กูเคยอยู่ทั้งสองฝั่งของสมการ ไม่รู้จะตอบไงดีขอเล่าแบบระบายยาวๆละกัน
ข้อแรก การนอยหวงเพื่อนเป็นเรื่องปกติ กูก็เคยเป็น สำคัญแค่มึงแยกแยะให้ได้ ไม่ประสาทแดกก็พอ การมีเพื่อนมันเป็นความสัมพันธ์หลวมมีได้หลายคน แน่นอนว่าสำหรับเพื่อนสนิทมึงก็อาจอยากให้เขาแคร์หรือสนิทกะมึงมากกว่าคนอื่น แต่ถึงยังไงอย่างงั้นเหอะ อย่าใช้เพื่อนสนิทเป็นนักจิตประจำตัว หรือพึ่งพามากเกินไป สุดท้ายคนเรามีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่มีใครมีหน้าที่มารับผิดชอบอารมณ์ความรู้สึกของตัวเรานอกจากตัวเราเอง เขาอาจจะยินดีทำให้มึง แต่สุดท้ายคนที่จะฉุดตัวเองจากปากเหวกได้มีแค่ตัวมึงเอง ถ้ามึงเป็นเพื่อนที่ดีมึงก็คงไม่อยากลากคนที่มึงแคร์ลงนรกไปกับมึงใช่มะ ลองดูตัวอย่างในห้องโม่งความรักก็ได้ ให้ยืมเงินเป็นหมื่นก็แล้ว พยายามนู่นนี่นั่น สุดตัวสมเป็นเพื่อนตายหายากเกรด S ใครเปิดกาชาเจอในชีวิตนี่โคตรคุ้ม ถึงเวลาสุดท้ายถ้าไม่ไหว ก็ต้องปล่อย และควรจะปล่อยด้วย ไม่งั้นมึงก็จะวนติดลูป หรือคอยช่วยเพื่อนมึงให้ติดลูปเหี้ยๆวนเวียนอยู่ในนรกที่สร้างขึ้นมาให้กันและกัน
ข้อสอง ความสนิทสำหรับมึงคืออะไร บางคนสนิทกันคือคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่คุยเป็นเดือนก็กับมาต่อติดได้ไม่มีข้อกังขา แบบนี้คือว่าด้วยความเชื่อใจ บางคนสนิทคือความถี่ ต้องคุยกันทุกวัน ถึงเวลาชีวิตไม่อำนวยก็ต้องเผื่อเวลาให้กันเสมอ บางคนสนิทอยู่ที่ความละเอียดอ่อน ช่างสังเกต คอยช่วยเหลือยามลำบาก ฯลฯ คนเรานิยามความสนิทไม่ตรงกัน มึงยังอายุไม่เยอะ สำคัญคือถ้าอยากได้เพื่อนสนิทแบบที่มึงต้องการมึงก็มีโอกาสอีกเยอะที่จะเจอคนไทป์เดียวกัน
ข้อสาม คนเราเกิดมาคนเดียว ตายคนเดียวเป็นเรื่องจริง ยกเว้นว่ามึงเป็นกัปตันเครื่องบิน 555 ถ้ามึงอยู่คนเดียวโดยประสาทแดกไม่ได้ มึงก็อยู่กับคนอื่นโดยประสาทแดกไม่ได้เหมือนกัน สมองมนุษย์มันออกแบบมาให้ปราถนาสิ่งที่ตัวเองคว้าไม่ได้ อะไรที่มันให้กับตัวเองได้ คนเราเลยมักจะไม่เห็นคุณค่า แต่เพราะไม่เห็นคุณค่าในสิ่งเหล่านั้น ตอนได้จากคนอื่นก็เลยไม่รู้ราคา