ย้าย
>>>/lounge/303/
Last posted
Total of 1000 posts
ย้าย
>>>/lounge/303/
ทุกวันนี้...ยิ่งใช้ชีวิต ยิ่งรู้สึกเหมือนไม่เหมือนตัวเองขึ้นเรื่อยๆ...ถ้ารู้ว่าโตมาแล้วจะยากขนาดนี้ ผมนี่ล่ะอยากมุดกลับเข้ารกแม่เสียจริงจัง...
เสียดายที่แม่ไม่อยู่ในกรูมุดกลับแล้ว...เหลืออยู่ก็แต่พ่อ...ที่ไม่รู้จะทิ้งกรูไปอีกเมื่อไหร่
เรียนนีโคตรเหนื่อย แข่งขันก็ซะปวดหัว...ทำงานเชรี่ยอะไรเกือบทั้งวัน...ได้นอนสองสามชม.ต่ออาทิตย์
แดกกาแฟต่างน้ำ...อาจารย์ก็ขยันล้มแบบจังงงง มีความสุขมากรึไง เฮ้อ....ถ้าแม่งจะเยอะขนาดนี้...
ตายเลยดีกว่าไหม...
>>2 เด๋วพอมึงกำลังจะจบจะเครียดกว่านี้อีก อย่างกูเนี่ย เรียนจะจบอีกไม่กี่เดือนแล้วส่งพอร์ตไปเป็นร้อยที่แต่ไม่มีใครรับกูเข้าทำงานเลย กูส่งมาตั้งแต่ต้นเทอมยันตอนนี้คนที่ส่งทีหลังกูเค้าได้งานกันไปหมดละ เหลือแต่กู ทำไมมันยากอย่างงี้วะแล้วทำไมคนอื่นถึงได้งานกันง่ายๆ กูว่ากูก็ไม่ได้ห่วยนะ ผลงานก็เยอะ ทำไมวะหรือกูมันกระจอกมากแต่ไม่รู้ตัวเอง
อุตส่าห์เตรียมใจระบายบางเรื่องให้คนที่(คงคิดเอาเองว่า)สนิทฟัง นอกจากเขาไม่ฟังแล้ว คงคิดว่าไร้สาระอีกมั้ง รู้สึกแย่เหี้ยๆ
>>2 กูเข้าใจมึง เพราะกูก็เจอ บางทีแม่งคีบแบบกูลงถังขยะต่อหน้าต่อตาด้วยซ้ำ เคืองนะ แต่ก็ต้องทำต้องแก้ บางวันไม่ได้นอนนั่งตัดโมเดลยันเช้า หอบโมเดลเพิ่งทำเสร็จไปเรียนเลยตอนแปดโมง น้ำไม่อาบกลับมานอนตาย ตื่นตอนเย็นรีบทำการบ้านอีกวิชาแบบวนลูป เป็นมิตรกับกาแฟ กระทิงแดง เซเว่น จบมาเจอลูกค้าเหี้ยๆหลายคนก็เยอะ ตอนเรียนมันหนักแค่ทำงานส่ง แต่ตอนทำงานแม่งหนักไปหมดทุกอย่างทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิต มึงจำคำพูดรุ่นพี่แบบกูไว้ให้ดี อย่าดองงาน มีเหี้ยอะไรรีบๆทำซะอย่าหมักไว้ เดี๋ยวมึงจะลำบากทีหลัง
กูกำลังตระหนักว่าตัวเองเป็นมนุษย์ห่วยแตกว่ะ แบบมนุษย์ที่ไม่มีอะไรดี ทั้งหน้าตา การศึกษา ฝีมือ งาน เงิน แถมยังขาดความมั่นใจ ขาดการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ขี้ระแวงอีก ทำเหี้ยไรไปต้องกลับมาคิดมาก ทำเหี้ยไรมีแต่โดนด่า ไม่ใช่ว่าที่เป็นอยู่นี่เป็นเพราะกูไม่พยายามนะกูพยายามหางานเป็นร้อยๆที่ก็ไม่ได้ พยายามคยกะคนอื่นก็ต่อไม่ติด ลดความอ้วนก็ไม่ลดทั้งๆที่กินก็ไม่ใช่มาก ออกกำลังกายไม่บ่อยแต่ก็ออกทุกอาทิตย์ ฝีมือก็ไม่เทพทั้งๆที่ฝึกชิบหาย ทำเหี้ยไรก็ไม่ดีทั้งๆที่ตั้งใจทำแล้วแต่รู้สึก่าสมองด้านครีเทีฟกูมันฝ่อมั้ง คิดอะไรได้แต่โบราณๆ พวกมึงว่ามนุษย์ที่บัดซบทุกอย่างแม้พยายามจนแทบกระอักนี่มันมีจริงป่าววะ หรือทั้งหมดนี่มันเกิดจากการที่กูพยายามไม่พอ
>>9 อย่างน้อยมึงก็ยังรู้ว่าอะไรเป็นปัญหาที่มึงต้องแก้ไข แต่กูนี่ไม่รู้เลยว่ะเพราะพยายามแล้วแต่ก็ยังไม่ดีเลยไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อไปถึงจะดีว่ะ เหมือนหนทางมันมืดมิดหมดเลย จนกลัวว่าถ้าจริงๆแล้วความพยายามไม่ได้ช่วยอะไรกูจะทำไงหรือ หรือมันจะมีคนที่พยายามทำอะไรก็ไม่เกิดจริงๆ
สำหรับคนทำงานครีเอทีฟมึงต้องไม่ใช่แค่ฝึกว่ะ ต้องหาประสบการณ์ชีวิตด้วยถึงจะคิดอะไรใหม่ๆแหวกๆได้
ออกเดินทางชมนกชมไม้รู้จักผู้คนใหม่ๆ หาหนังแปลกๆที่ไม่เคยคิดจะดู อ่านหนังสือใหม่ๆบ้างหลุดจากกรอบเดิมๆที่ใช้ชีวิตมาตลอด
เพิ่งส่งมิดเทอมไปเมื่อวาน แย่ว่ะ...โมเดลก็ไม่เสร็จ ทั้งๆที่กูคิดไว้แล้วว่า มันต้องดีอ่ะ คือถ้าโมเดลเสร็จนี้เลิศอ่ะ วาดรูปกูก็วาดมาเยอะ ก็กะจัดเต็มแต่แม่งทุกอย่างแย่ไปหมด งานต้องเริ่มตอนบ่าย ดรออิ้งปริ้นยังไม่เสร็จ กว่าจะมาบ่ายสอง โมเดลแม่งไม่ยอมมาส่ง กลายเป็นว่า เวลาที่กูเสียไป เงินที่กูเสียไป ไม่มีอะไรดีสักอย่าง โดนหักคะแนนส่งเลทอีกต่างหาก ไม่คิดว่าจะทำงานได้แย่ขนาดนี้ว่ะ //ผมนี้้องไห้หนักมาก....
เมื่อวานเป็นอะไรที่เชรี่ยมาก....พูดเลอ
>>13 มันผ่านไปแล้วเว่ย ทำงานมันก็ต้องมีวันที่เหี้ยๆมั่ง ดีๆมั่ง เดินหน้าๆ ก็ได้รู้ขีดจำกัดตัวเองไป
จะได้รู้ว่าต้องปรับยังไงด้วย
ตอนแรกๆกูก็คิดว่า กูจัดระบบอะไรได้ดีนะ
พอเรียนคณะนี้ กูถึงรู้ ว่าอ๋อ ไม่ว่ะ ยังดีได้กว่านี้อีก 555
นอยแดกให้พอแล้วลองจัดระบบตัวเองใหม่ดู จะได้ไม่ต้องมาเจอความรู้าสึกแบบนัี้อีก
>>15 รุ่นพี่สายออกแบบกูเคยพูดตอนกูนอยที่งานออกมาไม่พอใจไว้ว่า
งานออกแบบ ไม่มีคำว่า เพอร์เฟค หรือ เลิศ
เพราะมันพัฒนาปรับปรุงไปได้เรื่อยๆ
ต่อให้มึงส่งไปแล้ว เวลาผ่านไป มึงโตขึ้น เก่งขึ้น งานชิ้นนั้นของมึงที่เคยดี อาจจะง่อยไปเลยก็ได้
(เหมือนเวลากลับไปดูรูปที่มึงวาดตอนเด็กๆ ไรงี้)
กุเคยแบบ ส่งงานเสร็จ นึกได้ ไอเหี้ยยยย น่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ ด้วยซ้ำไป
มันอยู่ที่เมิงบริการจัดการ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ในเวลาที่มี แล้วก็ปล่อยให้มันไป
แล้วก็เชื่อมั่นในสิ่งที่มึงพยายามมาตลอดซะ
คือถ้ามันไม่ทันเวลา แต่มึงก็อาจทำได้ดีที่สุดแล้ว ตามข้อจำกัดทุกอย่างที่มึงมี
(คือกูเป็นบ่อยนะ เวลาทำงาน แล้วชอบวางแผนงานไว้โหด ตั้งเป้าสูง แล้วงานมันไม่ได้ ด้วยเวลาไม่พอ หรือ สกิลไม่ถึง)
อย่างมาก มันก็แค่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าว่า มึงมันกาก ทำตามเป้าไม่ได้ เท่านั้นแหละ 555
แล้วมึงจะทำไงละ ยอมให้มันด่าว่ากากไปเรื่อยๆหรอ? ก็ทำได้แค่ดูว่าตัวเอง ทำไมถึงทำไม่ทัน (ทั้งที่ทำเต็มที่สุดๆแล้ว) เท่าัน้นแหละ
ถ้านอยมาก ก็ทำงานเพิ่ม ไม่ต้องสนใจอะไรแม่งเลย (อันนี้ถ้าเป็นเรื่องเฟลว่างานไม่ดีนะ) ทำแม่งจนพอใจ
ก็ถือซะว่า เป็นบทเรียนราคาแพงเว่ย นี่แหละ ที่มึงจ่ายค่าเทอมเพื่อมาเรียน :)
เด็กแม่งขาดวิจารณญาณในการดูหนัง/การ์ตูนว่ะ เลียนแบบการ์ตูนหมด นี่กูพูดถึงน้องตัวเองนั่นแหละ กลุ้มใจว่ะ จะตัดผมทรงเดียวกับการ์ตูน เลียนแบบการ์ตูนหมด ทำเรื่องจัญไรแบบพระเอก ...... จะให้การ์ตูนเซ็นเซอร์อะไรที่ไม่เหมาะสมเช่นโจรสลัดในวันพีชแดกเหล้า ก็ไม่ได้อีก กูก็ไม่อยากให้เซ็นเซอร์เหมือนกันแม่งแก้ปัญหาไม่ถูกจุดแถมยังน่ารำคาญอีกว่ะกูว่า แต่กูก็ไม่อยากให้น้องกูเลียนแบบอะไรที่ไม่ดีแบบนี้ ทำไงดีวะ
>>17 มึงก็หาทางสอนสิวะ อะไรถูกอะไรไม่ถูก อะไรควรทำอะไรแม่งเหี้ย แบบมีช่วงเหี้ยมาเมื่อไรมึงก็พยายามสอนหน่อยว่านี้เหี้ยนะ ตรงส่วนไหนเลียนแบบมาไม่ดีมึงก็ต้องเตือน หาเหตุผลดีๆมาอธิบาย แก้ด้วยเซนเซอร์มันไม่ถูกจุดอยู่แล้ว จะว่าไปน้องมึงอายุเท่าไรวะ คือถ้ายังอยู่ประถมต้นนี้กูว่าคงคิดยังไม่ค่อยเป็นเท่าไร เจอความเป็นพระเอกก็เชื่อหมด(มันเท่นิ) มันก็เป็นหน้าที่มึงแล้วละที่ต้องสอน
ทำไมกูไม่เคยคิดอยากทำตัวแบบโนบิตะหรือไม่ก็ทาตัวเหลืองแบบกล้วยห้อมจอมซนว่ะ
กูว่ามันอยู่ที่สภาพแวดล้อมของเด็กกับวิจารณญาณของมันนะ
มึงลองหาการ์ตูนที่พระเอกไม่แดกเหล้า ตัวละครรอบตัวไม่ทำเรื่องแบบที่มึงไม่ชอบก็ได้นะ
โดราเอมอนนี่แม่งตำนานเลยกูแนะนำ ไอ้ภาคเดอะมูฟวี่พวกโฮ่งเหมียว อาณาจักรหุ่นยนต์ อาหรับราตรีเงี้ย
เด็กมันเลียนแบบตามพ่อแม่ มากกว่าทีวีอีก
ไอเหี้ย กูเฟลอีกแล้ว งานกูไม่ได้รับเลือกอ่ะ เสียใจๆๆๆๆ แงแงแงงแง
พวกมึงรับมือกับความผิดหวังยังไงวะ กูทำใจไม่ได้แล้วอ่ะ โดนปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจนจะลุกยืนไม่ไหวแล้ว ทำไงดี
ปฏิเสธไรฟะ งาน ความรัก หรืออะไรอื่นๆอีก
มึงเตรียมตัวไม่ดีหรือเปล่ามึง ทำงานเกี่ยวกับอะไรล่ะ เรียนจบสาขาไหน กูว่าบางที ฟ้าอาจจะให้มึงไม่เป้ฯลูกน้องใครก็ได้นะมึง
กูเป็นคนใจแคบ ไม่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ค่อยชอบมีส่วนร่วม
กูเคยลองฝืนช่วยคนอื่นดู กูก็ช่วยมันจนสุดทาง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีมันฝืนๆ ลองออกไปหาไรทำร่วมกับเพื่อนๆเก่าๆก็งั้นๆ
จะแก้ยังไงดีวะ
>>34 เพื่อนกูแม่งอยากเป็นหมอ แต่ไม่ชอบช่วยเหลือคน ตอนมันป่วยกูก็ซื้อยาให้มันแดกฟรีๆ แต่แค่โทรไปชวนให้ช่วยงานคณะด้วยกันวันศุกร์ ก็โกหกบอกจะกลับบ้าน มาวันเสาร์โทรหากูให้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนมัน กลับบ้านพ่อง (ม.กูอยู่ ตจว. บ้านมันอยู่กรุงเทพ)กูก็แกล้งถามว่าไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแลเวหรอ มันบอกอ๋อเปลี่ยนใจ ไม่ว่าจะเทสรุ่นรับน้องหรือช่วยงานคณะมันไม่เคยโผล่หัวมาเลยเว้ย ถ้าไม่มีคะแนนมันไม่ไป ถ้ามึงอยู่ด้วยลำแข้งของมึงเองไม่โทรมาขอความเชื่อเหลือชาวบ้านกูจะไม่ว่าเลย แต่ไอ้นี่โทรมาขอนั่นขอนี่แต่ให้มาวันเทสรุ่น ให้มาช่วยงานตัดกระดาษหน่อยก็ไม่มา น้ำใจไม่มีแต่อยากเป็นหมอ บอกเป็นหมอสบาย+งานน้อย+เงินเดือนเยอะ ตอนแรกกูไม่เกลียดมันนะแต่มันดูถูกวิชาชีพหมอชิบหายกูโกรธมาก เป้าหมายมันคือหมอผิวหนัง เกลียดจังคนที่ทำงานพวกนี้ควรมีจิตอาสากว่านี้ไหม? ไม่ใช่ถ้าไม่มีค่าตอบแทนก็จะไม่ทำ
>>36 จริงๆการทำงานแลกเงินในความคิดกูมันก็ไม่ผิดนะแต่พวกที่เอาแต่ทำตัวเป็นฝ่ายรับอย่างเดียววันนึงจะลำบากเพราะไม่มีใครให้มันซ้ำแล้วซ้ำอีกหรอก กูคิดว่านิสัยงี้ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่จะเกลียดมัน คงมีคนอื่นอีกเยอะและวันนึงที่มันต้องการความช่วยเหลือก็จะไ่ม่มีใครอยากช่วยมันเพราะมันไม่เคยช่วยใคร ก็ปล่อยมันไปมึงอย่าไปสน ห้องกูก็มีคนแบบนี้หมือนกันตอนนี้แม่งไม่มีเพื่อนคบแล้วเลยพยายามกลับมาทำดีกะคนอื่นแต่ใครๆก็รู้สันดานกลายเป็นคนก็ดีด้วยคุยด้วย รับความช่วยเหลือจากมันแต่ไม่เป็นเพื่อนด้วยและไม่อยากช่วยมันเวลามันเดือดร้อน คิดดูงานทีสิสมันพังไม่มีใครสงสารซักคนมีแต่ไม่สนใจกับสะใจ ชีวิตน่าสมเพชเหี้ยๆเพราะหลอกแดกคนอื่นเค้ามามาก ขนาดแก้งเพื่อนมันเองยังแตกกะมันเลยสุดท้ายไม่มีคนช่วยทำงานงานดรอปเลย ก๊ากๆๆๆ
ปล.อาชีพหมอที่กูเคยได้ยินมันลำบากไม่ใช่หรอวะ ไม่เห็นมีหมอคนใหนบอกว่างานสบายซักคน
คนเราทำอะไรมันต้องหวังผลกันอยู่แล้วมันเป็นสันดานของมนุษย์ ไม่มีหรอกพวกที่ทำแล้วไม่หวังผล แบบทำบุญพวกมึงก็หวังจะได้บุญ หรือแม้กระทั่งยกมือไหว้คนมึงยังหวังให้เขารับไหว้เลย เราแก้ไขสันดานใครไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือแก้ไขตัวเอง เอาง่าย คือแม่งก็เป็นแค่เพื่อนมึงป่ะ ไม่ได้มีความหมายอะไรในชีวิตมึงอยู่แล้ว อย่าเก็บเรื่องแม่งมาใส่ใจเลย สักวันสิ่งที่แม่งทำก็จะส่งผลกระทบต่อตัวมันเอง โตขึ้นจะเป็นหมอ แต่ถ้าสันดานแบบนี้ก็คงไปไม่รอด เพราะการจะทำอาชีพอะไรสักอย่าง การจะอยู่กับมันไปตลอดชีวิตของมึง อาศัยแค่เงินเยอะ งานน้อย อย่างเดียวมันไม่พอ มันอยู่ที่ใจมึง ใจมึงต้องชอบ
บางทีกูก็เห็นแก่ตัวนะ 555+ งานคณะไม่ค่อยช่วย แบบงานกูเยอะแล้วไงประเด็น แต่กูก็ช่วยหากกูว่างจริงๆว่ะ
กูปรึกษาพวกมึงหน่อยดิ กูกำลังจะสิ้นหวังกับอนาคตลูกว่ะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คืองี้
เมื่อวานกูเพิ่งไปหย่ากับเมียมา เหตุผล แม่งเล่นไพ่ เกาะแดก วันๆไม่ทำห่าไรนอกจากเล่นไพ่ ลูกกูก็ไม่ดูแล พาเพื่อนมาแดกเหล้าบ้านกูผลานตังไปวันๆ กูก็หามาให้มันเรื่อยๆจนกูหมดความอดทน ไม่เท่านั้นสิมึง มันสอนลูกกูเล่นไพ่ แดกเหล้าแต่เด็กเลยไอ้เหี้ย ช่วง 2-3 ปีก่อนกูมีงานเยอะมากๆด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลามาดูลูกนักด้วยเลยแย่ไปใหญ่ มึงรู้มั้ยลูกกู 4 ขวบมันเล่นป๊อกเด้ง กับอีแก่เป็นแล้วอ่ะไอ้เหี้ย จะอัจฉริยะก็ควรจะไปเก่งในเรื่องดีๆสิวะ ไม่เท่านั้นแม่งพูดกูมึง ผัวๆเมียๆ เย็ดๆ เริ่มเอาแต่ใจ ออกแววแรดแต่เด็กแล้วไอ้สัส กูพูดได้เลยถ้าปล่อยไว้แบบนี้ป.5 มันมีผัวแน่ๆแต่...
กูจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้น อดีตแก้ไขไม่ได้แต่อนาคตเปลี่ยนแปลงได้ ตอนนี้กูมีชีวิตใหม่ สลัดเมียสวะออกไปพ้นๆได้ซะที เชื่อมั้ยตอนหย่ากันมันไม่พูดถึงเรื่องลูกเลยด้วยซ้ำ บอกศาลไปว่าไม่มีกำลังทรัพดูแลทั้งๆที่มันมีบ้านที่เชียงใหม่ทิ้งลูกสาวสองคนให้กู แต่ไม่เป็นไรกูไม่ฟ้องหรอก เอาลูกมาให้กูดีซะอีกกูจะเลี้ยงให้เป็นคุณหนูเลยสัส คือลูกกูโตไปหน้าตาดีแน่นอนแม่มันสวยกูก็หล่อ แต่ปัญหาคือมันรับนิสัยเหี้ยๆของแม่มันมาเต็มๆ เอาแต่ใจโวยวาย แรดร่าน ปากจัด ครบเซ็ตสก๊อยเลยมึง ณ ตอนนี้ 4 ขวบคนกับ 5 ขวบคนนิสัยแรงพอๆกัน มันฉลาดนะแต่ไปฉลาดในเรื่องไพ่ไอ้สัสเอ้ยหย่าช้ากว่านี้แม่งคงแทงสนุ๊ก ปั่นไฮโลเป็นน่ะสัส
กูจะเปลี่ยนนิสัยมันยังไงดีวะ แล้วกูก็ไม่อยากตีกลัวโตไปมันจะเก็บกด คือตอนนี้กูกำลังจะสร้างเงื่อนไขคือพูดเพราะ เรียบร้อย ตั้งใจเรียน ทำตัวดี ทำตามกฏของกู อยากได้อะไรมึงได้ โวยวายมึงจะไม่ได้อะไรจากกู ไพ่คือห้ามเล่นเด็ดขาด ตอนนี้กูว่าจะลาออกงานมาเลี้ยงลูกเลยว่ะ แต่ติดที่กูเลี้ยงเด็กไม่เป็นนี่แหละ พวกมึงช่วยแนะนำกูที หรือกูควรจะเริ่มที่สังคมด้วยป่าววะ ตอนนี้มันเรียนโรงเรียนอนุบาลแถวบ้านกูค่าเทอมไม่แพงมากสังคมนับว่าเหี้ยสัสมีแต่เด็กแว๊นอ่ะมึงแถบนั้น กูควรจะส่งเข้าหญิงล้วนดัดนิสัยหรือนานาชาติไปเลยดีป่าววะได้ทั้งภาษาได้ทั้งสังคม หรือพวกมึงคิดว่าสังคมมันไม่เกี่ยววะ? เพราะส่วนตัวที่ส่งเข้าแถวบ้านเพราะกูก็จบมาจากโรงเรียนวัดนี่แหละ แต่กูรวยกูก็ได้ดีได้ยังไงก็ช่วยแนะนำกูที
>>41 ลกมึงยังเด็ก ยังมีวิธีสอนอีกนาน อยู่กับเขาเยอะๆ เรียนรู้เขา เข้าใจเขาว่าเขาเป็นเด็กยังไง
กูว่าหลังจากนั้น มึงจะเข้าใจเองว่า ต้องทำยังไง เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
ลองหาหนังสือจิตวิทยาเด็กมาอ่านพัฒนาการเด็กคร่าวๆก็ได้เว้ย
กูไม่แนะนำการใช้แค่วิธีออกกฎ แล้วทำได้ได้รางวัลนะ
คือใช้ได้ แต่อยากให้มึงให้ความเข้าใจเด็กด้วย บอกเหตุผลให้เด็กได้
ไม่งั้นถ้ามึงเซทกรอบไว้แน่นไป ลูกมึงตอนไม่อยู่ในสายตา ก็ไปทำอะไรเหี้ยๆได้อยู่ดี
เรื่องไพ่ เรื่องอะไรงี้ กูว่า เลิกเล่นไป ก็ดีแล้ว ถ้าสภาพแวดล้อมไม่มีคนเล่น ก็ไม่เล่นไปเอง
เรื่องโรงเรียน หญิงล้วน กับนานาชาติก็ไม่ใช่ไม่แรง ลองไปถามๆดูแล้วกันว่า สภาพแวดล้อมที่ไหนดี ใจเย็นๆเลือกแล้วกัน
>>42 ขอบใจมึงมาก กูว่าวันเสาร์หน้าจะไปปรึกษาสถาบันพัฒนาการเด็กอยู่ หาหนังสือที่มึงว่ามาอ่านด้วยพอดี โอเค
เออ ช่วยแนะนำโรงเรียน ใกล้ๆร่วมฤดีให้หน่อยดิวะ กูลองเสิร์ชดูแล้วแต่ไม่รู้สังคมข้างในว่ะ อนุบาล ยัน ม.ปลายเลยก็ดี แต่นานาชาติร่วมฤดีกุไม่ไหวนะ ขายบ้านยังไม่พอจ่าย
แนะนำอะไรมากไม่ค่อยได้ แต่ในฐานะที่มีพ่อเป็นซิงเกิ้ลแด๊ก
พยายามอยู่เป็นเพื่อนลูก ทำกิจกรรมร่วมกันให้มากๆ อาจจะเล่นด้วยกันหรือทำอาหารให้ทานก็ได้ พอลูกโตขึ้นพอที่จะเรียนรู้เอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควรได้แล้วก็อย่าพยายามพูดเรื่องแย่ๆฝั่งแม่มากนัก พยายามพูดให้เป็นกลางไว้ สู้ๆ
4-5ขวบยังดัดได้ไม่ยากเกินไป ทำตัวดีมึงก็ใจดี ทำนิสัยแม่มึงขึ้นเสียงให้มีอำนาจกว่าลูกให้ได้ถ้าต้องตีก้ต้องทำว่ะ
สู้เขาสหายโม่ง
>>41 จากหัวอกของเด็กที่มีพ่อแยกทางกับแม่ ก่อนอื่นเลยค่ะ ไม่ว่าเด็กจะเล็กขนาดไหนจะบอกเลยว่าเด็กเขาเข้าใจค่ะ เมื่อพ่อแม่แยกทางกัน มันจะเป็นปมในจิตใจของเด็กค่ะ ปมเล็กปมใหญ่ยังไงนี่ก็ต้องดูอีกที สิ่งที่คุณพ่อควรจะทำในตอนนี้ควรจะอธิบายและชี้แจงให้ลูกเห็น ว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด ควรจะมอบความรักให้มากกว่าเดิมเป็นสิบๆเท่า เพราะเด็กที่พ่อแม่หย่ากันนั้นต้องการความรักสูงมาก ตอนนี้อาจจะไม่ต้องอธิบายถึงรายละเอียดว่าทำไมถึงหย่ากัน แต่เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นพูดคุยรู้เรื่องควรจะให้แกมานั่งรับฟังถึงปัญหา อธิบายให้แกฟัง อย่าคิดว่าเด็กเป็นเด็ก นี่คือเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่จริงเรื่องค่ะ เมื่อคุณมีลูกเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของครอบครัว พยายามสอนเด็กว่าการที่ครอบครัวมีปัญหา ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำให้ตัวเองเป็นเด็กมีปัญหาตามไปด้วย เซ็ทตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่พึ่ง อยู่กับลูกให้เหมือนเพื่อนที่ลูกสามารถเข้าหาและปรึกษา และต้องวางตัวให้เป็นผู้ปกครองลูกจะได้รู้ว่าใครคือผู้ใหญ่ใครคือเด็ก การสอนที่ดีคืออะไรที่เราอยากให้ลูกทำกับเรา เราก็ทำกับลูกค่ะ เช่นหากไม่อยากให้ลูกพูดคำหยาบ คุณก็ไม่ควรจะพูดคำหยาบทั้งกับลูกและคนอื่นๆทั้งต่อหน้าและลับหลังลูก บางทีคุณอาจจะคิดว่าแกไม่ได้ฟัง แต่เด็กในวัยนั้นเรียนรู้ทุกอย่างมาจากผู้ปกครองหมดแหละค่ะ
สู้ๆนะคะ //หากพูดเยอะไปขออภัยค่ะ
>>47 ผิดเต็มๆที่ปล่อยลูกไปอยู่กับแม่นิสัยเหี้ยแบบนั้น พลาดตั้งแต่เอามาเป็นแม่แล้วล่ะ แถมลูกสองคนนิสัยแม่มันเป๊ะทั้งคู่ ปวดหัวมากๆครับ
แต่ทำไงได้มันก็ลูกเรา ยังไงก็ขอบคุณครับ เอ้อ อีกนิดนึงก็คือละครสมัยนี้สักแต่ว่าทำออกมาไม่นึกว่าเด็กมาดูมันจะคิดยังไงลูกผมมันจำมาจากละครทั้งนั้น ท่าทางคำพูดอะไร+นิสัยแม่ที่เป็นของจริงเข้าไปอีก เคลียดเลยครับ
กูไม่รู้จะถามตรงไหน ขอถามตรงนี้แล้วกัน
คือตากูเสียปีที่แล้ว ตอนนี้กระดูกอยู่บ้านน้า ส่วนกระดูกยายกับบรรพบุรุษคนอื่นๆอยู่ที่บ้านตา แล้วน้ากูคนนึงก็บอกว่าจะเอากระดูกไปรวมไว้ที่วัดแล้วให้แม่กูเซ็นเอกสารยินยอมให้เอากระดูกไปไว้วัดได้ มันเป็นเอกสารเขียนขึ้นเองไม่ใช่เอกสารทางการอะ(ลุงกูเขียนขึ้นมา) กูอยากรู้ว่ามันจำเป็นต้องเซ็นด้วยเหรอวะแค่ย้ายกระดูก ตอนย่ากูเสียพ่อกูก็ไม่เห็นต้องเซ็นอะไร ทีนี้ทางบ้านแม่กูอะมีปัญหาเรื่องสมบัติอยู่ คือบ้านที่กูอยู่ตอนนี้อะปลูกอยู่ตรงที่ของยายที่เสียไปแล้ว(ก่อนเสียแกบอกให้มาปลูกที่นี่จริงๆแม่กูจะไปปลูกแถวลาดพร้าว) พอยายเสียก็ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เออแล้วแม่กูก็ไม่เซ็นอะ เลยทะเลาะกับน้า กูสงสัยว่าแม่กูคิดไปเองรึเปล่าว่าน้ากุจะให้มาหลอกเซ็นเอกสารอะไรหรือว่าเป็นไปได้ว่าย้ายกระดูกทำบุญมันต้องทำตามขั้นตอนนั้นคือมันต้องเซ็นจริงๆ
ตอนนี้กูรู้สึกแย่มาก เพราะจริงๆกูไม่ได้มีปัญหากับญาติพี่น้อง แต่แม่กูมีปัญหาเรื่องนี้บ่อยมากจนกูเริ่มเขวว่าพวกญาติมันจะมาเอาประโยชน์จริงๆรึเปล่า
>>48 ไม่ต้องให้ดูละครเลยค่ะดีที่สุด เมื่อก่อนเคยรู้จักกับครอบครัวหนึ่งที่ ทั้งบ้างไม่มีทีวี มีเพียงเครื่องเดียวในห้องนอนพ่อแม่ ซึ่งเด็กจะต้องขออนุญาติก่อนเข้าออกห้องพ่อแม่ แต่ก็เข้าใจว่าสมัยนี้เทคโนโลยีมันกว้างไกลกว่าสมัยก่อนมากๆ ไม่มีทีวีก็มีเน็ต แต่สมัยนี้ก็มีโปรเกรมแบบบล็อคค่ะ แบบบล็อคเน็ตพวกเว็บต่างๆที่ไม่อยากให้เด็กเข้าเราก็บล็อคได้ค่ะ แม้ว่าจะห้ามลูกดูทีวีแต่เราก็เลือกสรรค์ได้ค่ะ เช่นละครช่วงอาหารเย็นที่มันสนุกๆเหมาะสำหรับเด็กก็ให้ดู แต่พอถึงฉากที่ตบกันหรืออะไรก็ลองคุยกับลูกดูว่าเห็นหากนี้แล้วรู้สึกอย่างไร คุยและปรึกษาถึงผลที่ตามมา ต้องบอกว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือการแสดง หากคนทีทำแบบนี้ในชีวิตจริงจะมีผลอย่างไร แล้วก็ควรจะกำหนดเวลาดูทีวีค่ะ เช่นระหว่างช่วงเวลานี้ถึงนี้เท่านั้น ก่อนจจะดูทีวีการบ้านต้องเสร็จก่อนตั้งเงื่อนไขอะไรๆก็ว่าไป
>>50 ก่อนจะลงมือเซ็นอะไรต้องอ่านสัญญาให้ถี่ถ้วน ให้ครบทุกแผ่นและต้องเข้าใจทุกแผ่นและต้องมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเพิ่มเติม การเซ็นสัญญานั้นมักจะต้องมีพยายาน ถึงสองคนเสมอ สัญญาที่เขียนควรจะเป็นการพิมพ์ออกมาให้เป็นกิจลักษณะ ไม่ควรจะเป็นลายมือเขียนใดๆ และเมื่อเซ็นควรจะมีถ่ายสำเนาเก็บไว้ทั้งคู่ค่ะ
>>41 กูกล้าพูดเลยสังคมมีส่วนมากๆ ส่งให้เรียนโรงเรียนแพงๆไปเลย ซื้อสังคม ฝึกมารยาท
ถ้าฝึกนิสัยลองให้เลี้ยงสัตว์ดู ทำให้ใจเย็น/สุภาพขึ้นด้วย โดยมีข้อแม้ว่าลูกต้องเป็นคนดูแล ให้อาหารเอง อะไรแบบนี้ ลองดูนะเพื่อนโม่ง สู้ๆว่ะ
กูเป็นกำลังใจให้ มีไรมาอัพเดทก็ได้นะ พวกกูพร้อมรับฟังเสมอ
>>41 เด็กวัยนี้ยังดัดได้อยู่ ไม่น่าเป็นปัญหาหรอก มึงหาโรงเรียนดีๆ สังคมดีๆให้ลูกอยู่ มึงรวยเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอยู่แล้ว แล้วก็กันอีแม่อย่าให้มาจุ้นจ้านกับการเลี้ยงลูกของมึงเป็นอันขาด ถ้ามึงลาออกมาเลี้ยงลูกได้โดยไม่มีปัญหากูก็เห็นด้วย ต้องให้ความรักกับลูกแล้วดูแลลูกมากๆ นะ กูเป็นกำลังใจให้มึง มีอะไรมาปรึกษาได้เสมอ
จิตแพทย์ที่ไหนดีบ้าง แนะนำหน่อยดิเพื่อนโม่ง
>>41 นี่กูเองนะ
กูลองทำตามที่พวกมึงแนะนำแล้ว ใช้เหตุผลมากๆ พูดคะ ขา กับลูก เลิกเรียนหรือตอนอยู่บ้านก็พาไปทำกิจกรรม อะไรแทนมันจะได้ไม่สุมหัวกันเล่นไพ่
กูรีวิวเลยพวกมึงมันระดับ 5 ดาวจริงๆ ลูกกูพฤติกรรมดีขึ้นมาก เรียบร้อยพูดเพราะ น่ารัก ว่าง่ายขึ้นเยอะ กูก็พอเข้าใจวัยมันละว่ากำลังเป็นวัยเลียนแบบ
กูทำอะไรตอนนี้มันเลียนแบบกูหมดเลย กูพูดคะ ขา มันก็พูดตาม ว่างๆกูอ่านหนังสือพิมพ์ มันก็ไปหยิบหนังสือมาอ่านมั่ง เอ้อ ค่อยเบาใจกูไป ตอนนี้เสียแค่เล่นไพ่ที่กูยังแก้ไม่ได้ กูห้ามแล้วนะ เอาไพ่ไปทิ้งขยะหมดแล้วด้วย ลูกกูเสือกฉลาดวาดตัวเลขเขียนสัญลักษณ์ทำไพ่เองเลยสัสเอ้ย สรุปห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้ กูเลยไม่ห้ามละตอนนี้ แต่หากิจกรรมอะไรมาทำให้ไม่ว่างแทน พวกละครน้ำเน่าตบตีทั้งหลายกูไม่เปิดเลย เปิดเป็นพวกสารคดี ดิสโคเวอรี่ ดูปลา ดูสัตว์ฟังภาษาอังกฤษไปแทน เอ้อ ดีขึ้นเยอะอ่ะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคำแนะนำมากๆเว้ย
เอ้อ ยังมีอีกปัญหานึง คือ แม่ ลูกกูมันเข้าใจนะเว้ย ว่าหย่ากันคืออะไร กูบอกไปหมดแล้ว แต่กรณีแม่มัน มันไม่เหมือนคนอื่นไง คือเลิกแล้ว มันไม่เอาลูกเลย ก่อนจะหย่ากันอาทิตย์นึงมันไม่คุยกับลูกด้วยซ้ำจนลูกมันต้องหนีมาเล่นมาคุยกับกูแทน ตอนนั้นงานกูก็ยุ่งๆด้วย คือ พวกมึงเคยเห็นผู้หญิงเหี้ยๆแบบนี้มั้ยวะ ไม่เอาลูกตัวเองอ่ะไอ้สัสกูสงสารมันชิบหาย มันเข้าใจว่าหย่ากันจริง หย่ากันคือแยกกันอยู่ แม่ไม่อยู่บ้านแล้วนะ แต่ว่าแม่ยังอยู่บนโลกเจอแม่ได้ ทั้งที่อีห่าแม่มันทิ้งไปอยู่เชียงใหม่เปิดบ่อน เอาผัวใหม่เข้าบ้านแล้ว กูละไม่รู้จะบอกลูกยังไง กูควรจะหาเมียใหม่ดีป่าววะ? อย่างน้อยมันจะได้มีคนให้เรียกว่าแม่ แต่คนไทยกูคงจะขอบาย หาแหม่มฝรั่งดีกว่า ส่วนใหญ่ที่กูเห็นเทคแคดูแลลูกไม่รังเกียจลูกเลี้ยงดีกว่าคนไทยเยอะ
แต่ตอนนี้กูคิดนะ ว่าไอ้วิธีบ่น ด่า ตี เอาลูกไปเทียบกับคนอื่น ที่พ่อแม่กูสมัยเด็กๆเคยใช้แม่งไม่ได้ผลซักนิด ยิ่งทำลูกยิ่งต่อต้าน อะไรที่กูเคยเจอมาในสมัยเด็กๆแล้วกูไม่ชอบกูก็จะไม่ใช้เลยเพราะลูกกูมันก็คงไม่ชอบเหมือนกัน คุยกันด้วยเหตุผลกูว่าเป็นวิธีเลี้ยงเด็กที่เวิร์คที่สุดแล้วยังไงก็ขอบใจอีกทีเว้ย
ส่วนเรื่องโรงเรียนกูกำลังคิดอยู่ว่าจะรอให้จบอนุบาลแล้วค่อยย้าย หรือย้ายเทอมหน้าเลย พวกมึงคิดว่าไงดีวะ? ตอนนี้โรงเรียนที่มันอยู่สังคมก็ไม่ค่อยดีนัก ลูกกูเคยแดกนมโรงเรียนแล้วท้องเสียด้วย กูได้ยินข่าวลือมาว่าครูแม่งเอานมดีๆไปเก็บไว้ใส่แพคใหม่ใส่กล่องแบรนโรงเรียนแล้วขายให้เด็กประถมแทน แต่เอานมเก่าๆเหลือในคลังมาแจกให้เด็กแทนไอ้สัส จะทนไปซัก 2 ปีดีป่าววะ
เอ้อ แล้วมึงว่าโรงเรียนอนุบาลรัฐบาลกับเอกชนอะไรเวิร์คกว่ากันวะ เพราะตอนเด็กๆกูก็อยู่แต่รัฐบาลเลยไม่รู้ว่าเอกชนเป็นไงบ้าง
กูลองปรึกษาแฟนเก่า(ไม่ใช่เมียเก่านะ) มันก็แนะนำให้เข้าเอกชนพวกเซนต์ๆทั้งหลายเพราะมันจะเน้นสอนพวกภาษาที่ 2-3 สภาพแวดล้อมก็ดูดี
แต่รัฐบางที่ก็ใช่ว่าจะห่วยกูอ่านในพันทิปมันก็มีดีด้วย สอนภาษาจีน ภาษาอังกฤษ แถมค่าเทอม 1000 เองมึง กูเลยชั่งใจ
ภาพรวมๆพวกมึงคิดว่าอะไรดีกว่ากันวะ? รบกวนหน่อยนึง
>>60 เรื่องเมียมึงช่างหัวแม่งไปเลยดีแล้ว เหี้ยแบบนั้น ยิ่งคุยยิ่งเอาลูกมาเสีย ก็บอกลูกไปตรงๆแบบเพราะๆ แต่อย่าด่าเมียมึงให้ลูกฟัง อย่าสอนให้ลูกเกลียดแม่ บอกลูกไปแบบเพราะๆ ว่าแม่เขามีธุระ ไปต่างจังหวัดต่างประเทศว่าไป มาเจอไม่ได้ โกหกไปก่อน เดี๋ยวพอโตขึ้นจะเขาใจเอง ย้ำกับลูกไปว่าทุกคนยังรักลูกเหมือนเดิม บอกรักลูกบ่อยๆ
เรื่องวาดไพ่เดี๋ยวสักพักมีกิจกรรมใหม่ๆทำก็ลืมไปเอง มองในแง่ดีลูกมึงก็มีหัวศิลปะว่ะ
ส่วนโรงเรียน ถ้าต้องอยู่อีกตั้งสองปีก็ย้ายเถอะว่ะ นานไปสำหรับเด็ก ปรับตัวไม่ยากหรอกเด็กอ่ะ ไหนจะเรื่องสุขภาพอาหารการกินอีก
เรื่องโรงเรียนแนะนำอ่านกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/33292280
สู้ๆเว้ย ท่องไว้เพื่อลูกๆๆ กูเข้าใจ
เรื่องละคร กูบอกเลย ห้ามให้เด็กดู เด็กผู้หญิงไหนโตมากับละครไทย นิสัยแย่หมด วี๊ดว๊ายดัดจริตโวยวายไม่น่ารักซักนิด ให้ไปดูการ์ตูนช่อง9 ดิสนีย์คลับหรือทรูวิชั่นแทนดีกว่า อย่างน้อยการ์ตูนช่องพวกนี้เขาก็คัดมาแล้วว่าเหมาะกับเด็ก
เรื่องเล่นไพ่ ไปซื้อพวกเกมกระดานอื่นๆอย่างหมากฮอส หมากเก็บ การ์ดเกม แต่งตัวตุ๊กตา มาฝึกให้ลูกเล่นดู กูค่อนข้างเชื่อว่าเด็กชอบเล่นของแบบนี้มากกว่า พอติดแล้วเดี๋ยวก็เลิกเล่นไพ่ไปเองมั้ง
ส่วนโรงเรียนนี่สังคมมันมีผลจริงๆคือ กูก็แนะนำไม่ได้หรอก บอกได้แค่ว่าโรงเรียนแพงกว่ามันก็คัดเด็กของพ่อแม่กะเลกะลาดออกไปได้พอสมควรแล้วว่ะ อย่างโรงเรียนค่าเทอม1000ของมึงที่ว่าสอนภาษาจีนภาษาอังกฤษ กูก็ไม่รู้ว่าดีไหมนะกูไม่กล้าวิจารณ์ แต่ลองคิดดูว่าคนที่มีปัญญาจ่ายค่าเทอม1000มันก็มีปัญญาเอาลูกมันมาฝากอะ ลองถามความเห็นผู้ปกครองดีๆ หรืออย่างโรงเรียนแพงๆบางที่ก็มีเรื่องแกล้งกันเหมือนกัน
>>60 ยินดีด้วยที่ลูกโอเคขึ้น กูมีคนใกล้ตัวประสบการณ์คล้ายมึง
กูนึกถึงตอนเด็กละคร 3 5 7 9 กูก็ดูนะ 55 นั่งดูเลยทั้งครอบครัว (ผู้หญิง) แต่โตขึ้นมาเรียบร้อยอะไม่กรี๊ดๆ ส่วนนึงคือพ่อกูชอบเหน็บว่าละครไร้สาระ วุ้ๆ เลยไม่คิดงี่เง่าตาม เจ้าพ่อตรรกะ แล้วที่บ้านเป็นตัวอย่างที่ดีเลยไม่เป็นปัญหา มีการมานั่งด่าละครด้วยกันเฮฮากันไป 55
กับลูกคุยกันเยอะๆ สนิทไว้ยิ่งดีน่าจะเติมเต็มลูกได้บ้าง ส่วนแม่ใหม่นี่ไม่มีความเห็น ถามว่าเด็กเหงาไหมโตขึ้นกูคิดว่ามีบ้างนะ น้อยใจอะไรงี้ ใกล้ตัวกูมีซิงเกิลแด๊ดฟังๆ นางเล่ากูก็แอบสงสารเด็กเหมือนกัน นางพยายามพาลูกเที่ยวให้เวลาเยอะๆ มีกิจกรรมด้วยกัน กูก็คิดว่าน่ารักดี เว้นว่าอยากได้เพื่อนคู่คิด คู่ชีวิต คู่แชร์ ก็ลองมองๆ ไว้ก็ได้ หวังว่าจะเจอคนที่รักลูกมึงจริงๆ ละกัน
โรงเรียนนี่กูเรียนเอกชนมากูได้ภาษานะ รร.กูเน้นอังกฤษ คุณภาพรุ่นกูจัดว่าดีเด็กที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถมเรียนสายหมอกันเยอะอยู่ เรียนต่อรร.ท็อปๆ ของจังหวัดหลายคน ต่อม.ท็อปของประเทศก็หลาย (สังเกตเฉพาะเพื่อนห้องเก่ากูนะ) อดีตหญิงล้วนเข้มงวดระเบียบจัดสุดๆ แต่เสียดายยุคหลังหละหลวม ถ้าเงินถึงส่งเข้าเอกชนได้ก็ส่งแต่ 2 คนอายุไล่ๆ กันนี่ก็น่าคิดนะ
ตอนเด็กกูเคยออกอนุบาล 1 ต่อ 2 รร.แถวบ้านไม่เป็นปัญหาอะไรนะ
ไอ้สัสชี้ผิดจะชี้ 60
>>60 ยินดีด้วยนะคะที่ลูกคุณพัฒนาไปในทางที่ดี เรื่องแม่ใหม่มีความเห็นว่าอย่าเลยค่ะ ช่วงนี้เด็กยังทำใจไม่ได้ ไม่ว่าแม่ของเขาจะแย่ขนาดไหนในสายตาของเด็กนั้น แม่ก็คือแม่ค่ะ จะไม่มีใครสามารถแทนได้เด็ดขาด ดีไม่ดีหากคุณนำแม่ใหม่ขึ้นมาเด็กอาจจะคิดว่ากำลังถูกแย่งความรักและพลันจะต่อต้านอีก ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกให้แน่นแฟ้นค่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเด็กที่ครอบครัวแตกแยก ต้องการความรักสูง สูงมากค่ะ เราต้องให้ความรักเขามากๆ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปหาความรักจากคนอื่น เมื่อโตขึ้นจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องใจแตก
ส่วนเรื่องไพ่ไพ่ ให้เล่นได้ค่ะ ถ้าอยากเล่นไพ่นักก็ให้เล่นแต่เปลี่ยนเกมส์ที่เล่น และชนิดของไพ่ แล้วถ้าน้องเขาวาดไพ่เป็นยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ แทนที่จะให้วาดพวกไพ่ตองก็ให้วาดไพ่คำศัพท์ ไว้ให้เล่นจับคู่ เอาไว้เสริมสร้างพัฒนาการ เด็กสมัยนี้วิธีการเลี้ยงดุด่าไม่เวิร์คแล้วเพราะเด็กมีความคิดมากขึ้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการอธิบายเหตุผลพูดคุยอย่างผู้ใหญ่ ไม่ได้ให้เด็กกลัวเราแต่ให้เด็กเกรงเรา ส่วนเรื่องโรงเรียนอันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก มันอยู่ที่เด็กด้วยว่าจะคบเพื่อนแบบไหน โรงเรียนเอกชนก็มีพวกคนรสยและฐานะปานกลาง แต่พวกนี้ก็ไม่ได้คอนเฟิมว่าจะดีเสมอไป อาจจะมีพวกลูกคุณหนูนิสัยแย่มาก็ได้
ส่วนโรงเรียนรัฐ ก็อย่างที่รู้กันว่าใครจะเรียนก็ได้ ทุกที่ล่ะแค่มีคนดีและไม่ดีปะปนเพราะมันเป็นสังคม สอนลูกเราให้ดี ให้เลือกคบเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าแบบ อี๋ แกมันไม่ดีฉันไม่คบแก มันก็ไม่ใช่ สอนให้ลูกเป็นที่รักของผู้อื่น ให้อยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นให้ได้ รู้จักผิดชอบช่วยดี แค่นี้อยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ
ปล. เวลาจะย้ายโรงเรียนปรึกษาลูกหนย่อยก็ดีค่ะ ให้แกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจบ้าง เพราะเมื่อก่อนดิฉันเคยเรียนนานาชาติสมัยอนุบาลแถวนนทบุรี พอจะขึ้นป.1จู่ๆ พ่อก็ย้ายมากรุงเทพไม่ถามสักคำ ให้เข้าโรงเรียนเอกชนภาคไทย กว่าจะปรับตัวได้ ตั้งหลายเดือน (เพราะตัวเองไม่แข็งไทย แล้วอาจารย์ที่นี่ก็ไม่พูดอังกฤษ เพื่อนๆก็ล้อหาว่าเราพูดไทยไม่เป็น //ก็พูดไม่เป็นจริงๆ) ผมนี่ร้องไห้ไปโรงเรียนทุกวัน เกลียดโรงเรียนไปเลย
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.