Fanboi Channel

โม่งปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ครั้งที่ 4

Last posted

Total of 29 posts

18 Nameless Fanboi Posted ID6:SwV0i9tuQ8

>>17
ปัญหาแบบนี้แก้ได้หลากหลาย
หนึ่งคือที่ใจ ฝึกวิชาเพื่อทำตัวให้ชิน เสียงก็เป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่ง โสตประสาทย่อมเป็นของเราให้คุมได้
สองคือที่กาย ที่อุดหู หูฟังตัดเสียง วัสดุกันเสียง การจัดสภาพห้องให้กันเสียงรบกวนมากที่สุด ก็เป็นวิชาอย่างหนึ่ง

19 Nameless Fanboi Posted ID:vaiPoozJYQ

คิดยังไงกับข่าวเภสัช ฆตต แต่หัวหน้าไม่ได้กลั่นแกล้ง แค่ให้ลาออกจากงานไปพักผ่อน
กลับโดนบอกว่าที่ทำงาน toxic และเขียนจดหมายลาตาย โทษ หัวหน้างาน

สรุปการตาย ก็คือ การลาออกจากงานอยู่ดีไหม

20 Nameless Fanboi Posted ID6:Is/T2Ph5rK

เมื่อก่อนไลค์เป็นพันตอนนี้ หลักสิบ ผู้ติดตามเกือบแสน ทำยังไงให้ไม่คิดมากวะ คือกูรู้ว่าไร้สาระแต่มันใจฟูเวลาเห็นตัวเลขเยอะๆ คงเพราะกูว่างเกินไป เป็นแม่บ้านรอผัวกลับบ้านแล้วทำข้าวให้ผัวกิน กูเป็นซึมเส้ามาหลายปีทุกอย่างค่อยๆดีขึ้นยกเว้นเรื่องเหี้ยนี้ ยอดไลค์ เพราะเคยเป็นอินฟูมาก่อน เลยยึดติดกับไลค์เกิน ขอกำลังใจในการเปลื่ยนแปลงตัวเองที ทุกวันนี้จดโพสอิดแปะไว้หน้าคอม ว่าอย่าคิดมากเรื่องไร้สาระ

21 Nameless Fanboi Posted ID6:creuLAUm0S

ลองทำแบบทดสอบตามคลิป59วิ
-กุโกหกใครไม่เก่ง
-การถนัดใช้ตรรกะ คิดวิเคราะห์สถานการณ์

22 Nameless Fanboi Posted ID:Uny7NPgCjF

>>20 แค่ยอดไลค์กูมีแทบไม่เคยถึง 2 หลัก มึงจะกังวลเหี้ยไร 555 attention มันแดกไม่ได้(ถ้าไม่มี spon 555)

23 Nameless Fanboi Posted ID6:qvk1S0gcP4

>>22 ก็แปลว่าเมิงไม่ได้รับการยอมรับไง
เมื่อก่อนกุไม่อยากจะคุย
คนแอนตี้ ตั้งเพจกู ก็มี เยอะแยะ
พอมาในโม่งก็มีพวกแอนตี้ตามติดชีวิตกูอีก
ทุกคนจ้องจะทำร้ายกุหมด

เหมือนกุที่เล่นเกมไหนก็ชนะ เพราะอะไรรู้ปะ

24 Nameless Fanboi Posted ID6:P99LKCMYy1

>>23 มึงคือไข่ต้มเบงเคหรอวะ

25 Nameless Fanboi Posted ID6:1ex.7Wq81w

หนังสือโม่ง 4:16-18
16 ในวันนั้น ขณะที่โม่งดาบชั้นเยี่ยวได้เดินทางออกจากโลกไอพีวี 4 เพื่อไปสู่การใช้ไอพีวี 6,
17 โม่งคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นว่า "อย่าทิ้งโม่งไปเลยเถิด, เอ๋อ อย่าทิ้งโม่งเลยเถิด, เรารักท่าน แม้ท่านจะเป็นจิตเวชตกต่ำ และยึดมั่นในความเกลียดชังผู้หญิงก็ตาม"
18 ทันใดนั้น โม่งจอมบงการได้หันมาตอบว่า "หากโม่งไม่ทิ้งข้า, แล้วข้าจะทิ้งโม่งได้อย่างไร?"

26 Nameless Fanboi Posted ID:D5ky+JqpRr

ไม่รู้คนอื่นนะ ปกติกุไม่ชอบคุยกับคนอื่นหรือยิ้มให้คนอื่นเลย
Smiling means letting your guard down in front of another person, even if just a little.

กับใครกุไม่คุยด้วยจนแม่นึกว่าเป็นใบ้ เพราะตั้งแต่เด็ก กุไม่เคยร้องอุแว้เลย

หลายครั้งครูประถมก็หาว่ากุเป็นเด็กออทิสติก
สำหรับ กุทุกคนที่อยู่ในโลกนี้ เป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น

27 Nameless Fanboi Posted ID6:6YhNbiu/m1

แต่มึงนี่ยิ่งกว่าออทิสติกอีกนะ

28 Nameless Fanboi Posted ID6:B0Rk4Q8dQO

>>26 Eastern Europe is welcoming นะ ที่นี่มีคติว่า อยู่ๆจะยิ้มโดยไม่มีสาเหตุอะไร = มึงบ้า
พนักงานบริการที่นี่ไม่ยิ้มกันเลย จะยิ้มต่อเมื่อสนิทกับใครจริงๆจังๆเท่านั้น
ออทิสหน้านิ่งๆมาอยู่ได้สบายโดนคนไม่สงสัย

29 Nameless Fanboi Posted ID:OPuJnz7Ezp

>>28 กุไม่ได้เป็นพวกยุโรป ตะวันตก
กุแค่ไม่ต้องการลดการ์ดของกูลง
แม้ยิ้มเล็กน้อย เป็นการเปิดช่องโหว่

ยิ้มคนเดียวอะได้ แต่ต่อหน้าคนอื่น เท่ากับว่าเมิงอ่อนแอไง

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.