โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lounge/1154/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lifestyle/1526/
โม่งคุยเรื่องเพื่อนx2 >>>/lifestyle/2189/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x3 >>>/lifestyle/3960/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x4 >>>/lifestyle/5778/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x5 >>>/lifestyle/8578/
Last posted
Total of 1000 posts
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lounge/1154/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lifestyle/1526/
โม่งคุยเรื่องเพื่อนx2 >>>/lifestyle/2189/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x3 >>>/lifestyle/3960/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x4 >>>/lifestyle/5778/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x5 >>>/lifestyle/8578/
เจิมให้
เพื่อนสนิทกูแม่งได้แฟนที่มีปัญหาครอบครัวหนักมากแล้วแฟนมันเป็นโรคซึมเศร้าจนทำเพื่อนกูประสาทจะแดกตามกูสงสารเพื่อนกูชิบหายโทรมาร้องกับกูวันเว้นวันบอกให้เลิกก็กลัวผู้หญิงจะคิดสั้นจากที่เคยออกสังคมกลายเป็นเริ่มๆหายไปมีแค่กูที่รู้ว่ามันมีปัญหาอะไรมันไม่อยากบอกให้เพื่อนๆรู้เพราะกลัวแฟนมันจะถูกมองแปลกๆไป กูจะช่วยเพื่อนกูให้หลุดพ้นยังไงได้บ้าง?(บางทีกูคุยกับแฟนกูอยู่ก็ต้องวางสายแล้วรับสายเพื่อนเพื่อฟังมันปรับทุกข์ กูเหนื่อยใจจริงๆนะเวลาส่วนตัวกูลดลงไปมากๆ)
รําคาญนิสัยเพื่อนหวะเเม่งด่าเพื่อนอีกคนว่าเวลาเล่นเกมพอมันพลาดเเม่งชอบเเก้ตัว พอตัวเองพลาดบ้างเเม่งเสือกพูดปัดไม่ยอมรับความจริงเหตุผลเข้าข้างตัวเองเเล้วเเม่งเป็นคนอารมณ์ร้อนด้วยไงพอบ่นทีเเม่งบ่นไม่หยุดต้องมานั่งฟังเเม่งในดิสรําคาญชิบหายอยากเลิกคบเเม่งชิบหายเเต่ก็นะเวลาเข้าสังคมก็ต้องรับนิสัยทั้งด้านดีเเละเเย่ของทั้งเราเเละอีกฝ่ายให้ได้กูก็คงไม่มีทางเลือกอยู่ๆกันไป
กุมีประโยชน์แค่เอาไว้ถามงานมั้งไอ้เหี้ย บางอันไม่ได้มีเหี้ยไรเลยมึงเปิดหาเอาเองก็ได้แต่เสือกมาถามกุแทนที่จะไปหาเอาเอง มันน่าหงุดหงิดนะรู้ป่ะ ว่าอะไรง่ายๆมึงหาไม่ได้เพราะมึงขี้เกียจหาเลยทักมาถามกุให้มันจบๆไปทั้งๆที่กุก็ไม่ได้ว่างตลอดเวลาต้องมานั่งหาให้มึงอ่ะ
อยากมีเพื่อนสนิท หันไปก็ไม่เจอใครเลยตอนนี้ ทุกคนที่กูคิดว่าสนิทก็คือกูคิดไปเองคนเดียว กูเหงา
เกลียดตัวเองที่เวลาฝันเรื่องเพื่อน เพื่อนคนที่ฝันเห็นจะเป็นเพื่อนสนิทตอนประถมที่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันแล้วตลอด ปากบอกจะมูฟออนจากมันไปหาเพื่อนใหม่ สุดท้ายกูก็ยังคิดถึงมันอยู่ดี
คงไม่น่าได้เจอกันแล้ว คอนแทคหาย แถมไม่ได้คุยเกือบ3ปีต่อให้ติดต่อได้จะคุยไรวะ ตัวกูเองก็นิสัยไม่ได้เหมือนสมัยนั้น มันก็คงเปลี่ยนไปเหมือนกัน เก็บไว้เป็นความทรงจำก็พอ ถ้าได้เจอคงไม่หวังให้สนิทกันอีกแต่หวังว่ามันจะจำได้ว่าเราเคยสนิทกันมากก็พอ
>>10 กูเป็นเหมือนมึงเลย เรียนจบ ม.ปลาย มา 3 ปีละ ต่างคนก็ต่างไปในทางตัวเอง เคยพยายามฝืนรักษาความสัมพันธ์อยู่ แต่มันไม่เวิร์ค สุดท้ายก็จบไม่สวย กูว่ากูทำใจกับเรื่องแบบนี้ได้พอสมควรเพราะมองว่าแม่งคือสัจธรรม แต่วันไหนฝันถึง ตื่นมาดาวน์ทุกวัน ไม่อยากทำเหี้ยไรเลยเกือบทั้งวัน ปรึกษานักจิตบำบัดเค้าก็บอก อาจเป็นเพราะกูยังมีความรู้สึกติดค้างอะไรอยู่ มันเลยโผล่มาให้เห็นเรื่อยๆ ส่วนมากจะเป็นตอนที่นอนที่บ้าน กูเลยเดาว่ามันเป็นเพราะกูผูกความทรงจำหรือบรรยากาศตอนเรียนมอปลายไว้ที่บ้านเยอะ กูเลยหาเรื่องไม่กลับบ้านถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ วิธีกูอาจช่วยมึงได้ ถึงจะเป็นการหนีปัญหาก็เถอะ กูก็หวังว่าเรื่องพวกนี้จะเฟดๆออกไปจากชีวิตบ้าง
เลิกคบกับเพื่อนแล้วเพราะมันไปแย่งแฟนเพื่อน แอบเสียดายเวลาที่เคยสนิทกัน แต่คิดดูอีกทีดีๆแล้ว กุโคตรโชคดีเลยว่ะ กุมั่นใจในตัวเอง และรักในตัวเองมากๆเพราะไม่มีมันในชีวิต แต่กุก็ระแวงเหมือนกันเพราะรู้ไส้รู้พุงกันเยอะ ไม่รู้ว่าจะถูกลอบกัดตอนไหน พาลระแวงในการหาเพื่อนเลย
กูมีเพื่อนคนนึงเรียนจบมาด้วยกัน จบมาปีกว่าจะสองปีแล้วมันยังไม่ทำงาน ไม่รู้อยู่ไปได้ไงบ้านก็ไม่ได้รวยแถมมีหนี้สิน แต่เที่ยวอัพโปรไฟล์หรูเป็นว่าเล่น ล่าสุดสั่งซื้อของที่ตัวเองชอบอยู่คนเดียวหลักครึ่งแสน ทำเป็นอวดใหญ่มากว่าตนเปย์หนัก แต่กูรู้มาว่าจริงๆเงินนั่นนางไปกู้คนอื่นมาซื้อ แถมตอนแรกจะมีการให้กูออกให้ก่อนด้วยนะหลายหมื่น ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องของกูจ้าที่ต้องมาออกจ่ายให้ แถมติดเที่ยวกินเหล้าเก่ง กูเคยเตือนแล้วไม่ฟัง แต่กูรับไม่ได้มากสุดเรื่องที่ยอมเป็นหนี้เพราะตัวเองไม่ยอมหางานทำเก็บเงินซื้อเอง คือเงินไม่ถึงก็ไม่ต้องซื้อสิ ชอบแต่เบียดเบียนเงินคนอื่นมันน่าเกลียด
รู้สึกว่าตัวเองเหี้ย ปกติกูก็ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมหรอก
แต่กูมีเพื่อนที่ทำงานเก่าคนนึงที่ก็ไม่สนิทมากหรอก แต่นางก็ไม่ใช่คนมีเพื่อนเยอะ เลยชอบมางอแงนู่นนี่กับกูบ่อยๆ
แต่ถึงจะรำคาญแค่ไหนกูก็พยายามตอบดีๆตลอด
เหตุผลเพราะหวังลมๆแล้งๆว่าทำแบบนี้แล้วเศษเสี้ยวของกรรมดีที่กูทำจะช่วยให้เพื่อนคนที่กูอยากคุยด้วยเค้าแลกูมากกว่านี้บ้าง
เห้อ ไปเที่ยวกันไม่เคยชวนกูเลย ทำกำไลกลุ่มก็ไม่บอกกัน กูมันคนนอกของจริงสินะ ว่าจะหาเพื่อนใหม่ตอนปี1ดันเสือกออนไลน์ทั้งปี เพื่อนเก่าก็ห่างกันจนพยุงคสพ.แทบไม่อยู่แล้ว เพื่อนใหม่ก็หาไม่ได้ ชีวิตนี้กูจะมีเพื่อนสนิทกับเขาไหมวะ สงสัยได้เรียนจบแบบไร้เพื่อนแหงๆเลย
คิดถึงตัวเองเมื่อก่อนไม่มีเพื่อนก็อยู่ได้จัง
ตอนเรียนจบแยกย้ายกูใจหายเลยหวะเหมือนทุกอย่างและเพื่อนทุกคนที่เคยเจอมาเป็นประจำวันจะหายไปอ่ะเคยเป็นแบบบนี้ป่ะวะแนะนำทีดิ รู้สึกว่างเปล่าแปลกๆ
กุรู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนคนนึงมากๆเลยอ่ะ ไม่รู้จะเรียกเพื่อนได้ไหมเพราะมันผูกพันธ์จนเลยคำนั้นไปละ ต่อให้ทะเลาะกันหนักแค่ไหนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือคนที่เข้าใจกุดีที่สุดอ่ะ และเป็นคนที่อยู่ด้วยไม่อึดอัด อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้คุยกันแค่ต่างคนต่างทำอะไรไปก็รู้สึกดีแล้ว แต่พอคุยกันก็ติดลมยาวชิบหายแบบไม่เบื่อเลย และเป็นคนที่กุสามารถพูดเรื่องที่กุชอบใส่ได้แบบรัวๆแม้กุจะรู้ว่ามันไม่เข้าใจกุก็เหอะ แต่มันก็ยังฟังอยู่ดี เหมือนกับที่มันพูดเรื่องเกมเรื่องนักแข่งที่กุก็ไม่เข้าใจแต่ฟังแล้วก็รู้สึกสนุกดีและฟังมันต่อเรื่อยๆไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร สามารถพูดอะไรตามที่คิดว่ามันแย่แล้วมาพูดให้ฟังได้อ่ะ ว่ากุคิดว่าเป็นแบบนี้ ไอ้เห้ยนี่แม่งเชี่ย ถ้ามันไม่ได้อยากให้เน้นจริงมันจะตั้งไว้ตรงชื่อเฮดมันทำไมไรงี้ คือกุสามารถพูดมุมมองต่างๆของกุให้มันฟังได้อ่ะ เพราะถ้าพูดกับเพื่อนปกติมันจะไม่เก็ทมุมมองกุแน่ๆ แต่ไอ้เชี่ยนี่คือฟังจริงๆอ่ะและเก็ทไปกับกุ รู้สึกไปกับกุ จนกุรู้สึกว่าถ้ากุไม่มีมันแล้วจะทำยังไงดีวะด้วยเหตุผลอะไรก็ได้เลยอ่ะ กลัวว่าถ้าไม่มีมันในชีวิตคือกุชะตาขาดแน่ๆอ่ะเพราะจะหาใครมาแทนที่มันไม่ได้แล้วจริงๆ คนที่แม่งเก็ทกันขนาดนี้อ่ะ พูดเหี้ยไรไปก็เก็ท มันพูดไรมากุก็เก็ทว่า อ่อ งี้นี่เองไอ้สัส ที่มึงคิดคือมุมมองนี้มึงเลยรู้สึกว่าเป็นงี้อะไรแบบนี้อ่ะ เพื่อนแบบนี้มันสามารถมีได้หลายคนไหมวะหรือจะมีได้แค่คนเดียวจริงๆ
>>21 มึงถนอมคนนี้ไว้ดีๆนะ คนที่share the same brain cell(กุไม่รู้คำนี้ในภาษาไทยเรียกว่าอะไร5555)แม่งหายากมากมึง ดีใจด้วยที่หาคนแบบนั้นได้
กุมีคนคล้ายๆแบบนี้ ชงมุกตบมุกอะไรก็เก็ทหมด แต่เสียที่กูเป็นแค่เพื่อนตัวสำรองไว้คุยเวลาคนที่มันสนิทด้วยไม่อยู่ อิจฉามึงจังว่ะ บางทีกุอยู่กับมันเลยกลายเป็นอึดอัดแทน เห้อม ช่วงนี้กุแชตไปแทบอ่านไม่ตอบตลอดด้วยซ้ำ กุเข้าหาฝั่งเดียวมากๆก็เริ่มไม่ไหวละ
แทนคำพูดตัวเองกับเพื่อนที่มหาลัยเพศตรงข้ามว่าไรดีอะ เค้าแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นละจักจี้แปลกๆวะ
เพศตรงข้ามที่สนิทที่สุดคือน้องชาย และแทนตัวเองว่ากูมึง ส่วนเพื่อนต่างเพศไม่เคยมีเลย
>>23 คือใช้ได้หมดแหละ แล้วแต่คนด้วยบางคนสุภาพก็เรา เทอ บางคนเฮ้วๆด้วยกันก็มึงกูไปเลย
นี่คนถามเป็นผญหรือผชอ่ะอยากรู้555 คือแบบดพื่อนมหาลัยผชที่ไม่สนิทมันก็พูดกูมึงกับกลุ่มแต่พูดเพราะกับกุเฉ๊ย//ผญหมดเลย คือมันอายเวลาคุยกับเพื่อนต่างเพศมั้ง แต่แบบรู้สึกกูกลายเป็นคนหยาบคายเลย55555555 จะบอกว่าคือขึ้นหยาบได้เลยเว้ย ไม่ต้องเกรงใจจจจจ วู้ฮู้วววววววว
รู้สึก toxic กับเพื่อนคนนึงมากๆ คือเป็นเพื่อนในกลุ่ม กลุ่มเล็กๆ5-6คน รู้จักกันตั้งแต่ม.ต้นลากยาวมาจนถึงมหาลัย แต่เหมือนเพราะแต่ก่อนเวลาคุยกันมันก็แบบฮาๆบ้าง ด้ากันบ้างตีกันบ้าง ไม่ได้คิดอะไรมาก อาจจะเพราะสมัยมัธยมไม่ค่อยคิดเหี้ยอะไรเลยด้วยมั้ง แต่ช่วงนี้รู้สึกว่ามัน toxic มาก แบบรู้สึก toxic สัสๆ คืออาทิตย์นึงจะมีตี้ดิสกันบ้าง2-3ครั้ง แล้วก้จะอยู่คุยกันนานๆก้คือมีกู เพื่อนtoxic แล้วก็เพื่อนอีกคน เวลาคุยอ่ะ คุยอยู่ดีๆมันก็ด่ากู แบบเออบางอันมันด่าเอาขำแหละ แต่บางอันมันคงคิดว่ากุก้คงขำมั้ง แต่จิงๆที่มันพูดคือกุเสียความรู้สึกอ่ะ บางทีคำที่มันพูดมันออกออกจะเป็นการด้อยค่าความคิดกูเกินไป เพื่อนอีกคนก้พยายามปรามแล้วแหละ แต่คือโทนมันเหมือนเรื่องตลกมั้งสุดท้ายก็เป็นแบบนี้เรื่อยๆ แล้วทุกครั้งที่ด่ากัน มันจะแบบคุยกันดีๆอยู่กูถูกด่าเพราะอาจจะเห็นไม่ตรงกับมัน หรือบางครั้งเสียงกุแทรกไปตอนพูด มันก้จะด่าอ่ะ แล้วกุก้พยายามลง ซึ่งบทสรุปคือกุเป็นคนลงตลอด กุเลือกจะเงียบไปเองเลย ซักพักกุค่อยกลับไปพูดแล้วพยายามทำเหมือนว่ากูไม่ได้ไม่เป็นอะไร แต่เรื่องคืนนี้กุไม่ไหวจิงๆ คือนัดกันไปนอนนอกบ้าน แบบฟีลเปลี่ยนที่นอน อยากนอนกับเพื่อน ก็ช่วยกันหารร แต่ทุกรรที่กุหาจะโดนปัดตกหมดเลย ไม่ปลอดภัยอ่ะ โฮสเทลไม่เอา นี่มึงเลือกแต่สวยๆเหรอ เล็กไป ห้องแคบ แบบ ติทุกอย่าง แล้วกุก้ดูๆรรที่โอเคไม่แพงมาก แต่มันก็บอกแต่ว่า มึงเข้าใจคำว่าปลอดภัยมั้ยเนี่ย แล้วสักพักก็ด่ากูอีกละ กูแบบอีเหี้ย เพราะเป็นกูเลยผิดตลอดเลยเหรอ แม่งtoxicอ่ะ
แต่เรื่องคุยกันเวลามันไม่ด่ากู หรือเทส ความชอบ เชียร์อัพเวลากุท้อ มันก็ทำ คือเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง แต่ติดอยู่ที่นิสัยการพูดไม่คิดของมันนี่แหละที่ทำกุtoxicมาก ไม่รู้จะแก้ยังไง กูต้องบอกมันมั้ย หรือจริงๆกุเป็นคนผิดเหรอที่คิดมากไปเองงี้
รำคาญเพื่อนสนิทมาก แม่งชอบฟังไม่จบ ชอบฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด มันให้กุสอนมันลงโปรแกรมๆนึง กุโยนลิ้งยูทูปสอนให้มันทำตามเพราะมันเข้าใจง่ายกว่า แม่งก็ยังเสือกมาถามกูระหว่างที่ดูคลิปแล้วทำตาม ทั้งที่คำตอบของแม่งก็อยู่ในคลิปยูทูปอ่ะ ทำไมไม่ดูให้จบก่อนวะ แล้วกูแนะนำอะไรไปแม่งก็ทำเหมือนว่าไม่ได้ฟัง สมมุติกุบอกให้รอซื้อตอนลดราคาวันพุธตอนเย็น วันพุธตอนเช้าแม่งมาบ่นว่ากุไม่ได้ซื้อแน่เลยมันยังไม่ลดเลย แล้ววันก่อนๆ ก็บ่นว่ามันไม่ยอมลด เอ้าอีควาย กุบอกตอนเย็น มึงเป็นเหี้ยอะไร เคยฟังกุบ้างมั้ย
ไม่ทำงานห่าไรยังเลือกพรีอันที่สบายสุดอีก อีหน้าด้าน
ไม่เชิงปรึกษา
คือกูไปทำแบบทดสอบมาในหัวข้อเพื่อนอยากเลิกคบคุณหรือเปล่าแล้วแม่งขึ้นว่าใช่ กูก็เก็บมาซีเรียสโง่ๆ จนถึงวันนี้ ประกอบกับมีคนพยายามกีดกันกู แต่พอมาคิดๆ ดู มันก็ไม่มีอะไรนี่นา ทุกอย่างยังเหมือนเดิม กูแค่คิดมากไปเองทุกวันว่าเพื่อนยังชอบกูไหมๆๆๆ จนลืมไปว่าเพื่อนแคร์กูมากแค่ไหน:)
เรียนออนไลน์ หาเพื่อนยังไงวะ ไอ้เพื่อนเก่านี่ไปสนิทกับคนใหม่จนแทบจะทิ้งกุละเนี่ย กุทักหาแต่มึงอ่านไม่ตอบ แต่เวลามึงทักกูต้องตอบ คุยฝ่ายเดียวกูก็คบต่อไม่ไหวนะ
มึงไม่อยากคุยกับกุหรือไม่ว่างคุยก็บอกมาสิวะ เอาแต่อ่านไม่ตอบ มาอ่านเฉพาะเวลาจะเรียกกุไปช่วยงาน ทั้งๆที่แม่งอยู่คนละคณะด้วยซ้ำ ที่กุยังช่วยคือเห็นแก่ความเป็นเพื่อนนะ แต่มึงทำตัวแบบนี้กุก็ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว
>>33 อะนี่ ที่จริงต้องพุดว่าเป็นคลิปมากกว่าแต่เอาเถอะ https://www.youtube.com/watch?v=LwXX80ag0U0
ไม่เห็นมีเพื่อนให้บ่นเลย
สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว กูพิมพ์ไว้แบบนี้
'กูเรียนออนไลน์มาตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมว่ะ ทุกครั้งที่คนนี้ตอบไม่ได้กูก็แย่งตอบตลอด เขาแชทคุยกับทุกคนยกเว้นกู ตอนเจอกันวันเปิดเทอมเขาก็เมินกูแบบจงใจ ตอนกูทักทายทุกคนในคลาสเขาก็เหมือนไม่ค่อยพอใจ แล้วบังเอิญกูรู้จักเพื่อนเขาอยู่ หลังจากที่คนนี้รู้ก็ดูยิ่งไม่ค่อยพอใจมากขึ้นไปอีก แต่หลังจากเพื่อนเขาอีกคนเห็นกูอยู่กับกลุ่มเขาคนอื่นๆอย่างสนิทสนม เขาก็เริ่มพยายามเข้าหาคนรอบตัวกูแบบพยายามตีซี้เพื่อนมึงบ้างละกันนะ เขาไม่เคยฟังที่กูพูดจนจบ ภาษากายไม่โอเพ่นอย่างแรง มองกูด้วยสายตาเย็นชา รีบเข้าประเด็นแล้วตัดบทสนทนาตลอด พยายามทำเหมือนกูไม่มีตัวตน พยายามให้ทุกคนอิกนอร์กูตอนพูด กูอยากแน่ใจขึ้นไปอีกเลยว่าจะลองดูอีกหน่อย บังเอิญว่ากูชอบวีทูปกลุ่มเดียวกับเขา แต่พอชวนเขาคุยเรื่องนี้แล้วเขาดูโกรธขึ้นไปอีก ทำนองว่าทำไมต้องมายุ่งกับของโปรดกูแต่ไม่ได้พูดออกมา และคุยกับกูแค่ในแชทรวมต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น แบบนี้แปลว่าเขาไม่ชอบดูตั้งแต่ตอนเรียนออนไลน์แล้วใช่ไหมวะ ไม่ใช่อะไร กูจำไม่ได้ว่ากูเคยทำอะไรไว้ไหมหรือเคยเจอเขาไหม เพราะแค่แย่งตอบไม่น่าโกรธขนาดนี้'
ในวันนี้กูได้คำตอบที่แน่ชัดแล้วนะ ตอนกูอยู่กับผองเพื่อนของเขาแล้วมรคนเรียกให้เขามา พอเขาเห็นว่ากูอยู่ด้วยเขารีบวิ่งหนีไปไม่หันกลับมาอีกเลย55555+
ถามหน่อย ปุ่มห่างกันสักพักในเฟสนี่ อีกฝ่ายจะเห็นโพสเราน้อยลงด้วยปะ หรือมีแค่ฝ่ายเราที่เห็นโพสเขาน้อยลง
เรียนออนไลน์(มหาลัย) หาเพื่อนยังไงอะ
เหงาวะ เพื่อนสนิทกำลังจะไปเรียนไกลตปท.แล้ว ที่ๆกูอยู่ก็ไม่มีเพื่อนเลย จัดการความรู้สึกนี้ยังไงกันวะ จากนี้ไปคงต้องไปไหนมาไหนคนเดียวแล้ว เศร้าจังเลยว่ะ
เป็นเพื่อนกับคนนึง นับว่าค่อนข้างสนิท ทำอะไรด้วยกันมาเยอะ แต่ก็รู้สึกว่าโดนมันดูถูกอะไรบางอย่างตลอด และที่ผ่านมาก็รู้สึกว่ากำลังโดนเหยียดเรื่องหน้าตา จนวันนี้เพิ่งจะโดนมันหัวเราะตอนที่เพื่อนบอกว่ากูสวย แล้วก็พูดประมาณไม่นึกว่าเพื่อนจะชมว่าหน้าแบบกูสวย
ตอนนี้กำลังคิดว่ากูควรช่างแม่งละเฟดออกมาหรือไปเตือนตรงๆ(เป็นรอบที่3)ดี? จริงๆเคยพูดประเด็นนี้แล้วและมันก็ดูจะตั้งใจฟัง แต่เหมือนมันคงเป็นสันดานคนปะนะ มันทำให้กูรู้สึกว่าก็กูไม่สวย ก็ไม่แปลกที่จะโดนคนอื่นบอกว่าไม่สวยเลย จะนอยด์ทำไม แต่กูก็รู้สึกว่า แล้วกูต้องให้ใจกับคนที่พูดจาแบบนี้เหรอ? สับสนแฮะ
>>49 ยังจะคบอีกเหรอ พวกนี้ไม่ปกติแหละ ที่มันด่ามึงหรือพวกที่อยู่ๆชอบหยิบเอาคนนู้นคนนี้มาด่าแทนที่จะenjoy peaceful life ชมนกชมไม้บรรเทิงกับโลก แม่งวันๆเอาแต่หาเรื่องตินู่นนี่ คือแม่งคงมีเรื่องเก็บกดอ่ะแหละสิ่งเดียวที่ทําให้มันพอใจได้คือการกดคนอื่น กูแบนคนประเภทนี้หมด แม่งไม่deserveมามีกูเป็นเพื่อนหว่ะ
รำคาญเพื่อนว่ะ แม่งอกหักเหมือนจะโดนแฟนทิ้ง แล้วก็ชอบมาเวิ่นกับกูไม่หยุด ตอนแรกกูก็รับฟังนะ แต่แม่งก็ชอบพูดจาเหมารวมว่าผู้หญิงแม่งเหี้ยหมดทั้งโลก พอบอกว่าไม่ใช่แม่งก็ชอบพูดห่าไรไม่รู้แบบคัดค้าน เอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานโลก เอาแต่พูดว่าที่ตัวเองเจอมาคือตัดสินได้ทุกอย่าง-ทุกคน แล้วก็คร่ำครวญเจ็บปวด ทรมาณ น้ำตาไหล
กูก็ไม่รู้จะพูดอะไร ยังไง เพราะพูดไรไปมันก็ปัดตกหมด พอจะรับฟังเฉยๆก็เหมือนไม่ใส่ใจอีก กลายเป็นยิ่งฟังกูก็ยิ่งเหนื่อย เหมือนมีนอยากระบาย แล้วก็ต้องการให้กูบอกว่าสิ่งที่มันพบเจอคือถูกแล้ว ตัดสินได้ทั้งโลกจริงๆ ซึ่งกูก็ไม่ใช่คนที่จะพูดเออ ออ กับสิ่งที่ตัวเองไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ต่อให้บอกว่ามึงแค่เข้ากับเค้าไม่ได้ ช่างเหอะ มูฟออน ไปหาไรทำอย่างอื่น แม่งก็จะเอาแต่บอกว่าทำไม่ได้ๆ แล้วก็วนกลับมาที่ผู้หญิงแม่งเหี้ยเหมือนเดิม ก็รู้นะว่าความเสียใจทำให้มันโง่ลง แต่อบบนี้กูก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะ แม่งไม่คิดที่จะมูฟออนด้วยซ้ำ เอาแต่วนลูปจนกูรู้สึกว่าแม่งก็แค่อยากทำตัวเป็นพระเอกเอ็มวีที่ถูกทิ้งป่ะวะ แม่งเลยไม่ยอมออกจากลูปเอง เหนื่อยกะแม่ง
ไปเที่ยวกันทั้งกลุ่มแบบไม่ชวนกู ใช่สิ กูมันคนนอกนี่ ปากบอกเพื่อนกัน แต่พวกมึงทิ้งกูไว้ข้างหลังคนเดียวกี่ครั้งแล้ว ล่ะ
เดี๋ยวจะจบมหาลัยไปแล้ว กูควรทิ้งคอนแทคเพื่อนดีมั้ย แบบไม่สนิทแล้วกูรำคานแม่ง ไม่ได้แชร์อะไรที่ชอบเหมือนกัน
สิ่งที่ยังอยากติดต่อเพราะเผื่อมีเรื่องทํางานแล้วจะได้ช่วยเหลือ แต่มีแต่พวกพึ่งพาไม่ได้หว่ะ กูเพื่อนน้อยด้วยยิ่งโควิดยิ่งเพื่อนหาย เพื่อนประถมมัฐยมกูก็ไม่เหลือละ
แต่กูก็กลัวว่าเป็นแบบนี้ต่อไปจะกลายเป็นพวกนักหลวมที่อายุ30มานั่งเล่นโม่ง แฮ็กเว็บรัฐบาล เพราะสังคมไม่สนใจไม่มีเพื่อนหว่ะ หรือกูควรฝืนแอดเพื่อนมั่วๆไปดี เผื่อยังได้มีคอนแทค เอาดีวะโม่ง
1 จบมหาลัยอย่างlone wolfสุดหล่อเท่ เป็นอิสระอย่างแท้จริง ค่อยไปตายหาสังคมใหม่เอาดาบหน้า
2 แอดๆเพื่อนๆไปเถอะ ถึงแม่งมันจะเป็นพวกเหี้ยก็ตาม
>>57 ตามนั้นแล้วกัน แอบเครียดอยู่แบบกูอยู่คนเดียวระบายอะไรไม่ได้เลยอยากมีเพื่อนมากๆ แต่กูดวงซวยเจอแต่คนเอาเปรียบทั้งนั้นเลย แบบเข้าหาต่อเมื่อกูมีประโยชน์ มีกูเป็นที่พึ่งทางจิตใจมาพึ่งพามาระบายอารมณ์ใส่ แต่ไม่มีใครเห็นใจกูเลย กูคงต้องจบมาแบบเหงาๆแล้วหล่ะมั้ง เมื่อไหร่จะได้มีเพื่อนเป็รตัวเป็นตนซะที
กูฝันว่าได้คุยได้กลับไปสนิทกับเพื่อนคนนึงที่เคยสนิทกัยเมื่อหลายปีก่อน ทั้งดีใจทั้งเสียใจเลยว่ะ เพราะตอนนี้จะให้กับไปซี้กันแบบตอนนั้นคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
เฮอะ ตอแหลเก่งนักนะ ตอนทำงานชอบอ้างไม่กล้าคุยกับคน กลัวคนที่ไม่รู้จักเลยชอบให้กูออกหน้าให้ แต่เรื่องประจบคนนี่ไวเชียวนะมึง
มึงเป็นห่าไรวะ กูซื้อของ มึงซื้อตาม กูลงรูป มึงลงด้วยพร้อมก๊อปแคปชั่นกูอีก ต้องการไรวะ
>>62 กูเจอบ่อยมาก แต่ไม่ได้เจอกับตัวเอง จะเจอคู่เพื่อนซึ่งแม่งก็ชอบเอ่มาบ่นให้กูฟัง ซึ่งกูไม่เข้าใจ2อย่าง
1 ไอคนทําตามนี่คิดอะไรอยู่วะ มีจุดประสงค์อะไร กูไม่เคยมีความคิดที่จะตามใครกูเลยไม่เข้าใจสัสๆ แต่ดูสังเกตดูคือเหมือนมันแนวๆนับถืออีกคนมากๆชอบมากๆเลยทําตามหมด คิดว่าทําตามแล้วจะเพิ่มความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนมั้ง แม่งcreepดีหว่ะ
2 ไอคนที่โดนเลียนแบบมึงก็ช่างแม่งไปเหอะ เมินๆไปก็จบแล้ว คืองงมีคนทําตามแล้วมันเสียผลประโยชน์อะไรขนาดที่ต้องมาดิ้นชิบหายวายวอดวะ//กูด่าเพื่อนกู แม่งมาบ่นจนกูรําคาณ คือเข้าใจว่ารำคาญแหละแต่ปล่อยแม่งไปซักทีเห๊อะ
ม.6เพื่อนที่เคยทำงานดีๆก็เปลี่ยนเป็นเท เพราะมันปีสุดท้ายเหรอ กุท้อ
มึงเคยกันมะ เคยมีเพื่อนสมัยเรียนที่สนิทกันมากๆแต่พอจบออกไปก็แยกย้ายไม่ได้ติดต่อกันอีก เวลากลับมาเจอกันจะเป็นความน่าอึดอัดที่กระอักกระอ่วนใจ
คือกลุ่มกูมี3คน กุอ่ะเป็นผญคนเดียวในกลุ่มผชอีก2จะดูแย่มั้ยวะ กูอ่ะมีแฟนของกูอยู่แล้วแต่กูไม่ได้คิดไรเลยเพื่อนก็คือเพื่อน
กูดูเมะพวกSlide of lifeละแม่งน้ำตาไหลเลยวะในเมะแม่งเพื่อนๆรายรอบมีเรื่องหนุกไห้ทำกันเหมือนพวกแม่งไม่เคยต้องเหงาหันมาดูตัวกูเองยุแต้ในห้องเรียนออนไลนคนเดียวมาจะปีละโคตรเซง โควิดไอ้เชรี่ยเอ้ย
ผู้ชายอ่ะ ถึงจะเป็นเพื่อน แต่ 99% ถ้าบอกให้เยดมันก็เยดอยู่ดี ไว้ใจไม่ได้หรอก
นี่ไม่ได้ชอบเต้นนะ ถ้าเลือกได้คือกุเต้นเบาๆแบบใน ติ้กต่อกร่อนเอวดีกว่าต้องไปเต้นกลางเวทีที่คนเยอะๆ แต่แม่งโดนลูกตื้อจนต้องตอบตกลงตัดรำคาน อะไรๆก็ตัดเพื่อน โถอี กำหมัดซัดหน้าแม่ง คือน่ามคานสัดๆอ่ะ ทำตัวเป็นเด็กอีก โครต น่าม คาน อยากย้อนเวลาไปบีบคอตัวเองชิบหาย มึงปฏิเสธมันเดี๋ยวนี้อิเวร
ทุเรศวะ ปากบอกว่าเป็นเพื่อนแต่ถึงเวลาพอมึง panic หรือกลัวอะไรมากๆเข้า ก็ชอบมากดหัวกูให้ตัวเองสบายใจกลายเป็นกด self confident ของกูไปอีก ดีเหอะมีเพื่อนอย่างงี้
ใครรู้สึกตัวเองโตมาละอายุ 30 เลยป่ะ คือคิดไม่เหมือนคนอายุเท่ากัน วางแผนอนาคตไว้เยอะ บางทีก็อยากไปเที่ยว เอนจอยชีวิตวัยรุ่นมั่ง
ไม่มีเพื่อนเลย เขาเมคเฟรนกันยังไง
ฉันคือ >>78 มา ขออีกรอบ วันนี้มันสอนกุเต้น ด้วยท่าทางพิศดารและ อะไรต่างๆที่เถียงกุเกือบทุกรอบที่กุขยับตัว อีกนิดถ้ากุหายใจเข้าออก เป็นออกเข้า มันคงฉอดกุด้วยการเรียงประโยคที่กุพยายามจะแปลแต่ละคำ เนื่องด้วยเราแกะท่ากันคนละเจ้า มันถึงได้ทุรกทุนังทุเรียนเงาะลำไยขนาดนี้ทำไงถึงจะเฟดออกจากมันดีวะ งึดหลาย ทีมมึงครบคนแล้วนี่ ตัดกุออกไปคนนึงมึงคงไม่เดือนร้อนอะไรหรอกมั้ง
กุจะหาข้ออ้างยังไงดี เพื่อที่จะไม่ได้ไปเต้นกับมัน แกล้งป่วยดีไหมนะ
ในกลุ่มเพื่อนจะมีกันอยู่หลายคน รวมกูด้วย ทีนี้เพื่อนคนนึงจะเป็นคนติดไบแอสอีกคนมาก (เรียกคนนึงAคนนึงB) เวลาBทำอะไรAจะเชียร์อัพ ดูแลเป็นพิเศษ ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ นัดไปเที่ยวออกตัวว่าสนิทกันสองคน คือพวกกูเพื่อนออนไลน์ รู้จักผ่านด้อมเกาหลีอ่านะ คืออิAมันอวยไส้แตกมากกับคนที่มันยกหิ้งให้ แต่กับคนอื่นที่ไม่มันก็คุยเฉยๆ บางืก็เงียบใส่ ตามตรงกูอึดอัดกับแม่งมากๆ
เชี่ยโดนกดส่ง กู >>84
ประเด็นคือBบางทีแม่งก็งี่เง่า เกิดปห.อะไรมาก็จะวีนอย่างเดียว แล้วAก็จะเข้าข้างแบบไม่ดูห่าอะไรเลย กูกับอีกคนเคยพยายามแยกตัวแล้ว แต่ก็โดนดราม่าว่าทำไมมีปห.อะไรไม่บอกกัน เพื่อนกันนะ อยากคบกันนานๆ แต่พฤติกรรมมันย้อนแย้ง เพราะอิAแม่งไม่เอาใครเลยนอกจากอิB ข้ามหัวคนอื่นหมด ส่วนอิB แม่งก็คุ้มดีคุ้มร้าย ตอนดีก็ปกติ ตอนไม่ปกติก็โรคเจ้าหญิงกำเริบ กูเหนื่อยใจชิบหาย กูอยากเฟดไปจากตรงนั้นมาก แต่พอกูเฟดปุ๊บแม่วมาตามจิกกุแล้ว ทำไงดีวะ เอาตรงๆกูก้แอบนอยความไบแอสของอิAเหมือนกัน คิดอีกแง่ว่ามันชอบกันรึเปล่า ทำไมไม่ได้กันซะ
อีกสาเหตุนึงก้คือกูกะอิAมีอะไรไม่ถูกกันบางอย่าง เวากูทำอะไรได้ดี แม่งก็จะมาทำตัวแบบอันนี้มันก็ทำได้ แทบทุกเรื่องเลย บวกกับที่แม่งคอยอวยอิBกูเลยอคติกับมันมั้ง แต่เหี้ยอึดอัดจริง
พวกมึง คือกูแอบไปแอบขุดเจอทวิตเตอร์ของเพื่อนมาว่ะ(อย่าถามว่าขุดได้ไง เรื่องมันยาว)
แล้วเพื่อนกูมันทวิตว่าเมื่อไหร่คนนั้นจะเลิกพูดสองแง่สองง่ามกับเราสักที อึดอัดอะ แล้วกูคิดว่าเค้าคงหมายถึงหนู แน่ๆ เลยดูจากวันที่ทวีตตรงกะวันที่กูเล่นมุกนั้นออกไป กูควรรีบไปขอโทษเค้าไหม หรือทำเป็นไม่เห็นแล้วเลิกทำนิสัยนี้ใส่เขาไปเฉยๆ ดี ถ้ากูอยู่ๆ ก็พูดขอโทษออกไป เพื่อนต้องจับได้แน่เลยว่ากูแอบไปขุดมันมาเพื่อหาให้ได้ว่าทำไมถึงโกรธ แล้วมันคงโกรธยิ่งกว่าเดิม บวกกับภาษากายตอนนี้ที่เหมือนจะพยายามฝืนไม่ให้อึดอัดต่อกูอีก(ที่คิดว่าไม่ได้มาจากเรื่องมุกนั้นของกู) กูควรทำไงดี
ปล.กูสืบนั่งแกะจนรู้แล้วว่านั่นแอคเพื่อนกู100%แน่นอน ไม่ผิดพลาด
>>86 ไอ้ห่า อย่าได้แสดงตัวว่ารู้ทวิตเขาเชียว เขาจะยิ่งระแวงหนัก มึงเป็นสตอล์กเกอร์หรอวะ ทำอะไรน่ากลัวชิบหาย สืบนั่นนี่เขาอีก แต่กูไม่พูดถึงพฤติกรรมครีปปี้มึงหรแกนะ ขอแนะนำว่าอะไรที่เคยผิดไปก็เลิกทำซะ ไม่ต้องขอโทษย้อนหลังหรอกมันจะผิดสังเกต ปล่อยเขาสบายใจกับทวีตตัวเองไปเถอะ อย่าทำให้เซฟโซนเขาหายไป
แถวนี้มีใครเป็น extrovert บ้างวะ อยากทราบว่าอาการกูนี่ใช่หรือยัง กูไม่แน่ใจตัวเอง อาจจะเป็นก็ได้ แต่ไม่ค่อยเจอใครพูดว่า "ฉันเป็น extrovert เองจ้า" เลยสงสัยว่าหรือเพราะกลุ่มสังคมกูมีแต่พวก introvert นะ
ลองทำแบบประเมินแล้วมันครึ่งๆ เลยไม่แน่ใจ แต่กูชอบคุยกับมนุษย์นะ เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี แล้วก็ขี้เหงาด้วย ต้องมีเพื่อนคุยตลอดเวลาอะ ทั้งผู้ชายผู้หญิง ไม่ได้คุยแบบคิดจะต่อยอดไปเป็นแฟนอะไรงี้นะแค่ชอบทัก ชอบเข้าหาคน ชอบชิทแชทอะ
รู้จักคนนึงตั้งนาน ลังเลว่าจะลงมู้ความรักหรือที่นี่เพราะตอนแรกก็เหมือนคนคุยแต่ดูไปดูมาไม่ใช่เลยลงมู้เพื่อนละกัน รุ่นเดียวกันคนละคณะ คนละเพศด้วย กูเป็นชาย ช่วงแรกไม่เคยเจอตัวจริงเลยเพราะโควิด ก็มีคุยกันบ้าง ไม่ได้คุยสม่ำเสมอแต่คุยได้หลายเรื่อง หลักๆจะเป็นเรื่องเที่ยวตจว.เลยนัดกันว่าธันวาไปกัน เป็นการเจอครั้งแรกด้วย ทีนี้ดูจะมีอะไรให้ไม่น่าพอใจหลายอย่างอะ อย่างแรกเลยกูเที่ยวงบน้อยแต่เขาเน้นอยู่สบาย ค่าเดินทางกับที่พักแพงสัส ถ้าไปแพงขนาดนี้กูว่าตี้ 5 คนอัพสนุกกว่า ทีนี้ตอนไปก็ไม่มีแผน กูก็คิดบวกว่ามาพักผ่อนไม่เน้นเที่ยว แต่ไม่มีแผนจริงๆเลย วันแรกนั่งเล่นห้องทั้งวัน ใช้ห้องซะคุ้มราคาแพงเลย แยกห้องด้วยนะมึง5555 กูก็ตกใจว่าทำไมคนนึงแพงจัง ที่แท้ไป 2 คนพัก 2 ห้อง เข้าใจว่าคนละเพศเจอกันครั้งแรกแต่เกินไปสำหรับกู แบบนี้เหมือนมาเที่ยวคนเดียว นั่งเสร็จค่อยออกไปเดินเล่นตอนเย็น คิดจะกินร้านอาหารสรุปไม่กิน แวะเซเว่นเข้าห้องจบ วันต่อมาคิดจะเที่ยวเช้าสรุปไม่ได้ไปไหน หมกตัวที่ห้องทั้งวันจนถึงเวลา checkout ถึงรู้ว่ากูออกคนเดียว เขาอยู่ต่ออีกคืน กูก็เดินกลับไปจุดขึ้นรถคนเดียวสิ มาถึงปุ๊ปเขาทักว่ากุญแจโรงแรมติดตัวต้องกลับไปคืน โอ้โหกว่าจะมาถึงนี่เหนื่อยโคตรเลยบอกเขาให้นั่งวินมาเอาไปหน่อยยังไงก็อยู่ต่ออีกคืนแล้ว แต่เขาไม่ กูก็ต้องซิ่งไปกลับเลยดิ เสร็จแล้วถึงจะกลับบ้านอย่างสงบสุขได้ อย่างที่บอกว่าเหมือนเที่ยวคนเดียว กูเจอเขาแค่ตอนออกไปเดินเล่นชั่วโมงนึงเท่านั้น checkin checkout คนเดียว ตอนแยกเข้าห้องก็ตัวใครตัวมัน หลังจากนั้นก็ไม่ได้แชทต่อเพราะเหนื่อยเดินทาง มารู้เอาวันนี้ก็บล็อคกูไปละ ไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจหรือรู้ว่ากูไม่พอใจ เจอกันครั้งแรกไม่ควรจะไปแบบนี้เอาตามตรง นัดไปกินข้าวชิวๆเถอะจะได้รู้นิสัยวิถีชีวิต
เพื่อนผู้หญิงที่แก่กว่าแม่งเอาความลับที่กุเล่ากับมันไปให้คนอื่น พอกุรู้เรื่องจะโทรไปถาม มันก็บ่ายเบี่ยงอ้างสารพัดเหตุไม่คุยกับกุ กุก็โทรจิกไปสามรอบ จนแม่งรับก็ทำเป็นตะคอกเอาเรื่องอื่นมาพาลละบล็อกทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะมีคนเหี้ยแบบนี้ในชีวิตจริง
เป็นคนไม่ไปนัดสาย ไปคนแรกตลอด แต่เป็นคนไม่ค่อยมีเรื่องคุย เวลาต้องอยู่สองคนกับคนที่ตามมาไม่รู้จะคุยอะไร ช่วยหน่อย เกลียด dead air มาก
มีเพื่อนกูคนนึงที่ปกติกินเหล้า แต่งดไปเพราะพยายามจะมีลูกอยู่ ผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่สำเร็จซักที
ไม่รู้ว่าตอนนี้สรุปยังพยายามอยู่มั้ย หรือหยุดชั่วคราว หรือล้มเลิกถาวร ซึ่งเรื่องแบบนี้ถ้าเจ้าตัวไม่เล่าเองกูก็ไม่อยากถามถึง
เรื่องของเรื่องคือมีนัดกินข้าว แล้วกูกะว่าจะสั่งเหล้ามากินด้วยกัน
มีวิธีพูดยังไงไม่ให้เหมือนว่ากูลืมเรื่องที่ว่ามันพยายามมีลูกอยู่ แต่ก็ไม่ต้องไปถามถึงเรื่องมีลูกว่าเลิกไปรึยังบ้างมั้ย
กูนึกวิธีชวนดีๆไม่ออก ที่พอนึกออกคือจะถามว่าตอนนี้กินเหล้าได้รึยัง ก็ไม่รู้จะอ้อมเกินไปหรือฟังดูแปลกไปมั้ย
รำคาญเพื่อน ชอบมานอยคิดว่าตัวเองไม่สำคัญ อีควายลำไย กูให้ความสำคัญเต็มที่ได้เท่านั้น ซึ่งถือว่าเยอะแล้วสำหรับกู กับเพื่อนคนอื่นกูไม่ได้ให้มากเท่านี้ กูก็น้อยใจนะ กูให้ใจกับมันเยอะสุด แต่กูมาโดนตัดพ้อไร้สาระเนี่ย
แบบกูตอบแชทไม่ต่อเนื่อง คุยๆอยู่แล้วกูแวบไปทำอย่างอื่นค่อยกลับมาตอบต่อ แต่เทียบกับเพื่อนคนอื่น กูไม่ทักหา ไม่คิดจะแชร์เรื่องราวอะไรเลยด้วยซ้ำ ทำไมถึงต้องมาคาดหวังในสิ่งที่กูไม่ได้เป็นวะ กูไม่ได้ชอบคุยกับมนุษย์เลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยอมคุยกับมึง ถึงจะคุยกันน้อย ก็สำหรับกูมันก็เป็นการคุยกับเพื่อนคนสำคัญนะอีเหี้ย โว้ย
เวลากุอยู่ที่รร.กุห้ามวาดรูปเวลาว่างเลย เพราะเวลากุวาดรูปกุจะจดต่อแค่กุจะวาดรูปและกุจะวาดให้เสร็จ เวลาใครมาชวนคุยหรือชวนไปไหนกุก็จะอือๆ ไม่ๆไปอัตโนมัติ แบบไม่รู้ตัวและลืมว่าเมื่อกี้ชวนไปไหนนะ เมื่อกี้เพื่อนถามว่าไรนะ หรือบางทีวาดจนมันต้องเปลี่ยนไปเรียนห้องอื่นแล้วเงยหน้าอีกทีทุกคนสะพายกระเป๋าเตรียมไปเรียนแล้ว กุช้าสุด แต่เวลาทำงานดีหน่อยที่ทุกคนมันทำงานมันก็จะเงียบกันหมดคุยนานๆที กลายเป็นกุต้องคอยห้ามไม่ให้ตัวเองวาดรูป ไม่ให้เล่นโทรศัพท์ต้องคอยสังเกตุเพื่อนว่าเพื่อนทำไรกัน อย่าหมกมุ่นอยู่กับตัวเองไม่งั้นกุจะไม่มีเพื่อน รู้สึกแย่สัสๆเลยทำไมเข้าสังคมมันยากงี้วะ เพื่อนเล่นติ๊กตอกกุก็ไม่เล่นไม่รู้จักเลย สายวาดในห้องก็ไม่มี ปวดหัวชิบหายกุไปรร.วันเดียวกลับมาร่างแหลกสาแหลกขาดหมดพลังงานเหี้ยๆกลับมานอนเป็นตาย พร้อมคิดไปเรื่อยว่ากุจะทำไงดี กุควรเลิกวาดรูปแล้วไว้ค่อยกลับมาวาดที่บ้านเอา โทรศัพท์ก็ต้องห่างๆบ้างอย่าเล่นตลอดเวลาอย่านอยเพื่อน ทำไมชีวิตมันลำบากแบบนี้วะ
จริงๆกุชอบอยู่คนเดียว อยู่กับเพื่อนกุรู้สึกอึดอัดมาก แต่กุรู้สึกอยู่คนเดียวชีวิตแม่งอิสระดีว่ะ กุอยากทำไรก็ทำ ไม่ต้องเกรงใจแถมกุก็ทำงานคนเดียวด้วยตอนนี้ กุเลยยิ่งไม่อยากมีใครเป็นเพื่อนเลยอ่ะ แถมไม่ต้องมาทะเลาะกับคนอื่นให้เสียเวลา
เพิ่มอีกอย่าง กุจะไม่ได้ต้องเจอไอ้พวกที่ชอบสตอร์กกุ กุหงุดหงิดมากๆ มึงตามกุทุกอย่างเลยนะ เหมือนมึงเป็นห่าอะไร เพื่อนก็ไม่ใช่ แต่ตามจิกกุทุกอย่าง ควย
แต่กุก็รู้ว่าแม่งตามมาจากเพื่อนกุด้วย กุก็เลยไม่แอดใครเพราะเดี๋ยวมันจะตามมาหากุอีก และกุลบเฟส20รอบ พวกมึงก็ยังตามกุไม่เลิก เพื่อนก็ไม่ใช่ กุสุดจะทนกับพวกหัวควยแล้ว
ไปดีกว่า ระบายหมดละ กุไล่บล้อกพวกมึงที่เกี่ยวข้องหมดละ
มีเพื่อนคนนึงชอบออกจากกลุ่มไลน์ แล้ว2-3วันก็กลับเข้ามาอีก 2-3วันก็ออกจากไลน์กลุ่มอีก เอาใจยากชห จะคิดว่ารำคาญเพื่อนคนอื่นพูดมากก็ไม่ใช่เพราะอีนี่พูดมากสุดในกลุ่มละ เข้าไปทีไรก็เจอมันไม่หุบปากซักที
อิตอแหล มึงแถเหี้ยๆกับกูได้เพราะกูไม่อยากเก็บคำพูดกลวงๆมึงมาคิดให้รกสมอง แต่ถ้ามึงไม่แก้สันดาน กูรอดูวันที่คนอื่นจะแหกคำแถของมึงในอนาคตละกันนะ
เปิดปีใหม่ด้วยการเพื่อนไปดิสนิวเยียร์กับเพื่อนกลุ่มอื่นและไม่ชวนกู ปีที่แล้วยังดิสด้วยกันอยู่เลยแท้ๆ 555555 เป็นคนนอกอย่างสมบูรณ์แล้งสินะกู
กูมีเพื่อนคนนึง แม่งนิสัยไม่ดีชอบยืมของคนอื่นแล้วไม่คืน
พอมันยืมแล้วไม่คืน มันก็ไปยืมของคนอื่นเรื่อยๆ
กลัวว่ายืมคนเดิมแล้วกูจะด่า แต่กูไม่ด่าหรอก
กูอยากตัดเพื่อนคนนี้จัง กูคบเพื่อนหลายคน แต่กูพึ่งมาเจอไอ้คนนี้ พูดจาก็หยาบคายไม่สุภาพ กูเลิกเป็นเพื่อนกับมันดีกว่ามั๊ย
รู้สึกหึงหวงเพื่อนตอนที่เพื่อนไปสนิทกับคนที่เกลียดขี้หน้ากู(เพื่อนไม่รู้ว่ามันเกลียดขี้หน้ากู) งี่เง่าไหมหรือปกติ
กูควรทำไงกับเพื่อนเหี้ยๆของกูดี คืองี้ในกลุ่มมีกันสามคน(รวมกู) กูทะเลาะกับคนนึงแล้วอีกคนก็โอ๋มันแล้วมาว่ากู เรื่องที่ทะเลาะกันคือตอนแรกจบลงด้วยดีน่ะแต่มันก็ไม่สนิตเต็มร้อย พออีนั่นมาโอ๋แล้วมาว่ากูในแชต พอกูไม่ตอบแม่งก็ตัดเพื่อน คือเป็นเหี้ยอะไรอ่ะ รึว่ากูผิดที่อ่านแต่ไม่ตอบ?? ถึงตอบไปมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรแล้วพอกูมาขอโทษในเรื่องที่กูแค่อ่านไม่ตอบอีมันทั้งสองก็ตัดเพื่อนแล้วเอาเรื่องกูไปซุบซิบกับคนอื่นจนรู้ทั้งห้อง เอาล่ะกูไม่มีเพื่อนคบแล้วสาแก่ใจมึงรึยังล่ะ เนี่ยหรอเพื่อนกูที่เคยคบ
กุอยากสนิทกับเพื่อนให้ได้เร็วๆ รร.แม่งก็เปิดแค่วันสองวันเอาห่าไรไปสนิท แต่กุก็ไม่อยากไม่มีเพื่อน กุอยากใช้ชีวิตวัยรุ่นกุอยากสนิทกับเพื่อนเร็วๆเล่นหัวกันได้ ระบายความในใจกันได้ ไม่ใช่ยังรู้สึกอิหลักอิเหลื่ออยู่ ทำไงดีวะ ทำไงให้สนิทกัน มันมีสูตรเฉพาะไหม มันมีวิธีรึเปล่า กุไม่ไหวว่ะ
รู้ว่าไร้สาาระ แต่เศร้าๆนิดหน่อยตอนที่รู้สึกตัวว่าเพื่อนที่เคยสนิทมากๆกว่า20ปีกำลังจะห่างกัน จริงๆก็เข้าใจว่าไลฟสไตล์ช่วงหลังๆมันไปกันไม่ได้ กูไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบเจอคนเยอะ ส่วนมันชอบ
กูไม่ชอบคุย ชอบทำอะไรของกูเฉยๆ แต่มันต้องมีคนคุยด้วยตลอดเวลา
บางทีที่คบมาได้จนถึงตอนนี้ก็คงเก่งแล้วล่ะมั้ง ถึงจะเสียดายอะไรหลายๆอย่างที่ทำมาด้วยกัน แต่ก็เป็นแค่เพื่อนธรรมดากันก็ได้ ไม่ต้องให้คำว่าสนิทมาค้ำคอ
//ซะที่ไหนล่ะไอ้สัด กูเศร้าจนกลายเป็นหงุดหงิดแล้วอีเหี้ย อย่ามาหาว่ากูไม่คีพนะ มึงก็ไม่คีพกูเหมือนกันปะ กูรู้ว่ายิ่งไม่ได้เจอกันก็ยิ่งต้องพยายามเมนเทน ซึ่งกูก็พยายามชวนคุย ชวนหาวันมาเจอกันบ้าง แต่แม่งก็เมินคำพูดกูทุกครั้งอะ แล้วเมินทุกครั้งแบบทุกครั้งจริงๆ จนผ่านมาครึ่งปีแล้วแม่งก็ไม่ตอบรับคำชวนไปเที่ยวกู
วันเกิดกูก็ไม่แฮป กูลงสตอรี่ว่าบ้านมีโจรเข้าก็ไม่ได้ทักมาอะไรกับกูเลย ดูสตอรี่แล้วก็อัพเรื่องอื่นเป็นปกติอะ โอเค มันไร้สาระ แต่พอเห็นว่าเพื่อนสนิทคนอื่นๆทักกูมาหมดทุกคน ยกเว้นมัน แล้วกูก็แบบ เออ มันคงถึงเวลาแล้วมั้ง เกลียดยิ่งกว่าการเกลียดคนอื่นก็ตรงที่คนเคยสนิทกลายเป็นเพื่อนธรรมดาๆนี่แหละ เฮ้อ
ตอนมอปลายกุไม่มีเพื่อนเลยเพราะเพิ่งย้ายเข้ามาตอนมอสี่ กุเหมือนเด็กบ้านนอกในดงเด็กเมืองอะ แล้วคือชีวิตพวกแม่งสบายพ่อแม่เปย์ เลิกเรียกก็กินเที่ยว เรียนพิเศษ ส่วนกุเลิกเรียนต้องรีบนั่งรถกลับบ้านเพราะบ้านอยู่ไกลไง ไอ้จะเช่าหออยู่ฐานะที่บ้านก็จน วันหยุดก็ต้องช่วยงานที่บ้าน ไม่เคยออกไปเที่ยวดูหนังนู่นนี่นั่นในเมืองกะเพื่อนหรอก คือกุอินโทรเวิตเต็มขั้นเลยช่วงนั้น ถถถ
เหอะ ตอแหลได้ตอแหลไปนะ มึงเสนอหน้าทำตัวอวดรู้ทุกเรื่อง ทั้งๆที่เอาคำตอบมาจากกู ต่อไปพอโดนถามก็รู้ให้จริงละกัน กูรอมึงล้มอยู่ แต่ถ้ายังเหี้ยได้กว่านี้กูก็จะไม่รอมึงล้มเองแล้ว กูนี่แหละจะถีบมึงให้ล้ม กูดันมึงได้ กูก็ขัดขามึงได้เหมือนกัน
พวกมึงกุควรทำไงดีว่ะ มีปัญหากับเพื่อน(ที่เคยสนิต)แล้วคนในห้องส่วนใหญ่ก็เข้าข้างนาง จนเข้ากับใครในห้องแทบจะเป็นไปไม่ได้ เรื่องที่เกิดคือคิดวิเคราะห์แล้วน่ะ มันเป็นเรื่องที่เราไม่ผิดด้วยซ้ำแต่ปากก็ขอขอโทษไปเผื่อความสัมพันธ์จะดีขึ้น สุดท้ายแล้วแม่งก็เหมือนเดิม ดีหน่อยที่ก่อนหน้ามันเรียนออนไลน์เลยไม่เจอหน้ากัน แต่ตอนนี้ย้ายมาเรียนห้องแล้วใกล้เปิดเทอมแล้วด้วย กุรู้สึกเริ่มไม่อยากไปเรียนเลยอ่ะ ท้อ อยากร้องไห้ ทำไมกุต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยว่ะ เริ่มรู้สึกสงสารพ่อแม่ที่ส่งไปเรียนแต่แม่งต้องมาแค่นี้อะไรแบบนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนผิดทำอะไรก็ไม่ดีไปหมดเลยอ่ะ มีใครให้ไอเดียแนะนำออกจากสถานการณ์ชีวิตแบบนี้ได้บ้างไหม
>>123 บางทีระยะห่างอาจจะทำให้เรื่องมันดีขึ้นก็ได้(แต่ถ้ามึงคิดว่าเพื่อนคนนั้นจงใจทำให้มึงก็แบนก็ตัดความคิดนี้ออกไปได้เลย) กูเคยโดนแบบนี้ วิธีของกูคือไปคบเพื่อนห้องอื่นเพราะยังไงงานกลุ่มในห้องมันก็จับลงตัวต้องมีคนรับพวกกูเข้ากลุ่มอะ(กูเป็นอินโทรเวิร์ดด้วยเลยไม่แคร์คนขนาดนั้น) เคสกูโดนแบนกันสองคนเลยยังเกาะกันได้ แต่มึงโดนคนเดียวใช่มะ กอดๆนะมึง กูโดนเพราะคนหาว่ากูอู้งานไม่ช่วยงานห้อง ถึงจริงๆกูจะไม่ได้อู้แต่ที่ต้องทำคือมีงานห้องอะไรกูต้องอาสาทำงานหนักกว่าคนอื่น ออกหน้าเยอะๆให้เขาเชื่อว่ากูไม่ใช่พวกอู้งานอะ ต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามึงไม่ได้ผิด พูดง่ายแต่ทำยากชิบ กูเสียชีวิตม.ปลายไปฟรีๆกับเรื่องเหี้ยพวกนี้ พอบอกกูได้ไหวว่าโดนเพราะเรื่องอะไรเผื่อจะช่วยคิดวิธีแก้ได้
อันนี้แนะนำส่วนตัวว่าอย่าให้ถึงหูครูนะ ต่อให้เป็นครูที่มึงสนิทก็ตามอะ เรื่องพวกมีปัญหาโดนแบนนอกจากมันร้ายแรงจริงๆ ถึงครูหูทีไรเรื่องบานปลายแล้วมึงจะยิ่งอยู่กับในห้องลำบากกว่าเดิมอีก ถ้าครูช่วยมึง มึงอาจจะโดนเหม็นว่ามึงเป็นลูกรักครู ถ้าเจอครูเกลียดมึงครูแม่งใส่ไฟให้มึงชิบหายกว่าเดิม เชื่อกูนะ กูโดนมาหมดสองแบบแล้ว บอกครูไปมันแย่กว่าเดิมมากๆ กูไม่อยากให้มีคนตามรอยกู
มึงมีป้ะ เพื่อนที่แม่งชอบกดขำกดเศร้าไปทั่วอะ กูเม้นคุยกับคนในเพจนึงแม่งก็มากดขำใส่ กูตอบคำถามที่คนสงสัยก็มากดเศร้า(ซึ่งคำถามไม่ได้เศร้าเหี้ยไรเลย) กูลงสตอรี่ว่าอ่านหนังสือก็กดเศร้า เป็นห่าไรวะ รำคาญ บอกให้เลิกก็ไม่เลิก
เพิ่งรู้สึกตัวว่าเพื่อนเก่าคนนึงไม่อยากคุยกับกูว่ะ ปีที่แล้วคุยไลน์กันอยู่ดีๆ พอกูเริ่มปรึกษาเรื่องต่างๆมากขึ้นหน่อย มันก็เริ่มไม่เข้ามาอ่าน หายไปเลยหลายเดือน ล่าสุดคุยๆกันปลายปีที่แล้ว มันบอกถ้ามีปัญหาอะไรแชร์ให้มันอ่านได้ พอกูเล่าไป มันก็ไม่เข้ามาอ่านอีกละ ผ่านไป 2 สัปดาห์ละ ขนาดสติ๊กเกอร์ HNY ของกู มันยังไม่เข้ามาดูเลย คือถ้าจะไม่สนใจกู ก็ไม่ต้องทักมาคุยแต่แรกปะ เสียความรู้สึกสัดๆ กูว่าจะ move on ละ และคงไม่เล่าเรื่องส่วนตัวอะไรให้มันฟังอีก
กูบ่นเรื่องหาเพื่อนในคณะไม่ได้ เพื่อนกูต่างคณะที่ตอนแรกหาเพื่อนไม่ได้ก็อวดใหญ่เลยว่ามันหากลุ่มดีแล้ว อือ ดีใจด้วย เดี๋ยวกูก็จะตัวคนเดียวละสินะ
>>123 กุก็เป็นแบบมึงเลยตอนม.ต้น ใครแก้ปัญหานี้ได้ก็ดีใจด้วย แต่กุแก้ไม่ได้ สิ่งที่กุทำคืออยู่คนเดียวไปเรื่อยๆเนี่ยแหละมันจะมีพวกขี้เสือกมาถามไถ่บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นทะเลาะอะไรกันหรอ เหมือนจะเข้าๆมาคุยมาเป็นเพื่อน สุดท้ายมันแค่อยากรู้เฉยๆว่าเกิดไรขึ้นพอรู้มันก็ไปเกาะแกะกับเพื่อนที่เรามีปัญหาด้วยต่อละ กุใช้ชีวิตเหมือนผีในห้องอ่ะเพื่อน แบบ ทุกคนไม่สนใจกุ เดินกันไปมีกลุ่มเป็นของตัวเอง เพื่อนบางคนบอกกุเป็นเศษเกินในห้องด้วยซ้ำ นั่งแดกข้าวคนเดียวบางทีก็อยู่ในห้องเรียนเงียบๆคนเดียวหาอะไรทำให้ไม่ฟุ้งซ่านเครียงานไปเรื่อยๆ ไม่มีเพื่อนจริงๆสักคนละก็หลอนไปเองว่าเพื่อนในห้องมองกุอยู่ สมเพชกุอยู่ว่ากุไม่มีเพื่อน พอเดินใกล้ใครก็หลอนไปอีกว่าเขากำลังนินทากุในใจหาว่ากุมาเกาะกลุ่มมันแน่ๆเลยไม่กล้าเดินใกล้ ใครแก้ปัญหานี้ได้ก็ดีใจด้วยละกัน แต่ของกุมันกลายเป็นฝันร้ายติดอยู่ในใจกุมาตลอดจนคิดว่าช่วงนั้นกุรอดมาโดยไม่ฆ่าตัวตายได้ไง เพราะช่วงนั้นกุบ่นอยากตายตลอด บ่นให้พ่อกุ พากุย้ายโรงเรียนทุกครั้ง มึงหาทางทำไรสักอย่างเหอะโม่ง จะอะไรก็ได้ให้มึงมีเพื่อนสักคน อย่ามีชีวิตอยู่ในรร.แบบตัวคนเดียวเลย
>>123 กุมาทันป่ะวะ ตอนสมัยมัธยมกุไม่เคยเจออะไรแบบนั้นนะ แต่มีตอนประถมที่เคยโดนบูลลี่จนเคว้งไปข่วงนึง อาการคบ้ายๆโม่งบนคือระแวงคนรอบข้างชิบหาย มีทะเบาะกับคนอีกทีคือตอนมหาลัยที่แตกหักกับเพื่อนกลางทางแล้วโดนเฉดหัวทิ้งเพราะว่ามันมีไอ้คนที่ชอบเลียแข้งอีกคนอยู่
สำหรับกุนะ ถ้ามึงหาเพื่อนได้ก็หาเถอะ แต่ไม่ต้องถึงขั้นฝืน กุเข้าใจว่ามันดูเล็กน้อยจนมึงรู้สึกผิดว่าทำไมมึงต้องไม่อยากไปเรียนด้วยเรื่องแค่นี้ แต่พอมึงโต พอมึงผ่านไปสักพักคนเราจะมีช่วงโวคตัวเองขึ้นมาเป็นไอ้คนช่างแม่งสิวะ กุไม่ได้ทำผิดกฏหมาย ไปเรียนเว้ยโม่ง เพื่อนเก่ามึงมองจะจิกตาแตกก็เรื่องของมัน จะนินทาก็ถือว่าหมามันเห่ามึง ทำเกรดดีๆ ทำกิจกรรม หาเพื่อนต่างห้องก็ได้ เพื่อนไท่จำเป็นต้องมีในห้อง ตอนจับกลุ่มมึงก็ท่องไว้ว่ายังไงก็มีกลุ่ม อ.มัธยมมันบังคับให้เด็กมีกลุ่มกันอยู่แล้ว เข้ากันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร มึงเข้ากลุ่มไปทำงาน แต่กุเชื่อว่าคนทั้งห้องมันคิดไม่เหมือนกันทุกคนหรอก เอาคนสิบคนมาสุ่มตอบมันยังตอบไม่เหทือนกันเลย ถ้าเรื่องที่ทำให้มึงแตกหักไม่ใช่เรื่องที่มึงผิดหรือร้ายแรงเหี้ยๆ
อ่ะ พิมพ์ไปนิ้วกุก็เบียดอีก 555555555
>>123 อย่าสำคัญตัวเองผิดมากเกินไปนัก คนเขาไม่ใส่มายุ่งอะไรกับมึงขนาดนั้นหรอก คนเครียดมากๆก็จะประสาทแดกงี้แหละ เรียนไปเรื่อยๆ มีอะไรลำบากแค่ไหนถ้าทนทำๆไปให้มันจบๆเดี๋ยวมันก็จบ เรื่องเพื่อนก็มีแค่ที่พอคุยได้นิดหน่อยก็พอ ไม่เห็นต้องไปสนิทอะไรมากมาย พวกเพื่อนสนิทสมัยเรียนสุดท้ายก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันนักหนาหรอก
กู123
>>132 >>133 >>135 >>136 กูอยากจะพูดมากเลยว่าตลอดชีวิตกูเนี่ยแทบจะเหมือนที่132เล่า คือกูก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นเพราะอะไรถึงไม่มีเพื่อน มันตั้งแต่สมัยเด็กแล้วอ่ะพอถึงเวลาพักกูก็เล่นเกม อ่านการ์ตูนในห้องสมุดคนเดียว หมดเวลาก็เรียน ถึงเวลากลับบ้านก็ไปเรียนพิเศษ ไม่เคยไปเที่ยวเล่นเหมือนกับคนอื่นเขา เหมือนกับว่าพอรู้สึกตัวอีกทีก็ไม่มีเพื่อนที่สนิตด้วยเลยซักคน แต่ก็ไม่ได้มีเกลียดมีงอนอะไรคุยได้ตามปกติ อย่างที่136บอก มึงพูดเหมือนชีวิตกูเลยเพื่อนโม่ง กูเคยร้องไห้ในห้องซึ่งพยายามกลั้นน้ำตาแบบไม่ให้ใครรู้บ่อยมาก(ซึ่งหลายๆคนเห็นก็ไม่ได้มีใครมาถามมาสนใจนั่นแหละ) กูเคยคิดน่ะว่าเอออาจจะไม่มีใครรู้ก็ได้เลยไม่มีใครมาใส่ใจ เหมือนพูดปลอบตัวเองอะว่ามะ5555
ตอนนี้คือกูกลับมาอ่านโม่งใหม่ ดีใจน่ะที่ยังมีคนสนใจโม่งกูด้วยไม่เหมือนคนรอบข้าง ปัจจุบันตอนนี้กูมานั่งอ่านโม่งตัวเองคิดถึงสิ่งที่พิมพ์ไปเหมือนกัน อยากจะบอกว่ากูขึ้นมหาลัยแล้วนะ แต่การเขียนโม่งแบบนั้นที่เหมือนทำตัวงอแงไม่อยากเรียนดูเด็กน้อยไปหน่อยว่างั้นมะ5555 ตามจริงแล้วกูอุส่าได้มีเพื่อนสนิตครั้งแรกแต่แม่งก็เฟลแบบนี้ทำเอาไปไม่ถูกเลย ทำไมการหาเพื่อนดีๆที่ไม่เอากูไปเที่ยวนินทา ไม่ทิ้งกูไว้กลางทางมันจะยากขนาดนี้ว่ะ มีการบอกให้กูย้ายที่เรียนเพราะที่นี่ไม่เหมาะกับคนน่าสมเพชอย่างกูด้วย กูไม่คิดจะย้าย อยากย้ายก็ย้ายไปคนเดียวสิ ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นแต่การเรียนกูก็แย่กว่าพวกมันอีก กูไม่สามารถหาเพื่อนได้อย่างที่132บอก ถึงแม้จะเคยลองหลายรอบ อันล่าสุดดีหน่อยเพราะถึงขนาดคุย1ปี ยกขึ้นมาเป็นเพื่อนสนิทได้แต่แม่งมันก็ล้มเหลวเหมือนเดิม เกรดกูก็ไม่ดีเหมือนอย่างที่133แนะนำ ดูๆไปแล้วกูก็คงน่าสมเพชจริงๆ5555 ทั้งๆที่อยู่มานานแบบไม่มีเพื่อนได้แต่แม่งก็ยังจะเรียกร้องมีเพื่อนที่ทั้งชีวิตก็ไม่เคยมีอยู่แล้ว กูอาจจะประสาทแดกอย่างที่ว่ามาก็ได้ตอนนี้กูก็ได้แต่ทนๆอยู่เหมือนที่135พูดนั่นแหละ ดีที่สุดของกูคือกูไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตายและยังไม่เป็นโรคซึมเศร้า อย่าโทษกูเลยว่าโตขนาดนี้แล้วแม่งก็ยังเหมือนเด็กน้อยมีปัญหาอยู่ กูขอฟื้นใจแปบ5555
แต่พอเคยมีเพื่อนที่สนิตขึ้นมาแล้วเลิกกันไปเนี่ย ทำให้กูรู้สึกได้เลยน่ะว่า การที่จะพิมพ์แชตกลุ่มห้องรึหาคนอยู่กลุ่มด้วยแม่งยากกว่าเดิมเยอะเลย
>>137 กูเหมือนมึงเลย กูเป็นคนเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนง่ายมแต่สนิทยากมาก เพราะกูมีความคิดแตกต่างจากคนอื่นตั้งแต่เด็กแล้ว แล้วก็ไม่อยากให้ใครมารู้หรือมารุกล้ำในสิง่ที่กูคิด กูเลยไม่เคยเปิดเผยตัวตนให้ใครรู้เลยซักคน กลุ่มเพื่อนก็มีตลอดนะ แต่รู้สึกกูคบกับเค้าผิวเผินมาก ไม่ได้สนิทอะไรเลย ไม่ได้รู้จักอะไรกัน กูก็หงุดหงิดกับตัวเองนะเวลาเห็นเพื่อนกลุ่มอื่นเค้าสนิทกัน แต่กูก็รับไม่ได้ที่จะให้คนมารู้จักกูทุกเรื่องอยู่ดี จนตอนนี้กูจะจบมหาลัยละ กูมีคนรู้จักเยอะมากแต่ไม่สน แต่ก็ไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด ทำอะไรคนเดียว ไม่ชวนใครตลอด จนกูเริ่มทำงานหาเงินได้เยอะ เริ่มมีชื่อเสียง เริ่มสวยขึ้น มึงไม่ต้องพยายามอะไรเลย มันจะดึงดูดคนแบบเดียวกันเข้ามาในชีวิต แล้วมัยง่ายที่จะสนิทที่จะเปิดเผยตัวตนให้เค้ารู้จักมากขึ้น คำแนะนำกูคือไม่ต้องไปวิ่งตามหาเพื่อน มึงพัฒนาตัวเองให้ดี เป็นคนเข้ากับคนง่าย นิสัยดี เดี๋ยวเพื่อนก็มาเอง ถ้าเป็นคนครึ่งๆกลางๆไม่มีอะไรดีก็ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตลอด เหนื่อยนะ ไม่น้องเก่งเรื่องเรียนก็ได้เพราะกูเข้ามหาลัยมาก็เรียนห่วย
เมื่อก่อนคิดว่าชีวิตกูนี่เด็กจืดมากเลย อยู่กับแก๊งเพื่อนสนิทเล็กๆ เงียบๆ ไม่มีคาแรกเตอร์ตลอด แบบครูน่าจะจำไม่ค่อยได้ ไม่เคยอยู่กับพวกกลุ่มใหญ่ๆในชั้นเรียน แต่พอเรียนจบทำงานแล้วเพิ่งรู้สึกว่ากูนี่โชคดีเหมือนกันนะ มีกลุ่มเพื่อนสนิทคบกันสิบกว่าปีที่ยังคุยกันได้ทุกวันถึงจะอยู่คนละจังหวัดคนละประเทศ คนแบบเดียวกันจะดึงดูดกันจริงๆอะ เพื่อนในห้องที่ไม่มีกลุ่มสนิทก็เคยมาถามกูนะว่ามันไม่ดีตรงไหนทำไมไม่มีเพื่อน สำหรับกูทุกคนไม่ได้ดีทั้งหมดอยู่แล้วอะ มันแล้วแต่ว่าลักษณะนิสัยใครจะลงล็อคกันมากกว่า
คนที่คิดว่าสนิทที่สุด สุดท้ายก็ยังกันกูออกไปเป็นคนนอกของกลุ่มเขา ช่วงนี้คุยกันบ่อยจนลืมไปว่าจริงๆกูก็ไม่ได้เป็นเพื่อนเบอร์1ของเขาตั้งแต่แรกและตลอดไป คนมาทีหลังจะไปสนิทสู้คนมาก่อนได้ไงล่ะ อยากเป็นแบบเมื่อก่อน ไม่มีเพื่อนก็อยู่ได้ พอมีกลุ่มเพื่อนสักครั้งแล้วเจอว่าเขาไม่เคยมองตัวเองเป็นส่วนนึงของกลุ่มแม่งโคตรเจ็บ
ตอนนี้กูเห็นกลุ่มเพื่อนอยู่ด้วยกัน เห็นคนแท็กกันในไอจี กูก็อิจฉาเจ็บใจละ ไม่ชอบเลย ความรู้สึกแบบนี้ ท่องเอาไว้ตัวกู ไม่มีเพื่อนกูก็อยู่ได้
>>141 คือด้วยความที่มึงเพื่อนน้อยอาจจะคิดว่าอรกฝ่ายสำคัญลําดับเพื่อนแบบมึง จริงๆเขาไม่ได้คิดอะไรเลยหว่ะมีแต่มึงที่คิดไปเอง เขาก็มองว่ามึงเป็นเพื่อน แถมไม่ได้มองว่าไม่สนิทกับมึงอะไรด้วย ถ้าคุยบ่อยขนาดนี้
กูก็เคยประสบปัญหาแบบเดียวกับมึง แต่โตๆขึ้นไปจะเข้าใจเองว่าฝ่ายมันไม่ได้คิดมากอะไรเลย มีแค่มึงที่คิดมากว่าเพื่อนไม่ใส่ใจเราแล้ว กูก็ไม่สบายใจกูก็ออกมาใช้ชีวิตคนเดียว แต่แบบหลายๆปีผ่านมาพวกนั้นมันก็ยังติดต่อกูมานะ ก็คือมันก็มองว่ามึงเป็นเพื่อนแหละ
กุมีปัญหาเรื่องการมีเพื่อนมากตอนนี้ หลังๆมากุเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนแม่งมีแต่หลอกลวงฟิลเวลาพวกมึงมีความสุขหรือได้ดีก็ไม่เคยเห็นหัวกุเลย พอพวกแม่งมีปัญหาถึงค่อยมานึกถึงกุคือไม่เข้าใจว่าทำไม พอกุลองพยายามทักๆไปหลังจากไม่ได้คุยมานาน พยายามไม่คิดไรมากมาถึงก็ระบายเรื่องตัวเองจนพอใจแล้วก็หายไปหมดไม่แม้แต่ถามว่ากุเป็นไงบ้าง กุรู้สึกท้อกับการมีเพื่อนหว่ะ เหมือนเราให้เขาเต็มที่ตลอดแต่ไม่เคยมีใครเห็นค่ากุเลย โคตรเศร้าจนไม่รู้จะทำไงอยากมีเพื่อนแต่ก็รู้สึกไม่อยากมีความสัมพันธ์กับใครแล้วเพราะกลัวเจอแบบเดิมซ้ำๆ
เพื่อนกับคนรู้จักต่างกันแค่เส้นกัน
บางทีกูก็สงสัยว่าสิ่งที่เพื่อนกูทำมันคือสิ่งที่เพื่อนทำกันจริงๆรึปล่าว ตลอดเวลาที่กูอยู่ในกลุ่มเพื่อนนี้คือโดนกดหัวอยู่ตลอดทั้งดูถูกทั้งด่าเวลาอะไรไม่พอใจหงุดหงิดแม่ โมโหเพื่อนอีกคน อารมณ์เสียที่นอนน้อยก็เอามาลงกับกูตลอดเหมือนเห็นกูเป็นสนามอารมณ์อะ ชอบบอกว่ากูเลิกคบกับพวกแม่งไปคนแบบกูก็ไม่มีใครคบด้วยหรอก แต่ตอนกูเดินไปกับกลุ่มอื่นเดินไปกับเพื่อนคนอื่นชอบดึงกูกลับมางงไหมแต่พอถึงเวลามันจะไปกับเพื่อนคนไหนกูไม่เคยห้ามมันเลยนะ ตอนแรกกูก็ดีใจคิดว่ามันห่วงกูแต่พอกูออกห่างจากกลุ่มนั้นกลับมาอยู่กับพวกมันเหมือนเดิมแม่งก็ทำพฤติกรรมเหี้ยๆใส่กูเหมือนเดิม กูบอกว่ากูไม่ชอบให้ทำก็ไม่สนหรือแม้แต่กูจะเริ่มทำอะไรสักอย่างแม่งจะบอกก่อนเลยทุกครั้งว่าหน้าอย่างมึงทำไม่ได้หรอก ตอนนี้กูสงสัยจริงๆนะว่าเพื่อนแม่งทำกันอย่างงี้จริงๆหรอวะ
มีแค่เพื่อนกินพอ พวกห่านี่ทำไมมึงต้องทำตามๆกันเออออห่อหมกกันไปหมดวะ พอกุไม่ทำตามก็หาว่ากุไม่สนโลก จริงๆกุอะสนโลกแต่ไม่สนมึงจ้า แล้วนิสัยชอบหาปมด้อยชาวบ้านมาล้อให้ตัวเองดูสูงกว่าอะเลิกได้เลิกนะมันไม่เท่ ถ่อยมากกว่า
อันนี้ไม่เฃิงปรึกษา แค่อยากมาอวดความบังเอิญว่ากูรู้จักกับเพื่อนทางเน็ตเมื่อสามปีก่อนและตอนนี้เรียนที่เดียวกันปีเดียวกันที่นั่งในห้องรวมที่เดียวกัน อีเหี้ยความบังเอิญที่แท้
รำคาญเพื่อนนักตอแหล เห็นละคันปากอยากแหก
อยากแก้นิสัยเสียตัวเองที่ไม่ได้ดั่งใจใครไปเรื่อย เช่น เพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จักกันกุก็ชอบคิดเรื่องข้อเสียเขาในใจบ่อยๆ เช่น ละมึงไม่ไปแก้ร.วะไอ้เหี้ยรอทำเหี้ยไรล่ะ หรือ มึงหัดมีความรับผิดชอบหน่อยเหอะไม่ใช่รอแต่ให้กุบอก ในไลน์งานมีไรบ้างก็เข้าไปหาสิถามเหี้ยไรกุล่ะ ไม่ชอบใจใครในหลายๆเรื่องเหมือนไม่เคยพอใจเลย ซึ่งมันเหี้ยอ่ะ ถ้ากุมีทัศนคติที่ดีต่อเพื่อนน่าจะทำให้กุใช้ชีวิตแบบมีความสุขปล่อยวางไม่คิดไรมากกว่านี้ แล้วก็รู้สึกมีความสุขกับเพื่อนมากขึ้นด้วย
พอเพื่อนให้ความสำคัญเข้าหน่อยก็ทำตัวเป็นอีช่างขัดอยากแตกต่างไปเรื่อย เรื่องเล็กๆน้อยๆกุก็ต้องขัดให้ได้แม้เรื่องที่ขัดมันจะไม่มีสาระเหี้ยไรเลยก็ตาม ก็ สู้ๆนะคะ คนช่างแตกต่าง ไม่มีเหมือนคนอื่นๆทั่วไป มีความเป็นผู้ใหญ่อย่างที่ตัวเองเคยพูดไว้ ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริงๆก็แล้วแต่มึงเถอะ
อันนี้ขำๆ นะไม่ซีเรียส มึงว่าการเป็นผู้ใหญ่ที่กินเผ็ดไม่ได้นี่น่าอายปะ เวลาสั่งข้าวด้วยกันแล้วกูสั่ง กะเพราไม่ใส่พริก ส้มตำไม่ใส่พริก กูโดนเพื่อนแซวบ่อยมากว่าอาย ไม่กล้าสั่งให้มึงเลย 555 ตอนโดนเพื่อนสมัยเรียนว่าก็ไม่คิดอะไร พอมาทำงานก็โดนแบบเดียวกันอีก กูชักเสียความมั่นใจ ถถถ
>>155 สำหรับกุไม่นะ เพราะลิ้นแต่ละคนไม่เหมือนกัน กุก็ไม่กินผัก(บางชนิด)กับกินเผ็ดมากๆ ก็ไม่โดนล้ออะไร จริงๆถ้าเป็นสังคมที่โตๆกันแล้วมากสุดก็แค่แซวแหละ ไม่มาล้อกันหรอก แต่ตอนประถมนี่กุโดนเพื่อนบูลลี่บ่อยชิบหายเรื่องไม่แดกผักกับกินเผ็ดเนี่ย เคยโดนเพื่อนแกล้งเอาถ้วยพริกเทใส่ชามก๋วยเตี๋ยวกลายเป็นต้องไปซื้อใหม่
ไอดอลมหัศจรรย์มีหีที่แร้ 555
https://imgur.com/7jOzPGr
https://imgur.com/63yeL4F
https://imgur.com/TtHPa0p
>>155 ไม่น่าอายหรอก ดีกว่าฝืนตัวเองไปกินนะ เช่นเคสกูแดกมาม่าหมูสับซองธรรมดาๆ(เมื่อก่อนมันจะใส่เครื่องปรุงมาให้เลย) แค่นั้นกูเผ็ดจนปวดหัวแบบไปกองที่พื้นเลย เมื่อก่อนกูก็อายๆนะ แต่ถ้าเลือกต้องเจอพริก กูจะตอบยิ้มว่ากูแดกแล้วปวดหัว อยากมารับผิดชอบหามซากกูไหมล่ะ //ถ้าเพื่อนมึงแซวๆเล่นก็อย่าคิดมากเลย แต่เผื่อถ้าวันไหนมึงเจอพวกงี่เง่าจะบังคับแดกเผ็ด อย่าให้ความอายมันทำให้มึงต้องฝืนนะ
ทำงานกลุ่มกับคนอื่นที่ไม่รู้จักประมาณ 4-5 คน มีคนนึงทำงานได้เหี้ยมากไม่ไหว เปิดตัวด้วยการไม่มาในวันคุยงานด้วยเหตุผลที่เหี้ยมากเช่นกัน ไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานใดๆ ไม่ออกความเห็นเลย พูดจาแปลกๆ ไม่อ่านไลน์ ไม่ตามงาน ถามแต่เรื่องโง่ๆ เรื่องที่กุพูดไปแล้ว ไม่ยอมมาทำงานวันเสาร์อาทิตย์เพียงเพราะว่าไม่อยากทำงานวันหยุดทั้งที่งานแม่งจะส่งอยู่แล้ว(แต่สุดท้ายก็ยอมแหละ มันจะส่งแล้ว) งงว่ามึงเรียนมาจนถึงปี 4 ได้ไง กุกับคนในกลุ่มตั้งแชทแยกกับปรึกษาอจ.เรื่องมัน อจ.บอกจะให้ทำประเมินแล้วดูอาการมันก่อน ก็ถ้ามันไม่ช่วยก็ไม่ต้องใส่ชื่อมัน ล่าสุดไม่ทำรายงานส่วนของตัวเอง มาแต่หัวข้อ พึ่งเขียนก่อนคุยด้วยเยดแม่ แล้วตอนคุยกันคือปั่นงานตัวเอง ผลคือไม่เสด อ่านไม่รุ้เรื่อง แม่งไม่รุ้เหี้ยไรกับเนื้อหาเลย ในหัวกุมีแต่คำว่าเหี้ยๆๆๆ กุเลยด่า(ไม่เชิงด้วย) ว่ากุบอกตั้งนานแล้วว่ากุจะเอาเนื้อหาเป็นรายงาน(ไม่เอาหัวข้อไอ้สัส) มึงทำงี้มันเสียเวลาพวกกุมั้ย แทนที่จะได้มาช่วยกันออกค.เห็นกับส่วนอื่น(ซึ่งเอาจริงแม่งไม่มีหรอก) มึงเสือกมาทำงานตัวเอง แล้วคือกุก็หวังไงว่าเห้ยกุเปิดมาขนาดนี้แล้ว เพื่อนในกลุ่มคนอื่นควรตามแล้วมั้ย เอาเลยเพื่อน มึงสงสัยอะไรหรืออยากด่าอะไรมันหรือแค่อยากเป็นลูกคู่กุก็ได้ นิดนึง อะไรก็ได้ เอาเลย แล้วเปนไง กริบ แล้วเปลี่ยนเรื่องไปช่วยอ่านงานมันเฉยเลย เหยดเข้ กุเหลือเชื่อ กุโดนเท ช้อคจนต้องปิดไมค์ พวกมึงไม่คิดจะทำอะไรนอกจากรอประเมินกับด่ามันลับหลังในแชทแยกอย่างเดียวเลยดิ พูดหรือต้อนแม่งให้รุ้สึกผิดหน่อยมั้ย ก่อนหน้ากุยอมรับว่าก็ด่าแม่งในแชท เอ๊ะนู่นเอ๊ะนี้ แต่ไอ้ห่า ถามมันสิวะ บ่นในนี้ไอ้เหี้ยนั่นมันจะรุ้เรื่องเหรอ โอ้ยยยยกุอึดอัด งานกลุ่มไม่เสด งานไอ้เหี้ยนั่นก็ไม่เสด คนในกลุ่มก็ช่วยไม่ได้เพราะอ่านไม่รู้เรื่อง สุดท้ายกุได้ไปขึ้นโครงรายงานให้มัน กุก้คิดว่าคนอื่นก็คงเก็บกดทนมันไม่ไหวเหมือนกัน(ซึ่งผิด) อย่างมันต้องโดนด่าต่อหน้าเท่านั้น เผื่อมึงจะสำนึกมั่ง กุเลยพูด เออ จบเลย แม่งกุน้อยใจ กุนึกว่าคนหัวอกเดียวกัน แต่ดันมีแค่กุคนเดียวสินะ ไม่มีอีกแล้วทีม แล้วแชทแยกเหี้ยนี่จะมีประโยชน์อะไรนอกจากไว้ให้พวกมึงด่ามันลับหลัง กุไม่รุ้จะคุยอะไรอีกต่อไปแล้ว กุควรลีฟกรุ้ปมั้ยวะ หรือปล่อยไว้แต่ไม่เข้าไปอ่าน แม่งเอ้ย ทำไมวะ ทำไมกุต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
กุกลายเป็นตัวร้ายเลยดิ เวลาประเมินไอ้เหี้ยนั่นจะได้เล็งมาที่กุเลยสินะ กุทำเยอะที่สุดแท้ๆ เอาเลย มีเหี้ยอะไรโยนมาที่กุได้เลย ตอนทำงานขออย่าเจอพวกมึงอีกก็พอ ต่อไปกุจะแค่ส่วนกุกับส่วนรวมให้ดีพอ พวกมึงเชิญอุ้มส่วนของมันไปเลย ฟวย
เวลาแบ่งงานกัน ถ้าทำอะไรไม่ได้จริงๆก็แค่บอกตรงๆว่าทำไม่ได้ ไม่ทำ ไม่ใช่บ่ายเบี่ยงหาเหตุผลมีแต่น้ำไม่มีเนื้อมาอ้าง แล้วไม่ตอบตรงๆว่าทำได้หรือไม่ได้ มันเสียเวลา กุต้องตรัสรู้เองไหมว่ามึงจะทำหรือไม่ทำ
รู้ว่าเพื่อนชอบตัวเองที่สดใสเหมือนที่เข้ารร.มาแรกๆ สดใสแบบเปนบ้า พูดเพราะหัวเราะคิกๆทั้งที่จริงๆกุไม่ได้ขำไรหรอกหัวเราะไปงั้นแหละเดี๋ยวมึงกร่อยเอาเล่นมุกแล้วไม่มีใครขำ พอเป็นตัวเองมากเข้าเอาซะนึกถึงประโยคอย่าเป็นตัวเองเลย เป็นใครสักคนที่ดีกว่านี้เถอะ ก็เลยอยากเปลี่ยนตัวเองขึ้นมาแม้ที่ตัวกุเป็นจะไม่ได้ผิดไรเลยก็ตาม แค่พูดน้อยขึ้น เงียบๆขึ้นห่ามขึ้น ไม่ค่อยสนไรเท่าไหร่ เลยรู้ว่าชิบหาย งี้เพื่อนจะมองกุยังไง เพื่อนจะเข้าหากุยังไง สุดท้ายถ้ากุไม่เปลี่ยนกุก็ไม่มีเพื่อน
ปรับตัวไม่ทันว่ะ จู่ๆ พวกเพื่อนกูก็หันมาคุยเรื่องเยๆ ใต้สะดือกันซะงั้นว่ะ
ถ้ามึงมีเพื่อนคนนึงที่คบกันแต่เด็ก แต่ยิ่งโตทัศนคติยิ่งไปกันไม่ได้ ควรเลิกคบดีมั้ยอะ แบบมันก็รู้จักกันตั้งแต่อนุบาลแล้ว แต่พอจะเรียนจบคือขัดได้ทุกอย่าง คนอื่นจะทำอันนี้ก็ไม่ดี อย่างนี้ก็ไม่ได้
กูไม่เขื่อเรื่องเวรกรรมแล้วว่ะ เห็นเพื่อนที่เคยบูลลี่จนกูเกือบอยากจบชีวิตแม่งได้ดีทุกคน มีแต่คนรัก ไปเป็นดาราบ้าง ได้ไปอยู่ต่างประเทศบ้าง แต่ทิ้งรอยแผบให้กูไว้จนผ่านมาห้าหกปีแล้วยังรักษาไม่หายต้องกินยา ชีวิตกูเริ่มเหี้ยลงเพราะสุขภาพจิต/ม่ดีจากพวกมัน แต่พวกมันกลับได้ดิบได้ดี ไม่เห็นยุติธรรมเลย ไอ้เหี้ยเอ้ย
>>173 มึงก็เลิกจมกับเรื่องเก่าๆ ใช้เวลาหาสิ่งดีๆให้ชีวิตตัวเองสิวะ จะสนใจคนเหี้ยที่เคยทำร้ายชีวิตมึงทำหอกอะไร จะขึ้นสวรรค์ลงนรกก็ช่างหัวมันสิ กุก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าคนเราจะมีความสุขตลอดทั้งชีวิต มันก็สุขบ้างทุกข์บ้าง มีวันเหี้ยๆบ้างนั่นเเหละ แค่มึงไม่รู้ หรือถ้ามึงรู้มึงคงต้องเป็นเหาฉลามเพื่อนเก่ามึงอ่ะ
>>173 เข้าใจมึงเลย วันนี้กูอายุ31แล้ว ความคิดเรื่องการโดนบุลลี่สมัยเรียนไม่เคยออกไปจากหัวกูได้เลยว่ะ มีแต่ความรู็สึกว่ามันไม่ยุติธรรรม ทำไมวันนั้นกูถึงไม่ยอมสู้เพื่อตัวเองเลย อะไรทำนองนี้ ส่วนพวกบุลลี่ป่านนี้มันคงลืมกูไปหมดแล้ว มีแต่กูที่เห็นชีวิตพวกมันตามโซเชียล ครอบครัวซัพพอร์ต ส่งไปเรียนนอก ให้ทุนทำธุรกิจ การงานดีๆ มีเพื่อน มีคนรัก ในขณะที่กูเป็นพนักงานกินเงินเดือนชนเดือน ไม่มีเพื่อนซักคน
กูเคยโดนบูลลี่ตอนเด็กๆ ตอนโตนี่ทำอย่างกูสนิทกะมึง 555 มีการมายืมตังกูด้วย สาดดด
นี่คิดถูกมากที่ตอนเรียนมัธยมฮึดสู้ตอนโดนแกล้งเพราะไม่มีเพื่อนจากรร. ประถมเดียวกันในห้องและในตีกเรียนเดียวกันเลย โดนให้นั่งคนเดียว ไม่รับเจ้ากลุ่มทำรายงาน ถูกเมิน บลา ๆ
หลังจากฮึดสู้ครั้งเดียว ทุกอย่างจบ แต่กลายเป็นคนที่ดูแรงในสายตาเพื่อนไปเลย ทั้งที่นิสัยจิงหงิม ๆ 🙂 จากนั้นจนมหาลัย ทำอะไรก็ดูแรงไปหมด ทั้งที่ในใจคือร้องไห้แล้ว
ง่ายๆนะ ถ้ามึงใช้ชีวิตเพื่อตัวเองจริงๆ มึงแทบจะไม่ต้องไปคิดเลยว่าใครที่บุลลี่แม่งจะดีหรือตายห่ายังไงให้สมใจมึง
มึงแคร์พวกบุลลี่ขนาดนั้นทั้งๆที่รู้อยู่ว่ามันไม่ได้แคร์อะไรเราแม่งนํ้าเน่าพอๆกับไปรักข้างเดียวเลยสัส
กูก็โดนบุลลี่หนักๆมา6ปีเต็มๆ โดนแบน โดนแกล้งสารพัด จนกูก็ยังกลัวสังคมถึงทุกวันนี้ แต่กูก็ไม่ได้ไปคิดอะไรมาก กูแทบจะลืมด้วยซํ้าว่าเกิดอะไรขึ้น คนแกล้งชื่ออะไร กูไม่จําเลยแล้วลืมไปจริงๆด้วย กูจําสิ่งที่เป็นบทเรียนกับกูและสิ่งที่ดีๆทีรเกิดขึ้นกับกูในช่วงร้ายๆก็พอ แล้วกูก็ก้าวต่อไปหาสังคมใหม่ๆ หางานหาการ หาเป้าหมายจึดหมายในชีวิตใหม่ๆดีกว่ามามัวคิดไรไร้สาระหว่ะ
>>181 ไอสู้ไม่สู้ในฐานะโดนบุลลี่ บอกเลยบางทีแม่งอยู่ในจุดที่สู้ไม่ได้ สู้ไปแล้วไม่ได้อะไรก็มี เพราะมันไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามึงโดนแกล้งอ่ะบางที แล้วสิ่งที่โดนแกล้งในตอนนั้นมองว่าเป็นเรื่องปกติด้วยซํ้า ครูมองว่าเด็กเล่นกัน เพื่อนมองว่าแค่แกล้งสนุกๆขําๆ ถ้ามึงเอะอ่ะว่าโดนแกล้งจริงมันจะทําให้มึงกลายเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งจริงแล้วมึงจะโดนแบนจากแค่ทั้งห้องการเป็นทั้งชั้นเรียนหรือทั้งโรงเรียน หรือถ้ามึงโต้กลับด้วยความรันแรงบางทีมึงจะโดนมองว่าเป็นฝ่ายที่เลวแล้วมันจะไม่จบแค่การทำโทษหลังจากนั้นมึงก็จะโดนรุมแกล้งอีกเพราะมึงคือคนเลวคนแกล้งมึงคือจะเป็นคนดี
ของกูโดนบุลลี่ด้วยวาจาและการdiscriminationล้วนๆ แม่งทําได้แค่เฉยๆใส ไม่ให้ไฟมันประทุไปกว่านี้ และกูพยายามทําตัวให้ไม่เหมือนโดนแกล้งด้วย แต่ถ้าถึงจุดที่ลํ้าเส้นแบบโดนบังคับไปทําอะไรปญอกูก็ด่ากลับเหมือนกัน แต่แม่งก็จะโดนห้องแบนไป
แม่งเหมือนทําสงครามการทูตอ่ะ หน้าหี ซึ่งกูก็ต่อมหาลัยสายรัฐศาสตร์IRไปซะด้วยเลยสัส
>>181 นั่งคนเดียวแฮปปี้ดี ส่วนเรื่องกลุ่มรายงานถ้าหากลุ่มไม่ได้ไปคุยกับอาจารย์ ขอทำคนเดียว ยืนยันมั่นเหมาะจนอาจารย์รับปาก งานออกมาเลิศปุ๊บเนื้อหอมเลย แต่อันนี้พื้นฐานเราตอนสอบเข้าคือดีนิดนึงแล้วก็แรงฮึด
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด ช่วงพัก พวกผู้ชายกลุ่ม ๆ พวกผู้หญิงที่แบนเรามันมานั่งโต๊ะข้างหลังละสะกิด ๆๆๆ หลัง ถูกดึงสายเสื้อชั้นใน (ซึ่งเราใส่เสื้อซับนะ) กับดึงผมหางม้าด้วย นี่หันไปฟาดเลย 🙂 เขวี้ยงฟุตเหล็กเฉาะหัว เอาสมุดหนังสือฟาดใส่ทุ่มใส่ แล้วก็ร้องไห้ ประมาณว่ากลัวมาก กดดัน ทำไปเพราะกลัว ป้องกันตัว อิผู้หญิงก็คืออึ้งกริบ ละพวกห้องอื่น/อาจารย์ได้ยิน เรื่องใหญ่อยู่
ยังไงดีล่ะ คือเราคงโชคดีด้วย จังหวะเวลา กับความเป็นเด็กเรียน เรียบร้อย ในสายตาพวกอาจารย์ละมั้ง
ให้กำลังใจเพื่อนโม่งนะ เรื่องจิตใจคือบอกได้แค่เข้มแข็งไว้ เพื่อนมัธยมไม่มีไม่ตายหรอก จิง ๆ แต่ถ้ามีการลงไม้ลงมือ ยังไงก็ควรบอกผู้ใหญ่นะเว่ย มือถือเอาปุ่มอัดเสียงอัดวีดีโอมาไว้ปุ่มลัดละกดปุ่มอัดรัว ๆ เลย
>>187 ไม่ได้หมายถึงมุง หมายถึง>>173 พวกที่จบมานานละแต่ยังหลอนเรื่องวัยเรียน อยากจะบอกว่ามูฟออนได้ก็ดี
ส่วนถ้ามึงเรียนอยู่มันก็ต้องคิดดิวะไม่งั้นก็อยู่ไม่รอด เรื่องครูอ่ะเข้าไปคุยตรงๆเลย แบบผมขอทํางานคนเดียวเข้าใจครับว่าครูอยากให้เรียนรู้การทํางานเป็นกลุ่ม อยากให้มีสังคมรู้จักคน แต่คือผมโดนเพื่อนบุลบี่และมองว่าการออกมาทํางานคนเดียวมันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ปัญหาหารบุลบค่ไม่ได้แก้กันง่ายๆโดยการจับพยานามให้คนมันดีกันเข้าใจกันนะครู งั้นในฐานะที่ผมมาเรียนจะเก็บคะแนนด้วยเหตุจำเป็นจริงๆขอทําคนเดียวเลย
ไม่อธิบายให้มันชัดเจนครูจะไปรู้มั้ยหล่ะ แล้วครูไปยั่งจุ้นจ้านอะไรที่มันทําให้มึงโดนบุลลี่ทาวอ้อทก็บอกอธิบายให้ครูฟังไปเลย บอกให้ละเอียด ครูมันก็คนๆหนึ่ง ไม่ได้ฉลาดเข้าใจสังคมขนาดนั้น
ถ้ามึงเลือกที่จะอยู่ให้ได้คนเดียว มึงก็ต้องช่วยเหลือตัวเองเรื่องเรียนให้รอดให้ได้หว่ะ
พอเพื่อนหาเพื่อนใหม่ได้แล้วกฌแทบไม่คุยกับกูอีกเลยนอกจากมันต้องการอะไรสักอย่างจากกู กูเองก็อยากหาเพื่อนใหม่บ้างแต่หาไม่ได้เลย...
พวกมึงมีเพื่อนสมัยเด็กๆ แบบประถม อนุบาลที่ไม่ค่อยคุยกันเลยปะตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย มหาลัย แต่มาคุยทีเหมือนเอาเรื่องดีๆของตัวเองมาทับถมเรา มากดเราเหมือนว่า กูเจออะไรดีๆกว่ามึงนะ มีเมียที่รวยกว่ามึงนะ กูแต่งนิยายเหมือนมึงแต่กูได้เงินเป็นหมื่นนะ (ทั้งที่กูไม่ได้ขายนิยาย แค่แต่งเล่นๆให้คนอ่าน) กดว่าออกจากมหาลัยแล้วหาทำงานรวยๆ ได้เงิน ไม่เรียนให้เสียเวลา เพื่อนเก่าๆแบบนี้มันเป็นกันทุกคนไหม หรือเพราะกูไม่ค่อยเถียงแค่ฟังแล้วก็ทำเป็นดีใจด้วยตามน้ำ คนเลยชอบมาทำแบบนี้กับกู
Ky.หน่อยกุไม่ค่อยเล่นไอจีอะเเล้วทีนี้เห็นสตอรี่เพื่อนคนนึง(ไม่ค่อยสนิท)มันเป็นสีเขียวกุเลยทักไปถามเค้าว่าตั้งกุเป็นโค้ดเฟรนเหรอเค้าก็ตอบว่าใช่ เเล้วพอกุกลับเข้าไปดูคือมันเป็นสีส้มล่ะเเสดงกว่าเค้าถอดกุออกจากโค้ดเฟรน(โค้ดเฟรนคือให้เห็นเฉพาะคนสนิทงี้ปะ)เท่ากะเหมือนกลัวกุมาเผือกเค้าเหรออย่าด่ากันนะกุเล่นไม่ค่อยเป็น T_T
อยากมูฟออนจากกลุ่มเพื่อนเหี้ยว่ะ แต่นอกจากพวกมันก็ไม่มีกลุ่มเพื่อนอื่นเลย หาใหม่ก็หาไม่เป็นเพราะกูเองก็ไม่ใช่คนเข้าสังคมเก่งอยู่แล้วด้วย
กุเกลียดนิสัยอวดดีของตัวเองอ่ะ อยากแก้ให้จบๆ ตัวเองก็ทำงานกลุ่มเยอะชิบหายแล้ว แต่พอจะแบ่งงานเสือกเกรงใจบอกถ้าทำไม่ได้เดี๋ยวเราทำเองก็ได้นะ แล้วเป็นไง จบที่กุทำเองทุกรอบ ทั้งๆที่ในใจคืออยากช่างแม่งแล้วแบ่งๆหน้าที่ไป มึงจะติดควยไรทำไม่ได้เหี้ยไรไม่ใช่เรื่องที่กุต้องรู้ ที่กุรู้มีอย่างเดียวคืองานมึงเสร็จไหม ถ้าไม่เสร็จงานช้าติดนู่นบลาๆ ความผิดอยู่ที่มึง แต่กุทำไม่ได้สักที; ;
สุดท้ายพอแบ่งงานให้ไปทำ เห็นสภาพงานภาพในหัวกุขึ้นภาพทักษิณตอนพูดว่าทำไมคนเรามันดักดานได้ขนาดนี้ เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมมึงคิดเองไม่ได้ หรือจิตนาการมึงกว้างไกลไป กับแค่คำง่ายๆมึงคิดเองไม่ได้ว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับงานที่เราทำอยู่ เสือกเอาไปโยงตอบเหี้ยไรไม่รู้ เหมือนกุทำรายงานเกี่ยวกับเวทมนต์คาถาของไทยสมัยโบราญ แต่มึงเห็นแค่คำว่าเวทมนต์แล้วไปเอาข้อมูลฝั่งยุโรปแบบก็อปวางมาแปะให้อ่ะ ทำไมเรื่องแค่นี้มึงคิดไม่ได้วะ ถ้าแค่อ่านข้อมูลที่กุส่งไปให้อ่านแบบตั้งใจอ่านไม่ใช่อ่านผ่านๆก็น่าจะเก็ทไหมวะ
ละดักดานไม่พอแม่งโง่ชอบเถียงกุ มึงดูดีๆก่อนค่อยเถียงค่อยสวนกุก็ได้มั้ง
ถ้ามึงมีความคิดครีเอทีฟมากก็ไปทำงานคนเดียวจ้า รูปแบบงานมันต้องเป๊ะใช้ภาษาเป็นทางการ รูปแบบการย่อหน้า ฟอนต์ ขนาด ถ้ามึงจะใส่เหี้ยไรปัญญาอ่อนฟรุ้งฟริ้งมากก็ไปทำงานคนเดียว
กูแคร์มึงทุกอย่างเลยนะ กูกังวลเสมอเลยว่าจะพูดหรือเผลอไปทำำตัวอะไรไม่ดีกับมึง กูแคร์ความรู้สึกมึงมาก กูรู้ว่ามึงชอบที่โดนใส่ใจ แต่มึงน่ะ ไม่เคยใส่ใจคนอื่นเลย บางทีเหมือนจะใส่ใจ บางทีก็ไม่แคร์เหี้ยไรใครทั้งนั้นอยากพูดอะไรก็พูด ไม่พอใจอะไรก็แสดงออกมาทั้งที่เรื่องที่มึงเคืองไม่ได้เกี่ยวกับกูซักนิด กูก็ไม่จำเป็นต้องแคร์มึงแล้วเหมือนกัน
เพื่อนกุ แก้งาน โดยไม่บอกกุ ทำไมไม่บอก นี่มันงานกลุ่มไม่ใช่อ่อ ถ้าจะแก้อะไรก็ควรบอกไหม ละแก้มาละผิดละส่งแล้วด้วย กุเห็นละกุมขมับเลย รู้งี้กุทำเองซะให้จบๆไอ้เหี้ย ครีเอทีฟมากมึงไปทำงานคนเดียวนะ
>>203 กูรําคานทั้ง2ประเภทเลย ไอที่ระเบียบเกินชห กับพวกเน้นตกแต่งไร้สาระ
เนื้อหางานสิวะ Matter สุด แน่นอนกูไม่เคยมาบ่นเรื่องงานกลุ่มในโม่งหรอกเพราะกูออกมาทําคนเดียวก่อน คนจริงไงไอชิบหาย รําคานพวกบ่นๆลับหลังชิบ บ่นมากมึงก็ออกมาเองจะไปไล่เขาออกในเว็บโม่งไมนิ Sigma Grindset Thinking อ่ะ กูนี่มันทั้งหล่อและเก่งจริงๆหว่ะแม่ง เห้อ
>>198 กูไม่รู้ว่ามึงคือประเภทเดียวกับเพื่อนกูคนหนึ่งเปล่านะ แบบงานมันจะจบด้วยการที่มันเหนื่อยทํางานคนเดียวตลอด เพราะมันไม่รู้ตัวว่ามันสั่งงานคนในกลุ่มไม่เป็น คือมันเป็นคนที่กระตือรือร้นเรื่องงานกลุ่ม เลยเหมือนต้องรับกรรมดูแลเป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่ในความเป็นจริงคือมันไม่รู้ตัวว่ามันไม่ปรึกษาใครเลย หรือแบ่งงานให้คนอื่นทําไม่เป็น ถ้ามึงอยากจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ต้องมีภาวะผู้นำหน่อย ต้องใช้คนให้เป็นถึงคนในกลุ่มมันจะไม่ได้เรื่อง ถ้าโยนงานโดยมีการสั่งอย่างละเอียด เค้นให้มันทําเรื่อยๆงานมันก็จะเดินเอง หรือถ้าหนีหายก็ต้องเรียกมาคุยหรือปลดออกจากกลุ่ม
ไม่ใช่เก็บปัญหาเอามาทําคนเดียว เพื่อนทําไม่ได้ก็เอามาแก้คนเดียว คือความรู้สึกของเพื่อนในกลุ่มบางคนมันก็เฟลๆนะว่าแบบเหมือนเราถ่วงกลุ่มเปล่า ทําไมโดนแก้ หรืออย่างกูก็คิดว่าไมไม่มาปรึกษากับกูหรือเพื่อนบ้าง
คือใช้ให้มันไปแก้งานเองเลยอย่าไปกลัวดิวะ สมมุติมันเขียนมาสั้นก็บอกเลย กูขอข้อมูลเยอะๆ เอามาจากหลายๆเว็บ สั่งให้มันเข้าใจถึงการทํางานที่เราต้องการดิวะ หรือถ้ามึงไม่สะบายใจจริงๆขี้เกียจแก้ปัญหาก็ทิ้งกลุ่มมาทําคนเดียวยังจะดีซะกว่า กูก็เคยทํากับกลุ่มที่แม่งกากเกินงานไม่เดิน
แล้วคือน่าหงุดหงิดที่แม่งเป็นคนขี้เกรงใจคน แต่มึงขี้เกรงใจผิดประเด็นจนไม่มีภาวะผู้นําซะงั้นอ่ะ ถ้ามึงไม่ใช่คนประเภทนี้ก็ขออภัย
และพวกที่ทํางานกลุ่มเก่งๆ กูบอกเลยหนีไปต่างประเทศเหอะ สังคมการทํางานไทยก็มีพวกงี่เง่าแบบนี้เยอะ มึงต้องเล่นบทโหดงานถึงจะมีประสิทธิภาพ แล้วก็จะจบด้วยการที่คนไม่ชอบมึง ถ้ามึงไม่เจ้ากี้เจ้าการ พยายามใจดีแล้ว มีนก็ไม่เคยดีขึ้นหว่ะ กลายเป็นคนในทีมติดเล่นเกิน ไม่มีความproductive
ปสดชิบหายคนไทย
>>207 อือ ขอบคุณมากโม่ง กุว่าเป็นที่กุสั่งงานแบ่งงานไม่เป็น กับไม่กล้าสั่งด้วยแหละ เสือกเกรงใจเหี้ยอะไรโง่ๆแบบที่มึงบอกจริงๆนั่นแหละ และกุไม่ได้อยากเป็นหัวหน้ากลุ่มด้วย แต่กุเคยแบ่งงานให้คนนึงแล้ว กุส่งข้อมูลให้แล้ว คือมันสามารถเข้าไปดูข้อมูลที่กุส่งแล้วทำงานต่อได้ง่ายๆเลยไม่มีไรมาก งานไม่ได้ยาก แต่พอกุภามเรื่องงานมันกลับตอบกุว่าไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ก็คือมันไม่ได้ทำ ทั้งที่เป็นงานแบบฟอร์มที่แค่ให้เอาข้อมูลไปกรอกเฉยๆ ไม่ใช่งานเขียนรายงาน และข้อมูลกูก็ส่งให้แล้วแต่บอกไม่รู้ว่าทำยังไง กุพลาดตรงกุดันตัดปัญหาโดยการบอกว่าเดี๋ยวทำเองเพราะมันผ่านมาหลายวันแล้ว กุรอไม่ได้แล้ว แทนที่กุจะย้ำให้มันทำเรื่อยๆหรือกำหนดเส้นตายว่ามึงไม่ทำไม่ได้ ถ้างานไม่เดินเป็นความผิดมึง เสือกออกตัวโง่ๆบอกจะทำเอง เลยได้ทำเองยาว เพื่อนอีกคนขอไม่ทำไม่ช่วยงานเพราะตัวเองใช้โทรศัพท์ทำงานไม่ถนัด กุก็เสือกโง่อีก บอกโอเค ไม่เป็นไร ไม่ต้องทำ ทั้งที่จริงๆถึงไม่ถนัดมึงก็ต้องทำอยู่ดี นี่เป็นงานกลุ่มมึงจะไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ สรุปคือกุควรเด็ดขาดกว่านี้ถูกป่ะ แล้วแบ่งงานให้ดีๆอย่าไปเกรงใจเรื่องโง่ๆไม่งั้นงานมึงลำบากกว่าเดิม อะไรผิดอะไรถูกต้องบอกตรงๆ กุว่าปัญหาจริงๆของกุคือการแบ่งงานไม่กล้าทักไม่กล้าจี้เนี่ยแหละ แต่กุก็แอบคิดแย่ๆไม่ได้ว่าเหมือนมึงไม่เคยทำงานกันมาก่อนเลย ทำอะไรไม่เป็นเลย ไม่คิดจะทำงานบ้างหรอ แต่งานคืองาน จะเอาความเกรงใจความเป็นเพื่อนมาทำให้งานลำบากไม่ได้ กุจะพยายามปรับปรุงตัวโม่ง ขอบคุณมาก อาจจะแปลกๆแต่กุว่ากุดีแล้วนะที่มาระบายในโม่งเพราะส่วนมากเจอคนแบบมึงอ่ะมาตอบกุ ว่ากุทำตัวเหี้ยยังไงผิดตรงไหนตรงๆ กุเอาปัญหากุไปเล่าให้คนอื่นฟังไม่ได้ เพราะถึงจะฟังได้แต่ไม่รู้ว่าเขาจะกล้าติกุไหมว่ากุผิดตรงไหนควรทำยังไง ขอบคุณมึงอีกครั้งโม่ง คราวหน้ากุจะทำงานกลุ่มแบบเซียนๆละ มั้ง ถ้ากุไม่กลัวจะมีปัญหาหรือไม่มีใครคบอ่ะนะ
>>209 ของมึงน่าจะเจอพวกเหี้ยขี้เกียจด้วย แม่งต้องเผด็กการถึงจะยอมทํางานกัน
และบอกเลยถ้ามึงขึ้นเป็นหัวหน้าที่จี้งานสั่งงาน เสียเพื่อนหรือมีปัญหาบ้างแน่ๆอ่ะ ทําใจไว้ ทางที่ดีมึงควรไปหากลุ่มอื่นอยู่ดีกว่า กูก็เลิกเป็นละหัวหน้ากลุ่มอ่ะ ไปหากลุ่มที่มันproductiveเอา ทํางานได้อย่างสบายใจดีกว่า
สำหรับกุถ้าทำงานกลุ่มแล้วต้องจี้ต้องสอนขนาดนั้น กุทำเองดีกว่าเหนื่อยน้อยกว่าเสร็จเร็วกว่าไม่หัวเสียด้วย
ไม่ใช่ว่าพอแยกย้ายไปคนละมหาลัยแล้วเลิกคุยกันแชตร้าง พวกมึงแค่ไปตั้งกลุ่มใหม่ที่ไม่มีกูเฉยๆนี่นา...
กูจะไม่ทำงานกับพวกมึงอีกแล้ว แชตไม่เคยอ่าน งานไม่เคยคิด ปัญหาไม่เคยแก้ คุยงานช้าจนกลุ่มอื่นได้หนังสืออ้างอิงไปหมดไม่เหลือถึงกูอีก อิดอก สั่งงานมาสองเดือนพึ่งสำนึกเหรอว่าควรโผล่จากหลุมมาได้แล้ว พวกมึงรอดตัวไปนะที่เรียนออนไลน์ ถ้าออนไซท์แล้วเหี้ยแบบนี้คือเจอกูจิกหัวถึงที่ไปแล้ว
ทำงานจับคู่ แต่ห้องกูจำนวคนคือเลขคี่ และกูคือเศษคนเดียวที่เหลือ วะฮะฮ่า
การที่เพื่อนคนนึง Ignore ไม่คุยไม่ฟังและเมินกู แต่ยังทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกันอยู่นี่คือมันต้องการอะไรวะ?
ทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยอย่างของอร่อย vs ของชอบ แล้วแม่ง mute กูเลย
>>223 >>224
เป็นสองแบบรวมๆ กันว่ะ คือตอนนี้ทำเป็นไม่สนใจกูเลย นั่งหัวโด่อยู่ก็จะเรียกข้ามหัวไปเลย ไปทำอะไรเป็นกลุ่มก็จะไม่มีชวนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้ากูจะไปด้วย แต่หลักๆ คือทำเป็นเหมือนกูเป็น No one ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนทั้งที่รู้จักกันมาเกือบ 10 ปีละ
แน่นอนว่ามันยังคุยกับคนอื่นปกติ แต่ชอบแบบลากคนโน้นคนนี้ไปคุยไกลๆ กูเลยรู้สึกเหมือนโดนกีดกันจริง
ลืมบอกนะว่านี่คือกลุ่มเพื่อนผู้ชายด้วยกัน
อยากได้เพื่อนคุยอนิเมะ
จับโม๊คควยแม่งเลย หลังจากนั้นแหกดากมันเอาควยสอดเข้าๆออกๆแล้วน้ำแตกใส่หน้าข่มขู่มันไปว่าอย่าเมินกู ไม่งั้นจะเจอแบบนี้อีก
พอเรียนคนละคณะเหมือนห่างจากเพื่อนขึ้นเรื่อยๆเลยว่ะ ตอนนี้รู้สึกเหมือนจากเพื่อนสนิทกลายเป็นเพื่อนเฉยๆแล้ว ถ้าไม่ทักไปก่อน นอกจากเวลามันไม่เรื่องให้กูช่วยก็แทบไม่เคยทักมาเลย เพื่อนใหม่ก็หาไม่ได้ เรียนออนไลน์แม่งหาเพื่อนยังไงวะ
กูสมัยเรียนเนิร์ดๆ เรียนอย่างเดียว ไม่มีเพื่อนเลย แต่พอเรียนจบมีงานมีการดีๆ ทำ โพรไฟล์สวยหน่อย คนเข้าหาเพียบเลยว่ะ แม้แต่เพื่อนที่ป๊อบๆ ที่สมัยเรียนเข้าไม่ถึงก็ยังมา ถึงจะรู้ว่าเข้าหาเพราะหวังคอนเน็คชั่นก็เหอะ แต่ก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยก็ไม่จืดจางเหมือนเมื่อก่อนแล้ว TT พูดเก่งขึ้นด้วย อาการขนลุกตอนคุยกับคนแปลกหน้าเริ่มน้อยลง
รำคาญชิบหายที่บ้านก้ถามจะเรียนต่อไหนทุกวัน เพื่อนก้ยังเสือกมาถามกันอีก ถามทำเหี้ยไรกันวะ พวกมึงยังไม่ชอบให้คนอื่นถามเลยแล้วมาถามกุทำเหี้ยไร อึดอัดชิบหาย
กุเบื่อทำงานกลุ่มชิบหายไอเหี้ย มหาลัยช่วงออนไลน์แม่งก็สั่งแต่งานกลุ่ม กลุ่มที่กุอยู่แม่งก็มีแต่คนคอยเกาะ มีกันอยู่สิบกว่าคนคุยงานจริงอยู่2-3คนรวมกุด้วย กุไม่อยากแบกแล้วแต่คะแนนกุก็อยู่กับงานแม่งเนี่ย ทำไมจารย์ไม่สั่งงานเดี่ยวไปเลยวะ
ออกมาทําเดี่ยวดิวะ บ่นทําไม มันยากเรอะ เหนื่อยน้อยกว่า หัดเจรจากับอาจารย์บ้างว่าขอทําคนเดียว ก็จบละ
พวกที่บ่นๆคือไม่กล้าออกมาทําคนเดียวเพราะจจกากป่ะ
>>228 อย่ามีเลย มึงโตขึ้นมึงจะรู้ว่าหาคุยแบบไม่มีตัวตนในโม่งในดิสในเว็บบอร์ดดีกว่า เป็นเพื่อนจริงๆกูเจอหลายคนละทุกอย่างจะเป็นอนิเมะคุยได้ทั้งวันแบบน่าปวดหัว คือกูชอบเหมือนคนชอบดูหนัง อนิเมะเป็นแค่Part of my life not my whole fucking existence แต่ถ้ามึงติดเมะหนักๆไปมีเพื่อนคุยก็อาจจะดีก็ได้ แต่กูว่าแม่งเยอะเกิน
พวกโอตาคุแม่งมันจะไม่หยุดคุยอ่ะสัส เนี่ยกูกําลังจะมาบ่นพอดีสัสเด้ย คือกูไม่ได้ชอบด้อมมันแต่มันจะมาขายด้อมห่าไรไม่รู้ แบบแนวฟุโจชิชอบกันอ่ะ แต่กูไม่ใช่ฟุ คือกูก็อ่าๆอืมๆตอบกลับเป็นมารยาทมันทําให้หอนั่นคงคิดว่ากูชอบด้อมมันมั้ง หรือเพื่อนมันคนอื่นไม่ตอบมันมันเลยมาคุยกับกูเยอะๆคนเดียวเหรอวะ ตอนหลังกูอ่านไม่ตอบแล้วยังพิมมาอีก อวดเว้นท์อวดกาชาโพ่งมึงใครถามห่ะ
>>236 >>237 แม่งเป็นโปรเจคใหญ่สิบกว่าคนอะดิ สเกลงานมันทำคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว แต่คนสั่งงานแม่งสั่งงานไม่ดูเลยว่าสภาพเด็กเรียนออนไลน์เป็นยังไง คนไม่ช่วยแม่งก็ไม่หือไม่อือจริงๆ รอรับงานตอนแบ่งอย่างเดียวทั้งๆที่งานส่วนที่หนักสุดคือตอนระดมความคิดกับประชุมงาน กุเหนื่อยกับการที่พูดถามไปไม่มีคนตอบ ต้องคอยถามว่าได้ยินมั้ยใครก็ได้ตอบที ห่าราก ถ้าจะเข้าประชุมแต่ไม่คิดจะออกความเห็นแบบนี้มึงจะมาทำพระแสงไรวะ พอแบ่งงานไปแม่งก็เอาแต่ถามไม่ก็ทำออกมาสั่วๆเหมือนเด็กทำ กุหัวจะปวด แม่งไม่ใช่เด็กๆแล้วนะเว้ย
>>240 คือกูทําเดี่ยว งานโปรเจคกลุ่ม10คน30คะแนนอ่ะ เพราะเป็นแบบที่มึงว่าเลย จะมาประชุมทําเหี้ยไรไม่มีใครเสนอ กูเลยเดี่ยวเลย ทุกอย่างมันเดี่ยวได้ถ้าใจมึงถึง ถึงตอนทำวิทยานิพนธ์ก็ต้องทําคนเดียวอยู่แล้ว งานกลุ่มแค่นี้มันก็เดี่ยวได้
แต่พ้ามึงประเมินแล้วว่าทําเดี่ยวแล้วจะเหนื่อยกว่า ก็เผด็จการใช้คนเถอะ อย่าไปแคร์นํ้าใจเหี้ยไรกับพวกนี้ มันเคยแคร์นํ้าใจเราที่ไหนหล่ะ ขู่ไปเลย มึงไปหาอันนี้ๆมา ให้ระเอียดไม่นะเอียดมึงไปหามาใหม่ หาไม่ผ่านกูตัดชื่อ ยังไงก็โดนเกลียดอยู่แล้วแต่พวกนี้ยังก็ต้องมาพึ่งบุญบารมีเราอยู่ แคร์เหี้ยไร
แบ่งห้องนอน 8 คน 2 ห้องห้องล่ะ 4 คน กูเป็นเศษเพราะเพื่อนเอาคนที่แม่งไม่เข้ามานอนอยู่เเล้วแน่ๆ มาแทนห้องจะได้ว่างแต่กูต้องไปนอนกับอีกกลุ่มแทนกูจะไม่ว่าอะไรนะถ้ามึงบอกกูก่อนอ่ะ ไอ้เหี้ยอันนี้มาดูรายชื่อกูไม่มีห้องอยู่เฉยเลย โอเคเลย ถ้าบ้านกูมีเงินกูก็ไปเยู่หอนอกแม่งล่ะ หอในแม่งฟรีอีก โอ้ย ไม่เป็นไรกูจะได้ไปอยู่กับอีกกลุ่มแล้วก็ออกจากกลุ่มเหี้ยนี้ไปเลย ควย
เบื่อคนผิดนัดจังเลยหว่ะ กูผิดนัดใส่แม่งละดีกว่า
หรือกูควรออกจากกลุ่มแม่งเลยดีวะ
มีเพื่อนใหม่แล้ว กูไม่จำเป็นกับมึงแล้วสินะ
กู >>10 เอง ปากบอกจะมูฟออนแต่ตอนนี้คิดถึงมันอีกแล้วว่ะ ยังหาคอนแทคไม่ได้เลย เพื่อนตอนประถมกูไม่เหลือใครให้ติดต่อได้เลย
อีกใจนึงกูต่อให้ติดต่อได้จริงๆกูก็กลัวว่ามันอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ กูติดภาพสมัยประถมอยู่เลยแถมมันก็ผ่านมานานมากๆแล้ว มันจะรำคาญกูไหมวะ กูเคยบอกต่อให้เจอแล้วไม่สนิทก็ไม่เป็นไร แต่เอาจริงๆก็อยากกลับไปสนิทกับมันอีก มึงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของกูจริงๆ ไม่มีเพื่อนที่จริงใจกับกูเท่ามึงแล้ว
งง มึงคิดถึงเพื่อน ก็ดีแล้วหนิ
ใช่ มันอาจจะฟังดูเศร้า กับการคิดถึงคนที่ไม่ได้เจอกันแล้ว แต่มึงลองมองอีกด้านนึง อย่างน้อยมึงก็มีความทรงจำดีๆให้คิดถึง
ลองฟังเพลงนี้ดู :) https://www.youtube.com/watch?v=9JXm73C0DvI
เพื่อนที่บ้านรวยแม่งไม่เคยเข้าใจกูที่ไม่ได้มีจะกินเลยอ่ะ เพื่อนกลุ่มนี่นัดกันถ่ายรูปรับปริญญา นัดกันก่อนที่กูจะได้งานทำ แล้วมันทิ้งช่วงนาน ทีนี้กูได้งานทำแล้ว เงินไม่เยอะมาก แล้วถ้าลางาน=หักตัง วันที่นัดกันกูต้องทำงาน กูเลยบอกไปไม่ได้ ไม่อยากลางาน ไม่อยากโดนหักเงินนั่นแหละ อีเพื่อนคนนี้ก็ด่ากูว่าเงินแค่นี้จะไรนักหนา แล้วก็พูดกดดันกู หาว่ากูไม่อยากถ่ายรูปเฉยเลย แล้วก็ด่ายันที่ทำงานว่าเหี้ยไรแบบนี้ พูดให้ลาออกจากงาน พูดไรชุ่ยๆอ่ะ แล้วอีคนพูดนี่คือนอนอยู่บ้านเฉยๆไม่ได้ทำงานก็มีพ่อแม่เลี้ยง เห้อ
กุโคตรเบื่อเพื่อน แม่งชอบเกทับ ชอบบลัฟกุชิบหาย เวลากุพูดไรแล้วมันผิด หนือถุกก้ช่างเหอะ แม่งจะเถียงๆๆๆจะชนะกุให้ได้ เหมือนแม่งหงุดหงิดกูตลอดเวลา ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ที่เป็นเพื่อนกูมันอยากเป็นเพื่อนกูจริงๆไหม หรือคบให้พอผ่านๆพอมีเพื่อนบ้าง โคตรน้อยใจ เหมือนมันอยู่กับคนอื่นแล้วยิ้มเยอะหัวเราะมากกว่าตอนอยู่กับกู กุโคตรเกลียดตัวเองที่ไม่เส้นตื้นหรอหัวเราะกับมุกทั่วๆไปเลย กูอยากหัวเราะบ้าง กูอยากเป็นคนที่เพื่อนอยู่ด้วยแล้วสนุกบ้าง กูเคยถามว่ารักกู อยากเป็นเพื่อนกับกูจริงๆไหม มันไม่ตอบเลย มันึกๆอักๆ ไม่ตอบกู กูโคตรเฟล กูอยากมีเพื่อนดีๆบ้าง ขอแค่คนเดียวที่รู้สึกอยากเป็นเพื่อนกับกูจริงๆ กูขอได้ไหมซักคน ทุกวันนี้เหมือนเป็นแค่เพื่อนที่เอาไว้ทำงานกลุ่มหรือแดกข้าว หรือไปเที่ยวกันเฉยๆ
หลังจากเรียนจบ กูตั้งกฏให้ชีวิตว่าเพื่อนคนไหนเวลานัดแล้วมาเลท(โดยไม่มีเหตุผลที่ดี+ไม่บอกล่วงหน้า)
และกูเตือนแล้ว คุยแล้วว่ากูให้ความสำคัญเรื่องเวลามาก อยากให้มาตรงเวลา
ใครเลทสองครั้งกุเลิกคบ
ตอนนี้กุอายุ30 ไม่มีเพื่อนเหลือแม้แต่คนเดียว 55555
ก็ดี ไอ้พวกเหี้ย บาร์ต่ำแค่นี้ยังรักษาไม่ได้กุไม่คบให้เสียสมอง เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวเป็นเพื่อนก็ได้
>>252 คือกุอยากเป็นแบบนั้นบ้าง อยากลองอยู่คนเดียวบ้าง แต่กุคงทำไม่ได้ มันมีเรื่องผลประโยช เรื่องเรียนเข้ามาบ้างแหละ แต่กุก้รักเพื่อนกุนะ ระกแบบจริงๆ แต่บางครั้งแม่งก็เบื่อบ้างเพราะต้องเทคแคร์พวกแม่งจัดๆ จนบางครั้งก็เป็นกุที่เสียใจตลอด กุอยากอยู่คนเดียวบ้างอย่กสบายใจ อยากไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวเพื่อนจะโกรธ อยากที่จะไม่ต้องแกล้งว่ากุชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร อยากพูดออกมาว่าความจริงแล้วกุชอบในสิ่งที่พวกแม่งไม่ได้ชอบ บางครั้งกุก้ต้องพูดเรื่องที่ไม่สบายใจออกมา เพื่อนให้บทสนทนามันไปต่อได้ตลอด
หลายๆคนก็คงฝืนตัวเองเพื่อจะมีเพื่อนเหมือนกันหมดสินะ กุนึกว่ากุเป็นคนเดียวพอมาโม่งเจอเต็มเลยสัส55555 ฝืนชอบนู่นชอบนี่ทั้งๆที่กุไม่ได้ชอบแต่เพื่อนในกลุ่มชอบกุก็ต้องชอบตามเพื่อให้มันไหล ไม่ติดขัด กุต้องคอยฟังคนอื่นพูด แต่ไม่เป็นไร โดยส่วนตัวกุชอบฟังคนอื่นพูดหรือเล่าต่างๆถึงแม้กุไม่เข้าใจแต่กุก็เต็มใจที่จะฟังนะ สนุกดี แต่พอกุจะพูดบ้างกลับไม่มีใครฟังกุเลยสักคน เลยกลายเป็นคนอื่นก็ไม่รู้จักกุจริงๆสักคน เวลาคุยเรื่องๆนึงกันก็คิดว่ากุไม่เข้าใจ ทั้งที่กุเข้าใจดี กุตาม กุชอบด้วย แต่ไม่ใช่กุไม่เข้าใจหรอกมึงอ่ะไม่เข้าใจกุ คิดไปแล้วว่ากุต้องไม่รู้จีกแน่ๆทั้งที่กุรู้จักดี ตอนกุเล่าไม่รู้จักฟังบ้างล่ะไอ้สัส ละบางเรื่องความคิดไม่ตรงกันกุก็ไม่อยากขัดเพราะยาวแน่ บางเรื่องได้แต่อือๆออๆไป แต่ความจริงมึงกับกุมองกันคนละมุมคนละจุดเลยสัส จะไปขัดก็ไม่ได้อีก เสือกเป็นพวกเชื่อมั่นในความรู้สึกหีแตดไรไม่รู้ ซึ่งกุไม่เก็ท แบบ กุบอกว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณ มันก็จะบอกว่าเป็นเพราะจริงๆแล้วน้องเขาอ้างว้างโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีใครมอบความรักความอบอุ่นให้ชีวิตน้องเขา น้องเขาหว่าเว้เหมือนโลกเป็นสีเทาไร้สีสันมาตลอก เขาเลยต้องหาใครมานอนด้วยทุกคืนๆ ถ้าเป็นนี่ นี่ก็จะทำเหมือนกันนะ แต่กุมองยังไงก็สัญชาตญาณกระต่ายมันสืบพันธุ์ตลอดเวลาอยู่ละ แต่กุก็ไม่เถียง มันจะมองมุมนั้นก็เรื่องของมัน แต่บางเรื่องกุก็รำคาญ บางเรื่องมึงไม่ได่ผิดก็เอาแต่บอกว่า เราไม่โทษใครหรอก เราโทษตัวเองดีกว่า ไม่ได้ทำให้มึงดูดีขึ้นมาเลยสัส ในสายตาคือมึงโง่ล้วนๆไม่สู้เพื่อตัวเองทั้งๆที่มึงไม่ได้ผิดเหี้ยไรเลย ได้แต่อยู่ใต้ตีนเขาเพราะคติไม่โทษใครโทษตัวเองนีาแหละอีเหี้ย
ก่อนจะบ่นเพื่อนเรื่องมาเลท มึงช่วยดูสภาพการจราจร ระบบขนส่งสาธารณะ ประเทศไทยหน่อย
กูไปยืนรอรถเมล์ สายเดียวกัน แต่ละวัน ยังมาช้าเร็วไม่เท่ากัน บางวันรอ 5 นาทีก็มาละ บางวันรอครึ่งชม.งี้
รถก็ติดสัสๆ เพราะผังเมืองออกแบบมาได้ส้นตีน ถ้าอยู่ญี่ปุ่น ยังบ่นได้นะเรื่องมาเลท เพราะทุกอย่างเค้าเป๊ะ
แต่มึงอยู่ไทย หรือ กทม. ก็ให้อภัยเพื่อนหน่อยเหอะ / แค่อยากมาแชร์มุมมองแค่นั้น จะคิดแบบกูรึเปล่าก็แล้วแต่มึง
ถ้าโดนเพื่อนเลิกคบเพราะมาเลท ทั้งที่กูไปเลทเพราะยืนรอรถเมล์นานชิบหาย เหนื่อยก็เหนื่อย แดดก็ร้อน ฝุ่นก็เยอะ พอไปถึงที่หมายแล้วยังโดนเพื่อนบ่น แถมวันนึงเลิกคบอีก กูก็คงไม่แคร์อ่ะ อยากเลิกคบก็เลิกไปดิ เพราะดูเหมือนเพื่อนที่เลิกคบกูจะมองอะไรแคบๆสัสๆ
เพื่อนกูแม่งน่ารำคาญชิบหายเลยว่ะ ชอบบ่นๆๆว่าตัวเองไม่มีใคร ไม่มีเพื่อนแท้สักคน แล้วทุกคนก็โอ๋แม่ง(รวมถึงกูด้วย)
บางวันกูเจอวันเหี้ยๆทำงานหนักๆโดนด่ารัวๆ กำลังดาวน์สัสๆ แม่งก็ทักมาปรึกษาเรื่องงอนเมียเพราะเมียไม่สนใจทำไงดี
ซึ่งเมียไม่ยอมโอ๋มันเพราะเมียมันก็ทำงานหนักจนหมดแรงโอ๋เหมือนกัน ส่วนมันยังไม่เคยทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง
เลยยังไม่รู้ว่าทำงานจริงๆแม่งเหนื่อยขนาดไหน
คือสภาพจิตใจกูแม่งจะตายห่าอยู่ละ ก็ต้องมานั่งฟังดราม่าของแม่งที่ไม่ได้มีส้นตีนอะไรที่หนักหนาเลย เสียดายเวลาพักผ่อนชิบหาย
ล่าสุดแม่งโพสแชทคุยกับเพื่อนอีกคนว่าไม่มีใครแคร์ ไม่มีเพื่อนเลย มีไอ้เพื่อนที่คุยแชทด้วยเป็นเพื่อนอยู่คนเดียว นึกมั่ยออกจิงจิงว่าตัวเองมีคัยบ้าง
แล้วกูนี่คืออะไร ทักมายืมเงินกูตลอดทุกเดือน กูโอนให้แทบจะทันที ส่วนนึงเป็นเพราะก่อนหน้านั้นมันก็คืนตามวันที่บอกจริงๆ
มีล่าสุดนี่คือหายเงียบ จนกูเองก็ชักจะกัดก้อนเกลือเหมือนกัน ทำงานมากก็หนัก ต้องหาเงินให้มึงใช้เหรอเนี่ย
ตอนแรกกะว่าจะทักไปบอกว่าของรอบล่าสุดไม่ต้องคืนก็ได้เพราะเห็นมันดูลำบากๆ
แต่พอเห็นแม่งโพสว่าตัวเองไม่มีใครแคร์สักคน ไม่มีเพื่อนแท้เรยยยย กูเลยเปลี่ยนใจไม่ทักไปบอกละ ไปหาเงินมาคืนกูให้ได้ละกัน เซ็งสัส
บางคนแม่งก็ควรเช็คสภาพตัวเองก่อนน้อยใจหน่อยนะว่านิสัยเป็นยังไง เพื่อนมันถึงน้อยอะ
>>259-2560 งั้นถามแบบนี้ ปกติมึงไปทำงานสายรึเปล่า ก็ไม่สายถูกมั๊ย
หรือถ้าสายก็นานๆที ไม่ใช่ว่าสายทุกครั้งที่นัด นั่นหมายความว่าถ้ามึงคิดว่ามันสำคัญ มึงก็จะคิดเผื่อเวลาล่วงหน้า
วางแผนให้สามารถไปทัน
การรักษาเวลาเป็นการให้เกียรติขั้นพื้นฐานสุดๆแล้วที่มึงจะทำให้กับคนอื่น
การจราจรมันเหี้ย แต่ไม่ใช่สาเหตุที่มึงจะทำตัวกากๆกลืนคำพูดตัวเอง นัดห้าโมง มาจริงหกโมงงี้
นอกจากจะไม่ให้เกียรติเพื่อนมึงแล้ว แม้แต่คำพูดตัวเองมึงยังไม่เห็นความสำคัญเลย จะโทษแต่ฟ้าฝนปัจจัยภายนอก มันบ่งบอกว่ามึงเป็นคนห่วย ไม่มีความรับผิดชอบ พ่อแม่ไม่สั่งสอน หรือสอนแล้วมึงไม่จำ
ซึ่งกุก็เข้าใจและยกผลประโยชน์ให้จำเลยประมาณนึง อย่างที่กุเขียนว่าถ้าสาเหตุฟังขึ้น(แบบมึงน่ะฟังไม่ขึ้น) หรือแค่โทรมาบอกว่าวันนี้จะมาเลทหน่อย ติดนั่นนีก็ว่าไป กูไม่เคยโกรธ
กูโกรธแต่พวกเหี้ยที่ปล่อยให้เพื่อนที่รักษาเวลาต้องรอไปเรื่อยๆและไม่รู้สึกผิดอะไรเลย แถมมาทำตัวหน้าหีตีโพยตีพายว่าคนที่ไปตรงเวลาแบบกูเรื่องมากนี่แหละ
โป้ง ไม่คุยด้วยแล้ว ลงชักโครกไป ชิ่วๆ
+++หรือแค่โทรมาบอกว่าวันนี้จะมาเลทหน่อย ไม่ใช่ปล่อยรอจนเลยเวลานัดไม่พูดเหี้ยไรสักอย่าง คนรอมันรอแบบรอไม่ไปไหนอะ เหนื่อยที่จะรอ ถ้าบอกมาเลทเท่านี้ๆก็ยังหาไปทำอย่างอื่น
มันมีประเภทที่จะไปไม่ตามนัดแน่ๆหลายคนในชีวิตกู พอถามก็บอกตื่นสาย(แบบตั้งใจ) ไม่ได้ตั้งใจมาตามเวลาอยู่แล้วแบบนี้ กูยังจำขึ้นใจว่า กูโง่มาเร็วทำไมยังไงคนอื่นก็มาช้าอยู่ดี กูโคตรโกรธ
>>262 "มึงเป็นคนห่วย ไม่มีความรับผิดชอบ พ่อแม่ไม่สั่งสอน หรือสอนแล้วมึงไม่จำ" ... ไหวปะมึง กูไปสายนิดเดียว ถึงกับไม่มีความรับผิดชอบ พ่อแม่ไม่สั่งสอน 55555 เก็บกดป่ะเนี่ย
"โป้ง ไม่คุยด้วยแล้ว ลงชักโครกไป ชิ่วๆ" ... จ้า เหยียดเก่ง
เอาจริงๆนะ จากประสบการณ์ การรอรถเมล์ในกทม. มันเหี้ยจริงๆ แล้วถ้าสาเหตุนี้ฟังไม่ขึ้นสำหรับมึง ก็เรื่องของมึงเหอะ โลกหมุนรอบตัวเองเนอะ
กูมีเพื่อนคนนึง คอนโดอยู่ใกล้จุดที่นัดมาก ในขณะที่คนอื่น ต้องมาไกลชิบหาย แล้วก็ชอบโดนอินี่บ่นเรื่องมาสาย
ตัวเองมีพริวิเลจดีกว่าคนอื่น แล้วยังไม่รู้จักมองความลำบากของคนอื่นอีก
ส่วนมึง กูไม่รู้ว่าชีวิตมึงเป็นยังไง แต่จากคำพูดมึงที่เหยียดคนอื่น ตามที่กูโควตมา ต่อให้มึงมึงเป็นคนตรงต่อเวลา แต่ดูท่าแล้ว ก็คงจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ปากจัด โลกหมุนรอบตัวเอง มองมุมแคบๆ เห็นแต่มุมตัวเอง ไม่มี emphathy คนแบบมึง กูก็ไม่อยากคบหรอก แล้วทำเป็นบอกว่าตัวเองเลิกคบคนอื่นที่มาสาย เคยลองคิดย้อนกลับมั้ย ว่าคนอื่นก็อาจจะอยากเลิกคบมึงเหมือนกัน / ฝากไว้ให้คิส
เฮ้อ พิมพ์ด่าเสร็จแล้ว ก็รู้สึกว่ากูจะด่ามึงไปทำไม และ กูจะโกรธที่มึงด่าทำไมวะ
เอาเป็นว่ากูขอโทษละกัน กูเข้าใจคนที่รอคนอื่นนานๆ ว่ามันหงุดหงิดแค่ไหน แต่กูก็อยากบอกมุมมองของคนที่เคยไปสายบ้าง เรื่องรถเมล์นี่เหี้ยจริง นอกเจากเรื่องปัจจัยรอรถเมล์ ในชีวิตแต่ละคนก็อาจมีปัจจัยอื่นๆอีก อย่างกูก็มีเหตุผลอื่นๆ แต่ไม่อยากพิมพ์มาก เดี๋ยวเพื่อนกูมาอ่านแล้วรู้ว่ากูคือใคร
ก็ลองคิดพิจารณาดูเอง สิทธิ์ของมึง ว่ามึงจะตัดสินเพื่อนอย่างไร บางคนอาจจะมีเหตุผลดีๆที่มาสายก็ได้ และบางคนก็อาจจะเหี้ยจริง กูก็ไม่รู้
ที่กูด่ามึงไป ขอยกเลิกคำด่า ส่วนที่มึงด่ากู ไม่ต้องเป็นห่วง กูไม่สนใจละ
ยัง ยังไม่สำนึก
ยังมีหน้ามากระแนะกระแหนเพื่อนพริวิเลจ มีคอนโดใกล้
ปัญหาของสำหรับมึงคือไม่รู้จักประเมินเวลาในการเดินทางของตัวเอง
ถ้ามึงต้องเดินทางโดยรถเมลล์ รู้ว่ามันเหี้ย มันกะเวลาลำบาก มึงก็ต้องออกเร็วขึ้น ไม่ก็เลือกนัดเวลาให้มันเย็นกว่าเดิม
ไม่ใช่ทำอะไรตามมีตามเกิด กุจะออกเวลานี้ เลทก็เรื่องของเพื่อนมัน ให้มันรอไปดิไอ้พวกมีพริวิเลจ อุแว้ๆ
กูไม่ขอโทษ กูยอมรับว่ากูด่าเอามันส์และไม่มีเอมพาตี้ใดๆให้กับคนอย่างมึง ที่ไม่มีความรับผิดชอบในชีวิต ในคำพูด ในสัญญา ในการนัดหมาย ในการให้เกียรติคนอื่น อยากเถียงอะไรก็เถียงมา มันมีแต่ขุดหลุมฝังความโหลยโท่ยของมึงให้ลึกขึ้นเท่านั้นแหละ
ถ้ามึงจะโทษแต่การจราจรไทยกับการไปนัดเลท มึงอาจจะยังไม่ได้ทำงานรึเปล่า เพราะไม่มีลูกค้า ไม่มีพาทเน่อ ไม่มีเพื่อนร่วมงานดีๆคนไหนจะมาสนใจคำแก้ตัวโง่ๆของมึงหรอกนะ นัดเวลาไหนก็ต้องเวลานั้น มึงไปหาวิธีเอาเองให้มาตามนัดได้
ถ้าทำไม่ได้ ก็จบ ไม่มีใครรอมึงหรอก ไม่ต้องทำงาน นอนอยู่บ้านไป อย่างที่กูบอก ถ้ามึงคิดว่ามันสำคัญ มึงจะหาวิธีไปตามนัดได้ แต่ถ้ามึงคิดว่าไปเลทก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร นี่คือการไม่เคารพเวลาคนอื่น ถือว่าหน้าหี
ซึ่งถ้ามึงมีเหตุผลดีๆจะใช้แก้ตัวในการมาเลท อย่างที่กูบอกไป ถ้าเป็นเพื่อนกูกูก็พร้อมจะรับฟัง
อะ ต่อให้เป็นเหตุผลเหี้ยๆ กูก็ยังรับฟัง ถ้ามันติดต่อมาบอกกู เช่น รอรถเมลล์อยู่ว่ะ เบทซักสามสิบนาทีนะเพื่อน
ไอสัส แค่นี้ก็จบ กูอาจจะขุ่นเคืองใจบ้างแต่กูก็รับได้นะ แค่นี้คนรอบตัวกูก็ให้กูไม่ได้ มีแต่พวกคิดแบบมึงที่ไม่เคยเห็นหัวคนรอ ปล่อยให้รอไปเรื่อยๆจนกูต้องโทรถามมันเองว่าถึงไหนแล้ว กูต้องรออีกนานแค่ไหน
ไอ้อีคนไหนที่ชอบไปเลท กูจะฉาบมึง
ตายไปกูก็จะไม่ไปเกิด กูจะเป็นผีมาคอยหลอกพวกมึง
แฮร่รรรรรร
คนอื่นมาอ่าน ก็คงรู้เองอ่ะ ว่าใครบ้า 55555
มาสาย ไม่มีความรับผิดชอบก็ถูกแล้ว
อะไรของมันอะ เหมือนจะสำนึกว่าตัวเองผิด แต่บอกฉันไม่ผิดนะ ไหวไหมเอ่ย?
นี่สินะ การมีเหตุผลแต่ไม่สื่อสารดีๆ สารก็ไปไม่ถึงผู้รับ
แต่กูไม่ได้มาปรับความเข้าใจกับใคร และกูก็รู้ว่าวันนี้มึงไม่สนใจคำพูดของโม่งไม่มีเทือกเถาเหล่ากอแบบกูอยู่แล้ว
กูแค่มาเพื่อเป็นเครื่องจักรด่า ด่าเพื่อระบายอารมณ์กูเอง และด่าเพื่อให้เสี้ยวคำด่านึงของกูมันแอบเกาะเข้าไปอยู่ในสมองคนเหี้ยๆแบบมึง
แล้ววันนึงเมื่อความไม่รักษาเวลาของมึงย้อนกลับมาทำร้ายชีวิตมึง
หรือวันนึงมึงโตขึ้น มึงเจอผู้คนมากขึ้น แล้วเจอคนที่ไม่รักษาเวลามาฉุดรั้งขามึงไม่ให้มึงใช้ชีวิตในความเร่งที่มึงต้องการ
วันนั้นตะกอนคำด่าของกูจะช่วยสะกิดมึงเองว่าที่มึงคิดในวันนี้มันช่างเห็นแก่ตัว ช่างไร้เดียงสา และจะได้เริ่มพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นผู้เป็นคน ไม่เอาแต่โทษปัจจัยภายนอกที่มึงควบคุมไม่ได้
ถ้ามึงจะรอให้ประเทศชาติเจริญ การจราจรไทยดีเหมือนญี่ปุ่นก่อน ให้สังคมโอบอุ้มโอ๋ๆมึงก่อนมึงถึงค่อยปรับปรุงตัวได้ มึงก็รอชาติหน้าเหอะว่ะ
สนุกดีว่ะ กุไปเปิดเพจด่าคนต่อดีกว่า
โคตรเกลียดเลย คนที่รู้ว่าจะมาสายแต่ไม่เสือกบอก สมัยเรียนโดนอินังนึงนัดแล้วเลทตลอดทั้งที่มันเป็นคนนัดเป็นคนระบุเวลา พอเรียนจบมาแม่งมาบ่นว่าคนนั้นคนนี้เลทอย่างนั้นสายอย่างนี้ แถมด่าไม่ได้ กูเลยบอกว่าเหมือนมึงสมัยเรียนไง ให้กูรอเป็นชั่วโมง กรรมตามทันมึงแระ ยินดีด้วย
แค่บอกว่ารถเมล์ไม่มาเลยมึงกูคงสายสักครึ่งชม. นะ ขอโษที ไลน์บอกประโยคนึงโทรกริ๊งนึงจะตายห่าเหรอ ไม่เข้าใจ
>>268 ขอโทษนะ แต่กุมาอ่านแล้วคนที่เป็นผีบ้าก็มึงนะ กุเห็นด้วยกับการตรงต่อเวลา และถ้ามาเลท ให้ทักมาบอกหรือโทรบอกกุจะได้เอาเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่น เช่น ซื้อของแดกรอ เดินดูนู่นนี่นั่น ทบทวนแผนการเดินทางว่าไหนไปไหน อยากทำไรส่วนตัวไปทำก่อน กุจะได้แฮปปี้ ไม่หงุดหงิดคนที่มาเลทขนาดนั้น เพราะกุก็ได้ใช้เวลาส่วนตัวของกุไปด้วยพลางๆระหว่างรอมันมา
>>274 >>275 กูมีพิมพ์บอกตรงไหนหรอ ว่าเวลากูไปสายกูไม่ได้โทรบอกเพื่อน ไปไล่อ่านทุกบรรทัด แล้วแคปมาให้กูดูทีซิ
อีเจ้าของเมนต์คนแรกที่ด่ากูเยอะๆ มันสรุปเอาเอง ว่ากูไม่ได้โทรบอกเพื่อน แล้วก็ด่ากูเอามันส์
แล้วที่กูบอกรถเมล์ไทย มันมาช้าบ้าง เร็วบ้าง นี่กูพูดผิดตรงไหนเอ่ย
ใครบอกเรื่องตรงต่อเวลากูทำไม่ได้ มึงคิดว่ากูไปสายทุกครั้งเวลาที่นัดกับคนอื่นหรอ
ที่กูจะสื่อคือ สมัยเรียนบางครั้งกูไปสาย แต่มันสายเพราะรถเมล์แม่งไม่มาซะที และมันคือเรื่องจริง
>>253 แต่ต้นเรื่องมันคืออันนี้ไม่ใช่หรอโม่ง ในวงเล็บบอกว่า"โดยไม่มีเหตุผลที่ดี+ไม่บอกล่วงหน้า" = เรากำลังคุยกันถึงคนที่มาเลทแบบไม่มีความรับผิดชอบ ไม่นึกถึงใจคนที่รออยู่ไม่ใช่หรอ แล้วถ้ามึงไม่ได้เป็นแบบนั้น มึงโทรบอกเพื่อนตลอดทุกครั้งที่มึงไปสาย ถ้ารถเมย์มาช้าจริงๆแบบที่ถึงกะเวลาไว้แล้วก็ไม่ทัน เท่ากับ มึงไม่ใช่คนที่โม่งคนนี้บอกไม่ใช่หรอ หรือมึงเป็นพวกที่ไม่ได้กะเวลา ตื่นตามใจชอบ เหลืออีก10นาทีค่อยไปรอรถเมย์ตามเวลาหรือเลทนิดหน่อยเป๊ะๆ ทั้งๆที่รู้ว่ารถเมย์ไทยมันเป็นไง และรู้ว่าตัวเองเลทแน่ๆแต่ขก.โทรบอกเพื่อนและคิดว่า แค่นี้เอง ไม่เป็นไร เอาความสบายใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง และไม่รู้สึกผิดกับคนที่รอ ถ้ามึงไม่ใช่คนแบบนั้นกุว่ามึงไม่ต้องตามดิ้นตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ก็ได้นะ มึงอาจจะหมกมุ่นกับโม่งมากไป มึงลองปิดโม่งสักวัน2วันแล้วหาอะไรทำดูไหม ทั้งหมดที่กุอยากพิมพ์มีแค่นี้ ถ้าทำให้มึงไม่ถูกใจหรือมึงคิดว่ากุก็ยังไม่ตรงประเด็นสักทีก็ขอโทษด้วย กุขอพิมพ์แค่นี้แล้วจบไม่มาต่ออะไรแล้วล่ะ เสพโม่งมากๆแม่งรู้สึกแย่ด้วย55555
>>277 เท่าที่อ่าน มึงก็เข้าใจใช่มะ ว่าการที่รอรถเมล์แล้วไม่มาซะที มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
แต่มึง ลองไปอ่าน >>262 ดูนะ กูแคปมาให้ด้วย ---> "ซึ่งกุก็เข้าใจและยกผลประโยชน์ให้จำเลยประมาณนึง อย่างที่กุเขียนว่าถ้าสาเหตุฟังขึ้น(แบบมึงน่ะฟังไม่ขึ้น)"
นี่พูดถึงเรื่องประเด็นรถเมล์มาช้า อีเจ้าของเมนต์มันยังไม่พยายามเข้าใจ และด่ากูอยู่เลยมึง
อ้อ ถามว่ารถเมล์แถวบ้านกูมาช้าขนาดไหน ก็คือกูเคยมารอรถเมล์จะไปโรงเรียนตั้งแต่ 6:30 น. แล้ว 7:30น. รถเมล์ยังไม่มาเลยจ้า วันนั้นน่าจะมา 7:45 มั้ง กูก็คือไปโรงเรียนสายอ่ะ
แล้วกูเคยนั่งรถเมล์กลับบ้าน หลังเลิกเรียน รถติดก่อนจะถึงบ้าน เกือบ 2 ชม. นี่คือเรื่องจริง การจราจรในกทม. มันส้นตีนขนาดไหน
อ้อ และขอบคุณที่เป็นห่วง ตอนแรกก็จะไม่ตอบแล้ว มึงเห็นมั้ยว่ากูไม่ตอบอีเจ้าของเมนต์นั้นแล้ว เพราะกูไม่อยากคุยกับคนที่ชอบด่าคนอื่นเอามันส์แบบนั้น
แต่นี่มาตอบ เพราะมีบางเมนต์เข้าใจกูผิด เลยมาเคลียร์ให้ชัดเจนแค่นั้นแหละ
กูก็แค่อยากจะมาเสนอมุมมองนี้บ้างในตอนแรก แต่อีเจ้าของเมนต์เดิมก็ยังไม่เข้าใจ และด่าสาดเสียเทเสียกูดังในคอมเมนต์ >>262
^ บรรทัดสุดท้าย พิมพ์เกินนะ ว่าจะลบแล้วไม่ได้ลบ 555
เอามาแปะ เผื่ออีเจ้าของเมนต์นักด่าที่บอกว่าการรอรถเมล์นานเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และผู้ที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่รอรถเมล์นานเป็นอย่างไร จะมีความเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นบ้าง
กระทู้พันทิป "ร้องไห้เพราะรอรถเมล์นาน" https://pantip.com/topic/37772284
เฮ้อ อะ กูสรุปประเด็นสั้นๆให้
- กูบ่นถึงเพื่อนที่มาเลท+ไม่ติดต่อมาบอกว่าจะเลท
- มึงสไลด์หน้าเข้ามาบ่นเรื่องรถเมล์ ซึ่งกูก็ไม่ได้ว่าอะไรการจราจรไทยมันก็เหี้ยจริงๆ
- มึงบ่นว่าคนที่ไปตรงเวลาแล้วบ่นคนเลท = ใจแคบ > กุเริ่มขึ้นตรงนี้แหละ
- ไอ้เรื่องเหตุผลฟังขึ้นฟังไม่ขึ้นน่ะ กูหมายถึง
1. ถ้าโทรบอกกูว่าจะเลท จะสาเหตุห่าเหวอะไรก็ได้ กูโอเค รถเมลล์รถอีแต๋นไม่มา ได้เรย มมปห
2. ถ้าไม่โทรบอก สาเหตุที่ฟังขึ้นคือธุระด่วนจริงๆ อุบัติเหตุ อะไรแบบนี้ ถ้าสาเหตุจากรถเมล์ช้าอะฟังไม่ขึ้น
- มึงพาลไปเรื่องเพื่อนมึงที่ไปตรงเวลาว่ามีพริวิเลจดีกว่า เหี้ยไรอีกก็ไม่รู้
- สุดท้ายมึงโทษทุกอย่างรอบตัวแต่ไม่คิดซักนิดเลยว่าความผิดในการมาเลทน่ะเป็นของมึงคนเดียวนะ มึงจะแถยังไงรถเมล์หรือพันทิพก็ไม่มารับผิดชอบแทนมึงหรอกว่ะ
จะแคปก็แคปให้หมดสิวะ ปะถ่อ
"ซึ่งกุก็เข้าใจและยกผลประโยชน์ให้จำเลยประมาณนึง อย่างที่กุเขียนว่าถ้าสาเหตุฟังขึ้น(แบบมึงน่ะฟังไม่ขึ้น) หรือแค่โทรมาบอกว่าวันนี้จะมาเลทหน่อย ติดนั่นนีก็ว่าไป กูไม่เคยโกรธ"
มาช่วยสรุป จากคู่กรณี
- มึงบ่นว่าคนที่ไปตรงเวลาแล้วบ่นคนเลท = ใจแคบ > กุเริ่มขึ้นตรงนี้แหละ
แก้เป็น กูพูดถึงคนที่เลิกคบคนมาเลทโดยที่ไม่ฟังเหตุผลคนมาเลท ว่า ใจแคบ
- "ถ้าโทรบอกกูว่าจะเลท จะสาเหตุห่าเหวอะไรก็ได้ กูโอเค รถเมลล์รถอีแต๋นไม่มา ได้เรย มมปห"
กูอ่านแล้วไม่เคลียร์ เข้าใจว่ามึงหมายถึง การมาเลทเพราะรถเมล์ว่าฟังไม่ขึ้น
แต่มึงพิมพ์แบบนั้น เพราะมึงก็เข้าใจผิดว่า กูเป็นพวกไม่โทรบอกเพื่อนที่มาเลทด้วย
ซึ่งก็เป็นความผิดกูเอง ที่ไม่พิมพ์บอกให้ชัดเจน แถม เสร่อมาคอมเมนต์ ทั้งที่มึงตั้งใจบ่นคนที่ มาเลท+ไม่ติดต่อว่ามาเลท
- เรื่องพริวิเลจ ก็คือจะสื่อถึงคนที่บ้านใกล้จุดนัด แล้วบ่นคนที่บ้านไกล แล้วเจอปัญหาต่างๆเช่นการรอรถ
- มึงแน่ใจว่ารถเมล์มาช้าเป็นความผิดกู? ใช่กูต้องรับผิดชอบการไปสายคนเดียว แต่ความผิดกูคนเดียวมั้ย กูว่าไม่ มันเป็นความผิดของระบบขนส่งสาธารณะและการจราจรที่ส้นต้นของกทม.ด้วย
- มึงน่าจะเพิ่มในสรุปของมึงด้วยนะ ว่ามึงด่ากูเอามันส์แค่ไหน เพราะมันสะท้อนนิสัยของมึงอ่ะ
- สุดท้ายนี้ ขอโทษเรื่องที่ กูเสือกมาตอบ โดยไม่ดูให้ดีว่ามึงพูดถึงคนที่ มาเลท+ไม่ติดตว่ามาเลท
จบ คืนมู้สู่มู้คุยเรื่องเพื่อน เรียนเชิญโม่งคนต่อไปเปิดประเด็นใหม่
>>283 ได้ ย้ำให้อีกทีก็ได้ว่ากุด่าเอามันส์
มันคือความเก็บกด ความเคียดแค้นทุกคนที่ไม่รักษาเวลา ตั้งแต่เพื่อน ครูบาอาจารย์ หัวหน้า ลูกน้อง หมอผิวหนัง หน่วนงานราชการ รถเมล์ แม่ง เหี้ยกันไปหมดทั้งสังคม
ใครเห็นด้วยกับการไม่ตรงต่อเวลาที่ไหน กูก็จะตามไปด่ามัน เราอาจจะได้เจอกันอีกในโซเชียลมีเดียอื่น 5555555
จบจ้ะ คืนพื้นที่
การเลิกคบเพื่อนในชีวิตจริงหมดทำให้กูกลายเป็นคนเก็บกด กลายเป็นชาวเน็ตทอกสิกแบบนี้นี่เอง อาา
เบื่อคนประเภทที่แบบ ตอนต้นเทอมมานินทาเพื่อนในงานกลุ่ม ว่าทีมแย่งู้นงี้ แต่พอเรียนทำงานด้วยกันสักพัก ก็รู้สึกว่ามึงก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับทีมเยอะนักหนาเลย เหมือนติดนิสัยพอทำไม่ได้ก็ชอบผลักภาระมาให้คนอื่นทำแทนตัวเอง โยนหินถามทางไปงั้นๆ คือกูยอมรับนะว่าตัวเองก็ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มที่ดีเท่าไหร่ งานชุ่ยมั้ยก็มีบ้าง มีปัญหาอะไรก็ไม่ชอบไปคุย แต่กูก็พยายามเสนอไอเดีย เวลามันมาถามเรื่องงาน ฟังแล้วมันก็บอกไม่ใช่ แต่มันไม่เคยแชร์ความคิดมันเลย แล้วกูจะรู้มั้ยอะ
ละทุกครั้งที่บอกว่า ช่วยหน่อยดิ คือให้ทำให้หมดเลย มันไม่ทำแล้ว
แต่พอกูมีข้อที่มีปัญหากูดำน้ำเองไง มันก็ทำท่าไม่พอใจที่งานคุณภาพแย่
ล่าสุดมีพรีเซ้น คะแนน/ม่ค่อยดีแต่ผ่านนะ นางเล่นใหญ่มาก ขยุมหัว ทำท่าเครียด เพราะตอบคำถามครูไม่ได้ กูก็ตอบไม่ได้ แต่นางพึ่งมาทำสไลด์พรีเซ้น 1 ชม ก่อนเวลาพรีเซ้น คือมึงก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเยอะไปกว่ากูเลย กูทำสไลด์เสร็จก่อนมันอีก แต่ไม่ได้ซ้อม แต่งงว่าจะมาทำท่าไม่พอใจอะไรของมันวะน่ะ
ละอีกเรื่องพวกเด็กมหาลัยมันเป็นห่าอะไรต้องบอกว่าติดงานวิชาอื่นวะ คิดว่าคนอื่นเรียนวิชาเดียวทั้งเทอมมั้ง แบ่งเวลาทุ่มเทให้พอๆกันเหอะ ไม่ใช่บอกว่าติดงานวิชาอื่นเลยทำงานส่วนนี้ไม่ได้ งี้คะแนนวิชานี้ไม่เอาก็ได้มั้ย เพราะกูแบกไม่ได้หรอกนะแค่ ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย
>>285 มีด้วยหรอวะ อีสัดกูโคตรพ่อโคตรแม่เกลีๅยดคนมาสาย กูนัดตอนบ่ายเพื่อรอมึงตื่น มึวกินข้าวแล้ว ยังจะมาสายอีก เพื่อนสนิทกูก็มีคนนึง ตอนนี้คบไปงั้นๆแต่กํไม่นับเป็นเพื่อนสนิทละ นัดกี่ทีมาสายตลอด กูไม่อยาก hangout กับมัน แค่มาให้ตรงเวลายังทำไม่ได้ชีวิตมึงไปได้ไม่ไกลหรอก อน่ามาอ้างขนส่งเหี้ยไรเลย นัดกันสยาม มึงอยู่กรุงเทพ กูอยู่รังสิต ยังไปก่อนมึงเลย อีควาย
เผื่อเวลารอแล้ว แต่รอรถสาธารณะนานกว่าปกติ แล้วบอก เลทก็เข้าใจได้นะ
แต่พอกูบอกกูออกแล้วนะ แล้วบอกกำลังซักผ้าอยู่ เดี๋ยวไปอาบน้ำ ละยังต้องมารอรถเมล์อีกเนี่ย ตั้งใจเลทนี่หว่าอีห่า เลทเป็นชั่วโมง โมโหแต่ก็ขี้เกียจทะเลาะกับเพื่อน แม่งก็ไม่รู้สึกผิดเลยที่ให้กูนั่งรอเป็นชั่วโมง เวลานัดกูก็ให้มึงเลือกเวลาที่มึงสะดวกแท้ๆ
เรื่องมาสายประทานโทษนะคะ กูเมื่อวานที่ตอบไป กูเคยรอสามชม.ร้องไห้จ้า กูเผื่อเวลาแต่กูก็โทรไปบอกเพื่อนว่ารถยังไม่มาเลย ปัจจุบันชินละ กูก็ต้องเกินสามชั่วโมงตลอด กูไม่เคยไปสายอีกเลย แอปบอกพิกัดรถก็มีนาจา แต่ไอเพวกอยู่ใกล้ๆแล้วทำห่านู้นนี่นั้นมาสายโดยสันดาน หรือไม่รู้จักเผื่อเวลาอ้างรอประเทศพัฒนามึงสายไปแล้ววร้อยปี สัส
กูขอบ่นหน่อยไหนๆก็พูดละ บ้านกูอยู่ไกลเวลาออกจากบ้านตีสี่ตีห้าเพื่อมาเรียนเช้า เห็นไหมกูก็เผื่อเวลา ทั้งที่คนอื่นถามว่าทำไมรีบเหรอ มาถึงมอก่อนยังมีเวลาเตียมตัวไปทำห่าไรก็ได้ แต่ถ้ามันมีอะไรสุดวิสัยกูก็จะมาไม่ทันเลยเผื่อขนาดนี้ ทั้งที่คนอื่นแม่งไม่เผื่อเวลาแล้วมาสายโง่ๆ ออกช้า คิวรถยาว รถติด คนเยอะ เข้าใจคำว่าเผื่อเวลายัง? เวลามึงไปทำงานมึงจะอ้างว่ารถติดเลยมาสายฟังไม่ขึ้นวะ เขาก็ไล่มึงบอกว่าไม่ยอมเผื่อเวลาอยู่ดี ยกเว้นว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับมึงนั้นว่าไปอย่าง
>>289 นัดตอนบ่ายโมง มันจะไปรอรถเมล์นานตรงไหน ถ้ามึงไปรอสี่โมงห้าโมงเย็นก็ยังพอเข้าใจได้ กูไปฝึกงาน เค้าให้เข้างานสิบโมงอ่ะ กูนั่งจากรังสิตไปลาดพร้าวออกตั้งแต่ตีห้า
กูเข้าใจว่าการขนส่งมันเหี้ยจริงๆ แต่มันทำอะไรไม่ได้อ่ะมึงเพราะเป็นเรื่องของคนดูแลกรุงเทพที่จะแก้ไข มันไม่ทำไง มันมาโกงเฉยๆ ไม่อยากพูดเหมือนสลิ่/ม แต่ในเมื่อมันทำอะไรไม่ได้แล้ว มึงก็ต้องทำที่ตัวเอง
กูอยากระบายด้วย คนในคณะเคยนัดกูมาทำงานที่ม.ตอน 9 โมงเช้า กูก็ออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมง มาถึงม. 7 โมงเพราะถ้าออกสายกว่านี้รถจะติดแล้วมาไม่ทัน พอ 8 โมง คนในคณะแม่งพร้อมใจกันบอกว่ามาไม่ทันแล้วเลื่อนนัดเป็นบ่ายโมง สรุปกูและเพื่อนกลุ่มที่มาเช้าต้องนั่งรอไอ้พวกนี้ยันบ่าย ถ้ามึงจะเปลี่ยนเวลานัดช่วยกรุณาบอกก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันด้วยไม่งั้นจะมีคนซวยแบบกู
เรื่องเลื่อนนัดนี่เหี้ยจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะสะดวกเวลาเลื่อนนัดหลายๆรอบนะสัส แบบ กุบ้านอยู่ไกล ถ้ากุนัดรถล่วงหน้าแล้วแต่มึงเสือกมาเลื่อนเอาใกล้ๆวันเพราะความสะดวกสบายของมึงเองนี่ กุอยากเขกสักที แล้วแม่งเลื่อนไปๆมาๆอ่ะ แบบ กี่โมงดี 10ม.เนอะ หรือ7ม.ดี นัดไหนดี เจอกันที่xxxก่อนเนอะ หรือไปที่ห้างxxxเลยดี ไอ้สัส มึงเอาให้แน่ๆได้ไหม พอกุถามเอาแน่ๆก็ไม่ตอบ เป็นเหี้ยไร
การมีเพื่อนการเข้าสังคมนี่เป็นอะไรที่ยากจังวะ กูเป็นintrovertแต่วันนาบีอยากเป็นextrovertอยากลองมีเพื่อนสนิท สุดท้ายเป็นไงก็ต้องมานั่งดิ่งเพราะคนอื่น เก็บนั่นนู่นนี่มาคิดให้ปวดใจตัวเองเล่นทั้งๆที่จริงๆแม่งอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ กูนี่แม่งควรต้องอยู่คนเดียวจริงๆทำให้ทั้งตัวเองรู้สึกแย่แล้วยังทำคนรอบตัวรู้สึกแย่ไปด้วยควยจริงๆ
>>299 ยากอยู่แล้ว ก็มึงต้องทำตัวตรงข้ามกับสิ่งที่มึงเป็นนี่เนอะ กุก็อินโทรเวิตที่พอจะมีเชื้อเอ๊กโทรเวิตอยู่บ้าง แล้วสังคมคนทำงานแม่งต้องดึงด้านเอ๊กโทรเวิตมาใช้เยอะมาก มากซะจนพอวันหยุดเสาร์อาทิตย์กุจะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องคนเดียวไม่อยากสุงสิงใครเลย ดีที่กุสนแต่เรื่องของตัวเองเป็นหลักไม่เก็บเรื่องชาวบ้านมาคิดให้ปวดกบาล
กูเหนื่อยที่จะมีเพื่อนเป็นintrovert กูคิดว่ากูก็เป็นintrovertนะอยู่ในบ้านไม่ได้ไปเที่ยวไหน แทบไม่ได้คุยกับใครนอกจากเรื่องงานแชทร้างมากมาหลายปีแล้ว แต่พอมีเพื่อน กูก็ใส่ใจจนกลายเป็นว่ากูพูดมากเกินไป แล้วกูก็โดนบล็อกตลอด จนตอนนี้เพื่อนสนิทไม่มีละ กูคิดว่าคนเป็นเหมือนกันจะเข้าใจอะไรสักอีก กูอยากมีเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน คุยกันตลอดบ้างเหมือนที่เห็นคนอื่นเป็น แต่คิดดูก็เหนื่อยวะ
อินโทรเวิร์ดเหมือนกัน แต่ตอนนี้กูไม่เหงาแล้ว สตกูเหนื่อยที่ต้องเข้าหาสังคม กูมาอยู่ในจุดที่กูเข้าใจแล้วว่าไอเพื่อนสนิทอะไรมันไม่มีจริงหรอก เป็นเพราะตัวกูปิดกั้นตัวเองเนี่ยแหละ แต่กูก็โอเคมากกว่าที่จะอยู่คนเดียวมากกว่ากับพยายามมีเพื่อนแล้วกูรู้สึกไม่พอใจเพื่อนคนนั้นขึ้นมาเอง
เมื่อก่อนตอนที่กูไปเที่ยวกับเพื่อนกูก็คิดในใจตลอดว่าอยากให้จบลงเร็วๆ อยากออกไปอยู่คนเดียวแล้ว แต่พออยากตัดขาดก็กลับมาเหงา กูเลยมานั่งทบทวนว่าจริงๆมึงไม่ได้อยากมีเพื่อนมากกว่า เพราะมีแล้วมึงก็ไม่สบายใจ
ตอนนี้กูเลยหากิจกรรมที่กูเอนจอยได้กับการเร่ร่อนไปคนเดียว สังคมกูก็เข้าหานะ ไปทักไปคุยกับคนแปลกหน้าใหม่ๆ แต่กูจะไม่ลงความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งต่อไป
ความรู้สึกเหงามันก็มาจากสัญชาตญาณของการเอาตัวรอดของสัตว์สังคมเฉยๆ เพราะถ้าอยู่อย่างโดดเดี่ยวก็จะเอาตัวไม่รอด แต่เทคโนโลยีในปัจจุบันมันเอื้ออำนวยให้การใช้ชีวิตของมนุษย์มันมีความเป็นปัจเจกได้มากขึ้น กูเลยคบคนแค่ห่างๆเพื่อให้มันทํางานหากินอยู่รอดไป ส่วนเป้าหมายในการใช้ชีวิตก็อีกเรื่องคือกูตัดความสัมพันธ์ที่จริงใจกับมนุษย์ไปละ
ถ้าเพื่อนพามึงไปกินของราคาที่มึงไม่เคยคิดจะซื้ออยู่แล้ว แล้วพอเก็บตังก็บอกว่าลืมเอาตังมา ออกให้ก่อน ถ้ามึงทวงมันจะดูน่าเกลียดป่ะ แบบก็กินด้วยกันจะไม่ออกตังเลยหรอ แต่มันก็เป็นของที่ปกติมึงไม่ซื้อกินอยู่แล้วเพราะมันแพงอ่ะ ที่กินเพราะเพื่อนอยากกิน
>>305 ทวงดิ กูก็ชอบลืม แนบ qr code มาเลย ถ้ามารู้ว่าทีหลังว่่เพืือนออกให้ตลอด คงไม่สบายใจมากๆ เพราะงั้นกูโอเคกับการทวงอะ
บอกประมาณมึงลืมจ่ายค่าข้าวที่กูออกให้ก่อนวันนั้น ไรงี้ ไม่มีใครคิดมากหรอก เขาขอให้มึงออกก่อนไม่ได้ขอให้เลี้ยงนี่
ถ้ามันจะคิดมากตัดเพื่อนเลิกคบก็ปล่อยมันไปเหอะ
พูดถึงเรื่องเก็บเงิน กูว้าวมากพอขึ้นมหาลัย ทุกคนจะขอบิลร้านเวลาซื้อรวม แค่ซื้อชาไข่มุกแก้วเดียวก็ส่งบิลมากับเลขบัญชีไม่ก็โค้ด ความเทคโนโลยีนี้ เงินสดแทบไม่ได้ใช้
>>306 >>307 >>308 เรื่องทวงมันก็เรื่องนึง แต่ที่กุคาใจคือมันเป็นมื้อที่กินด้วยกันไง แต่กุไม่ได้อยากกินเพราะมันแพง ที่กินเพราะมันอยากให้กูไปกินด้วย พอจะทวงตังกุเลยรู้สึกว่าแต่กุก็กินนะ กูจะไม่จ่ายเลยหรอ อีกใจก็แบบของราคาแบบที่กุจ่ายไม่ไหวแบบนี้ ปกติกุก็ไม่กินแท้ๆก็รู้สึกว่าไม่ควรจ่าย คือกุอยากรู้ว่ามันน่าเกลียดมั้ยถ้าเราทวงอ่ะ หรือเราควรทำเป็นลืมๆไป เพราะเราก็กิน
ง่ายๆเป็นเคสแบบเรื่อง preventing anna ใน netflix อ่ะ ที่เพื่อนพาไปเที่ยวรีสอร์ตหรูที่เราไม่มีปัญญาจ่าย แต่เราไปเพราะเพื่อนอยากให้เราไป พอจะจ่ายตังเพื่อนบอกไม่มีเงินตอนนี้ให้เราออกไปก่อน แต่พอไปทวงคนอื่นก็บอกว่ามึงก็ได้ประโยชน์ร่วมหนิ จะให้เพื่อนจ่ายได้ไง แต่มันเป็นประโยชน์ร่วมที่เราไม่มีปัญญาจ่ายตั้งแต่แรกแล้ว ปกติเราคงไม่จ่ายถ้าเพื่อนไม่ออกให้ ไรแบบนี้อ่ะ
Inventing Anna ปะมึง กูงงเลย ไปเสิช Preventing ละไม่เจอ 5555555555
กูรู้สึกเหงาจัด ๆ ซิ่วมาเรียนใหม่คณะเดียวกันกับเพื่อนสนิทตอนม.ปลาย เรียนออนไลน์ก็ไม่มีเพื่อน ขนาดเพื่อนในสาขากูยังไม่รู้จักซักคน พอเทอมสองย้ายไปอยู่หอก็เป็นโฮมซิก(ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านละ) ไปเจอเพื่อนของเพื่อนก็เจื่อนเพราะดันเป็น introvert กันทั้งวง ตอนเดินไปอ่านหนังสือมันก็คุยกับเพื่อนสนิทในสาขา กูก็ไม่อยากขัด แถมขัดไม่ได้เพราะไม่รู้เรื่อง สรุปกูเคว้ง เหมือนยืนรอพนง.เซเว่นเวฟข้าวแล้วไม่รู้จะยืนตรงไหน
แล้วเรื่องเพื่อนในมหาลัย คือกูมีปัญหากับการทำงานกลุ่มมาก กูเจ็บมาเยอะจากตอนเรียนที่เก่า ยกตัวอย่างเรื่องที่ฝังใจคือไปทำงานกลุ่มกัน เสร็จแล้วจะไปซื้อของต่อ กูก็ขอไปด้วย เค้าก็โอเคกัน พอเดินไปเชือกมัดรองเท้าหลุดก็เดินไปไม่รอ ทั้ง ๆ ที่กูบอกอยู่ว่าเชือกรองเท้าหลุด แถมแม่งเดินจะเข้าลิฟท์จนกูต้องรีบวิ่งไปเข้าให้ทัน พอลงมาใต้ตึกแม่งถามว่ากูจะกลับยังไง ตอนนั้นหัวกูวิ้งเลย ในใจกูคืออ้าว กูจะไปกับพวกมึงไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนั้นกูบอกไปว่านั่งแกร๊บกลับ แม่งก็บอกว่างั้นกลับดีๆนะ วันนั้นกูนั่งร้องไห้ระหว่างทางกลับบ้านเลย อีกเรื่องงานกลุ่มเหมือนกัน(คนละวิชา) กูทำอินโฟกราฟฟิกแล้วส่งให้ ซึ่งกูก็บอกอยู่ว่ามีตรงไหนให้แก้ก็บอกนะ เพื่อนก็บอกสวย พอส่งจริงเอาอันอื่นที่ไม่ใช่ของกูส่ง(อ้าว?) เรื่องยังไม่จบ ตอนวันพรีเซนต์แม่งมาบอกก่อนเข้าซูม 5 นาทีว่าให้กูพรีเซนต์ บทก็ไม่มี หน้าที่กูก็ไม่ใช่ สไลด์กูก็ยังไม่ได้เห็น สรุปวันนั้นกูก็ไม่โผล่หัวเข้าซูม และไม่โผล่เข้าไปในชีวิตแม่งอีก ลบไอดีไลน์ ไปดาวน์โหลดเอกสารลาออก(ตอนแรกจะลาออกหลังติดที่ใหม่) บอกก่อนว่าม.เก่ากูจัดตารางเรียนให้เลยต้องเจอเพื่อนในสาขาทุกวิชาที่เรียน ซึ่งอีเหตุการณ์เหล่านี้ก็ทำให้กูเกลียดการทำงานกลุ่มไปเลย(แต่พอมาเรียนที่ใหม่ไม่มีปัญหานะ ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้ว) แถมกูกลัวการเมคเฟรนด์กับคนอื่นอีก เพราะตอนนั้นคนที่เป็น introvert แถมมีปัญหากับการทำกิจกรรมกับคนแปลกหน้า(effect จากกิจกรรม ice breaking สมัยไปค่ายแนะแนวเรียนต่อมหาลัย)อย่างกูเป็นคนเข้าหาพวกเค้าก่อน แต่นอกจากจะไม่รับยังผลักกูทิ้ง โคตรแซด กูแค่อยากมีเพื่อน มีชีวิตมหาลัยสนุกๆ
ยาวไปหน่อยโทษที ปัจจุบันชีวิตโอเคดีนะ แค่เหงาเฉยๆเลยอยากระบายความในใจ
>>314 ลองมึงจู่ๆเก่งเป็นระดับท็อปห้องซัก2เทอมติดสิ ปวศจะเปลี่ยนแน่นอน พวกปรสิตจะมาเข้าหามึงมากขึ้นจากที่เคยโยนมึงทิ้งๆกว้างๆ แต่ข้อดีก็คือจะได้อิทธิพลในคณะมา กูเป็นแบบมึงเลยตอนปี1เทอมแรก ยังไม่ลงวาคณะยังไม่ได้แสดงความสามารถ พอคณะกูนําท็อปปั๊ปแม่งมีทาสมารับใช้เฉย แต่กูก็ไม่ได้มีความสุขเพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครจริงใจ ตอนกูกากกูพยายามทําอะไรก็ไม่มีใครเห็นหัวอีก กูว่าไปหาเพื่อนต่างคณะเถอะ
-แนะนําถ้าอยากมีเพื่อนในมหาลัยลองไปเข้าชุมนุมแปลกๆที่คนน้อยๆดู ทําไมต้องชุมนุมแปลกๆ? กูว่ามันคัดคนมาแล้วเหลือแต่คนที่สนใจในกิจกรรมนั้นจริงๆ แล้วด้วยความที่คนมันน้อยมันทําให้มีโอกาสสนิทกันได้ง่ายนะ แนะนําชุมนุมกีฬาเพราะต้องซ้อมด้วยกันบ่อยๆพอเลิกก็มีโอกาสชวนกันไปกินข้าว แต่ชุมนุมอื่นๆก็อาจจะมีดีคนละแบบถ้ามหาลัยเปิดให้ทำกิจกรรมแล้วก็รีบเข้ามอไปหาชุมนุมดูนะ
>>314 กูเสริมให้จากเม้น >>315 ถ้ามึงเลือกวิธีแรกคือเรียนให้ได้ท็อป พวกปรสิตจะเข้ามาหามึงจริง แต่เท่าที่กูอ่านเม้นมึงแล้ว ดูเหมือนมึงจะมีมุมมองอ่อนต่อโลกในคำว่า "เพื่อน" ว่ะ สุดท้ายแล้วพอมึงหมดประโยชน์ ปรสิตที่มึงคิดว่าเป็นเพื่อนแท้ก็จะหายหัวไปจากมึงแล้วไปใช้ชีวิตของมันต่อ แล้วมึงก็จะเศร้าเหมือนเดิม กูเห็นด้วยว่าควรหาเพื่อนนอกคณะ แต่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือปรับแนวคิดมึงในเรื่อง เพื่อน เพราะถึงเวลามึงก็ต้องเลือกอนาคตมึงว่าจะเรียนให้จบโดยที่ไม่เอาปัจจัยที่มึงควบคุมไม่ได้อย่างเรื่องสังคมรอบตัวมาเป็นตัวตัดสินอนาคตของมึง หรือ มึงจะหนีปัญหาต่อไปเรื่อยๆ พอเจอเพื่อนไม่ดีก็ลาออกหนี เรียนไม่จบสักที
กูเป็นกำลังใจให้ กูก็เคยผ่านเรื่องแบบมึงมาก่อน
ตอนนี้กูเรียนใกล้จบละ เกรดก็สูง เพื่อนกูก็เหลิอไม่กี่คนเพราะกูเขี่ยพวกปรสิตออกหมด
กู >>134 นะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของเพื่อนโม่งฮะ แต่กูอยากอธิบายนิดนึงว่ากูไม่ได้อ่อนต่อโลกกับคำว่าเพื่อนขนาดนั้น ไม่ได้ต้องการเพื่อนแท้หรืออะไร ถ้าจะเข้ามาเพื่อหาประโยชน์ก็ไม่ว่า แค่กูไม่เคยเจอกับคนแบบพวกที่ม.เก่าเฉย ๆ เลยช็อค เกิดมาเพิ่งเคยเจอ กูไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีหรืออะไร แค่อย่างน้อยเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีหรือช่วยไม่ไล่กูกลับแบบอ้อม ๆ ก็พอ(เรื่องมีเยอะกว่านี้ ที่เล่าไปคือเรื่องฝังใจเจ็บ) เรื่องสังคมรอบตัวนี่กูก็เข้าใจนะว่ามันเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่แค่กูเข้าไปเรียนยังไม่ถึงครึ่งเทอมแรกยังเป็นแบบนี้ แถมไม่ได้รู้จักกันอีก ทำแบบนี้กูคิดว่ามันไร้มารยาทเกิ๊น
แต่อย่างที่กูบอกในเมนท์บน ชีวิตกูโอเคดีตอนนี้ ไม่มีปัญหาอะไร แค่อยากมีเพื่อนให้ชีวิตมหาลัยสนุกเฉย ๆ (ฟีลเพื่อนกิน,เพื่อนเที่ยว,ไปทำกิจกรรมด้วยกันได้) ไม่ได้ต้องการเพื่อนรักเพื่อนแท้ขนาดนั้น แต่ขอบคุณจริง ๆ สำหรับคำแนะนำ รอให้ม.ออนไซต์ 100% ก่อนเดี๋ยวกูจะไปหาชมรมกับกิจกรรมทำ
สู้สู้โม่ง เป็นกำลังใจให้ เจอไรก็มาบ่นในนี้ๆ
มึงการพูดถึงบุคคลที่ 3 ในแนวเชิงล้อเล่น ก็เสียมารยามเหมือนกันใช่มั้ยวะ
>>320 ถ้าพูดถึงคนอื่นแบบไม่ใช่ทางดี (หรือเริ่มลังเลว่าดีไหม) ก็ดูค่อนข้างแย่นะ แต่ก็แล้วแต่สถานการณ์ เรานินทาครูประจำชั้นให้เพื่อนสนิทฟังได้ แต่คงไม่นินทาครูให้ลูกครูฟังใช่มะ แล้วก็คนที่คุยกับมึงก็อาจจะมองว่ามึงพูดถึงบุคคลที่ 3 แบบนี้ สักวันมึงจะพูดถึงเขาแบบไหน
กุเข้ากับเพื่อนในห้องไม่ได้อ่ะ เรื่องนี้กุว่าครูผิด100% แต่เพื่อนในห้องทั้งหมดบอกครูถูก กุพยายามมองหลายๆด้านคิดแล้วคิดอีกครูก็ผิด แต่เพื่อนๆก็ยังบอกว่าถูกเพราะครูมีบุญคุณ ครูเป็นคนใจดี เข้าถึงง่าย ไม่ถือตัว กุคิดยังไงครูก็ผิดเพราะครูเริ่มก่อนขนาดเอาไปปรึกษาคนที่โตสุดในห้องแม่งก็โตแค่อายุ แม่งก็เข้าข้างคนในห้องอีก
เอ๊า ก็มันผิดแบบเป็นรูปธรรมอยู่แล้วอ่ะ มันคือผิดที่เห็นได้ชัดอ่ะโม่งว่ามันผิด ไม่ใช่ในกรณีที่ถูกผิดมันตัดสินไม่ได้ แล้วถ้ามึงบอกไม่ให้กุมองแค่ถูกผิด งั้นพวกในห้องที่มองแค่ถูกอ่ะ???
เล่ามาก่อนว่าเหตุการณ์เป็นยังไง
โม่งกุจะแตกไหม ครูออกข้อสอบไม่สมเหตุสมผล เด็กห้องนึงออกมาทักท้วงว่าทำไมตอบอันนี้ผิด ทำไมมีข้อนั้นที่ถูกข้อเดียวทั้งๆที่เป็นปัญหาปลายเปิด แทนที่ครูจะอธิบายหรือให้เป็นข้อฟรีไปได้คะแนนทุกคำตอบ ครูบอกออกเล่นๆเฉยๆ(แต่ให้ผิดจริงแถมข้อสอบกลางภาคด้วย) ครูมางอแงใส่ห้องกุ เอาประเด็นครูมาเล่าให้ห้องกุฟัง ห้องกุก็ไปตามด่าอีกห้องนึงให้ นินทาคนในห้องนั้น แล้วก็ด่าคนในห้องนั้นให้ กุมองว่าปัญหาของครูเอามาบอกห้องกุทำควยไร ก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะกลายเป็นปัญหาวงกว้างถ้าเอามาบอกคนอื่น ก็รู้อยู่ว่าตัวเองสนิทกับห้องกุมากกว่าก็เอามาพูดใส่ห้องกุ ห้องกุก็เล่นแม่งเลยดิทำครูกุ ไม่สนใครถูกผิด ประเด็นแรกที่ครูออกข้อสอบไม่สมเหตุสมผลกลายเป็นประเด็นรองไปเลย เพราะมันกลายเป็นปัญหาวงกว้างจริงๆมันกลายเป็นทะเลาะระหว่างห้องเหม็นขี้หน้ากันไปเองเพราะครูเสือกเอามาเม้าท์นี่แหละ กุก็งงจะไปดิ้นแทนครูทำไม ครูผิดด้วยซ้ำก็ยังจะไปตามด่าห้องนั้น ส่วนครูก็ไม่ห้ามทักท้วงใดๆคงดีใจมั้งเด็กรักเต็มเลย ห้องอื่นก็ไม่เห็นด้วยกับครูนะมีห้องกุเนี่ยแหละพระคุณที่สามงดงามแจ่มใส
ถ้าโม่งแตกก็ หวัดดีคับพรี่ แหะๆ มาเม้าท์เฉยๆคัยพรี่เด๋วก้ปัยแร้ว
แล้วมันเกี่ยวกับที่มึงเข้ากับเพื่อนในห้องมึงไม่ได้ยังไงวะ แค่เนี้ย? กูก็ย้ำไม่แปลกใจทำไมมึงถึงเข้ากับคนอื่นไม่ได้
เข้ากับเพื่อนในห้องไม่ได้เรื่องความคิดไง แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรอ กุคิดว่าครูอ่ะผิด แต่เพื่อนในห้องคิดว่าครูอ่ะถูกและสนับสนุนครู แล้วแบบนี้เวลากุจะพูดประเด็นอะไรมันค่อนข้างกระอั่กกระอ่วนไงเพราะทัศนคติมันไปกันไม่ได้ กุไม่เข้าใจเพื่อน กุเป็นพวกชอบคุยเรื่องพวกนี้กับเพื่อนสนิทกุกุก็คุยตลอดว่าทำไมครูต้องทำขนาดนั้น หรือ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ตลอด แต่พอมาอยู่ห้องนี้กุคุยกับใครไม่ได้เลยไง ถ้ามึงจะให้ความเห็นกุแค่ว่า ก็ไม่แปลกที่มึงจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ แค่นี้ ก็หุบปากเถอะสัสไม่ได้ช่วยเหี้ยไรเลย กุมาระบายเฉยๆแล้วก็ไปแต่เสือกเจอมึงให้ความเห็นโง่ๆแถมไม่ได้ให้คำแนะนำด้วยเนี่ย
>>329 มึงต้องเข้าใจว่ามันเป็นเรื่อง"ปกติ" ในสังคมที่ความคิดเห็นคนเราจะไม่ตรงกัน
กูเชื่อว่าถ้าครูผิดจริง ไม่มีทางหรอกที่คนในห้องมึงจะเห็นด้วยทุกคน มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับครู "เหมือนมึง"อยู่แล้ว
เพียงแต่คนอื่นเค้าก็ไม่เห็นด้วยในใจไปเพื่อกลมกลืนเข้ากับสังคมในห้อง เพื่อไม่ทำลายบรรยากาศในห้องเรียน
มันไม่ใช่ว่ามึงเข้ากับเพื่อนไม่ได้
>>330 โอเคโม่ง ขอบคุณมาก มันคงเป็นเพราะกุออกตัวแรงไปด้วยแหละมนุษย์มันเป็นสัตว์สังคมอยู่แล้ว ถึงอะไรมันจะขัดใจเราแค่ไหนกุก็คงต้องระงับอารมณ์ตัวเองบ้างแหละ พอมึงมาบอกแบบนี้ว่าอาจมีคนที่ไม่เห็นด้วยแต่เขาแค่ไม่แสดงตัวเพื่อไม่ทำลายบรรยกาศ ละกุรู้สึกว่ากุทำตัวโง่ๆขึ้นมาเลย ที่โหวกเหวกโวยวายไปอยู่คนเดียว ไปทำลายบรรยกาศเพื่อนในห้องอีก ถ้าเกิดขึ้นอีกกุคงควรเก็บไว้ในใจเพื่อรักษาความสัมพันธ์ด้วย จะเอาความรู้สึกดีๆกับเพื่อนในห้องไปแลกกับเรื่องนี้กับอีโก้ของตัวเองก็คงจะเกินไปแหละ ขอบคุณนะโม่ง
>>331 ส่วนมึง หุบปากครับขอบคุณมาก ไม่ได้ชี้ให้กุเห็นเลยด้วยว่าเรื่องที่กุเล่าไปข้างต้นมันมีทั้งถูกและผิดได้ไง พูดตามตรงกุคิดว่าผิดร้อยเปอร์แน่ๆถ้ามึงคิดว่าถูกมึงก็ลองชี้อีกมุมมองมาดิ
>>316 กูเนี่ยอ่ะปีเดียวกับมึง อ่อนความคิดเรื่องเพื่อนเชี่ยไรกูไม่ได้มองว่ามันเป็นเพื่อนเลย แต่ในสังคมถ้าจะทํางานมันก็ต้องมีคอนเนคชั่น อ่ะอย่างงานกลุ่มมึงก็ไม่เป็นหมาละ ดึงๆเอามาใช้งานพวกงานพิมพ์ดีดส่วนมึงก็ใช้นิ้วสั่งๆไป ยังไงๆปรสิตก็ตามเพราะไม่มีสมองทํางานเอง พอพวกแม่งทํางานเหี้ยกูก็กวนส้นตีนออกจากกลุ่มต่อหน้าต่อตาในวันสุดท้ายและเตรียมงานของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว กูทําแบบนี้ตลอดกับสังคมคนอื่นๆ แต่กูก็ไม่เคยโดนแบนโดนนินทานะเพราะในสังคมก็ต้องสร้างภาพพจน์เป็นคนดี ช่วยเหลือคนตลอด ยอมคุยกับทุกคน ทําดีใส่ค่อยตบหลังแม่งก็รอดละ
กูทํางี้กับพวกปรสิตหมด ส่วนเพื่อนจริงๆกูจะคลั่งรักเพื่อนมาก กูไม่ได้ตัดคนที่ไม่ชอบออกหรือหนีปัญหาหว่ะ กูควบคุมปัญหาเอา กูแม่งเหี้ยจริงแต่กูเคยโดนหลอกลับหลังมาตลอดสมัยมัธยมกูเลยทํากลับกับปรสิตแบบนี้เอา
คนไทยแม่งเหี้ย กูบอกเลย เจอแค่ที่สังคมที่นี่เท่านั้นแหละ คนบ้าอะไรทําเหี้ยกับเพื่อนตัวเองตอแหลทําดีกับคนที่ไม่สนิทแล้วค่อยนินทาตบหลัง วันๆมีแต่เรื่องชาวบ้าน ควาย แต่ก็ขอบคุณที่ทําให้กูมีความพยายามเรียนให้ดีเพื่อไปหาสังคมที่มันดีกว่านี้ตลอดมา
พวกมึงเคยมีเพื่อนที่เอาเรื่องเพื่อนสนิทของแม่งมาด่าให้ฟังกันมั้ยวะ ด่าให้กูฟังเสียๆหายๆ แล้วพูดว่าจะไม่เอาไว้แล้ว แต่ต่อหน้าก็คิกๆคักๆกันต่อ สุดท้ายก็คบกันเหมือนเดิม กูงงได้มั้ย มันคงอยากให้กูฟังเฉยๆแต่กูงงมาก และกูก็รู้สึกไม่ดีที่ต้องมาเห็นการหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้ แม่งทุเรศอ่ะ เอามาด่าให้กูฟังซะเขาเสียหายขนาดนั้น กูกะจะคุยตรงๆว่าถ้าจะคบคนนั้นต่อก็หยุดเอามาด่าให้กูฟังซักที
มีใครไม่รู้สึก relate กับเด็กวัยเดียวกันมั้ยวะ กูอายุ 20 กว่าละ ชอบเรื่องความรวย ธุรกิจ อะไรงี้ ไม่ก็คุยเรื่องสกินแคร์เครื่องสำอาวไปเลย แต่เพื่อนรอบๆตัวชอบคุยเรื่องดารา นางงาม การเมือง ทั่วๆไป กูไม่ relate ว่ะ รู้สึกแปก
>>337 กู22 ก็เห็นรุ่นๆเดียวกันมีทั้งสองประเภท ทั้งคนโคตรโปรดักทีฟ ไขว่คว้าหาความรวยเปลี่ยนงานบ่อย เทรดคริปโต ทำสตาร์ทอัพ ลงคอร์สธุรกิจ กับสไตล์จบมามีงานทำก็ชิวๆละ เน้นใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ กลุ่มหลังนี่ก็อาจจะคุยเรื่องธุรกิจหรือแพลนอนาคตไม่ได้ มึงแค่ยังหากลุ่มแบบที่คุยด้วยแล้วอินไม่เจอปะ
ตอนแรกเครียดมากว่าต้องคอยหากลุ่มทำงานเพราะม.กุจัดตารางให้เลยต้องหาคนใหม่ๆตลอด เครียดว่าจะได้คนทำงานดีหรือเหี้ย สรุปกุเลยจุดที่จะเครียดล่ะ
กุไม่ใช่คนรักษาคสพ.ขนาดนั้น ไม่มีเรื่องให้คุยกุก็ไม่ใช้โซเชียลติดต่อ สรุปคสพ.กับทุกคนค้างอยู่ที่คนรู้จักหมด 555555555
สมัยยี่สิบต้นๆกลุ่มเพื่อนกุก็ไฟแรงล่าความรวยกันนะ ตอนนี้ใกล้สามสิบรวยกันประมาณนึง แต่หัวข้อการคุยแม่งหมดไฟกลายเป็นลูสเซ่อกันหมดละ มีแต่คุยกันว่าจะอยู่ไปทำไมวะ เคว้งคว้าง ทำอะไรก็ไม่มีความสุข 5555
เริ่มหาเพื่อนในมหาลัยยังไงวะ อีก1-2เดือนกูจะเปิดเทอมแล้วแต่ยังไม่มีเพื่อนเลย ส่วนคนอื่นๆในคณะสนิทกันหมดแล้วเพราะคอลกันตลอด เวลากูคอลกูไม่รู้จะพูดอะไร พูดทีคนอื่นก็เงียบ พอพยายามคุยกับคนอื่นก็โดนเมินใส่ ข้ามท้อปปิคกูไปเฉย ต่อมาเลยได้แต่นั่งเงียบๆ สุดท้ายก็ไม่สนิทกับใคร กูเลยยอมแพ้เรื่องการคุยในคอล แต่กูก็อยากมีเพื่อนแล้วอยู่ดี แนะนำวิธีหน่อย (กูไม่ใช่คนพูดไม่เก่งหรือไม่รู้กาลเทศะนะ รร.เก่ากูก็มีเพื่อนปกติถึงจะไม่ได้เยอะมากก็เถอะ แต่กูงงทำไมในคณะทุกคนดูไม่คุยกับกูเลย) เออ กูพยายามหาคนที่มีความสนใจตรงกันแล้วนะ แต่เกมที่กูเล่นหรืออะไรก็ตามที่กูชอบดูจะไม่มีใครชอบเหมือนกันเลยในคณะนี้
กูรู้สึกว่าไม่มีตัวตนในกลุ่มเพื่อนสัสๆ ไปแดกข้าวข้างนอกก็ไม่ชวน นัดเจอกันที่ห้องสมุด มาถึงแล้วก็ไม่บอกจนกูเดินไปเจอโต๊ะมันเอง ปล่อยให้กูนั่งคนเดียวตั้งนาน ไปเที่ยวด้วยคือต้องบังเอิญเจอกันแล้วถามว่าวันที่...ไปด้วยกันมั้ย ไม่เคยทักมาถามดีๆ กูโคตรรักเพื่อนชิบหายเลย แต่เหมือนจะไม่มีใครคิดแบบเดียวกับกูเนอะ
หรือกูแค่ขี้น้อยใจวะ
346เองนะ กูเพิ่งปี1เอง พวกนี้ก็หาเท่าที่หาได้ มันเป็นออนไลน์ด้วยเลยหาได้น้อย พวกที่สนิทจริงๆก็เป็นพวกไม่เข้าสังคมกันหมดซะงั้น หวังว่าปี2ออนไซต์จะดีขึ้น เจอคนที่เห็นความสำคัญของกูมากกว่านี้ แต่กลัวติดลูปเดิมว่ะ เห้ออออ
ถ้ามึงเป็น extrovert อย่าหาทำไปคบแก๊งที่ introvert เยอะๆ ยิ่งช่วงโควิดยิ่งเหี้ยเลย ตัวคนเดียวสัดๆ จะไปหาเพื่อนใหม่ก็ไม่ทันแล้ว ชวนแก๊งไปก็ไม่ไปไหน อยากนอนอยู่บ้านเล่นกับแมว รำคาญใจเหี้ยๆ
หมายถึงกลุ่มextrovertที่พยายามสนิทด้วยมันไม่ชวน ส่วนกลุ่มintrovertที่สนิทแม่งนีทกันสัสๆ
มึง ตอนนี้กูรู้สึกอคติกับเพื่อนที่เป็นลูกเดียวมาก ทำไมหลายๆคนชอบสำคัญตัวจังวะ ละบางทีแม่งทำอะไรไม่คิดว่าคนรอบตัวจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง กุเหนื่อยใจ หรือจริงๆมันเป็นที่สันดาน
เพื่อนกูแม่ง คนที่แอบชอบไม่ตอบแชท20นาทีมานั่งร้องห่มร้องไห้กับกู รำคาญ ถ้าต่อไปคบกันคือรำคาญแทนผู้ชายคนนั้นเลย
เข้าใจอาชีพรับจ้างเป็นเพื่อนเที่ยวแบบทั่วๆไปละ กุอยากไปเดินหาหอพัก แล้วก็อยากไปแดกบาบีก้อน แต่ถ้าไปคนเดียวเหงาจัด เพื่อนกุไม่มีใครว่างซักคน อยากใช้เงินแก้ปัญหาเลย แต่ก็เสียดายตังเหมือนกัน
อยากหาเพื่อนใหม่ๆบ้าง ยิ่งโตยิ่งเพื่อนน้อยลงไปทุกวันๆ กูเพิ่งจะ22เอง ไมมันโดดเดี่ยวขนาดนี้
เพื่อนกูแม่งไม่ยอมกินบาบีก้อนอ่ะ แบบมึงพลาดอะไรบางอย่างในชีวิตไปเลยนะเว้ย แม่งควาย โกหก ตอแหลส่าอยากกิน พอนัดแล้วก็ไม่ไป ไม่อนากกินก็บอกไม่อยากกินสิวะเบื่อ
กูมีเพื่อนกินบาบีก้อนโว้ยยยยนยนน
>>366 เชี่ย กูแทบอยากจะบีบมือมึง
เดี๋ยวนี้เพื่อนๆกูก็ไม่ค่อยยอมไปกินบาบีก้อนด้วยแล้วว่ะ มันบอกว่าเดี๋ยวนี้มันแพงเกินไปกับสิ่งที่ได้ ซึ่งกูก็เห็นด้วยแหละว่ามันแพงขึ้นจริงๆ กูก็จะตื่นเต้นเฉพาะเวลาที่มันจัดบุฟเฟต์เท่านั้น คือสำหรับกูมันก็ยังเป็นรสชาติที่อร่อยแบบที่กูหากินจากร้านอื่นไม่ได้อยู่ดีอะ
จริงๆกูไม่ค่อยมีปัญหากับการไปนั่งกินคนเดียวเลยนะ แต่ไอ้ร้านเวรนี่แม่งก็คนเยอะจังงงง จะเข้าไปกินคนเดียวในขณะที่มีมวลมหาประชาชนมาเป็นแก๊งใหญ่ๆอยู่หน้าร้านก็เกรงใจค่าเปิดเตาเขาจัง บวกกับเหงานิสๆด้วย ฮรือๆ
>>373 กูไม่ใช่มันนะ แต่ร้านในห้างใหญ่ๆที่จองคิวเป็นชมคือไม่ให้วะ น่าจะพวกที่คิดราคาตกต่อหัว ถ้าได้คิวคนเดียวทั้งโต๊ะมันจะเสียรายได้ทั้งโต๊ะนั้นไป เจอบ่อยรบกวนลูกค้าสองท่านขึ้นไปนะคะ พูดดีหน่อยก็จะบอกเรามีโปรนี่ๆลูกค้าหลายท่านจะได้รับส่วนลด แล้วยิ้มๆถึงปฏิเสธบอกมาคนเดียวก็ยังจะบอก แต่ถ้าตามโปรจะลดเยอะกว่า ไม่ยอมให้จองคิว เห็นคนหาเพื่อนกินหน้าร้านเยอะแยะ แต่ช่วงโควิดมาให้จองได้ละนะคนเดียว รักษาระยะห่างหรือเป็นเพราะคนน้อยก็ไม่รู้5555
โม่งกูมีเรื่องมาเล่า วันก่อนที่กูไปปฐมนิเทศกูไปเจอคนๆหนึ่งเว้ย กูก็ชวนเขาคุยแล้วพอที่นี้คุยไปคุยมา
กูก็เลยถามว่าทำไมมาเรียนสายศิลป์ญี่ปุ่น กูบอกคนๆนั้นไปว่า กูมาเรียนเพราะกูอยากอ่านญี่ปุ่นออกจะได้เอาไปอ่านหนังสือนวนิยายของมุราคามิ แต่จริงๆคือกูจะเอาไปเล่นเกมโป๊ พอที่นี้ก็ถึงตามันเล่า
มันท้าวความก่อนว่า เมื่อก่อนมันตั้งใจจะเป็นหมอ เพราะจะได้มารักษาพี่ตัวเองพี่มันป่วยเป็นโลหิตจางกัยแพ้ภูมิตัวเอง แล้วก็มันเล่าพี่มันเรียนเก่ง เก่งแม่งทุกด้าน กีฬา(ที่ใช้แรงไม่เยอะ) การเรียน ดนตรีได้หมด แล้วครอบครัวมันชอบเอาตัวมันเองมาเปรียบเทียบกับตัวพี่ แต่พี่มันคอยปกป้องน้องตัวเองจากครอบครัวตลอด แล้วมันบอกว่าถ้าให้เลือกว่ารักใครที่สุดในครอบครัวมันบอกว่า พี่ตัวเอง แล้วพี่มันมีความฝันว่าอยากเล่นเทนนิสแบคนปกติให้ได้ เพราะแบบนี้เลยทำให้มันอยากเป็นหมอ เพื่อที่จะมารักษาพี่ตัวเอง พอฟังถึงตรงเนี้ยกูคิดว่า เชี้ย ไอสัส โคตรเท่ แต่กูก็นึกย้อนไปว่า ถ้าแม่งอยากที่จะเป็นหมอมันจะมาเรียนสายศิลป์ทำไมกูก็แอบงงอยู่นิดๆ แล้วมันก็เล่าต่อว่า พี่ของมันเองอาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆจนเข้าขั้นรุนแรงจรเสียชีวิต ไอ้เหี้ย พอกูฟังถึงตรงนี้กูรู้สึก down เหี้ยๆ แล้วกูขอโทษมันไปที่ต้องให้มันมาเล่าเรื่องอะไรแบบนี้ แต่มันบอกไม่เป็นไร แต่กูก็ยังรู้สึกผิดเหี้ยๆ ที่ต้องให้มันมาเล่าเรื่องพี่ของมันให้กูฟังอะ 🥲🥲🥲
เพื่อนคนนึงที่เป็นผู้ชายแมนๆ อยู่ดีๆก็เอารูปธงรุ้งขึ้นเป็น profile เขียนใส่ในช่องแนะนำตัวว่าใช้สรรพนาม she/her
ถามเพื่อนคนอื่นก็งงๆกันแต่ไม่มีใครกล้าถามเจ้าตัวตรงๆ คือตอนแรกกูนึกว่าแค่เล่นมุกหรือประชด
แต่ถ้าเค้าตั้งใจ come out จริงๆ แล้วคนอื่นไปเข้าใจแบบนั้นกูว่าเจ้าตัวคงเสียเซลฟ์สัสๆ มีวิธีถามยังไงดีวะว่าอันนี้คือเค้าจริงจังรึเปล่า
มีใครเป็นไหม อยู่ในกลุ่มเพื่อนเวลามีใครเปิดประเด็นอะไรก็คุยกันปกติ แต่พอตัวเองเปิดประเด็นคุยสักเรื่องแม่งไม่มีใครคิดอยากจะคุยด้วย
>>376 กูคิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริงมึงก็ไม่ควรเฮฮาเมคฟัน
หรือถ้าเค้าจะเล่นเป็นมุก มันก็เป็นมุกเชยๆที่สมัยนี้ไม่ควรจะฮาด้วยแล้ว มึงก็ไม่ควรเข้าไปร่วมเฮฮาด้วยอยู่ดี
คำตอบที่ดีที่สุดถ้าไม่อยากถามตรงไคืออยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปยุ่ง 555
แต่ถ้ามึงอยากรู้จริงๆกูว่าเขาน่าจะรับได้กับการถามตรงๆนะ ไม่ได้มีอะไรเสียหายนิ
เพื่อนกูจุกจิกเรื่องแฟนมาก ขี้งอน อะไรนิดๆหน่อยๆก็งอน พูดกับกูจนกูรำคาญ สงสารแฟนเพื่อนเลย ขนาดกูยังรำคาญขนาดนี้ แฟนจะรำคาญขนาดไหนวะ
เจอผู้ทีตอแหลสาวสุภาพเชียวนะมึง คะขาอิโมจินิยายแจ่มใสมาครบ กุขนลุก
กุที่อยากสกินชิพใส่เพื่อนทุกคนที่กุรู้สึกดีด้วย แต่ไม่รู้ว่ามีใครโอเคบ้าง กุติดน้วยๆกับเพื่อนที่สนิทอ่ะ
น่ารำคาญๆๆๆ กุฟังใครไม่รู้เรื่องเลย พอไม่ใช่เรื่องของคนที่สนิทต่อให้เล่าไรมาตลกขนาดไหนกุก็เฉยๆ กุอยากสนิทด้วยแต่ไม่รู้จะรีแอคชั่นเรื่องที่กุไม่ได้สนใจกลับยังไง เพราะกุไม่ได้สนใจ จะขนาดกระโปรง จะการกลับบ้าน ในเมื่อกุไม่สนใจกุจะตอบกลับได้ยังไงนอกจาก 555 หรือ ขำแห้ง หรือ อ๋อออ อื้อออ เข้าใจๆ กุปวดหัวกับตัวเอง
เ ก เ ร กันจังวะพวกมึง
สตกูเฉยๆสกินชิพจะมาทําก็ทํา แต่กูจะรําคานสัสๆถ้าคนที่กูไม่สนิทมาสกินชิพใส่อะ แบบไอเหี้ยมึงคือใครวะรู้จักกูดีอ่อวะ บางทีพวกมึงคิดว่ามึงสนิทกับเขาแต่อีกฝ่ายเขาไม่ได้เห็นมึงเป็นเพื่อนป้าว
กูโดนเพื่อนในเอกทักมาขายตรงว่ะ มาแบบรุ่นพี่ที่รู้จักเปิดบริษัท อยากได้คนรุ่นใหม่มาร่วมงาน ฟรีแลนซ์เลือกเวลาทำได้ โปรเจ็คเกี่ยวกับการตลาดอะไรซักอย่าง+เซ็ตระบบขายออนไลน์ ไอ่เหี้ยยย อันนี้เรียกขายตรงได้ใช่ปะ แล้วชวนกูไปฟังรายละเอียดด้วย
เห็นมึงคุยถึงต่อยท้องกันแล้วนึกถึงสมัยมัธยม
โดนพวกหัวโจกในห้องบุลลี่ แม่งให้ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงใน เอามือวางที่ท้ายทอย แล้วพวกแม่งผลัดกันตุ๊ยท้องกุเบาๆไปเรื่อยๆ ใครทำกุเข่าทรุดก่อนแพ้ สรุปไม่มีใครแพ้เพราะกุเยี่ยวแตกก่อน
แม่งให้ความรู้สึกแบบตอนนี้กูไม่มีเพื่อนเลยเหรอวะ แบบแล้วกูละ? แล้วกูละ? ตั้งแต่ประโยคที่เพื่อนกูบอกว่าอยากให้อีกคนไปด้วยจะได้มีเพื่อน(แล้วกูละ?) แล้วเพื่อนกูบอกให้ลองถามเพื่อน(แล้วกูละมึงไม่ใช่เพื่อนกูเหรอ?) และเพื่อนทำให้แล้ว(แล้วกูละ?) แม่งเกิดไล่เลี่ยกันมากแล้ววันที่เจอหน้ากันหลายวันก่อนก็แทบไม่ได้คุย ยืนก็ไม่ยืนข้างกูไปยืนอีกฝั่ง ทำไมกูต้องเจออะไรแบบนี้ทั้งชีวิตที่เกิดมาด้วยวะ
>>399 มึงเคยเป็นเหมือนกูเลย จนกูเลิกสนใจพวกมัน แล้วไปทำตัวเองให้ดี ให้สวย ให้เรียนเก่ง ให้เป็นคนตลก ให้รวยขึ้น ให้ป็อปปูบ่าขึ้น หลังจากนั้นใครๆก็อยากให้กูทำอะไรด้วย แม้แต่เป็นเพื่อนกันมันก็ยังมองหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอยู่ ถ้ามึงไม่มีอะไรดีๆไป offer ให้เค้า เค้าก็ไม่ได้เห็นความสำคัญของมึงขนาดนั้นหรอก
กุอีกไม่นานรับปริญญาละ เลยสงสัยว่าคนที่ไม่มีเพื่อนคบเท่าไหร่ วันรับปริญญาคือทำอะไรกันบ้างวะ55555555555 แบบในช่วงระหว่างที่คนอื่นเค้าถ่ายรูปกันอะ ต้องจ้างตากล้องไหม
อยู่กับเพื่อนกุก็เหงา อยู่คนเดียวกุก็เหงา อยู่กับเพื่อนเหมือนกุเป็นกาฝากที่จำเป็นต้องกลับบ้านด้วยกันเลยอยู่ด้วยไปก่อน ไม่มีใครชวนกุคุยหรืออะไรเลย เหมือนกุเป็นอากาศ คุยกันอยู่แค่ในกลุ่ม อยู่คนเดียวกุก็โง่ โง่+เหงา โง่ที่แม้แต่ข้ามถนนง่ายๆยังข้ามไม่เป็นเลยจำเป็นต้องเป็นกาฝากเป็นอากาศ เพราะถ้าอยู่คนเดียวกุไม่รอดกลับถึงบ้านแน่ สรุปคือไม่มีสิทธิ์บ่นเพราะมึงมันโง่ แค่นั้นแหละ
ประเด็นคือกุถนัดมุกประเภทเหยียดแล้วทำคนขำได้บ่อย แต่มุกเหยียดสำหรับกุมันคือมุกเหี้ยที่ไม่ไม่อยากพูดถึงอ่ะ เพราะที่กุพูดไม่ใช่มุก กุเหยียดจริงๆ55555 แล้วเวลาพูดมุกดีๆหรือมุกขำขันทั่วไปโดนเพื่อนเงียบใส่ เพื่อนเมิน หรือเวลาคุยกับกลุ่มใหญ่ๆที่ไม่ได้สกินกันกุก็ยิงมุกแป้ก ไม่ขำ เพราะกุดูจริงจังไปหมดทั้งๆที่กุอยากให้คนอื่นขำกุบ้าง กุจะมีความสุขมากถ้าทำให้คนอื่นขำได้ แต่กลายเป็นพูดอะไรคนก็ไม่ขำ ไม่สนุก ดูจริงจังไปหมด ไม่เป็นจุดสนใจ หรือของแบบนี้มันเป็นพรสวรรค์ติดตัวของแต่ละคนวะ ไม่ใช่ทุกคนที่มี กุก็อยากเป็นจุดสนใจบ้าง กุก็อยากทำให้คนอื่นหัวเราะบ้างTT
ห้าห้า สมน้ามหน้าพวกเหยียดชาวบ้าน จงอยู่สังโคมคนเหี้ยต่อไป จงอินซาเคียวต่อไป กาก ห้าห้าห้า
ไอเหี้ยมึงต้องเป็นคนยังไงกันถึงอยู่ๆไปเหยียดคนนู้นคนนี้วะ กูเคยอยู่กับคนแบบนี้มาคนแล้วทํากูดาวน์เลยต้องถอยอ่ะ กูอยู่คุยกับคนอื่นไม่เห็นจะต้องสนหีสนแตดกับชาวบ้านเลยก็มีความสุขกันได้ ถถถ
เพื่อนคืออะไร
>>413 กูถนัดแบบเล่าชีวิตประจำวันให้เพื่อนฟังแล้วทำคนขำได้น่ะ แบบเล่าความเยอะของแฟนกู เล่าความเหี้ยของลูกพี่ที่ทำงาน เล่าเรื่องงาน คือมันอยู่ที่การลงจังหวะเสียง การกระแทกอารมณ์ สีหน้า ภาษากาย...ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ติดตัวมึงมาแต่เกิดอ่ะนะ
สมัยพีคสุดคือตอนม.ปลายแค่กูออกไปยืนหน้าห้องเฉยๆ (คือออกไปอ่านเรียงความแหละแต่กูยังไม่ทันอ่าน) แค่ภาษากาย กับสีหน้าก็ทำคนขำแล้วโดยที่ยังไม่ได้พูดซักคำ
แต่ก็อยู่ที่ความ humor แต่ละคนด้วยบางคนไม่ได้ขำแนวนี้แม่งก็ไม่ขำ
>>417 มึงคือตัวตลกที่เขาสมเพชกันรึเปล่า แต่ไม่ใช่คนที่มีcharismaแล้วตลกแน่ๆครับ
https://youtu.be/3AGGEFHn-HA
เบื่อเพื่อนขี้เม้าขี้นินทาปากบอกเป็นห่วงกุไม่เคยมองข้ามกุเเต่ลับหลังก็เเอบไปเม้ากะเพื่อนคนอื่นก็รู้เเหละว่าไลฟ์สไตล์มันไม่ตรงกัน อย่างงี้เขาเรียกเพื่อนกินปะ
ขอถามคนที่ชอบแชร์ไอดีเกมกับเพื่อนหน่อย เกมแนวไหนก็ได้เลย แบบว่าไม่รู้สึกแปลกๆที่คนอื่นมาทำไรในไอดีตัวเองบ้างเหรอ เข้าเกมมาของเปลี่ยน สถิติสู้เปลี่ยนงี้อะ
https://i.imgur.com/zF1yrfm.jpg
ทำไมเพื่อนทิ้งเพื่อนกันแบบนี้
พอป่วยไม่สบายทำให้มึนๆสมองรันตามไม่ทัน ก็ทำให้รู้ว่าจริงๆการคุยกับเพื่อนมันไม่ได้ยากเลยนี่หว่า แค่กุไม่ต้องคิดไรในหัวแล้วตอบโต้ไปก็แค่นั้นเอง พยายามทำหัวโล่งๆอย่าไปคิดเยอะ สิ่งที่กุต้องสู้ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นความคิดในหัวกุต่างหากที่เอาแต่คิดแง่ลบคิดกังวล ทั้งที่จริงๆเพื่อนมันก็คือเพื่อนอ่ะมนุษย์คนนึงที่มึงปล่อยใจแล้วทำตัวบ้าๆบอๆด้วยได้ เหมือนยิ่งกุคิดเยอะกุยิ่งมีกำแพงล่องหนที่ทำให้คนไม่กล้าเข้ามาคุยกับกุ พอกุเลิกคิดอยากคุยก็คุยเลยทำให้กุได้คุยกับคนใหม่ๆเยอะขึ้นมาก
รำคาญเพื่อนที่เป็นไรก็ไม่บอกจังวะ เหมือนไบโพลาร์อะ วันนึงคุยกันอยู่ดีๆ ก่อนแยกย้ายมีชวนกูไปกินข้าววันถัดไปด้วย พอขึ้นวันใหม่กูก็มาแดกข้าวตามนัด มันเสือกเงียบ ไม่พูดไม่จา ถามคำตอบคำ คือเคยบอกแล้วนะว่าไม่โอเคไรให้บอกเลย จะให้คนอื่นมาเดาความคิดมึงทำไมวะ
น้อยใจว่ะ จู่ๆเพื่อนเทนัดกันดื้อๆ กูงอนก็ยังไม่รู้ตัวอีกแม่ง
เพื่อนชอบเอาปัญหาตัวเองมาขิงตอนกูกำลังเล่าเรื่องตัวเองอะ ต้องบอกมันยังไงให้ไม่ขุ่นใจกันวะ แบบเร็วๆนี้กูทะเลาะกับแฟน ก็เลยไปคุยกะกลุ่มเพื่อนว่า ทะเลาะกันนะ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ๆขึ้น อารมณ์ระบาย+ขอคำปรึกษา แล้วเพื่อนคนหนึ่ง (และจะเป็นคนนี้ตลอด) ก็พูดขึ้นมาว่า เออๆ กับแฟนเก่าก็เคยเจอแบบนี้ๆ หนักกว่าอีก ของแกยังดี แล้วก็ดึงสปอตไลท์ไปเรื่องของมันแทนเรื่องของกูซะงั้น
อันนี้คือเรื่องล่าสุด แต่ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้มาบ่อยละ มันคงแค่อยากแชร์ประสบการณ์ และแชร์ผิดเวลาไปหน่อย แต่ทุกครั้งนี่กูควรจะดึงสปอตไลท์ของกลุ่มกลับมาที่เรื่องกูยังไงดีแบบสมู้ทๆอะ
ไอ้คนที่ชอบพูดหักหน้าคนอื่น ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยก็ตาม แต่มันก็ดูออกว่าจงใจทำให้กุอาย จงใจกดกุให้ต่ำ ให้อายคนอื่นเขา ทั้งๆที่เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นเขาไม่ได้สังเกตุเห็นและเป็นเรื่องปกติด้วย แต่มึงก็จงใจทักกุในทางที่แย่เพื่อกดให้กุเป็นตัวตลก แต่ดีนะไม่มีใครเขาตลกกับมึง ทำทำไมอ่ะ คิดว่าทำแล้วมึงจะดูสูงขึ้นหรอ ต่ำกว่าเดิมอีก หาเรื่องคุยไม่ได้ก็บูลลี่คนอื่นแม่ง ดูกระจอกดี พอกุสวนก็ทำเป็นแหยๆทำเป็นพูดดี ดูเจตนาไม่ออกเลยมั้ง
>>430 มึงไปปรึกษาผิดคนแล้ว แบบนี้พวกฟังชาวบ้านไม่เป็น แก้ไขไรไม่ได้หรอก
แปลกดีหว่ะไอคนประเภทนี้มันมีหลายคนดีวุ้ย แบบกูปรึกษาเรื่องหนึ่งแม่วต้องเอาเรื่องมันมาเล่าทับ ทั้งที่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยไม่วาาอยากจะให้ช่วยรับฟังหรือช่วยแก้ไขปัญหา เรื่องที่แม่งเอามาเล่าบางทีก็คนละปัญหากับกูด้วย แต่ปากบอก อืมๆกูเข้าใจ อ่ะจ่ะ เข้าใจโพ้ง
กูเป็นห่วงเพื่อนว่ะ วันก่อนกูทักเพื่อนสนิทมากๆตอนมัธยมปลายคนนึงไปถามเรื่องสัพเพเหระ แต่เหมือนกูจะเลือกถามคำถามผิดตั้งแต่แรกคือกูถามเพื่อนว่าเรียนมหาลัยเป็นไงบ้าง พอกูถามไปแบบนั้นปุ๊ปเพื่อนมันตอบกูมาว่าไม่ได้เรียนแล้วละรู้สึกแม่งโคตรเคว้งเลย
คือตั้งแต่จบม.ปลายมากูก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนนี้เลยนะ แรกๆก็คุยนิดหน่อยแต่กูเริ่มรู้สึกว่ามันมีโลกของตัวเองแล้วกูเลยไม่ค่อยอยากไปยุ่งเท่าไหร่ กลายเป็นนานๆทักที นี่ไม่ได้คุยกันประมาณปีครึ่งปีได้มั้งละมันบอกว่ามันไม่ได้เรียนแล้วกูเลยเป็นห่วงมันว่ะ คือกูไม่ได้หวังว่าใครจะต้องเรียนต่อปริญญาทุกคนนะ เพื่อนที่เลิกๆเรียนไปแล้วตอนนี้มันได้ดิบได้ดีมีงานทำตั้งแต่20ต้นๆก็มีเยอะแยะ แต่คนนี้กูเป็นห่วงเพราะมันดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเรียนนี่แหละ ไม่รู้มันดรอปตั้งแต่ปี1หรือปี2หรือเพิ่งมาดรอปสดๆเลยตอนจะปี3 แต่เท่าที่กูเป็นเพื่อนมันมาจะ10ปีกูเห็นแต่ด้านที่มันเป็นคนอ่อนต่อโลกมาตลอดเลย เอาตรงๆมันดูเป็นคนจัดการชีวิตตัวเองแทบไม่เป็นเลย ทรงนีททรงโอตาคุในการ์ตูนอะไรพวกนั้นเลยเว้ย สิ่งเดียวที่กูรูปสึกว่ามันพอจะทำได้ก็มีแค่เรื่องเรียนนี่แหละ แล้วยิ่งอยู่ๆมันเลิกเรียนอีกกูเป็นห่วงสภาพจิตใจมันว่ะ ไม่รู้ดิ กูรู้สึกว่ามันเป็นคนที่เสี่ยงซึมเศร้าแล้วก็ดูเป็นคนที่มีก้อนขมุกขมัวในใจเยอะมาก มันไม่เคยแสดงด้านนี้ออกมาให้รบกวนใจใครนะ ไม่เคยงอแง(แต่ก็ไม่ได้ร่าเริง) แต่ก็รู้ว่ามันเสี่ยงดีเพรสแบบหมดอาลัยตายอยากสิ้นหวังกับชีวิตสุดๆ แล้วยิ่งมาเจอแบบนี้กูรู้เลยอ่ะว่ามันต้องรู้สึกแย่กับตัวเองมากแน่ๆ แต่กูไม่กล้าเข้าไปพูด ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอะไรกับชีวิตมันเลยว่ะ กูพอจะเข้าใจอยู่ว่าคนที่ลักษณะแบบนี้เขาอาจจะไม่ได้ต้องการคนในชีวิตจริงอยู่ข้างๆเพราะอาจทำให้ยิ่งรู้สึกแย่ กูเลยทำได้แค่หยุดอยู่แค่นั้นแล้วถอยกลับมาแบบที่ทำมาตลอดตั้งแต่เรียนจบ ปล่อยให้คนที่มันรู้จักกันแค่ในจอหรือเกมการ์ตูนอะไรที่มันชอบปลอบประโลมมันไป กูไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปยุ่งจริงๆ แต่กูก็โคตรเป็นห่วงเลย กูทำถูกแล้วไหมวะ
>>434 กูก็คงทำได้แค่นั้นแหละ จริงๆกูทำไม่ได้แม้แต่จะไปฟังมันระบายด้วยซ้ำ ถ้ามันยังไม่กล้าเปิดใจให้คนในชีวิตจริงที่เคยเห็นหน้าเห็นตามันจริงๆจนไม่ยอมพูดอะไรให้กูฟังแต่พูดแต่กับคนในจอมันกูก็คงต้องมูฟออนแหละว่ะ กูอาจจะไม่สำคัญกับมันจริงๆ หรือคิดในแง่ดีหน่อยมันก็คงแค่ไม่อยากให้คนรู้จักเห็นมันทำตัวอึมครึมล่ะมั้ง
มีเพื่อนคนนึงที่กูเคยสนิทมากๆตอนเรียนออนไลน์เพราะตอนนั้นยังไม่รู้นิสัยจริงๆมั้ง แต่พอกลับไปเรียนออนไซต์พวกเราแทบไม่คุยกันเลย กูก็นึกว่าคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง เวลาทักทายก็ปกติ แต่ไปๆมาๆเริ่มจะเมินกัน กูเริ่มไม่อยู่ในสายตาเขา เขาก็คงคิดว่าเขาไม่อยู่ในสายตากูเหมือนกัน ซึ่งกูไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แล้วแบบเขามีเพื่อนเยอะมากจะตัดขาดกูไปยังไงก็ได้เขาคงไม่รู้สึกอะไรหรอก เผลอๆอาจจะมีความสุขขึ้นด้วยซ้ำที่ไม่มีกู(อันนี้กูไม่รู้นะกูคิดเอง)
พวกมึง ออฟฟิศที่กูทำล่าสุดอะ ทำมานานแล้วแหละ แล้วทีนี้เพื่อนๆรุ่นๆกูอะทยอยย้ายงานกันแล้ว
บางคนย้ายเพราะอัพเงินเนื่องจากมีภาระผ่อนบ้านด้วย บางคนก็แบบทนงานแบบแก้ไขปัญหาไม่จบไม่สิ้น
บางคนก็แบบขอย้ายไปทำอีกตำแหน่งมา 2ปีแล้วยังไม่ได้ย้าย แต่คนมาใหม่ได้ทำน้อยใจขอลาออกไปทำที่อื่นก็มี
กูรู้สึกเศร้าๆไงไม่รู้ แบบถึงจะนัดกินข้าวกันได้ก็เหอะ แต่ไม่ได้ฟีลเหมือนอยู่ออฟฟิศด้วยกันเลยว่ะ
หรือเพราะกูทำงานเอาสังคมเลยรู้สึกเศร้าขนาดนี้วะ
คน toxic นี่ มันไม่มีวิธีแก้ให้เขาดีขึ้นเลยเหรอวะ ทำได้แค่เฟดตัวออกมาแบบเงียบๆเพราะคนแบบนี้บอกไปมันก็ไม่รู้ตัวเหรอ?
คนที่ติดสกินชิปในยุคโควิดนี่เสี่ยงตายดีจังเนอะ
อยากคุยกับเพื่อนร่วมห้องแต่ไม่รู้ เขาคุยอะไรกันวะ อยากคุยเก่งวะ แต่ความชอบส่วนตัวกูคนกันคนในชั้นไม่ค่อยตรงกันวะเลยไม่รู้จะคุยอะไร บ้างทีก็รู้สึกเหงาๆ
>>445 ตามน้ำได้มั้ย วิธีของกุคือเวลาเพื่อนเล่าเรื่องคู่รักดาราที่กุโคตรจะไม่สนใจและไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ กุก็จะฮึ้ยย จริงหรอ เออน่าร้ากกก ใจฟูเนอะ สายเปย์มากอ่ะโคตรสุด แค่ใครเล่าไงก็ตามน้ำไปแล้วทำเป็นรู้สึกไปกับเรื่องที่เขาเล่าอ่ะ โอเวอร์แอคติ้งไปเหอะ ต่อให้คนเล่ามันรู้สึกว่าเราโอเวอร์แอคติ้งมันก็จะเล่าต่ออยู่ดีเพราะรู้สึกดีเวลาที่มีคนฟังแล้วมีอารมณ์ร่วมไปกับมันด้วย ถ้าความชอบไม่ตรงกันก็แสร้งทำเป็นสนใจเรื่องที่เพื่อนชอบอ่ะ แล้วตบท้ายด้วย 'ถ้าว่างๆเดี๋ยวจะตามไปดูแน่นอน' อันนี้กุไว้ใช้ตอนตีสนิทแรกๆอ่ะ/ปจบ.กับเพื่อนกลุ่มเดียวกันกุก็ใช้
มึงนี่ร่างแยกกุป่ะกุก็อยากเข้าเป็นพักๆ ที่อยากเข้าคืออยากสนิทกับคนอื่นมากขึ้นอยากให้เขารู้สึกดีกับกุไม่อยากไม่สนิทกับใครในห้องกลัวแปลกแยก แต่เข้าแล้วพลังงานหมดไว+ขี้รำคาญเหมือนมึงอ่ะ สุดท้ายกุกลับมาเลื่อนโทรศัพท์ของกุคนเดียวอยู่ดี
กูต้องเก็บความลับ แต่มีเพื่อนมาปรึกษา อีเชี่ย กูอยากเสือกมาก แต่กูต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดี กูจึงไม่สามารถพูดได้ว่าเรื่องอะไรแม้จะลงโม่ง แม่ง อยากรู้ๆๆๆ ทำไมกูขี้เสือกแบบนี้ เพื่อนบอกกูมาเลยได้มั้ย
เพื่อนสนิท ไปเป็นเพื่อนกับคนที่กุไม่ชอบขี้หน้า และมันก็ไม่ชอบขี้หน้ากุเพราะเคยมีเรื่องกัน กูควรถอยออกมาป่ะวะ
กูไม่รู้จะเอายังไงกับเพื่อนในสาขาคนนึงว่ะ
เพราะตอนเรียนก็แทบไม่ได้คุยกัน ไม่ได้สนิทกันเลยด้วยซ้ำ ที่จำเป็นต้องติดต่อก็เพราะต้องมาฝึกงานที่เดียวกันเฉยๆ
แล้วด้วยความที่ว่า กูเป็น Introvert เวลาเจอคนไหนไม่สนิททักมากูเลยจะต้องทำใจก่อนตอบอ่ะ ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักเลย แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบที่มีคนอื่นทักมานะ กูแค่ล่ก ที่กูไม่โอเคจริงๆคือโทรมานี่แหละ หัวใจกูจะวายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าใครโทรมาแบบไม่จำเป็นจริงๆ กูจะไม่โอเคเป็นอย่างมาก ใช้เวลาหนักกว่าตอนแชทอีก บางทีทำใจไม่ได้จนต้องเมินสายด้วยซ้ำแล้วค่อยแชทไปขอโทษเขาอีกที แต่ก็ไม่ได้ทำบ่อยนะ
ช่วงนี้ กูกับเพื่อนคนที่ว่าก็จำเป็นต้องติดต่อ เพราะจะหารค่าแท็กซี่กลับกันด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็จะโทรมาก่อน บางทีก็ยังไม่ถึงเวลาด้วยซ้ำก็โทรมาหากูก่อนแล้ว กูเองก็พยายามรับเท่าที่ได้แล้ว แต่ถ้าพลาดก็เพราะกูดันไม่ว่างพอดี ซึ่งกูก็พยายามทิ้งข้อความไว้แล้ว ไม่ก็พยายามรีบไปหาเลน จนวันนึง กูรู้สึกไม่สบายใจมากจนยอมเมินสายทิ้งไปครั้งแรก เพื่อนคนนั้นกูเฉย คิดว่ากูไม่อยากคุยกับเขาซะงั้น
กูควรทำยังไงดีวะ กูรู้ว่าส่วนนึงกูผิดนะ แต่กูไม่โอเคจริงๆกับการโทรมาบอกด้วย ถ้ามันไม่ได้เลทมากหรือจำเป็นนะ
>>452 กูเป็นแบบมึงเลย introvert แล้วมีsocial anxiety แต่กูชอบให้มีคนโทรมาหามากกว่า เพราะการติดต่อไปเองมันหนักใจกว่า ถ้าอีกฝ่ายโทรมากูก็แค่เออๆออๆตามแม่งไปไม่ต้องคิดไรมาก แล้วกูชอบคุยเสียงมากกว่าแชทแฮะ แบบอ่านใจอยากพอเป็นตัวอักษรแล้วกูไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจในสิ่งที่กูสื่อมั้ย มาสลับร่างทีดิ้
บ่นหน่อยแม่ง กูpanicจัดหว่ะ ถึงคุยกับคนแล้วโครตเหนื่อย แต่เรื่องงานต้องการสื่อสารให้จบๆเคลียร์ๆไปก่อน ไม่ชอบให้ยืดเยื้อ ซี่งเพื่อนร่วมงานกูแม่งก็เป็นพวกไม่คุยเรื่องงาน มีแต่คุยสัพเพเหระซึ่งกูไม่อยากคุยกับแม่งเลยตึงๆกัน แล้วเรื่องงานไม่คุยไอเดียก็ไม่ออก เห็นกูขรึมๆคงว่าไอนี่หยิ่งแน่เลยหว่ะ กูแบบไม่มีอีโก้ให้หยิ่งยโสอะไรทั้งสิ้น กูคุยน่าเบื่อจะตายไงเลยไม่คุยดีกว่าสบายใจคนอื่นมากกว่า กูอยากเจอคนโทรตามบ้าง อิจฉามึงโว้ย กูแบบไม่มีใครตามเชี่ยไร ต้องทําทุกอย่างเอง ตามงานคนอื่นเอง โครตแพนิคถ้าทุกคนเงียบไป อยากหาหัวหน้าผู้นําเก่งๆมานําชีวิตการงานกูซักคนหว่ะ แบบโทรตามทํานู่นนี่ กูจะเป็นหมาคอยทําทุกอย่างตามที่ดีเลย
ระหว่างเสียพลังงานไปกับการทำงานกับการเสียพลังงานจำนวนมากไปอธิบายงานที่มึงไม่คิดจะทำอยู่แล้วเนี่ยเสียเวลาเปล่า จะขอทำเดี่ยวปัญหาเรื่องสังคมก็จะตามมาอีก
ทำไมกูแคร์คนอื่น แต่คนอื่นไม่แคร์กูเลยวะ กูช่วยเหลือ คอยรับฟัง ตลอดเลย หรือเล็กๆน้อยๆแบบคอมเม้นท์ในไอจี รอเพื่อนเวลาคนนึงเดือนตามไม่ทัน ไม่เคยพูดขัด หรืออะไรก็ตาม แต่พอมาถึงตากูทีไรไม่เห็นมีใครทำแบบนั้นกับกูเลย
ขอเทคนิคออกห่างกับเพื่อนโดยที่ไม่น่าเกลียดหน่อยสิ คือไม่มันดราม่าอะไรถ้าไปบอกตรงๆ เทอๆเราอยากอยู่คนเดียว มันก็แปลกๆหว่ะ ควรทํายังไงให้ตีตัวออกห่างให้เนียนๆได้ ยังไม่ได้เริ่มเรียนนะ แต่ต้องเรียนวิชาเดียวกัน แต่เราไม่อยากนั่งกับมันเลย
เหตุผลที่อาจจะต้องได้นั่งด้วยกันเพราะเป็นคนไทยไปเรียนต่างประเทศ แต่เราอยากมีเพื่อนต่างชาติอ่ะ ไม่อยากอยู่กับคนไทย
>>460 คือกลัวจะได้เป็นเมทด้วย อยากเตรียมตัววางแผนการออกห่างให้ได้ก่อน
ตอนนี้คิดว่าจะไปนั่งอ่านหนังสือ เที่ยวไรเตรดเตร่คนเดียว ใช้เวลาที่หอให้น้อยที่สุด ไปไหนไม่บอกมัน
ถ้าสมมติกูอยู่หอกับมันอยู่ๆอยากไปข้างนอกแล้วมันจะตามมา บอกว่าไรดี
-ไปดูดหรี่ (แม่งไม่สูบ) ได้ป้ะ
คือออกห่างแล้วมันจะไม่มีปัญหา หรือกูจะโดนมองว่าดูไม่ดีมั้ยนะ กังวลมาก เพราะเคยโดนนินทาใส่ความมาแล้วเพียงเพราะกูไม่ได้ไปไหนกับกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่ง … คือแล้วไอเพื่อนใหม่มันเป็นประเภทน่าหงุดหงิดแบบนี้ด้วย กูรำคานดราม่า คืออยู่แยกกันแต่เรียนอะไรด้วยกันได้ จะรอดมั้ยอุดมการณ์กู
แบบมีกูกับเพื่อนสนิทอินโทรเวิร์ดกูเท่านั้นที่มองตากันก็เข้าใจอยู่ ไม่รู้ว่าคนอื่นในสังคมเด็กไทยแม่งจะมองกูไงวะ 😭
ขอบ่นเรื่องเพื่อนเป็นซึมเศร้า
เพื่อนกุคนนึงเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง(มันเป็นจริงและพบจิตแพทย์)ชอบทำร้ายตัวเองแล้วชอบลงโซเชี่ยลหลายรอบแต่ทุกครั้งก็รอดมาได้เพราะมีคนช่วยทัน มันชอบเก็บทุกอย่างมาคิดเอาปัญหาของคนอื่นมาใส่ตัว แรกๆคนรอบข้างมันก็เยอะนะแต่ด้วยนิสัยมันมั้นใจในตัวเองสูงชอบคุยข่มเกทับลามปามกลายชอบโพสให้ตัวเองดูน่าสงสารกลายเป็นคนเริ่มออกห่างจากที่แต่ก่อนมันลงโซเชี่ยลมีแต่คนให้กำลังใจมันนะเดี๋ยวนี้แทบไม่มีแล้ว เคยสนิทด้วยอยู่ช่วงนึงมันมีแต่พลังลบๆเข้ามาโดนคุยข่มว่าหาเงินเองไปเรียนไปงู้นงี้กูเลยห่างออกมาเพราะไม่ไหวเหมือนกันจะเตือนก็ไม่กล้าเดี๋ยวน้อยแล้วทำอะไรไม่คาดคิดเพราะมันเคยโดนแฟนมันดุแล้วโพสลงไอจีเฟสบุ้คเหมือนแฟนแม่งว่าแรงมาก(แต่กุไปคุยก็ดุปกติเพราะมันงี้เง่า)พร้อมกับลงรูปกรีดแขนอีกถามว่าเป็นห่วงมันมั้ยห่วงนะแต่ไม่เอาตัวเองเข้าไปแล้วอ่ะกลายเป็นว่าโรคซึมเศร้าของมันไม่ได้น่าสงสารสำหรับกูและคนรอบข้างแต่กลายเป็นน่าสงสารในโลกโซเชียล เพื่อนเก่ากูบางคนมันก็ยอมรับว่าเป็นก็กินยาเงียบๆนะไม่ได้โพสเรียกความสงสารและพยามใช้ชีวิตปกติกับคนทั่วไปมีอะไรก็จะโทรมาคุยมาระบาย ไม่ได้แอนตี้คนเป็นโรคซึมเศร้านะแต่บางคนเอาโรคนี้ขึ้นมาเป็นข้ออ้างแล้วทำนิสัยแย่จนทำให้คนรอบข้างถอยออก
มีใครมีเพื่อนที่เป็น introvert แล้วรำคาญมันบ้างป่ะ เป็นอะไรนักหนาชวนไปไหนก็ไม่ไป โกหกว่ามีนู่นมีนี่แต่กูรู้นะว่ามึงนอนเล่นมือถืออยู่ในห้อง เข้ามหาลัยทั้งทีไม่ทำเหี้ยอะไรเลย ชวนไปเที่ยวก็ไม่ไป ชวนไปหาอะไรกินก็ไม่ไป แค่ไปกินชาบูแม่งบอกรอสอบเสร็จ รอปิดเทอมก่อนถึงจะไปกินได้ มึงจะอะไรขนาดนั้น กิจกรรมห่าอะไรก็ไม่เคยเข้า ไม่เคยสร้าง network อะไรเลย พอต้องเรียนออนไลน์ไม่เคยติดต่อกันมาเป็นปี อีเหี้ย สุดท้ายพอต้องขอความช่วยเหลือก็ต้องมาขอจากกูเพราะไม่มีเพื่อน คือมึงมีเวลาสร้างเพื่อน ตั้งเยอะทำไมถึงทำตัวแบบนี้วะ กูดึงไปหาคนนั้นคนนี้ก็ไม่ยอมไป ชีวิตพวกมึงสองสามคนหลังจากนี้จะเป็นไงวะ ไม่มีเพื่อน สร้างสายสัมพันธ์ไม่เป็น ทำอะไรเป็นทีมไม่ได้ คิดถึงแต่ตัวเองแบบนี้ กูล่ะเป็นห่วงจริงๆ
>>466 กูเป็น introvert แต่กูเพื่อนเยอะนะ เพื่อนมึงไม่ได้ introvert อย่างเดียว นั่นนิสัยส่วนตัวส่วนนึง
ของกูเพื่อนชวนไปไหนไม่ไปเหมือนกัน ผับไม่ไป แดกไม่ไป เที่ยวก็ไม่ไป
นั่งอ่านการ์ตูนเล่นเกมอยู่ในหอ กูก็ยังมีเพื่อนเยอะได้
แต่เห็นด้วยอย่างว่าเป็นคนแบบไหนหาเพื่อนไว้ก็ดี ยกเว้นมึงจะเก่งสุดยอด แต่ถึงจะอย่างงั้น คนเก่งที่มีเพื่อนก็ดีกว่าคนเก่งโซโลอยู่ดี
>>466 เออกูก็ in นะ แต่ชวนไปไหนกูต้องดูก่อนกอนเหล้าเข้าผับกูไม่ไปแน่ๆอะ แต่ถ้ากินชาบู สุกี้ เนื้อย่าง ถ้าไปเที่ยวก็ขอเที่ยวแบบไม่เหนื่อยมากก็ไปแต่ก็ต้องดูเงินกูด้วยส่วนนึง เอออีกเรื่องกูไม่ชอบเที่ยวกับเพื่อนเยอะๆเท่าไหร่เต็มที่ 4 คนก็พอเอาสนิทจริงๆแค่นั้นเลย เรื่องเพื่อนไม่มีปัญหาปัญหาอยู่ที่เพื่อนน้อยถ้าเวลาว่างไม่ตรงกันก็ต้องไปคนเดียวอันนี้ต้องยอมรับให้ได้
ไม่เคยพูดกับเพื่อนว่าทำไมมึงถึงชอบรีรูปแอคโคยเยอะจัง เพราะเป็นแอคของเพื่อน เพื่อนจะรีอะไรก็ได้เรื่องของมัน แต่กูก็ไม่อยากอันฟอลมัน เลยบล็อกแอคทุกแอคที่มันรีมาแรกๆเห็นเพียบหลังๆไม่เจอแล้ว สบายใจจัง ไม่ต้องอันฟอลเพื่อน ไม่ต้องเห็นรูปใครซักคนทำท่าทำหน้าแปลกๆ
แค่อยากจะมาอวดเฉยๆว่าเจอเพื่อนที่ชอบสกินชิปเหมือนกันแม่งโคตรดีเลย เพราะไม่ใช่แค่เราที่จะไปยุ่มย่ามเขา เขาก็ยุ่มย่ามเรากลับเหมือนกัน อบอุ่นชิบหาย ทำกับคนอื่นไม่เคยโดนทำกลับ โดนทำกลับทีนึงมึงนี่แหละคือเพื่อนสนิทกุ จากนี้มีกุมีมึงไปไหนไปกัน
งานกลุ่มแชทหนักขวามาก ต้องส่งวันพฤหัสนี้แล้วแต่ยังไม่เลือกหัวข้อเลย ทุกคนไม่รู้จักกัน กุก็ไม่รู้จะพูดไงดี ก็เสนอๆๆๆหัวข้อไป แต่ไม่มีคนตอบเลย โม่งมีแนวทางในการพูดกับเพื่อนมั้ย
พวกเพื่อนที่ชอบทะเลาะกับแล้วบอกให้กูไม่ต้องยุ่งกับคนที่มันทะเลาะนี่มันยังไงวะ โครตรำคาน
กูมีเพื่อนที่เก่งด้านนึง(ชีวิตมันก็มีแค่นั้น)แล้วเหมือนเป็นความภูมิใจเดียวที่มันมี จนมันอีโก้สูงสัสๆสูงจนมองตัวเองอยู่เหนือคนอื่นในวงการเดียวกัน ปากมันบอกว่าไม่อยากยกตัวเองสูงแต่การกระทำมันฟ้อง เวลาคนอื่นทำไม่ถูกก็ไม่ไว้หน้าเพื่อนตัวเองเลย พอมีอะไรที่คนอื่นไปศึกษามาแล้วรู้ว่ามันมีหลักการยังไงไอนั่นก็จะสงสัยในตัวเพื่อน ไม่ยอมรับความคิดคนอื่นแต่เห็นต่างพร้อมยัดความเห็นตัวเองทั้งที่หลักฐานอ้างอิงจะทิ่มตาอยู่และ แค่อยากให้มันหัดยอมรับคนอื่นบ้างว่าคนอื่นก็ทำได้ บางเรื่องที่คนอื่นรู้มันก็ไม่รู้ อีกเหตุการณ์ที่รำคานเลยคือตอนที่กูบอกมีงาน(อาสาไม่ได้ตังค์)มันก็เสนอหน้าจะมาช่วยบอกว่าตัวเองมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ กลัวกูไม่ไหว ถามจิงนี่งานอาสาแล้วกูก็มีทุกอย่างที่เขาต้องการอยู่และ
>>481 มึงเป็นเพื่อนที่นิสัยไม่ดีอ่ะ คบไม่ได้เลยเถอะ คือ มึงรำคาญคนที่อยากช่วยมึงทั้งที่มันคืองานอาสาไม่ได้ประโยชน์เหี้ยอะไรเลย และมึง บอกว่าเพื่อนมึงอีโก้สูง แล้วมึงไม่อีโก้สูงเลยมั้งที่ไปบอกว่าเพื่อนมึงมีความรู้ทั้งชีวิตแค่เรื่องนั้น ไหนจะประโยคเหี้ยๆอย่าง ไอ้สิ่งที่คนอื่นรู้มันเองก็ไม่รู้มันก็มี คือมึงลองย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ด่าอีเพื่อน แล้วย้อนกลับมาถึงประโยคนี้ ลองพิจารณาตัวเองดูว่า เออ มึงก็ไม่ได้ต่างจากมันเลย แย่กว่าด้วย อยากให้มันยอมรับว่าคนอื่นก็ทำได้ คนอื่นก็มีความรู้ แต่ตัวเองยังทำตัวโง่ๆอย่างมาด่าเพื่อนตัวเองให้คนในโม่งฟังแล้วเสือกโดนโม่งด่าเอง โง่มากขนาดนี้ไม่แปลกที่จะมองคนที่มีความรู้เฉพาะทางว่าเขาอีโก้สูงอ่ะ ถ้าเขาอีโก้สูงเขาจะมาช่วยงานที่ไม่ได้ห่าอะไรเลยทำไม แค่คำชมเชยหรอ แค่คำอวยหรอ คิดเด็กน้อยชิบหาย
ถามหน่อยดิ ถ้าเพื่อนของเราไปสนิทกับแฟนเก่าของแฟนเราจะทำไง กุ แฟนกุ เพื่อนกุเป็นเพื่อนกันมาก่อนทั้งหมด ยกเว้นอิแฟนเก่า พยายามจะไม่รู้สึกแย่อะไรละ ไม่รู้โดนทางนั้นมาปั่นหัวยังไง อยู่ดีๆก้ไม่คุยกับกุ ลบเฟสออกอีกต่างหาก โพสเหมือนปากเก่งด้วยว่าไม่อคติกับใคร มีอะไรคุยกันได้โตๆกันแล้ว แต่มึงลบเพื่อนกุไม่บอกซักคำค่ะ ไปเม้นคิกคักกับอิแฟนเก่าของแฟนเราคนนั้นอีก ชมเก่ง เม้นน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ กับกุที่เป้นเพื่อนแท้ๆยังไม่เคยททำ ประจบขั้นสุดมาก อยุ่ดีๆก้เฉดหัวกุเฉย ได้เพื่อนรักคนใหม่ ค่ะอิดอก เก่งมากมั้ง โดนใครเป่าหูอะไรก็เอนไปทางนั้นหมด แล้วบอกไม่กล้าหักหลังใคร กลัวบาป แล้วกุเป็นข้อยกเว้นเหรอ กุงงกับตรรกะมัน
>>482 ก่อนจะว่ากูไปมากกว่านี้กูเล่าให้ฟังเพิ่มละกันเผื่อจะเข้าใจมุมมองกูและเพื่อนคนอื่นมั่ง มันอ่ะเก่งแต่จุดบกพร่องเลยคือมันคิดว่าคนอื่นยังทำไม่ได้ ไม่ให้โอกาสคนอื่น ไปอ่านที่กูเล่าอีกรอบนะว่าเอาข้อมูลมาพูดอ้างอิงจะทิ่มตาอยู่ละมันก็ไม่คิดว่ากูพูดถูกแล้วเถียงยัดความคิดตัวเองที่มันไม่ถูกตามอ้างอิงใส่ ทำแบบนี้มันหมดกำลังใจคนที่อุตส่าห์แบ่งปันข้อมูลนะ ที่กูไม่อยากให้มันช่วยเพราะมันกวาดทำทุกอย่างในด้านนี้มาตลอดจนคนอื่นไม่ได้ทำ กูกล้าพูดเลยว่าแย่งเพราะตอนนึงที่มันไม่อยู่แล้วคนอื่นมาทำงานกูก็นึกว่าให้คนอื่นทำบ้าง แม่งตอบว่าถ้าตัวเองอยู่มันไม่ให้คนอื่นทำหรอก ไหนจะเคยทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มเพราะไปจำจี้จำไชเค้าอีก ถ้าไม่เห็นภาพลองนึกดูว่ามึงเก่งอะไรซักอย่างเช่นวาดรูปแล้วมึงทะนงตัวอ่ะ คนอื่นเยอะแยะอยากทำไม่ได้ทำเพราะมึงชิงทำแทนคนอื่นหมด คนอื่นคิดยังไงมึงก็คิดว่ามันต้องออกมาแบบนี้เพราะตัวเองประสบการณ์เยอะกว่า
แค่มึงเห็นว่ากูเอามาด่ามึงก็ย้อนกูว่าอีโก้สูงแล้ว กูเอามาบ่นเพราะกูอึดอัด ละงานอาสาอ่ะ มันเป็นงานของกูที่ดีลกับคนอื่นแล้วว่ากูเอาอยู่ ปฏิเสธไปแล้วว่าทำเองได้ไม่เป็นไร มันก็ตื๊อจะไปด้วยกลัวไม่ไหว ถ้าบอกตั้งแต่แรกว่างานที่กูทำคืออะไรมึงอาจจะเข้าใจ แต่กูเลี่ยงกันโม่งแตกดิสัส เป็นงานฝีมือแต่วันนั้นกูไปทำอาสาฟรี ละที่มึงบอกว่ามาบ่นแล้วโดนด่าเองก็เรื่องของมึงละกันทำยังกับว่าทั้งโม่งด่ากูทั้งที่ก็มีแค่มึง เข้าใจแค่มุมคนทำแต่ไม่เข้าใจมุมคนโดนมึงก็ควายเช่นกัน กูบอกตอนไหนว่ามีความรู้เฉพาะทางสูงแล้วอีโก้จะสูง มันแล้วแต่คนแต่ที่กูโดนมามันใช่ ก็แค่นั้น
เพิ่งรู้ความลับของเพื่อนสนิทมา เพื่อนคนนี้ไม่รู้ความจริง มีแต่พ่อแม่กับญาติเค้าสองสามคนที่รู้ว่าเพื่อนกูเป็นลูกเก็บมาเลี้ยง ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ถ้าเพื่อนกูมารู้จะรู้สึกยังไงวะ
แม่งกุเจอคนที่เล่นเกมเหมือนกับกุว่ะ ไม่กล้าคุยอะไรกับเขาเพราะเขาเป็นคนต่างชาติ แต่กุรู้แหละเขาก็มาส่องเฟสส่วนตัวเหมือนกัน(ตอนที่รู้ว่าเขาส่องกุก็ส่อง เขาทำท่าอึ้งหน่อยๆ กุงงเลย555555)
มึง กูไม่รู้จริงๆว่ะว่ากูทำอะไร ตั้งแต่ก่อนปิดเทอมมาก็ไม่มีมาโดยตลอด ปิดเทอมก็คุยดิส แต่อยู่ๆพอมาตอนนี้เพื่อนกูก็เมินกู กูชวนคุยอะไรก็ไม่คุยไม่พูดไม่จาหมดเลย แต่ยังตอบทุกคนอยู่ แต่ยังมากดรีแอคดพสต์กูอยู่นะ มึงว่างงมั้ย กูก็งง ตกลงมันงอนรึอะไรวะ ไม่ได้เจอหน้ากันเลยจะเรื่องอะไรวะ กูพยายามย้อนคิดว่าพูดอะไรผิดไปเหรอ ก็ไม่มีตรงไหนที่พอจะเข้าใจไปทางไม่พอใจได้เลยว่ะ
มีเกมไหนหาเพื่อนคุยได้ปะ ที่ไม่ใช่แนวfps
มามหาลัยตัวคนเดียวไม่มีเพื่อน(เคยมีเพื่อนเป็นคนดังแต่ว่าแตกกันไปแล้วและนั่นทำให้ไม่มีกลุ่มอยู่) เวลาจะทำงานกลุ่ม/คู่ยากมาก ควรทำยังไงดี
>>500 คนข้างๆ ซ้ายขวาหน้าหลังอ่ะ ถ้าไม่มีก้บอกจาร หรือกรุ้ปแชทคลาส ว่าไม่มีทีมใครมีที่ว่างมั้ย ห้องเรียนมันบังคับทำงานกลุ่มแปลว่าเค้ากำหนดแล้วว่าคนจำนวนเท่านี้ต่อเชคมันทำได้กี่กลุ่มไม่มีเศษหรอกมึง ไปถามเลยเน้นไวเข้าไว้ ช้าอืดอาดโดนคนอื่นคาบไปแดก แล้วจะเหลือแต่พวกเศษๆ แล้วจะเซ็ง
เพื่อนมาเล่าให้ฟังว่าแฟนมันงอนอะไรไม่รู้ แต่มันก็ของ้อขอตื้อเขาจนกว่าจะหาย
กูดูทรงแล้ว แฟนมันรู้ตัวนะว่าตัวเองงี่เง่าแต่ก็ไม่ยอมหายงอนเพื่อนกูสักที กูไม่รู้จะปลอบเพื่อนยังไงล่ะ
เพื่อน (เคย) สนิท กำลังจะแต่งงาน แล้วไม่เชิญกู ถึงหลังๆจะต่างคนต่างยุ่งจนไม่ค่อยได้คุยกัน
แต่ก็รู้สึกว่าอีเว้นต์สำคัญๆในชีวิตแบบนี้อย่างน้อยก็น่าจะเชิญกันหน่อยรึเปล่าวะ
กูงี่เง่ามากเลย หวงเพื่อนมาก เพราะเพื่อนแต่ละคนสำคัญกับกูมาก ช่วยให้กูผ่านช่วงเวลาเหี้ยๆมาได้ กว่ากูจะคัดแต่ละคนมาเป็นคนที่กูไว้ใจที่สุดมันใช้เวลานานมาก เวลาเพื่อนมีเพื่อนใหม่กูก็เริ่มรู้สึกไม่ดีละ แต่ถ้าเพื่อนใหม่ของเพื่อนเข้ากับกูได้กูก็โอเค เวลาแอบเห็นว่าเพื่อนตั้งแชทกลุ่มที่ไม่มีกู กูก็นอยด์ พอตอนนี้เพื่อนจะมีแฟน กูก็กลัวกูจะไม่สำคัญเหมือนเดิม กลัวโดนทิ้ง กูควรเฟดออกมาจากชีวิตเขาใช่ไหม กูไม่อยากให้เขาtoxicเลย (กูไม่เคยแสดงอาการไปว่าหวงเพื่อน มีบ้างทีงอนบ้างแต่ก็ไม่บอกสาเหตุแล้วกูก็หายเอง แต่กูรู้สึกแย่ที่ต้องรู้สึกแบบนี้ แต่กูก็ยังอยากมีเพื่อนเป็นพวกมันอยู่ กูควรทำไงวะ)
อยู่ๆเพื่อนเด็กเนิร์ดก็ตึงใส่กูว่ะ สงสัยมันจับได้ว่ากูโดดเรียนแล้วมาชตอ แน่ๆ
คบคนมีปัญหาทางจิตบางทีกูก้เหนื่อย ตั้งแต่มันมีปัญหาคนรอบตัวก้ไม่ชอบเยอะแล้วหมกตัวอยู่ในเน็ต กูเป็นคนใจเย็นมีระเบียบเลยพออยู่ด้วยได้แบบพยายามไม่ทำให้แม่งหนักไปมากกว่านี้ จนวันนึงมันมาลงที่กูเพราะจิตใจไม่คงที่คิดแง่ลบถึงขั้นระรานจนเดือดร้อนกูก้ต้องเซฟตัวเองมั่ง แต่เสียดายจากที่อยู่ข้างมันมานานต้องมาพังเพราะอารมณ์มันวันเดียว กูจะกอบกู้มันยังไงดีลงเหวไปขนาดนี้เหมือนช่วยยังไงก็ไม่ได้เลย
ใครมีเพื่อนกะเทยบ้างวะ กูอยากรู้ว่าทำไมเวลากะเทยเวลาเห็นคนคล้ำๆที่ไม่ชอบแล้วชอบไล่ไปอาบน้ำ ไม่ก็บอกว่าเป็นภาพที่มีกลิ่น กูว่าบางคนก็ไม่ได้ดูสกปรกนะแค่ไม่ได้ขาว
>>511 อันนี้ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นกะเทยรึเปล่าหรอก เพราะกูเองก็เป็นว่ะ
เวลาเดินไปเจอคนคล้ำๆ กว่าครึ่งกูจะได้กลิ่นตัวอีกฝ่ายลอยโชยมาไกลเลยตั้งแต่ยังเข้าระยะ และเป็นกลิ่นที่กูไม่ชอบเลยด้วย ซึ่งสัมผัสนี่ก็ไม่ได้เป็นทุกคนนะ ลูกจ้างที่บ้านกูทั้งแม่บ้านและคนขับรถกูก็ผิวคล้ำแต่ก็ไม่ได้กลิ่น มันเลยดูเหมือนจะเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดมากกว่า
แต่อย่างน้อยกูก็ไม่เคยไล่เขาไปอาบน้ำนะ แค่ทำหน้าเหย่เกยแล้วเดินหนี เพราะกลิ่นที่สัมผัสได้มันแรงมาก
ไม่รู้คิดมากไปเองมั้ย แต่เวลาหาคนหาร netflix spotify กับเพื่อน แล้วเพื่อนสนิทรอบตัวทุกคนบอกเหมือนกันหมดคือ มีคนหารแล้ว เต็มแล้ว หรือะไรก็ตามแล้วมันรู้สึกนอยๆอะ เหมือนถูกทิ้ง ทั้งๆที่จริงๆมันก็ไม่มีอะไรเลย เบื่อตัวเองหวะ
กูรำคาญเพื่อนคนญี่ปุ่นคนนึงมากเลย 555 iรำคาญนิสัย อยากเลิกคบ แต่ก็เลิกคบไม่ได้ซะทีเพราะนางดันรสนิยมคล้ายกูมาก เวลากูแนะนำการ์ตูนหรือซีรีส์อะไรไป นางจะตามไปเก็บหมด แล้วมากรี๊ดกับกูว่าชอบมากสนุกมากแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งกูหาเพื่อนแบบนี้ยากเพราะปกติเพื่อนชอบไม่ค่อยเหมือนกู 555555555 ก็เลยคบนางแบบหงุดหงิดๆ ต่อไป งงตัวเอง 55555555
กูไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกกีดกันออกจากกลุ่มหลังจากมีเพื่อนใหม่เข้ามาในกลุ่ม หรือกูควรจะออกไปเองดีวะ ไม่ต้องรอให้เขาไล่ มันอึดอัดเหมือนไม่ใช่ที่ของเราถึงแม้ว่าเราจะมาก่อนก็ตาม
คนที่เอากูไปพูดแย่ๆจนเพื่อนทั้งกลุ่มไม่คบชอบทักมาคุยชวนเล่นเกม คือมันเป็นเหี้ยไร คิดว่ากูโง่จนไม่มีใครเอามาเล่าเหรอว่ามึงปากสว่าง
กูมีเพื่อนคนนึงชอบตามน้ำไปเรื่อย พอมันลับหลับ ก็เอาเรื่องของกูไปนินทาให้คนอื่นฟัง แต่ตอนนี้กูตัดไปละ ถึงคบไปก็เจอแต่เรื่องประสาทแดก ทอกสิกใส่ ดีไม่ดีคบกับคนที่กูเกลียดอีก
เคยหนักหน่วงจากบ้านเลยมาร้องไห้ที่โรงอาหาร
เพื่อนไม่สนใจนั่งแลกจอดูติ้กต่อกกันจนออดเข้าเรียนดัง กูก็ลุกไปล้างหน้าเอง หายเอง
วินาทีนั้นกูตรัสรู้ แม่งไม่ใช่เพื่อน
โดนบอกชอบเล่นๆ ในวัย20+ กูควรรู้สึกยังไงวะ หรือเขาแค่เล่นไปงั้นๆ
เรื่องแบบย่อๆคือกูถูกไล่ไม่ให้มามีส่วนร่วมในงานตลอดเลยว่ะ เหมือนเป็นการแบ่งแยกแบบอ้อมๆ ตั้งแต่ที่กูถูกเพื่อนเก่าเทไปมีเพื่อนใหม่เพราะเพื่อนใหม่คนนั้นไม่ชอบกู ก็เริ่มมีข่าวลือของกูขึ้นมาเต็มไปหมด แล้วทุกครั้งที่มีงานกลุ่ม ที่ต้องมีกูเนื่องจากว่าจำนวนคนมันต้องมีกูในนั้นพอดี บรรยากาศก็ค่อนข้างที่จะแย่มากๆเลยว่ะจนกระทั่งวันนี้ที่กูพยายามจะช่วยเพราะต้องการกำจัดข่าวลือว่าฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวและชอบเกาะเพื่อนเก่าจนเพื่อนเก่าทิ้งไป(ที่ไหนได้มันเป็นคนเทก่อนเพราะบอกว่ากูไม่ชอบอะไรเหมือนมัน เช่นมันติ่งเกาหลีติ่งนักร้องคนนั้นคนนี้ ปลื้มรุ่นพี่คนนั้นคนนี้แต่กูไม่) แต่ว่ากลับโดนปาถังใส่ว่ะ... แล้วบอกว่าอย่ามารู้ดี รู้เหรอว่าควรไม่ควรทำอะไร ออกไปไหนก็ไป แล้วเย็นวันนั้นมันก็โพสต์ด่ากูว่ะ...กูควรทำไงดี
เบื่อคนที่แม่งชอบพูดจาแซะปกาหมาชิบหาย รือมึงโตๆแล้ว จะ30แล้ว แท่งแซะเป็นเด็กมต้น ไม่ทีมารยาทชิบหาย คือไม่รู้ที่ทําตัวเหี้ยกับกูเพราะแม่งดูถูกกูรึเปล่านะ สิ่งที่กูทําได้ก็คือตอบปัดๆไป ไม่บ่นให้ใครฟังเพราะโตแล้วไม่อยากมีดราม่าปัญญาอ่อนอะไร แต่เอาจริงๆลึกๆก็เหนื่อยใจอ่ะ 55
สิ่งที่กูทําได้ก็ตั้งใจทําวานต่อไปให้ชีวิตกูดีขึ้นกว่ามันเป็นการแก้แค้นละกัน มึงทําได้นะเว้ย ไอนั้นมันควายจะตายไป อย่าเพิ่งท้อ มึงวิ่งนําไปอีกมึงก็จะพ้นมันแล้ว
ใจจริงอยากต่อยหน้าหน้าแม่ง ไอห่านเอ้ยยยยยยยย อกทนไว้กู นิ่งไว้ อ่าคคกรยหยไหยหยหยหยหย
คือกุนินทาเพื่อนในกลุ่มกับเพื่อนสนิทคนนึงแล้วมันก็นินทากับกุด้วยจนวันนี้เพื่อนในกลุ่มรุ้ว่ากุนินทา ซึ่งก็คงรู้จากมันแน่ๆเพราะกุนินทากับมันด้วย กุขอโทษเพื่อนแต่กุก้ยังรู้สึกแย่กับเพื่อนมากๆตอนนี้ กุควรทำไงดี
>>532 มึงจะซํ้ารอยทําไมหล่ะ ถ้าอยากออกจากวงจรอุบาทก็หยุดซะ มึงไม่ต้องไปแก้ตัวหรือไปใส่ไฟเถอะนะ มันไม่ได้ช่วยให้มึงดูดีขึ้น แต่มึงจะดูเหี้ยกว่าเดิม อะไรที่ผ่านมาแล้วก็แล้วไป ทําไรไม่ได้ ยอมรับชะตากรรม เลิกนินทาเพื่อนหรือนินทาชาวบ้าน มึงproofจากการกระทํามึงเอง แล้วต่อไปคนจะกลับมาเชื่อใจมึง
ไปขอโทษเพื่อนมึงด้วยนะ แคร์ความรู้สึกเพื่อนบ้าง ส่วนไอเหี้ยนั้นก็ปล่อยมันไป จะไปแคร์ทําเหี้ยไร เสียเวลา
แนะนำเรื่องนินทา ถ้าไม่ได้เกลียดขนาดจะตัดเพื่อน อย่าใส่เยอะ
ให้คนอื่นนำไป มึงก็พูดราวๆ จริงๆ xxx ก็คนดีนะ แค่ yyy หน่อยๆ
ย้ำไปด้วย ว่าไม่ได้เกลียด หรือว่าเลวร้าย แค่ yyy
จะว่านินทามั้ยก็นินทาแหละ แต่ก็ข้อเสียมันจริงๆ ไง ดูไม่แรงด้วย ได้ระบายด้วย
บางเรื่องแม่งก็สันดานมันเองแต่พอไปเล่าให้เพื่อนอีกคนก็เรียกว่านินทาละ กูเฉยๆถ้าเป็นเรื่องจริงไม่ได้เติมแต่ง แต่กลายเป็นกูผิดตลอดก็ปล่อยพวกเหี้ยอยู่ด้วยกันไปแล้วกัน
แค่จะมาหวีดความโชคดีของกุที่มีเพื่อนรอบข้างดีเฉยๆ หรือเพื่อนของคนอื่นปกติก็เป็นงี้แต่เพราะกุอยู่สังคมรร.บ้านนอกมานานวะเลยดีใจ ปกติกุคิดว่าตัวเองหน้าตาเหี้ยมาตลอดไม่ได้สวยเหมือนคนอื่น ขาวก็จริงแต่หน้าบ้านๆจนเจอเพื่อนในกลุ่มที่สายแต่งหน้ากันทั้งนั้นช่วยกันสอนกุแต่ง กุทำอะไรไม่เป็นก็สอน กุไปรร.ปากซีดๆก็จับทาให้กุด้วยซ้ำ ตอนกุลองแต่งเองนั่นแหละถึงเพิ่งจะเริ่มมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาว่าหน้ากุก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ แต่กุแค่ไม่รู้จักแต่งหน้า กับไม่มีความกล้าที่จะลองแต่งตัวหลายๆแนว เพราะอยู่กับที่รร.เก่าแค่มึงดัดขนตาไปเรียนก็สามารถโดนแซะได้แล้วว่าดัดจริต
พวกเพื่อนกูแม่งชอบนัดกินเลี้ยงช่วงวันปีใหม่ซึ่งกูแม่งก็จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไงเลยปฏิเสฐไปทุกๆปีคือจะนัดช่วงอื่นก็ได้นะ แล้วก็มาด่ากูไม่มีเวลาให้เพื่อนเลยหรอวะทิ้งเพื่อน ไอ้สัตกูแค่อย่างจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่นี่ผิดมากเลยหรอวะ เฮ้อทำไมกูต้องโดนทำเหมือนคนทิ้งเพื่อนเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้วะช่างแม่งมันละกัน
บางทีเพื่อนอยู่ๆก็ตึงใส่กูแบบงงๆอ่ะ วันต่อมาก็มาพูดดีเฉย บางทีก็พูดแบบหงุดหงิดใส่ เหมือนโกรธอะไรซักอย่างแล้วมาพาลใส่กูแล้วก็หายเองวนไป กูควรทำไงต่อไปดี
ปกติป่าววะ เวลาคุยกับเพื่อนเก่าๆที่ไม่ได้เจอมานานมันจะมวนท้อง จะอ้วก ใจสั่น เครียด แล้วเกิดอาการวิตกขึ้นมา
ก็ไม่ใช่ความผิดของเพื่อนหรอก แต่กุจะสติแตกอยู่แล้ว จะทำอะไรก็กังวลไปหมดว่ามีใครมองอยู่หรือป่าว เพื่อนมันจะรู้ไหม ที่กุพิมพ์โม่งอยู่ตอนนี้เพื่อนกำลังอ่านอยู่หรือเปล่า ที่กุพิมพ์แชทไปกุเผลอไม่ได้ล็อคอินออกจากเครื่องใครแล้วมันได้อ่านอยู่ไหม
ไม่ค่อยมีเพื่อนในมหาลัยเลย หรือว่าเราไม่น่าคบวะ
กุทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มคนนึงเลยไม่คุยกันทีนี้เหมือนเพื่อนคนอื่นในกลุ่มไบแอสมันมากกว่าเวลาเรียนหรือไปไหนก็จะอยู่กับมันกุควรทนอยู่ในกลุ่มหรือออกมาดี
การที่เราเฟดตัวออกมาจากกลุ่มแล้วเราจะกลับเข้าไปอยุ่ใหม่มันทำได้ป่ะวะแล้วมันจะแปลกๆไหม
เพื่อนจริงๆนะ ไม่มีการเข้ากลุ่มออกกลุ่ม ปญอ กันหรอกนะ แต่ความเป็นเพื่อนมันเป็นจนกว่าความตายมาแยกเราออกจากกัน แบบเข้าออกกลุ่มได้ ไม่เรียกว่าเพื่อนหรอกนะ
เพื่อนคิดว่ายังสนิทกันทั้งที่จริงๆ มันไม่เคยขอโทษกับกูตรงๆมีแต่ฝากคนอื่นมา เรื่องมันใหญ่มากแต่ฝากมา"แค่ขอโทษนะ" กูมองบน รู้ตัวยังว่าทำไมกูคุยห่างเหิน เลิกเหลิงว่าสนิทกับกูเถอะ เอาเรื่องส่วนตัวกูไปด่าลับหลัง กูไม่น่าช่วยค่าข้าวมึงเลย เหงาก็รอเมียออนรอเพื่อนกลับบ้าน อย่ามายุ่งกับกู หัดขอโทษกูดีๆซะว่าทำอะไรมาบ้าง
มีวิธีเข้าหาเพื่อนเพื่อนกลุ่มที่เขาสนิทด้วยกันอยู่แล้วไหมคือกุอยากเข้าไปอยู่ด้วยแต่ไม่รู้จะทำไงดี
ตอนแรกกูมีกลุ่มเพื่อนเล็กๆไม่ใหญ่มากที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่คนอื่นจะมาแจมบ้างตามโอกาส ซึ่งกูก็แฮปปี้นะได้คุยกับหลายๆคน ประเด็นคือมีเพื่อนคนนึงขอแทนว่า A ตอนแรกAก็มาๆไปๆเหมือนคนอื่นแหละ กูก็ไม่ได้อะไร แต่หลังๆเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้นจนกลายเป็นว่ากลายเป็นกลุ่มเดียวกัน ในเวลาเดียวกันก็มี B ไปไหนมาไหนด้วยกันเพิ่มด้วย แต่พอสนิทกันมากๆกูอึดอัด+ไม่สบายใจยังไงไม่รู้กับ A อะ คือมันไม่ได้มีนิสัยแย่นะ แต่กูแค่รู้สึกว่าตอนห่างกันกว่านี้มันโอเคกว่า ในขณะที่กับ B กูไม่อึดอัดเลย อยู่ด้วยละสบายใจ ซึ่งกูก็ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนกลุ่มเดิมก่อน A/B คิดยังไงเพราะกูไม่กล้าถามอะ แล้วคือบังเอิญว่ากูมีหนังที่อยากดูเลยจะไปดูกับเพื่อนตอนเย็นแต่มันไม่ว่างแล้วคนอื่นก็ไม่ว่าง กูเลยพูดว่าเออเนี่ยเสียดาย อยากดู แต่รอลงสตรีมก็ได้ A ก็ถามว่ามีอะไร กูเลยบอกว่าเย็นนี้ตอนแรกจะไปดูหนัง Aก็บอกประมาณว่าเออไปได้นะ แต่ถ้าไปคือน่าจะไปสองคนซึ่งกูคงจะอึดอัดแน่ๆอะ เลยโกหกไปว่ามีนัดทำงาน ตอนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันกูอึดอัดมากแต่จะพูดก็ไม่ได้ไอเหี้ยยย ใครมีทางออกดีๆมั้ยมึง
ปล. กูผญ เค้าผช ซึ่งที่ผ่านมากูก็ไม่ได้รู้สึกสนิทใจกับผชทุกคน แต่กูมีเพื่อนสนิทผู้ชายนะ ซึ่งกับเพื่อนสนิทผู้ชายกูคือไม่เคยมีอะไรแบบนี้เลย สนิทกันแบบไม่มีใครต้องพยายามอะมึง อยู่ด้วยละสบายใจคุยได้ทุกเรื่องแม้ว่าจะเป็นเรื่องเหี้ยๆก็เถอะ ส่วนคนที่อยู่ด้วยกันละอึดอัดมันห่างกันไปเอง แต่คนนี้มันไม่ห่างกูไปซักที
อันนี้กูสงสัยนะ เห็นเด็กมัธยมเดี๋ยวนี้ทำคอนเท้นแนวๆเรื่องเซ้กเยอะมาก เปิดเผยมากๆว่าไม่ซิงแล้วนะอะไรงี้ กูก็ไม่ได้มองว่ามันแปลกหรอก ยิ่งวัยเนี้ยวัยเงียนเลย แต่สมัยกูยังอยู่มัธยม(ซึ่งก็ไม่ได้นาน 3-4 ปีแล้วเอง) เรื่องพวกนี้คือเหยียบกันมิดมากๆ เคยมีข่าวลือว่าเพื่อนร่วมชั้นกูคนนึงมีอะไรกับเด็กมอสาม แม่งกลายเป็นเรื่องดังของรร.ไปเลย ทุกคนอึ้งว่าวัยนี้เสียซิงแล้วหรอ ซุบซิบนินทากันไปเป็นเดือน แต่พอมาเทียบกับเด็กมัธยมเดี๋ยวนี้มันดูซอฟไปเลยอะ5555 หรือมันเป็นแบบนี้มานานแล้วแต่กูเพิ่งเปิดโลกวะ
กุทำอะไรผิดวะ กุยอมลงให้เพื่อนตลอดเพราะเห็นเป็นเพื่อนกัน พยายามใส่ใจเทคแคร์ เพื่อนถามอะไรก็คอยออกความคิดเห็น แต่สิ่งได้คือเพื่อนไม่แคร์ ไม่ใส่ใจ ไม่เห็นอยู่ในสายตา เสนอไรไปก็เหมือนคุยกับอากาศ คุยไรด้วยก็ถามคำตอบคำแล้วหันไปคุยกับเพื่อนคนอื่น ไม่ใส่ใจเราขนาดนั้น เหมือนเราเป็นของตาย คือกุพยายามเทคแคร์พยายามใส่ใจมึงอยู่ไง เพื่อนกันมันก็ควรทำแบบนี้ไม่ใช่หรอสนับสนุนเพื่อนเวลาเพื่อนทำอะไร ให้ความเห็นเพื่อนไม่ปล่อยเพื่อนถามกับอากาศให้เฟล เดี๋ยวเพื่อนขาดความมั่นใจ เวลาเพื่อนพูดอะไรก็คอยฟังให้ดีๆเพราะเราเองเวลาพูดแล้วโดนพูดแทรกหรือเมินยังรู้สึกเฟลเลย กุทำผิดใช่ไหม เพราะกุลงให้มากไปหรอ กุดูเป็นของตายเพื่อนเลยไม่ใส่ใจเหมือนที่กุใส่ใจเพื่อนหรอ
อยากขึ้นเพื่อนแล้วไม่เสียเพื่อนต้องทำยังไงวะ
เพือนผญที่เป็นเพื่อนกูและแฟนกู บอกคิดถึงแบบเพื่อน แล้วแฟนกูหึง และเลิกคบกับเพื่อนผญคนนั้นเลย มันดูปสดไปปะวะ
ผิดมั้ยถ้าอยากเลิกคบเพื่อนคนนึงเพราะกูฝันเมื่อคืนว่าเค้าเกลียดกู นินทากูลับหลัง เยอะเย้ยกู และกูเป็นคนเดียวที่เค้าเกลียดคนอื่นเค้าชอบหมดเลยแม้แต่คนที่ไม่สนิทในความจริง แบบไม่รู้ดิ ในฝันนั้นคือเค้าทำตัวปั่นหัวกูแบบทำดีสลับกับเมินในสถาณการ์ณที่มีเหตุผลที่ดีพอในการแก้ตัวตลอดแล้วกูมารู้ค.จริงทีหลังจากปากคนอื่น ซึ่งช่วงนี้เค้าก็ชอบทำตัวแปลกๆใส่กูประจำแต่ก็เหมือนจะไม่แปลก(แต่มันเป็นเมนส์อยู่) แล้วกูก็รู้สึกเสียวๆละเพราะฝันคือจิตใต้สำนึก แล้วอะไรล่ะที่ทำให้กูเอาไปฝันแบบนั้น? เพราะคิดไปเองหมดเลยเหรอ...มีใครมีคำอธิบายได้ไหม หรือว่าจริงๆแล้วกูเองนี่แหละที่เกลียดเขาลึกๆ
กุเป็นนีท กุอยากมีเพื่อน จะหาเพื่อนได้จากไหนอ่ะโม่ง แบบเพื่อนกุ 0 เลย
อีฝ้าย ให้มันน้อยๆหน่อย
อีหลินมึงเลิกสันดานนินทาเพื่อนตัวเองให้พ่อกับผัวมึงฟังยัง
อีเป้ อีสัส
อีเนโกะ ถ้ากูรู้ว่าเลิกคบกับมึงแล้วสุขภาพจิตกูดีขึ้นขนาดนี้กูเลิกคบนานละ
มึงเกณฑ์ทหารอะ วันแรกกะวันสุดท้ายอันไหนโอกาสโดนเยอะกว่ากันวะ ชื่อกูศ.ด้วย
ขอวิธีตัดเพื่อนที่เคยดีกันมากๆ ไม่ยุ่ง ไม่พูด ไม่คุย ไม่มอง ไม่แคร์ ทำยังไงให้ใจแข็งพอที่จะทำแบบนั้นได้ ต้องคิดอะไรในหัว
>>574 อย่าหาว่ากูละลาบละล้วงนะ ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นถึงต้องขั้นต้องตัดคนที่ดีคนนึงไป
กูก็เคยตัดเพื่อนที่ดีไปมันอาจจะไม่ดีที่สุดแบบ ว้าวว เหี้ยยย อะไรขนาดนั้นนะ แต่มันก็ไม่เคยเอาเปรียบในเรื่องผลประโยชน์กูแบบคนอื่นอ่ะ แต่กูต้องตัดแม่งเพราะแม่งไม่มีกาลเทศะ ทำตัวเหมือนคนที่บ้านไม่สอน ไม่เคยคิดเลยว่าจากที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน คุยกันบ่อยๆ ผ่านอะไรมาก็เยอะ พอถึงคราวที่จะตัดก็ต้องตัดแหละ แรกๆที่กูตัดไปกูเศร้าเป็นเดือน เศร้าหนักกว่าตอนเลิกกับผัวอีก แต่วันนึงมันจะดีขึ้นมากเชื่อกู
เล่าเรื่องรุ่นพี่มหาลัยคนนึงได้ปะคืออันนี้เเม่งเหี้ยจัด เรื่องเกิดขึ้นหลายปีเเต่กูเก็บกดมาก
คือมันมีอยู่ช่วงนึงไปทำงานโปรเจคร่วมบ้านมัน เเล้วก่อนถึงบ้านเเวะตลาด กูกับเพื่อนออกจากรถไปซื้อของกินส่วนมันกับเพื่อนกู(ที่เข้ามหาลัยมาก่อนกูเลยอยู่ในฐานะรุ่นพี่)ก็อยู่ในรถ ตอนนั้นใว้ใจฝากมือถือเอาใว้เเล้วไม่ได้ตั้งรหัสล็อคมือถือ พอกูกลับมาเเม่งเปิดมือถือกูดูรูปสาวๆเเต่งตัวกามๆในเฟสที่กูเซฟใว้ว่าวยามหงี่อยู่ กูสตั้นเลยไอ้เหี้ยได้หรอวะ เอามือถือคนอื่นมาเปิดดูของส่วนตัวข้างในเเบบนี้ พอมันเห็นกูมันก็คืนให้เเล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหี้ยสัสอะ คือเอาตรงๆนะผชเซฟรูปหรือคลิปล่อเเหลมผญใว้ว่าวมันปกติมาก เเต่มันคือพื้นที่ส่วนบุคคลไงมึงอย่าเสือก เเต่มันรู้สึกน่าอายเเปลกๆเวลาคนอื่นมาค้นเจอกูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
เอาเป็นว่านิสัยเเม่งเหี้ย มึงให้เท่าไหร่เต็ม100วะโม่ง
เพื่อนโม่งช่วยด้วย มันเป็นที่ตัวกุเองรึเปล่าวะ ตอนมีเพื่อนกุไม่ได้เก็บอะไรมาคิดมากเท่าไหร่เรื่องพูดเล่นหยอกล้อแรงๆ กุเป็นพวกไม่ได้อะไรมาก ปล่อยๆไปเพราะมันไม่ได้ทำให้กุรู้สึกแย่เท่าไหร่ แต่พอรู้จักกันไปนานๆคนที่พูดดีๆกับกุก็ชอบพูดแนวจิกกัดแรงๆซึ่งก็มองว่าตลกได้แหละ dark humor อะไรทำนองนั้น แล้วนิสัยส่วนตัวกุมันค่อนข้างมึนงงเข้าใจอะไรยาก บางทีก็ชอบโดนว่าบ่อยๆ แต่กุก็ไม่ได้เอามาเป็นประเด็นทะเลาะนะ
เหมือนกุกลายเป็นตัวโดนในกลุ่มอะ ทำอะไรก็โดนว่าโดนแกล้งด่า พูดอะไรก็ชอบดุกู มันทำไมวะความเกรงใจไม่มีเลยเหรอ เห็นกุใจดีไม่อะไรเลยจะพูดอะไรก็ได้เหรอ คือกุพยายามรักษาความเป็นเพื่อนไม่อยากเอาอะไรพวกนี้มาพูดเป็นประเด็นแต่โดนบ่อยๆแม่งก็รำคาญว่ะ กุเปลี่ยนเพื่อนมาคิดว่ากลุ่มนี้จะไม่ใช่แต่แม่งก็ทำตัวเหมือนกลุ่มเก่ากุขึ้นเรื่อยๆ หรือการวางตัวกุไม่ดีวะเพื่อนโม่ง
หรือกุควรทำตัวเหมือนเพื่อนที่ทุกคนในกลุ่มเกรงใจที่ทำตัวแรงๆไม่พอใจใครก็ว่าเลยงี้เหรอ ปกติกุไม่เคยทำแบบนั้นเลยถ้ากุไม่พอใจกุก็แค่เฟดตัวออกมาจากคนนั้น
>>581 1 เพื่อนมีงเหี้ย 2 มึงขี้เกรงใจเกินอยู่ในสังคมเหี้ยก็โดนเอาเปรียบโดนกด
กูเคยเป็นแบบมึง กูจะคอยเล่นคอยเป็นตัวโจ๊ก คนจะไม่เกรงใจ คนไม่รู้จักยังมาพิเรนทร์ใส่ บางครั้งกูเลยเงียบใส่แล้วมองหน้าแม่วตรงๆแบบพร้อมใส่ แต่มาดกูดุอยู่แล้วคนเลยเกรงใจแทน แต่มึงก็ต้องชั่วนํ้าหนักว่าอะไรควรทําไมาควนทําตอนไหน หยิ่งแอคมากๆเดี๋ยวคนก็เกลียดอีก มึงfigured outเองละกันกูขกเขียน ส่วนเพื่อนเหี้ยนี่ก็เก็บคบๆไปเหอะ คนเรามีทั้งดีและไม่ดี มึงแค่ปรับบุคลิกตัวเองทําไงก็ได้ให้เพื่อนล้อน้อยลงก็พอ มึงจะได้สบายใจ หรือไม่ก็กวนตรีนทําแบบแม่งกลับใส่ไปเลย
อยากระบายเรื่องไร้สาระเล่นๆ กูงี่เง่าดี แข่งเป็นคู่ เป็นการแข่งที่ใหญ่ระดับนึง กูแข่งคู่กับเพื่อนแล้วได้รางวัลชนะอันดับ1 แต่กูเป็นได้แค่ตัวซัพพอร์ตเพื่อน คนทำงานจริงๆคือเพื่อน ผลงานที่ออกมา80-90เปอร์เซ็นต์คือเพื่อนกูทำ กูทำได้แค่ออกความคิดเห็นกับช่วยอำนวยความสะดวกนิดๆหน่อยๆ เพราะถึงจะแข่งเป็นทีมแต่ทำจริงๆอ่ะทำได้แค่คนเดียว กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าอย่างงั้นจะจัดให้แข่งคู่ทำไมทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่างานมันทำได้แค่คนเดียว แล้วพอผลออกมา กูร้องไห้หนักมากๆ ไม่ได้ร้องไห้ดีใจที่ได้ที่1 แต่ร้องไห้เพราะตัวเองไม่มีประโยชน์เลย ไม่ได้ฉายแสงเลย เหมือนตัวประกอบเอาไปประดับ ทั้งๆที่ตกลงกันไว้แต่แรกว่าใครจะเป็นคนทำ แต่ก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดีที่ตัวเองไร้ประโยชน์จัดๆ ไม่ได้มีความสามารถอะไร ไม่ได้เก่งอย่างที่ตัวเองคิด
โดนเพื่อนบอกว่ากุเป็นคนเหี้ย เพราะกุคบๆเลิกๆกับผญ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ยาว
แรกๆก็เก็บเอาไปคิด หลังๆเจอบ่อยๆ แถมมันเอาไปพูดกับเพื่อนคนอื่น กุก็เริ่มปลีกตัวละ
อยู่กับแม่งอย่างอื่นก็ดี ยกเว้นนิสัยที่ชอบพูดถึงคู่คนอื่น ว่าคู่นี้ไปกันรอด/ไม่รอด คนไหนเหมาะสมกัน
ชีวิตคู่เมิงดีมากเลยนะ สงสารแฟนแม่งที่ทำอะไรไม่ได้แล้วโดนชักจูงทางความคิดตลอด แต่ก็เรื่องของเจ้าตัง
ตอนแรกก็นึกว่ากุคิดอยู่คนเดียว จนได้คุยกับเพื่อนคนอื่นๆก็มีความเห็นเดียวกันว่าแม่งท๊อคซิก
ถามโม่งหญิงที่มีเพื่อนหญิง สาระนะ...คือเคยจูบปากเพื่อนกันปะแบบต่างคนต่างเหงาอะเวลากูกอดมันตอนนอนมันก็ไม่ว่าไรอะก๔กลัวเผลอทำมากกว่านั้นอะ
กูเหมือนเป็นพวก attention whore อ่ะ คืออยากให้คนอื่นมาสนใจ อยากเป็นวงใน อยากสนิทสนมกับทุกๆคน มีแต่คนรัก คนเอ็นดู กูก็เลยทำตัวไนซ์กับทุกคน เป็นคนสดใสร่าเริง ยิ้มง่าย และพูดแต่เรื่องดีๆ แต่กุไม่ใช่คนตลกโปกฮาขนาดนั้นเลยไม่ค่อยป๊อปเท่าไหร่ แต่กุก็พยายามเพื่อให้อยู่ในทุกสังคมได้
กูพยายามเอาตัวเข้าไปในทุกกิจกรรม ชวนทุกคนคุย ทุกคนคุยดีกับกูนะ บางคนชอบกู แต่บางคนก็ดูเหมือนมีช่องว่างแปลกๆที่จูนกันไม่ติด เหมือนเค้ารู้สึกว่ากูน่าอึดอัด กูไม่รู้ว่ากูคิดไปเองมั้ยหรือว่ามันเป็นงั้นจริง กับบางคนไม่ว่าพยายามแค่ไหนเค้าก็ดูไม่ได้อยากคุยกับกูเท่าไหร่ กุไม่รู้ว่าเพราะอะไร แล้วแม่งก็รู้สึกแย่ที่ถูกกันออกจากคนนั้น ในขณะที่มีเพื่อนอีกคนดูสนิทกับคนทุกคนทั้งๆที่ก็ไม่ได้ทำตัวไนซ์ขนาดนั้น แบบมีมุมวีนๆบ้าง มีแสดงอารมณ์ด้านลบมาบ้าง แต่ทุกคนดูไม่มีช่องว่างกับเค้าเท่าไหร่ แต่ตัวกูเองกลับรู้สึกว่าบางทีก็ถูกรำคาญ
หรือว่าการเป็นไนซ์กายมันน่ารำคาญเกินไปวะ มีคนเคยบอกว่ากูเป็นเหมือนพลังบวกให้คนอื่น แต่ทำไมกูถึงรู้สึกว่าบางคนก็ดูไม่อยากสานสัมพันธ์กับกู แล้วกูรู้สึกแย่ว่ะ ยิ่งพอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งออกห่างจากวงสังคมเท่าไหร่ยิ่งแย่ เก็บมาคิดมากว่ากูทำผิดไร มีไรที่คนอื่นไม่ชอบหรอ กูควรลดอะไรดี กูรู้สึกแย่ว่ะ จะทำยังไงดีไม่ให้ถูกเกลียดหรอ
>>587 กูเข้าใจคำว่าน้อยแต่คุณภาพนะ แต่เหมือนกุเป็นโรคจิตอย่างที่บอกอ่ะ คือกุต้องการเป็นคนสำคัญของทุกคน อยากถูกรัก เหมือนโหยหาการยอมรับจากสังคมมากๆ มันอาจจะมาจากปมตอนเด็กที่กูเคยถูกเพื่อนทั้งห้องรุมรังแกเลยอยากได้รับการยอมรับจากคนหมู่มากอ่ะ พอรู้สึกว่ามีคนตึงใส่กู กูก็ไม่สามารถปล่อยวางและโฟกัสกับคนที่ชอบกูได้เลย กูมีแต่พยายามจะทำไงให้คนที่ไม่ยอมยอมรับกูด้วย อะไรแบบนี้อ่ะ กูอยากได้รับความรักจากทุกคนมากๆเลย ยิ่งถ้าสมมติบางคนเคยดีๆกันแล้ววันนึงอยู่ๆก็ออกห่างไปสนิทกับคนอื่นแทน หรือเห็นเค้าเดินมาคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู กูยิ่งรู้สึกแย่แบบสุดๆ แล้วก้อิจฉาไปด้วยเลย
กลุ่มกูมี 9 คน 6 คนเรียนคณะเดียวกัน อีก 3 คนเรียนคณะอื่น เวลาไปไหนแล้วต้องนั่งแล้วแบ่งกลุ่มกัน พวกคนสวย 5 คนก็จะอยู่ด้วยกัน (มีคณะเดียวกัน 4 คณะอื่น 1) กูก็ต้องไปนั่งกับกลุ่มคนไม่สวย (คณะเดียวกัน 2 คณะอื่น 2 ละกูก็ไม่ได้สนิทกับเพื่อนคณะคนนี้เท่าพวกเพื่อนกลุ่มคนสวยด้วย)
กูรู้สึก insecure ว่ะ ว่าทำไมมันไม่ยอมให้กูไปนั่งกลุ่มคนสวยด้วย แค่เพราะกูไม่สวยหรอ ทำไมไม่ให้คนที่สนิทกันนั่งด้วยกัน หรือความจริงแล้วเราไม่สนิทกันวะ ละทำไมเอาเพื่อนคนที่อยู่คณะอื่นมานั่งกลุ่ม 5 คนด้วย ทั้งๆที่มันไม่มีเรื่องอะไรคุยด้วยซ้ำ เล่นแต่มือถือ เพราะกลัวภาพลักษณ์กลุ่มไม่ดูดีหรอวะ เลยต้องเอาคนสวยที่ไม่ได้สนิทกับพวกมึงมาเติมให้เต็มเวลาไปเที่ยวข้างนอก น้อยใจว่ะ กูทั้งลดน้ำหนัก ทั้งไปหาหมอ ทั้งศัลยกรรม แม่งก็ยังไม่สวยพอจะนั่งโต๊ะเดียวกับพวกมัน
>>590 คนเราจะจดจำครั้งแรกเสมอ ถ้ามึงเปลื่ยนแปลงตัวเองหลังเจอก็อาจจะนั่งด้วย สิ่งที่ต้องทำคือการเปลื่อนแปลงภาพจำตัวเราเองลองไปหากลุ่มอื่นๆ ที่ภาพลักษย์ดีไปเข้าหาสังคนอื่นๆ บางสังคนอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมึงแต่มันทำให้ภาพลักษย์มึงดูสูงได้แค่ไปอยู่กลุ่มนั้น ไม่ต้องไปตลอดแค่พอให้คนรับรู้ว่าเรสรู้จักกลุ่มนั้นไปหากันบางเป็นบางครั้งก็พอ อย่าพยายามทำให้ตัวเองต้องโดนเลือกอย่างเดียว ต้องเป็นคนเลือกเองบางอย่างน้อยก็ที่เห็นอ่ะน่ะ
การที่มีเพื่อนที่ชอบตัดสินการกระทำของเราจากการใช้ชีวิตในเรื่องรักๆใคร่ๆ ว่าเรามันแย่ นี่กุควรจะรู้สึกยังไง
กุเข้าใจว่าคนเราไม่เหมือนกัน แต่อย่างกุก็ไม่เคยจะไปตัดสินใจ หรือเสือกเรื่องคู่คนอื่นเลย เขาทำตัวยังไงก็เรื่องของเขาปะวะ
หรือการเสือกมันเป็นเรื่องปกติของสัตว์สังคม หรือเฉพาะประเทศไทย เพราะเพื่อนต่างชาติก็ไม่ค่อยเห็นเขาเม้ามอยอะไรพวกนี้
>>592 มึงอาจจะเอาตัวเองไปอยู่จุดที่เพื่อนไม่ดีแล้วมาน้อยเนื้อต่ำใจรึเปล่า
แต่เป็นเรื่องธรรมดานะ คนกะลังอยู่ในห้วงรักแม่งมองไรไม่รอบด้าน คนรอบข้างบางทีก็อยากเตือน
แต่ถ้าเตือนไม่ถูกจังหวะก็เสือกนั่นแหละ
ปล. คนประเทศอื่นบางทีก็เสือกเหมือนกัน แต่กูก็รู้สึกว่าน้อยกว่าเพื่อนสนิท
มีเพื่อนเก่านิสัยเหี้ยมากแล้วกุเพิ่งรู้วีรกรรมนางทีหลัง ทั้งนินทากู บอกคนอื่นว่าอยากเลิกคบกับกูแต่ไม่ทำ วันหนึ่งกูอึดอัดเหี้ยๆเลยพูดเอง นางชอบตื๊อให้กูซื้อของแพงๆให้ ขี้อิจฉา กูได้ดีอะไรก็หลังไมค์ไปนินทากับเพื่อนกูหมด ไม่คิดเหรอว่าเพื่อนจะมาบอกกูอะ แถมยังเล่าให้กูดูเหี้ยเพื่อให้คนที่นางชอบเลิกคุยกับกู แต่ไม่สำเร็จจ้า เขาชอบกูเนอะ จะขอเงินนางก็งัดว่ากูให้โดยเสน่หาขอคืนไม่ได้นะจ๊ะ ออจ้า ไม่สำนึกเลย
กูขำตัวเอง มีเพื่อนคนนึงที่กูเบื่อและระอากับนิสัยมันมากๆ แต่กูก็เลิกคบไม่ได้ซะที 555555 ว่าจะไม่ตอบแชทมัน หายไปเฉยๆ แต่พอมันส่งมาทีไร ก็อดตอบไม่ได้ซะที 555555 ทำไมวะ ไม่เข้าใจตัวเอง
กุโดนแฟนทิ้งเพราะนางไปได้กับผัวในที่ทำงานที่ใหม่ แล้วอยู่ๆ ก็เงียบไปไม่บอกเลิกกับกูให้มันดีๆ จากนั้นก็เปิดตัวผัวใหม่เฉย ทีนี้กูมารู้ทีหลังจากเพื่อนนางที่เป็นเพื่อนกูอีกทีว่า นางเอากูไปพูดเสียๆ หายๆ ให้กูเป็นคนเหี้ยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คือจนถึงตอนนี้กูก็ไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร + กูไม่คิดจะเล่าด้วย เพราะกูมองว่าเขาจะกล่าวหาว่ากูเหี้ยยังไงก็ได้ จะบอกให้เพื่อนเขาเกลียดกูยังไงก็ได้ แต่กูก็จะไม่พูดอะไรทำที่ให้คนอื่นดูเหี้ยเด็ดขาด เพราะกูไม่อยากเป็นคนประเภทเดียวกัน ซึ่งแอบรู้สึกดีที่เพื่อนที่มาเล่าให้กูฟัง มันไม่ได้เชื่อทั้งหมดแล้วมาบอกกู
ไอ้คำพูดให้กำลังใจในเชิงบวกนี่มันช่วยได้จริงๆหรอวะ แต่เห็นแก่คนพูดให้กำลังใจ กุเลยจะพยายามเข้าใจและรู้สึกตามด้วยเป็นการตอบแทน แต่กุก็ไม่เข้าใจอยู่ดี อ่านวน100รอบก็ไม่เข้าใจว่ามันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นหรือแก้ปัญหาได้ยังไง อ่านแล้วมองหาคำตอบไม่เจอว่ากุจะมองแบบที่มึงพิมพ์มาได้ยังไง จนรู้สึกสงสารคนให้กำลังใจเลยถ้ารู้ว่ากุคิดแบบนี้ เลยพยายามทำความเข้าใจอยู่
>>599 ช่วยเหี้ยไรไม่ได้หรอกมันแค่คำพูด ต้องให้เค้าก้าวเข้ามาในชีวิตมึงช่วยแก้ปัญหาที่มึงเจอล่ะถึงจะเรียกว่าช่วย
ที่คนบอกว่ามันช่วยให้กำลังใจเนี่ย คือมันเริ่มมาจากการที่เค้าเข้ามารับฟังปัญหาของมึง มากกว่าอะ แบบคอยรับฟังระบาย พอเค้ารู้สึกว่าเออมึงไม่โอเคมีปัญหาเค้าก็คอยให้กำลังใจ เพราะเค้าไม่สามารถเข้ามาช่วยมึงแก้ปัญหาได้
เช่น มึงเครียดเรื่องการเรียน ได้คะแนนไม่ค่อยดี ครูสั่งงานยากเกินไป
มึงไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะเขาคงไม่เข้าใจ ไม่กล้าบอกเพื่อนสนิท เพราะรู้สึกเพื่อนก็ลำบาก บางทีมันไม่มีใครที่จะเอาความอึดอัดในใจออกไปได้เลย พอมีคนมารับฟัง พูดจาในแง่ดีให้ มันก็รู้สึกดี เหมือนเวลาโดนโอ๋น่ะ
จะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีวะเพื่อนโม่ง
เรื่องของเรื่องคือ แต่ก่อนนานมาแล้วกูเคยมีเพื่อนอยู่คนนึงที่สนใจเรื่องเดียวกัน ก็ไม่สนิทมากแต่เวลามันมีอะไรก็มักจะทักมาหาตลอด พอเวลาผ่านไปเพื่อนกูคนนี้ก็เริ่มหายไป ตอนแรกกูก็ไม่คิดอะไรมากหรอกก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วก็คิดว่ามันคงมีเพื่อนคนใหม่ให้คุยให้ปรึกษาแล้ว
แต่พอมาอยู่คนเดียวกลับไม่ชินและคิดมาก ทั้งๆ ที่กูไม่ควรเป็นแบบนี้เลย ยิ่งพอไปเห็นว่ามันมีเพื่อนกลุ่มใหม่แล้วคุยกันสนุกสนานกูรู้สึกเหมือนอกหักยังไงไม่รู้
หรือว่ามันผิดที่ตัวกูวะ ตอนนี้ได้แต่โทษตัวเองไม่รู้จะจัดการความรู้สึกนี้ยังไง ปกติกูเป็น introvert อยู่แล้วมีเพื่อนไม่ค่อยเยอะส่วนใหญ่เพื่อนที่มีก็เข้ามาหากูก่อน หรือว่าเพราะกูเป็น introvert เลยทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนวะ แต่ใจจริงก็ไม่ได้อยากมีเพื่อนเยอะหรอก แค่พอเสียไปก็รู้สึกเศร้าเฉยๆ ทนกับความรู้สึกนี้ไม่ได้เลย รู้แบบนี้กูอยู่คนเดียวเหมือนเดิมตั้งแต่แรกดีกว่า...
ปล.กูไม่เคยทำอะไรไม่ดีใส่มันเลยนะ หรือว่ากูทำแต่กูไม่รู้สึกตัววะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยผิดใจกันเลย ตอนนี้กูสับสนและงงมาก
ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เรารำคาญคนในกลุ่มเพื่อนคนนึงมากๆ ระดับที่ฟังอะไรที่เขาพูดแล้วไม่เบื่อก็โมโห ไม่มีอะไรน่าสนใจหรือสนุกเลย แต่เฟดตัวเองออกจากกลุ่มไม่ได้เพราะชอบเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มนี่เราจะทำยังไงได้บ้าง (เป็นกลุ่มเพื่อนที่คุยเรื่องด้อมการ์ตูนเฉยๆ ไม่ได้สนิทหรือมีพันธะอะไรในชีวิตจริง แต่กุก็ชอบเพื่อนคนอื่นที่เหลือมากๆ)
กุอยู่ในจุดที่เคลือบแคลงใจกับเพื่อนคนนึงว่ะ คือมันเป็นคนเล่นมุกแรงปากแจ๋ว แล้วมันชอบมาพูดเวลากุจะทำอะไรซักอย่างว่าให้แบ่งกันคนอื่นด้วย อย่าเอาไปเล่นคนเดียว ซึ่งกุคิดว่ามันล้อเล่น แต่มันล้อแรงจนกุไม่แน่ใจงว่ามันคิดจริงรึเปล่าอ่ะ ตอนนี้กุเริ่มลำบากใจละ
รำคาญไอ้เด็กบ้านรวยอวดฉลาดชอบดูไลฟ์โค๊ช แล้วชอบด้อยค่าคนอื่น
>>603 ปัญหาอยู่ที่ "ไม่สนิทมากแต่เวลามันมีอะไรก็มักจะทักมาหาตลอด" เข้าหาตลอดมันเหนื่อยนะ มึงทักเขาก่อนไปบ้างก็ได้ อยากพูดว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง อยากสนิท ก็เข้าหาเขาบ้าง เป็นอินโทรเวิดก็ทักไปก่อนได้ค่ะมึง จัดการความรู้สึกยังไง ถ้าไม่อยากให้กลายเป็นมิตรภาพช่วงสั้นๆที่ไม่ได้คุยกันอีกต่อไป ก็ทักไปเลยยย มึงอยากใช้เวลากับเขาถูกไหม
กูมีเพื่อนคนนึง เห็นช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยไม่ได้ทักไป ถ้าเพื่อนกูว่าง ก็ทักกูมาเอง เป็นผู้ใหญ่แล้ว บางทีก็ไม่อยากจะรู้สึกงี่เง่าเวลาเพื่อนตอบแชทช้าหรือไม่คุยกันทุกวัน แต่วันไหนคิดถึงมันมากๆก็จะส่งสติกเกอร์ไป หาเรื่องคุย ส่งลิ้งวิดิโอตลกๆไปก็ได้ ไม่ต้องมีเหตุผล แค่อยากแชร์ให้ดูก็แค่นั้น
รำคาญเพื่อนกูชิบหาย ชอบมาบ่นเรื่องเพื่อนร่วมงานข้างโต๊ะตีนเหม็นแล้วชอบถอดรองเท้า กูก็บอกว่าให้มันไปคุยเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงาน มันก็บอกมันไม่กล้าคุย กูเลยบอกไปว่าถ้าไม่กล้าคุยก็นั่งดมกลิ่นตีนอีนั่นต่อไปจนกว่ามึงหรือมันจะลาออกไปละกัน แล้วก็เลิกบ่น มันก็ตัดพ้อใส่ว่าแค่อยากระบาย กูรำคาญความยึกยักของแม่งจัง แนะวิธีแก้ก็อมพะนำไม่กล้าๆ สุดท้ายไปลงสเตตัสตัดพ้อกูในเฟซประมาณว่าเธอมีปัญหาอะไรเราก็รับฟัง แต่เรามีปัญหาไม่มีใครฟังเราเลย กูนี่อยากพุ่งไปด่ามากแต่ต้องระงับอารมณ์ แม่งไม่พูดให้เคลียร์แล้วปัญหามันจะหายไปมั้ยวะ ต้องมาเกรงใจนั่งดมกลิ่นตีนตลอดมันก็ไม่ใช่ป่ะ
>>610 มึงไม่ทำความเข้าใจเพื่อนมึงไง คิดแบบตรรกะแต่ขาดความเห็นอกเห็นใจ ปัญหาแม่งแก้ง่ายอยู่ละถ้าเราไม่มีเรื่องของความสัมพันธ์กับอีโมชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง แค่ไปพูดตรงๆเลยว่าตีนเหม็นกรุณาใส่รองเท้าด้วยแค่นั้น
แต่ความเป็นจริงมันไม่แค่นั้นไง มึงคิดว่าทำไมเพื่อนมึงถึงไม่กล้าพูดล่ะ เพราะพูดไปก็ไม่รู้อีกฝ่ายจะทำให้มั้ย แต่แม่งต้องไม่พอใจแน่ จะทำงานร่วมกันต่อได้มั้ย จะโดนอะไรรึเปล่า อยู่ๆจะให้ไปพูดตรงๆน่ะมันง่ายแต่ผลลัพธ์ที่ตามมาอ่ะจะได้ผลจริงมั้ย คำแนะนำของมึงมันแค่เอาสะใจแต่ไม่ได้ทำได้จริงไง หรือต่อให้ทำได้จริงสำหรับมึง แต่สำหรับบางคนเค้ายอมรับผลลัพธ์ในทางที่แย่ไม่ได้เท่ามึงไง เค้าเลยไม่กล้าทำ มึงก็เสือกไปด่ามันให้นั่งดมตีน ไม่แปลกที่เพื่อนมึงจะโกรธ รีแอคชั่นของเพื่อนมึงเนี่ยแหละคือตัวพิสูจน์ว่าการพูดตรงๆอย่างที่มึงอยากให้เพื่อนทำมันจะเกิดผลลัพธ์ยังไง แล้วขนาดตัวมึงยังอึดอัดจนมาระบายในโม่งได้ แต่พอเพื่อนมึงทำมึงยังไปรำคาญมัน กูรู้สึกว่ามึงเป็นทั้งผู้ฟังที่แย่และแก้ปัญหาที่แย่เลยนะ
>>611 จ้ะๆ กูแก้ปัญหาได้แย่ ก็ทนๆเอาดมกลิ่นตีนต่อไปแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทางที่ดีที่สุดก็คือหุบปากไว้แล้วบ่นให้คนอื่นฟังลับหลัง แล้วก็นั่งดมกลิ่นตีนต่อไป 8 ชั่วโมงทุกๆ 5 วัน เกิดอะไรขึ้นเราก็ทนรับไว้เองนะเพราะเรายังต้องทำงานด้วยกัน ทำงานไปสิบปีก็ทนไปสิบปีไม่ต้องหาทางแก้ไขเพราะทำไม่ได้จริง กลัวกระทบความสัมพันธ์ กลัวเขาเกลียด กลัวมีผลต่องาน หุบปากเอาไว้นี่ไงวิธีแก้ปัญหาดีๆ ทุกคนแฮปปี้ เก็บความไม่พอใจเอาไว้แล้วทนเอานะเพราะไม่สามารถแก้ไขได้แถมยังสร้างศัตรูด้วยถ้าไปบอกหรือเตือน
ไม่กล้าบอกตรงๆ ก็ปรึกษาเจ้านายให้ช่วยเตือนแทนสิ ยากตรงไหน
>>613 >>614 กูเสนอวิธีแก้แล้ว ถามสถานะของมันกับอีเพื่อนร่วมงานนั่นว่าเป็นยังไง สนิทมั้ยหรือไม่สนิท ระดับสูงกว่ารึเปล่า ถ้าบอกเองตรงๆไม่ได้คือให้คนที่เป็นเจ้านายเราคุยให้ เราไม่ต้องไปออกหน้าเอง บอกหัวหน้าว่าพี่ช่วยพูดให้หน่อยได้มั้ย วิธีการเตือนมันก็มีหลายอย่างไม่ใช่ไปพูดตรงๆหยาบๆว่ามึงตีนเหม็นไปตัดตีนทิ้งไป๊ กูไม่ได้ไร้หัวคิดเอาสะใจขนาดนั้น พูดจาดีๆ เตือนอ้อมๆ ไม่ให้เขาเสียเซลฟ์ มันอยู่ที่วิธีพูดเว้ย
และกูรับฟังมันบ่นเรื่องนี้มาเป็นปี มันควรแก้ปัญหาได้แล้วมั้ย ใจคอมึงจะทนนั่งดมกลิ่นตีนต่อไปจนกว่ามึงหรือมันจะลาออกไปเลยเหรอ พวกมึงเลือกทนก็เลือกไป แต่เป็นกูคงไม่เลือกทางนั้นว่ะ ทำไมกูต้องมาทนอะไรที่ทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพจมูกกูแย่วะ
ปรึกษาว่ะเพื่อนโม่ง กูมีเพื่อนคนนึงมันอยากย้ายที่ทำงาน แต่กูมีคนรู้จักใน บ. ที่มันอยากไป กูเลยรู้มาว่ามันไม่น่าได้ทำงานที่ บ. นั้น กูควรบอกมันตรงๆ ไปเลยไหมวะ ว่าไม่ได้แน่ เพราะกุพยายามบอกอ้อมๆ แล้วมันก็ดูยังมีหวังอยู่
>>619 เออ กูใช้คำได้เหี้ยว่ะ แต่ไม่ใช่โว้ย ไม่ใช่พล็อตละครคุณธรรม55555555555 คือมันลำบากใจนะมึง พอไปกินข้าวกับมันมันก็พูดแต่เรื่องนี้จนเอือม กูแนะนำให้ไปเรียนต่อไปอัพสกิลก็ไม่ไป ประสบการณ์ก็ไม่มี งานหนักก็ไม่เอา คิดไปคิดมาอย่างที่พวกมึงว่ากูไม่ควรพูดอะไรจริงๆ ให้เสียหมา ตอนนี้แม่งงอนไปละ
ขอระบายหน่อยเหอะ กูบอกมันอ้อมๆ ว่าจะไม่ช่วย มันก็บอกว่าจะหาเส้นที่ใหญ่กว่านี้เข้าให้ได้ เป็นเหี้ยอะไรมัน แล้วมาบ่นว่ากูทำงานก็ไม่อดทนทำแปปเดียวลาออกทั้งๆ ที่งานสายกูสบายกว่า (กูกับมันทำงานคนละสาย กูลาออกมาเรียนต่อ) คิดอยู่ว่าแม่งควรห่างๆ กันบ้างน่าจะดี คบกันเป็นเพื่อนต่อไปมีแต่คุยเรื่องงานกับเงิน แต่เสียดาย ครส แม่งคบกับมันตั้งแต่มัธยม
คบเพื่อน introvert แม่งน่าเบื่อมาก ชวนไปไหนกฺป็ไม่ไป สงกรานต์ก็ไม่เคยไป งานมหาลัยก็ไม่ได้ไป ไปเที่ยวก็ไม่ไป ไปกินข้าวนอกมอก็ไม่ไป แม่งจนเรียนจบมาละ จะสร้างเพื่อนในคณะใหม่ก็ไม่ทัน
รู้สึกโหวงๆเวลาเพื่อนไปใช้เวลากับคนอื่น แต่ก็รู้พอว่าทุกคนก็มีสังคมของตัวเอง กูก็มีเพื่อนคนอื่นเหมือนกัน ไม่เห็นจะต้องมาแฮงเอ้าไปด้วยกันทุกครั้งที่ว่างสักหน่อย แต่ก็โหวงๆ ทำไงดีวะ
>>621 ก็นะ หาเพิ่มได้ มึงไม่ได้มี slot limit ว่าใส่เพื่อนได้กี่คน
กูก็เบื่อเพื่อนกูนิดๆ เหมือนกันนะ สมัยเรียน แม่งจะออกไปไหนกันจังวะ กูอยากเล่นเกมอยู่ห้องเฉยๆ ไม่ได้อยากเที่ยว ไม่ได้อยากแดก ไม่ได้อยากเมา 555
แต่ก็นั่นแหละ กูก็หาคนที่ไม่ออกไปไหนนั่งเล่นเกมเป็นเพื่อนด้วย แต่พวกเที่ยว กูก็คีพคอนแท็คไว้
คนที่กูแอบชอบมีแฟนใหม่ แล้วมันจะมีอยู่คนนึงที่ชอบแคปสตอรี่ส่งมาให้กูดูแล้วบอกแบบ เนี่ย เขาไปเที่ยวที่***กันว่ะ เนี่ย เขาจับมือกันแล้วว่ะ ส่งมาแม่งทุกสตอรี่ ตามติดชีวิตทุกก้าวของเขา แทนที่จะให้กูปล่อยวาง จนกูเริ่มคุยกับคนใหม่แล้วแม่งยังไม่หยุดส่งมาอีก เคยบอกไปแล้วนะว่าไม่ต้องส่งมา กูไม่ได้อยากรู้ ก็ยังจะส่งมา เมินแม่งก็ไม่ได้อีกเพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไปไหนมาไหนกันตลอด มึงต้องการอะไรจากกู อยากให้กูกับแฟนใหม่เขาหยุมหัวกันหรอ5555555
เวลาเพื่อนมาเล่าปัญหาชีวิตฟัง พวกมึงวางตัวกันยังไงวะ คือเพื่อนกุมันมีปัญหาชีวิตหลายเรื่อง(ครอบครัว ที่ทำงาน แฟนฯลฯ)บวกมันเป็นคนคิดมากคล้ายๆจะเป็นซึมเศร้าด้วย กุก็เป็นคนนึงที่มันมาเล่าให้ฟังตลอด ละกุวางตัวไม่ถูกเพราะกุไม่ค่อยอินกับปัญหาเพื่อนกุเลย คือเวลาเพื่อนมาปรึกษาบางเรื่องมันเป็นปัญหาเด็กๆมากอะ เช่น ไม่กล้าคุยกับเพื่อนที่ทำงาน หรือทำงานแล้วไม่กล้าถามเพราะกลัวดูโง่ ฯลฯ พอมันเป็นแบบนี้กุก็จะคอยบอกวิธีแก้มันไป หรือบอกว่ามันอะคิดมาก แล้วมันจะชอบบอกว่ากุอะไม่เข้าใจมัน(เอ๊า ละที่กุแนะนำไปนี่มึงเข้าใจกุไหมเนี่ย) กุคิดในใจนะว่าเพื่อนกุแม่งหน่อมแน้ม นิสัยเด็ก แต่กุก็ไม่กล้าพูดกับมันตรงๆว่าปัญหาของมันแม่งหีหมามาก เพราะมันจะเป็นซึมเศร้าแล้วกลายเป็นว่ากุไปกระตุ้นต่อมมัน
>>626 ในฐานะที่กูเป็นคล้ายเพื่อนมึง อาจจะกลัวการเข้าสังคมนิดๆมั่ง การปรับตัวในที่ทำงาน การเข้ากับคนอื่น การพูดคุยกับคนใหม่ๆ มันเป็นเรื่องที่โคตๆๆๆๆๆยาก เหนื่อยใจ อยากจะร้องไห้ทุกวัน มันไม่ใช่เรื่องหน่อมแน้มอ่ะ มันเป็นปัญหาทางสมอง ไใ่ค่อยได้ฝึกสกิลตรงนี้ กูพยายามแก้มาตลอด แต่ก็ยังทำไม่ได้ กูไม่ว่ามึงหรอกที่จะคิดแบบนั้น เพราะไม่มีใครจะเข้าใจทุกคนได้
>>626 แนะนำให้เลี่ยงเพื่อนแบบนี้ ก่อนที่มึงจะประสาทแดกตาม เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด ไม่ต้องไปเป็นคนดีให้มาก เป็นเพื่อนได้ แต่อย่าสนิท คนประเภทนี้ถ้าสนิทกับใครแล้วเกาะติดไม่ห่างเลยนะ ทำอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มีเรา งอแงเหมือนเด็กๆ มันเสียเวลาชีวิตนะ ปล่อยเขาไปเรียนรู้ด้วยตัวของเขาเองเถอะ เป็นไปได้ก็แนะนำให้เขาไปหาหมอ
คนที่ปัญหายังเคลียร์ไม่จบ แต่เลือกที่จะทำตัวตามปกติกับเรา ทำเป็นเล่นทำเป็นอะไรทั้งๆที่ปัญหามันยังคาอยู่นี่ทำได้ไงวะ ไม่คิดจะแก้ปัญหาเลือกปล่อยเบลอแล้วทำเหมือนทุกอย่างมันปกติ แต่สำหรับกุมันไม่ได้ไง ถ้าปัญหามันยังไม่ถูกแก้เราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมกันไม่ได้ มันไม่ใช่ ถ้ามึงไม่คิดจะคุยเรื่องปัญหากับกุตัวต่อตัว คุยกันจริงจัง ก็ไม่ต้องคบกันแล้วจบๆ มันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อยู่แล้วถ้าไม่ยอมแก้ปัญหา
ถึงเพื่อนรักของกู
ขอบคุณที่มึงทำตัวหัวโคย ไม่รักดี ผีเข้าผีออก เลี้ยงไม่เชื่อง มาตลอด3ปี กูพยายามประคบประหงมมึงสุดๆ แต่มึงก็ยังมิได้นำพา คิดว่าโลกทั้งใบเป็นของมึงอยู่อีก กูไม่รู้นะว่ามึงกับกูสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ถ้าได้ กูกับมึงไม่มีทางเหมือนเดิมละ กูจะอดทน อีกเดือนกว่ากูก็ไม่ต้องเจอหน้ามึงละ สั้นๆนะ อิเด็กเปsต ขอให้มึงเจอคนแบบเดียวกันกับมึงตอนที่ทำงานนะคะ มึงจะได้รู้ว่าบนโลกใบนี้มีแค่แม่มึงเท่านั้นที่รับนิสัยนี้มึงได้ค่า อิควาย อิเหี้ย
>>632 เจ็บแทนว่ะ
ช่วงนี้กูคิดอยู่ว่ากูไม่เหมาะกับการมีเพื่อนเลย พอเรียนจบแล้วก็ แยกย้าย ตามช่วงวัย ทุกคนมีชีวิเป็นของตัวเอง แต่กลายเป็นตัวกูที่มาแพนิกเมื่อความสัมพันธ์ไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อน ความงี่เง่าของกูสมัยเด็กก็มีส่วน กูก็มานั่งคิดว่าทำเรื่องเหี้ยอะไรไปกับเพื่อนบ้างจนรู้สึกไม่อยากเป็นตัวเองเลย กูอยากเกิดใหม่ รีเซ็ตทุกอย่างเลย แต่จังดีที่มีแม่อยู่ถ้าแม่ไปแล้วกูก็ไม่รู้ว่าอยู่ยังไงเหมือนกัน ตอนนี้กูกลัวการสนิทกับใครแล้วต้องมาแตกหักว่ะ กูรู้ว่าเพื่อนๆกูไม่ชอบโม่งถ้าเค้ารู้ว่ากูชอบมาระบายเรื่องที่กูบอกใครไม่ได้แม้แต่แม่กู กูจะโดนเพื่อนเกลียดมั้ยวะ กูจะโดนเพื่อนเกลียดเพราะเล่นโม่งเปล่าวะ หรือจริงๆมันคงไม่ทันแล้ว เวลาเจอเพื่อนกูจะตื่นเต้นมาก จนบางทีปากพล่อยเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วกลับมาคิดได้ว่าคึกไปเปล่าวะ กูแบบ อ่า กูพลาดอีก
ละ กูเบื่อตัวเองจัง
แต่สำหรับเพื่อนร่วมงานงี้กูโอเคนะถ้าคุยอะไร เพราะไม่ได้สนิทกันมากแบบเพื่อนสนิท กูว่ากูคงกลัวการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ถ้าเป็นอะไรใหม่ๆกูโอเค กับความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกูว่าโอเคนะ ส่วนกูก็ไม่มีเพื่อนก็ทำอะไรคนเดียวได้อยู่แล้ว แต่ขาดคอนเนคชั่น
ช่วงนี้กูคงกลับไปนั่งอ่านหนังสือคนเดียวเหมือนเดิมก่อน ความคิดกูแย่ไม่ไหวเลยว่ะโม่ง
เพื่อนที่ชอบติดเล่น พูดเล่นเรื่องเงินทำนองว่าซื้อให้หน่อย ให้โอนเงินให้เนื่องในโอกาสต่างๆเพราะเพื่อนกัน หรือยกเรื่องความเป็นเพื่อนมาพูดเพื่อให้ซื้อของให้หรือให้เงินแบบทำทรงเล่นมุกนี่คือยังไงวะ คือมันปกติใช่ไหม เพื่อนแค่พูดเล่นๆใช่ป่าว? กุไม่อยากประสาทแดกหรือเสียเพื่อนมากกว่านี้แล้วอ่ะ กลัวตัวเองแยกไม่ออกว่าอันไหนมุกอันไหนจริง แล้วพูดเชิงกดดันแบบขำๆด้วยอ่ะ กุไปต่อไม่ถูก จริงๆกุอาจคิดมากเอง เพื่อนกันไม่น่าทำแบบนั้นหรอกมั้ง กุคงมองโลกแง่ร้ายเกินไป
มีคนอยากเป็นเพื่อนเพราะเงิน คือนางบอกว่าลำบากงุ้นงั้นงี้ คือเล่าเหมือนอยากให้กูช่วย หลังๆมาเริ่มเอ่ยปากยืมเงินกู ยังรู้จักกันไม่ถึง 2 อาทิตเลย เริ่มขอเงิน เริ่มขอยืมเงินละ ควรคบต่อหรือควรพอแค่นี้วะ
>>640 แหมทำไมจะทำไม่ได้ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์แม่งทํากันมาหลายหมื่นปี ทุกคนมันจําหรือเขียนเหตุการณ์อดีตประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาไม่เหมือนกันหรอก สัสเขียนได้ซะโครตเบียวเลยกู อ่ะนึกเอาง่ายๆย้อนไป10ปีก็ได้บางคนก็ลืมไปด้วยซํ้าแล้วมึงว่ามึงเป็นใคร มึงอยากลบอดีตตรงไหนก็ไม่ต้องพูดถึงมัน คนที่รู้เรื่องอดีตของมึงก็เลิกติดต่อหรือเอาให้ชัวร์ว่าจะไม่มีส่วนมายุ่งกับชีวิตปัจจุบันได้ก็เท่านั้น แล้วมึงก็ใช้ชีวิตปัจจุบันgainสังคมใหม่ๆ มึงเล่าเรื่องราวใหม่ๆให้คนในสังคมใหม่ฟัง ประมาณนี้ง่ายๆ คือมึงมองข้ามไปเถอะมึงจะมารับบาปไรตัวเองในอดีต แม่งมึงวันนั้นกับวันนี้ก็คนละคนกันละ สังคมอัไรมันก็เปลี่ยนไปหมดละ identityที่หลงเหลือเหมือนกันมีแค่ชื่อเท่านั้น กูก็มีเรื่อวกับเพื่อนแล้วจบไม่สวย แต่ก็แค่นั้นกูย้ายจังหวัดเลย ไปหาสังคมใหม่ที่ดีกว่า แล้วเรื่องราวเก่าๆไอสัสคนในสังคมเก่าเขาก็ไม่มานั่งแคร์มึงหรอก พอมึงออกไปมึงก็แค่หายไปจากสังคมนั้นไม่ได้มาตามล้างแค้นแบบจอนวิดซะหน่อย ผ่านไปทศวรรษก็แกล้งลืมไปได้แล้ว
ความจริงแม่งไม่สําคัญหรอก แล้วพอเข้าสังคมใหม่ๆก็ไม่ทีใครมานี่งแคร์หรอกว่ามึงมาจากไหน อดีตมึงเป็นไงกับไอเรื่องเพื่อนๆจิ๊บจ๊อยเหนี่ย เหอะๆ ใครจะมานั่งจับผิดมึงว่ามึงทําอย่างนั้นจริงๆไปในอดีตวะ พระอัลเลาะห์เรอะ (ถ้าไม่ใช่เรื่องคดีอะไรที่ศาลสั่งหมายมีคนตามสืบไอสัส)
ลองจินตนาการดูหนุกๆ แล้วถ้ามึงไปฆ่าคนมาเมื่อวานแล้วเดินหัวกระแทกพื้นวันต่อมามึงลืมทุกอย่าง แล้วคดีนั้นถูกตํารวจปิดคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครในโลกรับรู้ว่าศพนั้นมึงฆ่า มึงมีความทรงจําว่าความจริงแล้วมึงยังไม่เคยฆ่าใคร แล้วอะไรคือความจริงหล่ะ? :v
“Truth doesn’t matter, perception is reality”
ก็แล้วแต่จะคิดครัช ชีวิตคนละแบบ จะคิดแบบนี้หรือคิดติดยึดอยู่กับความจริงมันไม่ได้ถูกหรือผิด แต่คิดแบบไหนแล้วเราเดินต่อไปได้หล่ะ จะเลือกติดอยู่ใน“คุก”ของความเป็นความจริง(?)’ก็แล้วแต่ใจศรัทธา
>>641 ถ้าใช้ชีวิตจอมปลอม แบบนั้นไม่เอาหรอก นั่นคือการไม่ยอมรับตัวตนของเราในอดีต
ถ้าไม่มีเราในอดีต ก็ไม่มีเราปัจจุบันและอนาคต เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่เราให้อภัยตัวเองได้
ดัดแปลงแก้ไขอดีต มันไม่ใช่การทรยศตัวเองหรอกหรอ เราจะสูญเสียตัวตน ในอนาคต เมื่อเราสามารถลบทุกอย่างได้
ต่อให้ความจำเสื่อม ตัวเราทั้งในอดีต ปัจจบุัน อนาคต ใครจะว่ายังไง ตัวเราก็คือตัวเรา อยู่ดี
จำไว้นะชีวิตที่ซื่อสัตย์กับตัวเองไม่ใช่เรื่องน่าละอายเลย แต่การมีชีวิตอยู่ด้วยการโกหก มันจะต่างอะไรกับความตาย
แบบนั้นนะ ไม่เรียกว่าการมีชีวิตหรอก มองย้อนไปด้วยน้ำตาที่ไหลริน มันก็แค่ปอยฝน ตกหลงบนไหล่เบาๆ ของฉันเท่านั้นเอง
ไม่มีอะไรการันตี ว่า อนาคตอันแสนไกล จะเป็นเป็นของเราจริงๆ ก็ต่อเมื่อเราได้ขังอดีตไว้ในอุโมงค์ที่ดำมืด วันนี้ในปัจจุบันมันถึงเปร่งประกายที่สุด
bitter truth is always better than a sweet lie.
สงสัยนานละใครตอบได้มั่ง ทำไมรร.ไทยต้องบังคับให้นร.นั่งแยกแถวชาย-หญิง ต่างจากฝรั่งหรือยุ่น
>>644 เกิดอารมณ์ทางเพศ เดียวไม่มีสมาธิเรียนกันพอดี
ผญ ช่วงม.ต้น เริ่มมีกลิ่นหอมด้วย
ฝรั่งมันเยกันตั้งแต่14 ท้อง เยอะแยะก็เพราะพวกเมิงเอาแต่คิดว่าฝรั่งเจริญไม่ยอมเชื่อเรื่องรักนวลสงวนตัว
>>643 แบบนี้พ่อแม่ให้กำเนิดเมิงมาก็ไม่ต้องให้ค่า?
คนที่ช่วยเหลือเมิงสมัยก่อน ไม่สำคัญ?
ทุกชีวิตที่เราได้พบเจอล้วนทำให้เราเติบโต และไม่ผิดพลาดซ้ำสอง เหมือนพวกนั้น ประสบการณ์ต่างๆ เมิงเอาอดีตมาใช้ปะละ? ไม่งั้นคนเราก็ไม่ต้องฝึกฝน เรียนรู้หรอก
นั่นล่ะคือการอัญเชิญอดีต และยืมตัวตนในอนาคตมาใช้ ในปัจจุบัน
แฟนเพื่อนเล่นสงครามประสาทหาเรื่องกูแบบอ้อม ๆ เพื่อนกูเองก็รู้ว่าแฟนกำลังหาเรื่องกูแต่ก็ไม่กล้าดุว่างี่เง่าเพราะกลัวแฟนร้องไห้ (มันบอกกูเอง) ส่วนกูที่เว้นระยะห่างจากพวกแม่งทุกอย่างแต่ยังโดนหาเรื่องควรทำไงดีวะ ใจนึงอยากหนีห่าง ๆ ไป แต่อีกใจคือรำคาญละ อยากสงครามประสาทกลับให้พวกแม่งเลิกกัน
ปรึกษาโม่งทั้งหลายหน่อย สมมุตินะ ถ้ามึงเป็นศิลปิน แล้วมีศิลปินหน้าใหม่มีสไตล์คล้ายมึงทุกอย่าง คล้ายจนแทบทุกคนที่มึงรู้จักบอกว่ามันเป็นร่างแยกของมึง แล้วมึงไม่ชอบมัน แต่ไม่ได้จะขัดแข้งขัดขาอะไร แค่ไม่ชอบและไม่อยากร่วมงานด้วย แต่มีแฟนๆ บางกลุ่มอยากเห็นมึงคอแลบกับมัน และมีโปรเจ็คในอนาคตที่มึงรู้ว่ามึงจะได้ร่วมงานกันแน่ๆ มึงอยากทำโปรเจ็คนี้ แต่มึงไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับมัน และมึงไม่สามารถบอกคนอื่นได้ว่ามีมันไม่มีกู เพราะมึงจะดูเป็นคนใจแคบ เสียคะแนนในสายตาคนอื่น แต่มึงไม่อยากปฏิเสธโปรเจ็คนี้ เพราะมึงไม่อยากให้มันสร้างคอนเน็คชั่นกับเพื่อนศิลปินคนอื่น ซึ่งเป็นเพื่อนในแวดวงของมึงมานาน (เพื่อนศิลปินพวกนี้ทักเองว่ามันคือร่างแยกมึงแต่ไม่มีใครอคติกับมัน) เป็นมึงจะทำยังไงกันวะ
>>650 เพื่อนมึงอยากเห็นมึงจมดินป่าววะ ถ้าสมมุติสนิทกันหน่อยละเหมือนกันขนาดนี้มันต้องมีใครเอะใจไรบ้างดิ ลองคุยกับเพื่อนหยั่งๆถามความเห็นเพิ่มเติมไว้ก็ดีว่ามันไม่เหมือนเกินไปจริงๆเหรอ
สต.กูคือฝืนร่วม ถ้าเป้าหมายหลักคือไม่อยากให้มันสร้างคอนเน็คชั่น ต้องทนแล้วร่วมไป ร่วมงานกับมันแค่ตามสคริปพอ กูยอมเจ็บถ้ามันเจ็บด้วย
กูเป็นพวกไม่ชอบเข้าสังคม ชอบเล่นเกมดูซีรี่ไรอยู่บ้าน อยากหาเพื่อนนอกจากกลุ่มปัจจุบันอะ เพราะพอกลุ่มหลักหายก็รู้สึกเหมือนไม่มีใครอีกเลย อยากหาเพื่อนงานอดิเรกคล้ายๆกันหลายๆกลุ่ม กูต้องหาจากไหนดีวะ
ไปคลาสเรียนภาษาจะได้เพื่อนเพิ่มมั้ยวะ เหงาอะ
เพื่อนกูจะจบออกมาทำงานแล้วมันยังพูดเพ้อเจ้ออยู่เลยว่ะ
ไม่รู้นะ เรื่องที่มันพูดเพ้อเจ้อมันก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนนะ แต่พอมันพูดออกมาแล้วรู้สึกความน่าเชื่อถือในตัวแม่งลดลงไปเยอะมาก แบบมากเพราะโตแล้วแต่ยังเพ้อเจ้อเหมือนเด็กๆ คนบ้าไร365วันเจอผีไปแล้ว400วัน แถมมีภาคต่อทุกวันด้วยคว.ยมาก เอาเรื่องเล่าของตปท มาพูดพอมีคนแย้งว่านี่ของประเทศนั้นที่ ละอินี่ก็แบบ..หรอๆ ไม่รู้เลย //เอานิ้วจิ้มแก้ม ถุ้ย ถ้าตอบว่ารู้คงจะเมคเซ้นกว่านี้อีก
กูเป็นคนนึงที่ได้เลือกทำสิ่งที่ชอบในสังคมเพื่อนที่มีแต่พ่อแม่บ้าหมอ มีเพื่อนกูคนนึงโดนบังคับให้เรียนหมอแต่มันอยากเรียนเหมือนกู ที่นี้พอมันมาบ่นเรื่องว่าไม่อยากเรียนที่มันเรียนอยู่แล้วมันจะชอบพูดให้กูรู้สึกว่าแบบเออดีจังที่มึงได้เรียนที่ชอบไม่เหมือนกู กูนะอยากอย่างงู้นอย่างงี้แต่พ่อแม่เหี้ยเลยทำไม่ได้(ซึ่งมันก็จริงแหละ) พอกูฟังมันบ่นมากๆละกูรู้สึกผิดที่กูแฮปปี้ดีเฉยเลย ตอนกูสอบติดกูก็ไม่กล้าจะไปอวดกับใครอยู่ตั้งเกือบปี ตอนเตรียมพอร์ตเตรียมอะไรก็ไม่ได้ปรึกษาเพื่อนคนไหนเลยเพราะกลัวเพื่อนได้ยินแล้วรู้สึกแย่ รู้สึกว่าไม่ได้พราวกับสิ่งที่ตัวเองทำได้อย่างเต็มที่เพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองมีสิทธิ์เลือก หลังๆกดดันอีก กลัวว่าตัวเองที่เลือกเรียนสายนี้แล้วดันทำได้ไม่ดีจะโดนเพื่อนคิดในใจว่าทำไมกูที่กากขนาดนี้ถึงได้เรียนในขณะที่มันไม่ได้เรียน รู้สึกท้อกซิคสัด แต่ไม่คบคนนี้ก็ไม่รู้จะคบใครแล้ว
เบื่อ เพื่อนไม่รับผิดชอบ แต่ทำไมกุป็นคนโดนด่าก็ไม่รู้ เวลาพวกผู้ใหญ่ว่า พอบอกว่าไม่ใช่ความผิดชอบกุก็หาว่าไร้น้ำใจ หาว่าเถียง กุเหนื่อยมากเลยนะ
กูกำลังคิดว่า
กูจะไปอยู่ที่อื่นดีมั้ยกูไม่ค่อยมีเพื่อนทีนี้ไม่มีเลยเพราะแม่งแยกย้ายไปทำสิ่งต่างๆไม่อยากอยู่นิ่งๆ
ละกูไม่อยากเล่นเฟสด้วยกูไม่อยากเห็นอะไร
มึงน่ะ ไม่เห็นสิ่งที่กูตั้งใจทำให้มึงสุดชีวิต สุดความสามารถหรอก มึงเห็นแค่ตอนที่กูไม่ง้อมึงเท่านั้นแหละ มึงเป็นผัวกูหรือไง ทำไมกูต้องง้อมึงทั้งที่กูไม่ผิดด้วย แล้วกูก็ไม่ใช่เมียมึงด้วยค่ะ ที่ต้องมารองรับอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของมึงได้ เดี๋ยวกูจับจกเลยแม่ง
อยากเป็นเพื่อนกับคนที่ด่า ปญออส
กูดูเป็นคนเหี้ยป่ะวะที่เลิกคบกับเพื่อนทั้งแก๊งเพราะเพื่อนมีแต่คนอ้วนๆ
แก๊งมหาลัยกูตอนแรกมี 5 คน คนผอมรวมกู 3 กับคนอ้วน 2 คน กูก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วทีนี้ก็มีมาเพิ่มอีก 3 คนซึ่งเป็นคนอ้วนหมดเลย รวมทั้งแก๊งมี 8 คน พวกนี้เป็นเพื่อนที่นิสัยดีเลย แต่เป็นคนขี้เกียจ ไม่ชอบเดิน ไม่ช็อปปิ้ง ไม่ค่อยมีความทะเยอทะยาน ไม่ชอบทำกิจกรรม ไม่ชอบเข้าสังคม ละกลายเป็นจะมีคนผอม 2 คนที่จะพอทำนู่นทำนี่กับกูบ้าง แต่คราวนี้ไอ้คนผอมก็อ้วนตามเพื่อนไปด้วย แล้วกูรู้สึกเวลาเจอก้บพวกมัน มีแต่ออร่า negative ว่ะ ดูหม่นๆ ไม่ค่อยมีเอเนอจี้ เครียดๆ ไม่อยากทำอะไร อยากบ่นชีวิตเฉยๆ กูรู้สึกตัวเองถูกดูดพลังมากๆ ตอนนี้เลยเลือกออกมาจากแก๊ง ละคืออีกสองเดือนจะจบแล้วก็ไม่มีเพื่อนแก๊งอื่นเลย คบแต่พวกนี้มาตลอด
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.