เปิดด้วยเรื่องกูก่อนเลย อันนี้ไม่เชิงเป็นปัญหาสำหรับกูแล้ว แต่กูยังรู้สึกว่าเป็นปมด้อยของกูอยู่ลึกๆ
เรื่องย่อ(สำหรับคนขี้เกียจอ่าน) : แม่กูตาย
เรื่องละเอียด:
เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ชีวิตกูโคตรจะราบรื่น กูถูกชมมาตลอดเลยว่าเป็นเด็กเก่งรอบด้าน มีความเป็นผู้ใหญ่ กล้าตัดสินใจ ทุกครั้งกูก็คิดในใจว่า เป็นเพราะครอบครัวกูอบอุ่นแน่ๆ ทำให้กูมีความมั่นใจและเติบโตแข็งแรงได้ขนาดนี้
ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้กูเกิดมาพร้อมขนาดนี้(ขาดแต่หน้าตากูเนี่ยแหละ พระเจ้าแม่งเอาแต้มที่กูมีไปอัพทุกอย่างยกเว้นหน้าตาสินะ ซัซซซ ฮือๆ ;w; )
ชีวิตดีมาตลอดจนกระทั่ง ป. 4 มึงงง อยู่ๆวันนึงแม่กูก็ไม่สบายเบาๆ แค่เป็นไข้ กูก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะแม่กูเป็นไข้แปบเดียวก็หาย
สักพักอีก 2 วัน แม่กูมีจ้ำแดงๆขึ้นรอบตัวเลย แล้วพอกูคุยกะแม่ แม่กูก็พยายามทำตัวเข้มแข็งตลอด(เนียนจนกูคิดว่าแม่ก็ไม่เป็นไรแล้ว แค่แพ้ยา..ความคิดเด็กมันมองโลกในแง่ดีมากจริงๆมึง)
แล้วอยู่ๆวันนึงตอนกูกลับมาจากโรงเรียน พ่อกูก็บอกว่า แม่เข้าโรงพยาบาล ไปรักษาเรื่องเลือดอะไรสักอย่างไม่รู้
ระหว่างนั้นกูสอบเสร็จพอดี ได้ปิดเทอม พ่อกูก็ส่งกูไปพักที่บ้านญาติต่างจังหวัด กูก็ลัลล้าตามประสาเด็ก
คิดว่าแม่สบายดีแล้วแต่ยังต้องนอนรพ. เพราะหมอสั่ง คิดว่าพ่อคงอยากให้กูได้สนิทกับญาติๆ คิดแต่แง่ดีแหละมึง ไม่เคยเผื่อใจไปทางเลวร้ายเลย
ก่อนกูไปตจว กูก็ไปหาแม่ที่รพ. แม่นอนอยู่แบบพยายามทำตัวปกติมาก พอคุยกับกูก็แบบ..กูรู้สึกขนลุกอะไม่รู้ทำไม รู้สึกถึงความหวังที่แม่ส่งมาให้กู รู้สึกถึงลมหายใจแม่ที่ผิดปกติไป แล้วรู้สึกใจหายด้วย รู้สึกว่าอยากอยู่กับแม่มากกว่านี้ แปลกมาก ทั้งๆที่แม่คุยกับกูปกติโคตรๆ มีหยอกล้อด้วย แต่พ่อบอกกูว่าหมอจะเข้ามาตรวจแม่แล้ว กูเลยยอมถอยออกไป ในตอนนั้นกูคิดจะกราบแม่(ตั้งแต่เด็กกูไม่เคยกราบแม่เลย...เป็นความผิดพลาดของกูที่ทำให้กูไม่มีโอกาสได้กราบแม่แล้ว) ใครจะไปรู้ มึง...นั่นแหละครั้งสุดท้ายที่กูได้ยินเสียงแม่เลย ( ; - ; )
หลังจากกูไปตจว. ก็มีม้าเร็วมาส่งข่าวกูกับญาติๆ ว่าแม่กูเสียแล้ว... ความรู้สึกกูคือไม่เชื่อจนกว่าจะได้เห็นหน้าแม่ อยากกลับไปหาแม่จัง อยากกินไก่ทอด แกงจืดฝีมือแม่
พวกผู้ใหญ่เห็นกูไม่ร้องไห้ ทำตัวปกติ ก็ชมกันว่า กูนี่มีความเป็นผู้ใหญ่มากจริงๆ หารู้ไม่ว่า ที่กูทำตัวปกติเพราะกูไม่เชื่อว่าแม่กูเสีย(ยังมองโลกแง่ดีโคตรๆอยู่ อยากตบตัวเอง ทำไมกูไม่เอะใจบ้าง?)
พอไปถึงงานศพแม่กูเท่านั้นแหละ กูใจไม่ดีแล้ว แล้วพอถึงเวลาที่ต้องไปเปิดหน้าศพให้ทุกคนเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเผา
กูเห็นหน้าแม่ปุ๊บกูร้องไห้แบบไม่คิดชีวิตเลย กูจำได้ว่าญาติผู้ใหญ่หลายคนเข้ามาปลอบกู
แต่ในวินาทีนั้นคือกูสับสนมากๆ ในใจคิดแต่ว่า ต่อไปนี้กูจะไม่มีโอกาสได้กินข้าวพร้อมแม่แล้วเหรอ? ต่อไปนี้ใครจะสอนกูเย็บผ้า? ใครจะสอนภาษาอังกฤษให้กู? ใครจะมาคอยดูแลกูตอนกูไม่สบาย? ถ้าพ่อกูโกรธพี่แล้วใครจะมาห้าม? แล้วแม่ไปไหน? กูไปกับแม่ด้วยได้เปล่า? แล้วชีวิตกูจะเป็นยังไงต่อไป จากที่หวังไว้ว่ากูจะโตมาเลี้ยงพ่อแม่ สร้างบ้านให้พ่อแม่อยู่สบายๆ สวีทกันสองคน ไม่ต้องลำบากขายของเหมือนทุกวันนี้ กูนี่เคว้งเลย ภาพที่วางไว้ ภาพครอบครัวที่อบอุ่นแม่งพังทลายหมดเลย กูก็คิดในแง่ร้ายเลยมึง ว่าต่อไปพ่อก็ต้องมีคนใหม่ กูจะเจอแม่เลี้ยงใจร้ายมั้ย กูจะโดนพ่อทิ้งมั้ย หรือจริงๆแล้วกูไม่ใช่ลูกของพ่อแม่ตั้งแต่แรก? พอเหอะ เอาเป็นว่าตอนนั้น(ปิดเทอม ป.4)นิสัยกูเปลี่ยนเลยมึง เปลี่ยนจากคนที่กล้าแสดงออก เป็นคนที่ชอบคิดอะไรคนเดียวเงียบๆ กูไม่คาดหวังอะไรในชีวิตอีกเลย ไม่ค่อยยิ้ม คราวนี้กูเป็นผู้ใหญ่ของจริงเลยมึง
กูคิดทุกอย่างว่าทำอะไรแล้วผลกระทบมันมีอะไรบ้าง กูคิดละเอียดเผื่อเหลือเผื่อขาดเรื่องอนาคต คิดถึงขั้นที่ว่า ถ้าพ่อกูเกิดเสียชีวิตขึ้นมาแล้วกูต้องอยู่คนเดียว กูจะมีทางหนีทีไล่ยังไง กูจะทำไงให้ได้เรียนต่อโดยไม่ต้องเก็บขวดขายหรือเป็นขอทาน
ตอนนี้กูยังคงมองโลกในแง่ดี แต่ก็กูไม่ลืมที่จะเตรียมตัวเผื่อเหตุการณ์ที่เลวร้ายเกิดขึ้นมา กูจะได้ปรับตัวทัน ไม่เจ็บปวดเหมือนแบบนี้
โอเค เรื่องพีคๆตอนเด็กก็เท่านี้แหละมึง ต่อไปเรื่องปัจจุบันของกู
ภาค 2 : พ่อ-กู-มี-กิ๊ก
ต่อโพสหน้าละกัน กลัวยาวเกิน
ปล.ถ้าใครอ่านแล้วไม่ชอบกูก็ขอโทษด้วย แต่กูเชื่อว่าคนที่เคยเป็นเหมือนกูจะเข้าใจ เผลอๆแม่งเล่าได้ยาวกว่ากูยี่สิบเท่า นี่กูสรุปแล้วจริงๆนะ ;-;