Last posted
Total of 971 posts
พวกมึง ถึงมันจะเป็นมู้จิตเวช แต่พวกมึงจะรวมตัวกันโรคจิตไม่ได้นะเว้ย เหมือนเอาคนไม่ปกติมารวมตัวกันอ่ะ
มันไม่ทำให้อาการดีขึ้นนะ อย่าดึงดูดกันเองแบบนี้สิวะ
โดปามีน เป็นสารที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์พึงพอใจ ความปิติยินดี ความรักใคร่ชอบพอ จากการศึกษาทดลองในหนู พบว่าเมื่อทำให้หนูเกิดความพึงพอใจ ระดับของโดปามีนจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งในขณะที่โดปามีนถูกหลั่งออกมาจากสมอง จะทำให้เกิดความสุข เรียกว่า reward circuit หากถูกกระตุ้นด้วยพฤติกรรมซ้ำ ๆ ก็จะหลั่งโดปามีนออกมาตามปกติ แต่หากไม่ถูกกระตุ้นหรือทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่กิจกรรมเดิม สารโดปามีนก็จะหยุดทำงาน ทำให้รู้สึกหงุดหงิด โมโหหรือเซื่องซึมได้
ด้วยเหตุนี้บางครั้งจึงมีการจัด โดปามีนเป็นสารเคมีแห่งรัก (Chemicals of love) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเลือกหรือจับคู่ ซึ่งมีผลงานวิจัยอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยอีโมรี ได้ทำการทดลองโดยฉีดโดปามีนใส่หนูตัวเมียทึ่เอามาจากหนูตัวผู้ตัวหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่าหนูตัวเมียเลือกจับคู่กับหนูตัวผู้ที่เป็นเจ้าของโดปามีนนี้จากกลุ่มหนูทั้งหมดที่อยู่รวมกัน
นอกจากนี้แล้วระดับโดปามีนส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย หากร่างกายมีสารโดปามีนในสมองมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมองส่วนฟรอนทัล ซึ่งสมองส่วนนี้ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด การเรียนรู้ ความจำ ก็จะทำให้เกิด"อาการป่วยทางจิต" ซึ่งผู้ป่วยโรคจิตเภทจะมีระดับโดปามีนในสมองมากกว่าคนปกติ
>>878 ดังนั้นคนปกติ ต้องห้ามดีใจ หรือเสียใจจนเกินไป รู้สึกเฉยๆ กับทุกอย่าง แบบ อายาโนะโคจิเนี่ยละ ที่ไม่ใช่จิตเวช https://www.youtube.com/watch?v=oD3ovFjhZBw
ช่วงนี้กุย่อนยาน ขี้เกียจทำนั่นนี่
แค่จะยกช้อนขึ้นมากินยังขี้เกียจเลย เสียพลังงานในการลืมตา ไม่อยากทำอย่างอื่นเลย
อยากนอนกลิ้งๆไถมือถือทั้งวัน
จะขยับตัวก็รู้สึก โอ้สสส น่าเบื่อ
แต่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กละ มันคืออาการไรวะ
Here to heal เพิ่งรู้ว่าปิดบริการไปแล้ว มาเปิดใหม่ไวๆ นะ TT
ว่าวก่อนนะ
ไม่ชอบตัวเองเลย กูมีฝันอยากสมัครทำงานสายนึงหลังฝึกงานเสร็จ เลยเมาเม้าๆให้เพื่อนฟัง ทีนี้เพื่อนหลายๆคนพอได้ฟังก็อยากมาสอบอยากมามีฝันเดียวกับกู กูควรจะดีใจสิที่เพื่อนมีฝันเดียวกัน แต่อีกใจนึงก็รู้สึกเหมือนถูกเขาลอกเป้าหมายลอกฝันของเราไป ไม่ชอบเลย กูเป็นอะไรเนี่ย แย่ว่ะ มีเพื่อนร่วมทางก็ดีแล้วแท้ๆ
คนใกล้ตัวบ่นเหนื่อยๆๆๆทุกวัน ทุกครั้งที่เจอ ไม่มีอะไรก็บ่นเหนื่อยๆๆๆ คือเข้าใจว่างานหนัก แต่กุไม่อยากฟังอะ กุจะร้องไห้เำราะกุเบื่อมสกๆๆๆ กุไม่อยากได้ยิน กุแฮปปี้ของกุ ก้ต้องมาเจอคำว่าเหนื่อยจากคนอื่น กุไม่ไหวอะ กุก้เหนื่อยเหมือนกันต้องมาฟัง กุต้องทำยังไง ทำยังไงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
งอแงกันไม่หยุด แต่ในที่สุดไม่มีใครใส่ใจสนใจกู กูเป็นแค่ไอ้คนธรรมดาไม่มีปัญหาสุขภาพจิต
ไม่ได้อยากมีหรอกนะ แต่ไม่ได้แปลว่ากูน้อยใจไม่เป็น
เพื่อนแม่งเอาประเด็นยากมาพล่ามให้ฟัง กูจะตอบแม่งยังไงดี อย่างแม่งเป็นคนindecisiveแล้วไปเปิดซิงกับคนแปลกหน้า แล้วแม่งมาregret 2 เดือนหลัง
กูแทบไม่มีsympathyหรือสามารถเข้าใจไรได้เลย เพราะกูคิดแพลนตลอดในชีวิตว่าอะไรควรไม่ควรแล้วกูจะได้ผลลัพธ์ยังไง หาืออะไรแย่ๆมี่เกิดไปกูก็จะมองโลกบวก กูเคยคุยกับแม่งมาหลายๆครั้งแล้วกูไม่เก็จว่าจะต้องการอะไร จากการคุยอะไรวนๆไปไม่ได้หาทางออกของปัญหา ดังนั้นถ้ากูอยู่ในสถานการณ์นี่กูก็แค่มองข้ามไปหาอนาคตที่ดีกว่า ไอสัสแล้วมันก็เปิดซิงตัวเองมากับดิลโด้ก่อนแล้ว ดังนั้นทางbiologicallyมึงก็ไม่ซิงมาแต่แรกอยู่แล้ว คิดไรมากวะ ที่เหลือมันก็แค่ideological perception ละ
จริงๆไอห่าแม่งมันคิดพลิกไปได้ว่ามันโดนขมขืนอ่ะ เพราะมันก็บอกว่ามันไม่แน่วจไม่อยากทำ แต่ใครบ้าแม่งตามผู้ชายแปลกหน้าไปยันคอนโด แล้วตอนแรกๆแม่งก็คุยโม้ว่าแบบดีใตกูเปิดซิงแล้ว อีควัย เป็นไบโพล่า
แปลไทยไม่ได้ไง ภาษาไทยแม่งกาก
มึงลองมาเรียนภาษายุโรปนอกจากอังกฤษมึงก็ควไม่เข้าใจ เพราะกะจะแปลไทยตรงตัว ภาษาไทยโครตจะsimplifyกับตวามหมาย เพราะคนไทยไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง ดังนั้นสมองมึงก็เลยไม่เข้าใจสิ่วที่กูเขียนมาไปด้วย เห็นได้ทั่วไปในพวกเด็กมาเรียรยุโรปแต่โง่อ่านะ
>>891 กุว่าไม่ใช่นะ ภาษาไทยไม่ได้กาก แต่เมิงไม่เข้าใจ ภาษาไทยดีมากพอต่างหาก พวกเรียนเมืองนอกเป็นงี้เยอะคิดว่าตัวเองตัวเองเจ๋ง เพราะใช้ภาษาไทยไม่ได้ เมิงแค่ปกปิดข้อบกพร่องของเมิงเองต่างหาก ฝรั่งบางคน เขียนภาษาไทยได้ดีกว่าเมิงอีก
และสามารถใช้ดูว่า คนที่คำอังกฤษคำ จะคิดว่าตัวเองหยิ่งผยอง
ความคิดตัวเองถูกที่สุดก็ได้
เหมือนเมิงสั่งงาน สั่งchatgpt เมิงรู้ไหมว่าหลักการทำงาน เหมือนเด็ก ที่ต้องคอยเรียนรู้ เวลากุสั่งงานchatgpt กุก็จะอธิบายให้เหมือนเด็กอนุบาลฟัง จะได้รับคำตอบที่ถูกต้องมา
ไม่มีอะไรจะด่าสะใจเยอะแยะ ได้เท่าภาษาไทยแล้ว ภาษาอื่นด้อยกว่าหมด
>>893 มึงยังอธิบายไม่ได้เลยว่าภาษาไทยดียังไงกว่าภาษาอื่นนอกจากเรื่อวควายๆอย่าง ภาษาไทยด่าสะใจที่สุดแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่กูได้ยินจากพวกmonolingual บ่อยๆไม่ว่าจะไปประเทศไหนอ่ะนะ คิดว่าภาษาบ้านตัวเองด่าได้โหดที่สุดบ้างหรือด่ามันส์ ซึ่งมันsubjective มากกว่าจะเป็นแนวคิดทางlogical นอกจากจะไม่มีการยกproofsมาสาธยายแล้วยังโชว์โง่คิดว่าภาษากูดีที่สุดแบบไร้เหตุผลอีก ว๊าว
ภาษาไทยมันเป็นภาษาที่ใช้adjective adverb น้อยมาก ในคณะที่คุยกับคนไทยในการอธิบายหรือติชมอะไรบางอย่างศัพท์มันจะวนซํ้ากัน แต่ในขณะที่ภาษา Indo European มันใช้มีsynonymเยอะกว่ามาก แม้ถ้าแปลตรงตัวความหมายจะเหมือนกัน แต่มันใช้คนละบริบทกัน มีความแตกต่างกันอย่างนิดๆ ซึ่งเวลาอธิบายอะไรหรือจะขยายความมันจะง่ายกว่าภาษาไทย คําไทยจริงๆแม่งสั้นจะตายเอาใช้ชีวิตประจําวันให้รอด รากศัพท์ไทยมันไม่ได้มีอะไรลึกไงคําหลายๆอย่างเลยต้องไปใช้รากกศัพท์จากบาลีสันสกฤตมาตั้งคําๆใหม่ เพราะสามารถสมาถรคําได้ มันมีระบบprefix suffix เหมือนภาษาอังกฤษเอาง่ายๆ เวลาคิดประกอบคําใหม่มึงดึงรากศัพท์มารวมๆกัน แต่ทีนี้ก็ทีปัญหาอีกเวลาคิดคําใหม่ในวงการวิชาการ บางครั้งคํามันไปซํ้ากับคําที่มีอยู่แล้วในพระตรัยปิฏก
กูไม่เก็จอะไรมากกับการใช้ไทยคำอังกฤษคำ มันเป็นเรื่อวของชาตินิยมไรเหรอวะ งง คือบางครั้งคนที่ใช้หลายภาษาสมองแม่งมันแปลไม่ทันจริงๆหรือไม่ก็ไมามีคําแปลไทยที่สามารถconveyความรู้สึกที่จะสื่อได้เหมือนที่ใจคิด ก็พ่นออกไปเลย กูคุยกตกกะปิทั่วไปไม่ได้ไปพูดหน้าเวทีการประชุมเหี้ยไร แล้วไม่ได้จะเป็นการเบ่งไข่เลยว่าใช้ผสมกันแล้วกูเท่ หรือว่าอิจฉาเหรอ
มันก็ไม่ได้จะเบียวขนาดที่เหมือนพวกเด็กเรียนอินเตอร์แทนคําว่าไอกับยู หรือแบบเอ้โย่ว วัดซัพแม๋น วัดซัพนิกก้า
กูคุยกับอาจารย์ตามมหาลัยแม่งก็พูดผสมศัพท์อังกฤษมางี้ปกติ เพราะใช้ตําราต่างประเทศ แล้วก็ตามที่ว่ามา มันแปลไทยตรงตัวไม่ได้ คือจะให้แปลได้ก็ต่อเมื่อมันมีคนเขียนบทความวิขาการแล้วตั้งๆคําๆนั้นใหม่
การพูดที่ดี คือตรงประเด็นเข้าใจได้ ดูจากที่เมิงพิมมา น่าจะยังความรู้ไม่ถึงนะ
แต่เมิงไม่ยอมรับว่าตัวเอง โง่ไง ภาษาไทยความรู้เมิงมีแค่นี้ เลยคิดว่าไทยใช้ไม่ได้
เมิงแค่ไม่อยากใช้ ก็เอาง่ายๆ พิมทับศัพท์เข้าว่า
เขาเลยเรียกว่า low effort หรือทำแบบลวกๆขอไปที
ถ้าเมิงยอมรับว่าตัวเอง โง่ ได้อย่างแรกแล้วเมิงจะฉลาด ดู chatgpt ก็ได้ ยังต้องเรียนรู้ตลอดเวลาเลย
แต่คนส่วนใหญ่จะคิดว่า กุเจ๋งกุแน่ไง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ดึงดัน เรื่องชิบหาย มันก็เกิดจากพวกนี้นี่ละ
ที่คิดว่าตัวเองฉลาด แต่จริงๆแล้วโง่
>>894 ทำมาเป็นบอกว่าภาษาไทยมันไม่เจาะจง ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่มึงต้องการได้เลยต้องไทยคำอังกฤษคำ สิ่งที่มึงกำลังทำคือหลงประเด็นสัสๆว่ะ กูก็ไม่ได้บอกว่าภาษาไทยมันเจ๋งสาส lnw007 กว่าทุกภาษา แต่สิ่งที่บอกคือ ก่อนจะยกตัวอย่างไทยคำอังกฤษ คือมึงต้องเข้าใจในบริบทที่ตัวเองต้องการจะสื่อให้ได้จริงๆก่อน แล้วไปเปรียบเทียบหาคำภาษาไทยที่จะใช้อธิบายให้ครอบคลุมและตรงความหมายของเรื่องที่มึงจะสื่อ ซึ่งถ้ามันไม่มีแล้วจริงๆก็ค่อยยกตัวอย่างคำภาษาอื่นๆมาใช้ ซึ่งตรงจุดนี้ที่มึงพลาด มึงยังอธิบายในภาษาไทยไม่ได้เลย แต่ยกภาษาอื่นมาทับไปแล้ว และที่มึงยกมามันก็เป็นความหมายกลุ่มกว้างๆที่ไม่ได้ต่างอะไรจากใช้ภาษาไทยเพียวๆ มึงก็แค่เอาศัพท์มาใช้เท่ๆ เหมือนอัพเกรดให้ตัวเองดูมีความรู้ แต่จริงๆก็กลวงโบ๋เพราะไม่สามารถอธิบายด้วยภาษาไทยได้ไง
พวกschizoเถียงกันฮาดีหว่ะ
>>897 เสร่อแป๊ะมาก เคยได้พูดจากับมนุษย์บ้างไหม วิธีของมึงไม่ใช่การสื่อสาร การสื่อสารคือการตอบโต้กันด้วยคำศัพท์ที่ถูกใช้ในสังคม ถ้าเฉพาะทางจัดเราพูดคำไรออกไปแล้วอีกฝั่งงงเราถึงจะไปหาศัพท์ใหม่มาใช้อธิบาย ไม่ใช่มาลิมิตตัวเองว่าห้ามทับศัพท์ตั้งแต่แรก โดยเฉพาะเวลาตอบโต้มันเน้นความเร็ว และความเข้าใจ เช่น มึงบอกว่าจะเช็คตารางเวลาตัวเอง การที่คำในหัวมึงคือ schedule มึงก็พูดขึ้นมาได้เลยว่า “เราขอเช็ค schedule ก่อนนะ” อีกฝ่ายแม่งอาจจะเข้าใจก็ได้ ไม่ใช่มายืนงงเอ๋อแดกว่าเอ๊ะ คำว่า schedule แปลเป็นไรว่ายังไง อีกฝ่ายคงจะคิดว่ามึงเป็นไรมากเปล่าให้กูมารอมึงคิดคำศัพท์ภาษาไทยนี่นะ ทั้งๆที่มีคำอื่นที่ใช่ได้
การสื่อสาร success ได้ถ้าสื่อสารเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็พยายามอธิบาย ไม่ใช่มาลิมิตว่าต้องใช้ภาษานั้นนี้เท่านั้น จนมันติดขัด บ้าหรอ
>>899 คนฉลาดกว่าเอไอก็มีแค่คนส้รางเอไอนั่นแหละ มึงเบียวไรป่ะเนี่ย
ถ้ามึงเมินโทรล tof ไม่ได้ ไม่ควรเล่นโม่งนา
>>900 นี่งัย มึงก็ตกหลุม งง ในตรรกะตัวเองอีกแล้ว ทำมาบอกกูเสร่อ แล้วไอคนที่มันเลือกใช้คำว่า "ขอเช็ค สะเก๊ดดู้ว ก่อนนะ" ทั้งๆที่ในหัวมันกำลังคิดจะบอกว่า "ขอเช็คตารางเวลาตัวเองก่อนนะ" เพราะมันเชื่อฝังหัวไปแล้วว่าชั้นเข้าใจคำๆนี้ "สะเก๊ดดู้ว" ไม่เสร่อกว่าหรอวะ อีกฝ่ายคงไม่คิดว่ากูมีปัญหาอะไรหรอก เพราะกูไม่เสร่อจัดเหมือนมึงไง มีแต่มึงแหละที่เค้าจะสงสัยว่าสมองมีปัญหาอะไรป่าว แค่ใช้คำว่า "ตารางเวลา" ก็เข้าใจ จะเสร่อไปหาคำอื่นๆ "สะเก๊ดดู้ว" มาใช้ทำไมและยังมั่นหน้าว่าคนอื่นต้องเข้าใจความหมายเหมือนมึง เก่งมาก เยี่ยมมาก ขอบใจ
เริ่มชั่งใจว่าจะฆ่ าตัวตายหรือจะฆ่าคนอื่น
ไม่รู้ กุเป็นโรคอะไร รู้สึกโลกนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจสักอย่าง ไม่เข้าใจคนมีenergyเยอะๆ ทำนู้นนั้นนี้ได้ทั้งวัน
แต่กุแค่ขยับตัวยัง ขก เหมือนความคิดในหัวตอนเด็กมันบอกว่าเสียพลังงาน แม้แต่ตอนกินข้าวยังขี้เกียจยกช้อน
เป็นมาตลอดไม่เคยหาย มีโอกาสหลับได้ กุหาโอกาสหลับตาตลอด รู้สึกว่าแค่ลืมตามองโลกนี้ก็เหนื่อยแล้ว กุไม่เข้าใจพวกที่แม้งalert ทุกวันทั้งวันสักนิด พวกมันเอาแรงจากไหนกัน
>>906 โรคเบียวไง ประเภท Edgy (n.) พวกนี้คือพวกวันนาบี อยากทำตัวขรึมๆ เบื่อโลกๆ ไม่สามารถหาความสุขจากอะไรได้ทั้งนั้นเพราะเบื่อแม่งหมด และไม่สามารถมีแรงบันดาลใจทำอะไรได้แล้ว เพราะเบื่อแม่งหมด วิธีแก้คือ เลิกขี้เกียจ เลิกเบื่อเวลาจะลุกขึ้นมาทำอะไร ไม่ต้องคิดว่าทำแล้วได้อะไร เอาแค่มึงลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างให้ได้ก่อน
เผยประวัติมือปืนอายุ 20 ที่ลอบยิงทรัมป์
เป็นเด็กเรียนดี มักถูกบูลลี่ เคยสมัครชมรมยิงปืนยิงไม่แม่น
พวกเมิงเคยชอบเฉพาะส่วนกันปะวะ แบบชอบจมูกคนนี้ ชอบปากคนนี้ ชอบแร้คนนี้ แบบนี้มันดูโรคจิตไหมวะ
บางทีกุชีวิตก็อยู่ด้วยความ ยับยั้งชั่งใจตัวเอง ไม่งั้นเลือดในกุจะเดือดพล่านไปหมด และคุมสติไม่ได้
ในหัวมีแต่คำเดียวว่าอร่อยๆๆๆอยากเลีย อยากกิน ถ้าไม่ได้เลียขอตายดีกว่า
ไม่งั้นกุคงกลับไปเป็นคนปกติไม่ได้
กุว่าทุกคนมีปีศาจอยู่ในตัวทุกคน และก็มีหลายตนด้วย เขาเรียกบาปทั้ง 7 มั้ง
ที่กุสามารถเรียกพลังออกมาได้ คือ โทสะ กับ ตะกละ อีก 5 อย่าง กุยังไม่รู้วิธีใช้งานว่าเรียกยังไง
กุว่ามันพลังปีศาจมันก็ดีนะ ไม่งั้นกุคงไม่รู้วิธีขับเคลื่อนตัวเอง และพอกุได้พลังมาก็มั่นใจมากขึ้น
>>908 สังเกตุผู้ก่อการร้ายมักจะเป็นพวกเด็กเนิร์ดนะ อย่างกราดยิง พารากอน นั่นก็เด็กถูกบุลี่
เอาจริงกุก็เคยโดน คนทั้งห้องเกลียด แต่กุก็ไม่ได้อยากจะคิดอยากฆ่าใคร
เคยเป็นกันไหม พอไม่ได้ทำงานแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี ทำงานของวันนี้จนเหนื่อยแล้วรู้สึกอยากพัก พอพักก็แค่นั่งจ้องมองจอคอมเฉยๆเพราะไม่รู้จะทำอะไร เกมก็ไม่อยากเล่น หนังก็ไม่อยากดู คลิปยูทูปดูไปก็ล่อกแล่กไปอยากทำงาน เพราะรู้สึกว่าเสียเวลา ฟังเพลงเฉยๆก็โคตรน่าเบื่อ
แม่กับอีแก่ข้างบ้านกูเล่นอะไรกันอยู่วะ พอดีวันนี้แม่เอาโทรศัพท์มาให้กูซ่อมเพราะมันชอบค้างแล้วเด้งออกแอพบ่อยๆ กูเลยจะลองล้างเครื่องล้าวข้อมูล ตอนกำลังแบ๊ค-อัพข้อมูลไว้ กูก็เปิดดูเล่นๆ แล้วไปเห็นข้อความที่พวกแม่งคุยกัน แม่งเหมือนอีแก่ข้างบ้านจะคอยรายงานการเคลื่อนไหวกูตลอดทุกวันๆเลยว่ะ เช่น
07:30 ออกจากบ้าน เสื้อฟ้า กางเกงสั้น รองเท้าหุ้มส้น
19:00 อยู่หน้าบ้าน ชุดเดิม ถือถุงมาสองใบ
อีกวันก็
08:43 ออกจากบ้าน ชุดทำงาน ดูรีบๆ(กูสาย)
12:20 กลับมาบ้าน ชุดทำงาน
15:26 ออกจากบ้าน ชุดคลุมดำ กางเกงขายาว(กูลาบ่ายไปเที่ยว)
แล้วพิมพ์ส่งแบบนี้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้กูรู้สึกเหมือนโดนจับตามองตลอดเลยว่ะ กูควรไปคุยดีมั้ย หรือทำใจละเงียบๆไป
คิดถึงพ่อแม่จังอยากอยู่ด้วยกันทุกๆวันเหมือนเมื่อก่อนมาทำงานกรุงเทพเหงาจัง
>>915 เดาว่าพ่อแม่มึงยังไม่ถึงวัยทองสินะ หรือไม่ก็ ได้พ่อแม่ดีเลิศประเสริฐสุดๆที่ไม่ทำตัว Toxic งอแงกับทุกอย่างที่ตัวเองไม่ได้ดั่งใจ วันหยุดอยากนอนตื่นสายก็มาปลุกกู หากุญแจมาปลดล็อคประตูบ้านกูเอง ทำอะไรก็เหมือนขัดใจทำผิดไปหมด ซักผ้าบ่อยก็ว่าเปลืองน้ำ นานๆซักทีก็บอกว่าหมักหมม สั่งของบ่อยก็ว่าสิ้นเปลือง นานๆสั่งมาทีก็ว่าทนใช้แต่ของเก่าๆ ชวนไปกินข้าวข้างนอกก็ไม่เคยถูกใจ กูทำกับข้าวไปให้กินก็มีแต่คำติ เค็มไป หมูเยอะไป ผักสุกไป ที่พีคๆๆๆเลยคือ ต้มจืดทำไมต้องใส่คนอร์มันเปลือง พอพาแฟนมาบ้านก็แวะมาหาเรื่องบ่นใส่กู(ตอนกูอยู่คนเดียวไม่บ่น) อยู่ต่อหน้าเพื่อนบ้านก็ไม่เคยชมไรกูหรอก หาเรื่องติจนได้เช่น รองเท้ากูสกปรกไม่ซักบ้าง(ก็พึ่งลุยฝนมาจะให้สะอาดยังไงวะ) พอลองคุยเปิดใจให้ลดความ Toxic ลงบ้างก็งอนหาว่าโตปีกกล้าขาแข็งแล้วไม่ฟังใคร ทำนิสัยเป็นเด็กน้อยสัสๆ ตอนช่วงไหนกูลำบากก็มาตอกย้ำว่าไม่ประหยัด ไม่ประมานตน พอช่วงกูเฟื่องฟูก็ทำเป็นชวนกินข้าวแล้วมาขอให้ซื้อนู่นนี่ ชมลูกบ้านคนอื่นยับๆ คนนู้นเป็นครูได้สวัสดิการดี(แต่เงินเดือนต่ำชิบ) คนนั้นไปทำงานต่างประเทศส่งเงินกลับมาให้เป็นฟ่อนๆ(ผีน้อย) พอกูสนใจอยากออกรถก็มาบ่นว่ามีปัญญาดูแลหรอ ผ่อนไหวหรอ พอกูนิ่งๆก็มาว่าไม่อยากมีอะไรเป็นของตัวเองหรอ โคตร Toxic สัสๆ ดีละที่ยังไม่เจอ
nigga turned the table and made it all about him
>>918 กูเจอแบบมึงเลยหว่ะ แต่โหดร้ายกว่าตรงที่เจอในวัยมัธยม คือแบบsufferมาก ชีวิตแบบตอนนั้นแค่ขยับจะพัฒนาชีวิตตัวเองในฐานะเด็กคนนึงถือว่าผิดหมดเลย แต่หลังจากนั้นพอออกมาสร้างชีวิตเองได้กูจะจำฝังใจเลยว่ากูทำงานกูมีที่ทางกูจะไปสร้างเองทุกอย่าง พึ่งพาพวกพ่อแม่ตัวเองนี้ให้น้อยสุด ทำประกันไว้เผื่อแม่งป่วยอิดออดจะตายแทน แต่ตายห่ากันไปจริงๆละกูไม่ได้มรดก กูก็ไม่แคร์นะ เพราะยังไงก็หวังๆจะไปหาบ้าน หารถใช้เองอยู่แล้ว
กุเห็นพ่อแม่ประเคนให้ทุกอย่าง ก็ด่าพ่อแม่ ขนาดพ่อแม่มันยังเลี้ยงไม่เชื่อง แล้วเราจะเลี้ยงมันให้เชื่องได้หรอ
ฝากไว้ให้คิด พวกป่วยจิต เดียวมันก็อ้างว่าต้องกินยาอีก
>>918 เจอมาคล้ายๆกู แต่ตอนเด็กกูจะเจอพ่อเหี้ยๆด้วย คือกูทำอะไรไม่ถูกใจนิดเดียวกลับมาบ้านคือจะไปเอาไม้มาฟาดกูทันที พอโตมาหน่อยถึงเลิกไม่รู้คิดได้รึยังไง ทำให้ตอนเด็กกูคอนข้างแพนิคถ้ากูทำอะไรขัดหูขัดตาเค้า
ส่วนแม่กูเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ+วิตกจริต+ขี้บ่นบ้าๆบอๆแบบหาเรื่องมาบ่นเหมือนแม่มึง แต่ upgrade คือจะบ่นเรื่องเดิมๆย้ำคิดย้ำทำ คือศูนย์รวมเรื่องประสาทแดกในคนเดียว
นั่นแหละชีวิตยุควัยรุ่นกู เหี้ยจนกูต้องบอกตัวเองว่าต้องเรียนให้ได้ดีแล้วหนีไปอยุ่มหาลัยไกลๆบ้าน หางานทำไกลบ้านแม่ง
ทำไมช่วยอะไรใครหรือให้อะไรไปเท่าไหร่รู้สึกว่าเเต่ละคนเเม่งไม่เคยเห็นค่าเลยวะ ปล่อยกูนั่งคนเดียว ทักทายคำเดียวเเล้วก็ทำเหมือนไม่รู้จักกัน ดองเเชทกู โทรไปรู้ว่าเห็นนะเเต่ก็ไม่รับ รู้ว่าอย่าทำดีไปเพื่อหวังผล เเต่ถ้ากูอยากได้เเค่ความจริงใจในความเป็นเพื่อนเเม่งยากมากเลยอ่อวะ บางทีหันหน้าไปก็ไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใคร เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาทนฟัง ช่วงนี้รู้สึกเหมือนสมองเเม่งก็ช้าลง ลืมง่ายขึ้น เเถมเวลาไปไหนกูต้องเป็นฝ่ายชวนตลอด ทำไมวะ ปู่กูบอกให้มีน้ำใจไว้เดี๋ยวก็ดีเอง ไหนวะดีที่ว่า ลึกๆเเม่งแอบน้อยใจอยู่นะ รู้สึกควบคุมอะไรในชีวิตไม่ได้เลยขอมาระบายในนี้เเหละ
>>921 ส่วนใหญ่พวกบ่นพ่อแม่โดนพ่อแม่สปอย มีฐานะหมดแหละ แต่คือพ่อแม่พวกนี้มันก็ท็อกซิกสัสๆด้วยไง
กูว่านะพวกมึงควรเลิกบ่นนู่นนี่พ่อแม่หากยังไม่สามารถยืนหยัดด้วยตนเองได้ เพราะจากมุมมองคนนอกพวกมึงแม่งโครตนักหลวม
ส่วนไอพวกที่มันไม่โอเคกับพ่อแม่แล้วมันดิ้นรนหนีมาเองพวกนี่กลับไปปากเปราะซะงั้น เหอะๆ
ทำงานพลาด ลืมนู่นลืมนี่ เหม่อ ไม่รอบคอบ ปากไว เวลาหัวหน้าถามงาน ยังไม่ทันเช็คเลย กุก้ปากไวตอบไปละ ซึ่งมันผิดไง คือมันหลายรอบมาก เขาเหมือนจะเริ่มหมดความอดทนกับกุแล้วอะ กุสงสัยว่าตัวเองน่าจะเป็นโรค adhd และกำลังจะไปหาหมอ แล้วถ้าสมมติมันเป็นจริงๆ เราควรบอกหัวหน้าไหม หรือเก็บเงียบๆ แล้วกินยาปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้น ก่อนถึงเวลาประเมิน เชี่ยเอ้ยยยกลัวไม่ผ่านโปรโว้ยยย
ไม่ได้อึมา4วัน กินโพรไบโอติกตอนนี้ดีขึ้นละ
อยากตายอ่ะ ทำไมต้องพยายามมีชีวิตอยู่ มีชีวิตที่ดีให้ได้ ทุกวันนี้ ไม่มีหนี้ มีเงินเดือน 7 หมื่น การงานดี มีบ้าน มีรถไม่ได้ผ่อน มีพ่อแม่ที่พร้อมซัพพอร์ตไม่เคยขอเงิน มีครอบครัวที่รักดูแลเราทุกอย่าง แต่เราก็ยังอยากตาย สนุก เอนจอยกับชีวิต แต่รู้สึกเบื่อ อยากตาย เบื่อแล้วขีวิต เหนือยแล้ว อยากตายให้หลุดพ้นจากตรงนี้ อยากไปที่อื่นแล้ว
ไปผ่อนรถ หรือออกคอนโดให้มีหนี้ เอาแบบเหลือเงินใช้อยู่นิดเดียว แล้วจะรู้สึกอยากมีชีวิตไปทำงาน
อยากตายแบบไม่เจ็บไง ส่งเมลล์ไปถามเรื่องการการุณยฆาตที่สวิสแล้ว เขาไม่ตอบ คนเราควรเลือกได้ป่าวว่ะ ว่า ยากจบชีวิตตอนไหน ทำไมต้องรอแก่ รอป่วยตาย อยากตอนตอนสภาพร่างกายยังดีแล้วบริจาคอวัยวะให้คนอื่นได้อ่ะ
กฎหมายแม่งควรรองรับให้คนเลือกตายได้ตามใจชอบ เลือกเกิดไม่ได้ก็ควรเลือกตายได้
เอาแบบก่อนตายตรวจเช็ค ไม่ติดบูโร ไม่หนีหนี้ก็ได้
ไหนบอกทุกคนมีสิทธิในตัวเอง กูอยากตายดีๆ อวัยวะใช้ต่อให้คนอื่นได้ ยังไม่เห็นมีสิทธิเลยอ่ะ
อยากให้ซอมบี้บุกโลกว้อยยยย
>>945 สังคมมนุษย์ยังคงติดกับกับคำว่า "ตาย = เรื่องที่แย่" อยู่
สังคมดัดจริตไม่ได้มองว่าการตายมันคือธรรมชาติของสรรพสิ่งที่วนเวียนไปตามวัฏจักร ขนาดมีคนบ่นว่าอยากตาย เพราะหมดแพสชั่น ยังมีไอ้โง่มาบอกให้สร้างหนี้จะได้มีแรงผลักดัน แค่นี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่ายังมีคนอีกไม่น้อยที่มองความตายในทางลบ เพราะงั้นเรื่องที่มึงพูดมา คงยากจะเกิดขึ้นในเร็ววัน
>>941 เมิงก็ยกตัวอย่างพวกมีหนี้แต่ไม่มีกำลังที่จะใช้หนี้ แต่ที่มันแนะนำคืออีคนอยากตายแต่มีพร้อมทุกอย่าง ถ้ามันมีหนี้มันก็จ่ายหนี้ไหว ต่อให้มันออกจากงาน
มีคนโง่แบบเมิงนี่ มันไม่มีทางเข้าใจว่ามันมีหนี้ดีด้วย กุต้องอธิบายไหมว่ากู้เงินมาผ่อนบ้าน อีก30ปีผ่านไปบ้านจะราคาเท่าเดิมปะ หรือโม่งยังอยู่ในโลกอุดมคติ
บางทีกูก็คิดว่ากุคงเป็น psychopath ไม่ก็ Sociopath แหละ เหมือนจะไรความรู้สึกและโง่ทางความรู้สึกมาก
>>950 จ่ายไหวแน่นอน คำถามคือจะจ่ายหรือเปล่า ?
พวกที่หมดแพสชั่นกับชีวิต มันคิดไม่เหมือนไพร่สามัญชนแบบมึงหรอกนะ
ต่อให้มีเงินจ่ายไหว แต่ถ้าขี้เกียจรำคาญมากๆ ก็ปล่อยแม่ง ไม่จ่าย เครดิตเสียแล้วไง ช่างแม่ง ยึดก็ยึดไปดิ ต้อให้ฟ้องล้มละลาย ก็ล้มบนฟูกอ่ะน้อง
บ้านปัจจุบันก็มีอยู่แล้ว รถปัจจุบันก็มีอยู่แล้ว เงินก็มี ไม่เดือดร้อน
อธิบายไปไพร่แบบมึงคงไม่เข้าใจหรอก เพราะมึงยังคงติดลูปชีวิตหนี้อยู่ ถ้าไม่จ่ายชีวิตมึงล่มจม โดนยึดบ้าน ยึดรถไม่มีที่ซุกหัวนอน
แต่ไอ้คนที่หมดแพสชั่นที่มีพร้อมทุกอย่างมันไม่ใช่แบบมึง ซื้อเพิ่ม ถ้าขี้เกียจก็ปล่อยทิ้ง ไม่เดือดร้อน
กูขอให้ไอ้เอี้ยที่คิดค้นรีลมันตายห่าอย่างทุกข์ทรมานแลวต้องดูรีลควายๆไม่หยุดตลอดเวลาไปชั่วชีวิต ไอ้เปรต
ไม่ต้องมาบ่น ไม่ดูแลตัวเอง ทำตัวหัวฟรวยเองแล้วจะบ่นทพไม พยายามข่วยจนไม่ร฿่จะช่วยยังไงก้ไม่เอาไม่สน
ก้ตายๆไป รำคานชิบหาย
เอาเวลาที่มาปรึกษาโม่งไปปรึกษาหมอนะ มีตังมีทุกอย่างครบ หาหมอหรือหาที่ปรึกษาด้านนี้น่าจะไม่มีปัญหา ยกเว้นไม่มีใครแล้ว มีโม่งเป็นที่พึ่งสุดท้าย
กุกำลังยอมเหนื่อย ยอมเสียความเป็นตัวเองเพื่อทำงาต ยอมลืมการคอนเนคกับทุก ๆ คน แค่เพื่อเซฟแรงไว้ทำงาน ยอมทุกอย่างเพื่อเงินเดือนอันน้อยนิด สัสเอ้ย
>>964 อส คล้ายๆไอดอลเลยวะ
ว่าแต่การคอนเนค กับ เพื่อน มันสำคัญด้วยหรอวะ แล้วเสียความเป็นตัวเอง เมิงก็หยุดที่จะทำเมื่อไรก็ได้ มีใครบังคับเมิงหรอ? ไม่พอใจก็หางานใหม่แค่นั้น ดูท่าเมิงจะมีปัญญาในการเข้าสังคมนะ ถึงต้องฝืนตัวเองตลอด ถ้าเมิงทำเป็นปกติทุกลมหายใจ ความเป็นตัวเองตัวตนเดิม เมิงจะถูกลบได้ยังไง
ให้เดา เมิงคงทำงานบริการ เช่น แอร์ เด็กเสิร์ฟ ไลฟ์แม่ค้าขายของสินะ
เออ แล้วก็กุไม่ได้ปรัชญาอะไรหรอก
ยดตัวอย่างนะ เวลา คนเราจะตัดสินใจอะไร
เราก็มักหาเหตุผล มาเข้าข้างตัวเอง เช่น อยากไปงานไอดอล อยากไปเสพความโมเอะ นั่นคือเหตุผล
ในทางกลับกัน เหตุผล ก็ทำให้เกิดอารมณ์ เช่น ของหาย หาของไม่เจอ ก็จะเกิดความหงุดหงิด
ดังนั้น อารมณ์ ทำให้เกิดเหตุผล
และเหตุผลทำให้เกิดอารมณ์
ไอ้เอ๋อแยกร่างคุยกันเองเหรอวะ
กลับคอกได้แล้วไอ้เอ๋อ
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.