หวัดดีพวกชนชั้นแรงงานั้นต่ำชาวอีสาน
Last posted
Total of 1000 posts
หวัดดีพวกชนชั้นแรงงานั้นต่ำชาวอีสาน
มึง กูจะหาโรงพิมพ์งาน พิมพ์การ์ด แต่กูไม่รู้ราคาเท่าไหร่ มีทางเลือกอะไรมั้ย นอกจาก ถามไปเรื่อยๆ ทีละที่หาราคามาตรฐาน แล้วค่อยไปดูงานพิมพ์
คำว่า Thank you for your request นี่มันไม่สุภาพขนาดนั้นเลยเหรอ เราพิมพ์ตอบเมลคนไทยที่เค้าแจ้งมาเรื่องนัดคุยเกี่ยวกับโบนัส ในเมลก็บอกวันนัดต่อด้วยถามว่าสะดวกมั้ยตามสเต็ป เราก็ตอบไปตามข้างต้นแล้วบอกว่า i'm available บลาๆ แต่เค้าเอาเราไปนินทาว่าเป็นพวกสำคัญตัวผิด คิดว่าสำคัญขนาดต้องขอร้องให้ตอบเลยเหรอ มันเป็นหน้าที่คุณชั้นไม่ได้ขอร้อง อะไรทำนองนี้ คือประโยคที่เราตอบเมลไปมันไม่ควรใช้ใช่ไหม? แล้วเราควรจะตอบเค้าว่าไรถึงจะเหมาะสม?
>>940 ไม่เก็ตอีกคน ตกลงใครนัดใคร ทำไมถึงต้อง Thank you for your request (???) ปกติถ้าเค้าเป็นคนนัดแก แกก็ต้อง Thank you for the invitation / Thank you for inviting me แต่ถ้ามึงเป็นคนนัดแล้วเขาตอบรับ แกก็ต้อง Thank you for your reply to my invitation มันงงตรงอยู่ดีๆ มี request โผล่มายังไงจากไหน นัดคุยเรื่องโบนัส เขาไม่ได้ร้องขออะไรมึงนี่ แต่ใดๆ ก็ตามแต่มันก็ไม่น่าเกี่ยวกับการสำคัญตัวผิด แค่ใช้ภาษาผิดเฉยๆ
>>941 >>942 ขอโทษทีที่เล่าคลุมเครือ คือเราระแวงว่าจะมีคนในที่ทำงานมาเห็นกระทู้นี้น่ะ แต่ช่างเถอะ เอาตรงๆก็คือคนที่เมลหาเราน่ะคือหัวหน้าเรา เค้าจะนัดคุยเรื่องโบนัสของคนในทีมว่าแต่ละคนทำตามเป้าได้มั้ยไรงี้ เค้าก็เมลมาแจ้งวันนัดแล้วก็ถามว่าสะดวกมั้ยนั่นแหละ เราเลยตอบไปว่า thank you for your request. I'm available... บลาๆ เราก็มาตงิดใจทีหลังแหละว่าเราอาจจะใช้คำพูดตอบเมลไม่เหมาะกับบริบท แต่เราก็ได้ยินมาว่าหัวหน้าเราเอาไปนินทาตามที่เราบอกไปข้างบนจนเละแล้ว เค้าคงเข้าใจว่าเราข่มเขาล่ะมั้ง เขาว่าเรา(นินทา)สำคัญตัวผิด คุณไม่ได้สำคัญขนาดต้องให้ชั้นมาขอร้อง คุณจะมาหรือไม่มาตามนัดก็เรื่องของคุณหน้าที่คุณ จริงๆเหมือนเค้าคงใช้คำแรงกว่านี้อ่ะนะ แต่ความหมายก็ประมาณนี้
นั่งคำนวณว่าปลายปีต้องซื้ออะไรลดหย่อนบ้างแล้วรู้สึกผะอืดผะอมเหมือนจะอ้วก รู้สึกเหมือนทำงานมาเพื่อเอาเงินไปขัง 555 ซื้อจนแม่งไม่มีเงินจะใช้ ได้โบนัสเอาไปซื้อของขวัญให้ตัวเองงั้นเหรอ โถ เกิดมาไม่เคยมีคำนั้นในพจนานุกรมกู ซื้อประกันซื้อกองทุนกดฐานวนไป
>>945 เอาจริงมันก็เข้าใจได้อ่ะว่าต้นเรื่องมันใช้คำผิด ถ้าคนกันเองก็คงขำๆ เด็กมันเขียนไรมาวะ แต่ถ้าเหม็นกันนิดหน่อยนี่โดนเอาไปใส่ต่อยับ
เก็บไว้เป็นบทเรียนละกันเมิง ไม่ต้องพิมสวยหรูยืดยาว ok im available on xx / im free anytime, up to your comvenience ไปเลยยังได้ คุยกับคนไทยกุตอบภาษาไทยด้วยซ้ำ ง่ายดี ถ้ามีต่างชาติก็เพิ่มคำแปลไว้อีกแถวบรรทัดล่าง เผื่อเขาอยากรู้เรื่อง
ถือเป็นเงินเก็บไป อย่าคิดมาก
>>951 ของกู ประกัน 100k กองทุน 200k pvd เต็มที่ เหมือนกัน แต่ไม่มีดอกเบี้ยบ้าน ไม่มีช็อปดี
เรื่องเป็นเงินเก็บหลังเกษียณนี่บางทีกูก็คิดนะว่ามันดีจริงๆรึเปล่าวะ ไหนจะกลัวตายก่อนได้ใช้
หรือบางทีก็กลัวว่าตอนนั้นแก่จนไม่มีแรงทำอะไร ได้ไปเที่ยวไปกินมันก็คงไม่สนุกเหมือนไปตอนนี้
อีกอย่างก็กลัวเงินเฟ้อหนักๆจนเงินที่เก็บมามันเหลือค่าน้อยมากนี่แหละ
และแล้วปีนี้กูก็ยังหางานใหม่ไม่ได้เช่นเดิม
Resume ส่งไปเป็นร้อยเป็นพัน เรียกสัมภาษณ์หลักหน่วย แถมได้ไม่ตรงกับสายงาน
สมัครสอบราชการ พนักงานนั่นโน้นนี่ ก็ไม่มีอันไหนผ่าน สุดท้ายก็กินเงินบริษัทผีของที่บ้าน หลอกตัวเองว่ามีงานทำเหมือนเดิมไปอีกปี
นี่ก็ใกล้จะ 2 ปีละนะ ตั้งแต่กูเรียน ป.ตรี ใบที่สอง (บัญชี) จบมา สงสัยปีหน้าต้องต่อ ป.โท แล้วล่ะถ้ามันไม่มีที่ไหนเรียกอีกจริงๆ
ว่าไปถามหน่อย มีใครทำงานเกี่ยวกับขายประกันอะไรทำนองนี้มั่งหว่า
เพื่อนกูแนะนำบอกให้ไปสอบใบอนุญาตเป็นนายหน้าขายประกันเอาไว้ ก็คิดว่าจะสอบอยู่แต่ถ้าจะให้ขยับไปเป็นคนขายด้วยนี่ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรว่ะ เพราะกูคุยไม่เก่งเลย แถมเดิมทีกูเป็นคนขี้รำคาญด้วยกลัวว่าตอนลูกค้าถามนั่นโน้นนี่แล้วต้องตอบวกวนหลายรอบกูจะวีนแตกเนี่ยล่ะ
>>954 เกิดมาบ้านรวยก็โชคดีกว่าอีกหลายๆคนในนี้แล้ว ลองกูหางานไม่ได้สองปีแบบมึงสิ คงได้ไปนอนอนาถาข้างถนนแล้ว 555 นี่บางทีก็คิดนะว่าที่ตัวเองเป็นผู้เป็นคนได้ทุกวันนี้เพราะบ้านจนนี่แหละ 555 เลยต้องดิ้นรน ตะเกียกตะกาย เพราะรู้ว่าไม่มีใครรอซัพพอร์ตอยู่ข้างหลังแบบที่มึงมี ถ้าบ้านกูรวย กูน่าจะเหลวแหลกไม่เอาถ่านไปละ
>>956 ก็ไม่ได้รวยหรอก ที่บ้านกูทำงานกันหนักพี่น้องกูนี่ขยันออกทำงานสายๆ กลับบ้านทีเที่ยงคืนแทบทุกวัน พอมีรายได้ก็เอามาใส่กองกลางใช้จ่ายกันทั่วบ้าน แถมกูคอยช่วยบริหารเรื่องเงินๆ ทองๆ เพราะกูจบทั้งนิติฯ และบัญชีเลยถนัดหาช่องว่างทำให้มีเงินเหลือเก็บเยอะ อีกอย่างบ้านกูไม่ได้ฟุ่มเฟือยด้วยอยู่กัน 5-6 คนแต่อยู่บ้านทาว์นโฮมเล็กๆ งี้
ตอนแรกกูก็มีงานทำอยู่ที่ต่างจังหวัดนะ แต่เมื่อ 5-6 ปีก่อนที่บ้านเรียกเข้ามา กทม. เพื่อช่วยบริหารงานกิจการที่บ้าน แต่กว่าจะรู้ความจริงว่าให้มาทำงานบริษัทผีของที่บ้านแม่งก็กลับตัวไม่ได้ละ ตอนนี้คิดอยากจะออกเดินต่อแต่ติดปัญหาคือมันไม่มีที่ไหนจะเอากูเนี่ยล่ะ เลยต้องเกาะบ.ผีนี่ต่อไป
>>959 .....สงสัยเลย ประกันออมทรัพย์นี่คือเซฟโซนไหมวะ? หลายๆครั้งเห็นข่าวประกันถูกยกเลิกกรมธรรม์(แล้วข่าวมักถูกปิด) บางทีจ่ายเบี้ยทุกงวดก็กลัวๆหว่ะว่าถ้าเกิดมีเหตุชักดาบเงินลูกค้าคู่สัญญาสักอย่างขึ้นมาจริงๆกับบ.ประกันที่ทำอยู่ ถึงจะเป็นประกันออมทรัพย์ก็เหอะ เวลาจะขอยกเลิก ขอเงินคืน มันไม่ง่ายจนแบบเหมือนทำเรื่องขอถอนออกมาเพราะครบสัญญากรมธรรม์นี่ดิ จนตอนนี้กูกังวลสัสๆเลยว่าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ อย่างน้อยๆคือมันยังพอขายคืนได้ไง แค่เหี้ยสุดก็มูลค่าลดลงจนขาดทุนก็ยังได้เงินคืนบ้างบางส่วน แต่บ.ประกันนี่กลัวเหมือนลงเงินกับแชร์ลูกโซ่ชิบหายเลย พวกเงื่อนไขห่าไรไม่ให้ดูง่ายๆถ้าไม่ซื้อกรมธรรม์มันก่อนด้วยนะ
ของกูซื้อให้ลงมาแตะที่ฐาน15%ก็พอละ เยอะกว่านั้นไม่ไหวว่ะ เหมือนทำงานมาแล้วไม่ได้ใช้เงิน
กูเป็นพนักงานออฟฟิศ อายุ 35 แล้ว ขึ้นเป็นซีเนียร์ในสายงานมาได้ซักพัก แต่อะไรต่อมือะไรตันหมดแล้ว ถ้าอยากได้เงินสูงกว่านี้หรือความก้าวหน้ากว่านี้ต้องลาออกไปบริษัทอื่นเพื่อสมัครตำแหน่งใหม่ แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่เพราะเห็นเพื่อนหรือรุ่นพี่บางคนโดนบีบให้ออกเพื่อจะได้จ่ายเงินชดเชยแล้วเอาเงินไปจ้างเด็กใหม่หรือคนที่ประสบการณ์น้อยกว่านี้จะได้เซฟค่าใช้จ่าย กูควรมองหาลู่ทางที่ไม่ต้องทำงานออฟฟิศหลังอายุสี่สิบ แต่กูก็ยังไม่รู้จะทำอะไรดีว่ะ แม่งเคว้งคว้างไปหมด
>>962 ............ส่วนมากนะ ถ้าอยากได้เงินเดือนสูงขึ้นละไปไกลกว่านี้ มันต้องมีคอนเนคชั่น คือ มีคนอีกกลุ่มไปทำงานที่ที่ดีกว่าละช่วยเชิญมึงมาที่ใหม่ละเจรจาขอเงินเดือนเพิ่มได้ เป็นทางออกเดียวเลยสำหรับคนธรรมดาที่จะไม่ธรรมดาได้ ไม่งั้นก็ต้องหางานเสริมที่สะดวกตัวเองไว้ก่อน
>>960 ถ้ามึงไม่ได้ฐานภาษี 20-25 ขึ้นไป ก็ไม่ต้องซื้อหรอกประกันออมทรัพย์ พวกกูซื้อเพราะมันลดหย่อนภาษีได้เท่านั้นแหละ พันธบัตร หุ้น มันลดหย่อนไม่ได้ไง
>>961 จริงมากมึง เหมือนทำงานมาแต่ไม่ได้ใช้เงิน ต้องเอาเงินไปขังไว้ 10 ปีอัพหมด เสียดายดันเกิดช้า สมัยก่อน LTF 5 ปีเอง อิจฉาสมัยก่อนโคตรๆ พอตรูเข้าวัยทำงานแม่มขยายเวลา ขยายสักพักแม่งยกเลิกเฉย สาส
ประกันพ่วงออมทรัพย์นี่ ถ้ามึงแย่งส่วนคิดนี่ ส่วนมากแม่งแพงกว่าประชีวิตปกติ กะIRR ได้น้อยกว่าฝากประจำอีก
คนทำประกันออมทรัพย์หวังผลลดหย่อนภาษีกันทั้งนั้นแหละ ลองลดหย่อนภาษีไม่ได้สิ ขายไม่ออกหรอก สำหรับคนฐาน 20-25% ขึ้นไป ได้ลดหย่อนภาษี+ผลตอบแทนประกันกรุบกริบ คุ้มอยู่ เชื่อเหอะว่าฐานเท่านี้จัดกันเต็ม 100k ทุกคน
โดนเพื่อนร่วมงาน จับจู๋บ่อยๆ คือ sh ปะวะ แม่งบอกขำๆ กูบอกไม่เอาไม่ชอบหลายครั้ง แต่ไม่ได้โมโหใส่ แม่งไม่หยุดหวะ
ลงทุนไรดีวะแบ่งไว้ลงทุนเดือนละ500 กรือเก็บยาวๆรอได้เงินก้อน
>>967 OK ขอบคุณมึงมาก ในที่สุดกูสามารถตัดแม่งออกจากทางเลือกการลงทุนได้ละ......ที่นี้เหลือกองทุนRMFกับกองทุนบำนาญ สิ่งที่กูสงสัยเลยคือ ไอสองกองทุนนี้มีการแนะนำมาเยอะมาก ถ้าต้องการPassive Incomeที่เติบโตขึ้นมาบ้างหลังอายุระดับ50ขึ้นไป กูควรลงเงินไปกับตรงนี้ไหมวะ?
สังคมโรงงานนี่เปิดโลกกุจริมๆ
>>962 เชี่ย กุนึกว่าตัวเองแยกร่างมาพิมพ์ กุ 36 แล้วก็งงชีวิตเหมือนกัน แต่กูร่อนใบสมัครไปทั่วเลยนะ หามาเป็นปีแล้ว สัมภาษณ์งานแทบทุกเดือน บางตำแหน่งมีเทสด้วย แต่ไม่โดนเรียกซักทียิ่งนอยด์หนักกว่าเก่า อยากจะออกไปทำอะไรของตัวเองมากๆ แต่ อะไร นี่สิ ลองนู่นลองนี่ไปเรื่อยแต่ไม่มีอันไหนที่ทำให้มั่นใจขนาดทำจริงจังเป็นแผนออกจากงานได้เลย ถ้ามึงนึกออกอยากได้หุ้นส่วนมึงเรียกกูด้วยนะ กูทำกราฟิกได้ทำเว็บได้ woocommerce ก็ทำได้แต่เสือกไม่รู้ว่าจะทำมาขายอะไรดี
กูเป็นเจนวายที่เบื่อการย่อแม่งทุกสิ่งทุกอย่างของเด็กเจน z ชิบหาย ยิ่งยุคนี้ทำงานที่บ้านมันมักจะสื่อสารกันผ่านแชท Teams เป็นหลัก หัวจะปวด แม่งพิมพ์มา พี่คะ หนูขอหน.เซ็นอกส.กับบสส.ให้หน่อยนะค่ะ ดด.พน. ค่ะ (ของแท้ต้องพิมพ์ค่ะ/คะผิดด้วย) แม่งจะย่อเหี้ยอะไรนักหนาาาาา
ผญจริงอะพิมพ์คะค่ะผิด สาวดุ้นพิมพ์ถูกตลอด
wait… am i being sexist?
อยากซื้อทัวร์พาทีบ้านไปต่างประเทศแต่เงินเดือนแค่สองหมื่น ไม่เจียมตัวไปมั้ยวะ 5555 กลัวเขาแก่กว่านี้แล้วไม่มีโอกาสเที่ยวแล้ว
>>988 กูเข้าใจฟีลที่มึงบอกว่า กลัวเขาแก่กว่านี้ไปไม่ไหวแล้ว อย่างกูทำงานจนเงินเดือนพอโอเคหน่อยก็ตอนอายุ 20 ปลาย พวกเขาเพิ่ง 50 ปลาย เลยยังพาไปเที่ยวไหวอยู่ ช่วงนั้นแหละที่กูพาไปเที่ยวตปท. บ่อยเหมือนกัน พอซัก 60 กว่าเริ่มเที่ยวได้แต่ในประเทศแล้วว่ะ เพราะไป ตปท. มันลำบากเกิน เหมือนพาไปทรมานมากกว่า (ไปกับทัวร์ถึงสบายหน่อยก็ไม่ใช่ว่าไม่ลำบากเลย สำหรับคนแก่ที่เขาไม่ได้เรี่ยวแรง 100% แบบเรา) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพพ่อแม่มึงด้วย บางคน 60-70 กูก็เห็นแข็งแรงดี ส่วนพ่อแม่กูสมัยอายุน้อยทำทุกอย่างที่มันเสียสุขภาพอะ 555 ก็เลยสังขารไปไวหน่อย
กลับมาที่เรื่องของมึง ถึงเงินเดือนมึงจะสองหมื่น แต่ถ้าอนาคตการงานมึงมั่นคงแน่นอน กูว่าก็พอไหวนะ ถ้าไปประเทศแถวเอเชียไม่เว่อร์มาก มันไม่ได้แพงอะไรมากมาย และเดี๋ยวนี้มันมีพวกโปรบัตรเครดิตผ่อน 0% อะไรก็มี ลองหาดู แต่ถ้าเป็นกูกูไม่กล้าว่ะ เพราะงานกูมันไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น เลยไม่กล้าใช้เงินในอนาคต รอจนมีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำค่อยพาไปเที่ยว
รายได้ 60 (หัก pvd ปกส. ภาษี เหลือรับจริง 50) ให้พ่อแม่ 15 ค่าที่พัก+น้ำไฟ+เน็ต+โทร 10 กินใช้ส่วนตัว 25 สรุปเหลือเดือนละ 10 ปีนึงเก็บได้แค่แสนสอง + pvd ใจนึงก็อยากเก็บเงินให้ได้มากกว่านี้ แต่อีกใจก็รักสบาย อยากอยู่ในที่พักที่ดี อยากกินอะไรที่อยากกิน ไม่อยากมานั่งกระเบียดกระเสียน ตอนแก่อาจจะแดกอะไรไม่อร่อยแบบตอนนี้แล้วก็ได้ แต่อีกใจก็กลัวแก่ไปอดอยากอนาถาเพราะเงินเก็บน้อย สับสนกับตัวเองมาตลอด มีช่วงที่พยายามลองประหยัดแล้วก็รู้สึกอึดอัดทรมาน ทางสายกลางมันคือตรงไหนวะ สับสนโว้ยยย
กูอยากรายได้เยอะๆมั่ง รายได้30kเองเลยต้องจำใจใช้น้อยๆ
ปล.ใช้15k กินปานกลาง-ประหยัด5-6k เเต่ไม่ได้ให้ตังค์พ่อเเม่นะ เก็บเดือนละ15k
>>989 ขอบคุณมากมึง ของกูมันก็มั่นคงแหละมั้งสองปีกว่าแล้ว กูไม่ชัวร์ด้วยซ้ำว่า 20 ปลายเงินเดือนกูจะเรียกถึงสามหมื่นได้มั้ย(มีสิทธิ์ไม่ได้สูง) เคยคิดว่าถ้าเงินเดือนสูงกว่านี้จะเริ่มเก็บเงินพาเขาไปเที่ยวแต่นั่นแหละ
คงพยายามเจียดเงินจากเงินใช้รายเดือนไปเป็นเงินเก็บเผื่อพาเขาเที่ยวตั้งแต่ปีหน้าละ สองปีอย่างน้อยกูคงได้ซัก 5 หมื่นกว่า555
รู้สึกว่าหลังจากทำงานมาสักพักนึงแล้ว กูเหมือนเหมือนเด็กกระโปกโตแต่ตัว ไม่ผิดพอวันหยุดก็เป็นนีท อยู่หออย่างเดียวไม่ไปไหนเลย
อยากจะมีแฟน เหมือนกัน แต่พอยู่คนเดียวมานาน ยังกังวลว่าจะปรับตัวได้ไหมวะ อยากซื้อคอนโด อยากซื้อรถ
ใจนึงก็อยู่หอนี่แหละดีแล้วมีเงินเก็บ แต่พออยู่ไปเบื่อเสียตังค์ซื้อเกม ซื้อของเล่น เสียเงินอยู่ดี
ตอนนี้จะกลับบ้านต้องให้พ่อมารับ แต่ก็คิดนะ ถ้ากู 40 50 เค้าคงขับไม่ไหว
กูควรจะทำไงดีวะ หรือว่าควรจะ move on ตอนที่ยังไหวอยู่ดี เคยเห็นเพื่อนใน face แต่ละคนอิจฉามาก ถ้าไม่อวดลูกก็ไปได้งานบริษัทดีๆ ที่ต่างประเทศทั้งนั้น ช่วงหลังกูลบบัญชี fb ทิ้งเลยเพราะทนไม่ไหว ToT
กูต้องมาประสานกะรุ่นพี่ที่เคยสนิท ตอนหลังเขาย้ายฝ่ายแต่ยังมีงานที่ต้องประสานกะฝ่ายเก่าอยู่เนืองๆ (ซึ่งก็คือกูนี่แหละ)
ฝ่ายที่เขาย้ายไปงานมันหนักขึ้น พักหลังๆ เขาเลยพาลมาแซะ มาเหน็บที่เก่า ซึ่งกูว่าเจตนาคงกระทบกระเทียบกู ระบายอารมณ์ด้วยแหละ
ที่ผ่านมากูก็เห็นว่าเคยสนิทกันอะนะ แล้วงานเขาก็หนักจริงๆ ก็เห็นใจอยู่ แต่ตอนนี้ดันไม่แยกแยะ ทำงานเหี้ยๆ หน้ามึนส่งมาด้วย กูเลยชักไม่ไหว
กูควรแจ้งหัวหน้าเพื่อเปลี่ยนคนประสานโดยไม่บอกกล่าวก่อน (อยากรู้จริง ต้องมาประสานกะคนอื่นที่ไม่สนิทจะกล้าปากดีอยู่มั้ย)
หรือควรเคลียร์เปิดใจที่เขาทำ เผื่อจะปรับปรุงตัวได้+อยากให้รู้ถึงความคับแค้นใจกูดี
>>995 ถ้าซื้อเกมแต่ยังเหลือเงินเก็บก็โอเคนี่ อย่างน้อยๆ ถ้าเก็บได้ 10% จากรายได้กูก็ว่าไม่น่าเกลียด ที่เหลือก็ค่อยๆ ลองหัดทำอะไรใหม่ๆ ไปเรื่อย อะไรไม่ชอบก็เลิกแล้วไปลองอื่นๆ เช่น ลองไปลงเรียนขับรถดู ถ้าขับแล้วชอบมึงอาจอยากซื้อรถ ก็ค่อยต่อๆ ไปเรื่อยๆ แหละ ลองเลือกอันที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง ดีแล้วที่ไม่ต้องไปตามเปรียบเทียบใคร เรื่องที่อยู่หอกูเห็นด้วยนะ คอนโดอาจจะไม่จำเป็นขนาดนั้น เก็บเงินไว้เผื่อเกิดในอนาคตมึงอยากไปอยู่ ตปท หรือซื้อบ้าน ตจว มันจะได้ไม่กลายมาเป็นภาระ
1000
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.