Last posted
Total of 1000 posts
จับโม๊คควยแม่งเลย หลังจากนั้นแหกดากมันเอาควยสอดเข้าๆออกๆแล้วน้ำแตกใส่หน้าข่มขู่มันไปว่าอย่าเมินกู ไม่งั้นจะเจอแบบนี้อีก
พอเรียนคนละคณะเหมือนห่างจากเพื่อนขึ้นเรื่อยๆเลยว่ะ ตอนนี้รู้สึกเหมือนจากเพื่อนสนิทกลายเป็นเพื่อนเฉยๆแล้ว ถ้าไม่ทักไปก่อน นอกจากเวลามันไม่เรื่องให้กูช่วยก็แทบไม่เคยทักมาเลย เพื่อนใหม่ก็หาไม่ได้ เรียนออนไลน์แม่งหาเพื่อนยังไงวะ
กูสมัยเรียนเนิร์ดๆ เรียนอย่างเดียว ไม่มีเพื่อนเลย แต่พอเรียนจบมีงานมีการดีๆ ทำ โพรไฟล์สวยหน่อย คนเข้าหาเพียบเลยว่ะ แม้แต่เพื่อนที่ป๊อบๆ ที่สมัยเรียนเข้าไม่ถึงก็ยังมา ถึงจะรู้ว่าเข้าหาเพราะหวังคอนเน็คชั่นก็เหอะ แต่ก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยก็ไม่จืดจางเหมือนเมื่อก่อนแล้ว TT พูดเก่งขึ้นด้วย อาการขนลุกตอนคุยกับคนแปลกหน้าเริ่มน้อยลง
รำคาญชิบหายที่บ้านก้ถามจะเรียนต่อไหนทุกวัน เพื่อนก้ยังเสือกมาถามกันอีก ถามทำเหี้ยไรกันวะ พวกมึงยังไม่ชอบให้คนอื่นถามเลยแล้วมาถามกุทำเหี้ยไร อึดอัดชิบหาย
กุเบื่อทำงานกลุ่มชิบหายไอเหี้ย มหาลัยช่วงออนไลน์แม่งก็สั่งแต่งานกลุ่ม กลุ่มที่กุอยู่แม่งก็มีแต่คนคอยเกาะ มีกันอยู่สิบกว่าคนคุยงานจริงอยู่2-3คนรวมกุด้วย กุไม่อยากแบกแล้วแต่คะแนนกุก็อยู่กับงานแม่งเนี่ย ทำไมจารย์ไม่สั่งงานเดี่ยวไปเลยวะ
ออกมาทําเดี่ยวดิวะ บ่นทําไม มันยากเรอะ เหนื่อยน้อยกว่า หัดเจรจากับอาจารย์บ้างว่าขอทําคนเดียว ก็จบละ
พวกที่บ่นๆคือไม่กล้าออกมาทําคนเดียวเพราะจจกากป่ะ
>>228 อย่ามีเลย มึงโตขึ้นมึงจะรู้ว่าหาคุยแบบไม่มีตัวตนในโม่งในดิสในเว็บบอร์ดดีกว่า เป็นเพื่อนจริงๆกูเจอหลายคนละทุกอย่างจะเป็นอนิเมะคุยได้ทั้งวันแบบน่าปวดหัว คือกูชอบเหมือนคนชอบดูหนัง อนิเมะเป็นแค่Part of my life not my whole fucking existence แต่ถ้ามึงติดเมะหนักๆไปมีเพื่อนคุยก็อาจจะดีก็ได้ แต่กูว่าแม่งเยอะเกิน
พวกโอตาคุแม่งมันจะไม่หยุดคุยอ่ะสัส เนี่ยกูกําลังจะมาบ่นพอดีสัสเด้ย คือกูไม่ได้ชอบด้อมมันแต่มันจะมาขายด้อมห่าไรไม่รู้ แบบแนวฟุโจชิชอบกันอ่ะ แต่กูไม่ใช่ฟุ คือกูก็อ่าๆอืมๆตอบกลับเป็นมารยาทมันทําให้หอนั่นคงคิดว่ากูชอบด้อมมันมั้ง หรือเพื่อนมันคนอื่นไม่ตอบมันมันเลยมาคุยกับกูเยอะๆคนเดียวเหรอวะ ตอนหลังกูอ่านไม่ตอบแล้วยังพิมมาอีก อวดเว้นท์อวดกาชาโพ่งมึงใครถามห่ะ
>>236 >>237 แม่งเป็นโปรเจคใหญ่สิบกว่าคนอะดิ สเกลงานมันทำคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว แต่คนสั่งงานแม่งสั่งงานไม่ดูเลยว่าสภาพเด็กเรียนออนไลน์เป็นยังไง คนไม่ช่วยแม่งก็ไม่หือไม่อือจริงๆ รอรับงานตอนแบ่งอย่างเดียวทั้งๆที่งานส่วนที่หนักสุดคือตอนระดมความคิดกับประชุมงาน กุเหนื่อยกับการที่พูดถามไปไม่มีคนตอบ ต้องคอยถามว่าได้ยินมั้ยใครก็ได้ตอบที ห่าราก ถ้าจะเข้าประชุมแต่ไม่คิดจะออกความเห็นแบบนี้มึงจะมาทำพระแสงไรวะ พอแบ่งงานไปแม่งก็เอาแต่ถามไม่ก็ทำออกมาสั่วๆเหมือนเด็กทำ กุหัวจะปวด แม่งไม่ใช่เด็กๆแล้วนะเว้ย
>>240 คือกูทําเดี่ยว งานโปรเจคกลุ่ม10คน30คะแนนอ่ะ เพราะเป็นแบบที่มึงว่าเลย จะมาประชุมทําเหี้ยไรไม่มีใครเสนอ กูเลยเดี่ยวเลย ทุกอย่างมันเดี่ยวได้ถ้าใจมึงถึง ถึงตอนทำวิทยานิพนธ์ก็ต้องทําคนเดียวอยู่แล้ว งานกลุ่มแค่นี้มันก็เดี่ยวได้
แต่พ้ามึงประเมินแล้วว่าทําเดี่ยวแล้วจะเหนื่อยกว่า ก็เผด็จการใช้คนเถอะ อย่าไปแคร์นํ้าใจเหี้ยไรกับพวกนี้ มันเคยแคร์นํ้าใจเราที่ไหนหล่ะ ขู่ไปเลย มึงไปหาอันนี้ๆมา ให้ระเอียดไม่นะเอียดมึงไปหามาใหม่ หาไม่ผ่านกูตัดชื่อ ยังไงก็โดนเกลียดอยู่แล้วแต่พวกนี้ยังก็ต้องมาพึ่งบุญบารมีเราอยู่ แคร์เหี้ยไร
แบ่งห้องนอน 8 คน 2 ห้องห้องล่ะ 4 คน กูเป็นเศษเพราะเพื่อนเอาคนที่แม่งไม่เข้ามานอนอยู่เเล้วแน่ๆ มาแทนห้องจะได้ว่างแต่กูต้องไปนอนกับอีกกลุ่มแทนกูจะไม่ว่าอะไรนะถ้ามึงบอกกูก่อนอ่ะ ไอ้เหี้ยอันนี้มาดูรายชื่อกูไม่มีห้องอยู่เฉยเลย โอเคเลย ถ้าบ้านกูมีเงินกูก็ไปเยู่หอนอกแม่งล่ะ หอในแม่งฟรีอีก โอ้ย ไม่เป็นไรกูจะได้ไปอยู่กับอีกกลุ่มแล้วก็ออกจากกลุ่มเหี้ยนี้ไปเลย ควย
เบื่อคนผิดนัดจังเลยหว่ะ กูผิดนัดใส่แม่งละดีกว่า
หรือกูควรออกจากกลุ่มแม่งเลยดีวะ
มีเพื่อนใหม่แล้ว กูไม่จำเป็นกับมึงแล้วสินะ
กู >>10 เอง ปากบอกจะมูฟออนแต่ตอนนี้คิดถึงมันอีกแล้วว่ะ ยังหาคอนแทคไม่ได้เลย เพื่อนตอนประถมกูไม่เหลือใครให้ติดต่อได้เลย
อีกใจนึงกูต่อให้ติดต่อได้จริงๆกูก็กลัวว่ามันอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ กูติดภาพสมัยประถมอยู่เลยแถมมันก็ผ่านมานานมากๆแล้ว มันจะรำคาญกูไหมวะ กูเคยบอกต่อให้เจอแล้วไม่สนิทก็ไม่เป็นไร แต่เอาจริงๆก็อยากกลับไปสนิทกับมันอีก มึงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของกูจริงๆ ไม่มีเพื่อนที่จริงใจกับกูเท่ามึงแล้ว
งง มึงคิดถึงเพื่อน ก็ดีแล้วหนิ
ใช่ มันอาจจะฟังดูเศร้า กับการคิดถึงคนที่ไม่ได้เจอกันแล้ว แต่มึงลองมองอีกด้านนึง อย่างน้อยมึงก็มีความทรงจำดีๆให้คิดถึง
ลองฟังเพลงนี้ดู :) https://www.youtube.com/watch?v=9JXm73C0DvI
เพื่อนที่บ้านรวยแม่งไม่เคยเข้าใจกูที่ไม่ได้มีจะกินเลยอ่ะ เพื่อนกลุ่มนี่นัดกันถ่ายรูปรับปริญญา นัดกันก่อนที่กูจะได้งานทำ แล้วมันทิ้งช่วงนาน ทีนี้กูได้งานทำแล้ว เงินไม่เยอะมาก แล้วถ้าลางาน=หักตัง วันที่นัดกันกูต้องทำงาน กูเลยบอกไปไม่ได้ ไม่อยากลางาน ไม่อยากโดนหักเงินนั่นแหละ อีเพื่อนคนนี้ก็ด่ากูว่าเงินแค่นี้จะไรนักหนา แล้วก็พูดกดดันกู หาว่ากูไม่อยากถ่ายรูปเฉยเลย แล้วก็ด่ายันที่ทำงานว่าเหี้ยไรแบบนี้ พูดให้ลาออกจากงาน พูดไรชุ่ยๆอ่ะ แล้วอีคนพูดนี่คือนอนอยู่บ้านเฉยๆไม่ได้ทำงานก็มีพ่อแม่เลี้ยง เห้อ
กุโคตรเบื่อเพื่อน แม่งชอบเกทับ ชอบบลัฟกุชิบหาย เวลากุพูดไรแล้วมันผิด หนือถุกก้ช่างเหอะ แม่งจะเถียงๆๆๆจะชนะกุให้ได้ เหมือนแม่งหงุดหงิดกูตลอดเวลา ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ที่เป็นเพื่อนกูมันอยากเป็นเพื่อนกูจริงๆไหม หรือคบให้พอผ่านๆพอมีเพื่อนบ้าง โคตรน้อยใจ เหมือนมันอยู่กับคนอื่นแล้วยิ้มเยอะหัวเราะมากกว่าตอนอยู่กับกู กุโคตรเกลียดตัวเองที่ไม่เส้นตื้นหรอหัวเราะกับมุกทั่วๆไปเลย กูอยากหัวเราะบ้าง กูอยากเป็นคนที่เพื่อนอยู่ด้วยแล้วสนุกบ้าง กูเคยถามว่ารักกู อยากเป็นเพื่อนกับกูจริงๆไหม มันไม่ตอบเลย มันึกๆอักๆ ไม่ตอบกู กูโคตรเฟล กูอยากมีเพื่อนดีๆบ้าง ขอแค่คนเดียวที่รู้สึกอยากเป็นเพื่อนกับกูจริงๆ กูขอได้ไหมซักคน ทุกวันนี้เหมือนเป็นแค่เพื่อนที่เอาไว้ทำงานกลุ่มหรือแดกข้าว หรือไปเที่ยวกันเฉยๆ
หลังจากเรียนจบ กูตั้งกฏให้ชีวิตว่าเพื่อนคนไหนเวลานัดแล้วมาเลท(โดยไม่มีเหตุผลที่ดี+ไม่บอกล่วงหน้า)
และกูเตือนแล้ว คุยแล้วว่ากูให้ความสำคัญเรื่องเวลามาก อยากให้มาตรงเวลา
ใครเลทสองครั้งกุเลิกคบ
ตอนนี้กุอายุ30 ไม่มีเพื่อนเหลือแม้แต่คนเดียว 55555
ก็ดี ไอ้พวกเหี้ย บาร์ต่ำแค่นี้ยังรักษาไม่ได้กุไม่คบให้เสียสมอง เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวเป็นเพื่อนก็ได้
>>252 คือกุอยากเป็นแบบนั้นบ้าง อยากลองอยู่คนเดียวบ้าง แต่กุคงทำไม่ได้ มันมีเรื่องผลประโยช เรื่องเรียนเข้ามาบ้างแหละ แต่กุก้รักเพื่อนกุนะ ระกแบบจริงๆ แต่บางครั้งแม่งก็เบื่อบ้างเพราะต้องเทคแคร์พวกแม่งจัดๆ จนบางครั้งก็เป็นกุที่เสียใจตลอด กุอยากอยู่คนเดียวบ้างอย่กสบายใจ อยากไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวเพื่อนจะโกรธ อยากที่จะไม่ต้องแกล้งว่ากุชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร อยากพูดออกมาว่าความจริงแล้วกุชอบในสิ่งที่พวกแม่งไม่ได้ชอบ บางครั้งกุก้ต้องพูดเรื่องที่ไม่สบายใจออกมา เพื่อนให้บทสนทนามันไปต่อได้ตลอด
หลายๆคนก็คงฝืนตัวเองเพื่อจะมีเพื่อนเหมือนกันหมดสินะ กุนึกว่ากุเป็นคนเดียวพอมาโม่งเจอเต็มเลยสัส55555 ฝืนชอบนู่นชอบนี่ทั้งๆที่กุไม่ได้ชอบแต่เพื่อนในกลุ่มชอบกุก็ต้องชอบตามเพื่อให้มันไหล ไม่ติดขัด กุต้องคอยฟังคนอื่นพูด แต่ไม่เป็นไร โดยส่วนตัวกุชอบฟังคนอื่นพูดหรือเล่าต่างๆถึงแม้กุไม่เข้าใจแต่กุก็เต็มใจที่จะฟังนะ สนุกดี แต่พอกุจะพูดบ้างกลับไม่มีใครฟังกุเลยสักคน เลยกลายเป็นคนอื่นก็ไม่รู้จักกุจริงๆสักคน เวลาคุยเรื่องๆนึงกันก็คิดว่ากุไม่เข้าใจ ทั้งที่กุเข้าใจดี กุตาม กุชอบด้วย แต่ไม่ใช่กุไม่เข้าใจหรอกมึงอ่ะไม่เข้าใจกุ คิดไปแล้วว่ากุต้องไม่รู้จีกแน่ๆทั้งที่กุรู้จักดี ตอนกุเล่าไม่รู้จักฟังบ้างล่ะไอ้สัส ละบางเรื่องความคิดไม่ตรงกันกุก็ไม่อยากขัดเพราะยาวแน่ บางเรื่องได้แต่อือๆออๆไป แต่ความจริงมึงกับกุมองกันคนละมุมคนละจุดเลยสัส จะไปขัดก็ไม่ได้อีก เสือกเป็นพวกเชื่อมั่นในความรู้สึกหีแตดไรไม่รู้ ซึ่งกุไม่เก็ท แบบ กุบอกว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณ มันก็จะบอกว่าเป็นเพราะจริงๆแล้วน้องเขาอ้างว้างโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีใครมอบความรักความอบอุ่นให้ชีวิตน้องเขา น้องเขาหว่าเว้เหมือนโลกเป็นสีเทาไร้สีสันมาตลอก เขาเลยต้องหาใครมานอนด้วยทุกคืนๆ ถ้าเป็นนี่ นี่ก็จะทำเหมือนกันนะ แต่กุมองยังไงก็สัญชาตญาณกระต่ายมันสืบพันธุ์ตลอดเวลาอยู่ละ แต่กุก็ไม่เถียง มันจะมองมุมนั้นก็เรื่องของมัน แต่บางเรื่องกุก็รำคาญ บางเรื่องมึงไม่ได่ผิดก็เอาแต่บอกว่า เราไม่โทษใครหรอก เราโทษตัวเองดีกว่า ไม่ได้ทำให้มึงดูดีขึ้นมาเลยสัส ในสายตาคือมึงโง่ล้วนๆไม่สู้เพื่อตัวเองทั้งๆที่มึงไม่ได้ผิดเหี้ยไรเลย ได้แต่อยู่ใต้ตีนเขาเพราะคติไม่โทษใครโทษตัวเองนีาแหละอีเหี้ย
ก่อนจะบ่นเพื่อนเรื่องมาเลท มึงช่วยดูสภาพการจราจร ระบบขนส่งสาธารณะ ประเทศไทยหน่อย
กูไปยืนรอรถเมล์ สายเดียวกัน แต่ละวัน ยังมาช้าเร็วไม่เท่ากัน บางวันรอ 5 นาทีก็มาละ บางวันรอครึ่งชม.งี้
รถก็ติดสัสๆ เพราะผังเมืองออกแบบมาได้ส้นตีน ถ้าอยู่ญี่ปุ่น ยังบ่นได้นะเรื่องมาเลท เพราะทุกอย่างเค้าเป๊ะ
แต่มึงอยู่ไทย หรือ กทม. ก็ให้อภัยเพื่อนหน่อยเหอะ / แค่อยากมาแชร์มุมมองแค่นั้น จะคิดแบบกูรึเปล่าก็แล้วแต่มึง
ถ้าโดนเพื่อนเลิกคบเพราะมาเลท ทั้งที่กูไปเลทเพราะยืนรอรถเมล์นานชิบหาย เหนื่อยก็เหนื่อย แดดก็ร้อน ฝุ่นก็เยอะ พอไปถึงที่หมายแล้วยังโดนเพื่อนบ่น แถมวันนึงเลิกคบอีก กูก็คงไม่แคร์อ่ะ อยากเลิกคบก็เลิกไปดิ เพราะดูเหมือนเพื่อนที่เลิกคบกูจะมองอะไรแคบๆสัสๆ
เพื่อนกูแม่งน่ารำคาญชิบหายเลยว่ะ ชอบบ่นๆๆว่าตัวเองไม่มีใคร ไม่มีเพื่อนแท้สักคน แล้วทุกคนก็โอ๋แม่ง(รวมถึงกูด้วย)
บางวันกูเจอวันเหี้ยๆทำงานหนักๆโดนด่ารัวๆ กำลังดาวน์สัสๆ แม่งก็ทักมาปรึกษาเรื่องงอนเมียเพราะเมียไม่สนใจทำไงดี
ซึ่งเมียไม่ยอมโอ๋มันเพราะเมียมันก็ทำงานหนักจนหมดแรงโอ๋เหมือนกัน ส่วนมันยังไม่เคยทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง
เลยยังไม่รู้ว่าทำงานจริงๆแม่งเหนื่อยขนาดไหน
คือสภาพจิตใจกูแม่งจะตายห่าอยู่ละ ก็ต้องมานั่งฟังดราม่าของแม่งที่ไม่ได้มีส้นตีนอะไรที่หนักหนาเลย เสียดายเวลาพักผ่อนชิบหาย
ล่าสุดแม่งโพสแชทคุยกับเพื่อนอีกคนว่าไม่มีใครแคร์ ไม่มีเพื่อนเลย มีไอ้เพื่อนที่คุยแชทด้วยเป็นเพื่อนอยู่คนเดียว นึกมั่ยออกจิงจิงว่าตัวเองมีคัยบ้าง
แล้วกูนี่คืออะไร ทักมายืมเงินกูตลอดทุกเดือน กูโอนให้แทบจะทันที ส่วนนึงเป็นเพราะก่อนหน้านั้นมันก็คืนตามวันที่บอกจริงๆ
มีล่าสุดนี่คือหายเงียบ จนกูเองก็ชักจะกัดก้อนเกลือเหมือนกัน ทำงานมากก็หนัก ต้องหาเงินให้มึงใช้เหรอเนี่ย
ตอนแรกกะว่าจะทักไปบอกว่าของรอบล่าสุดไม่ต้องคืนก็ได้เพราะเห็นมันดูลำบากๆ
แต่พอเห็นแม่งโพสว่าตัวเองไม่มีใครแคร์สักคน ไม่มีเพื่อนแท้เรยยยย กูเลยเปลี่ยนใจไม่ทักไปบอกละ ไปหาเงินมาคืนกูให้ได้ละกัน เซ็งสัส
บางคนแม่งก็ควรเช็คสภาพตัวเองก่อนน้อยใจหน่อยนะว่านิสัยเป็นยังไง เพื่อนมันถึงน้อยอะ
>>259-2560 งั้นถามแบบนี้ ปกติมึงไปทำงานสายรึเปล่า ก็ไม่สายถูกมั๊ย
หรือถ้าสายก็นานๆที ไม่ใช่ว่าสายทุกครั้งที่นัด นั่นหมายความว่าถ้ามึงคิดว่ามันสำคัญ มึงก็จะคิดเผื่อเวลาล่วงหน้า
วางแผนให้สามารถไปทัน
การรักษาเวลาเป็นการให้เกียรติขั้นพื้นฐานสุดๆแล้วที่มึงจะทำให้กับคนอื่น
การจราจรมันเหี้ย แต่ไม่ใช่สาเหตุที่มึงจะทำตัวกากๆกลืนคำพูดตัวเอง นัดห้าโมง มาจริงหกโมงงี้
นอกจากจะไม่ให้เกียรติเพื่อนมึงแล้ว แม้แต่คำพูดตัวเองมึงยังไม่เห็นความสำคัญเลย จะโทษแต่ฟ้าฝนปัจจัยภายนอก มันบ่งบอกว่ามึงเป็นคนห่วย ไม่มีความรับผิดชอบ พ่อแม่ไม่สั่งสอน หรือสอนแล้วมึงไม่จำ
ซึ่งกุก็เข้าใจและยกผลประโยชน์ให้จำเลยประมาณนึง อย่างที่กุเขียนว่าถ้าสาเหตุฟังขึ้น(แบบมึงน่ะฟังไม่ขึ้น) หรือแค่โทรมาบอกว่าวันนี้จะมาเลทหน่อย ติดนั่นนีก็ว่าไป กูไม่เคยโกรธ
กูโกรธแต่พวกเหี้ยที่ปล่อยให้เพื่อนที่รักษาเวลาต้องรอไปเรื่อยๆและไม่รู้สึกผิดอะไรเลย แถมมาทำตัวหน้าหีตีโพยตีพายว่าคนที่ไปตรงเวลาแบบกูเรื่องมากนี่แหละ
โป้ง ไม่คุยด้วยแล้ว ลงชักโครกไป ชิ่วๆ
+++หรือแค่โทรมาบอกว่าวันนี้จะมาเลทหน่อย ไม่ใช่ปล่อยรอจนเลยเวลานัดไม่พูดเหี้ยไรสักอย่าง คนรอมันรอแบบรอไม่ไปไหนอะ เหนื่อยที่จะรอ ถ้าบอกมาเลทเท่านี้ๆก็ยังหาไปทำอย่างอื่น
มันมีประเภทที่จะไปไม่ตามนัดแน่ๆหลายคนในชีวิตกู พอถามก็บอกตื่นสาย(แบบตั้งใจ) ไม่ได้ตั้งใจมาตามเวลาอยู่แล้วแบบนี้ กูยังจำขึ้นใจว่า กูโง่มาเร็วทำไมยังไงคนอื่นก็มาช้าอยู่ดี กูโคตรโกรธ
>>262 "มึงเป็นคนห่วย ไม่มีความรับผิดชอบ พ่อแม่ไม่สั่งสอน หรือสอนแล้วมึงไม่จำ" ... ไหวปะมึง กูไปสายนิดเดียว ถึงกับไม่มีความรับผิดชอบ พ่อแม่ไม่สั่งสอน 55555 เก็บกดป่ะเนี่ย
"โป้ง ไม่คุยด้วยแล้ว ลงชักโครกไป ชิ่วๆ" ... จ้า เหยียดเก่ง
เอาจริงๆนะ จากประสบการณ์ การรอรถเมล์ในกทม. มันเหี้ยจริงๆ แล้วถ้าสาเหตุนี้ฟังไม่ขึ้นสำหรับมึง ก็เรื่องของมึงเหอะ โลกหมุนรอบตัวเองเนอะ
กูมีเพื่อนคนนึง คอนโดอยู่ใกล้จุดที่นัดมาก ในขณะที่คนอื่น ต้องมาไกลชิบหาย แล้วก็ชอบโดนอินี่บ่นเรื่องมาสาย
ตัวเองมีพริวิเลจดีกว่าคนอื่น แล้วยังไม่รู้จักมองความลำบากของคนอื่นอีก
ส่วนมึง กูไม่รู้ว่าชีวิตมึงเป็นยังไง แต่จากคำพูดมึงที่เหยียดคนอื่น ตามที่กูโควตมา ต่อให้มึงมึงเป็นคนตรงต่อเวลา แต่ดูท่าแล้ว ก็คงจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ปากจัด โลกหมุนรอบตัวเอง มองมุมแคบๆ เห็นแต่มุมตัวเอง ไม่มี emphathy คนแบบมึง กูก็ไม่อยากคบหรอก แล้วทำเป็นบอกว่าตัวเองเลิกคบคนอื่นที่มาสาย เคยลองคิดย้อนกลับมั้ย ว่าคนอื่นก็อาจจะอยากเลิกคบมึงเหมือนกัน / ฝากไว้ให้คิส
เฮ้อ พิมพ์ด่าเสร็จแล้ว ก็รู้สึกว่ากูจะด่ามึงไปทำไม และ กูจะโกรธที่มึงด่าทำไมวะ
เอาเป็นว่ากูขอโทษละกัน กูเข้าใจคนที่รอคนอื่นนานๆ ว่ามันหงุดหงิดแค่ไหน แต่กูก็อยากบอกมุมมองของคนที่เคยไปสายบ้าง เรื่องรถเมล์นี่เหี้ยจริง นอกเจากเรื่องปัจจัยรอรถเมล์ ในชีวิตแต่ละคนก็อาจมีปัจจัยอื่นๆอีก อย่างกูก็มีเหตุผลอื่นๆ แต่ไม่อยากพิมพ์มาก เดี๋ยวเพื่อนกูมาอ่านแล้วรู้ว่ากูคือใคร
ก็ลองคิดพิจารณาดูเอง สิทธิ์ของมึง ว่ามึงจะตัดสินเพื่อนอย่างไร บางคนอาจจะมีเหตุผลดีๆที่มาสายก็ได้ และบางคนก็อาจจะเหี้ยจริง กูก็ไม่รู้
ที่กูด่ามึงไป ขอยกเลิกคำด่า ส่วนที่มึงด่ากู ไม่ต้องเป็นห่วง กูไม่สนใจละ
ยัง ยังไม่สำนึก
ยังมีหน้ามากระแนะกระแหนเพื่อนพริวิเลจ มีคอนโดใกล้
ปัญหาของสำหรับมึงคือไม่รู้จักประเมินเวลาในการเดินทางของตัวเอง
ถ้ามึงต้องเดินทางโดยรถเมลล์ รู้ว่ามันเหี้ย มันกะเวลาลำบาก มึงก็ต้องออกเร็วขึ้น ไม่ก็เลือกนัดเวลาให้มันเย็นกว่าเดิม
ไม่ใช่ทำอะไรตามมีตามเกิด กุจะออกเวลานี้ เลทก็เรื่องของเพื่อนมัน ให้มันรอไปดิไอ้พวกมีพริวิเลจ อุแว้ๆ
กูไม่ขอโทษ กูยอมรับว่ากูด่าเอามันส์และไม่มีเอมพาตี้ใดๆให้กับคนอย่างมึง ที่ไม่มีความรับผิดชอบในชีวิต ในคำพูด ในสัญญา ในการนัดหมาย ในการให้เกียรติคนอื่น อยากเถียงอะไรก็เถียงมา มันมีแต่ขุดหลุมฝังความโหลยโท่ยของมึงให้ลึกขึ้นเท่านั้นแหละ
ถ้ามึงจะโทษแต่การจราจรไทยกับการไปนัดเลท มึงอาจจะยังไม่ได้ทำงานรึเปล่า เพราะไม่มีลูกค้า ไม่มีพาทเน่อ ไม่มีเพื่อนร่วมงานดีๆคนไหนจะมาสนใจคำแก้ตัวโง่ๆของมึงหรอกนะ นัดเวลาไหนก็ต้องเวลานั้น มึงไปหาวิธีเอาเองให้มาตามนัดได้
ถ้าทำไม่ได้ ก็จบ ไม่มีใครรอมึงหรอก ไม่ต้องทำงาน นอนอยู่บ้านไป อย่างที่กูบอก ถ้ามึงคิดว่ามันสำคัญ มึงจะหาวิธีไปตามนัดได้ แต่ถ้ามึงคิดว่าไปเลทก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร นี่คือการไม่เคารพเวลาคนอื่น ถือว่าหน้าหี
ซึ่งถ้ามึงมีเหตุผลดีๆจะใช้แก้ตัวในการมาเลท อย่างที่กูบอกไป ถ้าเป็นเพื่อนกูกูก็พร้อมจะรับฟัง
อะ ต่อให้เป็นเหตุผลเหี้ยๆ กูก็ยังรับฟัง ถ้ามันติดต่อมาบอกกู เช่น รอรถเมลล์อยู่ว่ะ เบทซักสามสิบนาทีนะเพื่อน
ไอสัส แค่นี้ก็จบ กูอาจจะขุ่นเคืองใจบ้างแต่กูก็รับได้นะ แค่นี้คนรอบตัวกูก็ให้กูไม่ได้ มีแต่พวกคิดแบบมึงที่ไม่เคยเห็นหัวคนรอ ปล่อยให้รอไปเรื่อยๆจนกูต้องโทรถามมันเองว่าถึงไหนแล้ว กูต้องรออีกนานแค่ไหน
ไอ้อีคนไหนที่ชอบไปเลท กูจะฉาบมึง
ตายไปกูก็จะไม่ไปเกิด กูจะเป็นผีมาคอยหลอกพวกมึง
แฮร่รรรรรร
คนอื่นมาอ่าน ก็คงรู้เองอ่ะ ว่าใครบ้า 55555
มาสาย ไม่มีความรับผิดชอบก็ถูกแล้ว
อะไรของมันอะ เหมือนจะสำนึกว่าตัวเองผิด แต่บอกฉันไม่ผิดนะ ไหวไหมเอ่ย?
นี่สินะ การมีเหตุผลแต่ไม่สื่อสารดีๆ สารก็ไปไม่ถึงผู้รับ
แต่กูไม่ได้มาปรับความเข้าใจกับใคร และกูก็รู้ว่าวันนี้มึงไม่สนใจคำพูดของโม่งไม่มีเทือกเถาเหล่ากอแบบกูอยู่แล้ว
กูแค่มาเพื่อเป็นเครื่องจักรด่า ด่าเพื่อระบายอารมณ์กูเอง และด่าเพื่อให้เสี้ยวคำด่านึงของกูมันแอบเกาะเข้าไปอยู่ในสมองคนเหี้ยๆแบบมึง
แล้ววันนึงเมื่อความไม่รักษาเวลาของมึงย้อนกลับมาทำร้ายชีวิตมึง
หรือวันนึงมึงโตขึ้น มึงเจอผู้คนมากขึ้น แล้วเจอคนที่ไม่รักษาเวลามาฉุดรั้งขามึงไม่ให้มึงใช้ชีวิตในความเร่งที่มึงต้องการ
วันนั้นตะกอนคำด่าของกูจะช่วยสะกิดมึงเองว่าที่มึงคิดในวันนี้มันช่างเห็นแก่ตัว ช่างไร้เดียงสา และจะได้เริ่มพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นผู้เป็นคน ไม่เอาแต่โทษปัจจัยภายนอกที่มึงควบคุมไม่ได้
ถ้ามึงจะรอให้ประเทศชาติเจริญ การจราจรไทยดีเหมือนญี่ปุ่นก่อน ให้สังคมโอบอุ้มโอ๋ๆมึงก่อนมึงถึงค่อยปรับปรุงตัวได้ มึงก็รอชาติหน้าเหอะว่ะ
สนุกดีว่ะ กุไปเปิดเพจด่าคนต่อดีกว่า
โคตรเกลียดเลย คนที่รู้ว่าจะมาสายแต่ไม่เสือกบอก สมัยเรียนโดนอินังนึงนัดแล้วเลทตลอดทั้งที่มันเป็นคนนัดเป็นคนระบุเวลา พอเรียนจบมาแม่งมาบ่นว่าคนนั้นคนนี้เลทอย่างนั้นสายอย่างนี้ แถมด่าไม่ได้ กูเลยบอกว่าเหมือนมึงสมัยเรียนไง ให้กูรอเป็นชั่วโมง กรรมตามทันมึงแระ ยินดีด้วย
แค่บอกว่ารถเมล์ไม่มาเลยมึงกูคงสายสักครึ่งชม. นะ ขอโษที ไลน์บอกประโยคนึงโทรกริ๊งนึงจะตายห่าเหรอ ไม่เข้าใจ
>>268 ขอโทษนะ แต่กุมาอ่านแล้วคนที่เป็นผีบ้าก็มึงนะ กุเห็นด้วยกับการตรงต่อเวลา และถ้ามาเลท ให้ทักมาบอกหรือโทรบอกกุจะได้เอาเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่น เช่น ซื้อของแดกรอ เดินดูนู่นนี่นั่น ทบทวนแผนการเดินทางว่าไหนไปไหน อยากทำไรส่วนตัวไปทำก่อน กุจะได้แฮปปี้ ไม่หงุดหงิดคนที่มาเลทขนาดนั้น เพราะกุก็ได้ใช้เวลาส่วนตัวของกุไปด้วยพลางๆระหว่างรอมันมา
>>274 >>275 กูมีพิมพ์บอกตรงไหนหรอ ว่าเวลากูไปสายกูไม่ได้โทรบอกเพื่อน ไปไล่อ่านทุกบรรทัด แล้วแคปมาให้กูดูทีซิ
อีเจ้าของเมนต์คนแรกที่ด่ากูเยอะๆ มันสรุปเอาเอง ว่ากูไม่ได้โทรบอกเพื่อน แล้วก็ด่ากูเอามันส์
แล้วที่กูบอกรถเมล์ไทย มันมาช้าบ้าง เร็วบ้าง นี่กูพูดผิดตรงไหนเอ่ย
ใครบอกเรื่องตรงต่อเวลากูทำไม่ได้ มึงคิดว่ากูไปสายทุกครั้งเวลาที่นัดกับคนอื่นหรอ
ที่กูจะสื่อคือ สมัยเรียนบางครั้งกูไปสาย แต่มันสายเพราะรถเมล์แม่งไม่มาซะที และมันคือเรื่องจริง
>>253 แต่ต้นเรื่องมันคืออันนี้ไม่ใช่หรอโม่ง ในวงเล็บบอกว่า"โดยไม่มีเหตุผลที่ดี+ไม่บอกล่วงหน้า" = เรากำลังคุยกันถึงคนที่มาเลทแบบไม่มีความรับผิดชอบ ไม่นึกถึงใจคนที่รออยู่ไม่ใช่หรอ แล้วถ้ามึงไม่ได้เป็นแบบนั้น มึงโทรบอกเพื่อนตลอดทุกครั้งที่มึงไปสาย ถ้ารถเมย์มาช้าจริงๆแบบที่ถึงกะเวลาไว้แล้วก็ไม่ทัน เท่ากับ มึงไม่ใช่คนที่โม่งคนนี้บอกไม่ใช่หรอ หรือมึงเป็นพวกที่ไม่ได้กะเวลา ตื่นตามใจชอบ เหลืออีก10นาทีค่อยไปรอรถเมย์ตามเวลาหรือเลทนิดหน่อยเป๊ะๆ ทั้งๆที่รู้ว่ารถเมย์ไทยมันเป็นไง และรู้ว่าตัวเองเลทแน่ๆแต่ขก.โทรบอกเพื่อนและคิดว่า แค่นี้เอง ไม่เป็นไร เอาความสบายใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง และไม่รู้สึกผิดกับคนที่รอ ถ้ามึงไม่ใช่คนแบบนั้นกุว่ามึงไม่ต้องตามดิ้นตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ก็ได้นะ มึงอาจจะหมกมุ่นกับโม่งมากไป มึงลองปิดโม่งสักวัน2วันแล้วหาอะไรทำดูไหม ทั้งหมดที่กุอยากพิมพ์มีแค่นี้ ถ้าทำให้มึงไม่ถูกใจหรือมึงคิดว่ากุก็ยังไม่ตรงประเด็นสักทีก็ขอโทษด้วย กุขอพิมพ์แค่นี้แล้วจบไม่มาต่ออะไรแล้วล่ะ เสพโม่งมากๆแม่งรู้สึกแย่ด้วย55555
>>277 เท่าที่อ่าน มึงก็เข้าใจใช่มะ ว่าการที่รอรถเมล์แล้วไม่มาซะที มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
แต่มึง ลองไปอ่าน >>262 ดูนะ กูแคปมาให้ด้วย ---> "ซึ่งกุก็เข้าใจและยกผลประโยชน์ให้จำเลยประมาณนึง อย่างที่กุเขียนว่าถ้าสาเหตุฟังขึ้น(แบบมึงน่ะฟังไม่ขึ้น)"
นี่พูดถึงเรื่องประเด็นรถเมล์มาช้า อีเจ้าของเมนต์มันยังไม่พยายามเข้าใจ และด่ากูอยู่เลยมึง
อ้อ ถามว่ารถเมล์แถวบ้านกูมาช้าขนาดไหน ก็คือกูเคยมารอรถเมล์จะไปโรงเรียนตั้งแต่ 6:30 น. แล้ว 7:30น. รถเมล์ยังไม่มาเลยจ้า วันนั้นน่าจะมา 7:45 มั้ง กูก็คือไปโรงเรียนสายอ่ะ
แล้วกูเคยนั่งรถเมล์กลับบ้าน หลังเลิกเรียน รถติดก่อนจะถึงบ้าน เกือบ 2 ชม. นี่คือเรื่องจริง การจราจรในกทม. มันส้นตีนขนาดไหน
อ้อ และขอบคุณที่เป็นห่วง ตอนแรกก็จะไม่ตอบแล้ว มึงเห็นมั้ยว่ากูไม่ตอบอีเจ้าของเมนต์นั้นแล้ว เพราะกูไม่อยากคุยกับคนที่ชอบด่าคนอื่นเอามันส์แบบนั้น
แต่นี่มาตอบ เพราะมีบางเมนต์เข้าใจกูผิด เลยมาเคลียร์ให้ชัดเจนแค่นั้นแหละ
กูก็แค่อยากจะมาเสนอมุมมองนี้บ้างในตอนแรก แต่อีเจ้าของเมนต์เดิมก็ยังไม่เข้าใจ และด่าสาดเสียเทเสียกูดังในคอมเมนต์ >>262
^ บรรทัดสุดท้าย พิมพ์เกินนะ ว่าจะลบแล้วไม่ได้ลบ 555
เอามาแปะ เผื่ออีเจ้าของเมนต์นักด่าที่บอกว่าการรอรถเมล์นานเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และผู้ที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่รอรถเมล์นานเป็นอย่างไร จะมีความเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นบ้าง
กระทู้พันทิป "ร้องไห้เพราะรอรถเมล์นาน" https://pantip.com/topic/37772284
เฮ้อ อะ กูสรุปประเด็นสั้นๆให้
- กูบ่นถึงเพื่อนที่มาเลท+ไม่ติดต่อมาบอกว่าจะเลท
- มึงสไลด์หน้าเข้ามาบ่นเรื่องรถเมล์ ซึ่งกูก็ไม่ได้ว่าอะไรการจราจรไทยมันก็เหี้ยจริงๆ
- มึงบ่นว่าคนที่ไปตรงเวลาแล้วบ่นคนเลท = ใจแคบ > กุเริ่มขึ้นตรงนี้แหละ
- ไอ้เรื่องเหตุผลฟังขึ้นฟังไม่ขึ้นน่ะ กูหมายถึง
1. ถ้าโทรบอกกูว่าจะเลท จะสาเหตุห่าเหวอะไรก็ได้ กูโอเค รถเมลล์รถอีแต๋นไม่มา ได้เรย มมปห
2. ถ้าไม่โทรบอก สาเหตุที่ฟังขึ้นคือธุระด่วนจริงๆ อุบัติเหตุ อะไรแบบนี้ ถ้าสาเหตุจากรถเมล์ช้าอะฟังไม่ขึ้น
- มึงพาลไปเรื่องเพื่อนมึงที่ไปตรงเวลาว่ามีพริวิเลจดีกว่า เหี้ยไรอีกก็ไม่รู้
- สุดท้ายมึงโทษทุกอย่างรอบตัวแต่ไม่คิดซักนิดเลยว่าความผิดในการมาเลทน่ะเป็นของมึงคนเดียวนะ มึงจะแถยังไงรถเมล์หรือพันทิพก็ไม่มารับผิดชอบแทนมึงหรอกว่ะ
จะแคปก็แคปให้หมดสิวะ ปะถ่อ
"ซึ่งกุก็เข้าใจและยกผลประโยชน์ให้จำเลยประมาณนึง อย่างที่กุเขียนว่าถ้าสาเหตุฟังขึ้น(แบบมึงน่ะฟังไม่ขึ้น) หรือแค่โทรมาบอกว่าวันนี้จะมาเลทหน่อย ติดนั่นนีก็ว่าไป กูไม่เคยโกรธ"
มาช่วยสรุป จากคู่กรณี
- มึงบ่นว่าคนที่ไปตรงเวลาแล้วบ่นคนเลท = ใจแคบ > กุเริ่มขึ้นตรงนี้แหละ
แก้เป็น กูพูดถึงคนที่เลิกคบคนมาเลทโดยที่ไม่ฟังเหตุผลคนมาเลท ว่า ใจแคบ
- "ถ้าโทรบอกกูว่าจะเลท จะสาเหตุห่าเหวอะไรก็ได้ กูโอเค รถเมลล์รถอีแต๋นไม่มา ได้เรย มมปห"
กูอ่านแล้วไม่เคลียร์ เข้าใจว่ามึงหมายถึง การมาเลทเพราะรถเมล์ว่าฟังไม่ขึ้น
แต่มึงพิมพ์แบบนั้น เพราะมึงก็เข้าใจผิดว่า กูเป็นพวกไม่โทรบอกเพื่อนที่มาเลทด้วย
ซึ่งก็เป็นความผิดกูเอง ที่ไม่พิมพ์บอกให้ชัดเจน แถม เสร่อมาคอมเมนต์ ทั้งที่มึงตั้งใจบ่นคนที่ มาเลท+ไม่ติดต่อว่ามาเลท
- เรื่องพริวิเลจ ก็คือจะสื่อถึงคนที่บ้านใกล้จุดนัด แล้วบ่นคนที่บ้านไกล แล้วเจอปัญหาต่างๆเช่นการรอรถ
- มึงแน่ใจว่ารถเมล์มาช้าเป็นความผิดกู? ใช่กูต้องรับผิดชอบการไปสายคนเดียว แต่ความผิดกูคนเดียวมั้ย กูว่าไม่ มันเป็นความผิดของระบบขนส่งสาธารณะและการจราจรที่ส้นต้นของกทม.ด้วย
- มึงน่าจะเพิ่มในสรุปของมึงด้วยนะ ว่ามึงด่ากูเอามันส์แค่ไหน เพราะมันสะท้อนนิสัยของมึงอ่ะ
- สุดท้ายนี้ ขอโทษเรื่องที่ กูเสือกมาตอบ โดยไม่ดูให้ดีว่ามึงพูดถึงคนที่ มาเลท+ไม่ติดตว่ามาเลท
จบ คืนมู้สู่มู้คุยเรื่องเพื่อน เรียนเชิญโม่งคนต่อไปเปิดประเด็นใหม่
>>283 ได้ ย้ำให้อีกทีก็ได้ว่ากุด่าเอามันส์
มันคือความเก็บกด ความเคียดแค้นทุกคนที่ไม่รักษาเวลา ตั้งแต่เพื่อน ครูบาอาจารย์ หัวหน้า ลูกน้อง หมอผิวหนัง หน่วนงานราชการ รถเมล์ แม่ง เหี้ยกันไปหมดทั้งสังคม
ใครเห็นด้วยกับการไม่ตรงต่อเวลาที่ไหน กูก็จะตามไปด่ามัน เราอาจจะได้เจอกันอีกในโซเชียลมีเดียอื่น 5555555
จบจ้ะ คืนพื้นที่
การเลิกคบเพื่อนในชีวิตจริงหมดทำให้กูกลายเป็นคนเก็บกด กลายเป็นชาวเน็ตทอกสิกแบบนี้นี่เอง อาา
เบื่อคนประเภทที่แบบ ตอนต้นเทอมมานินทาเพื่อนในงานกลุ่ม ว่าทีมแย่งู้นงี้ แต่พอเรียนทำงานด้วยกันสักพัก ก็รู้สึกว่ามึงก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับทีมเยอะนักหนาเลย เหมือนติดนิสัยพอทำไม่ได้ก็ชอบผลักภาระมาให้คนอื่นทำแทนตัวเอง โยนหินถามทางไปงั้นๆ คือกูยอมรับนะว่าตัวเองก็ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มที่ดีเท่าไหร่ งานชุ่ยมั้ยก็มีบ้าง มีปัญหาอะไรก็ไม่ชอบไปคุย แต่กูก็พยายามเสนอไอเดีย เวลามันมาถามเรื่องงาน ฟังแล้วมันก็บอกไม่ใช่ แต่มันไม่เคยแชร์ความคิดมันเลย แล้วกูจะรู้มั้ยอะ
ละทุกครั้งที่บอกว่า ช่วยหน่อยดิ คือให้ทำให้หมดเลย มันไม่ทำแล้ว
แต่พอกูมีข้อที่มีปัญหากูดำน้ำเองไง มันก็ทำท่าไม่พอใจที่งานคุณภาพแย่
ล่าสุดมีพรีเซ้น คะแนน/ม่ค่อยดีแต่ผ่านนะ นางเล่นใหญ่มาก ขยุมหัว ทำท่าเครียด เพราะตอบคำถามครูไม่ได้ กูก็ตอบไม่ได้ แต่นางพึ่งมาทำสไลด์พรีเซ้น 1 ชม ก่อนเวลาพรีเซ้น คือมึงก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเยอะไปกว่ากูเลย กูทำสไลด์เสร็จก่อนมันอีก แต่ไม่ได้ซ้อม แต่งงว่าจะมาทำท่าไม่พอใจอะไรของมันวะน่ะ
ละอีกเรื่องพวกเด็กมหาลัยมันเป็นห่าอะไรต้องบอกว่าติดงานวิชาอื่นวะ คิดว่าคนอื่นเรียนวิชาเดียวทั้งเทอมมั้ง แบ่งเวลาทุ่มเทให้พอๆกันเหอะ ไม่ใช่บอกว่าติดงานวิชาอื่นเลยทำงานส่วนนี้ไม่ได้ งี้คะแนนวิชานี้ไม่เอาก็ได้มั้ย เพราะกูแบกไม่ได้หรอกนะแค่ ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย
>>285 มีด้วยหรอวะ อีสัดกูโคตรพ่อโคตรแม่เกลีๅยดคนมาสาย กูนัดตอนบ่ายเพื่อรอมึงตื่น มึวกินข้าวแล้ว ยังจะมาสายอีก เพื่อนสนิทกูก็มีคนนึง ตอนนี้คบไปงั้นๆแต่กํไม่นับเป็นเพื่อนสนิทละ นัดกี่ทีมาสายตลอด กูไม่อยาก hangout กับมัน แค่มาให้ตรงเวลายังทำไม่ได้ชีวิตมึงไปได้ไม่ไกลหรอก อน่ามาอ้างขนส่งเหี้ยไรเลย นัดกันสยาม มึงอยู่กรุงเทพ กูอยู่รังสิต ยังไปก่อนมึงเลย อีควาย
เผื่อเวลารอแล้ว แต่รอรถสาธารณะนานกว่าปกติ แล้วบอก เลทก็เข้าใจได้นะ
แต่พอกูบอกกูออกแล้วนะ แล้วบอกกำลังซักผ้าอยู่ เดี๋ยวไปอาบน้ำ ละยังต้องมารอรถเมล์อีกเนี่ย ตั้งใจเลทนี่หว่าอีห่า เลทเป็นชั่วโมง โมโหแต่ก็ขี้เกียจทะเลาะกับเพื่อน แม่งก็ไม่รู้สึกผิดเลยที่ให้กูนั่งรอเป็นชั่วโมง เวลานัดกูก็ให้มึงเลือกเวลาที่มึงสะดวกแท้ๆ
เรื่องมาสายประทานโทษนะคะ กูเมื่อวานที่ตอบไป กูเคยรอสามชม.ร้องไห้จ้า กูเผื่อเวลาแต่กูก็โทรไปบอกเพื่อนว่ารถยังไม่มาเลย ปัจจุบันชินละ กูก็ต้องเกินสามชั่วโมงตลอด กูไม่เคยไปสายอีกเลย แอปบอกพิกัดรถก็มีนาจา แต่ไอเพวกอยู่ใกล้ๆแล้วทำห่านู้นนี่นั้นมาสายโดยสันดาน หรือไม่รู้จักเผื่อเวลาอ้างรอประเทศพัฒนามึงสายไปแล้ววร้อยปี สัส
กูขอบ่นหน่อยไหนๆก็พูดละ บ้านกูอยู่ไกลเวลาออกจากบ้านตีสี่ตีห้าเพื่อมาเรียนเช้า เห็นไหมกูก็เผื่อเวลา ทั้งที่คนอื่นถามว่าทำไมรีบเหรอ มาถึงมอก่อนยังมีเวลาเตียมตัวไปทำห่าไรก็ได้ แต่ถ้ามันมีอะไรสุดวิสัยกูก็จะมาไม่ทันเลยเผื่อขนาดนี้ ทั้งที่คนอื่นแม่งไม่เผื่อเวลาแล้วมาสายโง่ๆ ออกช้า คิวรถยาว รถติด คนเยอะ เข้าใจคำว่าเผื่อเวลายัง? เวลามึงไปทำงานมึงจะอ้างว่ารถติดเลยมาสายฟังไม่ขึ้นวะ เขาก็ไล่มึงบอกว่าไม่ยอมเผื่อเวลาอยู่ดี ยกเว้นว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับมึงนั้นว่าไปอย่าง
>>289 นัดตอนบ่ายโมง มันจะไปรอรถเมล์นานตรงไหน ถ้ามึงไปรอสี่โมงห้าโมงเย็นก็ยังพอเข้าใจได้ กูไปฝึกงาน เค้าให้เข้างานสิบโมงอ่ะ กูนั่งจากรังสิตไปลาดพร้าวออกตั้งแต่ตีห้า
กูเข้าใจว่าการขนส่งมันเหี้ยจริงๆ แต่มันทำอะไรไม่ได้อ่ะมึงเพราะเป็นเรื่องของคนดูแลกรุงเทพที่จะแก้ไข มันไม่ทำไง มันมาโกงเฉยๆ ไม่อยากพูดเหมือนสลิ่/ม แต่ในเมื่อมันทำอะไรไม่ได้แล้ว มึงก็ต้องทำที่ตัวเอง
กูอยากระบายด้วย คนในคณะเคยนัดกูมาทำงานที่ม.ตอน 9 โมงเช้า กูก็ออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมง มาถึงม. 7 โมงเพราะถ้าออกสายกว่านี้รถจะติดแล้วมาไม่ทัน พอ 8 โมง คนในคณะแม่งพร้อมใจกันบอกว่ามาไม่ทันแล้วเลื่อนนัดเป็นบ่ายโมง สรุปกูและเพื่อนกลุ่มที่มาเช้าต้องนั่งรอไอ้พวกนี้ยันบ่าย ถ้ามึงจะเปลี่ยนเวลานัดช่วยกรุณาบอกก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันด้วยไม่งั้นจะมีคนซวยแบบกู
เรื่องเลื่อนนัดนี่เหี้ยจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะสะดวกเวลาเลื่อนนัดหลายๆรอบนะสัส แบบ กุบ้านอยู่ไกล ถ้ากุนัดรถล่วงหน้าแล้วแต่มึงเสือกมาเลื่อนเอาใกล้ๆวันเพราะความสะดวกสบายของมึงเองนี่ กุอยากเขกสักที แล้วแม่งเลื่อนไปๆมาๆอ่ะ แบบ กี่โมงดี 10ม.เนอะ หรือ7ม.ดี นัดไหนดี เจอกันที่xxxก่อนเนอะ หรือไปที่ห้างxxxเลยดี ไอ้สัส มึงเอาให้แน่ๆได้ไหม พอกุถามเอาแน่ๆก็ไม่ตอบ เป็นเหี้ยไร
การมีเพื่อนการเข้าสังคมนี่เป็นอะไรที่ยากจังวะ กูเป็นintrovertแต่วันนาบีอยากเป็นextrovertอยากลองมีเพื่อนสนิท สุดท้ายเป็นไงก็ต้องมานั่งดิ่งเพราะคนอื่น เก็บนั่นนู่นนี่มาคิดให้ปวดใจตัวเองเล่นทั้งๆที่จริงๆแม่งอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ กูนี่แม่งควรต้องอยู่คนเดียวจริงๆทำให้ทั้งตัวเองรู้สึกแย่แล้วยังทำคนรอบตัวรู้สึกแย่ไปด้วยควยจริงๆ
>>299 ยากอยู่แล้ว ก็มึงต้องทำตัวตรงข้ามกับสิ่งที่มึงเป็นนี่เนอะ กุก็อินโทรเวิตที่พอจะมีเชื้อเอ๊กโทรเวิตอยู่บ้าง แล้วสังคมคนทำงานแม่งต้องดึงด้านเอ๊กโทรเวิตมาใช้เยอะมาก มากซะจนพอวันหยุดเสาร์อาทิตย์กุจะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องคนเดียวไม่อยากสุงสิงใครเลย ดีที่กุสนแต่เรื่องของตัวเองเป็นหลักไม่เก็บเรื่องชาวบ้านมาคิดให้ปวดกบาล
กูเหนื่อยที่จะมีเพื่อนเป็นintrovert กูคิดว่ากูก็เป็นintrovertนะอยู่ในบ้านไม่ได้ไปเที่ยวไหน แทบไม่ได้คุยกับใครนอกจากเรื่องงานแชทร้างมากมาหลายปีแล้ว แต่พอมีเพื่อน กูก็ใส่ใจจนกลายเป็นว่ากูพูดมากเกินไป แล้วกูก็โดนบล็อกตลอด จนตอนนี้เพื่อนสนิทไม่มีละ กูคิดว่าคนเป็นเหมือนกันจะเข้าใจอะไรสักอีก กูอยากมีเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน คุยกันตลอดบ้างเหมือนที่เห็นคนอื่นเป็น แต่คิดดูก็เหนื่อยวะ
อินโทรเวิร์ดเหมือนกัน แต่ตอนนี้กูไม่เหงาแล้ว สตกูเหนื่อยที่ต้องเข้าหาสังคม กูมาอยู่ในจุดที่กูเข้าใจแล้วว่าไอเพื่อนสนิทอะไรมันไม่มีจริงหรอก เป็นเพราะตัวกูปิดกั้นตัวเองเนี่ยแหละ แต่กูก็โอเคมากกว่าที่จะอยู่คนเดียวมากกว่ากับพยายามมีเพื่อนแล้วกูรู้สึกไม่พอใจเพื่อนคนนั้นขึ้นมาเอง
เมื่อก่อนตอนที่กูไปเที่ยวกับเพื่อนกูก็คิดในใจตลอดว่าอยากให้จบลงเร็วๆ อยากออกไปอยู่คนเดียวแล้ว แต่พออยากตัดขาดก็กลับมาเหงา กูเลยมานั่งทบทวนว่าจริงๆมึงไม่ได้อยากมีเพื่อนมากกว่า เพราะมีแล้วมึงก็ไม่สบายใจ
ตอนนี้กูเลยหากิจกรรมที่กูเอนจอยได้กับการเร่ร่อนไปคนเดียว สังคมกูก็เข้าหานะ ไปทักไปคุยกับคนแปลกหน้าใหม่ๆ แต่กูจะไม่ลงความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งต่อไป
ความรู้สึกเหงามันก็มาจากสัญชาตญาณของการเอาตัวรอดของสัตว์สังคมเฉยๆ เพราะถ้าอยู่อย่างโดดเดี่ยวก็จะเอาตัวไม่รอด แต่เทคโนโลยีในปัจจุบันมันเอื้ออำนวยให้การใช้ชีวิตของมนุษย์มันมีความเป็นปัจเจกได้มากขึ้น กูเลยคบคนแค่ห่างๆเพื่อให้มันทํางานหากินอยู่รอดไป ส่วนเป้าหมายในการใช้ชีวิตก็อีกเรื่องคือกูตัดความสัมพันธ์ที่จริงใจกับมนุษย์ไปละ
ถ้าเพื่อนพามึงไปกินของราคาที่มึงไม่เคยคิดจะซื้ออยู่แล้ว แล้วพอเก็บตังก็บอกว่าลืมเอาตังมา ออกให้ก่อน ถ้ามึงทวงมันจะดูน่าเกลียดป่ะ แบบก็กินด้วยกันจะไม่ออกตังเลยหรอ แต่มันก็เป็นของที่ปกติมึงไม่ซื้อกินอยู่แล้วเพราะมันแพงอ่ะ ที่กินเพราะเพื่อนอยากกิน
>>305 ทวงดิ กูก็ชอบลืม แนบ qr code มาเลย ถ้ามารู้ว่าทีหลังว่่เพืือนออกให้ตลอด คงไม่สบายใจมากๆ เพราะงั้นกูโอเคกับการทวงอะ
บอกประมาณมึงลืมจ่ายค่าข้าวที่กูออกให้ก่อนวันนั้น ไรงี้ ไม่มีใครคิดมากหรอก เขาขอให้มึงออกก่อนไม่ได้ขอให้เลี้ยงนี่
ถ้ามันจะคิดมากตัดเพื่อนเลิกคบก็ปล่อยมันไปเหอะ
พูดถึงเรื่องเก็บเงิน กูว้าวมากพอขึ้นมหาลัย ทุกคนจะขอบิลร้านเวลาซื้อรวม แค่ซื้อชาไข่มุกแก้วเดียวก็ส่งบิลมากับเลขบัญชีไม่ก็โค้ด ความเทคโนโลยีนี้ เงินสดแทบไม่ได้ใช้
>>306 >>307 >>308 เรื่องทวงมันก็เรื่องนึง แต่ที่กุคาใจคือมันเป็นมื้อที่กินด้วยกันไง แต่กุไม่ได้อยากกินเพราะมันแพง ที่กินเพราะมันอยากให้กูไปกินด้วย พอจะทวงตังกุเลยรู้สึกว่าแต่กุก็กินนะ กูจะไม่จ่ายเลยหรอ อีกใจก็แบบของราคาแบบที่กุจ่ายไม่ไหวแบบนี้ ปกติกุก็ไม่กินแท้ๆก็รู้สึกว่าไม่ควรจ่าย คือกุอยากรู้ว่ามันน่าเกลียดมั้ยถ้าเราทวงอ่ะ หรือเราควรทำเป็นลืมๆไป เพราะเราก็กิน
ง่ายๆเป็นเคสแบบเรื่อง preventing anna ใน netflix อ่ะ ที่เพื่อนพาไปเที่ยวรีสอร์ตหรูที่เราไม่มีปัญญาจ่าย แต่เราไปเพราะเพื่อนอยากให้เราไป พอจะจ่ายตังเพื่อนบอกไม่มีเงินตอนนี้ให้เราออกไปก่อน แต่พอไปทวงคนอื่นก็บอกว่ามึงก็ได้ประโยชน์ร่วมหนิ จะให้เพื่อนจ่ายได้ไง แต่มันเป็นประโยชน์ร่วมที่เราไม่มีปัญญาจ่ายตั้งแต่แรกแล้ว ปกติเราคงไม่จ่ายถ้าเพื่อนไม่ออกให้ ไรแบบนี้อ่ะ
Inventing Anna ปะมึง กูงงเลย ไปเสิช Preventing ละไม่เจอ 5555555555
กูรู้สึกเหงาจัด ๆ ซิ่วมาเรียนใหม่คณะเดียวกันกับเพื่อนสนิทตอนม.ปลาย เรียนออนไลน์ก็ไม่มีเพื่อน ขนาดเพื่อนในสาขากูยังไม่รู้จักซักคน พอเทอมสองย้ายไปอยู่หอก็เป็นโฮมซิก(ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านละ) ไปเจอเพื่อนของเพื่อนก็เจื่อนเพราะดันเป็น introvert กันทั้งวง ตอนเดินไปอ่านหนังสือมันก็คุยกับเพื่อนสนิทในสาขา กูก็ไม่อยากขัด แถมขัดไม่ได้เพราะไม่รู้เรื่อง สรุปกูเคว้ง เหมือนยืนรอพนง.เซเว่นเวฟข้าวแล้วไม่รู้จะยืนตรงไหน
แล้วเรื่องเพื่อนในมหาลัย คือกูมีปัญหากับการทำงานกลุ่มมาก กูเจ็บมาเยอะจากตอนเรียนที่เก่า ยกตัวอย่างเรื่องที่ฝังใจคือไปทำงานกลุ่มกัน เสร็จแล้วจะไปซื้อของต่อ กูก็ขอไปด้วย เค้าก็โอเคกัน พอเดินไปเชือกมัดรองเท้าหลุดก็เดินไปไม่รอ ทั้ง ๆ ที่กูบอกอยู่ว่าเชือกรองเท้าหลุด แถมแม่งเดินจะเข้าลิฟท์จนกูต้องรีบวิ่งไปเข้าให้ทัน พอลงมาใต้ตึกแม่งถามว่ากูจะกลับยังไง ตอนนั้นหัวกูวิ้งเลย ในใจกูคืออ้าว กูจะไปกับพวกมึงไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนั้นกูบอกไปว่านั่งแกร๊บกลับ แม่งก็บอกว่างั้นกลับดีๆนะ วันนั้นกูนั่งร้องไห้ระหว่างทางกลับบ้านเลย อีกเรื่องงานกลุ่มเหมือนกัน(คนละวิชา) กูทำอินโฟกราฟฟิกแล้วส่งให้ ซึ่งกูก็บอกอยู่ว่ามีตรงไหนให้แก้ก็บอกนะ เพื่อนก็บอกสวย พอส่งจริงเอาอันอื่นที่ไม่ใช่ของกูส่ง(อ้าว?) เรื่องยังไม่จบ ตอนวันพรีเซนต์แม่งมาบอกก่อนเข้าซูม 5 นาทีว่าให้กูพรีเซนต์ บทก็ไม่มี หน้าที่กูก็ไม่ใช่ สไลด์กูก็ยังไม่ได้เห็น สรุปวันนั้นกูก็ไม่โผล่หัวเข้าซูม และไม่โผล่เข้าไปในชีวิตแม่งอีก ลบไอดีไลน์ ไปดาวน์โหลดเอกสารลาออก(ตอนแรกจะลาออกหลังติดที่ใหม่) บอกก่อนว่าม.เก่ากูจัดตารางเรียนให้เลยต้องเจอเพื่อนในสาขาทุกวิชาที่เรียน ซึ่งอีเหตุการณ์เหล่านี้ก็ทำให้กูเกลียดการทำงานกลุ่มไปเลย(แต่พอมาเรียนที่ใหม่ไม่มีปัญหานะ ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้ว) แถมกูกลัวการเมคเฟรนด์กับคนอื่นอีก เพราะตอนนั้นคนที่เป็น introvert แถมมีปัญหากับการทำกิจกรรมกับคนแปลกหน้า(effect จากกิจกรรม ice breaking สมัยไปค่ายแนะแนวเรียนต่อมหาลัย)อย่างกูเป็นคนเข้าหาพวกเค้าก่อน แต่นอกจากจะไม่รับยังผลักกูทิ้ง โคตรแซด กูแค่อยากมีเพื่อน มีชีวิตมหาลัยสนุกๆ
ยาวไปหน่อยโทษที ปัจจุบันชีวิตโอเคดีนะ แค่เหงาเฉยๆเลยอยากระบายความในใจ
>>314 ลองมึงจู่ๆเก่งเป็นระดับท็อปห้องซัก2เทอมติดสิ ปวศจะเปลี่ยนแน่นอน พวกปรสิตจะมาเข้าหามึงมากขึ้นจากที่เคยโยนมึงทิ้งๆกว้างๆ แต่ข้อดีก็คือจะได้อิทธิพลในคณะมา กูเป็นแบบมึงเลยตอนปี1เทอมแรก ยังไม่ลงวาคณะยังไม่ได้แสดงความสามารถ พอคณะกูนําท็อปปั๊ปแม่งมีทาสมารับใช้เฉย แต่กูก็ไม่ได้มีความสุขเพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครจริงใจ ตอนกูกากกูพยายามทําอะไรก็ไม่มีใครเห็นหัวอีก กูว่าไปหาเพื่อนต่างคณะเถอะ
-แนะนําถ้าอยากมีเพื่อนในมหาลัยลองไปเข้าชุมนุมแปลกๆที่คนน้อยๆดู ทําไมต้องชุมนุมแปลกๆ? กูว่ามันคัดคนมาแล้วเหลือแต่คนที่สนใจในกิจกรรมนั้นจริงๆ แล้วด้วยความที่คนมันน้อยมันทําให้มีโอกาสสนิทกันได้ง่ายนะ แนะนําชุมนุมกีฬาเพราะต้องซ้อมด้วยกันบ่อยๆพอเลิกก็มีโอกาสชวนกันไปกินข้าว แต่ชุมนุมอื่นๆก็อาจจะมีดีคนละแบบถ้ามหาลัยเปิดให้ทำกิจกรรมแล้วก็รีบเข้ามอไปหาชุมนุมดูนะ
>>314 กูเสริมให้จากเม้น >>315 ถ้ามึงเลือกวิธีแรกคือเรียนให้ได้ท็อป พวกปรสิตจะเข้ามาหามึงจริง แต่เท่าที่กูอ่านเม้นมึงแล้ว ดูเหมือนมึงจะมีมุมมองอ่อนต่อโลกในคำว่า "เพื่อน" ว่ะ สุดท้ายแล้วพอมึงหมดประโยชน์ ปรสิตที่มึงคิดว่าเป็นเพื่อนแท้ก็จะหายหัวไปจากมึงแล้วไปใช้ชีวิตของมันต่อ แล้วมึงก็จะเศร้าเหมือนเดิม กูเห็นด้วยว่าควรหาเพื่อนนอกคณะ แต่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือปรับแนวคิดมึงในเรื่อง เพื่อน เพราะถึงเวลามึงก็ต้องเลือกอนาคตมึงว่าจะเรียนให้จบโดยที่ไม่เอาปัจจัยที่มึงควบคุมไม่ได้อย่างเรื่องสังคมรอบตัวมาเป็นตัวตัดสินอนาคตของมึง หรือ มึงจะหนีปัญหาต่อไปเรื่อยๆ พอเจอเพื่อนไม่ดีก็ลาออกหนี เรียนไม่จบสักที
กูเป็นกำลังใจให้ กูก็เคยผ่านเรื่องแบบมึงมาก่อน
ตอนนี้กูเรียนใกล้จบละ เกรดก็สูง เพื่อนกูก็เหลิอไม่กี่คนเพราะกูเขี่ยพวกปรสิตออกหมด
กู >>134 นะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของเพื่อนโม่งฮะ แต่กูอยากอธิบายนิดนึงว่ากูไม่ได้อ่อนต่อโลกกับคำว่าเพื่อนขนาดนั้น ไม่ได้ต้องการเพื่อนแท้หรืออะไร ถ้าจะเข้ามาเพื่อหาประโยชน์ก็ไม่ว่า แค่กูไม่เคยเจอกับคนแบบพวกที่ม.เก่าเฉย ๆ เลยช็อค เกิดมาเพิ่งเคยเจอ กูไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีหรืออะไร แค่อย่างน้อยเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีหรือช่วยไม่ไล่กูกลับแบบอ้อม ๆ ก็พอ(เรื่องมีเยอะกว่านี้ ที่เล่าไปคือเรื่องฝังใจเจ็บ) เรื่องสังคมรอบตัวนี่กูก็เข้าใจนะว่ามันเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่แค่กูเข้าไปเรียนยังไม่ถึงครึ่งเทอมแรกยังเป็นแบบนี้ แถมไม่ได้รู้จักกันอีก ทำแบบนี้กูคิดว่ามันไร้มารยาทเกิ๊น
แต่อย่างที่กูบอกในเมนท์บน ชีวิตกูโอเคดีตอนนี้ ไม่มีปัญหาอะไร แค่อยากมีเพื่อนให้ชีวิตมหาลัยสนุกเฉย ๆ (ฟีลเพื่อนกิน,เพื่อนเที่ยว,ไปทำกิจกรรมด้วยกันได้) ไม่ได้ต้องการเพื่อนรักเพื่อนแท้ขนาดนั้น แต่ขอบคุณจริง ๆ สำหรับคำแนะนำ รอให้ม.ออนไซต์ 100% ก่อนเดี๋ยวกูจะไปหาชมรมกับกิจกรรมทำ
สู้สู้โม่ง เป็นกำลังใจให้ เจอไรก็มาบ่นในนี้ๆ
มึงการพูดถึงบุคคลที่ 3 ในแนวเชิงล้อเล่น ก็เสียมารยามเหมือนกันใช่มั้ยวะ
>>320 ถ้าพูดถึงคนอื่นแบบไม่ใช่ทางดี (หรือเริ่มลังเลว่าดีไหม) ก็ดูค่อนข้างแย่นะ แต่ก็แล้วแต่สถานการณ์ เรานินทาครูประจำชั้นให้เพื่อนสนิทฟังได้ แต่คงไม่นินทาครูให้ลูกครูฟังใช่มะ แล้วก็คนที่คุยกับมึงก็อาจจะมองว่ามึงพูดถึงบุคคลที่ 3 แบบนี้ สักวันมึงจะพูดถึงเขาแบบไหน
กุเข้ากับเพื่อนในห้องไม่ได้อ่ะ เรื่องนี้กุว่าครูผิด100% แต่เพื่อนในห้องทั้งหมดบอกครูถูก กุพยายามมองหลายๆด้านคิดแล้วคิดอีกครูก็ผิด แต่เพื่อนๆก็ยังบอกว่าถูกเพราะครูมีบุญคุณ ครูเป็นคนใจดี เข้าถึงง่าย ไม่ถือตัว กุคิดยังไงครูก็ผิดเพราะครูเริ่มก่อนขนาดเอาไปปรึกษาคนที่โตสุดในห้องแม่งก็โตแค่อายุ แม่งก็เข้าข้างคนในห้องอีก
เอ๊า ก็มันผิดแบบเป็นรูปธรรมอยู่แล้วอ่ะ มันคือผิดที่เห็นได้ชัดอ่ะโม่งว่ามันผิด ไม่ใช่ในกรณีที่ถูกผิดมันตัดสินไม่ได้ แล้วถ้ามึงบอกไม่ให้กุมองแค่ถูกผิด งั้นพวกในห้องที่มองแค่ถูกอ่ะ???
เล่ามาก่อนว่าเหตุการณ์เป็นยังไง
โม่งกุจะแตกไหม ครูออกข้อสอบไม่สมเหตุสมผล เด็กห้องนึงออกมาทักท้วงว่าทำไมตอบอันนี้ผิด ทำไมมีข้อนั้นที่ถูกข้อเดียวทั้งๆที่เป็นปัญหาปลายเปิด แทนที่ครูจะอธิบายหรือให้เป็นข้อฟรีไปได้คะแนนทุกคำตอบ ครูบอกออกเล่นๆเฉยๆ(แต่ให้ผิดจริงแถมข้อสอบกลางภาคด้วย) ครูมางอแงใส่ห้องกุ เอาประเด็นครูมาเล่าให้ห้องกุฟัง ห้องกุก็ไปตามด่าอีกห้องนึงให้ นินทาคนในห้องนั้น แล้วก็ด่าคนในห้องนั้นให้ กุมองว่าปัญหาของครูเอามาบอกห้องกุทำควยไร ก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะกลายเป็นปัญหาวงกว้างถ้าเอามาบอกคนอื่น ก็รู้อยู่ว่าตัวเองสนิทกับห้องกุมากกว่าก็เอามาพูดใส่ห้องกุ ห้องกุก็เล่นแม่งเลยดิทำครูกุ ไม่สนใครถูกผิด ประเด็นแรกที่ครูออกข้อสอบไม่สมเหตุสมผลกลายเป็นประเด็นรองไปเลย เพราะมันกลายเป็นปัญหาวงกว้างจริงๆมันกลายเป็นทะเลาะระหว่างห้องเหม็นขี้หน้ากันไปเองเพราะครูเสือกเอามาเม้าท์นี่แหละ กุก็งงจะไปดิ้นแทนครูทำไม ครูผิดด้วยซ้ำก็ยังจะไปตามด่าห้องนั้น ส่วนครูก็ไม่ห้ามทักท้วงใดๆคงดีใจมั้งเด็กรักเต็มเลย ห้องอื่นก็ไม่เห็นด้วยกับครูนะมีห้องกุเนี่ยแหละพระคุณที่สามงดงามแจ่มใส
ถ้าโม่งแตกก็ หวัดดีคับพรี่ แหะๆ มาเม้าท์เฉยๆคัยพรี่เด๋วก้ปัยแร้ว
แล้วมันเกี่ยวกับที่มึงเข้ากับเพื่อนในห้องมึงไม่ได้ยังไงวะ แค่เนี้ย? กูก็ย้ำไม่แปลกใจทำไมมึงถึงเข้ากับคนอื่นไม่ได้
เข้ากับเพื่อนในห้องไม่ได้เรื่องความคิดไง แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรอ กุคิดว่าครูอ่ะผิด แต่เพื่อนในห้องคิดว่าครูอ่ะถูกและสนับสนุนครู แล้วแบบนี้เวลากุจะพูดประเด็นอะไรมันค่อนข้างกระอั่กกระอ่วนไงเพราะทัศนคติมันไปกันไม่ได้ กุไม่เข้าใจเพื่อน กุเป็นพวกชอบคุยเรื่องพวกนี้กับเพื่อนสนิทกุกุก็คุยตลอดว่าทำไมครูต้องทำขนาดนั้น หรือ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ตลอด แต่พอมาอยู่ห้องนี้กุคุยกับใครไม่ได้เลยไง ถ้ามึงจะให้ความเห็นกุแค่ว่า ก็ไม่แปลกที่มึงจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ แค่นี้ ก็หุบปากเถอะสัสไม่ได้ช่วยเหี้ยไรเลย กุมาระบายเฉยๆแล้วก็ไปแต่เสือกเจอมึงให้ความเห็นโง่ๆแถมไม่ได้ให้คำแนะนำด้วยเนี่ย
>>329 มึงต้องเข้าใจว่ามันเป็นเรื่อง"ปกติ" ในสังคมที่ความคิดเห็นคนเราจะไม่ตรงกัน
กูเชื่อว่าถ้าครูผิดจริง ไม่มีทางหรอกที่คนในห้องมึงจะเห็นด้วยทุกคน มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับครู "เหมือนมึง"อยู่แล้ว
เพียงแต่คนอื่นเค้าก็ไม่เห็นด้วยในใจไปเพื่อกลมกลืนเข้ากับสังคมในห้อง เพื่อไม่ทำลายบรรยากาศในห้องเรียน
มันไม่ใช่ว่ามึงเข้ากับเพื่อนไม่ได้
>>330 โอเคโม่ง ขอบคุณมาก มันคงเป็นเพราะกุออกตัวแรงไปด้วยแหละมนุษย์มันเป็นสัตว์สังคมอยู่แล้ว ถึงอะไรมันจะขัดใจเราแค่ไหนกุก็คงต้องระงับอารมณ์ตัวเองบ้างแหละ พอมึงมาบอกแบบนี้ว่าอาจมีคนที่ไม่เห็นด้วยแต่เขาแค่ไม่แสดงตัวเพื่อไม่ทำลายบรรยกาศ ละกุรู้สึกว่ากุทำตัวโง่ๆขึ้นมาเลย ที่โหวกเหวกโวยวายไปอยู่คนเดียว ไปทำลายบรรยกาศเพื่อนในห้องอีก ถ้าเกิดขึ้นอีกกุคงควรเก็บไว้ในใจเพื่อรักษาความสัมพันธ์ด้วย จะเอาความรู้สึกดีๆกับเพื่อนในห้องไปแลกกับเรื่องนี้กับอีโก้ของตัวเองก็คงจะเกินไปแหละ ขอบคุณนะโม่ง
>>331 ส่วนมึง หุบปากครับขอบคุณมาก ไม่ได้ชี้ให้กุเห็นเลยด้วยว่าเรื่องที่กุเล่าไปข้างต้นมันมีทั้งถูกและผิดได้ไง พูดตามตรงกุคิดว่าผิดร้อยเปอร์แน่ๆถ้ามึงคิดว่าถูกมึงก็ลองชี้อีกมุมมองมาดิ
>>316 กูเนี่ยอ่ะปีเดียวกับมึง อ่อนความคิดเรื่องเพื่อนเชี่ยไรกูไม่ได้มองว่ามันเป็นเพื่อนเลย แต่ในสังคมถ้าจะทํางานมันก็ต้องมีคอนเนคชั่น อ่ะอย่างงานกลุ่มมึงก็ไม่เป็นหมาละ ดึงๆเอามาใช้งานพวกงานพิมพ์ดีดส่วนมึงก็ใช้นิ้วสั่งๆไป ยังไงๆปรสิตก็ตามเพราะไม่มีสมองทํางานเอง พอพวกแม่งทํางานเหี้ยกูก็กวนส้นตีนออกจากกลุ่มต่อหน้าต่อตาในวันสุดท้ายและเตรียมงานของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว กูทําแบบนี้ตลอดกับสังคมคนอื่นๆ แต่กูก็ไม่เคยโดนแบนโดนนินทานะเพราะในสังคมก็ต้องสร้างภาพพจน์เป็นคนดี ช่วยเหลือคนตลอด ยอมคุยกับทุกคน ทําดีใส่ค่อยตบหลังแม่งก็รอดละ
กูทํางี้กับพวกปรสิตหมด ส่วนเพื่อนจริงๆกูจะคลั่งรักเพื่อนมาก กูไม่ได้ตัดคนที่ไม่ชอบออกหรือหนีปัญหาหว่ะ กูควบคุมปัญหาเอา กูแม่งเหี้ยจริงแต่กูเคยโดนหลอกลับหลังมาตลอดสมัยมัธยมกูเลยทํากลับกับปรสิตแบบนี้เอา
คนไทยแม่งเหี้ย กูบอกเลย เจอแค่ที่สังคมที่นี่เท่านั้นแหละ คนบ้าอะไรทําเหี้ยกับเพื่อนตัวเองตอแหลทําดีกับคนที่ไม่สนิทแล้วค่อยนินทาตบหลัง วันๆมีแต่เรื่องชาวบ้าน ควาย แต่ก็ขอบคุณที่ทําให้กูมีความพยายามเรียนให้ดีเพื่อไปหาสังคมที่มันดีกว่านี้ตลอดมา
พวกมึงเคยมีเพื่อนที่เอาเรื่องเพื่อนสนิทของแม่งมาด่าให้ฟังกันมั้ยวะ ด่าให้กูฟังเสียๆหายๆ แล้วพูดว่าจะไม่เอาไว้แล้ว แต่ต่อหน้าก็คิกๆคักๆกันต่อ สุดท้ายก็คบกันเหมือนเดิม กูงงได้มั้ย มันคงอยากให้กูฟังเฉยๆแต่กูงงมาก และกูก็รู้สึกไม่ดีที่ต้องมาเห็นการหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้ แม่งทุเรศอ่ะ เอามาด่าให้กูฟังซะเขาเสียหายขนาดนั้น กูกะจะคุยตรงๆว่าถ้าจะคบคนนั้นต่อก็หยุดเอามาด่าให้กูฟังซักที
มีใครไม่รู้สึก relate กับเด็กวัยเดียวกันมั้ยวะ กูอายุ 20 กว่าละ ชอบเรื่องความรวย ธุรกิจ อะไรงี้ ไม่ก็คุยเรื่องสกินแคร์เครื่องสำอาวไปเลย แต่เพื่อนรอบๆตัวชอบคุยเรื่องดารา นางงาม การเมือง ทั่วๆไป กูไม่ relate ว่ะ รู้สึกแปก
>>337 กู22 ก็เห็นรุ่นๆเดียวกันมีทั้งสองประเภท ทั้งคนโคตรโปรดักทีฟ ไขว่คว้าหาความรวยเปลี่ยนงานบ่อย เทรดคริปโต ทำสตาร์ทอัพ ลงคอร์สธุรกิจ กับสไตล์จบมามีงานทำก็ชิวๆละ เน้นใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ กลุ่มหลังนี่ก็อาจจะคุยเรื่องธุรกิจหรือแพลนอนาคตไม่ได้ มึงแค่ยังหากลุ่มแบบที่คุยด้วยแล้วอินไม่เจอปะ
ตอนแรกเครียดมากว่าต้องคอยหากลุ่มทำงานเพราะม.กุจัดตารางให้เลยต้องหาคนใหม่ๆตลอด เครียดว่าจะได้คนทำงานดีหรือเหี้ย สรุปกุเลยจุดที่จะเครียดล่ะ
กุไม่ใช่คนรักษาคสพ.ขนาดนั้น ไม่มีเรื่องให้คุยกุก็ไม่ใช้โซเชียลติดต่อ สรุปคสพ.กับทุกคนค้างอยู่ที่คนรู้จักหมด 555555555
สมัยยี่สิบต้นๆกลุ่มเพื่อนกุก็ไฟแรงล่าความรวยกันนะ ตอนนี้ใกล้สามสิบรวยกันประมาณนึง แต่หัวข้อการคุยแม่งหมดไฟกลายเป็นลูสเซ่อกันหมดละ มีแต่คุยกันว่าจะอยู่ไปทำไมวะ เคว้งคว้าง ทำอะไรก็ไม่มีความสุข 5555
เริ่มหาเพื่อนในมหาลัยยังไงวะ อีก1-2เดือนกูจะเปิดเทอมแล้วแต่ยังไม่มีเพื่อนเลย ส่วนคนอื่นๆในคณะสนิทกันหมดแล้วเพราะคอลกันตลอด เวลากูคอลกูไม่รู้จะพูดอะไร พูดทีคนอื่นก็เงียบ พอพยายามคุยกับคนอื่นก็โดนเมินใส่ ข้ามท้อปปิคกูไปเฉย ต่อมาเลยได้แต่นั่งเงียบๆ สุดท้ายก็ไม่สนิทกับใคร กูเลยยอมแพ้เรื่องการคุยในคอล แต่กูก็อยากมีเพื่อนแล้วอยู่ดี แนะนำวิธีหน่อย (กูไม่ใช่คนพูดไม่เก่งหรือไม่รู้กาลเทศะนะ รร.เก่ากูก็มีเพื่อนปกติถึงจะไม่ได้เยอะมากก็เถอะ แต่กูงงทำไมในคณะทุกคนดูไม่คุยกับกูเลย) เออ กูพยายามหาคนที่มีความสนใจตรงกันแล้วนะ แต่เกมที่กูเล่นหรืออะไรก็ตามที่กูชอบดูจะไม่มีใครชอบเหมือนกันเลยในคณะนี้
กูรู้สึกว่าไม่มีตัวตนในกลุ่มเพื่อนสัสๆ ไปแดกข้าวข้างนอกก็ไม่ชวน นัดเจอกันที่ห้องสมุด มาถึงแล้วก็ไม่บอกจนกูเดินไปเจอโต๊ะมันเอง ปล่อยให้กูนั่งคนเดียวตั้งนาน ไปเที่ยวด้วยคือต้องบังเอิญเจอกันแล้วถามว่าวันที่...ไปด้วยกันมั้ย ไม่เคยทักมาถามดีๆ กูโคตรรักเพื่อนชิบหายเลย แต่เหมือนจะไม่มีใครคิดแบบเดียวกับกูเนอะ
หรือกูแค่ขี้น้อยใจวะ
346เองนะ กูเพิ่งปี1เอง พวกนี้ก็หาเท่าที่หาได้ มันเป็นออนไลน์ด้วยเลยหาได้น้อย พวกที่สนิทจริงๆก็เป็นพวกไม่เข้าสังคมกันหมดซะงั้น หวังว่าปี2ออนไซต์จะดีขึ้น เจอคนที่เห็นความสำคัญของกูมากกว่านี้ แต่กลัวติดลูปเดิมว่ะ เห้ออออ
ถ้ามึงเป็น extrovert อย่าหาทำไปคบแก๊งที่ introvert เยอะๆ ยิ่งช่วงโควิดยิ่งเหี้ยเลย ตัวคนเดียวสัดๆ จะไปหาเพื่อนใหม่ก็ไม่ทันแล้ว ชวนแก๊งไปก็ไม่ไปไหน อยากนอนอยู่บ้านเล่นกับแมว รำคาญใจเหี้ยๆ
หมายถึงกลุ่มextrovertที่พยายามสนิทด้วยมันไม่ชวน ส่วนกลุ่มintrovertที่สนิทแม่งนีทกันสัสๆ
มึง ตอนนี้กูรู้สึกอคติกับเพื่อนที่เป็นลูกเดียวมาก ทำไมหลายๆคนชอบสำคัญตัวจังวะ ละบางทีแม่งทำอะไรไม่คิดว่าคนรอบตัวจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง กุเหนื่อยใจ หรือจริงๆมันเป็นที่สันดาน
เพื่อนกูแม่ง คนที่แอบชอบไม่ตอบแชท20นาทีมานั่งร้องห่มร้องไห้กับกู รำคาญ ถ้าต่อไปคบกันคือรำคาญแทนผู้ชายคนนั้นเลย
เข้าใจอาชีพรับจ้างเป็นเพื่อนเที่ยวแบบทั่วๆไปละ กุอยากไปเดินหาหอพัก แล้วก็อยากไปแดกบาบีก้อน แต่ถ้าไปคนเดียวเหงาจัด เพื่อนกุไม่มีใครว่างซักคน อยากใช้เงินแก้ปัญหาเลย แต่ก็เสียดายตังเหมือนกัน
อยากหาเพื่อนใหม่ๆบ้าง ยิ่งโตยิ่งเพื่อนน้อยลงไปทุกวันๆ กูเพิ่งจะ22เอง ไมมันโดดเดี่ยวขนาดนี้
เพื่อนกูแม่งไม่ยอมกินบาบีก้อนอ่ะ แบบมึงพลาดอะไรบางอย่างในชีวิตไปเลยนะเว้ย แม่งควาย โกหก ตอแหลส่าอยากกิน พอนัดแล้วก็ไม่ไป ไม่อนากกินก็บอกไม่อยากกินสิวะเบื่อ
กูมีเพื่อนกินบาบีก้อนโว้ยยยยนยนน
>>366 เชี่ย กูแทบอยากจะบีบมือมึง
เดี๋ยวนี้เพื่อนๆกูก็ไม่ค่อยยอมไปกินบาบีก้อนด้วยแล้วว่ะ มันบอกว่าเดี๋ยวนี้มันแพงเกินไปกับสิ่งที่ได้ ซึ่งกูก็เห็นด้วยแหละว่ามันแพงขึ้นจริงๆ กูก็จะตื่นเต้นเฉพาะเวลาที่มันจัดบุฟเฟต์เท่านั้น คือสำหรับกูมันก็ยังเป็นรสชาติที่อร่อยแบบที่กูหากินจากร้านอื่นไม่ได้อยู่ดีอะ
จริงๆกูไม่ค่อยมีปัญหากับการไปนั่งกินคนเดียวเลยนะ แต่ไอ้ร้านเวรนี่แม่งก็คนเยอะจังงงง จะเข้าไปกินคนเดียวในขณะที่มีมวลมหาประชาชนมาเป็นแก๊งใหญ่ๆอยู่หน้าร้านก็เกรงใจค่าเปิดเตาเขาจัง บวกกับเหงานิสๆด้วย ฮรือๆ
>>373 กูไม่ใช่มันนะ แต่ร้านในห้างใหญ่ๆที่จองคิวเป็นชมคือไม่ให้วะ น่าจะพวกที่คิดราคาตกต่อหัว ถ้าได้คิวคนเดียวทั้งโต๊ะมันจะเสียรายได้ทั้งโต๊ะนั้นไป เจอบ่อยรบกวนลูกค้าสองท่านขึ้นไปนะคะ พูดดีหน่อยก็จะบอกเรามีโปรนี่ๆลูกค้าหลายท่านจะได้รับส่วนลด แล้วยิ้มๆถึงปฏิเสธบอกมาคนเดียวก็ยังจะบอก แต่ถ้าตามโปรจะลดเยอะกว่า ไม่ยอมให้จองคิว เห็นคนหาเพื่อนกินหน้าร้านเยอะแยะ แต่ช่วงโควิดมาให้จองได้ละนะคนเดียว รักษาระยะห่างหรือเป็นเพราะคนน้อยก็ไม่รู้5555
โม่งกูมีเรื่องมาเล่า วันก่อนที่กูไปปฐมนิเทศกูไปเจอคนๆหนึ่งเว้ย กูก็ชวนเขาคุยแล้วพอที่นี้คุยไปคุยมา
กูก็เลยถามว่าทำไมมาเรียนสายศิลป์ญี่ปุ่น กูบอกคนๆนั้นไปว่า กูมาเรียนเพราะกูอยากอ่านญี่ปุ่นออกจะได้เอาไปอ่านหนังสือนวนิยายของมุราคามิ แต่จริงๆคือกูจะเอาไปเล่นเกมโป๊ พอที่นี้ก็ถึงตามันเล่า
มันท้าวความก่อนว่า เมื่อก่อนมันตั้งใจจะเป็นหมอ เพราะจะได้มารักษาพี่ตัวเองพี่มันป่วยเป็นโลหิตจางกัยแพ้ภูมิตัวเอง แล้วก็มันเล่าพี่มันเรียนเก่ง เก่งแม่งทุกด้าน กีฬา(ที่ใช้แรงไม่เยอะ) การเรียน ดนตรีได้หมด แล้วครอบครัวมันชอบเอาตัวมันเองมาเปรียบเทียบกับตัวพี่ แต่พี่มันคอยปกป้องน้องตัวเองจากครอบครัวตลอด แล้วมันบอกว่าถ้าให้เลือกว่ารักใครที่สุดในครอบครัวมันบอกว่า พี่ตัวเอง แล้วพี่มันมีความฝันว่าอยากเล่นเทนนิสแบคนปกติให้ได้ เพราะแบบนี้เลยทำให้มันอยากเป็นหมอ เพื่อที่จะมารักษาพี่ตัวเอง พอฟังถึงตรงเนี้ยกูคิดว่า เชี้ย ไอสัส โคตรเท่ แต่กูก็นึกย้อนไปว่า ถ้าแม่งอยากที่จะเป็นหมอมันจะมาเรียนสายศิลป์ทำไมกูก็แอบงงอยู่นิดๆ แล้วมันก็เล่าต่อว่า พี่ของมันเองอาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆจนเข้าขั้นรุนแรงจรเสียชีวิต ไอ้เหี้ย พอกูฟังถึงตรงนี้กูรู้สึก down เหี้ยๆ แล้วกูขอโทษมันไปที่ต้องให้มันมาเล่าเรื่องอะไรแบบนี้ แต่มันบอกไม่เป็นไร แต่กูก็ยังรู้สึกผิดเหี้ยๆ ที่ต้องให้มันมาเล่าเรื่องพี่ของมันให้กูฟังอะ 🥲🥲🥲
เพื่อนคนนึงที่เป็นผู้ชายแมนๆ อยู่ดีๆก็เอารูปธงรุ้งขึ้นเป็น profile เขียนใส่ในช่องแนะนำตัวว่าใช้สรรพนาม she/her
ถามเพื่อนคนอื่นก็งงๆกันแต่ไม่มีใครกล้าถามเจ้าตัวตรงๆ คือตอนแรกกูนึกว่าแค่เล่นมุกหรือประชด
แต่ถ้าเค้าตั้งใจ come out จริงๆ แล้วคนอื่นไปเข้าใจแบบนั้นกูว่าเจ้าตัวคงเสียเซลฟ์สัสๆ มีวิธีถามยังไงดีวะว่าอันนี้คือเค้าจริงจังรึเปล่า
มีใครเป็นไหม อยู่ในกลุ่มเพื่อนเวลามีใครเปิดประเด็นอะไรก็คุยกันปกติ แต่พอตัวเองเปิดประเด็นคุยสักเรื่องแม่งไม่มีใครคิดอยากจะคุยด้วย
>>376 กูคิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริงมึงก็ไม่ควรเฮฮาเมคฟัน
หรือถ้าเค้าจะเล่นเป็นมุก มันก็เป็นมุกเชยๆที่สมัยนี้ไม่ควรจะฮาด้วยแล้ว มึงก็ไม่ควรเข้าไปร่วมเฮฮาด้วยอยู่ดี
คำตอบที่ดีที่สุดถ้าไม่อยากถามตรงไคืออยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปยุ่ง 555
แต่ถ้ามึงอยากรู้จริงๆกูว่าเขาน่าจะรับได้กับการถามตรงๆนะ ไม่ได้มีอะไรเสียหายนิ
เพื่อนกูจุกจิกเรื่องแฟนมาก ขี้งอน อะไรนิดๆหน่อยๆก็งอน พูดกับกูจนกูรำคาญ สงสารแฟนเพื่อนเลย ขนาดกูยังรำคาญขนาดนี้ แฟนจะรำคาญขนาดไหนวะ
เจอผู้ทีตอแหลสาวสุภาพเชียวนะมึง คะขาอิโมจินิยายแจ่มใสมาครบ กุขนลุก
กุที่อยากสกินชิพใส่เพื่อนทุกคนที่กุรู้สึกดีด้วย แต่ไม่รู้ว่ามีใครโอเคบ้าง กุติดน้วยๆกับเพื่อนที่สนิทอ่ะ
น่ารำคาญๆๆๆ กุฟังใครไม่รู้เรื่องเลย พอไม่ใช่เรื่องของคนที่สนิทต่อให้เล่าไรมาตลกขนาดไหนกุก็เฉยๆ กุอยากสนิทด้วยแต่ไม่รู้จะรีแอคชั่นเรื่องที่กุไม่ได้สนใจกลับยังไง เพราะกุไม่ได้สนใจ จะขนาดกระโปรง จะการกลับบ้าน ในเมื่อกุไม่สนใจกุจะตอบกลับได้ยังไงนอกจาก 555 หรือ ขำแห้ง หรือ อ๋อออ อื้อออ เข้าใจๆ กุปวดหัวกับตัวเอง
เ ก เ ร กันจังวะพวกมึง
สตกูเฉยๆสกินชิพจะมาทําก็ทํา แต่กูจะรําคานสัสๆถ้าคนที่กูไม่สนิทมาสกินชิพใส่อะ แบบไอเหี้ยมึงคือใครวะรู้จักกูดีอ่อวะ บางทีพวกมึงคิดว่ามึงสนิทกับเขาแต่อีกฝ่ายเขาไม่ได้เห็นมึงเป็นเพื่อนป้าว
กูโดนเพื่อนในเอกทักมาขายตรงว่ะ มาแบบรุ่นพี่ที่รู้จักเปิดบริษัท อยากได้คนรุ่นใหม่มาร่วมงาน ฟรีแลนซ์เลือกเวลาทำได้ โปรเจ็คเกี่ยวกับการตลาดอะไรซักอย่าง+เซ็ตระบบขายออนไลน์ ไอ่เหี้ยยย อันนี้เรียกขายตรงได้ใช่ปะ แล้วชวนกูไปฟังรายละเอียดด้วย
เห็นมึงคุยถึงต่อยท้องกันแล้วนึกถึงสมัยมัธยม
โดนพวกหัวโจกในห้องบุลลี่ แม่งให้ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงใน เอามือวางที่ท้ายทอย แล้วพวกแม่งผลัดกันตุ๊ยท้องกุเบาๆไปเรื่อยๆ ใครทำกุเข่าทรุดก่อนแพ้ สรุปไม่มีใครแพ้เพราะกุเยี่ยวแตกก่อน
แม่งให้ความรู้สึกแบบตอนนี้กูไม่มีเพื่อนเลยเหรอวะ แบบแล้วกูละ? แล้วกูละ? ตั้งแต่ประโยคที่เพื่อนกูบอกว่าอยากให้อีกคนไปด้วยจะได้มีเพื่อน(แล้วกูละ?) แล้วเพื่อนกูบอกให้ลองถามเพื่อน(แล้วกูละมึงไม่ใช่เพื่อนกูเหรอ?) และเพื่อนทำให้แล้ว(แล้วกูละ?) แม่งเกิดไล่เลี่ยกันมากแล้ววันที่เจอหน้ากันหลายวันก่อนก็แทบไม่ได้คุย ยืนก็ไม่ยืนข้างกูไปยืนอีกฝั่ง ทำไมกูต้องเจออะไรแบบนี้ทั้งชีวิตที่เกิดมาด้วยวะ
>>399 มึงเคยเป็นเหมือนกูเลย จนกูเลิกสนใจพวกมัน แล้วไปทำตัวเองให้ดี ให้สวย ให้เรียนเก่ง ให้เป็นคนตลก ให้รวยขึ้น ให้ป็อปปูบ่าขึ้น หลังจากนั้นใครๆก็อยากให้กูทำอะไรด้วย แม้แต่เป็นเพื่อนกันมันก็ยังมองหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอยู่ ถ้ามึงไม่มีอะไรดีๆไป offer ให้เค้า เค้าก็ไม่ได้เห็นความสำคัญของมึงขนาดนั้นหรอก
กุอีกไม่นานรับปริญญาละ เลยสงสัยว่าคนที่ไม่มีเพื่อนคบเท่าไหร่ วันรับปริญญาคือทำอะไรกันบ้างวะ55555555555 แบบในช่วงระหว่างที่คนอื่นเค้าถ่ายรูปกันอะ ต้องจ้างตากล้องไหม
อยู่กับเพื่อนกุก็เหงา อยู่คนเดียวกุก็เหงา อยู่กับเพื่อนเหมือนกุเป็นกาฝากที่จำเป็นต้องกลับบ้านด้วยกันเลยอยู่ด้วยไปก่อน ไม่มีใครชวนกุคุยหรืออะไรเลย เหมือนกุเป็นอากาศ คุยกันอยู่แค่ในกลุ่ม อยู่คนเดียวกุก็โง่ โง่+เหงา โง่ที่แม้แต่ข้ามถนนง่ายๆยังข้ามไม่เป็นเลยจำเป็นต้องเป็นกาฝากเป็นอากาศ เพราะถ้าอยู่คนเดียวกุไม่รอดกลับถึงบ้านแน่ สรุปคือไม่มีสิทธิ์บ่นเพราะมึงมันโง่ แค่นั้นแหละ
ประเด็นคือกุถนัดมุกประเภทเหยียดแล้วทำคนขำได้บ่อย แต่มุกเหยียดสำหรับกุมันคือมุกเหี้ยที่ไม่ไม่อยากพูดถึงอ่ะ เพราะที่กุพูดไม่ใช่มุก กุเหยียดจริงๆ55555 แล้วเวลาพูดมุกดีๆหรือมุกขำขันทั่วไปโดนเพื่อนเงียบใส่ เพื่อนเมิน หรือเวลาคุยกับกลุ่มใหญ่ๆที่ไม่ได้สกินกันกุก็ยิงมุกแป้ก ไม่ขำ เพราะกุดูจริงจังไปหมดทั้งๆที่กุอยากให้คนอื่นขำกุบ้าง กุจะมีความสุขมากถ้าทำให้คนอื่นขำได้ แต่กลายเป็นพูดอะไรคนก็ไม่ขำ ไม่สนุก ดูจริงจังไปหมด ไม่เป็นจุดสนใจ หรือของแบบนี้มันเป็นพรสวรรค์ติดตัวของแต่ละคนวะ ไม่ใช่ทุกคนที่มี กุก็อยากเป็นจุดสนใจบ้าง กุก็อยากทำให้คนอื่นหัวเราะบ้างTT
ห้าห้า สมน้ามหน้าพวกเหยียดชาวบ้าน จงอยู่สังโคมคนเหี้ยต่อไป จงอินซาเคียวต่อไป กาก ห้าห้าห้า
ไอเหี้ยมึงต้องเป็นคนยังไงกันถึงอยู่ๆไปเหยียดคนนู้นคนนี้วะ กูเคยอยู่กับคนแบบนี้มาคนแล้วทํากูดาวน์เลยต้องถอยอ่ะ กูอยู่คุยกับคนอื่นไม่เห็นจะต้องสนหีสนแตดกับชาวบ้านเลยก็มีความสุขกันได้ ถถถ
เพื่อนคืออะไร
>>413 กูถนัดแบบเล่าชีวิตประจำวันให้เพื่อนฟังแล้วทำคนขำได้น่ะ แบบเล่าความเยอะของแฟนกู เล่าความเหี้ยของลูกพี่ที่ทำงาน เล่าเรื่องงาน คือมันอยู่ที่การลงจังหวะเสียง การกระแทกอารมณ์ สีหน้า ภาษากาย...ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ติดตัวมึงมาแต่เกิดอ่ะนะ
สมัยพีคสุดคือตอนม.ปลายแค่กูออกไปยืนหน้าห้องเฉยๆ (คือออกไปอ่านเรียงความแหละแต่กูยังไม่ทันอ่าน) แค่ภาษากาย กับสีหน้าก็ทำคนขำแล้วโดยที่ยังไม่ได้พูดซักคำ
แต่ก็อยู่ที่ความ humor แต่ละคนด้วยบางคนไม่ได้ขำแนวนี้แม่งก็ไม่ขำ
>>417 มึงคือตัวตลกที่เขาสมเพชกันรึเปล่า แต่ไม่ใช่คนที่มีcharismaแล้วตลกแน่ๆครับ
https://youtu.be/3AGGEFHn-HA
เบื่อเพื่อนขี้เม้าขี้นินทาปากบอกเป็นห่วงกุไม่เคยมองข้ามกุเเต่ลับหลังก็เเอบไปเม้ากะเพื่อนคนอื่นก็รู้เเหละว่าไลฟ์สไตล์มันไม่ตรงกัน อย่างงี้เขาเรียกเพื่อนกินปะ
ขอถามคนที่ชอบแชร์ไอดีเกมกับเพื่อนหน่อย เกมแนวไหนก็ได้เลย แบบว่าไม่รู้สึกแปลกๆที่คนอื่นมาทำไรในไอดีตัวเองบ้างเหรอ เข้าเกมมาของเปลี่ยน สถิติสู้เปลี่ยนงี้อะ
https://i.imgur.com/zF1yrfm.jpg
ทำไมเพื่อนทิ้งเพื่อนกันแบบนี้
พอป่วยไม่สบายทำให้มึนๆสมองรันตามไม่ทัน ก็ทำให้รู้ว่าจริงๆการคุยกับเพื่อนมันไม่ได้ยากเลยนี่หว่า แค่กุไม่ต้องคิดไรในหัวแล้วตอบโต้ไปก็แค่นั้นเอง พยายามทำหัวโล่งๆอย่าไปคิดเยอะ สิ่งที่กุต้องสู้ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นความคิดในหัวกุต่างหากที่เอาแต่คิดแง่ลบคิดกังวล ทั้งที่จริงๆเพื่อนมันก็คือเพื่อนอ่ะมนุษย์คนนึงที่มึงปล่อยใจแล้วทำตัวบ้าๆบอๆด้วยได้ เหมือนยิ่งกุคิดเยอะกุยิ่งมีกำแพงล่องหนที่ทำให้คนไม่กล้าเข้ามาคุยกับกุ พอกุเลิกคิดอยากคุยก็คุยเลยทำให้กุได้คุยกับคนใหม่ๆเยอะขึ้นมาก
รำคาญเพื่อนที่เป็นไรก็ไม่บอกจังวะ เหมือนไบโพลาร์อะ วันนึงคุยกันอยู่ดีๆ ก่อนแยกย้ายมีชวนกูไปกินข้าววันถัดไปด้วย พอขึ้นวันใหม่กูก็มาแดกข้าวตามนัด มันเสือกเงียบ ไม่พูดไม่จา ถามคำตอบคำ คือเคยบอกแล้วนะว่าไม่โอเคไรให้บอกเลย จะให้คนอื่นมาเดาความคิดมึงทำไมวะ
น้อยใจว่ะ จู่ๆเพื่อนเทนัดกันดื้อๆ กูงอนก็ยังไม่รู้ตัวอีกแม่ง
เพื่อนชอบเอาปัญหาตัวเองมาขิงตอนกูกำลังเล่าเรื่องตัวเองอะ ต้องบอกมันยังไงให้ไม่ขุ่นใจกันวะ แบบเร็วๆนี้กูทะเลาะกับแฟน ก็เลยไปคุยกะกลุ่มเพื่อนว่า ทะเลาะกันนะ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ๆขึ้น อารมณ์ระบาย+ขอคำปรึกษา แล้วเพื่อนคนหนึ่ง (และจะเป็นคนนี้ตลอด) ก็พูดขึ้นมาว่า เออๆ กับแฟนเก่าก็เคยเจอแบบนี้ๆ หนักกว่าอีก ของแกยังดี แล้วก็ดึงสปอตไลท์ไปเรื่องของมันแทนเรื่องของกูซะงั้น
อันนี้คือเรื่องล่าสุด แต่ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้มาบ่อยละ มันคงแค่อยากแชร์ประสบการณ์ และแชร์ผิดเวลาไปหน่อย แต่ทุกครั้งนี่กูควรจะดึงสปอตไลท์ของกลุ่มกลับมาที่เรื่องกูยังไงดีแบบสมู้ทๆอะ
ไอ้คนที่ชอบพูดหักหน้าคนอื่น ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยก็ตาม แต่มันก็ดูออกว่าจงใจทำให้กุอาย จงใจกดกุให้ต่ำ ให้อายคนอื่นเขา ทั้งๆที่เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นเขาไม่ได้สังเกตุเห็นและเป็นเรื่องปกติด้วย แต่มึงก็จงใจทักกุในทางที่แย่เพื่อกดให้กุเป็นตัวตลก แต่ดีนะไม่มีใครเขาตลกกับมึง ทำทำไมอ่ะ คิดว่าทำแล้วมึงจะดูสูงขึ้นหรอ ต่ำกว่าเดิมอีก หาเรื่องคุยไม่ได้ก็บูลลี่คนอื่นแม่ง ดูกระจอกดี พอกุสวนก็ทำเป็นแหยๆทำเป็นพูดดี ดูเจตนาไม่ออกเลยมั้ง
>>430 มึงไปปรึกษาผิดคนแล้ว แบบนี้พวกฟังชาวบ้านไม่เป็น แก้ไขไรไม่ได้หรอก
แปลกดีหว่ะไอคนประเภทนี้มันมีหลายคนดีวุ้ย แบบกูปรึกษาเรื่องหนึ่งแม่วต้องเอาเรื่องมันมาเล่าทับ ทั้งที่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยไม่วาาอยากจะให้ช่วยรับฟังหรือช่วยแก้ไขปัญหา เรื่องที่แม่งเอามาเล่าบางทีก็คนละปัญหากับกูด้วย แต่ปากบอก อืมๆกูเข้าใจ อ่ะจ่ะ เข้าใจโพ้ง
กูเป็นห่วงเพื่อนว่ะ วันก่อนกูทักเพื่อนสนิทมากๆตอนมัธยมปลายคนนึงไปถามเรื่องสัพเพเหระ แต่เหมือนกูจะเลือกถามคำถามผิดตั้งแต่แรกคือกูถามเพื่อนว่าเรียนมหาลัยเป็นไงบ้าง พอกูถามไปแบบนั้นปุ๊ปเพื่อนมันตอบกูมาว่าไม่ได้เรียนแล้วละรู้สึกแม่งโคตรเคว้งเลย
คือตั้งแต่จบม.ปลายมากูก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนนี้เลยนะ แรกๆก็คุยนิดหน่อยแต่กูเริ่มรู้สึกว่ามันมีโลกของตัวเองแล้วกูเลยไม่ค่อยอยากไปยุ่งเท่าไหร่ กลายเป็นนานๆทักที นี่ไม่ได้คุยกันประมาณปีครึ่งปีได้มั้งละมันบอกว่ามันไม่ได้เรียนแล้วกูเลยเป็นห่วงมันว่ะ คือกูไม่ได้หวังว่าใครจะต้องเรียนต่อปริญญาทุกคนนะ เพื่อนที่เลิกๆเรียนไปแล้วตอนนี้มันได้ดิบได้ดีมีงานทำตั้งแต่20ต้นๆก็มีเยอะแยะ แต่คนนี้กูเป็นห่วงเพราะมันดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเรียนนี่แหละ ไม่รู้มันดรอปตั้งแต่ปี1หรือปี2หรือเพิ่งมาดรอปสดๆเลยตอนจะปี3 แต่เท่าที่กูเป็นเพื่อนมันมาจะ10ปีกูเห็นแต่ด้านที่มันเป็นคนอ่อนต่อโลกมาตลอดเลย เอาตรงๆมันดูเป็นคนจัดการชีวิตตัวเองแทบไม่เป็นเลย ทรงนีททรงโอตาคุในการ์ตูนอะไรพวกนั้นเลยเว้ย สิ่งเดียวที่กูรูปสึกว่ามันพอจะทำได้ก็มีแค่เรื่องเรียนนี่แหละ แล้วยิ่งอยู่ๆมันเลิกเรียนอีกกูเป็นห่วงสภาพจิตใจมันว่ะ ไม่รู้ดิ กูรู้สึกว่ามันเป็นคนที่เสี่ยงซึมเศร้าแล้วก็ดูเป็นคนที่มีก้อนขมุกขมัวในใจเยอะมาก มันไม่เคยแสดงด้านนี้ออกมาให้รบกวนใจใครนะ ไม่เคยงอแง(แต่ก็ไม่ได้ร่าเริง) แต่ก็รู้ว่ามันเสี่ยงดีเพรสแบบหมดอาลัยตายอยากสิ้นหวังกับชีวิตสุดๆ แล้วยิ่งมาเจอแบบนี้กูรู้เลยอ่ะว่ามันต้องรู้สึกแย่กับตัวเองมากแน่ๆ แต่กูไม่กล้าเข้าไปพูด ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอะไรกับชีวิตมันเลยว่ะ กูพอจะเข้าใจอยู่ว่าคนที่ลักษณะแบบนี้เขาอาจจะไม่ได้ต้องการคนในชีวิตจริงอยู่ข้างๆเพราะอาจทำให้ยิ่งรู้สึกแย่ กูเลยทำได้แค่หยุดอยู่แค่นั้นแล้วถอยกลับมาแบบที่ทำมาตลอดตั้งแต่เรียนจบ ปล่อยให้คนที่มันรู้จักกันแค่ในจอหรือเกมการ์ตูนอะไรที่มันชอบปลอบประโลมมันไป กูไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปยุ่งจริงๆ แต่กูก็โคตรเป็นห่วงเลย กูทำถูกแล้วไหมวะ
>>434 กูก็คงทำได้แค่นั้นแหละ จริงๆกูทำไม่ได้แม้แต่จะไปฟังมันระบายด้วยซ้ำ ถ้ามันยังไม่กล้าเปิดใจให้คนในชีวิตจริงที่เคยเห็นหน้าเห็นตามันจริงๆจนไม่ยอมพูดอะไรให้กูฟังแต่พูดแต่กับคนในจอมันกูก็คงต้องมูฟออนแหละว่ะ กูอาจจะไม่สำคัญกับมันจริงๆ หรือคิดในแง่ดีหน่อยมันก็คงแค่ไม่อยากให้คนรู้จักเห็นมันทำตัวอึมครึมล่ะมั้ง
มีเพื่อนคนนึงที่กูเคยสนิทมากๆตอนเรียนออนไลน์เพราะตอนนั้นยังไม่รู้นิสัยจริงๆมั้ง แต่พอกลับไปเรียนออนไซต์พวกเราแทบไม่คุยกันเลย กูก็นึกว่าคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง เวลาทักทายก็ปกติ แต่ไปๆมาๆเริ่มจะเมินกัน กูเริ่มไม่อยู่ในสายตาเขา เขาก็คงคิดว่าเขาไม่อยู่ในสายตากูเหมือนกัน ซึ่งกูไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แล้วแบบเขามีเพื่อนเยอะมากจะตัดขาดกูไปยังไงก็ได้เขาคงไม่รู้สึกอะไรหรอก เผลอๆอาจจะมีความสุขขึ้นด้วยซ้ำที่ไม่มีกู(อันนี้กูไม่รู้นะกูคิดเอง)
พวกมึง ออฟฟิศที่กูทำล่าสุดอะ ทำมานานแล้วแหละ แล้วทีนี้เพื่อนๆรุ่นๆกูอะทยอยย้ายงานกันแล้ว
บางคนย้ายเพราะอัพเงินเนื่องจากมีภาระผ่อนบ้านด้วย บางคนก็แบบทนงานแบบแก้ไขปัญหาไม่จบไม่สิ้น
บางคนก็แบบขอย้ายไปทำอีกตำแหน่งมา 2ปีแล้วยังไม่ได้ย้าย แต่คนมาใหม่ได้ทำน้อยใจขอลาออกไปทำที่อื่นก็มี
กูรู้สึกเศร้าๆไงไม่รู้ แบบถึงจะนัดกินข้าวกันได้ก็เหอะ แต่ไม่ได้ฟีลเหมือนอยู่ออฟฟิศด้วยกันเลยว่ะ
หรือเพราะกูทำงานเอาสังคมเลยรู้สึกเศร้าขนาดนี้วะ
คน toxic นี่ มันไม่มีวิธีแก้ให้เขาดีขึ้นเลยเหรอวะ ทำได้แค่เฟดตัวออกมาแบบเงียบๆเพราะคนแบบนี้บอกไปมันก็ไม่รู้ตัวเหรอ?
คนที่ติดสกินชิปในยุคโควิดนี่เสี่ยงตายดีจังเนอะ
อยากคุยกับเพื่อนร่วมห้องแต่ไม่รู้ เขาคุยอะไรกันวะ อยากคุยเก่งวะ แต่ความชอบส่วนตัวกูคนกันคนในชั้นไม่ค่อยตรงกันวะเลยไม่รู้จะคุยอะไร บ้างทีก็รู้สึกเหงาๆ
>>445 ตามน้ำได้มั้ย วิธีของกุคือเวลาเพื่อนเล่าเรื่องคู่รักดาราที่กุโคตรจะไม่สนใจและไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ กุก็จะฮึ้ยย จริงหรอ เออน่าร้ากกก ใจฟูเนอะ สายเปย์มากอ่ะโคตรสุด แค่ใครเล่าไงก็ตามน้ำไปแล้วทำเป็นรู้สึกไปกับเรื่องที่เขาเล่าอ่ะ โอเวอร์แอคติ้งไปเหอะ ต่อให้คนเล่ามันรู้สึกว่าเราโอเวอร์แอคติ้งมันก็จะเล่าต่ออยู่ดีเพราะรู้สึกดีเวลาที่มีคนฟังแล้วมีอารมณ์ร่วมไปกับมันด้วย ถ้าความชอบไม่ตรงกันก็แสร้งทำเป็นสนใจเรื่องที่เพื่อนชอบอ่ะ แล้วตบท้ายด้วย 'ถ้าว่างๆเดี๋ยวจะตามไปดูแน่นอน' อันนี้กุไว้ใช้ตอนตีสนิทแรกๆอ่ะ/ปจบ.กับเพื่อนกลุ่มเดียวกันกุก็ใช้
มึงนี่ร่างแยกกุป่ะกุก็อยากเข้าเป็นพักๆ ที่อยากเข้าคืออยากสนิทกับคนอื่นมากขึ้นอยากให้เขารู้สึกดีกับกุไม่อยากไม่สนิทกับใครในห้องกลัวแปลกแยก แต่เข้าแล้วพลังงานหมดไว+ขี้รำคาญเหมือนมึงอ่ะ สุดท้ายกุกลับมาเลื่อนโทรศัพท์ของกุคนเดียวอยู่ดี
กูต้องเก็บความลับ แต่มีเพื่อนมาปรึกษา อีเชี่ย กูอยากเสือกมาก แต่กูต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดี กูจึงไม่สามารถพูดได้ว่าเรื่องอะไรแม้จะลงโม่ง แม่ง อยากรู้ๆๆๆ ทำไมกูขี้เสือกแบบนี้ เพื่อนบอกกูมาเลยได้มั้ย
เพื่อนสนิท ไปเป็นเพื่อนกับคนที่กุไม่ชอบขี้หน้า และมันก็ไม่ชอบขี้หน้ากุเพราะเคยมีเรื่องกัน กูควรถอยออกมาป่ะวะ
กูไม่รู้จะเอายังไงกับเพื่อนในสาขาคนนึงว่ะ
เพราะตอนเรียนก็แทบไม่ได้คุยกัน ไม่ได้สนิทกันเลยด้วยซ้ำ ที่จำเป็นต้องติดต่อก็เพราะต้องมาฝึกงานที่เดียวกันเฉยๆ
แล้วด้วยความที่ว่า กูเป็น Introvert เวลาเจอคนไหนไม่สนิททักมากูเลยจะต้องทำใจก่อนตอบอ่ะ ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักเลย แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบที่มีคนอื่นทักมานะ กูแค่ล่ก ที่กูไม่โอเคจริงๆคือโทรมานี่แหละ หัวใจกูจะวายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าใครโทรมาแบบไม่จำเป็นจริงๆ กูจะไม่โอเคเป็นอย่างมาก ใช้เวลาหนักกว่าตอนแชทอีก บางทีทำใจไม่ได้จนต้องเมินสายด้วยซ้ำแล้วค่อยแชทไปขอโทษเขาอีกที แต่ก็ไม่ได้ทำบ่อยนะ
ช่วงนี้ กูกับเพื่อนคนที่ว่าก็จำเป็นต้องติดต่อ เพราะจะหารค่าแท็กซี่กลับกันด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็จะโทรมาก่อน บางทีก็ยังไม่ถึงเวลาด้วยซ้ำก็โทรมาหากูก่อนแล้ว กูเองก็พยายามรับเท่าที่ได้แล้ว แต่ถ้าพลาดก็เพราะกูดันไม่ว่างพอดี ซึ่งกูก็พยายามทิ้งข้อความไว้แล้ว ไม่ก็พยายามรีบไปหาเลน จนวันนึง กูรู้สึกไม่สบายใจมากจนยอมเมินสายทิ้งไปครั้งแรก เพื่อนคนนั้นกูเฉย คิดว่ากูไม่อยากคุยกับเขาซะงั้น
กูควรทำยังไงดีวะ กูรู้ว่าส่วนนึงกูผิดนะ แต่กูไม่โอเคจริงๆกับการโทรมาบอกด้วย ถ้ามันไม่ได้เลทมากหรือจำเป็นนะ
>>452 กูเป็นแบบมึงเลย introvert แล้วมีsocial anxiety แต่กูชอบให้มีคนโทรมาหามากกว่า เพราะการติดต่อไปเองมันหนักใจกว่า ถ้าอีกฝ่ายโทรมากูก็แค่เออๆออๆตามแม่งไปไม่ต้องคิดไรมาก แล้วกูชอบคุยเสียงมากกว่าแชทแฮะ แบบอ่านใจอยากพอเป็นตัวอักษรแล้วกูไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจในสิ่งที่กูสื่อมั้ย มาสลับร่างทีดิ้
บ่นหน่อยแม่ง กูpanicจัดหว่ะ ถึงคุยกับคนแล้วโครตเหนื่อย แต่เรื่องงานต้องการสื่อสารให้จบๆเคลียร์ๆไปก่อน ไม่ชอบให้ยืดเยื้อ ซี่งเพื่อนร่วมงานกูแม่งก็เป็นพวกไม่คุยเรื่องงาน มีแต่คุยสัพเพเหระซึ่งกูไม่อยากคุยกับแม่งเลยตึงๆกัน แล้วเรื่องงานไม่คุยไอเดียก็ไม่ออก เห็นกูขรึมๆคงว่าไอนี่หยิ่งแน่เลยหว่ะ กูแบบไม่มีอีโก้ให้หยิ่งยโสอะไรทั้งสิ้น กูคุยน่าเบื่อจะตายไงเลยไม่คุยดีกว่าสบายใจคนอื่นมากกว่า กูอยากเจอคนโทรตามบ้าง อิจฉามึงโว้ย กูแบบไม่มีใครตามเชี่ยไร ต้องทําทุกอย่างเอง ตามงานคนอื่นเอง โครตแพนิคถ้าทุกคนเงียบไป อยากหาหัวหน้าผู้นําเก่งๆมานําชีวิตการงานกูซักคนหว่ะ แบบโทรตามทํานู่นนี่ กูจะเป็นหมาคอยทําทุกอย่างตามที่ดีเลย
ระหว่างเสียพลังงานไปกับการทำงานกับการเสียพลังงานจำนวนมากไปอธิบายงานที่มึงไม่คิดจะทำอยู่แล้วเนี่ยเสียเวลาเปล่า จะขอทำเดี่ยวปัญหาเรื่องสังคมก็จะตามมาอีก
ทำไมกูแคร์คนอื่น แต่คนอื่นไม่แคร์กูเลยวะ กูช่วยเหลือ คอยรับฟัง ตลอดเลย หรือเล็กๆน้อยๆแบบคอมเม้นท์ในไอจี รอเพื่อนเวลาคนนึงเดือนตามไม่ทัน ไม่เคยพูดขัด หรืออะไรก็ตาม แต่พอมาถึงตากูทีไรไม่เห็นมีใครทำแบบนั้นกับกูเลย
ขอเทคนิคออกห่างกับเพื่อนโดยที่ไม่น่าเกลียดหน่อยสิ คือไม่มันดราม่าอะไรถ้าไปบอกตรงๆ เทอๆเราอยากอยู่คนเดียว มันก็แปลกๆหว่ะ ควรทํายังไงให้ตีตัวออกห่างให้เนียนๆได้ ยังไม่ได้เริ่มเรียนนะ แต่ต้องเรียนวิชาเดียวกัน แต่เราไม่อยากนั่งกับมันเลย
เหตุผลที่อาจจะต้องได้นั่งด้วยกันเพราะเป็นคนไทยไปเรียนต่างประเทศ แต่เราอยากมีเพื่อนต่างชาติอ่ะ ไม่อยากอยู่กับคนไทย
>>460 คือกลัวจะได้เป็นเมทด้วย อยากเตรียมตัววางแผนการออกห่างให้ได้ก่อน
ตอนนี้คิดว่าจะไปนั่งอ่านหนังสือ เที่ยวไรเตรดเตร่คนเดียว ใช้เวลาที่หอให้น้อยที่สุด ไปไหนไม่บอกมัน
ถ้าสมมติกูอยู่หอกับมันอยู่ๆอยากไปข้างนอกแล้วมันจะตามมา บอกว่าไรดี
-ไปดูดหรี่ (แม่งไม่สูบ) ได้ป้ะ
คือออกห่างแล้วมันจะไม่มีปัญหา หรือกูจะโดนมองว่าดูไม่ดีมั้ยนะ กังวลมาก เพราะเคยโดนนินทาใส่ความมาแล้วเพียงเพราะกูไม่ได้ไปไหนกับกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่ง … คือแล้วไอเพื่อนใหม่มันเป็นประเภทน่าหงุดหงิดแบบนี้ด้วย กูรำคานดราม่า คืออยู่แยกกันแต่เรียนอะไรด้วยกันได้ จะรอดมั้ยอุดมการณ์กู
แบบมีกูกับเพื่อนสนิทอินโทรเวิร์ดกูเท่านั้นที่มองตากันก็เข้าใจอยู่ ไม่รู้ว่าคนอื่นในสังคมเด็กไทยแม่งจะมองกูไงวะ 😭
ขอบ่นเรื่องเพื่อนเป็นซึมเศร้า
เพื่อนกุคนนึงเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง(มันเป็นจริงและพบจิตแพทย์)ชอบทำร้ายตัวเองแล้วชอบลงโซเชี่ยลหลายรอบแต่ทุกครั้งก็รอดมาได้เพราะมีคนช่วยทัน มันชอบเก็บทุกอย่างมาคิดเอาปัญหาของคนอื่นมาใส่ตัว แรกๆคนรอบข้างมันก็เยอะนะแต่ด้วยนิสัยมันมั้นใจในตัวเองสูงชอบคุยข่มเกทับลามปามกลายชอบโพสให้ตัวเองดูน่าสงสารกลายเป็นคนเริ่มออกห่างจากที่แต่ก่อนมันลงโซเชี่ยลมีแต่คนให้กำลังใจมันนะเดี๋ยวนี้แทบไม่มีแล้ว เคยสนิทด้วยอยู่ช่วงนึงมันมีแต่พลังลบๆเข้ามาโดนคุยข่มว่าหาเงินเองไปเรียนไปงู้นงี้กูเลยห่างออกมาเพราะไม่ไหวเหมือนกันจะเตือนก็ไม่กล้าเดี๋ยวน้อยแล้วทำอะไรไม่คาดคิดเพราะมันเคยโดนแฟนมันดุแล้วโพสลงไอจีเฟสบุ้คเหมือนแฟนแม่งว่าแรงมาก(แต่กุไปคุยก็ดุปกติเพราะมันงี้เง่า)พร้อมกับลงรูปกรีดแขนอีกถามว่าเป็นห่วงมันมั้ยห่วงนะแต่ไม่เอาตัวเองเข้าไปแล้วอ่ะกลายเป็นว่าโรคซึมเศร้าของมันไม่ได้น่าสงสารสำหรับกูและคนรอบข้างแต่กลายเป็นน่าสงสารในโลกโซเชียล เพื่อนเก่ากูบางคนมันก็ยอมรับว่าเป็นก็กินยาเงียบๆนะไม่ได้โพสเรียกความสงสารและพยามใช้ชีวิตปกติกับคนทั่วไปมีอะไรก็จะโทรมาคุยมาระบาย ไม่ได้แอนตี้คนเป็นโรคซึมเศร้านะแต่บางคนเอาโรคนี้ขึ้นมาเป็นข้ออ้างแล้วทำนิสัยแย่จนทำให้คนรอบข้างถอยออก
มีใครมีเพื่อนที่เป็น introvert แล้วรำคาญมันบ้างป่ะ เป็นอะไรนักหนาชวนไปไหนก็ไม่ไป โกหกว่ามีนู่นมีนี่แต่กูรู้นะว่ามึงนอนเล่นมือถืออยู่ในห้อง เข้ามหาลัยทั้งทีไม่ทำเหี้ยอะไรเลย ชวนไปเที่ยวก็ไม่ไป ชวนไปหาอะไรกินก็ไม่ไป แค่ไปกินชาบูแม่งบอกรอสอบเสร็จ รอปิดเทอมก่อนถึงจะไปกินได้ มึงจะอะไรขนาดนั้น กิจกรรมห่าอะไรก็ไม่เคยเข้า ไม่เคยสร้าง network อะไรเลย พอต้องเรียนออนไลน์ไม่เคยติดต่อกันมาเป็นปี อีเหี้ย สุดท้ายพอต้องขอความช่วยเหลือก็ต้องมาขอจากกูเพราะไม่มีเพื่อน คือมึงมีเวลาสร้างเพื่อน ตั้งเยอะทำไมถึงทำตัวแบบนี้วะ กูดึงไปหาคนนั้นคนนี้ก็ไม่ยอมไป ชีวิตพวกมึงสองสามคนหลังจากนี้จะเป็นไงวะ ไม่มีเพื่อน สร้างสายสัมพันธ์ไม่เป็น ทำอะไรเป็นทีมไม่ได้ คิดถึงแต่ตัวเองแบบนี้ กูล่ะเป็นห่วงจริงๆ
>>466 กูเป็น introvert แต่กูเพื่อนเยอะนะ เพื่อนมึงไม่ได้ introvert อย่างเดียว นั่นนิสัยส่วนตัวส่วนนึง
ของกูเพื่อนชวนไปไหนไม่ไปเหมือนกัน ผับไม่ไป แดกไม่ไป เที่ยวก็ไม่ไป
นั่งอ่านการ์ตูนเล่นเกมอยู่ในหอ กูก็ยังมีเพื่อนเยอะได้
แต่เห็นด้วยอย่างว่าเป็นคนแบบไหนหาเพื่อนไว้ก็ดี ยกเว้นมึงจะเก่งสุดยอด แต่ถึงจะอย่างงั้น คนเก่งที่มีเพื่อนก็ดีกว่าคนเก่งโซโลอยู่ดี
>>466 เออกูก็ in นะ แต่ชวนไปไหนกูต้องดูก่อนกอนเหล้าเข้าผับกูไม่ไปแน่ๆอะ แต่ถ้ากินชาบู สุกี้ เนื้อย่าง ถ้าไปเที่ยวก็ขอเที่ยวแบบไม่เหนื่อยมากก็ไปแต่ก็ต้องดูเงินกูด้วยส่วนนึง เอออีกเรื่องกูไม่ชอบเที่ยวกับเพื่อนเยอะๆเท่าไหร่เต็มที่ 4 คนก็พอเอาสนิทจริงๆแค่นั้นเลย เรื่องเพื่อนไม่มีปัญหาปัญหาอยู่ที่เพื่อนน้อยถ้าเวลาว่างไม่ตรงกันก็ต้องไปคนเดียวอันนี้ต้องยอมรับให้ได้
ไม่เคยพูดกับเพื่อนว่าทำไมมึงถึงชอบรีรูปแอคโคยเยอะจัง เพราะเป็นแอคของเพื่อน เพื่อนจะรีอะไรก็ได้เรื่องของมัน แต่กูก็ไม่อยากอันฟอลมัน เลยบล็อกแอคทุกแอคที่มันรีมาแรกๆเห็นเพียบหลังๆไม่เจอแล้ว สบายใจจัง ไม่ต้องอันฟอลเพื่อน ไม่ต้องเห็นรูปใครซักคนทำท่าทำหน้าแปลกๆ
แค่อยากจะมาอวดเฉยๆว่าเจอเพื่อนที่ชอบสกินชิปเหมือนกันแม่งโคตรดีเลย เพราะไม่ใช่แค่เราที่จะไปยุ่มย่ามเขา เขาก็ยุ่มย่ามเรากลับเหมือนกัน อบอุ่นชิบหาย ทำกับคนอื่นไม่เคยโดนทำกลับ โดนทำกลับทีนึงมึงนี่แหละคือเพื่อนสนิทกุ จากนี้มีกุมีมึงไปไหนไปกัน
งานกลุ่มแชทหนักขวามาก ต้องส่งวันพฤหัสนี้แล้วแต่ยังไม่เลือกหัวข้อเลย ทุกคนไม่รู้จักกัน กุก็ไม่รู้จะพูดไงดี ก็เสนอๆๆๆหัวข้อไป แต่ไม่มีคนตอบเลย โม่งมีแนวทางในการพูดกับเพื่อนมั้ย
พวกเพื่อนที่ชอบทะเลาะกับแล้วบอกให้กูไม่ต้องยุ่งกับคนที่มันทะเลาะนี่มันยังไงวะ โครตรำคาน
กูมีเพื่อนที่เก่งด้านนึง(ชีวิตมันก็มีแค่นั้น)แล้วเหมือนเป็นความภูมิใจเดียวที่มันมี จนมันอีโก้สูงสัสๆสูงจนมองตัวเองอยู่เหนือคนอื่นในวงการเดียวกัน ปากมันบอกว่าไม่อยากยกตัวเองสูงแต่การกระทำมันฟ้อง เวลาคนอื่นทำไม่ถูกก็ไม่ไว้หน้าเพื่อนตัวเองเลย พอมีอะไรที่คนอื่นไปศึกษามาแล้วรู้ว่ามันมีหลักการยังไงไอนั่นก็จะสงสัยในตัวเพื่อน ไม่ยอมรับความคิดคนอื่นแต่เห็นต่างพร้อมยัดความเห็นตัวเองทั้งที่หลักฐานอ้างอิงจะทิ่มตาอยู่และ แค่อยากให้มันหัดยอมรับคนอื่นบ้างว่าคนอื่นก็ทำได้ บางเรื่องที่คนอื่นรู้มันก็ไม่รู้ อีกเหตุการณ์ที่รำคานเลยคือตอนที่กูบอกมีงาน(อาสาไม่ได้ตังค์)มันก็เสนอหน้าจะมาช่วยบอกว่าตัวเองมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ กลัวกูไม่ไหว ถามจิงนี่งานอาสาแล้วกูก็มีทุกอย่างที่เขาต้องการอยู่และ
>>481 มึงเป็นเพื่อนที่นิสัยไม่ดีอ่ะ คบไม่ได้เลยเถอะ คือ มึงรำคาญคนที่อยากช่วยมึงทั้งที่มันคืองานอาสาไม่ได้ประโยชน์เหี้ยอะไรเลย และมึง บอกว่าเพื่อนมึงอีโก้สูง แล้วมึงไม่อีโก้สูงเลยมั้งที่ไปบอกว่าเพื่อนมึงมีความรู้ทั้งชีวิตแค่เรื่องนั้น ไหนจะประโยคเหี้ยๆอย่าง ไอ้สิ่งที่คนอื่นรู้มันเองก็ไม่รู้มันก็มี คือมึงลองย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ด่าอีเพื่อน แล้วย้อนกลับมาถึงประโยคนี้ ลองพิจารณาตัวเองดูว่า เออ มึงก็ไม่ได้ต่างจากมันเลย แย่กว่าด้วย อยากให้มันยอมรับว่าคนอื่นก็ทำได้ คนอื่นก็มีความรู้ แต่ตัวเองยังทำตัวโง่ๆอย่างมาด่าเพื่อนตัวเองให้คนในโม่งฟังแล้วเสือกโดนโม่งด่าเอง โง่มากขนาดนี้ไม่แปลกที่จะมองคนที่มีความรู้เฉพาะทางว่าเขาอีโก้สูงอ่ะ ถ้าเขาอีโก้สูงเขาจะมาช่วยงานที่ไม่ได้ห่าอะไรเลยทำไม แค่คำชมเชยหรอ แค่คำอวยหรอ คิดเด็กน้อยชิบหาย
ถามหน่อยดิ ถ้าเพื่อนของเราไปสนิทกับแฟนเก่าของแฟนเราจะทำไง กุ แฟนกุ เพื่อนกุเป็นเพื่อนกันมาก่อนทั้งหมด ยกเว้นอิแฟนเก่า พยายามจะไม่รู้สึกแย่อะไรละ ไม่รู้โดนทางนั้นมาปั่นหัวยังไง อยู่ดีๆก้ไม่คุยกับกุ ลบเฟสออกอีกต่างหาก โพสเหมือนปากเก่งด้วยว่าไม่อคติกับใคร มีอะไรคุยกันได้โตๆกันแล้ว แต่มึงลบเพื่อนกุไม่บอกซักคำค่ะ ไปเม้นคิกคักกับอิแฟนเก่าของแฟนเราคนนั้นอีก ชมเก่ง เม้นน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ กับกุที่เป้นเพื่อนแท้ๆยังไม่เคยททำ ประจบขั้นสุดมาก อยุ่ดีๆก้เฉดหัวกุเฉย ได้เพื่อนรักคนใหม่ ค่ะอิดอก เก่งมากมั้ง โดนใครเป่าหูอะไรก็เอนไปทางนั้นหมด แล้วบอกไม่กล้าหักหลังใคร กลัวบาป แล้วกุเป็นข้อยกเว้นเหรอ กุงงกับตรรกะมัน
>>482 ก่อนจะว่ากูไปมากกว่านี้กูเล่าให้ฟังเพิ่มละกันเผื่อจะเข้าใจมุมมองกูและเพื่อนคนอื่นมั่ง มันอ่ะเก่งแต่จุดบกพร่องเลยคือมันคิดว่าคนอื่นยังทำไม่ได้ ไม่ให้โอกาสคนอื่น ไปอ่านที่กูเล่าอีกรอบนะว่าเอาข้อมูลมาพูดอ้างอิงจะทิ่มตาอยู่ละมันก็ไม่คิดว่ากูพูดถูกแล้วเถียงยัดความคิดตัวเองที่มันไม่ถูกตามอ้างอิงใส่ ทำแบบนี้มันหมดกำลังใจคนที่อุตส่าห์แบ่งปันข้อมูลนะ ที่กูไม่อยากให้มันช่วยเพราะมันกวาดทำทุกอย่างในด้านนี้มาตลอดจนคนอื่นไม่ได้ทำ กูกล้าพูดเลยว่าแย่งเพราะตอนนึงที่มันไม่อยู่แล้วคนอื่นมาทำงานกูก็นึกว่าให้คนอื่นทำบ้าง แม่งตอบว่าถ้าตัวเองอยู่มันไม่ให้คนอื่นทำหรอก ไหนจะเคยทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มเพราะไปจำจี้จำไชเค้าอีก ถ้าไม่เห็นภาพลองนึกดูว่ามึงเก่งอะไรซักอย่างเช่นวาดรูปแล้วมึงทะนงตัวอ่ะ คนอื่นเยอะแยะอยากทำไม่ได้ทำเพราะมึงชิงทำแทนคนอื่นหมด คนอื่นคิดยังไงมึงก็คิดว่ามันต้องออกมาแบบนี้เพราะตัวเองประสบการณ์เยอะกว่า
แค่มึงเห็นว่ากูเอามาด่ามึงก็ย้อนกูว่าอีโก้สูงแล้ว กูเอามาบ่นเพราะกูอึดอัด ละงานอาสาอ่ะ มันเป็นงานของกูที่ดีลกับคนอื่นแล้วว่ากูเอาอยู่ ปฏิเสธไปแล้วว่าทำเองได้ไม่เป็นไร มันก็ตื๊อจะไปด้วยกลัวไม่ไหว ถ้าบอกตั้งแต่แรกว่างานที่กูทำคืออะไรมึงอาจจะเข้าใจ แต่กูเลี่ยงกันโม่งแตกดิสัส เป็นงานฝีมือแต่วันนั้นกูไปทำอาสาฟรี ละที่มึงบอกว่ามาบ่นแล้วโดนด่าเองก็เรื่องของมึงละกันทำยังกับว่าทั้งโม่งด่ากูทั้งที่ก็มีแค่มึง เข้าใจแค่มุมคนทำแต่ไม่เข้าใจมุมคนโดนมึงก็ควายเช่นกัน กูบอกตอนไหนว่ามีความรู้เฉพาะทางสูงแล้วอีโก้จะสูง มันแล้วแต่คนแต่ที่กูโดนมามันใช่ ก็แค่นั้น
เพิ่งรู้ความลับของเพื่อนสนิทมา เพื่อนคนนี้ไม่รู้ความจริง มีแต่พ่อแม่กับญาติเค้าสองสามคนที่รู้ว่าเพื่อนกูเป็นลูกเก็บมาเลี้ยง ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ถ้าเพื่อนกูมารู้จะรู้สึกยังไงวะ
แม่งกุเจอคนที่เล่นเกมเหมือนกับกุว่ะ ไม่กล้าคุยอะไรกับเขาเพราะเขาเป็นคนต่างชาติ แต่กุรู้แหละเขาก็มาส่องเฟสส่วนตัวเหมือนกัน(ตอนที่รู้ว่าเขาส่องกุก็ส่อง เขาทำท่าอึ้งหน่อยๆ กุงงเลย555555)
มึง กูไม่รู้จริงๆว่ะว่ากูทำอะไร ตั้งแต่ก่อนปิดเทอมมาก็ไม่มีมาโดยตลอด ปิดเทอมก็คุยดิส แต่อยู่ๆพอมาตอนนี้เพื่อนกูก็เมินกู กูชวนคุยอะไรก็ไม่คุยไม่พูดไม่จาหมดเลย แต่ยังตอบทุกคนอยู่ แต่ยังมากดรีแอคดพสต์กูอยู่นะ มึงว่างงมั้ย กูก็งง ตกลงมันงอนรึอะไรวะ ไม่ได้เจอหน้ากันเลยจะเรื่องอะไรวะ กูพยายามย้อนคิดว่าพูดอะไรผิดไปเหรอ ก็ไม่มีตรงไหนที่พอจะเข้าใจไปทางไม่พอใจได้เลยว่ะ
มีเกมไหนหาเพื่อนคุยได้ปะ ที่ไม่ใช่แนวfps
มามหาลัยตัวคนเดียวไม่มีเพื่อน(เคยมีเพื่อนเป็นคนดังแต่ว่าแตกกันไปแล้วและนั่นทำให้ไม่มีกลุ่มอยู่) เวลาจะทำงานกลุ่ม/คู่ยากมาก ควรทำยังไงดี
>>500 คนข้างๆ ซ้ายขวาหน้าหลังอ่ะ ถ้าไม่มีก้บอกจาร หรือกรุ้ปแชทคลาส ว่าไม่มีทีมใครมีที่ว่างมั้ย ห้องเรียนมันบังคับทำงานกลุ่มแปลว่าเค้ากำหนดแล้วว่าคนจำนวนเท่านี้ต่อเชคมันทำได้กี่กลุ่มไม่มีเศษหรอกมึง ไปถามเลยเน้นไวเข้าไว้ ช้าอืดอาดโดนคนอื่นคาบไปแดก แล้วจะเหลือแต่พวกเศษๆ แล้วจะเซ็ง
เพื่อนมาเล่าให้ฟังว่าแฟนมันงอนอะไรไม่รู้ แต่มันก็ของ้อขอตื้อเขาจนกว่าจะหาย
กูดูทรงแล้ว แฟนมันรู้ตัวนะว่าตัวเองงี่เง่าแต่ก็ไม่ยอมหายงอนเพื่อนกูสักที กูไม่รู้จะปลอบเพื่อนยังไงล่ะ
เพื่อน (เคย) สนิท กำลังจะแต่งงาน แล้วไม่เชิญกู ถึงหลังๆจะต่างคนต่างยุ่งจนไม่ค่อยได้คุยกัน
แต่ก็รู้สึกว่าอีเว้นต์สำคัญๆในชีวิตแบบนี้อย่างน้อยก็น่าจะเชิญกันหน่อยรึเปล่าวะ
กูงี่เง่ามากเลย หวงเพื่อนมาก เพราะเพื่อนแต่ละคนสำคัญกับกูมาก ช่วยให้กูผ่านช่วงเวลาเหี้ยๆมาได้ กว่ากูจะคัดแต่ละคนมาเป็นคนที่กูไว้ใจที่สุดมันใช้เวลานานมาก เวลาเพื่อนมีเพื่อนใหม่กูก็เริ่มรู้สึกไม่ดีละ แต่ถ้าเพื่อนใหม่ของเพื่อนเข้ากับกูได้กูก็โอเค เวลาแอบเห็นว่าเพื่อนตั้งแชทกลุ่มที่ไม่มีกู กูก็นอยด์ พอตอนนี้เพื่อนจะมีแฟน กูก็กลัวกูจะไม่สำคัญเหมือนเดิม กลัวโดนทิ้ง กูควรเฟดออกมาจากชีวิตเขาใช่ไหม กูไม่อยากให้เขาtoxicเลย (กูไม่เคยแสดงอาการไปว่าหวงเพื่อน มีบ้างทีงอนบ้างแต่ก็ไม่บอกสาเหตุแล้วกูก็หายเอง แต่กูรู้สึกแย่ที่ต้องรู้สึกแบบนี้ แต่กูก็ยังอยากมีเพื่อนเป็นพวกมันอยู่ กูควรทำไงวะ)
อยู่ๆเพื่อนเด็กเนิร์ดก็ตึงใส่กูว่ะ สงสัยมันจับได้ว่ากูโดดเรียนแล้วมาชตอ แน่ๆ
คบคนมีปัญหาทางจิตบางทีกูก้เหนื่อย ตั้งแต่มันมีปัญหาคนรอบตัวก้ไม่ชอบเยอะแล้วหมกตัวอยู่ในเน็ต กูเป็นคนใจเย็นมีระเบียบเลยพออยู่ด้วยได้แบบพยายามไม่ทำให้แม่งหนักไปมากกว่านี้ จนวันนึงมันมาลงที่กูเพราะจิตใจไม่คงที่คิดแง่ลบถึงขั้นระรานจนเดือดร้อนกูก้ต้องเซฟตัวเองมั่ง แต่เสียดายจากที่อยู่ข้างมันมานานต้องมาพังเพราะอารมณ์มันวันเดียว กูจะกอบกู้มันยังไงดีลงเหวไปขนาดนี้เหมือนช่วยยังไงก็ไม่ได้เลย
ใครมีเพื่อนกะเทยบ้างวะ กูอยากรู้ว่าทำไมเวลากะเทยเวลาเห็นคนคล้ำๆที่ไม่ชอบแล้วชอบไล่ไปอาบน้ำ ไม่ก็บอกว่าเป็นภาพที่มีกลิ่น กูว่าบางคนก็ไม่ได้ดูสกปรกนะแค่ไม่ได้ขาว
>>511 อันนี้ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นกะเทยรึเปล่าหรอก เพราะกูเองก็เป็นว่ะ
เวลาเดินไปเจอคนคล้ำๆ กว่าครึ่งกูจะได้กลิ่นตัวอีกฝ่ายลอยโชยมาไกลเลยตั้งแต่ยังเข้าระยะ และเป็นกลิ่นที่กูไม่ชอบเลยด้วย ซึ่งสัมผัสนี่ก็ไม่ได้เป็นทุกคนนะ ลูกจ้างที่บ้านกูทั้งแม่บ้านและคนขับรถกูก็ผิวคล้ำแต่ก็ไม่ได้กลิ่น มันเลยดูเหมือนจะเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดมากกว่า
แต่อย่างน้อยกูก็ไม่เคยไล่เขาไปอาบน้ำนะ แค่ทำหน้าเหย่เกยแล้วเดินหนี เพราะกลิ่นที่สัมผัสได้มันแรงมาก
ไม่รู้คิดมากไปเองมั้ย แต่เวลาหาคนหาร netflix spotify กับเพื่อน แล้วเพื่อนสนิทรอบตัวทุกคนบอกเหมือนกันหมดคือ มีคนหารแล้ว เต็มแล้ว หรือะไรก็ตามแล้วมันรู้สึกนอยๆอะ เหมือนถูกทิ้ง ทั้งๆที่จริงๆมันก็ไม่มีอะไรเลย เบื่อตัวเองหวะ
กูรำคาญเพื่อนคนญี่ปุ่นคนนึงมากเลย 555 iรำคาญนิสัย อยากเลิกคบ แต่ก็เลิกคบไม่ได้ซะทีเพราะนางดันรสนิยมคล้ายกูมาก เวลากูแนะนำการ์ตูนหรือซีรีส์อะไรไป นางจะตามไปเก็บหมด แล้วมากรี๊ดกับกูว่าชอบมากสนุกมากแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งกูหาเพื่อนแบบนี้ยากเพราะปกติเพื่อนชอบไม่ค่อยเหมือนกู 555555555 ก็เลยคบนางแบบหงุดหงิดๆ ต่อไป งงตัวเอง 55555555
กูไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกกีดกันออกจากกลุ่มหลังจากมีเพื่อนใหม่เข้ามาในกลุ่ม หรือกูควรจะออกไปเองดีวะ ไม่ต้องรอให้เขาไล่ มันอึดอัดเหมือนไม่ใช่ที่ของเราถึงแม้ว่าเราจะมาก่อนก็ตาม
คนที่เอากูไปพูดแย่ๆจนเพื่อนทั้งกลุ่มไม่คบชอบทักมาคุยชวนเล่นเกม คือมันเป็นเหี้ยไร คิดว่ากูโง่จนไม่มีใครเอามาเล่าเหรอว่ามึงปากสว่าง
กูมีเพื่อนคนนึงชอบตามน้ำไปเรื่อย พอมันลับหลับ ก็เอาเรื่องของกูไปนินทาให้คนอื่นฟัง แต่ตอนนี้กูตัดไปละ ถึงคบไปก็เจอแต่เรื่องประสาทแดก ทอกสิกใส่ ดีไม่ดีคบกับคนที่กูเกลียดอีก
เคยหนักหน่วงจากบ้านเลยมาร้องไห้ที่โรงอาหาร
เพื่อนไม่สนใจนั่งแลกจอดูติ้กต่อกกันจนออดเข้าเรียนดัง กูก็ลุกไปล้างหน้าเอง หายเอง
วินาทีนั้นกูตรัสรู้ แม่งไม่ใช่เพื่อน
โดนบอกชอบเล่นๆ ในวัย20+ กูควรรู้สึกยังไงวะ หรือเขาแค่เล่นไปงั้นๆ
เรื่องแบบย่อๆคือกูถูกไล่ไม่ให้มามีส่วนร่วมในงานตลอดเลยว่ะ เหมือนเป็นการแบ่งแยกแบบอ้อมๆ ตั้งแต่ที่กูถูกเพื่อนเก่าเทไปมีเพื่อนใหม่เพราะเพื่อนใหม่คนนั้นไม่ชอบกู ก็เริ่มมีข่าวลือของกูขึ้นมาเต็มไปหมด แล้วทุกครั้งที่มีงานกลุ่ม ที่ต้องมีกูเนื่องจากว่าจำนวนคนมันต้องมีกูในนั้นพอดี บรรยากาศก็ค่อนข้างที่จะแย่มากๆเลยว่ะจนกระทั่งวันนี้ที่กูพยายามจะช่วยเพราะต้องการกำจัดข่าวลือว่าฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวและชอบเกาะเพื่อนเก่าจนเพื่อนเก่าทิ้งไป(ที่ไหนได้มันเป็นคนเทก่อนเพราะบอกว่ากูไม่ชอบอะไรเหมือนมัน เช่นมันติ่งเกาหลีติ่งนักร้องคนนั้นคนนี้ ปลื้มรุ่นพี่คนนั้นคนนี้แต่กูไม่) แต่ว่ากลับโดนปาถังใส่ว่ะ... แล้วบอกว่าอย่ามารู้ดี รู้เหรอว่าควรไม่ควรทำอะไร ออกไปไหนก็ไป แล้วเย็นวันนั้นมันก็โพสต์ด่ากูว่ะ...กูควรทำไงดี
เบื่อคนที่แม่งชอบพูดจาแซะปกาหมาชิบหาย รือมึงโตๆแล้ว จะ30แล้ว แท่งแซะเป็นเด็กมต้น ไม่ทีมารยาทชิบหาย คือไม่รู้ที่ทําตัวเหี้ยกับกูเพราะแม่งดูถูกกูรึเปล่านะ สิ่งที่กูทําได้ก็คือตอบปัดๆไป ไม่บ่นให้ใครฟังเพราะโตแล้วไม่อยากมีดราม่าปัญญาอ่อนอะไร แต่เอาจริงๆลึกๆก็เหนื่อยใจอ่ะ 55
สิ่งที่กูทําได้ก็ตั้งใจทําวานต่อไปให้ชีวิตกูดีขึ้นกว่ามันเป็นการแก้แค้นละกัน มึงทําได้นะเว้ย ไอนั้นมันควายจะตายไป อย่าเพิ่งท้อ มึงวิ่งนําไปอีกมึงก็จะพ้นมันแล้ว
ใจจริงอยากต่อยหน้าหน้าแม่ง ไอห่านเอ้ยยยยยยยย อกทนไว้กู นิ่งไว้ อ่าคคกรยหยไหยหยหยหยหย
คือกุนินทาเพื่อนในกลุ่มกับเพื่อนสนิทคนนึงแล้วมันก็นินทากับกุด้วยจนวันนี้เพื่อนในกลุ่มรุ้ว่ากุนินทา ซึ่งก็คงรู้จากมันแน่ๆเพราะกุนินทากับมันด้วย กุขอโทษเพื่อนแต่กุก้ยังรู้สึกแย่กับเพื่อนมากๆตอนนี้ กุควรทำไงดี
>>532 มึงจะซํ้ารอยทําไมหล่ะ ถ้าอยากออกจากวงจรอุบาทก็หยุดซะ มึงไม่ต้องไปแก้ตัวหรือไปใส่ไฟเถอะนะ มันไม่ได้ช่วยให้มึงดูดีขึ้น แต่มึงจะดูเหี้ยกว่าเดิม อะไรที่ผ่านมาแล้วก็แล้วไป ทําไรไม่ได้ ยอมรับชะตากรรม เลิกนินทาเพื่อนหรือนินทาชาวบ้าน มึงproofจากการกระทํามึงเอง แล้วต่อไปคนจะกลับมาเชื่อใจมึง
ไปขอโทษเพื่อนมึงด้วยนะ แคร์ความรู้สึกเพื่อนบ้าง ส่วนไอเหี้ยนั้นก็ปล่อยมันไป จะไปแคร์ทําเหี้ยไร เสียเวลา
แนะนำเรื่องนินทา ถ้าไม่ได้เกลียดขนาดจะตัดเพื่อน อย่าใส่เยอะ
ให้คนอื่นนำไป มึงก็พูดราวๆ จริงๆ xxx ก็คนดีนะ แค่ yyy หน่อยๆ
ย้ำไปด้วย ว่าไม่ได้เกลียด หรือว่าเลวร้าย แค่ yyy
จะว่านินทามั้ยก็นินทาแหละ แต่ก็ข้อเสียมันจริงๆ ไง ดูไม่แรงด้วย ได้ระบายด้วย
บางเรื่องแม่งก็สันดานมันเองแต่พอไปเล่าให้เพื่อนอีกคนก็เรียกว่านินทาละ กูเฉยๆถ้าเป็นเรื่องจริงไม่ได้เติมแต่ง แต่กลายเป็นกูผิดตลอดก็ปล่อยพวกเหี้ยอยู่ด้วยกันไปแล้วกัน
แค่จะมาหวีดความโชคดีของกุที่มีเพื่อนรอบข้างดีเฉยๆ หรือเพื่อนของคนอื่นปกติก็เป็นงี้แต่เพราะกุอยู่สังคมรร.บ้านนอกมานานวะเลยดีใจ ปกติกุคิดว่าตัวเองหน้าตาเหี้ยมาตลอดไม่ได้สวยเหมือนคนอื่น ขาวก็จริงแต่หน้าบ้านๆจนเจอเพื่อนในกลุ่มที่สายแต่งหน้ากันทั้งนั้นช่วยกันสอนกุแต่ง กุทำอะไรไม่เป็นก็สอน กุไปรร.ปากซีดๆก็จับทาให้กุด้วยซ้ำ ตอนกุลองแต่งเองนั่นแหละถึงเพิ่งจะเริ่มมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาว่าหน้ากุก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ แต่กุแค่ไม่รู้จักแต่งหน้า กับไม่มีความกล้าที่จะลองแต่งตัวหลายๆแนว เพราะอยู่กับที่รร.เก่าแค่มึงดัดขนตาไปเรียนก็สามารถโดนแซะได้แล้วว่าดัดจริต
พวกเพื่อนกูแม่งชอบนัดกินเลี้ยงช่วงวันปีใหม่ซึ่งกูแม่งก็จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไงเลยปฏิเสฐไปทุกๆปีคือจะนัดช่วงอื่นก็ได้นะ แล้วก็มาด่ากูไม่มีเวลาให้เพื่อนเลยหรอวะทิ้งเพื่อน ไอ้สัตกูแค่อย่างจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่นี่ผิดมากเลยหรอวะ เฮ้อทำไมกูต้องโดนทำเหมือนคนทิ้งเพื่อนเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้วะช่างแม่งมันละกัน
บางทีเพื่อนอยู่ๆก็ตึงใส่กูแบบงงๆอ่ะ วันต่อมาก็มาพูดดีเฉย บางทีก็พูดแบบหงุดหงิดใส่ เหมือนโกรธอะไรซักอย่างแล้วมาพาลใส่กูแล้วก็หายเองวนไป กูควรทำไงต่อไปดี
ปกติป่าววะ เวลาคุยกับเพื่อนเก่าๆที่ไม่ได้เจอมานานมันจะมวนท้อง จะอ้วก ใจสั่น เครียด แล้วเกิดอาการวิตกขึ้นมา
ก็ไม่ใช่ความผิดของเพื่อนหรอก แต่กุจะสติแตกอยู่แล้ว จะทำอะไรก็กังวลไปหมดว่ามีใครมองอยู่หรือป่าว เพื่อนมันจะรู้ไหม ที่กุพิมพ์โม่งอยู่ตอนนี้เพื่อนกำลังอ่านอยู่หรือเปล่า ที่กุพิมพ์แชทไปกุเผลอไม่ได้ล็อคอินออกจากเครื่องใครแล้วมันได้อ่านอยู่ไหม
ไม่ค่อยมีเพื่อนในมหาลัยเลย หรือว่าเราไม่น่าคบวะ
กุทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มคนนึงเลยไม่คุยกันทีนี้เหมือนเพื่อนคนอื่นในกลุ่มไบแอสมันมากกว่าเวลาเรียนหรือไปไหนก็จะอยู่กับมันกุควรทนอยู่ในกลุ่มหรือออกมาดี
การที่เราเฟดตัวออกมาจากกลุ่มแล้วเราจะกลับเข้าไปอยุ่ใหม่มันทำได้ป่ะวะแล้วมันจะแปลกๆไหม
เพื่อนจริงๆนะ ไม่มีการเข้ากลุ่มออกกลุ่ม ปญอ กันหรอกนะ แต่ความเป็นเพื่อนมันเป็นจนกว่าความตายมาแยกเราออกจากกัน แบบเข้าออกกลุ่มได้ ไม่เรียกว่าเพื่อนหรอกนะ
เพื่อนคิดว่ายังสนิทกันทั้งที่จริงๆ มันไม่เคยขอโทษกับกูตรงๆมีแต่ฝากคนอื่นมา เรื่องมันใหญ่มากแต่ฝากมา"แค่ขอโทษนะ" กูมองบน รู้ตัวยังว่าทำไมกูคุยห่างเหิน เลิกเหลิงว่าสนิทกับกูเถอะ เอาเรื่องส่วนตัวกูไปด่าลับหลัง กูไม่น่าช่วยค่าข้าวมึงเลย เหงาก็รอเมียออนรอเพื่อนกลับบ้าน อย่ามายุ่งกับกู หัดขอโทษกูดีๆซะว่าทำอะไรมาบ้าง
มีวิธีเข้าหาเพื่อนเพื่อนกลุ่มที่เขาสนิทด้วยกันอยู่แล้วไหมคือกุอยากเข้าไปอยู่ด้วยแต่ไม่รู้จะทำไงดี
ตอนแรกกูมีกลุ่มเพื่อนเล็กๆไม่ใหญ่มากที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่คนอื่นจะมาแจมบ้างตามโอกาส ซึ่งกูก็แฮปปี้นะได้คุยกับหลายๆคน ประเด็นคือมีเพื่อนคนนึงขอแทนว่า A ตอนแรกAก็มาๆไปๆเหมือนคนอื่นแหละ กูก็ไม่ได้อะไร แต่หลังๆเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้นจนกลายเป็นว่ากลายเป็นกลุ่มเดียวกัน ในเวลาเดียวกันก็มี B ไปไหนมาไหนด้วยกันเพิ่มด้วย แต่พอสนิทกันมากๆกูอึดอัด+ไม่สบายใจยังไงไม่รู้กับ A อะ คือมันไม่ได้มีนิสัยแย่นะ แต่กูแค่รู้สึกว่าตอนห่างกันกว่านี้มันโอเคกว่า ในขณะที่กับ B กูไม่อึดอัดเลย อยู่ด้วยละสบายใจ ซึ่งกูก็ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนกลุ่มเดิมก่อน A/B คิดยังไงเพราะกูไม่กล้าถามอะ แล้วคือบังเอิญว่ากูมีหนังที่อยากดูเลยจะไปดูกับเพื่อนตอนเย็นแต่มันไม่ว่างแล้วคนอื่นก็ไม่ว่าง กูเลยพูดว่าเออเนี่ยเสียดาย อยากดู แต่รอลงสตรีมก็ได้ A ก็ถามว่ามีอะไร กูเลยบอกว่าเย็นนี้ตอนแรกจะไปดูหนัง Aก็บอกประมาณว่าเออไปได้นะ แต่ถ้าไปคือน่าจะไปสองคนซึ่งกูคงจะอึดอัดแน่ๆอะ เลยโกหกไปว่ามีนัดทำงาน ตอนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันกูอึดอัดมากแต่จะพูดก็ไม่ได้ไอเหี้ยยย ใครมีทางออกดีๆมั้ยมึง
ปล. กูผญ เค้าผช ซึ่งที่ผ่านมากูก็ไม่ได้รู้สึกสนิทใจกับผชทุกคน แต่กูมีเพื่อนสนิทผู้ชายนะ ซึ่งกับเพื่อนสนิทผู้ชายกูคือไม่เคยมีอะไรแบบนี้เลย สนิทกันแบบไม่มีใครต้องพยายามอะมึง อยู่ด้วยละสบายใจคุยได้ทุกเรื่องแม้ว่าจะเป็นเรื่องเหี้ยๆก็เถอะ ส่วนคนที่อยู่ด้วยกันละอึดอัดมันห่างกันไปเอง แต่คนนี้มันไม่ห่างกูไปซักที
อันนี้กูสงสัยนะ เห็นเด็กมัธยมเดี๋ยวนี้ทำคอนเท้นแนวๆเรื่องเซ้กเยอะมาก เปิดเผยมากๆว่าไม่ซิงแล้วนะอะไรงี้ กูก็ไม่ได้มองว่ามันแปลกหรอก ยิ่งวัยเนี้ยวัยเงียนเลย แต่สมัยกูยังอยู่มัธยม(ซึ่งก็ไม่ได้นาน 3-4 ปีแล้วเอง) เรื่องพวกนี้คือเหยียบกันมิดมากๆ เคยมีข่าวลือว่าเพื่อนร่วมชั้นกูคนนึงมีอะไรกับเด็กมอสาม แม่งกลายเป็นเรื่องดังของรร.ไปเลย ทุกคนอึ้งว่าวัยนี้เสียซิงแล้วหรอ ซุบซิบนินทากันไปเป็นเดือน แต่พอมาเทียบกับเด็กมัธยมเดี๋ยวนี้มันดูซอฟไปเลยอะ5555 หรือมันเป็นแบบนี้มานานแล้วแต่กูเพิ่งเปิดโลกวะ
กุทำอะไรผิดวะ กุยอมลงให้เพื่อนตลอดเพราะเห็นเป็นเพื่อนกัน พยายามใส่ใจเทคแคร์ เพื่อนถามอะไรก็คอยออกความคิดเห็น แต่สิ่งได้คือเพื่อนไม่แคร์ ไม่ใส่ใจ ไม่เห็นอยู่ในสายตา เสนอไรไปก็เหมือนคุยกับอากาศ คุยไรด้วยก็ถามคำตอบคำแล้วหันไปคุยกับเพื่อนคนอื่น ไม่ใส่ใจเราขนาดนั้น เหมือนเราเป็นของตาย คือกุพยายามเทคแคร์พยายามใส่ใจมึงอยู่ไง เพื่อนกันมันก็ควรทำแบบนี้ไม่ใช่หรอสนับสนุนเพื่อนเวลาเพื่อนทำอะไร ให้ความเห็นเพื่อนไม่ปล่อยเพื่อนถามกับอากาศให้เฟล เดี๋ยวเพื่อนขาดความมั่นใจ เวลาเพื่อนพูดอะไรก็คอยฟังให้ดีๆเพราะเราเองเวลาพูดแล้วโดนพูดแทรกหรือเมินยังรู้สึกเฟลเลย กุทำผิดใช่ไหม เพราะกุลงให้มากไปหรอ กุดูเป็นของตายเพื่อนเลยไม่ใส่ใจเหมือนที่กุใส่ใจเพื่อนหรอ
อยากขึ้นเพื่อนแล้วไม่เสียเพื่อนต้องทำยังไงวะ
เพือนผญที่เป็นเพื่อนกูและแฟนกู บอกคิดถึงแบบเพื่อน แล้วแฟนกูหึง และเลิกคบกับเพื่อนผญคนนั้นเลย มันดูปสดไปปะวะ
ผิดมั้ยถ้าอยากเลิกคบเพื่อนคนนึงเพราะกูฝันเมื่อคืนว่าเค้าเกลียดกู นินทากูลับหลัง เยอะเย้ยกู และกูเป็นคนเดียวที่เค้าเกลียดคนอื่นเค้าชอบหมดเลยแม้แต่คนที่ไม่สนิทในความจริง แบบไม่รู้ดิ ในฝันนั้นคือเค้าทำตัวปั่นหัวกูแบบทำดีสลับกับเมินในสถาณการ์ณที่มีเหตุผลที่ดีพอในการแก้ตัวตลอดแล้วกูมารู้ค.จริงทีหลังจากปากคนอื่น ซึ่งช่วงนี้เค้าก็ชอบทำตัวแปลกๆใส่กูประจำแต่ก็เหมือนจะไม่แปลก(แต่มันเป็นเมนส์อยู่) แล้วกูก็รู้สึกเสียวๆละเพราะฝันคือจิตใต้สำนึก แล้วอะไรล่ะที่ทำให้กูเอาไปฝันแบบนั้น? เพราะคิดไปเองหมดเลยเหรอ...มีใครมีคำอธิบายได้ไหม หรือว่าจริงๆแล้วกูเองนี่แหละที่เกลียดเขาลึกๆ
กุเป็นนีท กุอยากมีเพื่อน จะหาเพื่อนได้จากไหนอ่ะโม่ง แบบเพื่อนกุ 0 เลย
อีฝ้าย ให้มันน้อยๆหน่อย
อีหลินมึงเลิกสันดานนินทาเพื่อนตัวเองให้พ่อกับผัวมึงฟังยัง
อีเป้ อีสัส
อีเนโกะ ถ้ากูรู้ว่าเลิกคบกับมึงแล้วสุขภาพจิตกูดีขึ้นขนาดนี้กูเลิกคบนานละ
มึงเกณฑ์ทหารอะ วันแรกกะวันสุดท้ายอันไหนโอกาสโดนเยอะกว่ากันวะ ชื่อกูศ.ด้วย
ขอวิธีตัดเพื่อนที่เคยดีกันมากๆ ไม่ยุ่ง ไม่พูด ไม่คุย ไม่มอง ไม่แคร์ ทำยังไงให้ใจแข็งพอที่จะทำแบบนั้นได้ ต้องคิดอะไรในหัว
>>574 อย่าหาว่ากูละลาบละล้วงนะ ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นถึงต้องขั้นต้องตัดคนที่ดีคนนึงไป
กูก็เคยตัดเพื่อนที่ดีไปมันอาจจะไม่ดีที่สุดแบบ ว้าวว เหี้ยยย อะไรขนาดนั้นนะ แต่มันก็ไม่เคยเอาเปรียบในเรื่องผลประโยชน์กูแบบคนอื่นอ่ะ แต่กูต้องตัดแม่งเพราะแม่งไม่มีกาลเทศะ ทำตัวเหมือนคนที่บ้านไม่สอน ไม่เคยคิดเลยว่าจากที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน คุยกันบ่อยๆ ผ่านอะไรมาก็เยอะ พอถึงคราวที่จะตัดก็ต้องตัดแหละ แรกๆที่กูตัดไปกูเศร้าเป็นเดือน เศร้าหนักกว่าตอนเลิกกับผัวอีก แต่วันนึงมันจะดีขึ้นมากเชื่อกู
เล่าเรื่องรุ่นพี่มหาลัยคนนึงได้ปะคืออันนี้เเม่งเหี้ยจัด เรื่องเกิดขึ้นหลายปีเเต่กูเก็บกดมาก
คือมันมีอยู่ช่วงนึงไปทำงานโปรเจคร่วมบ้านมัน เเล้วก่อนถึงบ้านเเวะตลาด กูกับเพื่อนออกจากรถไปซื้อของกินส่วนมันกับเพื่อนกู(ที่เข้ามหาลัยมาก่อนกูเลยอยู่ในฐานะรุ่นพี่)ก็อยู่ในรถ ตอนนั้นใว้ใจฝากมือถือเอาใว้เเล้วไม่ได้ตั้งรหัสล็อคมือถือ พอกูกลับมาเเม่งเปิดมือถือกูดูรูปสาวๆเเต่งตัวกามๆในเฟสที่กูเซฟใว้ว่าวยามหงี่อยู่ กูสตั้นเลยไอ้เหี้ยได้หรอวะ เอามือถือคนอื่นมาเปิดดูของส่วนตัวข้างในเเบบนี้ พอมันเห็นกูมันก็คืนให้เเล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหี้ยสัสอะ คือเอาตรงๆนะผชเซฟรูปหรือคลิปล่อเเหลมผญใว้ว่าวมันปกติมาก เเต่มันคือพื้นที่ส่วนบุคคลไงมึงอย่าเสือก เเต่มันรู้สึกน่าอายเเปลกๆเวลาคนอื่นมาค้นเจอกูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
เอาเป็นว่านิสัยเเม่งเหี้ย มึงให้เท่าไหร่เต็ม100วะโม่ง
เพื่อนโม่งช่วยด้วย มันเป็นที่ตัวกุเองรึเปล่าวะ ตอนมีเพื่อนกุไม่ได้เก็บอะไรมาคิดมากเท่าไหร่เรื่องพูดเล่นหยอกล้อแรงๆ กุเป็นพวกไม่ได้อะไรมาก ปล่อยๆไปเพราะมันไม่ได้ทำให้กุรู้สึกแย่เท่าไหร่ แต่พอรู้จักกันไปนานๆคนที่พูดดีๆกับกุก็ชอบพูดแนวจิกกัดแรงๆซึ่งก็มองว่าตลกได้แหละ dark humor อะไรทำนองนั้น แล้วนิสัยส่วนตัวกุมันค่อนข้างมึนงงเข้าใจอะไรยาก บางทีก็ชอบโดนว่าบ่อยๆ แต่กุก็ไม่ได้เอามาเป็นประเด็นทะเลาะนะ
เหมือนกุกลายเป็นตัวโดนในกลุ่มอะ ทำอะไรก็โดนว่าโดนแกล้งด่า พูดอะไรก็ชอบดุกู มันทำไมวะความเกรงใจไม่มีเลยเหรอ เห็นกุใจดีไม่อะไรเลยจะพูดอะไรก็ได้เหรอ คือกุพยายามรักษาความเป็นเพื่อนไม่อยากเอาอะไรพวกนี้มาพูดเป็นประเด็นแต่โดนบ่อยๆแม่งก็รำคาญว่ะ กุเปลี่ยนเพื่อนมาคิดว่ากลุ่มนี้จะไม่ใช่แต่แม่งก็ทำตัวเหมือนกลุ่มเก่ากุขึ้นเรื่อยๆ หรือการวางตัวกุไม่ดีวะเพื่อนโม่ง
หรือกุควรทำตัวเหมือนเพื่อนที่ทุกคนในกลุ่มเกรงใจที่ทำตัวแรงๆไม่พอใจใครก็ว่าเลยงี้เหรอ ปกติกุไม่เคยทำแบบนั้นเลยถ้ากุไม่พอใจกุก็แค่เฟดตัวออกมาจากคนนั้น
>>581 1 เพื่อนมีงเหี้ย 2 มึงขี้เกรงใจเกินอยู่ในสังคมเหี้ยก็โดนเอาเปรียบโดนกด
กูเคยเป็นแบบมึง กูจะคอยเล่นคอยเป็นตัวโจ๊ก คนจะไม่เกรงใจ คนไม่รู้จักยังมาพิเรนทร์ใส่ บางครั้งกูเลยเงียบใส่แล้วมองหน้าแม่วตรงๆแบบพร้อมใส่ แต่มาดกูดุอยู่แล้วคนเลยเกรงใจแทน แต่มึงก็ต้องชั่วนํ้าหนักว่าอะไรควรทําไมาควนทําตอนไหน หยิ่งแอคมากๆเดี๋ยวคนก็เกลียดอีก มึงfigured outเองละกันกูขกเขียน ส่วนเพื่อนเหี้ยนี่ก็เก็บคบๆไปเหอะ คนเรามีทั้งดีและไม่ดี มึงแค่ปรับบุคลิกตัวเองทําไงก็ได้ให้เพื่อนล้อน้อยลงก็พอ มึงจะได้สบายใจ หรือไม่ก็กวนตรีนทําแบบแม่งกลับใส่ไปเลย
อยากระบายเรื่องไร้สาระเล่นๆ กูงี่เง่าดี แข่งเป็นคู่ เป็นการแข่งที่ใหญ่ระดับนึง กูแข่งคู่กับเพื่อนแล้วได้รางวัลชนะอันดับ1 แต่กูเป็นได้แค่ตัวซัพพอร์ตเพื่อน คนทำงานจริงๆคือเพื่อน ผลงานที่ออกมา80-90เปอร์เซ็นต์คือเพื่อนกูทำ กูทำได้แค่ออกความคิดเห็นกับช่วยอำนวยความสะดวกนิดๆหน่อยๆ เพราะถึงจะแข่งเป็นทีมแต่ทำจริงๆอ่ะทำได้แค่คนเดียว กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าอย่างงั้นจะจัดให้แข่งคู่ทำไมทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่างานมันทำได้แค่คนเดียว แล้วพอผลออกมา กูร้องไห้หนักมากๆ ไม่ได้ร้องไห้ดีใจที่ได้ที่1 แต่ร้องไห้เพราะตัวเองไม่มีประโยชน์เลย ไม่ได้ฉายแสงเลย เหมือนตัวประกอบเอาไปประดับ ทั้งๆที่ตกลงกันไว้แต่แรกว่าใครจะเป็นคนทำ แต่ก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดีที่ตัวเองไร้ประโยชน์จัดๆ ไม่ได้มีความสามารถอะไร ไม่ได้เก่งอย่างที่ตัวเองคิด
โดนเพื่อนบอกว่ากุเป็นคนเหี้ย เพราะกุคบๆเลิกๆกับผญ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ยาว
แรกๆก็เก็บเอาไปคิด หลังๆเจอบ่อยๆ แถมมันเอาไปพูดกับเพื่อนคนอื่น กุก็เริ่มปลีกตัวละ
อยู่กับแม่งอย่างอื่นก็ดี ยกเว้นนิสัยที่ชอบพูดถึงคู่คนอื่น ว่าคู่นี้ไปกันรอด/ไม่รอด คนไหนเหมาะสมกัน
ชีวิตคู่เมิงดีมากเลยนะ สงสารแฟนแม่งที่ทำอะไรไม่ได้แล้วโดนชักจูงทางความคิดตลอด แต่ก็เรื่องของเจ้าตัง
ตอนแรกก็นึกว่ากุคิดอยู่คนเดียว จนได้คุยกับเพื่อนคนอื่นๆก็มีความเห็นเดียวกันว่าแม่งท๊อคซิก
ถามโม่งหญิงที่มีเพื่อนหญิง สาระนะ...คือเคยจูบปากเพื่อนกันปะแบบต่างคนต่างเหงาอะเวลากูกอดมันตอนนอนมันก็ไม่ว่าไรอะก๔กลัวเผลอทำมากกว่านั้นอะ
กูเหมือนเป็นพวก attention whore อ่ะ คืออยากให้คนอื่นมาสนใจ อยากเป็นวงใน อยากสนิทสนมกับทุกๆคน มีแต่คนรัก คนเอ็นดู กูก็เลยทำตัวไนซ์กับทุกคน เป็นคนสดใสร่าเริง ยิ้มง่าย และพูดแต่เรื่องดีๆ แต่กุไม่ใช่คนตลกโปกฮาขนาดนั้นเลยไม่ค่อยป๊อปเท่าไหร่ แต่กุก็พยายามเพื่อให้อยู่ในทุกสังคมได้
กูพยายามเอาตัวเข้าไปในทุกกิจกรรม ชวนทุกคนคุย ทุกคนคุยดีกับกูนะ บางคนชอบกู แต่บางคนก็ดูเหมือนมีช่องว่างแปลกๆที่จูนกันไม่ติด เหมือนเค้ารู้สึกว่ากูน่าอึดอัด กูไม่รู้ว่ากูคิดไปเองมั้ยหรือว่ามันเป็นงั้นจริง กับบางคนไม่ว่าพยายามแค่ไหนเค้าก็ดูไม่ได้อยากคุยกับกูเท่าไหร่ กุไม่รู้ว่าเพราะอะไร แล้วแม่งก็รู้สึกแย่ที่ถูกกันออกจากคนนั้น ในขณะที่มีเพื่อนอีกคนดูสนิทกับคนทุกคนทั้งๆที่ก็ไม่ได้ทำตัวไนซ์ขนาดนั้น แบบมีมุมวีนๆบ้าง มีแสดงอารมณ์ด้านลบมาบ้าง แต่ทุกคนดูไม่มีช่องว่างกับเค้าเท่าไหร่ แต่ตัวกูเองกลับรู้สึกว่าบางทีก็ถูกรำคาญ
หรือว่าการเป็นไนซ์กายมันน่ารำคาญเกินไปวะ มีคนเคยบอกว่ากูเป็นเหมือนพลังบวกให้คนอื่น แต่ทำไมกูถึงรู้สึกว่าบางคนก็ดูไม่อยากสานสัมพันธ์กับกู แล้วกูรู้สึกแย่ว่ะ ยิ่งพอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งออกห่างจากวงสังคมเท่าไหร่ยิ่งแย่ เก็บมาคิดมากว่ากูทำผิดไร มีไรที่คนอื่นไม่ชอบหรอ กูควรลดอะไรดี กูรู้สึกแย่ว่ะ จะทำยังไงดีไม่ให้ถูกเกลียดหรอ
>>587 กูเข้าใจคำว่าน้อยแต่คุณภาพนะ แต่เหมือนกุเป็นโรคจิตอย่างที่บอกอ่ะ คือกุต้องการเป็นคนสำคัญของทุกคน อยากถูกรัก เหมือนโหยหาการยอมรับจากสังคมมากๆ มันอาจจะมาจากปมตอนเด็กที่กูเคยถูกเพื่อนทั้งห้องรุมรังแกเลยอยากได้รับการยอมรับจากคนหมู่มากอ่ะ พอรู้สึกว่ามีคนตึงใส่กู กูก็ไม่สามารถปล่อยวางและโฟกัสกับคนที่ชอบกูได้เลย กูมีแต่พยายามจะทำไงให้คนที่ไม่ยอมยอมรับกูด้วย อะไรแบบนี้อ่ะ กูอยากได้รับความรักจากทุกคนมากๆเลย ยิ่งถ้าสมมติบางคนเคยดีๆกันแล้ววันนึงอยู่ๆก็ออกห่างไปสนิทกับคนอื่นแทน หรือเห็นเค้าเดินมาคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู กูยิ่งรู้สึกแย่แบบสุดๆ แล้วก้อิจฉาไปด้วยเลย
กลุ่มกูมี 9 คน 6 คนเรียนคณะเดียวกัน อีก 3 คนเรียนคณะอื่น เวลาไปไหนแล้วต้องนั่งแล้วแบ่งกลุ่มกัน พวกคนสวย 5 คนก็จะอยู่ด้วยกัน (มีคณะเดียวกัน 4 คณะอื่น 1) กูก็ต้องไปนั่งกับกลุ่มคนไม่สวย (คณะเดียวกัน 2 คณะอื่น 2 ละกูก็ไม่ได้สนิทกับเพื่อนคณะคนนี้เท่าพวกเพื่อนกลุ่มคนสวยด้วย)
กูรู้สึก insecure ว่ะ ว่าทำไมมันไม่ยอมให้กูไปนั่งกลุ่มคนสวยด้วย แค่เพราะกูไม่สวยหรอ ทำไมไม่ให้คนที่สนิทกันนั่งด้วยกัน หรือความจริงแล้วเราไม่สนิทกันวะ ละทำไมเอาเพื่อนคนที่อยู่คณะอื่นมานั่งกลุ่ม 5 คนด้วย ทั้งๆที่มันไม่มีเรื่องอะไรคุยด้วยซ้ำ เล่นแต่มือถือ เพราะกลัวภาพลักษณ์กลุ่มไม่ดูดีหรอวะ เลยต้องเอาคนสวยที่ไม่ได้สนิทกับพวกมึงมาเติมให้เต็มเวลาไปเที่ยวข้างนอก น้อยใจว่ะ กูทั้งลดน้ำหนัก ทั้งไปหาหมอ ทั้งศัลยกรรม แม่งก็ยังไม่สวยพอจะนั่งโต๊ะเดียวกับพวกมัน
>>590 คนเราจะจดจำครั้งแรกเสมอ ถ้ามึงเปลื่ยนแปลงตัวเองหลังเจอก็อาจจะนั่งด้วย สิ่งที่ต้องทำคือการเปลื่อนแปลงภาพจำตัวเราเองลองไปหากลุ่มอื่นๆ ที่ภาพลักษย์ดีไปเข้าหาสังคนอื่นๆ บางสังคนอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมึงแต่มันทำให้ภาพลักษย์มึงดูสูงได้แค่ไปอยู่กลุ่มนั้น ไม่ต้องไปตลอดแค่พอให้คนรับรู้ว่าเรสรู้จักกลุ่มนั้นไปหากันบางเป็นบางครั้งก็พอ อย่าพยายามทำให้ตัวเองต้องโดนเลือกอย่างเดียว ต้องเป็นคนเลือกเองบางอย่างน้อยก็ที่เห็นอ่ะน่ะ
การที่มีเพื่อนที่ชอบตัดสินการกระทำของเราจากการใช้ชีวิตในเรื่องรักๆใคร่ๆ ว่าเรามันแย่ นี่กุควรจะรู้สึกยังไง
กุเข้าใจว่าคนเราไม่เหมือนกัน แต่อย่างกุก็ไม่เคยจะไปตัดสินใจ หรือเสือกเรื่องคู่คนอื่นเลย เขาทำตัวยังไงก็เรื่องของเขาปะวะ
หรือการเสือกมันเป็นเรื่องปกติของสัตว์สังคม หรือเฉพาะประเทศไทย เพราะเพื่อนต่างชาติก็ไม่ค่อยเห็นเขาเม้ามอยอะไรพวกนี้
>>592 มึงอาจจะเอาตัวเองไปอยู่จุดที่เพื่อนไม่ดีแล้วมาน้อยเนื้อต่ำใจรึเปล่า
แต่เป็นเรื่องธรรมดานะ คนกะลังอยู่ในห้วงรักแม่งมองไรไม่รอบด้าน คนรอบข้างบางทีก็อยากเตือน
แต่ถ้าเตือนไม่ถูกจังหวะก็เสือกนั่นแหละ
ปล. คนประเทศอื่นบางทีก็เสือกเหมือนกัน แต่กูก็รู้สึกว่าน้อยกว่าเพื่อนสนิท
มีเพื่อนเก่านิสัยเหี้ยมากแล้วกุเพิ่งรู้วีรกรรมนางทีหลัง ทั้งนินทากู บอกคนอื่นว่าอยากเลิกคบกับกูแต่ไม่ทำ วันหนึ่งกูอึดอัดเหี้ยๆเลยพูดเอง นางชอบตื๊อให้กูซื้อของแพงๆให้ ขี้อิจฉา กูได้ดีอะไรก็หลังไมค์ไปนินทากับเพื่อนกูหมด ไม่คิดเหรอว่าเพื่อนจะมาบอกกูอะ แถมยังเล่าให้กูดูเหี้ยเพื่อให้คนที่นางชอบเลิกคุยกับกู แต่ไม่สำเร็จจ้า เขาชอบกูเนอะ จะขอเงินนางก็งัดว่ากูให้โดยเสน่หาขอคืนไม่ได้นะจ๊ะ ออจ้า ไม่สำนึกเลย
กูขำตัวเอง มีเพื่อนคนนึงที่กูเบื่อและระอากับนิสัยมันมากๆ แต่กูก็เลิกคบไม่ได้ซะที 555555 ว่าจะไม่ตอบแชทมัน หายไปเฉยๆ แต่พอมันส่งมาทีไร ก็อดตอบไม่ได้ซะที 555555 ทำไมวะ ไม่เข้าใจตัวเอง
กุโดนแฟนทิ้งเพราะนางไปได้กับผัวในที่ทำงานที่ใหม่ แล้วอยู่ๆ ก็เงียบไปไม่บอกเลิกกับกูให้มันดีๆ จากนั้นก็เปิดตัวผัวใหม่เฉย ทีนี้กูมารู้ทีหลังจากเพื่อนนางที่เป็นเพื่อนกูอีกทีว่า นางเอากูไปพูดเสียๆ หายๆ ให้กูเป็นคนเหี้ยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คือจนถึงตอนนี้กูก็ไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร + กูไม่คิดจะเล่าด้วย เพราะกูมองว่าเขาจะกล่าวหาว่ากูเหี้ยยังไงก็ได้ จะบอกให้เพื่อนเขาเกลียดกูยังไงก็ได้ แต่กูก็จะไม่พูดอะไรทำที่ให้คนอื่นดูเหี้ยเด็ดขาด เพราะกูไม่อยากเป็นคนประเภทเดียวกัน ซึ่งแอบรู้สึกดีที่เพื่อนที่มาเล่าให้กูฟัง มันไม่ได้เชื่อทั้งหมดแล้วมาบอกกู
ไอ้คำพูดให้กำลังใจในเชิงบวกนี่มันช่วยได้จริงๆหรอวะ แต่เห็นแก่คนพูดให้กำลังใจ กุเลยจะพยายามเข้าใจและรู้สึกตามด้วยเป็นการตอบแทน แต่กุก็ไม่เข้าใจอยู่ดี อ่านวน100รอบก็ไม่เข้าใจว่ามันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นหรือแก้ปัญหาได้ยังไง อ่านแล้วมองหาคำตอบไม่เจอว่ากุจะมองแบบที่มึงพิมพ์มาได้ยังไง จนรู้สึกสงสารคนให้กำลังใจเลยถ้ารู้ว่ากุคิดแบบนี้ เลยพยายามทำความเข้าใจอยู่
>>599 ช่วยเหี้ยไรไม่ได้หรอกมันแค่คำพูด ต้องให้เค้าก้าวเข้ามาในชีวิตมึงช่วยแก้ปัญหาที่มึงเจอล่ะถึงจะเรียกว่าช่วย
ที่คนบอกว่ามันช่วยให้กำลังใจเนี่ย คือมันเริ่มมาจากการที่เค้าเข้ามารับฟังปัญหาของมึง มากกว่าอะ แบบคอยรับฟังระบาย พอเค้ารู้สึกว่าเออมึงไม่โอเคมีปัญหาเค้าก็คอยให้กำลังใจ เพราะเค้าไม่สามารถเข้ามาช่วยมึงแก้ปัญหาได้
เช่น มึงเครียดเรื่องการเรียน ได้คะแนนไม่ค่อยดี ครูสั่งงานยากเกินไป
มึงไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะเขาคงไม่เข้าใจ ไม่กล้าบอกเพื่อนสนิท เพราะรู้สึกเพื่อนก็ลำบาก บางทีมันไม่มีใครที่จะเอาความอึดอัดในใจออกไปได้เลย พอมีคนมารับฟัง พูดจาในแง่ดีให้ มันก็รู้สึกดี เหมือนเวลาโดนโอ๋น่ะ
จะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีวะเพื่อนโม่ง
เรื่องของเรื่องคือ แต่ก่อนนานมาแล้วกูเคยมีเพื่อนอยู่คนนึงที่สนใจเรื่องเดียวกัน ก็ไม่สนิทมากแต่เวลามันมีอะไรก็มักจะทักมาหาตลอด พอเวลาผ่านไปเพื่อนกูคนนี้ก็เริ่มหายไป ตอนแรกกูก็ไม่คิดอะไรมากหรอกก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วก็คิดว่ามันคงมีเพื่อนคนใหม่ให้คุยให้ปรึกษาแล้ว
แต่พอมาอยู่คนเดียวกลับไม่ชินและคิดมาก ทั้งๆ ที่กูไม่ควรเป็นแบบนี้เลย ยิ่งพอไปเห็นว่ามันมีเพื่อนกลุ่มใหม่แล้วคุยกันสนุกสนานกูรู้สึกเหมือนอกหักยังไงไม่รู้
หรือว่ามันผิดที่ตัวกูวะ ตอนนี้ได้แต่โทษตัวเองไม่รู้จะจัดการความรู้สึกนี้ยังไง ปกติกูเป็น introvert อยู่แล้วมีเพื่อนไม่ค่อยเยอะส่วนใหญ่เพื่อนที่มีก็เข้ามาหากูก่อน หรือว่าเพราะกูเป็น introvert เลยทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนวะ แต่ใจจริงก็ไม่ได้อยากมีเพื่อนเยอะหรอก แค่พอเสียไปก็รู้สึกเศร้าเฉยๆ ทนกับความรู้สึกนี้ไม่ได้เลย รู้แบบนี้กูอยู่คนเดียวเหมือนเดิมตั้งแต่แรกดีกว่า...
ปล.กูไม่เคยทำอะไรไม่ดีใส่มันเลยนะ หรือว่ากูทำแต่กูไม่รู้สึกตัววะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยผิดใจกันเลย ตอนนี้กูสับสนและงงมาก
ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เรารำคาญคนในกลุ่มเพื่อนคนนึงมากๆ ระดับที่ฟังอะไรที่เขาพูดแล้วไม่เบื่อก็โมโห ไม่มีอะไรน่าสนใจหรือสนุกเลย แต่เฟดตัวเองออกจากกลุ่มไม่ได้เพราะชอบเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มนี่เราจะทำยังไงได้บ้าง (เป็นกลุ่มเพื่อนที่คุยเรื่องด้อมการ์ตูนเฉยๆ ไม่ได้สนิทหรือมีพันธะอะไรในชีวิตจริง แต่กุก็ชอบเพื่อนคนอื่นที่เหลือมากๆ)
กุอยู่ในจุดที่เคลือบแคลงใจกับเพื่อนคนนึงว่ะ คือมันเป็นคนเล่นมุกแรงปากแจ๋ว แล้วมันชอบมาพูดเวลากุจะทำอะไรซักอย่างว่าให้แบ่งกันคนอื่นด้วย อย่าเอาไปเล่นคนเดียว ซึ่งกุคิดว่ามันล้อเล่น แต่มันล้อแรงจนกุไม่แน่ใจงว่ามันคิดจริงรึเปล่าอ่ะ ตอนนี้กุเริ่มลำบากใจละ
รำคาญไอ้เด็กบ้านรวยอวดฉลาดชอบดูไลฟ์โค๊ช แล้วชอบด้อยค่าคนอื่น
>>603 ปัญหาอยู่ที่ "ไม่สนิทมากแต่เวลามันมีอะไรก็มักจะทักมาหาตลอด" เข้าหาตลอดมันเหนื่อยนะ มึงทักเขาก่อนไปบ้างก็ได้ อยากพูดว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง อยากสนิท ก็เข้าหาเขาบ้าง เป็นอินโทรเวิดก็ทักไปก่อนได้ค่ะมึง จัดการความรู้สึกยังไง ถ้าไม่อยากให้กลายเป็นมิตรภาพช่วงสั้นๆที่ไม่ได้คุยกันอีกต่อไป ก็ทักไปเลยยย มึงอยากใช้เวลากับเขาถูกไหม
กูมีเพื่อนคนนึง เห็นช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยไม่ได้ทักไป ถ้าเพื่อนกูว่าง ก็ทักกูมาเอง เป็นผู้ใหญ่แล้ว บางทีก็ไม่อยากจะรู้สึกงี่เง่าเวลาเพื่อนตอบแชทช้าหรือไม่คุยกันทุกวัน แต่วันไหนคิดถึงมันมากๆก็จะส่งสติกเกอร์ไป หาเรื่องคุย ส่งลิ้งวิดิโอตลกๆไปก็ได้ ไม่ต้องมีเหตุผล แค่อยากแชร์ให้ดูก็แค่นั้น
รำคาญเพื่อนกูชิบหาย ชอบมาบ่นเรื่องเพื่อนร่วมงานข้างโต๊ะตีนเหม็นแล้วชอบถอดรองเท้า กูก็บอกว่าให้มันไปคุยเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงาน มันก็บอกมันไม่กล้าคุย กูเลยบอกไปว่าถ้าไม่กล้าคุยก็นั่งดมกลิ่นตีนอีนั่นต่อไปจนกว่ามึงหรือมันจะลาออกไปละกัน แล้วก็เลิกบ่น มันก็ตัดพ้อใส่ว่าแค่อยากระบาย กูรำคาญความยึกยักของแม่งจัง แนะวิธีแก้ก็อมพะนำไม่กล้าๆ สุดท้ายไปลงสเตตัสตัดพ้อกูในเฟซประมาณว่าเธอมีปัญหาอะไรเราก็รับฟัง แต่เรามีปัญหาไม่มีใครฟังเราเลย กูนี่อยากพุ่งไปด่ามากแต่ต้องระงับอารมณ์ แม่งไม่พูดให้เคลียร์แล้วปัญหามันจะหายไปมั้ยวะ ต้องมาเกรงใจนั่งดมกลิ่นตีนตลอดมันก็ไม่ใช่ป่ะ
>>610 มึงไม่ทำความเข้าใจเพื่อนมึงไง คิดแบบตรรกะแต่ขาดความเห็นอกเห็นใจ ปัญหาแม่งแก้ง่ายอยู่ละถ้าเราไม่มีเรื่องของความสัมพันธ์กับอีโมชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง แค่ไปพูดตรงๆเลยว่าตีนเหม็นกรุณาใส่รองเท้าด้วยแค่นั้น
แต่ความเป็นจริงมันไม่แค่นั้นไง มึงคิดว่าทำไมเพื่อนมึงถึงไม่กล้าพูดล่ะ เพราะพูดไปก็ไม่รู้อีกฝ่ายจะทำให้มั้ย แต่แม่งต้องไม่พอใจแน่ จะทำงานร่วมกันต่อได้มั้ย จะโดนอะไรรึเปล่า อยู่ๆจะให้ไปพูดตรงๆน่ะมันง่ายแต่ผลลัพธ์ที่ตามมาอ่ะจะได้ผลจริงมั้ย คำแนะนำของมึงมันแค่เอาสะใจแต่ไม่ได้ทำได้จริงไง หรือต่อให้ทำได้จริงสำหรับมึง แต่สำหรับบางคนเค้ายอมรับผลลัพธ์ในทางที่แย่ไม่ได้เท่ามึงไง เค้าเลยไม่กล้าทำ มึงก็เสือกไปด่ามันให้นั่งดมตีน ไม่แปลกที่เพื่อนมึงจะโกรธ รีแอคชั่นของเพื่อนมึงเนี่ยแหละคือตัวพิสูจน์ว่าการพูดตรงๆอย่างที่มึงอยากให้เพื่อนทำมันจะเกิดผลลัพธ์ยังไง แล้วขนาดตัวมึงยังอึดอัดจนมาระบายในโม่งได้ แต่พอเพื่อนมึงทำมึงยังไปรำคาญมัน กูรู้สึกว่ามึงเป็นทั้งผู้ฟังที่แย่และแก้ปัญหาที่แย่เลยนะ
>>611 จ้ะๆ กูแก้ปัญหาได้แย่ ก็ทนๆเอาดมกลิ่นตีนต่อไปแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทางที่ดีที่สุดก็คือหุบปากไว้แล้วบ่นให้คนอื่นฟังลับหลัง แล้วก็นั่งดมกลิ่นตีนต่อไป 8 ชั่วโมงทุกๆ 5 วัน เกิดอะไรขึ้นเราก็ทนรับไว้เองนะเพราะเรายังต้องทำงานด้วยกัน ทำงานไปสิบปีก็ทนไปสิบปีไม่ต้องหาทางแก้ไขเพราะทำไม่ได้จริง กลัวกระทบความสัมพันธ์ กลัวเขาเกลียด กลัวมีผลต่องาน หุบปากเอาไว้นี่ไงวิธีแก้ปัญหาดีๆ ทุกคนแฮปปี้ เก็บความไม่พอใจเอาไว้แล้วทนเอานะเพราะไม่สามารถแก้ไขได้แถมยังสร้างศัตรูด้วยถ้าไปบอกหรือเตือน
ไม่กล้าบอกตรงๆ ก็ปรึกษาเจ้านายให้ช่วยเตือนแทนสิ ยากตรงไหน
>>613 >>614 กูเสนอวิธีแก้แล้ว ถามสถานะของมันกับอีเพื่อนร่วมงานนั่นว่าเป็นยังไง สนิทมั้ยหรือไม่สนิท ระดับสูงกว่ารึเปล่า ถ้าบอกเองตรงๆไม่ได้คือให้คนที่เป็นเจ้านายเราคุยให้ เราไม่ต้องไปออกหน้าเอง บอกหัวหน้าว่าพี่ช่วยพูดให้หน่อยได้มั้ย วิธีการเตือนมันก็มีหลายอย่างไม่ใช่ไปพูดตรงๆหยาบๆว่ามึงตีนเหม็นไปตัดตีนทิ้งไป๊ กูไม่ได้ไร้หัวคิดเอาสะใจขนาดนั้น พูดจาดีๆ เตือนอ้อมๆ ไม่ให้เขาเสียเซลฟ์ มันอยู่ที่วิธีพูดเว้ย
และกูรับฟังมันบ่นเรื่องนี้มาเป็นปี มันควรแก้ปัญหาได้แล้วมั้ย ใจคอมึงจะทนนั่งดมกลิ่นตีนต่อไปจนกว่ามึงหรือมันจะลาออกไปเลยเหรอ พวกมึงเลือกทนก็เลือกไป แต่เป็นกูคงไม่เลือกทางนั้นว่ะ ทำไมกูต้องมาทนอะไรที่ทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพจมูกกูแย่วะ
ปรึกษาว่ะเพื่อนโม่ง กูมีเพื่อนคนนึงมันอยากย้ายที่ทำงาน แต่กูมีคนรู้จักใน บ. ที่มันอยากไป กูเลยรู้มาว่ามันไม่น่าได้ทำงานที่ บ. นั้น กูควรบอกมันตรงๆ ไปเลยไหมวะ ว่าไม่ได้แน่ เพราะกุพยายามบอกอ้อมๆ แล้วมันก็ดูยังมีหวังอยู่
>>619 เออ กูใช้คำได้เหี้ยว่ะ แต่ไม่ใช่โว้ย ไม่ใช่พล็อตละครคุณธรรม55555555555 คือมันลำบากใจนะมึง พอไปกินข้าวกับมันมันก็พูดแต่เรื่องนี้จนเอือม กูแนะนำให้ไปเรียนต่อไปอัพสกิลก็ไม่ไป ประสบการณ์ก็ไม่มี งานหนักก็ไม่เอา คิดไปคิดมาอย่างที่พวกมึงว่ากูไม่ควรพูดอะไรจริงๆ ให้เสียหมา ตอนนี้แม่งงอนไปละ
ขอระบายหน่อยเหอะ กูบอกมันอ้อมๆ ว่าจะไม่ช่วย มันก็บอกว่าจะหาเส้นที่ใหญ่กว่านี้เข้าให้ได้ เป็นเหี้ยอะไรมัน แล้วมาบ่นว่ากูทำงานก็ไม่อดทนทำแปปเดียวลาออกทั้งๆ ที่งานสายกูสบายกว่า (กูกับมันทำงานคนละสาย กูลาออกมาเรียนต่อ) คิดอยู่ว่าแม่งควรห่างๆ กันบ้างน่าจะดี คบกันเป็นเพื่อนต่อไปมีแต่คุยเรื่องงานกับเงิน แต่เสียดาย ครส แม่งคบกับมันตั้งแต่มัธยม
คบเพื่อน introvert แม่งน่าเบื่อมาก ชวนไปไหนกฺป็ไม่ไป สงกรานต์ก็ไม่เคยไป งานมหาลัยก็ไม่ได้ไป ไปเที่ยวก็ไม่ไป ไปกินข้าวนอกมอก็ไม่ไป แม่งจนเรียนจบมาละ จะสร้างเพื่อนในคณะใหม่ก็ไม่ทัน
รู้สึกโหวงๆเวลาเพื่อนไปใช้เวลากับคนอื่น แต่ก็รู้พอว่าทุกคนก็มีสังคมของตัวเอง กูก็มีเพื่อนคนอื่นเหมือนกัน ไม่เห็นจะต้องมาแฮงเอ้าไปด้วยกันทุกครั้งที่ว่างสักหน่อย แต่ก็โหวงๆ ทำไงดีวะ
>>621 ก็นะ หาเพิ่มได้ มึงไม่ได้มี slot limit ว่าใส่เพื่อนได้กี่คน
กูก็เบื่อเพื่อนกูนิดๆ เหมือนกันนะ สมัยเรียน แม่งจะออกไปไหนกันจังวะ กูอยากเล่นเกมอยู่ห้องเฉยๆ ไม่ได้อยากเที่ยว ไม่ได้อยากแดก ไม่ได้อยากเมา 555
แต่ก็นั่นแหละ กูก็หาคนที่ไม่ออกไปไหนนั่งเล่นเกมเป็นเพื่อนด้วย แต่พวกเที่ยว กูก็คีพคอนแท็คไว้
คนที่กูแอบชอบมีแฟนใหม่ แล้วมันจะมีอยู่คนนึงที่ชอบแคปสตอรี่ส่งมาให้กูดูแล้วบอกแบบ เนี่ย เขาไปเที่ยวที่***กันว่ะ เนี่ย เขาจับมือกันแล้วว่ะ ส่งมาแม่งทุกสตอรี่ ตามติดชีวิตทุกก้าวของเขา แทนที่จะให้กูปล่อยวาง จนกูเริ่มคุยกับคนใหม่แล้วแม่งยังไม่หยุดส่งมาอีก เคยบอกไปแล้วนะว่าไม่ต้องส่งมา กูไม่ได้อยากรู้ ก็ยังจะส่งมา เมินแม่งก็ไม่ได้อีกเพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไปไหนมาไหนกันตลอด มึงต้องการอะไรจากกู อยากให้กูกับแฟนใหม่เขาหยุมหัวกันหรอ5555555
เวลาเพื่อนมาเล่าปัญหาชีวิตฟัง พวกมึงวางตัวกันยังไงวะ คือเพื่อนกุมันมีปัญหาชีวิตหลายเรื่อง(ครอบครัว ที่ทำงาน แฟนฯลฯ)บวกมันเป็นคนคิดมากคล้ายๆจะเป็นซึมเศร้าด้วย กุก็เป็นคนนึงที่มันมาเล่าให้ฟังตลอด ละกุวางตัวไม่ถูกเพราะกุไม่ค่อยอินกับปัญหาเพื่อนกุเลย คือเวลาเพื่อนมาปรึกษาบางเรื่องมันเป็นปัญหาเด็กๆมากอะ เช่น ไม่กล้าคุยกับเพื่อนที่ทำงาน หรือทำงานแล้วไม่กล้าถามเพราะกลัวดูโง่ ฯลฯ พอมันเป็นแบบนี้กุก็จะคอยบอกวิธีแก้มันไป หรือบอกว่ามันอะคิดมาก แล้วมันจะชอบบอกว่ากุอะไม่เข้าใจมัน(เอ๊า ละที่กุแนะนำไปนี่มึงเข้าใจกุไหมเนี่ย) กุคิดในใจนะว่าเพื่อนกุแม่งหน่อมแน้ม นิสัยเด็ก แต่กุก็ไม่กล้าพูดกับมันตรงๆว่าปัญหาของมันแม่งหีหมามาก เพราะมันจะเป็นซึมเศร้าแล้วกลายเป็นว่ากุไปกระตุ้นต่อมมัน
>>626 ในฐานะที่กูเป็นคล้ายเพื่อนมึง อาจจะกลัวการเข้าสังคมนิดๆมั่ง การปรับตัวในที่ทำงาน การเข้ากับคนอื่น การพูดคุยกับคนใหม่ๆ มันเป็นเรื่องที่โคตๆๆๆๆๆยาก เหนื่อยใจ อยากจะร้องไห้ทุกวัน มันไม่ใช่เรื่องหน่อมแน้มอ่ะ มันเป็นปัญหาทางสมอง ไใ่ค่อยได้ฝึกสกิลตรงนี้ กูพยายามแก้มาตลอด แต่ก็ยังทำไม่ได้ กูไม่ว่ามึงหรอกที่จะคิดแบบนั้น เพราะไม่มีใครจะเข้าใจทุกคนได้
>>626 แนะนำให้เลี่ยงเพื่อนแบบนี้ ก่อนที่มึงจะประสาทแดกตาม เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด ไม่ต้องไปเป็นคนดีให้มาก เป็นเพื่อนได้ แต่อย่าสนิท คนประเภทนี้ถ้าสนิทกับใครแล้วเกาะติดไม่ห่างเลยนะ ทำอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มีเรา งอแงเหมือนเด็กๆ มันเสียเวลาชีวิตนะ ปล่อยเขาไปเรียนรู้ด้วยตัวของเขาเองเถอะ เป็นไปได้ก็แนะนำให้เขาไปหาหมอ
คนที่ปัญหายังเคลียร์ไม่จบ แต่เลือกที่จะทำตัวตามปกติกับเรา ทำเป็นเล่นทำเป็นอะไรทั้งๆที่ปัญหามันยังคาอยู่นี่ทำได้ไงวะ ไม่คิดจะแก้ปัญหาเลือกปล่อยเบลอแล้วทำเหมือนทุกอย่างมันปกติ แต่สำหรับกุมันไม่ได้ไง ถ้าปัญหามันยังไม่ถูกแก้เราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมกันไม่ได้ มันไม่ใช่ ถ้ามึงไม่คิดจะคุยเรื่องปัญหากับกุตัวต่อตัว คุยกันจริงจัง ก็ไม่ต้องคบกันแล้วจบๆ มันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อยู่แล้วถ้าไม่ยอมแก้ปัญหา
ถึงเพื่อนรักของกู
ขอบคุณที่มึงทำตัวหัวโคย ไม่รักดี ผีเข้าผีออก เลี้ยงไม่เชื่อง มาตลอด3ปี กูพยายามประคบประหงมมึงสุดๆ แต่มึงก็ยังมิได้นำพา คิดว่าโลกทั้งใบเป็นของมึงอยู่อีก กูไม่รู้นะว่ามึงกับกูสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ถ้าได้ กูกับมึงไม่มีทางเหมือนเดิมละ กูจะอดทน อีกเดือนกว่ากูก็ไม่ต้องเจอหน้ามึงละ สั้นๆนะ อิเด็กเปsต ขอให้มึงเจอคนแบบเดียวกันกับมึงตอนที่ทำงานนะคะ มึงจะได้รู้ว่าบนโลกใบนี้มีแค่แม่มึงเท่านั้นที่รับนิสัยนี้มึงได้ค่า อิควาย อิเหี้ย
>>632 เจ็บแทนว่ะ
ช่วงนี้กูคิดอยู่ว่ากูไม่เหมาะกับการมีเพื่อนเลย พอเรียนจบแล้วก็ แยกย้าย ตามช่วงวัย ทุกคนมีชีวิเป็นของตัวเอง แต่กลายเป็นตัวกูที่มาแพนิกเมื่อความสัมพันธ์ไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อน ความงี่เง่าของกูสมัยเด็กก็มีส่วน กูก็มานั่งคิดว่าทำเรื่องเหี้ยอะไรไปกับเพื่อนบ้างจนรู้สึกไม่อยากเป็นตัวเองเลย กูอยากเกิดใหม่ รีเซ็ตทุกอย่างเลย แต่จังดีที่มีแม่อยู่ถ้าแม่ไปแล้วกูก็ไม่รู้ว่าอยู่ยังไงเหมือนกัน ตอนนี้กูกลัวการสนิทกับใครแล้วต้องมาแตกหักว่ะ กูรู้ว่าเพื่อนๆกูไม่ชอบโม่งถ้าเค้ารู้ว่ากูชอบมาระบายเรื่องที่กูบอกใครไม่ได้แม้แต่แม่กู กูจะโดนเพื่อนเกลียดมั้ยวะ กูจะโดนเพื่อนเกลียดเพราะเล่นโม่งเปล่าวะ หรือจริงๆมันคงไม่ทันแล้ว เวลาเจอเพื่อนกูจะตื่นเต้นมาก จนบางทีปากพล่อยเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วกลับมาคิดได้ว่าคึกไปเปล่าวะ กูแบบ อ่า กูพลาดอีก
ละ กูเบื่อตัวเองจัง
แต่สำหรับเพื่อนร่วมงานงี้กูโอเคนะถ้าคุยอะไร เพราะไม่ได้สนิทกันมากแบบเพื่อนสนิท กูว่ากูคงกลัวการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ถ้าเป็นอะไรใหม่ๆกูโอเค กับความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกูว่าโอเคนะ ส่วนกูก็ไม่มีเพื่อนก็ทำอะไรคนเดียวได้อยู่แล้ว แต่ขาดคอนเนคชั่น
ช่วงนี้กูคงกลับไปนั่งอ่านหนังสือคนเดียวเหมือนเดิมก่อน ความคิดกูแย่ไม่ไหวเลยว่ะโม่ง
เพื่อนที่ชอบติดเล่น พูดเล่นเรื่องเงินทำนองว่าซื้อให้หน่อย ให้โอนเงินให้เนื่องในโอกาสต่างๆเพราะเพื่อนกัน หรือยกเรื่องความเป็นเพื่อนมาพูดเพื่อให้ซื้อของให้หรือให้เงินแบบทำทรงเล่นมุกนี่คือยังไงวะ คือมันปกติใช่ไหม เพื่อนแค่พูดเล่นๆใช่ป่าว? กุไม่อยากประสาทแดกหรือเสียเพื่อนมากกว่านี้แล้วอ่ะ กลัวตัวเองแยกไม่ออกว่าอันไหนมุกอันไหนจริง แล้วพูดเชิงกดดันแบบขำๆด้วยอ่ะ กุไปต่อไม่ถูก จริงๆกุอาจคิดมากเอง เพื่อนกันไม่น่าทำแบบนั้นหรอกมั้ง กุคงมองโลกแง่ร้ายเกินไป
มีคนอยากเป็นเพื่อนเพราะเงิน คือนางบอกว่าลำบากงุ้นงั้นงี้ คือเล่าเหมือนอยากให้กูช่วย หลังๆมาเริ่มเอ่ยปากยืมเงินกู ยังรู้จักกันไม่ถึง 2 อาทิตเลย เริ่มขอเงิน เริ่มขอยืมเงินละ ควรคบต่อหรือควรพอแค่นี้วะ
>>640 แหมทำไมจะทำไม่ได้ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์แม่งทํากันมาหลายหมื่นปี ทุกคนมันจําหรือเขียนเหตุการณ์อดีตประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาไม่เหมือนกันหรอก สัสเขียนได้ซะโครตเบียวเลยกู อ่ะนึกเอาง่ายๆย้อนไป10ปีก็ได้บางคนก็ลืมไปด้วยซํ้าแล้วมึงว่ามึงเป็นใคร มึงอยากลบอดีตตรงไหนก็ไม่ต้องพูดถึงมัน คนที่รู้เรื่องอดีตของมึงก็เลิกติดต่อหรือเอาให้ชัวร์ว่าจะไม่มีส่วนมายุ่งกับชีวิตปัจจุบันได้ก็เท่านั้น แล้วมึงก็ใช้ชีวิตปัจจุบันgainสังคมใหม่ๆ มึงเล่าเรื่องราวใหม่ๆให้คนในสังคมใหม่ฟัง ประมาณนี้ง่ายๆ คือมึงมองข้ามไปเถอะมึงจะมารับบาปไรตัวเองในอดีต แม่งมึงวันนั้นกับวันนี้ก็คนละคนกันละ สังคมอัไรมันก็เปลี่ยนไปหมดละ identityที่หลงเหลือเหมือนกันมีแค่ชื่อเท่านั้น กูก็มีเรื่อวกับเพื่อนแล้วจบไม่สวย แต่ก็แค่นั้นกูย้ายจังหวัดเลย ไปหาสังคมใหม่ที่ดีกว่า แล้วเรื่องราวเก่าๆไอสัสคนในสังคมเก่าเขาก็ไม่มานั่งแคร์มึงหรอก พอมึงออกไปมึงก็แค่หายไปจากสังคมนั้นไม่ได้มาตามล้างแค้นแบบจอนวิดซะหน่อย ผ่านไปทศวรรษก็แกล้งลืมไปได้แล้ว
ความจริงแม่งไม่สําคัญหรอก แล้วพอเข้าสังคมใหม่ๆก็ไม่ทีใครมานี่งแคร์หรอกว่ามึงมาจากไหน อดีตมึงเป็นไงกับไอเรื่องเพื่อนๆจิ๊บจ๊อยเหนี่ย เหอะๆ ใครจะมานั่งจับผิดมึงว่ามึงทําอย่างนั้นจริงๆไปในอดีตวะ พระอัลเลาะห์เรอะ (ถ้าไม่ใช่เรื่องคดีอะไรที่ศาลสั่งหมายมีคนตามสืบไอสัส)
ลองจินตนาการดูหนุกๆ แล้วถ้ามึงไปฆ่าคนมาเมื่อวานแล้วเดินหัวกระแทกพื้นวันต่อมามึงลืมทุกอย่าง แล้วคดีนั้นถูกตํารวจปิดคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครในโลกรับรู้ว่าศพนั้นมึงฆ่า มึงมีความทรงจําว่าความจริงแล้วมึงยังไม่เคยฆ่าใคร แล้วอะไรคือความจริงหล่ะ? :v
“Truth doesn’t matter, perception is reality”
ก็แล้วแต่จะคิดครัช ชีวิตคนละแบบ จะคิดแบบนี้หรือคิดติดยึดอยู่กับความจริงมันไม่ได้ถูกหรือผิด แต่คิดแบบไหนแล้วเราเดินต่อไปได้หล่ะ จะเลือกติดอยู่ใน“คุก”ของความเป็นความจริง(?)’ก็แล้วแต่ใจศรัทธา
>>641 ถ้าใช้ชีวิตจอมปลอม แบบนั้นไม่เอาหรอก นั่นคือการไม่ยอมรับตัวตนของเราในอดีต
ถ้าไม่มีเราในอดีต ก็ไม่มีเราปัจจุบันและอนาคต เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่เราให้อภัยตัวเองได้
ดัดแปลงแก้ไขอดีต มันไม่ใช่การทรยศตัวเองหรอกหรอ เราจะสูญเสียตัวตน ในอนาคต เมื่อเราสามารถลบทุกอย่างได้
ต่อให้ความจำเสื่อม ตัวเราทั้งในอดีต ปัจจบุัน อนาคต ใครจะว่ายังไง ตัวเราก็คือตัวเรา อยู่ดี
จำไว้นะชีวิตที่ซื่อสัตย์กับตัวเองไม่ใช่เรื่องน่าละอายเลย แต่การมีชีวิตอยู่ด้วยการโกหก มันจะต่างอะไรกับความตาย
แบบนั้นนะ ไม่เรียกว่าการมีชีวิตหรอก มองย้อนไปด้วยน้ำตาที่ไหลริน มันก็แค่ปอยฝน ตกหลงบนไหล่เบาๆ ของฉันเท่านั้นเอง
ไม่มีอะไรการันตี ว่า อนาคตอันแสนไกล จะเป็นเป็นของเราจริงๆ ก็ต่อเมื่อเราได้ขังอดีตไว้ในอุโมงค์ที่ดำมืด วันนี้ในปัจจุบันมันถึงเปร่งประกายที่สุด
bitter truth is always better than a sweet lie.
สงสัยนานละใครตอบได้มั่ง ทำไมรร.ไทยต้องบังคับให้นร.นั่งแยกแถวชาย-หญิง ต่างจากฝรั่งหรือยุ่น
>>644 เกิดอารมณ์ทางเพศ เดียวไม่มีสมาธิเรียนกันพอดี
ผญ ช่วงม.ต้น เริ่มมีกลิ่นหอมด้วย
ฝรั่งมันเยกันตั้งแต่14 ท้อง เยอะแยะก็เพราะพวกเมิงเอาแต่คิดว่าฝรั่งเจริญไม่ยอมเชื่อเรื่องรักนวลสงวนตัว
>>643 แบบนี้พ่อแม่ให้กำเนิดเมิงมาก็ไม่ต้องให้ค่า?
คนที่ช่วยเหลือเมิงสมัยก่อน ไม่สำคัญ?
ทุกชีวิตที่เราได้พบเจอล้วนทำให้เราเติบโต และไม่ผิดพลาดซ้ำสอง เหมือนพวกนั้น ประสบการณ์ต่างๆ เมิงเอาอดีตมาใช้ปะละ? ไม่งั้นคนเราก็ไม่ต้องฝึกฝน เรียนรู้หรอก
นั่นล่ะคือการอัญเชิญอดีต และยืมตัวตนในอนาคตมาใช้ ในปัจจุบัน
แฟนเพื่อนเล่นสงครามประสาทหาเรื่องกูแบบอ้อม ๆ เพื่อนกูเองก็รู้ว่าแฟนกำลังหาเรื่องกูแต่ก็ไม่กล้าดุว่างี่เง่าเพราะกลัวแฟนร้องไห้ (มันบอกกูเอง) ส่วนกูที่เว้นระยะห่างจากพวกแม่งทุกอย่างแต่ยังโดนหาเรื่องควรทำไงดีวะ ใจนึงอยากหนีห่าง ๆ ไป แต่อีกใจคือรำคาญละ อยากสงครามประสาทกลับให้พวกแม่งเลิกกัน
ปรึกษาโม่งทั้งหลายหน่อย สมมุตินะ ถ้ามึงเป็นศิลปิน แล้วมีศิลปินหน้าใหม่มีสไตล์คล้ายมึงทุกอย่าง คล้ายจนแทบทุกคนที่มึงรู้จักบอกว่ามันเป็นร่างแยกของมึง แล้วมึงไม่ชอบมัน แต่ไม่ได้จะขัดแข้งขัดขาอะไร แค่ไม่ชอบและไม่อยากร่วมงานด้วย แต่มีแฟนๆ บางกลุ่มอยากเห็นมึงคอแลบกับมัน และมีโปรเจ็คในอนาคตที่มึงรู้ว่ามึงจะได้ร่วมงานกันแน่ๆ มึงอยากทำโปรเจ็คนี้ แต่มึงไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับมัน และมึงไม่สามารถบอกคนอื่นได้ว่ามีมันไม่มีกู เพราะมึงจะดูเป็นคนใจแคบ เสียคะแนนในสายตาคนอื่น แต่มึงไม่อยากปฏิเสธโปรเจ็คนี้ เพราะมึงไม่อยากให้มันสร้างคอนเน็คชั่นกับเพื่อนศิลปินคนอื่น ซึ่งเป็นเพื่อนในแวดวงของมึงมานาน (เพื่อนศิลปินพวกนี้ทักเองว่ามันคือร่างแยกมึงแต่ไม่มีใครอคติกับมัน) เป็นมึงจะทำยังไงกันวะ
>>650 เพื่อนมึงอยากเห็นมึงจมดินป่าววะ ถ้าสมมุติสนิทกันหน่อยละเหมือนกันขนาดนี้มันต้องมีใครเอะใจไรบ้างดิ ลองคุยกับเพื่อนหยั่งๆถามความเห็นเพิ่มเติมไว้ก็ดีว่ามันไม่เหมือนเกินไปจริงๆเหรอ
สต.กูคือฝืนร่วม ถ้าเป้าหมายหลักคือไม่อยากให้มันสร้างคอนเน็คชั่น ต้องทนแล้วร่วมไป ร่วมงานกับมันแค่ตามสคริปพอ กูยอมเจ็บถ้ามันเจ็บด้วย
กูเป็นพวกไม่ชอบเข้าสังคม ชอบเล่นเกมดูซีรี่ไรอยู่บ้าน อยากหาเพื่อนนอกจากกลุ่มปัจจุบันอะ เพราะพอกลุ่มหลักหายก็รู้สึกเหมือนไม่มีใครอีกเลย อยากหาเพื่อนงานอดิเรกคล้ายๆกันหลายๆกลุ่ม กูต้องหาจากไหนดีวะ
ไปคลาสเรียนภาษาจะได้เพื่อนเพิ่มมั้ยวะ เหงาอะ
เพื่อนกูจะจบออกมาทำงานแล้วมันยังพูดเพ้อเจ้ออยู่เลยว่ะ
ไม่รู้นะ เรื่องที่มันพูดเพ้อเจ้อมันก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนนะ แต่พอมันพูดออกมาแล้วรู้สึกความน่าเชื่อถือในตัวแม่งลดลงไปเยอะมาก แบบมากเพราะโตแล้วแต่ยังเพ้อเจ้อเหมือนเด็กๆ คนบ้าไร365วันเจอผีไปแล้ว400วัน แถมมีภาคต่อทุกวันด้วยคว.ยมาก เอาเรื่องเล่าของตปท มาพูดพอมีคนแย้งว่านี่ของประเทศนั้นที่ ละอินี่ก็แบบ..หรอๆ ไม่รู้เลย //เอานิ้วจิ้มแก้ม ถุ้ย ถ้าตอบว่ารู้คงจะเมคเซ้นกว่านี้อีก
กูเป็นคนนึงที่ได้เลือกทำสิ่งที่ชอบในสังคมเพื่อนที่มีแต่พ่อแม่บ้าหมอ มีเพื่อนกูคนนึงโดนบังคับให้เรียนหมอแต่มันอยากเรียนเหมือนกู ที่นี้พอมันมาบ่นเรื่องว่าไม่อยากเรียนที่มันเรียนอยู่แล้วมันจะชอบพูดให้กูรู้สึกว่าแบบเออดีจังที่มึงได้เรียนที่ชอบไม่เหมือนกู กูนะอยากอย่างงู้นอย่างงี้แต่พ่อแม่เหี้ยเลยทำไม่ได้(ซึ่งมันก็จริงแหละ) พอกูฟังมันบ่นมากๆละกูรู้สึกผิดที่กูแฮปปี้ดีเฉยเลย ตอนกูสอบติดกูก็ไม่กล้าจะไปอวดกับใครอยู่ตั้งเกือบปี ตอนเตรียมพอร์ตเตรียมอะไรก็ไม่ได้ปรึกษาเพื่อนคนไหนเลยเพราะกลัวเพื่อนได้ยินแล้วรู้สึกแย่ รู้สึกว่าไม่ได้พราวกับสิ่งที่ตัวเองทำได้อย่างเต็มที่เพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองมีสิทธิ์เลือก หลังๆกดดันอีก กลัวว่าตัวเองที่เลือกเรียนสายนี้แล้วดันทำได้ไม่ดีจะโดนเพื่อนคิดในใจว่าทำไมกูที่กากขนาดนี้ถึงได้เรียนในขณะที่มันไม่ได้เรียน รู้สึกท้อกซิคสัด แต่ไม่คบคนนี้ก็ไม่รู้จะคบใครแล้ว
เบื่อ เพื่อนไม่รับผิดชอบ แต่ทำไมกุป็นคนโดนด่าก็ไม่รู้ เวลาพวกผู้ใหญ่ว่า พอบอกว่าไม่ใช่ความผิดชอบกุก็หาว่าไร้น้ำใจ หาว่าเถียง กุเหนื่อยมากเลยนะ
กูกำลังคิดว่า
กูจะไปอยู่ที่อื่นดีมั้ยกูไม่ค่อยมีเพื่อนทีนี้ไม่มีเลยเพราะแม่งแยกย้ายไปทำสิ่งต่างๆไม่อยากอยู่นิ่งๆ
ละกูไม่อยากเล่นเฟสด้วยกูไม่อยากเห็นอะไร
มึงน่ะ ไม่เห็นสิ่งที่กูตั้งใจทำให้มึงสุดชีวิต สุดความสามารถหรอก มึงเห็นแค่ตอนที่กูไม่ง้อมึงเท่านั้นแหละ มึงเป็นผัวกูหรือไง ทำไมกูต้องง้อมึงทั้งที่กูไม่ผิดด้วย แล้วกูก็ไม่ใช่เมียมึงด้วยค่ะ ที่ต้องมารองรับอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของมึงได้ เดี๋ยวกูจับจกเลยแม่ง
อยากเป็นเพื่อนกับคนที่ด่า ปญออส
กูดูเป็นคนเหี้ยป่ะวะที่เลิกคบกับเพื่อนทั้งแก๊งเพราะเพื่อนมีแต่คนอ้วนๆ
แก๊งมหาลัยกูตอนแรกมี 5 คน คนผอมรวมกู 3 กับคนอ้วน 2 คน กูก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วทีนี้ก็มีมาเพิ่มอีก 3 คนซึ่งเป็นคนอ้วนหมดเลย รวมทั้งแก๊งมี 8 คน พวกนี้เป็นเพื่อนที่นิสัยดีเลย แต่เป็นคนขี้เกียจ ไม่ชอบเดิน ไม่ช็อปปิ้ง ไม่ค่อยมีความทะเยอทะยาน ไม่ชอบทำกิจกรรม ไม่ชอบเข้าสังคม ละกลายเป็นจะมีคนผอม 2 คนที่จะพอทำนู่นทำนี่กับกูบ้าง แต่คราวนี้ไอ้คนผอมก็อ้วนตามเพื่อนไปด้วย แล้วกูรู้สึกเวลาเจอก้บพวกมัน มีแต่ออร่า negative ว่ะ ดูหม่นๆ ไม่ค่อยมีเอเนอจี้ เครียดๆ ไม่อยากทำอะไร อยากบ่นชีวิตเฉยๆ กูรู้สึกตัวเองถูกดูดพลังมากๆ ตอนนี้เลยเลือกออกมาจากแก๊ง ละคืออีกสองเดือนจะจบแล้วก็ไม่มีเพื่อนแก๊งอื่นเลย คบแต่พวกนี้มาตลอด
>>658 ไม่เล่นก้ปิด ไปฮีลใจ ถ้ามึงไปรพ.จิตแพทย์ก้จะห้ามมึงเล่นนี่แหละ ดีจริงๆ กุลองมาแล้ว
แต่กุว่ามึงโฟกัสคนอื่นมากไป ทำไมมึงนั่งโฟกัสว่าไม่มีเพื่อนวะ คือมีหรือไม่มีแล้วตัวมึงอยากทำอะไรอะ เป้าหมายในชีวิตมึงต้องใช้เพื่อนรึไง อยากทำอะไรก้ตั้งหน้าตั้งตาทำไป เพื่อนจะมาระหว่างทางเอง มึงไม่ควรนั่งวิ่งไล่ตูดคนอื่นเพราะเหงาหรอกนะ
>>665 กูเป็น extroverted introvert เว้ย แต่กูไม่ได้มีปัญหากับการเข้าสังคม แต่กูก็ชาร์ตพลังกับการอยู่คนเดียว กูเลยคบกับพวกเพื่อนๆกูได้ แต่ยิ่งนานไปเพื่อนกูคือไม่ไปไหนเลยจริงๆ ไม่ทำกิจกรรมอะไรเลย ละเพื่อนกูอีกสองคนที่มันเป็นเหมือนกูก็เริ่มอ้วนละก็ไม่ทำอะไรกับกูแล้ว
กูงงใครมันเริ่มกระแสอยากเป็นอินโทรเวิดวะ555 มันมีใครมองว่าเป็นแล้วเท่ด้วยหรอ
อินโทเวิดเป็นตั้งแต่เกิด ต่อให้ฟ้าถล่มยังไง
ก็ไม่มีทางปลี่ยนให้กลายเป็นอย่างอื่นได้
กุไม่ได้อินดี้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบพวกเมิง
ไม่มีเพื่อน เมิงเป็นง่อยหรือไง ทำอะไรไม่เป็น
เมิงก็แค่เอกโทเวิท เรียกร้องความสนใจ
เมิงลองเทียบดูว่า เมิงใช่อินโทเวิท แท้จริงไหม ง่ายๆจากอนิเมะ
แอล จากเรื่องเดธโน็ต
ไซกิ จากเรื่อง พลังจิตอลวน
เรย์ จากเรื่องpromise neverland
อายาโนะโคจิ จากเรื่อง ขอต้อนรับสู่โรงเรียนยอดคน
เมียนารุโตะ จากเรื่อง นารุโตะ
รีไวน์ จาก attack on titan
โทโดโรกิ จาก เรื่อง boku no hero
กิยู จากเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร
กุละเบื่อเอกโทเวิท เนียนเป็นอินโทเวิด
ถ้าเมิงคิดว่า เมิงเหมือนลีไว แต่ไม่เหมือน กิยู เมิงก็ไม่ใช่อินโทเวิดที่แท้จริง
https://imgur.com/dV2lz1H
Stolen Meme
>>665 อิน เอ็ก เหี้ยไรก้ไม่เกี่ยวกับเป้าหมายชีวิตปะวะ มึงมีมั๊ยก่อน เป้าหมายเนี่ย ไม่ใช่แค่อยากมีเพื่อนคุยไว้ฟีลกู้ด กุเข้าใจว่าอาการกระสันสังคมมันส่งผลต่อจิตใจ แต่ถ้ามึงหิวโซเชียลขนาดนั้น หลายๆหลักการแม่งเลยจะแนะนำให้มึงไปบำเพ็ญประโยชน์หรือเข้ากิจกรรมช่วยเหลือสังคมไง เพราะที่นั่นมึงได้รับความโซเชียลแน่นอน ยิ่งถ้ามึงเป็นคนไปช่วยคนอื่น ยังไงมึงก้ฟีลกู้ดโดยไม่ต้องพยายาม แต่ถ้ามึงจะพยายามไล่ตูดเพื่อนเนี่ย มึงมีดีอะไรก่อนให้คนอื่นเค้าอยากคุยกับมึง มันก้วนกลับมาที่เดิมไง มึงทำตัวเองให้ดีก่อน เดี๋ยวก้มีคนคบ ถ้าทำตัวไร้ค่านอนแดกไปวันๆต่อให้พยายามยังไงก้ไม่มีใครอยากแลปะวะ มึงจะรอนางฟ้าจากสวรรค์มาโปรดหรือไง
อิแนน กูจะบอกแม่มึงว่ามึงพาเมียมาเย้ดในหอแล้วไล่กูออกมาข้างนอก อิแนนอิควาย
>>671 ที่มาต้นตอของความหมายไม่เคยหามาอ่าน มันมาจากงานวิจัยของCarl Jungมึงไปหาในวิกิพีเดียก็มีละไอสรุปข้อแตกต่าง มานั่งเบียวอนิเมะคิดมั่วซั่ว เพ้อเจ้อเพ้อฝัน สมกับเป็นพวกมีปัญหาด้านการเข้าสังคม
คนมีสังคมก็เป็นอินโทรเวิร์ดได้ สังเกตง่ายๆเลยไอพวกนี่แม่งเวลาจะทํางานเป็นกลุ่มมันทําได้คุยกับคนอื่นได้ปกติ มีเพื่อนเยอะ แต่มันจะมีจังหวะเหนื่อยๆแล้วออกไปคนเดียว มึงไม่มีเพื่อนไม่มีสังคมไม่รู้จัดมนุษย์เลยเอาการ์ตูนมาเป็นตัวเปรียบเทียบแล้วมาหาว่าคนมีเพื่อนแม่งเป็นเอ็กซ์โทรเวิร์ด lmao
กลับกันพวกExtroverted แล้วไม่มีเพื่อนจริงๆก็มี เพราะพวกนี้มันเน้นการคบคนเป็นสังคมกว้าง ไม่ได้คบคนลึกซึ้งจริงจัง นะครัชณร๊องๆ
>>676 ขอบคุณมึงมาก ไม่รู้เป็นอะไรกันมารุมกู พวกข้างบนแม่งไม่มีเพื่อนไม่ใช่มึงเป็น introvert แต่แม่งเป็นคนเหี้ย กูแค่มาปรึกษาอยู่ดีๆก็มาด่าว่ากูดัดจริตอยากเป็นอินโทเวิด ใครมันอยากเป็นวะ ข้อเสียเยอะกว่าข้อดีอีก55 ละอีกอย่างมนุษย์มันหลากหลาย มาเอาคำจำกัดความโง่ๆสองคำมาจำกัดความสามารถ จำกัดลักษณะตัวเอง แม่งตลกว่ะ
>>680 กลับไปดูอนิเมะนะ บางที่พื้นที่ในสังคมน่าจะไม่ได้มีไว้เพื่อมึง แม้กระทั่งในโม่งก็ไม่น่ามีให้มึงเหมือนกัน หรือไม่ก็ลองไปคุยกับพวกกลุ่มอนิเมะในเฟสดู เน้นที่โปรไฟล์เป็นรูปการ์ตูนขาวดำแล้วตั้งสเตตัสแนวๆไม่ต้องการโลกไม่สนโลกดู สู้ๆอีกสัก2-3ปีมึงน่าจะหาย กุเป็นกลจ.ให้นะ
กูร่างทรงคาร์ล กูสตาฟ ยูง นักจิตวิทยสเชื้อชาติเยอรมันเจ้าของงานวิจัยExtraversion and introversionเอง ฝากมาบอกว่าพวกมึงทั้งหมดปัญญาอ่อน จบข่าว
According to the article it said that “Many people associate introverts with shyness or social anxiety, but according to Jung’s theory, introverts prefer to focus their energy inward rather than outward. Similarly, extroverts are frequently mislabeled as attention-seeking, but according to Jung’s theory, they have a natural proclivity for social interaction and external expression.” I hope this explains everything ya’ll need to understand for Carl Jung’s theory if you can understand basic English na
eiei
แม่งงานวิจัยโครตโบราณ 100กว่าปีที่แล้ว โดนสื่อและบริษัทหากินกับเรื่องจิตวิทยาไร้สาระเอาไปตีความผิดแผงหมด
1 เลย หลายคนแม่งเข้าใจผิดกับความหมายที่แท้จริง และไม่มีใครแม่แต่จะศึกษาต้นตอ สุดท้ายเอาคําๆนี้มาใช้อ้างเหตุผลยึดนิสัยตัวเองว่าเป็นคนแบบนั้น ทั้งๆที่คาร์ล ยูงแม่งบอกเองว่าไม่มีมนุษย์คนไหนเป็น100%อินโทรเวิร์ดหรือเอ็กซ์โทรเวิร์ด
2 งานวิจัยนี้ถูกโจมตีว่าแม่งsimplifiedนิสัยของมนุษย์เกิน มันมองข้ามelementsอะไรต่างๆไป แต่ก้วยความที่มันsimpleเนี่ยแหละคนมันถึงเข้าถึงง่าย จนเหล่าบริษัททําข้อสอบวัดทดสอบบุคลิกกิ๊กก๊อยหลอกแมวอะไรเอามาใช้วัดนิสัยของคน จนมาเป็นpop culture ยันทุกวันนี้ คนแม่งก็อ้างไปเหอะกูเป็นนู้นเป็นนี้
ปัญญาอ่อน
แล้วงานเขียนวิจัยเรื่องpersonalityอื่นๆเจ๋งๆของคาร์ลอย่าง Collective Unconscious ที่ขีดแย้งกับของซิกมัน ฟรอยด์ไมาเห็นจะมีคนพูดถึงเลย ไรว้า
>>684 กูถึงบอกไงว่าบางคนมันชอบอ้างว่าเป็นอินโทเวิดเพื่อที่จะได้เป็น asshole ใส่คนอื่น อยากดู edgy อยากเูขวางโลก ความจริงแล้วพวกนี้เพื่อนไม่เยอะเพราะนิสัยเหี้ย ไม่ใช่เพราะชอบชาร์ตพลังคนเดียว เพื่อนกูอินโทเวิดเยอะแยะที่แม่งมีคนรู้จักเยอะ มีแต่คนรักคนชอบ ก็เพราะมันนิสัยดี ไม่ขวางโลก คุยกับมนุษย์เป็น
ผมเป็นพวก introvert อย่าถามว่าทำไมผมถึงชอบอยู่คนเดียว เพราะว่าผมไม่เหมือนแกะ อ่อนแอแล้วอยู่เป็นฝูง เชอะ
เข้าใจละ ประมาณว่า เพศ ญ เพศ ชาย ที่เป็นของจริง ส่วน เพศlgbt+ เป็นสเปคตั้ม พวกผิดเพศ ประสาทหลอน ความต้องการไม่ตรงกับร่างกาย
เอกโทเวิท อินโทเวิท ไม่มีจริง กุเป็น lone wolf ก็ได้
เก็ตเลยแบบนี้
ทำไมจากมู้ระบายเรื่องเพื่อนกลายเป็นมู้ถกกันปัญญาอ่อนไปได้วะเนี่ย
ตอนกูไปทำธุระแล้วเข้าสายกลุ่มคอลคาไว้ กูได้ยินเพื่อนพูดว่ารักนะคะใส่แฟนกู ??? กูเคยถามนะว่าทำไมมาเอ็นดูแฟนกูจัง นางบอกว่าเอ็นดูแฟนกูเหมือนเป็นน้อง ?? แต่มึงบอกรักแฟนกู แถมคิดว่ากูไม่อยู่ ???
รำคาญแม่งชิบหาย คือลึกๆแม่งไม่น่าจะชอบกูแหละ เพียงเพราะกูฉลาดกว่า คือมาอยู่เมืองนอกที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษไง แล้วไอนั่นมันคุยภาษาท้องถิ่นที่นั่นไม่รู้เรื่องก็ชอบคิดว่าคนที่นั่นดูถูกว่ามึงโง่ หรือตอนที่กูช่วยคุยเจรจาแก้สิ่งที่มันพูดผิดมันก็ทําตัวงอนๆไป แบบดูออกว่าเก็บกดเขี่ยไรซักอย่าง แล้วก็มาเหวี่ยงใส่ ปวดหัวประสาทแดก กูอยู่ห่างๆจากแม่งละ
เวบาเรียนภาษาตัวเองแม่งก็ไม่ตั้งใจ ไม่ยอมปรับความเข้าใจcultureคนที่นี่ แล้วมาโวยวาย มาทําไมก่อนวะที่นี่ถ้าไม่ได้สนใจวัฒนธรรมหรือจะเข้าหาคน ไอวิชาที่มันมาเรียนไปเรียนประเทศพูดภาษาอังกฤษก็ได้ งง หรือเพราะไม่มีปัญญาไปต่อมหาลัยดีๆประเทศโลกที่1รึไงวะเลยมานี่
เหนื่อยใจหว่ะแล้วตอนหลังๆนี่แสร้งเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ละ รู้ตัวเลยว่าตัวเองหน้าเสียหน้าบึ้งออกมาเลย มีแต่ปัญหาทั้งที่บ้านทั้งที่ทํางาน กูเส้าหว่ะ
เมื่อก่อนเจอคนแบบนี่ก็รำคาญนะ แบบไม่เข้าใจว่าไมต้องเอาปัญหาบางอย่างมาลงกับคนอื่นที่ไม่รู้เรื่อง แบบแม่งทะเลาะกับเมีบมาแล้วมาทำตัวห้วนๆใส่คนที่ทํางานไรงี้ แยกแยะไม่ออกเอาอารมณ์มาตัดสิน กูไม่ชอบคนแบบนี้เลยและกูไม่อยากเป็นคนแบบนี้ด้วย
เวลาเพื่อนถามไรแล้ว ไม่อยากตอบ ควรพิมไปว่าอะไรดี
นอกจาก อืม เออ โอเค
1) เผอิญมี clip ใน reel IG ผ่านตามาแล้วเราได้ฟังข้อความนี้ จุกๆอยู่เหมือนกันแฮะ "เราแก่ขึ้น แล้วเพื่อนน้อยลง" จริงแบบจริงมาก หลังจากตอนนี้ อายุใกล้ 40 เข้าทุกวัน เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ชัดขึ้น
2) ทั้งเพื่อน และเรา มีเวลามาเจอกันน้อยลง เจอกันยากขึ้น ทุกคนมีภาระหน้าที่ การงาน และครอบครัว โดยเฉพาะเพื่อนที่มีลูก หรือแต่งงานแล้ว แทบจะหายไปจากวงโคจรของเราเลย เพราะเวลาทั้งหมด ไปตกอยู่กับการให้ความสำคัญกับครอบครัว
3) เรามองว่าเพื่อนยังเป็นเพื่อนเสมอแหละ แต่แค่การให้ความสำคัญ จัดลำดับทางเวลา และการเข้าสังคมเพื่อไปเจอเพื่อน "มันยากขึ้น" มันมีอะไรให้ทำก่อน คำว่า 'เพื่อน' จึงมักจะมาทีหลัง มันหลวมมากขึ้น จนกระทั่งหายห่างกันไป
4) บางคนเราจากเป็น แต่บางคนเราจากตาย ความสัมพันธ์เป็นเรื่องไม่แน่นอน ขอแค่ว่า เราทำดีที่สุดในขณะที่มีลมหายใจรึยัง ทำเต็มที่กับทุกความสัมพันธ์ตรงหน้ารึยัง? ถ้ายัง ต้องรีบไปทำ เพราะวันหนึ่งที่ไม่มีคนเหล่านั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อน หรือคนรัก เราจะไม่เสียใจ หรือเสียดายทีหลัง เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว
5) พอเราโตขึ้น เราให้ความสำคัญกับการ "เลือกเพื่อน" มากขึ้น ละเอียดกับความสบายใจ และมองหาคุณภาพของเพื่อนที่มีจริต มี lifestyle ที่มันไปต่อกันได้ มันมี details มากขึ้น เพราะเราเหนื่อยกับเรื่องเป็นร้อยเป็นพันรอบตัว เราคงไม่อยากจะเหนื่อยกับเพื่อนอีก ดังนั้น เพื่อนในวัยที่โรยรามากขึ้น เรากำลังมองหาเพื่อนที่เป็น 'พื้นที่ปลอดภัย' มากกว่าความฉาบฉวย หรือคบไปแบบ toxic relationship
6) อย่างน้อย ก่อนจะลาจากความสัมพันธ์ไหนๆ ก็ขอให้เป็นการลาจากกันด้วยความรู้สึกที่ดี แม้การโดนทิ้งจะเจ็บปวดเสมอ แต่เราคงอยากให้เขานึกถึงแต่เรื่องที่ดีที่มีต่อกัน วันเวลาดีๆที่เราเคยมีให้กันและกัน มากกว่าสาปแช่งกัน การจากไปของเพื่อนคนหนึ่ง หรือตัวเราที่อาจจะไปก่อน ก็คงอยากให้มัน "เป็นความทรงจำที่สวยงาม มากกว่าเจ็บแค้นใจ"
7) เราเชื่อเสมอนะว่า ยิ่งแก่ เพื่อนเริ่มยิ่งหายไป เรื่อยๆ...ทั้งเรื่องเวลาที่มี และการเลือกคบเพื่อน เราเชื่ออย่างหนึ่งว่าตัวเราจะดึงดูดคนแบบเดียวกับเรามาเจอกันในที่สุด เราเป็นคนแบบไหน เราจะเจอเพื่อนแบบนั้นแหละ มันสะท้อนตัวเราเองจริงๆ
8 ) วันนี้อาจจะเพื่อนน้อยลง แต่ถ้าเรามีความสุขแล้ว ชีวิตเราลงตัวแล้ว ก็โอเคแล้วนะ การมีเพื่อนที่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเพื่อนมาก หรือน้อย แต่ขึ้นอยู่กับความสบายใจส่วนบุคคล คบใครแล้วส่งเสริมชีวิต มีความสุข ก้าวไปข้างหน้า ไม่สร้างความเดือดร้อน หรือความไม่สบายทางกายและทางใจ แค่นี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีของเราได้แล้ว
"คุณเพื่อนน้อยลงบ้างไหม?"
ขอให้เพื่อนที่อยู่ตรงนี้ ข้างๆคุณเป็นเพื่อนที่ดีนะ
ฝากไว้ให้คิด
สมมุติถ้ากูไปแนะผญ(แนวชายทอมจ้า) อยากเห็นเขาแต่งตัวน่ารักๆ มันดูเสร่อปะ🥲
ถ้าเล่นเกมกับเพื่อนแล้วเล่นไม่เก่ง เพื่อนบอกเล่นดีแล้ว แต่กูรู้สึกว่ากูเล่นทีไรละเป็นภาระทีมอยู่ดี เคยพูดละว่าเกรงใจต้องมาแบกไก่แบบกู แต่มันก็อยากจะเล่นกับกูตลอด แบบนี้กูเล่นต่อได้ใช่ไหม กูก็อยากเล่นกับมันนะ แต่โดนแบกละกูแจกรัวๆก็เกรงใจมัน ใครมีเพื่อนที่เล่นเกมไม่เก่งแล้วยังอยากเล่นด้วยกันอยู่นี่มีจริงๆหรอ เพราะกูเวลาเล่นแล้วแพ้บ่อยกูเริ่มไม่สนุกอะ
ระบายหน่อย กุคงน้อยใจงี่เง่าไปเองแหละ แต่เวลากุพูดว่ากุอยากได้อะไรหรืออยากทำอะไรแต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีตัง เพื่อนคนนึงก็จะชอบพูดขึ้นมาว่าตัวเองมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่กูต้องการ แต่มันไม่เอา มันไม่ชอบ มันขี้เกียจ แม่มันพาไปทำตลอดแต่มันก็ชอบเบี้ยว แล้วมันก็จะพูดต่อว่า คิดดูดิ กุไม่อยากทำขนาดไหน กุหนีเลยนะเว้ย ไม่ยอมไปเลย ขนาดจ่ายเงินแล้วนะ แล้วกุที่อยากไปชิบหายแต่ไม่มีตังได้แต่น้อยใจในโชคชะตา ประเด็นคือมันไม่ได้เป็นแค่กับเรื่องนี้ อะไรโง่ๆอย่างตัดผม ยกตัวอย่างวูฟคัทที่ฮิตๆละกัน ถ้ากุบ่นขึ้นมาว่าอยากตัดวูฟคัทจัง มันก็จะพูดขึ้นมาว่า กุก็อยากตัดนะ แต่ไม่เอาอ่ะเสียดายผม ครั้งนั้นตอนกุพาแม่ไปตัดผมก็ว่าจะตัดอยู่ บอกแม่เรียบร้อยละแม่ก็เตรียมควักตังจ่าย แต่สุดท้ายกุก็บอกพี่ช่างตัดผมเขาว่าไม่ตัดแล้วค่ะ แล้วก็จะพูดเรื่องตัดวูฟคัทแล้วตัวเองไม่เอาวนซ้ำไปมาประมาณ2-3รอบ ประหนึ่งว่ามึงพูดเรื่องอะไรอยู่มันจะวนกลับมาประเด็นนี้เสมอ
>>707 ก็แม่เมิงเขาอยากทำอะไรให้สำเร็จ คนที่เขาเป็นperfectionist ที่เมิงทำควรขอโทษ และไปตัดให้แม่เขาทำภารกิจให้เสร็จสิ้น ไม่ใช่งอแง ไม่เอา เมิงต้องมีความมุ่งมั่น ไม่ใช่บ้าแฟชั่นไปวันๆ แล้วแบบนี้จะไปทำไรกินได้ ทำให้แม่ผิดหวังอีก
ไม่งั้นเมิงก็ไม่ต้องพูดว่าอยากทำไรดีที่สุด จำไว้นะ ตอนดีใจอย่ารับปากใครง่ายๆ ตอนเสียใจให้หุบปากอย่าเอ่ยอะไรออกมา
โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเมิง คิดถึงผู้อื่นก่อนตัวเอง เสมอ
ไม่ก็เมิงอาจเป็นโรคซึมเศร้าต้องพาไปบำบัด
มาบ่นเฉยๆ เพื่อนเมทกูขี้ร้อน กุขี้หนาว เมทชอบปรับแอร์เย็นๆละประเด็นคือแอร์เป่าโต๊ะทำงานกุ ส่วนโต๊ะเมทคือมุมอับแอร์ กุหนาววววววววว อยากรวยโว้ย อยากอยู่ห้องคนเดียววว
>>708 ไอ้เหี้ยนี่มาอีกแล้วหรอวะ โทรลจากมู้แชร์ปัญหาที่ชอบแทงสวนด้วยการด่าคนต้นเรื่องแบบเสร่อๆ แต่ละคำพูดแม่งเหมือนไม่ได้กรองออกมาจากสมองเลย แม่งไม่รุ้ตัวด้วยซ้ำมั้งว่าตัวเองตีความผิด กุเคยเจอคอมเม้นแบบนี้หลายรอบละ ชอบทำตัวเหมือนคูล แต่จริงๆแล้วขยะ คอมเม้นแม่งเหมือนคนละเรื่องกับที่คนอื่นพูด จับแพะชนแกะมั่วซั่วเหมือนอ่านหนังสือไม่ออก
>>707 ไม่แปลก อีนั่นเพื่อนมึงมันเป็นพวกมองโลกแบบทุกอย่างหมุนรอบตัวมันไง ไม่ว่ามึงจะเล่าอะไรไปสุดท้ายแม่งก็จะทำให้เป็นเรื่องของตัวเอง เอาจริงแม่งก็ไม่ใช่คนน่าคบเท่าไหร่ อาจจะไม่สามารถพูดได้ว่ามันอยากเกทับมึงนะ บางทีมันแค่รู้สึกแบบนั่นเลยพูดออกมาตรงๆ แต่สันดานมันคือคนไม่รู้จักรับฟังอ่ะ เลยจะเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่ไม่ชอบคนแบบนี้ คนอื่นก็ไม่ชอบ เคยอ่านเจอหลักเกณฑ์ทางจิตวิทยาอยู่ว่ามันไม่มีใครชอบสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว มึงอ่ะปกติ
ไอ้เหี้ย คนไทยมันอ่านจับใจความไม่ได้หรอวะ เรื่องทรงผมคือยกตัวอย่างไง โอ๊ย กุปวดหัว การศึกษาไทยมันทำอะไรกับคนไทย
ลองตัดทางธรรมชาติงดใช้โทรศัพท์มือถือ มีหนังสือ 1 เล่ม อ่านไปเรื่อยๆพอ เดียวนี้คนเรามันเสพติดอะไรไวๆหมด
ไม่ไว ไม่เอา
>>711 ก็ลองตัดเองไง ทําไมเป็นมันก็ต้องมีครั้งแรกกันบ้าง มึงค่อยใจเย็นๆลองทําดู ไม่ยากเว้ย มันมีวิธีhackทรงwolf cut คือเอายาวมามัดแล้วตัดทีเดียว ก็ทําเองนะ แต่กูไล่ผทเป็นหลายชั้นก็มัดหลายชั้นหน่อย แล้วค่อยๆซอยๆไปเรื่อยๆ เสร็จด้วยจัดทรงอีกทีให้เท่ากัน แล้วหนีบผมตัดทรงไร
ถ้าไม่รีบร้อนตัดทีเดียวเยอะๆมันก็ไม่พลาดหรอก ค่อยเป็นค่อยไป ปลกูตัวผู้นะ กูยังทําได้เลย ผมยาวแค่บ่า ความยากคือบางครั้งผมสั้นเกินที่จะมัด ก็ค่อยๆหาวิธีไป คือต้องเข้าใจstructure ของผมก่อนอ่ะ ว่าเป็นยังไง
เพื่อนไม่ค่อยว่าง เลยไม่ค่อยได้ติดต่อกัน
ยกเว้นตอนยืมตัง
ใครมีลิงก์มู้มหาลัยบ้าง จะมาถามว่าถ้าคณะจัดรับน้องเราไม่ไปได้มั้ย
จากนี้เป็นบ่นละ มึงข้ามได้ รับน้องของเราจัดหนึ่งอาทิตย์ นั่งรถตกวันละ200แล้วงบต่อเดือนไม่พอ ถ้าไปเงินจะไม่พอหมุนตอนเปิดเทอมอีก
>>720 ได้ดิ ไปทําเหี้ยไร แล้วสมัยของพวกมึงมึงอ้างสิทธิอ้างการเมืองไปถ้ามีใครจะมาดราม่า กูก็ไม่เอาสายรุ่นแต่ก็ได้เพื่อนมา เพราะสอบได้อันดับต้นๆของคณะ เดี๋ยวคนมันก็มาอยากเสนอตัวเป็นเพื่อนเองเวลาจับกลุ่มไรอ่ะ ถถถ ก็คบๆไปเอาคอนเนค
อ่อมหาลัยกูไม่มีข้อบังคับทำกิจกรรมด้วย มหาลับนั้นแหละ แต่แบบสมัยกูเมื่อ5ปีที่แบ้วแม่งยังมีคนเอ๋อบังคับกัน กูก็ไม่เข้าร่วม เกือบจะยื่นเรื่องไปอธิบดีแล้ว เรื่อวบังคับเก็บเงินทุกคน แต่มหาลัยสโลแกนเสรีภาพทุกตารางนิ้ว เอ๋อจัด พวกเหี้ยนี่
>>721 กูไม่จ่ายด้วย งงเงินเชี่ยไร แต่จบมาเป็นที่นักของอาจารย์ แล้วอาจจะได้เป็นอาจารย์ต่อ เพราะอาจารย์เขาอยากได้ตัวกูอะนะ ดังนั้นอย่าไปแคร์กิจกรรมคนป่าปัญญาอ่อน เรามามาทําอะไร มาเรียนครับ หรือมาทํากิจกรรมที่มันน่าสนใจ เช่นเข้าร่วมชมรมกีฬา ดนตรี อะไร เข้าร่วมการแข่งขัน ทำโปรเจ็ค เขียนบทความวิชาการส่งประกวด บลาๆ กิจกรรมรุ่นที่มีแต่เต้นๆนั่งๆลุกยืนๆเป็นทหารมันสําหรับพวกไร้ความสามารถและไร้สมองซะมากกว่า
ได้เพื่อนใหม่ที่นิสัยเข้ากันได้ดีมากๆมา แต่ทั้งนิสัยการแชทและอื่นๆแม่งเหมือนกับเพื่อนเก่าที่เลิกคบกันไปมาก คุยไปกุนึกถึงเพื่อนเก่าไป เจ็บเหี้ยๆ มีมแม่งยังเล่นอันเดียวกันเลย มีมมีเป็นล้านเสือกมาทรงเดียวกัน นิสัยการพิมพ์อีก หน้าตาทรงก็คล้ายๆกัน ขาวๆ ตี๋ๆ เหมือนคนความดันต่ำ แล้วมันจะจบแบบเดิมไหม5555 คิดถึงเพื่อนเก่าชิบหาย ขอโทษ แม่งพังแบบต่อไม่ติดแล้วจริงๆ แต่คิดถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมากๆ น่าคิดถึงกว่าที่คิดทั้งๆที่ตอนนั้นโคตรขี้เกียจคุยด้วยเลย
>>723 เพลงแด่มึง ลองตีความหมายเป็นเพื่อนดูhttps://youtu.be/FvOpPeKSf_4
มีใครมีวิธีง้อเพื่อนมั้ย คือกูโดนเพื่อนโกรธแบบไม่คุยด้วย ไม่อยู่ด้วยกันเลยถ้าไม่มีเพื่อนในกลุ่มคนอื่น คือกูทำผิดกับมันจริงๆ(ขอโทษแล้ว) แต่เหมือนมันเคืองกูมาสักพักใหญ่ๆ(รู้จากเพื่อนคนอื่นในกลุ่มแล้วก็ก็สังเกตเองด้วย) กูควรไปง้อมันยังไงดีวะ เพื่อนผู้ชายด้วย ปกติโกรธงี้มีแต่เพื่อนสาว (กูผญ)
กุควรทำไงกับเพื่อนที่ชอบมานอนค้างหอ ใช้ไฟ ใช้น้ำกุเเบบไม่เกรงใจเเล้วก็ไม่ช่วยออกค่าหอวะ พอจะให้ช่วยเล็กๆน้อยเเม่งก็อ้างว่าไม่มีตังเเต่เสือกออกไปเที่ยวกินของเเพงๆได้
เสียใจโดนเมทเอากูไปนินทาให้แม่เค้าฟัง แม่เค้าก็โทรหาแม่กู สิ้นเดือนนี้จะหาห้องใหม่ แต่ยังต้องเจอกันบ่อยๆอยู่กลุ่มเดียวกัน ทำไงดีวะ
กุดีใจมากๆที่เพื่อนๆคอยดูแลกุ ขอบคุณมากจริงๆ แต่บางทีก็ทำเหมือนกุเป็นเด็กแบบเด็กเลยจริงๆ แล้วไม่ใช่แค่คนเดียว คนรอบข้างแม่งก็เริ่มเป็นไปด้วย
หลังจากนี้กุจะพยายามใช้ชีวิตด้วยตัวเองให้ได้ จะได้โตขึ้น สู้ๆนะตัวกุ เพราะคงไม่ใช่ทุกครั้งที่เพื่อนจะมาคอยดูแลกุได้ ในอนาคตถ้าต้องไกลกันกุเองก็คงจะชิบหาย
กูเบื่อคนประเภทที่ชอบบอกว่า "จริงๆกูเก่งนะ แค่ขี้เกียจเฉยๆ" มันก็หมายความว่ามึงไม่เก่งไง เพราะมึงยังทำไม่ได้ แต่คาดหวังให้คนชื่นชม คนพวกนี้เหมือนคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ ทั้งที่จริงๆแล้วเนื้อหาที่มันรู้ก็แค่ตื้นๆง่ายๆ พอเจอเนื้อหาลึกๆกูไม่เห็นรอดสักราย
บ่นเฉยๆ มีคลาสนึงกูรู้จักคนนึงแล้วเขาชอบไปนั่งแถวที่มีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ ละเสือกให้กูนั่งคั่น แล้วพอสักพักใช่ปะ ผู้ชายก็จะทำลุกไปนอกห้อง แล้วกลับเข้าห้องมาเปลี่ยนที่นั่ง นั่งห่างจากกูออกไป พูดตรงๆ รู้สึกเสียเซลฟ์เอาเยอะอยู่ แบบกูก็ไม่ได้พูดเยอะหรือเสียงดัง จดด้วยเรียนด้วย ไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญ แต่เขาย้ายที่นั่งอะ มันเหมือนกูทำไรผิดหรือไปรบกวนการเรียนเขาสัสๆ เขาเลยเปลี่ยนที่
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับหัวข้อไหมแต่อยากระบายหน่อย กูตัดขาดจากสังคมตัดขาดจากเพื่อน ไม่เล่นโซเชียลไม่ติดต่อใคร เพราะกูไม่ชอบตัวเองที่เวลาเข้าสังคมแล้วต้องเอาใจคนอื่น มันเหมือนเป็นธรรมชาติของกูเอง กูทำตัวเฟียสๆหยิ่งๆไม่ได้ กูต้องเป็นตัวเอนเตอร์เทนให้ทุกคนสนุกเสมอ แล้วเพื่อนๆก็ขาดหวังกับกูตลอด แต่กูโคตรเหนื่อยโคตรอึดอัด กูเลยเลือกที่จะออกมาแล้วตัดขาดจากเพื่อนทุกคนไปเลย
กูก็มีความสุขดีอยู่ได้โดยไม่ต้องมีใคร กูสร้างแอคใหม่เป็นแอคอวตารไม่มีรูป เอาไว้พูดคุยในกลุ่มคอมมูต่างๆเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองสนใจ ไปๆมาๆแอคนั้นก็ดันมีคนชื่นชอบอยากเป็นเพื่อน ชวนนัดเจอนัดมีทติ้งกันตลอด หนีไปเข้ากลุ่มดิสคอร์ดก็มีแต่คนส่งข้อความมาคุยส่วนตัว ขนาดแค่จะเข้าไปเล่นเกมก็ยังมีแต่คนแอดเพื่อนขอมาเล่นด้วย กูอยากเล่นคนเดียวชิลๆแต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ไปกินข้าวร้านเดิมบ่อยๆแม่ค้าก็ชวนคุยจนสนิทกันทั้งๆที่กูถามคำตอบคำ ทำไมชีวิตกูมันเฟรนลี่จังวะ อยากอยู่คนเดียวบนโลกทำไมมันยากจัง
ทำไมคุยกับคนมันต้องใช้พลังงาน ใช้ความคิดเยอะขนาดนั้น แล้วกุเป็นตั้งแต่เด็กๆแก้ไรไม่ได้ เวลาคุยกับใครต้องคิดก่อนตอบตลอดแม้จะเป็นคำถามโง่ๆ กุก็จะคิดว่าปกติแล้วเขาจะตอบอะไรกันแล้วก็ตอบ เพราะให้ตอบความจริงกุก็คงไม่ตอบเพราะไม่สนใจ ช่วงนี้กุเริ่มคิดเรื่องบ้านในฝันบ่อยมากเลย ถ้ารวยกุอยากมีบ้านในป่าของตัวเอง ป่าเยอะๆๆเอาให้แน่ใจว่าจะไม่มีคน เงียบ สงบ กับบ้านเล็กๆสักหลังนึง กับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต แค่นี้กุก็อยู่ได้แล้ว
ทำไมคนที่ฮอตตอนมัธยม พอขึ้นมหาลัยแล้วกลายเป็นโนเนม ส่วนคนที่โนเนมตอนมัธยม กลายเป็นคนฮอตในมหาลัยวะ5555555555
>>750 เพราะความต้องการมันต่างกันไงล่ะ ตอนมัธยมมันโดนกดด้วยกฎระเบียบ คนที่ไม่ได้มีเล้าหน้าสวยมาตั้งแต่เกิดเลยเฉิดฉายไม่ได้ พอเข้ามหาลัยมันก็ได้ฟรีด้อมประมาณนึงเลยได้เวลาแต่งสวย
ส่วนคนที่อยู่มัธยมฮอตแล้วไมมหาลัยไม่ฮอตก็อาจจะได้ประสบการณ์การเป็นคนสวยไปแล้ว อาจจะเหนื่อยที่จะต้องดูแลจัวเองไปแข่งกับพวกกลุ่มแรกอีกก็เลยเหนื่อย ช่างแม่งไป หรืออาจจะดูแลเหมือนตอนมัธยมน่ะแหละ แต่กลุ่มแรกมันมาแรงกว่าเพราะมันเก็บกดมาตั้งแต่ตอนมัธยม แสงก็เลยไปหากลุ่มนั้นมากกว่า
หรืออีกเคสคือได้รับประสบการณ์แย่ๆจากการฮอตในวัยมัธยมเลยไม่อยากได้แสงแล้วเลยอยู่เงียบๆ แต่อีกกลุ่มมันยังเป็นเรื่องใหม่ของมันไงมันเลยเจ้าสู่การบริหารความฮอต
>>752 พวกดาวมหาลัยก็มีแต่พวกดันตัวเองขอทำกิจกรรมแล้วคิดว่าฮอต มึงดูหน้าดาวธรรมศาสตร์ ฮอตไหม
https://pbs.twimg.com/media/EGrWRxQVUAAthgP?format=jpg&name=large
ขอพื้นที่กุระบายด้วยความเศร้าโศก กุมีเพื่อนที่คบกันมานานมาก กุแคร์นางสุด แต่กุอาจไม่ใช่เพื่อนที่นางแคร์ที่สุด กุก็เข้าใจได้ ตอนนี้ก็เลิกคบแล้ว แค่มันยังเป็นตะกอนในใจกุ ตอนที่เพื่อนสนิทนางอีกคนมีแฟนแล้วนางอาจจะรู้สึกเหมือนโดนทิ้งก็ระบายความอึดอัดคับข้องใจ กุก็รับฟัง ถึงจะรำคาญที่แม่งไม่มูฟออนสักที แต่ก็คอยโอ๋ตลอด จนพวกนางกลับมาดีกันยังไงไม่ทราบ ก็ไม่ค่อยสนใจกุละ กุแอบรู้สึกเป็นส่วนเกินนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ คนมันคลิกกันเนอะ แล้วก็เพื่อนกุทั้งคู่ แต่กับคนอื่นๆ ที่นางรู้จักทีหลัง ก็สนใจมากกว่ากุ ค่อนข้างเมินกุบ่อย ละเวลาเล่นอะไรถ้าเป็นกุจะโดนบอกให้หยุด บอกว่ารำคาญ แต่พอคนอื่นเล่นกลับไม่ว่าอะไร เห็นดีเห็นงามตลอด ไม่พอใจก็แอบมาบ่น แต่ทนได้ ยิ่งคนที่นางชอบ เคารพนับถือ จะแซวจะแกล้งยังไงก็แบบ อุ๊ย เขาเล่นกับเราอะ เขาแซวเราอะ เขาสนใจเราอะ แต่พอกุเล่นดันไม่พอใจ โกรธ เลยเลิกคบไป เฟลเพราะคบกันมาหลายปีดีดัก แต่ความสัมพันธ์มันก็ต้องมีจบลงสินะ
>>760 ขอโทษถ้าทำรู้สึกแย่ แต่มันมองมึงเหมือนเป็นถังขยะทางอารมณ์ป่ะ มันเลยแสดงธาตุแท้กับมึงคนเดียว คนอื่นตี2หน้าใส่ แต่ถ้ารำคาญก็จะมาบ่นให้มึงฟัง เหมือนมึงมีค่าแค่นั้น บางทีการที่เราเผยธาตุแท้กับเพื่อนก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสนิทกันที่สุดอ่ะ แค่มีไว้ระบายด้านแย่ๆ จะได้ไปทำด้านดีๆกับคนอื่นต่อ
รู้สึกนิสัยตัวเองแย่ลงว่ะ แบบว่าคิดไรก็พูด(ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี)แล้วมันอาจจะฟังดูไม่ดีทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนที่แบบค่อนข้างโอเคขี้เกรงใจน่าเข้าหากว่านี้
กับเพื่อนกลุ่มปัจจุบันที่คิดว่าดีมากๆก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพื่อนแม่งชอบมาพูดเล่นแย่ๆใส่มากขึ้นเพราะสนิทกันแล้วกุก็พยายามปล่อยเบลอ
กลายเป็นกุเป็นตัวโดน พูดไรไปเพื่อนก็ชอบว่า แถมยังเล่นมุกเหี้ยๆอีก
เพื่อนส่วนมากนิสัยแย่ขึ้น ชอบนินทาคนอื่นละขำคิกคักกัน เอามาดูแล้วหัวเราะเยาะหรือมองเขาแง่ลบๆว่าเขาเข้าหาหวังผลเพราะเพื่อนกุมีคนติดตามนิดหน่อยไรงี้ กุไม่ชอบเลยว่ะแต่กุก็ไม่อยากเลิกเป็นเพื่อนกันกุชอบทุกคนแต่ทำไมทุกคนเปลี่ยนไปวะไอเหี้ย
>>760 พอโตกันแล้วมิตรภาพใสๆไม่หวังอะไรตอบแทนมันจะน้อยลงว่ะ ต่อให้ทำได้มึงจะไม่ใช่คนแรกๆที่เขานึกถึง กุกอดมึงแน่นๆนะเพื่อนโม่ง ไม่อยากให้มึงอยู่รอแบบจะมีใครซักคนมาเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวช่วยกอบกู้มึง แต่ให้มึงรักตัวเองมากๆพาตัวเองไปเที่ยว กินของอร่อยๆ มีความสุขกับตัวเองเยอะๆ แล้วมึงจะมองอะไรอย่างอื่นเป็นกำไรชีวิตของมึง สู้ๆ
>>762 คนอื่นก็คือคนอื่น แม้แต่เพื่อน มึงก็อย่าไปเชิดชูว่ามันวิเศษวิโศอะไรมาก มันด่ามึงก็ด่ากลับแม่งเลยถ้ามันเพื่อนมึงจริงมันจะเข้าใจเอง
ไม่มีเพื่อนว่ะ คือเป็นคนท็อกซิกอ่ะ ขี้อิจฉา ชอบวิจารณ์การเดทผู้ชายของเพื่อน ชอบพูดเรื่องออกกำลังกายให้เพื่อนอ้วนฟังทั้งที่เค้าไม่ถาม เป็นคนชอบแข่งขัน&มีแสตนดาร์ดสูงอ่ะละอยากให้ทุกคนมีเหมือนเรา ให้ขึ้นมาเทียบขั้นเราให้ได้ พอมานั่งคิดละกูท็อกซิกจังวะ เลยไม่ออกไปเจอใคร ไม่คุยกับเพื่อน ไม่สร้าวเพื่อนใหม่เลย แต่เหงาว่ะ ไปไหนคนเดียว
ขอวิธีทำให้เกลียดเพื่อนตัวเองที วิธีทำให้มองมันแต่ด้านแย่ๆ มองว่าไม่ควรเข้าใกล้ รังเกียจ ขยะแขยง อะไรก็ได้ให้กุเกลียดพวกมัน เพราะกุรู้ว่ากุไม่ได้ถูกนับเป็นเพื่อนด้วย แต่กุก็ยังนับพวกมันเป็นเพื่อนอยู่ดี โดนเมิน โดนข้ามหัว หัวเราะใส่ เศษเกิน ทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า กุก็ยังไม่โกรธ กุโมโหตัวเองเหมือนกันที่ไม่โกรธ ทำไมวะ แล้วกุจะเสียใจเพื่อ กุควรโกรธแล้วเลิกคบมองว่าพวกมันเหี้ยดิ กุเก็บมาเสียใจแล้วพยายามเข้าหาใหม่ให้โดนแบบเดิมทำไม เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็กหรอเลยผูกพันธ์ ตัดไม่ลง แล้วทำไมมันไม่มองกุแบบเดียวกันบ้าง อย่างน้อยแค่เฟคใส่ตามมารยาทก็ได้ แค่ยิ้มให้หรือทักกันบ้างตามประสาคนรู้จักกุยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เลยหรอ แม่งทำเหมือนกุเป็นตัวประหลาดหรืออะไรสักอย่างที่ต้องหลีกเลี่ยง กุอยากเกลียดพวกมันได้บ้าง ไม่อยากรู้สึกเจ็บหรือเสียใจที่มันไม่ได้มองกุเป็นเพื่อน เพราะจนตอนนี้กุก็ยังอยากเป็นเพื่อนกับมันอยู่เลย
ทำไมกุโดนเพื่อนวีน เพื่อนดุตลอดเลย เหมือนฮานะ แต่กุไม่ฮาเลยอ่ะ เสียใจ เพื่อนคนอื่นทำพลาดได้ไม่เป็นไร กุทำพลาดโด๊นน หรือยังไม่ทันทำอะไรกุโดนเข้าใจผิดด้วยซ้ำ ก็โด๊นน โดยไร้การขอโทษใดๆฮะมุง หรือคนอื่นแม่งทำเหมือนกุเป๊ะ จนกุได้แต่สงสัยว่ากุทำอะไรผิดคนอื่นแม่งก็ทำ ทำไมต้องโดนวีน ทำไมกุรับจบตลอด เออๆ ขอโทษละกัน แต่ตอนทำใส่กุไม่รู้สึกละอายใจหรือรู้สึกผิดบ้างหรอ ประหลาดคน
กูจะบ้า อยากให้คนอื่นเอาใจแต่ตัวเองต้องการเหี้ยไรก็ไม่รู้นะ เอาอย่างอื่นมาพูดใส่จนลืมแล้วก็โกรธที่คนอื่นลืม เป็นไรมากป่ะ
>>769 กูเข้าใจมึงนะ เคยเป็นแบบมึง แต่ก่อนตอนเด็กๆกูเป็นพวกเฮฮาดูไม่คิดเล็กคิดน้อย ดูใจดี ตอนนั้นไม่มีใครให้เกียรติอะไรกูหรอก แม้แต่รุ่นน้องยังตบหัวกูเล่นอะคิดดู พอกูโกรธคนก็คิดว่ากูโกรธเล่นๆเฉยๆ ทรมานจริงๆ
กูก็เลยใช้วิธีเฟดตัวออกมา ตอนนั้นมันเป็นชีวิตในโรงเรียนอยู่ห้องเดียวกันมันก็ยากแหละ เพราะทำงานกลุ่มก็ยังต้องพึ่งเพื่อนพวกนั้น แต่เวลากินข้าวพักเบรคไรงี้กูจะไปหาเพื่อนต่างห้อง คุยด้วยน้อยลง เล่นมุกน้อยลง เพื่อนก็คิดว่ากุซึมนะ พยายามง้ออยู่แต่กูก็ใจแข็งต่อไป ปัจจุบันกูเรียนจบทำงานละ วนกลับมาคบเพื่อนกลุ่มเดิม55555 แต่ทุกคนโตๆกันแล้วเลยไม่เป็นแบบนั้นกันแล้ว ทุกวันนี้นั่งด่าเพื่อนร่วมงานด่าหัวหน้ากันไม่ว่างมาคิดเรื่องบาดหมางอะไรละ55 เวลามันช่วยได้แต่ช้า ถ้าทนไม่ไหวก็ออกมาเถอะ หาเพื่อนใหม่ เหมือนจะยากแต่ค่อยๆเปลี่ยนดู
กูจอให่มึงตายก็ขอให้มึงตาย
กูจอให้มึงตายกุขอให้มึงตาขกุขอให้มึงตายมุงตาย นนต่เาอตสต่จาทจาตสายตายตายตายคายรายทน
>>773 ประเด็นคือเพื่อนสนิทกุทำไว้ดีอ่ะดิ มันไม่เคยแสดงสีหน้ารำคาญกุเลยนะ สักครั้งเดียวก็ไม่เคย มีแต่โห่วว แบบขำๆ แล้วก็กลับมาคุยเล่นตลกโปกฮากับกุต่อ ไม่มีหงุดหงิด กุจำทางไม่ได้ก็แค่เดินตามมันไป กุข้ามถนนไม่เป็นก็แค่เอาแขนเกี่ยวมันไว้มันจะดูซ้ายขวาให้แล้วบอกให้เดิน กุกลัวรถเฉี่ยวกุก็จะเอามือเกาะเสื้อมันไว้แล้วรีบเดินตาม หรือโชคเรื่องเพื่อนกุมันหมดกับคนนี้ไปแล้ววะ แล้วการคิดการอ่านเหมือนกันเกือบเป๊ะๆคงเพราะโตมาด้วยกันสภาพแวดล้อมเดียวกัน เวลาคิดเลยจะคิดเหมือนๆกัน เสียดายอยู่กันคนละรร. ละแพลนในอนาคตคือแยกกันคนละทางเลย กับเพื่อนกลุ่มปจบ.กุไม่เห็นภาพที่กุจะสามารถเกี่ยวแขนเดินเล่น เกาะเสื้อ กอด โดยที่พวกมันไม่รำคาญได้เลย ถ้ากุทำตัวป้ำๆเป๋อๆก็จะโดนหงุดหงิดใส่ คิดถึงเพื่อนTT ทำไมกุถึงไม่สามารถพกเพื่อนไปได้ทุกที่วะ
กุหดหู่สุดๆ วันเกิดกูแต่คนแฮปกูมีแค่พ่อแม่ แล้วก็แฟน เพื่อนกุไม่มีสักคน หรือจริงๆกุไม่มีเพื่อนวะ เอาจริงก้รุ้สึกเหมือนไม่ทีเพื่อนเลย เพื่อนสนิทกูก็ไม่เคยมี พวกสนิทถึงขั้นนึกถึงเป็นคนแรก ไปไหนไปด้วยไรงี้อ่ะ อยากมีเบสตี้กับคนอื่นเขาบ้าง แต่ลำพังเพื่อนธรรมดายังไม่มีเลย 555555 หดหู่สุดๆ เพื่อนที่คิดว่าสนิทด้วยก้เมินข้อความ เห้อ
ช่วยกุหน่อยโม่งหญิงหรือชายก็ได้ คือกุส่งเพลงๆนึงไปให้เพื่อนสาวคนนึงซึ่งรู้จักกันตั้งแต่ประถมหล่ะ แล้วก็ตอนนี้กำลังเรียนเอกญี่ปุ่นด้วยกัน เพลง Kawaii for myself เป็นเพลงญี่ปุ่นความหมายประมาณว่าไม่ได้น่ารักเพราะผู้ชาย ซึ่งเป็นเพลงทำนองน่ารักๆว้อย กุฟังแล้วชอบเลยไม่ได้คิดไรแล้วส่งให้นางฟังดู ตอนแรกนางก็บอกชอบทำนองน่ารักดี แต่ประเด็นคือกู2วันให้หลังมีทวิตหลุ่มส่องแอคนางอยู่ ปกตินางก็โพสต์บ่นไปเรื่อยแหล่ะ แต่2วันให้หลังนางก็โพสต์ภาพเพลงและก็บอกว่า "เพลงที่ให้ความหวังเฟมอย่างกูว่าผญญี่ปุ่นเริ่มรู้ในปิตา แล้วก็ทำลายความหวังกุไปต่อหน้าต่อตา มึงตั้งชื่อเพลงเพื่ออะไรในเมื่อจริงๆแล้วมึงก็อยุ่ใต้ตีนค--" แล้วกุแบบ เพลงนี้มันส่อความหมายไปในแนวนั้นได้ไงว่ะ mv ก็แค่ผญแต่งหน้าแต่งตัวสวยไม่ใช่เพื่อผู้ชายแต่ก็อยากได้แฟนอยู่ดีแค่นั้นเอง กูไม่ได้เฟลเพราะว่านางคิดแบบนั้น แต่แค่กูรุ้สึกแบบว่านางเปลี่ยนไปคนละคนจากที่รุ้จักกันเลย แล้วเวลาเจอกันจริงๆกูก็ไม่รุ้จะทำตัวไงดี ช่วยหน่อยเพื่อนโม่ง
>>780 สมัย ussr ผู้หญิงไม่มีเครื่องสำอางใช้เพราะรัฐบาลเน้นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญมากกว่า[1] เฟมินิสต์ที่นั้นเลยจะเรียกร้องให้ผู้หญิงมีเครื่องสำอางใช้ ตรงข้ามกับ usa ที่เรียกร้องให้มีเครื่องสำอางน้อยลง
ปัจจุบันผู้หญิงรัสเซียเลยชอบเครื่องสำอางค์มากกว่า[2] เพราะเพิ่งมีสิทธิ์เลือกเป็นครั้งแรก ถ้าใครคิดว่าการให้ผู้หญิงมีตัวเลือกเป็นการอยู่ใต้ปิตา ก็น่าจะไปอยู่แถวตะวันออกกลางที่ผญห้ามใช้เครื่องสำอางและใส่ผ้าคลุมหัวปิดตัวมิดชิด หรือไปอยู่กลุ่มเฟมที่ไปดึงผ้าคลุมหัวสาวมุสลิมออกก็ได้ ไม่ว่าผญจะทำอะไรก็จะมีผชที่ต้องการให้มึงทำแบบนั้นทั้งนั้น ถ้ามึงคิดแบบนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เป้าหมายของเฟมินิสต์คืออิสรภาพของผญ ไม่ใช่บังคับให้อยู่ให้กรอบที่ผญควรเป็น
ปล. กุชายแถมไม่ใช่แฟมด้วย
[1]https://www.racked.com/2017/8/28/16164052/cold-war-makeup
[2]https://www.washingtonpost.com/archive/politics/2004/04/29/for-russian-women-whiff-of-the-good-life/ad84b40a-1ae0-4b62-abc9-e7684247f6e0/
อยากหลุดพ้นแล้ว เหนื่อย เหนื่ยมากๆ ต่อหน้าเพื่อนก็ระบายไม่ได้อีก พอบอกเหนื่อย อยากจะร้องไห้ ก็จะบอกจะร้องทำไม ทำไมต้องร้อง ก็ทำแบบนี้ๆๆๆๆสิ คือกุไม่ได้อยากได้ทางแก้ แค่อยากได้ใครสักคนที่กุสามารถระบายด้วยได้ งอแงใส่ได้ ให้กุอ้อนได้ กุแค่อยากระบายความรู้สึกออกบ้างแค่นั้นเอง กุต้องเข้มแข็งตลอดเวลา กุต้องห้ามทำตัวเป็นเด็ก กุต้องโตมากๆ กุต้องเก่งมากๆ ขอเถอะ ปีหน้าขึ้นมหาลัยแล้วขอเพื่อนสักกลุ่มที่ใจดีมากๆกับกุที เพราะกุมั่นใจว่ากุเองก็ใจดีกับเพื่อนมากๆ และสามารถให้ความรักเพื่อนได้แบบสุดๆเลย กุชอบปลอบคนมากๆ กุเองก็อยากถูกปลอบบ้างสักครั้งเหมือนกัน
>>780 งงตรรกะเพื่อนมึงนิดหน่อย ทำไมการที่ผู้หญิงอยากแต่งหน้าเพราะอยากมีแฟน=อยู่ใต้ตีนปิตาอ่ะ ในเมื่อเฟม=อิสรภาพของผู้หญิงในการที่จะเป็นอะไรก็ได้ การที่ผู้หญิงอยากเป็นคนสวยเพราะอยากให้มีคนมาชอบมันก็ถือว่าเป็นเฟมอย่างนึงป่ะ หรือกูเข้าใจคอนเซปผิดวะ
ปล. เรื่องแอคหลุม ต่อหน้ามึงก็ทำตัวเหมือนไม่รู้ว่าเขามีแอคหลุมไปแหละ ขืนเขารู้ว่ามึงแอบส่องแอคหลุมเขาหน้าจะมองหน้ากันไม่ติดเปล่า ๆ
ควรเป็นกุไหมที่โกรธ งง มึงเป็นเหี้ยอะไร คิดว่าโดนโกรธเลยโกรธกลับงี้อ่อ ประสาทไอ้เหี้ย
เพื่อนรอบๆตัวบอกว่ากุนิ่งไป กุไม่มีเพื่อนเพราะกุนิ่งไป ไอ้เหี้ยใช่เรื่องหรอวะ กุไม่ได้นิสัยไม่ดี กุไม่ได้ทำตัวหัวขวด แต่กุไม่มีเพื่อนเพราะกุนิ่งเกิน คือ แล้วทำไงให้ไม่นิ่งก่อน ไม่เข้าใจ ทุกวันนี้กุพยายามยิ้มเวลารีแอคตอบกลับอยู่ แบบนี้ถือว่าใช่ป่าววะ อันนี้คือไม่นิ่งป่ะ หรือต้องหัวเราะด้วย ต้องตีคนข้างๆด้วยไหม ถึงจะดูสนุกสนาน เพราะไม่ใช่คนตลกเลยไม่มีเพื่อนหรอ ต้องยิงมุกตลอดเวลาป่าว หรือต้องทำเป็นขำเวลาคนเล่นมุก ไอ้เรื่องที่ไม่ควรนิ่งกุก็นิ่งชิบหาย งงกับตัวเองเหมือนกัน กุอาจจะแค่ความรู้สึกช้าก็ได้ แต่ภาพที่คนอื่นเห็นคือกุนิ่งไปแล้วไง ทำไงให้รีแอคกลับไวๆวะ ถึงจะไม่ได้อยากรีแอคอะไรด้วยก็เหอะ ไอ้ท่านเซิน คราวหลังคำไหนมันใช้ไม่ได้ก็บอกสิวะ ให้กุลบๆแก้ๆเอาเองหรอ
ทำไมช่วงนี้รู้สึกเหมือนคนรอบข้างเกลียดกุหมดเลยวะ คือไม่ว่าจะทำดีกับใคร เช่น เห็นใคนมีปัญหาก็ไปให้กำลังใจ หรือเห็นวันเกิดใครก็ไปแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้ แต่ทุกคนก็เมินข้อความกุหมดเลย อยู่ๆก็เป็นด้วยนะ กุงงมาก หรือกุวางตัวไม่ดีหรอ
กุคุยกับเพื่อนผญคนนึง คุยไปคุยมาก็เข้าเรื่องที่ว่าตอนมัธยมกุเคยชอบเป่าน้ำแข็งใส่เพื่อนแข่งกันและก็เอาน้ำแข็งราดหลังกัน (ซึ่งทำกันเล่นๆประสาเด็กน้อย) แล้วที่นี้นางก็บอกกูว่า มึงนี่มันชายแท้จริงๆ ซึ่งกุก็เอะใจนิดหน่อย แต่เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศกุเลยปล่อยผ่านและชวนคุยเรื่องอื่น กุเลยอยากจะถามว่ากุเล่นอะไรแบบนี้กับเพื่อนนี่ก็นับว่าเป็นชายแท้หรอว่ะ หรือนางแค่ปสด เสพทวิตแล้วหลอนไปเอง
>>792 อาจจะไม่ได้หมายถึงคำด่ารึเปล่า หมายถึงเล่นแบบที่เด็กผู้ชายเขาเล่นกันจริงๆ ห่ามๆไรงี้ ไม่ได้ด่า กุก็ไม่มั่นใจนะเพราะถ้าด่าคือเอ๋อเกิน
/ทำกุผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก กุหวังพึ่งอะไรไม่เคยได้เรื่อง เวลามึงพึ่งกุ กุทุ่มสุดฤทธิ์ คิดแล้วคิดอีกเรื่องของมึง แต่ทีกุนี่มักง่าย คิดน้อย คิดไม่ถึง ไม่ใส่ใจ จนทำผิดๆหรือมีปัญหากว่าเดิม เจอบ่อยๆกุก็ท้อนะ ไม่อยากโกรธเพราะเป็นเพื่อนกันแต่กุผิดหวังมากกว่า ว่ามึงนี่มันไม่มีความรับผิดชอบจริงๆ
กุไม่เคยเข้ามู้นี้เลย ครั้งแรกมากๆ และกุอยากระบายโคตรๆ ยาวมากแต่ขอบคุณที่อ่าน กุไม่ไหวโคตร
คือเมื่อวันพุธกุมีเพื่อนตอนมัธยมปลายทักมา กุก็เออเพื่อนทักมาเว้ยไม่ได้คุยกันนาน ก็ทักมาคุยปกติเลย เรื่องเกม เรื่องนิยาย เรื่องสมัยเรียน กุมีไม่ชอบใจหลายอย่างมากๆแต่กุก็พยายามไม่สนใจ เช่น การพิมอันนี้กุไม่ชอบส่วนตัวของกุอยู่แล้วแต่กุไม่อะไรเพราะคนเราพิมไม่เหมือนกัน กุแค่ขัดใจเพราะกุรู้สึกว่าเหมือนมันพิมอยู่ในโลกจินตนาการ โลกนิยายอ่ะ(ฟีลพวกคำพูดเหมือนพวกพระเอกอนิเมะอ่ะ)แต่กุก็ปล่อยไป ตอบไม่ตรงประเด็นอันนี้กุขมวดคิ้วหลายรอบมากพยายามผล่อยแล้วมันก็วกมาตอบแบบนี้ตลอดเหมือนไม่ได้อ่านที่กุพิมจนกุถามแม่งซ้ำๆว่าได้อ่านมั้ย มันก้ตอบว่าอ่าน
ละทีนี้คุยสัพเพเหระไปเรื่อย อยู่ๆก็มาแนวตัดพ้อ ซึ่งกุก็ยังมองในแง่ดีว่าเพื่อนคงอยากระบาย คงอยากได้คำแนะนำ กุก็แนะนำไปเพราะมันยังหาตัวเองไม่เจอ ละมันพิมคำว่า"ต้องหาทางตัวเอง"ซ้ำๆกุเลยจับประเด็นได้เลยบอกมันว่าเออ มึงกำลังยึดติดกับคำนี้นะลองเปลี่ยนเป็นอยากลองทำอันนั้นอันนี้แทนสิไรเงี้ย เบื่อก็พักไปทำอย่างอื่นอยากทำก็ค่อยกลับมาทำ มีช่วงที่กุเปรียบเปรยด้วยว่า มึงยึดติดคำนี้เกินไปนะ มันเหมือนมึงท้องคำว่าคนนั้นเก่งจังต้องเก่งเหมือนเขาเงี้ย เปรียบให้เห็นภาพเฉยๆ แม่งโควทอันนั้นตอบกุว่าไม่นะรุ้จัดยืนตัวเอง กุงงมาก คือกุเปรียบให้เห็นภาพอ่ะ มีหลายข้อความมากที่มันโควทตอบหลุดประเด็นไปหมด กุพิมอะไรไปคือเหมือนมันไม่อ่านเลย มันตอบหลุดประเด็นจนกุถามซ้ำอีกว่ามึงได้อ่านมั้ย มันก็บอกว่าอ่าน จนแม่งพิมห่าไรของมันไม่รุ็มาแล้วจบมาด้วย บ้าใช่มั้ยล่ะแบบเหมือนเลียนแบบพวกพระเอกหลุดโลกในเมะอ่ะ ซึ่งกุไม่ชอบและกุเกือบด่ามาก เลยบอกแม่งพิมให้จบๆ กุจะได้พิมทีเดียว โดยรวมที่แม่งพิมมาคือมันเป้นอะไรที่ไม่ใช่เพื่อนที่อยากระบายให้เพื่อนฟังอ่ะ เหมือนมาหากระโถนมากกว่ามาทักทายเพื่อน แล้วมีหน้ามาพิมบอกกุว่าโล่งมาก รู็สึกโล่งมากเลยตอนนี้ กุคือไม่โล่งได้ไงวะอิเหี้ย ก็พ่นความห่าเหวอะไรของมันใส่กุก็ไม่รู้กุแทบไม่อยากจะอ่าน อ่านแล้วเหมือนพวกเลียนแบบอนิเมะพระเอกกุไม่อยากจะอ่านเลย พอกุพิมไล่เรียงเป็นข้อให้แม่งแบบดีๆเลย แม่งตอบกุหลงประเด็นไปหมด
จนกุถามมันรอบสุดท้ายว่าได้อ่านที่พิมมั้ยถามจริงๆ แม่งบอกอ่านนะ แล้วก็หลงไปชอบอ่านบทความบลาๆๆๆแล้วบอกว่า ผลลัพท์มักจบที่ว่าไม่รู้สิ ไม่เคยเจอ ไม่อยากรับรู้ แล้วไงต่อ เพื่ออะไร แปลกว่ามะ กุบล็อคแม่งทิ้งเลย
กุโอเคนะถ้าเพื่อนจะมาระบาย แต่กับเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันนานแล้วมาทำห่าไรแบบนี้คือกุหมดความสงสารหรือความเห็นใจให้เพื่อนเลย กุยอมรับเลยนะว่าเอามาพิมแบบนี้คือเหี้ย แต่สิ่งที่กุได้รับจากแม่งมาคือกุรับไม่ได้มากอ่ะ มันเหมือนกุไม่ใช่เพื่อนเหมือนเป็นกระโถนมารองรับความฟัคอัพของมันเองที่มันจัดการตัวเองไม่ได้เลยมาหาคนรองรับแทน ให้ตัวเองโยนความฟัคอัพนั้นใส่แล้วก็มาบอกว่าโล่งมากๆโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าอีกฝั่งเค้ารู้สึกไง แถมไม่อ่านสิ่งที่พิมไปเลย(กุพิมเรียกสติมันหลายรอบมากๆด้วย) จบละ ปัจจุบันกุบล็อคมันไปละ มาระบายเฉยๆเผื่อมีใครเคยโดนเหมือนกัน
พระเอกอนิเมะ ดาษๆอะดิ
https://youtu.be/9VoGKAx0XNk
ถ้ามันเป็นอายาโนะโคจิ มันคงไม่ทักหาเมิงหรอก
>>796 การพิมมันแบบเหมือนพวกพระเอกอนิเมะอ่ะมึง ที่แบบตัดพ้อชีวิตเงี้ย ขออนุญาตใช้คำไม่ดี เหมือนพวกพระเอกแนวๆลูซเซอร์อ่ะ ตอนแรกก็เข้าใจนะความคนเรามันก็ต้องมีช่วงที่อยากตัดพ้อบ้าง แต่ของมันคือพิมมาเหมือนกุนั่งดูเมะแนวพระเอกลูซเซอร์เอามือล้วงกระเป๋าแล้วพูดอ่ะ ภาพในหัวกุแม่งงี้เลย อดทนในการไม่กดvoiceส่งไปด่ามันมาก
อยากรู่ว่ามันพิมไงถึงเหมือนพระเอกอนิเมะจนทำมึงไมน์เบรควะ ยกตัวอย่างประโยคมาหน่อยดิ
>>799 ของกุไม่น่าเหมือนมันแต่แค่อยากมาแชร์เฉยๆฮาดี แม่งแปะรูปอนิเมะตลค.ชายเท่ๆ ทำหน้าเก๊กขรึมลงกลุ่มห้อง แล้วพิมพ์ด้วย
".....ประโยคเหี้ยไรที่เกลาคำคล้ายๆคำในการ์ตูนโชเน็น แนวๆแข็งแกร่งขึ้นซะอย่ายอมรับความอ่อนแอ กุเจอมาหนักกว่ามึงอีก กุแม่งมากประสบการณ์อยู่ในความมืดมิดมาก่อน ประกอบกับเครื่องหมาย ! " พร้อมแปะภาพตลค.โตมันหรือกลุ่มโตมัน เวลาพิมพ์อะไรก็จะมีเครื่องหมาย หึ! ฮะฮ่า! ...(จุดก่อนพิมพ์เหมือนคนแก่อ่ะ) ไอ้เหี้ย กุฮา55555555555555555555555555555 เพื่อนกุรำคาญกันชิบหายแต่กุนั่งขำ ชอบมาก ชอบแคปไปให้เพื่อนเก่ากุดูด้วย ฮาแตก
>>799 คล้ายๆพวกพระเอกลูเซอร์อ่ะมึง คือพิมไปมันจะเหมือนก็คำปกติ แต่ตอนกุอ่านมันเหมือนตัวอักษรที่เกิดภาพเลยอ่ะ5555555555555 แต่อันที่ทำกุกำหมัดอดทนไม่กดโทรไปด่ามันคือมันพ่นห่าเหวของมันมาแหละ ละมันพิมคำว่า "บ้าใช่ไหม บ้าใช่ไหมล่ะ" มันพิมงี้จริงๆ กุถอนหายใจหนักมากกกกก ละยิ่งหัวเราะ"ฮ่าๆ" แบบเนี้ย คือกุไม่ชอบอ่ะ มันเหมือนกุนั่งอ่านนิยาย นั่งอ่านพวกมังงะอ่ะ
>>800 กุส่งแชทให้เพื่อนเพื่อนกุก็ขำ ขำตรง"บ้าใช่ไหม บ้าใช่ไหมล่ะ" แต่กุคือขำไม่สุดเพราะมีแต่คำว่าเหี้ยไรเนี่ยในหัว
กุอธิบายมันพิมให้เห็นภาพยากมาก เพราะมันเป็นแชทที่แม่งพิมหลงประเด็นไปเยอะโคตรๆ แค่กุบอกมันว่าเลิกอ่านนิยายนะ มันยังตอบกุยาวมาก กุจำได้แค่ไม่อ่านนานแล้ว แต่มีดูอนิเมะบ้างบลาๆๆๆๆ ห่าเหวไรแม่งกุไม่ได้อ่านเลย กุท้อ
>>801 กุรู้จักคนนึงคล้ายแบบนี้เหมือนกัน ถ้ามันไม่พูดมันจะเป็นคนหน้าตาดีนะ แต่พอพูดแล้วรู้สึกแบบ มึงจะเอาไรจากกุวะ มึงต้องการอะไร ลอยอยู่ในหัวเต็มไปหมด ตัวอย่างเช่น มันส่งรูปแผลมา บอกว่าตีกับเพื่อน แล้วก็พูดราวๆนี่นะโดนรุมมาแต่ก็รอดมาได้ แล้วก็พูดวนไปวนมา ถามว่ากุคิดไง พอกุตอบ มันก็พูดวนไปวนมาเหมือนไม่อ่านแล้วก็กลับมาหัวข้อเดิมว่านี่โดนรุมเลยนะเนี่ย อะไรงี้ เพื่อนมึงกะกุคนเดียวกันป่ะวะ
>>802 เออทำไมส่วนมากพวกเหี้ยนี่หน้าตาดีวะ ถ้ามันทำตัวดีๆ สังคมรัก คนรักมันจะตายห่า ทำตัวหล่อเก๊กๆสาวก็ติดตรึมละ แต่สุดท้ายของกุที่รู้จักก็ไม่มีใครคบมันนะ เพราะวีรกรรมมัน มันไม่ได้เอ๋อแค่คำพูดอ่ะ การกระทำมันก็ด้วย มากๆเข้าหน้าตาก็ไม่ได้ช่วยไรมึงนอกจากคนพึ่งรู้จักแรกๆอ่ะนะ พอรู้นิสัยเขาก็พากันยี้กันหมด ทั้งคนคุย ทั้งเพื่อนเก่า
>>804 เล่าไปกุโม่งแตกแน่เพราะค่อนข้างเฉพาะเจาะจง เอาเป็นว่ามันชอบโกหก ชอบโม้ประวัติตัวเองดั่งพระเอกซีรี่ย์ แต่ไม่มีอะไรจริงสักอย่าง แม้กระทั่งสถานที่เที่ยว สถานที่เรียน พ่อ แม่ แฟน โกหกแถไปเรื่อย แล้วโกหกแบบจับได้เหมือนเด็กอยากมีตัวตนเลยโกหกว่าเป็นลูกครึ่งงี้ ไม่ใช่คนไทย พึ่งหัดเรียนไทย จะได้ดูเด่นๆ โกหกว่าเคยไปนู่นไปนี่มาแล้วที่หรูๆ คือชินๆ คนมันเลยไป เคยทำนู่นทำนี่ที่คนไฮโซๆเขาทำกันมาหมดละ สรุปภาพก็จากกูเกิ้ลเอามาโชว์ แล้วบอกว่าตัวเองเป็นคนถ่ายไว้ตอนไป แต่ไม่มีรูปตัวเองสักรูป คนเลยยี้กันหมด
>>802 ไม่น่าใช่555555555555 เพราะของกุคือเอาแบบตัดเรื่องบิวตี้สแตนดาร์ดออกไปมันหน้าตาธรรมดาเลย ตอนเรียนม.ปลายก็ปกติดี จบมามีเจอกันบ้างก็ยังปกติ ผ่านไป2-3ปีเองมั้ง มาตอนนี้กลายเป็นแบบนั้นไปแล้ว ยังงงๆอยุ๋เลย จะบอกว่าเพระาไม่ค่อยเจอคนก็ไม่น่าใช่ ต่อให้ดูแต่เมะมันก้ต้องแยกแยะได้ป่าววะ แต่เจอมันพิมเพ้อมากุที่รับมือกับความtoxicได้ยังต้องยอมอ่ะ ไม่ไหว5555555555
>>804 เคสของเพื่อนกุคือมันเป็นคนอยากเป็น someone อยากโดดเด่น อยากเป็นที่หนึ่ง อยากให้คนยอมรับ มันจะพยายามพูดเกทับคนอื่นบ่อยๆแบบนี่นะ มันทำงี้ได้เลยนะ ทำแบบมันได้ป่าว หรือพูดขึ้นมาว่าคนอื่นบอกว่ามันเก่งสุด เก่งกว่าไอ้ x อีก ทำไมไอ้ x ไม่เก่งเลยวะ ไอ x ควรต้องเก่งกว่ากุดิเพราะ บลาๆๆ พอเราแสดงความเห็นไปมันก็จะแบบ ไอ้ x มันต้องเก่งกว่าดิ ทำไมกุเก่งกว่าอ่ะ บลาๆๆ วนไปวนมาจนกุงงว่ามึงต้องการให้กุพูดว่าไร ให้กุอวยมึงหรอ มห้กุพูดออกมาเลยใช่มั้ยว่ามึงเก่ง ไอ้ x กาก ไรงี้
หรือบางทีจะทำเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญ เช่น มีคนมาจอให้ช่วยติวหนังสือหน่อย มันก็จะแบบ ให้มันช่วยหรอ อยากให้มันช่วยจริงๆหรอ แล้วก็ทำท่าแบบกุเป็นที่ต้องการเหลือเกินในโลกนี้ มึงมาขอให้กุช่วยเพราะกุเก่งไง พูดออกมาสิว่ากุเก่ง ไรแบบนี้อ่ะ
มุมนึงก็น่ารำคาญนะ แต่ก็ฮาดี 555555 แต่ถ้าอยู่ด้วยกันบ่อยๆ มึงจะปวดหัวสัสๆแล้วจะเริ่มเครียด
>>808 เหมือนเพื่อนในสาขากุคนนึงเลย55555555555555555555 เจอกันครั้งแรกเปิดเทอมก็toxicใส่กุชิบหาย ละความคนเจอกันเป็นปีแรกอะ พูดแต่ละคำคืออึ้งมากนะว่าทำไมมายเซ็ตแบบนี้ บางเรื่องไม่ได้น่าภูมิใจเลยแต่เล่าแบบพราวมาก เช่นเรื่องชกต่อยเงี้ย งงเว่อ งงกว่าคือเคยพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศอ่ะ แล้วมาบอกงั้นกุก็ต่อยมึงได้ดิเพราะผญ.เท่าเทียมผช.แล้ว กุงงเลย มีสิทธิอะไรจะมาต่อยหน้าคนอื่นวะ แล้วขี้เหยียดอีกเพราะแม่งเคยเหยียดไปถึงการศึกษาพ่อแม่กุมาแล้ว ปีแรกกุนี่ดิ่งโคตร(แต่ตอนนี้ทำไรกุไม่ได้ละ toxicมากุก็ทำกลับ555555555555)
ตอนเด็กๆมีเพื่อนคนนึงขายขนมเป็นเมอแรงค์ ( อันที่จริงคือนางไม่ได้ทำ นางก็ไปรับต่อมาจากคนในเฟซเหมือนกัน ) และกูอยากแดกมาก กูเลยฝากชีซื้อ ,เรื่องมันผ่านมาน่าจะเกือบสิบปีแล้วมั้ง กูยังไม่ได้แดกเมอแรงค์เหี้ยนั้นเลย เศร้าว่ะ
เรื่องของเรื่องคือกูพึ่งนึกได้เมื่อไม่นานมานี้กูเลยทักไปบอกนางว่าแบบเออขอเงินคืน แล้วนางก็บอกว่าเรื่องเมื่อตอนเด็กๆลืมไปได้แล้วมั้ง ตอนนี้ก็ดูรวยดีอ่ะมาคิดมากอะไรกับเงินไม่กี่ร้อย ปล่อยผ่านบ้างมั้ยชีวิตจะได้สดใส หัดยิ้มบ้างนะใช้ชีวิตเหมือนเครียดตลอดเวลา กูปรี๊ดแตกเลย มันจะแค่บาทนึงมึงก็ต้องคืนกูอีสันดาน กูไม่ได้ขี้งกแต่เงินนั้นมันควรเป็นของกูโดยชอบธรรมค่ะ และเรื่องเหี้ยนี้มันปล่อยผ่านไมไ่ด้ค่ะ เรื่องเงินมันไม่เข้่าใครออกใครหรอกนะ
>>812 ริดไรมากหยุมหยิม สิ่งที่มึงได้กลับมาคือการโดนแซะ เสียศักดิ์ศรีไปขอเงินคืนไม่กี่กะตัง มันจะมองว่าเราจนอ่ะดิมามายด์มากกับไม่กี่บาท ไม่อายเรอะ รู้แหละว่าพวกยืมไม่คืนหร่อโกงก็สันดานชาติหมา แต่กูก็ไม่มีวันไปทวงกับอะไรหลักร้อยและเงินเมื่อชาติที่แลัววะ ถ้าเป็นก้อนใหญ่ๆหลักพันหรือยืมเยอะๆหรือทำธุระกิจอะไรแล้วไม่ให้เงิน เอ่อแบบนี้ค่อยน่าทวงตาล้างแค้นสาปส่องไปสิบๆชาติ
ไอพวกนิสัยจิ้งจอกนี่ถ้าโดนครั้งเดียวก็ควรห่างได้แล้ว มึงเล่นแอดเฟสคบกันมา10ปีแล้วค่อยมาทวงเงิน
พอกุใช้ชีวิตด้วยคำว่าเดี๋ยวก็ตายแล้ว ทำให้กุปล่อยวางไปเยอะเลย ไม่เครียดเวลาแชทหาใครหรือคุยกับใคร รู้สึกแย่เพราะคำพูดใครก็ไม่เก็บมาคิด เพราะคิดว่าชีวิตคนเรามันสั้นนิดเดียวแปปเดียวก็ตาย เพราะงั้นกุจะมามัวรู้สึกแย่เพราะเรื่องไร้สาระพวกนี้จนกินเวลาชีวิตกุก็น่าเสียดายเกิน กุมองความสุขของตัวเองเป็นหลักดีกว่า ถึงจะทำได้ยากแต่กุจะพยายาม ไม่มองใครเป็นเพื่อนจนเอาใจไปแลกเกินไปแล้วด้วย พอกุยอมใครมากๆเพราะมองว่าเป็นเพื่อนกลายเป็นโดนเอาเปรียบทุกที พอกุทำหยิ่งใส่เชิ่ดใส่ไม่สนใจจะเป็นเพื่อนด้วยแล้วก็ชอบเข้าหา กุเหนื่อยจะทำงั้นแล้วเหมือนกัน โฟกัสตัวเองดีกว่า
>>800
กูว่ากูพอจะรู้ว่าจะหาคนแบบเพื่อนมึงเจอได้ที่ไหน
>>>/game/17284/617/
>>>/game/17508/11/
อยากสัมผัสประสบการณ์เต็มๆเชิญมู้นี้ >>>/game/17508/recent/
ช่วงนี้เหมือนมีปัญหาเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มพยายามเลี่ยงๆกุยังไงไม่รู้ อย่างในแชทเวลาคุยปกติพอกุเข้าไปตอบแล้วเพื่อนก็ทิ้งหายกันตลอด เป็นเหี้ยไรกุอยากถาม ทั้งที่เวลาพวกแม่งมีปัญหาอะไรกุก็คอยช่วยมันตลอด กุดูแลตัวเองได้แต่กุก็น้อยใจพวกมันเหมือนกันว่าทำไมพอตากุขอให้มันช่วยบ้างขอคำปรึกษาจากพวกมันบ้าง แม่งแต่ละตัวตอบกุแต่คำตอบหมาๆไม่ผ่านความคิดแบบขอไปทีทั้งนั้น คุวย
การที่มีเพื่อนแต่เพื่อนไม่แคร์เรา ไม่เคารพความรู้สึกเรา ทำให้เรารู้สึกเหงาใจจะขาดทั้งๆที่มีเพื่อน แค่นี้มันก็ชัดแล้วนะ มึงเลิกหลอกตัวเองสักที เจ็บกับพวกมันมากี่ครั้งแล้ว ก็ยังคิดจะพยายามใหม่ คิดว่าเราคือเพื่อนกัน คิดว่าไม่เป็นไรนั่นเป็นนิสัยของเพื่อนเราต้องรับให้ได้ รับๆๆๆๆรับมาอย่างเดียวแต่ไม่มีใครรับความรู้สึกรับตัวตนมึงบ้างเลย สุดท้ายก็เลยเป็นแค่เบี้ยล่างให้เพื่อนมึงไง มันไม่ได้มองมึงเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ ก็แค่ให้เกาะๆไว้เพราะจำเป็น
เคยไม่พอใจเพื่อนออนไลน์คนนึง แล้วไม่คิดจะปรับความเข้าใจกัน กูเฟดจากเขาไปเกือบปี เรื่องหยุมหยิมมาก แค่พูดไม่เข้าหูอะ แต่กูก็เป็นฝ่ายกลับไปหาเขาอีกทีนะ แล้วก็เคลียร์ใจกัน ตอนนั้นที่เฟดไปเพราะกูไม่ได้มองว่าเขาเป็นเพื่อนจริงๆ เลยไม่สนใจจะเคลียร์ ตัดๆไปเลยง่ายกว่า แต่พอกลับมาได้ทำความรู้จักกันอีกที กูคิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ บวกกับรู้สึกผิดที่เคยทิ้งเขาไปแบบดื้อๆ ก็เลยอยากชดเชยความผิด ด้วยการไม่กั๊กตัวตนแล้ว มีอะไรก็แชร์เขาหมด เพราะคิดว่าอยากเป็นเพื่อนกันจริงๆ อยากให้รู้ทุกเรื่องของเรา เรื่องในชีวิตประจำวัน แลกเปลี่ยนความสนใจ และเราก็อยากรู้ทุกเรื่องของเขา แล้วกูเป็นคนติดแชทมาก ถ้าว่างก็ชอบส่งแชทหาเพื่อนตลอด แต่กูก็บอกก่อนแล้วนะว่าถ้ามีอย่างอื่นทำก็ทำไป ค่อยมาตอบก็ได้ กูแค่ไม่ทีไรทำเลยชอบส่งแชทหาชาวบ้านเฉยๆ ตอนแรกเขาก็บอกให้กูเป็นตัวของตัวเอง แต่ผ่านมาสองเดือน มาบอกว่าเขาเหนื่อยกับการต้องคอยตอบแชทกู เขาเป็นที่ปรึกษาให้กู คอยตอบคำถามกู แต่กูไม่เคยให้อะไรกลับเขาไปได้เลย แล้วเขาก็สงสัยว่ากูเป็นไรทำไมต้องไปแชทหาเขาถี่ขนาดนั้น มาบอกว่ากูก็มีแฟนอยู่แล้วแท้ๆ เลยอยากให้เรามีระยะห่างกันมากกว่านี้ ระหว่างนี้เขาอยากขอเวลาส่วนตัว อาจจะเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนๆ เขาไม่รู้เหมือนกัน กูเฟลอะ เป็นกูเองที่เข้าหาเขามากเกินไป แต่เจตนากูไม่มีอะไรเกินเลยคำว่าเพื่อนเลยนะ ทำไมเขาถึงเมนชั่นแฟนกูอะ มีอะไรกูก็เล่าให้แฟนฟังตลอดจริงๆ กูคงเผลอล้ำเส้นอะไรบางอย่างหรือเปล่านะ ตอนนี้กูก็ไม่ได้ทักอะไรเขาไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกมึนๆอึนๆอยู่
>>823 อันนี้ที่กุเป็นนะ มาแชร์เฉยๆ ถึงจะบอกว่าถ้ายุ่งก็ไปทำอย่างอื่นก่อนค่อยตอบก็เหอะ แต่พอเห็นแชทเด้งมาแล้วกุเลื่อนปัดทิ้ง พอกุไปทำอย่างอื่นความรู้สึกอึดอัดกังวล รู้สึกผิดที่ไม่ไปตอบ ความรู้สึกค้างคาว่ายังทำอะไรไม่เสร็จมันจะตีเข้ามาว่ะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าที่ให้ไปทำอย่างอื่นก่อนอ่ะ ลิมิตรการรอของคู่สนทนามันอยู่ที่เท่าไหร่ ก็เลยรีบๆตอบให้มันพ้นๆไปซะ การทักมาถี่ๆรัวๆแล้วคู่สนทนาแม่งกำลังไหลยาวเล๊ยย กำลังเล่าลื่นๆ เครื่องติดจัดๆ จะให้กุชิ่งหนีตอนนั้นเลยก็เสียมารยาทอีก กลายเป็นต้องฝืนตอบเรื่องที่ไม่ได้สนใจจะฟังรอให้แม่งหมดเรื่องจะพูดหรือหาจังหวะตัดจบให้ได้ กุอยากไปเล่นเกมมากกว่า
ถ้าเพื่อนเริ่มทำตัวเหมือนแฟน มึงจะทำยังไงให้มันกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนวะ เดี๋ยวนี้มันเริ่มอ่อย หยอด บอกรักถี่ๆละอะ เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ กูทำตัวไม่ค่อยถูกเลยเพราะนับมันเป็นเพื่อนจริงๆ
เพื่อนคืออะไร
ขอวิธีจัดการกับความเหงาเวลาอยู่ในสังคมหน่อย กุมีกลุ่มเพื่อนแต่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ กุก็เลยปล่อยวางและมองว่าเดี๋ยวก็ไม่ได้เจอกันแล้ว กุเลยไม่คาดหวังในความสัมพํนธ์แล้วว่าเราจะสนิทกัน แต่ปัญหาคือกุรู้สึกเหงาเวลาเห็นคนอื่นอยู่กันเป็นกลุ่ม กุรู้สึกเป็นตัวประหลาด ให้ไปอยู่กับกลุ่มอื่นตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วย กุแคร์สายตาชาวบ้านว่าเขาจะมองกุยังไง เพราะมันก็เห็นได้ชัดอยู่ว่ากุไม่เข้ากับใครเลย
>>832 กูเคยเป็นเหมือนมึงนะ ตอน ม.ปลาย
กูไม่รู้ว่าตอนนี้มึงยังม ปลาย หรือมหาลัยแล้ว แต่อย่างแรกที่ต้องทำเลยคือ ออกมาจากจุดที่มึงรู้ว่าไม่ใช่ที่ของตัวเอง ทีนี้มึงอาจจะถามต่อว่า มึงเหงาจะให้อยู่กับใคร เชื่อกูเถอะ อยู่คนเดียวดีกว่าอยู่จุดที่เราไม่สบายใจ ไอกลุ่มเพื่อนสนิท สักวันมึงจะเจอเอง ถ้าไม่เจอก็ต้องควานหา ทำงานอดิเรกที่ชอบ ทำสิ่งที่ตัวเองชอบไปเรื่อยๆ เจอคนที่อยากคุยด้วยมึงก็ approach เองไปเลย เดี๋ยวมึงก็เจอกลุ่มที่ใช่เอง
กุชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อน ที่ไม่ถือสาอะ ด่าไอเหี้ไอสัตว์ กันสนุกได้ ไม่ใช่ต้องมามารยาทอะไรมากมาย
ซึ่งแน่นอน ไม่มีผญ ประเภทนี้
>>832 กูก็เป็นสมัยกูเรียนมหาลัย55555 ซักพักเดะมึงก็เจอเพื่อนนอกกลุ่มที่คลิกกัน ในกลุ่มก็มีไว้เพื่อให้รู้ว่ากูมีกลุ่มก็พอ คิดไว้เสมอว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนเดี๋ยวก็เฟดไป กูทุกวันนี้ก็อยู่แต่กะตัวเอง แฮปปี้นะ ตราบใดที่มึงไม่ไปเทียบตัวเองกะคนอื่น เพราะชีงิตและนิสัยคนเราแม่งต่างกันอะ
กุเคยมีเพื่อนที่สนิทมากอยู่คนนึง แต่ก่อนคุยกันเยอะมากแต่พอเขาได้ไปเจอกับเพื่อนกลุ่มอื่นที่คุยสนุกกันมากกว่าเขาก็ค่อย ๆ หายไปจากชีวิตกุ เป็นความผิดที่กุหรือเปล่าวะที่ไม่สามารถคุยให้สนุกได้ คือกุเป็นคนคุยไม่เก่งอยู่แล้วและคิดว่านี่อาจจะเป็นที่ตัวตนของกุ กุพยายามจะคุยให้เก่งแล้วแต่ทำไปได้ไม่นานก็รู้สึกว่าฝืนตัวเองเลยไม่ทำต่อ กุควรจะจัดการความรู้สึกยังไงดีวะ...ปล่อยให้เพื่อนกุไปอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหม่แล้วตัวกุ fade ตัวเองออกมาเงียบๆจะดีไหมวะ ? เอาตามตรงความรู้สึกของกุตอนนี้คือไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้แล้วแต่ในใจลึกๆ มันก็มีหลายความรู้สึกที่ทั้งรู้สึกผิด รู้สึกเหงา รู้สึกเสียดาย รู้สึกน้อยใจ ที่มันกลายเป็นแบบนี้
เห็นข่าวหยกโดนเพื่อนอุ้มลงรถแล้วคิดว่าไง ครูไม่กล้าไปแตะตัวหยกกลัวเป็นข่าวเลยสั่งนักเรียน หรือคิดว่าหยกเพื่อนเกลียดมากเพราะเพื่อนโดนล้างสมองหรืออะไรก็แล้วแต่จนต้องแบกลงจากรถ
แล้วผู้ชายด้วยนะที่แบกลง ปกติเขาให้แตะเนื้อต้องตัวกันได้ขนาดนั้นรึ
>>843 ปกติป่ะวะเด็กอายุ 16-17 ถ้ามีคนทำอะไรแปลก แล้วทำให้ตัวเองเดือดร้อนก็พาลเกลียดเขาไปหมดอ่ะ บางคนแค่เห็นคนอื่นสบาย ตัวเองลำบากก็เกลียดกันแล้วนิสัยแบบเด็กๆอ่ะ ทั้งๆที่มองดูดีๆ เพื่อนไม่ได้เป็นคนผิดแต่คนที่ทำให้เราเดือดร้อนต่างหากที่ผิด ครูจัดการเหี้ยไรไม่ได้เลย
แค่อุ้มทำเป็นเดือดร้อน เด็กสมัยนี้เยกันตั้งแต่อายุ 13-14 แล้ว ทั้งยินยอมและไม่ยินยอม
Wokeละ ให้อุ้มไปไม่ได้ เมิงให้ ผญ อุ้มก็บอกใช้งานแรงงานผญ ผู้ชาย ไม่ยอมอุ้มวะ
พอให้ผชผญ อุ้ม หยก ก็บอกโง่จังจะให้อุ้ม2คนทำไม
ครูไม่อุ้มใช้แรงงานเด็กก็ด่าครูชุ่ย สุดท้าย
ทำอะไรก็มีคนด่าอยู่ดี สรุปถ้า ผญ บุกเข้ามาบ้านเมิงพร้อมปืน กุก็ห้ามยิงสวนกลับสินะ
หยกมีสิทธิ์อะไรก่อน รถบัส เขาจ่ายกันหมด ค่าเทอมเขาจ่ายเมิงเป็นใครถึง เข้ารถได้ ถ้าเป็นผช โดนต่อย ลากตัวลงจากรถแล้ว ไม่มาเสียเวลาอธิบายดีๆหรอก
เลิกใช่ข้ออ้างเพศแม่นะ ดูอภิสิทธิ์เหลือเกิน
เรื่องหยกไม่ได้ไปเข้าค่ายนี่กูว่าเพื่อนมันไม่ชอบขี้หน้าเลยพยายามจะบีบมากกว่า ครูก็สนับสนุนอีกคอยเชียร์อัพให้เด็กไล่กันเอง ไม่ต่างจากการรุมบุลลี่เลย ถึงหยกมันจะเป็นบ้าสุดโต่ง แต่ก็ไม่สมควรจะถูกปฏิบัติแบบนี้ว่ะ มาอ้างว่าไม่ได้จ่ายเงินค่าไปค่ายพอจะโอนจ่ายก็ไม่ให้จ่าย ลองคิดว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเด็กคนนึงที่โดนเพื่อนและครูบีบออกเพราะไม่ชอบขี้หน้า เป็นสังคมในโรงเรียนที่โคตรแย่ กี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยน
>>851 บีบอะไรหล่ะ คือมันหลุดจากสถานะนักเรียนแล้ว เป็นคนนอกเข้ามาขัดขวางจราจร
คุณจะเอาเงินมายัดแล้วขอไปค่ายก็ไม่ได้ คิดเหรอว่าหยกมันมาเพราะอยากไปค่ายจริงๆ? อยากมาเรียนจริงๆ? Agendaจริงๆคืออยากเรียกร้องเรื่องการแต่งกายแล้วเล่นบทVictimว่าตัวเองโดนสังคมกดขี่คนความคิดเห็นต่าง
แต่แยกแยะหน่อยว่าเหตุการณ์นี้นักเรียนในชั้นแม่งไม่ได้มีเจตนาร่วมกับแม่ง เพราะทะลุวังสายสุดโต่งเกินและร้องการปกป้องสิทธิผลประโยชน์ตัวเองมันผิดตรงไหน กับไอคนนอกเนี่ย
คือค้องเน้นเรื่องการหมดสภาพนักเรียน แล้วคุณจะมาใช้ตังค์ยัดเพื่อไปค่ายไม่ได้ จะเสรีนิยมขนาดไหนแต่เสรีภาพมันไม่ได้มี100%นะ เพราะหากมนุษย์ทุกคนมีเสรีภาพ100%แม่งก็จะไปทับสิทธิคนอื่น เมื่อคุณอยู่ในสังคมคุณก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์บางส่วนด้วย
แล้วกฎเกณฑ์จารีตประเพณีมันมาจากไหนหล่ะ? มันมาจากสภาพแวดล้อมทางสังคมที่มนุษย์มันตกลงกันทําเป็นธรรมเนียมใานานแล้วว่าอะไรควรผิดถูก ถ้ามันไม่มีความเป็นธรรมและเอื้อผลประโยชน์ให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง กลุ่มคนทางสังคมที่เหลือแม่งจะลุกฮือขึ้นมาเอง แต่กรณีหยกแม่งมาเดี่ยว ไม่หาแนวร่วม แล้วบ้ง ยังไม่เข้าใจความต้องการตัวเอง ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน มีแต่เบียวเพราะยังเด็ก เลยโดนสังคมเพื่อนไม่เอาแล้วไง
Fuck around and you find out ของแท้ โดนคนบ้ามาหนุนทําน้องเขวหลุดไปเลย
นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทําไมลิบร่านหรือส้มไม่เอาทะลุวัง น๊จร๊
ไม่ใช่การบูลลี่ห่านไรเลย แล้วมึงจะให้เพื่อนๆทําไง จูบหยกหนึ่งทีแล้วอุ้มท่าเจ้าหญิงลงไปพร้อมเรียกแกร็บให้เหรอ
ถ้ามึงเป็นคนจริง ทําเพื่อคนอื่นจริง ป่านนี้เพื่อนปกป้องละ บอกเลย ไอพวกคนที่เป็นคนที่เพื่อนร่วมชั้นรักและเอนดูอ่ะ
>>852 ที่มาขวางหน้ารถมันก็เป็นเหตุการณ์หลังจากนั้นแล้ว การที่หยกไม่ได้เป็นนักเรียนก็ยังไม่ได้ข้อสรุป คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติบอกแล้วว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่รับหยกเป็นนักเรียนจากเหตุผลที่กล่าวอ้างว่าหยกไม่มีผู้ปกครองที่แท้จริง อีกอย่างมันไม่ใช่เรื่องที่เพื่อนนักเรียน จะมาเกี่ยวข้องเลย การที่เพื่อนออกมาพูดว่าไม่ชอบหยกไม่อยากอยู่ร่วมกับหยก เพราะหยกเข้าเรียนหลังแปดโมง เข้าเรียนหลังเคารพธงชาติ เหมือนโดนครูล้างสมองมาพูดแทนอ่ะ มันเดือดร้อนเพื่อนยังไง
แล้วเรื่องที่นักข่าวมาตามถ่ายหยก มาโทษหยกว่านักข่าวไม่เซ็นเซอร์หน้าเพื่อนๆ มันใช่หรอวะ ถ้าบอกว่าเกลียดขี้หน้ามึงเพราะมึงบ้ามึงเบียวมึงปัญญาอ่อนแบบนี้ยังพอเข้าใจได้ แต่นี่ที่เพื่อนพูดมาแต่ละอย่างเหมือนเตี้ยมๆกันมา ครูก็ยิ่งแล้วใหญ่สั่งให้นักเรียนรุมไล่หยก พูดออกมาได้ไงคำแบบนี้ เรียกตัวเองว่าครูได้หรอ
>>857 ธรรมชาติของสัตว์สังคม ยอมรับเถอะ คนที่มันโดนมองว่าไม่เข้าพวกก็จะโดนบีบออก เป็นสันชาติญาณที่รู้ว่าถ้ามีตัวชิบหายในกลุ่มต้องโดนกีดกันออกเพื่อที่ส่วนรวมจะไม่ได้ชิบหาย มนุษย์เป็นสันว์เห็นแก่ตัว นี่คือโลกความเป็นจริงไอหนู อิอิ
แล้วมันคอมม่อนเซ้นท์นะเรื่องฝ่ายเพื่อนหยกโดนละเมิดก็มีสิทธิเชิญให้หยกออก แต่มันไม่ฟังไงเหมือนมึงที่กําลังหลงประเด็นรวมกันอยู่ว่าอะไรคืออะไร เรื่องว่าโดนถอนก็เร่่องโดนถอน เรื่องค่าเทอมก็เรื่องค่าเทอม อันนี้มันเรื่องค่าย ไม่ทีส่วนเกี่ยวข้องแล้วแต่เสือกมานั่ง อารมณ์เหมือนเอาคนขอทานแล้วอยู่ๆไฮแจ็ครถมึงขึ้นมานั่งสิแล้วบอกกูจะไปกับมึงเดี๋ยวกูออกค่านํ้ามันให้ กูก็เคารพสิทธินะเพราะกูจะออกค่าน๊้ามันให้มึง ไรเงี๊ยะ ถ้าไม่เข้าใจก็น่าจะอยู่ในสังคมยากหน่อยนะหนู อิิิิิิอิิิิิิ
ส่วนตัวกูว่ามันไม่ได้เตี๊ยมไรหรอก กูรู้ดีสันดานนิสัยเด็กเป็นไง กูก็เคยโดนกีดกันเพราะทําตัวเสร่อเอง รู้ดีว่าทุกคําพูดมันมาจากความคิดไอเด็กพวกนั้น ไม่ใช่โดนสอนมาให้พูด แม่งพูดเหมือนสลิ่มที่บอกร่านโดนชักจูงโดนล้่งสมองไงยังงั้น
>>858 ค่าเทอมมันรวมอยู่ในค่าเข้าค่าย มึงได้ดูข่าวดูคลิปบ้างป่าวเนี่ยสักแต่จะด่าน้อง โรงเรียนแอบโอนเงินคืนโดยไม่ได้แจ้งอะไรเลย ไม่มีแม้แต่ใบเสร็จหรือหมายเหตุว่าโอนมาค่าอะไร มัดมือชกว่าน้องไม่ได้จ่ายค่าเทอมค่าเข้าค่าย เพราะว่าโรงเรียนไม่มีสิทธิ์ไล่น้องออกเลยต้องใช้วิธีนี้แกล้งเด็ก แบบว่ากูไล่ออกไม่ได้กูก็ไม่รับเงิน ไม่จ่ายค่าเทอมก็แปลว่าไม่ใช่นักเรียน แบบนี้มันใช่วิธีการที่ถูกต้องหรอ กูรู้ว่าวุฒิภาวะน้องมันก็แย่ แต่วิธีที่ผู้ใหญ่ทำกับเด็กแย่กว่า อีก 10 ปี พวกมึงถึงจะมาเห็นใจน้องกันเหมือน เนติวิท
>>859 ส่วนเรื่องเพื่อนอย่างที่บอกว่าน้องมันวุฒิภาวะแย่จริง แต่การที่โดนกระทำแบบนี้มันก็ไม่ถูก ถ้ามึงเคยโดนมาก็น่าจะรู้นะ ไม่ชอบก็แค่ไม่ต้องมายุ่งกัน แต่มาทำเป็นถามไถ่แกล้งเป็นห่วงเพื่อเอามาโจมตีน้องทีหลัง แล้วปลุกระดมคนอื่นให้มาร่วมไล่น้องอีก แย่มากนะคนแบบนี้
จะห่วงหยกไปห่วงเด็กไร้โอกาศที่อยากเรียนกว่ามั้ย ไร้สาระชิบหัย
กูอาจจะคนนอกเกินไปที่วิจารณ์เด็ก แต่ถ้าอยากสร้างเรื่อง แล้วตัวเองไม่เดือดร้อน แถมเพื่อนรัก โน่น ไอเห้ เนติวิทย์ กวนตีนอย่างมีสมอง
นักปฎวัติจากภายในได้ผลดีกว่าพวกมาเห่าบ้าบอเสียเส้น นักปฎิวัติจากภายในต้องแทรกซึมเข้าไปแล้วเริ่มปฎิวัติจากภายใน เช่นจะปฎิวัติกระทรวงการศึกษาก็ต้องทะลวงลึกเข้าไปข้างในของอธิการบดี อ่าห์ เย่ห์
กูเห็นบางคนอ้างว่าเป็นดาราย้อมผมไปโรงเรียนได้ ทั้งที่แม่งไม่ได้มีงานในวงการเลย แต่หยกย้อมไม่ได้ คือมึงแทนที่จะทำให้มันถูกต้องแต่ยอมรับการโกหกตอแหลซุกปัญหาไว้ใต้พรมหรอ
>>864 ดาราไอดอล เขาสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน ไม่ใช่ทำชื่อเสีย แบบ หยกนิ
เมิงอัดเสียงจะแฉครู ครูเลยรู้สึกว่าไอเด็กนี่มันไม่ไว้หน้าครูเลย ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้างไหม หรือเอาแต่สร้างความเดือดร้อน ไร้สาระ สังคมจะเลือกเอง
เพื่อนไม่ชวนไปทัศนศึกษาสักคน ยังสะเออะมา
เพื่อนมึงเอ๋อหมดแล้ว พาไปเข้าโรงพยาบาลที
มึงเชื่อดิอีพวกเพื่อนหยกจบม.ปลายไปโตไปทำงานถึงจะคิดได้ว่าพวกมันแม่งโง่ตามเกมผู้ใหญ่ไม่ทัน ไม่รู้ว่าเค้าหลอกใช้พวกมันให้บีบเพื่อนตัวเอง ช่วยมันทำลายชีวิตเด็กคนๆนึง สบายเลยอิพวกครูไม่ต้องเสียมือลงมือเอง จะทำมาพูดดีเข้าตัวยังไงก็ได้แต่ที่พวกมันยังโง่ติดหล่มเดิมๆ นี่คือเรื่องจริง
ไอโม่งหลอนว่าเพื่อนหยกโดนท่องบทนี่สลิ่มเก่าหรา ตามอ่านมาซักพักละ หรือเป็นคนจากทะลุวังแน่ๆ
นี่ไงพวกเอ๋อสายคอนเซ็ปท์สายอุดมการณ์แต่เสือกไม่มองรายละเอียดปลีกย่อย ไอโรงเรียนหยกแม่งมันคอนเซอร์ชหอยู่แล้ว ไม่ใช่พวกรรดาราย่านใจกลางเมืองนะ ไปเรียกน้องให้มันแยกหัวข้อให้มันถูกก่อน
กลายเป็นว่าเรื่องที่แย่จริงๆไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นความคิดในหัวกุเอง เป็นความจริงที่อะไรหลายๆอย่างกุกับเพื่อนเข้ากันไม่ได้ แต่เราก็ไม่ได้เกลียดกัน เราไม่ได้ทะเลาะกัน อะไรที่กุไม่เข้าใจเพื่อนหรือมองว่ามันไม่แคร์ความรู้สึกกุ มันจงใจเมินกุ จริงๆเพื่อนมันก็แค่เป็นแบบนั้นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่แค่ความคิดในหัวกุมันทำให้ทุกอย่างแย่ลง ชีวิตเราจะเป็นยังไงแม่งขึ้นอยู่กับมุมมองจริงๆว่ะ เพราะกุมองว่ามันแย่ กุมองว่าตัวเองแปลกแยก กุก็เลยเผลอแยกตัวเองออกจากสังคมโดยไม่รู้ตัวเพราะจิตใต้สำนึกกุมันคิดแบบนั้น แต่ถ้าช่วงไหนที่กุพยายามเปลี่ยนมุมมองมองโลกในแง่ดี กลายเป็นวันนั้นไม่มีเรื่องแย่ๆเลย จริงๆเรื่องที่กุคิดว่าแย่มันก็อาจจะมีเหมือนปกตินั่นแหละแต่แค่กุไม่ได้ไปโฟกัสเฉยๆมันก็เลยกลายเป็นวันที่ดีของกุ กุคงต้องพยายามปรับมายด์เซ็ทตัวเองสินะ ให้เลิกคิดเล็กคิดน้อยเก็บทุกอย่างมาคิดได้แล้ว กุควรโฟกัสที่ตัวเองไม่ใช่มานั่งกังวลว่าใครจะเกลียดใครจะรักใครจะมองกุยังไง เพราะสุดท้ายก็มีแค่ตัวกุที่จะอยู่กับกุไปตลอด คนที่กุควรแคร์คือตัวกุเองต่างหาก กุชอบแคร์ความรู้สึกคนอื่นว่าเขาจะอึดอัดกับสิ่งที่กุทำไหม แต่กุไม่เคยแคร์ความรู้สึกตัวเองเลยว่าเป็นยังไง กุจะรักตัวเองให้มากขึ้น
ถ้าเกินเยียวยาก็ต้องตัดแม่ ตัดลูกได้ สายเลือดข้นกว่าน้ำกุไม่เชื่อนะ สันดานเกิดมายังเด็กเปรตขนาดนี้
ไม่ใช่เอาแต่บ้าเพื่อน ไม่เรียนหนังสือ ไม่มีอนาคต ต้องแคร์เพื่อนขนาดนั้นเลยหรอ ต้องการให้เพื่อนยอมรับ เข้ากลุ่ม
ไปนอนข้างถนนเถอะ
มันยังเป็นมู้เพื่อนอยู่ไหมเนี่ยสัส
เพื่อนติดคุกแต่กูทำอะไรไม่ได้เลย
เวลาไปตปท.กับเพื่อน ควรใช้อินเทอร์เนตของใครของมันป่ะวะ
กูโดนขอเกาะตั้งแต่ยังไม่ได้ไป
>>881 กูว่าเรื่องเพื่อน แฟน ครอบครัว มันแล้วแต่วัฒนธรรมกลุ่มก้อนของใครของมัน แล้วแต่ความสะดวกใจของแต่ละคน อย่างกูเคยเป็นคนออกปากเองด้วยซ้ำว่ามาใช้เน็ตกับกูนี่ ไม่ต้องแยกกันสมัครให้เปลือง เพราะกลุ่มกูไม่มีใครติดโซเชียลไง หลักๆ ไปเที่ยวก็คือเที่ยวแหลก มือถือมีไว้แค่ถ่ายรูป ค่อยมานั่งไถเล่นโซเชียลกันตอนกลับโรงแรมแล้ว นอนเล่นบนเตียง ซึ่งกูก็เสียบชาร์จแชร์ hot spot ให้สบายๆ แต่ถ้าจะให้แชร์ทั้งวันจนแบตกูหมด กูก็ไม่แชร์เหมือนกัน ส่วนของมึง ถ้ามึงไม่อยากแชร์ ไม่สะดวก ก็บอกไปดิ เป็นเพื่อนกันมันควรคุยกันได้ตรงๆ อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจดิวะ ไม่งั้นจะเป็นเพื่อนกันไปทำไม
https://youtu.be/Bd-Gju4bnW0?si=pRa-6TGQKCBGgt3j
วัยรุ่นสมัยนี้ไม่เคยฟังหรอ ไม่ใช่คบแต่เพื่อนให้สังคมยอมรับ
รวยจนไม่เกี่ยว เก่งโง่ไม่เกี่ยว แต่ใจเราเชื่อมถึงกันหรือเปล่า
คิดยังไงที่เพื่อนหยกออกมาเขียนป้ายประท้วงหน้ารั้วโรงเรียน โดยที่ครูก็ปล่อยให้ทำกันไม่มีเตือนไม่มีห้าม ยังคิดว่าไม่มีผู้ใหญ่คอยอยู่เบื้องหลังอีกไหม
https://twitter.com/itmydefinition/status/1702705733241126961
นิยามของintrovertที่แท้จริง
หยกจักรวาลalternate ถือar15ปืนรั้วไปกราดยิงเพื่อนๆและครูที่โรงเรียน
https://youtu.be/xVPvzX-AeSM?si=631cKBlHaLYUc9Hn
วัยรุ่นสมัยนี้ไม่เคยฟังหรอ ไม่ใช่คบแต่เพื่อนให้ใจเราเชื่อมถึงกัน
สังคมมันมีกั่นแย่งชิงดี การบุลลี่ จะเชื่อใจใครได้หรือเปล่า
อะไรคือการที่กูส่งไอจีคนที่มาจีบไปให้ดู แล้วสิ่งแรกที่พูดถึงคือคนคุยมึงดูไม่ค่อยมีตัง ไอ้เหี้ย งง เกิดมาไม่เคยเจอ เพื่อนคนอื่นเขาก็ทักแค่ว่าทรงดูดีอยู่นะ อีนี่มาเวย์ฉีกเฉย
บางทีบางคนก็ไร้ยางอายนะ ด่าคนอื่นเป็นวรรคเป็นเวร แต่ตัวเองทำให้เขาลำบากชิบหาย
เรื่องปกติ ผู้หญิงมองผู้ชายที่เงิน ผู้ชายมองผู้หญิงที่รูปลักษณ์
ไม่ว่ามึงจะพยายามบิด พยายามบอกว่าหญิงชายเท่าเทียมแค่ไหน แต่มายด์เซ็ตของแต่ละเพศส่วนใหญ่มันคือแบบนี้ และมันเป็นทั่วโลกด้วย
เรียกได้ว่ามันคือสัญชาตญาณของแต่ละเพศก็ว่าได้
ผู้หญิงมองที่เงินเพราะคิดถึงเรื่องอนาคต เรื่องลูก ครอบครัวเป็นหลัก
ผู้ชายมองรูปลักษณ์เพราะคิดเรื่องเยเป็นหลัก
>>896 ถูกต้อง มันคือสัญชาตญาณตามหน้าที่ของเพศ หน้าที่สืบพันธุ์ เน้นจ้องสืบพันธุ์อย่างเดียวที่เหลือช่างแม่ง กับหน้าที่ในการปกป้องเผ่าพันธุ์ให้เจริญเติบโตและอยู่รอด น้อยคนจะเอาชนะสัญชาตญาณได้ ก็พอมีบ้าง แต่น้อย นี่เป็นสาเหตุนึงด้วยที่ทำให้เพศชายมีนิสัยกล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยงมากกว่าเพศหญิงที่จะชอบความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าก็จะมีคนที่เอาชนะสัญชาตญาณตัวเองได้เช่นกัน แต่น้อย
>>896 สัญชาตญาณ ตั้งแต่อดีต มันบังคับเรา แล้วทำไมกูต้องทำตาม เจตนารมย์นั้น ที่มันต้องการควบคุมเรา?
แบบนั้นจะต่างไรกับเดรัจฉาน
กุชอบ ผญ ที่จิตใจมากกว่า รูปลักษณ์ดี พวกนี้มันก็มีเหมือนหมู่ดาว บนทองฟ้า ไม่ได้แตกต่างกันเลย
กลับกันเลย ผญ ชอบความมั่นคงปลอดภัย? >> ทำอะไรเองไม่เป็นมากกว่า เลยต้องพึ่งผู้ชาย
>>898 มีกุคนนึงนี่ไง
มึง กูขอระบายหน่อย กูมีเพื่อนคนนึง อยู่บ้านเป็นนีทไม่ทำงานอะไรมาหลายปีมาก
เวลาคุยกันเรื่องอะไรก็ตาม มันจะบอกว่ามันเคยทำ เคยไป เคยไปต่างประเทศ เคยไปกินร้านนู้นนี้ เคยมีแฟนเป็นดารา มีหมอมาจีบ มีคนเกาหลีมาจีบ แค่ไปโรงพยาบาลหมอก็ชอบมัน หรือถ้ามันไม่เคยทำ มันก็จะมีเพื่อนที่เคยทำตลอด มีเพื่อนเคยทุกอย่างที่เป็นหัวข้อสนทนา
ถ้าไม่ค่อยมีคนสนใจ มันจะบอกว่ามันป่วย ไม่สบาย เป็นโรค เป็นลม เคยผ่าตัด เคยความจำเสื่อม เคยกินยาล้างท้อง
บอกว่าบ้านรวย มีเงินเป็นล้าน แต่จะไปเที่ยวไหน มันต้องเป็นคนบอกว่าไม่มีตังค์ตลอด
จนกูเหนื่อยจะฟังเลยเลิกคบกับมันเลิกคุยกับมัน
ทั้งที่มันก็ไม่ได้มุ่งร้ายหรือทำร้ายอะไรกู มันคงเป็นแค่คนเหงาloserคนนึง หรือกูควรใจดีกับมันมากกว่านี้วะ
>>900 เพื่อนมึงเป็นนีท เกาะที่บ้านแดก ลึกๆในใจมีปมด้อยแน่นอน เลยพยายามสร้างตัวตน สร้างความทรงจำที่ประสบความสำเร็จหรืออยากเป็นอยากได้อยากมีเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเองเรื่องที่ตัวเองเป็นนีทไม่ทำงานการเกาะที่บ้านกิน กูคิดว่าตราบใดที่มันไม่ได้ทำร้ายใครก็ปล่อยๆมันไปรับฟังเหมือนเป็นเรื่องตลกไปไม่ต้องใส่ใจอะไรมาก
>>904 ไอ้นี่พูดถูก ถ้ากูเป็นมึงกูคงคิดดีๆว่าอยากให้มันอยู่ในชีวิตต่อไปไหมอ่ะ ถ้ามันไม่มีมึงกูก็ไม่รู้แล้วว่ามันจะมีใครเป็นเพื่อนอีกไหม ถือว่าเมตตาสัตว์ไปก็ได้ แต่ถ้าเซฟความรู้สึกมึง มึงมีอะไรให้ทำอีกเยอะในชีวิต มีเรื่องที่ต้องแคร์อีกมาก มันไม่ใช่เพื่อนที่ดี เรียกว่าเพื่อนยังแปลกๆเลย อยู่กับมันแล้วไม่มีความสุข รู้สึกอึกอัด รู้สึกฝืนที่ต้องอยู่กับมัน ก็ลองตัดคนออกไปจากชีวิตบ้าง อย่าไปแคร์มากแคร์ตัวมึงเองก่อน แต่ถ้ามันไม่ได้เดือดร้อนอะไรมึงขนาดนั้นก็คบๆต่อ เผื่อมึงเปลี่ยนมันเป็นคนปกติได้ก็แล้วกัน กูเองสมัยเรียนก็มีเพื่อนแบบนี้อยู่ไม่ได้หมายถึงเป็นนีทนะ หมายถึงนิสัยสร้างตัวตน เวลามันคุยด้วยกูก็พยายามใจดีกับมันให้มากๆ เพราะรู้ว่าคนอื่นไม่สนใจมันหรอก แต่ให้ขนาดคบเป็นเพื่อนไปไหนไปกัน คอยคุยด้วยตลอดนี่ก็ไม่ไหวว่ะ
>>900 เพื่อนเมิงติ่งเกาหรอวะ กุเคยเจอพวกติ่งเกา อยู่แถบอีสาน พอมีหนุ่ม มาจีบ หรือพ่อแม่บังคับเนี่ยละ แปปๆได้ลูก เลย แต่มันยังตามพวกดาราเกาหลีอยู่นะ ขับมอไซไม่เป็น แฟนก็ค่อยๆสอน เริ่มจากขับออกจากหน้าปากซอย แต่ดีมีผัวทำงานเนี๊ยบพอใช้ได้ ฉาบปูนไม่ไหว ให้ทำงานทาสีได้ ถ้าเพื่อนเมิงอยากทำงานสบายๆ
แล้วเรียนจบอะไร เมิงไม่ต้องมีความรู้เมิงก็ลองไปเป็นเด็กเสิร์ฟต่างประเทศก็ได้นิ ไม่มีตัง ก็เป็นกรี่เอาก็ได้ อายุยังไม่เยอะ ถ้าเมิงเป็นเพื่อนเมิงควรแนะนำ หรือหาผู้ชาย ให้มันก็ได้ เพื่อนมันต้องช่วยเพื่อนหางานไหมวะ
แต่อย่างแรก เลิกดูซีรีย์เกาหลีก่อนเลย อยากได้พระเอก หล่อเป็นหมอแบบนั้น กุเจอมาเยอะ แม่งแปลกๆทุกคนอะ
เห็นด้วยกับ >>904 และ >>905 กูก็มีเพื่อนแบบนี้บ้าง เพื่อนที่ตัวเองมีปมเลยพยายามสร้างตัวตน พยายามอวยตัวเอง กูก็รับฟัง บางทีก็ช่วยเออออ ทำเป็นว้าว หรือช่วยอวยมันเป็นการปลอบประโลมหัวใจมันบ้าง แต่ถ้าช่วงไหนเยอะจนรำคาญกูก็จะฟังเฉยๆ ไม่หือไม่อือหรือบางทีก็อ้างว่ายุ่งทำตัวห่างๆ ไป คนแบบนี้ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรแค่บางทีก็น่ารำคาญ อยากคบหรือไม่แล้วแต่มึงเลย คนเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกคบเพื่อนอยู่แล้ว แต่กูคบได้นะ อย่างที่บอกว่าช่วงไหนรำคาญก็แค่ห่างๆ หน่อย คนอวยตัวเองสำหรับกูก็ยังดีกว่าพวกชอบนินทาว่าร้ายคนอื่น อวยตัวเองมันไม่ทำร้ายใคร แค่น่ารำคาญบ้างตลกบ้างเท่านั้นแหละ 555
เพื่อนตายก็ใส่ซองสิวะ
แม่งเอ๊ย กูก็ไม่อยากไปเหมือนกันแหละไอ้เหี้ย ใครจะอยากไปวะลำบากเปล่าๆ กูไปในฐานะคนนอก จะไปดูอะไรสนุกๆเฉยๆนะเว้ย ไม่ใช่ไปให้โดนใช้ ไปเป็นคนใน ไปตั้งแต่เช้าตรู่ แม่ง แต่ปฏิเสธก็ไม่ได้อีก รู้ว่าเดี๋ยวผิดใจกันอีก ดูก็รู้ว่าอยากให้กูไปชิบหาย ร่ายยาวขนาดนั้น ถ้าไม่ไปแม่งก็นอยกูอีก
หยุดเบียวดิ๊
ไอ้โม่งเอ๋อมู้ไอดอลที่มันไล่ไปตอบโง่ๆทุกมู้ให้ sirn แบนมันไปได้ไหมวะ
กูใส่ใจมึงมาตลอดนะ กูแคร์มึงเสมอ ต่อให้สิ่งที่ทำ มึงไม่ได้ขอให้ทำ กูทำให้เองก็เถอะ กูคิดเสมอว่ามันคือสิ่งที่เพื่อนทำให้กันได้แค่นั้นแหละ กูไม่ได้หวังอะไรจากมึงเลย ต่อให้กูใส่ใจมึงแทบตาย ที่ได้รับกลับมาคือความตึงโป๊ะตึงเปรี๊ยะเหวี่ยงใส่กูแบบไม่มีเหตุผล กูก็ไม่คิดน้อยใจ เพราะกูถือว่ากูตั้งใจทำให้มึงเองไม่ได้หวังให้มึงตอบแทนอะไร แต่ตอนนี้กูเริ่มเหนื่อยละ ดูเหมือนกูพยายามเข้าหามึงอยู่ฝ่ายเดียว พยายามดีด้วยแค่ฝ่ายเดียว ขอให้มึงเจอเพื่อนที่จริงใจกับมึงที่สุดในโลกเลยนะ นะคะ เอาให้สุดเหวี่ยงกันไปข้าง กูอยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะมีเพื่อนรูปแบบไหน
ทําไมพวกคุถึงมีนิสัยชอบป้ายยาววะ คือกุรับฟังได้ว่ามึงชอบอะไร ไม่ได้หมายความว่ากูชอบเหมือนมึง พวกนี้น่ามคานขนาดไม่อ่านแชตแล้วมันยังส่งอะไรมาป้ายยาอีก แม่งชอบอะไรเงียบๆคนเดียวไม่เป็นเหรอวะหะ
ตอนนั้นเพื่อนกำลังจะจมน้ำ คลื่นแรงมาก มีเพื่อนอีกคนลงไปช่วยแทน ส่วนกุได้แค่มอง กุสมเพชในความอ่อนแอของตัวเองมาก ยิ่งมันพูดว่า “เมิงเห็นกุจะจม แต่กุไม่เรียกให้เมิงช่วย” เหมือนว่าถ้ามันเรียกกุต้องช่วยมันแต่นอน
ทั้งที่กุรู้อยู่เต็มอกว่า กุสู้กับคลื่นทะเลไม่ไหว
ต่อให้เมิงเรียกให้กุช่วย กุก็ไม่ลงไปเสี่ยงชีวิตกับเมิงหรอก และเมิงคงต้องจมลงสู่ท้องทะเลเป็นแน่แท้
เพื่อนตายอะไรมันน่าหัวเราะสิ้นดี กุถึงต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ และวางแผนเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด กุจะไม่ทอดทิ้งเพื่อนอีกแล้ว กุไม่ใช่คนแบบนั้น
ถ้ากุแข็งแกร่งมากพอ กุก็จะปกป้องคนที่กุรักได้
>>923 พวกเพื่อน คุ มันชอบ2D hololiveเปล่า แล้วก็พยายามขายเกม เกนชิน คอสเพย์เกมนั้น และบอกว่าcoolเจ๋ง
เปล่าเด็กพวกนี้เยอะนะ ถ้าไม่ชอบตามมันก็จะไม่ใช่พวกมัน
กุไม่เคยไหลไปตามกระแสพวกนั้นเลย ถ้าสมัยก่อน to love ru darkness , เนกิมะ , มาคอสฟอนเทีย
เมิงก็บอกไปตรงๆสิ กูกับเมิงต่างกัน กุไม่เคยชอบ2D
แต่สำหรับกุมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรไหม มันก็ชอบของมัน แสดงpassionมันออกมา
ดีกว่าเพื่อนที่เอาแต่นินทาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ กุว่าแบบนั้นมันมลพิษมากกว่านะ
พลังบวก ย่อมดีกว่าพลังลบ
>>925 กูก็คนตรงๆ บอกแม่งไปเลย สัสกูเฉยๆ กูไม่ได้ชอบ ขกเล่น แม่งยังไม่หยุดป้ายยา ปลมันไม่ได้ทํากับกูแค่คนเดียวด้วย เป็นพวกหลงตัวเองแม่งพล่ามอย่างเดียวไม่ฟัง พลังลบพอๆกับพวกขี้นินทา ตอนนี้กูก็แกล้งทําเป็นไม่อ่าน เพราะต้องทํางานกับพวกมันไง จริงกูก็คุ แต่ไม่ได้อยู่ด้อมเดียวกับมัน กูก็ชอบของกูเงียบๆ เลยไม่เข้สใจว่าไอพวกบอก ป้ายยาๆ เป็นเหี้ยไรมาก
อายุ 32 ไม่มีเพื่อน เคยมีเพื่อนที่คิดว่าสนิท แต่ก็ห่างๆกันไป บางคนเลิกตอบแชทกู บางคนก็คุยทีนึงก็ถามคำตอบคำ ไม่เคยคิดว่าวันนึงจะมาอยู่ในจุดนี้ จากคนที่ตอนเด็กๆเคยมีเพื่อนเยอะ บางคนก็โคตรเหงาเลย แต่ก็อดทนให้ความรู้สึกมันผ่านไป
กุขก คุยกับเพื่อน เมิงจะถามไรเยอะแยะ เอาเวลาไปหาผัวหาเมียออกลูกดีกว่าไหม
แม่มเอย ตู้เสื้อผ้าที่บ้านเก่าอายุเกือบ20ปีในบ้านขึ้นรา+ปลวกหนัก
พอบอกคนในบ้านว่าสภาพมันแย่มากๆแล้วควรทิ้งก็ไม่มีคนสน
จะขนทิ้งอย่างน้อยก็เขตนอกบ้าน(แต่ยังอยู่ในรั้วบ้าน)ก็ไม่ไหว แม่มอยู่ชั้น2แต่กุตัวเตี้ยไร้แรงไม่มีคนช่วย
พอจะหาข้อมูลว่าจะทิ้งแบบจริงจังก็มีแต่กทม.ส่วนกุอยู่ต่างจังหวัดอีก แม่มจะทิ้งไงดีวะ?
แจ้งเทศบาลจะรับทิ้งป่าว? พวกรถรับขนของย้ายหอจะรับทิ้งมั้ยวะ?
มีเพื่อนสนิทคนนึงกูไม่ถูกกับแฟนมันตั้งแต่แรกเจอเพราะนิสัยเอาแต่ใจขี้โมโหด่าเพื่อนกูต่อหน้ากูแบบToxic relationshipแน่ๆ ก็มาแอบบอกมันตรงๆว่าถอยเหอะว่ะคนนี้ไม่โอเคอย่างแรง แต่ไม่รู้อะไรเข้าสิงแม่งมันดันไปบอกแฟนมันเรื่องที่กุบอกมัน แฟนมันก็โวยวายโอเคกูเลยถอยออกมา ทีนี้เพื่อนในกลุ่มที่ได้เจอกับแฟนมันทุกคนก็บอกเหมือนกันว่าไม่โอเคว่ะแล้วมันก็ค่อยๆเฟดตัวออกไป ไม่มานั่งกินข้าวด้วยกันเหมือนแต่ก่อน แต่ที่งงคือแม่งบล็อคกูทั้งๆที่ไม่ได้ยุ่งกับมันนานละนะหรือเพราะว่าช่วงหลังมันเห็นชีวิตกูดีขึ้นเงินเดือนมากขึ้นเท่าตัวแล้วเงินเดือนมากกว่ามันเยอะหรือเปล่าเพราะกูกับมันเรียนจบสาขาเดียวกันต่างกันแค่มหาลัย (กูลงClose freindว่าบ.ปรับเงินเดือนเพื่อซื้อใจให้ทำงานที่เดิม) เพราะจากที่เห็นคือมันก็ดิ่งพอตัวยังคบแฟนคนเดิมเพื่อนแทบไม่มีแล้วเพราะเพื่อนเฟดออกหมด มันก็ใช้ชีวิตเดิมๆไปของมัน ที่มันบล็อคเพราะเห็นกูก้าวหน้ากว่าหรอวะกูงงหรือแฟนแม่งเห็นละหมันไส้เลยบล็อคกู สุดท้ายนี้ขอให้พวกมึงจำไว้นะToxic relationshipจะพาชีวิตมึงแย่เสียสุขภาพจิตแล้วโยงไปถึงเรื่องต่างๆในชีวิตแน่นอน
กูทำงานกลุ่มแล้วไปขอเพื่อนคนนึงมาอยู่กลุ่มด้วย ซึ่งกูเพิ่งมารู้ว่ามันไม่อยากทำงานกับพวกกูเพราะเครียดไป แบบมันมีปมว่ามันไม่เก่งเท่าคนอื่นในกลุ่ม ไม่กล้าพูด ยิ่งพูดด้วยยิ่งกลัว กูทำไงดีวะกูรู้สึกผิดที่เอามันมาอยู่ด้วยกันแถมต้องทำด้วยกันไปอีก 3 เดือน
ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ถึงเวลากุต้องไปชดใช้กรรมอีกแล้วสินะ ท่องไว้อีกแค่4เดือน พวกมันก็ไม่ได้ผิดหรอกแต่แค่กุรู้ตัวดีว่าเข้ากันไม่ได้เลยจริงๆ กุพยายามมองแง่บวกแล้วว่าเพื่อนมันก็นิสัยเป็นงั้นปกติไม่ได้คิดร้ายอะไร แต่ยิ่งกุอยู่กับพวกมันกุยิ่งรู้สึกเหงา รู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวทั้งๆที่อยู่ด้วยกัน รู้สึกถูกด้อยค่า กลายเป็นคนไม่กล้าทำอะไร ไม่กล้าแสดงออก กลัวแสดงออกแล้วจะทำให้เพื่อนหงุดหงิดรำคาญอีก กลายเป็นแค่จะพูดสักคำนึงยังยากเลย เพราะพูดไปไม่ถูกเมินก็โดนขมวดคิ้วใส่ว่าจะพูดอะไร และพูดทำไม ทั้งๆที่เมื่อก่อนกุเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองเยอะแท้ๆ อะไรที่กุเคยมั่นใจว่ากุทำได้ดี กลายเป็นกุไม่มั่นใจเลย กุเป็นคนที่พรีเซนต์ได้คล่องและตื่นเต้นตลอดที่จะได้พรีเซนต์ เป็นครั้งแรกเลยที่พอได้อยู่กับพวกมันแล้วกุเริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่อยากพรีเซนต์ กุความมั่นใจในตัวเองต่ำลงจนไม่เชื่อว่าตัวเองจะพรีเซนต์ได้ กลัวพูดผิด กลัวพูดไวไป กลัวจะโดนพวกมันด่าเพราะทำพลาดอีก จนกุไม่เชื่อใจตัวเองแล้วว่ากุจะทำอะไรได้บ้างถ้าพวกมันไม่บอกว่ากุทำอะไรได้ กุรู้สึกว่ามันไม่เคยเปิดใจให้กุเลย กุพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับมัน เพราะเชื่อคำที่มันบอกว่า เราเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่พอกุฮึดกับตัวเอง สร้างบรรยกาศแง่บวกตั้งแต่เช้า ทั้งฟังเพลง ทั้งคิดบวก แต่พอไปเจอมันแล้วโดนเมินซ้ำๆ โดยขมวดคิ้วใส่ตลอดเวลากุจะพูดด้วย โดนขึ้นเสียงใส่โดนดุเหมือนกุทำอะไรผิดตลอดเวลาทั้งๆที่คนอื่นก็ทำแต่มึงไม่เคยไปอารมณ์เสียใส่มันเลย มันคงผิดที่เป็นกุแค่นั้นแหละ กุขอแค่พรอย่างเดียวตอนขึ้นมหาลัย เพื่อนไม่ต้องสนิทรู้กันทุกเรื่องก็ได้ แต่ขอแค่เป็นพลังบวกให้กัน ไม่ทำให้ลำบากใจกันทั้งคู่ และกุก็มั่นใจว่ากุเป็นคนที่เทคแคร์คนเก่งคนนึงเลย เลยหวังว่าจะถูกเทคแคร์กลับบ้างเหมือนกัน แค่ช่วยพากันไปในทางบวกไม่พากันดิ่งลงเหวกว่าเดิมก็พอแล้ว กุคงแค่เพ้อฝันไปเอง กุยังเป็นเพื่อนที่ไม่ดีพอเปล่าวะ ถึงได้มามีปัญหาเรื่องเพื่อน
>>938 กดดันแหละ กูเคยกากมาก่อนจนเก่งอันดับ1 กูเลยเข้าใจทั้ง2มุมมอง แต่แต่ละคนมันไม่เหมือนกันอ่ะ บางคนไม่อยากโดนกดดันมากเราควรจะให้เพื่อนทําส่วนที่ง่ายๆ แต่บางคนก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีส่วนร่วมที่ดีพอแล้วจะน้อยใจ คือเราหางานที่เพื่อนถนัดหรือสนใจแล้วให้มันทําส่วนนั้นหรือสามารถช่วยเพื่อนโดยการติวๆหรือไกด์ทิศทางของงานได้
พยายามให้เพื่อนengageเยอะๆ คุยๆปรึกษาเยอะๆถ้ามึงเห็นใจเพื่อนนะ การคุยปรับความเข้าใจกันมันหาทางออกได้ดีสุดว่าเพื่อนต้องการอะไร
เพราะบอกเลยกูคนเหี้ย5555 กูไม่ได้แคร์เพื่อนในกลุ่มเท่าไหร่ในด้านสภาพจิตใจ เพราะกลุ่มกูแม่งคนมาเกาะอ่ะ เป็นพวกเหลวไหลสัสๆเลย กูเลยเผ็ดกลางกลับไป เพราะงานกูก็ไม่อยากแบกคนเดียว ถ้ามันก็อปงานมาแปะกูก็ไล่ให้กลับไปทําใหม่ กูดุด้วยแหละคนเลยกลัว มึงนี่น่าจะคนดีในระดับหนึ่งเลยหว่ะแคร์เพื่อนด้วย เพราะตอนที่กูกากๆอยู่กับคนเก่งๆ เขาก็ไม่ซีเรียสไรหรอกแต่แม่งเมินไปเลยก็มี ซึ่งสําหรับกูกูไม่โอเค555
กุรู้สึกการเกาะกลุ่มและกุเป็นหนี้คนเกาะยังไงไม่รู้วะ กุอยากตอบแทนเขาที่ทำให้กุจบมาได้ แต่เขามีแฟนแล้ว ถ้าเราจะNRTมันก็ไม่เหมาะปะ
ทีแรกกูกับเพื่อนก็รักกันดีแหละ จนกระทั่งให้มันยืมตัง
รู้งี้ไม่ให้ดีกว่า
โอ๊ยยยยย มันเข้าใจยากเหี้ยอะไรขนาดนั้นวะ นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา กุเสนอทางให้ก็เถียงคำไม่ตกฟากคิดไปเองว่ากุหมายถึงอีกอย่าง ทั้งๆที่กุพูดมันคืออีกอย่าง มึงจะเอาไงวะไอ้เหี้ย
ไม่ได้เข้าโม่งมานาน มาอ่านแล้วนึกถึงสมัยตอนกูยังเป็นคนประสาทแดก เครียดกับปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนเยอะๆ แล้วมาบ่นในโม่ง
ตอนนี้ก็ยังมีปัญหาแหละ แต่ไม่ค่อยทุกข์ใจเท่าเมื่อก่อน แนะนำว่าอย่าไปคิดมาก แต่คนที่คิดมากก็คงทำไม่ได้อยู่ดี 5555
เคยเจอประเภทที่เลิกคบแล้วแต่ยังมาตามด่าอยู่มั้ย
เออเจออยูา กูต้องทำยังไงหรอเพื่อนโม่ง พอดีกูเคลียร์ปัญหาแล้วนะเดือนสองเดือนได้ละ แต่ยังโดนหยิบไปนินทาหยิบไปด่าอยู่
>>948 แล้วทําไมต้องแคร์ กูไม่รู้ว่ามึงเจออะไรมา แต่กูเคยโดนใส่ร้ายแล้วเอาไปนินทาจนคนที่ไม่รู้จักกูจริงๆแบนหมด แต่กูไม่ได้ไปแก้ข่าวอะไร กูตั้งใจทํางานอยู่กับเพื่อนที่กูแคร์พอ กูไม่ได้สนใจว่าร้ายใครไม่เคยเอาเปรียบใคร ช่วยอะไรก็ช่วยได้ ทํางานให้ดีที่สุดจนได้รับการยอมรับ จนสุดท้ายสังคมมันก็เข้าใจกูเองว่ากูไม่ไดเหี้ยตามคํานินทาของใครบางคน การกระทํามันจะproofเองว่ามึงเป็นคนยังไง โดยที่ไม่ต้องไปใช้ปากหาพรรคพวกนินทากันไปมา
แม่ง เจอคนประสาทแดรกแล้วไม่เรียน กูไม่อยากอยู่กับมันแต่สถานการณ์มันทำให้มันต้องมาตามติดกู คือกูก็independentอยู่แล้ว ต่อไปนี้กูจะทําให้แม่งยิ่งตามกูไม่ทัน แล้วให้มันกดดันจนต้องลาออกเอง
แต่ช่วยไม่ได้คือกูพยายามชวนเรียรชวนไรแล้วแม่งไม่ทํา แล้วยืมตังค์กูแล้วชอบทำเนียน กูต้องทวงไอ่ห่า ขอให้เป็นซึมเศร้าหนักขึ้นแล้วรีบๆไป*ตายเถอะนะ กูก็เป็นซึมเศร้าแต่กูไม่เคยทําตัวอ่อนแอหรือทำตัวToxic ดังนั้นกูไม่อายno guilty shitเลยที่จะมีความคิดอยากให้มึงล่มจมcorrupted mother fucking degenerated
fuck you spoiled kid but your family is not actually rich stupid undeveloped brain fat diabetic ugly ass hope you give up your life asap your breath stinks ugly ass both your appearance and inside are rotten your existence’s nothing but to make fertilizer when ever you die
i don’t want to be near you fucking leave me alone and do suffer alone
cunt
ทนเป็นเศษเพื่อนในกลุ่มไม่ได้ พอจะแยกตัวหาสังคมใหม่ เริ่มสนิทกับใครเข้าอีเพื่อนเริ่มเอาละ กุคุยกับAเริ่มสนิทกันก็จะ Aมันนู่น Aมันนี่ โคตรแย่ โคตรนิสัยเสีย กุเริ่มสนิทกับ Bก็เอาอีก บอกBแม่งโคตรไร้สาระ คิดเล็กคิดน้อย เอาแต่ใจ ตอนเป็นเพื่อนด้วยไม่รักษานะ พอกุจะไปเสือกกันซีน ไม่รู้หวงเพื่อนหรือแค่ไม่อยากเห็นกุหลุดพ้นไปมีเพื่อนคนอื่น อยากให้กุจมทุกข์เป็นตัวด้อยในกลุ่มงี้แหละ
มันมีจริงหรอวะประเภทกลุ่มที่ฟังเรื่องAกับBทะเลาะกันแต่ CDEF มารุมแซะๆ A เพราะฟังเรื่องจากBฝ่ายเดียว
เลือกกลุ่มเพื่อนผิดชีวิตเปลี่ยนจริงๆ กูไม่น่าเข้าไปนั่งกับกลุ่มนั้นแต่แรกเลย เข้ากันไม่ได้ ถ้าออกมา เพื่อนคนอื่นก็จะมองว่ากูเป็นคนมีปัญหาแน่ๆ เพื่อนในกลุ่มก็คงเขม่นกูแล้วฝั่งนั้นคนมันเยอะกว่า ส่วนกูตัวคนเดียวไง ถ้าออกมาจะไปอยู่กับใคร คนอื่นก็จับกลุ่มกันไปหมดแล้ว จะอยู่คนเดียวไปเลยก็ยากตรงทำงานกลุ่มอีก งานกลุ่มเยอะเหี้ยๆ
หมายถึงทำดีกับทุกคนไปซะ จะได้สนิทกับทุกคนไป ไม่ต้องทนอึดอัดกับกลุ่มเดียว24 ชั่วโมงน่ะ
สำหรับคนแบบกูทริคในการเข้าสังคมคือ คิดให้น้อย พูดให้เยอะ เพราะเสือกเป็นคนคิดมาก คิดไปเรื่อย กังวลแม่งไปหมด พอเลิกคิดแล้วลองเน้นพูดเยอะๆดู พูดเหี้ยไรก็ได้ อยากพูดมึงก็พูดไม่ต้องคิดเยอะ กลายเป็นเข้าสังคมได้ดีขึ้นเฉย เพื่อนๆก็เข้าหามากขึ้น คุยเล่นด้วยมากขึ้น ดีจัง
ทำยังไงถึงจะเมคเพื่อนได้ว่ะ ทั้งชีวิตกูไม่มีเพื่อนสนิดเลย
ก็รู้มาบ้างว่ากลุ่มเพื่อน3คนมีคนนึงต้องเป็นเศษ ก็เตรียมใจไว้แล้วแต่ไม่ได้คิดว่าจะหนักขนาดนี้ เหมือนกุไม่มีตัวตนเลย555 คุยกัน2คน เดินกัน2คน ถ้าลองเปิดปากคุยด้วยก็จะไม่ค่อยฟัง กลับไปคุยกัน2คนเหมือนเดิม เราเงียบผิดปกติขนาดไหน ระดับไม่พูดเหี้ยไรเลย มันก็ไม่สนใจเพราะมันไม่ได้แคร์หรือรับรู้ด้วยซ้ำว่ามึงเงียบลง เหมือนโลกนี้มีแค่เราและนาย เพื่อนสนิทเบสเฟรนด์โดะสุดๆ ส่วนกุคืออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
>>965 กูแนะนำทริคให้ กูเคยอ่านเจอว่าทริคในการเข้าสังคมคือ คิดให้น้อย พูดให้เยอะ เพราะเสือกเป็นคนคิดมาก คิดไปเรื่อย กังวลแม่งไปหมด พอเลิกคิดแล้วลองเน้นพูดเยอะๆดู พูดเหี้ยไรก็ได้ อยากพูดมึงก็พูดไม่ต้องคิดเยอะ กลายเป็นเข้าสังคมได้ดีขึ้นเฉย เพื่อนๆก็เข้าหามากขึ้น คุยเล่นด้วยมากขึ้น
>>965 มึงต้องอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้อีกกี่ปี ถ้าตอนนี้มอปลายก็ไม่กี่ปีมึง อาจจะเบลนด์อินไปก่อนว่ะทำเหมือนเคย แต่ถ้าทำตัวปกติแล้วทนไม่ได้แนะนำให้มึงหาเพื่อนกลุ่มอื่น ลองมองหาคนที่ดูไม่มีเพื่อนสนิทตายตัวอะ อาจหาเป้นคนที่อยู่คนเดียวบ่อยๆมึงหาโอกาสไปคุยกับเค้า ถ้ามึงไม่ซีเรียสมากก็อยู่คนเดียวได้นะกุมหาลัยนี่ก็ไม่มีเพื่อน มีคุยบ้างแต่ไม่สนิทไม่มีกลุ่มงี้ ใช้ชีวิตคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดามึง เวลาทำงานกลุ่มก็หาเอา พอยิ่งโตขึ้นมึงยิ่งต้องอยู่คนเดียวให้เป็นว่ะ สุดท้ายแล้วเรามีแค่ตัวเองที่อยู่ด้วยกันจนวันลงโลงกุคิดงี้ ส่วนตัวกุไม่อยากมีเพื่อนเท่าไหร่ด้วย รุ้สึกสังคมมหาลัยมันเฟคสัด บางคนตีสนิทเพื่อที่จะขอลอกงาน นี่กุยังโดนอยู่เลยทำเองไม่เป็นมั้ง คนดีๆก็มีแหละแต่กุอินโทรเวิดอยุ่กับคนแล้วอึดอัด เวลาคุยเล่นชิทแชทเกททูโนวกันกุรุ้สึกเสียเวลา ตอนนี้กุมีแต่เพื่อนสนิทจากตอนมอปลายที่คุยแชทกันทุกวัน บอกไม่ถูกเลยว่ะ ต้องถามว่ามึงรักเพื่อนสองคนนี้มากไหม ถ้าไม่ก็ออกมา ตีสนิทกลุ่มอื่น กับเพื่อนสองคนนั้นก็ทำตัวเหมือนเดิมนะแต่แค่มึงค่อยๆเออกเพื่อให้คสพมันยังเป็ยเพื่อนกันได้อยู่ อย่าแบบอยู่ดีๆไปบอกต่อหน้าว่าตัดเพื่อนงี้ไม่แนะนำ นอกจากมึงคิดดีแล้วอะนะ
เพื่อนรักกูคีพคาร์ไม่ติดมือถือ ไม่ชอบตอบแชท ต่อให้สำคัญแค่ไหนก็จะอ่านช่วง8โมงเช้าเวลาเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นคือรอมัน8โมงเช้าของอีกวันถึงจะตอบ กูทักถามเรื่องงานแม่งก็ตอบ8โมงเช้า ก็ไปว่ามันไม่ได้มันงานกูคนเดียว แต่เมื่อคืนอยู่ๆแม่งก็ทักหากูตอน4ทุ่ม บอกลืมคีการ์ดเข้ามาไม่ได้ ลงมารับหน่อย กูเห็นข้อความแล้ว แต่ไม่ตอบแม่ง ไม่รู้ด้วยว่าเข้ามาได้หรือไม่ได้ 8โมงเช้ากูถึงจะตอบมัน สรุปมันอ่านไม่ตอบเลยแม่ย้อย55555555 พรุ่งนี้เจอกันกูควรทำหน้าไงดีวะ
>>970 เฉลยคือ ไม่รับเหมือนกัน
มันออกตัวแรงๆเลย มีอะไรพิมพ์ทิ้งไว้ 8โมงเช้าถึงจะตอบนะ เวลาทำงานกลุ่มแล้วมีคนจากเซคอื่นมา นางก็พูดงี้กับเค้า แต่ยังดีที่ไม่มีปัญหาเรื่องงานกับที่นางไม่ตอบแชทนอกจาก8โมงเช้า
เมื่อคืนกูเลยทำด้วย ไม่ชอบแชทมึงจนกว่าจะ8โมงเช้าเหมือนกัน ทั้งที่กูเห็นแล้ว แล้วกูก็ตกใจสัสๆที่มันทักมาตอน4ทุ่ม
อยากรู้วิธีบิ้วความสัมพันธ์ให้สนิทกันขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวเองขึ้น ทั้งกับรุ่นพี่รุ่นเพื่อนเลย ความประทับใจแรกมันก็ต้องทำตัวดีๆให้คนอื่นชอบอยู่แล้วใช่ป่ะล่ะ ถ้าจะเริ่มพูดคำหยาบหรือทำตัวเปรตๆเนี่ยต้องเริ่มตั้งแต่ตอนไหน กุเป็นคนหน้าตาแนวเหยื่อสุดๆแบบไม่มีพิษมีภัยกับใคร พอสร้างความประทับใจแรกแบบแสนดีเหมือนคนอื่นดันกลายเป็นหนักไปเลย ทุกคนติดภาพจำนั้นกันหมด กุพูดคำหยาบทีก็ตกใจกันชิบหาย หรือควรเป็นตัวเองตั้งแต่แรก? แต่ความประทับใจแรกกุก็อยากสร้าง
ความประทับใจ ผิดหน่ะ
เมิงเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ไหม ให้ผลประโยชน์เขาได้ไหม ทดแทนบุญคุณได้ไหม
คนเราก็มีแค่นี้
กูไม่แน่ใจว่าถามถูกห้องรึเปล่า กูเจอปัญหาเพื่อนร่วมงานที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมหาลัย
คือกูเจอเพื่อนตัวเองทํางานพลาด พอบอกจุดผิดพลาดมัน
แต่แม่งไม่ค่อยยอมรับความผิดของตัวเอง ทําตัวเหวี่ยงใส่ เล่นพรรคเล่นพวกเอากูไปแขวนไปนินทา
กูก็ยอมจบด้วยการแก้จุดที่มันทําผิดให้ เพราะไม่อยากมีเรื่องทะเลาะกัน
ตอนนี้มันถึงจุดที่กูต้องเลือกระหว่าง บอกเจ้านายเรื่องนี้แต่เพื่อนกูแม่งมีสิทธิ์โดนไล่ออก กับ นิ่งเงียบแล้วฝืนเก็บขึ้ให้มันต่อ
คือกูกําลังจะได้เลื่อนขั้น แล้วงานมันจะเยอะกว่าเดิม ถ้าฝืนเก็บขี้ให้มันต่อกูจะเป็นฝ่ายที่พังทั้งร่างกายและสภาพจิต
ถ้าบอกเจ้านายแล้วแม่งโดนไล่ออก มันกับกูน่าจะขาดกัน กูกับมันเมื่อก่อนเคยสนิทกัน
มาห่างเอาก็ตอนทํางาน ที่นิสัยมันเริ่มเปลี่ยน ใจนึงกูก็สงสาร แต่อีกใจกูก็ไม่อยากจะฝืนทรมาณตัวเอง ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตดี
>>979 แล้วทำไมงานเพื่อนมึงถึงต้องมาส่งผ่านมึงไม่ส่งตรงกับเจ้านายมึงล่ะ
ความสัมพันธ์ในที่ทำงานมึงกับเพื่อนมึงคืออะไร
มึงเป็นหลีดเพื่อนมึงใช่หรือไม่
ถ้าใช่มึงก็คอมเม็นต์ไปให้มันแก้มาไม่ต้องดราม่า ไม่ต้องไปแก้แทน comment เป็นทางการให้มันไปแก้มา
ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ใช่เรื่องของมึง เป็นเรื่องของเจ้านายมึงกับเพื่อนมึง
เพื่อนมึงนี่ปากพล่อยดีว่ะ รู้ยันชีวิตประจำวันกูเลยทั้งๆที่มึงบล็อกกูไปแล้วเนี่ย
เวลากูเครียดเรื่องเพื่อนกูชอบดูอันนี้เพื่อเติมเต็มชีวิตhttps://youtube.com/shorts/74FheYvJIZQ?si=NI1I3PpJYRZiUw6e
กูขอที่ระบายนิดนึง มึงไม่ได้ตอแหลแกล้งโง่หรอก มึงเลือกที่ยืนตั้งแต่วันนั้นแล้ว ขอให้พวกมันชห.กันใหัหมดเลยจ้า
อยากให้พึงระลึกไว้ว่าเพื่อนไม่ใช่ไดอารี่ประจำวัน ถ้าอยากได้แค่คนคอยเล่าว่าเจออะไรมาบ้างแต่ละวันแล้วได้รีแอคชันตอบกลับ เข้าข้างในทุกๆเรื่อง แนะนำคุยกับบอท ถ้ามึงเล่าเรื่องของตัวเอง กุเล่าเรื่องของตัวเอง เราต่างรับฟังกันจะไม่ว่าอะไรเลย นี่เล่าอยู่คนเดียว เหมือนเรื่องมึงมันน่าสนใจมาก ทั้งๆที่โคตรน่าเบื่อ ต้องทำเป็นฟังเพื่อรักษาน้ำใจทั้งๆที่มันรบกวนเวลานอนกุ เวลาส่วนตัวกุ ไม่เคยจะเข้าใจว่ากุไม่ว่าง ไม่สะดวกคืออะไร
ใช่สิ เราไม่ใช่เพื่อนของเธอ เธอคงจะอึดอัดใจกับเราใช่มั้ยล่ะ ต่อให้เธอพูดว่าเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันแรกก็เถอะ คงจะโกหกใช่มั้ยล่ะ รังเกียจกันเป็นขี้ขนาดนั้น เราชอบเธอจริงๆนะ อยากสนิทด้วยจะตาย แต่เราคงจะทำเกินไปนั่นแหละ ทั้งที่พยายามห่างแล้ว แต่เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกันมากๆเลย เรานึกภาพตอนพูดน้อยเวลาอยู่กับเธอไม่ออกเลย
กูเป็นผู้ชายคนเดียวในแผนก ทำงานร่วมกันมันก็มีรุ่นน้องผู้หญิงมาคุยเรื่องทั่วไปที่ไม่ใช่เรื่องงานบ้าง คุยแบบแบบผู้หญิงอะ ถ่ายรูปลงอินสตาแกรม แฟชั่นนักร้องนักแสดง ซึ่งกูไม่เข้าใจหรอก แต่คุยตามน้ำไประดับนึงมันก็ไม่ยากมาก
มันก็มีคนประเภทที่กูไม่ถูกใจด้วยไง แบบฉุนเฉียว ขี้นินทา พูดบ่นแต่เรื่องไม่น่าฟัง แล้วก็ชวนกูคุยบ่อยเหลือเกิน กูก็ไม่อยากแสดงออกให้มันประเจิดประเจ้อว่ากูไม่อยากคุยด้วย ก็อยากเป็นมิตรให้บรรยากาศที่ทำงานมันไม่บูด แต่แบบ มึงพูดอะไรกูไม่เข้าใจ ไปโกรธคนอื่นด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำตัวร้ายกาจใส่คนอื่นแล้วก็ภูมิใจมาอวด รบกวนคนอื่นทำงานนี่มันสนุกหรอ เพื่อนผู้หญิงมึงไปไหนหมดถึงต้องมาบ่นให้กูฟัง
>>987 ผญ ก็งี้ละ ดูดราม่า ปญอ ในxดำตอนนี้ได้เลย
คุยกับผญ มีแต่เสียเวลา บางทีผญก็อยากชนะในเรื่องไร้สาระนี่ละ เคยไปแดก หมาล่า อยู่ กุกินแต่ไม้เขียว5บาท น้ำก็ไม่กิน ผญมันจะกินแข่งกับกูที่กินจุ
ว่ากินได้เก่งกว่า ซึ่งไม่รู้จะแข่ง กินจุกินไหว ทั้งที่ไม่ใช่บุฟเฟ่ไปทำไม ถ้ากุเอาจริง กินแบบสวาปาม มีหรอกุจะแพ้
กุต้องกินแบบผู้ดี คงมาดเอาไว้บ้าง
แล้วพวกนี้ไม่ต้องทำนายอนาคตมนุษย์ป้าในวันข้างหน้าแน่นอน
กินจุในที่นี้ใครปิดเตาก่อนแพ้
ตอนแรกก็งงนะ ไอ้พวกที่สนิทกันแล้วสักพักอยู่ๆจะห่างกันแล้วไม่สนิทกันเหมือนเดิมได้ไง กลายเป็นหลุดวงโคจรกันไปเลยทั้งๆที่ไม่ได้ผิดใจอะไรกัน แต่กุน่าจะเริ่มเข้าใจละ ไม่ต้องรอมหาลัยหรอก กุกับมึงอาจจะจบกันตอนนี้แหละ สิ้นปีคุวย สิ้นปีความสัมพันธ์เดิมๆก็สิ้นไปด้วยละ แต่อะไรที่ทำให้กุรู้สึกไม่สบายใจหรือต้องทนกุก็ไม่ชอบเหมือนกัน รักสบาย อยากมีแต่ความสบายใจรอบๆ ก็เลยกลายเป็นปีนี้กุตัดคนออกไปจากชีวิตกี่คนแล้วก็ไม่รู้
เพื่อนที่ยอมตายแทนกันได้ บุกน้ำลุยไฟ เมิงมีเพื่อนแบบนั้นไหมละ
>>993 คำว่าเพื่อนของเมิง ไม่มีทางเหมือนคำว่าเพื่อนของกุไง น่าเศร้านะที่เมิงไม่มีเพื่อนแบบนี้แม้แต่คนเดียว
ออกจากกะลาบ้างเคยเรียน รด เข้ากรมทหารจับปืนบ้างไหม คนที่หลงยุคคือเมิงต่างหากที้ไม่รู้จักโลกกว้างใหญ่
วัตถุเจริญขึ้นจิตใจคนกลับตกต่ำ เพื่อนแท้เป็นแบบไหน กุก็ยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยน
ปีใหม่แล้วอย่าสันดานเหี้ยด่าทุกแพลทฟอร์มนะค่ะ
999-9999 ต่อติดตาย
เพื่อนกันเพื่อนตายตลอดไป
นั่นคือความหมายของเพื่อน นั้นแปลว่าฉันไม่ได้โดดเดี่ยว
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.