กูเพิ่งเรียนจบแล้วย้ายไปอยู่บ้านกับรูมเมทที่เคยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง อยู่กันสองคนไม่มีคนอื่น รูมเมทกูทำงานได้สองเดือนแล้ว ส่วนกูเพิ่งกลับมาไทยได้เดือนกว่าๆ ไปสัมภาษณ์งานมาบ้างแต่ยังไม่ได้สักที ถ้าหาไม่ได้ก็ว่าจะไปเรียนต่อ ตอนนี้กูไม่ได้ขอเงินที่บ้านแล้ว ใช้เงินเก็บ+เงินเหลือจากไปเวิร์ค เหลืออยู่เกือบครึ่งแสน คือใช้ได้อีกหลายเดือนอ่ะ
ปัญหาคือญาติๆของรูมเมทชอบมาจี้ถามรูมเมทกูว่ากูจะเอาไงกับชีวิต เมื่อไรจะได้งาน จะเรียนต่อหรือจะทำอะไร ถามซ้ำอยู่นั่นล่ะ กูไม่เข้าใจว่าเขาจะมาเผือกมาสอดอะไรชีวิตกูวะ เงินที่ใช้ก็เงินกู กูไม่ได้ขอเงินรูมเมทใช้สักหน่อย แล้วก็ไม่ใช่ว่ากูอยู่ในห้องทั้งวันซะที่ไหน กูออกไปข้างนอกทุกวัน ไปฟิตเนส ไปเรียนภาษา คือพ่อแม่พี่น้องกูก็ไม่ได้เดือดร้อนกับการที่กูยังหางานไม่ได้ อย่างมากก็ถามว่าถ้าหางานไม่ได้จริงๆจะเรียนต่อเลยมั้ย เรื่องงานรูมเมทกูก็โดนญาติด่าตลอด มันทำงานเงินเดือน 25,000 ให้มันลาออกไปทำราชการ คือทะเลาะกันเรื่องซ้ำๆเดิมๆ โคตรน่ารำคาญอ่ะ
หนักสุดเลยคือแม่รูมเมทเคยมาค้างเอานิยายที่กูวางไว้ในที่ของกูไปอ่าน โดยใช้คำพูดแบบ นิยายที่วางไว้ตรงโต๊ะไปไหน จะอ่าน คือไม่ถามเลยว่าหนังสือใคร พอกูไม่อยากให้ เขาก็แบบ ทำไมอ่านไม่ได้เหรอ เหมือนบีบให้กูต้องส่งให้ไปอ่ะ กูไม่โอเค ที่บ้านกูก็ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ บ้านกูเลี้ยงปล่อยอ่ะ ลูกมีอิสระ มีพื้นที่ส่วนตัว มีเวลาส่วนตัว แล้วก็แบบชอบโทรจิกกูเวลาโทรหาลูกสาวเขาไม่ติด พูดเรื่องซ้ำๆเดิมๆใจความเดิมอยู่นั่น กูประสาทเสียชิบหาย บล็อกเบอร์แม่งทุกคนไม่ให้โทรมา แม่งอึดอัดมาก ความอดทนหมดลงเรื่อยๆ กลายเป็นกูกับเมทแม่งทะเลาะกันเพราะประสาทเสียทั้งคู่มาหลายรอบละ กูจะไม่ทนละ ถ้ากูได้งานเมื่อไหร่กูจะย้ายออก