"ผมไม่รู้สึกว่าการอธิบายเรื่องอารมณ์ต่างๆ ด้วยวิทยาศาสตร์ว่ามันเป็นผลจากเคมีนั่นนี่จะทำให้ความละเอียดอ่อนและลึกซึ้งของอารมณ์มันถูกลดทอนที่ตรงไหน มันดูยิ่งลึกลับซับซ้อนกว่าการพูดอะไรอย่าง "เรื่องของใจ" เสียด้วยซ้ำ และในทางกลับกัน ไอ้การสรุปรวมแค่ว่าเรื่องของใจ อธิบายไม่ได้ แม่งยิ่งดูชุ่ยและตื้นเขินอย่างร้ายกาจ อย่างน้อยคือโลกนี้มีกูเกิลน่ะ ไม่ได้มีแต่ดราม่า อาจอธิบายไม่ได้ทั้งหมด หลายอย่างยังไม่สิ้นสุด แต่กระบวนการหาคำตอบมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ขนาดทำไมผิดหวังในรักแล้วเจ็บแปลบแถวหน้าอกมันก็ยังมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ แต่เราก็ยังชอบทำให้เรื่องอารมณ์ความรู้สึกมันลึกลับอย่างคนถ้ำผู้เคารพฟ้าบูชาไฟ ทั้งที่จริงๆ สามารถเข้าถึงที่มาที่ไปของมันได้อย่างมีเหตุมีผล
มันไม่ต่างอะไรกับแดกน้ำท่อส้วมแตกเพราะเข้าใจว่าเป็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์หรือกราบไว้ลูกหมูสองหัวลูกวัวแปดขาเลย ข่าวพวกนี้ยังขายได้ก็ด้วยความโรแมนติกระดับเดียวกับวรรณกรรมที่เชิดชูความสั่นสะเทือนจิตใจอันไร้ที่มานั่นแหละ
เรื่องนั้นเรื่องนี้ล่ะเห็นอยากจุดแสงสว่างทางภูมิปัญญากันจัง ทำไมไอ้เรื่องของใจถึงได้ชอบเก็บงำไว้เพื่อใช้บอกว่าโรแมนติกวะ ทั้งที่จริงๆ พอที่มาที่ไปมันเจิดจรัสแล้วก็ไม่ได้โรแมนติกน้อยลงด้วยซ้ำ เพราะต่อให้มันเป็นเพราะเคมี แต่ก็มีตัวกระตุ้นจากไอ้เรื่องรอบตัวที่ทำให้เคมีมันทำงานอยู่ดีนั่นแหละ นี่แม่งยิ่งน่าตื่นตะลึงสัสๆ มันก็ยังน่าสงสัยว่าเกิดขึ้นได้ยังไงพอๆ กับเวลามึงสงสัยว่าทำไมเค้าไม่เอามึงเลย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง