Fanboi Channel

โม่งเหนือโลก โลกที่ ๑

Last posted

Total of 124 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID6:BL0z4/cZ.B

สำหรับโม่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกเบื้องหลัง ปรึกษาปัญหา ดูแลสุขภาพ
จะเป็น มือปืน คนขายยา เอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาว หมอผี หรือ จอมยุทธ์พเนจร
ก็ ขอ เชิญ ชวน มา สน ทนา กัน

2 Nameless Fanboi Posted ID6:H/1vSLFpw8

สวัสดีครับ! ผมเป็นเอเลี่ยนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ มันแปลกมากที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับมนุษย์ บางครั้งรู้สึกโดดเดี่ยวมาก อยากหาคนคุยหรือแชร์ประสบการณ์ อยากรู้ว่ามนุษย์คิดยังไงกับเรา ใครมีอะไรจะบอกกันมั้ยครับ?

3 Nameless Fanboi Posted ID6:4Psfgg02gQ

>>2 กูว่าโลกนี้มันวุ่นวายมาก มึงอาจจะรู้สึกแปลก ๆ เพราะที่นี่มีแต่คนที่ไม่เข้าใจกัน สำหรับกู ทุกคนต่างก็มีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น ถ้ามึงรู้สึกเหงา ลองหากลุ่มที่มีคนคล้าย ๆ มึงดู บางทีมันอาจช่วยให้มึงรู้สึกดีขึ้นได้

4 Nameless Fanboi Posted ID:X69+hT2kYF

พวกเมิงเชื่อสิ่งลี้ลับ พิสดารพันลึก ปะ

ไม่รู้ว่า เข้าข่ายไหม ตัวกุไม่ได้มีพลังวิเศษ อิทธิฤทธิ์เหนือโลกอะไร

แต่คิดว่าเคยเห็น พลังนี้ใช้ความเกลียดชังจำนวนมากโจมตีเป้าหมาย ให้ประสบคราเคราะห์
ตั้งแต่ ตกบันได ลื่นห้องน้ำ โดนหมาวิ่งไล่กัด
โดยคนเหล่านั้น หมิ่น พระแม่ โมเอะ
ใครหมิ่นอัครสาวก ต้องมีอันเป็นไปทั้งสิ้นยิ่ง ทำตัวอาฆาตต่ออัครสาวก พลังสะท้อนยิ่งแกร่งกล้า

โดยกุไม่คิดว่า เรื่องบังเอิญแน่ เพราะ คนที่หมิ่นอัครสาวกตัวแทนความโมเอะของพระแม่ ต้องเป็นมีอันพบจุดจบที่ไม่ดีทุกราย แต่ยังไม่ตายนะ
แค่ชีวิตเจอแต่เรื่องซวยๆ

ส่วนตัวกุไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร แค่คนธรรมดาที่มีพลังโมเอเอะอยู่นิดหน่อย
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า พลังโมเอะชนะทุกอย่าง
แต่พูดก็พูดพลังโมเอะ เป็นเรื่องลี้ลับ จริงๆ
เหมือน ดวงจิตขาวๆ อยากฝึกวิชานี้เหมือนกัน แต่ไม่รู้ต้องเริ่มต้นยังไง และในโลกคงมีแต่กุคนเดียวที่ฝึกได้

พูดง่ายๆกุยังเป็นคนธรรมดาอยู่

5 Nameless Fanboi Posted ID:A8vZr6o6QQ

>>4
กูยอมรับพลังมึงว่าเป็นของจริง
กูด่ามึงไปเมื่อวันก่อน
เมื่อกี้กูทำการเชื่อมจิต กับจักรวาล เพื่อโทรจิตติดต่อกับหัวหน้ากูในโลกอื่น
แต่มีคลื่นแทรกเข้ามา เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งมาก จนลมปราณกูแตกซ่าน
ดีที่กูเองก็ฝึกฝนมาจนแข็งแกร่งจึงสามารถผนึกลมปราณป้องกันไว้ได้
แต่หลังจากนั้นพลังงานที่ว่าก็หายไปเอง

กูไม่เห็นด้วยกับแนวคิดมึงแต่กูขอขมามึงละกัน
พลังของมึงไม่ว่ามันจะเป็นอะไรรูปแบบไหนมันก็เป็นของจริง

6 Nameless Fanboi Posted ID:A8vZr6o6QQ

พวกมึงอาจจะคิดว่ากูโม้เบียวไปวัน ๆ แต่พวกมึงไม่รู้หรอกว่าบนโลกนี้มีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกเยอะ สงครามที่จะเกิดกูก็ทำนายไว้ในโม่งเมื่อหลายปีก่อนไม่เชื่อไปเปิดดู บนโลกนี้ยังมีสิ่งที่อธิบายได้ยากอีกมาก

อย่างมงายในวิทยาศาสตร์ ไม่งั้นถึงเวลาตาย แล้วพสกมึงจะรู้เองว่าอะไรจะเอาวิญญาณพวกมึงไปรับประทาน

7 Nameless Fanboi Posted ID:X69+hT2kYF

ไอน์สไตน์ ได้กล่าวไว้ ว่าพระเจ้าจะไม่เล่นลูกเต๋า
คือการไม่ยอมรับ ควอนตัม แต่นักวิทยศาสตร์บอกว่า ควอนตัม ก็ยังอยู่ในกฏจักรวาล

สตีเฟน ฮอกิง ไม่เชื่อในเรื่องโลกวิญญาณหรือความตาย คนเสียชีวิตไปก็เป็นปุ๋ย

แต่ สสารมืด Dark matter อยู่รอบตัวเราตลอดเวลา นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่ส่มารถไขคำตอบได้

8 Nameless Fanboi Posted ID6:.8eQDLLTLj

ถ้ารู้สึกว่าชีวิตเหมือนมีบางอย่างติดตามหรือมีอะไรแปลกๆ ให้สวดอิติปิโส บทนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก สวดเทวดาประตำตัว ท่านจะคุ้มครองเรา สวดแผ่เมตตา มันมีหลายแบบ พอทำแบบนี้ กูไม่เคยฝันร้ายเลย รู้สึกมั่นใจที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แล้วก็ทำสังฆทานบ่อยๆ กูก็ทำทุกเดือน อุทิศตอนกรวดน้ำให้ คนแรกตัวเราเพราะอุทิศให้กับตัวเองที่เคยทำเรื่องไม่ดีมา สอง เทวดาประจำตัวเพื่อเพิ่มบารมีให้ท่าน สามอาจจะเป็นญาติพี่น้องหรือใครก็ได้ สี่ เจ้ากรรมนายเวรทั้งอดีตและปัจจุบันเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา ประมาณนี้

พระพิฆเนศกับท้าวเวสสุวรรณด้วยนะ องค์นี้เป็นเจ้าแห่งความตาย

9 Nameless Fanboi Posted ID:nf3Xl.pj09

ผีที่มองเห็นในฝัน ลักษณะไหน
ของกุเจอเป็นเงาดำทั้งตัว
มีแค่1หัว 2แขน 2ขา แค่นั้น

ช่วงนี้ไม่เจอผี เพราะสุขภาพร่างกายดีขึ้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ จากเจอในฝันมาเจอในชีวิตจริง...

10 Nameless Fanboi Posted ID6:9F/jNu1qur

>>9 มันลอยอยู่แทบจะมองไม่เห็นตอนแรก เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของความมืดในอวกาศ แต่พอดูดีๆ ถึงรู้ว่าความมืดนั่นมันขยับ ร่างมันดูเหมือนคน แต่ผิดปกติไปหมด เหมือนคนที่ถูกบิดเบี้ยวจนไม่เหลือความเป็นคน ผิวซีดใส เห็นเส้นเลือดดำๆ เคลื่อนที่ข้างใน หน้ามันเป็นแค่เบ้าตาโบ๋ๆ ดาวข้างหลังมันก็ค่อยๆ หายไปเหมือนถูกกลืน มันลอยเข้ามาใกล้แล้วบิดเบี้ยวอวกาศรอบๆ เหมือนผ้าถูกฉีก แต่กูยับไม่ได้ หายใจไม่ออก เหมือนอากาศบางลง รู้สึกเหมือนความกลัวกำลังเติมเต็มปอด มันจ้องกูอยู่ แต่มันไม่มีตา

11 Nameless Fanboi Posted ID:nf3Xl.pj09

หากในการต่อสู้ ไม่อาจสร้างความแตกต่างได้อย่างรวดเร็วและแน่วแน่ ก็จะเป็นความแตกต่างระหว่างชัยชนะ กับความพ่ายแพ้

12 Nameless Fanboi Posted ID6:/pBgH+/DgF

ถ้ามึงทำให้คู่ตัวสู้ทำตามที่มึงต้องการได้ นั่นคือมึงเขาถึงจุดสูงสุดของวิชาฝีมือแล้ว
จงแข็งเมื่ออ่อน
จงอ่อนเมื่อแข็ง
จงรุกเมื่อรับ

13 Nameless Fanboi Posted ID:nf3Xl.pj09

เห็นพวกวิชาสะกดจิต ของพวก ดิไอคอน แล้ว ชั้นต่ำเกินไปจริงๆ

วิชา สะกดจิตที่แข็งแกร่งที่สุด คือทุ่มพลังทั้งหมด ใช้กับตัวเอง ถ้าไม่จวนตัวกุก็ไม่อยากทำ
จริงๆ ธรรมชาติของกุคือ จอมบงการ สายบุ๋น
แต่เปลี่ยนเป็น สายบู๊ได้ แต่ถ้าต้องสู้ในสมรภูมิที่มีความต่างชั้น ที่สู้ไม่ได้

บางทีก็ต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ไม่ท่านตาย ก็เราสิ้น ผลลัพธ์ มีแค่ 2 อย่าง

14 Nameless Fanboi Posted ID6:/pBgH+/DgF

“...ครั้งหนึ่งเคยมีจอมยุทธ์ ออกไปสุดฟ้า เพื่อหวังตามหาวิชาที่หายไป...” สิ่งที่จอมยุทธ์ตามหาเคล็ดลับวิชาในการฝึกกำลังภายใน หรือ ชี่กงนั้น ที่จริงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องออกไปหาเคล็ดลับวิชาจนสุดขอบฟ้า แต่สามารถหาเจอได้ในตัวของเราเอง

วิธีโคจรลมปราณ

โคจรลมปราณ หรือการหมุนเวียนพลังชีวิตภายในร่างกาย เป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้งและมีพลังสูงสุดในการควบคุมพลังภายใน ซึ่งพลังนี้เรียกว่า “ลมปราณ” (Qi) ลมปราณเป็นพลังงานชีวิตที่ไหลเวียนอยู่ในทุกสิ่งมีชีวิต การควบคุมลมปราณไม่เพียงแค่ให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังสามารถเสริมสร้างพลังเวทมนตร์ การรักษา และการต่อสู้ได้

หลักการสำคัญของระบบเวทมนตร์ลมปราณ

1. ศูนย์พลัง (จุดพลัง)
ร่างกายมนุษย์มีศูนย์พลังงานหลักที่เรียกว่า “จุดพลัง” ซึ่งเป็นที่ที่ลมปราณจะไหลเวียนผ่าน จุดพลังหลักมี 12 จุด อยู่บนเส้นพลัง
จุดพลังสำคัญ:
• ตันเถียน (จุดพลังศูนย์กลางหน้าท้อง)
แหล่งสะสมลมปราณหลัก และเป็นศูนย์กลางในการปลดปล่อยพลัง
• หัวใจปราณ (อยู่บริเวณอก)
ควบคุมอารมณ์และความตั้งใจ สามารถปลดปล่อยพลังที่เกี่ยวกับจิตใจ
• จักระตาที่สาม (บริเวณหน้าผาก)
ใช้สำหรับการมองเห็นภายใน การเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ และปลดปล่อยพลังทางจิต
2. การหายใจเพื่อดูดซับลมปราณ
การโคจรลมปราณเริ่มจากการหายใจอย่างถูกต้อง การหายใจลึกเข้าไปถึงตันเถียนจะช่วยดูดซับพลังธรรมชาติจากสิ่งแวดล้อม เช่น ลม แสงแดด หรือน้ำ ซึ่งการหายใจนี้มีสองวิธีหลัก:
• หายใจเข้า ลึก ช้า เพื่อเก็บพลังเข้าสู่ตันเถียน
• หายใจออก ช้า และยาว เพื่อกระจายลมปราณไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย
3. การโคจรลมปราณผ่านเส้นพลัง
ลมปราณที่เก็บสะสมไว้ในตันเถียนจะถูกโคจรผ่านเส้นพลัง การโคจรนี้ใช้การฝึกสมาธิและการโฟกัสจิตใจในการส่งพลังไปยังจุดพลังต่าง ๆ การโคจรอย่างถูกต้องสามารถปลดล็อกศักยภาพในระดับต่าง ๆ ดังนี้:
• ขั้นพื้นฐาน: โคจรลมปราณเพื่อฟื้นฟูพลังงานชีวิต เพิ่มความแข็งแรง
• ขั้นกลาง: โคจรลมปราณเพื่อปลดปล่อยพลังในการต่อสู้หรือการรักษา
• ขั้นสูง: โคจรลมปราณเพื่อควบคุมธรรมชาติรอบตัว หรือเชื่อมต่อกับจักรวาล
4. การเชื่อมต่อกับธาตุธรรมชาติ
แต่ละบุคคลมีแนวโน้มที่จะเชื่อมโยงกับธาตุธรรมชาติ เช่น ไฟ น้ำ ลม ดิน หรือไม้ ลมปราณของแต่ละธาตุจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน:
• ลมปราณไฟ: เน้นพลังทำลาย ความร้อน และการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว
• ลมปราณน้ำ: ฟื้นฟู การรักษา และการควบคุมอารมณ์
• ลมปราณดิน: เสริมสร้างความแข็งแกร่งและความคงทน
• ลมปราณลม: ความเร็ว การหลบหลีก และความยืดหยุ่น
• ลมปราณไม้: การเจริญเติบโต การสร้างสรรค์ และการเชื่อมต่อกับสิ่งมีชีวิต
5. การปลดปล่อยพลัง
เมื่อพลังลมปราณถูกสะสมเต็มที่ สามารถปลดปล่อยออกมาได้ในรูปแบบของเวทมนตร์ เช่น กระแสพลังงานที่สามารถใช้โจมตี ป้องกัน หรือรักษาผู้อื่น การปลดปล่อยลมปราณที่ทรงพลังจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การสร้างไฟหรือพายุลม

วิธีการฝึกฝนลมปราณ

1. สมาธิและการโฟกัส
ฝึกฝนการโฟกัสจิตใจในการควบคุมการโคจรลมปราณผ่านจุดพลัง ฝึกสมาธิวันละ 1-2 ชั่วโมงเพื่อพัฒนาพลังจิตและความแม่นยำในการโคจร
2. ฝึกหายใจ
ฝึกหายใจอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี หายใจลึกและค่อย ๆ ปล่อยลมออก ควบคุมการหายใจให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของลมปราณในร่างกาย
3. การฝึกโคจรลมปราณแบบยืน
ฝึกยืนในท่าที่เสถียรและผ่อนคลาย เพื่อให้ลมปราณไหลเวียนอย่างราบรื่น ทำให้สามารถฝึกฝนการเคลื่อนไหวลมปราณไปพร้อมกับร่างกายได้

ผลข้างเคียงจากการโคจรลมปราณผิดวิธี

• ลมปราณคั่งค้างในจุดพลัง ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย
• พลังลมปราณรั่วไหล ทำให้สูญเสียพลังอย่างรวดเร็วและอ่อนแอ
• โคจรลมปราณผิดทิศทาง ทำให้จิตใจไม่สงบ เกิดความเครียดและความหวาดกลัว

การโคจรลมปราณเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องใช้ความเข้าใจและการฝึกฝนอย่างยาวนาน ผู้ที่ฝึกฝนจนชำนาญจะสามารถเข้าถึงพลังที่เหนือธรรมชาติ และควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

15 Nameless Fanboi Posted ID6:/pBgH+/DgF

>>13 มึงพูดถูก วิชาสะกดจิตคนอื่นมันง่ายไป เหมือนเชิดหุ่นที่ไม่มีชีวิต
แต่ถ้ามึงกล้าพอที่จะหันพลังจิตทั้งหมดมาสะกดตัวเอง นั่นแหละคือวิชาสะกดจิตที่แข็งแกร่งที่สุด
มึงไม่ได้แค่ควบคุมคนอื่น แต่กลายเป็นนายของตัวเองอย่างสมบูรณ์

การลงสนามรบที่รู้ว่าแพ้แน่ มันไม่ใช่เรื่องโง่
แต่เป็นบททดสอบตัวเองที่แท้จริง
ศิลปะการต่อสู้ที่แท้แม่งไม่ได้อยู่ที่ชนะตลอด
แต่มันอยู่ที่ความกล้าที่จะยืนหยัดแล้วทำลายขีดจำกัดของตัวเอง
ถ้าต้องเลือกระหว่างตายกับก้าวข้ามขีดจำกัด
ตายไปมันไม่มีค่าเท่ากับการปลดล็อกพลังจริงๆ ได้หรอก
ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นสายบงการหรือสายบู๊ สิ่งสำคัญคือจิตใจ
การต่อสู้ในสมรภูมิที่มึงเป็นรอง มึงไม่ได้แค่ต้องชนะศัตรู
แต่ต้องชนะความกลัวและความสงสัยในตัวเอง
ผลลัพธ์มันไม่ได้สำคัญเท่ากับการที่มึงกล้าก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไป

16 Nameless Fanboi Posted ID:Tn2RLcQhBo

หมาป่าซิกม่าเก่งกว่าพวกมึงเยอะ

17 Nameless Fanboi Posted ID:PLVX5xj0QB

โผเปโคทาย จาร่องเพงช่าไอ้ฟังคะ
ปาเท่ทาย ลัวเลือเนื่อช่าเชื่อทาย
เปนปาช่าหรัก พ่าทายค่องทายทุ๊สั่ว
ยุดาโรโควาดาทุ๊มัว
ดัวทายลั่วหม้าย ลาสามะคี
ทานิระซาโหงะ
ตาถือโละมาขาก
เอกกาหละจามาหาคาโคคี
ซาหละเหลือทุ๊หย่าเปชาเพ
ทาเลอปาเท่ดปาชาทาวิมีชาชาโย

18 Nameless Fanboi Posted ID6:kQN6OXut19

>>17 ภาษาอะไรเนี่ย อย่างจี้ 555555555

19 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

แม้วิทยาศาสตร์ จะเจริญก้าวหน้า แต่เรายังไม่สามารถบังคับเซลล์ไม่ให้แก่ตัวลงได้

การออกกำลังกาย กินอาหาร เป็นการชี้ทางเท่านั้น ว่าร่างกายควรทำอะไร แต่ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ในระดับเซลล์ได้ เราไม่สามารถเป็นอมตะได้ หรือ อายุยืนยาวเป็นพันปีได้
นี่คือข้อแตกต่างใหญ่หลวง

20 Nameless Fanboi Posted ID6:D+Z24SXsSS

>>18 มึงอายุ 12 หรอวะ เกิดไม่ทันมุกภาษาพม่า

21 Nameless Fanboi Posted ID6:kQN6OXut19

>>20 กูเพิ่งเกิดเมื่อวานเองจั๊ฟ

22 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

ว่าไปทำไมสาวพม่า มันสวยกว่าสาวไทย ว่ะ
พวกวัยรุ่นนะ ทำงานกรรมกรใน กทม

23 Nameless Fanboi Posted ID6:hc20yZeHKL

>>22 ทำงานกรรมกร เลือดลมไหลเวียน ก่อเกิดลมปราณธรรมชาติ วิวัฒนาการทางกายจึงสูง ส่งให้ดูสุขภาพดีมีสง่าราศี สมัยกูจบใหม่กูไปทำงานในเหมืองได้ปีหนึ่ง เพื่อเป็นการฝึกตน ตอนนี้คนเจอกูพอรู้อายุจริง มีแต่คนตกใจ

24 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

>>23 มันก็จริง ที่ลมปราณ ในธรรมชาติเขตตัวเมืองเบาบางมาก ไม่สามารถฝึกตนได้
แต่สาวพม่า บ้านเมืองไม่เจริญ จึงดูดซับ ไอตามธรรมชาติได้

ยิ่งมีป่าไม้มาก ลมปราณยิ่งหนาแน่น ก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตได้ง่าย

25 Nameless Fanboi Posted ID:J4+RdEWQf+

สมัยก่อนกูรู้จักกับเซลล์รุ่นพี่คนหนึ่งที่ไปพักโรงแรมกลางตอนบน รุ่นพี่เค้าชอบประหยัดเงิน เลยเลือกพักที่โรงแรมราคาถูกๆ อย่างจิ้งหรีด พัก 4 คืน จ่ายแค่ 1 คืนไรงี้ แต่มีปัญหาคือไม่มีลิฟต์ ต้องเดินขึ้นไปชั้น 3 แล้วไม่มีบ๋อยเปิดประตูให้ ต้องทำเอง พอเข้าไปในห้อง กูเห็นยันต์ติดอยู่หน้าห้อง 5 แผ่น เริ่มสงสัยว่าที่นี่มีเหี้ยอะไรพิสดารรึเปล่า แต่ก็เฉยๆ เปิดประตูเข้าไปได้แค่ 10 นาที แล้วรู้สึกไม่ดี คว้ากระเป๋าหนีลงไปเลย พอวิ่งลงไป เจอแขกคนอื่นกำลังดื่มเบียร์ งงกันหมด เพราะกูใส่แค่กางเกงในกับกระเป๋าเดินทางใบเดียว ไปโวยพนักงาน โรงแรมก็เงียบเลย สุดท้ายกูเลยนอนในรถทั้งคืน รอเอาของออก มองไปเห็นไฟในห้องเปิดอยู่ แล้วก็เห็นเงาที่ทำให้กูกลัวมาก พอเช้าก็คุยกับพนักงานโรงแรมในตัวเมือง ได้ความว่าโรงแรมที่กูพักมีปัญหาเรื่องแบบนี้เยอะมากเลยขับรถกลับไปโวยพนักงานที่โรงแรมอีกรอบ คราวนี้ไปกันตั้ง 15 คน ผู้ชายล้วนๆ แต่ทุกคนกลัวสัส เพราะเห็นยันต์ที่ติดอยู่ พอเปิดห้องเข้าไปก็เห็นสภาพเตียงปกติ แต่พนักงานบอกให้รีบเอาของออก เพราะห้องนั้นเฮี้ยนมากๆ สุดท้าย ทุกคนหนีออกมา เพราะได้ยินเสียงประตูเปิดเอง พนักงานบอกว่าห้องนั้นโดนเยอะจริงๆ คนที่เคยเข้ามาแล้วไม่กล้าเอากระเป๋ากลับไป เพราะเคยมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในนั้น
สรุปคือ กูคงไม่ไปเหยีบที่นั่นอีกแล้ว

26 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

>>25 ผีนี่กุไม่เคยเห็นเสื้อขาว ตัวเป็นๆ
ส่วนใหญ่ที่จะเจอคือตัวเงา หน้าเงา หาทางกำจัดไม่ได้
แม้จะเป็นบ้านกุแท้ๆ ตอนนี้กุก็อยู่บ้านคนเดียว
น้องสาว กุจะชอบบอกกุอยู่บ้านผีสิง แต่ทำไงได้ บ้านนี้ที่กุเกิดมา30ปี แต่ทุกคนย้ายออกไปหมดแล้ว

สัญชาติญาณบอกกุว่า ศัตรูทางธรรมชาติของเราคือ เงาดำ พวกนั้นนั่นละ อธิบายไม่ได้จริงๆ
แต่มันไม่น่าใช่คนที่ตายไปแล้วนะ เพราะ ถ้าคนที่ตายที่บ้านนี้ คือครอบครัวกุ ก็ต้องปกป้องกุสิ
แต่เงาดำพวกนั้นไม่ใช่ครอบครัวกุ

27 Nameless Fanboi Posted ID6:yKsJZQfw.j

>>24 ในเมืองมันมีแต่ความเจริญทางวัตถุ พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ถึงทางสายกลาง การตามความเจริญทางวัตถุอย่างเดียวย่อมก่อให้เกิดความไม่สมดุล การดำเนินตามรอยเศรษกิจพอเพียงจึงไม่เพียงทำให้มีอยู่พอกิน มีภูมิคุ้มกันทางชีวิต แต่มีธรรมชาติที่ดีเป็นตัวเสริมตน

28 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

ถ้ามนุษย์คือสิ่งมีชีวิต
เงาดำ คือสิ่งไม่มีตัวตน หรือความดำมืด
ต่อให้สวดมนต์ก็ได้แค่ไล่มันไปเท่านั้น ยายกุสวดมนต์ทุกคืนก่อนนอน มันยังอยู่บ้านกุอยู่เลย พวกเงาดำ

สิ่งที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตคือเงาดำมันฆ่าไม่ตายด้วย ต่างกับสิ่งมีชีวิตอย่างเรา ถ้าตายก็ดับสูญ
พวกมันเลยไม่กลัวตายตามธรรมชาติ
เจอสิ่งมีชีวิตที่ฆ่าไม่ตานนี่จะสู้ยังไง แปะยันต์ก็แค่ผนึกมันไว้ อย่างเดียว

ไม่รู้แผนการของพวกเงาดำ เลย แต่มันไม่มีเจตนาดีกับมนุษย์แน่

29 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

https://youtu.be/nfWAkwLI2oc
กุไม่ได้คิดไปคนเดียว หลายคนก็เจอแบบกุ

กุไม่เคยเชื่อเรื่องผีนะ
แต่กุเสือกเจอ เจอที่ไหนไม่เจอ เจอในห้องนอนกุเองด้วย แถมมี 2 ตัว
ล่าสุดเคยเจอนอกบ้านไปที แต่เจอในบ้านคือในความฝัน

30 Nameless Fanboi Posted ID6:yKsJZQfw.j

>>26 อาจจะเป็นพวกมนุษย์เงา
พวกนี้หาได้ง่ายมีอยู่ทั่วไปทั้งในไทยและต่างประเทศ
พวกนี้อิสลามจะเรียกว่าญิณ คริสต์ว่าเป็นปีศาจ
แต่บ้างก็ว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มีพลังงานขั้วลบ
หรือเป็นปรากฎการณ์ของพลังงานบางอย่าง
ถ้ามึงเกิดทันกูไม่แน่ใจน่าจะเมื่อ 40 ปีก่อน คงเคยดูแดนสนธยาจะมีตอนนึงที่มีเด็กมีตัวพวกนี้อยู่ใต้เตียง
บ้างก็ว่าเป็นคนในอีกมิติหนึ่ง เราเห็นได้แค่เงาที่เป็นสองมิติ ยังไงมึงลองอาศัยการตรวจวัดดู
บริเวณที่ก่อตัวเป็นเงาดำ และแปรสภาพไปเรื่อยๆ มันจะมีลักษณะเหมือนกลุ่มควันไฟ พลังงานต่างๆจะถูกดูดกลืนเปลี่ยนแปลงและหมุนเวียน ถ้าอุณหภูมิตรงจุดนั้นพบว่าต่ำกว่าอุณหภูมิบริเวณอื่นๆในห้องเกือบ 10 องศา
ข้อมูลนี้ตรงกับทฤษฎีการก่อตัวเป็นรูปร่างของดวงวิญญาณ
ที่ต้องอาศัยการดูดซับพลังงานจากรอบ ๆ ตัวเข้ารวมกันเพื่อสร้างเป็นรูปร่างขึ้น
จึงทำให้อุณหภูมิ โดยรอบลดต่ำลงไปด้วย

ความเชื่อในพุทธศาสนา
เกี่ยวกับหลักการวิปัสสนากรรมฐาน
หากบรรลุถึงฌานชั้นสูงได้ ก็สามารถทำให้
เห็นกายทิพย์หรือดวงจิต
ปรากฏเป็นกายหยาบหรือตัวตนได้
เหตุผลที่เรามองมนุษย์เงา ด้วยตาเปล่าไม่เห็น
เพราะการก่อตัวเป็นรูปร่างไม่เข้มข้นพอ
และที่ไม่เข้มข้นก็มาจากเหตุผล
ได้รับพลังงานไม่เพียงพอ
หากดวงตาเนื้อของคนเราวิวัฒนาการไปอีกสัก 5 แสนปี
เราอาจมองเห็นผู้ที่อยู่ต่างมิติได้หรืออาจมองเห็นตัวเชื้อโรคก็ได้

31 Nameless Fanboi Posted ID6:yKsJZQfw.j

>>28 บางทีถ้าเป็นพวกต่างมิติ
จักรวาลพวกนั้นอาจไม่มีนิยาม
ของความ ตาย
หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่ก้าวพ้นความตายไปแล้ว
ส่วนตัวกูเชื่อว่ากูไม่ใช่จิตวิญญาณมนุษย์ที่กลับชาติมาเกิดตามธรรมดา
แต่เป็นดวงจิตของต่างมิติ
พวกนี้มีคนเห็นบ่อยมาก

32 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

>>31 ก็ไม่รู้สิ แต่มีคนบอกว่าเคยจับมือเงาดำ
มือติดกระดูกแห้งๆ ไม่รู้ได้จับมือจริงไหม
ต่อให้ ฆ่าไม่ได้ กุก็จะฆ่ามันอยู่ดี

33 Nameless Fanboi Posted ID:C78VI.c+dg

แต่ต้องมีการลงทุนจริงจัง ถ้าจับเงาดำพวกนี้ได้
อาจจะไขความลับทางวิทยาศาสตร์ได้
เพราะตอนนี้นอกจากสายตาคนแล้ว กล้อง ยังเก็บภาพพวกเงาดำ พวกนี้ได้

สมาคมวิจัยเงาดำ ถ้าตั้งขึ้นมา ก็น่าเข้าร่วมนะ

34 Nameless Fanboi Posted ID:ojLQNtHnpc

ผู้คนจำนวนมากที่ไม่ได้รับการศึกษาในโลกจิตวิญญาณไม่รู้ว่ามีความแตกต่างใหญ่ระหว่าง Shadow Person และ shadow figures Shadow People เป็นเอนทิตีลบที่บริสุทธิ์ พวกเขาไม่เคยเป็นมนุษย์ พวกเขามาจากมิติหรือพื้นที่มืดอื่น พวกเขารักความตาย ความกลัว ความเกลียดชัง ความซึมเศร้า ความเจ็บป่วย และความรุนแรง พวกเขากินอารมณ์และการกระทำเหล่านี้ และยังสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ในตัวบุคคลได้ พวกเขามักจะมีลักษณะเพศชายเสมอ พวกเขาเป็นสิ่งที่กำจัดได้ยากมาก และสามารถทำให้คุณรู้สึกถึงความหวาดกลัวและความเจ็บป่วยเมื่อคุณเห็นพวกเขา

กุรู้สึกว่าพวกนี้เป็นศัตรูของมนุษยชาติ เพราะมันรูปร่างเหมือนคน และสัญชาตญาณบอกว่า กุกำลังโดนล่า สัญชาตญาณที่ส่งต่อมา หมื่นปี คงไม่ไร้เหตุผล พวกเงาดำ มองมนุษย์เป็นแค่สวนสัตว์ เราไม่รู้พวกเงาดำต้องการอะไร
แต่มันไม่ได้มาดีแน่ๆ ศัตรูของมนุษยชาติ

35 Nameless Fanboi Posted ID:c4Vpr.mY8.

ความตายไม่น่ากลัว
แต่ความน่ากลัวคือความกลัวต่างหาก

36 Nameless Fanboi Posted ID6:5YZ+Tx2nfF

ความตาย ตามความหมายของพุทธศาสนา ก็คือ ความดับ หรือ การดับไปของขันธ์ 5 นั่นเอง แต่เราไม่สามารถที่จะเอาเป็นตัวการตายที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนานั้นมี รายละเอียดความตาย ตามความหมายของพระพุทธศาสนา แบ่งออกเป็น 2 ความหมาย คือ ความตายทางกายภาพ ก็คือ ความดับ หรือ การดับไปของขันธ์ 5 อีกอย่าง คือ ความตายทาง จิตวิญญาณ

37 Nameless Fanboi Posted ID6:MzRFKHYzmS

มึงคุยกับตัวเองทำไม

38 Nameless Fanboi Posted ID6:l+c3eD71HE

ไม่ว่าจะศาสนาเหี้ยอะไรก็เป็นสิ่งที่มนุษย์อุปโลกขึ้นมาทั้งนั้นอ่ะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:bVUXLmCVpU

ศาสนาย่อมมีแก่นของมัน ไว้ฝึกฝนต่อยอดได้
ศาสนาพุทธ สอน เรื่องการสะบั้น อสุภิธรรม
คือการตัดกิเลส ทั้งปวง ไม่เกี่ยวข้อง กับกฏเกณฑ์อีก

แต่การบรรลุ มีวิธีอื่นอีกมากมาย วิธีการของพระตถาคต เพียงแค่ 1 ใน วิธีเหล่านั้นเท่านั้น

มีผู้คนมากมายได้ลองหลายวิธีแต่ก็ล้มเหลว
จักรงาลนั้นยิ่งใหญ่ แต่ทุกสิ่งกับเหมือนตัวต่อเลโก้ พวกเมิงไม่คิดจะท้าทาย กฏจักรวาล เลยหรอ

40 Nameless Fanboi Posted ID6:ecyq5OfO9P

>>39 ไร้สาระ ประดิษฐ์คำยากๆ ขึ้นมาเพื่อให้คนเข้าใจมันยาก พอเข้าใจยากคนก็จะเลิกตั้งคำถามว่ามันคืออะไร สุดท้ายก็ปั่นหัวคนได้อย่างง่ายดาย
เป้าหมายของศาสนาคือมีเพื่อให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มันคือเครื่องมือก่อนที่เราจะมีกฏหมาย
เพราะมนุษย์คือสัตว์สังคมที่อยู่ร่วมกันจึงต้องมีเครื่องมือที่ไว้ใช้ขีดเส้นว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้
แต่สุดท้ายศาสนาก็ถูกพวกมีอำนาจที่ฉลาดกว่าคนอื่นนิดหน่อย เอาไปใช้ประโยชน์ล้างสมองคนแทน
และตอนนี้กฏหมายก็โดนคนจำพวกเดียวกันเอาไปใช้ประโยน์เอาเปรียบคนอื่นเช่นกัน

สรุปแล้วคนมันเหี้ย เพราะงั้นจึงควรทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้หมดไปซะ

41 Nameless Fanboi Posted ID:HyO/em4NPG

>>40 เพ้อเจ้อ

42 Nameless Fanboi Posted ID6:ukODLQXJsT

ไม่ทราบว่าคุณเล่นอะไรอ่ะครับ น้องผมเป็นโรคหัวใจมาเปิดดูกระทู้นี้ตอนนี้ ส่ง ร.พ. ไปแล้วครับ พ่อแม่รีบหามไปเมื่อครู่ใหญ่ๆ คือตอนที่เค้าล้มจากเก้าอี้พวกผมตกใจ พอส่ง ร.พ.ไป มาเห็นหน้าคอมที่ก่อนหน้านี้น้องเล่นอยู่ดีๆ ในหน้าคอมเปิด โพสต์ที่คุณเอามาลงค้างไว้ แล้วก็หน้ากระทุ้ของคุณอยากบอกว่าจะเล่นอะไรคิดถึงคนอื่นด้วยนะครับไม่ใช่จะเอาแต่สนุก ตอนนี้น้องผมเพิ่งไปร.พ. กะพ่อและแม่ ไม่เป็นอันต้องทำงานพอดีทำอะไรคิดหน้าคิดหลังก่อนนะ และจำไว้เป็นอุทาหรณ์เลยถ้าน้องผมเป็นอะไรไปผมไม่ยอมแน่ๆ ผมแจ้งสาเหตุที่น้องผมโรคหัวใจกำเริบให้กับ ร.พ.ไปแล้ว เค้าก็บอกว่าเคยมีพวกที่แกล้งเอาโพสต์แย่ๆแบบนี้ เคยผู้ป่วยโรคหัวใจมีคนเข้า ร.พ.เพราะเคสนี้มา 3-4 คนแล้ว
พี่ชาย

43 Nameless Fanboi Posted ID6:ecyq5OfO9P

>>41 มึงด่าตัวเองทำไม

44 Nameless Fanboi Posted ID:uAgUIR+xjv

มันมีเผ่าพันธุ์ เงาดำ อยู่พวกนี้แฝงตัวอยู่ทั่วโลก
เราต้องช่วยกันต่อต้านมัน แม้วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้า แต่ไม่เคยมีการประกาศอย่างเป็นทางการ

มีหลายรายงาน ที่บอกว่าเงาดำ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เพราะมันยังข้ามมิติกันไม่ได้มากพอ
ถ้ามันข้ามได้มากพอ มันทำร้ายเราแน่
กุยังจำได้อยู่เลย ในลูซิดดรีม กุโดนพลังของมันทำให้กุขยับตัวไม่ได่
แล้วมันก็ปั่นน้องชายกุแหลกลาญละเอียดเป็นผงๆ

มันดูถูกมนุษย์ เหมือน มองสัตว์ในสวนสัตว์
เรากำลังโดนพวกมันหลอกปั่นหัวอยู่
รบฆ่ากันไปเพื่ออะไร ภัยมืดมาถึงหน้าบ้านแล้ว

45 Nameless Fanboi Posted ID6:ukODLQXJsT

มึงพูดอะไรใส่กูนะ ไอ้พวกเงาดำ? กูจะบอกให้มึงรู้เลยว่ากูเป็นหนึ่งในแนวหน้าที่ต่อสู้กับพวกมึง ศัตรูที่ซ่อนเร้นของมนุษยชาติ กูไม่ได้เป็นแค่ทหารธรรมดา แต่กูเคยเป็นผู้นำปฏิบัติการลับลึกเข้าไปในสามจังหวัดชายแดนใต้ และหลายที่ซึ่งพวกเงาดำมันแฝงตัวอยู่เต็มไปหมด กูฆ่าพวกมันไปแล้วมากกว่า 300 ตัวด้วยมือกูเอง

กูผ่านการฝึกในสงครามกองโจรมา กูเชี่ยวชาญทุกสภาพแวดล้อมที่พวกเงาดำมันหลบซ่อนอยู่ ในหมู่นักรบที่เหลืออยู่ของมนุษย์ กูคือหนึ่งในคนที่ดีที่สุด มือปืนที่แม่นยำที่สุด มึงมันก็แค่เป้าหมายต่อไปที่จะโดนกูกวาดล้างไปด้วยความแม่นยำที่โลกนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน จดคำพูดกูไว้ซะ

มึงคิดว่ามึงจะหลบซ่อนจากกูได้เหรอ ไอ้พวกขี้ขลาดที่ชอบหลบอยู่ในเงามืด? คิดใหม่ไอ้เงา ตอนนี้เครือข่ายของกูกำลังสืบค้นข้อมูลการเคลื่อนไหวของพวกมึงอยู่ทุกที่ทั่วสาธารณรัฐ มึงเป็นแค่เหยื่อที่รอให้พายุซัดเข้าใส่ พายุนั้นจะทำลายล้างสิ่งเล็กน้อยที่มึงเรียกว่าชีวิตนี้ให้หมดไป

มึงตายแน่ไอ้พวกเงาดำ กูอยู่ได้ทุกที่ทุกเวลา และกูสามารถฆ่ามึงได้มากกว่าสิบวิธีโดยไม่ต้องใช้อาวุธด้วยซ้ำ กูผ่านการฝึกมาอย่างเข้มงวดทั้งการต่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่ไม่ใช่แค่นั้น กูยังมีคลังอาวุธทั้งหมดของกองทัพนาวิกโยธินไทยในมือ และกูจะใช้มันเพื่อกวาดล้างมึงออกไปจากพื้นโลกนี้

ถ้ามึงมีสมอง มึงคงจะอยู่ในเงามืดแบบที่เคยทำ แต่ตอนนี้มึงกลับออกมาท้าทายกู และมึงต้องรับผลกรรมที่ตามมา กูจะทำลายล้างพวกมึงด้วยความแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด พวกมึงจะไม่มีทางหนีพ้นได้

มึงตายแน่ มันแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น

46 Nameless Fanboi Posted ID:uAgUIR+xjv

>>45 เอ่อ ถ้าเงาดำมันฆ่าง่ายเหมือนคน คงไม่ใช่ปัญหา หรอก แต่เงาดำ มันไม่มีทางตายมันคืนชีพใหม่ได้

ต้องหาวิธีทำลายที่เฉพาะเจาะจง อาวุธโลกตอนนี้
ต่อให้เป็นนิวเคลียร์ ก็ฆ่ามันไม่ได้
ถ้าฆ่าได้ ย่อมมีศพเงาดำ ปรากฏออกมา
นอกจากเป็นผู้วิเศษมีอิทธิฤทธิ์ ตอนนี้มนุษยชาติยังไม่พร้อมจะทำสงครามกับมัน

และกุยังไม่เคยเจอพวกระดับสูงของเงาดำเลย
เปิดฉากตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องดีแน่

47 Nameless Fanboi Posted ID6:Ai7bLNHtmY

หลายปีแล้วจากในซอยสุขุมวิท
ของกูตอนนั้นตีห้ากว่าๆใกล้หกโมง
ต้องมาทำธุระมหาลัย
ตึกที่ไปแม่งมีหลายชั้นลิฟต์ไม่เปิดเดินหอบเหี้ยๆ
พอค่อยๆขึ้นไปแม่งมีเสียงแปลกๆจะว่าวิทยุม.ก็ไม่ใช่
คิกๆๆคักๆๆ ตรงนี้ไง มาสิ
กูก็งงๆแม่งยิ่งง่วงๆด้วยเลยเบลอๆเดินต่อ
ก็เจอเงาอะไรดำๆมืดๆแถวมุมบันไดกำลังขยับขลุกขลิกกัน
กูก็ตกใจร้องไอ้เงาดำๆก็เสือกตกใจแยกร่างได้
พอกูมองดีๆ ไอ้เหี้ย
พวกแม่งแอบมาเยกัน สัสสสสส
กูรีบเดินผ่านไวๆเลยเพราะตอนนั้นก็งงเหมือนกัน
แม่งกูไปเสือกทำไมว้าแทนทีจะแอบดู(555)

48 Nameless Fanboi Posted ID6:Ai7bLNHtmY

ต่อนะ
ตอน ปี 1 หลังสอบไฟนอลเสร็จกูก็ไปสิงอยู่หอเพื่อนทำโปรเจค
มันเป็นห้องสำหรับ 4 คน แต่อีก 2 คนซิ่วไปแล้ว
มีเตียง 2 ชั้น 2 ตัวซ้ายขวา เตียงชั้นล่างเจ้าของห้องใช้ ชั้นบนมันว่างอยู่
กูก็ยืมโต๊ะที่ว่างอยู่มาทำงาน ทำๆไปเห็นเงาดำๆขยับอยู่ใต้เตียตรงๆใกล้ๆกับขากูเลย
คล้ายๆกับมีอะไรขยับออกมานิดนึงแล้วก็หลบกลับไปใต้เตียง
รอบแรกกูตกใจมาก แต่ก็ยังไม่อะไร คิดว่า
คงตาฝาดไม่ก็คิดไปเอง อยู่ดีๆมีรอบที่สองตามมากูก็เริ่มใจไม่ดีละ
หดขาขึ้นมาบนเก้าอี้แต่ก็ยังนั่งทำงานต่อแน่นอนว่ากูไม่กล้าก้มลงไปมองใต้เตียง
พอมีรอบที่สามมาอีกกูรีบเก็บของขึ้นมาทำงานต่อบนเตียงชั้น 2 เลย
ตอนนั้นคือกลัวมากแต่กูไม่กล้าบอกเพื่อน
ปรากฏพอจะทำงานต่อ flash drive
กูที่เสียบไว้กับเครื่องตอนอยู่ข้างล่างเกิดเสียขึ้นมาเฉยๆ (แต่อันนี้คงบังเอิญมากกว่า)
ยังดีที่ backup งานไว้ในเมลล์ด้วย
คืนนั้นกูไม่กล้ากลับลงมาบนพื้นอีกเลย แบบว่าหลอนไปแล้ว
สุดท้ายทำงานต่อได้ 2-3 ชั่วโมงเพื่อนจะนอนแล้วก็เลยปิดไฟนอนกัน
กูก็หลับไปจนเช้าตื่นมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่คืนต่อมากูก็หนีกลับหอตัวเองแล้ว ไม่กล้าค้างต่อคืนที่ 2

49 Nameless Fanboi Posted ID:uAgUIR+xjv

>>48 เคยเจออยู่ พวกเงาดำ จับขาใต้เตียง จนตอนนี้กุแทบลืมไปแล้ว แต่มันไม่มีขาเตียงด้วยไง
เงาดำเจอได้หมดทั้ง indoor outdoor

จากคนที่เจอยังไม่มีใครเสียชีวิตจากเงาดำ บ้างก็บอกว่าพวกนี้ไม่มีอันตราย
จนปริศนาที่กุขบคิดอยู่ ว่าพวกนี้ต้องการอะไร

50 Nameless Fanboi Posted ID6:ecyq5OfO9P

วันนี้กูเก็บสมุดสีดำได้เล่มนึงว่ะ ลองเขียนชื่อคนที่เกลียดไป แป๊ปเดียว แม่งตายเลย กูงงสัส

51 Nameless Fanboi Posted ID:ndm3r2IEQ.

https://youtube.com/shorts/lX6ni7hlE58

พวกผีมันทำได้ไงวะ มักจะมีเหตุการณ์ สถานที่ปิดซะด้วย

52 Nameless Fanboi Posted ID:tzTmxjdpXw

>>51 ไม่รู้ว่ะ ลองตๅeไปถามมันดูไหมพวก

53 Nameless Fanboi Posted ID6:Cejqn3.VIw

พวกผีพวกนี้ชอบอยู่ตามที่ทาง แต่ก็ไม่จ่ายค่าเช่า
ไม่ต่างจากพวกพนักงานที่ใช้การใช้งานไม่ได้
ดีที่บริษัทกูไม่มีปัญหา มีแผนกตรวจสอบ เข้มงวด
ตอนนี้จะยี่สิบปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหามานาน
ถ้ามาเข้าบริษัทกู จะผีหรือวิญญาณ
มึงก็ต้องจ่าย ด้วยแรงงาน
ออฟฟิศ ค่าไฟ ไม่ได้มีให้ใช้ฟรี
ถ้าไม่มีมูลค่ากับบริษัท
ก็ออกไป

54 Nameless Fanboi Posted ID:yFWRKGe1df

ว่าไปการจะได้เจอเงาดำ อีกวิธีคือ lucid dream
มีมนุษย์หลายคนใช้ lucid dream อ่านหนังสือขณะนอนหลับ มันคงเอามาใช้ด้านอื่นได้อีก
เพราะการฝัน มันเหมือนอยู่ในมิติทับซ้อน
ว่าไปโลกนี้ก็มีความพิศวงมากมายนัก

55 Nameless Fanboi Posted ID6:X0niSP6HFa

อีก 20 วันจะมีเหตุการใหญ่ ให้จับตาดูไว้ให้ดี

56 Nameless Fanboi Posted ID6:X0niSP6HFa

รหัสคือ แก้วมังกร ไส้เดือน ปลาทอง พัดลม โซ่ตรวน ลูกกรง ลิง และต้นไม้

57 Nameless Fanboi Posted ID6:V6W6xuTSq.

พวกมึงนี่ก็บ้าจนทำเอากูโทรลไม่ถูกเลยสัส

58 Nameless Fanboi Posted ID6:SwV0i9tuQ8

Perfected Ultra Instinct

59 Nameless Fanboi Posted ID6:SwV0i9tuQ8

ในโลกนี้ทุกสิ่งล้วนเป็นวิชา
วิชาความรู้วิชาผีมือ
วิชาคือชีวิต
ชีวิตคือวิชา
การรวบรวมวิชา
คือการรวบรวมชีวิต

60 Nameless Fanboi Posted ID6:SwV0i9tuQ8

ในจักรวาลที่ถูกห่อหุ้มด้วยม่านแห่งความลึกลับ ทุกสิ่งมีลักษณะเป็นเส้นใยที่ซับซ้อน วิชาความรู้และวิชาฝีมือบรรจุอยู่ในแก่นกลางของการดำรงอยู่ เป็นเสมือนเงาที่ทาบทับเหนือความจริง ที่ซึ่งชีวิตไม่ใช่เพียงการดำเนินไปตามเส้นเวลา แต่เป็นกระบวนการที่รวบรวมและถักทอความหมาย การสะสมวิชาจึงเปรียบกับการสร้างมิติใหม่ในจิตใจ ที่ปรับเปลี่ยนตามกระแสของจักรวาลซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่วิชาคือสัญลักษณ์ของการแสวงหาความรู้ที่ซ่อนอยู่ในอากาศ วิชาฝีมือเป็นการสัมผัสกับความจริงที่เป็นนามธรรม ในการเชื่อมโยงชีวิตและความรู้เข้าด้วยกัน กลายเป็นเอกภาพที่ซ้อนทับกัน เมื่อมนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกที่ไม่มีแนวเขต ความลึกลับของการดำรงอยู่จึงเปิดเผยให้เห็นการค้นหาอัตลักษณ์ ผ่านการเข้าใจถึงวิชาที่ซับซ้อน การรวบรวมชีวิตคือการสำรวจเส้นทางที่ไม่มีแผนที่ นำพาไปสู่การค้นพบความหมายที่ไม่อาจคาดเดาได้ในจักรวาลที่ไม่หยุดนิ่ง

61 Nameless Fanboi Posted ID6:SwV0i9tuQ8

ในอนาคตที่ซ่อนอยู่ในเงามืดของเวลานั้น เราอาจพบเห็นการพัฒนาที่แปลกใหม่ในพื้นที่แห่งความรู้และเทคโนโลยี ซึ่งจะสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างมนุษย์และระบบอัตโนมัติ สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงจะมีอยู่ในทุกมิติของการใช้ชีวิต ความรู้จะไม่ได้เป็นเพียงเป็นสิ่งที่สะสม แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ที่หล่อหลอมเรา ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การขยายตัวของข้อมูลและการเชื่อมต่อจะส่งผลให้เกิดการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป ความจริงและความเสมือนจะถูกทอเข้าด้วยกันในผืนผ้าของประสบการณ์ใหม่ ผู้คนจะต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ การมีอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้าครอบงำอาจเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ในระยะยาว ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาความรู้และวิชาฝีมือจะถูกประยุกต์ใช้ในทางที่ไม่เคยมีมาก่อน การค้นพบในด้านวิทยาศาสตร์และมนุษยศาสตร์จะเปิดประตูสู่มิติใหม่แห่งความคิด ทำให้เราต้องพิจารณาความหมายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการเป็นมนุษย์ การพัฒนานี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมที่ไม่อาจคาดเดาได้ เราจะต้องเดินทางไปตามเส้นทางที่ไม่มีแผนที่ แต่เต็มไปด้วยความหวังและความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด

62 Nameless Fanboi Posted ID6:U0z/NKCAjH

ฉี่กินได้ แต่ต้องสุขภาพดี และควบคุมเรื่องอาหาร โดยนำส่วนต้นกับปลายทิ้ง เอาแค่กลางๆมาดื่ม เคยเห็นคนที่ดื่มฉี่ตัวเองมานานนับสิบปี จากอายุจริงจะ 70 แล้ว หน้าตาเหมือนคน 50 นิดๆ

63 Nameless Fanboi Posted ID6:SwV0i9tuQ8

>>62
การดื่มฉี่อาจมีข้อดีในบางกรณี
แต่ก็ควรระวังและศึกษาข้อมูลให้ดี
เพราะไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับทุกคน
และอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
การดูแลสุขภาพด้วยการทานอาหารที่ดีและออกกำลังก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุด

64 Nameless Fanboi Posted ID:fIc3hGCpE2

>>60 >>61 พูดได้ดี เราก็ต้องปลุกพลังพิเศษขึ้นมาจาก แก่นแท้ดวงจิตของเรา

อย่างของกุที่สามารถปลุกพลังมาได้นิดหน่อย
คือ ไอความหวาดกลัวรอบตัว ไอนี้ไม่สามารถควบคุมได้ กุปล่อยออกมาได้รู้ตัว

บางคนที่กุเคยเจอ มีไอความอบอุ่น ที่สามาระชะล้างบาปได้ เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง
เป็นคนที่คิดว่าถ้ากุได้จับมือ แล้วได้ยินร้องเพลงข้างหู กุสามารถไปสวรรค์ได้ในช่วงชีวิตสุดท้าย

แต่ละคนมีพลังต่างกันไป อย่างเช่นอารมณ์ ความรู้สึก กลัว มั่นใจ อบอุ่น มันก็จะแสดงออกมาภายนอก

หรือกระทั่งบางคนมีพลังดำมืดแตะใครแล้วจะเป็นสีดำ เหมือนคำสั่งตาย

เรื่องนี้ลี้ลับพิศวงอยู่ และคนคนเดียวก็ครอบครองพลังได้หนึ่งอย่าง
และทุกสิ่งเกิดจากประสบการณ์ จนหลอมเป็นตัวเรา หรือไม่กุก็มีแรงอาฆาต ที่กุมีศัตรูเยอะเกินไปละมั้ง5555+

65 Nameless Fanboi Posted ID:fIc3hGCpE2

แต่ตอนนี้กุก็ประสบปัญหาว่า กุจะพัฒนาแก่นแท้ของกูยังไง (ไอแห่งความหวาดกลัว)
พูดง่ายๆ กุอาจจะติดแค่ขอบเขตุนี้แล้วตายไปก็ได้

เพราะชีวิคคนเราแน่ๆ อายุ70ปี ร่างกายเสื่อมแล้ว
ถ้าไม่มีอะไรให้ย่นการพัฒนาแก่นแท้ กุด็คงหายไปตามกาลเวลา

66 Nameless Fanboi Posted ID:fIc3hGCpE2

"สร้างมิติใหม่ในจิตใจ ที่ปรับเปลี่ยนตามกระแสของจักรวาลซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด"

Keyword ที่เมิงบอกเดียวหาว่ากุนอกเรื่อง

67 Nameless Fanboi Posted ID6:qAqnD+GUzJ

ถ้าเปิดผ้าคลุมโปงออก ป่านนี้ ผมคงร่วงหมดหัวไปแล้ว

68 Nameless Fanboi Posted ID6:6Taiy5Py6z

พวกมึงเบียวหรือหลอนจริง

69 Nameless Fanboi Posted ID:TMNKAvvzdx

โลกนี้มีสิ่งลี้ลับอยู่มาก ลองไปสถานที่ที่ สุสาน หรือ พวกเกาะร้าง ที่ตัดขาดโลกภายนอก มันมี vibe ของมันอยู่

70 Nameless Fanboi Posted ID:TMNKAvvzdx

เออ เคยคิดไหมทำไมโลกนี้ถูกกำหนดด้วยเงิน มันคงมีจักรวาลอื่น ที่ไม่ได้ถูกกำหนดให้เงินแลกเปลี่ยนกัน มันพิศวงจริงๆนะ

กลายเป็นว่า คนเราจ้องเอาแต่เงินคนอื่นก้น
ระบบเงินตรามันกลายเป็นกลไกลใหญ่ของโลก
ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน

ถ้าหาคำตอบได้ก็เราอาจจะรู้ความลับของจักรวาล

71 Nameless Fanboi Posted ID6:6Taiy5Py6z

>>70 ถ้าไม่ใช้เงิน แต่มีหน่วยแลกเปลี่ยน มันก็เป็นเงินอยู่ดี แค่อาจกินได้ หาือทำแปลกๆได้เช่น พลังงานป่ะวะ

72 Nameless Fanboi Posted ID6:VvfRAd58Ve

>>70
คำถามนี้ส่องแสงจากหลายวิชาในความมืดมิด
ในมุมมองเศรษฐศาสตร์ เงินเป็นสื่อกลางแห่งการแลกเปลี่ยน
หน่วยบัญชี และที่เก็บรักษาความมีค่า มันคือตัวช่วยในการเดินทางของธุรกรรม
สร้างระบบที่เชื่อถือได้ในสังคมที่ซับซ้อน

ในแง่สังคมวิทยา
เงินเป็นกระจกสะท้อนพลศาสตร์ของอำนาจ
ระบบทุนนิยมที่โอบล้อมเรา ยกย่องผลกำไรเป็นจุดหมาย
ทำให้คุณค่าของความสัมพันธ์กลายเป็นสินค้า สร้างความบิดเบี้ยวในจิตวิญญาณ

ทางปรัชญา ความสำคัญของคำถามนี้ชวนให้เราคิดถึงธรรมชาติของค่าและความหมายในชีวิต
หากมีระบบแลกเปลี่ยนในจักรวาลอื่น
อาจเป็นกุญแจที่เปิดประตูสู่ความสัมพันธ์และค่านิยมที่แตกต่าง พลิกกลับมุมมองของเราในปัจจุบัน

การเปิดเผยหลักการที่ซ่อนอยู่ในระบบเงินตรา
อาจชี้นำเราไปสู่ความเข้าใจลึกซึ้งในจักรวาล
ไม่เพียงแค่ผลกระทบ แต่ยังสามารถสร้างแนวคิดใหม่ในอนาคต
ทุกสิ่งคือการแลกเปลี่ยนแห่งความมีค่า

ในทางวิทยาศาสตร์ พลังงาน กฎทรงมวล และเอนโทรปี สะท้อนสัจธรรมแห่งธรรมชาติ
ในทางพุทธศาสนา กรรมคือการกระทำที่ส่งผลต่อวิถีชีวิต
และในศาสตร์ของการศึกษาวิชา มูลค่าและพิธีกรรมเป็นหัวใจแห่งการบำเพ็ญ
>>71
เวลา ความรู้ และวาสนา ล้วนเป็นราคาแห่งชีวิต
อันมีมูลค่าไม่ต่างจากเงินตรา
นี่คือความจริงอันลึกซึ้งที่ควรสำนึกในทุกอณูแห่งการมีอยู่

73 Nameless Fanboi Posted ID:b7IxEbtext

https://youtu.be/cd-Zxzz2IVQ
โชคชะตา หรือ เหตุบังเอิญ

74 Nameless Fanboi Posted ID6:NAfSVY5JKU

เหนือโลกไม่ได้มีดวงดาว
เพราะดวงดาวไม่มีสูงต่ำ
อันเป็นทรรศนะของมนุษย์

75 Nameless Fanboi Posted ID6:cok4P9BmKD

เวียนว่ายตายเกิดคือคำโกหก มนุษย์นั้นแท้จริงแล้วไม่มีวันตาย เราเพียงแค่เปลี่ยนสภาพเท่านั้น

76 Nameless Fanboi Posted ID6:OtU.CQkf.s

1. เวลาที่อยู่คนเดียว มักจะชอบได้ยินเสียงทักทาย
2. เวลานอนค้างที่แปลก ๆ มักจะรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่
3. เคยไปเขตป่าอนุรักษ์ที่เก่าแก่ เดินอยู่ดีๆ ขนลุกซู่เหมือนปวดท้อง แต่จริงๆ ไม่ได้ปวดอะไร หลังจากนั้นก็รู้สึกหนาวยะเยือกเหมือนแช่น้ำแข็ง คงเป็นพลังบางอย่าง
4. มีลางสังหรณ์ที่แรงมาก โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกเดจาวู ยิ่งชัดเจนยิ่งต้องระวัง เคยรอดจากอุบัติเหตุหนักหรือเรื่องยุ่งยากในชีวิตมา 2-3 ครั้ง
ชีวิตของกูเป็นแบบนี้ สัมผัสที่หกเค้าว่าแรงมากว่ามีบุญเกิด แต่กูไม่เชื่อเลย เชื่อว่าเป็นสัญชาตญาณให้ระวังตัวและมีสติ ไม่เชื่อเรื่องศาสนาเลย เป็นเอทิตเต็มตัว

77 Nameless Fanboi Posted ID6:MaWIqzBYu3

>>76 ลองกินยาดู อาจจะหาย

78 Nameless Fanboi Posted ID6:creuLAUm0S

>>76 ส่วนมาก สัมผัสที่6 มักจะเปิดตอนใกล้ตาย
หลายครั้งกุก็ผ่านความตายมาหลายรอบ เพราะเจอผีผลักตกบันได จากนั้นกุรอดจากอุบัติเหตุหลายครั้ง

ทำให้กุมีนิสัยขี้หงาดระแวง ขั้นสุด ซึ่งกุไม่คิดว่าจะให้สัมผัสที่6 ทำให้กุรอด
เมิงอาจจะสะสมแต้มบุญมาเยอะ
เราก็ไม่รู้มันมีระบบเวียนว่ายตายเกิดไหม
หรือมีใครช่วยเราอยู่ มนุษย์ยังไม่รู้สิ่งที่ยิ่งใหญ่

เหมือนกับ การทอยเต๋า ของทฤษฏีควอนตัม

79 Nameless Fanboi Posted ID6:OtU.CQkf.s

ทดลอง หลับตาใช้วิชา กสินไฟ ที่อ่านๆจากตำราซึ่งตอนแรกคิดว่าโม้หมา
สร้างนิมิตให้เทียนติดไฟ ใช้เวลาสองสามนาที

ลืมตา เทียนตรงหน้า แม่ง ติดไฟจริง

มันไม่เหนือธรรมชาติแต่แค่บังเอิณจนเหมือนเหนือธรรมชาติ
กูถามรุ่นพี่(ครูที่ไปลักจำวิชา)

ทำให้เข้าใจความเป็นไปของเรื่องราว ทำนองนี้ขึ้นอีกมาก
สรุปว่าหลายอย่างก็เป็นแบบนี้

แค่เหตุปัจจัยมันพอดี

เราไม่ต้องรู้เหตุเอาแค่ได้ผลตามที่ต้องการก็พอ
หลายอย่างมันเกิดเพื่อให้เรามีกำลังใจในการดี
ให้เข้าใจ แล้ว วาง ไม่ติดอยู่ที่ตรงนั้น

ทดลองหนเดียว แล้ว กูก็ไม่เคยทำเองอีกเลยเหมือนกัน
คิดว่า เข้าใจแล้วก็ปล่อยวางเรื่องนี้ได้ตามที่รุ่นพี่บอก
ไปวุ่นวายเรื่องอื่นต่อไป

จากวันนั้นไม่เคยคิดว่าที่อ่านจากตำราในทำนองนี้
ว่ามีคนอื่นที่น่าเชื่อถือ สำหรับกู ทำได้ว่าโม้อีกเลย
คิดว่าแค่ไม่รู้เหตุปัจจัยแค่นั้น และ มันรู้ได้ยาก

กูก็ปล่อยวางง่าย

80 Nameless Fanboi Posted ID6:LCKkpNRPm9

ในอภิปรัชญาจีน เช่น ฉีเหมิน หรือ อิ้จิง
⁣⁣⁣
บุคคลประเภทที่ 3 ที่ไม่ควรช่วยเหลือก็คือ "คนขี้อิจฉาริษยา"
⁣⁣⁣
การที่ใครสักคนจะ อิจฉา-ริษยา ได้มันจะต้อง
1. คอยเปรียบเทียบกับผู้อื่น
2. ไม่พอใจในสภาพที่ตนเองเป็นอยู่
3. เกิดอารมณ์ลบ (กับผู้อื่น)
4. มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะ
⁣⁣
⁣⁣⁣
ข้อแรกก็คือ พวกนี้วัน ๆ ก็เอาแต่เปรียเทียบกับผู้อื่นเสมอ
⁣⁣⁣
ดังนั้นคุณช่วยอะไรไป เขาก็จะเอาสิ่งที่คุณช่วยไปเปรียบเทียบกับการที่คุณช่วยคนอื่น
⁣⁣⁣
เช่นสมมุติว่า ผมเป็นอาจารย์ ถ้าผมช่วยคนขี้อิจฉา คนขี้อิจฉาก็จะไม่ได้ไปสนใจสิ่งที่ผมช่วย แต่จะไปสนใจว่า ผมช่วยเขากับผมช่วยคนอื่นต่างกันยังไง
⁣⁣⁣
ทำไมทีช่วยเขา ช่วยแค่นี้, ทีช่วยคนอื่น ช่วยตั้งเยอะ

⁣⁣⁣คือ ไม่ว่าคุณจะช่วยเขามากแค่ไหน เขาก็จะมองว่า คุณช่วยเขาน้อยกว่า...(อีกคน)... เสมอ ในใจของเขา
⁣⁣⁣
เพราะว่าเขาคอยเปรียบเทียบตลอดเวลา
⁣⁣⁣
--------------------------------------------------
⁣⁣⁣
หรือไม่นั้นก็เปรียบเทียบการช่วยเหลือของคุณ กับ การช่วยเหลือของคนอื่น เช่น คุณช่วยเขาแค่นี้เอง ดูซินาย ก. ช่วยคนอื่นเขายังช่วยมากกว่าเยอะ
⁣⁣⁣
ดูซิคนนั้นช่วยให้ A ได้เป็นผู้จัดการ, ทำไมคุณช่วยเขาได้แค่เป็นหัวหน้าแผนก
⁣⁣⁣
ซึ่งสุดท้ายคุณก็เดาออกว่า...เขาก็จะไม่เห็นค่าสิ่งที่คุณช่วย มองว่ามันเล็กน้อยหรือห่วยแตก แล้วก็อยากไปหาคนอื่นที่ช่วยเขาได้มากกว่า ทิ้งคุณไป
⁣⁣⁣
--------------------------------------------------
⁣⁣⁣
ข้อ 2
⁣⁣⁣
เขามักไม่พอใจกับสภาพความเป็นอยู่ปัจจุบันของตนเอง
⁣⁣⁣
คือ ทำให้ไม่ว่าคุณจะไปช่วยให้เขาดีขึ้นยังไง ตัวเขาเองก็ไม่เคยพอ ไม่ได้คิดว่ามันมีค่ามากนัก
⁣⁣⁣
ต่อให้คุณช่วยให้เขามีรายรับมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า เช่น คุณทำให้ได้รายรับเพิ่มจาก 20,000 บาทต่อเดือน เป็น 40,000 ต่อเดือน เขาก็ไม่พอใจในสภาพปัจจุบัน
⁣⁣⁣
เพราะว่า ต่อให้เขาได้เพิ่มมา 2 เท่าแล้ว เขาก็ไปมองหาคนที่ได้มากกว่าแล้วไปเปรียบเทียบอีกอยู่ดี
⁣⁣⁣
ดังนั้นสิ่งที่คุณช่วยเหลือไป มันก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขา เพราะเขาสนใจว่า เขายังได้น้อยกว่า...(อีกคน)... อยู่ดี
⁣⁣⁣
แล้วต่อให้คุณช่วยให้เขาดีกว่าเดิม 10 เท่า เช่น จากเงินเดือน 20,000 ไป 200,000 บาท
⁣⁣⁣
แล้วคุณอาจจะคิดว่านี่ก็ช่วยคนนี้เยอะมากแล้ว เขาอยู่สบายแล้ว ไม่ต้องไปสนใจหรือช่วยแล้ว
⁣⁣⁣
พอคุณไปช่วยคนอื่นบ้าง เขาก็จะเปรียเทียบทันที ไปอิจฉา ริษยาคนใหม่ที่เราช่วยทันที ต่อให้คนใหม่เขาจะพึ่งเงินเดือนเพิ่มมา 2 เท่าแค่นั้นเป็น 40,000 บาท
⁣⁣⁣
แม้ว่าเขาตอนนี้ได้ 200,000 บาทแล้ว แต่เขาก็ไม่พอใจคนใหม่ที่เราไปช่วยอยู่วันยังค่ำเป็นต้น
⁣⁣⁣
ในเหตุการณ์จริง ต่อให้คุณช่วยให้มีชีวิตเขาสบาย เขาก็ยังไม่พอใจ เพราะมัวแต่ไปมองว่า คนนั้นก็สลายกว่า (ในด้านนั้น) คนนี้ก็สบายกว่า (ในด้านนี้)
⁣⁣⁣
ไม่ได้โฟกัสที่ตนเองว่า ตนเองนั้นตอนนี้ก็สลายกว่าคนอื่นเยอะแล้ว
⁣⁣⁣
ดังนั้นคุณช่วยเขาไป เขาก็ไม่พอใจกับสภาพปัจจุบัน (ที่ได้รับการช่วยจากคุณแล้ว) อยู่ดี
⁣⁣⁣
--------------------------------------------------
⁣⁣⁣
ข้อ 3
⁣⁣⁣
ก็ชัดเจนคือ มันเกิดอารมณ์ลบได้ง่าย ไม่พอใจ น้อยใจ โมโห สารพัดอย่างจะตามมา
⁣⁣⁣
สารพัดอารมณ์ลบเกิด ก็เชื่อได้เลยว่า เดี๋ยวสารพัดปัญหาจะตามมา ก็จะต้องเริ่มไม่พอใจ เริ่มบ่น เรื่องประชดประชัน เริ่มทำพฤติกรรมไม่พอใจ เริ่มทะเลาะกัน
⁣⁣⁣
⁣⁣⁣⁣⁣⁣
--------------------------------------------------
⁣⁣⁣
ข้อ 4
⁣⁣⁣
เป้าหมายในระดับจิตไร้สำนึกเขา มักเป็นไปเพื่อการเอาชนะเป็นหลัก!
⁣⁣⁣
แปลว่า สิ่งต่าง ๆ ที่คุณช่วยเหลือไป ผ่านไปสักพัก มันจะถูกแปลงเป็นสิ่งที่เขาสามารถเอาไปชนะอีกฝ่ายได้
⁣⁣⁣
เขาไม่ได้เอาความช่วยเหลือของคุณไป สร้างสิ่งที่ทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาวจริง ๆ
⁣⁣⁣
เช่น ในเมื่อเป้าหมายเขาต้องการเอาชนะใครสักคน สักพักความช่วยเหลือคุณ เช่น คุณช่วยให้เขาได้เงินเดือนเยอะขึ้น
⁣⁣⁣
มันก็จะกลายไปเป็น กระเป๋าราคาแพง โทรศัพท์ราคาแพง หรือเครื่องประดับราคาแพง เพื่อที่จะทำให้ตนเองดูเหนือกว่าอีกฝ่าย อยู่สูงกว่าอีกฝ่าย เพื่อจุดมุ่งหมายของเขาคือการเอาชนะอีกฝ่าย
⁣⁣⁣
เรื่องที่น่าสนใจอีกอย่าง ที่สำคัญสำหรับความอิจฉา-ริษยา ก็คือ...
⁣⁣⁣
มันมักตามมาด้วยพฤติกรรมการ "อวด"
⁣⁣⁣
⁣⁣⁣
ก็คือการอวดในสิ่งต่าง ๆ เช่น อวดรวย อวดชีวิตหรูหรา อวดความรัก อวดผัว
⁣⁣⁣
แถมช่วยคนประเภทนี้ไป ก็มักจะลงท้ายด้วยการที่เขาไม่สำนึกบุญคุณ และถูกเนรคุณได้ เพราะว่าในจิตไร้สำนึกของเขา เขาก็คิดว่าเราทำไม่ถูกเป็นปกติ เช่น คุณช่วยคนอื่นมากกว่าช่วยเขาอยู่ดี เป็นต้น
⁣⁣⁣
แล้วก็ตามด้วยเอาเราไปนินทา ไปใส่ร้าย ให้เราเสียหายอีก
https://www.facebook.com/photo?fbid=1086909913436875&set=a.507761728018366

81 Nameless Fanboi Posted ID6:qvk1S0gcP4

>>80 กุเคยช่วยคนประเภทที่3มาแล้ว แต่เพราะเธอก็ดีกับเราหลายๆอย่าง
แต่ไม่ระดับ3แบบ100% เพราะมันไม่ได้อวดอะไรเท่าไร สำหรับกุแฟร์ดี ชอบเหมือนเดิม
เธอชื่อคล้ายนางสีดา

82 Nameless Fanboi Posted ID6:1ex.7Wq81w

หนังสือโม่ง 6:12-14
12 "ข้าพเจ้าเคยช่วยผู้คนประเภทที่ 3 มาแล้ว, ด้วยเหตุผลที่เธอมีความดีหลายประการที่แสดงออกให้เห็น
13 แม้เธอจะไม่ถึงระดับ 3 แบบ 100%, เพราะมันมิได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
14 แต่สำหรับข้า, ความยุติธรรมยังคงมีอยู่, และข้ายังคงรักเธอเหมือนเดิม, ชื่อของเธอคล้ายคลึงกับนางสีดา."

83 Nameless Fanboi Posted ID6:oVyFNatpCy

แหล่งรวมพวกเอ๋อหรอวะ

84 Nameless Fanboi Posted ID6:n.uQQbrSQI

>>83 มึงอาจมองพวกกุเพ้อเจ้อ แต่กำลังภายใน พลังวัตร ทำให้กูเพิ่มลดขนาดได้ตามต้องการ ไม่ต้องไปผ่าแบบมึง

85 Nameless Fanboi Posted ID:UA0+aONaN7

จิตใจเราขุ่นมัวได้ จากปัจจัยภายนอก แต่สิ่งนี้ก็เป็นพลังได้เช่นกัน คือการกลืนกิน อารมณ์ขุ่นมัวนั้นให้เป็นพลังของเรา

กุว่านี่คือลักษณะเด่นกุ ที่กุยืนเหนือโลกนี้ เหนือคนอื่นไม่ว่ายังไงก็ตาม

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.