Last posted
Total of 1000 posts
พวกมึงยินดีกับกูด้วยกูกำลังจะอัพคลาสเป็นจอมเวทในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว อีห่ากูจะเวอจิ้นไปจนตายมั้ย
พวกจอมเวทย์อัดตูดกันเองก็ไม่จอมเวทย์ละ
กูคือโม่ง >>887 ขอกูมาระบายหน่อย
คือพอใกล้วันที่กูจะสารภาพกับมันแล้วกูเครียดว่ะ มองอะไรก็ดิ่งไปหมด คือกูกลัวอะไรๆมันจะไม่เหมือนเดิม(ไปในทางที่เลวร้ายลง)จนกูเริ่มป๊อดขึ้นมาอีกละ แถมกูยังคิดมากจนเมื่ออยู่ต่อหน้าอิผู้กูไม่สามาถทำตัวเป็นปกติได้แล้ว คือจะเริ่มมึนๆเศร้าๆขนาดอิผู้ยังต้องมาเป็นห่วง ถามนู่นนี่นั่นเป็นอะไรมั้ย มีอะไรเล่าให้มันฟังได้นะ คือกูอยากตะโกนใส่แม่งว่าเป็นแบบนี้เพราะมึงนั่นแหละ อิห่าาาาา ฮืออออ บอกตรงๆถ้าเกิดต้องอกหักแล้วกูไม่อยากให้มันมาเป็นห่วงอะไรกูแบบนี้เลย มันเหมือนให้ความหวังกูน่ะ ถึงการกระทำของมันอาจจะเป็นห่วงเพื่อนแบบธรรมดาๆก็เถอะแต่กูคิดมากว่ะมึง
>>966 งั้นก็ไม่ต้องบอกเงียบปากแล้วเป็นลูซเซอร์ไปตลอดกาลซะ อกหักเพราะได้บอกความรู้สึกไปดีกว่าอกหักเพราะไม่ได้บอก ดียังไงอย่างน้อยๆเขาก็รับรู้ว่ามีคนคนนึงชอบ
กูเคยมีประสบการณ์มาก่อน ชอบแล้วไม่ได้บอกเนี่ย กูคิดอยู่ตลอดถ้ากูพูดไป วันนี้กูก็คงจะมีเขาอยู่ข้างๆ แต่ตอนนี้ถึงจะบอกไปก็คงจะไม่ได้ละเพราะเขามีแฟนไปซะละ เพราะงั้นมึงรีบบอกตอนที่ยังมีโอกาศซะไอ้ควาย
ตอนยังมีโอกาศมึงก็บอกซะ อย่าปล่อยให้เป็นไอ้ Loser แบบกู ถ้าบอกแล้วอกหักอย่างน้อยมันก็ไม่คาใจมึง แต่ถ้าไม่บอกมึงจะไม่แน่ใจกับความรู้สึกแล้วเก็บมันไปตลอดแบบกู ตอนนี้กูกำลังเรียนฟิสิกส์และอวกาศ นี่กูพูดจริงๆกูจะเป็นนักวิทย์สร้างไทม์แมชชีนแล้วไปตบหัวตัวเองในวัยเด็กตอนอายุ 14 ไอ้สัสเล่นตัวนักไม่ยอมบอกกูเลยเป็น Loser ยันทุกวันนี้ เพราะงั้นบอกซะ
การไม่สารภาพรักกับคนที่ชอบมันเกี่ยวกับการเป็น Loser ตรงไหนวะ - -
ขอระบายยาวๆหน่อย
คือสมัยผมเรียนมอปลายเคยแอบชอบเพื่อนสนิทอยู่คนนึง แล้วมันก็มีแฟนไปปกติ
แต่ก็ชอบมาเกาะๆแกะๆผมอะนะ ผมก็ไปส่งบ้านบ่อยๆ ก็ตัดใจไปละว่าเออมันมีแฟนแล้ว
ก็ประมาณ2-3ปีต่อมาสมัยมหาลัยละ มันท้องกับแฟนเรียบร้อย แล้วมีเรื่องประมาณว่าแม่ผัวไม่ถูกใจมัน
เลยหาเมียให้ลูกชายตัวเองก็เลยแยกกันทั้งๆที่มันท้องอยู่ ทีนี้ผมก็ทักๆไปตามประสาเพื่อนเก่า
แล้วคุยไปคุยมาก็รู้เอาตอนนี้แหละว่ามันเลิกกับแฟนแล้ว แล้วผมก็สารภาพไปว่าผมแอบชอบมันมาตั้งแต่มอปลายละ
มันก็รับรู้ แล้วก็เหมือนจะโอเค(เหมือนจะนี่ผมก็ไม่แนใจเหมือนกันว่ะ) ก็คุยๆกันมาเรื่อย
แต่แบบเหมือนผมโดนบ่ายเบี่ยงว่ะ แบบว่าพอขอนัดเจอกันทีไรบอกว่ายุ่งมาก สรุปตอนนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย
หรือแบบว่าผมแม่งเป็นตัวคั่นเวลาเฉยๆวะ เอาไว้คุยๆแก้เซ็งรอเวลาแฟนมันกลับมาคืนดีงี้เปล่า คิดแล้วเฟล
มาระบายแต่เช้าแป๊บ อยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนโม่งด้วย
คือตอนนี้กูคบกับเพื่อนสนิทมาครึ่งปีแล้ว กูเป็นฝ่ายบอกชอบ มันก็ตกลงโอเค กูก็ดีใจที่มันรับรักกูนะ แต่ตอนนี้ที่คบกันอยู่ มันเหมือนกูวิ่งตามเขาไงไม่รู้ว่ะ อะไรๆก็ทำให้ เห็นเขามีความสุขกูก็ดีใจ พยายามเข้าหาหรือวิ่งตามตลอด แต่เขาดูเฉยๆยังไงก็ได้อะ...
เช่น กูพยายามไปหาเขา อยากเจอหน้า กูก็ถามว่าสะดวกมั้ย ยุ่งเปล่า อยากเจอมั้ย เขาก็ตอบว่าแล้วแต่กู พอกูไปปุ๊บเขาก็นั่งอ่านหนังสือเฉยๆไม่ได้คุยไร กูก็พยายามชวนคุยนะ เขาก็ตอบมาแต่ เออ อื้ม อ่อ แล้วก็เมินกูเหมือนอากาศไป
จริงๆแม่งมีหลายเรื่องที่เหมือนเมินๆ
พอกูลองถามดูว่าที่ตกลงคบเพราะสงสารกูหรือเปล่า เขาก็ตอบว่าไม่ใช่ เขาก็รักกู ไม่เชื่อความรักเขาหรอ คือทะเลาะเรื่องนี้กันบ่อยมากตั้งแต่คบกัน
ก็กูไม่รู้นี่ กูไม่ได้อ่านใจเขาได้ว่าคิดอะไรอยู่ ตอนเป็นเพื่อนสนิทกันยังไม่เมินกันแบบนี้เลย กูควรจะทำยังไงว่ะ
>>981 กูเคยเลิกกับผู้หญิงแบบนี้มาแล้วครั้งนึงนะ
จริงๆแล้วคือมันไม่มีอะไรเลย แค่เขาไม่เติมให้เราบ่อยๆน่ะ
มันปรับได้ อย่างง่ายที่สุดก็ที่ตัวเราเอง
ทำให้ตัวเองสบายใจ แล้วไม่ต้องไปเรียกหาหลักฐานอะไรบ่อยๆ
เอ็นจอยกับสิ่งที่มีนั่นแหละ บางคนเขาก็เป็นของเขาแบบนั้นจริงๆ
เห็นที่นิ่งๆ ในใจเขาก็รักเรานั่นแหละ แต่เรื่องของการแสดงออก
ไม่ใช่สำหรับทุกคน
อย่าทำผิดซ้ำแบบเดียวกับกูล่ะ 55
>>983 คิดซะว่ามึงเล่น Dark Souls อะ
คำบอกรักที่ชาตินึงจะหลุดมาที มันมีความหมายเยอะนะเว้ย
แต่ถ้ามึงตะบี้ตะบัน บีบปากบังคับให้เขาพูด นอกจากจะไม่ได้แล้ว เราจะ frustrate เองด้วย
สุดท้ายคนเราคบกัน มันก็อยู่ที่การหาพื้นที่ตรงกลางที่สบายใจแค่นั้นจริงๆว่ะ
ผ่อนๆ ชิวๆ ไม่ต้องผลัก ไม่ต้องดัน อยู่กันยาวๆ
>>976 กูเคยเป็นแบบมึงเดี๊ยะๆเลยว่ะ จากเฉยชาสุดท้ายก็กลายเป็นไม่ได้คุยกัน ละสุดท้ายกูก็เลิกกับมัน5555555555 ตอนแรกแม่งเหี้ยมากอยู่ก็ๆหายไป ทิ้งให้กูงงว่ากูทำเหี้ยไรผิดวะ กว่าจะมาบอกเลิกกูก็เกือบปีด้วยเหตุผลว่าไม่ได้ชอบกูแล้ว จนถึงทุกวันนี้กูก็ยังคิดอยู่นะว่าที่ผ่านมามันคงเป็นแค่ความสงสารน่ะแหละ
มึงว่ากูบ้าไหม พรุ่งนี้กูจะได้สัมภาษณ์งานละ เป็นแลปวิจัยในประเทศๆนึง กูคิดว่าถ้ากูเอาไอ้ที่เขียนมาทั้งหมดยื่นให้เขาไปอย่างเดียวนี่ได้งานชัวๆ
เพราะตำแหน่งก็ว่างแต่เหตุผลหลักๆที่กูจะมาทำงานไม่ใช่เพราะกูอยากได้ตังค์ หรืออยากจะวิจัยพลังงานห่าเหวมาช่วยใคร กูอยากตบหัวตัวเองตอนเด็กว่ะ
พูดง่ายๆตรงๆกูจะบอกเหตุผลนี้กับเขาไปด้วยว่ากูจะย้อนเวลาไปตบหัวตัวเองให้ดูแลเมียดีๆก่อนที่มันจะตาย นี่กูจริงจัง เพราะกูคิดมาตลอดแล้วว่าคนเรามันจะมีชีวิตไปทำไมกันวะ คำตอบก็เพราะมึงมีแรงบันดาลใจหรือความฝัน แต่ไลฟ์โกลกูมันสำเร็จไปหมดแล้วว่ะ พ่อแม่ก็ตายไปหมดละที่กูเหลืออยู่ก็มีแค่นี้แหละที่ต้องมาแก้ปมชีวิตตัวเองถึงโอกาศมันจะไม่มีหรือกูจะตายก่อนได้เห็นเครื่องย้อนเวลา แต่มันก็คงเป็นส่วนนึงว่ากูได้ทำเพื่อมีกูบ้างแล้วยังไงไปเล่าให้ใครฟังมันก็มีแต่คนหาว่าบ้าอยู่ละ กูบ้าแบบไร้ตัวตนดีกว่า
มู้ใกล้เต็มแล้ววว
ตั้งมู้ใหม่แล้ว วิ่งควายกันเถอะ >>>/lifestyle/1839/
ควาย
ควาย
ควาย
ควาย
ควาย...
วิ่งควาย
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.