Fanboi Channel

โม่งในต่างประเทศ

Last posted

Total of 21 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:v+redfFQ7t

อยากสร้างมู้นี้มาปรึกษาแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ ไม่ว่าจะมาทํางาน มาเรียน อยู่แม่งถาวร ลี้ภัยทางการเมือง (ส่วนมาแบบผีน้อยมึงไม่ต้องมาคุยไปไกลๆไอ้เวร) รวมถึงเรื่องการย้ายสัญชาติประเทศ เรื่องculture shock อาหารการกิน อยู่ยังไงให้รอด เรื่องการเงินแลกเงินยังไงอะไร จีบผู้บ่าวผู้สาวต่างชาติ
ลาก่อนประเทศเทยกูเบื่อเมิง

2 Nameless Fanboi Posted ID:v+redfFQ7t

คิดว่าไม่เคยมีมู้แบบนี่มาก่อนนะ แต่เห็นโม่งเมืองนอกเยอะ โดยเฉพาะโม่งยุ่น และใช่เดี๋ยวมีไอเอ๋อมาหาว่าโม่งเล่นในต่างประเทศไม่ได้มากวนตรีนอีกแน่นอล

3 Nameless Fanboi Posted ID6:Z9sOLyQlb4

กูเปิดประเด็นเลยละกัน บ่น+ปนสับสนตัวเองว่ากูใช้ชีวิตถูกต้องรึไม่ คือมึงคิดว่ากูจะอยู่ได้มั้ยวะ ถ้าไม่คบกับคนไทยในประเทศที่กูไปอยู่เลย มันมีคอมมูนิตี้คนไทยแหละ แต่กลุ่มคนไทยที่นี่ส่วนใหญ่ๆเลยเป็นนักศึกษาซัก90% 10%คือนักธุรกิจ/คนงาน ด้วยความที่เป็นนศ.มันเลยมีดราม่าเด็กๆเยอะ กูเลยตีห่างแบบตัดขาดไปเลยแล้วคบแต่คนต่างชาติเอาอย่างเดียว
มันไม่มีปัญหาอะไรหรอกเอาจริงๆ แต่แค่ถ้าเกิดกูมีเรื่องฉุกเฉินขึ้นมาอาจจะลำบากหน่อย แต่กูทาบทามเพื่อนต่างชาติให้ติดต่อสถานทูตไทยไว้ละถ้ามีไรเกิดขึ้นกับกู
และเท่าที่กูอยู่มามันแทบจะไม่ต้องพึ่งพาคนชาติเดียวกันเองเลยหว่ะ สรุปไม่เข้าตี้กรุ๊ปคนชาติเดียวกันนี่ผิดส์มั้ยวะ หรือก็ปกติ เพราะกูเห็นพวกเพื่อนEnglish speaking countries มันก็มาอยู่ต่างชาติกันแบบสันโดษได้ มีแต่พวกเอเชียน/ลาตินเมกา ที่แบบเกาะกลุ่มกันเหนียว

4 Nameless Fanboi Posted ID6:6Taiy5Py6z

>>3 ไม่ผิด

5 Nameless Fanboi Posted ID:W3UMzsGZ/4

ตอนนี้กุมาอยู่ออสด้วยวีซ่า wah ยาวๆ สามปี อยู่มาได้ครึ่งทางโดยทั่วไปยังไม่เคยเจอปัญหาอะไรซักอย่างเลยว่ะ จะคัลเจ้อช้อค โฮมซิก หรือเหยียดก็ตาม กุเป็นคนง่ายๆ ด้วยแหละ อาจจะมีคิดถึงอาหารไทยนิดหน่อยแต่ปกติทำกินเมนูง่ายๆ เองอยู่แล้วเลยไม่ได้โหยมาก นานๆ ก็เข้าร้านอาหารที ส่วนความเหงา กุไม่ติดเพื่อนมาตั้งแต่แรก มีเพื่อนตายคนสองคนที่ไทยที่คุยกันได้ทุกเรื่องอาทิตละครั้งรึนานๆ แล้วแต่ตอนมีเรื่องเม้ากุพอใจละ อยุ่นี่ย้ายเมืองใหม่ทีก็หาเพื่อนใหม่ที (กุอยากวนให้ครบรอบทั่วออสในสามปีนี้น่ะเลยอยู่ที่ละสามสี่เดือนก็ย้าย กุไม่มีรถก็ลากกระเป๋าขึ้นเครื่องขึ้นบัสตะลอนไปทั่วเอาน่ะแหละ) ทั้งเพื่อนไทยและต่างชาติส่วนใหญ่คบผิวเผินไว้ชวนไปนั่นมานี่บาบีคิวเวลาว่างตรงกัน เพื่อนคนไทยคนอื่นๆ พอเก็บชม.ตามกฎวีซ่าครบก็มักย้ายเข้าเมลเบิร์นกันแต่กุไม่สนใจชีวิตเมืองเลยแยกย้ายชิวๆ ปีครึ่งที่ผ่านมานี้เปิดโลกกุเยอะมาก จากมนุดออฟฟิศที่ตอนเรียนก็เนิร์ดไปเรียนอย่างเดียว พอทำงานก็ทำงานแล้วกลับห้อง ไม่เคยออกไปเที่ยวไปใช้ชีวิต เพราะงด.ไม่ได้เยอะด้วยแหละสามหมื่นปลายๆ จะเที่ยวในไทยทีก็ต้องนอนรร.อะไรงี้เลยรส.ว่าเสียดายตังค์ ไม่กล้าใช้ แต่พอมาอยู่ที่นี่ของแพงจริง แต่ค่าแรงมันก็สูง กุทำงานจับกังอย่างงงานรร. ร้านอาหาร ร้านกาแฟงี้ เวลาจับจ่ายอะไรคนงกอย่างกุจะรส.ว่า เฮ้ย ทำงานครึ่งชม.ก็ซื้อได้แล้วนี่หว่า ยกตย. ไอโฟนสิบหกราคา $1600 ทำงานไม่ถึงสิบวันซื้อได้ละ ถ้าอยากได้จริงๆ ซื้อไปเหอะ (แต่กุยังทำใจซื้อไม่ลงอยุ่ดี เพราะเครื่องเก่ายังใช้ได้555) กุเลยแฮปปี้กับชีวิตที่นี่มากกกกเพราะพอค่าแรงมันสมดุลแล้วมันกล้าแบ่งเงินไปใช้ชีวิต ไปลองเปิดหูเปิดตาทำอย่างอื่นจริงๆ ข้อเสียคืองานใช้แรงงานบริการมันเหนื่อยกว่างานใช้สมองแหละ แต่งานออฟฟิศกุไม่ได้รักหรือมีแพชชันอยุ่แล้วก็เลยคิดว่าในเมื่อจะใช้แรงหรือใช้สมองก็ไม่ได้ชอบทั้งนั้น ก็ทำอะไรที่มันได้เงินดีแล้วได้ใช้ชีวิตด้วยแล้วกัน ปัญหาเดียวของกุคือพอได้ลิ้มลองการท่องเที่ยวแล้วชักติดใจจากที่คิดว่ามาเก็บเงิน 80% เที่ยว 20% ตอนนี้เริ่มคิดว่าเก็บ 40% เที่ยว 60% ดีมั้ยน้า เพราะพอรุ้จกัคนเยอะเข้า เห็นเพื่อนฝ.ก็คือทำงานกันเดือน-สามเดือนลาออกไปซื้อรถ โร้ดทริปยาวๆ เงินใกล้หมดก็หางานใหม่ทำวนลูปงี้ไปเพราะเค้าไม่ไเ้ตั้งใจมาเก็บเงินตั้งแต่แรก มาเอาปสก.มาเที่ยวล้วนๆ ถามถึงอนาคตมันก็บอกไม่ได้คิด ตอนนี้ทำอะไรที่อยากทำ แต่คนพวกนี้คือบ้านมันค่าแรงก็สูสีกับออสอยุ่แล้ว พาสปอตก็ไปได้ทุกที่ การศึกษาดีพูดได้สามสี่ภาษาไอ้คนประเทศโลกที่สามอย่างกุเลยได้แต่มองตาปริบๆ ด้วยความอิจฉาเพราะกุยังไงก็คิดว่าไม่ได้ทำงานออฟฟิศสามปีอย่างน้อยต้องมีเงินกลับไปเท่ากับที่น่าจะเก็บได้ตอนทำงานบ. เลยมีห่วงเรื่องนี้อยุ่ เร่ร่อนไปกับเขาไม่ได้ อีกอย่างพ่อแม่กุห่วงจัดเลยว่ะ เขาอยากให้รับราชการกุก็ไม่เอาทีนึงแล้ว ทีนี้หนีมาเป็นจับกังที่ออสขอเวลาสามปีก็ยังโดนพูดบ่อยๆ ว่ากลับได้แล้ว มาทำงานบ. มาแต่งงานมีลูก หรือถ้าอยากอยุ่เมืองนอกก็เรียนต่อ ทำอะไรที่มันดีกับอนาคตเถอะอย่ามัวไปล้างส้วมเสิร์ฟอาหาร กุเข้าใจว่าลูกคนเดียวเค้าก็ห่วงแต่ก็นะ แล้วมันก็เมกเซ้นส์ แต่การไต่บันไดในบริษัทไม่ใช่สิ่งที่กุชอบนี่นา แล้วกุก็ไม่ได้อยากเรียนป.โทวิชาอะไรก็ได้แค่เพราะให้มีหน้ามีตาหรือได้ชื่อว่าจบนอกด้วย ถ้าจะเรียนกุอยากเรียนอะไรที่สนใจจริงๆ ปล่อยให้กุค่อยๆ คิดค่อยๆ ค้นหาไม่ได้เหรอว้า ระหว่างนี้กุก็ทำงานเก็บเงินดูแลตัวเอไม่ได้เหลวไหล คิดว่ากลับไทยไปพอมีเงินตั้งต้นทำอะไรเล็กๆ มีความสุขง่ายๆ ได้ก็เป็นชีวิตที่ไม่เลว ทำไมพ่อแม่กุยึดติดกับชีวิตแบบแผนที่ต้องทำงาน บ เป็นหัวหน้า แต่งงานมีลูกหลานสืบทอดวงตระกูลขนาดนั้น เพื่อนโม่งคิดว่ากุดื้อหรือเปล่า กุอยากได้ความเห็นในหลายๆมุม

6 Nameless Fanboi Posted ID6:nhrEmr++/+

>>5 ดื้อสิ แต่ถ้าดื้อแล้วดูแลตัวเองได้ก็ดีละ คนเรามันต้องมีความดื้อรั้นกันบ้าง

7 Nameless Fanboi Posted ID:ZyjBnD9IBX

>>5 เมิงต่างด้าวเถื่อนหรอ ค่าใช้จ่าย วางประกัน
อะไรยัง และคิดยังว่าถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา จะมีปัญญาจ่ายบิล แล้วอยู่อย่างอดยาก มันดีหรอวะ
วิตามิน อาหารเสริม กินครบ5หมู่ไหม

พ่อแม่ อยากให้เมิงทำงานมั่นคงไง
ถ้าเมิงเป็นลูกหลายคนก็มีข้ออ้างหน่อย
แต่เมิงลูกคนเดียวไง เนี่ยละปัญหา ที่เมิงต้องรีบออกลูกไม่งั้น ตระกูลเมิงจะสิ้นสุดแค่เมิง
คนเราต้องยอมเสียสละความสุขเพื่อครอบครัว
ฝากไว้ให้คิด ไม่ได้เกี่ยวกับดื้อไม่ดื้อ
แต่มันคือความรับผิดชอบ

8 Nameless Fanboi Posted ID6:W4hc7.S/Dg

แต่ถ้ามีลูกถือว่าไม่รับผิดชอบต่อโลก เพราะมนุษย์ควรจะต้องสูญพันธุ์ในอีกไม่เกิน 400 ปี
พวกมึงควรเลิกมีลูกได้แล้ว ไม่มีใครหยุดยั้งความล่มสลายได้หรอก
ทรัพยากรที่มีอยู่ไม่ควรจะต้องมีคนมาแย่งทำให้สิ้นเปลืองอีกต่อไป
ตระกูล ชาติ ศาสนา สถาบันทั้งหมด รวมทั้งครอบครัวเป็นแค่สมมติทางโลกใดใดล้วนเป็นอนิจจัง
มนุษย์ควรแสวงหาการหลุดพ้นจากจิตควรที่สามารถสร้างคุณค่าและความหมายของตนเองได้
โดยไม่ถูกจำกัดด้วยศีลธรรมและบรรทัดฐานของสังคม

มากกว่าการยอมทำตามวงตระกูลหรืออุดมการณ์ใดๆ

ดังนั้นในโลกแห่งความไร้สาระนี้ เราควรละทิ้งพันธุ์และทุกสิ่งที่ผูกพันกับความเป็นอยู่
เพียงแค่ปล่อยให้โลกหมุนไปตามกระแสของการดำรงอยู่ที่ไม่มีจุดหมาย
เราควรเป็นเพียงเงาที่แสดงให้เห็นถึงความบ้าคลั่งของมนุษย์
แค่เพียงพยายามอยู่ให้ผ่านวันไปโดยไม่ต้องสร้างอนาคตที่มืดมิด
เพราะในที่สุด ทุกอย่างก็จะกลายเป็นแค่ภาพลวงตาในจักรวาลอันว่างเปล่า

9 Nameless Fanboi Posted ID6:r/u3DneyVa

>>8 การไม่มีตัวตน มันน่ากลัว

10 Nameless Fanboi Posted ID6:NEfuP4jPJY

>>9 สุดท้ายทุกสิ่งล้วนไร้ตัวตน
ไม่มีใครหลีกหนีได้
วันหนึ่งก็จะไม่มีคนจำมึง ตระกูลมึง ชาติมึง ได้อยู่ดี
มนุษย์เป็นแค่ฝุ่นผงในจักรวาล

11 Nameless Fanboi Posted ID6:iTXBUQViUu

https://imgur.com/u3CG6c7

12 Nameless Fanboi Posted ID6:B0Rk4Q8dQO

>>5 มึงมีโอกาสแล้ว ก็ทําเลยในสิ่งที่มึงอยากทํา ชีวิตนี้เป็นของมึงเอง

13 Nameless Fanboi Posted ID6:B0Rk4Q8dQO

กูก็ไม่อยากกลับไปไทยเหมือนกัน กูอยู่ประเทศโลกที่2 ซึ่งพวกนี้แม้มันจะมีความเป็นยุโรปอียูอะไรแต่แผลเก่าจากสมัยสวครามเย็นที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองคอมมี่บล็อคก็ทําให้รายได้ค่าแรงตํ่ามาก กูอยากอยู่นะ เพราะกูติดวัฒนธรรมยุโรปไปแล้ว ทุกครั้วที่กูกลับไทยไปกูก็ซึมเศร้า กูเป็นreverse culture shock กูไม่ได้ตามข่าว/สื่อ/โซเชียลไทยอะไรเลยเพราะกูไม่รู้สึกเข้ากับมันได้ แต่ถ้ากูอยู่ต่อไป ก็ไม่รู้ว่ามันจะคุ้มอ่ะเปล่าเนี่ยอะสิ ตอนนี้กูมาอยู่ในฐานะนักเรียน มันก็ชิวแหละ ค่าคุ้มครองแม่งถูกชิบหายเปรียบเทียบไปเรียนกับประเทศโลกที่1 ระบบสังคมนิยมที่เคยวางรากฐายประเทศมันยังใช้กันถึงทุกวันนี้ทําให้ค่าเรียนฟรี ค่าหอถูก ค่าเดินทางระบบสาธรณะถูกเหี้ยๆ ค่าอาหารการกินก็พอกับอยู่กทม. ไม่ได้แพงเว้อร์วัง

แต่ที่นี้ถ้าจะอยู่ระยะยาวก็แอบโหวง เพราะมันจะมีแค่ตัวกูคนเดียวที่ต้องจัดการดําเนินการชีวิตและการงาน ก็ไม่มีแฟนอ่ะนะ แซด และทีาบ้านดูก็คงซัพพอร์ตอะไรไม่ได้ 😞 แม่งกูรู้สึกเหมือนมีทางไปแต่ก็ไม่ใช่ทางที่ใช่ กูไม่รู้ว่าอนาคตมันจะอํานวยให้กูขนาดไหน ความฝัน สิ่งที่อยากทํา จะได้ทํามั้ย มืดมนชิบหาน

แม่งไมกูไม่เกิดที่นี่ตั้งแต่แรกวะ เหี้ย กูรักยุโรป

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.