเจอความเหี้ยๆทุกช่วงเวลาชีวิต
ตอนเด็กๆป.สามป.สี่ก็โดนเพื่อนทั้งกลุ่มเลิกคบเพราะเพื่อนบอกว่ากูเอาแต่ใจเกินไป ตอนนั้นคือกูไม่รู้อ่ะว่ากูนิสัยแบบนี้ ถ้าแม่งมาบอกก็พยายามปรับก็ได้ ตอนกูโดนทิ้งมันสะเทือนใจมาก จนตอนนี้คบใครก็กลัวเขาเทอ่ะ เขารำคาญอ่ะ แก้ไม่หาย เขามีเพื่อนตั้งเยอะแต่กูมีเขาคนเดียว
โตมามัธยมก็เจอเพื่อนในกลุ่มแกล้ง นินทากู แบบมันหมั่นไส้อ่ะ สุดท้ายจบม.หกมันก็มาสารภาพว่าทำไรกับกูไว้มั่ง ขอให้กูยกโทษให้ ปากกูก็บอกยกโทษแต่กูเสียใจยังไงไม่รู้ เป็นเพราะกูดูไม่น่าคบ ดูเฉื่อยๆ พูดไม่เก่ง ไปชอบเรื่องที่เพื่อนส่วนใหญ่ไม่สนก็ได้ เช่นพวกการ์ตูน เกม งี้หรอ เวลาพวกแม่งมีปัญหาถ้ากูรู้ กูช่วยได้ กูก็ช่วย
มหาลัยก็ก็เลยพยายามปรับปรุงตัวให้เฟรนลี่ พูดมากขึ้น ใส่ใจคนอื่นมากขึ้น ตามกระแส แต่มันดูกลวงๆว่ะเพราะไม่ใช่นิสัยจริงๆของตัวเอง5555 ช่วงนั้นไปหาหมอ เป็นซึมเศร้า ขัดแย้งในตัวเองด้วยเพราะเปลือกมันไม่ตรงก็ตัวจริง ก็มาหาเพื่อนในเน็ต สมมติว่าชื่อA สนใจเรื่องเหมือนกัน กูเข้าหาเขาก่อน เวลาเขาสนุกกูก็สนุกด้วย เวลาเขาดราม่ากูก็พยายามอยู่ข้างๆ ผ่านไปสักสองปีเขาคงเบื่อกูมั้ง เรียนยุ่งด้วย ก็เลยหายๆไป แต่กูก็พยามคุยเรื่อยๆอ่ะ สุดท้ายเขามาบอกกูว่ากูไม่ใช่เพื่อนสนิทเขาไม่อยากเล่า(เรื่องนั้นนี้)ให้กูฟัง ตอนนั้นก็โมโหด้วยว่าสองปีกว่านี้คืออะไรเลยกลายเป็นทะลาะ กูน้อยใจอ่ะมึง ดูโง่นะ แล้วแฟนเก่าเขาก็เอากูไปนินทาในกลุ่มเพื่อน(ก็เพื่อนกูด้วยแหละ) แม่งตั้งกลุ่มไลน์ที่ไม่มีกู กูก็เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนอีกคน ว่ากูไม่รู้ว่ากูผิดตรงไหน เรื่องน้อยใจกับAก็เคลียร์เรียบร้อย จบด้วยดีแล้วด้วย ทำไมยังตั้งป้อมกูอีก แต่กูขอโทษก็ได้นะเพราะกูไม่อยากเสียเพื่อน แล้วอีนั่นแม่งก็เอาแชทนี้ให้อีกลุ่มนั้นดู กูเสียใจมากเหมือนโดนแทงข้างหลัง กูเลยด่าพวกแม่งแล้วหนีหายไปเลย ขี้ขลาดอีก555 จะเพื่อนAหรืออะไรกูก็ไม่สนแล้ว เพราะAเขาก็ไม่ยุ่ง ไม่ปกป้องกูอะไรทั้งสิ้น
ตอนนี้ก็กลับมาเป็นตัวเองนิสัยเฉื่อยๆ พูดไม่เก่ง ขี้อาย ไม่ตามกระแส สนใจอะไรก็สกีมคนเดียวลงทวิตแม่ง จะมีเพื่อนคบหรือไม่ก็เริ่มปลงแล้วอ่ะ จะเก็บชีทให้คนอื่นแต่ไม่เก็บชีทให้กู จะซื้อของขวัญวันเกิดให้ทุกคน ให้กูหาร แต่ไม่เคยให้กูสักครั้ง จะนั่งกินข้าวด้วยกันแล้วจู่ลุกออกไปทั้งสองคนก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากแล้วอ่ะมึง เขาไม่ได้เกลียดกูไงแค่ไม่สนใจกู เหมือนเป็นอากาศ ยกเว้นว่ากูมีประโยขน์ต่อเขาเช่นทำงานกลุ่มเป็นต้น
กูก็ยังอยากมีเพื่อนที่เป็นเพื่อนสนิทอยู่นะ แต่มันยากไป ท้อ หาหมาเลี้ยงดีกว่า
ปล.จริงๆเป็นเพราะกูไม่มีประโยชน์ก็ได้อ่ะแม่ง พูดแล้วเศร้า
>>129 ให้กำลังใจมึง ขอให้วันนึงมึงได้เจอเพื่อนที่ดีที่พร้อมจะเป็นเพื่อนสนิทกะมึงจริงๆ
ส่วนตัวกูคิดว่าเพื่อนมหาลัยก็เเนวนั้นหมดเเหละ เป็นวัยที่เริ่มเห็นผลประโยชน์ส่วนตนก่อนความเป็นเพื่อนน่ะ
เน้นความปลอมเปลือกไว้ก่อน เจอเพื่อนเหี้ยถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าเจอเพื่อนดีจริงๆก็เหมือนถูกหวย
ดังนั้นไม่ต้องเอาความคิดทำนองว่ามึงไม่มีเพื่อนคบมาบั่นทอนตัวเองขนาดนั้นก็ได้ การมีชีวิตคนเดียวก็ไม่ได้เเย่
ลองมองอะไรในเเง่ดีคิดบวกเข้าไว้ ลองหยิบยื่นสิ่งดีๆให้คนอื่นเเม้ว่ามึงจะไม่ได้มันตอบเเทนก็ไม่เป็นไร
ยังไงผลของการกระทำดีจะย้อนกลับมาหามึงในที่สุด ไม่เเน่สิ่งดีๆที่เคยทำไว้อาจนำพามึงไปเจอกัลยานมิตรเเบบไม่คาดฝันก็ได้
>>129 ในฐานะที่กูเคยแบนเพื่อนที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกะกูอ่ะนะ พอเห็นมันบอกว่าจะปรับปรุงตัวกูก็โอเคแล้ว แต่บางคนมันเกลียดไปแล้วมันก็ไม่ชอบไปเลยอ่ะ บางอย่างไม่ได้ผิดมากแต่ก็หาเรื่องนินทา แนะนำว่าหาเพื่อนใหม่ดีกว่า อย่างน้อยไม่สนิทมากเอาแค่คุยได้ทำงานด้วยกันได้ก็โอเค ส่วนเพื่อนที่เมินมึง มึงก็เฟดตัวออกมาหน่อย อย่าทำให้มันคิดว่าชีวิตมึงมีแต่มัน เมินๆมันคืนบ้าง
>>130-131 ขอบคุณพวกมึง กูไม่มีปัญหากับคนทั่วไปหรอก คบผิวเผินเจอหน้าผงกหัวทักนี่มีเยอะอยู่
ปัญหามีแต่กับคนสนิท กูคาดหวังมากไปมั้ง แต่กูไม่อยากโทษใคร ไม่อยากโทษตัวเองอีกแล้ว ณ จุดจุดนี้ เหมือนไปสมัครงานแล้วคุณสมบัติไม่ผ่าน ก็เตะฝุ่นหาใหม่ โลกมีคนตั้งเยอะ เขาไม่เหมาะกับกู กูไม่เหมาะกับเขา โลกสวยสู้
สักวันคงเจอที่เหมาะแต่ไม่เจอก็ได้แต่จะ25เบจเพสแล้วแล้วอยากได้ผัวไรงี้มากกว่าอ่ะ555
กูมีปัญหาเรื่องเข้าสังคมมาปรึกษาหน่อย เมื่อไม่นานมานี้กูไปงานแต่งน้าของเพื่อนแทนแม่กู เพื่อนคนนี้กูสนิทตอนประถมแต่พอขึ้นม.ต้นแล้วก็ห่างกันไปจนม.ปลายเลย ปัจจุบันนางก็มีเพื่อนสไตล์เดียสกะนาง พวกแก้งแต่งตัวแรงๆ
อ่ะ ซึ่งกูก็เคยเห็นเพื่อนนางบ้างแต่ก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอะไร กับนางกูก็ไม่สนิทแล้วเลยกระอักกระอ่วนหน่อยที่จะต้องไปงานแต่งแทนแม่คนเดียว
ทีนี้พอไปถึงงาน(งานจัดที่บ้านน่ะแหละ)กูก็เจอนางกำลังจัดงานพวกจัดข้าวของ ยกโน่นยกนี่อยู่กูก็ไปทักทายแล้วก็ไปหาที่นั่ง เห็นเพื่อนในแก้งนางก็ช่วยนางจัดงานอยู่ด้วยแต่กูก็ไม่ได้สนใจ
จนซักพักนางเดินเข้ามาหากูแล้วบอกกู(ต่อหน้าเพื่อนนาง)ว่า นั่งอยู่ทำไม มาแล้วก็มาช่วยงานสิ ด้วยน้ำเสียงแบบดูแคลนหน่อยๆว่ะแล้วก็ใช้กูไปยกของ
ตรงนี้แหละที่กูคาใจว่ากูไปแทนแม่ ไปในฐานะแขกไม่ใช่หรอ ปกติเจ้าภาพจะมาใช้แขกให้ช่วยงานแบบนี้หรอวะ มันไม่ใช่ว่าเจ้าภาพต้องบริการแขกหรอ นี่ใช้กูเหมือนเป็นลูกจ้างเลย กูก็งงแต่เห็นว่าเพื่อนนางที่มาก็มาช่วยงานนางทุกคน หรือว่าปกติแล้วแขกที่ดีต้องช่วยงานเจ้าภาพวะ เพราพี่สาวกูก็ไปช่วยงานแต่งเพื่อนเหมือนกัน กูทำตัวเสียมารยาทใช่มั้ยนางถึงได้พูดกะกูแบบนั้น
เพิ่งได้มาดูช่วงคะแนนรอบสอง
อิแกทนี่ คนที่ได้ 270-300 มีแค่ 92 คนเอง อีลิทคลับสัส ๆ 5555555
ว่าแต่ทำไมมันน้อยลงเยอะจังวะ รอบแรกคนที่ได้ช่วงนี้มีตั้ง 592 คน
อบากระบายว่ะ
กูมีเพื่อนคนนึงแม่งมันเป็นคนที่โดนไรละจะฝังใจโคตรๆเหมือนจะจำแม่งไปจนวันตาย มันไม่รู้จักปล่อยวางเลยว่ะเรื่องบางอย่างคือผ่านมาตั้งแต่ประถมละมันก็คิดถึงแต่เรื่องเดิมคิดไม่พอชอบเอามาพูดกะกูเอาคนที่ทำให้มันเกลียดมาด่ามานินทา แรกๆกูก็ไม่อะไรหรอกพอนานๆไปแม่งก็ไม่เลิกพูดซักทีอะ นัดเจอกูทีไรนะแม่งต้องย้อนอดีตตลอด เป็นไรมากปะ บางเรื่องเอามาพูดงี้แบบจำได้มั้ยอีxxxตอนเด็กมันชอบทำงั้นงี้ ตอนเด็กมึงเคยพูดว่าบลาๆ แม่งมึงงงงงง กูลืมไปแล้วมั้ยบางเรื่องอะมีแต่มันจำอยู่คนเดียว เหมือนชั่วชีวิตนี้จะยึดติดอยู่กับแต่วัยประถม อิห่า คือกูเป็นเพื่อนกะมันตั้งแต่ประถมจนถึงม.ต้น ม.ปลายมันย้ายไปเรียนนอกเลยไม่ค่อยได้คุย พอกลับมาเจอกันอีกกูเฉยๆไม่รู้ดิ ตอนมันไปนี่กูอาลัยอาวรมากตามประสาเพื่อนต้องจากกันพอนานๆไปกูเฉยๆอะ 55+ ละพอมันกลับไทยมานี่แหละ+กับกูย้ายมาเรียนที่กทม.ด้วยมันก็อยู่กทม.พอดี กูเริ่มอยากออกห่างมันเรื่อยๆเลยยยชอบชวนกูไปนั่นไปนี่วานกูให้ไปช่วยนั่นนี่ทั้งๆที่กูไม่ค่อยว่าง รำคาญว่ะบางทีไปเจอก็พูดแต่เรื่องเก่าๆ ละชอบทำเหมือนรู้จักกูดีด้วยทั้งๆที่ไม่รู้เหี้ยไรเลย ชอบเอาคนที่มันเกลียดมานินทากับกู มึง..คือคนที่มันเกลียดอะคือเพื่อนกลุ่มกูจะให้กูนินทาเพื่อนตัวเองเหรอ - - ละชอบทำมาหวงกู ควย อะไรมึงนักหนามีครั้งนึงกูกลับบ้านที่ตจว.มันทักเฟสมาถามกู "มึงกลับบ้านเหรอ ทำไมไม่บอกกู กูอยากให้มึงบอกกูบ้างเวลามึงไปไหน กูรู้นะมึงมีแฟนแล้วแต่ไม่อยากให้มึงมองกูสำคัญน้อยลง" สัสกลัว คือมึงเป็นไรกะกูนักหนาอิห่า เดี๋ยวแม่งมีเพื่อนใหม่ก็รู้เองแหละ ตอนนี้มันอยู่แต่บ้านไงไม่เรียนมหาลัยมันสอบไม่ติดเลยไม่เรียน แม่งเสียเวลาแทน ละสุดท้ายเข้าเอกชนรอเริ่มเรียนปีนี้ หงุดหงิดว่ะรู้สึกเริ่มรำคาญไม่รู้ทำไมตั้งแต่มันแชทมาบอกไปไหนให้บอกนั่นแหละกูเริ่มรำคาญเอามากๆเลย บางทีก็มาหากูที่หอแบบไม่บอกไม่กล่าวกูต้องการพักผ่อนกูมั้ยไม่ใช่ให้คนมาเดินป้วนเปี้ยนในห้อง ละอีกอย่างกูใกล้จะไฟนอลละมีงานต้องทำเยอะงานเก่าๆที่ดองอีกยังจะเสือกมาบอกกูว่ามีเวลาว่างให้มันหน่อยซักวัน เบื่อ กูไม่ค่อยอยากไปไหนกับมัน
เฮ้อ..กูเครียดว่ะ..กูจะต้องย้ายห้องอีกละ(ม.6 ย้ายแบบยำรวมแม่งทุกสายตามระดับเกรด) แล้วคือกูเป็นพวกเข้ากับคนไม่เก่งมากๆ ขี้อาย คุยไม่สนุก พูดเร็ว ม.5ที่ผ่านมาได้คือมีเพื่อนเก่าจากม.4(เป็นพระคุณมาก)แล้วก็จังหวะคุยอะไรคุยมันเหมาะพอดี กูเลยมีเพื่อนที่อยู่อย่างสบายใจด้วยได้กลุ่มนึง(ถึงจะไม่ได้คุยเรื่องที่กูสนใจแต่กูคิดว่าเรื่องที่สนุกยังไงมันก็สนุก ไปๆมาๆเลยติดนู่นติดนี่ตามเขา เอามาเม้าทํกันได้) ซึ่งก็ยังคุยเล่นกันจนตอนนี้ แต่แบบ แม่งย้ายห้องอีกแล้ววว กูบอกแล้วไงว่ากูเข้ากับคนไม่เก่ง ฮืออออออ ไม่อยากย้ายเล้ยยย แต่ก็เข้าใจว่าชีวิตนี้แม่งจะอยู่แต่ที่เดิมๆไม่ได้หรอก ทุกอย่างยังไงมันก็ต้องเปลี่ยน รู้ว่าได้ไม่ได้ยังไงก็ต้องปรับตัว แต่เหี้ยเอ๊ย กูกลัวจัง..กูไม่ชอบเลย..กูเกลียดเวลาที่ตัวเองกลัวนู่นกลัวนี่สุดละ เฮ้อ...
ป.ล.แล้วนี่กูก็มาอีโมงอแงเป็นเด็กห้าขวบอีก งี่เง่าจริงกู..
>>138 มึงเด็กเตรียมป้ะวะ555555 โอ๋นะมึงกูเก็ทฟีล แต่มึงอย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนที่มากับเพื่อนกลุ่มเดิมอ่ะ มึงเองก็อาจจะมีเพื่อนที่มาจากห้องเดียวกัน เท่าที่กูเห็นแม่งก็จะเกาะกันเอง ตอนนั้นมึงไม่โอมึงค่อยหากลุ่มใหม่อยู่ถ้าหาได้ แต่พูดถึงอ่ะมึง ม6แม่งไม่ค่อยมารรอยู่ละ ไม่เป็นไรมั้ง
ปรึกษาหน่อยเพื่อนโม่ง
คืองี้ กูทำงานแล้วล่ะนะ แต่ก็มีเพื่อนที่ยังเรียนอยู่
แล้วนางมีปัญหากับคนรอบตัว มีปัญหากับที่บ้าน เรื่องเรียน ห่าอะไรไม่รู้
ดราม่าเยอะแยะไปหมด ละเรื้อรังตลอดเวลา เข้าใจฟีลคนอมทุกข์ใช่ปะ?
นางก็จะมาบ่นๆระบายกับกูแหละ แต่บางทีกูก็ไม่ไหวไง แค่งานตัวเองก็เหนื่อยจนไม่มีเวลาส่วนตัวแล้ว
พอไม่ฟังนางบ้าง นางก็จะนอยด์ๆใส่อีก
จนบางทีกูก็แบบ เหี้ยเอ๊ย ตัดๆแม่งไปเลยได้ไหมวะ เหนื่อยชิบหาย
ทำไงให้นางแม่งเข้าใจดีวะ หรือเฟดออกมาเลย
มึง เพื่อนสนิทกูแม่เสียอ่ะ ควรปลอบไงดีวะ
140 คุณอวตารร่างเพื่อนดิฉันมาหรือเปล่าคะ นางอมทุกข์กับแฟน ครอบครัว งาน ดิฉันอยากทราบเหลือเกินว่ามีสิ่งไหนที่พอจะมอบรอยยิ้มให้นางได้ไหม
ทุกครั้งที่เจอนางคือระบายๆๆ แล้วดิฉันก็กลับมาเครียดที่บ้าน ก็เลยเลิกเจอนางไปพักนึง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาไม่มีนาง ชีวิตมีความสุขมาก
จิตรู้สึกคลีน เปล่งออร่าโพสิทีฟ จนตอนนี้ก็คิดๆว่าจะกลับไปคบกับนางไหม รักนางนะ แต่ทำไมต้องทำร้ายสุขภาพจิตเพื่อการมีเพื่อนคนนึงขนาดนี้ด้วย
#ทำเสียงให้ทอแลที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเปล่งพลังมารร้ายขับไล่จิตนางฟ้าออกไป
กูเป็นคนชอบบ่น เพื่อนเลิอกคบกุไปหลายคน เพราะแบบนั้น และกุดีใจที่แม่งหายไปจากชีวิตกุชอบกลเหมือนกัน แปลกนะ คือถ้าไม่ชอบ เบื่อ บอกมาตรงๆ ดีกว่า ตีหน้าดี มึงก็บ้าไปปะ..
ไม่ชอบ เบื่อ บอกตรงๆแล้วมึงจะปรับปรุงเหรอ บอกแล้วมึงจะหยุดบ่นไหม แล้วมึงจะไม่นอยด์หรือไง
ถ้าบางคนเขาไม่อยากทนกะมึงแล้วเขาก็แค่หายไปแหละ ใครเขาจะอยากมาโดนมึงด่า ทั้งที่ไม่อยากคบต่อแล้ว อุอุ
โดนเลิกคบไปหลายคนนี่ก็ยังไม่สำนึกสินะ มึงก็บ้าไปปะ...
ก็เนเจอร์มึงเป็นคนแบบนี้ คิดว่าคนอื่นพูดแล้วมึงจะเปลี่ยนเหรอ เหย่ดแหม่
กูมีปัญหากับเพื่อนคนหนึ่งด้วยเรื่องหยุมหยิมมาก แต่มันไม่ยอมพูดกับกูว่ามันมีปัญหาอะไร แต่เอาไปเล่าให้เพื่อนอีกคนในกลุ่มฟังแทน กูกลายเป็นคนเหี้ยไปเลย ถ้าโกรธกูอยากด่ากูทำไมไม่พูดมาตรงๆต่อหน้าเลยวะ พอถามเสือกบอกเปล่า ไม่มีอะไร ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก เอ้า ไม่ใช่แล้วกูจะตรัสรู้เหรอวะว่ามันอะไรยังไง แถมพอกูไม่รู้ก็ดันโมโหต่ออีก กูก็ขอโทษไปแล้วนะ อยากให้ทำอะไรก็บอก แต่แม่งเมินกูเฉย ควรทำยังไงดีวะ นึกไม่ออกจริงๆว่ากูทำอะไรผิด
กูเป็นคนจำพวกออกตัวแรง กูเคยด่าเพื่อนคนนึงอย่างที่พวกมึงชอบพูดว่าไม่พอใจอะไรก็บอกกันตรงๆ กูก็เลยบอก ผลคือแม่งร้องให้เลยจ้า ใครจะทำแบบกูก็คิดดีๆ เฟดตัวออกไปง่ายสุด
มึง กูสืบรู้ว่าเพื่อนในกลุ่มกูที่สนิทมากๆแม่งแอบนินทากูลับหลังอ่ะ กูควรทำตัวโง่ๆแกล้งไม่รู้ หรือโชะแตกแม่งไปเลยดีวะ
ตามสิบาย เพื่อนมึงไม่ใช่เพื่อนกุ กุจะนั่งทางในรู้ไหมว่าอันไหนดีกว่า
อย่างกุเป็นคนไม่ค่อยเอาเรื่อง บางทีเพื่อนก็ไปโชะชาวบ้านให้กุ คือกุก็ควรโชะเองอ่ะนะ มึงก็คิดๆเอาละกันนะ ไหนดีกะชีวิตมึง
แต่เป็นกุกุจะด่า ว่าแต่มึงอยากคบต่อปะเถอะะ
ทำตัวแบบหญิงๆก็ดีนะ ไปนินทากะชาวบ้านลับหลังว่า อินี่แม่งนินทากุ ก็เป็นการแก้แค้นในระดับที่สมน้ำสมเนื้อ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
อันนี้ปรึกษาหน่อยดิ จริงๆก็โตเเล้วนะใกล้จะจบทำงานเเล้ว เเต่กูมีปัญหาเรื่อง Social awkward ว่ะคือกูเป็นคนที่เก็บตัวเวลาอยู่คนเยอะๆจะพูดไรไม่ค่อยออก
คุยก็ไม่เก่งด้วย รู้สึกว่าไม่เฟรนลี่ไม่น่าอยู่ด้วยเเต่ก็มีเพื่อนนะ คิดว่าถ้าทำงานเเล้วลำบากเเหงๆถ้าทำงานกันเป็นทีม
กูอยากเเก้ไขตัวเองวะ ไม่จำเป็นต้องพูดเก่งคุยตลก เเต่อยากเเบบเคยเห็นบางคนปะ ไม่พูดไม่อะไรสงบเสงี่ยมขรึมๆเเต่ดูเเล้วน่าเข้าหาดูอบอุ่น มันดูมีออร่าอะไรเเบบนี้วะ กูเป็นพวกflowสนทนาไม่เก่งด้วยอีกฝ่ายถามมาก็ตอบๆเเล้วก็จบ คิดบทสนทนาไม่เก่ง เพื่อนๆกูก็เข้าใจกูก็เพื่อนน้อยด้วย เเต่กูคิดว่าถ้าออกไปพบโลกนอกนี่ถ้าเข้ากับคนอื่นยากนี่ท่าทางจะลำบาก
มีวิธีอย่างไรที่จะช่วยฝึกการพูด พูดคุย flow หรือบุคลิกบ้าง คุยไม่เก่งเลย
มึง กูเจอเพื่อนแบบนี้ว่ะอยากมาเล่าให้มึงฟัง
คือกูเรียนวิชาที่เซคนึง 50 คนแล้วให้แบ่งเป็นกลุ่มช่วยกันทำงานที่ใช้คอม
แล้วเพื่อนมันก็จะนัดกันว่าจะทำวันไหน บลาๆ พอถึงวันทำ ก็จะมีคนเอาคอมมาใช่ป่ะ
มันก็จะประมาณแบบว่า คนใช้แมค กับ โน้ตบุ๊ค ธรรมดาอ่ะ แล้วทีนี้ เหมือนเพื่อนที่ใช้แมค ก็จะมีคนที่เหมือนจะใช้แมคเข้าไปพูดด้วยกัน อารมณ์กูกับมึงเหมือนกันนะ แล้วเวลาแคปหน้าจอ ก็จะแคปทั้งจอเลยแบบว่าให้รู้ว่ากูใช้แมคนะ แต่คือมันมีฟังก์ชันที่แคปเฉพาะส่วนได้นี่หว่า กูรู้สึกว่าเขาอวดอ่ะ (อันนี้ไม่รู้กูคิดไปเองรึเปล่า)
แล้วทีนี้พองงานต่อมา กลุ่มนั้นก็จะเหมือนคุยกันอยู่แค่นั้นอ่ะ แล้วเวลาทำอะไรเกี่ยวกับคอม มันก็จะพูดอะไรที่เกี่ยวกับแมคขึ้นมา เช่น มีคนถามว่า ใครตัดต่อคลิปวิดีโอเป็นบ้าง คนนึงก็จะพูดว่า มีแต่ iMovie ไม่รู้จะทำได้รึเปล่า
ไม่รู้ว่าพวกมึงจะเข้าใจที่กูจะสื่อไหม แต่กูหมั่นไส้ว่ะ
คือกูเองก็ใช้แมค ไม่ได้เอามา และไม่แสดงตัว เวลากูจะขอทำงานอะไรเกี่ยวกับคอม พวกนั้นก็จะเมินกูไป ตอนหลังกูเลยเฉยๆ แม่งละ ไม่สั่งไม่ช่วย รำคาญ
เคยเจอเหมือนกันนะ เพื่อนกูเองแหละ บ่นอยากได้แมคๆกูก็ถามมึงใช้เป็นเหรอ เอามาแล้วจะเอามาใช้อะไร
มันบอกกูว่าซื้อมาเดี๋ยวเอามาลงวินโดว์ กูเลย อืม...ตามสบายนะเพื่อน
https://www.facebook.com/iShare.uShare.vShare/photos/pcb.893702954025395/893702817358742/?type=3
ไม่รู้คนที่วาดเขียนถึงเพื่อนรึเปล่า แต่อ่านแล้วนึกถึงเรื่องของตัวเองกับเพื่อนสนิทว่ะ
มึงกูทำไงกูถึงจะหายเป็นโรคหวงเพื่อนซักทีวะ กูไม่ชอบเวลามันไปคุยกับคนอื่นอ่ะมึงเพราะในกลุ่มมีแค่สามสี่คนซึ่งกูสนิทกับมันมากที่สุด มันเป็นคนดีมากดีจนกูกลัวเพื่อนคนอื่นเห็นความดีในตัวมันแล้วแย่งมันไปจากกู กูจิตใช่ไหม หลังๆมันมาบอกกูว่ามันจะไปช่วยงานที่คณะคู่กับเพื่อนอีกคนกูก็คิดว่าต้องมีคนชวนมันแน่นอนแล้วมันทำให้กูรู้สึกไม่พอใจว่ะ พอมันจะมีแฟนกูทั้งเป็นห่วงทั้งหวงมัน ทั้งกูกับเพื่อนกูเป็นผู้หญิงนะ กูควรจะทำไงดีวะ ปล่อยวางเหมือนจะไม่ได้ผลสำหรับกู:(
โอ๊ยยยย กูล่ะเบื่อพวกที่เวลาคอมหรือโน้ตบุ๊คมีปัญหาแล้วชอบเรียกกูไปจังเลยว่ะ คือกูแค่ทำงานที่ต้องใช้คอมเฉยๆ กูไม่ได้เป็นช่างซ่อมนะโว้ย แล้วกูก็ทำไม่เป็นด้วย แต่บอกแม่งก็ไม่สนใจอิดอก แล้วบางปัญหาน่ะ พวกคุณมึงท่านเปิดเน็ตหากันบ้างก็ได้นะ ไม่ใช่มาเรียกกูกันอย่างเดียวแล้วไปนั่งกินมาม่ากัน รำคาญมาก แต่ก็ได้ทำแต่ปั้นหน้ายิ้มแล้วทำให้แม่ง ไม่ทำให้ก็เดี๋ยวมีปัญหาอีก สึด
อะไรคือการที่โดนเพื่อนเททั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่คุยไม่เล่นอะไรกะกุเลยแต่ทำกะคนอื่นได้ หลายรอบละนะเว้ย :'(
ตั้งแต่กูขั้นม.ปลายมากูไม่มีเพื่อนสนิทในห้องเลยว่ะแปลกไหม มีก็แต่เพื่อนเที่ยว แบบคุยกันไม่ได้ทุกเรื่อง
ส่วนมากการโดนเทแบบที่คนโดนเทไม่รู้เนื้อรู้ตัวมักไม่เมคเซนส์...
พวกมึง คือกูมีเรื่องสงสัย
กูสงสัยว่าทำไมเพื่อนกูถึงดูอยากมีแฟนกันจัง ประมาณว่า พอกูเล่าให้ฟังถึงเพื่อนใหม่คนนึงที่เป็นผู้ชาย อารมณ์แบบเม้าไรงี้ มันก็จะตีความไปว่ามาจีบแน่เลย คือกูอึ้งอ่ะพูดไม่ออก กูคิดว่าแค่คนรู้จักเรียนด้วยกันไรงี้ แล้วก็มีแบบ สมมติเพื่อนอีกคนมีคนมาขอไลน์ มันก็จะบอกว่า อยากมีบ้างจัง ฟิน แล้วก็จะมีเพื่อนที่ชอบเที่ยว มันก็มาพูดกับกูว่า อยากคอแข็งบ้าง ผู้หญิงคอแข็งดูเท่อ่ะ คือกูก็เออออกับมันไป แล้วก็เอาเรื่องผู้ชายคนนั้นนี้มาเล่าให้กูฟัง ว่าแอบปลื้มไรงี้
คือมันเป็นวัยหรือยังไง คือเวลากูมองเพื่อนกูคิดว่าเรื่องพวกนี้มันธรรมดาเฉยๆ กูไม่รู้สึกอะไร แต่กูยอมรับว่ากูผ่านช่วงอารมณ์แบบนั้นมาแล้ว ตรรกะป่วยๆ เช่น เห็นเหล้า บุหรี่ ผับ เป็นเรื่องเท่ คอยส่องเม้าบ้าผู้ชาย พอโตแล้วกูคิดว่าเรื่องพวกนี้มันเด็กๆอ่ะ
ปล. กูขอบ่นหน่อยนะ กูปี1
กูเบื่อเพื่อนเห็นแก่ตัวจัง งานกลุ่มแม่งไม่เคยทำ อ้างนู่นอ้างนี้ ไม่มีคอม ไม่มีเน็ต ไม่มีปริ๊นเตอร์ ไม่มีเวลา ไปต่างจังหวัด ไปทำบุญ
สุดท้ายกูก็ทำคนเดียวตลอด สัส
กูไปเที่ยวกะเพื่อนแล้วกูแลกเงินสดไม่พอกูเลยขอรูดการ์ดตอนเพื่อนช็อปปิ้งเพื่อแลกกะเงินสดเขา ต่อมาคนที่ให้กูรูดการ์ดมีปัญหาเรื่องเงินไม่พอเช่นกัน ลามไปจนถึงว่าเงินเขาหายไปสามพัน เขามาตั้งแง่กับกูหาว่ากูอาจจะเอาเงินเขาไปเกินเพราะกูไม่ได้คำนวณค่าใช้จ่ายในวันหลังๆที่เที่ยวด้วย ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้กูมีเงินสดเท่าไหร่ วันนั้นกูเลยนั่งคิดเลยเลขออกมาคือตรงไม่มีปัญหา แล้วก็ทำมาบอกว่าอ้อลืมเงินไว้ที่บ้านตอนอยู่กะกูสองคน แม่งคือห่าไรวะ แล้วคนอื่นเขาจาคิดว่ากูขี้ลักขี้ขโมยไหม ไปกันห้าคนแต่เสือกสงสัยกูคนเดียวอีกคนเขาคำนวณค่าใช้จ่ายตลอดส่วนอีกสองคนก็ไม่ได้ทำแต่ไม่สงสัย แถมตอนให้เงินมากูก็ให้เขาจัดแจงเองให้จบมีพยานมองเห็นว่าให้เงินกูมาเท่าไหร่ แล้วพอกลับมาก็มาทำพูดจาเสียดสีใส่กูซะงั้น ห่ากูก็ไม่ได้บังคับอะไรแม่งให้ต้องซื้อของเลยนะหยิบซื้อก็หยิบเอง โคตรไม่เข้าใจอีโก้หนักมาก ช็อปจนเงินไม่พอก็ยอมรับดิวะว่ามีเงินไม่พอ ไม่เห็นต้องใส่ร้ายใครแบบนี้เลย
*ที
ไม่รู้เรียกเพื่อนดีมั้ย เอาเป็นว่าจะทำตัวใจดีเรียกมันว่าเพื่อนแล้วกัน....
คืองี้ พวกกูมีสอบอัตนัย ชีทที่อ.ให้มาหนามาก หนาสัสๆ แล้วก็มีคนนึงมาขอให้กูช่วยทำสรุปให้ เพื่อนจะได้ไม่สอบตกกันเพราะคะแนนสอบผ่านมันสูงมาก (70%) กูก็ อ่ะ ทำก็ได้เพราะยังไงกูก็ต้องอ่าน วันนี้กูได้ยินมันคุยกันหลังกูส่งสรุปไปเมื่อวันก่อน ว่าจะแอบเอาสรุปของกูเข้าไปเปิดเป็นโพยในห้องสอบ อ้าว ชิบหาย!
.......ปวดใจว่ะ คราวหน้ากูไม่สรุปให้แม่งละ 5555555555555555555555555555
บ่นหน่อย กูเพิ่งเข้ามหาลัย กูรู้สึกว่าทำไมเรามีเพื่อนที่สนิทใจแบบมัธยมไม่ได้มั่งเลยวะ เพื่อนที่เป็นโดยไม่มีเงื่อนไขอะไร นี่แม่งจ้องจะหาผลประโยชน์จากกันท่าเดียว พอหมดประโยชน์ก็โดนเท คบกันก็เเค่ผิวเผิน เกาะกลุ่มไปไหนมาไหนกันก็ไม่ได้สนิทใจเลย ปากบอกต่อหน้าเพื่อนคนนึงว่าไม่เคยจิกกัดอะไรลับหลังซะหน่อย เพื่อนกันนะเว่ย เชื่อใจกันหน่อย พอคนนั้นไปแม่งเม้าท์กันเดี๋ยวนั้นเลย กูก็พอรู้อะว่าแม่งจบไปต้องเจอหนักกว่านี้เเน่ แต่กูรู้สึกเหนื่อยแม่งจริง พอตอนนี้แยกมาอยู่คนเดียวก็โดนหาว่าเทเพื่อนอีก แบบนี้ใครจะไปคบชีวิตสัสจริงๆ
ใครว่าเพื่อนมัธยมไม่หาประโยชน์กัน โตขึ้นมาเดี๋ยวมึงก็รู้เอง
มัธยมนี่ตัวเด็ดเลย ที่มึงพูดได้เพราะไม่เจอเองไง
กู >>182 มาอัพเดทเพิ่มเติม หลังกูลงสรุปไปจนถึงตอนนี้ มันมีคนไม่รู้เอาเฉลยข้อสอบมาอีท่าไหนแล้วปล่อยลงไลน์กลุ่ม รู้สึกเหมือนกูโดนตบหน้าอ่ะ แถมคนปล่อยเฉลยก็เป็นเพื่อนกับคนที่มาขอให้กูทำสรุปให้
รู้สึกเหี้ยมากๆ แต่ก็พูดห่าอะไรออกมาไม่ได้เพราะเป็นคนส่วนน้อยในภาค เคยพูดไปทีนึงตอนที่มันด่าอาจารย์กันเพราะความเห็นไม่ตรง กูโดนสวนซะงั้น ...
กูเนี่ยเจอมา ตอนมัธยม ต่อหน้าพูดกับกูดีสัส ยิ้มยังงั้นยิ้มยังงี้ แล้วตอนหลังมีเพื่อนที่สนิทกูมาบอกว่า มันเอากูไปด่าในทวิต ตอแหล บ้า ผช ไรงี้ แล้วก็มีเรื่องมีราวกัน จนกูโดนแบน แบบในห้องมันจะเว้นระยะห่างโต๊ะกูไว้ให้กูโดดเดี่ยว แต่กูไม่สน กูไม่แคร์ และกูก็รอดมาได้ แต่แม่งแปลกอยู่อย่าง ขนาดแบนกูนะ ครูสั่งงานฝากบอกเพื่อน มันก็ยังมาบอกกูว่ะ กูนี่ขำในใจ ถ้าเป็นกูคงเอาให้กระอัก สงสัยมันยังไม่ร้ายเท่ากู
>>191 มึงนี่โง่จริง ก็ถ้าเกิดไม่บอกงานมึงแล้วเกิดอาจารย์ถามมึงขึ้นมาว่ารู้งานรึยังแล้วมึงบอกไม่รู้ เพื่อนมึงก็จะโดนเฉ่งเอาไง
เอาจริงๆเพื่อนมึงเขาคงไม่อยากยุ่งกับมึง แต่ก็ไม่อยากเดือดร้อนเลยพยายามสื่อสารให้น้อยที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งกับมึงอีก
ก็นะ ขนาดกูอ่านที่มึงพิมพ์มาแค่สองบรรทัดยังไม่ถูกชะตาเลยว่ะ รู้สึกว่ามึงคงเป็นคนน่ารำคาญ
เอาจริงๆคือ ชีวิตวัยมัธยมอ่ะ ไม่ต้องคิดไรมากหรอก สนใจเรื่องเรียนไว้ก่อนดีกว่า เพื่อนถ้าจะคบก็ควรเลือกๆไว้บ้างไม่จำเป็นต้องมีเยอะ ใครดีมาก็ดีตอบ ใครร้ายมาก็เล่นมันเลย ต่อหน้าไม่กล้าก็ลับหลังแม่ง รักษาภาพลักษณ์ต่อหน้าครูให้ดีๆ แล้วก็ควบคุมอารมณ์ด้วยทำอะไรต้องมีสติ เพราะช่วงนี้วัยรุ่นไง มันจะหุนหันพลันแล่น ช่วงหัวเลี้ยวหัวตอของชีวิต ว่าเราจะเลือกเดินไปทางไหน ใครทะเลาะกันแนะนำว่าควรรีบเคลียร์ให้เรียบร้อยไม่งั้นอาจจะค้างคาไปชั่วชีวิต อย่างเรา วันเรียนจบก็นัดมาหมดอะ ไอ้พวกที่ชอบนินทา พวกที่มาตั้งแง่ใส่ ยังไงก็อาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ที่ทำแย่ใส่จนชีวิตกูวุ่นวายชิบหายเพียงเพราะแม่งแค่หมันไส้กู อีผี เกือบสามปีที่เอาเรื่องเลวๆมาใส่ร้าย หาเรื่องให้กูผมหงอกก่อนวัย กูทำไม่แคร์ไปงั้น ที่จริงแล้วกูเดือดมาก แค้น เกลียดดดด เล่นมึงไปเท่าไหร่กูก็ยังไม่หาย หึยๆๆ
อีพวกหน้ายิ้มซื่อ พวกหน้าไหว้หลังหลอกกูโคตรเกลียด มีคนนึงแม่งหาว่ากูรังแกมัน คนอย่างกูไม่เคยเล่นใครก่อน ทั้งที่แม่งมีพวกเป็นโขลง ใส่ร้ายให้เพื่อนในห้องเกลียดกู ไซโคกันเข้าไป เรียนแม่งโคตรอึดอัด จะให้กูขอโทษทั้งที่กูไม่เคยไปทำห่าไรให้ อยากให้กูรังแกนัก กูก็เล่นแม่งเลย เพื่อนกูก็มี มันแอ็บใสใส่ กูก็แอ็บใสมั่ง วินๆ
คำเดียว โคตรสะใจ
>>196 ก็เคลียร์แบบเปิดอก จริงๆคือโดนกูบังคับนี่แหละ ยึดใบจบมัน5555
ความจริงเราใสๆนะ(จริงจริ้ง)
เราแค่ไม่อยากให้พวกเขาจำภาพว่าเราเป็นคนแย่ๆไปนะ ทั้งที่ไม่จริง
เราก็เคยนะ กับเพื่อนตอนประถม มันฟังคำคนอื่น แต่ไม่เคยเอ่ยถามความจริงกับเรา ทั้งที่พวกเราสนิทกันที่สุด เป็นเพื่อนกันตั้งแต่จำความได้อ่ะ โดนผลักออกจากกลุ่ม โดนด่าเป็นนังงูพิษ 55555
ตอนขึ้นม.ต้นเราก็ร้องขอพ่อย้ายโรงเรียนเลยอ่ะ ตีกันทีไรเราช้ำทุกที เด็กๆนี่ตัวดีเลย เพื่อนเรามันฉลาดมาก เลือกลงมือตรงจุดใต้ร่มผ้า ครูไม่รู้ผู้ใหญ่ไม่เห็น เด็กผีมากอ่ะ จากเราขาวๆจนเทาไปเลย ไม่สิอาจจะดำตั้งแต่ตอนนั้นก็ได้
ตัดขาดกันแบบจริงจังมาก ถึงกับให้เราสาบาน 5555เจอกันไม่มองหน้า แต่งงานยังไม่ส่งการ์ดเชิญมาเลยจ้า คนโคตรจริง
เขาก็ยังมองเราเป็นนังงูพิษจนปัจจุบันนี่แหละ จะไปเคลียร์ก็ช้าไปแล้วมั้งตอนนี้ ไม่รู้จะนึกเสียใจบ้างมั้ยถ้ารู้ความจริง แต่เราไม่สนแล้ว ช่างแม่ง(╰_╯)
บอร์ดโม่งทำให้กูได้รู้จักจูนิเบียวเวอร์ชั่นเด็กผู้หญิง อืม มันก็คงประมาณนี้สินะ...
>>199 ก็อารมณ์ประมาณว่า คิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษมาตั้งแต่กำเนิดสถิตอยู่ในแขนขวา จึงต้องเอาผ้าพันไว้ ปลดออกมายามใช้พลังเท่านั้น พูดตามตัวละครในอนิเม ชอบทำตัวอวดรู้ต่อต้านสังคม ทั้งๆที่ไม่ได้รู้ห่าอะไรเลย หรือพวกชอบทำอะไรนอกกระแส แต่ตัวเองไม่ได้ชื่นชอบอะไรขนาดนั้นหรอก แค่เห็นว่ามันเจ๋งดี เลยทำ มันจะได้ดูพิเศษกว่าคนอื่น
กูนอนคิดเรื่องนี้มาสองคืนละ คิดไม่ตกซักที
กูคิดว่ากูมีปัญหาเรื่องการอยู่ร่วมกับคนอื่นอ่ะ กูเช่าหออยู่กะเพื่อนอีกสองคนแล้วสองนั้นค่อนข้างขี้เกียจ ไม่มีระเบียบ ชอบทำบ้านรก กินข้าวแล้วไม่เอาขยะไปทิ้ง จานล้างบ้างไม่ล้างบ้าง ตอนแรกๆกูก็หยวนๆพอกินของตัวเองเสร็จเห็นจานกองพะเนินกูก็เออ ล้างให้ก็ได้ แต่พอมันบ่อยเข้าแบบกูกินข้าวหมดจะเอาจานไปล้างทีไรก็มีกจะเจอกองจานคนอื่นเต็มอ่างไปหมด จนกูแบบไม่โอเคละ ถ้าคิดจะกินกันอย่างเดียวแบบนี้คงคิดว่าทิ้งเอาไว้เดี๋ยวก็มีคนมาล้างเองอย่างงี้ป่าววะ แต่ก็ไม่อยากว่าอะไรมากแต่ละคนค่อนข้างพูดยาก กูเลยเลิกล้างให้คนอื่นไปเลย เวลากินเสร็จก็ล้างแต่ของตัวเอง ทีนี้กองจานที่ไม่ได้ล้างแม่งก็สะสมขึ้นอีกจนไม่มีช้อน ไม่มีจานให้กิน ซึ่งตอนหลังกูตัดปัญหาไม่มีก็ไม่กินแล้วก็กินข้างนอกตลอด จนวันนึงอยู่ๆเพื่อนคนนึงเกิดรักความสะอาดขึ้นมาแล้วก็มาโวยใส่กูว่าเห็นจานกองมานานแล้วนะ ทำไมไม่ล้าง บลาๆ กูก็งงว่าอะไรวะแต่กูไม่ได้เป็นคนกินนะกูเลยไม่ล้าง กูคิดว่าเค้าคงคิดว่ากูกินแล้วไม่ล้างแหงแต่กูก็ไม่ได้ตอบอะไรก็เล่นคอมต่อแล้วเหมือนเค้าก็ฮึดฮัดใส่อ่ะ
กูคิดว่าถ้าตอบไปว่ากูไม่ได้เป็นคนกินกองจานพวกนั้นนะต้องโดนว่าแน่ๆว่าก็เห็นว่ามันกองเน่าทำไม่ล้างอะไรแบบนี้เลยว่ะ คือการอยู่ร่วมกันมันต้องทำงี้หรอ เห็นบ้านสกปรกต้องตามทำความสะอาดถึงแม้ว่ามึงไม่ได้ทำรก เห็นจานไม่ล้างมึงก็ต้องตามล้าง เห็นขยะไม่ทิ้งก็ต้องเก็บไปทิ้งให้ บ้านเลอะก็ต้องกวาดต้องถู มันยุติธรรมหรอวะที่เป็นแบบนั้นหรือมันปกติของการอยู่ร่วมกัน แต่ทำไมกูรู้สึกว่าไม่แฟร์เลย พอทำแบบนั้นกูก็ต้องทำไปตลอดรึเปล่า ในเมื่อพอมีคนทำให้คนอื่นก็จะไม่ทำกันเหมือนจานที่กองเนินสูงนั่นอ่ะ แบ่งหน้าที่ก็เคยแบ่งแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ทำกัน แล้วกูเลยไปรับผิดชอบแค่ส่วนของตัวเองคนเดียวไม่สนส่วนรวม กูกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวป่าววะ
แล้วมันแย่ตรงกูทำความสะอาดไปเท่าไหร่พออีกสองสามชั่วโมงต่อมาหลังจากทุกคนตื่นบ้านก็จะเต็มไปด้วยขยะ ถุงพลาสติกที่ปลิวว่อน กูเบื่อที่จะต้องตามเก็บทุกวันกูเลยไม่ทำให้แล้ว พอเพื่อนรู้ตัวว่าบ้านรกแล้วเลยลุกขึ้นมาทำความสะอาดแล้วก็เลยว่ากูหรอ ว่ากูไม่ทำอะไร แล้วไอ้ที่กูเคยทำล่ะ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ากูกวาดบ้านให้ทุกวันที่กุหยุด เซ็ง นี่กูควรออกมั้ย แต่กูก็ยังต้องเรียนห้องเดียวกะพวกนั้นไปอีกสี่ปี ไม่อยากมีปัญหาตั้งแต่ตอนนี้ว่ะ
ออกมาอยู่คนเดียวเหอะ
>>202 เคยเป็นเหมือนกันว่ะ ตอนนี้บอกเพื่อนว่าไม่ไหว แพ้ฝุ่น เก็บห้องทุกวันไม่ไหวเลยขอย้ายออกมา
คือห้องแม่งสกปรกสัส เพื่อนผมร่วงเยอะเหี้ย ๆ ร่วงจนจะเป็นพรหมเช็ดเท้าอยู่ละ แถมวันดีคืนดีวางขนมกินทิ้งไว้บนเตียงมั่ง บนโต๊ะมั่ง มดก็ขึ้นเต็มดิ แถมมดกัดนาง นางไม่รู็สึกนะ แต่กูค่ะ กูขึ้นตุ่มทั้งขา ฟวย - * -
คือนายก็ลองทำตารางแปะฝาห้องไปดิ วันไหนเวรใคร ทำความสะอาดแล้วก็ถ่ายรูปลงไลน์ ไม่ก็เซ็นชื่อในใบตารางเวรทำความสะอาด ไรงี้อะ เห็นเพื่อนที่อยู่ห้องข้าง ๆ ทำอยู่ ไม่อีกทีนายก็คงต้องแบ่งอะ คนนี้ล้างห้องน้ำซักผ้า คนนี้กวาดพื้นถูพื้น คนนี้ทำอาหารล้างจาน ไรงี้อะ อันไหนแม่มสกปรกก็รู้เลยว่าใครอู้
แคร์เหรอ? อยู่คนเดียวแล้วมันเป็นไงวะ เพื่อนไม่ค่อยคบแล้วทำไม คบกันต้องมารองมือรองตีนพวกแม่งงี้
กูยอมอยู่คนเดียวอ่ะ เชื่อกูเหอะ ออกมาอยู่คนเดียว สุขภาพจิตดีขึ้นเยอะ ไม่ต้องแคร์ใคร ใครจะว่าไรก็ช่างแม่งมัน
กูละโคตรเกลียดเลย ไอ้พวกหัวควยที่ชอบทำตัวเอาเปรียบชาวบ้านเงี้ย แม่งเย็ด
>>207 มันซวยกรณีที่อาจารย์แก่ๆบอกให้มึงทำงานกลุ่มงานคู่ในวิชาเอก
พอขอทำเดี่ยวก็จะพยายามเทศน์หรือสอนว่าหนูอยู่ในสังคมหนูจะต้องปรับตัวและยอมรับข้อเสียของเพื่อนนะคะในตอนทำงานหนูจะเจอยิ่งกว่านี้อีกหนูจะต้องฝึกและหนูก็ต้องบลาๆๆๆๆ
แปลง่ายๆว่ามึงต้องหากลุ่มหรือคู่ให้ได้ค่ะอิหอยทำมาเดี่ยวไม่รับงานนั่นละ
เมื่อวานเปิดเทอมวันแรก เป็นวันที่กูกับน้องเหนื่อยที่สุดแล้ว เพราะมีคนมาหามาชวนคุยเยอะมากกกกกกกกก
คือมีช่วงนึง หลังโฮมรูม เพื่อนจากห้อง 2-12 กรูมันมาเต็มหน้าห้องอ่ะ คืองี้ กูย้ายรร.ใหม่เพราะที่บ้านมีปัญหาการเงินเว้ย
รร.ที่ย้ายมาเป็นรร.ต่างจังหวัดกันดารๆหน่อย แต่ก็ไม่แย่ไม่กาก ที่พิเศษคือกูกับน้องหน้าฝรั่งจ๋ามาก กูผมบรอนส์แท้ๆ ตาฟ้า
น้องกูบรอนส์ออกเงินๆ ตาฟ้าเหมือนกัน ตอนเข้ารร.มานี่ขนาดครูยังพูดอังกฤษใส่อ่ะกูก็เล่นตามด้วยนะจนแกนึกว่าเป็นฝรั่งจริงๆ
ตอนเข้าแถวนี่มีแต่คนมอง ยิ่งพอขึ้นห้องไปนี่ฮามาก คือเพื่อนในห้องเกี่ยงกันมาทักพวกกูเว้ยแรกๆ เฮ้ยๆโคตรน่ารักเลยว่ะ มึงทักดิ
ไม่เอาสัสกูไม่เก่งอังกฤษ เชี่ยกูอยากได้ผมแบบเค้าว่ะ มีพวกหื่นๆก็มี สัสเหมือนในหนังโป๊เลยคนนี้ กูแบบฮามาก มันไม่รู้ว่ากูคนไทยกัน
พอโฮมรูมปุ๊ปเท่านั้นล่ะ เงิบยกห้องพอพวกกูบอกว่าเป็นคนไทย พูดไทยชัดมากถึงมากที่สุด แต่น้องกูนี่เด่นในพวกโอตาคุในห้องมาก
เห็นได้ยินมันพูดชื่อตัวละครอะไรสักอย่างบอกว่าผมน้องกูเหมือน หลังโฮมรูมนี่ล่ะ ความฮาของจริง เพราะเกือบทุกห้องมาหน้าห้องกูกันหมด
แล้วพูดอังกฤษกันฮามาก you สวยมากครับ you eat food,you talk england คือมันจะถามว่ากินข้าวยังกับพูดอังกฤษหรอ
แต่บอกแบบนี้กูแบบกลั้นขำไม่อยู่จริงๆ จนพอกูเฉลยว่าเป็นคนไทยนี่ล่ะบางคนอายเดินหนีกูไปเลย กูกับน้องแบบฮอตมาก
เพราะหน้าตาดีหุ่นดีส่วนนึง ที่สำคัญคือตากับผมจริงๆ แล้วเพราะรร.นี่เอาจริงๆไม่มีนร.แลกเปลี่ยนมาก่อน
เพราะกันดารจริงอยู่เกือบบนดอยอ่ะ แต่ไม่ใช่รร.ห่วยๆอะไรนะก็โอเคอยู่ วันทั้งวันไม่ได้เรียนจริงๆ นั่งคุยกับเพื่อนกับคนทั้งวัน
แล้วเด็กตจว.นี่ไม่เหมือนในมโนภาพกูเลย ที่เป็นสก๊อยไม่ก็เด็กแว๊น แต่ละคนเฟรนลี่กวนตีน แล้วก็เฮฮา สนิทกันง่ายมาก
ผมกูนี่เพื่อนมันจับจนจะเฉาติดมือไปคนละเส้นละมั้ง จับอยู่นั่นแต่ก็สนุกมาก ชีวิตม.ปลายกูกับน้อง ขอให้มันสนุกแบบนี้จนเรียนจบด้วยเถิด
>>209 กุเข้าใจบรรยากาศ เพราะกุก็เรียนร.ร.ทำนองแบบนั้นมา เดี๋ยวอยู่ๆไปมึงจะค้นพบว่า พ่อคนนี้เป็นเพื่อนพ่อคนนั้น คนนั้นเป็นญาติคนนี้ บ้านคนนี้อยู่ติดบ้านคนนั้น เยอะแยะตุงนังไปหมด5555555555555555
ทำห่าอะไรแม่งก็รู้จักกันหมดเลย พีเพิ่ล
ป.ล.ไม่ว่าสังคมจะเป็นแบบไหนต้องเลือกเพื่อนให้ถูกกลุ่มและวางตัวให้ถูกด้วยนะ เข้าไปแล้วบางทีกลับลำยาก
โอ้ยย กูไม่ไหวจะเคลียร์ เพื่อยกูแม่งเปิดแอร์ที่ 19 องศา ก่อนหน้านี้กูไม่เคยรู้เพราะไม่ได้สนใจดูรีโมทแอร์ ก็ว่าทำไมแม่งหนาวชิบหาย พอเพื่อนมันไปเที่ยวต่างจังหวัดอยู่ๆกูก็ไปดูรีโมทแอร์ แทบช๊อค อีเหี้ย 19 องศา เปิดทำเหี้ยไรตั้ง 19 องศา โมโหมากไอสัสถึงว่าค่าไฟแพงมาตลอด กูก็โง่ไม่เคยเอะใจ เสียค่าไฟสองสามพันเป็นปี ก็นึกว่าเพราะเพื่อนมันชอบกลับมาเปิดแอร์นอนบ่อยๆ วันหยุดแม่งก็ชอบเปิดแอร์ทั้งวัน แต่นี่แม่งเปิดแอร์องศาขนาดนี้มึงเอามีดมาแทงกูเลยมั้ย ใช้ไฟแม่งยังกะเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า เพื่อนโม่งกูจะทำไงกะมันดีวะ จะพูดยังไงดีให้แม่งเข้าใจเลิกเปิดแอร์ต่ำกว่า 25 และเลิกเปิดตอนกลางวันซะที ไอ้เหี้ยเงินยังต้องขอพ่อแม่กันอยู่เลย กูก็พยายามประหยัดไปสิสาเหตุอยู่ตรงนี้เอง อยากพูดดีๆเดี๋ยวมะรืนแม่งก็กลับมาละอยากจะฉะซักทีแต่ไม่อยากมีปัญหาใหญ่โต เอาพูดดีๆ จะพูดยังไงดี ตอนนี้กูขึ้นมาก เหี้ยเอ๊ย เงินที่เสียไปทุกเดือนเพื่อเหี้ยไรวะ เพื่อค่าไฟโง่ๆของพวกติดหรูกูล่ะหน่าย ตั้งใจว่าจะอยู่ด้วยกันต่อหลังเรียนจบเพราะคิดว่าจะหางานในกรุงเทพแต่เจองี้กูนี่ไปไม่ถูกเลยไอสัส
วันนี้กูบังเอิญไปรู้อีกตัวตนในโลกอินเตอร์เน็ตของเพื่อนสมัยมัธยมมาว่ะ คือเหี้ยมาก รู้สึกแปลกๆชิบหาย สัสแล้วแม่งออกแนวเป็นเซเลปด้วยนะ โพสต์แต่ละอย่างดูอมภูมิมาก บังเอิญซ้อนเข้าไปอีกคือเพื่อนในเน็ตของกู 2-3 คนก็เคยคุยกับมันบ่อยๆ ไม่อยากคุยว่าเซเลปของพวกมึงแม่งก็มีด้านเหี้ยๆในอดีตเหมือนกัน ลอกการบ้านวิชาเคมีกูประจำ,จูนิเบียวได้โล่ เคยถึงขั้นแต่งงานกับตัวการ์ตูนแล้ว,กูต้องฟังครูบ่นประจำเพราะมึงเข้าห้องสาย,มึงชอบพล่ามภาษาโอตาคุเวลาพูดกับคนอื่น,ร้องเพลงอนิเมะเสียงดังไม่อายฟ้าดิน,มึงเป็นหัวหน้าตอนเรียน รด.ได้เหี้ยมาก,มึงเคยสอบได้ที่รองโหล่มาแล้ว,มึงเกลียดการ์ตูนฮาเร็ม+เซอร์วิส !? อันนี้กูขำกลิ้งเลย อย่าให้กูร่ายนะว่าสมัยก่อนมึงพล่ามเกี่ยวกับอนิเมะว่าไงบ้าง (นึกภาพโอตาคุที่คลั่งการ์ตูนญี่ปุ่นคนเดียวในห้อง คุยแต่เรื่องการ์ตูน 18+ จนเพื่อนคนอื่นรำคาญ) เหี้ยเล่าทั้งวันก็ไม่หมด55 สัสแล้วแม่งดันมีรสนิยมการ์ตูนคล้ายกูด้วย เลยมายุ่งกับคอมเม้นกูบ่อยๆ แต่ยอมรับอย่างนึงว่าแม่งเก่งยุ่นมาก ก็สมควรล่ะนะ เรียกได้ว่ามันเป็นโอตาคุมาตั้งแต่ ม.1 แล้ว
กูมีเรื่องเครียดดราม่ามาว่ะ ถ้าเกี่ยวกับเพื่อนจะปรึกษาที่มู้นี้ได้ไหมวะ
เพื่อนคนนึงนิสัยปกติทุกอย่าง เสียแต่ไม่ช่วยงานกลุ่มเลย ความรับผิดชอบก็ต่ำมาก ให้โอกาสหลายรอบแล้ว อาจจะใช้คำแรงแต่กูรู้สึกว่ามันฉุดให้ชีวิตกูตกต่ำยังไงไม่รู้ ควรเลิกคบไหมวะ
>>219 ขอคำอธิบายเพิ่ม เช่น มันเรียนเก่งมั้ย หัวไว ทันคน ปรึกษาได้รึเปล่า บางทีถ้าคบไปไม่มีประโยชน์มึงก็เลิกคบไปเถอะ
แต่กูว่าอย่าไปว่านิสัยมันเลย กูคิดว่าคนเรามีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง บางทีอาจมีเรื่องที่มึงไม่รู้ก็ได้
หรือถ้ามึงไม่สบายใจก็เลิกคบไปซะให้มันจบๆ อาจจะดูเลือดเย็น กูนี่ละคบคนที่ประโยชน์ แต่กูก็มีเพื่อนตายของกูคนนึงที่มันรู้ทุกอย่าง
ขอบ่นมั่ง เพื่อนกูสมัยม.ปลายโคตรน่าเหนื่อยใจ งานกลุ่มเว้ยกูทำให้ทุกอย่างละ สรุป ทำสไลด์ ปรินต์
ละโพสสไลด์ลงกรุ๊ปเฟสให้ด้วยบอกเอาเนื้อหาไปอ่านแล้วพรีเซนต์ในส่วนของแต่ละคน
แม่งทักแชทแยกมาถามกูว่า ไม่ได้เตรียมพรีเซนต์ให้ด้วยหรอ กูนี่โคตรเงิบ มึงอ่านไปเถอนะ สไลด์โง่ๆแค่สองสไลด์
ข้อมูลอีกซัก 2 ย่อหน้า เอาไฮไลต์ป้ายซัก 4-5 ทีมึงก็พูดได้ละ แม่งไม่ทำ พอวันจริงออกไปยืนอ่าน
กูงี้โคตรเดือดดดดด ตอนนี้เรียนจบแยกย้ายกันไปละ ดีใจฉิบบ
ชาตินี้อย่าได้มาทำงานด้วยกันอีกเลยคนแบบนี้
เลือกผัวเมินเพื่อน ง่ายๆสั้นๆ
มึงสดๆร้อนๆ กูมีปัญหาเรื่องลีดกับอ.ที่โรงเรียน กูไม่เจาะจงรายละเอียดมากนะเดี๋ยวโม่งแตก เอาเป็นว่าคนคุมปีนี้ตึกกูมันน้อย แล้วก็ไม่ใช่ลีดปีก่อน(คือเคยคุมแล้วปีที่แล้ว ปีนี้กูควรลอยตัว แต่ไม่มีคนคุม กูเลยต้องคุมกับเพื่อนอีกคน ทีนี้ไปคุยกับอ. ปัญหาเยอะมากอ่ะมึง ก็คุยๆกัน อ.ไม่สนใจฟังอะไรแต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ทีนี้กูก็บอกกับเพื่อนว่าเออ ไปคุยงานกันที่อื่นแล้วกัน อยากให้มันรีบๆจบไป( คืออาจารย์ให้กูกับเพื่อนร่างข้อเสนอในการคัดลีด ) เพื่อนก็โอเค เราก็นั่งคุยกัน ปรากฎนางก็ไม่ช่วยอะไรเลย พูดอย่างเดียวว่าไม่อยากคุมลีดๆ เทไปเลยดีไหม แล้วก็เหม่อๆ กูนั่งคิดข้อเสนอ คิดสคริปต์ประชาสัมพันธ์คนเดียวอ่ะ กูก็ฉุนดิ แบบทำไมกูทำงานคนเดียว แล้วมึงไม่ช่วยคิดช่วยเขียนอะไรเลย กูก็แบบเห้ยช่วยกันคิดหน่อยดิ นางก็แบบ โอ๊ยไม่เอาแล้ว เดี๋ยวค่อยคุยกันในไลน์ แล้วก็เก็บกระเป๋ากลับไปเลย ทั้งที่คุยกับอ.ว่าจะเอารายละเอียดไปให้พน. กูแบบปรี๊ดมาก อยากเททุกอย่าง แต่ก็สงสารน้อง ทำไมเห็นแก่ตัวจัง กูก็เหนื่อยเหมือนกัน จะสอบเสาร์นี้แล้ว มหาลัยก็เตรียมเข้า กูอยากระบายมากๆ นี่กูโกรธจนร้องไห้555555 ช่างกูไป กูแค่อยากมีสักคนที่รับรู้ปัญหากู
กูกำลังเข้าปี1 แล้วเพื่อนกูมีพวกซิก(แขกโพกหัว)นี่เค้่เป็นมิตรกะคนพุทธไหมอะ กุแบบอยากรุจักไรงี้อะ
บ่นมั่ง มันมีเหตุผลอะไรมั่งวะที่ทำให้เพื่อนคนนึงแม่งหายจากชีวิตเราไปเลยโดยที่แม่งไม่ยอมบอกอะไรเลย เคยทะเลาะหนักๆกันครั้งนึงแต่คืนดีกันแล้ว แล้วอยู่ดีๆแม่งก็หายไปเลย เฟซแอดไปก็ไม่รับ โทรไม่ติด กูเคยคิดจะบุกไปถามที่บ้านอยู่แต่ไม่ดีกว่า . . .
>>224 เด็กเตรียมปะเนี่ย ตึกอะไร สามป่ะ ถ้าไม่ใช่ก้โทษทีทถ้าใช่เดะกุแนะแนวทางการคุมให้ แบบมึงต้องหาคนมาเยอะๆละคุมแบบคนละวันเลยอ่ะ ทุกคนจะได้เสียเวลาแค่วันเดียวต่อสัปดาห์
เอาจิงม.6 ไม่ควรทำไรแล้วนะ แบบกุเคยเห็นเด็กม.6ทุ่มกีฬาสีจนไม่ติดไรเลยอะมึง เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากเท สงสารน้อง ก็เอาให้มันถึงขั้นที่พอดูได้พอ
นั่นดิ เพราะมันไม่ใช่แค่งานกลุ่มธรรมดาแต่มันเป็นงานใหญ่(สำหรับม.ปลาย)งานนึงเลยอ่ะ
แต่กีฬาสีร.ร.กุให้ม.6ทำว่ะ แต่ร.ร.กุจัดตอนต้นเทอม1เลย วางแผนตั้งแต่ปิดเทอมม.5ขึ้นม.6
อยากหาเพื่อนต่างชาติมาช่วยฝึกภาษาเพราะภาษากูไม่แข็งหาได้จากไหนวะ เอาแบบเป็นแค่เพื่อนนะไม่เอาหาคู่นัดเย็ด
กุปรึกษาบ้าง กุมีเพื่อนในกลุ่มคนนึงที่กุไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไหร่ เพราะบางทีเวลากุหรือเพื่อนสนิทกุในกลุ่มพูดกับแม่ง แม่งจะชอบทำหูทวนลมแล้วกุต้องพูดซ้ำ และแม่งชอบตอดของแดกชองทุกคนบนโต๊ะ คือแม่งตักทีเป็นช้อนๆอะ ช่วงนั้นมันยังไม่ได้เข้าหอใหม่มัน มันก็ไปเกาะคอนโดเพื่อนสนิทมัน แล้วมันมีวันนึงเพื่อนแม่งบอกไม่ว่างหรืออาจจะเบื่อมัน แม่งขอมานอนหอกุ(กุยุหอคนเดียว) กุก้ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ก็ให้แม่งมานอนคืนนึง ซักพักมันมีวันที่กุไปค้างหอเพื่อนเก่ากู ไอห่านี่ก้ไม่มีที่นอนมาเกาะกูอีก แล้วกุไม่ได้อยู่ที่หอกุ กุต้องนั่งรถเดินทางเอากุญแจไปให้แม่งจากหอเพื่อนกู คือกุยอมเพราะไม่อยากเสียเพื่อนไง อยู่กลุ่มเดียวกัน แม่งพออยู่ห้องกุแล้วเปิดแอร์เล่นเลย เขี่ยเสื้อผ้ากุลงพื้นจากเตียง ดีที่กุไม่มีของกินเหลือในห้องไม่งั้นขนมกุสูญพันธุ์อีก แล้วมีอีกวันแม่งขอมาอยู่ห้องกุอีก กุไม่ไหวละกุเลยบอกไปว่าขอความเป็นส่วนตัวหน่อย มึงว่ามันดูร้ายแรงไปปะ แต่กุเช่าหอคนเดียวเพราะกุต้องการอยู่คนเดียวไง ควยเอ้ย
มาอยู่ กทม 2 ปีแล้ว เหงาชิบหายเลยวะ กลุ่มเพื่อนมีน้อยเจอกันเฉพาะตอนมีงานอีเวนท์ บลาๆ ผู้หญิงอยู่นี้ก็ไม่ได้คุยเลยรู้สึกเหี่ยวเฉามาก
เพื่อนพวก ม.ปลาย ที่พอสนิทก็ไม่มาเรียนนี้กัน เฮ้อออ ชีวิตวัยรุ่นกู
ปล.เสริมเรียนรามด้วยเลยไม่มีเพื่อนเลย ไม่รู้จะเข้าหาใครยังไงดี
ที่ รร มึงเคยมีเพื่อนชอบโดดเรียนกันป่ะ (เรียกเพื่อนก็กระดากปากชิบหาย กูเรียกคนในห้องละกัน) ไม่ได้โดดแค่คาบสองคาบ โดดไม่กี่วัน แต่คือแม่งไม่เรียนเลย ไม่เข้าคาบ แต่มันมาโรงเรียนนะ ไม่ยอมเรียนหนังสือ ไม่ส่งงาน คะแนนไม่สน ไม่โผล่หัวมาเลย พ่อแม่มันก็ไม่สน ครูโทรตามก็วางสายหนี แล้วตอนเย็นกูเห็นมึงเป็นพี่คุมหลีดอยู่ข้างสนามบอล คือไรอีสัส หมั่นไส้ชิบหาย คนแบบนี้เขามีปัญหาอะไรป่ะวะ หรือแค่แม่งไม่เอาไหน คืออาการหนักมากจนครูส่ายหัวระอากันเป็นแถบเลย แม่งมีชีวิตอยู่ได้ด้วยอะไรวะ
>>238 มันอาจจะสนใจเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องเรียนก็ได้ เพื่อนกูมีอยู่คนนึง ไม่ค่อยตั้งใจเรียน โดดประจำ งานไม่ส่ง ติดศูนย์ แต่ภาษาอังกฤษโอเค ขึ้นมหาลัยก็ไปเอาดีทางภาษา กับขายของนู่นนี่ มันก็ดูโอเคกับชีวิตดีนะ ตอนนี้ไปเป็นแอร์แล้ว บางทีการประสบความสำเร็จก็ไม่ได้วัดจากห้องเรียนหรอกมึง ตัวมันอาจจะไม่ได้อยากเรียนอยากเรียนอย่างที่กำลังเรียนอยู่ก็ได้ แต่ระบบมันบังคับให้ต้องเรียนม.ปลายถึงจะดีกว่า จะรู้สึกต่อต้านก็ธรรมดา
กูเจอเพื่อนของเพื่อนมาฝากฝังให้กูติดต่อบ.ที่กูทำงานอยู่รับเข้าทำงาน แล้วกูกับมันไม่เคยคุยกันมาก่อนแต่จู่ๆมันก็ทักมาว่าบ.มีตำแหน่งว่างไหมฝากไปหน่อยสิถามหัวหน้างานหน่อยยังรับคนเพิ่มไหม
กูก็ไม่อยากดำเนินเรื่องให้เพราะมันเหมือนอาศัยกูเข้าไปทำงานด้วย ดูงอมืองอเท้าไม่รู้จักพยายามติดต่อเองก่อนแปลกๆ ตอนกูสมัครกูต้องดำเนินเรื่องเองค้นหาข้อมูลโทรติดต่อเอง ฝึกงานผ่านโปรอีกเป็นเดือนๆกว่าจะได้เข้าไป แล้วบ้านมันดูท่าทางมีฐานะพอตัว(งานมันเป็นฟรีแลนซ์คนรุ่นใหม่ทำกัน ทำงานอยู่กับบ้านเงินเดือนตามมีตามงานงี้ ถ้าครอบครัวรุ่นเก่าๆจะไม่เข้าใจและชอบประชดอยู่บ่อยๆ เกิดวันหนึ่งอยู่ๆมันท้อแท้ใจไม่ทำล่ะจู่ๆออก กูที่เป็นคนแนะนำก็ซวยดิ)
พอกูไม่รับเรื่อง ทั้งเพื่อนของเพื่อนและเพื่อนกูก็ไม่พูดไม่จาไม่คุยอะไรกับกูยกกลุ่มเลย กูเหมือนโดนหาว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวเลยวะ
>>241 เออว่ะ เด็กเตรียมแม่งโดดเรียนกันเป็นเรื่องปกติ พอคะแนนออกอีเหี้ยท้อปประเทศกันรัวๆ แต่คือพวกกูเก่งไง //เชิด //โดนตบ ไม่ กูโกหก เห็นไร้สาระหยั่งงั้นซุ่มกันทั้งนั้นว่ะ มีทั้งพวกเรียกครั้งเดียวรู้เรื่อง ทั้งพวกเรียนพิเศษแทบบ้า ทั้งพวกอ่านเองนอกเวลา แต่พวกนี้มันสังเกตได้ว่ะว่าไร้อนาคตหรือมั่นแล้วชิลได้ ถ้าอาจารย์ส่ายหัวอย่างที่ว่าน่าจะกากจริง
มึง คือกูมีเพื่อนที่มอคนนึงคบกับอจ. แล้วกูแอบไปรู้มา (ผญ.ทั้งคู่)
อจ.เป็นดร.แล้ว ห่างกับเพื่อนกูประมาณ10กว่าปี
แล้วเพื่อนกูคะแนนวิชาที่อจ.คนนั้นสอนคือดีมาก ดีเหี้ยๆ (แต่วิชาอื่นแม่งก็เอหมดเช่นกัน //เหี้ยเอ้ย กูอิจฉา)
กูก็พยามจะไม่คิดว่ามันได้โพยจากอจ.หรือให้อจ.ชวนติวให้นะ แต่บางทีแม่งก็คิดว่ะ แล้วกูก็เลยเข้าหน้ากับมันไม่ค่อยติด
ถ้าเป็นพวกมึงจะทำยังไงกันวะ
>>246 ก็นี่ไงบ้านเค้ารวย เค้าไม่ต้องดิ้นรนเพื่อจะเข้ามหาลัยดีๆเพื่อหาทำงานดีๆ เรียนจบเค้าก็ทำต่อของที่บ้าน (แต่กูก็ค่อนข้างไม่โอคนที่แบบไม่ทำอะไร แล้วก็เข้ามหาลัยที่เข้าง่ายๆอ่ะ ดูไม่พยายาม)
กูอยู่วงการลีดเตรียมนี่แหละ รรอื่นคงไม่มีใครมาคุมน้องในสนามบอลมั้ง 5555
พวกมึงกูจะทำไงกับเพื่อนกูดีฟะ เพื่อนกูเป็นคนความคิดดีมากอะแต่ดันเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อทำอะไรก็ไม่สำเร็จซักอย่าง มันเก่งด้านสร้างสรรค์อะ อย่างเช่นคิดพล็อต คิดโปรเจ็คต์นู่นนี่ แล้วออกแบบหลายๆอย่าง แต่ทำได้แป๊บเดียวก็เลิกแล้วก็ไปทำอย่างอื่น บางครั้งมันเหมือนจะเตรียมพร้อมลงมือทำมากๆแล้วอีกวันก็เลิกไปเลย ถึงจะไม่ใช่เรื่องของกูแต่กูเป็นห่วง+เสียดายความคิดมันอะ
มึงถ้ามีรุ่นน้องอ่อนสัก 2 ปี ขึ้นกูมึง กับมึงจะทำยังไง กูซีเรียสนิดๆเพราะไม่ได้สนิทอะไรกันเลย
ห่างปีเดียวพอว่านะ สำหรับกู
>>253 โอ๊ยมึง กูก็คบกับอาจารย์ 555555
ถ้ามึงเรียนสายๆแพทย์มึงไม่ต้องกลัวเรื่องอาจารย์บอกข้อสอบแฟนหรอก ไม่มีทางเป็นไปได้ ยิ่งเพื่อนมึงเก่งด้วย เพื่อนมึงก็คงมีอีโก้ของตัวเองแหละ อย่างกูถ้ากูสงสัยเรื่องที่แฟนกูสอน ต่อให้กูคอลคุยกับเค้าตลอด กูก็ไปถามในห้องพักอาจารย์แทนนะ กูไม่อยากให้มีปัญหาอะไรทีหลังว่ะ มึงเชื่อกู มึงไม่ต้องไปสงสัยเพื่อนมึงหรอก ถ้ามึงหมั่นไส้เรื่องที่เพื่อนมึงคะแนนดี มึงก็ลองเอาให้คะแนนดีกว่าเค้า มึงจะได้เลิกหมั่นไส้ แล้วเรื่อง ญ คบ ญ เรื่องนี้มึงไม่ต้องไปยุ่งกับเค้าหรอก ยกเว้นมึงจะแอบรักเพื่อนมึงอยู่ 5555
หมั่นเพื่อนตัวเอง
ปากบอกทำไม่ได้ๆ สอบมาเกือบเต็มจ้าาาา
ข้อเขียนล้วนจ้าาาาา จ้าาาาาา
>>262
กูไม่ใช่261นะแต่อยากตอบแทน เพราะกูก็มีเพื่อนแบบนั่นเหมือนกัน กูไม่ได้อิจฉามัน แต่หมั่นไส้เหี้ยๆ ถ้ามึงทำข้อสอบได้มึงก็ไม่ต้องอวดเก่งหรอก ก็ตอบกลางๆสิวะ ก็ดี ทำได้บ้างไม่ได้บ้างอะไรก็ว่าไป นี่แม่งมาคร่ำครวญกับกูว่าทำไม่ได้เลย ตกแน่ๆ ห่าเหวอะไรเป็นชั่วโมงแล้วผลออกเสือกทอปจ้า อีดอก แล้วที่มาเพ้อๆอะไรใส่กูนี่คืออะไร ทำไม่ได้ของแม่งเยอะกว่ากูอีก ทำได้คือเกินคะแนนเต็มเลยรึไง เจอพวกนี้แล้วทำกูเสียสุขภาพจิตว่ะ ตอนนี้หลังสอบคือกูจะไม่คุยเรื่องสอบกับมัน เพราะเรื่องอื่นมันก็ยังเป็นเพื่อนที่พอใช้ได้อะนะ
ของกูเจอเพื่อนห่างๆ บอกว่าตัวเองได้Bแต่จริงได้A คือรหัสกูบังเอิญต่อจากเขาเลยรู้ เวลาเพื่อนเขาถามก็ยิ้มๆแล้วบอกว่าB กูนี่อยากแหกชิบหายแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าไม่ยุ่งดีกว่า
>>265
กู264นะ กูเข้าใจนะว่าการทึ่คนรอบๆมองว่าเก่งแล้วแต่ตัวเองยังไม่พอใจเนี่ยเป็นยังไงเพราะกูก็เป็น แต่กูไม่จำเป็นต้องฟูมฟายให้ชาวโลกมารู้กับกุหรอก กุก็พยายามไปเงียบๆคนเดียว แล้วของแบบนี้คบกันแปบเดียวก็รู้แล้วมันเป็นคนแบบนี้กูก็ไม่คิดจะถามเรื่องสอบหรอก ถ้ากูอยากตรวจคำตอบกูก็ไปถามคนอื่นแหละ แต่มันจะชิงมาฟูมฟายกับกุก่อนเนี่ยดิ จะตัดบทเลยว่าอีดอกกุรำคาญแม่งก็ทำร้ายมิตรภาพอันดีงามไป กุทำได้แค่ฟังแม่งพูดจบแล้วค่อยเปลี่ยนเรื่องเนี่ย มันเคยมีคนมาบ่นแบบนี้ในกระทู้ดังกูก็แกล้งๆเปรยไปแหละว่าคนแบบนี้น่ารำคาญเนอะ แม่งเสือกมาผสมโรงด่ากับกุอีก... ดูท่าเจ้าตัวก็ไม่รู้ตัวเองสินะ...
พวกมึงว่ายังไงบ้างวะ กะเพื่อนที่ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบเรื่องของๆใช้ตัวเอง ชอบอ้างนู่นอ้างนี่ชอบยืมชาวบ้านใช้ไปทั่ว ไม่มีตังซื้อเองอ่ะ ทั้งๆที่มีแต่ไม่ซื้อ แถมเอาแต่ใจชิบ พวกมึงเคยเจอป่ะ
ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจนะ แต่ก้าวข้ามเรื่องอิจฉายิบย่อยพวกนี้ไปให้ได้เถอะ ทางนี้ในกลุ่มมีตั้งแต่ 3.8 ยัน 1.4 มีทั้งพวกหมกเม็ดพวกขี้อวดก็ยังเฮฮากันได้ปกติ ไม่ต้องเฟคด้วย โตไปต้องเจอมากกว่านี้อีกเยอะ
>>270 คือพอเขาบอกแล้วได้Bก็จะแบบดูเฉยๆ งี้ เวลาใครมีชีทสรุปอะไรดีๆ ก็ไปดูดได้ แล้วก็ที่กูเห็นพอเพื่อนถามอะไรก็จะตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน เอาง่ายๆ คือกูไม่ชอบพวกอม และโกหกน่ะเลยอยากแหก ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น เหมือนหาประโยชน์จากคนรอบข้างแต่มีอะไรก็เก็บไว้คนเดียว เท่าที่กูเห็นนะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.