กูปีห้าแล้วแต่เรียนไม่ถึงไหนเลย เหลืออีก3ปีกูกลัวไม่จบ นี่จะสอบแล้วยังอ่านหนังสือไปได้ไม่ถึงไหนเลยแถมถ้ากูพลาดปีนี้อีกเวลาแม่งไม่พอแหงๆ ตอนแรกเข้าม.มากูแพลนไว้ดิบดีว่าเรียนจบใน4-5ปีแน่ๆ
คณะที่กูเข้ามันคณะวิทย์ ปีหนึ่งไม่มีปัญหาอะไร พอมาปีสองมันเริ่มมีติดบ้างบางวิชากูก็บอกตัวเอง เออ ค่อยเอาใหม่รอบหน้า กูบอกตัวเองอย่างงั้นทุกๆ รอบที่กูเรียนติด ไม่เข้าใจที่เรียนก็ช่างแม่งเอาเวลาที่ว่างไปทำสิ่งที่กูอยากทำ พอถึงเวลาอ่านหนังสือก็หาข้ออ้างปัดไปนู้นไปนี่จนไม่ได้อ่าน พอไม่อ่านก็ทำข้อสอบไม่ได้ ปีสี่ดีขึ้นมาหน่อยแต่กูก็ได้เอฟมาอยู่ดี กลายเป็นตอนนี้ปีห้ากูดาวน์แล้วดาวน์อีก ม.ก็ไม่อยากไป ไม่อยากทำอะไรเลย
กับที่บ้านกูก็ไม่เคยบอกเขาจริงๆ เลยว่าที่เรียนอยู่ตอนนี้กูเหนื่อย กูบอกเขาชิลๆ จบช้าหน่อยตลอด เคยลองๆ ถามเรื่องเปลี่ยนสาขาเปลี่ยนมหาลัยเขาไม่โอเคมากๆ หลังจากนั้นกูไม่กล้าบอกเกรดตัวเองตรงๆ ตอนปีสามกูบอกเขาว่าปีห้าจบแหละ ปีสี่กูก็บอกปีห้าครึ่งจบ ไม่กล้าพูดด้วยซ้ำว่ากูอาจจะเรียนไม่จบทั้งที่กูอยากลาออกตั้งแต่ปีสามที่กูรู้ว่าอยากทำอะไร แต่กลายเป็นกูลากมันยาวมาถึงปัจจุบัน
เคยเห็นนะวลีประมาณตามเพื่อนเรียนก็รอด ตามเพื่อนเกก็ร่วงไรงี้ แต่อยมาจนปี5กูยังไม่มี”เพื่อน”มหาลัยสักคนที่กูกล้าคุยกับเขาแบบปกติได้เลย ถ้าไม่มีงานก็ไม่คุยกับใคร สาเหตุหนึ่งจะว่าพอเรียนไม่ทันเพื่อนในชั้นไม่กล้าถามไม่กล้าขอให้ใครช่วย ความคิดที่ว่ใครมันจะมาสนคนที่ถ้าไม่ถามมันก็ไม่คิดจะพูดวะมันวนเวียนอยู่ตลอด สมองมันเข้าใจอยู่แล้วใช่ว่าทุกคนจะคิดแบบนั้นนี่ แต่ใจก็กลัวว่าใครจะสนมึง รู้จักกันแค่เพราะอยู่กลุ่มงานเดียวกัน อย่าสำคัญตัวเองเหอะ ความมั่นใจในตัวเองที่ต่ำอยู่แล้วก็ต่ำยิ่งกว่าเดิมอีก
ถ้ากูกล้าพอที่จะคุยกับที่บ้านว่าลาออกแต่เนิ่นๆหรือกล้าจะบอกเขาไปตรงๆว่าว่าตอนนี้กูเป็นยังไงกูก็คงไม่ต้องมาคิดมากแบบนี้ กูไม่อยากให้เขาเสียใจที่เชื่อว่ากูทำได้ เหนื่อยใจกับตัวเองที่แม่งแย่ชิบหาย