การหาภาระผูกผันให้ชีวิตนั่นแหละตัวทุกข์ ใครอยากตาย ก็ลองดู มึงไม่ต้องฆ่าตัวเองตายก็ได้ แค่อยู่ไปวัน ๆ จนเงินหมด ไม่มีข้าวแดกก่อน เอาแบบตัวเองใกล้ตาย เดี๋ยวมันจะคิดได้เองว่าจะแห้งตายไป หรือจะลุกขึ้นไปขอข้าวคนอื่นแดก ถ้าเลือกแห้งตายก็สมปราถนามึงละ แต่ถ้ามึงจะมีชีวิตต่อ มึงก็ได้เรียนรู้ว่าชีวิตคนเรา มันคือชีวิตที่ต้องอยู่กับความทุกข์ แค่ร่างกายก็ภาระแล้ว เดี๋ยวหิวเดี๋ยวขี้เดี๋ยวง่วง ความสุขห่าเหวอะไรแค่ของชั่วคราว แค่ทำให้มึงฝันไปวันๆ แล้วถ้ามึงเข้าใจโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์เมื่อไร มึงก็จะอยู่ได้แบบยังไงก็ได้ วันนึงมีข้าวกินอิ่ม มีห้องให้นอน ตื่นมายังมีแรงเดิน จบ ทุกอย่างที่เคยต้องการ โดนโลกทุนนิยมหลอกมาทั้งนั้นว่าคือ ความสุข โดนตอแหลว่าเป็นของดีที่ช่วยมึงได้ ทำให้อยากได้อยากมีเอาของมาครอบครอง เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์เพราะวัตถุ หรือเพราะความสัมพันธ์กับคนอื่น คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบนี้แหละ ดิ้นรนหาความสุขภายนอกไปเรื่อยๆจนวันตาย
ถ้ามึงมีความสุขกับตัวเองได้นะ นั่นคือก้าวแรกแล้ว ก้าวต่อไปก็ทำอารมณ์ให้นิ่ง ไม่สุขไม่ทุกข์ แค่อยู่ไปตามอายุขัย ทิ้งของรกรุงรังในชีวิตออกไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะตาย ไม่มีอะไรยึดติดแล้วจะสบายใจขึ้น แต่ถ้ามึงยังอยากใช้ชีวิตที่หาความสุขภายนอก มึงก็ต้องเตรียมใจทุกข์ด้วย (อย่างเช่นกูที่อยู่ดีๆนึกอยากจะมาพิมพ์พล่ามในโม่งตามกิเลสตัวเอง ก็ต้องเตรียมใจว่าจะโดนด่า หรือ มึงบางคนที่เข้าโม่งมาอยากพิมพ์ระบาย เจอคนด่าหรือเจอคนโม้เหม็นน่ารำคาญ ใจแม่งก็ขุ่นละ โลกมันก็แบบนี้อยู่ตลอดไม่มีวันหนีพ้น ถ้ามึงเริ่มยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นเมื่อไร โอกาสเจอปัญหาหรือเรื่องทุกข์ มันมีอยู่แล้ว) สรุปใครอยากตาย ถ้าไม่รีบ ก็ลองวิธีกูดู อยู่เปื่อยๆกับชีวิตตัวเอง จนหยดสุดท้าย ค่อยๆคิดไปว่า ตัวเองอยากตายจริงไหม ถ้ามันยังอยากตายจริงก็ทำเลย แต่ถ้าอยากอยู่ต่อมึงหนีความทุกข์ไม่พ้นอยู่ละ ทำใจซะ ยิ่งถ้ามึงยังหาความสุขง่ายๆกับชีวิตตัวเองไม่เป็น ก็ต้องดิ้นรนหาความสุขภายนอกมาเติมเต็มอีก