คนคุยกับแฟนที่ผ่านๆมาเกือบทั้งหมดเป็นแนวมีปัญหาครอบครัว ขาดพ่อบ้าง ที่บ้านทะเลาะกัน ส่วนมากก็ดีเพรส มีซึมเศร้านิดหน่อย
แล้วตอนคบอยู่ก็ทะเลาะกันเยอะ อยู่กันไม่ถึงปีครึ่งกูก็ทนไม่ไหวบอกเลิก มีคนนึงทะเลาะแล้วกรีดข้อมือ คนนี้ไม่มีปัญหาที่บ้านหลายๆอย่างถือว่าดี แต่ก็คบมาสองปีจนเจ้าตัวเอ่ยปากบอกเลิกเพราะจังหวะชีวิตไม่ตรงกัน คือกุก็เจอพลังลบที่แต่ละคนแผ่ออกมาเรื่อยๆ จนตอนนี้กุก็แผ่พลังลบไปด้วย
ก็ใช้เวลาอยู่ในการพยายามไม่คิดลบ ไม่แผ่พลังลบให้คนอื่น ทีนี้พอไปเล่นแอพหาคู่ ได้เจอคนนึงคุยแล้วเคมีเข้ากันจนเขาขอไอจี ได้ไปเดทเดินหาของกินเล่นที่เยาวราช ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนหลายๆอย่าง แล้วเขาคือครอบครัวอบอุ่น ประคบประหงม ไปรับไปส่ง ห่วงลูก ซึ่งกุก็ถูกเลี้ยงมาแบบนั้นก็พอรู้สึกได้ ตอนพิมพ์คุยกันก็ใช้คำน่ารักน่าเอ็นดู มีอัพเดทเลิกงานแล้ว ถ่ายรูปของกิน แถมหุ่นความสูงหน้าตาก็สเปค
คือกุยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่สถานะคนคุยรึเปล่า ตั้งแต่คุยกับเขาพลังลบในตัวกุก็มีบ้างแต่ลดน้อยลง แล้วแบบกุทำตัวไม่ถูกเจอคนที่แผ่เอนเนอร์จี้สดใส ทั้งชีวิตเจอแต่คนลบๆทำให้กุระแวงว่าทุกคนก็ต้องมีเอนเนอร์จี้ลบ หรือกุคิดไกลไปวะ แบบแฟนเก่าแต่ละคนมันสปาร์คคุยกันไม่ถึงเดือนก็ได้กันก่อนจะเป็นแฟน ความสัมพันธ์เอฟก็เคยมี บางทีกุก็คิดว่าหรือเป็นกุที่ท๊อกซิกเอง ทำให้ไม่มั่นใจว่ากุสมควรกับเขารึเปล่า แต่กุก็คิดว่าต้องทำตัวเองให้มีคุณค่ามากขึ้น ทีนี้กุก็พยายามคุมตัวเอง อยากจะคุยกันสักพัก ให้ความสัมพันธ์มันไปช้าๆไม่เร่ง จะไม่พยายามฉวยโอกาส หรือทำตัวเสี่ยงชวนคุยแนวนั้น มันแบบเป็นสิ่งที่กุไม่เคยทำมาก่อน กลัวว่าตัวเองจะซ้ำรอยเดิมทำมันพังอีก ปกติเขาควรคุยกันกี่เดือน แล้วถ้าจะพัฒนาใครจะเริ่ม คือปกติกุก็แบบสปาคแล้วมีโอกาสสองต่อสองกุก็จูบแล้วบรรยากาศก็พาจนได้กัน แล้วอีกฝั่งก็จะอ้อนจบที่เป็นแฟน อยากรู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง ปกติถ้าแบบเป็นคนคุยแล้วเผลอได้กัน ถ้าเกิดยังไม่แน่ใจในความสัมพันธื มันก็เหมือนปฏิเสธกลายๆ หลังจากนั้นจะคุยกันยากปะนะ