ย้าย
>>>/lounge/303/
Last posted
Total of 1000 posts
ย้าย
>>>/lounge/303/
ทุกวันนี้...ยิ่งใช้ชีวิต ยิ่งรู้สึกเหมือนไม่เหมือนตัวเองขึ้นเรื่อยๆ...ถ้ารู้ว่าโตมาแล้วจะยากขนาดนี้ ผมนี่ล่ะอยากมุดกลับเข้ารกแม่เสียจริงจัง...
เสียดายที่แม่ไม่อยู่ในกรูมุดกลับแล้ว...เหลืออยู่ก็แต่พ่อ...ที่ไม่รู้จะทิ้งกรูไปอีกเมื่อไหร่
เรียนนีโคตรเหนื่อย แข่งขันก็ซะปวดหัว...ทำงานเชรี่ยอะไรเกือบทั้งวัน...ได้นอนสองสามชม.ต่ออาทิตย์
แดกกาแฟต่างน้ำ...อาจารย์ก็ขยันล้มแบบจังงงง มีความสุขมากรึไง เฮ้อ....ถ้าแม่งจะเยอะขนาดนี้...
ตายเลยดีกว่าไหม...
>>2 เด๋วพอมึงกำลังจะจบจะเครียดกว่านี้อีก อย่างกูเนี่ย เรียนจะจบอีกไม่กี่เดือนแล้วส่งพอร์ตไปเป็นร้อยที่แต่ไม่มีใครรับกูเข้าทำงานเลย กูส่งมาตั้งแต่ต้นเทอมยันตอนนี้คนที่ส่งทีหลังกูเค้าได้งานกันไปหมดละ เหลือแต่กู ทำไมมันยากอย่างงี้วะแล้วทำไมคนอื่นถึงได้งานกันง่ายๆ กูว่ากูก็ไม่ได้ห่วยนะ ผลงานก็เยอะ ทำไมวะหรือกูมันกระจอกมากแต่ไม่รู้ตัวเอง
อุตส่าห์เตรียมใจระบายบางเรื่องให้คนที่(คงคิดเอาเองว่า)สนิทฟัง นอกจากเขาไม่ฟังแล้ว คงคิดว่าไร้สาระอีกมั้ง รู้สึกแย่เหี้ยๆ
>>2 กูเข้าใจมึง เพราะกูก็เจอ บางทีแม่งคีบแบบกูลงถังขยะต่อหน้าต่อตาด้วยซ้ำ เคืองนะ แต่ก็ต้องทำต้องแก้ บางวันไม่ได้นอนนั่งตัดโมเดลยันเช้า หอบโมเดลเพิ่งทำเสร็จไปเรียนเลยตอนแปดโมง น้ำไม่อาบกลับมานอนตาย ตื่นตอนเย็นรีบทำการบ้านอีกวิชาแบบวนลูป เป็นมิตรกับกาแฟ กระทิงแดง เซเว่น จบมาเจอลูกค้าเหี้ยๆหลายคนก็เยอะ ตอนเรียนมันหนักแค่ทำงานส่ง แต่ตอนทำงานแม่งหนักไปหมดทุกอย่างทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิต มึงจำคำพูดรุ่นพี่แบบกูไว้ให้ดี อย่าดองงาน มีเหี้ยอะไรรีบๆทำซะอย่าหมักไว้ เดี๋ยวมึงจะลำบากทีหลัง
กูกำลังตระหนักว่าตัวเองเป็นมนุษย์ห่วยแตกว่ะ แบบมนุษย์ที่ไม่มีอะไรดี ทั้งหน้าตา การศึกษา ฝีมือ งาน เงิน แถมยังขาดความมั่นใจ ขาดการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ขี้ระแวงอีก ทำเหี้ยไรไปต้องกลับมาคิดมาก ทำเหี้ยไรมีแต่โดนด่า ไม่ใช่ว่าที่เป็นอยู่นี่เป็นเพราะกูไม่พยายามนะกูพยายามหางานเป็นร้อยๆที่ก็ไม่ได้ พยายามคยกะคนอื่นก็ต่อไม่ติด ลดความอ้วนก็ไม่ลดทั้งๆที่กินก็ไม่ใช่มาก ออกกำลังกายไม่บ่อยแต่ก็ออกทุกอาทิตย์ ฝีมือก็ไม่เทพทั้งๆที่ฝึกชิบหาย ทำเหี้ยไรก็ไม่ดีทั้งๆที่ตั้งใจทำแล้วแต่รู้สึก่าสมองด้านครีเทีฟกูมันฝ่อมั้ง คิดอะไรได้แต่โบราณๆ พวกมึงว่ามนุษย์ที่บัดซบทุกอย่างแม้พยายามจนแทบกระอักนี่มันมีจริงป่าววะ หรือทั้งหมดนี่มันเกิดจากการที่กูพยายามไม่พอ
>>9 อย่างน้อยมึงก็ยังรู้ว่าอะไรเป็นปัญหาที่มึงต้องแก้ไข แต่กูนี่ไม่รู้เลยว่ะเพราะพยายามแล้วแต่ก็ยังไม่ดีเลยไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อไปถึงจะดีว่ะ เหมือนหนทางมันมืดมิดหมดเลย จนกลัวว่าถ้าจริงๆแล้วความพยายามไม่ได้ช่วยอะไรกูจะทำไงหรือ หรือมันจะมีคนที่พยายามทำอะไรก็ไม่เกิดจริงๆ
สำหรับคนทำงานครีเอทีฟมึงต้องไม่ใช่แค่ฝึกว่ะ ต้องหาประสบการณ์ชีวิตด้วยถึงจะคิดอะไรใหม่ๆแหวกๆได้
ออกเดินทางชมนกชมไม้รู้จักผู้คนใหม่ๆ หาหนังแปลกๆที่ไม่เคยคิดจะดู อ่านหนังสือใหม่ๆบ้างหลุดจากกรอบเดิมๆที่ใช้ชีวิตมาตลอด
เพิ่งส่งมิดเทอมไปเมื่อวาน แย่ว่ะ...โมเดลก็ไม่เสร็จ ทั้งๆที่กูคิดไว้แล้วว่า มันต้องดีอ่ะ คือถ้าโมเดลเสร็จนี้เลิศอ่ะ วาดรูปกูก็วาดมาเยอะ ก็กะจัดเต็มแต่แม่งทุกอย่างแย่ไปหมด งานต้องเริ่มตอนบ่าย ดรออิ้งปริ้นยังไม่เสร็จ กว่าจะมาบ่ายสอง โมเดลแม่งไม่ยอมมาส่ง กลายเป็นว่า เวลาที่กูเสียไป เงินที่กูเสียไป ไม่มีอะไรดีสักอย่าง โดนหักคะแนนส่งเลทอีกต่างหาก ไม่คิดว่าจะทำงานได้แย่ขนาดนี้ว่ะ //ผมนี้้องไห้หนักมาก....
เมื่อวานเป็นอะไรที่เชรี่ยมาก....พูดเลอ
>>13 มันผ่านไปแล้วเว่ย ทำงานมันก็ต้องมีวันที่เหี้ยๆมั่ง ดีๆมั่ง เดินหน้าๆ ก็ได้รู้ขีดจำกัดตัวเองไป
จะได้รู้ว่าต้องปรับยังไงด้วย
ตอนแรกๆกูก็คิดว่า กูจัดระบบอะไรได้ดีนะ
พอเรียนคณะนี้ กูถึงรู้ ว่าอ๋อ ไม่ว่ะ ยังดีได้กว่านี้อีก 555
นอยแดกให้พอแล้วลองจัดระบบตัวเองใหม่ดู จะได้ไม่ต้องมาเจอความรู้าสึกแบบนัี้อีก
>>15 รุ่นพี่สายออกแบบกูเคยพูดตอนกูนอยที่งานออกมาไม่พอใจไว้ว่า
งานออกแบบ ไม่มีคำว่า เพอร์เฟค หรือ เลิศ
เพราะมันพัฒนาปรับปรุงไปได้เรื่อยๆ
ต่อให้มึงส่งไปแล้ว เวลาผ่านไป มึงโตขึ้น เก่งขึ้น งานชิ้นนั้นของมึงที่เคยดี อาจจะง่อยไปเลยก็ได้
(เหมือนเวลากลับไปดูรูปที่มึงวาดตอนเด็กๆ ไรงี้)
กุเคยแบบ ส่งงานเสร็จ นึกได้ ไอเหี้ยยยย น่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ ด้วยซ้ำไป
มันอยู่ที่เมิงบริการจัดการ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ในเวลาที่มี แล้วก็ปล่อยให้มันไป
แล้วก็เชื่อมั่นในสิ่งที่มึงพยายามมาตลอดซะ
คือถ้ามันไม่ทันเวลา แต่มึงก็อาจทำได้ดีที่สุดแล้ว ตามข้อจำกัดทุกอย่างที่มึงมี
(คือกูเป็นบ่อยนะ เวลาทำงาน แล้วชอบวางแผนงานไว้โหด ตั้งเป้าสูง แล้วงานมันไม่ได้ ด้วยเวลาไม่พอ หรือ สกิลไม่ถึง)
อย่างมาก มันก็แค่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าว่า มึงมันกาก ทำตามเป้าไม่ได้ เท่านั้นแหละ 555
แล้วมึงจะทำไงละ ยอมให้มันด่าว่ากากไปเรื่อยๆหรอ? ก็ทำได้แค่ดูว่าตัวเอง ทำไมถึงทำไม่ทัน (ทั้งที่ทำเต็มที่สุดๆแล้ว) เท่าัน้นแหละ
ถ้านอยมาก ก็ทำงานเพิ่ม ไม่ต้องสนใจอะไรแม่งเลย (อันนี้ถ้าเป็นเรื่องเฟลว่างานไม่ดีนะ) ทำแม่งจนพอใจ
ก็ถือซะว่า เป็นบทเรียนราคาแพงเว่ย นี่แหละ ที่มึงจ่ายค่าเทอมเพื่อมาเรียน :)
เด็กแม่งขาดวิจารณญาณในการดูหนัง/การ์ตูนว่ะ เลียนแบบการ์ตูนหมด นี่กูพูดถึงน้องตัวเองนั่นแหละ กลุ้มใจว่ะ จะตัดผมทรงเดียวกับการ์ตูน เลียนแบบการ์ตูนหมด ทำเรื่องจัญไรแบบพระเอก ...... จะให้การ์ตูนเซ็นเซอร์อะไรที่ไม่เหมาะสมเช่นโจรสลัดในวันพีชแดกเหล้า ก็ไม่ได้อีก กูก็ไม่อยากให้เซ็นเซอร์เหมือนกันแม่งแก้ปัญหาไม่ถูกจุดแถมยังน่ารำคาญอีกว่ะกูว่า แต่กูก็ไม่อยากให้น้องกูเลียนแบบอะไรที่ไม่ดีแบบนี้ ทำไงดีวะ
>>17 มึงก็หาทางสอนสิวะ อะไรถูกอะไรไม่ถูก อะไรควรทำอะไรแม่งเหี้ย แบบมีช่วงเหี้ยมาเมื่อไรมึงก็พยายามสอนหน่อยว่านี้เหี้ยนะ ตรงส่วนไหนเลียนแบบมาไม่ดีมึงก็ต้องเตือน หาเหตุผลดีๆมาอธิบาย แก้ด้วยเซนเซอร์มันไม่ถูกจุดอยู่แล้ว จะว่าไปน้องมึงอายุเท่าไรวะ คือถ้ายังอยู่ประถมต้นนี้กูว่าคงคิดยังไม่ค่อยเป็นเท่าไร เจอความเป็นพระเอกก็เชื่อหมด(มันเท่นิ) มันก็เป็นหน้าที่มึงแล้วละที่ต้องสอน
ทำไมกูไม่เคยคิดอยากทำตัวแบบโนบิตะหรือไม่ก็ทาตัวเหลืองแบบกล้วยห้อมจอมซนว่ะ
กูว่ามันอยู่ที่สภาพแวดล้อมของเด็กกับวิจารณญาณของมันนะ
มึงลองหาการ์ตูนที่พระเอกไม่แดกเหล้า ตัวละครรอบตัวไม่ทำเรื่องแบบที่มึงไม่ชอบก็ได้นะ
โดราเอมอนนี่แม่งตำนานเลยกูแนะนำ ไอ้ภาคเดอะมูฟวี่พวกโฮ่งเหมียว อาณาจักรหุ่นยนต์ อาหรับราตรีเงี้ย
เด็กมันเลียนแบบตามพ่อแม่ มากกว่าทีวีอีก
ไอเหี้ย กูเฟลอีกแล้ว งานกูไม่ได้รับเลือกอ่ะ เสียใจๆๆๆๆ แงแงแงงแง
พวกมึงรับมือกับความผิดหวังยังไงวะ กูทำใจไม่ได้แล้วอ่ะ โดนปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจนจะลุกยืนไม่ไหวแล้ว ทำไงดี
ปฏิเสธไรฟะ งาน ความรัก หรืออะไรอื่นๆอีก
มึงเตรียมตัวไม่ดีหรือเปล่ามึง ทำงานเกี่ยวกับอะไรล่ะ เรียนจบสาขาไหน กูว่าบางที ฟ้าอาจจะให้มึงไม่เป้ฯลูกน้องใครก็ได้นะมึง
กูเป็นคนใจแคบ ไม่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ค่อยชอบมีส่วนร่วม
กูเคยลองฝืนช่วยคนอื่นดู กูก็ช่วยมันจนสุดทาง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีมันฝืนๆ ลองออกไปหาไรทำร่วมกับเพื่อนๆเก่าๆก็งั้นๆ
จะแก้ยังไงดีวะ
>>34 เพื่อนกูแม่งอยากเป็นหมอ แต่ไม่ชอบช่วยเหลือคน ตอนมันป่วยกูก็ซื้อยาให้มันแดกฟรีๆ แต่แค่โทรไปชวนให้ช่วยงานคณะด้วยกันวันศุกร์ ก็โกหกบอกจะกลับบ้าน มาวันเสาร์โทรหากูให้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนมัน กลับบ้านพ่อง (ม.กูอยู่ ตจว. บ้านมันอยู่กรุงเทพ)กูก็แกล้งถามว่าไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแลเวหรอ มันบอกอ๋อเปลี่ยนใจ ไม่ว่าจะเทสรุ่นรับน้องหรือช่วยงานคณะมันไม่เคยโผล่หัวมาเลยเว้ย ถ้าไม่มีคะแนนมันไม่ไป ถ้ามึงอยู่ด้วยลำแข้งของมึงเองไม่โทรมาขอความเชื่อเหลือชาวบ้านกูจะไม่ว่าเลย แต่ไอ้นี่โทรมาขอนั่นขอนี่แต่ให้มาวันเทสรุ่น ให้มาช่วยงานตัดกระดาษหน่อยก็ไม่มา น้ำใจไม่มีแต่อยากเป็นหมอ บอกเป็นหมอสบาย+งานน้อย+เงินเดือนเยอะ ตอนแรกกูไม่เกลียดมันนะแต่มันดูถูกวิชาชีพหมอชิบหายกูโกรธมาก เป้าหมายมันคือหมอผิวหนัง เกลียดจังคนที่ทำงานพวกนี้ควรมีจิตอาสากว่านี้ไหม? ไม่ใช่ถ้าไม่มีค่าตอบแทนก็จะไม่ทำ
>>36 จริงๆการทำงานแลกเงินในความคิดกูมันก็ไม่ผิดนะแต่พวกที่เอาแต่ทำตัวเป็นฝ่ายรับอย่างเดียววันนึงจะลำบากเพราะไม่มีใครให้มันซ้ำแล้วซ้ำอีกหรอก กูคิดว่านิสัยงี้ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่จะเกลียดมัน คงมีคนอื่นอีกเยอะและวันนึงที่มันต้องการความช่วยเหลือก็จะไ่ม่มีใครอยากช่วยมันเพราะมันไม่เคยช่วยใคร ก็ปล่อยมันไปมึงอย่าไปสน ห้องกูก็มีคนแบบนี้หมือนกันตอนนี้แม่งไม่มีเพื่อนคบแล้วเลยพยายามกลับมาทำดีกะคนอื่นแต่ใครๆก็รู้สันดานกลายเป็นคนก็ดีด้วยคุยด้วย รับความช่วยเหลือจากมันแต่ไม่เป็นเพื่อนด้วยและไม่อยากช่วยมันเวลามันเดือดร้อน คิดดูงานทีสิสมันพังไม่มีใครสงสารซักคนมีแต่ไม่สนใจกับสะใจ ชีวิตน่าสมเพชเหี้ยๆเพราะหลอกแดกคนอื่นเค้ามามาก ขนาดแก้งเพื่อนมันเองยังแตกกะมันเลยสุดท้ายไม่มีคนช่วยทำงานงานดรอปเลย ก๊ากๆๆๆ
ปล.อาชีพหมอที่กูเคยได้ยินมันลำบากไม่ใช่หรอวะ ไม่เห็นมีหมอคนใหนบอกว่างานสบายซักคน
คนเราทำอะไรมันต้องหวังผลกันอยู่แล้วมันเป็นสันดานของมนุษย์ ไม่มีหรอกพวกที่ทำแล้วไม่หวังผล แบบทำบุญพวกมึงก็หวังจะได้บุญ หรือแม้กระทั่งยกมือไหว้คนมึงยังหวังให้เขารับไหว้เลย เราแก้ไขสันดานใครไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือแก้ไขตัวเอง เอาง่าย คือแม่งก็เป็นแค่เพื่อนมึงป่ะ ไม่ได้มีความหมายอะไรในชีวิตมึงอยู่แล้ว อย่าเก็บเรื่องแม่งมาใส่ใจเลย สักวันสิ่งที่แม่งทำก็จะส่งผลกระทบต่อตัวมันเอง โตขึ้นจะเป็นหมอ แต่ถ้าสันดานแบบนี้ก็คงไปไม่รอด เพราะการจะทำอาชีพอะไรสักอย่าง การจะอยู่กับมันไปตลอดชีวิตของมึง อาศัยแค่เงินเยอะ งานน้อย อย่างเดียวมันไม่พอ มันอยู่ที่ใจมึง ใจมึงต้องชอบ
บางทีกูก็เห็นแก่ตัวนะ 555+ งานคณะไม่ค่อยช่วย แบบงานกูเยอะแล้วไงประเด็น แต่กูก็ช่วยหากกูว่างจริงๆว่ะ
กูปรึกษาพวกมึงหน่อยดิ กูกำลังจะสิ้นหวังกับอนาคตลูกว่ะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คืองี้
เมื่อวานกูเพิ่งไปหย่ากับเมียมา เหตุผล แม่งเล่นไพ่ เกาะแดก วันๆไม่ทำห่าไรนอกจากเล่นไพ่ ลูกกูก็ไม่ดูแล พาเพื่อนมาแดกเหล้าบ้านกูผลานตังไปวันๆ กูก็หามาให้มันเรื่อยๆจนกูหมดความอดทน ไม่เท่านั้นสิมึง มันสอนลูกกูเล่นไพ่ แดกเหล้าแต่เด็กเลยไอ้เหี้ย ช่วง 2-3 ปีก่อนกูมีงานเยอะมากๆด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลามาดูลูกนักด้วยเลยแย่ไปใหญ่ มึงรู้มั้ยลูกกู 4 ขวบมันเล่นป๊อกเด้ง กับอีแก่เป็นแล้วอ่ะไอ้เหี้ย จะอัจฉริยะก็ควรจะไปเก่งในเรื่องดีๆสิวะ ไม่เท่านั้นแม่งพูดกูมึง ผัวๆเมียๆ เย็ดๆ เริ่มเอาแต่ใจ ออกแววแรดแต่เด็กแล้วไอ้สัส กูพูดได้เลยถ้าปล่อยไว้แบบนี้ป.5 มันมีผัวแน่ๆแต่...
กูจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้น อดีตแก้ไขไม่ได้แต่อนาคตเปลี่ยนแปลงได้ ตอนนี้กูมีชีวิตใหม่ สลัดเมียสวะออกไปพ้นๆได้ซะที เชื่อมั้ยตอนหย่ากันมันไม่พูดถึงเรื่องลูกเลยด้วยซ้ำ บอกศาลไปว่าไม่มีกำลังทรัพดูแลทั้งๆที่มันมีบ้านที่เชียงใหม่ทิ้งลูกสาวสองคนให้กู แต่ไม่เป็นไรกูไม่ฟ้องหรอก เอาลูกมาให้กูดีซะอีกกูจะเลี้ยงให้เป็นคุณหนูเลยสัส คือลูกกูโตไปหน้าตาดีแน่นอนแม่มันสวยกูก็หล่อ แต่ปัญหาคือมันรับนิสัยเหี้ยๆของแม่มันมาเต็มๆ เอาแต่ใจโวยวาย แรดร่าน ปากจัด ครบเซ็ตสก๊อยเลยมึง ณ ตอนนี้ 4 ขวบคนกับ 5 ขวบคนนิสัยแรงพอๆกัน มันฉลาดนะแต่ไปฉลาดในเรื่องไพ่ไอ้สัสเอ้ยหย่าช้ากว่านี้แม่งคงแทงสนุ๊ก ปั่นไฮโลเป็นน่ะสัส
กูจะเปลี่ยนนิสัยมันยังไงดีวะ แล้วกูก็ไม่อยากตีกลัวโตไปมันจะเก็บกด คือตอนนี้กูกำลังจะสร้างเงื่อนไขคือพูดเพราะ เรียบร้อย ตั้งใจเรียน ทำตัวดี ทำตามกฏของกู อยากได้อะไรมึงได้ โวยวายมึงจะไม่ได้อะไรจากกู ไพ่คือห้ามเล่นเด็ดขาด ตอนนี้กูว่าจะลาออกงานมาเลี้ยงลูกเลยว่ะ แต่ติดที่กูเลี้ยงเด็กไม่เป็นนี่แหละ พวกมึงช่วยแนะนำกูที หรือกูควรจะเริ่มที่สังคมด้วยป่าววะ ตอนนี้มันเรียนโรงเรียนอนุบาลแถวบ้านกูค่าเทอมไม่แพงมากสังคมนับว่าเหี้ยสัสมีแต่เด็กแว๊นอ่ะมึงแถบนั้น กูควรจะส่งเข้าหญิงล้วนดัดนิสัยหรือนานาชาติไปเลยดีป่าววะได้ทั้งภาษาได้ทั้งสังคม หรือพวกมึงคิดว่าสังคมมันไม่เกี่ยววะ? เพราะส่วนตัวที่ส่งเข้าแถวบ้านเพราะกูก็จบมาจากโรงเรียนวัดนี่แหละ แต่กูรวยกูก็ได้ดีได้ยังไงก็ช่วยแนะนำกูที
>>41 ลกมึงยังเด็ก ยังมีวิธีสอนอีกนาน อยู่กับเขาเยอะๆ เรียนรู้เขา เข้าใจเขาว่าเขาเป็นเด็กยังไง
กูว่าหลังจากนั้น มึงจะเข้าใจเองว่า ต้องทำยังไง เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
ลองหาหนังสือจิตวิทยาเด็กมาอ่านพัฒนาการเด็กคร่าวๆก็ได้เว้ย
กูไม่แนะนำการใช้แค่วิธีออกกฎ แล้วทำได้ได้รางวัลนะ
คือใช้ได้ แต่อยากให้มึงให้ความเข้าใจเด็กด้วย บอกเหตุผลให้เด็กได้
ไม่งั้นถ้ามึงเซทกรอบไว้แน่นไป ลูกมึงตอนไม่อยู่ในสายตา ก็ไปทำอะไรเหี้ยๆได้อยู่ดี
เรื่องไพ่ เรื่องอะไรงี้ กูว่า เลิกเล่นไป ก็ดีแล้ว ถ้าสภาพแวดล้อมไม่มีคนเล่น ก็ไม่เล่นไปเอง
เรื่องโรงเรียน หญิงล้วน กับนานาชาติก็ไม่ใช่ไม่แรง ลองไปถามๆดูแล้วกันว่า สภาพแวดล้อมที่ไหนดี ใจเย็นๆเลือกแล้วกัน
>>42 ขอบใจมึงมาก กูว่าวันเสาร์หน้าจะไปปรึกษาสถาบันพัฒนาการเด็กอยู่ หาหนังสือที่มึงว่ามาอ่านด้วยพอดี โอเค
เออ ช่วยแนะนำโรงเรียน ใกล้ๆร่วมฤดีให้หน่อยดิวะ กูลองเสิร์ชดูแล้วแต่ไม่รู้สังคมข้างในว่ะ อนุบาล ยัน ม.ปลายเลยก็ดี แต่นานาชาติร่วมฤดีกุไม่ไหวนะ ขายบ้านยังไม่พอจ่าย
แนะนำอะไรมากไม่ค่อยได้ แต่ในฐานะที่มีพ่อเป็นซิงเกิ้ลแด๊ก
พยายามอยู่เป็นเพื่อนลูก ทำกิจกรรมร่วมกันให้มากๆ อาจจะเล่นด้วยกันหรือทำอาหารให้ทานก็ได้ พอลูกโตขึ้นพอที่จะเรียนรู้เอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควรได้แล้วก็อย่าพยายามพูดเรื่องแย่ๆฝั่งแม่มากนัก พยายามพูดให้เป็นกลางไว้ สู้ๆ
4-5ขวบยังดัดได้ไม่ยากเกินไป ทำตัวดีมึงก็ใจดี ทำนิสัยแม่มึงขึ้นเสียงให้มีอำนาจกว่าลูกให้ได้ถ้าต้องตีก้ต้องทำว่ะ
สู้เขาสหายโม่ง
>>41 จากหัวอกของเด็กที่มีพ่อแยกทางกับแม่ ก่อนอื่นเลยค่ะ ไม่ว่าเด็กจะเล็กขนาดไหนจะบอกเลยว่าเด็กเขาเข้าใจค่ะ เมื่อพ่อแม่แยกทางกัน มันจะเป็นปมในจิตใจของเด็กค่ะ ปมเล็กปมใหญ่ยังไงนี่ก็ต้องดูอีกที สิ่งที่คุณพ่อควรจะทำในตอนนี้ควรจะอธิบายและชี้แจงให้ลูกเห็น ว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด ควรจะมอบความรักให้มากกว่าเดิมเป็นสิบๆเท่า เพราะเด็กที่พ่อแม่หย่ากันนั้นต้องการความรักสูงมาก ตอนนี้อาจจะไม่ต้องอธิบายถึงรายละเอียดว่าทำไมถึงหย่ากัน แต่เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นพูดคุยรู้เรื่องควรจะให้แกมานั่งรับฟังถึงปัญหา อธิบายให้แกฟัง อย่าคิดว่าเด็กเป็นเด็ก นี่คือเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่จริงเรื่องค่ะ เมื่อคุณมีลูกเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของครอบครัว พยายามสอนเด็กว่าการที่ครอบครัวมีปัญหา ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำให้ตัวเองเป็นเด็กมีปัญหาตามไปด้วย เซ็ทตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่พึ่ง อยู่กับลูกให้เหมือนเพื่อนที่ลูกสามารถเข้าหาและปรึกษา และต้องวางตัวให้เป็นผู้ปกครองลูกจะได้รู้ว่าใครคือผู้ใหญ่ใครคือเด็ก การสอนที่ดีคืออะไรที่เราอยากให้ลูกทำกับเรา เราก็ทำกับลูกค่ะ เช่นหากไม่อยากให้ลูกพูดคำหยาบ คุณก็ไม่ควรจะพูดคำหยาบทั้งกับลูกและคนอื่นๆทั้งต่อหน้าและลับหลังลูก บางทีคุณอาจจะคิดว่าแกไม่ได้ฟัง แต่เด็กในวัยนั้นเรียนรู้ทุกอย่างมาจากผู้ปกครองหมดแหละค่ะ
สู้ๆนะคะ //หากพูดเยอะไปขออภัยค่ะ
>>47 ผิดเต็มๆที่ปล่อยลูกไปอยู่กับแม่นิสัยเหี้ยแบบนั้น พลาดตั้งแต่เอามาเป็นแม่แล้วล่ะ แถมลูกสองคนนิสัยแม่มันเป๊ะทั้งคู่ ปวดหัวมากๆครับ
แต่ทำไงได้มันก็ลูกเรา ยังไงก็ขอบคุณครับ เอ้อ อีกนิดนึงก็คือละครสมัยนี้สักแต่ว่าทำออกมาไม่นึกว่าเด็กมาดูมันจะคิดยังไงลูกผมมันจำมาจากละครทั้งนั้น ท่าทางคำพูดอะไร+นิสัยแม่ที่เป็นของจริงเข้าไปอีก เคลียดเลยครับ
กูไม่รู้จะถามตรงไหน ขอถามตรงนี้แล้วกัน
คือตากูเสียปีที่แล้ว ตอนนี้กระดูกอยู่บ้านน้า ส่วนกระดูกยายกับบรรพบุรุษคนอื่นๆอยู่ที่บ้านตา แล้วน้ากูคนนึงก็บอกว่าจะเอากระดูกไปรวมไว้ที่วัดแล้วให้แม่กูเซ็นเอกสารยินยอมให้เอากระดูกไปไว้วัดได้ มันเป็นเอกสารเขียนขึ้นเองไม่ใช่เอกสารทางการอะ(ลุงกูเขียนขึ้นมา) กูอยากรู้ว่ามันจำเป็นต้องเซ็นด้วยเหรอวะแค่ย้ายกระดูก ตอนย่ากูเสียพ่อกูก็ไม่เห็นต้องเซ็นอะไร ทีนี้ทางบ้านแม่กูอะมีปัญหาเรื่องสมบัติอยู่ คือบ้านที่กูอยู่ตอนนี้อะปลูกอยู่ตรงที่ของยายที่เสียไปแล้ว(ก่อนเสียแกบอกให้มาปลูกที่นี่จริงๆแม่กูจะไปปลูกแถวลาดพร้าว) พอยายเสียก็ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เออแล้วแม่กูก็ไม่เซ็นอะ เลยทะเลาะกับน้า กูสงสัยว่าแม่กูคิดไปเองรึเปล่าว่าน้ากุจะให้มาหลอกเซ็นเอกสารอะไรหรือว่าเป็นไปได้ว่าย้ายกระดูกทำบุญมันต้องทำตามขั้นตอนนั้นคือมันต้องเซ็นจริงๆ
ตอนนี้กูรู้สึกแย่มาก เพราะจริงๆกูไม่ได้มีปัญหากับญาติพี่น้อง แต่แม่กูมีปัญหาเรื่องนี้บ่อยมากจนกูเริ่มเขวว่าพวกญาติมันจะมาเอาประโยชน์จริงๆรึเปล่า
>>48 ไม่ต้องให้ดูละครเลยค่ะดีที่สุด เมื่อก่อนเคยรู้จักกับครอบครัวหนึ่งที่ ทั้งบ้างไม่มีทีวี มีเพียงเครื่องเดียวในห้องนอนพ่อแม่ ซึ่งเด็กจะต้องขออนุญาติก่อนเข้าออกห้องพ่อแม่ แต่ก็เข้าใจว่าสมัยนี้เทคโนโลยีมันกว้างไกลกว่าสมัยก่อนมากๆ ไม่มีทีวีก็มีเน็ต แต่สมัยนี้ก็มีโปรเกรมแบบบล็อคค่ะ แบบบล็อคเน็ตพวกเว็บต่างๆที่ไม่อยากให้เด็กเข้าเราก็บล็อคได้ค่ะ แม้ว่าจะห้ามลูกดูทีวีแต่เราก็เลือกสรรค์ได้ค่ะ เช่นละครช่วงอาหารเย็นที่มันสนุกๆเหมาะสำหรับเด็กก็ให้ดู แต่พอถึงฉากที่ตบกันหรืออะไรก็ลองคุยกับลูกดูว่าเห็นหากนี้แล้วรู้สึกอย่างไร คุยและปรึกษาถึงผลที่ตามมา ต้องบอกว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือการแสดง หากคนทีทำแบบนี้ในชีวิตจริงจะมีผลอย่างไร แล้วก็ควรจะกำหนดเวลาดูทีวีค่ะ เช่นระหว่างช่วงเวลานี้ถึงนี้เท่านั้น ก่อนจจะดูทีวีการบ้านต้องเสร็จก่อนตั้งเงื่อนไขอะไรๆก็ว่าไป
>>50 ก่อนจะลงมือเซ็นอะไรต้องอ่านสัญญาให้ถี่ถ้วน ให้ครบทุกแผ่นและต้องเข้าใจทุกแผ่นและต้องมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเพิ่มเติม การเซ็นสัญญานั้นมักจะต้องมีพยายาน ถึงสองคนเสมอ สัญญาที่เขียนควรจะเป็นการพิมพ์ออกมาให้เป็นกิจลักษณะ ไม่ควรจะเป็นลายมือเขียนใดๆ และเมื่อเซ็นควรจะมีถ่ายสำเนาเก็บไว้ทั้งคู่ค่ะ
>>41 กูกล้าพูดเลยสังคมมีส่วนมากๆ ส่งให้เรียนโรงเรียนแพงๆไปเลย ซื้อสังคม ฝึกมารยาท
ถ้าฝึกนิสัยลองให้เลี้ยงสัตว์ดู ทำให้ใจเย็น/สุภาพขึ้นด้วย โดยมีข้อแม้ว่าลูกต้องเป็นคนดูแล ให้อาหารเอง อะไรแบบนี้ ลองดูนะเพื่อนโม่ง สู้ๆว่ะ
กูเป็นกำลังใจให้ มีไรมาอัพเดทก็ได้นะ พวกกูพร้อมรับฟังเสมอ
>>41 เด็กวัยนี้ยังดัดได้อยู่ ไม่น่าเป็นปัญหาหรอก มึงหาโรงเรียนดีๆ สังคมดีๆให้ลูกอยู่ มึงรวยเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอยู่แล้ว แล้วก็กันอีแม่อย่าให้มาจุ้นจ้านกับการเลี้ยงลูกของมึงเป็นอันขาด ถ้ามึงลาออกมาเลี้ยงลูกได้โดยไม่มีปัญหากูก็เห็นด้วย ต้องให้ความรักกับลูกแล้วดูแลลูกมากๆ นะ กูเป็นกำลังใจให้มึง มีอะไรมาปรึกษาได้เสมอ
จิตแพทย์ที่ไหนดีบ้าง แนะนำหน่อยดิเพื่อนโม่ง
>>41 นี่กูเองนะ
กูลองทำตามที่พวกมึงแนะนำแล้ว ใช้เหตุผลมากๆ พูดคะ ขา กับลูก เลิกเรียนหรือตอนอยู่บ้านก็พาไปทำกิจกรรม อะไรแทนมันจะได้ไม่สุมหัวกันเล่นไพ่
กูรีวิวเลยพวกมึงมันระดับ 5 ดาวจริงๆ ลูกกูพฤติกรรมดีขึ้นมาก เรียบร้อยพูดเพราะ น่ารัก ว่าง่ายขึ้นเยอะ กูก็พอเข้าใจวัยมันละว่ากำลังเป็นวัยเลียนแบบ
กูทำอะไรตอนนี้มันเลียนแบบกูหมดเลย กูพูดคะ ขา มันก็พูดตาม ว่างๆกูอ่านหนังสือพิมพ์ มันก็ไปหยิบหนังสือมาอ่านมั่ง เอ้อ ค่อยเบาใจกูไป ตอนนี้เสียแค่เล่นไพ่ที่กูยังแก้ไม่ได้ กูห้ามแล้วนะ เอาไพ่ไปทิ้งขยะหมดแล้วด้วย ลูกกูเสือกฉลาดวาดตัวเลขเขียนสัญลักษณ์ทำไพ่เองเลยสัสเอ้ย สรุปห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้ กูเลยไม่ห้ามละตอนนี้ แต่หากิจกรรมอะไรมาทำให้ไม่ว่างแทน พวกละครน้ำเน่าตบตีทั้งหลายกูไม่เปิดเลย เปิดเป็นพวกสารคดี ดิสโคเวอรี่ ดูปลา ดูสัตว์ฟังภาษาอังกฤษไปแทน เอ้อ ดีขึ้นเยอะอ่ะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคำแนะนำมากๆเว้ย
เอ้อ ยังมีอีกปัญหานึง คือ แม่ ลูกกูมันเข้าใจนะเว้ย ว่าหย่ากันคืออะไร กูบอกไปหมดแล้ว แต่กรณีแม่มัน มันไม่เหมือนคนอื่นไง คือเลิกแล้ว มันไม่เอาลูกเลย ก่อนจะหย่ากันอาทิตย์นึงมันไม่คุยกับลูกด้วยซ้ำจนลูกมันต้องหนีมาเล่นมาคุยกับกูแทน ตอนนั้นงานกูก็ยุ่งๆด้วย คือ พวกมึงเคยเห็นผู้หญิงเหี้ยๆแบบนี้มั้ยวะ ไม่เอาลูกตัวเองอ่ะไอ้สัสกูสงสารมันชิบหาย มันเข้าใจว่าหย่ากันจริง หย่ากันคือแยกกันอยู่ แม่ไม่อยู่บ้านแล้วนะ แต่ว่าแม่ยังอยู่บนโลกเจอแม่ได้ ทั้งที่อีห่าแม่มันทิ้งไปอยู่เชียงใหม่เปิดบ่อน เอาผัวใหม่เข้าบ้านแล้ว กูละไม่รู้จะบอกลูกยังไง กูควรจะหาเมียใหม่ดีป่าววะ? อย่างน้อยมันจะได้มีคนให้เรียกว่าแม่ แต่คนไทยกูคงจะขอบาย หาแหม่มฝรั่งดีกว่า ส่วนใหญ่ที่กูเห็นเทคแคดูแลลูกไม่รังเกียจลูกเลี้ยงดีกว่าคนไทยเยอะ
แต่ตอนนี้กูคิดนะ ว่าไอ้วิธีบ่น ด่า ตี เอาลูกไปเทียบกับคนอื่น ที่พ่อแม่กูสมัยเด็กๆเคยใช้แม่งไม่ได้ผลซักนิด ยิ่งทำลูกยิ่งต่อต้าน อะไรที่กูเคยเจอมาในสมัยเด็กๆแล้วกูไม่ชอบกูก็จะไม่ใช้เลยเพราะลูกกูมันก็คงไม่ชอบเหมือนกัน คุยกันด้วยเหตุผลกูว่าเป็นวิธีเลี้ยงเด็กที่เวิร์คที่สุดแล้วยังไงก็ขอบใจอีกทีเว้ย
ส่วนเรื่องโรงเรียนกูกำลังคิดอยู่ว่าจะรอให้จบอนุบาลแล้วค่อยย้าย หรือย้ายเทอมหน้าเลย พวกมึงคิดว่าไงดีวะ? ตอนนี้โรงเรียนที่มันอยู่สังคมก็ไม่ค่อยดีนัก ลูกกูเคยแดกนมโรงเรียนแล้วท้องเสียด้วย กูได้ยินข่าวลือมาว่าครูแม่งเอานมดีๆไปเก็บไว้ใส่แพคใหม่ใส่กล่องแบรนโรงเรียนแล้วขายให้เด็กประถมแทน แต่เอานมเก่าๆเหลือในคลังมาแจกให้เด็กแทนไอ้สัส จะทนไปซัก 2 ปีดีป่าววะ
เอ้อ แล้วมึงว่าโรงเรียนอนุบาลรัฐบาลกับเอกชนอะไรเวิร์คกว่ากันวะ เพราะตอนเด็กๆกูก็อยู่แต่รัฐบาลเลยไม่รู้ว่าเอกชนเป็นไงบ้าง
กูลองปรึกษาแฟนเก่า(ไม่ใช่เมียเก่านะ) มันก็แนะนำให้เข้าเอกชนพวกเซนต์ๆทั้งหลายเพราะมันจะเน้นสอนพวกภาษาที่ 2-3 สภาพแวดล้อมก็ดูดี
แต่รัฐบางที่ก็ใช่ว่าจะห่วยกูอ่านในพันทิปมันก็มีดีด้วย สอนภาษาจีน ภาษาอังกฤษ แถมค่าเทอม 1000 เองมึง กูเลยชั่งใจ
ภาพรวมๆพวกมึงคิดว่าอะไรดีกว่ากันวะ? รบกวนหน่อยนึง
>>60 เรื่องเมียมึงช่างหัวแม่งไปเลยดีแล้ว เหี้ยแบบนั้น ยิ่งคุยยิ่งเอาลูกมาเสีย ก็บอกลูกไปตรงๆแบบเพราะๆ แต่อย่าด่าเมียมึงให้ลูกฟัง อย่าสอนให้ลูกเกลียดแม่ บอกลูกไปแบบเพราะๆ ว่าแม่เขามีธุระ ไปต่างจังหวัดต่างประเทศว่าไป มาเจอไม่ได้ โกหกไปก่อน เดี๋ยวพอโตขึ้นจะเขาใจเอง ย้ำกับลูกไปว่าทุกคนยังรักลูกเหมือนเดิม บอกรักลูกบ่อยๆ
เรื่องวาดไพ่เดี๋ยวสักพักมีกิจกรรมใหม่ๆทำก็ลืมไปเอง มองในแง่ดีลูกมึงก็มีหัวศิลปะว่ะ
ส่วนโรงเรียน ถ้าต้องอยู่อีกตั้งสองปีก็ย้ายเถอะว่ะ นานไปสำหรับเด็ก ปรับตัวไม่ยากหรอกเด็กอ่ะ ไหนจะเรื่องสุขภาพอาหารการกินอีก
เรื่องโรงเรียนแนะนำอ่านกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/33292280
สู้ๆเว้ย ท่องไว้เพื่อลูกๆๆ กูเข้าใจ
เรื่องละคร กูบอกเลย ห้ามให้เด็กดู เด็กผู้หญิงไหนโตมากับละครไทย นิสัยแย่หมด วี๊ดว๊ายดัดจริตโวยวายไม่น่ารักซักนิด ให้ไปดูการ์ตูนช่อง9 ดิสนีย์คลับหรือทรูวิชั่นแทนดีกว่า อย่างน้อยการ์ตูนช่องพวกนี้เขาก็คัดมาแล้วว่าเหมาะกับเด็ก
เรื่องเล่นไพ่ ไปซื้อพวกเกมกระดานอื่นๆอย่างหมากฮอส หมากเก็บ การ์ดเกม แต่งตัวตุ๊กตา มาฝึกให้ลูกเล่นดู กูค่อนข้างเชื่อว่าเด็กชอบเล่นของแบบนี้มากกว่า พอติดแล้วเดี๋ยวก็เลิกเล่นไพ่ไปเองมั้ง
ส่วนโรงเรียนนี่สังคมมันมีผลจริงๆคือ กูก็แนะนำไม่ได้หรอก บอกได้แค่ว่าโรงเรียนแพงกว่ามันก็คัดเด็กของพ่อแม่กะเลกะลาดออกไปได้พอสมควรแล้วว่ะ อย่างโรงเรียนค่าเทอม1000ของมึงที่ว่าสอนภาษาจีนภาษาอังกฤษ กูก็ไม่รู้ว่าดีไหมนะกูไม่กล้าวิจารณ์ แต่ลองคิดดูว่าคนที่มีปัญญาจ่ายค่าเทอม1000มันก็มีปัญญาเอาลูกมันมาฝากอะ ลองถามความเห็นผู้ปกครองดีๆ หรืออย่างโรงเรียนแพงๆบางที่ก็มีเรื่องแกล้งกันเหมือนกัน
>>60 ยินดีด้วยที่ลูกโอเคขึ้น กูมีคนใกล้ตัวประสบการณ์คล้ายมึง
กูนึกถึงตอนเด็กละคร 3 5 7 9 กูก็ดูนะ 55 นั่งดูเลยทั้งครอบครัว (ผู้หญิง) แต่โตขึ้นมาเรียบร้อยอะไม่กรี๊ดๆ ส่วนนึงคือพ่อกูชอบเหน็บว่าละครไร้สาระ วุ้ๆ เลยไม่คิดงี่เง่าตาม เจ้าพ่อตรรกะ แล้วที่บ้านเป็นตัวอย่างที่ดีเลยไม่เป็นปัญหา มีการมานั่งด่าละครด้วยกันเฮฮากันไป 55
กับลูกคุยกันเยอะๆ สนิทไว้ยิ่งดีน่าจะเติมเต็มลูกได้บ้าง ส่วนแม่ใหม่นี่ไม่มีความเห็น ถามว่าเด็กเหงาไหมโตขึ้นกูคิดว่ามีบ้างนะ น้อยใจอะไรงี้ ใกล้ตัวกูมีซิงเกิลแด๊ดฟังๆ นางเล่ากูก็แอบสงสารเด็กเหมือนกัน นางพยายามพาลูกเที่ยวให้เวลาเยอะๆ มีกิจกรรมด้วยกัน กูก็คิดว่าน่ารักดี เว้นว่าอยากได้เพื่อนคู่คิด คู่ชีวิต คู่แชร์ ก็ลองมองๆ ไว้ก็ได้ หวังว่าจะเจอคนที่รักลูกมึงจริงๆ ละกัน
โรงเรียนนี่กูเรียนเอกชนมากูได้ภาษานะ รร.กูเน้นอังกฤษ คุณภาพรุ่นกูจัดว่าดีเด็กที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถมเรียนสายหมอกันเยอะอยู่ เรียนต่อรร.ท็อปๆ ของจังหวัดหลายคน ต่อม.ท็อปของประเทศก็หลาย (สังเกตเฉพาะเพื่อนห้องเก่ากูนะ) อดีตหญิงล้วนเข้มงวดระเบียบจัดสุดๆ แต่เสียดายยุคหลังหละหลวม ถ้าเงินถึงส่งเข้าเอกชนได้ก็ส่งแต่ 2 คนอายุไล่ๆ กันนี่ก็น่าคิดนะ
ตอนเด็กกูเคยออกอนุบาล 1 ต่อ 2 รร.แถวบ้านไม่เป็นปัญหาอะไรนะ
ไอ้สัสชี้ผิดจะชี้ 60
>>60 ยินดีด้วยนะคะที่ลูกคุณพัฒนาไปในทางที่ดี เรื่องแม่ใหม่มีความเห็นว่าอย่าเลยค่ะ ช่วงนี้เด็กยังทำใจไม่ได้ ไม่ว่าแม่ของเขาจะแย่ขนาดไหนในสายตาของเด็กนั้น แม่ก็คือแม่ค่ะ จะไม่มีใครสามารถแทนได้เด็ดขาด ดีไม่ดีหากคุณนำแม่ใหม่ขึ้นมาเด็กอาจจะคิดว่ากำลังถูกแย่งความรักและพลันจะต่อต้านอีก ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกให้แน่นแฟ้นค่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเด็กที่ครอบครัวแตกแยก ต้องการความรักสูง สูงมากค่ะ เราต้องให้ความรักเขามากๆ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปหาความรักจากคนอื่น เมื่อโตขึ้นจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องใจแตก
ส่วนเรื่องไพ่ไพ่ ให้เล่นได้ค่ะ ถ้าอยากเล่นไพ่นักก็ให้เล่นแต่เปลี่ยนเกมส์ที่เล่น และชนิดของไพ่ แล้วถ้าน้องเขาวาดไพ่เป็นยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ แทนที่จะให้วาดพวกไพ่ตองก็ให้วาดไพ่คำศัพท์ ไว้ให้เล่นจับคู่ เอาไว้เสริมสร้างพัฒนาการ เด็กสมัยนี้วิธีการเลี้ยงดุด่าไม่เวิร์คแล้วเพราะเด็กมีความคิดมากขึ้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการอธิบายเหตุผลพูดคุยอย่างผู้ใหญ่ ไม่ได้ให้เด็กกลัวเราแต่ให้เด็กเกรงเรา ส่วนเรื่องโรงเรียนอันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก มันอยู่ที่เด็กด้วยว่าจะคบเพื่อนแบบไหน โรงเรียนเอกชนก็มีพวกคนรสยและฐานะปานกลาง แต่พวกนี้ก็ไม่ได้คอนเฟิมว่าจะดีเสมอไป อาจจะมีพวกลูกคุณหนูนิสัยแย่มาก็ได้
ส่วนโรงเรียนรัฐ ก็อย่างที่รู้กันว่าใครจะเรียนก็ได้ ทุกที่ล่ะแค่มีคนดีและไม่ดีปะปนเพราะมันเป็นสังคม สอนลูกเราให้ดี ให้เลือกคบเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าแบบ อี๋ แกมันไม่ดีฉันไม่คบแก มันก็ไม่ใช่ สอนให้ลูกเป็นที่รักของผู้อื่น ให้อยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นให้ได้ รู้จักผิดชอบช่วยดี แค่นี้อยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ
ปล. เวลาจะย้ายโรงเรียนปรึกษาลูกหนย่อยก็ดีค่ะ ให้แกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจบ้าง เพราะเมื่อก่อนดิฉันเคยเรียนนานาชาติสมัยอนุบาลแถวนนทบุรี พอจะขึ้นป.1จู่ๆ พ่อก็ย้ายมากรุงเทพไม่ถามสักคำ ให้เข้าโรงเรียนเอกชนภาคไทย กว่าจะปรับตัวได้ ตั้งหลายเดือน (เพราะตัวเองไม่แข็งไทย แล้วอาจารย์ที่นี่ก็ไม่พูดอังกฤษ เพื่อนๆก็ล้อหาว่าเราพูดไทยไม่เป็น //ก็พูดไม่เป็นจริงๆ) ผมนี่ร้องไห้ไปโรงเรียนทุกวัน เกลียดโรงเรียนไปเลย
พวกแกเคยมีความรู้สึกเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกไหม...
กูรู้สึกเฮงซวยมาก อยู่แม่งหัวกูเป็นไรไม่รู้ อยากด่าอยากว่า อยากเถียงไรไปหมด แล้วแม่งก็หลุดไง เพื่อนแม่งก็โกรธกู แต่พอแม่งเงียบแล้วอึดอัดชิบหาย รู้สึกเฮงซวย
โอ๊ยย รำคาญพ่อกูชิบหายเลย แม่มเป็นอัมพฤต แล้วเสือกทำอะไรหลายๆอย่างไม่เข้าท่าเลยวะ เมื่อก่อนไม่หนักขนาดนี้ มีแต่บ่นๆ
เดี่ยวนี้แม่มชอบเยี่ยวใส่ท่อ ส้วมดีๆมีไม่เยี่ยวสัส วันไหนท่อทันก็เสือกเยี่ยวอีกแม่มกูละเบื่อ
แล้วยังอยากได้เงิน อยากเอาโฉนดที่ดินไปให้เพื่อนลงทุน 2 ที่ พอถามไปถ้าเพื่อนไม่มีเงินคืนทำไงละ
บอกว่า"เขามีคืนอยู่แล้วละ" คือแบบถ้าเขาเจ๊งธนาคารกูยึดบ้านกูดิถูกมั้ยไหม ?? แล้วพอกูตอบไปแบบนี้แม่มด่ากู
กับ คนที่จะให้ยืมอะคือมาจากไหนกูไม่รู้จัก แต่พี่ชายกูบอกว่ารู้จักกับคนที่พ่อกูคุยโทรศัพท์มาอีกที่ คือแม่งเป็นใครก็ไม่รู้ คุยกันซักพักหนึ่ง อยู่ดีๆบอกให้ลงทุนทำงานกับเขา กับ หลักประกันห่าอะไรก็ไม่มีมีแค่ประกันปากเปล่าวะ แล้วก่อนหน้านี้ก็เอาเงินไปให้ใครไม่รู้ยืมไป 100K แล้วโอนคืนให้ เดือนละ 2000 บาท แบบว่ากูท้อเลยวะ
>>73 มึงหัดนึกตอนที่มึงยังเด็กอยู่สิครับ พูดก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็เยี่ยวเดี๋ยวก็ขี้ เขาก็ต้องทำมาหาแดกให้มึงอีก การที่มึงไม่ให้เกรียติบุพการี ไม่เคารพ กูไม่แปลกใจเลยว่ะว่าทำไมชีวิตมึงถึงสิ้นหวัง....กลับไปคิดทบทวนดูนะครับ เมื่อก่อนพ่อมึงทำอะไรให้มึงไว้บ้าง ที่มึงมีทุกวันนี้ มานั่งพิมพิ์ว่ารำคาญเขาได้ในนี้เพราะใคร ถ้าไม่มีน้ำเชื้อเขา มึงก็ไม่ได้ลืมตาเกิดขึ้นมาบนโลกนี้หรอกครับ สำเหนียกตัวเองไว้ด้วย วันใดไม่มีเขาแล้วมึงจะเสียใจ จะมานั่งเคาะโลงขอโทษมันก็ไม่มีประโยชน์แล้วครับ ตอนนี้ยังมีเวลากลับตัวกลับใจนะครับ
>>73 มึงก็ลองย้อนนึกไปบ้างนะ ว่าตอนเด็กๆพ่อมึงทำอะไรให้มึงบ้าง ส่งเรียนหมดไปกี่บาท ค่ากินค่าแดก ไหนจะร้องไห้งอแงเอาของเล่น เอาอะไรอีก คือ มึงว่าพ่อตัวเองงี้มันถูกอ่อวะ
ส่วนกรณีนี้มึงลองไปคุยกับพ่อดูอีกทีนะ มึงยกเหตุผลไป ถ้ายังไม่ฟังมึงก็ไม่จำเป็นต้องตามใจเขา เรื่องธุระกิจลงทุนไรพวกนี้มันไม่มีคำว่าเพื่อนหรอกมึง ทางทีดีถ้าจะทำนะ มึงไปทำลายลักษษ์อักษรอะไรมาเถอะ บอกพ่อไปว่าถ้าจะเอาต้องมีใบอะไรก็ว่าไป
>>74 คือมีแต่แม่ส่งเรื่องเรียน คือ เป็นอัมพฤตมา 9 จะ 10 ปีแล้ว คือ2 ปี หลังๆพึ่งมาโกรธสุดนี้แหละ เพราะพูดอะไรไปก็มีแต่ด่ากลับตลอด
ถ้าถามว่าเคยกลับตัวไหมเคย เพราะตอนนั้นสงสารแกมากไม่มีคนดูแลกูเป็นคนดูแลคนเดี่ยวด้วย ตอนอายุ 14 ตอนนี้ 18
>>76 คือ ที่ไม่อยากทำเพราะบ้านกูไม่มีอะไรเหลือแล้วไง รถไม่มี มีแค่มอไซต์คันเดี่ยวกับบ้านเพียวๆ 1 หลัง กับ อีก 1 ที่ดิน
คือ แกจะเอา 2 ที่ดินไปให้เพื่อนทำให้
>>77 แค่บุญคุญที่เขาทำให้มึงเกิดมาก็ไม่รู้ว่าชาตินี้มึงจะใช้หมดรึเปล่าเลยครับ อย่าใช้คำว่าสงสารเลย บาปเปล่าๆ เขาด่าก็ช่างเขาเถิด ฟังไว้เฉยๆ ก็ไม่ต้องเถียง เถียงแล้วได้อะไรละครับ เถียงแล้วจะชนะ ชนะแล้วได้อะไร ปัญหาเรื่องเงินก็คุยกับพ่อดีๆ คุยแล้วไม่ฟังเราก็เออออตามเขาไป แล้วค่อยมานั่งแก้ปัญหาเอง แต่มึงแค่อายุ18 คงทำอะไรไม่ได้มาก ก็คงต้องให้แม่จัดการ ส่วนตัวเองก็แบ่งเบาภาระนิดๆหน่อยๆ
ส่วนกูเองก็มีพ่อที่ป่วย เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม้ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นอัมพฤตแต่ก็เริ่มเดินเหินลำบาก จะไปไหนมาไหนกูก็ต้องอุ้มต้องประคอง เขาเป็นคนเอาแต่ใจ ยิ่งป่วยยิ่งเอาแต่ใจ โมโหร้ายชอบตวาด บางทีกูก็หงุดหงิด บางทีกูก็โมโหแต่พอกูมาคิดย้อนกลับไป พ่อให้กูมาตั้งเท่าไหร่ สั้สแค่นี้ทำให้ไม่ได้ แค่นี้บ่นก็ไม่ต้องไปทำมาหาแดกอะไรแล้ว
>>78 >>77 กูเข้าใจในทั้งสองมุมมองของพวกมึงนะ แต่บางทีมึงก็ไม่ใช่ต้องไปตามใจหรือยอมทุกอย่างเปล่าวะ ความรักที่มันมีแต่การตามใจมันเรียกรักแบบเสียสติว่ะมึง มึงก็ต้องดูเหตุผลของมันด้วยว่ามันเหมาะที่จะเอาที่ดิน เอาอะไรไปเสี่ยงมั้ยกับที่พ่อมันทำโดยไม่มีลายลักษณ์อักษรน่ะ แต่กูก็เห็นด้วยที่ >>77 มึงไม่ควรคิดแบบนั้นกับพ่อมึงแน่ๆล่ะ มึงควรใช้เหตุผลให้มากกว่าอคติส่วนตัว ส่วนตัวกูไม่เชื่อเรื่องภพชาติเรื่องบุญกรรมอะไรเลยสักนิด กูยังว่ากูเคารพบุพการีกูมากๆเลย
>>78 แม่กูก็คงไม่ค่อย ช่วยอะไรหรอกมีปัญหาเรื่องตัวเองกัยงานเยอะมากแล้ว จริงๆคนดูแลพ่อมามีหลายคนนะ แต่อยู่ได้ไม่ถึงปีมีปัญหากันทุกคน
พี่น้องแท้ๆก็ไล่กลับมาทุกรอบแล้ว เป็นคนหัวดื้ออะ บางครั้งไม่ใช่เรื่องของตัวเองชอบไปยุ่ง เรื่องนี้กูไม่ชอบมากเลย คือแบบว่ายุ่งทุกเรื่อง คือยุ่งไม่พอชอบเปล่าประกาศให้คนระแวงนั้นฟังหรือคนรู้จัก จนเขาไม่ชอบแม่กูอะเพราะมีแต่ข่าวเสียจากปากพ่อ คือมันก็จริงบางเรื่องอยู่ที่แม่กูมีเรื่องเสียแต่มันก็ไม่ควรเอามาพูดให้คนอื่นฟังนะ คือ พูดกับทุกคนที่มาคุยกับแกโดยเฉาะกับผญที่คุยโทรศัพทด้วย
ถ้ามึงขัดใจพ่อไม่ได้จริงๆ มึงก็ปล่อยให้ทำก็ได้ เเต่ต้องมีหลักฐานลายลักษณ์อักษร ทำสัญญากันให้ชัดเจน ว่านี่ที่ดินกูนะ เเย่งส่วนปันผล ส่วนเงิน หรือถ้าผิดสัญญากุฟ้องเอาคืนได้ บลาๆ
น่าจะดีที่สุด ถ้ามึงขัดใจพ่อมึงไม่ได้
กูไม่ค่อยแคร์นะ จะพ่อจะเหี้ยอะไร ให้กำเนิดมาแล้วไง มันยากเย็นนักหรือไงวะ เย็ดกับเมียเนี่ย ถ้าพ่อมันเหี้ยก็บอกว่าเหี้ย ชีวิตใครชีวิตมันว่ะ
เรื่องกู้เงิน ลงทุนบ้าบอเนี่ย เขาพยายามทำเนี่ย ก็เพราะว่าเป็นอัมพฤตนั่นแหละ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เป็นตัวถ่วง ก็พยายามจะหาวิธีที่ตัวเอง
จะทำได้ ใครมันจับจุดได้ก็หลอกเอาตังไปสบายๆ ถ้ามึงไปห้ามเขาก็จะยิ่งรู้สึกเหมือนโดนลดคุณค่าตัวเองลงไปอีก กรณีนี้แม่งแก้ยากที่สุด
กูไม่มีคำตอบที่ดีให้มึงว่ะ แต่ถ้าถามกู ก็ทำได้แค่หาเงินเยอะๆ หาอะไรให้เขาทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมาหมกมุ่น
ส่วนเรื่องเยี่ยวนี่แม่งเหี้ยจริงอะไรจริง ต้องด่าว่ะ
>>83 >>84 84พูดตรงอยู่ เเต่บางคนคนเเก่เเกพูดด้วยดีๆก็ได้มั้ง มันไม่เหมือนกัน บางคนต้องยุ ต้องล่อ ต้องด่า มันเเล้วเเต่ด้วยว่าเป้นคนยังไง คนไม่ยอมเเพ้ มึงก็ยุ ทำไม่ได้เหรอ เเล้วจะไปทำอะไรได้บลาๆ คนมันยุขึ้นมันก็ทำได้เอง เเต่บางคนยุไม่ขึ้นเเม่งไม่ทำอีกต่างหาก
บางคนกลัวโดนด่าถึงจะทำ บางคนโดนด่าเเล้วไม่ทำเลย ประชด
กูว่าหาอะไรให้เเกทำไปเเบบที่ 84 พูด ให้เเกดูมีคุณค่า ชมเเกบ้างเเบบ สุดยอด บลาๆ เเต่อย่าให้เหลิง เพราะเเกคงอยากให้ตัวเองมีประโยชน์ มีคุณค่า ที่เเกไม่ยอมเพราะเเกเชื่อว่าเเกทำได้ เเกลงทุนได้ เเล้วเเกจะหาเงินมาให้ได้ เพราะเเกน้อยใจที่เป็นอัมพฤตเเต่ทำอะไรไม่ได้เลย
เเต่กูก็ไม่รู้ว่ะ นอกจากที่บอกไปเเล้ว ว่าปล่อยให้เเกทำเเต่ต้องจำกัด มึงต้องมองถึงผลเสียเเทนด้วย ทำสัญญาอะไรกันไว้ บลาๆ
หรือไม่ก็หาอะไรให้เเกทำเเทน ให้เเกดูมีความหวัง มีคุณค่า
หวยงี้ได้ป่ะวะ? 555555
อย่างน้อยซื้อเเบบเดือนละสองสามใบ ไม่กี่ร้อย ให้เเกมีหวัง ถูกก็ดีใจ ถ้าไม่ถูกก็ปลอบเเกว่าเอาใหม่ นี่ใกล้ถูกเเล้ว เดือนนี้เลขไหนดีพ่อ บลาๆ
ยังดีกว่าทำธุรกิจไม่มั่นคง เเล้วเสียทีละเป็นล้าน เเต่นี่ความเห็นส่วนตัวกูนะ กูไม่รู้
ลืม กู>>82 เอง บิบิ
แต่อย่างเรื่องเยี่ยวนี่ กูไม่เห็นว่ามันจะเหี้ยตรงไหนเลยว่ะ เด่วพอมึงแก่มึงก็ต้องเป็นแบบนั้น เลอะเทอะแล้วไงวะ มึงก็ล้างมือเอา ก่อนยายกูตายหนักกว่าแม่งอีก ทั้งขี้ทั้งเยี่ยวเลยมึงที่กูต้องมานั่งทำ แต่กูก็ทำไม่ได้บ่นอะไรเพราะกูว่าวันนึงกูก็ต้องเป็นแบบนี้ แต่อย่างเรื่องธุระกิจกูก็เห็นด้วยว่าไม่ควรตามใจพ่อมึงแน่ๆล่ะ แต่มึงควรพูดดีไม่ใช้อคติ เอาเหตุผลให้เค้าเห็นมากกว่านี้
>>87 มันไม่ได้อยู่ที่มึงสอนอย่างเดียวนะ มันอยู่ที่ตัวเด็กด้วย ต่อให้มึงยัดเข้าสังคมดีแค่ไหนคุณหนูไฮโซยังไง ถ้าเด็กมันสันดาลสก๊อยมันก็เป็นสก๊อยวันยังค่ำ
>>88 อันนั้นมันต้องโตขึ้นเเล้วเว้ย เเต่ถ้าเด็กๆมันปูทางมาดี เด็กมันก็ดี มันอยู่ที่ว่าอะไรมันจะเข้าหัวเด็กทำให้มันคิดไปทางไหนว่ะ เช่นสังคมคุณหนู เเต่สันดารสก๊อย ก็เพราะมึงตามใจมันเกินไปรึเปล่าโดยที่ไม่ได้สอนอะไร หรือมันไปนอกลู่นอกทางเเล้วมึงไม่รู้เองรึเปล่า
เพราะสมัยนี้สื่อทุกอย่างทุกระดับสังคมมันเเค่ปลายนิ้วเเล้ว มึงเลื่อนๆเฟสก็เจอเเล้ว
กูเชื่อว่าเเรกเริ่มเด็กมันก็เหมือนกระดาษว่างๆเเหละ เเล้วเเต่ว่าพ่อเเม่กับรอบๆตัวมันจะยัดอะไรลงไป
เพราะกูไม่เคยเห้นคนที่พ่อเเม่ดี รอบตัวดีเเล้วมันจะเหี้ยขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีเพื่อน หรืออะไรพาไป
>>86 กูจะบอกว่าแกมีหวัง แต่ไม่รับวะ ก่อนหน้านี้ 4 เดือนก่อนเพื่อนเก่ารับพาไปทำงานด้วย ได้เดือนละ 10K เยอะนะสำหรับคนพิการ อยู่ดีๆ แม่งกลับมาเฉยเลยบอกจะกลับมาดูแลกูกับพี่ กูถามไปกลับมาช่วยอะรได้ไหมละ ทำงานมันยังพอมีเงินส่งมาให้ใช้นะพ่อ
>>84 กูไม่เคยด่าพ่อนะ ถ้าพ่อไม่ขึ้นเสียงก่อน เคยบอกไปแล้ว 3 รอบ บอ"กประหยัด ลงท่อแหละเหมือนกัน" เออเหมือนกันแต่มันเหม็นนะว้อยย ท่อห้องน้ำนะ
ปล.พ่อกูช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง ขับจักรยานได้
อืมม มึงรีบโอนให้เป้ฯของมึงเลยนะมึงเด๋วพ่อมึงทำบ้านพังหมด เข้าใจพ่อมึงนะ แต่คนเป้นแบบนั้นแม่ง สมองพังไปแล้ว 80% ฟะ คิดอะไรไม่ดีแล้วมึง
>>92 ทำสัญญาเช่าที่ดินก็ได้ เช่นที่ดินนี่ที่กู มึงเอาไปทำอะไรก็ได้ตามสัญญากูคิดเดือนละ xxxxxxxx เวลาเกิดอะไรขึ้น ที่ดินยังเป็นของมึง หรือเกิดอะไรขึ้นก็ฟ้องศาลได้ เพราะที่ดินในสัญญายังเป็นของเรา เขาเเค่เช่ายืม
ประมาณนี้มั้ง เคยเรียนเมื่อนานมาเเล้ว รอผู้รูั้มาให้ข้อมูล
>>93 เป็นชื่อ กูกับพี่ชายนะ เซ็นต์ต้องเซ็นท์ 2 คน ใช่สมองไม่ดีด้วย ตอนไม่ไปทำงานใหม่ๆ ไปทำประกันใหม่ไว้ กูถามรายละเอียดประกันตอบไม่รู้อย่างเดี่ยว ถามอีกอ่านรายละเอียดไหม ? พ่อ:ไม่รู้
แล้วกูได้ยินคุยกับพนง พนงงานบอกว่ายอดเงินต่ำกว่านี้ ประกันจะหักเรื่อยๆ แต่ไม่รุ้นะเท่าไหร่
กับเรื่อยการสื่อสารของแก ก็แก้ไม่ได้แล้ว บางครั้งคุยอะไรไม่พอใจชอบขึ้น"ห่า"
>>94 ขอบคุณมากพีโม่ง
เอ่อะ กูไม่เห็นด้วยนะที่มึงจะคิดทวงบุญคุณจากลูกกันอยู่นั่นแหละ ไอเรื่องที่ทำให้เกิดมาก็ดี เรื่องเลี้ยงมาก็ดี คือสำนึกว่าเค้าเลี้ยงเรามาเรารักเค้ามันก็โอเคแล้วไม่ใช่หรอแต่ถ้าเค้าทำอะไรผิดมันก็ต้องว่าไปตามผิดป่ะวะ เหมือนตอนเด็กๆมึงทำไรผิดมึงก็ถูกด่า ทำไมพอเป็นพ่อแม่แล้วมันมีบาเรียห้ามแตะต้องวะ ทั้งๆที่ก็คนเหมือนกัน อย่างเรื่องฉี่นี่กูว่าเหี้ยมากนะไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวมเลย ถ้าแกฉี่แล้วทำความสะอาดเองเลยก็ว่าไปแต่ถ้าฉี่แล้วปล่อยทิ้งมึงคิดสิว่ากลิ่นเป็นไง กลายเป็นแหล่งเชื้อโรคงี้ แล้วคนทำความสะอาดจะเป็นยังไงมันลำบากคนอื่นมั้ย ครอบครัวมันต้องช่วยเหลือกันและกันดิวะไม่ใช่ปล่อยให้คนนึงทำตามใจชอบเพราะเอาแต่คิดเรื่องบุญคุณแล้วทำให้คนอื่นในบ้านต้องมาลำบาก ไหนจะแม่ ไหนจะลูก ถ้ามีคนอื่นมาบ้านเค้าจะคิดยังไงพ่อจะถูกมองยังไง กูไม่ชอบเลยนะความคิดแบบต้องอดทนเสมอเค้าจะด่าจะว่าอะไรที่มันไร้สาระเฮงซวยก็ต้องยอม มึงบ้าป่ะ มึงเป็นทาสในเรือนเบี้ยหรอที่ต้องยอมเนี่ย มันควรจะพูดกันได้ถกกันได้ดิวะ ไม่ได้ด่ากลับแต่ไม่ได้ยอมโดนด่าไม่พูดอะไร มึงคิดว่าการอดทนมันดีจริงๆหรอวะ ถ้าบ้านถูกยึดก็ต้องอดทนด้วยป่ะ ครอบครัวมันเป็นของทุกคนที่ช่วยกันดูแลนะไม่ใช่ให้ใครคนเดียวตัดสินใจความเป็นตายของทุกคน ให้ทางเลือกกันหน่อยเหอะ การคิดแบบแตะต้องพ่อแม่ไม่ได้นี่มันไม่เป็นการกดดันลูกไปหน่อยหรอ
>>96 ฉี่แล้วไปทำความสะอาดแค่ ราดน้ำเฉยๆแต่ไม่ขัดซะทีกูเลยต้องไปขัด
กับ ถ้า" ถ้ามีคนอื่นมาบ้านเค้าจะคิดยังไงพ่อจะถูกมองยังไง" กูจะรีบทำความสะอาดก่อนเลย ปกติกูทำเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์
ส่วนเรื่องยอมไม่ยอม กูไม่ยอมนะ และกูไม่พูดด้วยพูดแล้วเหมอืนเถียงกับคนบ้าวะ เถียงแล้วเอาเรื่องหนี้ๆเก่ามาพูดเสริม คือมันไม่เกี่ยวกันเลยนะ
ล้างขี้เยี่ยวมึงทำได้ก็ทำไปเถอะ ตอนมึงเกิดมาขี้เยี่ยวให้พ่อแม่เช็ดกี่ปีกว่าจะทำเองเป็น
ส่วนเรื่องบ้าน กูบอกได้ว่าพ่อแม่ไม่ได้แปลว่าถูกเสมอโดยเฉพาะเรื่องเสี่ยงๆแบบนี้ ต้องแยกความกตัญญูให้ออกก่อน
เจอมาเยอะแล้วคนแก่ๆโดนหลอกเอาเงินไปลงทุนเจ๊งบ้านพังตอนแก่ลูกหลานรับกรรม เรื่องนี้กูโดนด่าก็ยอมดีกว่าให้บ้านแม่งหายไปเพระาความหน้ามืดของพ่อมึง
มีแต่คนบอกว่ากูเสียงเพราะเว้ย กูไม่มีปัญหาเรื่องร้องเพี้ยน แต่ที่กูมีปัญหาคือกูร้องเสียงสูงไม่ค่อยได้อะ และกูมั่นใจว่าเร้นจ์เสียงกูกว้าง แต่กูอาจจะร้องเพลงผิดวิธีหรือยังฝึกไม่พอ กูอยากร้องเพลงเก่งอะ กูร้องเพลงขึ้นเสียงสูงแล้วกูทรมานอยากร้องได้สบายๆแบบคนอื่นๆ แต่พ่อแม่กูไม่ให้เรียนร้องเพลง ไม่สนับสนุนเลย มีใครมีวิธีฝึกร้องด้วยตัวเองให้เก่งระดับร้องเสียงสูงสบายๆได้ไหมวะ กูเครียดจัง
กูรู้สึกพ่อแม่ไม่สนใจกูไม่มีใครสนใจกูแฟนก็ไม่สนใจกูกูไปหาจิตแพทย์ที่ไหนดีวะที่เขารับฟังดีๆหน่อย
ดูพ่อมึงน่าจะแข็งแรงอยู่พอสมควรนะ เยี่ยวลงโถส้วมปกติเถิด น้ำชักโครกมันไม่ได้แพงอะไรเลย
แต่ถ้าช่วยตัวเองไม่ได้ ก็ดูแลกันไปตามอัตภาพ
กูดูหนังtheory of everything แล้วรู้สึกอับอายตัวเอง กูหางานไม่ได้กูก็ท้อชิบหายละไม่อยากทำอะไรต่อไปแต่ศาสตราจารย์สตีเฟ่นป่วยขนาดนั้นแต่ก็ยังขยัน พยายามทำโน่นทำนี่ เค้าอยู่ยังไงไม่ให้สิ้นหวังวะ กูก็มีครอบครัวพ่อแม่นะถึงจะไม่มีแฟนก็เถอะแต่ทำไมกูเจอเรื่องเล็กน้อยกูก็ท้อแท้เดินต่อไม่ได้แล้ววะทั้งๆที่ศจ.ยังใช้ชีวิตอย่างมีความหวังด้วยร่างกายแบบนั้น กูนี่ซาบซึ้งจริงๆ ทั้งๆที่เข้าใจว่าปัญหาของกูมันขี้ตีนแต่ทำไมกูลุกไม่ขึ้นซะที
>>108 แรงบันดาลใจว่ะเพื่อนโม่ง มึงต้องหาแรงบันดาลใจมากระตุ้น อยากรวย อยากได้แฟนสวย หรือมีแฟนอยู่แล้วมึงก็คิดว่าจะทำเพื่อเค้าให้ดีกว่าเดิม
ครอบครัวนี่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้มึงได้เสมอด้วย ส่วนตัวกูล้มมาหลายครั้งมาก ทำอะไรก็ห่วยก็แป้กไปบ่อยๆแต่กูยังมีกำลังใจจากรอบข้างมึงคิดแบบนี้แล้วจะไม่ท้อเว้ย ยังไงก็สู้ๆ
>>108 ถ้ามึงท้อมากๆ แล้วใช้ตัวเองสร้างแรงบันดาลใจไม่ได้ มึงก็หาแรงบันดาลใจจากปัจจัยอื่นมาตามที่>>110 บอก
มึงหาหนังสือชีวประวัติ หาหนังสืออะไรก็ได้ที่มึงสนใจติดตัวไว้ ถ้ามึงรู้สึกอยากหนีความเครียด อ่านหนังสือซะ กูไม่ใช่คนหัวโบราณนะเว้ย แต่หนังสือมันช่วยบำบัดได้ระดับหนึ่งจริงๆ
กูเคยเป็น ท้อมาก ทั้งๆที่กูเป็นคนกำลังใจดี แต่มีช่วงนึงกูท้อเฟลลุกแทบไม่ขึ้น กูก็อาศัยหากำลังใจจากอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้มากระตุ้น
เหนื่อยก็พัก พยายามเข้ามึง
>>111 กูพักมาสองวันแล้วยังเฟลแดกอยู่เลยไม่รู้จะหาแรงบันดาลใจจากไหนดีว่ะ ตอนนี้ที่กูคิดอย่างเดียวคือกูอยากมีงานทำแต่พอส่งเรซูเม่ไปแล้วเค้าเงียบหายมันก็เฟลมากนะ ตอนแรกยังไม่เท่าไหร่แต่นี่กูส่งไปเกือบยี่สิบที่แล้วอ่ะมันก็เงียบทุกที่ ขนาดได้ดูชีวิตของศจ.สตีเฟ่นแล้วก็ยังเฟลแดกไม่หายทั้งๆที่แม่งก็เรื่องเล็กๆเอง
สิ้นวังว่ะ พ่อกูทำงานคนเดียว แม่ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่กูนี่สิ ใช้เงินเขาเปลืองเหลือเกิน กูก็พยายามประหยัดเเล้วนะ แต่กูรู้สึกว่ากูควรทำได้มากกว่านี้ กูเป็นลูกคนโตด้วยไง กูอยากช่วยพ่อเเม่หาเงิน แม่กูมีปมว่าพอท้องแล้วโดนไล่ออกจากงาน เขาเลยไม่กล้าหางาน พ่อกูก็ไม่ว่าอะไร แต่กูรู้ว่าพ่อเหนื่อย กูอยากช่วยทุกคนเลย กูไม่อยากเป็นวัยรุ่นงอมืองอตีน แต่อายุยังไม่ถึง ไปหางานที่ไหนเขาก็ไม่รับ เเม่ง
>>112 มึงเฟลแดกมึงไม่ผิด โอเคนะ แล้วปัญหามึงกับปัญหาสตีเฟ่นแม่งไม่เหมือนกัน ชีวิตใครก็ปัญหาใหญ่ทั้งนั้น เอาเป็นว่ามึงดูเขาเป็นตัวอย่าง
มึงเห็นใช่มั้ยว่ากว่าแม่งจะลุกขึ้นมาฮึดสู้กับชีวิตก็นั่งเฟลแดกเหมือนมึงนั่นแหละ แต่สุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นสู้
กูช่วยไรมึงไม่ได้ว่ะ ตอนนี้พักไป แล้วมึงต้องลุกขึ้นมา เลิกเฟลจนไม่ได้ทำอะไร ตามจิกบริษัทที่มึงสมัครไปก็ได้ เออกูรำคาญชิบหายบริษัทในไทยพอไม่รับก็ไม่บอกให้ชัดๆ
>>113 อายุมึงเท่าไหร่ ยังไม่ถึง 18 แต่เกิน 15 ยัง? บางที่อย่างต่ำรับ 15 ขึ้นไป มึงลองดูพวกร้านอาหารใหญ่ๆเขาก็รับเด็กม.ปลายเว้ย
อ่ะอย่างที่คนรู้จักกูเคยทำ โอโตยะ แม่ศรีเรือน ลองดู เซเว่นแถวบ้านกูเคยติดป้ายรับสมัคร PT 17 ขึ้นไป
กูแนะนำพวกร้านอาหาร งานเหนื่อยแต่มีโอกาสได้ทำอยู่
PT งานหนังสือบางสำนักอย่างนานมี ลักพิม สถาพร รับ 15 ขึ้นไปเหมือนกัน ไว้งานรอบหน้ามึงก็ลองตามข่าวรับสมัครดู พวกนี้ได้ไม่ต่ำกว่าสี่พัน
กูละเบื่อจริงๆกับชีวิต คือกูเรียนสถาปัตย์เว้ยแล้วมันก็มีแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มๆ เสือกได้กลุ่มกับคนที่เกลียดครับ แล้วทีนี้ก็ต้องทำงานร่วมกันไง
เซ็งมาก คนที่กูเกลียดแม่งเป็นพวกไม่ฟังคนอ่ะ แบบบ้าอำนาจ แล้วเสือกได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม แม่งเอ้ย กรูล่ะเซ็งสัสๆ ทุกวันนี้ยอมแม่งตลอดเพื่อจะไม่ให้มีปัญหา กูเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะเว้ยยย อยากกระทืบแม่งจัง
>>115 ต่อยเลยนาย ตะก่อนกูก็เจอแบบนี้นิสัยอย่างงี้ คิดแบบเดียวกะมึงเป๊ะไม่อยากมีปัญหาเด๋วงานเสียก็มีแต่เราคนเดียวแหละที่ยอมเพราะอีห่ารากนั่นไม่ฟังควยไรเลย ชอบแบ่งงานแบบห่วยๆบางที่ก็ทำตัวโง้โง่เอางานมาทำเองเยอะๆแล้วทำไม่เสร็จซักอย่างแล้วมาโวยวายลงเฟสบุคว่าเพื่อนไม่ช่วย โถๆอีดอกคนอื่นเค้าก็ทำหน้าที่ตามที่มึงแบ่งให้น่ะแหละไม่ช่วยควยไรล่ะ มโนไปเองว่าตัวเองทำงานเยอะปัญญาอ่อนสัส งานไหนเอาไปจ้างเค้าทำได้ก็เสือกไม่ทำเอามาทำเองหมดแล้วก็ทำไม่ทัน โง้โง่ ควายได้โล่ที่หลังก็ร้องว่า มอออออ ไปเลยนะอีดอกทอง พอได้ทีโดดงานจ้าอีดอกแล้วก็ทิ้งทั้งหมดให้กูรับผิดชอบ เพราะคิดว่าไม่อยากมีปัญหาเนี่ยแหละทำกูคับแค้นใจจนทกวันนี้ น่าจะต่อยปากไปซักที
>>116 เออใช่ ชอบหาว่ากุไม่ช่วย แต่พอเรียกประชุมก็คุยกับคนที่แม่งสนิทอยู่สองคน สัส พอถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมบอกไม่มี แล้วก็มาว่าว่าไม่ช่วย สัสถ้ากูอ่านใจมึงได้กูไปเป็นหมอดูแล้ว ไม่มาเรียนให้เสียเวลาหรอก กูละเพลีย โตเป็นควายแล้วยังจะทำตัวอย่างกับเด็ก ไร้ซึ่งความเป็นผู้นำโคตรๆ
แม่กูอายุ62กูกับน้อง20-19 กว่าจะเรียนจบ กว่าจะทำงานมั่นคง กูกลัวแม่ไม่อยู่ทันกูตอบแทนบุญคุณเค้าว่ะ
พักนี้กูหดหู่ว่ะ คือพอกูได้อ่านกระทู้พวกคุยเรื่องเงินเดือน อายุ Xปี เงินเดือน XXXXX บาท หรือเวลาคนอื่นคุยกันว่าตำแหน่งอะไร โบนัสเท่าไหร่ แล้วพอเทียบกับตัวเองก็จะรู้สึกทำไมกูน้อยจัง ทำไมกูกากจัง คือกูได้ไม่เยอะไม่น้อย เฉลี่ยๆต่อเดือนก็ราวๆ 40k แต่พอได้ยินเค้า 60k 80k 100k กันแล้วก็รู้สึกกูได้น้อยจัง ก็รู้นะว่าอย่าไปเทียบกับคนอื่น หรือต่อให้กูได้ 100k กูก็จะไปเทียบกับคนที่มากกว่าแล้วคิดว่ากูได้น้อยอยู่ดี ทำไงให้กูเลิกคิดมากดีวะ มึงอย่าด่ากูนะ
ก็พอใช้แหละ บ้านกูก็ฐานะปานกลาง ไม่มีภาระอะไร แต่แบบ แม่งอดคิดไม่ได้เวลาได้ยิน
>>123 มันก็จริงเว้ย อดอิจฉาไม่ได้ กูก็ยังไม่ถึงขั้นบรรลุหรอก ถ้าได้เงินเยอะๆมันก็ดี เพราะมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะ
แต่คือไม่อยากให้มึงคิดมากไง เลยบอกว่าเอาเวลาคิดมากไปคิดวิธีหาเงินเพิ่มดีกว่าหรือเอาไปฝึกอะไรที่จะช่วยเราเลื่อนตำแหน่งเพิ่มความสามารถอะไรงี้ ถ้ามัวแต่คิดลบทุกอย่างแม่งก็ลบหมด ลองเปลี่ยนให้เป็นพลังบวกดูว่ะมึง
ความคิดฟุ้งซ่านนี่แม่งตัวอันตรายสำหรับความก้าวหน้าเลย วิธีแก้คือต้องแม่งทำตัวให้ยุ่งไปคิดเรื่องอื่นจนไม่มีเวลาฟุ้งซ่านอ่ะ
งานกลุ่มทีไรกูออกตังก่อนทุกที....แล้วสุดท้ายก็เก็บไม่ได้ครบ หรือไม่กว่าจะครบก็เหนื่อยสัส ไม่รู้ทำไมจะต้องเป็นกู...
ให้กูไปเลเซอร์คัทก็บังคับให้กูไปเวลานี้เวลานี้ ไม่คิดว่ากูจะไม่ว่าง หรือทำอย่างอื่นบ้างหรออีดอกกกกก
งานกูก็เยอะป่ะ...กูไม่ได้ขับรถเอง ทำไมไม่ให้พวกบ้านใกล้ไปทำวะสัสเอ้ย โคตรเกลียดแม่งเลยว่ะ ถ้าครั้งนี้ไม่จ่ายกูนะเมิง กูจะทำยังไงดีวะสัส
ไม่ถึงกับสิ้นหวังแต่ขอระบายหน่อย บอร์ดนี้มีห้องระบายมั้ยวะ ?
ก็เรื่องเดิมๆ เงินแหละ ทำงานหลังขดหลังแข็งจะได้เงินมาที เก็บไว้หลายปีในที่สุดก็ได้กำหนดไปเที่ยวต่างประเทศ
ไปกับญาติๆพี่น้องและหลานๆ ก็จ่ายให้หลานไปเที่ยวด้วย โอเคก็ไม่ได้อะไร กูก็เอ็นดูหลานคนนี้ด้วย(ลูกพี่)
แต่ก็ถูกพวกผู้ใหญ่พูดเหน็บแนมอีกว่ารักหลานไม่เท่ากัน ทำไมไม่พาคนอื่นๆไปด้วย ทั้งๆที่มันก็เงินกู
แถมใช่ว่าเด็กมันอยากจะไป เจอกันนานๆที แถมบางคนก็โตๆแล้ว มันก็อยากไปเที่ยวของมัน
กูไม่ได้อะไรกับเด็กๆเลย มีก็แต่พวกผู้ใหญ่เนี่ยแหละ ชอบพูดเหน็บแนม ทำให้ขัดแย้งกันเอง เรื่องงไม่เป็นเรื่อง
แถมช่วงอีกมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอีก เพิ่งจ่ายค่าเครื่องไป แถมต้องเตรียมเงินเผื่อไปช้อปด้วย อันนี้เตรียมไว้แล้วคือพอดี
วันนี้ดันเกิดเรื่องต้องให้เงินทั้งที่ไม่ใช่คนก่อเลย กลับบ้านมาหน้าจอคอมก็เสียอีก คนเช่าบ้านก็ค้างจ่ายมาตั้งหลายเดือนละ-*--*-**-
กูรู้สึกชีวิตแม่งไร้ค่า....ไร้ฝัน...ไร้ตัวตน...นี่กูมีชีวิตอยู่ไปเพื่อคนอื่น...ทำไมกูถึงใช้ชีวิตแบบนี้วะ
กูมีความฝันเพื่อพ่อ....เรียนเพื่อพ่อ...อยู่เพื่อพ่อ...
แต่รู้ไหม...พวกมึง...พ่อกูจะอยู่ได้อีกไม่ถึงสองปีว่ะ...
กูจะทำยังไงดีวะ...กูต้องทำตัวให้เข้มแข็ง...ทั้งๆที่ข้างในกู...ไม่ไหมแล้วว่ะสัส...กูอยากจะตาย...แต่กูก็ไม่อยากให้พ่อกูเสียใจ
ถ้ากูตายพ่อคงเสียใจมาก...นี่ไง...เขาถึงว่ากันว่าคนตายก่อนแม่งโชคดี...
ไม่ทรมาร...
กูมีพ่อที่เป็นคนบ้า ปู่กับย่าที่แก่หงำเหงือกใกล้ตาย ปู่กูนีเ่ป็นเส้นเลือดในสมองตีบ จะตายวันไหนก็ไม่รู้ นอนครางได้ทุกวัน ย่ากูก็เป็นความดัน กูห่วงที่สุดคือกูยังเรียนมหาลัยแล้วพ่อกูยังทำตัวเป็นนีท ไม่ทำการทำงาน ยาก็ไม่เคยกิน มันจะหายได้ไงวะ ทุกวันนี้ไปหาหมอ หมอก็บอกให้หางานทำแต่ก็ไม่ฟัง หนีความจริง กูยังสงสัยเลยว่าถ้าฆ่าพ่อตัวเองทิ้ง แล้วทำศพหนเดียวให้จบๆ นี่ยังจะดีกว่าอีกไหมเลย
กูยังไม่มีความฝันอะไรเลยเพื่อนเอ๋ย~
อีเหี้ย กูแม่งมีปัญหากับอีชะนีขยะๆตัวนึงในพันทิพย์ว่ะมึง ไม่รู้มันอ่านหนังสือไม่ออกหรือมันปากหมาแต่กำเนิด เถียงเรื่องเดิมๆวนซ้ำไปมาในอ่างอยู่ได้
ไม่มีใครบิทเกมเถ้าแก่น้อยให้กูเลย เจี๋ยใจ
เฮ้อมึง กูสอบไม่ติดคณะที่กูอยากเรียนที่สุดว่ะ ไม่มีแอดด้วย แต่กูดันติดคณะที่มันใกล้เคียง+ม.ใกล้บ้าน+ครอบครัวกูทุกคน ย้ำว่าทุกคน ชอบม.นี้
แต่กูนอยอยู่ดีว่ะ มันมีวิชาเหมือนกัน แบบดรออิ้ง ออกแบบกราฟิกไรงี้ แต่หลักสูตรแม่งต่างกันเยอะว่ะ ที่ที่กูอยากได้เขาเรียนแฟชั่นด้วย เรียนนิทรรศการศิลป์ด้วย และอีกมากมายกูยังนอยจนตอนนี้อยู่เลย (._.)
เออยังเล่าไม่จบ ที่สำคัญคะแนนวาดกูได้ 82/100 แต่ GAT กูเสือกเหี้ย เลยไม่ติด อยากจะเอาหัวโขกฝาบ้านตายว่ะ
กูไม่ได้สิ้นหวังแต่กูอยากระบายมาก กูเป็นคนที่เกลียดสังคมมาก คืออยู่สังคมได้ไหม ได้นะ มีเพื่อน มีแฟน ทุกอย่างปกติเหมือนคนในสังคมทั่วไป แต่กูเกลียดสังคม เดี๋ยวก็วิ๊ดว๊ายตามกระแสบ้าๆบอๆ เกลียดวัตถุนิยมแบบสุดโต่ง เกลียดความตอแหลดัดจริตของคนไทยวัยรุ่นไทย เช่น แบบ ผญ.บอกว่าโสดเหงาอยากมีแฟน แต่คนที่มาจีบไม่หล่อไม่รวย ไม่เอา เกลียดเพจที่เอาคำคม(คมตรงไหนวะปัญหาอ่อนชิบหาย) ไปลงเพจตัวเองแล้วมาวิ๊ดว๊าย คือแม่งก็คือความจริงของโลกใบนี้ มึงจะเหี้ยอะไรหนักหนา เกลียดการเหยียดชาติพันธุ์ เหยียดฐานะทางสังคม เกลียดทุกอย่างว่ะ แต่ยังไงก็หนีไม่พ้น เพราะสุดท้ายกูต้องอยู่สังคมกับไอ้พวกนี้ไปจนแก่ตาย ขอบคุณมาก กูมาระบายแค่นี้แหละ
เฮ้ออ ตอนนี้กูคิดจะไปเรียนที่ๆไม่มีคนรู้จ้กกู แต่กูกลัวยามกูลำบากวะ ก้บเรื่องเพื่อน
คือ ปกติช่วงกูลำบากกูจะมีเพื่อนเลี้ยงตลอด อย่างชวนกินข้าวที่บ้านบ้าง,เลี้ยงอะไรหลายๆอย่าง
กลัวตอนไปเรียนไกลๆ จะไม่มีคนทำขนาดนี้
กูอยาก delete สมองตัวเองว่ะ กูรู้สึกว่ากูมี trauma เยอะมาก บางเรื่องคิดว่าลืมไปแล้ว แต่พอมีอะไรมาสะกิดมันก็กลับคืนมาเหมือนตะกอนที่ตกอยู่ในใจตลอดชาติไม่มีวันหายไปไหน ถ้ามันมี 1-2 เรื่องยังโอเคนะ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วเหมือนกูจะมีเยอะมาก ทำไงให้มันลืมแบบหายขาด เอาตะกอนออกไปจากหัวใจได้มั่งวะ
>>163 เรื่องเล็กน้อยไร้สาระมากว่ะ เหมือนพอมีอะไรมาสะกิดมันก็เจ็บแปล๊บขึ้นมา หรือว่าคนอื่นก็เป็นกัน? แต่คือมันเยอะมากเลยว่ะของกู ไปเจออันนั้นก็สะกิดเรื่องนั้นในอดีต ไปเจออันโน้นก็สะกิดเรื่องโน้นในอดีต บางเรื่องผ่านมาเป็นสิบๆ ปีแล้วโดนสะกิดทีก็ยังเจ็บเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกว่าดีขึ้นเลย แต่ถ้าไม่มีอะไรมาสะกิดก็โอเคนะ ไม่ได้คิดอะไร มันต้องมีสิ่งเร้า
กูอยากลืม หรือไม่ก็ไม่รู้สึกอะไรกับมันแล้ว เห็นหลายคนบอกว่าพอเวลาผ่านไปนานๆ เรื่องที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องร้าย พอย้อนกลับไปมองกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องตลก เป็นเรื่องจิ๊บๆ ขำๆ ..... แต่กูไม่เลยอ่ะ ตอนนั้นเจ็บตอนนั้นเฟลยังไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น
>>165 ของกูมันไม่แป๊ปอ่ะดิ ถ้ามีอะไรสะกิดทีกูนอนไม่หลับไปเลยคืนนั้นทั้งคืน ถ้าหนักกว่านั้นก็วันรุ่งขึ้นคิดต่อ กลางวันเนี่ยยังโอเคนะเพราะกูทำงานทำห่าไรไปยุ่งๆ ไม่มีเวลาคิด แต่กลางคืนเนี่ยทรมานมาก เพราะต้องนอนมันเลยทำอะไรไม่ได้ พอสมองว่าง มันก็คิดจนนอนไม่หลับยันเช้า
ขอบคุณมากนะที่ช่วยตอบให้
เป็นไปได้ป่ะวะไอ่เหี้ย ที่มีคนคบกันไม่มองหน้าตา กูว่านี่ปี 2015 แล้ว ไม่น่าจะหลงเหลือแล้วป่ะวะ
แต่ก่อนกูเชื่อตอนนี้แม่งยุคภายนอกเชี่ยๆ ถ้ามึงดูกล่อดูรวยแม่ง หอมสัด
มึง กูมาถูกกระทู้รึเปล่าวะ ขอกูระบายหน่อย
ตอนนี้กูมาเรียนต่อแล้วกูรู้สึกสิ้นหวังมากว่ะ กูเรียนไม่รู้เรื่องเลย ไม่รับอะไรเข้าหัวแม้แต่นิดเดียว เวลาเรียนในห้องเหมือนกูฟังภาษาต่างดาว ฟังอ.พูดไม่เข้าใจ
แถมนอกจากจะเรียนไม่รู้เรื่องแล้วทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจกูพังหมดแล้วว่ะ ทั้งปวดหัวปวดท้อง นอนไม่หลับ จำอะไรใหม่ ๆ ไม่ได้แถมทำท่าจะลืม ๆ ของเก่าอีกต่างหาก วัน ๆ ก็นั่งซึมเศร้าไม่มีความสุขเลย กูพอจะรู้ว่าสาเหตุหลัก ๆ มันมาจากความเครียดสะสมแต่กูก็ไม่รู้จะระบายออกทางไหนดี กูเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว กูอยากเรียนให้รู้เรื่องเข้าใจเพราะเสียเงินมาตั้งเยอะ
แต่พอคิดว่าสุดท้ายมันจะจบแค่กระดาษใบเดียวโดยที่กูไม่ได้อะไรเลยแถมสุขภาพพังกลับไทยไปอีกมันทำกูเฟลโคตร ๆ
กูควรทำไงดีวะ พยายามตั้งใจเรียนแล้ว อ่านหนังสือแล้วแต่ยังไงที่ไม่เข้าใจมันก็ไม่เข้าใจว่ะ
ไปปรึกษาอ.ที่ปรึกษาก็ไม่ตอบเมลกู(ต้องเมลนัดก่อนถึงไปคุยได้) อ.ที่สอนกูไปถามคำถามแม่งก็ไม่ยอมตอบกู บอกแล้วว่าอ่านหนังสือไม่เข้าใจเลยมาถามแม่งก็ไม่ยอมตอบไม่ยอมอธิบายไล่กูกลับมาอ่าน(หนังสือและสไลด์ที่กูบอกว่าอ่านแล้วแต่ไม่เข้าใจ)
กูเหนื่อยว่ะ ท้อแท้ ไม่รู้จะทำยังไงดี
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.