>>797 กูไม่ได้กลัวลูกใช้เงินมากเพราะบ้านกูรวยอยู่แล้ว กูกลัวแค่ลูกกูจะไม่มีความสุข และกูก็มีระเบียบในการบริหารเงินเป็นอันดับต้นๆของบ้านด้วย กูเข้าใจเด็กคนนึงที่เคยเล่าให้กูฟังเลยว่า มันไม่ค่อยกล้าระบายเรื่องในใจให้ใครฟัง เพราะที่บ้านฐานะดี ครอบครัวอบอุ่น ถ้ามันพูดอะไรไปคงโดนตอกกลับมาว่า ชีวิตดีขนาดนี้ยังจะเครียดอะไรอีก ก็นะ ชีวิตคนเรามันมีหลายมิติ เด็กคนนั้นเลยสนิทกับกูเพราะภายนอกก็ดูเหมือนอะไรๆก็ดีไปหมด ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล. โลกมันโหดร้ายอยู่แล้ว แต่ด้านดีดีมันก็มีเสมอ แค่แล้วแต่คนจะมอง กูก็มองทั้งสองแบบสลับกันไป แล้วแต่วันแล้วแต่คืน รู้อะไรมั้ย? มึงทำตัวเหมือนความคิดกูอีกด้านในหัวกูเลย และกูเถียงกับแม่งตลอดเวลา ไม่ค่อยอยากพูด แต่แบบ เออ เหมือนมึงช่วยให้กูเถียงแล้วมันเป็นรูปธรรมมากขึ้น ง่ายขึ้นนิดนึง ใจนึงกูพยายามจะไล่คว่มคิดพวกนี้ออกไปตลอด เพราะมันทำให้กูขาดความมั่นใจ แต่ไม่รู้ทำไมพเถียงให้มันเป็นรูปธรรมแล้วก็รู้สึกมั่นใจกว่า เหตุผลคงเป็นกูได้เห็นรูปความคิดของตัวเองชัดๆก็ได้ เพราะกูก็ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนดีอยู่แล้ว กูใช้ชีวิตไปตามประสา สุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ได้กลับบ้านมาเจอพ่อ แม่ กับยายกู และฝูงแมว ฝูงหมา ถึงกูจะไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้พวกเขาฟัง แต่พวกเขาก็ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้มันมีหลายมิติดี คนเรามันเทาๆกันทุกคน หัวร้อนบ้างก็ไม่เป็นไร ระบายออกมาบ้างก็ไม่เป็นไร กูก็คุยกับพ่ออยู่เรื่อยๆว่าไอ้นั่นไอ้นี่ที่กูทำไปผิดกฎหมายข้อไหนบ้างมั้ย พอพ่อกูเริ่มอธิบายให้ฟัง กูก็จะสบายใจขึ้น ระหว่างรอแม่ทำกับข้าวให้กิน และยายกูที่นั่งดูทีวีกับแมว กูเคยคิดว่าทำไมกูต้องเกิดมาด้วยวะ แต่พอกูโตขึ้น กูคิดว่าจะใช้ชีวิตยังไงนี่แหละคำถามที่กูต้องการหาคำตอบที่สุด และกูก็จะเชื่อมั่นในวิถีของตัวเอง อ๋อ แล้วก็จิตแพทย์ด้วย