Last posted
Total of 331 posts
ช่วงนี้สายพนักงานบ. มีคอนเท็นต์โจมตีเจน z เยอะจังหว่ะ ซึ่งตอนนี้คือช่วงที่เจนนี้จะจบมาเป็นพนักงานใหม่
กูเจน x ปลายๆ y ต้นๆ ที่ บ.ก็เน้นรับแต่พวกมีประสบการณ์ (เลยมีแต่เจน y) ยังไม่เคยเจอพวกเจน z เลยว่ะ มันเป็นแบบที่เค้าลือกันไม้วะ แบบ 10 คนจะมีใช้งานได้จริงๆ แค่ 2-3 คน
ลักษณะเจนรวมๆ
Gen Y - เก่งรอบด้าน เปลี่ยนงานบ่อย ความภักดีองกรค์ต่ำ
Gen Z - รักสบาย ความอดทนต่ำ รับคำตำหนิไม่ได้ (จากการที่พ่อแม่เจน x ประเคนให้) สกิลการสื่อสารแย่ ทำแค่งานที่ได้รับมาเท่านั้น
>>206 เอาเท่าที่เจอนะ ก็ ... ปากเก่ง เจนนักฉอด ฉอดได้ทุกคนทุกเรื่อง แต่พอเวลาตัวเองพลาด ขอโทษไม่เป็น ฉอดคนอื่นได้ทั้งโลก แต่โดนคนอื่นตำหนิไม่ได้ หน้าจะเป็นตูดทันที เรื่องสกิลการสื่อสารก็ด้วยความที่ถนัดแต่ฉอด ไม่ถนัดพูดอะไรดีๆ เลยมักจะพูดจาแย่ๆ ทั้งในแง่ของเนื้อหาและมารยาทการใช้คำใช้ภาษา นอกนั้นก็ รักสบาย ไม่มีน้ำใจ ทำเท่าที่สั่ง อันนี้เหมือนที่คนอื่นๆ บอก ส่วนเรื่องเก่งเรียนรู้ไวนี่ปัจเจกเลย แล้วแต่คน มีทั้งคนเก่งและคนกากเหมือนทุกเจน
>>206 กูไม่มีน้อง gen Z ในทีมโดยตรง แต่กูว่าการปั่นกระแสอะไรแบบนี้ก็มีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว
อย่างกูเป็น gen Y ตอนเข้าทำงานก็เจอคำพูดว่าเด็ก gen Y แย่งู้นงี้ทั้งจากคนในออฟฟิซ, คอนเท้นบนเน็ตแบบนี้เหมือนกัน
และกูเชื่อว่าเดี๋ยวถึงยุค gen alpha ถึงวัยทำงานมันก็จะมีเรื่องแบบนี้อีกเหมือนเดิม
กูทำราชการ มีบ้านพัก บางครั้งเวลาทวงงานคนบ้านพักเดียวกันแล้วเขาไม่ส่ง พอถึงเวลารายงานผู้บังคับบัญชา กูรายงานตามจริง เขาโดนคาดโทษ กูก็มากระอักกระอ่วนอีกว่าเขาจะคิดยังไง เพราะต้องอยู่บ้านพักเดียวกัน เจอหน้ากันแทบ 24 ชม. แต่คือกูก็ทวงแล้วอะ ทั้งต่อหน้า ในแชท กูเลยแบบ เอ กูผิดมั้ย หรือกูทำถูกแล้ว
ถ้าเจอเพื่อนร่วมออฟฟิศประเภท toxic มึงมีวิธีรับมือยังไงวะโม่ง?
ระหว่าง
- ประกาศให้รู้ไปเลยว่ากูไม่ชอบมึง
- วางเฉย คุยกับมันเฉพาะเรื่องงานพอ
ส่วนตัวกูเป็นประเภท 2 นะ แบบแรกมันจะอยู่กันยาก มันต้องร่วมงานกัน
ถ้าเป็นอริกันตรงๆ แม่งจะอึดอัดใจเปล่าๆ
กูก้ก่อนนี้เคยคุยเล่นกับมันนะ แต่หลังๆ เพื่อนคนนี้แม่ง ประเภท เอาแต่ว่า
เอาแต่ติกู กูเฉยก้จริง แต่กูก็ไม่ชอบให้ใครมาว่าเอาง่ายๆนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำไง
ก็เลยมาแนว ไม่คุยไม่สุงสิงกะมัน คุยเฉพาะเวลาถามงาน
>>209 ทำเท่าที่สั่งนี่อย่างที่กูเข้าใจคือ ไม่มีน้ำใจทำแผนกอื่นด้วย ทำแค่แผนกตัวเองละจบ ไม่ดูภาพรวมงาน ไม่พยายามมาดูงานแผนกอื่นว่าจะยังไงต่องี้ป่ะ? หรือว่าแม่งต้องรู้ใจคนเก่างานหรือรู้ใจเพื่อนร่วมงานหมดทุกเรื่อง? ถ้าแบบแรกกูพอเข้าใจ เออ มันไม่โอเคนะ แต่แบบสองกูว่าเจอเยอะเหมือนกันนะ ประเภทที่ว่ามา7วันแม่งก็ด่าเด็กใหม่แบบนั้นแบบนี้ ถ้าจะทำสันดานแบบนี้ใส่เค้านะ เก่งกว่าแม่มันก็ไม่มาทำงานด้วยอ่ะเอาตรงๆ
>>216 ทำเท่าที่สั่งของเด็ก GenZ ที่เจอคือ
1. พองานตัวเองเสร็จ ก็ใส่หูฟังนั่นเล่นมือถือไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าไปสั่งงานเพิ่มจะจิ๊ปาก ไม่พอใจ ชักสีหน้า แล้วอวดอ้างว่าเป็นเพราะตัวเองเก่ง ทำงานเร็ว เลยได้งานเพิ่ม (แต่ความจริงคือเขาไม่ยัดงานให้เยอะตั้งแต่แรกเพราะกลัวเด็กจะท้อ เลยค่อยๆ ทยอยให้งานเพื่อดู pace ของเด็กก่อน และที่ไม่ยัดงานเพื่อเด็กจะได้มีเวลาทบทวน process งาน ทำแมนนวลเป็นของตัวเอง ทำความเข้าใจ ฯลฯ แต่ผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่ว่ามา)
2. พวกงานจิปาถะ เช่น กระดาษเครื่องปรินท์หมดตอนตัวเองจะปรินท์พอดี ยังไม่เติม รอให้คนอื่นเติมค่อยมารวดปรินท์ งาน5ส งานwelfare งานCSRของบริษัท ฯลฯ ก็คือไม่เอาเหี้ยอะไรทั้งนั้น ไม่ใช่ธุระกู
>>216 เรื่องน้ำใจเล็กๆน้อยๆน่ะ จริงที่มันไม่มีระบุใน JD ว่าเป็นความรับผอดชอบหรือหน้าที่อะไรของมัน แต่น้ำใจบางอย่างก็เป็นการแสดงออกถึงความพร้อมความอยากร่วมมือกันทำงาน เช่น กูจะลาหยุดยาว ก็กระจายๆงานในแผนกไว้หมดละ แต่กูก็พูดเผื่อๆไว้ว่า เออ ฝากน้องๆช่วยกันดูงานเพื่อนด้วยนะมีอะไรโทรหาพี่ได้เลย แล้วเด็กเจนZมันก็โวยวายต่อหน้าเลยว่า ทำไมต้องดูงานของคนอื่นด้วยคะ? ภาระงานมันก็มี พี่ก็แจกแจงหมดแล้ว ทำไมหนูต้องเหนื่อยเพิ่มอีก? กูเลยกำหมัดแล้วบอกแค่ เอาน่าๆ มีไรโทรมาได้
>>219 แล้วพอตอนมันลายาวบ้าง > คนอื่นไม่ช่วยดูให้แทน > งานมีปัญหา > โทษคนอื่นอีกตามเคย เพราะจากประสบการณ์ ส่วนมากพวกที่ไม่เอาใครแบบนี้ พอคนอื่นไม่เอาตัวเองบ้าง มักจะโวยวาย หาว่าสังคม toxic ต่างๆ นานา ตามประสาคอนเซปต์ศูนย์กลางจักรวาล กูไม่เอาใคร ไม่ช่วยใคร แต่คนอื่นต้องซัพพอร์ตกู กูฉอดคนอื่นได้ แต่คนอื่นห้ามตำหนิกู
>>218-220 ขอสารภาพ ถ้าแนวนั้นกูว่าเจอเยอะและเยอะมาก เยอะแบบทุกวงการ แย่สุดคือเจอแบบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอย่างที่เอ่ยมา ด่าหมดทุกคนไม่สนอะไรทั้งนั้น อันนี้เป็นที่สันดานโคตรตระกูลสักฝั่งของพ่อแม่มันอ่ะ มีทุกเพศ ทุกวัย ทุกยุคนะ ยิ่งพวกไม่ค่อยเล่าเรียนนี่โคตรหนักนะกูบอกเลย ถ้าไม่ติดสวัสดิการที่ทำงานค้ำคอกันอยู่ก็เก็บหลักฐานส่งHR แม่งให้หมดละค่อยลาออกอ่ะเอาจริงๆ เจอแบบนี้กูหาพวกละระดมเทความเห็นแก่ตัวให้มันให้หมด ถ้าต้องเข้างานตรงกับมันหรือก่ะงานเดียวกันกูรู้ได้ ลางานได้ก็ลาเลย อีที่เป็นไปได้นะ ย้ายแผนกได้ก็ทำแม่งไม่สนลูกใคร
สุดท้ายก็ทุกเพศทุกวัย พวกมึงจะหาเรื่องมาด่าแบ่งเจนกันทำไม
>>222 กูไม่รู้แม่ง ส่วนมากที่แบ่งเจนมีแต่แก่ๆกันแล้วอ่ะจะมาทำแบบนี้ กูเห็นน้องบางคนเด็กกว่าเกือบสิบปีทำงานไว มีไฟแรง ไม่สร้างปัญหากับใครไม่อู้ ทำตามแมนนวลงานให้ดีสุด กูเห็นเยอะแยะ บางคนเจนzถึกจัดๆ ป่วยก็มาทำงาน มาเอาเบี้ยขยัน กูยังเห็นเลย ไอพวกไม่เอาอ่าวหรือแม่งแบบทำอย่างที่โม่งบนๆว่ามานะ ร้อยทั้งร้อยคือมาทำงานเพื่อมาเอาเปรียบคนอื่น หรือชอบกดคนอื่นจนเป็นสันดาน ขนาดตำแหน่งมันก็ไม่ใช่หัวหน้ามันก็ทำ คนพวกนี้ถ้ากูเจอกูก็ไม่ร่วมงานด้วยหรอกแม่งtoxic ยิ่งอันตรายด้วยถ้าคนแบบนี้ได้ขึ้นตำแหน่งหัวหน้า ลูกน้องด้วยกันเองอยู่ยาก
>>222 มันเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วยส่วนนึงน่ะ อาจจะไม่ใช่เจนใหม่ซะทีเดียว แต่สิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนไป สังคมมันเปลี่ยนไป
เรื่องน้ำใจต่อสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องนี่กูรู้สึกจริงๆ นะ แต่คิดตามจริงๆ ก็ไม่ใช่ความผิดมัน แบบของกูสมมุติ แผนก A ทำไม่ทันจะแตกละ กูขอ แผนก B มาช่วยหน่อย
ซึ่งเจนใหม่ก็จะบ่นเยอะ(ของกูนี่คือโดนปฎิเสธต่อหน้าเลย ว่าไม่ช่วยครับพี่ หน้าที่ไม่ใช่) แต่มันผิดไหม เอาตรงๆ ก็ไม่ ก็ไม่ใช่งานมันโดยตรงจริงๆ
ซึ่ง กูเจอแค่ 2-3 คน N มันอาจจะน้อยเกินจะเหมารวมแหละ
อ่อ แต่กูมองว่าเด็กๆ รุ่นใหม่ที่ดีๆ ก็เก่งจริงนะ แบบรุ่นเก่าๆ แม่งบางทีไม่รู้ไง ว่าตัวเองแน่จริงไหม มันจะนอบน้อมไว้ก่อน ซื้อใจคนไว้ เผื่อซวย
เทียบกะเด็กใหม่ที่แบบกูเก่งจริง กูทำคุ้มแล้ว มันจะไม่แคร์คนอื่นมาก ซึ่งมองจากผลประกอบการณ์ "ถ้า" ลักษณะงานไม่ต้องไปดีลกะผู้คน กูว่าพวกเก่งแต่ไม่เอาคนอื่นนักก็เก็บไว้ใช้ได้ แต่ใดๆ ถ้างานแม่งต้องเข้าหาคนนี่ก็นะ
จากที่คุณบอกมา ดูเหมือนคุณจะเป็น "คนขี้เกียจที่ขยัน" นะครับ หมายถึงคุณอาจไม่ได้อยากใช้พลังงานหรือเวลาไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจลงมือทำ คุณก็จะทำให้เต็มที่และหาทางทำอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยไม่เสียแรงมากเกินไป
เป็นแนวคิดของคนที่ไม่ทำอะไรให้ซับซ้อนหรือเปลืองแรงเกินความจำเป็น แต่ก็ยังตั้งใจให้สิ่งที่ทำออกมาดีที่สุด แบบนี้เข้าทางแนวคิด "ถ้าต้องยกช้อน ก็ต้องได้พลังงานที่คุ้มค่า" เหมือนที่คุณบอก
เออวะ5555555+
อีพวกเด็กเจนzนะ พอถามงาน ก็โวยวายว่าพี่ดูเองไม่ได้รึไงพี่ต้องรู้มากกว่าหนู(ถ้ารู้แล้วจะถามมึงทำไหม) พอข้อมูลผิดขึ้นมา มันก็โวยวายว่าแล้วทำไมพี่ไม่ถามหนู(แล้วก็วนกลับไปข้อแรกใหม่)
กูถามหน่อย ตอนนี้กูทำงานที่นึงได้ 2 เดือน ตอนเข้ามากุมาด้วย JD ที่เกี่ยวกับการเคลียร์บิล เอกสาร บลา ๆ เน้นโคกับบัญชี แล้วงานกุมันไม่ต้องเซียน excel ขนาดนั้น แค่ได้สูตรบช.เบื้องต้น ซึ่งตามเนื้องาน+เงินเดือนมันตามสภาพที่กุรับได้แหละ
ปัญหาคือช่วงหลังมานี้เจ้านายเริ่มให้งานวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย บลา ๆ ที่ต้อง excel advance ไปอีกอะ ถ้ากุทำไม่ได้ตามที่เขาคาดหวังกุจะโดนไม่ผ่านโปรปะวะ ที่มาถามเพราะในแง่นึงกุมองว่า ตอนกุสมัครมา JD ระบุชัดอยู่แล้วว่างานกุไม่ต้องยุ่งส่วนพวกนี้
กุอยากทำนะ แต่กลัวทำได้ไม่ดี แล้วมันจะส่งผลกับการประเมินโปรที่เหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือนอะ
ถ้าเป็นทำงานแบบยิงยาว 10-12 ชม แบบอาทิตย์ละ 2-3 รอบนี้ ถ้าจะหาพัก แบบเอาไว้นอนเฉยๆ
เอาอพารทเม้น หรือ โฮสเทลดี คือ ที่ทำงานห่างจากบ้าน 1ชมกว่าๆ ไม่ค่อยอยากขับรถตอนเหนื่อยๆ
ที่เก่ากูงานหนัก แปดโมงยันทุ่ม ทุกวันแต่คนทุกในทีมเหนื่อยเหมือนกัน
ที่ใหม่กูงานกลางๆสิบเลิกสี่ แต่ในทีมทำอยู่ในคนเดียวที่เหลือนั่งตียุงกับหายหัว แต่ทำไมกูรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิมวะ 555
Ky กูเป็นเด็กจบใหม่ อยู่บ้านเฉยๆแต่พ่อแม่ไล่ให้ไปทำงาน กูก็สนองพวกเขา เขาให้สมัครอันไหนกูก็ไปแบบสมัครไปงั้นๆอ่ะ แต่ประเด็นคือมันดันสมัครผ่าน เป็นที่ทำงานใกล้บ้าน เงินเดือนตามเรทเด็กจบใหม่ แต่มันทำงาน 6 วัน กูทำงานจะครบเดือนล่ะแต่บ่นตลอดว่าไม่ชอบ สังคมห่วยแตก งานก็หนัก รู้สึกเวลาว่างที่เคยมีหายไปหมด พ่อแม่ก็กรอกหูว่าให้อดทน กูควรทำไงดีว่ะ ถ้าจะออกตอนนี้ประวัติจะเสียไหม แล้วถ้าจะออกพอมีเหตุผลดีๆไปบอกพ่อแม่ไหม คือแบบพ่อแม่จบไม่สูงเงินเดือนไม่เยอะ แต่พอกูทำงานกูคือเสาหลักบ้าน แต่เงินเดือนครั้งแรกออกก็ได้ไม่ครบตามจำนวน เขาบอกนับตามวันทำงาน(ไม่ได้เริ่มทำงานวันที่ 1 มาเริ่มเอาตอนสัปดาห์ที่ 2) ก็พอเข้าใจได้ แต่แบบทำงานมาเหนื่อยๆ อุส่าอดทน แต่ไม่มีอะไรดั่งใจซักอย่าง งานก็ไม่ชอบมันก็แค่ตรงสายที่เรียนมา(ตอนเรียนคือไม่ชอบแค่เลือกตามเพื่อนแล้วสู้จนเรียนจบ) เวลาพักก็ไม่มี ไหนจะเงินเดือนครั้งแรกก็ได้น้อยอีก ท้อจนรู้สึกโทษทุกอย่างไปหมด ควรวางแผนชีวิตตัวเองยังไงดี หลักๆคือถ้าลาออก บ้านจะไม่มีรายรับ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องถ้าจะทนต่อจนร่างกายพัง ชอบงานราชการ งานสบายๆแต่รับสมัครปีหน้า รู้สึกอยู่ทนไม่ไหวขนาดนั้น แต่ถ้าหางานอื่นก็มีแต่ไม่ชอบ หันไปทางไหนก็ทำงาน 6 วัน ไม่ก็เงินเดือนน้อย หรือจะไกลบ้านก็ไม่คุ้มรายรับ-รายจ่ายอีก ควรทำยังไงดี
>>239 รายละเอียดเยอะจริง ทุกวันนี้คงหาคำตอบดีๆในโม่งยากนะ คนปกติแทบจะไม่เหลือเล่นกันละ หรือถ้าเหลือก็คงไม่เล่นห้องนี้หรอก แต่ไม่มีใครรู้สถานะตัวเองดีเท่ามึง ก็ลองบวกลบคูณหารดูละกัน ส่วนความลำบากช่วงนี้ก็ต้องเลือกแล้วหล่ะ ว่าจะทนต่อไปมันจำเป็นหรือเปล่า ถ้าที่บ้านไม่มีรายรับจะอยู่ยังไง ลองหางานใหม่ไปก่อนพลางๆดีไหม บลาๆ เรื่องประวัติไม่ต้องแคร์มากหรอกถ้าความสามารถถึงตอบได้มันก็โอเค แต่กูไม่รู้มึงทำงานอะไร มายเซตกูอาจไม่ตรงเพราะสายกูเน้นย้ายอัพเงินเป็นว่าเล่นเลยน่ะสิ เอาเป็นว่ากูเป็นกำลังใจให้ละกัน ถึงคำพูดอาจจะกูจะดูกลวงๆแต่ก็หวังว่ามันจะส่งไปถึงมึงและช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะ
>>239 เอ่อ แล้วเมิงจะเอาเงินที้ไหนแดกวะ ครอบครัวก็ไม่ได้รวย เอาแต่งานสบาย ราชการ เช้าชาม เย็นชาม สมกับเป็นเด็ก genz
ลองเอาหลักกุไปใช้ไหม ถือหลักว่างานไหนที่ทำจนไม่ท้าทายแล้ว ก็ลาออกจากไปหาที่ท้าทายใหม่ เหมือยพัฒนาตัวเอง จนมีสกิล เป็นเจ้าของกิจการได้อะ งานเมิงที่ทำอยู่มันไม่เสียเปล่าหรอกถ้าเมิง handle ได้
ก็คงย้อนถามเมิงนั้นละ ว่า ชีวิตนี้จะไม่เอาอะไรแล้วใช่ไหม ถ้าใช่ ลาออกเลย
ชีวิตมันเป็นของเรา
>>241 มันไม่ได้กวนตีน เมิงแค่โง่ไม่เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์ ถ้าทำงานไม่คุ้ม อยู่บ้านเฉยๆก็ได้
ถ้าพอมีเงินเก็บสักครึ่งล้าน ตีไปค่าอาหาร ค่าเน็ต ค่าไฟเท่าไร บ้านอยู่ฟรี ตีไป7000ต่อเดือน
ปีนึง84,000บาท เมิงคงอยู่โดยไม่ต้องทำงานได้5ปี เงินหมดค่อยกลับมาทำงาน ไม่ต้องรีบ
จะไปเที่ยวตปท.ปลายปี วางแผนไว้นานละ ตอนแรกตั้งใจมากว่าจะไม่เอาคอมบริษัทไปด้วยเพราะกลัวทำหาย แต่วันก่อนประชุม ดันเหมือนจะมี issue ช่วงราวๆ timing น้้นพอดี งานเคลียร์ก่อนไปได้แต่อาจจะต้องเก็บตกหรือตาม feedback ทางเมลบ้าง (บริษัทมีกฎห้าม fwd เมลบริษัทเข้าเมลส่วนตัว) จริงๆ ก็ฝากไหว้วานคนอื่นช่วยดูให้ได้นะ แต่อีกใจก็กังวล หรือจะเอาคอมไปด้วยดีวะ... คนอื่นๆ เอาคอมไปกันมั้ยเวลาไปเที่ยวตปท.?
คิดยังไงกับข่าวเภสัช ฆตต แต่หัวหน้าไม่ได้กลั่นแกล้ง แค่ให้ลาออกจากงานไปพักผ่อน
กลับโดนบอกว่าที่ทำงาน toxic และเขียนจดหมายลาตาย โทษ หัวหน้างาน
สรุปการตาย ก็คือ การลาออกจากงานอยู่ดีไหม
สองแง่เรื่องนีัห้วหน้าไม่ได้ผิดแต่วิธีการมันมีหลายแบบให้งานสำเร็จ มึงจะเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องรักก็ได้แต่มันอาจจะปืนเกลียวทำตัวแย่
คนส่วนใหญ่ชอบบอกหัวหน้า ปสด.เรื่องเยอะ แต่ชอบลืมไอ้คนลูกน้องหัวครวยบางตัวมันก็สันดานเสียจริง
เรื่องนี้ถ้าคนตายไม่ใช่เภสัชอาจจะไม่ได้เป็นข่าว
>>249 เคยมีน้องที่ทำงานเป็นซึมเศร้า ทำงานด้านยากมากกกก เพราะจะตำหนิอะไรไม่ได้เลย ต้อง brainstorm กันหาคำพูดที่จะอ้อมสุดๆ ซอฟต์ที่สุด บางทีพูดอะไรที่ธรรมดามากเลยนะ น้ำตาหยดแหมะมาแล้ว เงิบกันทั้งทีม หรือเจอภายนอกกกดันมา (ไม่ใช่ในทีม เช่น ลูกค้า คู่ค้า หรือหน่วยงานนอก) คนในทีมต้องออกหน้ารับแรงกระแทกแทนตลอด ทั้งที่เงินเดือนเท่ากัน ตำแหน่งเท่ากัน แต่เหมือนต้องทำตัวเป็นบอดี้การ์ดทางจิตใจให้ตลอดเวลา โชคดีลาออกไปเองละ ในทีมเลยสบายขึ้นเยอะ ถ้าใครมาว่าใจร้ายกูจะแง่มให้ กูว่าทีมกูใจดีสุดๆ แล้วพยายามประคับประคองกันสุดชีวิต หายใจไม่ทั่วท้องตลอดเวลา จะพูดจะทำอะไรเกร็งมาก เพราะบางทีพูดธรรมดา มันก็คิดลบคูณร้อยไปแบบที่กรรมการต้องอึ้งว่ามันคิดไปขนาดนั้นได้ไงวะ
กุเคยเจอหัวหน้าแบบนี้ คืออย่าพยายามพูดกับมันดีสุด ให้ทำตัวเงียบๆ ไว้
มันคือคนจริงจังกับงานอะ และพาทีมไปสู่เป้าหมายสำเร็จได้
ไม่ใช่ต่อล้อต่อเถียงกับมัน
>>246 >>247 ขอบคุณมาก ใจไม่ได้อยากเอาไปเล้ย กลัวทำหายที่ตปท.แล้วงานงอก แต่ก็กลัวจะกังวลเรื่องงานจนนอนหลับไม่สนิท อย่างน้อยเอาไปได้เช็คเมลซักวันละครั้ง ถ้ามีอะไรด่วนก็ยัง response ให้ได้ทัน น่าจะสบายใจกว่า ไม่ติดเรื่องจะไม่ได้พัก แต่กลัวเอาไปลืมหรือทำหายนี่แหละ คงต้องใช้วิธีฝากฝังกับคนอื่นไว้จริงๆ ถ้ามีอะไรด่วนให้เค้าไลน์มาเอา
ช่วยด้วย กุมาทำงานแค่เดือนเดียว แต่เพราะสิ้นปีมีการปรับเปลี่ยนแนวทางแผนกหลายอย่าง กลายเป็นว่าภาระงานกูตอนนี้ ในปีหน้าแทบไม่เหลือแล้ว ถึงจะไม่มีใครพูดอะไรแต่กูว่ามีแววโดนออกแหง ทำไรได้บ้างวะ งานก็หายาก
>>261 ลองคุยกับ HR ดูยังว่าแผนกอื่นตอนนี้มีรับคนบ้างมั้ย? เผื่อจะได้ rotate ไปตรงนั้นแทน แต่ถ้าไม่มีก็ต้องหางานใหม่แหละ ชีวิตมนุษย์เงินเดือนเอกชนมันก็แบบนี้ ต้นปีหน้าจะเป็นช่วงตำแหน่งว่างเยอะเพราะหลายคนรอโบนัสสิ้นปีออกแล้วค่อยเปลี่ยนงาน น่าจะหางานไม่ยากมาก ถ้าตอนนี้ละก็ยากแน่ๆ
>>262 ขอบใจเพื่อนโม่ง กูอึ้งเลย โปรก็ยังไม่ผ่าน แต่งานกำลังจะหาย กูแกล้งพูดขึ้นมาในที่ประชุมอยู่นะว่า อ้าว แบบนี้ก็ไม่มีงานให้ทำแล้วสิ คนในแผนกยังช่วยกันพูดให้กูใจชื้นว่ามีอันนั้นอันนี้อยู่ แต่หัวหน้าแผนกคือเงียบกริบ (ซึ่งกูเข้าใจว่าเป็นนิสัยเขาเพราะปกติเขาไม่ค่อยรับเรื่อง ไม่รู้ไม่สนใจอะไรตลอด คนในแผนกก็คอยด่าคอยเตือนกันอยู่เนืองๆ แต่มันทำให้กูรู้สึกแย่กว่าเดิมอีก)
ถ้าไม่มีตำแหน่งใหม่ลง วันต่อไปก็ไม่ต้องไปทำงานแล้ว ไปหางานใหม่รอได้เลยแบบนั้น
กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพ๎ยากะตา ธัมมา ฯ
สุขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา ทุกขายะ
เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา อะทุกขะมะสุขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา ฯ
วิปากา ธัมมา วิปากะธัมมะธัมมา เนวะวิปากะนะวิปากะธัมมะธัมมา ฯ
อุปาทินนุปาทานิยา ธัมมา อะนุปาทินนุปาทานิยา ธัมมาอะนุปาทินนานุปาทานิยา ธัมมา ฯ
สังกิลิฏฐะสังกิเลสิกา ธัมมา อะสังกิลิฏฐะสังกิเลสิกา ธัมมา อะสังกิลิฏฐาสังกิเลสิกา ธัมมา ฯ
สะวิตักกะสะวิจารา ธัมมา อะวิตักกะวิจาระมัตตา ธัมมา อะวิตักกาวิจารา ธัมมา ฯ
ปีติสะหะคะตา ธัมมา สุขะสะหะคะตา ธัมมา อุเปกขา สะหะคะตา ธัมมา ฯ
ทัสสะเนนะ ปะหาตัพพา ธัมมา ภาวะนายะ ปะหาตัพพา ธัมมา เนวะทัสสะเนนะ
นะภาวะนายะ ปะหาตัพพา ธัมมา ฯ ทัสสะเนนะ ปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมา ภาวะนายะ
ปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมา เนวะทัสสะเนนะ นะภาวะนายะ ปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมา ฯ
อาจะยะคามิโน ธัมมา อะปะจะยะคามิโน ธัมมา
เนวาจะยะคามิโน นาปะจะยะคามิโน ธัมมา ฯ
เสกขา ธัมมา อะเสกขา ธัมมา เนวะเสกขานาเสกขา ธัมมาฯ
ปะริตตา ธัมมา มะหัคคะตา ธัมมา อัปปะมาณา ธัมมา ฯ
ปะริตตารัมมะณา ธัมมา มะหัคคะตารัมมะณา ธัมมา อัปปะ-
มาณารัมมะณา ธัมมา ฯ หีนา ธัมมา มัชฌิมา ธัมมา ปะณีตา ธัมมา ฯ
มิจฉัตตะนิยะตา ธัมมา สัมมัตตะนิยะตา ธัมมา อะนิยะตา ธัมมา ฯ
มัคคารัมมะณา ธัมมา มัคคะเหตุกา ธัมมา มัคคาธิปะติโน ธัมมา ฯ
อุปปันนา ธัมมา อะนุปปันนา ธัมมา อุปปาทิโน ธัมมา ฯ
อะตีตา ธัมมา อะนาคะตา ธัมมา ปัจจุปปันนา ธัมมา ฯ
อะตีตารัมมะณา ธัมมา อะนาคะตารัมมะณา ธัมมา ปัจจุปปันนารัมมะณา ธัมมา ฯ
อัชฌัตตา ธัมมา พะหิทธา ธัมมา อัชฌัตตะพะหิทธา ธัมมาฯ
อัชฌัตตารัมมะณา ธัมมา พะหิทธารัมมะณา ธัมมา อัชฌัตตะพะหิทธารัมมะณา ธัมมา ฯ
สะนิทัสสะนะสัปปะฏิฆา ธัมมา อะนิทัสสะนะสัปปะฏิฆา ธัมมา อะนิทัสสะนาปปะฏิฆา ธัมมา ฯ
ข่าวแว่วๆมาละว่า บ. กูปีนี้ผลประกอบการไม่ดี โบนัสน่าจะน้อย คิดๆแล้วก็อนาถใจ
เพราะบริษัทที่ทำธุรกิจเดียวกัน บ. อื่นๆเค้าผลประกอบการดีกันหมด สาเหตุก็ไม่พ้นเรื่องการเมืองภายในบริษัท
แต่บ่นไปงั้นแหละ กูคงยังไม่ย้ายไปไหนหรอก เพราะที่นี่ WFH ได้เกือบ 100%
ตอนนี้ธุรกิจเดียวกัน บ. อื่นเค้าไม่ค่อยให้ WFH เยอะๆกันละ
เหนื่อย เบื่อ ก็รู้อะนะว่าเค้าจ้างมาเดือนละหลายหมื่นไม่ได้ให้เรามานั่งสบายหรือมีความสุขอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้ท้อๆ เหนื่อยๆ เบื่อพาลหงุดหงิดไปหมด
กุขอบ่นหน่อยเถอะ มีเพื่อนกุคนนึงแม่งเรียนก็ไม่ได้เก่งอะไรนะ จบ ม ธรรมดา แต่แม่งได้เสือกงานเป็นนักกฏหมายบริษัทประกันต่างชาติ ตอนนี้วันๆแม่งเข้า บริษัท เดือนละ 2-4 ครั้ง ถามแม่งบอกเข้าไปแค่เตรียมเอกสารเวลาไปชี้แจง คปส อะไรเนี้ยแค่นั้นเอง
คือกุโครตอิจฉาเลยสัด แม่งเงินเดือนก็เยอะ ทำงานที่บ้านเกือบตลอดเวลาอีกถามแม่ง ค่าไฟอะไรที่บ้านก็จ่ายให้หมด ปู่แม่งรวย เวลาไปข้างนอกบริษัทก็มีเบี้ยเลี้ยงให้ 300 หรือ 500 ถ้าต้อง ตจว ส่วนกุแม่งต้องแหกขี้ตาเพื่อขึ้น BTS ต่อ MRT ทุกวัน ค่าเดินทางไปกลับแม่งก็รอไปหลายพันแล้วต่อเดือน ไหนจะภาระเช่าห้อง ค่าไฟ ต้องส่งเงินให้แม่อีก แม่งเอ้ยเงินแถบไม่พอ คนเราแม่งทำบุญด้วยอะไรวะสัด
บุญ เส้นสาย แข่งไม่ได้ และที่ดีๆไม่มีให้ทุกคนขยันก็ถีบตัวเองขึ้น รู้ตัวช้าก็ทนต่อไป
กุเคยเจอ junior ขับ bmw หรือบางคน ตอนเรียนมหาลัยที่บ้านให้เดือนละสามหมื่น
จริงๆไม่ได้ทำงานเพราะไม่มีกิน แต่ทำงานกะเอาสังคม และเงินที่ได้มาก็ไปใช้ช๊อปปิ้งเพิ่ม
ท้อว่ะงานดีแค่ไหนถ้าในมุมมองหัวหน้ายังไม่ใช่ก็คือไม่ถูก
คือเขาเอามุมเขาเป็นหลักเลยพอกูทำเสร็จสักพักเขาก็เปลี่ยนเองแล้วบอกว่าคิดไปคิดมาอันนี้น่าจะเวิร์คกว่า แม่งทำกูรู้สึกเฟลมากแบบกูพยายามแล้วนะกูปรับมุมมองทัศนคติกับตัวกูเองหลายครั้งกูพยายามคิดว่าเออความคิดคนเราไม่เหมือนกันหรอก แต่พอเจอหัวหน้าพูด+ประโยคฮิตใช้มายเซ็ท+พูดกูทำงานแบบขอไปที ทำเอากูรู้สึกเฟลทุกครั้งกูตั้งใจทำงานมากนะแต่ทำกูท้อมาก แล้วเวลาพูดกูก็แย้งไปนะว่างานกูตั้งใจให้งานเป็นแบบนี้เพราะอะไรหรือเสนออะไรไป แต่มุมเขาก็คือยังไม่โดน พอโดนเขาพูดเรื่อยๆกูก็โกธรแต่กูระงับด้วยการเงียบแบบมีเหตุผลเพราะกูกลัวว่าถ้ากูหลุดอะไรก็เอาไรหยุดกูไม่ได้ ตอนนี้มันทำให้กูรู้สึกเหนื่อยทุกครั้งที่ประชุมหรือเวลาเปิดคอมทำงานไปเลย แบบเหมือนอะไรกูก็ผิด กูรักงานนะแต่บางครั้งงานที่กูรักก็ทำกูเหนื่อย
เพิ่งได้งานใหม่ เป็นที่ที่มีเพื่อนสนิททำอยู่ ที่สมัครไปก็ตำแหน่งในแผนก/ฝ่ายเดียวกันกะเพื่อนนี่แหละ สัมผ่านจบตกลงเงินเดือนเรียบร้อย ตอนแรกhrแจ้งเริ่มงานกลางเดือนหน้า กุก้โอเคตอบตกลงไป แจ้งหน.ที่ทำงานปจบ.ออกสิ้นเดือนนี้ ละวางแพลนเก็บของกลับบ้าน+เตรียมไปทำธุระนู่นนี่ ทีนี้เพื่อนทักมาบอกว่าหน.แผนกมันอยากให้ไปเริ่มงานวีคสุดท้ายเดือนนี้เลยเพราะมีอบรม จะได้ได้ใบเซอร์ ซึ่งกุฟังดูแล้วก็สำคัญ อยากได้ใบเซอร์ แต่ถ้าจะไปเลยกุต้องแจ้งออกใหม่+รีบเก็บของด่วนๆ ต้องเปลี่ยนแผนหมดเลย ซึ่งค่อนข้างฉุกละหุก เพราะที่ทำงานใหม่อยู่คนละจังหวัดกับที่กุอยู่ตอนนี้ การขนของย้ายก็คือเรื่องใหญ่ ละที่ใหม่มีหอพักให้ แต่ต้องไปดูห้องก่อนค่อยนัดวันไปเก็บกวาดย้ายเข้าอีกที ซึ่งดูแล้วกุน่าจะหารถขนของไม่ทัน แล้วนัดทำธุระต่างๆนานาก็จะล่มหมด กุเลยไม่แน่ใจว่าจะไปเลยดีไหม เห้อ แต่ถ้าไม่ได้ใบเซอร์ก็เสียดายมากๆแน่ ต้องรอปีหน้าถึงถึงจะได้เข้าอบรมใหม่
ไปเริ่มงานที่ใหม่ รุ่นพี่ที่ทำงานใหม่ขอแอดไลน์ ถ้าปฏิเสธจะน่าเกลียดมั้ย? จะมีผลอะไรกับงานรึเปล่า? โปรแกรมแชทของบริษัทก็มี อีเมลก็มี หรือว่าโดยมารยาทก็ควรให้ๆ ไป แล้วถ้าลาออกหรือไม่ผ่านโปรก็ค่อยไปบล็อกเอาทีหลัง
>>276 เขาไม่ใช่รุ่นพี่ในทีมเรานะ ไม่น่าจะมีผลกับการประเมินโดยตรง กับเจ้านายกับรุ่นพี่ในทีมเราก็ให้ไลน์ปกตินะ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไรต้องติดต่อหรือแจ้งข่าวสารกัน แต่นี่อยู่คนละทีม เรื่องงานก็เกี่ยวข้องกันน้อยมาก ช่องทางติดต่อของบริษัทก็มี ไม่เห็นความจำเป็นต้องให้และไม่อยากให้ด้วย แต่เรามันก็เด็กใหม่ ไม่อยากไปสร้างศัตรู ไม่รู้ใครเป็นไง
ถามความเห็นคนในโม่งสิ่งที่มึงต้องมีคือวิจารณญาณแยกแยะความคิดเห็นของคนปกติกับโทรลให้ออกนะ :)
เจอโทรลระดับสูงสะด้วยนะห้องนี้น่ะ น่าจะเป็นห้องที่โทรลเยอะและดุสุดในโม่งละ มีตั้งแต่โทรลฟลัด โทรลสแปม ไปจนถึงโทรลจิตเวชหลายรูปแบบให้เลือกอ่าน
>>281
กางเกงโยคะน่าจะตัวใหม่ กูเห็นมันเริ่มห้องอื่นก่อน น่าจะมาจาก กามา ไม่ก็ เกม น่าจะเป็นตัวใหม่ ไม่ก็ตัวเดียวกะไอ Forex พิมพ์สุภาพคล้ายๆกัน + เน้นไปหลายห้อง
ไอตั้งมู้นี่ไม่แน่ใจ
ปกติโทรลจิตเวชขาประจำห้องนี้มันจะเริ่มห้องนี้ก่อน แล้วก็โพสอะไรยาวๆอ่านไม่รู้เรื่อง เอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาว มีคนไล่ตาม น่าจะเป็น schizophrenia เน้นก๊อปวางโง่ๆ
ละมีไอตัวฟลัดไอดอลไอนี่อยู่มานานละ น่าจะตั้วแต่สมัยยังมีห้อง netwatch เป็นโทรลยุคโบราณเลยมั้ง
กับไอทัศนคติแย่คือพี่ยามากุจิ ไอนี่พิมพ์เป็นเอกลักษณ์ ข้อดีไม่ฟลัด ข้อเสียคือทัศนคติที่พิมพ์มามันไม่แอ๊บแกล้งโทรลแบบตัวอื่น และมีลูกหาบกับแฟนขับมันคอยมาก่อกวนชูหาง คอสเพลย์ทุกครั้งที่โผล่มา
คิดถึงผมหรอครับ? ถ้าคิดว่าเป็นการฟลัดก็ขออภัยด้วย เพราะกางเกงโยคะของเราคือการออกแบบที่ให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ ทุกท่วงท่าของโยคะ ทุกการออกกำลังกาย และแม้แต่ในชีวิตประจำวัน รู้สึกสบายได้ตลอดทั้งวัน เนื้อผ้าที่ยืดหยุ่น กระชับ และระบายอากาศได้ดี มั่นใจในทุกมิติการเคลื่อนไหว เพราะไม่ว่าจะอยู่ในท่าผ่อนคลายหรือท่าท้าทาย คุณจะรู้สึกเหมือนใส่ผ้าไหมที่นุ่มนวล แต่ยังคงรองรับทุกการขยับได้อย่างลงตัว ลองวันนี้แล้วจะรู้ว่าความสบายไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ
>>282 Forex คนละคนกับผมประธานบริษัทกางเกงโยคะนะครับ ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการลงทุนหลอกลวงหรืออะไรแบบนั้นเลย การลงทุนที่ดีเพื่อเศรษฐกิจที่ดีควรมุ่งเน้นไปที่การผลิตสิ่งที่มีคุณภาพและมีประโยชน์จริงๆ อย่างเช่นกางเกงโยคะ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในการออกกำลังกาย แต่ยังช่วยเสริมสุขภาพและความสะดวกสบายในการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ ทุกการลงทุนที่มีคุณค่าและสร้างสรรค์ จะทำให้เราสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจในรูปแบบที่ยั่งยืนและมีผลดีในระยะยาวครับ
>>286 แต่คนตอบมึงตอนนี้มีคนเดียวนะ ซึ่งก็คือยามากุจิ กูแนะนำว่าตัดสินใจเองดีกว่าถึงไอนี่บางครั้งมันจะพูดถูกบ้างก็ตาม ส่วนตัวกูว่าให้ๆไปก่อนก็ได้ ถึงเวลาถ้ามีปัญหาค่อยบล็อคหรือดองแชทเอา ไอเรื่องคอนเนคชั่นแบบที่พรี่ยามากุจิโพสใน >>278 ก็ไม่ผิดอะ มีเยอะก็ดี หรือบางทีเขาอาจจะขอไลน์คนไปทั่วหวังคอนเนคชันก็ได้
อ่าห์ สมกับเป็นท่านจอมบงการ แค่การมีอยู่ และการพาดผ่าน แห่งเงามืด ของท่าน ผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง ก็ทำ ให้โม่ง ที่อ่อนด๋อยทั้งหลาย ถกเถียงกัน เรื่องตัวตนของ ท่าน หากเป็นเกม ท่านก็ต้องชนะ ท่านยามากุจิชั่งฉลาดล้ำ ทรงพลังยิ่งนัก
ขอโมเอะจงมีแก่ท่าน
ใกล้ฤดูกาลเปลี่ยนงานประจำปีละ หลังโบนัสออกมีใครแพลนจะเปลี่ยนงานบ้าง?
ถ้าทำงานแค่4เดือน ควรใส่ไว้ในเรซูเม่ป่ะ เพราะพอไปสัมมาแล้วโดนจี้ว่าทำไมรีบออก ทำให้ไม่รู้จะตอบยังไงให้สวยดี
โม่งกางเกงโยคะยังอยุ่มั้ยวะ
https://pin.it/78ulEBIOP
ช่วง นี้ กุทำงาน เว้ย ละพวก ลูกน้อง กุมี ใช่มะ ในแผนก กุซื้อของ มาหลายอย่าง หลายลัง เงินแผนกทั้งนั้น แม่ง มีคน แอบขนกลับบ้านว่ะ เอา ยกไป ทั้งกระปุกเลย พอเป็นของอร่อย ของแพงนะ ไม่ใช้แดกกันส่วนรวม กุ เอากล้องมาวางละ ไม่อยากติดกล้อง เพราะมันจะติด ประตูห้องน้ำ ด้วย เดี๋ยวเห็น มันจะเกร็งกัน กุเรียกมา อบรม จับได้ ต้อง สั่งสอน อิอิ กูเอาเหยื่อ วางล่อ แล้ว
ทีของไม่อร่อย ทิ้งไว้ จนราขึ้นนะ ขอแพงหน่อย โจรกรรมเชียว พวก เวน
พวกเด็กๆจบใหม่ เจน Z ความอดทนต่ำชิบหาย มาถามกูเรื่องจะแจ้งฝ่ายขายเรื่อง due ที่จะ lunch campaign ใหม่ ยังไง ทางไหน กูก็บอกไปว่า แล้วปกติคุยกับทางนั้นยังไง สรุป แม่งคุยกันในไลน์เฉย ส่งไฟล์ ส่งภาพ Banner ในไลน์ ทีนี้พอถึง due date หน้างานพังยับ ไฟล์โหลดไม่ได้ Banner ภาพแตก Agency ที่จัดสถานที่ไว้ ก็ไม่ได้ดึงมาเข้ากลุ่ม สรุปงานยก กูโดนด่ายับๆ เลยเรียกน้องมันมาปรับทัศนคติ ไปว่า "ถ้าสมมุติบุพการีน้องเสียชีวิต น้องจะตั้งไลน์กลุ่มแล้วเชิญคนรู้จักเข้าไลน์ เพื่อส่งการ์ดเชิญไปในนั้นใช่ไหมครับ หรือพี่อาจจะแก่แล้ว เลยไม่เข้าใจว่าวิธีการสื่อสารห่วยๆแบบที่น้องถนัด(ไลน์) มันมีประสิทธิภาพ และ Make sure ในการ Deliver สารที่น้องต้องการจะสื่อยังไง" พร้อมกับให้การบ้านมันกลับไปทำ Report เหตุผลที่เลือกใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ในการทำงานเป็นอันดับแรกก่อน Email สรุป เมื่อคืน HR โทรมาบอกว่าวันจันทร์น้องไม่มาทำงานแล้วนะ. เห้อ อ่อนไหว ปวกเปียก เอาใจยากจริงๆพวกเจน Z
ที่กูเจอตรงข้ามเลย มีแต่คนแก่ๆ นี่แหละที่ชอบใช้ไลน์กันจัง ส่วนเด็กส่วนมากจะไม่อยากใช้ไลน์ส่วนตัวกับเรื่องงาน ถ้าเป็นไปได้ขอติดต่อทาง mail บริษัท
>>299 ของกูกลับกันว่ะ หาลูกค้าได้ เป็นบอสัดเจ็กเพิ่งเปิดใหม่ ติดต่อกันทางเมลอยู่ดีๆเจ๊แกจะดีลผ่านไลน์ อ้างระบบยังไม่ลงตัวจะให้ส่ง quotation ผ่านไลน์ กูแอบแอดไลน์ไปปรากฏเป็นไลน์ส่วนตัวด้วย สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ ทางนั้นจะให้ส่งไลน์อย่างเดียวเลยต้องยอมปล่อยไป ไม่อยากนึกถึงภาพที่ส่ง PO ส่ง invoice กันผ่านไลน์ แล้วเกิดเหตุให้กูต้องมานั่งไล่ขุด evidence ที่ระบบลบไปรึยังก็ไม่รู้ คิดแล้วสยองสัส
ป.ล.นอกจากกูจะเกลียดพวกติดต่องานผ่านไลน์แล้วกูยังเกลียดพวกเหมารวมบ้าอำนาจแบบมึงด้วยว่ะ 555
>>309 ก็เมิงเป็นแบบนี้ไง ถึงเป็นหัวหน้าคนไม่ได้
เขาเรียกว่าบังคับ สั่งให้เมิงก็ต้องทำ ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาไม่ได้
ต่อให้คำสั่งจะโง่แค่ไหนก็ตาม เมิงไม่มีหน้าที่ต้องคิด ต้องมาสั่งสอนหัวหน้า เมิงต้องเข้าใจซะไหม
มันไม่ใช่บ้าอำนาจ แต่ คนแบบเมิงมันทำให้เสียระบบ เมิงแค่กลไกลฟันเฟือง ตัวนึงเท่านั้น
พวกที่ใช้ LINE ในงานนี่บ.ห้องแถวป่าววะ (ไม่นับ คนทำตำแหน่ง cc line official account นะ) กูเห็นบ.ใหญ่ๆ ที่มีกฎเรื่อง confidential เข้มงวด มี awareness เรื่อง security เค้ามีแต่ห้ามพนักงานใช้ LINE ในงานกันทั้งนั้น
>>312 เท่าที่รู้ไอดอล BNKบริษัทยอดขาย200ล้านบาทต่อปี
ยังมีเลย หลายคนบอกโรงงานนรกทำงาน 24 ชั่วโมง
เพราะต้องตามอ่านไลน์ตลอด ไม่อ่านวันเดียวตามโลกไม่ทัน
การใช้ไลน์ มันแก้ สถานการณืได้ทันทีเลยไง
สั่งการได้ไวโดยตรง สมมติเหตุเกิดหน้างาน
ก็พิมไลน์ไปขออนุมัติได้เลย ไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยาก มันเร็วทันใจสุด
แต่ยอมรับมันไม่secureจริง อาศัยการเตะคนเอา
บริษัทกุยังใช้ MS TEAM เลย ทั้งคอมและมือถือ และหัวหน้าจะไม่สั่งอะไรทั้งสิ้น ถ้าต้องการให้ช่วยจะมาแนว รบกวนเรื่องที่เค้าสุดทางแล้วจริงๆ ส่วนใหญ่แค่ช่วยให้หาข้อมูล หรือแนะนำพวกประกาศ คปภ. หรือกฏหมายที่เกี่ยวสัญญาประกันภัย (กุทำงาน บ ประกันฝ่ายกฏหมาย ส่วนหัวหน้ากุมาสายกฏหมายพวกจดทะเบียน แปลไทย-อังกฤษ ร่างสัญญา ฟันเงินเละ) ไม่มีใครมาใช้ Line คุยเรื่องานเลย Line มีไว้แค่เวลาไปเที่ยว หรือไปกินเลี้ยงจะถ่ายมาเก็บ คุยแหย่กัน
และที่สำคัญคือ จะทักแค่เวลางานเท่านั้น 10 โมงถึง 4 โมง งานจริงคือ 9 โมง ถึง 5 โมงนะ แต่ WFH เลยตื่นสายกัน 5555
>>310 ไปโทรลไกลๆตีน
>>311 ของกูก็เหมือนกัน เรื่องงานต้องคุยเมล ไลน์มีไว้แจ้งเรื่องจุกจิกในบอสัด ป่วย ลา ฝนตกรถติด ช่างแอร์เข้า มีกิจกรรม สมัยโควิดก็เอาไว้ลงผล atk
>>312 ไม่รู้ที่กูเจอมันจีนเทามั้ย ส่วนเรื่องไม่คุยงานในไลน์ของกูเป็นบอสัดเล็กก็จริงแต่บอสัดแม่เป็นยุ่น ติดต่องานต้องเมลเท่านั้น
>>315 ช่าย อ้างสั่วๆไม่ได้เพราะมีเมล reply ยาวเป็นหางว่าวพร้อมไฟล์แนบเป็นหลักฐาน ดีตรงเนี้ย
ปกติในบริษัทจะมีเมลล์ให้ใช้กันอยู่แล้วไง ตอนที่กูสั่งให้ไอ้เจน Z ไปคุยก็นึกว่ามันจะ Reply เมลล์ที่ขอ Quotation ต่อกันมา แต่มันคิดเองเออเอง ไปตั้งไลน์กรุ๊ป คุยเองเลย แล้วระดับ Management แบบกูจะให้ไปนั่งตามว่างานถึงไหนแล้ว Up to date detail ยังไงบ้าง มันก็ไม่น่าใช่นะ กูมีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณา Implement ต่อไง ละจากที่เคยเจอมาที่มันออกบ่อยๆสุดเนี่ย ก็พวกแบบไอ้เจน Z นี่ล่ะ ทำอะไรจะคิดเองเออเอง ไม่ชอบให้ตามงานแต่ตัวเองติดทำทรงไม่มาอัพเดท ไม่เคยสนใจวางแผน career path เหี้ยไรทั้งนั้น สนแต่สายมูตารางเสื้อสีมงคล ไอเทมกังหันแชกง เพื่อหวังจะบันดาลงานดีๆให้ เหยียดคนที่ทำตามกฏบริษัทุกอย่างว่าอ่อน แต่ตัวเองแหกกฏหาช่องเล็กช่องน้อยทุกข้อ แล้วมางอแงตอน KPI ไม่ผ่าน แล้วไหนจะเรื่องงอแงขอWFH เป็นระยะๆอีก ไม่แหกตาดูว่างานตัวเองต้องรับผิดชอบไปดูหน้างานบ้าง ไร้สาระชิบหาย ปรับตัวไม่ได้ กดดัน เครียด เบิร์ทนเอ้าท์ หาเวิ๊คไลท์บาล้านไม่เจอ เป็นซึมเศร้า แดกยาตายๆไปให้หมดโลกเหอะ รำคาญพวกเจน Z ละ
นี่แหล่ะเหตุผลที่คำว่า "เด็กสมัยนี้.." ไม่เคยตกยุค ยุคกูพวกกูคนทำงาน พวกกูแบกสังคม พวกเด็กรุ่นใหม่มันไร้น้ำยา พวกมึงไม่เคยลำบากอย่าปากดี โอ้...โซตัสเหี้ยๆ
>>319 ก็เมิงเป็นแบบนี้ไง ถึงเป็นหัวหน้าคนไม่ได้
เขาเรียกว่าบังคับ สั่งให้เมิงก็ต้องทำ ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาไม่ได้
ต่อให้คำสั่งจะโง่แค่ไหนก็ตาม เมิงไม่มีหน้าที่ต้องคิด ต้องมาสั่งสอนหัวหน้า เมิงต้องเข้าใจซะไหม
มันไม่ใช่บ้าอำนาจ แต่ คนแบบเมิงมันทำให้เสียระบบ เมิงแค่กลไกลฟันเฟือง ตัวนึงเท่านั้น
เอ่อ กุพูดผิดตรงไหน ถ้าคิดอย่างลูกน้อง เมิงจะได้คุมคนจริงๆไหม หรือเป็นแค่ตัวถ่วงทีม
เดียวแม่งอ้างซึมเศร้าอีก พวกนี้
โทรลเม้นเอง อวยตัวเอง อยู่ใน echo shamber กลวงๆ
อยากอิสระ ก็ไปทำฟรีแลนซ์ ไรเดอร์
ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร
>>324 ถ้ามึงอยากอิสระเจรงๆ การเป็นฟรีแลนซ์หรือไรเดอร์อาจดูเหมือนทางออก แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะเว้ย เมิงจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ไม่มีวันหยุด ไม่มีสวัสดิการ แถมยังต้องวิ่งแข่งกับเวลาไปเรื่อยๆ บางทีก็รู้สึกเหมือนทำงานหนักกว่าเดิมอีก แต่ถ้าคิดว่ามันคุ้มก็จัดไปเถอะ ทุกอาชีพมันมีข้อดีข้อเสียของมัน เหมือนกับพวกมันที่พยามควบคุมเราทุกคนอยู่
ต่อไปถ้าเด็กจบใหม่หางานไม่ได้มาทำไรเดอร์หมด นี้ประเทสไม่ฉิบหายเหรอวะ
พูดถึงฟรีเเลนซ์กูเคยลองลาออกมาทำดูนะ รากฎว่าทำได้1ปีกูกลับไปทำงานประจำเหมือนเดิมว่ะ พอลองออกมาทำนี่อย่างเเรกเลยคือกูควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่มีวินัย นั่งๆทำงานอยู่ชอบหลุดไปพัก หลุดดูยูทูป นู่นนี่นั่น บริหารเวลาไม่ดี เทียบกับงานประจำมีงานหนักก็ปั่นไป ช่วงว่างมันก็ชิวได้เเล้วเลิกงานก็คือเลิกงานสิ้นเดือนรอรับเงิน
เเต่ถ้าเป็นพวกมีวินัยกูว่าฟรีเเลนซ์กูว่าดีอยู่ ยิ่งทำเยอะก็รวยเยอะ
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.