ทำยังไงให้เป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายดีคะ
Last posted
Total of 1000 posts
ทำยังไงให้เป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายดีคะ
กูแก้แค้นผญที่มันกวนตีนกูโดนการเอารุปหน้าพวกมันมาตัดใส่รูปดาราเอบรีละชัวว่าวใส่แม่งเลยเอาให้ชุ่มเหนอะหนะ เปนไงละมึงเสือกมากวนตีนกูกลายเปนกระหรี่ถังแชมให้กูช่ำยีซะเตมอิ่มเลย(ถ้ามันสวยนะแต่ถ้าอุบาทกุจะช่างมันขยะเกิน)กูเท่มะ
>>62 ค่อยๆดูว่าเขาคุยอะไรกัน อาจมีหัวข้อที่ตรงกันได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องเข้าได้กับทุกคนเพราะคนเราโตมาไม่เหมือนกัน
อาจจะเริ่มจากเลือกคนที่มีความชอบเหมือนกันดูก่อน แต่การสร้างนิสัยที่ตัวเองอยากเป็นไม่ใช่เรื่องแย่ นิสัยมันสร้างกันได้พอเราชินไปมันก็ตะเป็นไปเองโดยธรรมชาติ
เปลี่ยนคำว่าฝืนทำฝืนฟังมาเป็นเรียนรู้เรื่องที่อีกฝ่ายชอบแทน เรียนรู้ไปก่อนชอบไม่ชอบรู้ไว้ก็ไม่ได้เสียหาย
สู้ๆ
รู้สึกตัวเองเป็นคนกลัวการเริ่มต้นการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น คือเวลามีคาเฟ่หรือร้านอาหารมาเปิดใหม่แล้วคนขายเป็นประเภทชวนคุยเก่ง เราเห็นเวลาลูกค้าคนอื่นไปซื้อก็ชวนลูกค้าคุยรอไรงี้ เรารู้สึกไม่ถูกโรคกับคนแบบนี้อะ แล้วพอเราไปซื้อร้านนั้นครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 คนขายก็จะชวนเราคุยละ เช่น มาบ่อยเลย วันนี้อยากกินอะไร มีเมนูใหม่มาอยากลองไหม คือเราก็คิดในใจละ มาซื้อแค่ 3-4 ครั้งเอง ไม่ต้องมาชวนคุยมาก เราแค่อยากมาซื้อเงียบๆเฉยๆ พอเจอแบบนี้เรารู้สึกคิดมาก เหมือนลำบากใจที่จะไปซื้ออะ คือเราก็ไม่ได้เป็นคนเก็บตัวนะ ก็มีไปเทียว ไปไหนบ้าง แค่ชอบไปคนเดียว มีโรคส่วนตัวสูง สงสัยว่าจะแก้ยังไงดี รู้สึกเดียวนี้ชอบคิดมาก
ไม่เคยแฮปปี้เลยที้ตัวเองยังมีชีวิตอยู่
รู้สึกหมดไฟกับการใช้ชีวิตว่ะ แบบตายไปตอนนี้ก็ไม่เป็นไร
คือกูเป็นคนไม่มีเป้าหมายชีวิต เลยเป็นพวกที่ชอบตั้งเป้าหมายในชีวิตว่า เออตอน 20 ว่าจะตาย งั้นก่อนตาย หาไรทำหน่อยละกัน
แล้วก็เป็นแบบนั้นวนมาเรื่อยๆ จนจะสามสิบแล้วว่ะ
คนรอบตัวก็ว่าจะล่องลอยแบบนี้ไปเรื่อยไม่ได้ แต่กูก็ไม่รู้จะพยายามมากไปกว่านี้เพื่ออะไรว่ะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน ไม่มีอะไรที่ชอบเลย อยู่ก็เป็นภาระบุพการี ตายก็เป็นภาระบุพการี แม่ง คนเราเกิดมาเพื่ออะไรวะ
กูอยากตาย แต่ไม่อยากฆ่าตัวตาย อยากแบบแค่อยู่ดี ๆ ตายแล้วทิ้งปัญหาถ่มถุยไว้กับคนที่อยู่ข้างหลังกู กูเศร้าที่ตัวเองเกิด ในขณะที่โกรธคนที่ทำให้กูเกิด หาหมอหมอบอกกูเป็นไบโพล่า แต่กูว่าไม่น่าใช่ มันไม่สองขั้วในเวลาเดียวนี่ แล้วสรุปกูเป็นเหี้ยไรวะ ใข้ชีวิตอยู่กับการเกลียดทุกคนรอบตัว กับรักตัวเองชิบหายนี่มันมีชื่อภาวะมั้ย กูว่าหมอที่กูไปแม่งพึ่งไม่ได้ จ่ายยามาว้อแดกกว่าเดิมอีก
กรวยเหอะครัชตอกไข่จะมาทอดแทกตอกไป2ฟองปกติเปนเหรี้ยไรฟอง3เสือกเน่าสรุปอดแดกทิ้งให้หมดเปรเหรี้ยยยยยไรรรห้ะะะะกรวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เครียดว่ะ รักษาโรคซึมเศร้ามาจะสองปีละ ก็ดีขึ้นอยู่นะ แต่แม่งก็ชอบมีอารมณ์เครียดง่ายหดหู่หมดอาลัยตายอยากในชีวิตผุดขึ้นมาในหัวเดือนละ 3-4 ครั้ง ทำไมมันไม่หายไปให้หมดๆวะ แม่ง
กุสงสัยคนประเภทนี้เขารู้สึกยังไงวะไม่ชอบแล้วแต่ยังติดตามข่าวแล้วเอามาด่าอีกอ่ะ อารมณ์แบบรอมึงล้มจะเหยียบซ้ำงี้ แต่มันก็ได้แค่ด่าเพราะคนถูกด่าไม่ได้มารับรู้และใช้ชีวิตดีเหมือนเดิม เกลียดแล้วตามด่าไม่เลิกนี่เอาแค่พอสะใจใช่มั้ย ถ้าเกลียดจริงมันต้องไม่อยากรับรู้หรือเห็นในรัศมีสายตาป่ะวะ
เซ็งว่ะ อายุ30แล้วแต่ยังรักษาสันดานขี้อิจฉาของตัวเองไม่ได้ซักที คนที่เก่งแล้วได้ดีไม่เท่าไร แต่คนที่ฝีมือห่วยแต่เสือกได้ดีกูโคตรอิจฉา
ได้ยินเรื่องคนที่เครียดมากๆแล้วทำร้ายตัวเองมาบ่อย
กูเพิ่งมีอาการเป็นครั้งแรก ที่ได้ยินบ่อยๆเป็นกรีดแขนกัน แต่กูมาแปลก รู้สึกอยากเอาหัวโขกกำแพงแทนซะงั้น
ไม่ชอบตัวเองเลยว่ะ คือกูเป็นคนพูดน้อยมากๆ ขนาดคุยกับคนที่สนิทหรือครอบครัวก็ยังรู้สึกว่าตัวเองพูดน้อยเลย ในหัวมันว่างเปล่าอะ ถ้าไม่ใช่ประโยคคำถามก็แทบไม่มีอะไรให้ตอบกลับไป เหมือนรับฟังมาแล้วก็แค่แบบ อืมๆ อ่า อื้ม คือไม่ใช่ว่าเราไม่ใส่ใจนะ แต่มันไม่มีอะไรให้ตอบ ถ้าไม่ใช่คำถามก็ทำได้แค่รับฟังอย่างตั้งใจ ในแชทยิ่งแย่ไปใหญ่ คือกูเปิดคอมมิชชั่นวาดรูป พอมีลูกค้ามาบรีฟงานแล้วเค้าก็น่ารักนะ เฟรนลี่ ชวนกูคุย ก็พยายามที่จะตอบกลับไปบ้างเท่าที่พอนึกออก ถ้าไปไม่ถูกบางทีก็ส่งสติกเกอร์ หรือบางทีก็ทำได้แค่อ่านเฉยๆ จนตอนนี้ดูเหมือนเค้าจะเริ่มอึดอัดนิดๆ แล้ว รู้สึกแย่มาก ไม่ได้อยากจะทำให้เค้ารู้สึกอึดอัดเลย แบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของ introvert รึเปล่า หรือว่ากูเข้าขั้นมีปัญหาในการสื่อสารแล้ววะ
>>84 มึงคือกูหรือเปล่า กูตกใจนึกว่ากูละเมอมาพิมพ์ไว้ แต่รู้แก่ใจแค่มึงออกไปจากหน้าจอออกจากสังคมคอมพิวเตอร์ อารมณ์เหมือนมึงเล่นเกมอยู่คนเดียว คลิ้๊กเข้าไปจอยห้องรวมคนอื่นบ้าง เริ่มจากคุยกับคนไม่รู้จักง่ายสุด
แต่เหมือนโชคชะตาบังคับให้กูไม่มีเพื่อนไม่มีสังคม พอนานวันไปคนก็เริ่มไม่ตอบกู ทำไมไม่มีคนอยากคุยกับกูเลยวะ ทั้งที่กูพยายามเอนจอยแล้วก็เหอะ เหนื่อยใจ
>>84 กูไม่รู้ว่านี่จะช่วยมึงได้หรือเปล่านะ บางทีมึงไม่จำเป็นต้องให้บทสนทนาสุดที่มึงเสมอไปก็ได้ ถ้ามีคนถามอะไร อย่าตอบสั้นๆ จะไม่เกี่ยวกับที่ถามก็ลองพูดๆไปก่อน ตัวอย่าง "กินข้าวยัง" ตอบ "ยังเลย" จบทันที แต่ถ้าเปลี่บนมาเป็น "งานยุ่งมากเลยยังไม่ได้กิน ซื้อก๋วยเตี๋ยวมา ตอนนี้เย็นชืดหมดแล้วมั้ง" มีหลายประเด็นให้คู่สนทนาชวนเราคุยต่อได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานยุ่งช่วงนี้สงสัยมันค้างมาจากช่วงปีใหม่ หรือเรื่องก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นให้หมูน้อยลงเพราะหมูแพงขึ้น
หรือจะตอบกลับด้วยคำถามก็ได้ "ยังไม่ได้กินเลย แล้วนี่กินข้าวหรือยัง" จะไปสู่บทสนทนาถัดไปเรื่องอาหารการกินได้ หวังว่าจะช่วยมึงได้นะ จากคนทำแบบทดสอบบุคลิกเป็น introvert มาหลายปี รอบล่าสุดเพิ่งเป็น extrovert 555555
กุเครียด หลายเรื่องมาก มันเรื้อรังมานาน แต่ล่าสุดกุเริ่มเครียดกับการเห็นข่าวในเน็ต ทุกครั้งที่เห็นอะไรไม่ดี กุจะชอบเครียดเหมือนตัวเองเป็นคนในข่าวที่โดนเอง มันวิตก กังวลไปหมด กุก็พยายามเลิกอ่านอะไรพวกนี้นะ แต่มันก็ยังมีอยู่ เหมือนกุแยกไม่ออกแล้วว่าอะไรคือเรื่องของกุ อะไรไม่ใช่ มันเครียดจริงๆ นะ ทุกอย่างมันอยู่ในหัวเต็มไปหมดเลยอะ
กูอยากตาย ไม่มีพ่อแม่คอยซัพพอร์ต ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษา ไม่มีเหี้ยอะไรเลย
อยากทำงานที่ไม่ต้องใช้ไลน์คุยกันอ่ะ ไม่อยากตอบเลย แพนิคทุกครั้งที่ไลน์งานเด้งกลัวสะสมไปสุขภาพจิตจะแย่
กุเริ่มใกล้ประสาทละ ตกกลางคืนทีไรชอบนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้วมาคิดว่า ถ้าทำแบบนั้น นู้น นี้ ชีวิตมันคงจะดีกว่าที่เป็นอยู่
มึง วันนี้กุเป็นไรไม่รู้ ทำไมคิดแต่เรื่องฆ่าตัวตาย ออกจากหัวไม่ได้เลย ไม่รู้จะบอกใครไม่กล้าโพสลงเฟสบุ้ค
ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งหมดไฟ ที่บ้านกูก็ฐานะไม่ได้ดีมาก จะลาออกก็กลัวสร้างภาระเขาอีก เหนื่อยชิบหายเลยแต่ละวันกูคิดอยากจะตายแบบเงียบ ๆ แต่ถ้าตายกูก็สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวอีก เคยคุยปัญหากับครอบครัวน่ะแต่เขาก็ไม่เข้าใจเราเลย บางทีก็คิดน่ะว่าคนอย่างเราไม่ควรเกิดมารึเปล่า
โม่งสุขภาพจิตว่า งานมันทำให้คน Breakdown จนมีปัญหาสภาพจิตใจได้ไหมวะ เคยมีคนแบบทำร้ายตัวเองเพราะเรื่องงานมั้ย
>>91 มึงกำลังเครียดมาก ถ้าไม่ดีขึ้นในครึ่งเดือน หรือความอยากตายมันรุนแรงมากขึ้น (เช่น เลือกหาวิธีฆ่าตัวตายที่น่าสนใจ ซื้ออุปกรณ์ฆ่าตัวตายมาเตรียมไว้ เขียนจดหมายลาตาย) ก็ไปหาหมอ ขอยาหมอกินนะ เผื่อจะเปลี่ยนใจ
ถ้าโชคดีมึงเจอหมอดี มึงน่าจะได้ใช้ชีวิตสั้นๆของมึงไปอีกซักพัก แต่ถ้าเจอหมอนิสัยเหี้ยหน่อยก็ทนอีกนิดนะเพื่อนโม่ง ชีวิตมึงคงแย่อยู่เดิมแล้ว เจออะไรแย่ๆเพิ่มอีกอย่างมันก็ไม่เปลี่ยนอะไรเท่าไหร่หรอก
บ่นในนี้ได้ ช่วงนี้กูก็เศร้าๆ เลยแวะเว็บโม่งมาระบายบ่อยๆ น่าจะพอเป็นเพื่อนคุยกับมึงได้บางครั้งบางคราว
>>91 มึงเครียดมาก มากเกินไป กูไม่รู้หรอกนะว่าปัญหาที่มึงเจอจะเหี้ยขนาดไหน ลองอยู่กับตัวเองแล้วค่อย ๆ คิดว่าจะแก้ปัญหาง่าย ๆ ได้ไง ถึงเปนความคิดโง่ ๆ แบบช่างแม่งมัน ก้ได้ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้มากกว่าตัวมึงเองหรอก คิดใตร่ตรองดี ๆ มึงหาทางออกได้แน่ ทุกปัญหามันมีเส้นผมบังภูเขาทั้งนั้น
คือเราเกลียดคนที่บ้านมากเลยเป็นศูนย์รวมคนที่ไม่มีเหตุผลและใช้แต่อารมณ์อ่ะ มีอะไรผิดก็โทษเราไปหมดทั้งๆที่คนทําก็คือคนอื่น หรือโดนด่าว่าไม่ทํางานบ้านทั้งที่เราก็ทําตอนทุกคนไม่อยู่บ้าน คนในครอบครัวเป็นพวกหลงตัวเองชอบนินทาชาวบ้าน มองว่าตัวเองคือดีที่สุด ถูกต้องที่สุด อีโก้สูงมากๆ ทั้งพ่อแม่พี่เลย แล้วเราเป็นคนที่ทําตัวตรงกันข้ามหมดเรามองว่าการแสดงอีโก้มันCringeอ่ะ ทําให้การกระทำของเราหลายๆอย่างโดนด่าหมด แต่เราไม่เคยเถียงนะ คือเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ แค่ช่องทางที่ให้เราพูดมันยังไม่มีเลย ต้องมาทนๆฟังๆกับความงี่เง่าทั้งพ่อแม่พี่เลย ตั้งแต่เด็กๆแล้ว
ปี2021ต้องอยู่บ้านตลอดทั้งปีอีก ออกไปข้างนอกก็โดนด่า เราเลยเริ่มมีอาการเหมือนเป็นฮิคิโกโมริ เมื่อก่อนเราก็ไม่เขเาใจหรอกว่าทําไมพวกนี้มันอยู่ห้องสกปรกๆได้ไงวะ แต่พอมาเป็นเองก็เริ่มเข้าใจ เรารู้สึกไม่อย่กมีชีวิตเลย ไม่อยากทําอะไร ตื่นนอนมาเราก็นอนต่อเพราะเครียดไม่อยากคิดมาก ไม่ออกจากห้องเพราะไม่อยากเจอคนในครอบครัว ห้องตัวเองเริ่มรกขึ้นเพราะไม่มีกำลังใจทําอะไรเลย ปกติเรามีกิจกรรมเยอะมากแต่ตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว ได้แต่นั่งเรียน นั่งดูหนังดูเมะยูทูปวนไป
เราไม่อยากเป็นงี้เลย เราไม่อยากไปหาหมอด้วยคือไปรับยามามันก็ไม่ได้อะไร เพราะสิ่งที่จะแก้ปัญหาได้คือการออกจากครอบครัวนี้
จริงๆจะฆ่าตัวตาย คิดว่าจะแขวนคอดู แต่มานึกๆว่าเราก็ยังกลัวตาย เรายังไม่ได้อยากตายจริงๆ เราอยากหลุดออกไปจากที่นี่ เรายังมีหวังอยู่ถ้าในอนาคตหางานที่ไกลๆบ้านได้ ถ้าเกิดไม่ได้เราว่าซักวันเราคงต้องฆ่าตัวตายแหละ ถึงตอนนั้นคงจะกล้าตายขึ้นมาเอง
>>97 สาเหตุที่เครียดเพราะครอบครัวมึงนิสัยไม่เหมือนมึง มึงก็มองว่าครอบครัวมึงมันCringe ส่วนครอบครัวมึงก็มองว่ามึงเป็นเด็กมีปัญหาแปลกแยกอะไรซักอย่าง แล้วครอบครัวแม่งซับซ้อน พอมึงคิดว่าแก้ไขยาก ก็เลยคิดว่าตายน่าจะง่ายกว่า งี้ปะ
อ่านแบบนี้แล้ว ความตายไม่ใช่สิ่งที่มึงต้องการจริงๆ แต่สิ่งที่มึงต้องการมันได้มายาก มึงเลยคิดว่าตายดีกว่า
สิ่งสำคัญคือความความชัดเจนในเป้าหมาย
มึงตั้งเป้าใช้ชัดเจนก่อน ว่าสิ่งที่มึงต้องการคืออะไรกันแน่ อยากแค่ให้ที่บ้านเลิกด่ามึง (อันนี้ง่ายกว่า) หรืออยากให้คนที่บ้านเปลี่ยนนิสัยด้วย (อันนี้ยาก กูเห็นด้วยว่าไม่คุ้มจะลอง เปลี่ยนเป้าหมายเป็นการออกจากบ้านอาจจะเหมาะสมกว่า ยกเว้นว่ามึงมีวิชาสะกดจิตล้างสมองคนในบ้านได้ก็ลุยเลย)
การแก้ปัญหาไปสู่เป้าหมายก็มี2แบบ
1.แก้ปัญหาเฉพาะหน้า: มันไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง แต่ว่ามึงฟังนะ มึงถูกด่าจนเครียดมาก เครียดจนไม่อยากออกจากห้อง ไม่มีแรง จนพฤติกรรมมึงเปลี่ยน ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ กว่าจะออกจากบ้านสำเร็จมึงน่าจะตายสมใจอยาก และมันลดประสิทธิภาพของการแก้ปัญหาที่แท้จริงด้วย ดังนั้นมึงต้องลดความเครียดก่อน
เช่น หาคนรับฟัง, แกล้งทำตัวเป็นเด็กดีเอาใจคนในบ้านไปก่อน, หาหมอกินยา, ฯลฯ
2.แก้ปัญหาที่แท้จริง: คือการที่มึงไม่ต้องทนทรมานกับนิสัยคนบ้านมึง
เช่น หาโรงเรียนประจำ หาทุนไปเรียนต่างประเทศ พิสูจน์ตัวเองว่ามึงเก่งจนลำบากใจจะด่า หางานทำแล้วย้ายออก ฝึกวิชาล้างสมองมนุษย์ ฯลฯ, จริงๆการฆ่าตัวตายก็เป็นทางเลือกนึง แต่กุว่ามึงน่าลองก่อนวิธีอื่นก่อนนะ
>>98 แก้ปัญหาเฉพาะหน้านี่แทบทําไม่ได้เลยหว่ะ กูเป็นผู้ฟังที่ดี?มั้ง คนอื่นๆเลยชอบคุยกับกูแต่กูไม่เคยมีโอกาสเป็นผู้พูดเลย เพื่อนสนิทกูก็ไม่เคยปรึกษาอะไรได้ เลยมาระบายในโม่งเนี่ยแหละก็ขอบคุณที่มึงมารับฟังแล้วช่วยเขียนวิธีการแก้ปัญหาอะไรให้นะ คือกูว่ากูพยายามเป็นเด็กดีสุดๆแล้วนะ เรียนดียังโดนที่บ้านด่าว่าวันๆเอาแต่เรียน ไม่ออกมาทํางานบ้าน ซึ่งหารู้ไม่ว่าพอกูว่างตอนกลางวันที่คนในบ้านกูไม่อยู่กูก็ลงมากวาดบ้านล้างจานตลอด คือห้องกูปล่อยรกแต่ส่วนรวมกูก็ทําสะอาดนะ แต่คือมันเป็นการด่าที่ไม่มีเหตุผลอย่างที่กูบ่นไป คือยัดความผิดให้กูเพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์เฉยๆหรือเป็นซาดิสม์ก็ไม่รู้เหมือนกัน แบบคิดสภาพในบ้านอยู่ๆมีของหายกูก็จะโดนเรียกมาด่าคนแรก คือเป็นแบบนี้ตลอดเพราะกูเป็นคนเล็กที่สุดในบ้านด้วยมั้ง เลยต้องมารองรับอารมณ์ผู้ใหญ่ กูไม่เข้าใจว่าเขาเกลียดกูเหรอ เพราะกูเป็นพวกเก็บตัวไม่มีสังคมแบบมึงเลยเกลียดขี้หน้าเหรอวะ แต่กูเป็นตัวก็เพราะพวกมึงเนี่ยแหละ อะไรๆกูก็ผิดจนกูไม่มีความมั่นใจในตัวเองแล้ว
คือกูก็อยู่ปี 4 แล้วหล่ะ คือเดี๋ยวเทอมนี้ก็จะกลับไปหอ แต่กูเครียดกังวลเรื่องหางานเนี่ยแหละ กูอยากรับได้งานเร็วๆจะได้หนีๆไป แต่คือโอกาสหางานช่วงนี้มันยากด้วยกูเลยเครียดสัสๆ คือกูอยู่บ้านกูไม่สามารถทําอะไรproductiveได้เลย กูกลัวว่าถ้าช่วงหางานต้องมาอยู่บ้านกูจะบ้าจนหางานการไม่ได้แน่ๆ แต่มันก็ต้องหาทางกันต่อไป กูยื่นทุนเรียนโทต่ออยู่ด้วย ก็ขอให้มันได้เถอะ เพราะสายที่กูเรียนรุ่นพี่10%เพิ่งได้งาน ถ้ามืดแปดด้านจริงๆกูว่าถึงจุดนั้นกูคงกล้าไปตายเอง ก็ปล่อยไปตามสภาพจิตแล้วว่าจะทนได้แค่ไหน
วันนี้ต้องมาระบายในนี้แบบทนไม่ไหวจริงๆ โดนด่าลั่นบ้านเพราะตู้เย็นของเต็มแล้วหาว่ากูไม่จัดตู้เย็น แต่ของในตู้เย็นเป็นของคนในครอบครัวทั้งนั้นซึ่งเอามายัดๆเอง ด่าแรงว่าเลวชาติชั่วเป็นเหี้ยไรมากก็ไม่รู้ กูเดินหนีออกจากบ้านไปยังด่ากูอยู่เลย คือแม่งไม่ได้ขึ้นเสียงเพราะกูเถียงนะ กูไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลยแม่งเป็นเครื่องจักรการด่าแล้วอ่ะ แล้วยังโดนสมาชิกครอบครัวที่เหลือมายําซํ้าอีกว่าแม่งมึงไม่น่าทําแบบนี้เลยมึงเลยโดนด่าไง อ่าหะ เมื่อก่อนเคยจัดตู้เย็นแล้วทิ้งของที่มันบูดก็โดนด่าว่าไม่รู้จักคุณค่าของของ คือจะให้กูทําไงได้นะ เผาตู้เย็นเลยดีมั้ย นี่ก็จดๆที่มันทํากับกูไว้เผื่อวันตายจะได้เอามาเขียนในจดหมายลาตาย
คือตอนที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัวนี้กูเปลี่ยนเป็นคนละคนจริงๆ มีความสุขร่าเริงมากกว่า เป็นอิสระมากกว่า แล้วเรียนทํางานอะไรมันดีขึ้นมากๆด้วยพอมาอยู่สภาพแวดล้อมดีๆ กูเตรียมจะกลับหอแล้วก็หวังว่าตัวกูคนนั้นจะกลับมา แล้วเป็นคนอย่างนั้นไปตลอดนานๆนะ
บางทีก็ต้องช่างแม่งกะหูทวนลมมั่งว่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ
เอาตรงๆ ตอนนี้เป็นการฟังและมองข้างเดียวจากฝั่งมึง
ซึ่งถ้ามันจริงทั้งหมด กูว่ามึงควรต้องออกจากที่นั่น
และวางแผนไว้ได้เลย ว่าจะทำไง
ปล. ห้องมึงในส่วนของมึง ทำๆ ให้มันไม่รกมากก็ดี เอาเวลาที่ทำบ้านนั่นแหละ 555 กูแค่สงสัยว่าทำไมฟังดูงานบ้านอยู่กะมึงหมด
กูชอบhallucinatingว่าตัวเองทรงเซอร์หล่อวๆแบบเด็กช่างหว่ะ แต่จริงๆน่าจะทรงตัดอ้อยหรือทรงโจรมากกว่า เห้อ
แม่กูเป็นโรคซึมเศร้า ละคิดมากกับทุกอย่าง ย่ำคิดย้ำทำ ชอบพูดเรื่องเดิมๆซ้ำๆ แล้วช่วงนี้มีปัญหาการเงินก็มาบ่นกับกู กูก็ให้คำแนะนำไปเค้าก็ไม่ยอมทำ กูเลยนั้งฟังเค้าพูดระบายเฉยๆ แต่กลายเป็นว่าแม่งมาพูดกับกูทุกอาทิตย์ในเรื่องเดิมๆ พูดเหมือนเดิมเป๊ะ จยกูเครียด แล้วรู้สึกแย่ กูเลยปลีกตัวออกห่าง ไม่พูด ไม่เจอหน้าแม่กูเลย รู้สึกผิดมากๆว่ะ เพราะที่เค้าห่วงเรื่องเงินก็เพราะต้องการเงินมาดูแลกูด้วย แต่กูก็ทนฟังไม่ไหว สุขภาพจิตกูมันแย่ที่ต้องมาฟังเรื่องแบบเดิมทุกวันๆๆ ละพอกูแนะนำวิธีการก็ไม่ยอมทำ แล้วจะให้กูทำยังไง
>>104 >>104 กูแนะนำว่าให้มึงแกล้งฟังๆไป มึงน่าจะเคยทำจนเบื่อแล้วแหละ แต่มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดตามหลักแล้ว เพราะพวกขี้กังวล ย้ำคิดย้ำทำ ขี้บ่น ส่วนใหญ่คือหาคนฟังกับคนเห็นด้วยแค่นั้นแหละ
แกล้งฟังไป แต่จริงๆฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จะได้ไม่เหนื่อยมาก แต่ต้องแอดติ้งเหมือนตั้งใจฟัง พูด อืออาอ๋อ พยักหน้าหงึกๆ ครับๆ ใช่ๆ ส่งเสียงเหมือนเห็นด้วยไปเรื่อยๆให้ตรงจังหวะ ถามคำถามสั้นๆกลับ (แล้วเป็นยังไงต่อ? แล้วทำยังไงดี?) หรือไม่ก็พูดตามแม่มึงเลย ทำบ่อยๆก็จะเนียนขึ้น และเคยชินขึ้น ถ้ายิ่งแม่มึงพูดแต่เรื่องเดิมๆก็ยิ่งง่ายเพราะตามน้ำง่ายขึ้น, สิ่งสำคัญคือมึงไม่ควรออกความเห็นอะไรเลย เพราะแม่มึงก็คงไม่ฟังอยู่ดี แล้วมึงจะยิ่งเหนื่อยง่ายด้วย
แต่มึงก็ทำถูกแล้วที่หลีกหนีออกมาตอนเหนื่อย บางทีไม่ไหวก็คือไม่ไหว ก็มาพักก่อน แต่ถ้ายิ่งปล่อยไว้ไม่ดูแลก็กลัวจะสร้างปัญหาอย่างอื่นขึ้นมาแทน ก็ปรับๆให้สมดุลเอาเนอะ
เริ่มรู้สึกตัวว่าเป็นซึมเศร้า แต่พอไปถามราคาที่จะต้องพบจิตแพทย์แล้วก็คิดหนัก
เพราะค่อนข้างแพง มีใครมียาอะไรแนะนำไหม คือต้องพบแพทย์ถึงจะวางยาได้ แต่กูไม่มีเงินช่วงนี้จริงๆ ถามคนที่เป็นหน่อยว่าพอใช้ยาอะไรแล้วดีบ้าง
เป็นซึมเศร้ามา 3 ปี กูอยากตายมาก อยากตายทุกวัน วันนี้กูว่าจะผูกคอตาย แต่หาโอกาสไม่ได้ กับไม่กล้าด้วย แค่จะตายยังไม่กล้า กูมันอ่อนแอ
อยากติ่งอะไรซักอย่างแบบสมัยเด็กติ่งไอดอลเกาหลี รู้สึกชีวิตมันสนุกมาก ได้มีความสุข ได้ตื่นเต้น ได้มีโมเมนต์ที่แบบยิ้มแบบหุบยิ้มไม่ได้ แต่พอโตมา (วัยทำงาน) ก็เบื่อและเลิกติ่งไปเอง จนตอนนี้เหมือนไม่อินกับอะไรเลย ดูซีรีส์ที่ชอบ ดูไอดอลเกาหลีญี่ปุ่น มันก็หยุดตรงแค่คำว่าชอบแค่นั้น มันไม่สามารถพาอารมณ์ไปถึงคำว่าติ่งได้แล้วอะ ทำให้ชีวิตมันเฉาๆ ยังไงไม่รู้ รู้สึกไม่มี passion ในชีวิตเลย...
เขานัดกันฆ่าตัวตายช่องทางไหนกันอะ
เหนื่อยโว้ยย
TT…..
เหนื่อยวะ เหนื่อยจนอยากปลีกวิเวก ไม่อยากทืำอะไรเลย
กูไม่อยากทำงานเลย passionเดียวที่มีคืออยากฟาร์มตัง จุดหมายกูคืออนาคตสามารถอยู่ชิวๆเรื่อยเปื่อยใช้เงินไปวันๆโดยไม่ต้องทำงาน แม่งหนทางอีกยาวไกลมาก
>>121 ชีวิตกูมีเหี้ยอะไรดีมั่งเนี่ย
ตอนเด็กก็มีแม่ที่แม่งเหมือนเป็นวิตกจริต พ่อที่เฉยไม่สนใจกู บ้านก็กลางๆค่อนไปทางจน กลัวไปหมดทุกอย่าง ไม่ยอมให้กูคบเพื่อน ไม่ให้กูไปไหน จะทำอะไรจะไปไหนต้องโทรบอกตลอด passion กูตอนนั้นคือกูต้องหนีไปจากที่นี่เลยพยายามเรียนหนักจนสอบติดมหาลัยในกรุงเทพได้ถึงหัวกูจะไม่ได้มาทางวายวิดวะเลยก็เหอะ(กูติดเกมต้องการเงินด้วยเลยเลือกอาชีพที่หาเงินง่ายหน่อย) แต่กูแม่งก็ไม่รู้ว่ากูถนัดอะไรเหมือนกันเลยต้องไถไปเลยตามเลย แม่งเกือบจะตามมาอยู่หอกับกูแล้ว กูหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม กว่าจะยอมปล่อยกูออกมาจากบ้านบ้าๆนั้น
ตอนเรียนมหาลัย ผลจากที่ตอนเด็กๆกูโดนเลี้ยงมาแบบไม่ให้เข้าสังคม ทำให้กูเลือกเข้ากลุ่มผิด กูดันไปอยู่ในกลุ่มคนรวย คือแม่งใช้ชีวิตรวยๆกันอ่ะ กูก็ไปใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้ไง สรุปกูเป็นเบ้ประจำกลุ่มจนกูเรียนจบน่ะแหละ มีดีแค่อีกลุ่มนี้มันมีคนฉลาดระดับเหรียญเงินเหรียญทองอยู่เลยช่วยเข็นกูที่แม่งไม่มีหัวทางวิดวะจนจบมาได้เกรดกลางๆ ส่วนตอนนี้กูน่าจะโดนดีดออกจากกลุ่มแล้ว น่าจะไปตั้งกลุ่มไลน์กันใหม่ที่ไม่มีกูเอาไว้คุยกันแค่พวกรวยๆแล้วมั้ง
ตอนทำงาน ก็ทำๆไป แต่ด้วยกูก็ไม่ได้มีหัวทางนี้จริงๆ ก็เริ่มตามรุ่นเดียวกันไม่ทัน พอ 30 กว่าคนอื่นเค้าเป้นซีเนียร์กันหมดแล้วเงินเดือนไม่แสนก็ใกล้แสนกันหมดแล้ว กูยังต๊อกต๋อยอยู่เลยเงินเดือนก็แค่ 50-60k พอเจอโควิดกูโดนออกจากงานกว่าจะได้งานก็ปีกว่าผลาญเงินเก็บหมด แถมได้งานก็เหมือนรู้ว่ากูไม่มีทางเลือกก็กดเงินกูซะเหลือ 40k นิดหน่อยสัส จ่ายค่านู่นค่านี่ เลี้ยงลูกกูก็แทบจะไม่มีกินแล้ว ทำได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ
ระหว่างทำงานกูก็มีแฟนแต่งงาน กูกล้าพูดเลยว่าสมัยแฟนกูกับกูคบกันคือช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต แต่พอแต่งเท่านั้นแหละเหมือนที่ผ่านๆมาแม่งไม่ใช่ตัวจริงว่ะ เหมือนเป็นช่วงโปรโมชั่น ที่ทำเป็นทำกับข้าวให้กูห่อไปกิน ช่วยกันทำงานบ้าน นานๆไปเที่ยวกันทีช่วยกันเก็บตัง มีเซ็กซ์กัน นอนดูหนังด้วยกันจนหลับอยู่ในอ้อมแขนกู แม่งแค่ภาพปลอมๆที่สร้างขึ้นมา พอแต่งแล้วมันกลับจากหน้ามือเป็นหลังตีน เมียกูมันแทบจะไม่แตะครัวเลย ซื้อกินตลอด เสื้อผ้าส่งรีดหมด เซ็กซ์ก็เลื่อนห่างออกไปเรื่อยๆเพราะจริงๆแม่งไม่อยากมีเหลือเดือนละครั้งเพื่อมีลูก พอมีลูกก็ไม่มีเลย(เหี้ยมาก) แยกห้องนอนให้กูไปนอนโซฟาเพราะกูกรนมันนอนไม่หลับ(เมื่อก่อนกูก็กรนเสือกนอนหลับ) ผลาญเงินกูแทบไม่เหลือกับการเที่ยวแทบจะเดือนเว้นเดือน
นี่แหละชีวิตกูอ่ะสัส มีเรื่องอะไรดีๆมั่งวะสัส เออมีมั่งแหละแต่สั้นเหี้ยๆ
ตอนนี้ชีวิตกูเหลือแค่เอาเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปลงทุนใน blockchain อยู่ตอนนี้ก็ได้เงินมาท่วมทุนแล้วแหละ แต่กำลังเก็บเหรียญอยู่ตัวนึงใน blockchain ที่ตามข่าวใกล้จะดีดเต็มที่แล้ว ขอให้มันดีดเหอะ ชีวิตนี้ให้กูมีความสุขบ้าง ให้กูได้ลาออกจากงานบ้าๆ ให้กูได้นั่งเล่นเกมทั้งวัน ก่อนที่กูจะเป็นบ้าไปซะก่อน T_T
ทั้งบ้านกูมีแต่ยาพอนสแตน กูเลยแดกไปแล้ว 7 เม็ด ไม่รู้จะตายจริงไหม หรือจะทรมานไหม เอาจริงๆกูกลัวนะ ตอนนี้กูกลัวมาก แต่การมีชีวิตอยู่แม่งน่ากลัวกว่า พวกมึงช่วยอยู่เป็นเพื่อนกูได้ไหม
พอนสแตนแค่ 7 เม็ดไม่ตายหรอก ถ้าท้องไม่ว่างก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ตับมึงพังไปส่วนนึงแค่นั้น
กูอยากตายชิบหาย อีเปรต อีกวย อีเหี้ย อีหต้าหี แใ่งงงงงง
ไอ้โม่งที่แดกยาไป 7 เม็ดเป็นไงบ้างแล้ว
อยากใจกล้าๆกว่านี้จังว่ะ
หาหมอมาหลายปีหมอยังง้างปากกูให้พูดไม่ได้เลย นัดสองสามเดือนครั้ง สั่งยา เพิ่มขนาด จบ หรือนักจิตวิทยาจะตอบโจทย์มากกว่า
มึง กูอยากได้วิธีคลายเครียดอ่ะ ช่วงนี้รู้สึกเครียดจนผากจะย่นแล้วแงง
ออกกำลังกาย ช่วยคลายเครียดได้นะเวลาเหนื่อยๆ
อีเหี้ยกูอยากตายยยย
กูโสดมาประมาณสามปี ไม่เคยเกิดความรู้สึกสนใจใครอีกเลยว่ะ มองใครรู้จักใครก็ไม่รู้สึกชอบ ไม่เงี่ยน ไม่อะไรทั้งนั้น กุตายด้านหรือกูแค่แก่เนี่ย (28)
กูเป็นคนที่ชอบสงสัยอะไรแปลกๆ หาคำตอบเกี่ยวกับอะไรแปลกๆ ซึ่งบางทีมันไร้สาระบ้างก็ใช่แหละ (อารมณ์แบบพวกน้ำกะทิราดข้าวเหนียวหรือราดมะม่วง ไม่ก็ สายฉีดตูดฉีดจากข้างหน้าข้างหลังอะไรทำนองนี้) ปกติกูก็จะคุยกับเพื่อนเป็นท็อปปิกฮาๆ แต่ว่าวันนี้กูคุยกับพ่อ กูโดนด่าหนักมากว่ากูเป็นคนที่ไร้สาระปัญญาอ่อน เอ้า กูก็ไม่ได้จะหาสาระอะไรอยู่แล้วไหมอ่ะ หรือเขารำคาญกู เอาจริงๆก็ไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระแบบนี้อ่ะ เรื่องทั่วไปกูก็โดน เรื่องจริงจังกูก็โดน แต่วันนี้เป็นเรื่องไร้สาระพอดีเลยสบโอกาสได้ด่าแรงหน่อย เหมือนการมีอยู่ของกูมันน่าหงุดหงิดเกะกะสายตาเขามาก กูก็น้อยใจเป็นนะ เซ็งว่ะ
>>155 ใช่เลยมึง คืองี้ กูรู้สึกเหมือนเขาไม่ค่อยชอบขี้หน้ากูอ่ะ เวลากูพูดอะไรจริงจังเช่นแผนในอนาคตเขาก็ต้องขัดคอ แล้วก็หาเรื่องบ่นกูให้ได้ จับผิดข้อด้อยกูเอามาพูดให้ได้ พอกูตัดพ้อเหมือนที่ 156 บอก เขาก็จะแบบว่าที่พูดเนี่ยเพราะหวังดี แตะไม่ได้เลยใช่ไหม เมื่อวานกูเลยหาท็อปปิกไร้สาระที่กูชอบมาพูดแทน แต่สุดท้ายก็โดนอยู่ดี
>>153 >>154 >>156 ขอบคุณในความคิดเห็นนะเพื่อนโม่ง
ใครที่หายซึมเศร้า วิตกกังวลนี่หายกันยังไง มาแชร์ได้ปะ
ซึมเศร้ามันเป็นโรคติดต่อป่าววะ แฟนกูหายซึมเศร้าแล้ว แต่ความ Toxic ที่กูเจอระหว่างพาไปรักษามาตลอด ทำให้กูเป็นซึมเศร้าแทน
>>161 มึงควรคุยกับหมอ การจะกินหรือไม่กินยาไม่ควรเป็นสิทธิของมึงคนเดียว มึงควรให้หมอเจ้าของไข้ได้ร่วมพิจารณา ถ้าอาการมึงหนักควรกินยาก็ไม่ควรดื้อ แต่ถ้าไม่หนักมึงก็ลองขอหมอไม่กินยาดู กูเองคิดว่ามันควรยืดหยุ่นได้เรื่องกิน/ไม่กินยากรณีผู้ป่วยไม่มีความเสี่ยงถึงแก่ชีวิต
>>161 ไม่กินยาก็ได้ จากใจคนที่เคยเป็นนะ
ไอ้พวกที่บอกว่าซึมเศร้าเป็นแค่เรื่องสารเคมีในสมอง กินยาไปปรับสมดุลละก็จะหาย แม่งไม่รู้เรื่อง
ยาเป็นตัวช่วยออกสตาร์ทที่ดีมากในการพลิกฟื้นชีวิต แต่ถ้าชีวิตมึงเฮงซวย มึงยังไม่เข้าใจชีวิตมึง มึงก็ไม่หายซึมเศร้าหรอก ถ้ามึงไม่อยากกินยามึงก็ต้องรับประเด็นนี้ให้ได้ รับผิดชอบดึงตัวเองขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลุย ไม่ต้องแดกยา
ไม่ค่อยโอเวลานัดหมอ แล้วเจอนักศึกษาแพทย์มา observe ด้วย คือเข้าห้องปุ๊บหมอไม่มีการพูดเกริ่นขอว่าวันนี้จะมีนศพ.มานั่งฟังด้วยนะ ให้กูเล่าเรื่องกูเลย คือกูไม่ได้อาย แต่อยากให้หมอแจ้งหรือขออนุญาตเราก่อน ถ้าเป็นต่างประเทศเค้าจะแคร์มากกว่านี้ปะวะ
>>167 มึงไม่โอมึงบอกเลย คือเคสปัญหาแบบนี้มึงขอความเป็นส่วนตัวได้ มึงอาจจะบอกหมอเค้าว่าครั้งนี้มึงไม่สะดวกใจ ไม่ได้เตรียมใจมา ครั้งหน้าขอให้แจ้งมึงก่อนเข้ามาในห้องให้มึงทำใจก่อน
หมอที่ดีเค้าจะไม่ว่าอะไรมึงเลย เพราะคนไข้แบบที่เปิดใจ/ไม่เปิดใจคือนอร์มอลที่เค้าต้องเจออยู่แล้ว มึงไม่ได้เรื่องมาก
>>167 ปกติอาจารย์หมอเข้าต้องขออนุญาติมึงก่อนนะ แล้วจริงๆมึงสามารถปฏิเสธไม่ให้มีคนอื่นมาร่วมฟังได้ แต่กูบอกไว้ก่อนเลยว่าส่วนใหญ่เข้าจะตื้อขอให้มึงร่วมมือ แต่อาจจะต่อรอง เช่น ขอแค่เฉพาะผู้หญิงได้ไหม ขอแค่1คนได้ไหม เป็นต้น
แต่กูยืนยันให้ได้ ว่าถ้ามึงต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ และปฏิเสธอย่างหนักแน่น กูมั่นใจว่าหมอจะยอมรับและทำตามความต้องการของมึงแน่นอน
เบื่อความสัมพันธ์วะ เบื่อที่ต้องมานั่งกังวลว่าคนนั้นคนนี้เกลียดเราหรือเปล่าระแวงว่าจะมีคนนินทาไหม อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวที่คบกับคนอื่นเพื่อหวังผลประโยชน์วะจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียด หมดประโยชน์เมื่อไหร่ก็แค่ทิ้ง
คิดถึงแพรกิ ไปเยใครอยู่ ปวดใจจัง
เราเครียดว่ะ เราเข้าสังคมแย่มาก เราคุยไม่เก่ง เราไม่รู้ว่าควรพูด หรือ ควรทำอะไรยังไง เรามีเพื่อนน้อยมาก ตอนนี้เราอยู่มหาลัย เราไม่กังวลการอยู่คนเดียวเท่าไหร่ เรามีความสุขดี แค่เราเครียดเรื่องในอนาคต การทำงาน แม่เราชอบบอกว่า ไม่ต้องเก่งมาก แต่ต้องเข้ากับคนให้ได้ แล้วเราทั้งไม่เก่ง ทั้งเข้ากับคนไม่ได้อ่ะ T^T ทำไมเราต้องเป็นคนแบบนี้ด้วยว่ะ
ใครเป็นวิสัญญีบ้าง ช่วยมาฉีดยาสลบให้กูตายที
เหนื่อยจังเลยเพื่อนโม่ง สิ่งที่อยากทำก็ติดปัญหาด้านเงิน สิ่งที่ทำอยู่ก็ไม่ใช่สุดๆ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบไม่อยู่กับความเป็นจริง เหมือนมีชีวิตไปวันๆรอวันตาย ทุกวันต้องต่อสู้กับความอยากตายของตัวเอง หาความสุขชั่วคราวมาใส่เผื่อมันจะดีขึ้นแต่มันก็ชั่วคราว พอมันจบกุก็ยังรู้สึกห่วยแตกอยู่ดี ทำไม แค่มีเงินอีกนิดหน่อยกุคงได้ทำตามฝันแล้วแท้ๆ
ชีวิตที่คนอื่นมองมาแล้วคิดว่าดูดีตอนนี้มันไม่ใช่สิ่งที่กุต้องการเลยสักนิดมันทำกุเครียด เกลียดตัวเอง ฮือ กุเกลียดตัวเอง กุพยายามไม่มากพอรึเปล่า ทำไม ทำไมกุถึงทำได้แค่นี้ คนภายนอกมองว่ากุเก่งแต่กุมันห่วยแตกที่สุดเลย ทำตามฝันที่ตัวเองต้องการก็ไม่ได้ ไปไม่เคยถึงเป้าหมายเลย ที่บ้านไม่ได้ซัพพอร์ตกุ สิ่งที่กุควรทำคือไปให้ถึงด้วยตัวเองแต่กุก็ทำไม่ได้ กุมันทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย ไม่สำเร็จสักอย่าง แล้วก็มาเศร้าเสียใจที่ไม่ลงมือกุแม่ง ฮือๆๆๆ กุพยายามไม่มากพอ กุไม่อยากพยายามแล้ว
เบื่ออาการซึมเศร้าเต็มทีละ แต่เงินก็ไม่ค่อยมี กูว่าจะไปหาหมอที่สมเด็จเจ้าพระยา ที่นี่มันแพงปะ
เป็น Social Anxiety Disorder อ่อนๆอ่ะ ทําไงดีโม่ง กรณีกูควรไปพบแพทย์มั้ยอ่ะ
มีอาการกลัวแพนิคเวลาคุยกับคน มีความรู้สึกผสมๆทั้งรำคาญคนและกลัวคนด้วยกัน รู้สึกเหนื่อยเวลาเข้าหาคน ก็คือไม่ได้เป็นหนักขนาดที่มีอาการหนัามืด ตัวสั่น ปวดท้องอ่ะ แต่กูก็เกร็งๆทุกครั้งที่คุยกับคนอื่น
คือแบบแต่กูไม่ได้อยากคิดกับคนอื่นแบบนี้เลย หลายครั้งกูเลยแก้ปัญหาโดยไม่พูดมากหรือการเมินคนอื่นไปเลย แต่มันก็ทําให้คนคิดว่ากูหยิ่ง กูอีโก้ กูบ้าอ่ะ ทั้งๆที่จริงๆกูไม่ได้อยากจะคิดร้ายกับใคร ความมั่นใจในตัวเองก็น้อยชิบหายเลยเป็นงี้
นี่ยังไม่ได้ทํางานแต่ใกล้จะจบแล้ว กูกลัวว่าจะหางานเข้ากับสังคมใหม่ๆได้ยาก คือกูก็ฝืนเป็นได้แหละคนเฟรนลี่อ่ะแต่มันตอแหลไงแล้วมันจะจบไม่สวยหรอกแล้วกูควรจะทําไงให้ปกติ หรืออันนี้สมองกูผิดปกติป่าววะ ควรไปกินยาพบแพทย์มั้ยนะ
ใครเป็นโรค Maladaptive Daydreaming บ้าง โดดเดี่ยวไหมกับความปกติที่ไม่ปกติ โรคที่เหมือนไม่ใช่โรค
กูเผลอให้เพื่อนยืมตังไปจำนวนนึง(ค่อนข้างเยอะ) กูควรจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีวะ
พวกมึงรู้ได้ไงว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคเรียกร้องความสนใจ อันนี้กูไม่ได้ประชดหรือหาตีนมันมีคนประเภทนี้จริงๆคืออยากให้คนอื่นสนใจตัวเอง กับเป็นซึมเศร้าจริงๆ
>>184 พวกมโนไปเองไปต้องให้ค่าเลย จิตแพทย์โอนลี่เท่านั้นที่ให้คำตอบได้ ไม่มีภาพถุงยาพร้อมชื่อแปะคือสตอเบอแหลทั้งนั้น กูนี่เคยเข้าใจว่าตัวเองเครียดเลยมีอาการ overeating แค่นั้น เป็นมาหลายปี สุดท้ายมีโอกาสได้ไปตรวจ หมอว่านี่ไม่ใช่เพราะเครียดนะ จบที่ซึมเศร้า เหอๆ ไม่นึกว่าจะเป็นได้เลย ฉะนั้นเรื่องแบบนี้กูเกิ้ลให้คำตอบไม่ได้ แค่พอไกด์ให้เข้าใจอาการบ้างเท่านั้นเอง
หนักกว่าเรียกร้องความสนใจคือพวกเหี้ยที่ชอบเอาโรคมาเป็นข้ออ้างนี่แหละ ฮิตชิบหายทำผิดเหี้ยไรอ้างแต่ซึมเศร้าคนเป็นจริงเลยพลอยโดนหางเลขจากสังคมไปด้วย ถ้าโรคมันด่าได้มันด่าไปแล้ว
กูจะบอกอะไรให้ มึงไดแอกเองได้นะอันที่จริงแล้ว ไปหาไกด์ไลน์การไดแอกซึมเศร้ามาอ่าน มันมีพับลิชให้หมอโหลดไปใช้น่ะแหละ โรคเหี้ยนี่มันไม่ได้ต้องเทสสมองเจาะเลือดไปตรวจอะไร มันก็ไดแอกจากอาการนี่แหละ
หาเพื่อนซักคนมาช่วยดูไม่ให้มึงไบแอสละก็ไล่ตามลิสไป
>>184 รู้สึกชีวิตไร้ค่า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรนานติดต่อกันหลายเดือน หนักเข้าก็เริ่มอยากตาย คิดหาวิธีตายหลายๆแบบกูถึงเรียกว่าซึมเศร้า เป็นแล้วไม่ค่อยอยากให้ใครรู้หรือมาช่วยหรอก แต่ก็หลุดออกมาด้วยตัวเองได้ยากถ้าจะปรึกษาก็ต้องคนที่เชื่อใจจริงๆเท่านั้น ส่วนคนอื่นไม่รู้เป็นแบบนี้ไหมนะ
ซึมเศร้าไม่ใช่โรค แต่เป็นเพราะมึงมันจิตใจอ่อนแอต่างหาก
การบัญญัติว่าอะไรที่มันกำกวมๆเป็นโรคหรือไม่เป็นโรคทางการแพทย์
หลักๆขึ้นอยู่กับว่าบริษัทยายัดเงินหมอมากพอรึเปล่า ถ้ายัดมากพอหมอก็แอพพรูฟให้เป็นโรคได้ แบบไอ้ซึมเศร้านี่แหละ
อนาคตพอความรู้พื้นฐานไปไกลกว่านี้ก็อาจจะโดนถอดจากการเป็นโรคก็ได้ เหมือนแต่ก่อนมีโรคเกย์ โรคฮิสทีเรียอะไรงี้ที่ปัจจุบันก็ไม่ยอมรับกันแล้ว
>>194 แล้วเข้าทางพวกมนุษย์อ่อนหัดด้วยไง เอะอะๆก็เป็นซึมเศร้า อย่าพูดคำนั้น ไม่อยากได้ยินคำนี้ ต้องไม่ทิ้งกันไปไหนแต่อยู่ใกล้ไปก็ uncomfort พอเอาแต่ใจมากๆก็จะลงมือทำเรื่องไร้สาระลงไปจนมันมีคนอื่นเดือดร้อน ก็มาตีบทเศร้า กำถุงวิตามินซีหลอกเด็ก โพสท์ทวิตอุนเทอ เราไม่หวายแน้ว ลาก่อย แง
>>197 องค์การโลกไรวะ ช็อคเก้อป่าว 555
ถ้ามึงจะเอา who มาอ้างอิงในการเถียงว่าเป็น fact ที่คัดง้างไม่ได้ แปลว่ามึงไม่ได้เข้าใจวิทยาศาสตร์ และหนำซ้ำไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์การแพทย์ด้วย
ลองกระตุกต่อมความคิดด้วยการอ่านฟูโกต์พูดถึงจิตเวชดูก็ได้นะเพิ่ล จะได้ไม่ฝังหัวว่าวงการแพทย์พูดอะไรมึงต้องเชื่อไปซะหมด
เอาไว้ถ้าหมอไดแอกโรคที่บอกว่าเกิดจาก"สารเคมีในสมองแปรปรวน" ด้วยการตรวจสารเคมีในสมองที่ว่าน่ะ กูถึงจะเชื่อ
แต่ถ้ามาไดแอกด้วยการถามๆเอาว่าชีวิตมึงเฮงซวยมั๊ย ถ้าเฮงซวยเอายาอารมณ์ดีกูไปแดกนะ
คนสติดีๆที่ไหนจะอยากเชื่อวะ
>>201 เฮ้อ ต้องให้กูสอนบวกเลขด้วยมั๊ยนิ
คือมึงจะมาเถียงว่าโรคซึมเศร้ามีจริง แต่มึงแปะบทความที่พูดถึงโรคซึมเศร้าว่ามีลักษณะยังไง รักษายังไง
มันถูกโลจิคตรงไหนวะ มึงลองกลับไปอ่านบทความมึงเองตรงไหนที่ใช้พิสูจน์ได้บ้างว่ามันสมควรจะเป็นโรคทางการแพทย์จริงๆ ทั้งสาเหตุก็ไม่รู้แน่ชัด อาการก็คลุมเครือ อาการไม่หนักให้หมอชี้แนะแนวทางใช้ชีวิตให้ก็หาย แถมมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับจิตเภทอีก หรือมึงจะบอกว่าแค่หมอบอกว่ามันมี มึงก็เชื่อว่ามันมี? กูก็อุตส่าห์ยกตัวอย่างโรคเกย์ให้มึงแล้วว่านิยามของการเป็นโรคทางการแพทย์แม่งก็ผิดได้ เปลี่ยนได้
มึงรีพลายๆมาเนี่ย ไม่เห็นมีโลจิคมีสาระอะไรเลย มีแต่มาขำๆเย้ยๆ เหมือนเข้าใจว่าตัวเองฉลาดแต่จริงๆไม่รู้อะไรเลยง่ะ ถ้าจะเฟียซก็ทำพื้นฐานให้มันแน่นก่อนดิ ไม่งั้นมันเขินนะ
>>203 จับแพะชนแกะสัสๆ
ถ้ามึงพูดถึงฟูโกต์ กูแค่ยกมาเพราะเขาวิจารณ์ให้เห็นว่ามันมีปัจจัยภายนอกเยอะแยะที่มาส่งผลต่การแพทย์ทั้งการเมืองวัฒนธรรมนู่นนี่นั่น ซึ่งหมายความว่ากูเชื่อฟูโกต์มั๊ย? ไม่ใช่ แม่งพูดถึงเรื่องซึมเศร้ารึเปล่ากุยังไม่รู้เลย
กูเสนอว่ามันยังมีวิธีคิดอีกแบบที่ไม่ใช่เชื่อตามหมอไปซะหมด
กูเชื่อในหลักฐานเขิงประจักษ์ มีข้อมูลอะไรที่เอามาทำให้มันดิ้นไม่หลุดบ้างว่าโรคซึมเศร้าของมึงเนี่ย มันเป็นความผิดปกติของร่างกาย ที่ต้องเอาสารเคมีที่ผลิตโดยบริษัททุนเข้าไปช่วยปรับสารเคมีในสมองมึง มึงถึงจะกลับเป็นปกติ ก็ไม่มีไงไอสัส หมอยังบอกเลยว่าไม่รู้ว่ามันเกิดได้ยังไง น่าจะประมาณนี้ๆๆมั๊ง แต่เสือกรณรงค์กันใหญ่โตว่าเศร้าต้องหาหมอแดกยา
แล้วมึงควรจะรู้ว่าหมอปัจจุบัน overdiagnosis มากๆ ไม่ใช่แค่ซึมเศร้า ลามไปยันโรคทางระบบอย่างความดันสูงหรือแม้แต่เหงือกอักเสบ บางอย่างมันไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการกินยา แต่เพราะการแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก ไกด์ไลน์การรักษาที่"ส่วนกลาง"ทำออกแจกจ่ายให้หมอไปใช้รักษามันเลยไม่โปร่งใสไง หมอแม่งก็เป็นคนเหมือนกูมึง มันก็ทำตามรูทีน ตำราบอกให้ทำอะไรมันก็ทำไปอย่างนั้น ยกตัวอย่าง ในเรื่องเบสิกสัสๆเลย ในยุคนึงหมอสอนกันนักหนาเรื่องสามเหลี่ยมโภชนาการว่าควรจะกินสิ่งนั้นสิ่งนี้เท่านั้นเท่านี้ทั้งๆที่ข้อมูลจริงๆก็มีตั้งแต่สมัยนั้นแล้วว่ามันถูกต้องเลย ทุกวันนี้โภชนาการที่หมอแนะนำก็เปลี่ยนไปมาก มีทั้งคีโต ไอเอฟ ห่าเหวอะไรกันผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
เพราะฉะนั้นกูเชื่อในหลักฐานกับการตัดสินใจของตัวเอง ถ้ามีหลักฐานที่ดี กูก็พร้อมจะเปลี่ยนความคิด แต่มึงไม่มี แล้วก็พยายามจะเบี่ยงประเด็นมาย้อนถามกู แต่กูใจดีเลยตอบมึงให้ อิอิ
เชื่อคนอื่นเพราะเขาเรียนสูง หัวจะปวด
ยกตัวอย่างให้เอกสตรีมขึ้น หมอไทย อาจารย์แพทย์เป็นส ลิ่มเยอะสัสๆ
แปลว่าอะไร แปลว่าการตัดสินใจ การใช้ตรรกะเหตุผลพวกแม่งก็ไม่ได้ปราศจากไบแอส ไม่ได้เลิศเลอกว่าคนอาชีพอื่นเลย
ถ้าเคยอ่านtextแพทย์ ตำราแพทย์ไม่ได้สอนให้คิด มันสอนให้ทำตาม ซึ่งหมอส่วนมากก็ไม่ได้สรรหาจะไปดูที่มาที่ไปของข้อมูลนั้นหรอก ท่องจำแค่ตรงหน้าก็เหนื่อยสมองพวกมันแล้ว
ดังนั้นหน้าที่คิดตัดสินใจกับร่างกายกับชีวิตตัวมึงเองก็ต้องคิดเอง เข้าใจยังไอสัส
จะปล่อยให้หมอทำอะไรกับร่างกายมึงก็ได้โดยมึงจะไม่ฉุกใจคิดซักนิดเลยเหรอ?
ทีนี้ก็ไปคิดดูว่าทำไมมึงถึงเชื่อว่าโรคซึมเศร้ามีจริง ถ้ามึงจะเชื่ออยู่ก็ไม่ได้ผิดอะไร มันก็อาจจะจริงก็ได้ ปัจจุบันไม่มีconcensus แต่หวังว่าจะเลิกอวดฉลาดว่าเชื่อหมอ(หมอเอหมอบีหมออ้อยไหนก็ไม่รู้แหละ ขึ้นชื่อว่าหมอก็เชื่อแระ)ถูกต้องที่สุด
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK361016/ กูไปหานั่งอ่านมา สรุปก็ไม่มี pathophysio ชัดเลย แต่ก็มีงานวิจัยบอกว่าการแดกยาช่วยได้นะ
>>204 เออ ถ้ามึงไม่แยกเรื่องรสนิยมทางการเมืองกับทักษะทางวิชาชีพกูก็ว่ามึงไม่ไหวนะ การตรวจรักษามันมีขั้นตอน ไม่ได้ใช้แค่เป็นขนมหวาน ตรรกะป่วย แล้วจะเป็นหมอไม่ได้
กูไม่ได้พูดสักคำว่ากูเชื่อหมอชิบหายแบบนั้น กูแค่ถาม ว่าระหว่างคนที่เค้าเรียนมากับใครไม่รู้ที่พูดเรื่องเดียวกันทำไมมึงไม่เชื่อคนที่เรียนมา ตรงนี้ถ้ามึงแย้งว่ามึงไม่ได้พูดถึงการรักษา/วินิจฉัยโรค มึงหมายถึงให้คิดต่าง อันนี้ก็ผ่านไปเพราะตอนอ่านถึงฟูโกต์กูเข้าใจว่ามึงฟังเค้าพูดเรื่องจิตเภชแล้วเชื่อทางนู้น
ส่วนเรื่องคิดต่างกับเรื่องให้ตัดสินใจกับร่างกายกูโนคอมเม้นท์ กูเชื่อว่าจะคิดต่างได้ตัดสินใจได้ต้องมีความรู้ก่อน ตอนกูป่วย (ทางกาย) กูไม่โอเคกับผลวินิจฉัยกูหาความรู้ได้ กูขอตรวจเพิ่มได้ แต่ถ้ากูป่วย (ทางจิต) กูจะยังมีสติคิดไหมนี่กูไม่รู้
เพราะงั้นเรื่องซึมเศร้าอันที่จริงกูก็โนคอมเม้นท์อีก กูเคยเจอดีเพรสที่น่ากัวสัด ๆ และดีเพรสหาแสง แต่จะให้กูคิดว่าซึมเศร้าเป็นความเชื่อ ต้องมีวิธีการตรวจที่เป็นโกลด์สแตนดาร์ดถึงจะเชื่อว่ามีโรคนี้จิงอันนี้กูว่าเกินไป โรคบางโรคไม่มีวินิจฉัยโกลด์สแตนดาร์ด มีแค่วิธีมาตรฐานที่ก็เพียงพอใช้ในการประเมินการรักษา
ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองไม่ปกติ อย่างน้อยหาหมอมันต้องดีกว่ามานั่งมโนเอาเองว่ะ ยังไงกูก็ยังจะบอกให้หาหมอและรังยามาแดกถ้ามันมีแนวโน้มอันตรายถึงชีวิต
>>208 ขึ้นต้นมามึงก็อ่านที่กูตอบไม่แตกซะละ แต่ไม่เป็นไรข้ามไป มึงลองดูที่ >>207 แปะลิงค์มาก็ได้
ถ้ามึงเข้าไปอ่าน มึงจะเห็นว่ายาซึมเศร้าเป็นตัวช่วยในการหายจากอาการซึมเศร้าได้จริง แต่ว่าการรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมตัวเองก็ได้ผลว่ะ แล้วถ้าไปค้นการวิจัยเพิ่ม ในไทม์เฟรมที่นานขึ้น ผลของยากันเศร้าก็ยิ่งน้อยลงไปอีกอย่างมีนัยสำคัญ และในงานวิจัยนี้ก็ยังบอกว่าปัจจุบันพวกหมอนี่แหละ ที่จ่ายยากันเศร้าเกินความจำเป็นไปมาก เคสที่ไม่จำเป็นก็ยังจ่าย ถ้ามึงคิดว่านี่ยังไม่สำคัญกับชีวิตมึงลองดูผลที่เกิดจากทศวรรษที่ผ่านมาที่พวกหมอชอบจ่ายแอนตี้ไบโอติกเกินขนาด ทุกวันนี้มนุษย์ทั้งโลกแทบจะสู้เชื้อใหม่ๆไม่ได้แล้ว มีเหี้ยไรมาก็ติดเชื้อหมดและต้องใช้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆ วงการหมอมันไม่ใส่ใจบอกเรื่องนี้กับมึงหรอก และถ้ามึงจะรอความรู้ทางการแพทย์นิ่งก่อนค่อยตัดสินใจเอง ก็นู่นอะอีกสิบปียี่สิบปี ซึ่งก็จะมีคนที่ซัฟเฟ่อจากผลข้างเคียงของยากันเศร้าที่จ่ายเกินความจำเป็นไปอีกไม่รู้กี่ล้านคน
พูดถึงผลข้างเคียงขิงยากันเศร้า มันแย่มากๆ ซึ่งบริษัทยาก็พยายามปกปิด จนคนไข้ที่ใช้ไปแล้วโดนผลกระทบหนักๆมาฟ้องถึงค่อยอ้อมแอ้มใส่ข้อควรระวังเพิ่มมาทีละข้อ จำนวนมากที่แดกแล้วอัตราฆ่าตัวตายสูงกว่าเดิม บางรายเซ็กเสื่อมไปตลอดชีวิต ที่สำคัญการแดกยาที่เข้าไปยุ่งกับสมองมึงเป็นปีๆ ต่อให้มึงจะหายเศร้าเร็วขึ้น แต่มันจะเปลี่ยนสมองมึงไปตลอดกาล และไม่ใช่ในทางที่ดีด้วย ซึ่งหมอหรือบริษัทยาไม่มาแคร์มึงหรอกนะ มึงเองนั่นแหละที่ผ่านมรสุมซึมเศร้ามาแล้วแต่ต้องแบกวิบากกรรมใหม่นี้ไปตลอดชีวิต
ฝากถึงไอ้พวกคิดว่าตัวเองซึมเศร้าที่ผ่านมาอ่าน พวกมึงพยายามอย่างเต็มที่แล้วรึยังในการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง ถ้ายัง ไปลองซะก่อน ยอมรับว่าที่มึงเศร้าน่ะเกิดจากชีวิตที่เฮงซวย ไม่ว่าจะเฮงซวยจากคนอื่นหรือจากตัวมึงเองก็ตาม ไม่ใช่โทษว่าเกิดจากความโชคร้ายที่เป็นโรคและจะหาทางลัดด้วยการใช้ยา หาที่ปรึกษาดีๆ จะผู้ใหญ่ดีๆที่มึงนับถือ นักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์ก็ได้ แก้ปัญชีวิตไปทีละเปลาะ ออกกำลังกาย นอนให้เต็มอิ่ม แดกให้เฮลตี้ ยากันเศร้าไม่ได้ทำให้มึงหาย ยาแค่ช่วยให้มึงแก้ปัญหาชีวิตง่ายขึ้นเร็วขึ้น แต่ต้องแลกด้วยสมองมึงเองนะ
อย่าแดกยาจนกว่ามันจะอับจนหนทางจริงๆ
>>209 มึง ๆ คือกูหนับหนุนใช้ยากรณีจำเป็น กูเขียนไว้แล้วไงงงงงงง
เรื่องดื้อยาปฏิชีวนะกูรู้วววว ผลข้างเคียงยาแต่ละตัวกูก็อ่านเองเวลากูต้องใช้ แต่มึง กูแนะนำใข้ยา ถ้ า มั น จ ำ เ ป็ น ไงงงงง
กูไม่อยากให้มัวรอปรับตัวปรับใจก่อน คือบางคนมันอาจจะทำเองไม่ได้จิง ๆ งี้ ว้อยยย
กูเบื่อความรู้ต่ำของคนส่วนใหญ่ตั้งแต่ ยาลดอักเสบ = ยาปฏิชีวนะแล้ว สัด ใกล้เคียงกันชิบหายอ่ะ
แดกยาเถอะโม่ง กูเคยเป็น แดกแล้วมันดีขึ้นจริงๆ
คนที่เคยเป็น anxiety disorder แล้วหาย ความจำจะดีขึ้นมั้ยวะ ทุกวันนี้กูความจำสั้นมาก สมาธิสั้นด้วย
กูเคยลองแดกยาแล้วมันเหมือนความสุขปลอมเลยว่ะ กูเลยเลิกแดก
กูเลิกแดกเพราะแดกแล้วอารมณ์เงี่ยนมันหาย
กุว่ากุเริ่มมีอาการทางจิตว่ะ ไม่รู้ว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันทำให้กูขาดความมั่นใจในการทำงานจนจะ suffer ไปเลยอ่ะ
แบบกุมักรู้สึกส่าตัวเองกระจอกอ่ะ ทำพลาดนิดเดียวแต่รู้สึกเหมือนกุทำโลกระเบิด โทษตัวเองซ้ำๆ พอตามใครไม่ทันหรือต้องออกมาพูดไร มวนท้อง มือสั่น ใจสั่นไปหมด แล้วก็จะเริ่มรู้สึกแย่กับตัวเองเรื่อยๆ เหมือนว่ากุมันกระจอก ไร้ความสามารถไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ คิดลบๆว่าคนอื่นต้องด่ากุในใจ หัวหน้าต้องไม่ให้กุผ่านโปน ทุกคนต้องมองว่ากุแย่ จนกุกลัวไม่กล้าถาม ไม่กล้าแสดงออกอะไรเลย พูดอะไรติดขัดเพราะไม่มั่นใจ ทำยังไงดี กูเหนื่อยมากเลยที่ความคิดมันเฆี่ยนตีกุแบบนี้
>>214 แล้วความสุขจริงๆคืออะไร มนุษย์มันไม่มีหรอก ก็แค่ตอนสมองหลั่งเอนโดฟินเท่านั้นแหละ ไอความสุขจริงๆมันมีที่ไหน พอไต่ขึ้นมาคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการก็มาได้ก็ไม่มีความสุขอยู่ดี พี้ยาดีกว่าชาวเรา อุดมคติเป็นแค่ภาพลวงตา ในโลกนี้มนุษย์เราอุบัติสมมุติความหมายกันเองทั้งสิ้น ของจริงมันก็แค่การหลั่งสารในสมอง การมีชีวิตเพื่อให้มีความสุขอย่างเดียวมันไม่มีหรอก หรือไอแนวคิดอะนไหนสุขจรองสุขปลอมมันก็ไม่มีหรอก
>>218 ก็แย่ละ นี่คือแนวคิดNihilismหว่ะ โลกนี้มันไม่มีความหมายใช่มั้ย มึงก็สรรสร้างขึ้นมาเองสิวะ ความหมายของการมีชีวิตของมึงเองอ่ะ
สําหรับกูคิดว่าไม่ต้องไล่ตามหาความสุข เพราะสําหรับกูชีวิตมันเกิดมาเพื่อเจ็บปวดอยู่แล้ว ถ้ามึงไม่เจ็บเลยคือมึงผิดปกติอ่ะสัส //ไม่ได้บอกว่าต้องคิดตาม จะคิดไรก็เรื่องมึง แต่ถ้าไม่แดกยามึงก็ไม่หาย สุขจิรงสุขปลอมแม่งลวงตาทั้งสองอย่างจะไปคิดให้ปวดจิตทําไม กินยาเถอะ แค่นั้นแหละ
>>219
มึงกำลังสับสนความสุขกับความหมายของชีวิตรึเปล่า มันคนละอย่างกันว่ะ
โลกนี้อาจจะไม่มีความหมายอะไรเลยจริงๆก็ได้ แต่แล้วยังไงอะ
คนเราต่อให้ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไร้ความหมายก็ยังมีความสุขได้
บางคนขอแค่ไม่ทุกข์ไม่เจ็บปวดก็สุขแล้ว ก็ยังได้
ถ้าพูดถึงสุขจริงสุขปลอม มันมีจริงรึเปล่ากุไม่รู้
แต่มันมีความสุขที่มีความหมาย กับความสุขที่ไม่มีความหมายอยู่
ถ้ามึงจะเชื่อว่าความสุขเป็นแค่สารเคมีในสมอง ความเจ็บปวดที่มึงเชื่อมันก็สารเคมีในสมองเหมือนกันอะ ต่างกันตรงไหน
แล้วที่สำคัญถ้ามึงจะเชื่อ nihilism ว่าโลกนี้ไม่มีความหมาย แต่แนะนำให้คนสร้างความหมายขึ้นเอง แม่งก็ขัดแย้งในตัวเองอยู่ละปะ มึงเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงจะสร้างความหมายให้ตัวเองได้ยิ่งใหญ่กว่าความหมายของโลก จริงกว่าความหมายของโลก ถ้ามันไม่มีอยู่จริง
มีกระบวนคิดที่เป็นทางแก้ของ nihilism สองทางคือ
1. เลิกเชื่อ nihilsm
2. nihilism แล้วไง ฉันก็มีความสุขได้นี่
ไปเลือกกันเอาเอง แล้วแต่ศรัทธา ไม่มีผิดมีถูก
ส่วนตัวกูเชื่อว่าการขบคิดว่าชีวิตคืออะไร เกิดมาเพื่ออะไรเป็นคำถามที่ไร้สาระและสร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตมากกว่าเดิม โดยเฉพาะกับพวกที่มีปัญหาทางจิต
ปัญหาของอารมณ์และความคิดแก้ได้ด้วยอารมณ์และความคิด
ถ้าซัฟเฟ่อ คิดเองไม่ได้ แก้เองไม่ได้ ก็แสวงหาผู้รู้ครูบาอาจารย์ช่วยก่อน
เอะอะแนะนำให้แดกยาอีกละ น่าเบื่อ
>>220 ไม่กูไม่สับสนกูยกตัวอย่างเรื่องนิฮิลลิสมันไม่เชื่อเรื่องเป้สหมานในชีวิต แล้วเข้าเอามาดูเรื่องความสุขก็เช่นกันหรือจะความทุกข์ก็ตามที่มึงว่ามันไม่ได้มัความหมายตายตัว ขอบคุณครับ ตอนนี้กูก็สบายดีครับจากที่กูคิดแบบกู มึงเองก็มีชุดความคิดอะไรเชื่อเห้อะไรที่มึงพิมมายาวเหยียดอ่ะบูลชิทพอกัน ไบแอสดีครับ เพราะมึงมองโลกในอีกมุม ส่วนกูก็มองในอีกมุม มันมีตัวกำหนดด้วยเหรอว่าอันไหนคือสัจจะธรรม ถูกแท้100%
แบบว่าถ้ามีคนมีความสุขกับการเชื่อในศาสนาอันหนึ่ง จะมาตั้งกฎเลิกให้เชื่อ 1/2 แบบนี้มั้ยอ่ะครับ
กูก็เหมือนกันครับ ชีวิตตอนนี้กูสบายดีจากการไม่คิดมากเหมือนเมื่อก่อนแล้วดิ่ง อยากให้ชีวิตดีมีความสุขเหมือนคนอื่น แต่ไม่พยายามเข้าใจเลยว่าทุกคนมันไม่ได้มีความสุขตลอดเวลา ต่างคนก็มีมุมที่มีความทุกข์ด้วย นั่นคือปกติของชีวิตมนุษย์ ดังนั้นกูจะไปหวังสุขแท้เหี้ยไร //และเหมือนเดิมกุไม่ได้บอกให้คิดตามงี้ซะหน่อย
https://youtu.be/EZEfN5z8Mlg
กูน่าจะไปทริกเกอร์ไอนี่เรื่องแดกยาแน่ ถถถถ ก็ตามใจคร้าบ
ไม่ยอมแดกยาหมอก็ลองดูดม้าดูครับ เหล่า’พวกที่มีปัญหาทางจิต‘ทั้งหลาย 😱😩
>>221 ยาก็เรื่องนึง กุเป็นผีเฝ้าโซเชียลคอยด่าทุกคนที่เอะอะแนะนำแดกยา 5555
คือกูรู้ว่ามึงไม่ได้บังคับให้กุเชื่อตามมึง กุก็ไม่ได้บังคับให้มึงเชื่อตามกู ไม่ต้องย้ำก็ได้
ไม่มีชาวเน็ตไหนสติดีๆจะมาเชื่อคำพูดไร้แก่นสารของโม่งอย่างเราๆอยู่แล้วงับ
กุเถียงเล่นเพราะเห็นคนเอ๋อปรัชญาแพร่มเลยหมั่นไส้เฉยๆงับ
เอาจริงๆกูไม่ได้ให้มึงหรือให้ใครแดกยานะ คืออันนั้นกูบอกว่าหมายถึงตัวกูเองกูว่ากูแดกยาเนี่ยถึงดีดได้มาถึงวันนี้ครับท่านผู้เจริญ แล้วยํ้าไว้ด้วยแล้วว่าไม่ต้องคิดตามแบบกู
>>209 กูเห็นด้วยกับความเห็นมึงในฐานะที่เป็นคนแดกยามาเกือบสองปี กูรู้สึกว่ายาช่วยให้กูนอนง่ายขึ้นเฉยๆ เพราะถ้าไม่แดกเลย นอนยากสัสๆ ช่วงระหว่างสองปีที่แดกยา ถ้ามีเรื่องดีๆในชีวิตก็มีความสุขปกติ แต่พอชีวิตกลับมาเหี้ย ก็เศร้าเหมือนเดิม วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือพยายามแก้ไขความชิบหายของชีวิตตัวเอง สิ่งที่กูทำควบคู่ไปด้วยคือออกกำลังกายแล้วพยายามหาความรู้เข้าสมอง ถ้าไม่ลงมือทำอะไรเลยแดกยาจนตาย ชีวิตก็เหี้ยเหมือนเดิมอยู่ดี และ เพื่อพวกมึงสงสัย กูแดกยา anti-depression(remeron) จริง หมอจ่ายยาให้ ไม่ใช่ยานอนหลับ
กระสุนที่ได้วาดไป เปรียบความยุติธรรมไหม
ยิ่งยิงมากเท่าไร ก็เหมือน ยิ่งเป็นเช่นวีรชน
หลับตาคู่นั้นมืดลง เอื้อมมือไปสัมผัสไว้
ยังปีศาจที่มี ซึ่งกายา และความร้อนเหมือนเช่นคนทั่วไป
ถ้าฉันนั้นช่างแสนเลว ส่วนเขาน่ะดีกว่าไหม ?
ตรงนั้นมีแค่กำแพงสูง ที่ล้อมเอาไว้มากมาย
อย่ารวดร้าวร่ำน้ำตา ชะตาที่เราได้เกิดมา
ก็เพราะว่าเรานั้นมี ซึ่งเสรีพร้อมบินสู่ฟ้า
หากพวกเราได้มีปีก ดั่งนกในท้องนภา
แห่งหนใดทั่วโลกา เราจะโผไป
แต่ถ้าไม่เหลือซึ่งทาง แห่งไหนให้เราหวนกลับมา
ก็ไม่อาจจะไปที่ไหน
ทว่า ฉันนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่เช่นนั้น
แม้ว่าโลกาโหดร้ายมากเพียงใด
ฉันนั้นยังคงมอบความรักให้เธอเรื่อยไป
ขอเพียงคุ้มครองปกป้องเธอด้วยใจ
แม้ต้องมลายต้องสูญเสียมากมายเท่าไร
และถ้าเรื่องเหล่านี้จะผิดพลาดไป
ฉันก็คงไม่แคลงใจไม่เสียดาย
ก็เพราะว่าความจริงแท้ ถูกต้องคือเชื่อมั่นใน
สิ่งที่เราทำลงไปจนสุดหัวใจ
ฉากที่เต็มด้วยฝนเหล็ก หล่นลงมาไม่ขาดสาย
ดั่งดูภาพยนตร์ ในทีวี ไม่คิดว่าเจอด้วยตา
อันสงครามก็แค่เพียง ความทารุณที่ขลาดเขลา
มันเป็นซึ่งเรื่องราว ของทั้งสอง เมืองที่ไม่เคยแม้ข้องเกี่ยว
ฉันก็ไม่รู้เลย เหตุใดจึงเกลียดพวกเขา
เหตุผลที่พวกเรา ไม่สามารถ จะปิดซ่อนความมืดในใจ
ยากเกินอธิบาย ความขัดแย้งที่มากหลาย
ก็ไม่รู้ว่าทำไม จึงมีเพียงแค่รอยร้าว
ความหมายของคำได้เคย ถูกแปลออกไปเนิ่นนาน
กระนั้นไม่มีผู้ใดเข้าใจอย่างแท้จริง
สิ่งที่เชื่อมั่นเรื่อยมา ก็คือเมื่อยามที่เบิกตา
อันโลกาของเธอผู้นี้
ทว่า ฉันน่ะ ไม่อยากมีชีวิตอยู่เช่นนั้น
แม้ว่าโลกาโหดร้ายมากเพียงใด
ฉันนั้นยังคงมอบความรักให้เธอเรื่อยไป
ขอเพียงคุ้มครองปกป้องเธอด้วยใจ
แม้ต้องมลายต้องสูญเสียมากสักเท่าไร
ภาพเงาของผู้ใดที่ฉันเลือกไป
ร่างกายอันมลายที่โยนทิ้งไกล
ตัวฉันนั้นจึงได้รู้ สิ่งที่โตขึ้นในใจ
นั่นก็คือลูกแห่งปีศาจฝังข้างใน
ภายใต้ความยุติธรรม ที่ต้องสูญเสียมากมาย
นั่นเพราะมีปีศาจร้ายภายในหัวใจ
สับสนทางเพศตอนอายุ 30 ว่ะ
จริงๆกู(ช)อยากเป็นผู้หญิงมานานละล่ะ แต่มันไม่ได้เป็นความรู้สึกที่รุนแรงจนต้องอยากแสดงออก แค่แบบลึกๆจะชอบจินตนาการอยู่ตลอดเลยว่ามันคงจะดีถ้ากูมีรูปร่างแบบผู้หญิง ถ้ากูได้เป็นบทบาทผู้หญิงในความสัมพันธ์ อะไรเงี้ย แต่ชีวิตก็เหนื่อยกับการเรียนการทำงานใช้หนี้ครอบครัว รู้ตัวอีกทีก็แก่ละ พอตอนนี้ปลดภาระไปหล่ยๆอย่างก็กลับมาเริ่มคิดมากขึ้นว่าอยากสวยซักที
ที่แย่คือร่างกายมันเป็นชายแก่หยาบกร้านละว่ะ 555 แดกฮอโมนยังไงมันไม่น่าจะสามารถจะสวยละมุนได้แล้ว เศร้าใจ
>>230 จับมือเลยเพื่อน กูเป็นเหมือนมึงเลย กู 30 กลางๆ ละ
เอาจริงกูไม่แคร์สายตาคนอื่นหรอกถ้ากูจะแต่งหญิงแล้วอุบาทว์ ใครจะนินทายังไงไม่แคร์เลย
แต่กูแคร์สายตาตัวเอง รับตัวเองไม่ได้จริงๆ ถ้าแต่งหญิงแล้วอุบาทว์ ตอนนี้เลยได้แค่เก็บไว้ในใจ
วันๆ นั่งส่องเว็บขายเสื้อผ้าสวยๆ จินตนาการไปเรื่อยเปื่อย
ปล. ส่วนตัวกูถึงอยากเป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้แปลว่ากูชอบผู้ชาย กูแค่อยากสวย ใส่เสื้อผ้าสวยๆ น่ารักๆ และมีแฟนสวยๆ น่ารักๆ เช่นกัน
>>231 เกทฟีลๆ กูไม่สามารถก้าวผ่านภาพจำฝังหัวได้ว่ะว่าชายต้องแบบนี้ หญิงต้องแบบนี้
ถ้ากูต้องเป็นอะไรที่ครึ่งๆกลางๆ แถมรู้ตัวดีว่ายังไงก็คงไม่สามารถจะดูเป็นผู้หญิงได้ กูก็คงไม่แฮปปี้กับตัวเองเท่าไหร่อะ
ทั้งนี้กูไม่ได้เหยียดตุ๊ดไฮบริดนะ แบบพวกพาวเว่อพัฟเกย์ไรเงี้ย กูชื่นชมด้วยซ้ำที่เขากล้าจะไปในทางที่เขาเลือก รักตัวเองโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น
>>230 >>231 กว่ามันยังไม่แก่โว้ยสหาย https://youtu.be/XsSS_7Xyz5s
แต่งหน้าให้เป็นก่อน พวกอปป้าเกาหลีหน้าหวานแม่งก็ธรรมดาถ้าไม่แต่งหน้า
แพ้คำว่าอปป้า พอเจอคนพูดว่าอปป้า ต้องโยงให้เป็นติ่งเกาหมด กุว่าแม่งเอ๋อแล้ว
แหม ดิ้นใหญ่เลย ถึงกับต้องเม้นติดๆ กัน
เป็นติ่งเกาก็ยอมรับตรงๆ เถอะ การหลอกตัวเองมันไม่ดีนะ
บ่นเหี้ยไรปัญญาอ่อนอ่ะพวกมึง ดิ้นทั้ง2คนแหละ
เลิกทะเลาะกันเรื่องอปป้าแล้วไปแดกยาซะ
อย่าทะเาะกันเลนน้าTTTTTTTTTT
กู(ฆ่าตัว)ตายแล้วรอดมา4รอบอ่ะ แล้วมันมีเสียงในหัวกู แบบหนังmoon knightมั้ง เป็นมาเกือบ10ปีได้แล้ว มันดูเบียวๆป่ะ แต่กูพูดจริงนะ ไปหาหมอเขาจะจับกูเข้าโรงพยาบาลบ้ารึเปล่า
กูแม่งรำคาญตัวเองมากชอบเปราะบางกับคำพูดคนที่ทำงานว่ะ บางทีกูทำงานพลาดนินหน่อยเสียฃซุบซิบตามสายลอยมาละ แล้วกูก็มานั่งคิดมากนั่งเครียดแม้กูจะยังหัวเราะก็ตาม กูลองระบายให้ที่บ้านฟังก็เหมือนว่าเรื่องกุมันไรสาระเรื่องเล็กๆน้อยๆ หลายครั้งที่กุฆ่าตัวตาย ยังไม่สำเร็จซักมีกูเหนื่อย
ยิ่งพ่อแม่ทำดีด้วยด้วย กูดีใจเขาดีกับกูแต่ลึกๆแล้วกูรู้สึกสิ้นหวังกับตัวเองกว่าเดิม กูรู้สึกผิดที่กูไม่สามารถทำตามเป้าที่เขาคาดหวังได้อะ กูมันคนจืดๆตัวประกอบเรียนกลางๆในสังคม ไม่ทำให้ที่บ้านเดือดร้อนแต่ก็ไม่มีอะไรให้ภูมิใจ ญาติๆก็คิดว่ากูเก่ง กูไม่ได้เก่งเว้ย คนที่เก่งอะคือกูตอนเด็กๆ ตอนนี้กูไม่ใช่เด็กเก่งคนนั้นแล้ว
คิดเรื่องพ่อแม่แก่แล้วโหวงทุกที
เรื่องที่ไม่น่าคิดก่อนนอนจริงๆ
>>257 กูมากอดมึงแน่น ๆ ตอนนี้กูก็เป็นแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ไม่บอกกูคงนึกว่าตัวเองมาเขียน กูโคตรอยากกลับไปเป็นไอ้เด็กเก่งคนนั้นชิบหายเลย
แต่กูอยากให้มึงรักตัวเองในตอนนี้มาก ๆ นะ ถึงมันจะไม่ได้ดีเท้าตัวเราในวัยเด็กแต่เราก็ย้อนเวลาไปทำอะไรไม่ได้อยู่ดี แต่บางทีถ้าวันไหนมึงมีแรงฮึบขึ้นมา มึงอาจจะได้เจออะไรที่ทำให้ตัวมึงในตอนนี้อยากเป็นตัวมึงเวอร์ชั่นปรับปรุงก็ได้ แต่ไม่ต้องรีบหรอก
ตอนนี้กูก็ยังไม่มี แต่กูก็หวังว่าสักวันกูจะมีได้ เป็นกำลังใจให้นะ ถึงจะไม่รู้จักแต่อยู่ข้างๆมึงนะเพื่อนโม่ง(จริงๆกุเป็นกำแพงข้างหลังมึงเอง เชื่อดิ)
มีใครมีรพ.จิตแนะนำแถวเกษตรบางเขนมั้ยหรือแถวบีเส้นนั้นก็ได้ จะเป็นคลินิกก็ได้ กูไม่ชอบรอคิวนานน่ะ
อาจจะเหี้ยไปหน่อยที่กูไม่ได้พิมพ์ทีเดียว กูเพิ่งนึกและไตร่ตรองได้
กูรู้สึกอารมณ์กูเปลี่ยนไวมาก กูนั่งร้องไห้อยู่สามชั่วโมงแต่บทจะอารมณ์ดีคือดีเลย ช่างแม่งเรื่องที่คิด เจอคลิปตลกกูก็ขำเลย ไอ้เหี้ย กูไม่เข้าใจตัวเองเหี้ย ๆ เลย บางทีทะเลาะกับแฟน แฟนยังเครียดอยู่แต่กูแม่งหายเครียดแล้ว หายไม่พอ กูลืมความรู้สึก ความคิดตอนเครียดไปด้วย พอโดนถามกูก็ตอบไม่ได้เพราะกุลืมไปแล้ว
กูไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย แล้วคนรอบตัวกูเหมือนไม่มีใครเข้าใจกู เขาว่าการกระทำการตัดสินใจบางอย่างกูมันแปลก แต่ในสมองกูก็คิดมาแล้วว่ามันคงเป็นแบบนี้ แบบนี้ ทำแบบนี้ไปน่าจะดี แต่สุดท้ายกูก็โดนว่า คำที่กูโดนบ่อยที่สุดคือคำว่าโง่กับเอ๋อ สายตาที่มองมาก็รู้สึกว่าเป็นสายตาที่สงสารปนสมเพช
กูไม่ชอบเลย แล้วกูก็ปากหมาด้วย โง่มากูเถียงกลับทั้งๆที่ใจกูพังชิบหาย ใครแม่งจะอยากโง่บ้างวะ สมองกูมันคิดได้แค่นี้อ่ะ55555555 กูพูดเลยนะว่าเมื่อก่อนกูไม่ได้เป็นแบบนี้ กูเป็นหัวหน้าโปรเจค เป็นคนตัดสินใจอะไรสำคัญๆ แต่ตอนนนี้กูทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย โคตรขยะ
กูควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เวลากูเครียดมากๆ กูชอบหยิกมือตัวเอง เมื่อก่อนกูแอบไปทำตอนไม่มีใครเห็น แต่ตอนนี้กูเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ กูไม่ได้สนเลยว่าตรงนั้นมีใครมั้ย พอกูทำไป กูรู้ว่าคงไม่มีใครรู้สึกดี แต่กูได้ยินว่าเขาคนอื่นเขามองว่าเรื่องแค่นั้นทำไมต้องเครียดขนาดนั้นด้วย กูแบบ โห ไอ้เหี้ย555555555555555555 น้ำตากูแตก กูไม่เคยหวังให้เพื่อนเข้าใจเลยนะ แต่กูเจอแบบนี้ไปกูก็ไม่ไหว
หรือจริงๆกูไม่ได้เป็นโรค กูแค่แปลก? กูไม่มั่นใจอะไรสักอย่างเลย
แค่เนี่ย แปลก?
ดูคลิปตลก ถ้ามันตลก ก็ขำได้ปะวะ ยิ่งมึงร้องไห้มา สามชม. มันก็นานมากละ มึงจะร้องไห้ทั้งวันเลยหรือไง
เรื่องเครียด แต่ละคนก็มีเรื่องเครียดกันทั้งนั้น แล้วเวลาเครียด คนเราก็มีพฤติกรรมต่างกันไป
ถ้ามึงทะเลาะกับแฟน แล้วหายครียดเร็ว ก็ดีแล้วปะวะ คนบางคนเครียดนาน โกรธนาน เหนื่อยกว่าอีก
>>261 ไอเหี้นนี่เบียวเป็นโรคของจริง แม่งจะทําตัวคิดว่าตัวเองแบบอารมณ์แปรปรวน ต้องทําเป็นทําร้ายร่างกายตัวเอง ไอเหี้ยอารมณ์ปกติแหละค้าบจองมนุษยชาติ วันๆหนึ่งคนเรามันก็เป็นแบบนี้ทุกคน อารมณ์เปลี่ยนเช้าอาจจะเครียดชิบหายพอบ่ายกูมานั่งขรรมก็ได้ ไม่ใช่อารมณ์แปรปรวนโว้ย แล้วมึงยังควบคุมตัวเองได้อยู่เพราะกูมีคนรู้จักที่แม่งควบคุมตัวเองไม่ได้คือมันหนักกว่านี้ไอควาย คือมันจะไม่รู้ตัวเลยโว้ย แต่ของมึงก็ควรไปหาแพทย์กูว่ามึงก็มีปัญหาบางอย่างอ่ะ ไม่ได้แปลว่ามึงแปลก ทุกคนก็มีปัญหาทางจิตกันหมดแหละไม่มากก็น้อย ของมึงคือแค่ขาดวุฒิภาวะ ไม่โต เหมือนเด็กมอต้นเป็นกันอาการงี้เลย เห่อหมอยอีโม
มึงๆ ถ้าไม่ได้รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย แต่มันแบบเริ่มหมดอาลัย แบบพรุ่งนี้ตายก็ไม่นึกเสียดายอะไร ยังอยู่ในขั้นปกติมั้ย แต่กูหน่ายชีวติมาก
เอ้อ มีเรื่องจะปรึกษาหน่อย เคยมั้ยเวลาอยู่คนเดียวแล้วในหัวชอบฉายภาพอดีตซ้ำๆ ทั้งดีและไม่ดี บางครั้งก็พูดคนเดียว
มีแอปจิตแพทย์ออนไลน์แนะนำกูมั้ย อูก้า ครึ่งชั่วโมงพัน กุแอบถอยนิดๆ แต่ถ้าไม่มี กูจะไปลอง
>>269 ถ้าติดขัดเรื่องเงินลองอันนี้ดู
https://www.facebook.com/talkmoment/ ล่าสุดคือมีเก็บเงิน แต่ขอไม่จ่ายหรือจ่ายไม่เต็มได้ถ้าไม่มีจริงๆ ไม่รู้เค้าเปลี่ยนรึยังนะ
https://heretohealproject.com/ อันนี้ฟรี
>>270 กูเคยใช้บริการแล้วรู้สึกว่าเหี้ยมากเหมือนกัน แต่ตอนนั้นหลายปีมาแล้วนะ
แต่ลองไป search ดูเจอคนที่ใช้แล้วดีด้วยนะ อาจจะขึ้นอยู่กับดวงว่าสายติดคนที่แนะนำดีๆมั้ย
https://pantip.com/topic/38958439
ต้นแพทย์ = จิตแพทย์ 🤣
หมาที่บ้านเดือนนี้ตายไป2ตัว ต้นเดือนตัวนึงเมื่อสายอีกตัว แล้วที่บ้านกุอยู่กับแม่2คนแล้วก็หมาอีก3ตัว แม่กุร้องให้ไม่หยุดเลยเครียดชิบหายวันนี้
ขอวิธีรับมือกับคนเป็นจิตเวชหนักๆหน่อย กุมีเพื่อนสนิทเป็นซึมเศร้าที่หนักจนน่ากลัวแต่กุไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงตอนอยู่ด้วยหรือแม้แต่จะช่วยยังไงให้รู้สึกดีขึ้น มันหนักถึงขั้นที่เข้าโรงบาลมาหลายปีก่อนรู้จักกัน นิสัยแปรปรวน วันนึงดี วันนึงร้ายขึ้นมาได้ แล้วไม่แคร์ด้วย ช่วงที่กำเริบมากๆจะต่อต้านสังคมไปเลย มันสิ้นหวังจนรู้สึกว่าตายก็ไม่เสียดาย แต่กุว่ามันสับสนอยู่ พอมันพยายามทำจริงๆก็นึกถึงชีวิตตัวเอง คนรอบตัว สุดท้ายก็ยังรอดจนตอนนี้ ประมาณนี้อ่ะมึง กุไม่รู้จะช่วยยังไงหรือทำอะไรให้ไม่แย่ลง ต่อให้เป็นโรคแล้วมาระรานกุก็อดโกรธไม่ได้
>>281 บอกแล้วยิ่งถ้าคนใดคนนึงเป็นซึมเศร้าเวลารักจางคือชีวิตพัง แล้วกับเพื่อนมึงไม่พัง? เพื่อนหรือหมาวะ ถ้าไปไม่ได้สุดท้ายก็ต้องแยกกันอยู่ดี ที่ต่างคือคนรักมึงสามารถเอาใจใส่ได้มากกว่าเพื่อน ข้างต้นเรื่องมันก็พูดถึงเพื่อน อ่านบ้างหรือเปล่า
กูก็พยายามแนะนำแล้วนะ งงนะ ขัดมั่วๆไม่รู้เรื่อง แล้วดูไม่ใช่ซึมเศร้าข้างต้น น่าจะไบโพล่า ขึ้นๆลงๆเพื่อนกูก็เป็นแนวนี้
- โรคซึมเศร้าไม่เกี่ยวกับ serotonin แต่การใช้ยาซึมเศร้าอาจทำให้ serotonin ต่ำลง
- แต่หมอก็ยังยืนยันจะรักษาด้วยวิธีจ่ายยาเหมือนเดิมจ้า เย่
>>285
😀ดังนั้นหากท่านได้อ่านงานศึกษาที่เกี่ยวกับ serotonin กับโรคซึมเศร้าชิ้นนี้ อย่ารีบสรุปว่า การรักษาด้วยยาแก้ซึมเศร้าไม่มีประโยชน์ และสำหรับทางการแพทย์ก็ยังเป็นเรื่องน่าสนใจว่า
กลไกที่แท้จริงของการเกิดโรค และยารักษาโรคยังมีเรื่องให้ศึกษาและทำความเข้าใจอีกมาก
รีบด่าอีกละ คนทั่วไปถึงได้เกลียดคน toxic แบบมึงไง
การที่กุเอะใจกับการที่วงการหมอเข้าใจผิดเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของฮอโมนกับโรค กับการที่หมอไม่เข้าใจกลไกการเกิดโรคดีพอแต่หมอกลับจ่ายยาให้มึงเป็นปีๆทั้งๆที่ยามีโอกาสทำให้ฮอโมนความสุขมึงต่ำลงในระยะยาว ก็กลายเป็นคน toxic แล้วอ่าา การเอะใจนี่มันไม่ใช่คอมม่อนเซนส์เหรอวะ
แถมให้นะจ๊ะ ถ้าคุณไม่หัดเอะใจ ไม่หัดคิดให้เป็น
ล่าสุดวงการอัลไซเม่อเขาพึ่งสะเทือนกันไปไม่นานนี้
ถ้าบอกคนไข้ว่าไปบำบัดพัฒนาทำชีวิตให้ดีขึ้นแล้วจะหายซึมเศร้าได้เอง บริษัทยา โรงพยาบาล องค์กรนู่นนี่นั่นทางการแพทย์ แพทย์ที่ออกนโยบาย แพทย์ที่เป็นคนจ่ายยา เขาก็ไม่ได้กำไรงามๆกันน่ะสิ ใครจะบอกมึง หว่ายยย
สรุปง่ายๆเลยว่า โรคซึมเศร้าไม่เกี่ยวกับ สารเคมีในสมอง
โดนพวกบริษัทขายยาหลอกมาตลอด
แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าปัจจัยทางกายไม่มีผลเลย แต่สิ่งแวดล้อมอาจมีผลมากกว่า
พวกเมิงก็เลิกแดกยา และออกกำลังกาย อ่านหนังสือ
หาไรทำให้สมองไม่ฟุ้งซ่าน
>>287 ใช่ >>285 ส่วนแรกแปะข้อมูล แต่ลงท้ายจ้ากับเย่มึงกล้าบอกมั้ยว่าที่พิมพ์มาแบบนั้นไม่มีความรู้สึกปนเข้าไป? ไม่มีการติดสินว่าการไม่เลิกใช้ยาคือความผิด?
>>288 เอะใจคือเรื่องดี การศึกษาพัฒนาความรู้ทางการแพทย์คือเรื่องที่ควรทำแน่นอนอยู่แล้ว แต่การที่มึงจะตัดสินว่าหมอทำผิดมาตลอดทั้งๆที่บทความที่มึงอ้างอิงยังใช้คำว่าอาจจะอยู่เลยนั่นแหล่ะ toxic
>>289 พูดเหมือนเคลมว่าตัวเองเป็นคนในวงการวิจัยเลยว่ะ ทั้งๆที่มึงก็แค่อ่านที่เค้าวิจัยมาเฉยๆเอง มึงทำไรมั่งอะนอกจากเอะใจ
ความรู้ทางการแพทย์มันก็วิจัยต่อยอดและล้มล้างทฤษฎีกันมาตลอดอยู่แล้ว การรักษาที่เชื่อมั่นในยุคนึงในอนาคตอาจค้นพบว่ามีผลเสียมากกว่าผลดีเป็นเรื่องที่เจอได้ปกติ การตัดสินใจรับการรักษาหรือไม่เป็นสิทธิ์ของคนไข้(และคนรอบตัว)เอง ถ้ามัวแต่ติเตียนทุกครั้งที่ความรู้ใหม่ขัดกับความรู้เดิม ก็ไม่ต้องมีใครริเริ่มอะไรใหม่ๆอะ มึงก็ไม่สามารถแดกอะไรทำอะไรได้เลยเพราะไม่เชื่อว่ามันดีต่อสุขภาพมึงจริงๆ นอนเป็นผักมั้ย ไม่ดื นอนเป็นผักก็ยังไม่รู้ว่าดีจริงมั้ยอีกนั่นแหล่ะ
ที่คุณรู้สึกโกรธ ก็มีผลมาจากสารเคมีในสมองของคุณไม่ใช่เหรอครับ
ผมเลิกชอบไอดอล แล้วก็เลิกว่าวด้วยสาว 2d หันกลับมาชอบผู้หญิงจริงๆ แบบนี้ผมควรพบแพทย์ไหมครับ
กูอัดอั้นอยากระบาย เป็น Thanatophobia มาเป็น 10 ปี กูพยายามทำทุกอย่างแล้ว กูไปหาหมอ หมอก็ให้ยา ให้กูเข้าหาศาสนา กูพยายามเชื่อแล้วแต่ลึกๆสุดท้ายกูก็รู้ตัวว่ากูไม่เชื่อ กูพยายามหาอะไรทำให้ไม่คิด กูพยายามทำใจ พยายามเปลี่ยนความคิดแต่มันเหมือนแค่กดอาการไว้ พอมีอะไรมาสะกิดนิดเดียวสุขภาพจิตกูก็พังทันที กูท้อมากเลย ไม่กล้าบอกใครเพราะคนก็พร้อมจะหัวเราะเยาะ หาว่ากูบ้า กระแนะกระแหนกู ยัดธรรมะ ไบเบิ้ลใส่กู กูรู้สึกเหมือนกูเป็นตัวประหลาดแค่เพราะกูอยากมีชีวิตอยู่กับคนที่กูรักมากๆไปเรื่อยๆ ทรมานมาก
>>298 กูก็ไม่เชื่อศาสนา หลายคนก็ไม่เลื่อศาสนา ไม่ได้มีแค่มึงคนเดียว แล้วการยัดศาสนาจะพระเจ้าไหนไปเป็นกูกูก็รู้สึกว่าไม่ได้ช่วยอะไร ไม่แปลกหรอกเว้ย ก็มันเชื่อไม่เหมือนกัน จะมายัดความคิดห่าไรมันทําไม่ได้หรอก
เชื่อในสิ่งที่มึงเชื่อเนี่ยแหละ แล้วก็จบแค่นั้น ไม่ต้องไปคิดมาก เอาใจช่วยนะเว้ย
>>298 ใครๆ ก็กลัวแหละ แต่ถ้ามึงกลัวมากมันก็ผิดปกติ แต่มันรักษษยากเว้ยอันนี้
(>>299 มันคือ โรคกลัวความตายน่ะ) สมัยกูอายุ 12-13 กูก็กลัวมาก แต่พอ 14 กูก็เลิกกลัวละ
ตอนกลัวนี่กูระดับร้องไห้มาเฉยๆ เลยนะ แค่คิดว่าจะตาย แต่แม่ง พอได้รู้ศาสน์ แห่งการช่างแม่ง
ชีวิตกูดีขึ้นเยอะ ปล. บัดนาวกูจะ 40 ละ การช่างแม่งยังได้ผลอยู่
อยากตาย มันเกินไปแล้ว
กูรู้สึกแย่กับข่าวตอนนี้ แต่เป็นคนละเหตุผลกับคนทั่วไป ตอนโคราชก็เจ็บหัวใจมากถึงขั้นต้องข่มตานอนสงบอารมณ์ไม่ยอมตามข่าวต่อ แต่มาอันนี้ที่กูเสียใจเหมือนกัน แต่กูรู้สึกชัดเจนเลยว่าหัวใจกูด้านชาขึ้น กูไม่อยากรู้สึกแบบตอนโคราชอีกแล้ว แต่พอมันไม่รู้สึกแบบที่ควรรู้สึกกูดันกลัวใจตัวเองขึ้นมา กูจะกลายเป็นคนหัวใจด้านชาไม่รู้สึกอะไรรึเปล่า
เวลาเมิงกินซากศพไก่ วัว หมู หมึก กุ้ง หอย ปู ปลา เมิงรู้สึกยังไงบ้างอ่ะ ถ้าเมิงกินวีแกน แล้วค่อยมาเสียใจนะที่ด้านชา
อันนี้ไม่รู้เป็นที่สภาพจิตมั้ย แต่เวลากูเจอเพื่อนที่ทำงานที่ยังไม่สนิทคือกูเพิ่งเข้ามาใหม่ไง ยิ่งพวกระดับหัวหน้า กูจะมีอาการเกร็งขึ้นมาทันทีว่ะ ซึ่งพอเวลาคุยด้วยก็จะหัวตื้อๆคิดไรไม่ค่อยออก พูดอะไรทำอะไรก็ไม่มั่นใจกลัวพูดผิดกลัวเค้ามองเราโง่ พอพูดไปก็รู้สึกว่ามันทื่อๆตันๆ ต่อบทสนทนาไม่ได้ เค้าคุยเล่นกันก็ต่อมุกไม่ได้ บางทีตอนคุยงานก็เกร็งๆอายๆพูดเร็วๆล่กๆหัวว่างไปเฉยๆ คือกูกลัวว่ามันจะส่งผลให้คนอื่นน่าจะมองว่ากูเป็นพวกทำงานไม่เก่ง คุยด้วยก็น่าเบื่อ ทำไงถึงจะวางตัวได้ชิลๆเหมือนคุยกับแฟนกับพี่น้องวะเพื่อนโม่ง ตอนกูคุยกะคนสนิทนี่กูว่ากูฉลาดมากนะ พ่นอะไรสาระไร้สาระได้เป็นคุ้งเป็นแคว แต่พอกับคนร่วมงานแล้วหน้ามือเป็นหลังมือเลยว่ะ เฮ้ออ
ถามหน่อย ใครมีเพื่อนเป็นซึมเศร้ารุนแรงมั้งวะ คือกูมีเพื่อนคนนึงแม่งซึมเศร้าแล้วทีนี้เวลาเล่นเกมด้วยกันแม่งก็เฮฮาปกติ ไม่มีใครด่ากัน ไม่มีคำหยาบด้วย เป็นเพื่อนที่คบกันแบบสุภาพมาก คุยกันด้วยเรากับนายไม่ก็เรากับคุณตลอด ทีนี้แม่งพอเล่นเกมเสร็จกูกำลังจะไปนอนละ เพราะพรุ่งนี้กูต้องตื่นเช้าตั้งแต่ 6.30 เพื่อไปทำงาน อยู่ๆ พอกูจะไปนอนแม่งก็รั้งกูไว้ แล้วแม่งมาดราม่าใส่เว้ย แบบ อยู่ๆ อารมณ์แม่งก็ดาวน์อ่ะ แล้วก็ใส่กูรัวๆ ทั้งๆ ที่กูบอกแล้วว่ากูมีงานต้องทำเช้านะ กูทำงาน จันทร์-ศุกร์ กว่าจะได้เล่นเกมก็ดึกมากแล้ว เลยมีเวลาเล่นเกมแค่วันละ 1 - 2 ชั่วโมง แล้วช่วงนี้แม่งเป็นบ่อยมาก คือมันว่างงานด้วยอ่ะ กูก็เลยแนะนำให้ไปหาหมอ แม่งก็บอกว่าไม่ไป มันมีปมกับหมอ กูก็แนะนำโรงบาลยอดฮิตของซึมเศร้าไป แม่งก็ยังยืนยันว่าไม่ไปอยู่ดี คือจากที่คุย อาการมึงหนักมากละ แต่เสือกไม่ยอมไปหาหมอทุกที แล้วมีแนวคิดที่ว่าหมอทุกคนแม่งเหี้ย ไปหาหมอแล้วจะหนักกว่าเดิม โอ้ยยย คือกูจะไปนอนไอ้เหี้ย กูมีงานต้องทำ แต่จะทิ้งมันไปแบบนั้นก็กลัวแม่งจะไปsuicideอีก กูเครียดชิบหาย กูเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากนะ เฮฮาปาร์ตี้ หัวเราะง่าย กูมีความสุขตลอดปีอ่ะทุกวันนี้ แทบไม่เครียดกับอะไรเลย แต่ตอนนี้กูรู้สึกจะเป็นซึมเศร้าตามแม่งแล้วเนี่ย รู้สึกเหมือนตัวเองแม่งเป็นกระโถนให้โดนแม่งพ่นความเครียดใส่เลยว่ะ กูไม่รู้จะทำไงแล้วเนี่ย อึดอัดชิบหาย สุดท้ายกูเลยตัดบทหนีไปนอนแม่ง ใครมีเพื่อนแบบกูบ้างวะ ปล. เป็นผู้ชายทั้งคู่นะ รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนละ
เห็นใจเพื่อนหน่อยครับ เขารู้จักหลายคนก็จริง แต่เขาต้องพึ่งเมิงคนเดียว เมิงเคยรู้สึกว่าพึ่งใครไม่ได้ตัวเองไม่มีอำนาจเปล่าหล่ะ
ปกติกูไม่เล่น sns นะ พอมาลองเล่นทวิตแล้วดิ่งยังไงไม่รู้แค่ยอดไลค์น้อยก็ดาวน์ เห็นคนอื่นมีชีวิตดี๋ดีก็ดาวน์
กูชอบอยู่กับคนเยอะๆ อยู้ไปอยู่มาแล้วรู้สึกดูดพลังเยอะมาก จนกลับมาเก็บตัวอยู่คนเดี่ยว พออยู่คนเดี่ยวนานๆเสือกติดเกมอีก เหนื่อยกับตัวเองชิบหาย
ไม่ติตตามการเมือง ไม่เล่นทิวตเตอร์มาเกือบปีแล้ว แทบไม่เครียด ไม่เหนื่อย มีความสุข ignorance is bless
ช่วงนี้เซ็งตัวเองทำงานอดิเรกไม่สนุกสุดท้ายเลยพึ่งการทำงานให้ลืมเอา สัปดาห์นี้กูเพิ่งกลับมาจากทำงานยาวต่างจังหวัด พอกลับมาก็เครียดไม่มีงานทำ วันต่อมากูทำงานเสร็จกลับมานอนยาวถึงเที่ยงคืนแล้วตื่นมาทำงานต่อนิดหน่อยก่อนนอนไปทำงานตอนเช้า พอเมื่อวานกูกลัวว้าวุ่นเลยขับมอไซค์เล่นไป เดี๋ยวนี้กูเครียดง่ายมากอย่างตอนที่ขับมอไซค์รถติดก็ด่าแม่ในใจที่แนะนำกูซื้อมอไซค์มีเกียร์มาขับในกรุงเทพทำไร ตอนนี้ลองไรใหม่ๆอย่างดื่มเหล้าที่ปกติไม่ดื่มจนอ้วกแตกเสียค่าเหล้าไปหลายพันก่อนจะมานั่งคิดวันต่อมาว่าเสียดายเงินปวดหัวอีกต่างหากทำเพื่อไรวะ กับรู้สึกตัวเองทำไรและบ่นเพ้อเจ้อเรื่องเดิมๆจนรู้สึกว่าเพื่อนรำคาญเลยลบแอคที่คุยกับเพื่อนไปหมดเหลือLineที่ใช้ติดต่อทำงาน กูควรทำไงดีวะ
กูชอบดูพวกคลิปราดใส่รูปแบบนี้มาก ยิ่งถ้าจู๋ใหญ่ๆชักแรงๆน้ำเยอะๆ เวลาดูยิ่งทำให้กูเงี่ยนกว่าดูพวกคลิปโป๊อีก แต่พอไปหาดูตามเว็บโป๊ มันจัดอยู่ในแท็กเกย์ว่ะ แต่กูชอบดูเพราะมันราดน้ำใส่หน้าผู้หญิงนะ หรือกูแค่เป็นพวกโรคจิต ล่าสุดไปเจอแอคนึงครางเรียกชื่อผู้หญิงว่าเมียด้วย โคตรชอบเลย กูจัดอยู่ในรสนิยมแบบไหนวะ
https://imgur.com/Dx8v4JP
>>321 กูก็งงว่ามันจะดูอะไรกันวะพวกลงคลิปแบบนี้ คือแบบถ้าเป็นเกย์แล้วดูครวยไปก็เมคเซ้นท์ แต่ที่ชัดใส่รูปผญ ชายแท้ที่ไหนจะไปอยากดูครวยใครไม่รู้วะ หรือมันอยากลงคลิปสนองนีทตัวเอง พอมาเจอมึงกูหายสงสัยเลย แบบอ่อมันมีเฟติชงี้ด้วย มีคนเ งี่ยนกับแบบนี้นี่เอง
ส่วนชื่อเฟติชเหรอ ไม่รู้หว่ะ อิอิ
เบื่อชิบหายยย เป็นโรคหมดไฟเนี้ย เป็นทุกปี หงุดหงิดชิบหาย เป็นที 2-3 เดือน
รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวว่ะ จากเรื่องคือกุขึ้นบีทีเอสปลายสาย แล้วคือปกติคนมันจะมายืนตรงช่องทางลูกศรชี้ออกเรียงแถวเลยไง ให้แถวมันสั้นไม่กินที่+ให้เข้าเร็ว แต่คราวนี้ประตูที่กูต่อคนที่อยู่ข้างหน้ากูไม่ขยับ กูเลยตัดขึ้นไปต่อแถวใหม่เอง ทีนี้ป้าคนคนที่ต่อแถวกับคนหน้ากูคอนแรกน่ะแหละ เลยทักกุว่าแบบกุแซงคิว ถ้าประตูเปิดกุห้ามขึ้นก่อนนะต้องรอให้แกขึ้นก่อนกูถึงขึ้นได้ กูก็เข้าใจป้าแกแหละว่าเออตอนแรกกุมาต่อทีหลังอยู่ดีๆ มาตัดแถวใหม่นำแก แต่อีกใจหนึ่งกูก็คิดว่าถ้ากูไม่ตัด ไม่มีใครตัดมันก็เสียเวลา แทนที่ตะได้รีบขึ้น ไอ้เหี้ยกูแม่งเห็นแก่ตัวชิบหาย กูอยากเลิกใช้ชีวิตแบบเร่งรีบจนสันดานเสียแล้วว่ะ TT
หวังว่าวันนึงสมองจะยอมให้กูตายสักที เบื่อเป็นซึมเศร้าแล้ว อยากหายแล้วแต่ไม่หายสักที
>>330 เฟมทวิตซึมเศร้าที่กูหลงรัก
https://www.instagram.com/praekiintheskywithdiamonds/
https://i.imgur.com/3gV1SlF.jpeg
กูควรไปหาหมอซ้ำดีไหมวะ จิตแพทย์เฉพาะทางไปเลยอ่ะ (เคยไปหาหมอทั่วไปนะ หมอวินิจฉัยแล้วว่าเป็นไบโพล่า) แต่กูรู้สึกว่าตัวกูมีอาการทางจิตที่มากกว่านี้ เพื่อนคนนึงบอกว่ากูเหมือนพวกย้ำคิดย้ำทำ(อันนี้กูไม่เคยรู้ตัวเลย) และหลายๆอย่าง
กูเคยมาพิมพ์ในโม่งว่าจะฆตตเพราะไม่ไหวแล้ว เมื่อหลายเดือนแล้ว เกือบครึ่งปีแหล่ะ ไม่แน่ใจว่ามู้นี้ไหม แต่กูทำไม่สำเร็จนะ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แต่กูก็ยังอยากทำมันอยู่ดี ยิ่งจังหวัดที่กูอยู่มีเด็กมัธยมโดดตึกเยอะ กูยิ่งรู้สึกว่าสักวันกูอยากกระโดดลงมาบ้าง เพราะกูเคยลองโอเวอร์โดสแล้วแต่มันไม่ตาย มีวิธีไหนที่ตายแบบไม่ทรมานไหม กูเหนื่อยจัง ไม่อยากอยู่แล้ว
กูไม่กล้าปรึกษาใครอีกเลยหลังจากเพื่อนเปิดใจว่าเวลากูพูดว่าอยากตายแล้วเขาท็อคซิค กูเก็บปัญหาไว้ในใจมาตลอดทโกหกตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่กูไม่ไหวแล้ว
โตเป็นผู้ใหญ่จะเหนื่อยกว่านี้เยอะเลยใช่ไหม กูอยู่ม.6 หัวเลี้ยวหัวต่อกำลังจะขึ้นมหาลัย กูต้องอ่านหนังสือ มีปัญหาส่วนตัวหลายเรื่อง ถ้ากูตายตั้งแต่ตอนนี้ ทุกอย่างจะง่ายขึ้นรึเปล่า
>>335 กูคิดไว้ด้วยว่าจะบริจาคร่างกายกับอวัยวะ แต่พอค้นข้อมูลถึงรู้ว่าเขาไม่รับร่างกายของคนที่ฆตต ส่วนอวัยวะก็ต้องตายแบบให้สมองตาย กูนึกไม่ออกว่าต้องตายยังไงให้สมองตาย ส่วนบริจาคดวงตาศึกษาไว้นิดหน่อย เหลืออย่างเดียวที่กูพอจะบริจาคได้คือเลือด แต่กูเลือดจาง+กินยาประจำอยู่ด้วย ลองไปบริจาคหลายครั้งแล้วก็ความเข้มข้นเลือดไม่ผ่าน มีทางไหนที่กูจะพอทำเพื่อคนอื่นก่อนตายได้ไหมในฐานะเด็กม.6ที่ไม่ได้มีเงินพอจะบริจาคให้องค์กรนู้นนี้เยอะขนาดนั้น กูวางแผนเขียนจดหมายให้ทุกคนไว้หมดแล้ว เหลือแค่รอเวลาไป
>>335 ไม่รู้ว่ามึงเจออะไรมา แต่อยากให้มองว่าชีวิตมึงยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ เพิ่งจะ ม.6 เอง ไม่เสียดายชีวิตที่เหลือหรอ ถ้ามึงผ่านตรงนี้ไปได้จะแข็งแกร่งขนาดไหน
แต่ถ้ายังอยากฆตตอยู่ ก็ทำได้นะ กูก็ไม่รู้ว่าทำไมคนเราต้องห้ามฆตตกันด้วย ทำไมเราจะเลือกจบตัวเองไม่ได้ การตุยมันก็คือทางเลือกๆหนึ่งอะ เวลากูเห็นใครทรมานกับการมีชีวิตอยู่มากๆ เป็นโรคที่รักษาไม่หายแล้วอะไรงี้ กูอยากให้เขาหลุดพ้นจากความเจ็บปวดมากๆเหมือนกัน คิดว่าการตุยคืออีก 1 ทางเลือก
กูพูดด้วยความหวังดี(ฉบับกู)นะ เป็นไปได้ไม่อยากให้ตุยหรอก แต่แค่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ใช้มันเป็นทางเลือกก็ได้
วิธีตุยกูไม่กล้าแนะนำว่ะ ถ้ามึงตุยจริงกูจะโดนอะไรทางกฎหมายมั้ย5555
กุรู้สึกว่าเครียดว่ะ ยิ่งโตขึ้นก็นิ่งเครียด นึกว่าจะรับมือกับความล้มเหลวได้ดีกว่านี้ซะอีก ตอนเด็กๆสอบตกเกือบทุกวิชากุยังไม่เครียดเท่างานไม่เฟอเฟกนิดเดียวในตอนนี้เลย เหมือนยิ่งโตกุยิ่งรับไม่ได้ที่ตัวเองจะผิดพลาด แล้วมันเหนื่อยมากเลยว่ะ ทำอะไรผิดนิดหน่อยกุจะรู้สึกว่าคนอื่นจะเกลียดกุ คนอื่นจะมองว่ากุไม่เก่ง หรือบางทีใครสั่งงานข้ามหัวกุไป กุก็จะคิดอีกว่าเป็นเพราะกุไม่น่าไว้ว่งใจมากพอ เค้าเลยไม่ assign ให้กุทำ ไม่ว่าจะมีอะไรผิดพลาดกุมักจะมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาไม่หยุด กุจะทำยังไงดี
สำหรับกูชีวิตเหี้ยสุดคือช่วงม.ปลายน่ะแหละ ตอนนี้ทำงานแล้วดีขึ้นเยอะ อย่าพึ่งรีบตุย ยังไงก็ตายซักวันอยู่ดี รอดูไปก่อน เผื่อมีเรื่องดีๆ ถ้าไม่มีก็แล้วไป ไม่มีไรเสียหาย
ลักษณะแบบนี้คือควรไปหาหมอสักทีไหม คือส่วนตัวเป็นคนหงุดหงิดง่าย เก็บอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่ ทำอะไรแบบพรวด ๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยถาม โดนที่บ้านว่าบ่อย ๆ สมัยฝึกงานก็โดนเป็นคนดูแปลก ๆ บุคลิกดูหลุกหลิก ทุกวันนี้ทำงานกิจการของที่บ้าน แต่ก็ยังหงุดหงิดง่าย ชอบชักสีหน้าไม่หาย
มีวิธีรับมือเพื่อนที่ชอบคิดมากหรือบอกอยากตายตลอดเวลามั้ย กูอยากช่วยเยียวยาเขาว่ะ
กูไม่อยากแก่เลยวะ พอเริ่มรู้ตัวว่าใกล้แก่กูก็ร้องไห้ แบบนี้หนักปะ
ไม่อยากเรียนป.เอกแล้ว จะลาออกก็ไม่อยากเป็นขี้ปากคนอื่น + ไม่กล้าสู้หน้าคนรู้จัก จะโดดตึกก็ใจไม่แข็งพอ ปืนก็ไม่มี เอาไงดี
คนแก่หลายคนนี่โลกหมุนรอบตัวเองจริงๆ ตัวเองทำได้คนอื่นห้ามทำ
ตอนแรกกูป่วยกับการใช้ไลน์เพราะที่ทำงาน ใกล้หายก็มาป่วยอีกเพราะครอบครัว กูอาการหนักขึ้น แค่เห็นโนติไลน์ก็อ่วมท้อง
เหนื่อยว่ะทั้งจากที่ทำงานและที่บ้าน บางทีกูก็อยากจะหนีไปให้ไกลๆไปอยู่เงียบๆคนเดียว
ใครเบื่อ เหงา เศร้า เพื่อนน้อย ไม่รู้จะหันหน้าหาใคร บ้านไม่ใช่เซฟโซน
เรารับจ้างเป็นเพื่อนอยู่เฉยๆนะ
(แบบที่คนญี่ปุ่นทำ) ไปเป็นเพื่อน ไปทำธุระ
มีอัพเกรดรับจ้างกอดด้วย(มีคนสนใจแต่เสือกอยู่คนละจังหวัด)
แต่ไม่มีคนจ้างจริงๆซักที มีแต่คนจ้างแชทด้วย โทรคุยด้วย ได้ค่าขนม100-150
แต่อยากได้ลูกค้าแบบพี่คนญี่ปุ่นจริงๆ แต่ยังไม่มีใครจ้างเลย
ปล.เราผชนะ อายุ2x แต่ผอมสูง170 ไม่ได้ท่าทางน่ากลัวแบบลุงๆ
>>355 รับบบ นั่นงานหลักที่อยากทำเลย ความฝันคืออยากได้ฟิลเดียวกับบาเทนเดอร์ที่ลูกค้ามานั่งเศร้าละบ่นให้ฟังอะ
ตอนนี้มีประสบการณ์ 4-5เคสแล้ว 1.คนเลิกงานตี2ไม่มีเพื่อนเลยจ้างกูโทรคุยเป็นเพื่อน / 2.คนอยากจ้างกูไปกอดเพราะที่บ้านไม่รัก ทำงานมาเท่าไหร่แม่ยึดเงินหมด(แต่ไม่ได้จ้างเพราะอยู่คนละจังหวัด) / คนจ้างคุยแชทด้วย ฟังระบายเพราะพ่อแม่งอย่างเหี้ย #ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน / คนกินยา/ผูกคอ5รอบ รอบล่าสุดเพราะแฟนทิ้ง เลยให้กูคอลคุยด้วย ก็คุยจนเค้าไม่ทำแล้ว(คนนี้ไม่ได้จ้างไม่ได้ให้เงิน แต่จะให้กูไปทวงยังไงก่อน เดี๋ยวกลายเปงคนเหี้ย)
เรื่องมันกึ่งจิตวิทยากึ่งปรัชญากูลงมันทั้งคู่เลยละกัน
สงสัยว่าแนวคิดว่าเราไม่ยินดียินร้ายใจนิ่งๆกับสิ่งต่างๆเนี่ย มันดีกับสภาพจิตใจคนเรามากกว่าจริงๆหรอ
เห็นแนวคิดนี้อยู่ในทั้งศาสนาในตะวันออก หรือปรัชญาตะวันตกอย่างพวก Stoic เลย
แต่กูรู้สึกอยากเป็นคนที่เวลามีความสุขก็ไปสุด เวลาทุกข์ก็ไปสุด มากกว่าจะเป็นคนที่ต้องคอยกดความรู้สึกของตัวเองตลอดเวลา
เวลาที่กูเห็นคนแบบนี้แล้วรู้สึกว่าเค้าได้เต็มที่กับชีวิตดี อยากเป็นแบบนั้นได้บ้าง
รู้สึกว่าการไม่ยินดียินร้ายมันไม่ใช่การเป็นโตผู้ใหญ่เหมือนที่หลายๆคนมอง แต่มันคือไม่เข้มแข็งพอที่เผชิญหน้ากับความรู้สึกจริงๆของตัวเองมากกว่า
กูไม่รู้จะเชื่อใครในบ้านเลย พูดว่ารักกูมากแต่ลับหลังกันว่าทำไมกูไม่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาเข้าใจคำนี้ผิดมั้ยวะ จะพึงบุญพอไม่รวยก็โทษกู เงินที่เขามีไม่พอส่งกูเรียนต่อด้วยซ้ำ กูไม่บ่น กูพยายามเก็บเกรดสามขึ้นจนจบ
ต่อหน้าบอกกูว่า ไม่อยากให้กูไปลำบาก สรุปจริงๆกลัวคนอื่นว่าตัวเองเสียๆหายๆเลยไม่อยากให้กูทำงาน
เงินมีหมุนเท่าไหร่ไม่บอก ไม่กล้าลองทำอะไรใหม่บอกเสี่ยง บ่นทำไมไม่รวย แล้วก็วกมาลงที่กูคนเดียว
กูว่าตัวเองก็เป็นเด็กรรมดาไม่เกเรพยายามเรียนแบ่งงานบ้านมาทำ ดูแลร้านให้ตอนเขาไม่อยู่
กูไม่เคยพอสำหรับพวกเขาเลย กูสับสนว่าเกิดมาทำไม มาเลี้ยงพ่อแม่เหรอ ไม่เอาแล้วได้มั้ย
>>359 ส่วนตัวกูมองว่าแสดงอารมณ์ความรู้สึกจริงๆแล้วมึงต้องมาผิดหวังที่หลังหว่ะ มันจะมีคนไม่ชอบมึงแน่ๆละ1 ทั้งพวกที่มันไม่เห็นด้วยหรือพวกที่มองว่ามึงเว่อร์เกินไป แล้วจริงๆตอนที่มึงแสดงออกความรู้สึกดีใจสุดๆเศร้าๆสุดๆมันก็ไม่ใช่เจตจำนงของมึงจริงๆ แต่เป็นสิ่งเร้าจากสังคมภายนอก เช่นสถานการณ์พาไปว่าทุกคนต้องดีใจ ทั้งที่ลึกๆมันก็เฉยๆงั้นๆ
ไม่ใช่ความเป็นผู้ใหญ่เขี่ยไรหรอก ความอยู่รอดในสังคมล้วนๆ การตอแหลเนี่ย
>>358 https://www.menhouse.net/img/ib/jAKdfqgyvL
นี่เด้อ เผื่อหาไม่เจจอ
กูในวัยสามสิบเหมือนกำลังประสบปัญหามิดไลฟ์ไครซิสมากๆ คือมีปัญหากับการมีอยู่และตัวตนของตัวเองจนวันไหนที่เจอทริกเกอร์หนักๆคือทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย นอนไม่ได้ กินไม่ได้ กูเกลียดตัวเองขั้นสุด เกลียดมาก คิดว่าน่าจะตายๆไปซะโลกจะได้ดีขึ้น แต่ก็ยังตายไม่ได้ลงท้ายด้วยการข่วนตัวเองจนหลังคอมีแต่รอยเล็บไปหมด ตบหัวตบหน้าตัวเอง
กูคิดว่าตัวทริกเกอร์คือเวลาที่แม่ด่า ตอนนี้กูทำงานให้ที่บ้าน รับเงินเดือนจากแม่ แม่ไม่รู้ตัวว่าเขาทำให้กูรู้สึกด้อยค่าในทุกเรื่อง หน้าตา รูปร่าง การแต่งตัว ทรงผม นิสัย การทำงาน การกิน การออกกำลังกาย การเก็บเงิน การใช้ชีวิตตั้งแต่ตื่นยันหลับ ทุกอย่างคือไม่ได้มาตรฐานของเขาหมดเลย ถ้ากูจะไปจากเขา ก็จะมีคำแบบว่าเขามีแค่กู ถ้าไม่มีกูกิจการที่บ้านก็คงไปไม่รอด แต่สำหรับกู กูคือคนที่เขาแคร์น้อยที่สุด เวลาพูดกับคนงาน เขายังระวังคำพูดมากกว่าพูดกับกูอีก เพราะเขารู้ว่ากูเป็นของตาย เป็นทาสรับใช้ เป็นคนงานที่ซื่อสัตย์ที่สุดที่จะไม่ทิ้งเขาไปไหน กูก็แค่หมารับใช้ของแม่ตัวหนึ่งที่ไม่มีคุณค่าห่าอะไรเลย นอกจากรอกระดูกที่เขาจะโยนทิ้งให้เวลาเขานึกอยากเมตตา 555555555555555555555555555555
ปัญหารุมเร้า+พึ่งเลิกกับแฟน อยากร้องไห้ทุกวัน อยากไปอยู่กับคนอื่นแต่กลัวตัวคนอื่นกร่อยวะ
>>366 จริงๆ ควรจะออกไปทำงานนอกบ้านด้วยตัวเองจะดีที่สุด แต่กูเดาว่ามึงคงจะมีเงื่อนไขบางอย่างทำให้ออกไปหางานทำข้างนอกไม่ได้ อันนี้อยู่ที่ตัวมึงละว่าจะจัดการยังไง
เคสนี้ไปหาหมอกูว่าไม่ค่อยช่วย การไปหาหมอ รับยา มันจะช่วยได้อย่างเห็นผลในกรณีซึมเศร้าจากสารเคมีในสมอง พวกที่อยู่ดีๆ ก็เศร้าโดยไม่มีสาเหตุน่ะ (คล้าย pms ผู้หญิงจะเข้าใจดี อยู่ดีๆ แม่งเศร้าเฉย นอยด์เฉย เรื่องเล็กน้อยไม่เคยนอยด์ก็นอยด์ แต่พอผ่านช่วงนั้นไปก็กลับมาเป็นปกติ) แต่กรณีมึง จริงๆ มันมีสาเหตุอยู่แล้ว ถ้าไม่แก้ที่สาเหตุ ก็น่าจะไม่หาย ยาและคนรับฟังช่วยให้บรรเทาลงได้ครั้งคราวหรือก็อาจจะไม่ช่วยเลยด้วยซ้ำ
กูขนาดกูทำงานนอกบ้าน เป็นคนหาเงินเข้าบ้าน ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เอาเงินให้พ่อแม่ทุกเดือน กูยังโดนเลย อยู่กับพ่อแม่ยังไงก็เห็นเราเป็นเด็กตลอดชาติ ไม่เคยให้เกียรติความคิดเห็น ไม่เคยเคารพกันในฐานะมนุษย์คนนึง ตอนแรกกูก็คิดว่าตัวกูเองไม่มีสิทธิ์ย้ายออก ย้ายออก=ไม่ดูแลพ่อแม่=อกตัญญู แต่อยู่ด้วยกันก็ปสด.เป็นบ้าทั้งบ้าน ไม่มีใครมีความสุข สุดท้ายกูตัดสินใจย้ายออก แต่ยังส่งเงินให้เท่าเดิม แน่นอนว่าตอนออกก็มีดราม่าแหละ แต่กูก็จะออก อย่างน้อยถ้าพวกเขายังบ้าเหมือนเดิม ก็จะมีคนนึงที่สุขภาพจิตดีขึ้น คือกู ดีกว่าอยู่ด้วยกันแล้วก็เป็นผีบ้ากันหมดทั้งบ้าน ไม่มีใครได้มีความสุขซักคน
>>370 เมื่อก่อนกูเคยคิดว่าแม่อยากได้แต่เงินจากกู แต่พอกูจะย้ายออก กูเลยได้รู้ว่า ไม่ใช่แค่เงินหรอก เขาต้องการครอบงำกูไปตลอดชีวิตด้วย ต้องการให้กูอยู่คอยรับใช้ปรนนิบัติด้วย แต่ตอนนี้กูให้แค่เงินอย่างเดียวละ อย่างหลังกูหลุดพ้นออกมาละ
แต่จะว่าเข้าใจไหมก็เข้าใจอะนะ สมัยก่อนคนเลี้ยงลูกมาเพื่อการนั้นจริงๆ เหมือนที่คนยุคแรกเริ่มเลี้ยงสัตว์เพราะต้องการเอาไว้ใช้งานต่างๆ เช่น ล่าสัตว์ เฝ้าบ้าน เพิ่งมายุคหลังๆ นี่เอที่มีการเลี้ยงสัตว์เป็นสัตว์เลี้ยง เลี้ยงเพราะรักเฉยๆ ไม่ได้ต้องการหาผลประโยชน์อะไรจากมัน และดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี คนก็เหมือนกันนั่นแหละ มันค่อยๆ วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ วัฒนธรรมด้วยอะไรด้วย กูไม่โทษเขาหรอก แต่กูก็จะต้องรักและแคร์ตัวเองด้วยเหมือนกัน กูไม่อยากทนทุกข์ไปจนกว่าจะตายกันไปข้าง รู้ตัวอีกที อ้าว ชิบหาย แก่จะลงโลงแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงจะไปทำอะไรแล้ว แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้มีความสุขเลย ได้แต่โดนครอบงำและต้องอดทนมาทั้งชีวิต
กูไม่รู้เป็นไรว่ะ ทำไงดีวะ
อ้างว่าอายบ้าง อึดอัดบ้าง มึงโหยหาทุกอย่างแต่ไม่เคยให้กูกลับเลย
กูไม่อยากให้คนรู้ว่ากุอายุมากเลยว่ะ กุรู้สึกว่ายิ่งแก่ยิ่งต้องเป็นที่พึ่งพาให้กับคนอื่นทั้งๆที่กูเองก็ยังไม่พร้อม กูยังอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆแบบที่ตัวเองไม่เคยทำ และให้อภัยตัวเองถ้าทำได้ไม่ดี แต่พอแก่คนก็จะคาดหวังว่าต้องทำนั่นนี่ได้ ถ้ากุทำตัวปัญญาอ่อนขึ้นมาก็จะดูไม่โอเคอีก กุว่าสังคมคาดหวังกับคนเป็นผู้ใหญ่มากไปอ่ะ ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ทำเรื่องโง่ได้ ผิดพลาดได้ และไม่เก่งได้
บอกเลิกแฟน สักพักเขาทักกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ไหม กูก็โอเค นึกว่าเขาทำใจได้แล้วเลยคุยเป็นเพื่อน ไปๆมาๆ เริ่มมาบอกคิดถึง ตื๊อจะมาหากู เริ่มล้ำเส้นความเป็นเพื่อนเข้ามาเรื่อยๆ กูบอกปัดไปว่าไม่ต้องมาหา ไม่ว่าง ก็ยังจะตื๊อถามว่าไปทำอะไรทำไมไม่ว่าง จากตอนแรกยังรู้สึกดีๆ อยู่ตอนนี้เริ่มรำคาญ ถ้ายังทำใจไม่ได้แล้วจะมาขอเป็นเพื่อนทำไม กูอึดอัด เพราะพอตอบช้าก็บ่น ทั้งๆที่ปกติกับเพื่อนกูแทบไม่คุยไลน์ด้วยซ้ำ กูรู้สึกเหมือนโดนคุกคาม รู้สึกแพนิค พอคิดจะตอบแชทเขายังไงดีก็มวนท้อง ใจหวิว เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเข้าใจ เอาแต่บอกว่าสงสารอีกฝ่าย แต่ไม่มีใครถามกูเลยว่ากูรู้สึกยังไง เศร้ามากจนไปวิ่งๆอยู่ที่ยิมก็น้ำตาไหล กลั้นไว้ไม่ได้ กินข้าวอยู่ๆก็น้ำตาไหล จนกูต้องบล็อกเขาไปก่อน อีกสักเดือนค่อยปลดแล้วกัน ไม่งั้นกูคงเป็นบ้าไปก่อนแน่
แม่งเครียดกับมหาลัย งานกูโดนอาจารย์ตีกลับหลายรอบมากเลย แถมไม่มีใครคอยช่วยด้วยนะ ห้าห้าห้า
พวกเมิงเคยปะ นอนแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น ก่อนนอนก็คิดว่า ถ้าให้คนอื่นมาครองร่างเรา พยายามคิดให้คนอื่นในตัวเรารับรู้ว่าเราตั้งใจทำแบบนี้นะ
และถ้าทำสำเร็จทุกๆอย่างมันจะดีกว่าที่เป็นแบบนี้ไหม ก็เหมือนร่างกายของกุจะตอบสนองกับความคิดนั้น
แต่พอในฝันที่กึ่งหลับกึ่งตื่น มันกำลังเข้ามาครองร่างกุตามที่กุบอกไป เหมือนมันรับข้อเสนอ มันมีตัวจิตวิญญาณหลากหลาย หรือฝูงแร้งฝูงกาไม่รู้ มารุมกู กุกลัวจะสูญเสียการควบคุมของตัวเองไป บางที จิตวิญญาณกุอาจหายไปเลย ถ้าให้มันครอบงำร่างได้ กุเลยเปลี่ยนใจว่ากุต้องมาครองร่างตัวเองอีกครั้งทำให้กุยังไม่หายไป ทำให้กุรู้ว่าจริงๆแล้ว พวกเราไม่เคยอยู่ตามลำพังเลย แม้จะมีแค่ตัวเราคนเดียว แต่ในตัวเรานั้นมี วิญญาณเล็กๆ ที่ไม่สามารถรวมพลังมาโค่นล้มเราจากภายในได้เท่านั้น และเป็นสิ่งที่วิทยศาสตร์ให้คำตอบ เรื่องอารมณ์ของมนุษย์ ความอิจฉา ความโลภ ความโกรธ ความเศร้านั้น
มันสามารถมองในทางวิทยศาสตร์หรือจับต้องได้จริงๆไหม
กูเหนื่อย เครียดจนอยากหายไปเฉยๆ
เวลาเหนื่อยใจหรือเครียดเราชอบอ่านบทกวีอันนี้ อ่านแล้วทำให้จิตใจสดใส https://fb.watch/hSElc1WXui/?mibextid=RUbZ1f
แฟนทักมาสารภาพว่านอกใจไปมีอะไรกับคนในที่ทำงานมาครั้งนึง บอกขอโทษ รู้สึกผิด ถ้ากุรับได้ ต่อไปจะไม่ทำอีก กุเองใจนึงก็ทำใจบอกเลิกเขาไม่ได้ แต่อีกใจก็ไม่เชื่อใจเขาอีกแล้ว ยิ่งเป็นคนที่ทำงานยังไงก็ต้องใกล้ชิดกัน กุไม่ได้อยู่บ้านเดียว/ใกล้กับแฟนอีก อยากให้โอกาสแต่ก็กลัวเจ็บซ้ำอีก แม่ง โคตรเจ็บ โคตรเสียใจเลยว่ะ นอนไม่หลับ กินอะไรไม่ลงมาเป็นอาทิตย์ ถามว่าชอบคนนั้นเหรอ อยากเลิกกันแล้วไปคบกับคนนั้นมั้ยก็บอกว่าไม่ได้ชอบขนาดนั้น แต่กุจะเชื่ออะไรคำพูดเขาได้เหรอวะ เครียดสัส ร้องไห้มาหลายวันจนปวดหัว รู้สึกดิ่งโคตรๆ
ขอระบายหน่อยนะ เรื่องมีอยู่ว่านายที่สำนักงานใหญ่เลือกกูไปทำงานด้วย โดยให้กูเข้าสำนักงาน3วันบ้าง 2วันบ้างสลับกับเข้าสาขา ปัญหาคือพวกอีบ้าที่สำนักงานใหญ่แม่งแบ่งพรรคแบ่งพวกแยกกูออกจากอะไรก็ตามที่กูควรรู้ควรทำ มันชัดเจนเพราะมีวันนึงตอนเที่ยงนายจะพาไปเลี้ยง แต่กูไม่รู้เพราะไปคุยงานที่ชั้นอื่น มารู้ก็ตอนเที่ยงที่กูจะลงไปกินข้าว นายถึงถามว่าไม่ไปด้วยกันไง หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้กูก็ตึงๆกับพวกอีบ้ามาเรื่อยๆ
ทำไมกูต้องมานั่งเสียใจเพราะความไม่แคร์ของเขาด้วยวะ
ทำไมกูต้องเจอคนเหี้ยขนาดนี้วะ
https://www.sanook.com/campus/1404068/
กุเป็นเเบบนี้เลยอะกุควรงดโซเชียลใช่ไหมหรืออะไรที่มันเป็นพลังบวก
ถามมู้นี้ได้มั้ย กูเป็นคนชอบจดอะไรที่ต้องทำห้ามลืม แต่เวลาคนเห็นกูจดหรือหยิบไปอ่านเองเขาจะดุกูว่าถ้าแค่นี้จำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ สมองไม่คิดจะพยายามจำเองเหรอ กูเคยไม่จดแล้วลืมจนงานมันพลาด กูเลยยิ่งสับสนว่าแบบนี้ไม่ใช่พยายามเหรอวะ มีงานมาเรื่อยๆไม่ซ้ำกันทุกวัน จดไว้ไม่ดียังไงวะ กูสับสนชิบหาย
>>392 ตอนกูไปฝึกงานเขาบอกให้พกสมุดจดคนละเล่มเลยมึง กูก็เห็นทุกคนจดปกตินะ เอกสารอ่านเพิ่มเติมไรงี้บางทีเขาก็ให้คนไปปริ้นมาให้กูอ่านจดเลย จำอะไรไม่ได้ก็จด งานอะไรก็ต้องจดอยู่แล้ว บางคนก็จดใส่ไอแพตงี้ทั่วโลกก็เป็นกันปะวะไม่งั้นมันจะมีมาได้ไงของพวกนี้ พวกที่มีปัญหาน่าจะเป็นพวกชอบอับอายการกระทำของคนอื่น แต่หน้าด้านฉันไม่ทำตามหรอก เก็ตปะ
มีตัวท้อกซิกอยู่ในบ้านทแบะคือแม่กูเองนี่ต้องทำไงวะ
กูอยากให้แม่งตายๆไปซะที
จะเอายังไงกับชีวิตตอนนี้ดีวะ เป็นผู้ป่วยที่หยุดยา เพราะมีปัญหาเรื่องภาระและค่าใช้จ่าย กำลังรู้สึกเคว้งกับชีวิต ไร้แรงจูงใจการใช้ชีวิตชิบหาย
อยากฆตต.ให้จบ ๆ แต่กลัวคนที่บ้าน กลัวญาติ ต้องลำบากมานั่งจัดงานศพ กลายเป็นอะไรที่น่าเวทนากับคนรอบตัว จะทำไงดีวะ
>>401 เหมือนกันเลยหว่ะ แม่งคลอดกูมาเอง ถุงยางก็ไม่ใช้ กูอยากฆ่าแม่ง แต่ทําไม่ได้กูไม่อยากเอาชีวิตกูไปลงกับเรื่องแม่ง อดทนไว้จนถึงวันทํางานและก็ไปไกลๆจากมันแล้วกันนะ
กูจะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับมครก็ไม่ได้อีก เพราะคนรอบข้างแม่งก็มีความสัมพันธ์ดีๆกับครอบครัว ระบายไปก็ไม่มีใครเข้าใจหรอกมีแต่จะสมเพช
ส่วนกูก็จะเป็นบ้า อยู่กับคนประสาทแดก นอนร้องไห้แทบจะทุกคืน จนตอนนี้ระแวงคนไปหมดแล้ว อยากไปหาหมอ แต่จะทําอะไรได้ต่อให้กูแดกยา ไอคนประสาทแดกมันก็ยังมีตัวคนอยู่ กูอยู่ไม่สุขหรอก
พี่แท้ๆกูก็ไม่สนิท แม่งทําตัวออกห่างกูตั้งแต่กูเด็กๆ แล้วทําร้ายกูด้วย มาตอนนี้ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆทํัาเป็นเหมือนไม่มีอะไรจริงๆกูกลัวพี่ขึ้นสมอง
ส่วนพ่อกูก็ไม่สนิท พ่อขี้กลัวแม่ อะไรที่ไม่สมเหตุสมแม่งก็ไม่แย้ง ถ้ากูโดนแม่หาเรื่องงี่เง่าๆ กูผิดตลอด
กูผิดตลอดทุกเรื่อง พอกูได้ดีก็อวดชาวบ้าน พอกูทําตัวไม่เป็นไปตามที่ครอบครัวต้องการกูก็แค่ขี้
เคว้งชิบหาย ไอเหี้ย กูไม่มีใครเลยหว่ะ
คนบ้าอะไรแม่งเห็นแก่ตัว หลงตัวเอง จะเอาชนะทุกอย่าง แม่แต่ลูกแท้ๆยังไม่ใส่ใจ จิตใจลูกจริงๆเป็นยังไงกูไม่แคร์
กูเหงาไอ่เหี้ย อายุยี่สิบอัพแล้วเรื่องครอบครัวแม่งก็มาหลอกหลอนกูตลอด ต่อไปกูจะใช้ชีวิตยังไงวะ เหมือนชีวิตกูมันไม่สมบูรณ์ ขาดความอบอุ่น
อยากตายชิบหายเกลียดความจน
กูเบื่อชิบหาย ทำไมเหลือแต่ที่นี่ที่พอจะมีความเห็นใจโผล่มาบ้าง ทำไมต้องมีแค่คนไม่เห็นหัวกู ไม่เห็นใจไม่คิดถึงกูบ้างเลย ไม่ว่าความรู้สึกหรือสุขภาพกายสุขภาพใจ
ทำไมคนเรามันต้องเหี้ยแบบนี้วะ
กูเป็น psychopath ไหมวะ
คือทุกครั้งเวลาเห็นข่าวคนยิงกันตาย ฆ่ากันตาย หรือกราดยิงที่คนตายเยอะๆ กูจะรู้สึกสะใจตลอด ยิ่งจำนวนคนตายเยอะยิ่งรู้สึกชอบใจ
อย่างตอนที่เห็นข่าวรัสเซียยิงถล่มยูเครนกูก็รู้สึกชอบใจ คือไม่สนอ่ะว่าฝ่ายไหน แค่มีคนตายก็รู้สึกสนุกแล้ว
แต่ในขณะเดียวกันเวลาดูหนังที่มีฉากทารุณคนแบบโหดๆ กูจะรู้สึกโกรธไอ้คนทำมากเลย
อย่างล่าสุดเรื่องอลิส ฉากที่ไอ้คิงโพธิ์ดำแม่งยิงรัวใส่สาวนักธนูแบบเผาขน แล้วก็แทงกระหน่ำใส่สาวบิกินี่ กูรู้สึกโกรธจนน้ำตาซึมเลย
ตอนนี้กูเลยงงกับตัวเองว่ากูเป็นอะไร ยังไงกันแน่
อลิสอินบอร์ดเดอร์แลนด์ กุว่าถ้าอ่านกาตูนมา มันก็แทบจะรู้หมดแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องดูซีรีย์
เพื่อนกุเอาคลิปพวกฆ่ากันหรือผู้ก่อการร้ายฆ่าตัวประกันให้ดูกูรู้สึกเฉยๆ
แต่พอเป็นคลิปสัตว์โดนทำร้ายแล้วกูกลับทนดูจนจบไม่ได้
แม่กุแม่งไม่เคยยอมรับอะไรซักอย่าง พูดจาหมาๆใส่กุ ไล่กุไปตุย พอผ่านไปเสือกบอกไม่เคยพูด บางทีแม่งแถว่าเป็นคนตรงๆ พอก็ทำจริงเข้าicuอยู่รพเป็นเดือนแม่งดีกะกุได้พักนึง ผ่านไปแล้วย้อนพูดถึงตอนนั้นแม่งใช้คำว่ากุสร้างเรื่อง พอกุออกจากบ้านก็บอกเหงา พอกุอยู่บ้านกุไม่มีดี เป็นที่รองรับอารมณ์แม่ง กุไม่น่าสงสารมึงละกลับมาดูแลเมิงเล้ยยยย โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองว่ะ
>>415 ออกจากบ้านไปอยู่สังคมใหม่ๆที่ใหม่ๆเหอะ แม่บางคนก็ใช้ความเป็นแม่เป็นข้ออ้างทำร้ายเราบ้างต้องตอบแทนบ้าง ยิ่งคนรุ่นก่อนๆออกลูกเพื่อหวังให้เลี้ยงตอนแก่เลย ยังไงชีวิตเราเป็นของเราอะไรที่มันถ่วงเราก็ตัดออกไป
กุโตมากับครอบครัวที่อบอุ่นนะ แต่เมียกุกับแม่ยายตัดขาดแม่ลูกกันเรียบร้อยไม่ติดต่อกันอีกเลยเพราะปัญหาทำร้ายร่างกายกับบังคับให้ซื้อรถชื่อแม่เพื่อตอบแทนบุญคุณ กุเลยเข้าใจ
>>416 กูเนี่ยแหละ เกิดมาในยุคแซนด์วิช ยุคที่พ่อแม่เกิดลูกมาเพื่อใช้ประโยชน์ คาดหวังให้ลูกเลี้ยงและดูแลดูยามแก่เฒ่า แต่เด็กสมัยนี้จะคิดว่าพ่อแม่เป็นคนเลือกที่จะเกิดกูมาเอง กูไม่ได้ขอมาเกิด เรื่องอะไรต้องมาตอบแทนบุญคุณ ต้องมาเลี้ยงพวกมึงตอนแก่ (แต่กูไม่มีลูกนะ) กูไม่โทษคนสมัยก่อนนะ มันคือชุดความคิดตามยุคสมัย เหมือนที่คนยุคหินเลี้ยงสัตว์อะ ไม่ได้มีใครเลี้ยงเพราะรักเหมือนที่คนสมัยนี้เป็นทาสหมาทาสแมวหรอก เขาเลี้ยงไว้ใช้ประโยชน์กันทั้งนั้น เอาไว้ต้อนวัว เฝ้าสัตว์ ล่าเนื้อ กันขโมย ฯลฯ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ คนสมัยก่อนมีลูกเพื่อเป็นแรงงาน เพื่อให้เลี้ยงดูตัวเองยามแก่ มันคือยุคของการเปลี่ยนผ่านแห่งชุดความคิด ทางแก้คือต้องเข้าใจ ยอมรับ ทำใจ และเอาเท่าที่ตัวเองไหว อย่าลืมดูแลจิตใจตัวเองด้วย พวกเราทำได้แค่นั้นแหละ อีกอย่างมันเป็นเรื่องที่พบเจอได้ทั่วไปนะ ครอบครัวที่อยู่ด้วยกันแล้วมีเรื่องตีกันแทบทุกวัน แต่พออยู่ไกลกันแล้วรักกันชิบหาย อย่างยุคโควิดที่คนต้องอยู่ด้วยกันมากขึ้น ยังพบเจอสถิติการหย่าร้างเพิ่มสูงทั่วโลกเลย คนเราพออยู่ใกล้กัน มันมีโอกาสจะเห็นพฤติกรรมที่ทำให้ขัดใจ จนกลายเป็นการกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนั้นก็ต้องรู้จักเข็ดหลาบ อยู่ให้ห่างแล้วอย่ากลับไปอีก ไม่งั้นหนังเรื่องเดิมมันก็วนกลับมาเหมือนเดิมแหละ
>>417 กูคนนึงเลยที่ยอมตายข้างถนนหรือตายในคุกให้มีชีวิตตัดสินใจเองได้ดีกว่ามาเป็นร่างไร้วิญญาณให้พ่อแม่แท้ๆที่ให้กำเนิดมาเพื่อใช้เป็นตัวอะไรสักอย่างในชีวิต ชุดความคิดที่พอมึงบอกมาคือแบบนี้ละดูน่ากลัวชิบหาย ทุกวันนี้กูหนีออกมาแล้วจะใช้แรงกายตัวเองทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อทำให้ตัวเองไปอยู่จุดที่มั่นคงกว่านี้ให้ได้แทนละ ไม่เอาแล้วบ้าน ไม่เอาแล้วครอบครัวที่แม่งสุดท้ายคือจริงๆแล้วไม่ได้ห่วงใยชีวิตกูมาแต่แรกหว่ะ มันเหมือนกับมึงขี่มอไซค์ใน กทม.ชัดๆเลย โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง ชีวิตไม่ได้ดีไปตามความเร็วความสะดวก ถ้าเกิดอุบัติเหตุจริง เลือกสิ้นชีพจรดีกว่าอยู่
แม่ลูกมาเล่นโม่งกันเองป่าววะ 555
พ่อแม่ทำทุกอย่างให้เมิง เมิงเสือกบอว่าให้กำเนิดเมิงทำไม อยู่ร่วมกันมันต้องปรับตัวเข้าหากัน ไม่งั้นมันจะเรียกว่าครอบครัวได้ไง ไม่มีอะไรฟรีในโลกหรอกนะ เมิงได้ร่างหนัง จิตวิญญาณ ความฉลาด มาจากใคร
รู้ว่าตัวเองผิดก็เรื่องนึง ความคิดชั่ววูบก็เรื่องนึง
ทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุดในชีวิตนี้ ไม่งั้นคนที่เสียใจคงเป็นเมิงและมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เป็นตราบาปตลอดชีวิต เป็นลูกอวชาติบุตร ชิงหมาเกิด ถ้าคิดว่าเพื่อน เขามองเมิงดีกว่าพ่อแม่ ก็เชิญ ตอนทุกข์ อย่ามาหาครอบครัวให้ช่วยเหลือละกัน
>>421 ไอคามว่าอยู่ล่วมกัน ปราบข้าวหากันนี่คือฆนแบบเมิงก้มหัวให้กับพ่อแม่เมิงถูกใช้ให้เอาเงินไปประเคนให้พรวกแม่งโจนถึงวันตัยห่าใช่ป้ะ? ถ้านั่นมเมิงมองว่าครือน่าที่ลุกเนี่ย โคนแบบมึงสมควนเข้าจายคามว่าครอบครัวหมั่ยซะนะ พ่อแม่เิมงเปิดฟาร์มเลี้ยงคนมั่ยชั่ยสร้างครอบครัว ซึ่งความคิดแบบสัตว์ของตระกูลเมิงจะให้คนอื่นมองว่าเปนดอกบัวก็คงไม่ได้ละเนอะ แร้วมึงไปทำแบบนี้กับชีวิตเลือดเนื้อเชื้อไขมึงเองอีก ต้องปัยตามราวีหั้ยลุกๆมาเลี้ยงมึงตอนแก่ด้วยความเป็นเจ้านายกับทาสนี่มึงมันชิงหมาเกิดมากกว่าอีกนะ ทุกวันนี้นี่โคตรพ่อแม่มึงจับมึงติดกำไลEMที่ข้อเท้าป่าว้าาา? หรือเวลาลุกมึงกลับมาบั้นนี่จาบล่ามโซ่วั้ยป่ะเนี่ย อ๊๋ ครอบครัวป่าเถื่อน
ID6:2ZALZfzmjY
ID:TQuT+aeikk
มีพร่อกาบแม่ที่ให้กำเนิดลุกมาไว้เลี้ยงเมื๋อนสัด ทุบตีแบบมั่ยนึกถึงใจลุกในไส้ตัวเอง ชั้ยคามป่าเถื่อนเลี้ยงดูเพื่อส่งไปทามรั้ยคนอื่นในสางคม แร้วมาทวงบุนคุนจิกหัวใช้ห้ายไปทำงานหาเงินมาปรนเปรอหั้ยตอนแก่ ไม่ทามก็ทุบตี น่าคาหยะคาแหยง ใครด้ายเกี่วดองกับบไอตระกุลของอีเหี้ยนี่คือเฮงซวยสุดๆ
สุดท้าย อีพวกที่มาด่าคนที่มีปัญหาครอบครัวนี่แม่งก็แค่พวกที่อยากหาปมด้อยของคนอื่นมาด่าให้ดูเลวแล้วยกให้ตัวเองดูดีนั่นแหละ พวกเหี้ยนี่สมองไม่มีด้วยหัวใจที่มองคนด้วยกันก็ไม่มี ดูจากที่มันเติบโตมาจากครอบครัวความคิดแบบนี้ก็รู้เลย แถมเหตุผลที่ยกมาแต่ละอย่าง ถ้าเถียงไปมากกว่านี้เผลอๆแม่งคงยกบาปบุญ สวรรค์นรก เปิดพระคัมภีร์สักศาสนานึงมาเถียงแทนทั้งๆที่ใช้พิสูจน์บนโลกความจริงไม่ได้
กุไม่รู้พวกเมิงเติบโตมาในครอบครัวยังไงนะแต่สำหรับกุ ไม่ใช่แค่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย พี่ป้าน้าอา เพื่อน กัลยณมิตร
มีบุญคุณก็ต้องทดแทน ทั้งนั้น มันไม่ต้องเป็นคำสอน แต่มันคือสามัญสำนึกของคนทั่วไป โลกนี้เราไม่ได้เติบโตมาด้วยลำพัง
เรายืมกายเนื้อ กินสัตว์อื่นเพื่อเอาตัวรอด ถ้าเป็นคนทั้งที ยังมีจิตใจแบบสัตว์อยู่ แบบนี้จะเรียกเป็นมนุษย์ได้ไง
หรือเมิงอยากจะขึ้นชื่อว่า ลูกเนรคุณ มันไม่สำคัญคนอื่นจะคิดกับเมิงยังไง แต่มันสำคัญที่ทำอะไรที่ไม่ผิดใจตัวเอง ไม่ได้รู้สึกผิดภายหลัง ไม่ใช่มโนว่ากุถูกต้อง ถูกที่สุด กุไม่ตกเป็นทาสพ่อแม่ แล้วทำไมพ่อแม่เขาถึงยอมลำบากเลี้ยงดูเรามา ท่านไม่เหนื่อยหรอ ถ้าเป็นเรา เราจะทนเลี้ยงดูเด็กเปรตที่จะมาทิ้งเราอย่างงั้นหรอ ลองมองในมุมมองกลับกันบ้าง
ถ้าป่วยก็ไปหาหมอ ให้เขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคประสาทหรือเปล่า ต้องกินยา ดับอาการ ถ้าไม่ใช่คนปกติ ก็คงใช้ตรรกะคนปกติไม่ได้สินะ ตอนมีสติ จิตกระจ่าง ก็ลองคิดคำลองคลองธรรมดูละกัน ไม่ใช่คิดเข้าข้างตัวเอง
>>429 ไปอ่าน >>415 "กุไม่รู้พวกเมิงเติบโตมาในครอบครัวยังไงนะ" 415 ก็บอกอยู่ปัญหาขอมันคืออะไร มึงจับประเด็นไม่ได้เองแล้วเสือกฟุ้ง บาปบุญคุณโทษอะไรของมึงเนี่ย
ถ้าป่วยก็ไปหาหมอ ให้เขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคประสาทหรือเปล่า ต้องกินยา ดับอาการ ถ้าไม่ใช่คนปกติ ก็คงใช้ตรรกะคนปกติไม่ได้สินะ ตอนมีสติ จิตกระจ่าง ก็ลองคิดคำลองคลองธรรมดูละกัน ไม่ใช่คิดเข้าข้างตัวเอง
ไอ้พวกบาปหนา ต้องเจอพลังแห่งการตีพ่อตีแม่ อ๊าทำไมมือเอ็งใหญ่โตแบบนั้น ข้าไม่เคยเห็นใครตีพ่อตีแม่มากขนาดนี้มาก่อนเลยอ๊าาา
>>429 ว่าแล้ว สุดท้ายก็ใช้ธรรมะเพื่อปกป้องว่าตัวเองถูก 55555+ ก็นะ คนเรามันข้ออ้างร้อยแปดและนี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลว่าตัวเองเป็นมนุษย์เพราะบาป บุญ คุณ โทษที่พิสูจน์บนโลกความจริงไม่ได้ พ่อแม่ไม่ดีบนโลกนี้มันมีอีสัส ไม่เคยเจอเพื่อนที่มีครอบครัวแย่ๆ ถูกพ่อแม่ทำร้ายก็โลกสวยไปเหอะนะ หนังสือที่กูแนะนำให้อ่าน I'm glad my mom died , ชีวิประวัติBritney Spears และประวัติครอบครัวพ่อแม่Nicki Minaj หรืออีกอันของคนไทย(ที่เชื้อจีนหน่อย)ก็ประวัติYoutuber คุณอำนวย Zystem อยู่คลิปแรกสุดเลยของช่อง .....ถ้ามองว่าพ่อแม่คนพวกนี้ก็ทนเลี้ยงดูมาด้วยวิธีที่สมควรทดแทนบุญคุณจริงๆมึงน่าจะไม่ปกติและควรไปหาหมอมากกว่า แถมคนแบบมึงอ่ะตรรกะป่วยมากกว่านะ หรือถ้าคิดในแง่ที่ดีกว่านี้ก็คือคงโลกแคบเพราะไม่รู้ว่ามีคนบนโลกนี้เจอแบบนี้มาก่อนอ่ะเนอะ
ออกข่าวเยอะแยะ ไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ ปล่อยบ้านพักคนชรา พอมีลูก ก็ส่งมาให้เลี้ยง สังคมแย่ลงจริงๆ พัฒนาทางวัตถุ แต่จิตใจคนกลับต่ำลงเรื่อยๆ ตัวเองเกิดมาโชคดีขนาดไหนแล้ว ไม่มีโรค ครบ32 เกิดเป็นคนทั้งทีแต่เสือกเป็นคนดีไม่ได้ ตอนเมิงแก่ นอนพะงาบๆ เดียวก็รู้ อิอิ
>>435 กุมีลูกแล้ว แล้วกุต่างหากที่ต้องขอบคุณลูกที่พวกเขาเกิดมาให้กุมีความสุข กุไม่ให้ลูกต้องมาเลี้ยงกุตอบแทนกุ กุวางแผนการเงินจนมีใช้ยันบั้นปลายชีวิตอยู่แล้วก่อนมีลูก กุไม่ใช่พวกตรรกะตลาดล่างแบบเมิงหรอก ยังมีหน้ามาบอก"ออกข่าวเยอะแยะ ไม่เลี้ยงดูพ่อแม่"เมิงไม่ไปแหกตาดูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้างล่ะว่าพ่อแม่เหี้ยๆออกขยันออกลูกเยอะขนาดไหน ส่วน"สังคมแย่ลงจริงๆ"อันนี้ถูกเพราะมีคนตรรกะแบบเมิงอยู่ในสังคมไง
ไอประเภทที่แก่ละลูกหลานต้องส่งเสียเงินมาใช้นี่ กูเห็นmindsetแบบนี้ล่าสุดคือพวกพม่ากับเขมรนะที่สมัยทำงานกับพวกแม่งมีมาถามว่ามีส่งเงินให้พ่อแม่บ้างยัง ต้องส่งนะบลาๆ เอาตรงๆเหมือนดูถูกบุพการีกูว่าด้อยฝีมือ แก่แล้วไม่มีปัญญาหาแดกเองหว่ะ ซึ่งตอนกูแก่กูไม่ได้อยากแก่ละงอมืองอตีนงานการไม่ทำเร่ขอเงินลูกหลานไปเรื่อยหรอก มันน่าสมเพชที่อยู่ในชาติที่พัฒนาดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านซะเปล่าแต่ความคิดเหมือนชิงคนไร้สัญชาติมาเกิดอ่ะ
เราเป็นอะไรวะ เรารู้สึกเบื่อชีวิตมากๆ อยากตา-ยบ่อยๆ
เรามีสิ่งที่อยากทำอีกหลายอย่าง และสิ่งที่บรรลุเป้าหมายไปแล้วหลายอย่าง
เราเป็นคนที่เมื่อก่อนอยู่ไม่นิ่งชอบทำนู่นทำนี่ แต่พอมีแฟน แฟนก็เข้ามาควบคุมเข้ามาทำให้แทบทุกอย่าง จนเราไม่ได้ทำอะไรเองเท่าที่ควร
ตอนนี้เราก็ไม่ได้ทำงานประจำ อยู่บ้านนอนเล่น เราทำงานแค่เดือนละไม่กี่วัน ก็ได้เงินเยอะกว่าออกไปทำงานของพนักงาน บริษัทแล้ว แต่ก็อยู่ในเกณฑ์พออยู่พอกิน
เราอยากทำอะไรอีกหลายอย่างนะ แต่ก็ไม่ยอมทำอะไรเลย อยากทำแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรสมองมันตื้อไปหมด ชีวิตเรามีความสุขดีมีแฟนที่รักและไว้ใจได้ ครอบครัวก็ดี ถึงจะจนไปหน่อย
แต่เราชอบคิดว่าเราไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้
ชอบจินตนาการว่าเราจะตา-ยยังไงบ่อยมากจนเราเองก็รู้สึกไม่ปกติ
ตอนล้างห้องน้ำก็อยากจะกินน้ำยาล้างห้องน้ำ ตอนไปที่สูงๆก็อยากกระโดดลงไป อยากเอามีดแท-งตัวเอง
แต่เราห้ามใจตัวเองได้อยู่นะกลัวเจ็บ ไม่อยากฆ่-าตัวตา-ย แต่ความรู้สึก
อยากตา-ยมันอยู่ในหัวตลอดเวลา แถมรุนแรงและถี่มากขึ้นทุกวัน •́ ‿ ,•̀
>>439 เหยดเข้ แล้วคนแบบมึงอยู่บ้านนอนเล่นทำไมวะ? ไม่ไปเที่ยวในเมือง หาอะไรกิน ไปสวนสนุกก็ได้ แฟนว่างก็ชวนแฟนไป ...... บนโลกนี้แม่งมีมุมสวยๆงามๆตั้งเยอะ ละจังหวะชีวิตที่มึงออกไปเที่ยวเล่นได้จริงๆตอนนี้ละกูอิจมึงจังเล้ย 555+ เพราะกูยุ่งวุ่นวายกับงานเพื่อหารายได้ไปแล้วนี่ดิ
>>439 ครับ เมิง สัญญาไว้แล้วว่าจะทำ onlyfanก็ไม่ทำ เมิงสัญญาว่าจะออกซิงเกิลก็ไม่ทำ เมิงเป็นคนเก่งนะ วาดรูป ปั้นตุกตุ่น ถ่ายรูปได้หมด แฟนเมิงก็ปรนนิบัติเมิง หาอะไรให้เมิงทำ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
ส่วนครอบครัวตั้งแต่เลี้ยงเมิงมา คงรู้แหละ ว่าเมิงทำงานไม่ไหวอยู่แล้วสภาพนี้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเมิงนิ
สไตล์การแต่งตัวของเมิงก็ดำสนิท น่ากลัวยิ่งกว่าผี
ก็รู้แหละว่าเมิงได้ก้าวเท้า เข้าไปแล้วข้างนึง สีของดวงตาเหมือนปลาตาย และกุรู้ดีว่า ไม่ว่าใครก็ห้ามเมิงไม่ได้ เพราะเมิงไม่ได้แคร์อะไรสักอย่าง มีเพียงแค่เวลาการนับถอยหลังเท่านั้น กุว่ากุรู้แหละว่ามันต้องเป็นช่วงเวลานี่
เพราะสายสัมพันธ์ ตัดได้ มันถึงเป็นสายสัมพันธ์ แต่เมิงจะอยู่ในใจกุตลอดไป เจ้านอนไบนารีของผม
กูโกหกคนอื่นๆเรื่อยๆจนกลายเป็นว่ากูละอายใจว่ะ กูรู้สึก loser มากเลย คือกูเรียนคณะดัง มหาลัยดัง กูสอบตกแล้วตกอีก จากตอนมัธยมคือได้ที่ 1 ตลอด กูกลายเป็นซึมเศร้า เรียนให้จบๆไป ไม่เข้าหัวไรเลย ตอนนี้คือสอบตก เลยต้องเรียนปี 5 แต่กูโกหกพ่อแม่กูว่ากูจบแล้ว ไปเจอญาติก็ต้องโกหก ผู้ใหญ่ทุกคนที่รู้จักพ่อแม่กูกํก็ต้องโกหก พอเค้าถามว่าแพลนต่อไปเป็นยังไง คือกูไม่อยากทำด้านนี้แล้ว กูอยากเปิดร้านขายข้าวข้างทาง อยากทำยูทูปหาเงิน ซึ่งกูก็พอมีเงินเข้ามาแต่มันไม่เยอะ ละมันไม่มีเกียรติเหมือนสายที่กูเรียนมา แต่กูก็ต้องโกหกพ่อแม่ว่ามีอยู่สองแสน เพราะเค้าเริ่มกดดันกูให้ไปทำงานตรงสาย กูเลยต้องโกหกทุกคนไปอีกว่ากูจะไปต่อโทด้านนี้ที่ ตปท. เลยยังไม่อยากทำงานด้านนี้ แต่ขอทำงานด้านอื่นที่ได้เงินเยอะๆเร็วๆจะได้มีเงินเก็บไปจ่ายค่าเทอมต่อโท พ่อแม่กูก็เลยยอมให้เงินใช้จ่ายกูทุกเดือนๆเพราะคิดว่าเงินสองแสนนั้นกูจะเอาไปเรียนต่อจริงๆ ทุกคนเลยไม่กะแนะกะแหนกูเรื่องไปทำงานแล้วแต่มาขื่นชมกูแทนว่ากูเก่งมาก ภาพภายนอกแม่งดูดีมาก ตอนนี้คือต้องเรียนให้จบจริงๆ แล้วก็ต้องรีบทำงานที่กูทำให้สำเร็จได้เงินเยอะๆ จะได้โกหกต่อว่ากูไม่อยากไปเรียนต่อแล้ว อยากทำด้านนี้แทน ทำไมกูเป็นแบบนี้วะ
>>442 "People are all born liars and are mostly used to lying. If a person that has never lied even once in their lives exists, that existence itself would be a lie.
ก็ปกตินิ ถ้าตัองเป็นในสิ่งที่สังคมให้เป็นตัวฉันเหลือทางเดียวก็คือต้องตัย หรือก็คือไม่ได้ดำรงอยู่ในโลกนี้ นั่นละคือตัวตนของพวกเรา
อันนี้ไม่แน่ใจว่าควรจะลงในโม่งคุยเรื่องเรียนหรือห้องนี้ เกริ่นก่อนเลยว่ากูเป็นเด็กม.ปลาย ที่เรียนไม่ค่อยเก่งและได้เกรดไม่ดี ซึ่งกูก็พยายามจนสอบมิดเทอมผ่านทุกวิชายกเว้นวิชาเดียว ซึ่งวิชานั้นทำให้กูโดนที่บ้านด่าหนักมากในสายตากู แบบ ซ้ำเติมว่าทุกวันนี้กลับบ้านมาทำอะไรบ้างเอาแต่ทำตัวไร้สาระใช่มั้ย ซ้ำเติมว่าคิดว่าตัวเองพยายามพอมั้ย ซึ่งพอเข้าใจว่าเขาหวังดีและกูอาจจะอ่อนแอเกินไป แต่ได้ยินครั้งนั้นมันหนักและทำให้น้อยใจมากจริงๆรู้ว่าบ้านอื่นคงจะโดนหนักกว่านี้แต่แบบ กูอ่อนแอไง5555
ทุกวันนี้เวลากูสอบย่อยแล้วได้คะแนนแย่ๆมากูจะเครียดหนักและมีความคิดชั่ววูบว่าถ้าเทอมนี้เกรดไม่ได้ตามที่หวังไว้จะแบบ หายไปจากโลกนี้อ่ะ คงเข้าใจที่กูพูด ซึ่งไม่อยากคิดแบบนี้อีกแล้ว ขอบคุณที่ให้ระบาย
>>440 เราทำพวกขายของออนไลน์ ให้แฟนเป็นคนขาย เราออกบูธไปขายข้างนอกบ้างเดือนละไม่กี่ครั้ง มันก็พอมีพอกินอะ แต่ไม่พอเที่ยว ส่วนมากเลยได้แต่นอนเล่นอยู่บ้าน
มีเก็บตังไปบ้าง ไปสวนสนุกไปนู่นไปนี่ ไปต่างจังหวัด เบื่อๆก็ไปนอนโรงแรมในเมืองอะไรพวกนี้ก็ทำมาแล้ว
แต่ก็อยากตา-ยอยู่ดี อยากโดดลงตรงหน้าต่างโรงแรมไปอีก มันไม่มีไฟในการใช้ชีวิตเลยอะ
เรารู้ว่าชีวิตเราสบายกว่าหลายๆคนนะแต่เราไม่อยากอยู่ต่อเลย
รู้สึกอยากเปลี่ยนความคิดตัวเอง แต่ก็ชอบอยู่ดีๆก็นึกถึงการฆ่-าตัวตา-ย
>>441 หะ? น่าจะเข้าใจผิดนะเราไม่ใช่คนที่คุณรู้จักหรอก เราไม่คอยสัญญากับใครว่าจะทำ อลฟ แถมเรามีเพลง มี MVเป็นของตัวเองตั้งนานแล้วด้วย (´ . .̫ . `)
>>442 มึงพลาดตั้งแต่ไม่ยอมบอกตรงๆว่าต้องเรียนปี 5 บางครั้งตอนที่คิดจะโกหก มึงต้องคิดเผื่อไปด้วยว่าจะโกหกไปอีกนานเท่าไหร่เพื่อปกปิด ถ้าเลือกบอกความจริงตอนนั้นอาจจะโดนด่าแต่มึงก็ไม่ต้อฃมาเหนื่อยขนาดนี้ เอาจริงๆ มึงไม่ค่อยคุยกะที่บ้านใช่ไหม มึงไม่ได้มาสอบตกในเทอมเดียวหรอก กูเดาว่ามึงรู้ตัวมาสักพักแล้วว่าการเรียนแย่ลง แต่มึงไม่เคยเกริ่นให้ที่บ้านฟังเลย พอมาถึงจุดที่มันตกไปเลย มึงไม่กล้าจะบอกใคร เพราะเขายังมีภาพจำเก่าๆ เรียนได้ที่ 1 ของห้องมาก่อน ถ้าจะแนะนำตอนนี้ คือบอกความจริงกับที่บ้าน หรือหยุดโกหกเพิ่ม ยอมดูเป็นคนกระจอกบ้าง อันนั้นอันนี้พลาดบ้าง มึงไม่ยอมล้มให้เขาเห็น เขาก็เผลอคิดไปว่ามึงล้มไม่เป็นน่ะสิ แล้วมึงก็ต้องสร้างภาพแบกความคาดหวังเป็นคนเพอร์เฟคแบบนั้นตลอดไป
มึง คือกูคิดสักพักว่าควรไปพบจิตแพทย์ดีมั้ย กูเรียนแล้วกูไม่มีความสุขเลย ตอนแรกกูก็ได้แต่สงสัยนะว่าทำไมถึงไม่มี ในเมื่อกูก็เลือกเองกับมือ ทั้งคณะ และเมื่อต้องเข้าสาขากูก็เป็นคนเลือกเองอีก มาเวลานี้กูรู้แล้ว เมื่อเราเรียนไม่เข้าใจ การเรียนเราจะไม่มีความสุขอีกต่อไป กูเครียดมาก สอบทีไรกูอยากอ้วก กูอยากร้องไห้ กูร้องไห้ทุกครั้งที่สอบ กูไม่รู้ว่าทำไม ในเมื่อที่บ้านกูก็ไม่ได้กดดันกูนะ ตอนแรกกุนึกว่าเป็นแค่เทอม1 พอมาเทอม2 กูแม่งหนักกว่าเก่า กูผ่านแต่ละวันไปได้ด้วยการนอน คือแบบนึ้กูเสี่ยงเข้าโรคซึมเศร้ายัง กูอยากกลับบ้านไปแบบครบถ้วนสมบูรณ์ หมายถึงสภาพร่างกายและจิตใจ กูไม่อยากให้การเรียนทำให้กูแตกสลาย อาการที่กูเป็นตอนนี้ ดูควรไปพบจิตแพทย์ของมอมั้ย ก่อนที่กูจะแตกสลายไปมากกว่านี่
>>444 อันนี้ต้องหัดหูทวนลมว่ะ เกรดวิชาเดียวมันไม่ตายหรอก ถ้ามึงตามแก้ได้ แต่เรื่องคนอื่นแก้ยาก แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัว
มีปัญหาก็ลองๆ ระเบิดๆ ดูบ้าง ปัญหาอาจจะลดลง ไม่แย่กว่ามึงตายหรอก
>>448 ถึงเรื่องที่มึงเล่ากูจะเห็นเป็นเรื่องปกติ ที่คนเจอกันเยอะมากก็ตาม แต่ไปเหอะ อาจจะดีขึ้นก็ได้ บางคนแก้ง่ายบางคนแก้ยาก
ผมชอบมาโทรลในโม่ง ถ้ามีคนมางับเบ็ดผมจะดีใจมาก ผมยังสุขภาพจิตดีอยู่ไหมครับ
ky ทำยังไงดีวะเวลาที่เรารู้ตัวว่าเรานิสัยไม่ดีวะ กูรู้ตัวแหละว่าตัวเองมีนิสัยเหี้ยหลายๆอย่าง ชอบควบคุมคนอื่น ชอบทำให้คนอื่นเจ็บด้วยคำพูด จนตอนนี้พอกูโดนคนรอบข้างทิ้งไปเรื่อยๆทีละคนเพิ่งมาสำนึก แต่กูก็ไม่มั่นใจว่าในอนาคตกูจะทำอีกมั้ย กูควรปรับตัวยังไงดี กูยั้งปากตัวเองไม่เป็น คิดลบอะไรใส่ใครก็พูดไปเลยจนเขาไม่เอากูแล้ว
>>445 เมิงแค่ว่างเกินไปจนรู้สึกไร้ค่า ลองกลับไปทำงานประจำดูต่อให้เงินน้อยกว่าแต่ก็ทำให้ชีวิตเมิงมีไรทำทุกวันแล้วก็มีรู้สึกค่ามากขึ้น แนะนำเพิ่มเติมว่าอย่ามองแค่เงินเดือนลองมองสวัสดิการที่ได้มาด้วย เจ็บปวดเข้ารพ.ก็มีประกันกลุ่มช่วยไรงี้
>>448 นี่ไม่ใช่อาการของโรคซึมเศร้าเลยสักนิด แต่ดูค่อนไปทางโรควิตกกังวลมากกว่า (Anxiety Disorder) ไปพบจิตแพทย์ก็ดีถ้ามีเวลา+มีเงิน แต่กุมั่นใจว่าอาการนี้จะหายไปเองเมื่อเรียนจบแล้วหรือเปลี่ยนสายไปเรียนสาขาที่ชอบ
>>451 ถ้ารู้ตัวแล้วก็เปลี่ยนแปลงตัวเองได้เลย เมิงยังดีกว่าพวกทำเหี้ยแล้วไม่รู้ตัวเยอะ
สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราเครียดมากเกินไป
- เงียบใส่คนอื่นแบบไม่รู้ตัว
- สุขกับอะไรไม่สุด
- แม้กระทั่งสิ่งที่เราชอบก็ฮีลเราไม่ได้
- เบื่อกับอะไรง่ายๆ
- ยิ้มแต่กลับไม่รู้สึกสบายใจ
- ใจไม่เอาอะไรแล้ว
- อยากหายไปอยู่เงียบๆคนเดียว
โดนคนทำนิสัยท็อกซิกใส่ เขาคิดว่ามันปกติ ทำไปก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไร
ขอมาบ่นหน่อยคือตามสปอยนิยายในเว็บโนเวลละก็ไปถามเจ้าของโพสว่าภาพนี้มาจากตอนไหนเหรอซึ่งตอนเเรกคิดว่านางไม่เห็นที่โควทไปรึเปล่าสรุปไม่จ้าเห็นเเต่เมินกันเเบบซึ่งๆหน้าเเล้วนางก็ไปคุยกับคนอื่นเฉยความรู้สึกคือโคตรโดนข้ามหัวเหมือนไร้ตัวตนสุดเเถมพอคนอื่นมาโควทถามเพิ่มนางก็ไปตอบ+กดไลค์คนถามอย่างนี่ถึงกับหน้าเเห้ง
ทำไรผิดปะวะเเบบก็ไม่อยากมาปสดกะอะไรเเบบนี้หรอกเเต่มันเสียความรู้สึกว่ะ
กูอยากให้การต่อยเรียกสติแบบในการ์ตูนมีจริงจังวะ จะให้เพื่อนต่อยกูหนักๆซักสองสามหมัด
กูชักเข้าใจอดีตเพื่อนที่เคยตีกันละ ตอนนั้นกูมีอะไรก็ไปบ่นไประบายใส่มัน แล้วก็เคยเห็นมันบ่นว่าเพื่อนทรีทมันเหมือนถังขยะ ตอนนั้นกูไม่เข้าใจหรอก กูคิดว่ากูคุยปกติ นึกว่ามันหมายถึงคนอื่นด้วย
ตอนนี้กูเจอละ มีคนที่พอเกิดเรื่องก็มาเสียใจมาจิตตกใส่กู ไม่เชิงบ่นด้วยซ้ำ มาจิตตกลูกเดียวเลย พูดแต่คำแย่ๆใส่กูเป็นชมๆ แต่เสือกคุยดีกับคนอื่น รู้สึกเหมือนมันไปตีหน้าคุยดีๆกะชาวบ้าน พอกับกูก็มาขี้มาเยี่ยวใส่แล้วก็ไป กูควรทำไง ไม่ต้องคุยเหรอ แม่งรู้สึกผิดกะอีนั่นขึ้นมาเลย
ทำยังไงจะแก้นิสัยเสียได้วะ กูอยากตายแล้ว
มีเพื่อนชายคนนึงที่เคยล่วงเกินกูตอนมัธยม แล้วกูก็เลิกยุ่งกับมันไปแต่ยังเจ็บใจและรู้สึกเหี้ยมาถึงปัจจุบัน ที่รู้สึกแย่กว่าคือได้บังเอิญเจอกันในมหาลัย ต่อหน้าแสร้งทำเป็นคุยกันปกติแต่กูยังลบความรู้สึกแย่ ๆ ไม่ได้เลย ไม่รู้ทำไมมันถึงดูไม่สะทกสะท้านอะไรซักนิด เหมือนไม่อยู่ในความทรงจำมันด้วยซ้ำมั้ง เพราะสำหรับมันคงเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่สำหรับกูผ่านมา 4 ปีบางทีก็ยังฝันถึงเรื่องนี้ กูอยากให้มันขอโทษกูเพื่อที่กูจะได้ปล่อยวางซักที แต่กูก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องนี้มาพูดอีก กูต้องจัดการตัวเองยังไง
การมีแฟนที่แผ่เอนเนอร์จี้ลบแม่งพลอยทำให้เราติดลบ ดีเพรสลงไปด้วย
มีใครเจอบ้างปะ แล้วแก้ยังไง หรือทนไม่ไหวเลิก หรือพากับลบกันดิ่ง
ฟุ้งซ่าน กูกลัวความตายว่ะ ไม่ได้กลัวว่ามันจะทรมานหรือเจ็บปวดตอนตายนะ แต่กูกลัวว่าพอกูตายไปแล้วมันก็จบแค่นั้น มืด ไม่มีอะไรเลย เหมือนจู่ๆ กูก็หายไปเฉยๆ ถึงตอนนั้นกูอาจจะไม่รู้สึกอะไรแล้วก็จริง แต่กูก็ยังกลัวอยู่ดี และกูก็คงเสียใจที่กูจะไม่ได้ไปเจอกับคนที่รักที่ตายไปก่อนถ้าโลกหลังความตายสุดท้ายมันไม่มีจริง ชีวิตก็แค่นี้เองเหรอ พอตายมันก็จบทุกอย่าง กูไม่ใช่คนที่เชื่อในศาสนาอะไร แต่ลึกๆ กูก็ยังหวังว่ามันมีสวรรค์ มีที่ๆ คนที่กูรักไปอยู่ตอนพวกเค้าตาย แล้วพอกูตายกูก็จะได้เจอพวกเค้าอีกครั้ง ได้กลับมาเกิดมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอีกครั้ง ไม่ใช่หายไปเฉยๆ เหมือนที่กูทำมาทั้งชีวิตมันไม่มีค่าอะไร
>>463 กูพูดตรงๆนะ ในประเทศห่านี่ กูไม่ห่วงแก่ตายนะกูกลัวตายด้วยอุบัติเหตุ คนติดยาสติไม่ดีอยู่ๆเดินมาเอามีดมาแทง ทหารคลั่งตำรวจคลั่งกราดยิงงี้
คือเรื่องแก่ตายนี่ยาวๆไปเพราะจากข่าวหลายๆแห่งอีกไม่น่าเกิน 20 ปีหรอกมึงจะมียา/นวัฒกรรมอะไรซักอย่างที่ทำให้มึงหนุ่มขึ้นแน่นอน พวกรวยๆมันไม่อยากแก่ตายหรอก
แค่ถ้ามึงย้ายไปอยู่ประเทศอื่นที่สภาพสังคมมันดีๆหน่อยได้จะดีมากเลย
>>453 แฟนกูกำลังมีอาการแบบนี้อยู่เลยโม่ง ปวดหัวมากไม่รู้ว่าจะช่วยเค้ายังไงดีว่ะ
กูพยายามจะพาเค้าไปเที่ยวพักผ่อนหรือบอกให้ลุกออกจากงาน วางมือถือมานอนพักผ่อนให้เพียงพอนะ แต่เจ้าตัวก็ดื้อไม่ยอมทำอีก
แฟนกูเป็นทั้งอินโทรเวิส นอนไม่ค่อยหลับ ติดมือถือ ติดเพอร์เฟ็คจนชอบเอาเวลาพักเวลานอนแอบไปนั่งทำงานโต้รุ่งบ่อยๆ
แล้วก็จะมาบ่นเหนื่อยบ่นเครียดทีหลัง ทำเอากูเริ่มเหนื่อยไปด้วยแล้วว่ะ กูอยากช่วยเค้านะ แต่ยังไม่อยากลากเค้าไปหาหมอว่ะ
ใครเคยเจออะไรแบบนี้แล้วพอจะมีวิธีอื่นแนะนำกูบ้างมั้ย
แฟนรักไม่เท่าตอนคบกันใหม่ๆ บางทีรู้สึกว่าเป็นแค่เพื่อน กูนั่งประสาทแดกคนเดียวเพราะคุยไปก็ไม่ได้อะไร กูยังเห็นเขาเอาใจไปรักไอดอลได้แถมเปย์ของตลอด เอาง่ายๆจู่ๆกูก็รู้สึกไม่มีตัวตน
>>468 ถ้าตอบมาแบบนั้นน่าถามไปต่อเลยนะว่าแล้วทำไมเปลี่ยนไปไม่เหมือนตอนคบกันใหม่ๆ ธรรมดาผช.ไม่พูดตรงๆก่อนหรอกเพราะไม่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเป็นมู๊ดซีเรียส กุว่าลองจับเข่าคุยเลยดีกว่า เรารู้สึกได้ว่าสนใจเราน้อยลงนะ ถ้าเราโอเคหมดแบบที่เทอว่าจริงก็ควรทรีตเราเหมือนเดิมสิ หรืออาจเป็นเราที่คิดมากไปเองเขาอาจเปย์แค่เพราะแค่ชอบการเอนเตอร์เทนก็ควรคุยกันกำหนดงบเปย์ที่เหมาะสมไปเลยจะได้ปรับความเข้าใจกันไปในตัว
ปล.แฟนเราก็ตามเปย์วีทูปเหมือนกันแต่เขาปรับความเข้าใจกับเราก่อน แล้วก็แบ่งเวลากับเราโดยชวนเราดูด้วยกันจะได้รู้สึกมีกิจกรรมร่วมกัน
กู466กับ468เอง กูยังเป็นฝ่ายหนุงหนิงขอดูเขาเล่นเกมอยู่ เอาตัวเองไปในสิ่งที่แฟนชอบมาพักใหญ่แล้วแฟนเปย์เยอะจริง กูเสนอกำหนดงบต่อเดือน ล่าสุดไปเจอเขาเปย์เกินงบที่คุยกัน
ตอนรักใหม่ๆ แฟนชอบใส่ใจ อ่อนโยนปลอบเก่งแต่ไม่ถึงกับสปอย ก็ดีมาเรื่อยจนถึงวันที่เขาไปเป็นพ่อยก
ในเมื่อแฟนชอบไลฟ์สไตล์นี้กูก็ยอมรับ แฟนเลิกเปย์ขนมให้กูก้ยังไม่อะไร แต่พอไม่มีข้อความค้างไม่มีการใส่ใจเหมือนรักใหม่ๆ กูก็หาจุดของตัวเองไม่เจอ
ทำยังไงถึงจะลืมความเศร้าจากการที่สัตว์เลี้ยงตายได้วะ กระต่ายที่กูเลี้ยงมันตายมาอาทิตย์นึงแล้วแต่กูยังลืมมันไม่ได้เลย มองไปตรงไหนในบ้านก็นึกถึงตอนมันยังมีชีวิตอยู่ ร้องไห้ทุกวันเลย
กูเป็นลูกคนเดียว ไม่ได้คู่ครอง ไม่แต่งงานใดๆ เงินเดือนก็แค่ 15k พ่อกับแม่กูอายุมาก(เกินวัยเกษียณกันพอสมควร)แล้วทุกๆสิ้นเดือนแม่งจะมาขอกูจนกูเริ่มหงุดหงิด กูจะเอาเงินไปตั้งตัวยังไงได้วะ อยากตายไปให้พ้นๆทำไมกูต้องมาเก็บออมเพื่อเลี้ยงเขา กูเครียด
อาการเวลาเจออะไรที่ไม่ชอบหรือมันขัดหูขัดตาขัดใจจะชอบเก็บมาด่าควรเเก้ยังไงดีวะ มันอาจจะดูย้อนเเย้งที่เเบบไม่ชอบก็ไม่ต้องไปสนใจสิจะเก็บไปคิดมากทำไม เเต่คือกูทำไม่ได้ว่ะต้องด่าต้องระรานถึงจะสบายใจหายประสาทเเดก
กูถามเพื่อนโม่งที่มีเคยมีปัญหาทางจิตหน่อย เวลาที่มึงรู้สึกมึงไม่มีความโดยไม่มีสาเหตุ พวกมึงทำยังไงกันวะ กูรู้สึกแบบไม่รู้ตัวเองอยากได้อะไรหรืออยากทำอะไรเลย รู้แค่มีบางอย่างเคลือบแครงใจกูอะ แล้วเป็นเกือบอาทิตย์
>>477 เมิงเป็นเหมือนกุเลย กุลอง ชว แล้วไม่หาย
ขาอ่อนแรงนอน เราก็ไม่รู้จะทำลายความเคลือบแคลงในใจยังไง แต่กุก็พอรู้ว่า กุย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้หาอะไรท้าทายใหม่ๆ อยู่ในเซฟโซนจนเกินไป เมิงลองลาออกจากงานแล้วไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศดู
บางคนอาจบอกว่าโง่ แต่มันอาจจะทำลายคงามเคลือบแคลงในใจได้และไม่กลายเป็นโรคซศ
เลิกทำร้ายร่างกายมานานแล้ว หลายปีเลย 2-3ปีได้มั้ง พึ่งเริ่มมาทำวันนี้ แอบกลัวไม่ได้ว่าถ้ากุเริ่มวันนี้ วันหน้าๆต่อไปกุจะยังทำต่อหรือเปล่า อารมณ์แบบเสพติดงี้ เพราะเมื่อก่อนที่กุทำกุทำจนแขนไม่มีที่ว่าง ต้องทำซ้ำรอยเดิมที่ยังหายไม่สนิท จะไปหาจิตแพทย์แค่เปิดเว็บดูโง่ๆกุยังขก.เลย
แฟนที่ผ่านมา3คนทุกคนต้องมีความดีเพรสอะไรสักอย่างสองอย่าง เคยหนักสุดก็กรีดข้อมือ บางคนก็แผ่เอเนอร์จี้ลบ ไม่ก็ที่ครอบครัวมีปัญหา
จนทำให้กุดิ่งบ้าง มีความคิดลบๆบ้าง พอเลิกแล้วชีวิตกุเริ่มกลับมาคงที่ ไม่ค่อยดิ่ง ไม่moody นานๆทีบ้าง
แต่ปัญหาคือผญ.ที่เข้ามาคุยๆทำเหมือนสนใจกุตอนนี้เนี่ย ทั้ง3คนคือมีบางสิ่งที่เหมือนกันคือ มีปัญหาทางบ้าน ดีเพรสขั้นหาหมอนอนรพ.
กุก็ไม่เข้าใจทำไมถึงมีแต่คนแนวนี้เข้าหากุตลอดเวลา แถมกุก็ดันให้ความสนใจด้วย อาจจะเพราะกุชอบนั่งฟังปัญหาชีวิต เสนอแนวคิดทางแก้ คือชอบคุยอะไรที่มันลึกๆมีความหมาย แล้วคือพวกผญ.แฮปปี้ก็ไม่ค่อยจะเข้าหากุ พอเป็นคนคุยสักพักก็เหมือนเขาเบื่อแล้วก็หายไป
แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไรแล้ว เพราะคิดว่าจะไม่เป็นแฟนกับคนที่สุขภาพจิตมีปัญหาอีกแล้ว เข็ดกับปวดหัวมาเยอะ แถมก็30แล้ว มุมมองชีวิตก็พัฒนาขึ้นไปเยอะ ไม่มีก็ไม่มี มีเพื่อนตอนนี้ก็แฮปปี้ดี ครอบครัวก็ซัพพอตตลอด ขอแค่อย่าให้ตัวเองไปรู้สึกกับใครจนต้องยอมเสียสละความสุขของตัวเองก็พอ
>>484 คำตอบก็อยู่ในคำถามแล้วนะ เขาเข้าหามึงเพราะรู้ว่ามึงรับฟัง มึงใส่ใจ มึงเป็นเซฟโซนให้เขาได้ไง เพราะคนพวกนี้มีแนวโน้ม self-esteem ต่ำ ต้องการคนรับฟัง คนพึ่งพิงเป็นพิเศษ ส่วนคนที่สุขภาพจิตปกติ self-esteem สูงมันจะมีความ independent ในตัวเองอยู่แล้ว ไม่ได้อยากนั่งคุยเรื่องลบ ๆ หรือปัญหาชีวิตอะไรกับคนอื่นขนาดนั้นหรอก
>>485 กุก็independentระดับนึงนะ เพราะดูหนังกินข้าว ไปคาเฟ่ เดินห้าง ออกไปถ่ายรูปวิวรูปเมือง ไปคนเดียวตลอด ถ้าอยากทำอะไรก็ออกไปเลย ไม่นัดเพื่อนนัดใคร
เรื่องคุยนี่ถ้าเลี่ยงก็คงไม่ทักไปก็น่าจะจบ แต่กุสงสัยทำไมผญ.ชอบให้อีกฝั่งทักมาก่อน แต่จะหายไปไม่คุยกันเลย ทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำไรผิดก็น่าสงสารอะนะ ถ้าเพื่อนทำแบบนี้กับกุก็รู้สึกแบบทำไม
แต่ดีที่กุไม่ใช่คนชอบชวนหรือนัดกินข้าวอะไร เลยก็แค่ได้คุย ซึ่งกุชอบคุยอะไรที่มันมีความหมาย แลกเปลี่ยนมุมมองความคิด ไม่ชอบแบบคุยคนทั่วไป ทำไรอยู่ กินข้าวยัง ไปไหนมา อะไรพวกนี้ หรือกุต้องทำใจยอมรับว่าถ้าจะเจอคนชีวิตแฮปปี้ทั่วไปก็คุยอะไรง่ายๆไม่เครียดแบบนี้
เข้าสังคมไม่เป็น พูดไม่ชัด ทำงานก็ไม่เก่งอีก ชีวิตหนอ
กูเป็นสนามอารมณ์มีไว้ด่าแต่เรื่องเดิมๆ ด่าแบบไม่ถามสักคำว่ากูรู้สึกผิดปางตายรึยัง เอาเถอะ กูจะเป็นเหมือนเองแหละ
มีเลือดในนํ้ามูกมา3-4วันละ มีวิธีรักษาเองมั้ย ทําไงให้เลือดดมันหยุดวะ มันน่าจะมาจากข้างในเลยอ่ะ ไซนัสเรอะ กูไม่อยากไปหาหมอกูอยู่ต่างเทศค่ารักษาแพง ควรกินยาอะไรมั้ย
>โรคประจำตัว ภูมิแพ้อากาศ
เหตุผลที่เป็นหวัดเพราะอยู่ข้างนอกอากาศเย็นเกินไปแต่อยากใส่เสื้อบาง แต่อาทิตย์นี้กูมาพักในห้องอากาศอบอุ่นแล้ว แต่เบือดมันยังมาเรื่อยๆกับนํ้ามูก หรือหนองวะแม่ง ช่วยด้วยยยยยย💀
หมดหวังแล้วชีวิต กุเสียทุกอย่าง กุไม่รุ้จะยุไปเพื่ออะไร ความพยายามของกุทำไมมันไม่มีความหมายเลยวะ เชี่ยเิ้ยฟ
>>491 ชีวิตมึงมีค่านะเว้ยที่ได้มาเจอกูในวันนี้ ทุกคําตอบมีความหมายช่วยโม่งหนึ่งชีวิตให้ไม่ตาย>>489 >>490 >>492 กูไม่มีตังค์ ที่นี่ค่ารักษาแพงกูไม่ได้อยู่ไทยยยยยน อ่าคคคคครคคร มันยังเคยมีโม่งหมอฟัน ไหนหล่ะโม่งหมอหู คอ จมูก หมออออช่วยผมด้วยยยยมันไม่ไหลแบบเลือดกำเดานะ แต่ทุกครั้งที่สั่งนํ้ามูกมันมีเลือดลิ่มเลือดออกมา แล้วน่าจะมาจากแค่โพรงจมูกขวาอ่ะ กูใช้ยาพ่นจมูกฉีดไปฆ่าเชื้อโรคอยู่ กูไม่อยากติดเชื้ออ่ะนะกูว่าข้างในมันต้องเป็นแผลมั้ง ตอนนี้ทุกอย่างมันปกติหมด อาการหวัดกูดีขึ้น แต่นํ้ามูกยังมีแต่เลือด กูไม่เจ็บโพรงจมูกเลยนะ เหมือนเป็นแค่เส้นเลือดแตกแบบสั่งนํ้ามูกแรงๆ แต่ปกติมันจะหายไว นี่เป็นค้างมา3วันแล้วอ่ะ แงงงงงงงงงงง๊
เคยเป็นเหมือนกันไปตรวจแล้วก็เป็นไซนัสตามคาดทางที่ดีอย่าสั่งน้ำมูกบ่อยให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือแทนลดอักเสบแถมน้ำมูกไม่เลือดหายใจสะดวกด้วย
ซอรี่ นึกว่าอยู่ไทย เพื่อนต้องดูแล้วว่าอยู่ประเทศอะไร แล้วอากาศมันปกติไหม ช่วงนี้ช่วงฝุ่นพีเอ็มมันกำลังมา หรือเป็นฤดูที่ดอกไม้มันพ่นเกสรไหม แพ้รึเปล่า
คือกุกรีดน่องขาตัวเองแล้วมีอารมณ์กับแผลที่กรีดตรงน่องขา กุควรไปหาหมอว่าอะไร; ; คือน่องขาขาวๆกับแผลเป็นอ่ะ มันทำกุอารมณ์ขึ้นแปลกๆ
>>498 >>500 เอ่ออัพเดทกูยังไม่ตายนะ กูลองวิถีชางบ้านไปก่อน ไอเว็บที่มึงแนะนํามาก็ขอบคุณแต่กูขี้เกียจสมัครไว้ตอนไกล้ๆตายแล้วจะใช้คุยแล้วกัน
กูน่าจะมีปัญหาไซนัสเนี่ยแหละ แต่ใช้นํ้าเกลือล้างจมูก ยาพ่นจมูก แล้วยาแก้แพ้ พยายามไม่สูดอากาศแห้งไม่ดมควันดมฝุ่น อาการกูดีขึ้นหว่ะ อีก3เดือนจะกลับไปไทยละ ก็ค่อยไปหาหมอประจําณตอนนั้น เป็นขอบคุณที่ตอบกู คนรอบตัวแม่งมีแต่มาdissว่าเส้นเลือดฝอยแตกปกติๆหน่า ปกติโพ่งเส้นเลือดบ้าอะไรกูสําลีกออกมาเป็นลิ่มเลือดวะ กูเป็นภูมิแพ้มามึงนึกว่ากูโงาเหรอไม่รู้จักเส้นเลือดฝอยแตก ควายยยย //อะ แฮ่ม ก็เป็นว่าขอขอบคุณอีกครั้งครับ กูแพนิคไงเลยอยากหาคนซับพอร์ต บอกแค่ชื่อยาโง่ๆมาก็อุ่นใจแล้วไม่ใช่มาบอกว่าเป็นหวัดธรรมดาแค่นี้โดยที่ไม่เห็นว่าทิชชู่ที่กูสั่งนํ้ามูกมานี่มันผ้าอนามัยเปื่นเมนส์ที่บืมหอชัดๆ คือเบือดกูออกเยอะขนาดนั้นจริงๆแต่ไม่ไหลออกมาเท่าเลือดกำเด นี่คืออาการภูมิแพ้อากาศทีาหนักที่สุดเท่าที่เป็นมาอายุ20++กว่าปีแล้วไปหาหมอไม่ได้ กลัวจะติดเชื้อด้วยไอแผลนี่ แม่งพอเป็นอะไรไกล้ตายมีแต่โม่งที่ช่วยกูได้ เพื่อนหรือครอบครัวกูนี่แม่งพึ่งไม่ได้เลย ชีวิตอนาถาชิบหาย💀🙏 ขอให้พวกมึงเจริญๆนะ สาธุที่เข้ามาอ่านมาตอบ
สวัสดีโม่ง เราเป็นเด็กจบใหม่ทำงานได้1ปีแล้วลาออกมา คือก่อนออกผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าเราไม่เหมาะกับงานสายนี้ ซึ่งเราก็คิดอยู่จริงๆ เพราะตอนเรียนปีสองเรา suffer กับสายนี้มาก แต่อาจารย์และครอบครัวก็บอกให้สู้ไปก่อน เรียนให้จบแล้วค่อยว่ากัน แต่มาตอนนี้คือสับสนมาก แบบเสียสูนไปเลยอ่ะ คืองานที่ว่าเกี่ยวกับสายสังคมจ๋าๆไรงี้ แต่เราไม่ค่อยชินกับพวกสังคมเท่าไหร่ (ค่อนข้างไปทาง anti-social) สรุปว่าไม่ชอบงานสายนี้เลยว่ะเสียสุขภาพจิต แต่มันต้องทำเพราะจบสายนี้มาแล้วก็เป็นตัวเลือกหาเงินได้ดีสุดในตอนนี้ หรือไม่ใช่เพราะงานเป็นเพราะเราไม่อยากทำงานปะวะ เครียดมากทั้งไม่มีงานและไม่อยากทำงาน กลัวสังคมชิบหาย 😩 ขอบคุณสำหรับพื้นที่ ไม่มีเพื่อนคุยด้วยอ่ะ (เพราะเพื่อนน่าจะไม่อยากฟัง อยู่คนเดียวมันแย่ขนาดนี้เลยเหรอวะ ก็ทำตัวงี้เอง)
ปล.มีปัญหากับสังคมแต่ตอนใช้ชีวิตปกติไม่มีปัญหานะ แต่โดนรุมเร้าบ่อยๆพลังงานหมดอ่ะ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่บ่นแบบงงๆ โม่งไม่ต้องเข้าใจก็ได้ หรือถ้าเข้าใจก็ปลอบเราหน่อย อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออกว่ะ
>>504 กูเดานะ>>503 ไอนี่น่าจะมีปัญหาคล้ายๆกู เข้าหาคนไม่เก่งถึงขั้นแพนึคเพราะเป็นsocial anxiety เลยดีลงานยาก แล้วงานที่มันทําสายสังคมไม่ใช่พวกงานที่ทําด้วยตัวคนเดียวได้ บอกเลยว่าพอมึงคุยกับคนอื่นไม่ได้หน้าที่มึงจะเหลือน้อยลงมาก
จริงๆก็ทุกงานแหละที่ต้องคุยติดต่อกับคนอื่น มีแค่ไม่กี่งานเท่านั้นที่ทําคนเดียวเงียบๆปิดทองหลังพระ…
กูก็เคยฝึกงานแล้วไม่ยอมออกจากcomfort zoneก็ชิบหายเหมือนกัน แม่งตอนนั้นกู18เพิ่งจบมัฐยม+ยังไม่รู้เรื่องมหาลัยว่าติดที่ไหนตอนนั้นเป็นโรคซึมเศร้าโรคกลังสังคมสุดขีด กูใจสั่นทําตัวไม่ถูกเวลาคุยกับคนแปลกหน้าเพราะตอนนั้นกูโดนบุลลี่มา6ปีเต็มๆกูไม่หลงเหลือความเป็นคนเลยแม่ง กูมีเวลาว่างเป็นเดือนๆที่บ้านเลยไล่ให้ไปหางาน กูไปได้ทํางานจากคนที่รู้จักได้เส้นมาฝึกงานโรงแรมแล้วเป็นreception บอกเลย เละ กูคุยวอไม่ได้ กูรับโทรศัพท์ไม่ได้ แค่งานง่ายๆไม่ผ่านพวกงานยากๆเจาก็จะไม่โยนมาให้กูทํา งานกูไม่พัฒนาเลยแต่อย่างน้อยกูยังพอทํางานคอมได้ ลงชื่อลูกค้าที่มาจองในระบบ แต่มันก็ไม่บ่อยที่กูจะได้งานนี้ สรุปกูโดนไปเป็นเด็กเสริฟwelcome drinkซึ่งน่าเบื่อมาก กูเซ็งตัวเองมากที่ทําไรไม่เป็น คือไม่มีใครสอนอะไรเลยแล้วกูเพิ่งจบม6มา กระโดดมาทําโรงแรมใหญ่ที่มันมีระบบของมันกูเข้าไม่ถึงเลยตอนนั้น
แต่พอเจ้ามหาลัยกูก็เติบโตขึ้น มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ก็ยังมีรวามแพนิคแหละเวลาเจอคนใหม่ๆ แต่ก็แสร้งทําเป็นโปรเป็นเฟลนลี่ได้ กูว่าทันสำคัญมากที่ต้องเป็นฝ่ายไปคุยเองกว่ารอให้อีกฝาายมาคุยกับเรา ต่องมีความกล้า ความเป็นผู้นำ กูไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยเหนื่อยจิตมากๆ แต่กูตัเงเป้าไว้แล้วว่าอยากได้เงิน แล้วงานที่กูทําได้มันต้องคุยกับคน มึงก็ต้องรับบทบาทคุยกับคน
ตอนนี้กูก็อายุพอๆกับมึง กูไม่ได้มีคอนเน็คชั่นอะไรเลยนะ แต่กูก็คิดว่าจะค่อยๆพยายามสร้างตอนนี้แหละมันยังไม่สาย แล้วพยายามพัฒนาสกิลอะไรไว้มันทําให้คนเขามาสนใจเรา
กูกลัวสังคมอยู่แหละ แต่กูมองว่ามนุษย์ยังไงมันก็เป็นสัตว์สังคม ยังไงมันก็ต้องติดต่อกับคนเพื่อความอยี่รอด หรือถ้ามึงไม่ไหวจริงๆก็ลองไปหางานที่ทําคนเดียวได้ กูก็เจอนะกูชอบพวกงานท่าเรือ งานเครื่องบิน มันทําตามแค่หน้าที่ ไม่ต้องคิดถึงคอนเน็คชั่นอะไรมาก แต่กูไม่ทําเพราะกูติดconditionบางอย่างที่ทําพวกนั้นไม่ได้ กูเลยกลับมาสายเดิมแล้วเฟคว่าเป็นคนเข้าสังคมเก่งไปให้สุด พอทําแล้วมันก็ไม่กด้อยากหรอก ยากแค่เหนื่อยใจ แต่ก็นั้นแหละพอได้เงินเดือนมาก็อุ่นใจละ priority คือ เงิน และงานที่มั่นคงแม่งฮีบจิตใจกูได้อยู่
ท้ออะ จบมหาลัยมาสองปีว่างงานยาว ยังไม่มีงานเเรกในชีวิตเลย เเล้วคือไม่เก่งอะไรเลย สาขาที่เรียนโปรเเกรมเอ็กเซลก็เเทบไม่เคยเเตะเเล้วพึ่งมารู้ว่าถ้าเป็นเอ็กเซลเเม่งสมัครงานบริษัทได้ครอบจักรวาล ตอนนี้เลยไม่รู้จะทำอะไรเพราะก็ไม่ชอบงานสาขาที่จบมาดันคิดช้าไป ทำอะไรไม่เป็นเลย เเม่กูก็ให้กำลังใจนะเเบบบอกประมาณว่า ไม่มีใครทำเป็นมาก่อนเขาก็ต้องฝึกกันทั้งนั้นเเหละ เเต่มันจะมีหรือวะที่ทำงานที่สอนเอ็กเซลอะ ไม่มีหรอก เเล้วยังมาโดนพ่อกดดันเเละดูถูกตลอดเวลาอีก ตอนนี้กูกลายเป็นคนพูดน้อยกลัวการเข้าสังคมไปละ ทำไงดีวะหนี้กยศ.ก็มี เเต่งานยังไม่มีเลย งานทั่วไประดับเริ่มต้นเเม่งก็รับเเต่คนมีปสก.งงใจ จะให้กูไปหาที่ใหนอีกวะ.........
>>505 เรา503นะ ขอบใจมากๆนะ รู้สึกได้กำลังใจเยอะเลน ตอนได้ทำงานคือมีเงินเดือนกับของหวานคอยค้ำจุนจิตใจจริงๆ ทุกวันคือเหนื่อยแต่พูดไม่ออก เพราะวันถัดไปเราต้องทำงาน ต้องเคลียร์จิตให้เป็น0แล้วเริ่มใหม่ในวันถัดไป อะไรที่ทำให้เสียใจก็จมกับมันไม่ได้ เห้อ ไปออกกำลังกายดีกว่าๆๆๆ
>>506 loser ที่แท้ทรู จะไปทำงานยังหวังจะนั่งง่อยรอให้คนอื่นมาสอน ไปทำงานไม่ได้ไปเรียนหนังสือเสียค่าเทอมให้เขา นี่จะไปเอาเงินเขา ไม่คิดจะขวนขวายหาความรู้หรือพยายามอะไรด้วยตัวเองหน่อยหรอ นี่มึงเกิดยุค google youtube ด้วยซ้ำนะ ถ้าเกิดยุคกู มึงจะทำไงเนี่ย แล้วคิดว่าคณะชาวบ้านเค้าสอน excel กันเหรอ คิดว่ามนุษย์ทุกคนทำงานตรงสายกันเหรอ มีเน็ตทุกวันนี้เอาไว้ดูคลิป tiktok ตลาดล่างโง่ๆ อย่างเดียวรึไง
ด่าแรงให้คิด หวังว่ามึงจะคิดได้ หัดทำอะไรเองบ้าง อย่าหวังแต่รอให้คนอื่นเคี้ยวแล้วป้อนให้ มึงนั่งกลืนอย่างเดียว
ทำไมคนสอบไม่ติดต้องมาปลอบคนได้ที่เรียนวะ มึงบลัฟกูเพื่อ กูไม่มีสิทธิ์บ่นเงียบๆเหรอว่าเหนื่อย กูไม่ได้มีปัญหากับคนสอบติด กูแค่เกลียดตัวเองที่พยายามแล้วไม่ติด จะเอาแต่ความสุขจากตัวกูเหรอ ไม่เข้าใจ กูระบายในพื้นที่ตัวเองไม่ได้รึไง
>>506 กูไม่ได้อยากทับถมมึงนะแต่กูบังเอิญมีเพื่อนที่เจอปัญหาแบบมึง แล้วบ่นเหมือนมึงเป๊ะ (แต่ไม่ใช่คนเดียวกันหรอก เพื่อนกูไม่ได้มีปัญหา excel ) ตอนแรกเข้าโม่งมาก็อยากจะบ่นปัญหากูเพราะกูเบื่อกับการรับมือคนที่เอาแต่คิดเนกาทีฟในชีวิตว่ะ
นี่ กูอยากบอกมึงว่า มึงไม่ได้คิดว่ามีปัญหานี้คนเดียวหรอก จบใหม่ว่างงานแล้วคิดว่าเลือกเรียนสายผิดแล้วบ่นว่าเพราะสถาบันแม่งหลักสูตรแย่ สอนเรื่องไม่มีประโยชน์ให้ชีวิตมึง แล้วไง? มึงเลือกแล้ว จบนะ และสิ่งที่พวกมึงไม่ค่อยคิดกันคือ การคิดที่จะมองโลกในมุมดีๆของมันอะ อย่าเพิ่งอ้าปากแย้งกับทุกเรื่องดิวะไม่มีใครจะว่างมาปลอบพวกมึงกันตลอดนะ
นี่ มึงเรียนจบแล้วนะ นั่นไงเรื่องดีในชีวิต!! มึง-เรียน-จบ-แล้ว มีวุฒิแล้วไง! ทำงานหาเงินได้ก็เอามาใช้หนี้ให้จบไวๆ ปรนเปรอชีวิตมึงซะ(หรืออย่างน้อยก็เอาไปอุดปากพ่อมึงที่ชอบดูถูกนัก)
แล้วมึงจะมองว่าสายเรียนกระจอกไม่สอนเหี้ยอะไรให้ชีวิตมึงจริงๆเหรอ?
ไม่อะ ถ้ากูพูดได้แบบไม่กลัวโม่งแหก กูบอกเลยว่าสาขากูคือหนึ่งในประเทศไทยที่ถ้าบอกใครว่าจบสิ่งนี้มา ทุกคนจะถามว่า "เรียนจบแล้วไปทำเหี้ยอะไรวะ?" 5555 เอาว่าเป็นสาขาที่ในไทยตอนนี้คงมีคนเรียนน้อยมากจนกูกลัวโม่งแหกละกัน 555 แต่กูก็มูฟออนในชีวิตได้ชิลๆ ในขณะที่คนอื่นจบดีกว่ากู เงินเดือนสูงหลายหมื่นแต่ต้องเอาเงินเดือนหลักหมื่นไปจ่ายค่ารักษาโรคเครียดละกัน มึงเลือกได้นะจะใช้ชีวิตแบบอมทุกข์ตลอดชีวิตหรือรีบทิ้งความคิดมืดมนแล้วก้าวไปข้างหน้าไวๆ
พวกมึงอย่าให้บรรทัดฐานสังคมกับเสียงบ่นคนรอบข้างมาด้อยค่าชีวิตมึงดิ และตัวมึงเองก็ด้วยอย่าด้อยค่าตัวเองนัก
มึงใช้คอมได้ อ่านหนังสือออกและมีวุฒิป.ตรี แค่นี้ยังไม่พอให้มึงก้าวบันไดขึ้นต่อไปเหรอวะ?
เอาน่า เด็ก 8 ขวบมันยังฝึกลงสี CG จากฮาวทูในติ๊กต่อกเลยมึง
กูอาจจะพูดไม่เก่งและอาจฟังไม่เข้าหู ก็อยากพูดตรงๆนะมึงว่าทุกปัญหามีทางออก มึงจะท้อก็ได้แต่ในเมื่อนาฬิกามันเดินหน้าตลอดเวลา ชีวิตมึงก็ต้องเดินต่อไปอยู่ดีว่ะ คนรอบข้างหรือแม้แต่ในโม่งนี้อาจพูดไม่เข้าหูมึง แต่ยังไงสักวันมึงก็ต้องฟังใครสักคนแล้วมูฟออนนะ ขอแค่มึงเปิดใจกว้างๆ เปิดรับทุกความน่าจะเป็นในชีวิต อย่าพูด NO ใส่ตัวเอง ลองพูดคำว่า YES ให้มากขึ้นๆ มึงจะไม่ชอบชีวิตที่มึงเลือกพลาดไปก็ได้ แต่มันเป็นอดีตไปแล้วนะ มึงสำรวจตัวเองดีๆว่ามีอะไรที่ทำได้บ้างแล้วเริ่มต้นจากของพวกนั้นแหละ คนเก่งๆก็ไม่ได้คลอดออกมาแล้วท่องABCเป็นเลยนะมึง ทุกคนต้องเรียนรู้กันตั้งแต่ 0 ทุกคนน่า เริ่มช้าเริ่มเร็วแล้วไง ยังไงก็ดีกว่าไม่ได้เริ่มเลย ไม่งั้นชีวิตก็ไม่ก้าวต่อ
และสุดท้ายคนที่จะพูดและทำให้มึงเดินหน้าต่อได้ก็คือตัวมึงเองนะ กูอยากฝากไว้แค่นี้
กูว่าก็เป็นกันทุกคนแหละ พูดเสแสร้ง เรามักจะคิดเหตุผลอะไรเพื่อมารับรองความเป็นธรรมของเราเอง เช่นสมมุติมีกฎว่า การลักขโมยคือบาป แต่พอเราต้องการขโมย เราก็จะคิดเขเาข้างตัวเอง ไม่ว่าจะหาเรื่องเปลี่ยนความหมายของการกระทําว่านี่ไม่ใช่การขโมยแต่เป็นการยืม หรือหาเรื่องเปลี่ยนบริบทให้เราดูเป็นคนดีขึ้นว่าฉันขโมยไปเพราะฉันต้องการจริงๆจน หรือขโมยเพราะไอนั่นมันสมควรโดนขโมยมันก็ขโมยของของคนอื่นมา มันก็ปกติของโลกเราแหละ แต่ทีนี้แม่งจะมีพวกไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองพูดเสแสร้งอยู่ จริงๆทุกคนมันก็จิ้งจอกหมดแหละ แต่จะคิดว่าคนนั้นดีหรือไม่ดีก็ใช้ศิลธรรมของตัวเองตัดสินเอาเองเถอะ มันก็เทาๆกันทุกคนแหละแหม่
เครียดว่ะโม่ง ที่บ้านมีปัญหา เหมือนรอวันระเบิด ฝั่งพ่อก็โมโหอารมณ์ร้าย ไม่ยอมรับฟังอะไร คิดแต่ว่าบ้านมีเงินเยอะ เพราะแม่มีบำนาญ แต่จริงๆบำนาญแม่แต่ละเดือนหมดไปกับหนี้สินหมดแล้ว พอไม่มีเงินให้ใช้ก็โมโห หาว่าแม่งกไม่ยอมให้เงิน ตั้งท่าจะทะเลาะด้วยอย่างเดียว ทุกวันนี้แม่ต้องออกไปช่วยงานคนที่เคยช่วยเรื่องเงินไว้สมัยก่อนสัปดาห์ละวัน ก็คิดเอาเองว่าไม่อยากอยู่บ้าน เป็นเรื่องเป็นราวทะเลาะอีก ที่ผ่านมาแม่ทำงานหาเงินเข้าบ้านเป็นหลัก ส่งกุเรียนจนจบ ทุกวันนี้ก็พยามส่งเงินช่วยแม่อยู่ แต่ก็ต้องพยามเอาตัวเองให้รอด มีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่ก็เครียด ไม่อยากเห็นครอบครัวพังยับเยินตอนเวลาแบบนี้
เอาจริงงานทุกวันก็เครียดอยู่ละ ยิ่งมีปัญหาที่บ้านแบบนี้อีก แม่งไม่อยากทำอะไรแล้วทั้งนั้นเลยว่ะ มันรู้สึกพยามไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้
แล้วเมื่อเช้านี้เลย เหมือนแม่ลืมชงกาแฟไว้ ด่าลั่นบ้าน กุจะทำงานยังรู้สึกไม่มีอารมณ์ทำเลย คิดแล้วก็เครียด ไม่รู้ว่าควรทำไงดีว่ะ
>>513 มันก็ถูกแต่มันก็ไม่ถูก จะทำผิดแล้วอ้างว่าทุกคนทำผิดไม่ได้ แต่โอเคเรื่องคนไม่ได้ดีไปหมด
>>514 ทำไมรอวันระเบิดวะ จากที่กูอ่านนี่มันระเบิดย่อมๆ แล้วไม่ได้รอหรอก แต่ค่าใช้จ่ายไม่ได้จดเหรอ รับมาเท่าไหร่จ่ายเท่าไหร่
บัญชีล่ะ ใส่พ่อกลับไปไม่ได้เหรอ แล้วพ่อทำงานไรอ่ะ ถ้ามีงานก็ใช้เงินตัวเองดิ ถ้าไม่ทำนี่คือเกาะแม่เหรอหรือไง กูงง
กุเป็นเด็กใหม่พึ่งจบแล้วทำงานเลย ห่านเป็ดทำงานแล้วมีหัวหน้ากดดัน เหนื่อยชิบหาย ล้าทั้งกายใจ ตอนฝึกงานยังไม่ขนาดนี้เลยวะ หรือกุแค่ยังไม่เจองานจริงๆ พอมาเจองานจริง หัวหน้ากดดัน เชี่ยแทบเป็นขี้
แต่พี่ในที่ทำงานอีกคนที่กุสนิท พี่แกแก่กว่ากุปีเดียว แม่งยังทำอยู่ได้ โดนด่าทุกวัน โดนกดดันหนักกว่ากุ เป็นกุคงหนีไปแล้วแต่พี่เขายังอยู่ต่อ พี่เขายังสู้ต่อว่ะ กลายเป็นว่าถ้ากุออกกุจะแบบโดนตราหน้าว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ไม่อดทนปะวะ
แต่กุก็พึ่งเข้าทำได้ไม่กี่เดือนเองว่ะ5555555 กลายเป็นว่าตอนนี้อยากให้พี่ที่สนิทคนนั้นออกชิบหาย ออกๆไปเลยเว้ยยย เพราะกุก็อยากออก5555555
สรุปกุก็ยังไม่โต แม่งเวนเน้ย
>>517 หางานใหม่ระหว่างนี้เอา ไม่ใช่สังคมทำงานจะไม่ดีไปทั้งหมด มันแล้วแต่ที่ มึงแค่ซวยมางานแรกก็เจอหัวหน้ากดหัวแต่แรก พี่คนที่มึงสนิทก็คงมีวิธีจัดการความรู้สึกของเขาเลยยังอยู่ได้ แต่เอาจริง อยู่แบบนั้นนานๆ มึงจะไม่อยากตื่นมาอีก เพราะตื่นมาก็ต้องไปทำงานที่เหนื่อยชิบหายต่อ กูจะตื่นมาเพื่ออะไร อย่าคิดว่าเพิ่งทำได้ไม่กี่เดือนหรือเพราะเพิ่งเรียนจบแล้วมึงจะออกจากงานไม่ได้ มึงออกได้ อย่างกูงี้ ทำห้าเดือนแล้วออก เลิก หางานใหม่ กูไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ในสังคมที่กูอยู่ไม่ได้
เหนื่อยว่ะ
อยากเป็นหมา อยากนั่งนิ่งๆแต่ยังอยู่ในฝูงชนอ่ะ แบบน้อยทีจะมีกลุ่มที่กูไปนอนโง่ๆได้ในพวกแม่งแต่แม่งก็นับกูมีส่วนร่วมด้วย ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไร
ก็บอกอยู่ว่าไม่ชอบคนที่ไม่ยอมคุยกัน กูคิดเองก็ผิด รอให้บอกเขาก็หายไปมีความสุขเฉย ปล่อยกูเครียดคนเดียวว่าเขาเกลียดกูมั้ย เขาเหนื่อยอะไร กูช่วยอะไรแฟนไม่ได้เลยเหรอ
>>519 แม่ง กุลืมไปว่ารุ่นพี่ที่ว่าแม่งเป็นเพื่อนกับหัวหน้าอีห่า เขาเลยอยู่ยาวๆได้ แหมอีห่า นั่งแดกเหล่าหัวเราะกันสนุกสนานเลยนะสัด 54444445555555555555
ส่วนกุหรอเป็นหมา หมาป่าเดียวดาย55555555555
เพิ่มเติม พวกมึงเป็นปะ อยากลาออก อยากหนีไปจากที่นี่ อยากหนีไปไกลๆ แต่ออกไม่ได้เพราะเหตุผลต่างๆนาๆ อีเหี้ยยยย กุยังต้องทนต่อไปอีกแค่ไหนนน
ถ้าไปหาหมอ จะไปตรวจซึมเศร้าต้องบอกว่าอะไร มันมีชื่อเฉพาะทางการไหม
ตอนมัธยมกูพยายามช่วยเหลือคนมาตลอดเพราะสังคมเเม่งเหี้ย พวกผู้ชายถกกระโปรงผู้หญิง เอามือล้วงเสื้อในผู้หญิง ครูไม่ทำห่าไรก็มีกูนี่เเหล่ะช่วยจนมีเเต่อริ พวกที่ท่าทางจะไปทางยากูก็พามาเข้ากลุ่มกูช่วยเเม่งเรียนจนจบออกมาได้ พอจบออกมาพวกเเม่งก็กลับไปเกเรอีก จนล่าสุดกูก็กลายเป็นพวกไม่มีความเห็นใจ เผลอด่าลูกน้องเเบบเจ็บๆจนไปเเอบร้องไห้ กูพึ่งมาคิดได้เมื่อไม่นานมานี้ กูเเม่งอ่อนต่อโลกว่ะ ถ้าเลือกได้กูอยากเป็นคนธรรมดาเเคร์เเต่เรื่องที่จำเป็น จะได้ไม่ไม่ต้องกลายมาเป็นพวก Mental ดีๆร้ายๆเเบบตอนนี้
ทำยังไงจะแก้โรคนอนไม่หลับ ไม่ยอมนอนดึกๆต่อนเข้าได้วะ กูอยากตา
กุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกุอยากตายกูอยากตายกูอยากตายกูอยากตาย
กูเป็นชายไทยวัยสามสิบ วันนี้นั่งไถไอจีดูรูปสาวๆละกูก็ร้องไห้ กูเศร้าเพราะกูอยากสวยแบบคนพวกนี้บ้าง อย่างงี้คือกูเป็นตุ๊ดรึยังวะ คือกูไม่ได้รู้สึกแบบ ไม่ชิบบทบาทของผู้ชาย อยากเป็นผู้หญิงไรงี้เลยอะ กุไม่ได้แคร์ในประเด็นของเพศสภาพเลย แค่อยากสวย งงตัวเอง
เฟมบอย
>>534 มึงอยากสวย แต่ในขณะเดียวกันมึงก็ชอบผู้หญิงใช่ป่ะ กูก็เป็น แบบนี้ไม่ใช่ตุ๊ดหรอก ตุ๊ดมันต้องชอบผู้ชายด้วยเว้ย
อีกอย่างมันไม่แปลกหรอกที่คนเรียกมึงว่าตุ๊ดแล้วมึงไม่พอใจ ไม่ใช่การเหยียดด้วย
แค่ความรู้สึกมึงตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา คำว่าตุ๊ดมันคือคำที่เรียกคนอีกเพศนึง การที่โดนเรียกด้วยสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา ก็ปกติที่เราจะไม่ชอบ
มึงไปดูดวงที่ไหนดี หลักร้อยในทวิตเตอร์แม่นมั้ยวะ
แม่ง กุถึงจุดที่เริ่มเข้าหาหมอดูเพื่อคลายปมในชีวิตแล้วสินะ55555
https://pantip.com/topic/42036611
สงสารว่ะ ร้อยกว่าเม้นไม่มีใครช่วยเจ้าของมู้เลย มีแต่เข้าข้างผัวที่ติดเกม
>>545 https://www.myhora.com/
กูดูของกูละชิบหายไปหมด 5555
อ่านแล้วกูก็สงสัย ตอนก่อนแต่งมันไม่คิดเลยเหรอว่าคนที่จะเป็นผัวมันติดเกมขนาดนี้ อนาคตแต่งแล้วจะเป็นยังไง
ไม่อยากไหว้พ่อเลยว่ะ เฮงซวยชิบหาย ชอบใช้ความรุนแรง ตูก็ไม่ได้ฉลาดอะไรเพราะไม่ได้ติดทุนเรียนดี ๆ แถมพอจะซิว ที่บ้านปสด.หมด บอกไม่ได้ อายขี้หน้าเขา บลาๆ สุดทา้ยจำใจเรียนที่เฮงซวยจนจบ ตอนนี้พึ่งเรียนจบได้ไม่นาน กำลังหาทางเปลี่ยนสาย อบรม+ติวสอบใบประกอบอาชีพอยู่ ไอเหี้ยก็มาเซ้าซี้ๆ เพราะลูกเพื่อนได้ดี คือเป็นไรอ่ะ ปสด.ก็ให้น้อยๆหน่อย ชีวิตตู ช่วยก็ไม่ช่วย เงินก็ไมไ่ด้ออกให้ ปสด.ได้ทุกวี่ทุกวัน ล่าสุดพึ่งต่อยกันไป โดยจริงๆก็ไม่ได้อยากต่อย แต่แม่งหาเรื่องเกิน ล่าสุด บอกให้ตูหัดไหว้เขา จากใจลึกๆไม่อยากแล้ว คนอะไร งานการไม่มี หาเรื่องเก่ง บ้าอำนาจ ชอบใช้ความรุนแรง แต่ตูต้องยอมทนเพราะอยู่บ้านเดียวกัน (บ้านของย่า เขาพึ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่กี่ปี หลังจากที่ทิ้งตูเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่เกือบ10ปี) เพราะเงินไม่มี เงินบัญชีแม่งไม่น่าฝากไว้กับย่าเลย หายไป เกือบ 3 หมื่น ห่า เงินยิ่งน้อยๆ ด้วย จะหางานก็ไม่อยากออกบ้านบ่อยๆ เพราะไม่อยากให้ที่บ้านรู้ว่าทำงาน กลัวโดนขอตังค์(เคยโดนขอสมัยทำงานพาร์ทไทม์ ขอจนน่าเกลียด)
ตามหัวกระทู้อ่ะ ต้องทำอย่างไร ยอมไหว้ หรือเมินดี ถ้าไหว้ มันก็คงดีขึ้นแหล่ะ เรื่องปัญหา แต่สุดท้ายอาจจะวนลูปเดิม เหลิงได้ใจ ใช้กำลัง
ถ้าเมินก็ไม่รู้จะยังไง
ขออภัย หากรบกวน ไม่ได้พิมพ์อะไรแบบนี้นานละ หาห้องบ่นระบายไม่เจอด้วย
แดกยาซศก็อ้วนลดยาก
พอไม่แดกประสาทก็แดก
โว้ะ
ถ่ายไม่ออก อย่ากินยาระบายจะทำให้ ลำไส้พังอีก เพราะถ่ายเองไม่ได้
ออกกำลังกาย > สุขภาพจิตดี >ไม่อ้วนด้วย
ทําเถอะครับ เพื่อคุณเอง
กูเปลี่ยนจากใจอยากท๊าร้ายร่างกายตัวเองมาวิดพื้นดูได้1เดือนละ พอเครียดแพนิกแดกอยากดูดบุหรี่กูไม่ดูดกูมาเล่นกล้าม เวลาร่างกายกูท้อกูก็จะฝืนมัน จนตอนนี้กล้ามกูกลับมาชัดขึ้นมสบ้างละ จากช่วงโควิดซึมเส้าแดกอ้วยแผละขึ้นมา20 ตอนนี้เหลืออีก10โลละ
เคยคิดว่าคนเราก็แปลกนะ
เหล้ายารู้ไม่ดีก็ชอบกินชอบดื่ม
ออกกำลังกายมันดี แต่ไม่ชอบ
การออกกำลังกายก็เหมือนอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ต้องยอมทนเหนื่อยทนโหลดตอนเเรก เเล้วพอเวลาผ่านไปได้พักมันจะรู้สึกดีอารมณ์ดีขึ้นมาเอง บางคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยๆไม่ทำเป็นกิจวัตรมันจะไม่ชินเพราะมันต้องฝืนตัวเองตอนเเรก
กุออกกำลังกายมา10ปี ตอนนี้3x ละ
เพื่อนหลายคนเป็นนู่นเป็นนี่ กุที่ยังไม่เจออะไรเลย มีแค่ปวดข้อต่อไหล่ เพราะยกหนักเกินไป ก็เลยเปลี่ยนไปสายคาร์ดิโอแทน
แบบกุกินเหล้าไม่ค่อยได้ คือกินเป็นเพื่อนได้ แต่ถ้าให้เลือกว่าจะไปดื่มเน้นๆ ไปผับไปบาร์ ก็เลือกที่จะไม่ไปดีกว่า ไม่เข้าใจทำไมคนถึงชอบดื่ม คือกุดื่มก็เฉยๆไม่ได้อร่อย ขมนิดๆ ไม่ได้เอนจอยขนาดนั้น แต่ยังไงก็ไม่รู้สึกติด ไม่ว่าจะเหล้าหรือบุหรี่/ไฟฟ้าลองให่รู้ แต่ก็ยังชอบออกกำลังกายมากกว่า รู้สึกมีจุดหมายที่ต้องไปถึงได้เห็นว่าตัวเองเร็วขึ้น เก่งขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายกับความอึด
กุว่าที่กุไม่เข้าใจคนที่ชอบดื่ม พวกนั้นก็ไม่เข้าใจที่ทำไมกุชอบออกกำลังกาย
>>566 ปวดข้อไหล่แนะนําให้ไปสายยืดกล้ามเนื้อ สายยิมนาสติกด้วย ไม่ต้องขนาดโปร เริ่มจากทําตัวให้ยืดหยุ่นฉีกขาได้ งอตัวได้ เอาแขนจับกันด้านหลังได้ ไรงี้ มันลดอาการเจ็บที่ข้อนะ คาร์ดิโอเดี๋ยวต่อไปก็ปวดข้อนะ เตือนด้วยความหวังดี
>>567 ดื่มไม่รู้ แต่ออกําลังกายมันรู้สึกดีจริงๆนะ กูนั่งอยู่กัยที่ไม่เผลาผลาญแคลแล้วรู้สึกหดหู่มากกว่า ไม่อยากอ่อนปวกเปียกไม่อยากตัวแผละไม่อยากแก่ 🥲
กุแปลกใจคนที่เขาขยันขยับตัวนะ
กุนอนอืดอย่างเดียว สมัยก่อน แค่คิดว่า ยกช้อนทำให้เสียพลังงาน กุก็ขี้เกียจ ยก ช้อนมากินหล่ะ
พวกที่มันขยันไม่พัก นี่มันมีenergyทำอะไรทั้งวันวะ
อยู่ได้อึดๆ โดยไม่ต้องอัดยา เคมี
มายเซทคนเราตั้งแต่เกิดคงไม่เหมือนกัน กุอยากนอนครบ8-12ชม ตื่นมาแจ่มใส ทุกวัน ไม่มีทางเข้าใจนอนวันละ4ชม พวกเมิงนอนแค่นั้นทุกปี ได้ยังไงวะ
คนเรามันต่างกันแหละ เอาง่ายๆ อย่างช่วงโควิด 2-3 ปีที่ผ่านมา บางคนพอต้องอยู่บ้านคนเดียว เฉาจะตายเอา บางคนเช่นกู โคตรแฮปปี้ที่สถานการณ์มันทำให้ต้องอยู่บ้าน ได้ทำงานที่บ้านไม่ต้องเจอผู้คน งดปาร์ตี้งดงานสังคมทุกชนิด มีความสุขชิบหาย เรื่องการออกไปกำลังกาย ไปกินเหล้า หรืออยากนอนอืด มันก็คงเหมือนกันแหละ ชอบใครชอบมัน
>>567 กูชอบทั้งสองอย่างนะ ชอบออกกำลังกายเพราะชอบความรู้สึกเหนื่อย กับปวดร่าง 555 ชอบความทรมานตอนออกและหลังออก รู้สึกว่าได้ใช้ความพยายามดี
ส่วนชอบดื่มแค่แบบนั่งชิล มีเพื่อนร่วมวงดีๆ เวลาทำงานเครียดๆ พอได้ดื่มแล้วมีความสุขเหมือนเกิดใหม่เป็นคนละคน ส่วนตัวเป็นคนขี้อายขาดความมั่นใจ พอเหล้าเข้าปากแล้วชอบความมั่นหน้าของตัวเอง ทำในสิ่งที่กูในเวลาปกติทำไม่ได้55
กุอยู่มาครบทุกสายที่ว่ามาแล้ว ไม่อินสักอย่าง
ตอน 20-24 เป็นสายดื่มเที่ยวผับบาร์เกือบทุกวัน
ตอน 25-30 สายเวท โยคะ วิ่งมาราธอน หุ่นกล้ามมีซิกแพค
ตอน 31-ปัจจุบัน มีเมียแล้ว อ้วนลงพุง เลี้ยงแมว เป็นเกมเมอร์อยู่บ้านเล่นเกมไปวันๆ
อยากตาย
หน้าพังชีวิตพัง
ฆตตก็ไม่ตายเหิ้ยชีวิต
ปั่นเมืองไทย ได้เกิดต่างโลกอะดิ ลงถนนใหญ่ แล้วตายได้ทุกเมื่อ
>>576 ปั่นโง่ไง ปั่นแบบคิดว่ากูถูกกฏจราจรคนอื่นต้องหลบกูเท่านั้น ซึ่งบางทีมึงอาจถูกจริงแหละ แต่รู้ตัวอีกทีมึงก็ไปเฝ้ายมบาลแล้ว
มึงอยากปั่นแบบชีวิตยืนยาวในประเทศนี้ต้องปั่นให้เป็น หลบได้ หลบ ต่อให้มึงถูกมึงก็ต้องหลบเขา ไม่ใช่หน้ามึนปั่นแม่งไปเรื่อย
กูปั่นไปทำงานตั้งแต่ 20 ต้นๆ ตอนนี้ 30 ปลายๆ ไม่เคยเจออุบัติเหตุสักครั้ง
กูไม่ได้บอกว่าไอ้พวกเหี้ยที่ขับรถใหญ่แบบไม่สนหีสนแตดนั่นถูกนะ แต่ถ้ามึงไม่อยากอายุสั้น มึงต้องปั่นให้เป็น
กฏฟิสิกส์อยู่เหนือกฏหมายเสมอ จำไว้
ใครเครียดลองดูช่องนี้กูดูแล้วฮิลใจกูมาก https://youtu.be/-iw2SZRTbZY
นอนซักทีเถอะ
นิ้วกระตุกเวลาตกใจนี่ปกติไหม กุเป็นตลอดเวลาตกใจ กับเวลาประหม่าจะสั่นและกระตุกเอง กุไม่อยากไปหาหมอ เผื่อเป็นแค่เรื่องเล็กๆปกติ
กระตุกจิตกระชากใจ
รู้สึกช่วงนี้ตัวเองหงุดหงิดง่ายมาก เรื่องเล็กน้อยก็หงุดหงิดได้ตลอด ทั้งที่ปกติเป็นคนชิลล์มากจนมีแต่คนบอกว่าโลกสวยเกินไปชิลล์เกินไปด้วยซ้ำ อะไรก็มองว่าไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้ แต่ตอนนี้เก็บมาหงุดหงิดทุกเรื่อง
กูเครียดหวะ เวลาดูโซเชียลก็เห็นเม้นคนไทยนั่งด้อยค่าคนไทยด้วยกันเองทั้งๆที่มึงก็คนไทยเวลาด่าชอบเหมารวมมันก็ไม่ต่างจากด่าตัวเองไปด้วยป่าววะ นี่เเค่เกิดมาเป็นคนไทยก็ผิดหรอวะ ถ้าอยู่เฉยๆก็โดนมองว่ายอมรับที่มันด่าพอตอบโต้ก็หาว่าดิ้น ทั้งที่โดนเหมารวมก็ต้องชี้เเจงป่าววะว่ากูไม่เหมือนที่มึงกล่าวหา
กูอยากรู้ เราเป็นประเทศเดียวที่ด่าคนในประเทศเเล้วอวยต่างชาติป่าววะ ใครรู้บอกทีกูจะได้มีกำลังใจใช้ชีวิตต่อหน่อย
>>589 ถ้าด้อยค่า แล้วมันไม่ได้แบบนั้นจริงจะกลัวอะไร เมิงไม่มีหลักการไง เชื่อคนนู้น คนนี้ทีหูเบา
>>588 คนเรามันหงุดหงิดได้ แต่พอรู้แล้ว ก็ให้ตัดขาดอารมณ์นั้นซะ อย่าให้อารมณ์เหนือเหตุผล
ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไร ก็แปลว่าเรายังไม่รู้ว่าเราทำไรผิด reset เอาใหม่ ไม่เป็นไร จำให้ขึ้นใจ
โลกสวยไม่ผิดหรอก ถ้าเมิงเข้าใจกลไกลของโลกนี้มิตินี้ เมิงรู้ไหมมนุษย์ถูกสาปให้ไม่เข้าใจเกี่ยวกับ ความสิ้นหวัง
คนฆตต เพราะ สมองไม่เข้าใจ เลยสั่งให้ปิดสวิทซ์ตัวเอง นั่นแหละ พูดง่ายๆเมิงคือข้อผิดพลาด
และเป็นภัยต่อมนุษย์โลก และพวกซึมเศร้ามันแพร่ระบาดส่งต่อไปยังคนอื่นได้
ดังนั้นมนุษย์ คือสัตว์ที่ถูกโปรแกรม ให้อยู่อย่างมี ความหวัง เดียวค่อยมาต่อนะ...
รู้สึกหมดพลังงานที่จะทำทุกสิ่งอย่าง คือสมองมันรู้และคิดนะว่าอยากทำ แต่พอจะเริ่มทำก็รู้สึกไม่มีพลังงานที่จะทำว่ะ ทั้งที่เป็นสิ่งที่กูชอบทำแท้ๆ
>>589 มึงก็อย่าไปอ่านเม้นท์ดิ มึงเห็นโพสต์เห็นคลิปอะไรที่มึงรู้ว่ามีแน่ไม่ต้องไปเปิดอ่านเม้นท์ก็จบ พวกนี้มันหิวแสง บางคอนเท้นต์เกิดประเทศอื่นที่ไม่เกี่ยวแม่งยังโยงมาที่ไทยได้กูละอย่างชอบ หาสาระจากเม้นท์ไม่ได้หรอกเดี๋ยวนี้ มึงไม่ต้องไปเครียดไปเอามาโยงใส่ตัวมึง ไม่ต้องพยายามให้มันหมดไปหรอก มึงก็แค่เมินไปเพราะพวกนี้มันได้รับความนิยม ถ้ายังเม้นท์เรียกหาพวก หาสปอร์ตไลท์ฉายมาใส่ตัวเองได้ มันก็มีมาเรื่อยๆ
>เป็นอินโทรเวิร์ดสุดโต่ง แต่ก็คุยกับคนได้ แค่ไม่อยากโดนชวนไปเที่ยวไหนจริงๆจังๆอ่า เพราะเราเป็นสายเที่ยวคนเดียว ความสนใจก็เฉพาะตัว
>เป็นไม่กี่คนที่พูดอังกฤษและภาษาที่3-4ได้ เลยต้องเป็นด่านหน้าในการคุยงาน
>ฝรั่งที่มาคุยถูกใจเราอยากเป็นเพื่อนชวนไปเที่ยวไกลๆใสไทย
>รู้สึกดีใจและอึดอัดทุกครั้ง แพนิคด้วย อ๊าคคคคคคค แบบตัวสั่นเลย แต่ก็ยิ้มตลอดอยากให้เขารู้สึกดีๆที่มาไทยเจอคนไทย แต่ก็แบบ เหนื่อยอ่ะ
ทำไงดี? หรือทําใจ ใครปลอบหน่อยที หรือใครประสบไรแบบนี้มั้ย🥲
คือเราโดนคนบุลลี่มาตลอด10ปี พอโตขึ้นมาเลยแพนิคเวลาคุยกับคนใหม่ๆ แต่เราก็คุยได้ปกตินะ อยากมีเพื่อนแต่ก็กลัวเพราะจริงๆเราแม่วมันคุและเนิร์ดชห
>>596 มึงคือกูคุยกับคนได้นะ ทํางานเป็นfrontโรงแรม/ไกด์ท่องเที่ยว คุยกับลูกค้าได้ตลอด แต่พอคนอยากมาเมคเฟรนกูกลับยังกลัวอยู่ กูทําแบบสิ่งที่มึงพูดมาอยู่นะตอนนี่กูก็overcomeได้ดีขึ้นมากแต่ก่อน แต่พอเรื่องความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับใครอย่างการเป็น “เพื่อน” เหนี่ย กูกลับแพนิคมากๆ คือตอนคุยใจสั่นมือสั่นเลย แล้วโครตซึมเลยทั้งที่มันควรจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เวลาคุยกับคนแปลกหน้ากูรู้สึกปกติมากกว่าถ้าอีกฝ่ายไม่สนใจจะเมคเฟรนต่อ คือมันปัญหาเฉพาะตัวไปหน่อย แล้วกูก็แอบเศร้าที่กูลึกๆไม่อยากคบกับใคร กูกลัวกังวลอะไรซักอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน 🥲
>>597 ขอบคุณมาก
คือรวมๆแล้วมันหาหมอได้สินะ ไว้ตอนที่จบฝึกงานกูจะลองไปหาดู
เวลาเจอเรื่องน่ากลัวแล้วหน้ามืดอาเจียน พอผ่านไปแล้วหายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กูเป็นไรวะ
กูเบื่อที่พ่อเป็นคนขี้ปล่อยพลังลบชิบหาย บ่นทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ตลอดเวลาแบบตลอดเวลาจริงๆ
เคยให้กูนั่งฟังเขาบ่นไปเรื่อยแบบไม่ได้ลุกไปไหน ทำได้แค่ไปฉี่ ข้าวไม่ได้กิน ตั้งแต่เที่ยงวัน จนตี 1 กว่าๆ
เป็นคนมองโลกในแง่ร้ายแบบสุดๆ แล้วก็ทึกทักไปเองเก่ง
เช่นสมมติไปคุยงานกับซัพ ตกลงกันแล้วว่าสต็อกของไซส์ S แต่ตัวเองจำผิดเอง นึกว่าจะสต็อกไซส์ M พอเขาส่ง S มาก็โวยวายว่าซัพยัดของให้
ด่าทั้งซัพ แล้วก็ด่ากูกับแม่ว่าโง่ โดนหลอก ซัพวางยา ไม่อยากให้เราโต มันอิจฉาบริษัทเรา ด่าๆๆได้แบบติดกันหลายชั่วโมงไม่มีพัก
เวลาไปเที่ยว กินข้าวกันก็ด่าคนนั้นคนนี้ตลอดเวลา ด่าเรื่องงาน(ที่จริงๆตัวเองผิด)บ้าง ด่าอาหาร ด่าคนเดินผ่านไปมา ด่าอากาศ ด่าสภาพแวดล้อม ด่าไปทั่ว
ทำให้กูรู้สึกระแวงเวลาจะต้องคุยอะไรกับพ่อมาก แค่ได้ยินเสียงก็รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก มือสั่น ทำไรไม่ถูก บางทีกูถึงขั้นเห็นสายเข้าเป็นพ่อ ก็คือนั่งมองมือถือ ไม่รับสาย จนกว่ามันจะขึ้นมิสคอล
เวลาคุยกับพ่อกูเหมือนเล่นเกมในหัว สิ่งที่กูพูดออกไปแทบไม่มีความคิดจริงๆของกู แต่กูแค่พยายามหาสิ่งที่คิดว่าตอบไปแล้วพ่อจะอารมณ์ดี พ่อจะถูกใจ จะไม่ด่ากู
รู้สึกแย่ชิบหาย กูไม่ได้เกลียดเขา อายุเขาก็มากแล้ว รู้สึกว่าอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขด้วยกัน คนในครอบครัวสุขภาพไม่แย่ หนี้ก็ไม่มี เงินก็พอมีใช้ไม่ลำบาก
ทำไมเราต้องเจอกันแล้วมีแต่การสร้างทุกข์ขึ้นมาทั้งที่ครอบครัวเราก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย กูไม่อยากเกลียดการคุยกับพ่อแบบนี้เลย แต่มันเป็นไปเองจริงๆ
อยากไปหาหมอตรวจโรคทางจิตให้จบๆ แต่ก็กลัวอยู่2อย่าง 1.กุแค่คิดมากไปเอง แค่สำออยไปเอง ไปหาเสียเวลา เสือกเซนซิทีฟไปเอง เบียว วันนาบี น่าอาย 2.กุเสือกเป็นจริงๆ ป่วยจริงๆ ทำไมต้องป่วยด้วย แล้วถ้าได้ยามาแดกเอฟเฟคพวกมึน เบลอ พูดไม่รู้เรื่อง อ้วนเพราะยาล่ะ งั้นกุไม่ไปหาดีกว่าจะได้ไม่ป่วย ถ้ายังควบคุมตัวเองได้ระดับนึงไม่ถึงกับทำร้ายตัวเองระดับใกล้จะตาย กะเอาตาย ถ้าแค่ทำร้ายตัวเองแบบเบาๆน่าจะไม่ใช่เหตุจำเป็นที่จะต้องไปไหม
ถ้าขี้เกียจไปรพ.จัดก็ใช้แอพอูก้าสิ ไม่ต่างกับไปเจอหมอตัวจริงเท่าไหร่หรอก กูหาหมอผ่านแอพมาหลายวิสิตละ เวิร์คอยู่นะ มีเอกเซอไซส์ความคิดให้ทำเรื่อยๆ ไม่ได้แดกยา ก็ดีขึ้นเรื่อยๆนะ (ปล.กูคุยเรื่องสับสนทางเพศ ไม่ใช่เรื่องซึมเศร้า)
โรคผิดเพศหรอวะ คนเป็นกันเยอะ ไม่อยากเป็นเลยวะ กุคงทุเรศตัวเองน่าดู
แม่งกูกลับมาดิ่งอีกแล้ว อันที่จริงดิ่งมาหลายวันแต่เพิ่งสังเกตว่าอาการมันคล้ายๆ ตอนเป็นซึมเศร้าหนักๆ กูดึงตัวเองขึ้นมาไม่ได้เลย ต้องกลับไปแดกยาอีกแล้วหรอวะ
เสียใจผิดหวังซ้ำๆ กับเรื่องเพื่อน เรื่องครอบครัว เรื่องเงิน จนสิ้นหวังไปหมดแล้ว ทำไมใจร้ายกับกูจังเห็นหัวกันบ้างก็ได้ เกลียดที่ต้องมาคีพคสพแต่เกลียดตัวเองที่ขี้เหงามากกว่า ยอมแพ้เรื่องคนละ ยังไงก็คงเน่าตายคนเดียว นึกเรื่องดีดีในชีวิตไม่ออกเลย ไม่เชื่อในฝีมือตัวเองด้วยซ้ำอย่างกูจะหาเงินได้เองจริงหรือ เปลืองตังเปลืองเวลาเรียนว่ะ ทำไมต้องทนมีชีวิตด้วยมันมีอะไรดีหรอ แล้วทำไมคนที่อยากตายถึงผิด
กูว่ากูอยู่ในโลกเพ้อฝันจนดึงตัวเองกลับมาไม่ได้แล้วว่ะ ไม่อยากจะเคลมตัวเองว่าเป็นคนโลกส่วนตัวสูงนะ เพราะกูคิดว่าตอนนี้กูเหนือขั้นกว่าคำว่า Introvert ไปแล้ว กูไม่รู้สึกว่าอยากจะคุยกับใครจริงจังเลยสักคน ทั้งๆที่แต่ก่อนในสมัยเรียนกูเป็นพวกซึมเศร้าวอนนาบีที่เอาชีวิตไปผูกกับคนอื่น เหมือนกูไม่อะไรกับใครแล้วว่ะ ใครจะอะไรก็ช่างกูก็จะอยู่กับเพื่อนในจินตนาการอยู่ในโลกที่กูสร้างก็มีความสุขกว่าอีกไม่ต้องไปตามไล่แคร์ไล่หาความรักจากคนอื่นเลย แต่ก็ไม่วายโดนนินทาอยู่ดีว่าเป็นพวกไม่เอาไหน ก็โดนเหน็บทุกวันนะบางวันก็เครียดบ้างบางวันก็พยายามปล่อยบ้างคำคนอ่ะเนาะ เที่ยวในความฝันมันสนุกกว่าออกจากบ้านในชีวิตจริงอีก อย่างน้อยๆกูก็ไม่ต้องมาแคร์สายตาคนอื่นว่าเขาจะมองมาที่กูยังไง ถ้าโลกมีแต่กลางคืนก็ดีดิ กูจะได้ฝันไปตลอดเลย
กูระบายเฉยๆไม่ต้องแนะนำอะไรหรอก อึดอัดแค่อยากพูดอะไรออกมาบ้าง
มีอยู่คืนนีงที่กุดาวน์หนักๆร้องไห้สะอึกสะอื้น ร้องหนักชิบหายแบบที่ไม่ได้เป็นมานานแล้ว กุตัดสินใจที่จะนอนเพราะรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว กุก็นอนตะแคงข้างตามปกติของกุไปแต่กุได้ยินเสียงหวอรถพยาบาลตอนดึก กุก็ภาวนาในใจขอให้คนเจ็บไม่เป็นอะไรหนัก ขอให้โชคดี และกุได้ยินเสียงหวอตามมาอีกหลายๆคันเว้นช่วงประมาณนึง กุก็พยายามฟังว่ามันไปทางไหน คิดในใจ รถเยอะขนาดนี้ไฟไหม้หรอวะ แต่ทำไมกุได้ยินมันขับวน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ คือกุได้ยินเหมือนมันวนรอบบริเวณบ้านกุ กุก็เลยเงยหน้าขึ้นมาเพื่อฟังชัดๆว่าเสียงมันไปทางไหน สรุปทุกอย่างเงียบ ไม่มีเสียงอะไรเลย ทั้งที่เสียงหวอที่กุได้ยินดังพร้อมตอนกุตัดสินใจจะเงยเลย แต่พอเงยทุกอย่างดับสนิท ไม่มีเสียง เสียงที่กุได้ยินก็เหมือนโดนตัดไปทื่อๆ สรุปคือเสียงในหัวของกุเองที่มันดังมาตลอด ไหวนะวัยรุ่น ไปต่อนะฮะ บอกตัวกุเองเนี่ย ปกติเคยเป็นเบาๆแค่ปิดเสียงเกมแล้วได้ยินเสียงเกมอยู่ ได้ยินเป็นเรื่องเป็นราวเลย กดเกมก็มีเสียงเอฟเฟค ได้ยินเสียงดนตรีเพลง เสียงพากย์ตลค. แต่มันจับใจความไม่ได้ขนาดนั้นนะเหมือนมัวๆ แล้วเสียงที่ได้ยินก็ไม่ใช่ของเกมด้วยเหมือนหัวกุมันสร้างขึ้นมาเอง มีมาเจอตอนหวอพยาบาลเนี่ยทำกุเหวอจริง และกุเชื่อสนิทใจเลยด้วยเพราะกุได้ยินจริงๆ ก็ว่าทำไมที่บ้านกุเงียบไม่มีใครแตกตื่นอะไรเลย ปกติต้องแบบ ที่ไหนวะ ไฟไหม้หรอ ไปทางxxxแน่เลย
พิมพ์เหี้ยอะไรยาวๆ ปัญญาอ่อน มีปัญหาสุขภาพจิตเหรอ
ปวดแผลเฉย กุทำตั้งแต่เดือนเมษาพึ่งมาปวดตอนนี้ แถมแผลบวมด้วย แสบๆเหมือนเวลาเหงื่อออกแต่คือกุอยู่ห้องแอร์ กับปวดเหมือนปวดกล้ามเนื้อวิ่งหนักๆ
กุไม่ชอบตัวเองเวลาพูดเลยว่ะ รู้สึกเหมือนตัวเองพูดมาก พูดไร้สาระ คนอื่นจะรำคาญรึเปล่า จะมองว่ากุแย่รึเปล่าทั้งที่พูดในกลุ่มเพื่อนสนิทแท้ๆ ไม่ชอบเลย
พอกุไม่พูดกุก็เหงา รู้สึกว่ากุจะน่าเบื่อรึเปล่า กุควรพูดอะไรมั้ย
มีหลักสูตรสอนหาจังหวะและวิธีการพูดปะวะ กุไม่ชอบตัวเองเลย
แปลว่ามึงเจอคนที่เขาดูไม่ได้ตั้งใจที่มึงฟังรึเปล่า มึงเลยคิดแบบนั้น ถ้าไม่สบายใจก็ลองพูดให้น้อยลงสักนิด ละลองพูดท็อปปิคที่คนฟังเขามีส่วนร่วมได้ด้วยอะ ทั้งฟังทั้งพูด เดี๋ยวก็เคเอง
>>616 คอร์สสอนเทคนิคการพูด การโน้มน้าวใจคน ทำให้คนรัก ทำให้ตัวเองมีเสน่ห์ มีเยอะแยะแหละ (และแพงด้วย) แต่กูว่าถ้าอยู่กับเพื่อนแล้วเรายังต้องพยายามขนาดนั้น อย่ามีเลยว่ะ เพื่อนเนี่ย แต่ถ้ามึงสนใจจริงๆ ลองดูคลิปครูเงาะใน youtube ก่อนก็ได้ เขาจะชอบทำคลิปแนะนำบุคลิกภาพ การพูด การวางตัวโน่นนี่นั่นสั้นๆ (เป็นคลิปสั้นเพื่อขายคอร์สต่ออีกที) กูว่ามันก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่กูเอาไว้ใช้ในที่ทำงาน ถ้ากับเพื่อน กูว่าหาเพื่อนที่เคมีเข้ากันได้แบบเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายามจะดีกว่า
Trusted issuesนี่น่ากลัวมากเลยนะ ตอนเด็กๆถูกสอนมาว่าพ่อกับแม่นี่แหละคือที่พึ่ง ต่อให้คนอื่นจะทำไม่ดีหรือโกหกกับเรา แต่พ่อกับแม่จะไม่โกหกเราเด็ดขาด และจะรักพวกเราอย่างเท่าเทียม(เรามีน้องชายคนนึง)
ที่ตลกร้ายคือพอมาช่วงม.ปลาย เราคุยกับแม่เรื่องที่เรารู้สึกหมดอนาคตไม่อยากจะใช้ชีวิตต่อแล้ว เรื่องหหาลัยก็ปวดหัวพอกัน เรามีชีวิตเพื่ออะไร?เพื่อใครกันแน่? ตอนขอแม่ว่าช่วยรับฟังได้ไหม+อย่าไปบอกพ่อนะ ไม่อยากให้เขาเครียด แม่ก็ตอบรับปากอย่างดีเลย
คืนวันเดียวกัน โดนพ่อกับแม่ลากไปคุยกันสามคน โดนด่ายับทั้งเรื่องอนาคต มหาลัย แถมโดนซ้ำด้วยว่าถ้าอยากจะเอาความรักที่พ่อกับแม่มีให้ไปโยนทิ้งนักก็เอาเลย ทำเลยสิ น้องชายยังมีดีกว่าเราอีกตั้งหลายอย่าง ทำไมลูซเซอร์งี้อ่ะ
ตลกร้ายกว่าคือตอนท้ายๆของการถูกรุมด่า แม่บอกว่าที่ทำก็เพราะรักลูกนะ...แต่ผลสุดท้ายก็คือ เราโดนโกหกใช่มั้ยล่ะ? ทั้งที่เราเชื่อใจเขามาตลอด มารู้ทีหลังด้วยว่านั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโกหกเรา
พอไม่อยากจะเชื่อใจใครแล้ว ก็รู้สึกเหมือนไม่มีใครให้พึ่งพาอ่ะ รุ่นพี่ที่เราสนิทก็เริ่มแยกตัวจากเราไปชิทแชทกับกลุ่มส่วนตัวเขาจนแทบไม่ทักคุยกับเราแล้วด้วย หรือจริงๆแล้วเราเป็นLoserเหรอ? หรือว่าเราก็แค่อยากจะหาใครที่เราเชื่อใจได้จริงๆ?
แค่จะร้องไห้ยังเกลียดเลย พอพยายามจะปล่อยโฮมันก็คลื่นไส้เอง กลายเป็นว่าร้องไห้ไม่ออกเพราะเกลียดเสียงร้องไห้/สภาพตัวเองตอนร้องไห้ มันน่ารังเกียจ มันไม่ดูเป็นลูกผู้ชายเลย มันน่าสมเพช
จริงๆนะ เราอยากตายเหมือนกัน แต่พอนึกถึงความเครียดที่คนรอบข้างจะได้รับก็ไม่กล้าทำแล้วละ แต่อยู่ไปก็มีแต่ทรมาณ ไม่เห็นอนาคตตัวเองเลย เหมือนใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะตายกันหมดแล้วค่อยตายตามไป
ปล.เราเป็นผู้ชายนะ เผื่อสงสัยเรื่องความไม่แมนด้านบน จริงๆก็ถูกปลูกฝังมาแหละว่าลูกผู้ชายห้ามร้องไห้ คงเพราะงี้มั้งเลยเกลียดเวลาที่ตัวเองจะร้องไห้
รู้สึกเหนื่อยเศร้าโกรธโมโหเครีบดกลัววิตก แต่กูก็เก็บมันไว้เพราะไม่อยากไปเห่าหอนให้ใครฟัง กูเผลอแสดงอารมณ์นิดหน่อยแม่งก็มีปัญหา กูเลยต้องเงียบๆ แต่มันก็เริ่มจะอึดอัดอยากระบาย แม่งสติปัญญาคนรอบตัวรับฟังเรื่องไม่เป็นอยู่แน่ๆ แต่ทีงี้พวกคอลเซ็นเตอร์มันจะคุยกับกูได้มั้ยวะ จจ.จิตใจสันดานกูมันเหี้ยเอาแต่ใจ กลัวแม่งจะประสาทแดกตายก่อนกู เพราะจริงๆกูก็เป็นคนที่มีคนมาปรึกษาตลอด เอาจริงๆกูก็แค่ตอบสิ่งที่แม่งอยากได้ยิน แต่จจกูไม่ได้เห็นด้วยกับมัน กูกลัวว่าพวกคุยคอลเซ็นเตอร์แม่งจะประมาณนี้ คือใครแม่งจะไปเข้าใจคนอื่นได้ ถ้าไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันวะ
เอาจริงกูเป็นคนไม่อินเลย กับโพสประเภท "ขมปี๋เลยดิ ชีวิตตอนโต" "เพื่อนมัธยมคือเพื่อนที่ดีที่สุด" "ชีวิตวัยเด็กไม่มีอะไรมาแทนได้" "ชีวิตวัยทำงานแย่กว่าชีวิตตอนเรียนเยอะ"
คือกูเข้าใจ point บางคนนะว่า ตอนเรียนแม่งไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องหาเงิน บลาๆ
แต่ที่ชีวิตกูเจอแม่งคือมีแต่เหี้ยกับเหี้ยอะ เพื่อนก็เหี้ย ครูก็เหี้ย บูลลี่ก็เหี้ย พอชีวิตทุกอย่างเหี้ย กูหันมาเล่นเกมแบบไม่สนใจอย่างอื่นเลย (ยกเว้นเรื่องเรียน เกรดกูตอนจบ 3.9 ติดวิศวะลาดกระบัง) กูก็โดนผู้ใหญ่รอบตัวประณามอีก หาว่าเด็กติดเกม โตไปเรียนไม่จบ
พอมาถึงตอนนี้คือชีวิตกูสบายแบบ สบายกว่าที่เคยคิดว่าอนาคตกูจะมีได้ พอเจอโพสพวกนี้แล้วแม่งทำกูคิ้วขมวดประจำเลย เพราะพอเจอโพสพวกนี้ แม่งทำให้กูนึกย้อนกลับไปตอนที่ชีวิตแม่งโคตรจะเหี้ยอยู่
บางครั้งกูเห็นพวกคนประสบความสำเร็จด้านต่างๆ ที่เริ่มทำสิ่งที่ตัวเองชอบตอนอายุ 10 กว่าขวบกูก็เคยนึกนะ ว่าถ้ากูย้อนเวลาได้กูก็อยากเริ่มไวๆเหมือนเขา แต่พอคิดไปคิดมา สมัยกูเด็กๆแม่งมีแต่เรื่องให้น่าปวดหัวจนต้องหาที่ระบายประจำ กูจะเอาเวลาที่ไหนไปหาสิ่งที่ตัวเองชอบวะ
มาบ่นเฉยๆแหละ เห็นโพสแบบนี้แล้วทำกู triggered ประจำ
คนเหล่านั้นเป็นคนที่เก่งที่สุดในโรงเรียนมัธยมปลาย
พวกอ่อนแอต้องส่งไปโรงเรียนลูกผู้ชาย
ช่วงนี้รู้สึกดาวน์ๆ ว่ะ
คงเพราะอายุมากแล้ว (ปีนี้กู 33) แต่ยังไม่มีงานการมั่นคงเลย ในขณะที่คนอื่นแม่งมีลูกมีเมียมีครอบครัวกันหมดแล้ว ในขณะที่กูยังต้องเกาะอยู่กับที่บ้านเป็น Loser ในสายตาคนอื่นต่อไป จนไม่เหลือแม้กระทั่งความมั่นใจแม้แต่จะออกไปจีบใครเหมือนคนอื่นเขา
ถึงเงินเดือนจะไม่ขัดสนก็เถอะ แต่รู้สึกว่าการงานเองก็ติดขัดมากไม่ราบรื่นเท่าไรแถมอนาคตไม่ค่อยมีด้วย แต่ด้วยอายุเท่านี้จะเปลี่ยนสายงานก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ แถมมันเป็นสายงานที่กูเคยยืนกรานว่าอยากจะทำจนทิ้งโอกาสอะไรทั้งหลายไปอีก เลยต้องมานั่งเสียดายเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองจนถึงทุกวันนี้อีก orz
เช้านี้ กลับมารับงานพากย์ Valorant ณ ม.หอการค้า
(ยังมี ม.ศรีปทุม ม.กรุงเทพ ต่อ)
ชีวิตเริ่มต้นจาก 0 ใหม่ ขอบคุณมิตรสหายที่ไม่ลืมกัน
รับงานพากย์ทุกเกมครับ Valorant DotA2 LOL Naraka Fortnite Call of Duty ROV PubG Overwatch ฯลฯ หรือถ้าเปิดเกมใหม่ๆ บอกได้ครับ เทรนตัวเองไปพากย์ได้ แบบ Open AI
ถ้ามีทัวร์เล็กๆ และ ขนาดกลาง อยากใช้งาน สมใจถามราคามาได้ คิดถูกจน กันเอง คุณบริหารงบได้สบายๆ ครับ
ขอบคุณครับ
ถ้าไม่นับจาก0จะเริ่มจากอะไร การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ
>>632 >>633 เป็นนักเขียนว่ะ นักเขียนนิยายด้วย
ปีก่อนๆ งานขายได้ ได้เงินมาพอเลี้ยงตัวเองเลยไม่บ่นอะไรนี่ล่ะ แต่มาปีนี้ยอดขายได้ไม่ถึง 1/3 ของปีก่อนๆ เลย จนเริ่มเดือดร้อนละ พอโดนเพื่อนๆ ที่เจอกันมาอวดชีวิตนั่นโน้นนี่ทันก็พาลรู้สึกให้คิดว่าตัวเองมาเสียเวลาอะไรอยู่แบบนี้
แต่อย่างที่บอกอะกูเลือกมาทางนี้เอง จนทิ้งโอกาสอื่นๆ ไปหมด เพราะชอบ แต่ปัญหาคือสภาพตลาดในตอนนี้มันฟืดเคืองมาก แถมจะชีฟไปสายงานอื่นก็ไม่ได้ โดยเฉพาะสายบัญชีที่กูมีวุฒิเนี่ยยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
รำคาญความคิดคน รำคาญกับการไหลไปตามๆกันจนไม่รู้จะสนใจทำไม บางทีก็คิดจนจิตตกจนคิดว่าคนเราแม่งมีค่าต่ำกว่าเอไออีก
กูไม่เคยรับมือกับการจากลาได้เลยว่ะ
ถึงจะเข้าใจว่าชีวิตคนเรา people come and go แต่มันก็ยัง handle กับความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้สักที
คือรู้และเข้าใจทุกอย่าง แต่มันก็ยังเศร้าอยู่ดี
กูโคตรไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย
>>639 หมายถึงการตายจากหรอ? ผลิตลูกแทนของเก่าดิ คนตายมันก็แค่ใช้งานไม่ได้
ต่อจากนี้ อาจใช้เวลาไม่นาน
และคงไม่ได้ร่าเริงกันแบบนี้ตลอดไป
อย่าไปยึดติดกับมัน
Maeshika mukanee
จากตรงนี้จนสุดเส้นทาง
ขอให้ผ่านพ้นด้วยความสวยงามเรื่อยไป
เหมือนใจหวั่นที่ฉันอาจไม่พร้อม
อยู่กับโลกที่เปลี่ยนผันไป
แต่อย่าหวั่นไหวจงเดินให้ไกล
และทุกครั้งที่เธอมอง ย้อนกลับมาตรงนี้
เธอจะเห็นเพียงแค่ลมที่ล่องลอยไป
Maeshika mukanee
สุดท้ายถ้าต้องร่ำลา
โปรดจงเชื่อมั่นในวันพรุ่งนี้ของเรา
แม้ว่าเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้
หรือว่าฉันไม่ได้อยู่ข้างเธอ
แต่ต้องใช้ชีวิตคนเดียวให้ไหว
เธอกับฉันแยกกัน ไม่ได้อยู่นิรันดร์
แต่ท้องฟ้าจะคอยเชื่อมโยงเราอยู่ด้วยกัน
จะฟ้าก็ดีจะฝนก็ช่าง ฤดูกาลDay Night ไม่มีอะไรมากระทบใจกูได้
กุไม่ชอบที่ตัวเองเป็นคนเซนซิทีฟเลยวะ แล้วกุเสือกเซนซิทีฟแบบมากๆ เวลาฟังเพลงดูหนังคือเหมือนมันออกมาไม่ได้แล้วก็ตกค้างกับอารมณืไปหมด แล้วแบบเวลาดิ่งคือดิ่งชิบหาย ยิ่งเวลาเจอปัญหาที่แบบไม่ใช่ปัญหาของกุแท้ๆ กุไม่ได้ทำผิดด้วยซ้ำ แต่บางทีเวลาเตือนหรือพูดดีๆด้วยแล้วอีกฝ่ายชอบทำหน้าทำตาใส่กุเหมือนเรื่องที่กุพูดมันเกิดหรอกไรเงี้ย แต่แบบมันสามารถเกิดได้อ่ะกุแค่พูดให้เห็นภาพเฉยๆ พอมันทำหน้าทำตาใส่กุก็โมโหแต่กุทำห่าไรไม่ได้เพราะแม่งเสือกเป็นคนในครอบครัว กุทำได้ต้องเดินไปร้องไห้ในห้องน้ำหรือไปอยู่ในห้องมืดๆเพื่อร้องไห้แล้วทำร้ายตัวเองให้เจ็บมันจะได้ทุเลาลง แล้วหลายอย่างไม่ใช่ความผิดของกุอ่ะ แต่กุต้องมานั่งรู้สึกผิดในการที่กุจะเตือนใครสักคน ไม่ว่าจะในครอบครัวหรือเพื่อน มันแบบกุไม่กล้าจะมีส่วนร่วมด้วยเพราะกลัวเขาจะไม่มีความสุขอ่ะ
สมัยนี้ต้องพรีเซนต์ตัวเองไปด้วยวะ ไม่ใช่ขายแต่ผลงาน
ขายไลฟ์สไตล์ ชีวิตส่วนตัวของตัวเองให้เข้าถึงคนหมู่มาก
ไม่ใช่เอาแต่อยู่ในซอกหลืบ
บ้าเอ้ยเป็นโรคบ้าแพน คพูดติดอ่าง ว๊าคคคดตกรดนกกนกส
กูเพิ่งเคยใช้ขอถามเชิงบ่นหน่อยเพราะกูเจอมากับตัวแม่งแปลกมากไม่รู้ควรไปห้องไหน
ทำไมคนเหี้ยที่ชอบคาบข่าวเรื่องหลังไมค์ไปบอกคนอื่นให้เขาทะเลาะกัน คนนั้นตอแหลหน้าไมค์ดูเป็นคนดี หลังไมค์นินทาคนให้แซ่บ ทำไมยังมีคนคบแม่งอยู่อีกวะ แล้วคนที่คบกับแม่งก็คนที่โดนคาบข่าวไปบอกด้วยนะ
>>647 บอกห้ามแล้วมันจะฟังหรอ?? สันดานมันก็ไม่หายหรอก
เป็นใครมาสอนกูเรื่องของกู มันก็ประมาณนี้
กุเคยบอกให้มันเลิกคบเพื่อนฝ้ ไปแล้ว มันไม่ฟังไง อยากเด่นอยากดัง เยอะแยะในสังคม
เพราะการไม่มีตัวตนมันน่ากลัว พอแตกหักกันก็บอกไม่เกี่ยวแล้วนะคะ พวกนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
พวกคบกับพวกนี้ก็สติปัญญาพอๆกันละ เมิงก็เลิกคบกับไอตัวที่คาบข่าวสิ
มันบอกจะด่ามันยังไงก็ได้ อีdok ก็ได้ แต่ไม่ขอเป็นเพื่อนฝ้ อีก ถ้าใครพูดมาคำนี้หรือโพสภาพมันจะโกรธ กุว่าฮาดีนะ
บอกสำนึกแล้วหน้าไมค์ แต่หลังไมค์ก็ฉ่ำเหมือนเดิม เป็นที่มาอย่ามาลองดีกับนายหญิงของกู
>>648 กูเลิกคบกับมันไปละ คนแม่งมาฟ้องเรื่องมันเรื่อยๆทั้งรุ่นพี่กูเพื่อนรอบตัวกูกับมัน มาฟ้องให้กูรู้ฉ่ำๆไปเลยมึง กูเคยสนิทกับมันพอกูเลิกคบมีเพื่อนมาบอกว่ารู้ไหมตอนมันสนิทกับมึงมันอิจฉามึงที่ได้นู้นนี้จากคนในเน็ตทั้งที่กูก็อยู่เฉยๆ แล้วแม่งก็ gaslighting คนรอบตัวที่แม่งทะเลาะด้วยทุกคนไม่พูดขอโทษก่อนถ้าสนิทกับมัน
วันนี้กูลาป่วยไม่ได้เข้าไปมหาลัย แต่แจ้งเพื่อนไว้ว่ากูลาป่วย แล้วทีนี้กูเพิ่งมาเห็นว่ามีงานต้องส่ง เลยเจียดแรงอันน้อยนิด หัวก็ปวด ลุกไปโบกวินมอไซส่งงาน พอไปถึงตึกคณะ กูดันคิดมากว่าจะมีใครมาเห็นกูไหม เลยเดินหลบสายตาคนทั้งหมด แล้วกูดันโชคร้ายเจอรุ่นพี่หลายคนเลย เขาก็ถามว่าไม่เรียนเหรอ พี่ฝากของไปให้น้องหน่อย บลา ๆ กูเลยบอกเขาไปว่า วันนี้หนูลาป่วยค่ะ เลยไม่ได้เข้าเรียน พี่เขาบอกกูกลับบ้านดีๆน่ะ ที่จริงก็ไม่อะไรหรอก แต่กูดันคิดมาก กลัวพวกพี่เขาเอากูไปพูดหรือถามใคร (มันเป็นเวลาเรียน แต่กูลาป่วย แล้วไปส่งงาน มันจะดูเป็นคนเหี้ยไหมอ่ะ )สำหรับกูดันคิดมากเรื่องแบบนี้ ทั้ง ๆ ทีกูไม่อยากมาสนใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอก มีวิธีเลิกคิดมากแบบนี้ไหมอ่ะ กูเกลียดตัวเองที่คิดเยอะ คิดมากชิบหาย
มึงๆโรคหลงตัวเองมีใครรู้เชิงลึกเรื่องนี้บ้างวะ กูกำลังศึกษาอยู่อะคือมันมีที่มาที่ไปยังไงอะไรมันก่อให้เกิดอาการห่านี่ได้วะ แบบพวกวางแผน ใช้คำพูดทำให้คนหลงใหลอะไรแบบนี้มันทำได้ยังไง
เมื่อก่อนในที่ทำงานกับรุ่นพี่ผู้หญิงมีอายุหน่อยๆ กุดีกับทุกคน ใครเดือดร้อนกุช่วยเหลือตลอด บางเรื่องแทบไม่ต้องพูด กุพร้อมซัพพอร์ท มีปัญหาอะไรก็คอยรับฟัง แต่พอเวลาผ่านไป กุต้องการความช่วยเหลือ ทำชักสีหน้าใส่เหมือนรำคาญทั้งที่พวกมันก็ว่างเล่นโทรศัพท์ ทักไลน์ไม่ตอบแต่พอพวกมันจะให้ช่วยงานดันไลน์กลับมาได้ หงุดหงิดอะไรก็สามารถ อดกลั้นได้หมดแต่มาลงกับกุคนเดียว และพวกมันสามารถ พูดจาดีๆ หัวเราะขำขัน กับคนที่ไม่เคยช่วยเหลือ ไม่เคยทำอะไรเพื่อพวกมันเลยสักนิดได้อย่างสนุกสนาน เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่มิตรภาพที่กุต้องการละจึงเฟดออกมา
กุอยากขอแนะนำว่าต้องวางตัวยังไง เผื่อคราวหลังจากลาออกแล้วจะได้ไม่เจอคนทำตัวแบบนี้ใส่อีก
กุคิดมาหลายคืนละ ที่คิดว่าชีวิตตัวเอง มันว่างเปล่าเหลือเกิน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าที่มันว่างเปล่าเพราะมันห่างไกลสิ่งที่อยากทำให้เกิดขึ้น สิ่งที่ยิ่งใหญ่ จนเหมือนมันจะเป็นไปไม่ได้ เช่น พอทำสำเร็จ เราก็มีโอกาสแต่งงานกับเมม
วันนี้ก็เลยอยากให้รางวัลตัวเอง อยากซื้ออะไรสักอย่างให้ตัวเอง แต่ก็กลายเป็นนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าอยากได้อะไร ไม่มีเลย
จบที่เปย์ไอดอลอยู่ดี เพราะรู้สึกว่าเป็นการทำให้ชีวิตมีค่าขึ้นมา เมม ทุกคนจะรู้มั้ยว่าการเปย์และได้อธิบายว่าทำไมถึงต้องสู้ต้องเปย์เพื่อเมม คือความสุขมากๆอย่างนึงของเราแล้ว ละก็ในจำนวนคามิโอชิ ไม่ถึง5 คน เราไม่รู้สึกอยากได้อะไรจากเค้าแล้วเลย เราอยากให้เค้าอยู่ในสายตาเรา แค่อยากดูเธอเติบโตไปเรื่อยๆเท่านั้นพอ
---------------
มันคืออาการอะไรวะ ไม่เข้าใจตัวเองเลย
https://i.imgur.com/SlCTR0T.png
https://www.youtube.com/watch?v=dixsFSqdjmU
รู้สึกว่าด้อยกว่าGENพ่อแม่วะ มองว่าถ้าเราให้กำเนิดลูกไม่ได้ เราก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลย
อยากให้กำเนิดลูกโมเอะแบบ สิต สักคน
โอตะจะมีจุดจบที่ดีแบบคนอื่นเขามันจะเป็นไปได้ไหมวะ
เคยทำแบบ MBIT แล้วได้ INFJ ตอนแรกก็คิดว่าแค่แบบทดสอบขำๆ + ไม่ค่อยเชื่อนักหรอกนะนะ
แต่ช่วงหลังๆ ที่ผ่านมาเริ่มสังเกตตัวเองแล้วว่าแม่งตัวเองเป็นคนประเภทนี้จริงๆ ว่ะ
ทั้งเป็น Perfectionist ทั้งมัวแต่แคร์สายตาคนรอบข้าง ทั้งกลัวโดนตำหนิ ล่าสุดอยากได้งานออกมา Perfect แต่ทำไม่ได้สุดท้ายก็ Burnout จนหมดอารมณ์ทำงาน ฯลฯ
พอรู้ชัดแบบนี้ รู้สึกเริ่มเกลียดนิสัยตัวเองชิบหาย ทำไมต้องเลือก try hard แทนที่จะทำอะไรง่ายๆ ด้วยวะเนี่ยตัวกู
กูก็ได้infj กูเคยเจอinfjมาหลายคน แม่งคนละเรื่องกันเลย เพราะแบบสอบถามmbira มันไม่ได้วัดpersonalityหรือbehaviorจริงๆ แต่มันวัดcharacterมากกว่า <อันนี้ศัพท์จิตวิทยา ไปหาdefinitionได้>
ต่อไปคงต้องมีคู่มือ how to
เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้โตขึ้นเป็นเด็กเก็บกด
จากใจ เด็กเก็บกด แต่ไม่รู้จักใช้ปืน เกือบทำเพื่อนตาบอดคนนึง คนนั้นชื่อริวเอ็น
อยากขอโทษเมิงวะ ไม่รู้ตาเมิงจะหายดีหรือกลายเป็นไอบอด กูก็รู้สึกผิดจริงๆ
แต่ไม่เจอกันคงจะดีกว่า ตอนนั้นกุแค่คิดว่าจะควักลูกตาเมิงออกมาเท่านั้น กุไม่เป็นตัวของตัวเอง
ปีศาจมันครอบงำกู แต่ตอนนั้น พวกเรายังป.5 กันอยู่เลย เมิงคงรู้แล้วว่ากุคือใคร
ถ้ากุโตกว่านี้พวกเราคงจะเป็นเพื่อนกันได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว
>>670 สนิทกับลูกให้เหมือนเพื่อน แค่นั้นเลยกูว่า บ้านไหนที่ลูกสนิทกับครอบครัวพ่อแม่พี่น้องแม่งจะเป็นคนที่สุขภาพจิตดีทั้งนั้น
ยากนะ กูไม่เข้าใจไมหลายครอบครัวทําไม่ได้ แล้วมักเป็นครอบครัวที่พ่อแม่อยู่ตำแหน่งสูงๆ สงสัยสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไป ความรักที่มีให้ลูกเหลือแค่Materialism ให้การศึกษา ให้เงิน ให้ข้าวของเครื่องใช้การอยู่กินดีๆ แต่ขาดอะไรไปบางอย่าง แต่ก็นั่นแหละเป็นสิ่งที่จักรกลไร้หัวใจมันทําได้ดีที่สุดแล้วสําหรับลูกของมัน
แฟนเป็นโรคซึมเศร้า แต่หายมาได้ครึ่งปีละ อยู่ด้วยกันแบบกุทำงาน แต่แฟนกุว่างงาน มีงานอดิเรกส่วนตัว ชอบขอเงินกุไปทำงานอดิเรก เงินมันก็ไม่ได้เยอะหรอก แต่พอเวลากุบอกว่าให้หาเวลาไปหางานบ้างนะ เหมือนนางแม่งจะแพนิค เครียดตลอดเลย คือกุต้องทำไงดีวะ เป็นมาซักพักละ
บ้านเกิดกูอยู่อยุธยาแล้วพ่อทำบ้านโดนยึดกูเลยต้องย้ายมาอยู่ทำงานสมุทปราการมาจะสองปีแล้ว ปัจจุบันกำลังจะซื้อบ้านที่นี่ แต่กูยังทำใจไม่ได้เลยทุกครั้งที่กูคิดถึงอยุธยากูก็ร้องไห้ทุกครั้งอยากกลับไปมากๆแต่ที่นี่ทั้งงานและเงิน ทั้งๆที่รู้ว่าถ้ากลับไปจะตัวเปล่าแต่กูก็อยากกลับไป กูมูฟออนไม่ได้วะ กูคิดถึงใจจะขาด
อยุธยาไม่ร้อนหรอวะ ไม่เคยไปอยุธยา5-6ปีแล้ววะ เจริญยังวะ
กูว่าเริ่มเจริญแล้วนะมีเซ็นทรัลมาเปิดแล้ว กูรู้สึกว่าที่อยู่ปัจจุบันร้อนกว่าอยุธยานะ
ทำงานแล้วเครียด ๆ โดนจวกเละทุกวัน งานก็หนักยากอีก มีวิธีแก้กันอย่างไรบ้างให้หายเครียด
เวลาหัวหน้าด่านี่เขาด่าไรกันวะ กูไม่เคยอยู่ในแวดวงการทำงานมนุษย์เงินเดือน งง
ในนี้มีใครทำงานด้านธุรการบ้างวะ พอดีกูจบใหม่ดนตรีอยากเปลี่ยนสายงานอยากรู้ว่างานยากไหม
ธุรการ ต้องทำงานสีเทาให้ได้ เป็นยันแก่ กันหมด
มาถามในมู้นี้ละ
ผู้ป่วยDIDใช้ชีวิตยังไง เล่นโชเชี่ยลตามปกติมั้ย ใครเป็นหรือรู้จักคนเป็นมาบอกหน่อย
โรคจิตเวช นี่มันจะมาตอนมีความรัก กุสังเกตุผญหลายคนละ มีความรักแล้วเปลี่ยนไปเศร้าหมองเลย
กุว่าการไม่มีแฟนเนี่ยละดีที่สุด
แต่กุไม่อยากทักว่า เลิกกับผช คนนี้นะ แต่กุสังเกตุอาการซึมเศร้าชัดเจน ปกติมันต้องด่ากุ แต่ตอนนี้มันไม่ด่าแล้ว
ซึมเศร้ามันโรคติดต่อกันได้
อีกประมาณ 3 วันจะถึงวัน(ฆ่าตัว)ตายละ ตื่นเต้นจังแหะ อารมณ์เหมือนตอนต้องออกไปพรีเซนต์งานหน้าห้องสมัยเด็ก ๆ เลย
ซ้อมผูกคอจนหูอื้อไปหมดละ
แต่ก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อยแหะ ยังอยากรอดูอัปเดตเกมที่ตัวเองเล่นอยู่เลย
แต่แม่งไม่ไหวละขี้เกียจทำงาน พอไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน พอไม่มีเงินก็ต้องตาย
ทำไมตาชั่งฝั่งชีวิตกูมันเบาเช่นนี้หนอ
>>695 กูไม่มีพ่ออะ แม่กูเป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาทำงานกทม. แล้วพลาดมีกูเฉย ๆ โดน toxic ใส่ตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ไม่ได้ดีอยู่แล้ว
อีกอย่างกูอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ มาตั้งแต่เด็กอะนะ ที่บอกมีพร้อมนี่ไม่ใช่ละ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก ตอนเด็ก ๆ กูขยันทำงานจะตาย
ไม่รู้เหมือนกันว่ากูเริ่มเป๋เอาตอนไหน น่าจะตอนแม่กูเริ่มหาผัวใหม่มั้ง ถึงจะ toxic ยังไงแม่ก็คือโลกทั้งใบอยู่ดีอะนะ
เก็บกดมาได้สิบกว่าปี มาแตกเอาตอนอายุ 26 ลาออกจากงานประจำมา ใช้เงินเก็บกับทำฟรีแลนซ์นิดหน่อย จนตอนนี้ 30 ไปต่อไม่ไหวละ
จริง ๆ ต้องบอกว่าไม่รู้จะไปต่อเพื่ออะไรต่างหาก สมัยก่อนแค่ไม่มีเงินนิดหน่อยก็วิ่งวุ่นหางานทำไปทั่วละ
ชีวิตมัน มึงไปเสือกอะไรด้วย
แต่ก่อนมึงจะตาย ถามตัวเองดีๆ ว่ามึงยอมรับได้ไหมที่ไม่ได้เห็นวันพีซตอนจบ เกนชินก็ยังไม่ถึงเมืองน้ำแข็ง จิ๋มเทพไฟยังไม่เห็น นมเทพน้ำแข็งก็ยังไม่เจอ GTA 6 ก็ยังไม่ออก
มึงรับได้ไหม?
จริงๆ ชีวิตคนอื่นกูก็ไม่อยากยุ่งมากหรอกนะ เพราะตังกูก็ไม่ค่อยพอเหมือนกัน แต่กูอยากอ่าน HxH ตอนจบอยู่นะ
แต่ถึงมึงไม่อยากตายก็ตายอยู่ดี จะรีบ game over ไป ส่วนตัวกูว่าไม่คุ้ม
มีคนฆตต.หมู่ในไทยบ้างป่าว ต้องไปหาจากไหน
เห็นมาเยอะชวนไปกันเป็นหมู่ แต่มีคนตายต่อหน้า ล้มเลิกก่อนก็มี คนเราเกิดมาตัวคนเดียว ตายไปก็ตัวคนเดียว
จำเป็นต้องมีเพื่อนด้วยหรอ ถ้ากุจะตายกุจะท่อง และร้องเพลงความโมเอะ มันทำให้กุมีความกล้าเผชิญหน้ากับทุกอย่าง
คืนนี้แล้ววววว เอาซักประมาณตี 2 ตี 3 ละกัน บรรยากาศกำลังดี
เก็บกวาดห้องเรียบร้อยละ ไม่ได้เหงื่อออกมานานสดชื่นดีจริง ว่าแต่จะกินอะไรเป็นมื้อสุดท้ายดีวะ
ส่วนเวลาที่เหลือก็นั่งลูบหัวไวฟุในเกมวนไป
ถ้าไปแล้วหิว มาเข้าฝันบอกเลขกูได้นะ ถ้าซื้อตามแล้วถูกเดะทำบุญไปให้ ถูกเยอะใส่บาตรให้เยอะ ถูกน้อยใส่บาตรให้น้อย ถูกแดกกูแช่ง
มีวิธีคลายความวิตก กังวล แบบฉับพลันรวดเร็วไหม
>>712 หายใจเข้าให้เต็มปอดทางจมูก หายใจออกทางปาก ทางกายภาพ
ทางความคิด ให้วาดรูปหรือsettingภาพ ที่ทำลายอารมณ์นั้น สมมุติ เมิงเงี่ยนมาก ให้คิดภาพคนแก่ของคนที่เมิงชอบไว้ มันจะทำลายจินตภาพ สุดท้ายก็เหี่ยวย่น
ถ้าวิตกกังวล อย่างแรกเลยคิดว่าเราได้ครอบครองมาแล้ว แม้ตอนนี้ยังไม่สำเร็จ คิดภาพจำในอนาคตที่ได้ครอบครองสิ่งนั้น หาวิธีที่จะไปสู่ภาพจำนั้น มันก็ง่ายๆ
1.ทางกายภาพหายใจ
2.สร้างรูปวาด
3.คิดเชิงตรรกะ
ไปแล้วนะโม่ง ใครที่ยังอยู่ก็ขอให้มีแต่ความสุข ถูกหวยรางวัลที่ 1 กันคนละ 10 ใบ
ส่วนกูขอล่วงหน้าไปก่อนละ
ลาก่อยชาวโลก บัยยยยยยย
กูว่าจะลาออกจากงานหลังปีใหม่วะเห้อทนไม่ไหวที่ทำงาน แม่งบรรยากาศแย่มากๆทำไปเสียสุขภาพจิตไปขอออกมาตั้งหลักใหม่ก่อนละกัน
นอนหลับ4-5วัน วันนี้นอนไม่หลับอีกละ
กูอยากให้reel หายไปจากโลก อยากให้คลิปสั้นควายๆติ๊กต่อกหายไปให้หมด ไร้สาระไม่พอ แม่งสร้างมาเพื่อดูดเวลา ทำลายสมองสัสๆ กูก็เฉยๆ บางทีก็ดู แต่บางทีคนรอบตัวแม่งติดรีลชิบหาย ดูได้เป็นชั่วโมงๆ งานการไม่ต้องทำเหรออิสัส
ไอ้เหีย กูขอให้คนคิดสร้างไอ้สิ่งนี้ตายห่าอย่างทรมาณ รวมทั้งไอ้เหี้ยหมากที่เอามาใส่เฟสด้วย อิสัสหมาชาติเปรตปัญญาควาย
กูเป็นโรคซึมเศร้ามึงว่ากูจะทำงานเทเลเซลล์ไหวปะ
กินยาต้านซึมเศร้าอยู่ อยากรู้ว่าเลิกกินยายากมั๊ย เห็นว่าต้องกินติดกันตลอด
ถามหน่อย ใครเป็นพวกจิตเวชควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
และต้องฉีดยา เพื่อให้จิตใจสงบ อยากรู้ว่าฉีดยา มันมีความรู้สึกยังไงหรอ เวลาได้ฉีดยาแล้ว สะใจไหม
ที่อารมณ์ดิ่งเพราะอยู่ช่วงไม่มีเงินด้วย อยากจะเปย์นู่นนี่นั่น รู้สึกแย่จัง
นอนไม่หลับตลอดเลย ไม่อยากกินยานอนหลับ
มีหมอแบบให้มาที่บ้านมั่งมั้ย กุปวดประสาท ประคองมาตั้งนาน เกิดเรื่องโง่ๆควายๆเท่าขี้หูมดเสือกโวยวายยกใหญ่ กูจะบ้า
มีใครกินlexaproมั่ง กินวันแรกเกิดอาการร้อนวูบวาบ
ช่วงนี้แผนกนี้หยุดอยู่ ควรกินต่อหรือหยุดดี
ตกงานแต่ที่บ้านก็ไม่ใช่เซฟโซนมันเป็นความหวังดีของครอบครัวนะเเต่เราใช้ชีวิตได้ลำบากมากๆเป็นทุกข์ ความเห็นไม่ตรงกันทะเลาะกันบ่อยขึ้นไม่อยากเป็นแบบนี้ รู้สึกว่าไม่ไหวละอยากไปพบจิตเเพทย์ แต่ที่บ้านเอนตี้มากบอกชอบคิดไปเองเเต่ก็บอกพวกคนฆตต.เป็นคนสิ้นคิดไปหาหมอจิตก็มีประวัติกินยาต้านซึมเศร้าก็มีผลเสีย อยากโทรปรึกษาเพื่อนฝูงเรื่องชีวิตเเต่ดันอยู่บ้านเดียวกันจะคุยกับใครก็ไม่ได้เพราะที่บ้านฟังด้วยตลอด เครียดมากเเบบมาก็จริงๆตอนนี้มีใครให้คำเเนะนำการอยู่ร่วมกันกับที่บ้านทีหรือใครเคยไปพบหมอด้านนี้ต้องทำยังไงมีอะไรต้องเตรียมบ้าง หรือใครที่ผ่านมาเห็นก็ขอกำลังใจหน่อยเถอะนะ ไม่โอมากเลยจริงๆ
>>730 เมิงก็หาซื้อบ้านของเมิงสิ อยู่คนเดียว ไม่มีใครว่า หรือเมิงไม่มีบ้านแล้ว จะตัดก็ตัดให้ขาดอย่าไปพี่งที่บ้านอีกแม้แต่บาทเดียว
อยู่ร่วมกันไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ อย่าเหลวไหลแบบโนบิตะ
ธรรมมะแท้ไม่มีคำว่าปลอบใจหรอก เมิงอยากได้ยินคำปลอบใจของเพื่อนเมิงหรอ ไม่มีเงินก็ไปเช่าคอนโด ขายตัวไปก่อนก็ได้ ช่วงนี้ แล้วค่อยๆเก็บเงินหาทางออกมา
>>731 เงินหาหมอก็เงินกูมึงใจเย็น ไม่ได้อยากฟังคำปลอบจากเพื่อนหรอกกุแค่รู้สึกไม่มีที่ไหนที่จะหันหน้าเข้าหาได้เลยจนเเต้มจนมาโพสระบายรู้ว่าที่พูดมันถูกจะธรรมะเเท้อะไรก็ตามเข้าใจได้เเต่มันเครียดมากไม่ใช่ว่ามาทำตัวเป็นโนบิตะยอมรับว่าบางเรื่องที่บ้านก็ช่วยแต่ก็ดิ้นรนหาเงินรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่พึ่งใครอยู่ ความคิดย้ายออกน่ะมีแต่ความจริงเรื่องหาเงินซื้อบ้านมันไม่ใช่จะไล่ไปขายตัวก็ทำใจหาขายกันได้ง่ายๆหรอก ที่เข้ามาระบายขอคำแนะนำเพราะมาหาทางออกแบบบ้านไม่พังถึงได้จะรับผิดชอบตัวเองโดยการไปหาหมอไม่ได้อยากเหลวไหล
มึงว่าคนทุกวันนี้โดนติ๊กต่อกทำลายสมองไปหมดแล้ว หรือจริงๆแล้วคนมันเห้แถมจริงๆแล้วเป็นโรคซึมเศร้ากันหมดอยุ๋แล้ว แค่เพิ่งมามีการศึกษาวินิจฉัยตอนนี้ เลยดูเหมือนมีคนเป็นซึมเศร้ามากขึ้นกันแน่วะ แบบไม่เกี่ยวกับสภาพคุณภาพชีวิตที่ชิบหายขึ้นเรื่อยๆ แต่จริงๆแล้วคนส่วนมากมันซึมเศร้าอยู่แล้วมาแต่ไหนแต่ไร
เคยเจอแบบยัยผมทองเหมือนกัน แต่เสริมหน่อยว่าดีกว่า(แบบแปลกๆแตกต่าง)ตรง..ผมมีเอกลักษณ์กว่าที่ค่อนข้างมืดมน
.
ผมสมัยเรียนปีแรกๆมองโลกแง่ร้าย ยิ้มบ่อยแต่เหมือนเสเเสร้งปนเหยียดและประชดเรียกว่าวอนตีนล้วนๆ แต่แปลกดีที่ไม่มีคนเกลียด การใช้บวกปรับสายตา(การขยัยกล้ามเนื้อรูปหนังตากับคิ้ว)เพื่อแสดงออกนี่ถ้าดูจากกระจกยังอึกเองเลยว่าตัวเองกำลังคิดไรอยู่ก็ไม่รู้ แถมทั้งหมดถูกจดจำมีแต่คนเป็นมิตรมาอยู่รอบตัวซึ่งทำสงสัยตัวเองมีดีอะไรนะถึงมีแต่คนคอยพยุงตลอดเวลา ตัวผมจะต่าง(กับตัวละครข้างบน)ที่ตรงไม่ค่อยเจอสายตื้อที่อยากเป็นเพื่อนแบบยันทอมในเรื่องแหะ ...
.
อ๊ะ!ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ผมเจอแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อขี้สงสัยจากคณะครุศาสตร์(ที่จ้วงหัวว่าแม่งตื้นเขินน่ารำคาญชะมัดแต่ก็ไม่เกลียด) และดูเหมือนผมจะถูกตีตัวออกห่างเองในหนึ่งวันแห่งความพยายามของเจ้าหมอนั่นซึ่งวันนั้นฝนตกซะด้วย ผมก็ไม่เห็นเจ้านั้นอยู่หลายปี.... ตื้นชะมัดเลยนะ ทั้งที่ทางนี้อุตสาห์เปิดหัวข้ออภิปรัชญา เช่น ความหมดศรัทธาว่ามนุษย์เป็นสัตว์ผู้มีเหตุผลหลังผ่านยุคโพสโมเดิร์น กับแนะนำหนังสือโลกของโซฟี่และนักปรัชญารุ่นเดอะ ต่างๆแท้ๆ การเมืองนู่นนี่ ความเป็นจริงและสิ่งที่ต้องจ่ายแม้จะทำตัวเมินเฉยในนาม "เป็นกลาง" ที่อ้างๆ กันของคนกลุ่มหนึ่งว่าตามจริงการอยู่เฉยก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ....... ผมพูดแต่เรื่องเครียดรึไงไอ้บ้านั้นเลยหนี เฮ้อ น่าขยะแขยงชะมัด
ดูเบื่อสังคมทถกวันนั้ เบื่อออนไลน์ เบื่อแพลตฟอร์มโง่ๆ ควายๆ เบื่อติ๊กต่อก เบื่อเทรนด์คลิปสั้นหัวจวย เบื่อประเด้นไร้สาระงี่ดง่าบนเอ้ก เบื่อเด้กสมัยนี้ที่ดีแต่ทำเรื่แงควาบๆ เบื่อ รำิทเสดบเยท่อรเชพใืเ่อรเบท่อเบท่อเรลือ่เม ไงเท ไม่เคยสนใจว่าคยอื่นเหนื่อน ไม่รึ้ตีกดุแลตัวเอง แล้วมางอปงว่าไม่มีึวามสุขไม่มีความสุข ๆม่มีความสถขหัวจวบไร ก็มึงทำเหี้ยใส่ตัวเองเองล้ววนๆทอีหย้าจวย
กูไม่ชอบขับรถออกไปข้างนอกเลยแต่กูก็ชอบไปข้างนอก กูซุ่มซ่าม รถก็เก่าๆพังๆ กลัวขับรถแย่โดยไม่ตั้งใจแล้วจะมีคนด่ากู ตัวกูไม่เคยโดนตอนขับเองหรอก มีแค่กูอยู่หน้าบ้านแล้วปิดหูเพราะท่อเด็กแว๊น ละเด็กแว๊นก็ตะโกนใส่กูว่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้านั่งรถไปกับคนอื่นหรือขี่ตามเพื่อนเคยโดนทั้งบีบแตรทั้งตะโกนด่า แล้วบางทีคนที่ไปกับกูเขาก็ทำผิดเองนะ แต่เขาก็ไปด่ารถคันอื่น ทำให้กูรู้สึกไม่สบายใจ กูชอบออกไปตอนกลางคืน รถน้อยๆ แต่บางทีมันก็มีเรื่องจำเป็นที่ต้องออกไปตอนกลางวัน กูเป็นคนกลัวที่คนเยอะด้วย ไม่รู้จะต้องเริ่มแก้จากอะไร เมื่อก่อนกูก็ไม่ได้กังวลขนาดนี้นะ แต่พอเห็นเพื่อนกูโดนด่า แล้วมันก็ด่าสวนกันกับรถคนอื่น บางอย่างกูก็ไม่รู้จะอธิบายกับเพื่อนยังไงว่ามันน่ะเป็นคนผิดเอง อย่างเรื่องที่ไฟต่ำเสีย มันเปิดไฟสูงใส่รถคนอื่น แล้วเขาเลยเปิดใส่มันคืน พอมันไม่ปิด เขาก็ตะโกนด่า มันก็ด่าสวน ขับไปด่าย้อนหลังไปด้วย กูบอกว่าจะขับเองเำราะกูขับโดยไม่เปิดไฟ มันก็ไม่ให้กูขับ กูก็กังวลไปตลอดทางว่าจะมีใครด่าอีกมั้ย กูบอกไม่ถูก กูแค่ไม่อยากเจอแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนอะ ไม่ชอบที่ต้องได้ด่ากัน ไม่ชอบเสียงดัง อยากกล้าขับรถเท่าเมื่อก่อน
>>740 มันมีสิ่งที่เรียกว่า “การสื่อสารโดยใช้เหตุผล” อยู่นะเพื่อนโม่ง คือถ้าคุณคิดทุกอย่างแต่ในหัว แล้วคนอื่นจะเข้าใจมั้ยหล่ะ
ถ้าไม่ชอบการด่าทอ มันก็มีการคุยแบบdiplomatic คุยอธิบายความหมายให้คนเข้าใจไม่โกรธ
อะไรผิดก็เตือนว่าผิดเถอะ ถ้าคนไหนที่โดนเตือนแล้วมีอาการโกรธหงุดหงิดก็ควรตัดสถานะคําว่าเพื่อนแล้ว คนประเภทที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ออกห่างมาครับ แล้วชีวิตจะดีขึ้น
คทอเรื่องปัญหาการสื่อสารนี่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องการขับรถเลยนะ ลองออกมาขับวันปกติไม่ได้จะมีคนด่ากันอะไรขนาดนั้นซักหน่อย นี่ไปขับรถอยู่ที่ไหนวะ ยุโรปตะวันออก?
กูรู้สึกผิดหวังในตัวเองว่ะ กูไม่กล้าบอกอายุตัวเองจริงๆ กับใครเพราะกูคิดว่ากูแก่ละนะ 30+ แต่ยังไม่ทำงานจิงๆจังๆ กูเป็นฟรีแลนซ์ที่ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวันๆ แบบไม่มีเงินเก็บ ทางบ้านกูไม่ค่อยขัดสนเรื่องเงินกูเลยไม่มีภาระหน้าที่ในส่วนนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ากูไม่ทำงานเลย กูทำงานก็ได้เงินพอมีพอกินพอเก็บ แต่พอเก็บเงินกูก็เอาไปฟุ่มเฟือยกับงานอดิเรกจนหมดตูด กูรู้สึกว่าตัวเองลูซเซอร์มาก กูพยายามเหยียดคนอื่นว่าคนที่ลูซเซอร์กว่ากูมีเยอะแยะมาก กูมีเพื่อนที่ลูซเซอร์กว่ากูที่วันๆไม่ทำงาน เล่นแต่เกมจิงจังมาก กูเห็นเขามีความสุขกับการเล่นเกมและชีวิต ทำให้กูรู้สึกแย่ทั้งที่กูดีกว่าเขาแต่ทำไมกูไม่มีความสุขเลย
กูรู้สึกกูทำดีกับคนอื่นเพื่อให้คนอื่นแฮปปี้แล้วไม่ต้องมายุ่งกับกูอ่ะ กูก็อยากให้พวกมันมีความสุขแหละ แต่ไปมีไกลๆแบบไม่ต้องมายุ่งกับกูอ่ะ กูเหี้ยมั้ยอ่ะ
กูเคยอยู่กับคนประสาทแดกมาหลายปี ตอนนี้ออกมาจากมันได้แล้ว รู้สึกเป็นบาดแผลที่ไม่หายซักทีทำยังไงดี
ไอห่ านนั่นเอาแต่เป่าหูกูทุกวันว่าพ่อแม่ไม่รัก เพราะพ่อแม่ไม่เคยห้ามเวลากูจะไปทำอะไร เช่นกูเคยจะไปประกวดร้องเพลง พ่อแม่ก็จะส่งกูไป มันก็บอกว่าเค้าหลอก ทำไมถึงไม่รักลูกเลย มาทะเลาะกับพ่อแม่กูใหญ่โต จนพ่อแม่กูก็ไปกับกูด้วย เอาล่ะกูก็ไม่ผ่าน แต่ไม่มีไอเหี้ยตัวไหนหลอกกูซักคน แล้วกูจะไปเรียนเพิ่มเพื่อเอาใหม่ปีหน้ามันก็มาบอกว่าเพื่อนของมันก็เคยประกวดเหมือนกันตอนนี้ตกงานอยู่(อีสัสเรื่องของเพื่อนมึงนะ)
แล้วพ่อแม่กูต้องย้ายงาน กูก็อยู่คนเดียววันว่างๆกูก็จะไปหาพ่อแม่มันก็คอยมาห้ามไม่ให้ไป เดินทางคนเดียวอันตราย ถ้าไปต้องพาแม่งไปด้วย(เพื่อเปลืองตังสัส) ต้องตัวติดกับกูตลอดเวลาจนคนหาว่ากูกับมันเป็นผัวเมียกัน จะไปหาเพื่อนมันก็จะตามไป
เวลาไปไหนไม่บอกแม่งก็มานั่งงอนยังกะเป็นผัวกูเลย แน่นอนว่ากูไม่ง้อเรื่องของมึงเลย แล้วมันก็หายเองแล้วมาตามตูดกูต่อจ้า คอยควบคุมชีวิตกูทุกอย่าง จะไปเรียนภาษา ห้าม ชั้นจะสอนเอง แล้วมันก็พูดภาษาที่กูจะเรียนไม่ได้เลยลงทุนซื้อหนังสือมาอ่านแล้วจะเอามาสอนซึ่งมันก็ไม่เหมือนไปเรียนเองป่ะ จะทำงานก็ห้าม เดี๋ยวชั้นหางานให้เองอย่างเช่นทำกับข้าวขาย แล้วนางก็มีความคิดโง่ๆเช่น ข้าวมันไก่ไม่ต้องทำน้ำจิ้มนะเพราะชั้นไม่กิน คว.ย ไปขายกับแม่มึงนะไอเหี้ย
กูดีเกินไปหรือคนอื่นต่ำกันนะ 😔
พวกมึงมีวิธีจัดการกับอารมณ์ดิ่งของตัวเองยังไงวะ กูอยากเอาไปใช้บ้าง
โดนแฟนเก่าเอารูปไปทำองลี่แฟน ตอนนี้เขากลับมาง้อ แต่ไม่ยอมให้ยูสเซอร์พาสเวิร์ด แล้วชวนต่อว่ามาทำหาค่าขนมกันไหม ฟวยยยย ทำไงได้บ้าง
จะแก้ปัญหาโดดเดี่ยวตัวเองในที่ทำงานเพราะรู้สึกไม่ไว้ใจเพื่อนร่วมงานได้ยังไงดี คือทุกคนดูมีบัดดี้กันหมด แต่พอกูเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยคุยไม่ค่อยแสดงอะไรก็กลายเป็นเป้าอีก ทั้งๆที่กูอยากอยู่กับงานแบบบสงบๆ เรื่องงานคุยได้ แต่เรื่องส่วนตัวกูไม่อยากแชร์เลย
มีใครเคยตรวจadhdมั้ย อยากได้รีวิว
กูว่ากูมีอาการตรงกับโรคadhdมาก ทําแบบสอบถามก็อยู่ในระดับที่สูง ดูมีปัญหาเรื่องการทำงานให้ต่อเนื่องให้เสร็จตามเป้า แต่กูเป็นคนค่อนข้างชิวๆหว่ะ แบบเอ่องานไม่เสร็จทั้งหมดก็ช่างแม่ง อย่างน้อยการที่กูเดินวนไปวนมาในห้องพูดคนเดียวกูได้ไอเดียงานใหม่ๆมาเพิ่ม คือกูเหมาะเป็นหัวหน้ามาก กูคิดอะไรไวกูจัดสรรวานให้คนอื่นได้ ถ้ากูมีลูกน้องงานมันก็จะลื่นปลื้ด ดังนั้นกูพอใจกับการเป็นโรคสมาธิสั้นกู กูรู้สึกว่ากูแม่งฉลาด แต่อยากไปตรวจเพื่อคอนเฟิร์มว่ามฝเป็นจริงๆใช่มั้ยจะได้มาดีลกับชีวิตตัวเอง เพราะมันก็ไม่ควรหย่อนยานเกินไป แต่กูไม่อยากถึงกับขั้นที่ต้องรักษา กูว่าปบ่อยให้แม่งเป็นธรรมชาติงี้ดีแล้ว กูทําเลยเดธไลน์ แต่ก็ทํางานครบถ้วนและมันดีคนเลยไม่ด่ากันแล้วค่อยข้างจะยืดหยุ่นกับกู แต่กูก็ไม่ใช่ประเภทที่แม่งไม่ท๊าเหี้นอะไรเลยเช่นกัน งั้นกูจะเก็บquirkนี้ไว้
>>753 multi taskหรอ กุก็เป็นวะ แต่กุเปื่อยจริงๆ
ออกแนวเหลวไหลเลย เปิดยูทูป ไม่ได้จดจ่อfocusงานเลย แต่กุรู้ว่ากุโง่ด้วย ไหวพริบไม่มี
เมิงคุยกับตัวเองอาจจะเป็นโรคหลายบุคลิก กุไม่เคยคุยกับตัวเองเลย กุมีตัวคนเดียวมาตลอด กับหัวใจ เรียกร้องให้กุทำ ในเวลาที่กุตัดสินใจไม่ได้ ใจจะตัดสินใจให้กุเอง
>>754 multi tasking ที่แม่งทํางานเสร็จครึ่งๆกลางๆ
ส่วนการคุยคนเดียวแม่งไม่ได้แปลกอะไรหนิ มึงไม่เคยคิดนู่นคิดนี่เหรอวะ แม่งcommonกว่าที่มึงคิด อย่างงานวิจัยหนึ่งเมกาก็บอกคนพูดกับตัวเองในใจแม่งมีถึง96%
แล้วไม่ใช่โรคหลายบุคลิกหรือDID อันนั้นคือมีหลายตัวตนใน1คน แล้วแต่ละตัวตนมันมีกลไกในการทํางานของมันเพื่อให้คนๆนั้นอยู่รอด และส่วนใหญ่ความทรงจำจะหายเมื่อสลับตัวตน
ซึ่งกูไม่ได้เป็นโว้ยยย กูแค่คิดไอเดียนู่นนี่ไปเรื่อยในหัว พออยู่คนเดียวแม่วก็บ่นๆออกจากปากมาบ้าง แล้วมานั่งวิเคราะห์ กูใช้3ภาษาด้วยมั้งเลยตั้งแต่เด็กละแม่งต้องฝึกพูดภาษาต่างๆกับตัวเองบ่อยๆเพราะอยากฝึกการออกเสียงด้วย ก็พูดไปเรื่อยแบบไม่ได้มีผู้ฟัง อ่าและการพูดกับตัวเองงี้มันตกผลึกชุดความคิดต่างๆ ช่วยได้เยอะตอนเอามาเขียนงานด้วยหว่ะ
โม่งมีแนะนำ app/บริการ คุยกับนักจิตวิทยาที่ราคาไม่แรงมากมั้ย เจ้าที่เคยใช้แล้วประทัยใจเค้าเลิกไปแล้ว
ตอนนี้กูอยากหาคนบ่นให้ฟัง แต่เรื่องมันค่อนข้างหนัก แล้วกูก็ไม่อยากบ่นแพร่พลังงานลบกับเพื่อน แล้วไม่นับเพื่อนมันก็ไม่เหลือใครให้คุยด้วยแล้ว
*พบหมอ
ไม่อยากเจอคน ไม่อยากคุยกับใคร อยากอยู่คนเดี่ยว นั่งเล่นเกมโง่ แต่พอทำสักพักกูก็คิดว่ากูเล่นเกมแล้วเสียเวลาชีวิตจังวะ
อันนี้เบิร์นเอ้าปะ
กูปีห้าแล้วแต่เรียนไม่ถึงไหนเลย เหลืออีก3ปีกูกลัวไม่จบ นี่จะสอบแล้วยังอ่านหนังสือไปได้ไม่ถึงไหนเลยแถมถ้ากูพลาดปีนี้อีกเวลาแม่งไม่พอแหงๆ ตอนแรกเข้าม.มากูแพลนไว้ดิบดีว่าเรียนจบใน4-5ปีแน่ๆ
คณะที่กูเข้ามันคณะวิทย์ ปีหนึ่งไม่มีปัญหาอะไร พอมาปีสองมันเริ่มมีติดบ้างบางวิชากูก็บอกตัวเอง เออ ค่อยเอาใหม่รอบหน้า กูบอกตัวเองอย่างงั้นทุกๆ รอบที่กูเรียนติด ไม่เข้าใจที่เรียนก็ช่างแม่งเอาเวลาที่ว่างไปทำสิ่งที่กูอยากทำ พอถึงเวลาอ่านหนังสือก็หาข้ออ้างปัดไปนู้นไปนี่จนไม่ได้อ่าน พอไม่อ่านก็ทำข้อสอบไม่ได้ ปีสี่ดีขึ้นมาหน่อยแต่กูก็ได้เอฟมาอยู่ดี กลายเป็นตอนนี้ปีห้ากูดาวน์แล้วดาวน์อีก ม.ก็ไม่อยากไป ไม่อยากทำอะไรเลย
กับที่บ้านกูก็ไม่เคยบอกเขาจริงๆ เลยว่าที่เรียนอยู่ตอนนี้กูเหนื่อย กูบอกเขาชิลๆ จบช้าหน่อยตลอด เคยลองๆ ถามเรื่องเปลี่ยนสาขาเปลี่ยนมหาลัยเขาไม่โอเคมากๆ หลังจากนั้นกูไม่กล้าบอกเกรดตัวเองตรงๆ ตอนปีสามกูบอกเขาว่าปีห้าจบแหละ ปีสี่กูก็บอกปีห้าครึ่งจบ ไม่กล้าพูดด้วยซ้ำว่ากูอาจจะเรียนไม่จบทั้งที่กูอยากลาออกตั้งแต่ปีสามที่กูรู้ว่าอยากทำอะไร แต่กลายเป็นกูลากมันยาวมาถึงปัจจุบัน
เคยเห็นนะวลีประมาณตามเพื่อนเรียนก็รอด ตามเพื่อนเกก็ร่วงไรงี้ แต่อยมาจนปี5กูยังไม่มี”เพื่อน”มหาลัยสักคนที่กูกล้าคุยกับเขาแบบปกติได้เลย ถ้าไม่มีงานก็ไม่คุยกับใคร สาเหตุหนึ่งจะว่าพอเรียนไม่ทันเพื่อนในชั้นไม่กล้าถามไม่กล้าขอให้ใครช่วย ความคิดที่ว่ใครมันจะมาสนคนที่ถ้าไม่ถามมันก็ไม่คิดจะพูดวะมันวนเวียนอยู่ตลอด สมองมันเข้าใจอยู่แล้วใช่ว่าทุกคนจะคิดแบบนั้นนี่ แต่ใจก็กลัวว่าใครจะสนมึง รู้จักกันแค่เพราะอยู่กลุ่มงานเดียวกัน อย่าสำคัญตัวเองเหอะ ความมั่นใจในตัวเองที่ต่ำอยู่แล้วก็ต่ำยิ่งกว่าเดิมอีก
ถ้ากูกล้าพอที่จะคุยกับที่บ้านว่าลาออกแต่เนิ่นๆหรือกล้าจะบอกเขาไปตรงๆว่าว่าตอนนี้กูเป็นยังไงกูก็คงไม่ต้องมาคิดมากแบบนี้ กูไม่อยากให้เขาเสียใจที่เชื่อว่ากูทำได้ เหนื่อยใจกับตัวเองที่แม่งแย่ชิบหาย
กูว่ากูควรไปหาหมอจิตจริงจังสักครั้งจริงๆ นั่นแหละ ถึงไม่รู้ว่าไอ้ที่ดาวน์อยู่นี่แม่งเป็นจริงๆ หรือกูคิดไปเองก็เหอะ
>>761 อ่านแล้วเหมือนอ่านชีวิตตัวเอง55555 เรียนสายวิทย์เหมือนกัน ซิ่วมา เท่ากับเรียน5ปี แต่กูโง่ในสิ่งที่เรียนมากๆ รอดมาได้เพราะดวงดีล้วนๆ กูยังไม่พร้อมจะทำงาน ใช้ชีวิตเลยมึง เพื่อนมหาลัยกูก็ไม่มี ที่มีก็ไม่ได้สนิด แค่ทำงานด้วยกันเฉยๆ รูัสึกเอาเวลามาทิ้ง กูรู้สึกพลาดมากๆที่เข้ามหาลัย กูน่าจะแก๊ปเยียร์หางานทำ หัดเข้าสังคม จะได้ไม่ต้องกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้เหี้ยไรในชีวิตแบบนี้ กูเลมีความคิดความรับผิดชอบแบบเด็ก18 แต่อายุกูอีกนิดก็จะ30แล้ว เศร้าว่ะ ขอโทษนะ แทนที่จะช่วยปลอบ แนะนำทางแก้ปัญหาให้มึง แต่กูเองก็ยังเอาตัวไม่รอด ขอกอดมึงผ่านเน็ตแล้วกันนะไอ้เพื่อนยาก ไม่เป็นไรนะมึง
กูรุ้สึกชอบเวลาที่อยู่ดีๆ มีคนมาหาเรื่อง มีคนมาด่าหรือเวลามีดราม่าอะไรเกี่ยวกับกู กูรู้สึกตื่นเต้น ใจเต้นตึกตัก รู้สึกสนุกและยิ้มตลอดเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ กูรู้สึกเหมือนได้รับความสนใจ มันทำให้กูรู้สึกอยากเอาตัวเข้าไปซิบหายในเรื่องที่มันไม่เกี่ยวกับกู แบบนี้กูเข้าค่ายโรคจิตอะไรได้บ้างวะ
จู่ๆสามเดือนมานี้กูก็ทำงานพลาดรัวๆเลยหว่ะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้สมูทมาตลอด
แต่ก่อนจะเกิดเรื่องกูเบื่อเซ็งไม่อยากทำอะไร ไม่อยากคุยกับใคร ตอนนี้พอมีเรื่องเกิดรัวๆกูเป็นหนักกว่าเดิมอีก
กุแอบที่บ้านดรอปเรียน แล้วเอาเงินค่าเทอมที่เขาให้ไปใช้จนหมด เพราะรู้สึกว่าเรียนไปแม่งไม่สนุกเลย กูเลือกสายอาร์ต มันก็ตรงความชอบนะ แต่การแข่งขันแม่งสูงมาก ฝีมือกูไม่ได้ดีเด่อะไรเลย กูมาเรียนอยากวาดรูปสนุกๆ เก็บประสบการ์ณ เขียนการ์ตูนสักเรื่อง ปีแรกกูลงไปซื้ออุปกรณ์ไปเยอะ แพงสุดก็เมาส์Wacomเกือบๆ2หมื่น แต่พอเรียนเข้าๆ ความรู้สึกที่มีเคยมันเปลี่ยนไปมาก ไหนจะเรื่องการสังคมในมออีก กูย้ายจากตจว.มาเข้ากรุงคนเดียว นับ1หาเรื่องเพื่อนใหม่หมด แต่ฝีมือกูไปอยู่กับตัวท็อปๆล่ะมันไม่เข้าพวกไง กูก็ปลอบใจตัวเองนะว่าฝึกๆไปสักวันก็ได้ แต่ใจตอนนี้มันไม่สู้เลย กูได้แค่วาดๆส่งๆงานไปจบ ได้งานคืนมากูฉีกทิ้งด้วยซ้ำ กูเคยคุยเรื่องดรอปแล้ว แต่ค่าเทอม ค่าอะไรที่เขาส่งกูมันแพงมาก ล่ะก็บอกมาส่งๆว่าเรียนๆไปเหอะ เรียนเอาให้จบ กูรู้สึกเหมือนเขาซ้ำเติมอ่ะ เหมือนอยากให้กูเรียนจบๆไปแค่นั้น กูหมดไฟหมดใจที่เรียนมาก กูไม่รู้ควรจะทำยังไงแล้ว
>>769 ก็ไม่เชิงกูไม่อยากพูดเต็มปากว่าตัวเองรวยอ่ะ เงินที่ซื้อเมาส์อันนั้นเงินเก็บตั้งแต่ม.5ปลายๆแล้ว เพราะกูตั้งใจเต็มที่กะสายนี้ แต่ที่บ้านไม่ค่อยสนับสนุนเต็มที่ ให้กูแค่ค่าหอกับค่ากิน นอกนั้นอยากได้อะไรต้องเก็บหาใช้เอง
>>770 จริงๆกูก็พอมีงานแหละ แต่ไม่ได้ประจำ คิดอยู่จะไปหาจริงจังเลยดีมั้ย อยู่ว่างๆมาเกือบเทอมกูก็เสียดายเวลา
>>771 ต้องเรียกว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเลย กูเลยไม่ตื่นเต้นมากกว่า
>>768 เรื่องเรียนๆไปให้จบกูว่ายังไงสังคมไทยมันก็ให้ค่าใบปริญญามากอยู่อ่ะ
ต่อให้จบแล้วมึงจะเบนไปทำงานสายอื่นที่ไม่ตรงที่เรียนมาก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงงานที่รายได้พออยู่ได้ส่วนมากก็ต้องมี ป. ตรีเป็นขั้นต่ำ
ถ้าไม่มีความสามารถพิเศษที่โดดเด่นจริงๆแบบมึงสามารถไปทำงานรายได้ดีๆได้ในทันที แล้วไม่มีใบปริญญาด้วยนี่ชีวิตยากขึ้นเยอะแน่นอน
ในมุมพ่อแม่เค้าก็คงรู้สึกว่าไหนๆเรียนมาแล้วก็ทนต่อไปให้จบๆดีกว่า จบแล้วจะเปลี่ยนทางชีวิตก็ค่อยมาคิดใหม่
แต่จะมองอีกมุมว่าถ้ามึงแน่ใจว่าไม่อยากไปทางนี้แล้ว จะเปลี่ยนเส้นทางไปทางอื่นก็อาจจะรีบเปลี่ยนแต่เนิ่นๆดีกว่าก็ได้
ก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนนี้มึงอยู่ปีไหนแล้ว แล้วคิด/เตรียมตัวแล้วรึยังว่าถ้าไม่เอาทางนี้แล้วจะทำไงต่อไว้แค่ไหน
ถ้ามึงยังคิดว่าอยากกลับไปสู้ลองไปคุยกับคณะหรืออาจารย์ที่ปรึกษาดูว่าขอกลับไปยังทันมั้ย
ถ้าไม่ทันหรือมึงรู้สึกว่ายังไม่พร้อมกลับไป ไหนๆดรอปไปแล้วก็ถือซะว่าเป็นเป็นช่วงพักที่มึงจะทดลองทำอะไรต่างๆเพื่อค้นหาตัวเอง
หรือลองหาประสบการณ์ชีวิตอย่างอื่นๆดูไปละกัน
แต่ที่กูว่าน่าเป็นห่วงอย่างนึงคือพักเรียนไปแล้วต้องมาเรียนต่อพร้อมรุ่นน้อง มันอาจจะจะยิ่งทำให้มึงปรับตัวกับสังคมห้องเรียนยากกว่าเดิม
>>772 คือมึงครับ หลายคนแม่งตัวค์ไม่พอจ่ายค่าเทอมต้องรีบเรียรให้จบไวๆเพื่อไปหางาน ไม่มีเงินเหลือเวลาเหลือมานั่งเก็บเงินหาซื้ออุปกรณ์เหี้ยไรหรอกครัช โม่งมันเลยว่ามึงลูกคนรวย ถึงมึงจะไม่ำด้โดนสปอยชอบหายแต่ก็ชิวได้ไม่ลําบากเรื่องกินใช้ไง
มึงอ่ะ ปัญหาหลักๆเลย อย่าเพ้อฝันมาก ชีวิตมันไม่ได้เป็นอย่างฝันเรียบง่ายอะไรขนาดนั้น เลิกเอ่ตัวเองไปเทียบกับชาวบ้าน แล้วตั้งเป้าหมายใหม่ คือมุงมีชีวิตทําไมอ่ะตอนนี้ ก่อนมึงตายมึงอยากสร้างผลงานอะไรจริงๆจังรึเปล่า มึงวาดรูปไปทําไม หรือถ้าทั้งหมดมานี่มึงไม่จอยกับมันแล้ว ก็สรรหาอย่างอื่นทําซะ
ใครมีเพื่อน พี่น้อง คนในครอบครัวหรือแม้แต่คนรู้จัก เป็นคนประสาทแดกมึงหนีไปให้ไวเลยนะ
กูอยู่กับคนประสาทแดกมา4ปี ตอนนี้ไม่ได้อยู่กับแม่งมา4ปีจะ5ปีละ กูรู้สึกกูกลายเป็นคนบ้าเป็นคนประสาทตามแม่งไปละ อีเหี้ย ใครมีคนแบบนี้อยู่รอบตัวตัดได้ตัดนะ ตอนนี้กูอยู่คนเดียวบ่อยๆ กูกลัวกูแบ่งความประสาทให้คนอื่น
อยากอธิบายเหตุผลต้นตอของความรู้สึกตัวเองออกมาได้ กูไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่กูเห็นผู้ชายอู้ๆอ้ะๆเวลาเจอผู้หญิงนมใหญ่ แล้วกูจะเผลอภาวนาในใจว่าขอให้บนโลกไม่มีผู้ชายที่ชอบผู้หญิงนมเล็กแบบกู และกูก็มีความรู้สึกประมาณนี้เวลาโดนคนมองเยอะๆด้วย เคยลองคุยกับเพื่อน มันก็สวนมาเลยว่ากูเป็นพวกมาโซคิส อยากโดนด้อยค่า แต่กูรู้สึกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นว่ะ ไม่รู้ทำไมเวลาที่ผู้ชายสักคนบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงรูปร่างแบบกูเลย มันจะทำให้กูรู้สึกโล่งใจมากๆ แบบ ไม่ได้อยากให้มาตบตีหรือมาตามด่ากูว่าน่าเกลียด แต่เวลาที่ได้ลองมโนว่ากูนั่งอยู่ข้างผู้หญิงที่ตรงอุดมคติผู้ชายส่วนใหญ่ แล้วทุกคนก็เปรียบเทียบกูกับผู้หญิงคนนั้นว่ากูแย่แค่ไหน จากนั้นกูก็ค่อยๆเฟดออกมาจากกลุ่มคนตรงนั้น นั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางธรรมชาติ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกร้อนๆแถวขมับกับกรามแล้วก็ข้างเอว เหมือนกำลังโดนนวด ผ่อนคลายมากๆ เหมือนตอนอาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน รู้สึกเหมือนบนโลกนี้ไม่มีใครทำอะไรกูได้ กูก็ปักหมุดข้อสันนิษฐาน 2 ข้อ (1) มันอาจเกิดจากการที่กูเคยโดนลวนลามอยู่หลายครั้ง กูเลยรู้สึกปลอดภัยถ้าคนเลือกที่จะมุ่งเป้าไปหาคนอื่นแทนที่จะเป็นกู (ฟังดู เหี้ย/10) แต่บางครั้งคนที่ลวนลามกูแม่งก็เป็นคนที่บอกเองว่าไม่ชอบรูปร่างหน้าตากู แล้วทำไมกูถึงสบายใจเวลาคนบอกว่าไม่ชอบ? ถึงพูดงั้นไปมันก็ทำร้ายกูได้อยู่ดี (2) กูเคยมีปัญหาเรื่องเย้ดๆ เพราะผัวเก่ากูแทบทุกคนเป็นเชี่ยไรไม่รู้ เงี่ยนตลอดเวลา แล้วผัวกูแม่งก็มีแต่คนตัวใหญ่ๆ อ้าขากว้างแล้วมันเจ็บโคนขาหนีบไอ้เปรต พูดแล้วกูก็หัวอุ่นทุกที กับเรื่องกูไม่ใส่ใจผัว ไม่หึง ไม่หวง ไม่ตาม ในใจลึกๆกูเลยอยากตัดปัญหาด้วยการไม่ต้องให้ใครมาชอบกูเลยแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาบลาๆๆ คว…อยากอธิบายความรู้สึกพวกนี้สั้นๆไม่เกิน 3 บรรทัดได้ แต่กูไม่รู้จะสรุปยังไง ไอ้สัส กูไม่ใช่มาโซคิส
>>780 โย่วโม่ง กูก็บอกอยู่ว่า กูกำลังงงว่าทำไมตัวเองสบายใจเวลามีคนบอกว่าไม่ชอบ ทั้งที่คำพูดแค่นั้นมันมาตัดสินไม่ได้ว่ามันจะไม่ทำร้ายกู อยู่วรรคสุดท้ายของ (1). ทุกวันนี้กูระวังตัวอยู่แล้ว ขอบใจ กูพกมีด (ซึ่งกูกำลังศึกษาการซื้อปืนอยู่ หัดยิงมาแล้ว) กูมีแผนจะสร้างบ้านไกลผู้คนในที่ดินตัวเอง ช่วงนี้ก็กำลังออกแบบไว้ และกูมีแผนจะซื้อปืนยิงนกติดบ้านไว้ด้วย ส่วนเรื่องโคนขาหนีบ กูไม่แน่ใจว่าคลอดลูกต้องอ้าจนขากูจะฉีดเป้นยิมนาสติกแบบนี้รึเปล่า เหมือนอ้าขาให้ตู้เก็บของความกว้างสัก 40 นิ้ว แล้วตู้แม่งก็เด้ากูไปด้วย
>>781 อ๋อ และกูโดนลวนลามทางกายจากแฟนแค่คนเดียวในที่สาธารณะก่อนจะเลิกกันแทบจะในวันนั้นเลย (ล้วงนมกูต่อหน้าเพื่อน) ส่วนใหญ่กูจะโดนจากคนใกล้ตัว ครั้งแรกคือพี่ชายของเพื่อนกูที่น่าจะเปโด มีไอ้เด็กเปรตแถวบ้านจงใจเอาหน้ามาซุกตูดแบบไล่ไม่ไปจนผู้ใหญ่ต้องเข้ามาเห็นก่อน มีไอ้แก่ข้างบ้านมาล้วงกางเกงกูตอนกูทาสีรั้วบ้านอยู่ แล้วบางทีแม่งก็เป็นใครไม่รู้ เป็นอะไรกับนมกับตูดกูนักหนา งง ได้ข่าวว่าผู้ชายส่วนใหญ่ในโลกก็ชอบคนนมใหญ่ กูนมเล็ก หรือยังไง ชอบคนหุ่นเหมือนพินโบว์ลิงอ่อวะ? ไหล่แคบ อกแคบ แขนลีบ มีแต่กระดูกสะโพกกับตูดที่ดูยังไงก็พร้อมปั้นไปเป็นตูดกัปตันอเมริกา ไม่ใช่ตูดสไปเดอร์แมน ยังมีคนมีอารมณ์อีก ถ้าเป็นไบกูจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่นี่ชายแท้เลยเหรอวะ? อะไรวะ? ทำไพวกึงไม่ชอบอะไรที่มันดูเป็นผู้หญิงกว่านี้หน่อย กูจะเครซี่ชาติหมา คงเหมือนที่เพื่อนกูว่า บนโลกนี้แม่งต้องมีสักคนที่เงี่ยนกับสิ่งที่เราคิดว่าไม่มีใครเงี่ยน
>>782 เรื่องชอบสัดส่วน
แล้วแต่คน กุชอบแร้ แต่ตัองแร้อายุไม่มาก
แล้วก็ชอบแร้ มากกว่า ตัวผญทั้งตัว อีก แต่ไม่ได้มีความคิดหื่นกามนะแม้แต่0.001%
เมิงจะคิดไปทำไมว่าคนอื่นคิดยังไง กุไม่สนหรอก
อย่างเพื่อนตุ๊ดกุเซฟเอาหน้ากุไป ชว กุก็ไม่เห็นต้องแคร์
เพราะร่างกายก็ยังเป็นของกูอยู่ ไม่มีใครเอาไปได้
แต่ถ้ามันมาจับร่างกายกุไม่ว่าใครก็ตาม เมิงก็ต้องสู้
ทำสิ่งที่ต้องทำ เลิกทำตัวเป็นเหยื่อเถอะ โลกนี้โหดร้ายบลาๆๆ มุแง้ งี้หรอ มันไม่มีประโยชน์
เมิงจะพกมีด ปืน ก็ดี แต่ระวังอย่าโดนแย่งหล่ะ มีดปืนไม่มีตา
อ่ะ เอาดีๆนะ SbDJbwiMRM 17G8eprdey มึงอ่านที่เลขพวกนี้โพสแล้วเห็น pattern ไหม ถ้าไม่เห็นก็นะ....
>>784 กูแค่คิดว่ากูอยากใช้พวกโทรลเป็นสนามอารมณ์ว่ะ หรือมันไม่ควรวะ? ไม่ควรก็บอกกูได้ กูก็ลังเลอยู่แต่กูไปลองถามเล่นๆกับเพื่อนมาก่อนแล้วว่า เออ พวกโทรลนี่มันเรียกร้องความสนใจใช่มะ ถ้ากูให้ความสนใจมัน มันจะตอบกูไปเรื่อยๆจนกระทู้ถึง1000เลยปะ กูจะได้ถือโอกาสระบายอารมณ์ใส่เล่นๆ มีอะไรก็พูดออกมาแบบไม่ต้องใช้สมองมาก เพื่อนกูมันว่าโอเค ก็แบบ เหี้ยมาเหี้ยกลับได้ ไม่ต้องรู้สึกผิด กูก็กังวลอย่างเดียวว่ากลัวไอ้ขยะพวกนี้มันจะได้ใจแล้วไปตอแยคนอื่นต่อมากกว่า หรือมันไม่มีผลวะ แบบ ต่อให้กูจะตอบหรือไม่ตอบ แม่งก็มั่นหน้าอยู่ดี ถ้ามันเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะจะทำในโม่งก็ขอโทษด้วยว่ะเพื่อน ปกติกูระบายอารมณ์ด้วยการชวนเพื่อนทะเลาะกันเรื่องไร้สาระ แบบเอาฮา แต่ช่วงนี้เพื่อนกับกูว่างไม่ค่อยตรงกัน กูเลยทำพฤติกรรมแบบนี้ในโม่งแทน กูคิดว่ากูก็เล่นโม่งในแบบของกูต่อไปนี่แหละ
กูมีความสุขเวลาได้พ่นเรื่องที่เจอมาใส่คนอื่น แต่กูไปเจอเด็กคนนึงที่บอกกับกูว่าเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกระโถนที่คนมาคอยถ่มน้ำลายใส่ เป็นแค่ที่ระบายเรื่องทุกข์เรื่องเศร้าที่คนอื่นรอบข้างไปเจอมา เอาจริงกูก็ตั้งตัวไม่ทันเลยว่ะ เพราะกูนึกว่าเวลากูระบายใส่ใคร คนๆนั้นเขาคงทำเป็นฟังเฉยๆ ไม่เก็บไปคิดหรอก กูก็เลยรู้สึกว่าถ้ากูจะระบายอะไรสักอย่างใส่คนอื่น น่าจะระบายใส่พวกที่ไม่ได้สนใจความรู้สึกกูจริงๆดีกว่า กูก็เลยแวะมาโม่งบ้าง พอมาเจอโทรลเลยเพิ่งปิ๊งไอเดียนี้ได้เมื่อเช้า แต่ถึงยังไงกูก็ชอบรับฟังคำแนะนำจากโม่ง(ที่ไม่โทรล)ว่ะ บางทีมันอาจสร้างตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าได้
>>783 กูสู้แล้ว กูตบแม่ง แล้วกูก็โทรเรียกเพื่อนมารับ เช้าวันต่อมาเลยเลิกกัน เอาไปนินทาด้วยว่ากูนอกใจ นึกว่าอยู่วงการบันเทิง แล้วทำตัวเป็นเหยื่อคือยังไงวะ ขยายความเพิ่มหน่อย ถ้ารสนิยมรักแร้ กูก็ชอบ ทั้งแบบเรียบเนียน ทั้งแบบมีตอขนเล็กๆ ชอบมากรักแร้นักกีฬาเพิ่งออกกำลังมาใหม่ๆ เหงื่อชุ่มๆ ผู้ชายบางคนแม่งอัดน้ำหอมจนฉุน กลิ่นเหงื่อเพียวๆยังดีกว่าอีก แต่ดีสุดคือทาไอ้แว็กซ์ดับกลิ่นของเรโซน่าสีฟ้า แล้วมันปนกับกลิ่นเหงื่อคือดี ดีมากๆ นี่ก็เป็นส่วนนึงว่าทำไมกูงงกับตัวเองที่ไม่อยากให้ใครมาชอบแต่กูก็ยังชอบนู่นนั่นนี่ของคนอื่น ไม่แฟร์โคตรๆ หรือที่จริงแล้วกูพยายามไม่ให้ขั้วบวกขั้วลบมาเจอกันวะ เพราะถ้าเกิดต่างคนต่างมีใจ ก็อาจจะได้คบกัน แล้วก็เจอปัญหารักๆใคร่ๆติดลูป เย่อไปก็เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ นั่งดมกลิ่นเสื้อสูดเอาฟีโรโมนแล้วติ้วกีดีกว่า
>>790 โทดทีกุไม่วิตถารแบบเมิงวะ มันน่าขยะแขยงเกิน
ก็ทำตัวเป็นเหยื่อเรียกคนมาช่วยเมิงตามดราม่าสมรัก เปล่า ที่มันเป็นคนอีสาน บอกว่าโดนพ่อใหญ่ขืนใจนั่นไง
แต่ตัวเองกลับนั่งมอไซต์ซ้อน 3 เขาไป พอพ่อใหญ่เสร็จกิจ ก็โทรหาเพื่อนให้มารับ
แบบนี้เขาเรียกทำตัวเป็นเหยื่อ การกระทำมันใช่ไหมละ ไปกับผู้ชายเอง
>>789 ถ้าเมิงทำตัวไร้แก่นสาร ชีวิตเมิงก็ไร้แก่นสาร เหมือนขยะนั่นละ
บางคนก็หาว่ากุจริงจังเกมมิ่งเกิน ทำสิ่งที่คนปกติทำไม่ได้
ส่วนตัวถ้ากุทำตัวเหยาะแหยะ เหลวไหล ไม่ได้เรื่อง ในท้ายที่สุดกุก็จะกลายเป็นคนแบบนั้นจริงๆ
แล้วนั่นไม่เท่ากับทรยศตัวเองในอดีตและอนาคตหรอกหรอ
แต่กุก็ยังเป็นตัวกูเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีก็ตาม
>>791 เชิญขยะแขยงกูได้เต็มที่เลยโม่ง. สมรักคือใคร? คนอีสาน? กูไปกับผู้ชายแค่กับแฟนกู และกูไม่ได้ไปแค่สองคน ลด้วยตอนโดนลวนลาม กูว่ากูแยกสมยอมกับไม่สมยอมออกนะ ตามที่บอกว่ามันล้วงนมกูต่อหน้าเพื่อน และกูไม่ชอบ ไม่เคยขอ ไมทเคยอนุญาต ไม่เคยอนุมัติ เพื่อนกูไม่เคยทำเป็นตัวอย่าง ไปเอามาจากไหนวะล้วงเสื้อนศ.แฟนแล้วคิดว่าเขาจะแฮปปี้แฮปปี้แฮปปี้ ส่วนไอ้ที่เหลือกูไม่ได้ไปด้วยจ้ะ ถ้ากูทำตัวเป็นเหยื่อก็โอ้ ซอรี่นะ ถ้ากูเป็นเหยื่อ ประชากรโลกส่วนใหญ่ก็เป็นเหยื่อ คือการหัวร้อนที่มีคนมายุ่มย่ามด้วยคือทำตัวเป็นเหยื่อ? ได้ๆ งั้นกูทำตัวเป็นเหยื่อ เพราะกูไม่เคยอารมณ์ดีเวลานึกถึงเรื่อพวกนี้อยู่แล้ว นึกทีไรก็หงุดหงิด ว่าเป็นอะไรกันนักหนา ตอนกู simp กูยังอยู่ในพื้นที่ของกู แล้วทำไมกูเจอแต่คนที่เงี่ยนแล้วรุกใส่ขนาดนั้นวะ หรือความเงี่ยนเราไม่เท่ากัน แต่จะไปถามมันก็ไม่ได้ละ เพราะกูไม่เคยติดต่อครอบครัวนั้นได้ และไอ้แก่นั่นก็ลงโลงไปแล้วตามอายุขัย กับไอ้เด็กเปรตที่เหมือนจะไปทำงานที่อื่น ไอ้ที่เหลือก็ไม่รู้หายไปอยู่ไหน บางคนไม่รู้จักชื่อ บางคนหันไปดูหน้าไม่ทันด้วยซ้ำ jeez
>>793 กุเคยเจอคนล้วงนมล้วงตูด ในห้องเรียน แต่เขาเป็นแฟนกัน กุยังเฉยๆเลย คือเมิงเป็นแฟนกันจะอายอะไร
ส่วนกุก็ตั้งใจเรียนไป ไม่ได้เงี่ยนที่ผช จับล้วงผญ
โลกนี้ไม่ได้ยากถ้ารู้จักยอมแพ้ ความคิดเมิงเหมือนพวกหมกหมุ่นว่ากุไม่แพ้ แต่เมิงแพ้ไปแล้ว โทษตัวเองเถอะ ที่คบแฟนไม่ดี มันก็เปลี่ยนอดีตของเมิงไม่ได้
เมิงเสียร่างกายให้มันลูบแล้ว ต่อให้เมิงร้องจะเป็นจะตายแล้วไงต่อ เมิงก็ได้รับความอับอายไปแล้ว
ถ้าเมิงไม่ยอมแพ้ก็ไม่มีทางชนะ หาแฟนใหม่ได้ก็ไปขอร้องให้แฟนใหม่ เมิง มากระทืบแฟนที่ลวนลามเมิงก็จบแล้วง่ายๆ ไม่ใช่ทำตัวขี้แพ้ เป็นเหยื่อ โลกนี้โหดร้ายมุแง้ ทั้งโลกต้องตามใจเมิงหรอ โง่คบแฟนไม่ดีตั้งแต่แรก ตัวเมิงเนี่ยละที่ควรโทษตัวเองก่อน
Fool me once shame on you
Fool me twice shame on me
ฝากให้คิดแต่ผญแบบเมิงน่าจะคิดไม่ได้
ธรรมมะแท้ไม่มีคำว่าปลอบใจหรอก
มีแต่ความจริงซี่งคนโง่ยอมรับไม่ได้
ว่าแต่มายเซทกุ โครตเท่เลยวะ ว่าป่ะ5555
>>792 ขยะที่คุยกับขยะในถังขยะ อื้ม ฟังดูน่าสนใจ. กูคิดมาตลอดเลยว่ากูอยากจะลดขยะสักนิดนึงก็ยังดี เพราะกูอยากมีลูก อยากให้ลูกได้เกิดในสภาพแวดล้อมบนโลกที่ดี ด้วยการรียูส รีไซเคิล ตอนมัธยมกูเลยไปขุ้ยขยะแยกขวดแยกกระป๋องบลาๆๆก่อนกลับบ้าน แต่ไม่รู้ทำไมกูไม่ชอบความรู้สึกเวลาที่เพื่อนยัดขยะใส่ในมือเพื่อให้กูเอาไปทิ้งให้เพราะเห็นว่ากูแยกขยะทุกวัน ทำไมไม่ไปทิ้งลงถังเองวะ แต่ช่างเหอะ แล้วมาวันนึง กูก็เลิกพกถุงดำมาโรงเรียน จำไม่ได้ว่าทำไม กูเริ่มคิดว่ากูไม่ค่อยอยากจะมีลูกแล้ว ส่วนนึงเพราะมนุษย์สร้างขยะ ที่บ้านชอบบอกว่ากูเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยมากเกินไป พอขึ้นมหาลัย กูได้ลองฟังคลิปพัฒนาตนเองว่าบางคนกลัวที่จะลงมือทำเพราะมัวแต่คิดเล็กคิดน้อย กูเลยอยากลองทำอะไรก็ได้เรื่อยเปื่อย อยากทำอะไรก็ทำ แค่ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้สึกอิ่มตัว หรือไม่อยากทำ พร้อมเหตุผล กูจดโน้ตไว้ว่ากูเลิกทำอะไรเพราะอะไรบ้าง แต่กับางเรื่องมันทำให้กูอารมณ์ฉุนเฉียวจนเผลอขีดกระดาษยุ่งเหยิงไปหมด เลยนึกได้ว่าเมื่อก่อนกูจะกรองการคิดด้วยการพิมพ์หรือการเขียนอะไรเยอะๆยาวๆ แล้วมันทำให้กูจดจ่อได้ดีขึ้น และกูก็ลองกลับไปดู the boys กูรู้สึกว่าถ้ากูยังคิดไม่ตกอยู่เรื่อยๆ กูอาจจะเป็นคนแบบ MM ซึ่งกูชอบตัวละครตัวนี้ แต่ถ้าต้องมีอาการ OCD หรือสุขภาพจิตแย่ มันต้องมีผลกระทบหลายอย่างอยู่แล้ว ถึงกูจะก้าวข้ามความกลัวที่จะถูกลวนลามมาได้ตั้งนานนนนแล้ว แต่กูมันเหลือแค่ความโกรธเวลานึกถึงเรื่องพวกนั้น เหมือน MM ที่โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาเจอคนที่ฆ่าปู่ตัวเอง กูรักตัวละครนี้จริงๆว่ะ ในฉากที่ลูกสาวปลอบพ่อด้วยคำพูดสั้นๆ แม่งดีมากๆ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่กูเคยอยากมีลูก ถึงชีวิตจริงกูจะมีอิมเมจเป็นคนไม่ค่อยพูดเพราะส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการคิดและก็เขียนออกมาเป็นตัวอักษร แต่กูอยากจะลองเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นฝึกพูดใหม่กับครอบครัวใหม่ของตัวเอง อยากลองได้รับกำลังใจจากคนใกล้ชิดที่สุด และหวังว่าตอนนั้นกูจะเลิกคิดเล็กคิดน้อยได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่คิดมาก บางทีกูเลยอยากเป็นซากขยะชิ้นใหญ่ที่นอนสบายๆอยู่บนทุ่งหญ้าใต้ร่มไม้ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ปล่อยสัตว์ต่างๆมาอาศัยอยู่ในโพรงขยะ จนเถาวัลย์กับรากไม้มันเกาะไปทั่วแล้วก็กลืนไปกับธรรมชาติ ซึ่งในส่วนนี้กูไม่รู้จะระบุลงไปในพินัยกรรมยังไงเพราะเท่าที่อ่านๆมา เหมือนว่าเขาจะห้ามเอาศพไปทิ้งไว้แบบนั้น และเพื่อนกูก็ไม่ค่อยอยากให้ความช่วยเหลือกูเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็เข้าใจได้อยู่ เพราะเพื่อนสนิทกูคนนึงก็เสียน้องชายไปเพราะมะเร็ง มันเคยบอกกับกูว่ามันรู้สึกเหมือนอยู่กับน้องเวลาที่ได้คุยกับกู มันคงไม่อยากเสียไปซ้ำสองมั้ง และนั่นทำเอากูสับสนว่าถ้าถึงวันที่กำหนดแล้วกูยังไม่อยากตาย ตอนนั้นกูจะอยู่ต่อไปได้เพราะอะไร ซึ่งกูก็ไม่ได้ตีกรอบไว้ชัดขนาดนั้นว่าต้องตายนะ ต้องตายเท่านั้น แค่จินตนาการไม่ออกว่าตอนแก่ กูจะใช้ชีวิตยังไง จะป่วยออดๆแอดๆ จนลูกหลานต้องมาผลัดกันดูแลเหมือนที่กูดูแลญาติๆก่อนสิ้นใจหรือเปล่า มันคงเป็นความคิดเล็กคิดน้อยอย่างนึง เลยอยากตัดปัญหาด้วยการตายไปก่อนจะต้องเป็นแบบนั้น เออ แต่ใจนึงก็อยากแก่เท่าที่จะแก่ได้ เพราะเคยคุยกับเพื่อนคนนึงไว้ว่าก่อนตาย จะไปเล่นหิมะด้วยกัน คงไปในสภาพไอ้แก่กับอีแก่ แล้วก็ปาหิมะใส่กันตายเพราะหัวใจล้มเหลว นอนตายจมกองหิมะ แล้วหลานๆก็มาขุดเจอศพตอนเช้าในท่าตายทุเรศๆแบบงงๆ อันนี้คิดกี่ทีก็ฮา เพื่อนกูไอเดียแจ่มเกิน
>>796 ผญ ต้องให้กำเนิดลูกได้ ข้ออ้างของเมิง คือกลัวลูกมาใช้เงินมากกว่ามั้ง
สภาพแวดล้อมไม่ดี หรือก็คือเมิงหนีความจริงไปเรื่อยๆนั่นละ หาเหตุผล ให้ตัวเอง แบบนั้นไม่เรียกเห็นแก่ตัวหรอ
คนเรามีชีวิตอยู่ก็สร้างมลภาวะให้โลกนี้อยู่แล้ว แต่มนุษย์เกิดมาเพื่อสืบพันธุ์ มันคือหน้าที่แม้จะทำร้ายโลกก็ตาม
สุดท้ายเมิงก็ไม่ต่างไรจากมนุษย์ที่ล้มเหลว หรือขยะที่รีไซเคิลไม่ได้
>>794 กูก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้นหรอกว่าคนอื่นจะคิดยังไง ถ้ามันเป็นคนแปลกหน้าที่มาเห็นพวกกูล้วงกัน แต่นั่นคือเพื่อนกู และกูรู้ว่าเพื่อนกูก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้พอๆกับกูแหละ ทุกคนก็ัวร้อนกับเรื่องนี้เหมือนกัน. กูต้องโทษตัวเองเรื่องคบผู้ชายไม่ดีเหรอ? อันนั้นกูโทษตัวเองมาตลอดว่ามึงไปคบคนแบบนั้นทำเหี้ยไรวะ ใช้อะไรคิด จะบอกว่าใช้กีคิดก็ไม่น่าใช่เพราะกูไม่ได้เงี่ยนด้วยขนาดนั้นเพราะกลิ่นน้ำหอมไอ้เชี่ยนี่โคตรฉุนเลย ทำไมเมื่อก่อนต้องแพ้ทางนักกีฬาที่ทรงมันเนิร์ดๆหน่อยวะ แต่ถามว่ากูหายโกรธมั้ยหลังโทษตัวเอง? ไม่เลยสักนิด ส่วนเรื่องกระทืบ กูไม่เคยทำ แต่เคยทำให้ไอ้คนนึงที่ชอบมาตอแยกูไม่กล้ามาลงเล่นในสนามนั้นอีก ด้วยการบอกกับทุกคนในสนามว่ากูไม่ค่อยชอบมันว่ะ ซึ่งกูไม่ได้คาดคิดด้วยซ้ำว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ พอมันกลับมาลงเล่นกับทุกคนในสนาม ไม่มีใครส่งลูกให้มัน แล้วพอกูชู้ตไม่ลง มันก็มาทำท่าล้อเลียนกู กูรำคาญที่มัน พอมันเดินมาใกล้ๆ เลยตะคอกใส่ ด่าฉอดใส่จนมันไม่ได้พูด วันต่อมามันก็ไม่มาลงสนามอีก กูเพิ่งได้คุยกับเพื่อนๆที่เล่นกีฬาด้วยกันทีหลังว่า เออ พวกกูก็รำคาญที่มันมาหยอดมุกเสี่ยวใส่มึงเหมือนกัน โคตรเบื่อ มันก็เลยไม่เข้ามาห้ามตอนที่กูตะโกนด่า เพราะถ้ากูไม่ทัน ยังไงมันก็ต้องมีคนในสนามสักคนองค์ลงเหมือนกัน เพราะเขาก็ไม่ชอบใจตั้งแต่ที่มันแซวกูเรื่องตบมือในสนามละ เพราะกูกับคนที่เล่นที่นี่มานานจะรู้ว่าเวลากูตบมือข้างหน้าแปลว่ากูอยู่ตรงนี้ ส่งลูกมาได้ แล้วไอ้นั่นมันชอบพูกใส่กูว่า ปรบมือทำไมอะเตง เชียร์เค้าเหรอ ทำนองนี้บ่อยๆ จนกูเลิกทำไปเลยช่วงนึง แล้วเน้นดีเฟนซ์แทน ก็ยังดีที่กูกันได้เหนียวแต่กูก็เหนื่อยเร็ว แต่ทั้งหมดนั้นมันทำให้กูรู้สึกว่าถึงเล่นไม่เก่งเท่าคนอื่น หรือเหนื่อยไวยังไง กูก็มีความสุขที่ได้เล่นกับเพื่อนกู แบบไม่มีไอ้เชี้ยนั่นน่ะ ตอนนั้นกูแม่งโคตรกร่าง โคตรสวะ ทำตัวนักเลงฉิบหาย แต่รู้สึกดีที่ได้ทำใส่คนแบบมัน เฮ้ออออ โคตรดี
>>797 กูไม่ได้กลัวลูกใช้เงินมากเพราะบ้านกูรวยอยู่แล้ว กูกลัวแค่ลูกกูจะไม่มีความสุข และกูก็มีระเบียบในการบริหารเงินเป็นอันดับต้นๆของบ้านด้วย กูเข้าใจเด็กคนนึงที่เคยเล่าให้กูฟังเลยว่า มันไม่ค่อยกล้าระบายเรื่องในใจให้ใครฟัง เพราะที่บ้านฐานะดี ครอบครัวอบอุ่น ถ้ามันพูดอะไรไปคงโดนตอกกลับมาว่า ชีวิตดีขนาดนี้ยังจะเครียดอะไรอีก ก็นะ ชีวิตคนเรามันมีหลายมิติ เด็กคนนั้นเลยสนิทกับกูเพราะภายนอกก็ดูเหมือนอะไรๆก็ดีไปหมด ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล. โลกมันโหดร้ายอยู่แล้ว แต่ด้านดีดีมันก็มีเสมอ แค่แล้วแต่คนจะมอง กูก็มองทั้งสองแบบสลับกันไป แล้วแต่วันแล้วแต่คืน รู้อะไรมั้ย? มึงทำตัวเหมือนความคิดกูอีกด้านในหัวกูเลย และกูเถียงกับแม่งตลอดเวลา ไม่ค่อยอยากพูด แต่แบบ เออ เหมือนมึงช่วยให้กูเถียงแล้วมันเป็นรูปธรรมมากขึ้น ง่ายขึ้นนิดนึง ใจนึงกูพยายามจะไล่คว่มคิดพวกนี้ออกไปตลอด เพราะมันทำให้กูขาดความมั่นใจ แต่ไม่รู้ทำไมพเถียงให้มันเป็นรูปธรรมแล้วก็รู้สึกมั่นใจกว่า เหตุผลคงเป็นกูได้เห็นรูปความคิดของตัวเองชัดๆก็ได้ เพราะกูก็ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนดีอยู่แล้ว กูใช้ชีวิตไปตามประสา สุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ได้กลับบ้านมาเจอพ่อ แม่ กับยายกู และฝูงแมว ฝูงหมา ถึงกูจะไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้พวกเขาฟัง แต่พวกเขาก็ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้มันมีหลายมิติดี คนเรามันเทาๆกันทุกคน หัวร้อนบ้างก็ไม่เป็นไร ระบายออกมาบ้างก็ไม่เป็นไร กูก็คุยกับพ่ออยู่เรื่อยๆว่าไอ้นั่นไอ้นี่ที่กูทำไปผิดกฎหมายข้อไหนบ้างมั้ย พอพ่อกูเริ่มอธิบายให้ฟัง กูก็จะสบายใจขึ้น ระหว่างรอแม่ทำกับข้าวให้กิน และยายกูที่นั่งดูทีวีกับแมว กูเคยคิดว่าทำไมกูต้องเกิดมาด้วยวะ แต่พอกูโตขึ้น กูคิดว่าจะใช้ชีวิตยังไงนี่แหละคำถามที่กูต้องการหาคำตอบที่สุด และกูก็จะเชื่อมั่นในวิถีของตัวเอง อ๋อ แล้วก็จิตแพทย์ด้วย
กุไม่ต้องพบจิตแพทย์ ไม่เคยคุยกับตัวเองแบบเมิงเลย เถียงกับตัวเอง? แต่กุเคยเจอไอดอลที่เขาเถียงฝ่ายดีกับฝ่ายเลวในหัว ต้องกินยาตั้งแต่เด็กๆเลย ไม่มีทางหายเพราะสมองเสียไปแล้ว
คนเราไม่เทาหรอกอยู่ที่ทำตัว นั่นข้ออ้างพวกขี้แพ้
ทำตัวจอมปลอมหลอกกระทั่งตัวเองสุดท้ายเมิงก็กลายเป็นคนขี้โกหก ในตัวเมิงก็จะไม่มีความจริงสักอย่าง
ส่วนกุอยู่กับความจริง พูด100ทีก็เหมือนเดิม ทำสิ่งที่ถูกต้องกี่ครั้งก็เหมือนเดิม
กุกลัวไม่อยากเป็นคนจอมปลอม ที่โกหกหลอกตัวเอง แล้วสุดท้ายกุจะกลายเป็นคนแบบนั้นจริงๆ
ถ้าเมิงโกหก1ครั้ง เมิงก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ ผญแบบนั้นกุเห็นมานับไม่ถ้วนละ แม้แต่โกหกเล็กๆ ก็ตาม
>>800 โกหกเรื่อง? มึงว่าเรื่องไหนโกหกบ้าง? พอจะสละเวลาเขียนเรียงเป็นข้อให้กูได้หรือไม่? บางทีกูอาจจะพิมพ์งงๆ แต่ถ้าไม่ได้ก็ช่างเหอะ เดี๋ยวกูพิมพ์นี้เสร็จ กูจะไปกินก๋วยเตี๋ยวละ ว่างอีกตอนไหนก็ค่อยมาตอบมึงละกัน. ถึงกูจะต้องเถียงกับตัวเองไปตลอดชีวิต แต่พอได้เจอมึงละ กูคิดว่ากูทำได้ มันไม่ใช่อาการ DID และหมอก็ไม่ได้ให้ยากูนานแล้วเพราะอาการกูดีขึ้นมาก และแม่กูเป็นพยาบาล เขาก็ช่วยดูกูได้ กูแค่เป็นคนชอบตั้งคำถามกับตัวเอง บางทีเลยจำลองสถานการณ์ในหัวขึ้นมาในหัวเพื่อเถียงกันว่าสรุปมึงจะเอายังไงวะ ถ้านี่คือชีวิตของพวกขี้แพ้ กูก็ขอน้อมรับไว้เป็นส่วนนึงของชีวิตกูแล้วกัน อยากนิยามกูยังไงก็ตามใจมึงเลย โรคจิต ขี้แพ้ สวะ กากเดน ขยะ บลาๆๆ มึงจะเชื่อว่ายังไงก็ตามสะดวก แต่สิ่งที่กูพูดไปออกมาจากใจจริงสุดๆ และใจนึงกูก็สงสัยด้วยว่าที่มึงบอกว่ามึงทำเหลวแหลกแต่มึงก็ยังเป็นมึง บลาๆๆ นี่คือยังไง? มึงทำอะไรถึงบอกว่าเหยาะแหยะ เหลวแหลก? ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ซีเรียส กูแค่คนชอบตั้งคำถาม แล้วก็ชอบให้คนตอบอย่างซื่อสัตย์ด้วยถึงกูจะอ่านใจคนไม่ได้ก็ตาม จริงๆกูนี่โคตรชอบการคุยกับคนเลย แต่หลายครั้งก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง จะคุยอะไร บางทีกูที่ภายนอกเป็นคนเงียบๆ กลับคุยกับคนแปลกหน้าได้นานกว่าที่คิด แค่เขาเข้ามาถามตอนนั่งกับเพื่อนที่หน้าเซเว่นปั๊มว่า พวกหนูมาจากไหนกัน? จะไปทัศนศึกษาที่ไหนเหรอ? เมื่อก่อนกูชอบคุยกับคนแก่มาก แต่เดี๋ยวนี้พวกต้มตุ๋นมันเยอะขึ้น เลยไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้าละ กูชอบเวลาได้ฟังเรื่องน่าสนใจที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับอาชีพ กูนึกถึงตอนทัศนศึกษาครั้งนึง แล้วกูกับเพื่อนสนิทไปนั่งคุยกับคนขับทั้ง2คนทั้งขาไปขากลับ สนุกมาก คนขับเขาเอารูปลูกสาวเขาให้ดูด้วย ตอนนั้นกูรู้สึกเหมือนเขากลายเป็นญาติห่างๆเลยว่ะ แบบ เขาเล่าประสบการณ์ทำงานได้สนุกมาก กูชอบสุดคือแตรช้างน้อยที่เขาจะเอาไว้บีบให้รถทัวร์ด้วยกัน คือแตรที่กแล้วมันดังโคตรๆเหมือนเสียงช้างอะมันเสีย แกเลยใช้แตรเล็กแทน อะไรประมาณนั้นแหละ เสียงเหมือนช้างน้อย แปร๊ดๆ โคตรน่ารัก มึงเคยเอนจอยกับเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้บ้างมั้ยวะ? หรือคิดว่าโอ้ชิท โคตรไร้สาระ เอาเวลาไปพัฒนาตนเองดีกว่า แบบ ชาเลนจ์วิดพื้นบนรถทัวร์ในวันที่อินเตอร์เน็ตมันใช้ไม่ได้หรือโดดลงรถไปซื้อหนังสือสรุปชีวฯมาอ่านดีกว่าไรงี้?
ไอโอโนะโคจิคุงไม่ต้องพบจิตแพทย์ แต่พ่อแม่อะไม่แน่ เพราะมีลูกชายเป็นนีทเอ๋อ เอาแต่เล่นโม่งทั้งวันทั้งคืน มโนว่าตัวเองคืออายาโนะโคจิคุงสุดเมพ
พวกคนจิตวิปริต เวลาแม่งเขียนอะไรนี่มันเขียนได้ยาวดีจริงๆ
ตอนนี้หมอเขาบอก lucid dream สามารถผสานจิตใต้สำนึก กับ จิตสำนึก เพื่อไปล้างปมในใจได้
ลองเอาไปฝึกดู บางทีพวกเมิงอาจจะหายจากการเป็นโรคจิตเวชได้
https://www.youtube.com/watch?v=5FKx1XTyWmM
ไม่ต้องพึ่งยาเลย รักษาทางจิตเนี่ยละ แต่ต้องใช้การฝึกฝน อย่างมาก
>>804 เพ้อเจ้อ เดามั่วๆใช้คำว่าบางทีอาจจะ คือมึงไม่รู้ด้วยซ้ำแล้วมาแนะนำคนอื่นเนี่ยนะ ล้างปมในใจแล้วจะหายจากโรคเลยรึไง(มองข้ามเรื่องน่าจะทำไม่ได้) โรคมันเป็นเรื่องของสมอง ฮอร์โมน ร่างกาย กินยามันถึงแก้ได้ ไม่ก็คุยกับนักจิตเค้าช่วยหนักเกินเค้าก็ส่งหาหมอ มาทางจิตฝึกฝนอย่างมากอะไรไร้สาระ ให้ฝึกเองคิดเพ้อเจ้อเป็นบ้าเป็นไรไปหนักกว่าเดิมพอดี ดูการ์ตูนมากไปแล้วคับพี่
พวกมึงอยากตายแบบไหนกัน
>>809 อยากให้ถึงตอนที่ตัวเองแก่ การการุณยฆาตถูกกฎหมาย จะได้วางแผนการเงินให้พอดีๆ และเลือกตายในตอนที่ยังช่วยตัวเองได้อยู่ ไม่รอให้หมดสภาพจนเป็นภาระสังคม ถ้ามีเงินเหลือพอก็จะเอาไปทำอะไรที่อยากทำ หากคนเราวางแผนการตายได้ เราก็จะไม่ต้องกลัวทั้งเคส "แสนเสียดายตายตั้งแต่เงินยังไม่หมด" กับ "แสนสลดเงินหมดแต่ยังไม่ตาย"
กูไม่รู้ที่กูเป็นเมื่อตอนเด็กๆเป็นอาการทางจิตหรือเปล่า หรืออาการทางจิตชนิดไหน
ตอนกูม.2 กูมีลูกพี่ลูกน้องที่พ่อแม่แยกทางกันแล้วทิ้งให้บ้านกูเลี้ยง ตอนนั้นมันอยู่ป.3 ที่บ้านกูไม่ลำเอียงนะ ต่อให้มีมันเข้ามาอยู่ด้วย มีอะไรก็ให้เท่ากัน กินอะไรก็เหมือนกัน กูไม่รู้สึกน้อยใจที่บ้านเพราะมันเลยเพราะไม่มีอะไรให้น้อยใจ แล้วกูก็ชอบมันนะเพราะตอนที่มันเข้ามามันดูเจียมเนื้อเจียมตัวไม่แตะต้องไม่รื้อข้าวรื้อของ เวลากูไปเล่นข้างนอกก็จะเดินตามต้อยๆเวลากูซื้อขนมในร้านก็แค่เดินตามเฉยๆไม่ได้ขอให้กูซื้ออะไรให้ แต่กูเคยซื้อขนมฝืดๆคอที่แถมลูกโป่งให้ นางก็จะเล่นลูกโป่งอันนั้นทั้งวัน กูเลยแอบเจาะลูกโป่งตอนที่นางอาบน้ำ เดินออกมาคือร้องไห้จ้า กูรู้สึกสงสารนะแต่ก็ชอบความรู้สึกแบบนั้น แล้วทุกวันหยุดเวลาพ่อแม่กูไปทำงานกูต้องอยู่กับนาง2คน กูจะต้องตักข้าวให้กินกูจะผสมทุกอย่างในจานเหมือนข้าวหมาให้กิน กูสงสารที่มันกินข้าวแบบนั้นจนหัวใจกูเจ็บเลย แต่กูก็ชอบความรู้สึกแบบนี้ก็เลยทำ แล้วทุกวันเสาร์พ่อกับแม่จะไปบ้านปู่ไปค้างคืนนึง กูก็จะไล่มันมานอนข้างล่าง พอสัปดาห์ถัดไปกูกำลังจะไล่มัน แต่มันก็เดินลงไปเองตอนที่พ่อขับรถออกไป ก่อนกูจะนอนกูแอบลงไปข้างล่างเห็นมันเปิดทีวีไว้แล้วนอนหันหน้าเข้าพนักพิงแล้วร้องจนตัวสั่น ตอนนั้นกูก็ร้องออกมาเหมือนกันเพราะสงสารมากๆ แต่ก็ยังทำแบบนี้เพราะกูชอบความรู้สึกที่สงสารจนหัวใจเจ็บแบบแปลกๆ กูทำแบบนี้จนถึงม.4 กูไปเรียนต่างจังหวัด กูกลับมาอีกทีตอนม.5 กูไม่ค่อยยุ่งกับนางนะ แต่นางก็ยังยิ้มแล้วเข้ามาคุยนั่นคุยนี่ แล้วตอนกินข้าวด้วยกันนางจะตักแกงทุกอย่างใส่ในจานแล้วกิน ปีนึงกูกลับบ้านทีนึงก็เห็นนางกินแบบนี้ตลอดจนกูแอบถามแม่ว่านางกินแบบนี้ตลอดหรอ แล้วแม่บอกว่าใช่ด้วย แม่คิดว่าอาจจะเป็นรสนิยมของนาง แล้วพอถึงวันเกิดนาง พ่อแม่ชอบถามว่าอยากได้อะไร นางก็ขอแค่ลูกโป่ง พ่อแม่กูซื้อให้นางทุกปี จนเป็นสาวแล้วก็ยังจะเอาลูกโป่ง แต่อัปเกรดจากเดิมหน่อยเอาลูกโป่งแบบตัวเลข
เคยเจอแบบยัยผมทองเหมือนกัน แต่เสริมหน่อยว่าดีกว่า(แบบแปลกๆแตกต่าง)ตรง..ผมมีเอกลักษณ์กว่าที่ค่อนข้างมืดมน
.
ผมสมัยเรียนปีแรกๆมองโลกแง่ร้าย ยิ้มบ่อยแต่เหมือนเสเเสร้งปนเหยียดและประชดเรียกว่าวอนตีนล้วนๆ แต่แปลกดีที่ไม่มีคนเกลียด การใช้บวกปรับสายตา(การขยัยกล้ามเนื้อรูปหนังตากับคิ้ว)เพื่อแสดงออกนี่ถ้าดูจากกระจกยังอึกเองเลยว่าตัวเองกำลังคิดไรอยู่ก็ไม่รู้ แถมทั้งหมดถูกจดจำมีแต่คนเป็นมิตรมาอยู่รอบตัวซึ่งทำสงสัยตัวเองมีดีอะไรนะถึงมีแต่คนคอยพยุงตลอดเวลา ตัวผมจะต่าง(กับตัวละครข้างบน)ที่ตรงไม่ค่อยเจอสายตื้อที่อยากเป็นเพื่อนแบบยันทอมในเรื่องแหะ ...
.
อ๊ะ!ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ผมเจอแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อขี้สงสัยจากคณะครุศาสตร์(ที่จ้วงหัวว่าแม่งตื้นเขินน่ารำคาญชะมัดแต่ก็ไม่เกลียด) และดูเหมือนผมจะถูกตีตัวออกห่างเองในหนึ่งวันแห่งความพยายามของเจ้าหมอนั่นซึ่งวันนั้นฝนตกซะด้วย ผมก็ไม่เห็นเจ้านั้นอยู่หลายปี.... ตื้นชะมัดเลยนะ ทั้งที่ทางนี้อุตสาห์เปิดหัวข้ออภิปรัชญา เช่น ความหมดศรัทธาว่ามนุษย์เป็นสัตว์ผู้มีเหตุผลหลังผ่านยุคโพสโมเดิร์น กับแนะนำหนังสือโลกของโซฟี่และนักปรัชญารุ่นเดอะ ต่างๆแท้ๆ การเมืองนู่นนี่ ความเป็นจริงและสิ่งที่ต้องจ่ายแม้จะทำตัวเมินเฉยในนาม "เป็นกลาง" ที่อ้างๆ กันของคนกลุ่มหนึ่งว่าตามจริงการอยู่เฉยก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ....... ผมพูดแต่เรื่องเครียดรึไงไอ้บ้านั้นเลยหนี เฮ้อ น่าขยะแขยงชะมัด
คนไทยอยากบินได้ มีแล้วสบายใจนั่นละ
เครื่องยึดเหนี่ยว จิตใจ ไม่เหมือนกัน ส่วนของกู คือ ความโมเอะ
กุว่ากุชอบแร้ วะ เหมือนที่ ไอคิระ มันคลั่งไคล้มือ
https://www.youtube.com/watch?v=Yj05QE6Tm9U&t=235s
กุรู้สึกว่าความรักที่กุมีกับผู้หญิง มันเป็นของปลอม แต่ กับ แร้ของผญ มันเป็นของจริง
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือกัน ทำไมหัวใจ โดกิ โดกิ เวลาที่เห็นแร้ แต่รู้สึกเศร้าเวลาที่เห็นเธอ
เมื่อคืนกูฝันว่าโดนเพื่อนผญ ไซร้คอ(กูก็ผู้หญิง) แล้วตื่นมาเงี่ยNจริงๆ
กูไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีว่ะ ตอนนี้เหมือนกูใช้ชีวิตแบบอยู่ไปวันๆ รู้สึกอิจฉาคนที่จากไปก่อนมาก เวลาได้ข่าวว่ามีใครจากไป กูได้แต่ถามตัวเองว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวกูซะที แต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ต้องทำตัวเหมือนปกติ ในใจกูคิดไปเป็นพัน แต่สามารถแสดงออกมาได้แค่สิบ กูอยากบอกคนใกล้ตัวนะแต่ขณะเดียวกันกูก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เรื่องของกูไปเป็นภาระให้คนอื่นอีก ใครๆ เค้าก็มีปัญหาของตัวเองอยู่แล้ว กูไม่อยากให้คนอื่นมากลุ้มกะเรื่องของกูไปด้วย ตอนนี้กูได้แต่บอกตัวเองอดทนไว้ๆ กูไม่เป็นอะไร กูยังไหว แต่กูก็เริ่มคิดบ่อยขึ้นแล้วว่าจะหาทางไปยังไงให้เดือดร้อนคนข้างหลังน้อยที่สุด
>>803 พวกจิตเวชมีสิ่งนึงที่เหมือนกันคือมันไม่มีค่าในตัวของมันเองมันลยพึ่งพิงสิ่งภายนอก หากไร้สิ่งพึ่งพิงพวกนี้มันก็จะคิดสั้น
กุเคยเห็นคนที่ก่อนเขาจะคิดสั้นร้องเพลงหมดความหมายอยู่คลิปนั้นค่อนข้างดังคนดู500,000
เพราะคนนี้มันอัดเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายของชีวิต
และอยู่กับโลกจอมปลอมไม่ยอมรับความจริง
เพราะเมื่อไรที่มันยอมรับความจริงในตัวของมันเอง ก็เป็นเวลาที่พวกนั้นไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว
>>819 กูก็อยู่ไปวันๆเหมือนกัน ชีวิตก็ทำผิดพลาดอะไรมาเยอะตอนนี้ก็อยู่ไปวันๆเพราะแม่แค่นัั้น ตอนนี้ก็กันเงินไว้ส่วนนึงเผื่อไว้ตอนที่พ่อแม่ไปแล้ว
คิดว่ากุคงไปโดดน้ำที่ไหนสักที่ไม่ราม7ก็8 เงินก้อนที่กันไว้ก็คิดว่าเอาไว้ใช้จัดงานง่ายๆวันเดียวเผาไปเลยถ้าญาติเขาคิดจะจัดงาน
เมื่อไม่นานมานี้กุป่วยหนักมากๆจนต้องเข้ารพ. ซึ่งก่อนหน้านั้นกุบอกกลุ่มเพื่อนสนิทแล้วว่ากุไม่สบายแต่มันก็ไม่ได้concernขนาดนั้น จนรู้ว่ากุเข้ารพ.ถึงทักมาถามเรื่องรายละเอียด(แต่ช่วงที่กุทักไปคือป่วยหนักมากๆแล้ว) ในขณะเดียวกันพ่อแม่ก็เป็นคนที่มาเฝ้ากุระหว่างนอนรพ.สองวันจนออกมา แล้วเพื่อน(ที่ไท่ใช่เพื่อนสนิท)ถามว่ากุไม่กลับบ้านเหรอ พ่อแม่ไม่เป็นห่วงว่ามึงทรุดเหรอ คำถามมันเหมือนมาจี้ปมกุ
ในขณะที่กุไม่ได้มีคสพ.ที่ดีกับพ่อแม่กุมาก อาจจะต้องเกริ่นสักนิดว่าพ่อแม่ในที่นี่หมายถึงพ่อแม่บุญธรรมที่คสพ.ลุ่มๆดอนๆ และเขาก็มีลูกชายแท้ๆอยู่แล้ว แต่ก็ยังแสดงความเป็นห่วงกุในระดับนึงถึงจะไม่ได้มากเท่าบ้านที่อบอุ่นสัดหมา และเพื่อนสนิทที่กุคิดว่ากุสนิทด้วยมากๆก็ไม่ได้อยู่ข้างเราขนาดนั้น แล้วกุก็มานั่งคิดว่าแล้วที่อยู่ของกุคือตรงไหนวะ ถ้าจะครอบครัวก็ไม่มี หรือจะเพื่อนก็ยังไม่มีเหมือนกัน กุเป็นasexualที่ไม่อยากมีแฟน เคยพยายามคบก็เป็นกุที่ขอบอกลากับคสพ.ก่อน
พอมีเรื่องนี้เลยทำให้คิดได้ว่าคนที่เราคิดว่าสนิทกันสุดท้ายก็แค่คนรอบข้างนี่ ช่วงที่ถ้าแค่มันถามหรือแสดงความเป็นห่วงที่กระตือรือร้นออกมาหน่อยก็คงรู้สึกดีกว่านี้ เลยทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ห่วยแตกเป็นบ้า ไม่มีอะไรสักอย่าง เป็นที่หนึ่งสำหรับใครากคนก็ไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไม แต่ก็ไม่ได้อยากตาย ไม่ชอบเจ็บตัวด้วย ทำได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆเท่านั้นแหละ
>>825 เมิงยังดีนะ เทียบกับคนที่มีเพื่อนมากมายแล้วพยายามขอให้คนอื่นเห็นค่าในตัวเอง แต่ก็ปฏิเสธความหวังดีของคนรอบข้าง และมาบอกว่าตัวเองไม่อยากอยู่โลกนี้แล้วเพราะ ปาร์ตี้กินเหล้าสูบยา แถมยังบอกตัวเองเป็นนอนไบนารีอีก.
.
ที่1ในที่นี้คืออะไร คนชอบ? ความสำคัญกับคนอื่น อย่าเป็นภาระของคนอื่นก็พอแล้ว
คนเราต่อให้ห่วยแตกขนาดไหนมันก็ต้องมีเรื่องที่ทำได้ดีที่1 สักเรื่อง
อย่างกุถ้าโลกนี้คือเกม กุต้องชนะ!
เข้าเรื่องละกันมีวิธีรักษาเมิงอยู่เลี้ยงแมวเพิ่งคลอดสักตัว สำหรับมันในโลกนี้มันจะมีแค่เมิงคนเดียว ไม่มีใครอื่น และทำหมันแมวด้วยละ
แค่นั้นเมิงก็ที่1แล้ว
ชีวิตคนอินโทรเวิร์ตที่มีลูกมา 5 ปีในคอนโด 1 ห้องนอน ค้นพบว่าการที่ไม่มีใครอยู่ในบ้านแล้วเราเปิดทีวีเลือกหนังซักเรื่องอะไรก็ได้เอาไว้เป็นแบล็คกราว ถอดเสื้อผ้าออกหมดเปลือยกายทำนู่นทำนี่ในบ้าน จบด้วยโดดขึ้นที่นอนสาวหนอนแบบไม่เร่งรีบ หาคลิปที่ใช่ โดจินที่ชอบ ไม่ใช่เร่งๆชักให้เสร็จๆไป ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆแค่ 2 ชม. (ลูกไปเรียนพิเศษแล้ววันนั้นแฟนกูบอกว่าจะไปดูลูกเอง ให้กูอยู่ตากผ้า ทำความสะอาดห้องแล้วตามไป) แต่แม่งฟินชิบหาย โหยหาช่วงเวลาแบบนี้เหี้ยๆ คือสมัยก่อนเรื่องแบบนี้เราทำกันเป็นเรื่องปกติไง เห้อออออ อยากมีช่วงเวลาแบบนี้บ่อยๆจัง อาทิตย์ละครั้งก็ยังดี
กปรึกษาห้องนี้ได้ไหมนะ กุค่อนข้างเครียด
คือขอเกริ่นก่อนว่าหุ😭อยู่ในช่วงมหาลัย ตอนนี้ปี4ขึ้น5เรียนเกินปีนึงเพราะกุดรอปไปเทอมนึงกับตารางสอนชนจนหาวิชาลงไม่ได้
ค่าเทอมทั้งหมดกุเป็นคนรับผิดชอบเองไม่เคยให้พ่อแม่จ่ายเพราะบ้านจนไม่มีใครซัพกุได้
คือก่อนเข้ามหาลัยกุก็ไม่ได้มีความชอบพิเศษเลยเลือกมหาลัยสีแดงเหลืองใกล้ ๆ บ้านไปจะได้เดินทางสะดวก +ช่วงโควิดกุเลยไม่มีเพื่อนในมหาลัยเลย จริง ๆ ก็ไม่อยากเริ่มคุยชวนเมคเฟรนด์ด้วยเลยกลายเป็นว่ากุไม่เข้าหาใครไม่มีใครเข้าหา ตอนแรกมันก็โอเคอยู่แต่เรียนไปช่วงปีสองกุเริ่มรู้สึกโคตรไม่ใช่กุไม่ได้ชอบตรงนี้แล้วกุก็เกรดตก แล้วช่วงนึงที่แมวที่กุเลี้ยงตายตอนสอบ กุพามันไปหาหมอทุกวันช่วงเช้าเรียนออนไลน์ก็ฟังไม่เข้าใจ ไป ๆ มา ๆ มันเลยแย่หนัก แถมค่าใช้จ่ายที่กุเก็บไว้เป็นทุนสำรองค่าครองชีพก็หมดไปกับนั่นค่อนข้างเยอะจนกุจะไม่ไหวแล้วพอแมวตายแล้วกุก็เคว้งไปเลย กุไม่ไปสอบประมาณสามวิชา + ทะเลาะกับที่บ้าน ปล่อยติดเอฟไปเทอมนั้นจนเกรดดิ่ง ละทีนี้ช่วงปี3ที่บ้านมีปัญหาเกิดอุบัติเหตุต้องชดใช้ให้ฝ่ายตรงข้ามอีกกุก็เอาเงินเก็บไปช่วยต่อที่บ้านชอบขอเงินกุ ถ้าไม่ให้กุก็จะโดนพูดแบบครอบครัวทำไมไม่ช่วยกัน กุพยามใจแข็งแล้วแต่สุดท้ายก็กลายเป็นกุช่วยทุกอย่างอยู่ดี กุเลยไม่มีเงินสำรองจ่ายค่าเทอมพอที่กุจะอยู่ในช่วงปี5 ขึ้นปี4กุเลยพยามหาคนเซ็นกยศ.ให้จากที่มันปรับใหม่ไม่ต้องใช้คนค้ำแล้วเลยมีคนมาเซ็นให้จนรอดมา1ปี แต่เงินที่กุกะจะเก็บสำรองไปเตรียมปี5 ก็เก็บไม่อยู่เพราะไอแพดเมนบอร์ดเสียบ้าง โทรศัพท์แบตระเบิดบ้าง แม่กุเข้าโรงพยาบาลบ้าง พอเรียนแล้วตารางสอนมันเต็มเกือบทุกวันกุก็ไม่มีเวลาหาเงินเท่าไหร่ พาร์ทไทม์แถวบ้านก็ไม่มี หอก็ไม่ได้อยู่ ถึงจะบอกมหาลัยใกล้บ้านแต่ไปกลับก็แถว ๆ 35 นาที ปกติกุทำกราฟฟิกดีไซน์กับวาดรูปรับคอมมิชไป แล้วบางทีก็ขายหนังสือตามงานอีเว้นเก็บเงิน ภาษาญี่ปุ่นได้n3 แต่ฟัง/พูดกุพาร์ทฟังลองข้อสองn1ได้เต็มบ่อยอยู่จากที่ลองทำโจทย์ แต่ยังไม่ได้ลองสอบเพราะไม่ว่าง แต่เงินที่กุหาได้ก็ไม่ค่อยพอ แต่พอดูกับคนรอบตัวกุที่ทุกคนดูมีอะไรแล้วในชีวิต กับกุที่แค่ปัญหาส่วนตัวก็ยังเคลียร์ไม่จบไม่สิ้น วาดรูปเพื่อนที่สนิทกันก็ทำเป็นฟูลไทม์จนกุเริ่มรู้สึกกุกระจอกมากที่พัฒนาไม่ได้เร็วแล้วได้มากกว่านี้ อะไรก็ไม่สุดสักทาง แถมจบไปเกรดแถว ๆ 2.5 (ไม่ใช่คณะภาษา) กุก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะมีงานทำมั้ย ค่าเทอมเทอมหน้าก็ไม่รู้จะมีจ่ายหรือเปล่าถ้ากยศ.เกินหลักสูตรไม่ผ่าน พ่อแม่ก็ช่วยอะไรกุไม่ได้ มันทำกุดาวน์จนไม่ยากใช้ชีวิตอยู่เลยตอนนี้ มันสะสมมาตั้งแต่ปีสองคุยกับใครก็ไม่ได้ กุไม่รู้ว่ากุควรทำอะไรต่อไปด้วย กุเหนื่อยจัง🥲
+กุทำพลาดไปเยอะมาก หมายถึงรู้สึกเป็นภาระสังคมกับอาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัย คือมีครั้งนึงช่วงส่งวิจัยกุฆตต.แต่ไม่ตายจนอาจารย์ต้องมาตามทวงงานกุในแชท แต่วิจัยกุก็ทำต่อไม่ค่อยไหวตอนนั้นหัวมันตื้อไปหมด กุก็เลยโกหกว่าป่วยไปแต่กุก็ไม่กล้าบอกเพราะรู้สึกผิดที่สร้างภาระให้เขาที่ต้องมาทวงงาน เพราะเขาใจดีมากแต่ตอนนั้นกุไม่ไหวแล้วจริง ๆ กุรู้สึกผิดยันทุกวันนี้ เขาเป็นที่ปรึกษากูด้วย เขาใจดีมาก ๆ ตอนกุไม่ไปสอบสามวิชาเขาก็ส่งจดหมายมาที่บ้านพร้อมพวกสมุดสติ๊กเกอร์ว่ารอกุกลับไปเรียนอยู่นะ มันเลยทำให้กุรู้สึกผิดไม่กล้าสู้หน้าเขาเลยยันทุกวันนี้ รู้สึกเป็นภาระสังคม กุยกโทษให้ตัวเองที่เหลวแหลกขนาดนี้ไม่ได้ด้วย
กุรำคาญเพื่อนกุว่า มีเหียไรมาหาก็ให้กุเลี้ยง ชอบบอกเงินเดือนเมิงเยอะ ไอ้สัด กุก็เลี้ยงให้ พอมีปัญหาก็มายืมเงินกุไม่ให้ก็เอากุไปพูดในกลุ่มเพื่อนว่า กุมีตังแต่ไม่ช่วยมั้ง คบมา xx ปี
วันนี้กุไม่ไหวเลยเอาแชทที่แม่งขอยืมเงินมาสารพัด มาขอให้กุเลี้ยงไปแปะประจานแม่งให้กลุ่มเลย แม่งมีคนทักมาบอกมันก็เจอเหมือนกันแต่มันไม่ให้เลย กุยังใจดี มาวันนี้แม่งขาดกันไปละ หนี้กุ กุปล่อยแม่งละสบายใจ
>>833 >>834 กูก็ไม่ได้สนับสนุนให้ >>835 นะ แต่กูว่าของแบบนี้มึงปรึกษาจารย์มึงก็ได้
คืองี้ ปัญหาของคนแบบนี้(แบบมึง)คือ ชอบคิดว่าปัญหามีแบบนี้ กูจะทำงี้เพื่อแก้ปัญหา แต่จริงๆ การหาคนไว้ใจได้ที่ผ่านโลกมามากกว่าช่วยมันช่วยได้นะ
โอเค อาจจะไม่แก้ปัญหาให้มึงหรอก แต่มีทางออกอื่นๆ ไม่ต้องเชื่อกูก็ได้ แต่ถ้าขนาดตายก็จะลองมาแล้ว ลองอย่างอื่นบ้างจะเป็นไร
>>837 >>838 ตามนั้น ปัญหาของพวกเมิง คือ คิดมากเกินไป กังวลมากเกินไป
ถ้าไม่รู้ปรึกษาใครกุแนะนำchat gpt
https://chatgpt.com ใช้งานฟรีไม่เสียเงินสักบาท
แต่แย่หน่อยคือถามเรื่องผิดกฏหมาย เรื่องใต้สะดือ มันจะไม่ตอบ
กุเรียน 4.5 ปี จบ กุยังไม่ร้องจะเป็นจะตายเลย F 4 ตัวซ้ำซาก ตกวิชาเดิม2ครั้ง ด้วยมั้งของกู
ค่าเทอม 12,000 แต่กุจ่าย 6,000 ไม่รู้มหาลัย สีแดง ของเมิงนี่ใช่มหาลัย กราฟ เอกโปเนนเชียล หรือเปล่า
จริง เพื่อนกุ8ปีจบ ตอนนี้ก็ทำงานผ่อนบ้านผ่อนรถเหมือนคนทั่วไป แต่ก็เริ่มด้วยตำแหน่งจบใหม่ไม่ถึงสองหมื่น
ส่วนหัวหน้าสายงานกุ ซิ่ว1ที่ ไปที่ใหม่ก็8ปีจบเหมือนกัน เริ่มด้วยตำแหน่งจบใหม่แล้วก็ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ (พูดหลายรอบจนจำได้) พอมาทำงานคือไม่ดื่ม ไม่เที่ยว ทั้งชีวิตทุ่มเทให้งาน มาเช้ากลับดึก ไม่มีลูก เรียนปโท ยอมรับว่าเก่งจริงไม่ใช่เอาแต่สั่ง ลงมาทำ และกลับดึก ข้อเสียก็งานหนักถวายชีวิตให้งาน แต่ถ้ามันแลกกับการเติบโตก็ยอม
>>839 กุเรียนมอสีแดงเหลืองแถวรังสิตน่ะ ค่าครองชีพทะลุโลก ขอบคุณที่มาตอบนะ กุว่าจะพยามต่ออีกสักหน่อยถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ก็อาจดรอปหางานเก็บเงินต่ออีกสักหน่อย เรื่องชูการ์หาคนเลี้ยงค่อนข้างยากสำหรับกูเลย กุคุยกับใครไม่เก่ง ไม่ชอบอยู่กับคนอื่นด้วยน่ะ ไม่รู้ลู่ทางด้วย
กุเครียดเพราะ5ปีจบก็ส่วนนึงปต่วิชาที่เรียนนี่แหละที่กุค่อนข้างเครียดเพราะไม่ใช่สายที่ถนัดเลย พอเหมือนฟิกซ์ว่าอีกปีนึงต้องจบแล้วกุก็ค่อนข้างเครียดล่วงหน้าว่าถ้ากุพลาดตัวไหนไปแม่งก็เลทอีก แบบนั้น
พวกมึงเคยเห็น anima หรือ animus ในฝันปะ รู้สึกยังไงกับมัน
ถ้าเราชอบคนๆนึงอายุ 20 แล้วเราก็มีอารมณ์กับรูปเขาตอนอายุ 15 ด้วยแบบนี้เป็นโรคใคร่เด็กไหม
ปลอบกูที มีคนเหนกูชากว่าว ;_;~
>>842 โรคมึงกำเริบรึเปล่า ลองไปคุยกับหมอไหม
>>843 เสี่ยงนะ แต่ถ้ายังไม่ได้จะไปลงมือกับเด็กจริงๆก็ยังไม่เข้าข่ายนะ ไม่ต้องทำไร ให้รู้ตัวเองไว้พอ
>>845 ใจเยนนะ เขินหน่อยแต่ไม่เปนไรหรอก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ชักมันก็เป็นวิธีที่ระบายความเง้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าคนที่เห็นไม่ใช่คนเหลี้ยเขาก็จะแกล้งทำเปนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มึงก็ควรจะทำแบบเดียวกัน แต่ถ้าเปนคนเหลี้ยก็ทนรับความอับอายระดับนึง แต่ถ้ามันคุกคามมากๆเขาสวนกลับได้ อย่าไปกลัวมาก มันเปนเรื่องที่ผู้ชายคนไหนๆก็ทำกัน
อ่อ ลืมถาม มึงชักในที่ส่วนตัวแล้วคนเข้ามาเห็นใช่ไหม เพราะถ้ามึงชักในที่สาธารณะกูจะสมน้ำหน้าซ้ำเติม
คนที่กูชอบมากๆเค้าให้ยืมเสื้อนอกคลุมขา กูขอเอามาซักก่อนคืน ถ้าวันนี้กูแอบดมจะโรคจิตมั้ย
น้องที่นั้งทำงานข้างกุแม่งชอบแต่งตัวค่อนข้างโป๊ ใส่กระโปรงสั้น เวลานั้งไขว่แม่งไหลขึ้นมาเห็นลึกเลย ทำกุไม่มีสมาธิทำงาน ยิ่งกุใส่แสล็คเห็นละแข็งยิ่งรัด คือกุเงี่ยนเลยละ
จะบอกก็ไม่กล้า เดี่ยวมองว่ากุบ้ากามอีก คนอื่นในทีมก็มีแต่ผู้หญิงไม่รู้จะไปบอกใคร หัวหน้าแม่งก็พึ่งเหียไรไม่ได้
วันนี้ซื้อขนมกับร้านเดิมประจำ เขาแถมให้
>>855 https://youtu.be/1WWarkf_mFU?si=YoJSLvz3R0jz5HKJ
คิดแบบอาจารย์แดง คือมึงต้องมองก้าวข้ามเรื่องกามไปให้ได้
ชอบคิดถึงเรื่องแย่ๆที่ตัวเองทำในวัยเด็ก อย่างเรื่องงอแงให้พ่อแม่ซื้อของให้ รู้สึกว่าไม่ควรโตมาจนถึงวันนี้ ไม่ควรได้รับอะไรดีๆจากใครเลย เกลียดตัวเอง ไม่ชอบตัวเอง สงสัยว่าทุกๆคนไม่เคยมีวัยเด็กที่นิสัยไม่ดีบ้างหรอ ทำไมมองว่าเพราะตอนนั้นเราเด็ก ไม่รู้เรื่องได้ง่ายจัง หรือเป็นกูเองที่ผิดปกติกันนะ
>>860 ตอนเด็กกูนิสัยดี 555 ล้อเล่น แต่ก็ดีกว่าค่าเฉลี่ยอ่ะนะ รู้สึกแย่แค่โดนรังแกบ่อยๆ
กะช่วยนกที่คนรุมตื้บไม่ทัน แต่ทั่วๆ ไป กูก็ไม่อ้อนของ ไม่ตีเพื่อนล่ะนะ อ่า แต่กูปากเสีย
จริงๆ กูอาจจะเลวกว่าที่กูคิดก็ได้ แต่กูไม่รู้ไง สมัยเด็กกูโดนบ่นแค่ขี้หวงกะกวนตีนอ่ะ (เอ้าก็กูรักของกู)
กูชอบเดี่ยวไมโครโฟนให้ตัวเองฟัง ปกติดีไหม
กูโง่ไปหาดูคลิปสนัฟฟิล์มเรื่องนึง จนตอนนี้กูเอาภาพออกจากหัวไม่ได้ ได้ยินเสียงไรก็ระแวงมันทุกอย่าง เป็นมาหลายวันละตั้งแต่ดูคลิปนั้น กูควรทำยังไงดี
กูเป็นคนทนแรงกดดันไม่ไหว เวลาเจองานพรีหรือสอบกูจะเครียดมากจนคิดอะไรไม่ออก มือสั่น กูต้องพูดกับตนเองตลอดเหมือนสะกดจิตตัวเอง จนเพื่อนรำคาญ ล่าสุดกูอ่านหนังสือหนักมากแต่เข้าห้องสอบแล้วกูคิดอะไรไม่ออกทั่งที่กูเคยทำมาแล้วผลออกมาคือกูไม่ผ่าน ตอนนี้แค่กูจับหนังสือก็อึดอัด อยากหนีไปไกลๆ ไม่อยากไปมหาลัย กูอยากไปหาจิตแพทย์แต่ไม่อยากให้ที่บ้านรู้ เพราะบ้านกูหัวโบราณไม่ใช่เซฟโซนเท่าไร มีคนเคยบอกว่าให้กูคิดแต่เรื่องดีๆ แต่กูมีนิสัยทนแรงกดดันไม่ไหวสิ่งที่กูทำมาล้มไม่เป็นท่า สุดท้ายกูคิดเรื่องดีๆไม่ออก ตอนนี้กูควรทำยังไงดี
>>866 กุก็เหมือนเมิงนั่นละ แต่กุไม่ต้องพบจิตแพทย์ กุไม่อ่านหนังสือ แต่เล่นเกม สอบตกก็สอบใหม่โลกนี้ไม่มีอะไรยาก พรีเซนต์ เมิงก็อ่านไปเรื่อยๆ ไม่ต้องสนใจคนรอบข้าง ไม่ว่าเขาจะหัวเราะหรืออะไร ก็ตาม เมิงต้องสื่อสารให้อาจารย์รู้เรื่องคนเดียว
แรงกดดันถ้ามันถาโถมมา เมิงก็กลืนกินมันซะ
ไม่มีอะไรในโลกนี้สะกดข่มเมิงได้ ไม่ว่าจะความรักความโกรธความกลัว ความมืด
ไม่ได้ผิดที่เมิงจะอ่อนแอ
ชีวิตนี้กุไม่เคยคิดแต่เรื่องดีๆกุคิดสถานการณ์เลวร้ายสุดไว้ตลอด ต้องมีแผน2แผน3แผน4แผน5
ส่วนกุอยากไปมหาลัยเพราะเจอเพื่อนวะ แทงสนุกตีดอท ส่องสาว ไม่ได้ไปเน้นเรียนเลย
เอาสังคมก่อน มันก็แค่ปริญญาโง่ๆ
กุโดนคนเกลียดทั้งโม่ง กุไม่รู้สึกกดดันอะไรเลย
เพราะกุเหนือกว่าพวกมันหมด
ว่าแต่เรื่องเรียนมันต้องปรึกษาที่บ้านอะไรวะ
กุไม่เห็นจะต้องปรึกษา
>>867 ตามนั้นการหนีไม่ช่วยอะไรเผชิญหน้ากับมันซะ ถ้ามันออกมาห่วยออกมาแย่ก็ไม่เป็นไร
ช่างมันครั้งหน้าเอาใหม่
ไม่ต้องเก่งต้องฉลาดก็ได้เรียนซ้ำชั้นก็ไม่เป็นไร
เอาจริงกุก็หัวช้านะ น้องกุฉลาดอ่านหนังสือ10นาทีเข้าใจหมด กุใช้เวลา1ชั่วโมง
ถึงจะเข้าใจแบบลวกๆ คะแนนพอๆกับน้องกุ
แต่กุไม่เคยคิดว่าด้อยกว่ามัน
เมิงต้องมีสิ่งที่เมิงทำได้ดีสักเรื่อง ไม่ว่าเมิงจะห่วยขนาดไหนก็ตาม ไอดอลที่กุชื่นชอบเขาว่าไว้ยังงั้น
>>867 ขอบใจมึงมาก กูพยายามหาสิ่งที่กูทำได้ดีอยู่ กูมืดแปดด้านมากแต่กูจะลองหาต่อไป
>>869 กูโดนคนด่าเป็นภาระประจำ ตอนนี้กูพยายามช่างมันแล้วพยายามอ่านหนังสือต่อถึงมันจะฝืนใจมาก ส่วนมหาลัยกูไม่ได้เกลียดหรอก แค่นึกอะไรเกี่ยวกับสอบกูรู้สึกไม่ดีเฉยๆ ส่วนพรีกูพยายามลองฝึกพรีดู
>>870 คำว่าเอาใหม่ไม่ค่อยมีใครพูดกับกูเท่าไร ส่วนใหญ่โดยด่ามากกว่า5555 ชอบทัศนคติมึง กูจะลองเอาไปใช้ดู
เพิ่งเห็นว่าโม่งมีกระทู้แนวนี้ด้วย เวลามีคนบ่นอยากตาย แล้วมีอีกคนมาบอกว่า "เฮ้ยมึงยังไม่ได้ทำนั่นทำนี่" คือการพยายามหาความสุขมาป้ายให้คนอยากตายเนี่ย มันไม่มีผลอะไรหรอก เพราะมันมองไม่เห็นความสุขอะไรแล้ว แล้วไอความสุขที่ว่ามาสุดท้ายมันก็คือทุกข์อยู่ดี ยิ่งไอพวกเอาร่างกายผู้หญิงมาป้ายยาเนี่ย พวกที่พูดมีสองแบบคือยังไม่ได้เจอกับตัว คิดว่านั่นคือความสุข กับอีกแบบคือเจอแล้วแต่ยังไม่ได้สัมผัสด้านทุกข์ที่ซ่อนอยู่ (กูพูดได้เพราะเมื่อก่อนกูบ้าความรัก แล้วสำเร็จกับการจีบผู้หญิงในสเปคของตัวเองในแต่ละช่วงอายุ แล้วสเปคกูคือสูงด้วยไง) เหมือนมึงขึ้นไปยืนบนยอดเขาได้แล้ว วิวโคตรสวย แต่อยู่เฉยๆบนนั้นก็หนาวไม่มีอะไรแดก ถ้ามึงไม่กลายเป็นคนป่าดิ้นรนอาศัยอยู่บนเขา มึงก็ต้องหาทางลงเขาอยู่ดี สรุปสุขอยู่ไม่กี่นาที แต่เรื่องทุกข์มารออยู่อีกเป็นขบวนแล้ว
การหาภาระผูกผันให้ชีวิตนั่นแหละตัวทุกข์ ใครอยากตาย ก็ลองดู มึงไม่ต้องฆ่าตัวเองตายก็ได้ แค่อยู่ไปวัน ๆ จนเงินหมด ไม่มีข้าวแดกก่อน เอาแบบตัวเองใกล้ตาย เดี๋ยวมันจะคิดได้เองว่าจะแห้งตายไป หรือจะลุกขึ้นไปขอข้าวคนอื่นแดก ถ้าเลือกแห้งตายก็สมปราถนามึงละ แต่ถ้ามึงจะมีชีวิตต่อ มึงก็ได้เรียนรู้ว่าชีวิตคนเรา มันคือชีวิตที่ต้องอยู่กับความทุกข์ แค่ร่างกายก็ภาระแล้ว เดี๋ยวหิวเดี๋ยวขี้เดี๋ยวง่วง ความสุขห่าเหวอะไรแค่ของชั่วคราว แค่ทำให้มึงฝันไปวันๆ แล้วถ้ามึงเข้าใจโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์เมื่อไร มึงก็จะอยู่ได้แบบยังไงก็ได้ วันนึงมีข้าวกินอิ่ม มีห้องให้นอน ตื่นมายังมีแรงเดิน จบ ทุกอย่างที่เคยต้องการ โดนโลกทุนนิยมหลอกมาทั้งนั้นว่าคือ ความสุข โดนตอแหลว่าเป็นของดีที่ช่วยมึงได้ ทำให้อยากได้อยากมีเอาของมาครอบครอง เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์เพราะวัตถุ หรือเพราะความสัมพันธ์กับคนอื่น คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบนี้แหละ ดิ้นรนหาความสุขภายนอกไปเรื่อยๆจนวันตาย
ถ้ามึงมีความสุขกับตัวเองได้นะ นั่นคือก้าวแรกแล้ว ก้าวต่อไปก็ทำอารมณ์ให้นิ่ง ไม่สุขไม่ทุกข์ แค่อยู่ไปตามอายุขัย ทิ้งของรกรุงรังในชีวิตออกไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะตาย ไม่มีอะไรยึดติดแล้วจะสบายใจขึ้น แต่ถ้ามึงยังอยากใช้ชีวิตที่หาความสุขภายนอก มึงก็ต้องเตรียมใจทุกข์ด้วย (อย่างเช่นกูที่อยู่ดีๆนึกอยากจะมาพิมพ์พล่ามในโม่งตามกิเลสตัวเอง ก็ต้องเตรียมใจว่าจะโดนด่า หรือ มึงบางคนที่เข้าโม่งมาอยากพิมพ์ระบาย เจอคนด่าหรือเจอคนโม้เหม็นน่ารำคาญ ใจแม่งก็ขุ่นละ โลกมันก็แบบนี้อยู่ตลอดไม่มีวันหนีพ้น ถ้ามึงเริ่มยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นเมื่อไร โอกาสเจอปัญหาหรือเรื่องทุกข์ มันมีอยู่แล้ว) สรุปใครอยากตาย ถ้าไม่รีบ ก็ลองวิธีกูดู อยู่เปื่อยๆกับชีวิตตัวเอง จนหยดสุดท้าย ค่อยๆคิดไปว่า ตัวเองอยากตายจริงไหม ถ้ามันยังอยากตายจริงก็ทำเลย แต่ถ้าอยากอยู่ต่อมึงหนีความทุกข์ไม่พ้นอยู่ละ ทำใจซะ ยิ่งถ้ามึงยังหาความสุขง่ายๆกับชีวิตตัวเองไม่เป็น ก็ต้องดิ้นรนหาความสุขภายนอกมาเติมเต็มอีก
>>873 อีวาเกเลียนพิสูจน์แล้วว่า ทำให้คนกลับมามีชีวิตได้จริงๆ
เป็นวลีดังในยุค 90 เลย หลายคนก็บอกว่า "ถ้าอยากตาย รอดูอีวาเกเลียนให้จบก่อน"
คนที่เขาได้เห็น อาสึกะ แลงเลย์ ก็เข้าใจอาสึกะมากขึ้น ทำให้มีความคิดว่า อืมม ชีวิตไม่พอใจของอาสึกะ
เราเข้าใจเขา แค่นั้นก็ทำให้เมิงมีชีวิตอยู่ต่อ แล้ว
หรือไม่เมิงก็อาจจะคิดว่าเมิงคือ ชินจิ
https://www.youtube.com/watch?v=oyFQVZ2h0V8
ใช่ทุกตัวในเรื่องมีปัญหาทางจิตหมด มันจะต้องมีคนที่เมิงต้องรู้สึกเห็นใจในตัวละคร เพราะself insertกับตัวละครั้น
สุดท้ายแม้เรื่องนี้จะรวมพวกจิตเวชไม่เต็มบาทสักคน ไม่ต้องรู้ตอนจบของเรื่องแต่นี่คือเมะที่ทำให้คน คิดสั้น
กลับมาใช้ชีวิตได้
พวกมึง ถึงมันจะเป็นมู้จิตเวช แต่พวกมึงจะรวมตัวกันโรคจิตไม่ได้นะเว้ย เหมือนเอาคนไม่ปกติมารวมตัวกันอ่ะ
มันไม่ทำให้อาการดีขึ้นนะ อย่าดึงดูดกันเองแบบนี้สิวะ
โดปามีน เป็นสารที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์พึงพอใจ ความปิติยินดี ความรักใคร่ชอบพอ จากการศึกษาทดลองในหนู พบว่าเมื่อทำให้หนูเกิดความพึงพอใจ ระดับของโดปามีนจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งในขณะที่โดปามีนถูกหลั่งออกมาจากสมอง จะทำให้เกิดความสุข เรียกว่า reward circuit หากถูกกระตุ้นด้วยพฤติกรรมซ้ำ ๆ ก็จะหลั่งโดปามีนออกมาตามปกติ แต่หากไม่ถูกกระตุ้นหรือทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่กิจกรรมเดิม สารโดปามีนก็จะหยุดทำงาน ทำให้รู้สึกหงุดหงิด โมโหหรือเซื่องซึมได้
ด้วยเหตุนี้บางครั้งจึงมีการจัด โดปามีนเป็นสารเคมีแห่งรัก (Chemicals of love) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเลือกหรือจับคู่ ซึ่งมีผลงานวิจัยอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยอีโมรี ได้ทำการทดลองโดยฉีดโดปามีนใส่หนูตัวเมียทึ่เอามาจากหนูตัวผู้ตัวหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่าหนูตัวเมียเลือกจับคู่กับหนูตัวผู้ที่เป็นเจ้าของโดปามีนนี้จากกลุ่มหนูทั้งหมดที่อยู่รวมกัน
นอกจากนี้แล้วระดับโดปามีนส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย หากร่างกายมีสารโดปามีนในสมองมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมองส่วนฟรอนทัล ซึ่งสมองส่วนนี้ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด การเรียนรู้ ความจำ ก็จะทำให้เกิด"อาการป่วยทางจิต" ซึ่งผู้ป่วยโรคจิตเภทจะมีระดับโดปามีนในสมองมากกว่าคนปกติ
>>878 ดังนั้นคนปกติ ต้องห้ามดีใจ หรือเสียใจจนเกินไป รู้สึกเฉยๆ กับทุกอย่าง แบบ อายาโนะโคจิเนี่ยละ ที่ไม่ใช่จิตเวช https://www.youtube.com/watch?v=oD3ovFjhZBw
ช่วงนี้กุย่อนยาน ขี้เกียจทำนั่นนี่
แค่จะยกช้อนขึ้นมากินยังขี้เกียจเลย เสียพลังงานในการลืมตา ไม่อยากทำอย่างอื่นเลย
อยากนอนกลิ้งๆไถมือถือทั้งวัน
จะขยับตัวก็รู้สึก โอ้สสส น่าเบื่อ
แต่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กละ มันคืออาการไรวะ
Here to heal เพิ่งรู้ว่าปิดบริการไปแล้ว มาเปิดใหม่ไวๆ นะ TT
ว่าวก่อนนะ
ไม่ชอบตัวเองเลย กูมีฝันอยากสมัครทำงานสายนึงหลังฝึกงานเสร็จ เลยเมาเม้าๆให้เพื่อนฟัง ทีนี้เพื่อนหลายๆคนพอได้ฟังก็อยากมาสอบอยากมามีฝันเดียวกับกู กูควรจะดีใจสิที่เพื่อนมีฝันเดียวกัน แต่อีกใจนึงก็รู้สึกเหมือนถูกเขาลอกเป้าหมายลอกฝันของเราไป ไม่ชอบเลย กูเป็นอะไรเนี่ย แย่ว่ะ มีเพื่อนร่วมทางก็ดีแล้วแท้ๆ
คนใกล้ตัวบ่นเหนื่อยๆๆๆทุกวัน ทุกครั้งที่เจอ ไม่มีอะไรก็บ่นเหนื่อยๆๆๆ คือเข้าใจว่างานหนัก แต่กุไม่อยากฟังอะ กุจะร้องไห้เำราะกุเบื่อมสกๆๆๆ กุไม่อยากได้ยิน กุแฮปปี้ของกุ ก้ต้องมาเจอคำว่าเหนื่อยจากคนอื่น กุไม่ไหวอะ กุก้เหนื่อยเหมือนกันต้องมาฟัง กุต้องทำยังไง ทำยังไงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
งอแงกันไม่หยุด แต่ในที่สุดไม่มีใครใส่ใจสนใจกู กูเป็นแค่ไอ้คนธรรมดาไม่มีปัญหาสุขภาพจิต
ไม่ได้อยากมีหรอกนะ แต่ไม่ได้แปลว่ากูน้อยใจไม่เป็น
เพื่อนแม่งเอาประเด็นยากมาพล่ามให้ฟัง กูจะตอบแม่งยังไงดี อย่างแม่งเป็นคนindecisiveแล้วไปเปิดซิงกับคนแปลกหน้า แล้วแม่งมาregret 2 เดือนหลัง
กูแทบไม่มีsympathyหรือสามารถเข้าใจไรได้เลย เพราะกูคิดแพลนตลอดในชีวิตว่าอะไรควรไม่ควรแล้วกูจะได้ผลลัพธ์ยังไง หาืออะไรแย่ๆมี่เกิดไปกูก็จะมองโลกบวก กูเคยคุยกับแม่งมาหลายๆครั้งแล้วกูไม่เก็จว่าจะต้องการอะไร จากการคุยอะไรวนๆไปไม่ได้หาทางออกของปัญหา ดังนั้นถ้ากูอยู่ในสถานการณ์นี่กูก็แค่มองข้ามไปหาอนาคตที่ดีกว่า ไอสัสแล้วมันก็เปิดซิงตัวเองมากับดิลโด้ก่อนแล้ว ดังนั้นทางbiologicallyมึงก็ไม่ซิงมาแต่แรกอยู่แล้ว คิดไรมากวะ ที่เหลือมันก็แค่ideological perception ละ
จริงๆไอห่าแม่งมันคิดพลิกไปได้ว่ามันโดนขมขืนอ่ะ เพราะมันก็บอกว่ามันไม่แน่วจไม่อยากทำ แต่ใครบ้าแม่งตามผู้ชายแปลกหน้าไปยันคอนโด แล้วตอนแรกๆแม่งก็คุยโม้ว่าแบบดีใตกูเปิดซิงแล้ว อีควัย เป็นไบโพล่า
แปลไทยไม่ได้ไง ภาษาไทยแม่งกาก
มึงลองมาเรียนภาษายุโรปนอกจากอังกฤษมึงก็ควไม่เข้าใจ เพราะกะจะแปลไทยตรงตัว ภาษาไทยโครตจะsimplifyกับตวามหมาย เพราะคนไทยไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง ดังนั้นสมองมึงก็เลยไม่เข้าใจสิ่วที่กูเขียนมาไปด้วย เห็นได้ทั่วไปในพวกเด็กมาเรียรยุโรปแต่โง่อ่านะ
>>891 กุว่าไม่ใช่นะ ภาษาไทยไม่ได้กาก แต่เมิงไม่เข้าใจ ภาษาไทยดีมากพอต่างหาก พวกเรียนเมืองนอกเป็นงี้เยอะคิดว่าตัวเองตัวเองเจ๋ง เพราะใช้ภาษาไทยไม่ได้ เมิงแค่ปกปิดข้อบกพร่องของเมิงเองต่างหาก ฝรั่งบางคน เขียนภาษาไทยได้ดีกว่าเมิงอีก
และสามารถใช้ดูว่า คนที่คำอังกฤษคำ จะคิดว่าตัวเองหยิ่งผยอง
ความคิดตัวเองถูกที่สุดก็ได้
เหมือนเมิงสั่งงาน สั่งchatgpt เมิงรู้ไหมว่าหลักการทำงาน เหมือนเด็ก ที่ต้องคอยเรียนรู้ เวลากุสั่งงานchatgpt กุก็จะอธิบายให้เหมือนเด็กอนุบาลฟัง จะได้รับคำตอบที่ถูกต้องมา
ไม่มีอะไรจะด่าสะใจเยอะแยะ ได้เท่าภาษาไทยแล้ว ภาษาอื่นด้อยกว่าหมด
>>893 มึงยังอธิบายไม่ได้เลยว่าภาษาไทยดียังไงกว่าภาษาอื่นนอกจากเรื่อวควายๆอย่าง ภาษาไทยด่าสะใจที่สุดแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่กูได้ยินจากพวกmonolingual บ่อยๆไม่ว่าจะไปประเทศไหนอ่ะนะ คิดว่าภาษาบ้านตัวเองด่าได้โหดที่สุดบ้างหรือด่ามันส์ ซึ่งมันsubjective มากกว่าจะเป็นแนวคิดทางlogical นอกจากจะไม่มีการยกproofsมาสาธยายแล้วยังโชว์โง่คิดว่าภาษากูดีที่สุดแบบไร้เหตุผลอีก ว๊าว
ภาษาไทยมันเป็นภาษาที่ใช้adjective adverb น้อยมาก ในคณะที่คุยกับคนไทยในการอธิบายหรือติชมอะไรบางอย่างศัพท์มันจะวนซํ้ากัน แต่ในขณะที่ภาษา Indo European มันใช้มีsynonymเยอะกว่ามาก แม้ถ้าแปลตรงตัวความหมายจะเหมือนกัน แต่มันใช้คนละบริบทกัน มีความแตกต่างกันอย่างนิดๆ ซึ่งเวลาอธิบายอะไรหรือจะขยายความมันจะง่ายกว่าภาษาไทย คําไทยจริงๆแม่งสั้นจะตายเอาใช้ชีวิตประจําวันให้รอด รากศัพท์ไทยมันไม่ได้มีอะไรลึกไงคําหลายๆอย่างเลยต้องไปใช้รากกศัพท์จากบาลีสันสกฤตมาตั้งคําๆใหม่ เพราะสามารถสมาถรคําได้ มันมีระบบprefix suffix เหมือนภาษาอังกฤษเอาง่ายๆ เวลาคิดประกอบคําใหม่มึงดึงรากศัพท์มารวมๆกัน แต่ทีนี้ก็ทีปัญหาอีกเวลาคิดคําใหม่ในวงการวิชาการ บางครั้งคํามันไปซํ้ากับคําที่มีอยู่แล้วในพระตรัยปิฏก
กูไม่เก็จอะไรมากกับการใช้ไทยคำอังกฤษคำ มันเป็นเรื่อวของชาตินิยมไรเหรอวะ งง คือบางครั้งคนที่ใช้หลายภาษาสมองแม่งมันแปลไม่ทันจริงๆหรือไม่ก็ไมามีคําแปลไทยที่สามารถconveyความรู้สึกที่จะสื่อได้เหมือนที่ใจคิด ก็พ่นออกไปเลย กูคุยกตกกะปิทั่วไปไม่ได้ไปพูดหน้าเวทีการประชุมเหี้ยไร แล้วไม่ได้จะเป็นการเบ่งไข่เลยว่าใช้ผสมกันแล้วกูเท่ หรือว่าอิจฉาเหรอ
มันก็ไม่ได้จะเบียวขนาดที่เหมือนพวกเด็กเรียนอินเตอร์แทนคําว่าไอกับยู หรือแบบเอ้โย่ว วัดซัพแม๋น วัดซัพนิกก้า
กูคุยกับอาจารย์ตามมหาลัยแม่งก็พูดผสมศัพท์อังกฤษมางี้ปกติ เพราะใช้ตําราต่างประเทศ แล้วก็ตามที่ว่ามา มันแปลไทยตรงตัวไม่ได้ คือจะให้แปลได้ก็ต่อเมื่อมันมีคนเขียนบทความวิขาการแล้วตั้งๆคําๆนั้นใหม่
การพูดที่ดี คือตรงประเด็นเข้าใจได้ ดูจากที่เมิงพิมมา น่าจะยังความรู้ไม่ถึงนะ
แต่เมิงไม่ยอมรับว่าตัวเอง โง่ไง ภาษาไทยความรู้เมิงมีแค่นี้ เลยคิดว่าไทยใช้ไม่ได้
เมิงแค่ไม่อยากใช้ ก็เอาง่ายๆ พิมทับศัพท์เข้าว่า
เขาเลยเรียกว่า low effort หรือทำแบบลวกๆขอไปที
ถ้าเมิงยอมรับว่าตัวเอง โง่ ได้อย่างแรกแล้วเมิงจะฉลาด ดู chatgpt ก็ได้ ยังต้องเรียนรู้ตลอดเวลาเลย
แต่คนส่วนใหญ่จะคิดว่า กุเจ๋งกุแน่ไง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ดึงดัน เรื่องชิบหาย มันก็เกิดจากพวกนี้นี่ละ
ที่คิดว่าตัวเองฉลาด แต่จริงๆแล้วโง่
>>894 ทำมาเป็นบอกว่าภาษาไทยมันไม่เจาะจง ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่มึงต้องการได้เลยต้องไทยคำอังกฤษคำ สิ่งที่มึงกำลังทำคือหลงประเด็นสัสๆว่ะ กูก็ไม่ได้บอกว่าภาษาไทยมันเจ๋งสาส lnw007 กว่าทุกภาษา แต่สิ่งที่บอกคือ ก่อนจะยกตัวอย่างไทยคำอังกฤษ คือมึงต้องเข้าใจในบริบทที่ตัวเองต้องการจะสื่อให้ได้จริงๆก่อน แล้วไปเปรียบเทียบหาคำภาษาไทยที่จะใช้อธิบายให้ครอบคลุมและตรงความหมายของเรื่องที่มึงจะสื่อ ซึ่งถ้ามันไม่มีแล้วจริงๆก็ค่อยยกตัวอย่างคำภาษาอื่นๆมาใช้ ซึ่งตรงจุดนี้ที่มึงพลาด มึงยังอธิบายในภาษาไทยไม่ได้เลย แต่ยกภาษาอื่นมาทับไปแล้ว และที่มึงยกมามันก็เป็นความหมายกลุ่มกว้างๆที่ไม่ได้ต่างอะไรจากใช้ภาษาไทยเพียวๆ มึงก็แค่เอาศัพท์มาใช้เท่ๆ เหมือนอัพเกรดให้ตัวเองดูมีความรู้ แต่จริงๆก็กลวงโบ๋เพราะไม่สามารถอธิบายด้วยภาษาไทยได้ไง
พวกschizoเถียงกันฮาดีหว่ะ
>>897 เสร่อแป๊ะมาก เคยได้พูดจากับมนุษย์บ้างไหม วิธีของมึงไม่ใช่การสื่อสาร การสื่อสารคือการตอบโต้กันด้วยคำศัพท์ที่ถูกใช้ในสังคม ถ้าเฉพาะทางจัดเราพูดคำไรออกไปแล้วอีกฝั่งงงเราถึงจะไปหาศัพท์ใหม่มาใช้อธิบาย ไม่ใช่มาลิมิตตัวเองว่าห้ามทับศัพท์ตั้งแต่แรก โดยเฉพาะเวลาตอบโต้มันเน้นความเร็ว และความเข้าใจ เช่น มึงบอกว่าจะเช็คตารางเวลาตัวเอง การที่คำในหัวมึงคือ schedule มึงก็พูดขึ้นมาได้เลยว่า “เราขอเช็ค schedule ก่อนนะ” อีกฝ่ายแม่งอาจจะเข้าใจก็ได้ ไม่ใช่มายืนงงเอ๋อแดกว่าเอ๊ะ คำว่า schedule แปลเป็นไรว่ายังไง อีกฝ่ายคงจะคิดว่ามึงเป็นไรมากเปล่าให้กูมารอมึงคิดคำศัพท์ภาษาไทยนี่นะ ทั้งๆที่มีคำอื่นที่ใช่ได้
การสื่อสาร success ได้ถ้าสื่อสารเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็พยายามอธิบาย ไม่ใช่มาลิมิตว่าต้องใช้ภาษานั้นนี้เท่านั้น จนมันติดขัด บ้าหรอ
>>899 คนฉลาดกว่าเอไอก็มีแค่คนส้รางเอไอนั่นแหละ มึงเบียวไรป่ะเนี่ย
ถ้ามึงเมินโทรล tof ไม่ได้ ไม่ควรเล่นโม่งนา
>>900 นี่งัย มึงก็ตกหลุม งง ในตรรกะตัวเองอีกแล้ว ทำมาบอกกูเสร่อ แล้วไอคนที่มันเลือกใช้คำว่า "ขอเช็ค สะเก๊ดดู้ว ก่อนนะ" ทั้งๆที่ในหัวมันกำลังคิดจะบอกว่า "ขอเช็คตารางเวลาตัวเองก่อนนะ" เพราะมันเชื่อฝังหัวไปแล้วว่าชั้นเข้าใจคำๆนี้ "สะเก๊ดดู้ว" ไม่เสร่อกว่าหรอวะ อีกฝ่ายคงไม่คิดว่ากูมีปัญหาอะไรหรอก เพราะกูไม่เสร่อจัดเหมือนมึงไง มีแต่มึงแหละที่เค้าจะสงสัยว่าสมองมีปัญหาอะไรป่าว แค่ใช้คำว่า "ตารางเวลา" ก็เข้าใจ จะเสร่อไปหาคำอื่นๆ "สะเก๊ดดู้ว" มาใช้ทำไมและยังมั่นหน้าว่าคนอื่นต้องเข้าใจความหมายเหมือนมึง เก่งมาก เยี่ยมมาก ขอบใจ
เริ่มชั่งใจว่าจะฆ่ าตัวตายหรือจะฆ่าคนอื่น
ไม่รู้ กุเป็นโรคอะไร รู้สึกโลกนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจสักอย่าง ไม่เข้าใจคนมีenergyเยอะๆ ทำนู้นนั้นนี้ได้ทั้งวัน
แต่กุแค่ขยับตัวยัง ขก เหมือนความคิดในหัวตอนเด็กมันบอกว่าเสียพลังงาน แม้แต่ตอนกินข้าวยังขี้เกียจยกช้อน
เป็นมาตลอดไม่เคยหาย มีโอกาสหลับได้ กุหาโอกาสหลับตาตลอด รู้สึกว่าแค่ลืมตามองโลกนี้ก็เหนื่อยแล้ว กุไม่เข้าใจพวกที่แม้งalert ทุกวันทั้งวันสักนิด พวกมันเอาแรงจากไหนกัน
>>906 โรคเบียวไง ประเภท Edgy (n.) พวกนี้คือพวกวันนาบี อยากทำตัวขรึมๆ เบื่อโลกๆ ไม่สามารถหาความสุขจากอะไรได้ทั้งนั้นเพราะเบื่อแม่งหมด และไม่สามารถมีแรงบันดาลใจทำอะไรได้แล้ว เพราะเบื่อแม่งหมด วิธีแก้คือ เลิกขี้เกียจ เลิกเบื่อเวลาจะลุกขึ้นมาทำอะไร ไม่ต้องคิดว่าทำแล้วได้อะไร เอาแค่มึงลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างให้ได้ก่อน
เผยประวัติมือปืนอายุ 20 ที่ลอบยิงทรัมป์
เป็นเด็กเรียนดี มักถูกบูลลี่ เคยสมัครชมรมยิงปืนยิงไม่แม่น
พวกเมิงเคยชอบเฉพาะส่วนกันปะวะ แบบชอบจมูกคนนี้ ชอบปากคนนี้ ชอบแร้คนนี้ แบบนี้มันดูโรคจิตไหมวะ
บางทีกุชีวิตก็อยู่ด้วยความ ยับยั้งชั่งใจตัวเอง ไม่งั้นเลือดในกุจะเดือดพล่านไปหมด และคุมสติไม่ได้
ในหัวมีแต่คำเดียวว่าอร่อยๆๆๆอยากเลีย อยากกิน ถ้าไม่ได้เลียขอตายดีกว่า
ไม่งั้นกุคงกลับไปเป็นคนปกติไม่ได้
กุว่าทุกคนมีปีศาจอยู่ในตัวทุกคน และก็มีหลายตนด้วย เขาเรียกบาปทั้ง 7 มั้ง
ที่กุสามารถเรียกพลังออกมาได้ คือ โทสะ กับ ตะกละ อีก 5 อย่าง กุยังไม่รู้วิธีใช้งานว่าเรียกยังไง
กุว่ามันพลังปีศาจมันก็ดีนะ ไม่งั้นกุคงไม่รู้วิธีขับเคลื่อนตัวเอง และพอกุได้พลังมาก็มั่นใจมากขึ้น
>>908 สังเกตุผู้ก่อการร้ายมักจะเป็นพวกเด็กเนิร์ดนะ อย่างกราดยิง พารากอน นั่นก็เด็กถูกบุลี่
เอาจริงกุก็เคยโดน คนทั้งห้องเกลียด แต่กุก็ไม่ได้อยากจะคิดอยากฆ่าใคร
เคยเป็นกันไหม พอไม่ได้ทำงานแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี ทำงานของวันนี้จนเหนื่อยแล้วรู้สึกอยากพัก พอพักก็แค่นั่งจ้องมองจอคอมเฉยๆเพราะไม่รู้จะทำอะไร เกมก็ไม่อยากเล่น หนังก็ไม่อยากดู คลิปยูทูปดูไปก็ล่อกแล่กไปอยากทำงาน เพราะรู้สึกว่าเสียเวลา ฟังเพลงเฉยๆก็โคตรน่าเบื่อ
แม่กับอีแก่ข้างบ้านกูเล่นอะไรกันอยู่วะ พอดีวันนี้แม่เอาโทรศัพท์มาให้กูซ่อมเพราะมันชอบค้างแล้วเด้งออกแอพบ่อยๆ กูเลยจะลองล้างเครื่องล้าวข้อมูล ตอนกำลังแบ๊ค-อัพข้อมูลไว้ กูก็เปิดดูเล่นๆ แล้วไปเห็นข้อความที่พวกแม่งคุยกัน แม่งเหมือนอีแก่ข้างบ้านจะคอยรายงานการเคลื่อนไหวกูตลอดทุกวันๆเลยว่ะ เช่น
07:30 ออกจากบ้าน เสื้อฟ้า กางเกงสั้น รองเท้าหุ้มส้น
19:00 อยู่หน้าบ้าน ชุดเดิม ถือถุงมาสองใบ
อีกวันก็
08:43 ออกจากบ้าน ชุดทำงาน ดูรีบๆ(กูสาย)
12:20 กลับมาบ้าน ชุดทำงาน
15:26 ออกจากบ้าน ชุดคลุมดำ กางเกงขายาว(กูลาบ่ายไปเที่ยว)
แล้วพิมพ์ส่งแบบนี้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้กูรู้สึกเหมือนโดนจับตามองตลอดเลยว่ะ กูควรไปคุยดีมั้ย หรือทำใจละเงียบๆไป
คิดถึงพ่อแม่จังอยากอยู่ด้วยกันทุกๆวันเหมือนเมื่อก่อนมาทำงานกรุงเทพเหงาจัง
>>915 เดาว่าพ่อแม่มึงยังไม่ถึงวัยทองสินะ หรือไม่ก็ ได้พ่อแม่ดีเลิศประเสริฐสุดๆที่ไม่ทำตัว Toxic งอแงกับทุกอย่างที่ตัวเองไม่ได้ดั่งใจ วันหยุดอยากนอนตื่นสายก็มาปลุกกู หากุญแจมาปลดล็อคประตูบ้านกูเอง ทำอะไรก็เหมือนขัดใจทำผิดไปหมด ซักผ้าบ่อยก็ว่าเปลืองน้ำ นานๆซักทีก็บอกว่าหมักหมม สั่งของบ่อยก็ว่าสิ้นเปลือง นานๆสั่งมาทีก็ว่าทนใช้แต่ของเก่าๆ ชวนไปกินข้าวข้างนอกก็ไม่เคยถูกใจ กูทำกับข้าวไปให้กินก็มีแต่คำติ เค็มไป หมูเยอะไป ผักสุกไป ที่พีคๆๆๆเลยคือ ต้มจืดทำไมต้องใส่คนอร์มันเปลือง พอพาแฟนมาบ้านก็แวะมาหาเรื่องบ่นใส่กู(ตอนกูอยู่คนเดียวไม่บ่น) อยู่ต่อหน้าเพื่อนบ้านก็ไม่เคยชมไรกูหรอก หาเรื่องติจนได้เช่น รองเท้ากูสกปรกไม่ซักบ้าง(ก็พึ่งลุยฝนมาจะให้สะอาดยังไงวะ) พอลองคุยเปิดใจให้ลดความ Toxic ลงบ้างก็งอนหาว่าโตปีกกล้าขาแข็งแล้วไม่ฟังใคร ทำนิสัยเป็นเด็กน้อยสัสๆ ตอนช่วงไหนกูลำบากก็มาตอกย้ำว่าไม่ประหยัด ไม่ประมานตน พอช่วงกูเฟื่องฟูก็ทำเป็นชวนกินข้าวแล้วมาขอให้ซื้อนู่นนี่ ชมลูกบ้านคนอื่นยับๆ คนนู้นเป็นครูได้สวัสดิการดี(แต่เงินเดือนต่ำชิบ) คนนั้นไปทำงานต่างประเทศส่งเงินกลับมาให้เป็นฟ่อนๆ(ผีน้อย) พอกูสนใจอยากออกรถก็มาบ่นว่ามีปัญญาดูแลหรอ ผ่อนไหวหรอ พอกูนิ่งๆก็มาว่าไม่อยากมีอะไรเป็นของตัวเองหรอ โคตร Toxic สัสๆ ดีละที่ยังไม่เจอ
nigga turned the table and made it all about him
>>918 กูเจอแบบมึงเลยหว่ะ แต่โหดร้ายกว่าตรงที่เจอในวัยมัธยม คือแบบsufferมาก ชีวิตแบบตอนนั้นแค่ขยับจะพัฒนาชีวิตตัวเองในฐานะเด็กคนนึงถือว่าผิดหมดเลย แต่หลังจากนั้นพอออกมาสร้างชีวิตเองได้กูจะจำฝังใจเลยว่ากูทำงานกูมีที่ทางกูจะไปสร้างเองทุกอย่าง พึ่งพาพวกพ่อแม่ตัวเองนี้ให้น้อยสุด ทำประกันไว้เผื่อแม่งป่วยอิดออดจะตายแทน แต่ตายห่ากันไปจริงๆละกูไม่ได้มรดก กูก็ไม่แคร์นะ เพราะยังไงก็หวังๆจะไปหาบ้าน หารถใช้เองอยู่แล้ว
กุเห็นพ่อแม่ประเคนให้ทุกอย่าง ก็ด่าพ่อแม่ ขนาดพ่อแม่มันยังเลี้ยงไม่เชื่อง แล้วเราจะเลี้ยงมันให้เชื่องได้หรอ
ฝากไว้ให้คิด พวกป่วยจิต เดียวมันก็อ้างว่าต้องกินยาอีก
>>918 เจอมาคล้ายๆกู แต่ตอนเด็กกูจะเจอพ่อเหี้ยๆด้วย คือกูทำอะไรไม่ถูกใจนิดเดียวกลับมาบ้านคือจะไปเอาไม้มาฟาดกูทันที พอโตมาหน่อยถึงเลิกไม่รู้คิดได้รึยังไง ทำให้ตอนเด็กกูคอนข้างแพนิคถ้ากูทำอะไรขัดหูขัดตาเค้า
ส่วนแม่กูเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ+วิตกจริต+ขี้บ่นบ้าๆบอๆแบบหาเรื่องมาบ่นเหมือนแม่มึง แต่ upgrade คือจะบ่นเรื่องเดิมๆย้ำคิดย้ำทำ คือศูนย์รวมเรื่องประสาทแดกในคนเดียว
นั่นแหละชีวิตยุควัยรุ่นกู เหี้ยจนกูต้องบอกตัวเองว่าต้องเรียนให้ได้ดีแล้วหนีไปอยุ่มหาลัยไกลๆบ้าน หางานทำไกลบ้านแม่ง
ทำไมช่วยอะไรใครหรือให้อะไรไปเท่าไหร่รู้สึกว่าเเต่ละคนเเม่งไม่เคยเห็นค่าเลยวะ ปล่อยกูนั่งคนเดียว ทักทายคำเดียวเเล้วก็ทำเหมือนไม่รู้จักกัน ดองเเชทกู โทรไปรู้ว่าเห็นนะเเต่ก็ไม่รับ รู้ว่าอย่าทำดีไปเพื่อหวังผล เเต่ถ้ากูอยากได้เเค่ความจริงใจในความเป็นเพื่อนเเม่งยากมากเลยอ่อวะ บางทีหันหน้าไปก็ไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใคร เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาทนฟัง ช่วงนี้รู้สึกเหมือนสมองเเม่งก็ช้าลง ลืมง่ายขึ้น เเถมเวลาไปไหนกูต้องเป็นฝ่ายชวนตลอด ทำไมวะ ปู่กูบอกให้มีน้ำใจไว้เดี๋ยวก็ดีเอง ไหนวะดีที่ว่า ลึกๆเเม่งแอบน้อยใจอยู่นะ รู้สึกควบคุมอะไรในชีวิตไม่ได้เลยขอมาระบายในนี้เเหละ
>>921 ส่วนใหญ่พวกบ่นพ่อแม่โดนพ่อแม่สปอย มีฐานะหมดแหละ แต่คือพ่อแม่พวกนี้มันก็ท็อกซิกสัสๆด้วยไง
กูว่านะพวกมึงควรเลิกบ่นนู่นนี่พ่อแม่หากยังไม่สามารถยืนหยัดด้วยตนเองได้ เพราะจากมุมมองคนนอกพวกมึงแม่งโครตนักหลวม
ส่วนไอพวกที่มันไม่โอเคกับพ่อแม่แล้วมันดิ้นรนหนีมาเองพวกนี่กลับไปปากเปราะซะงั้น เหอะๆ
ทำงานพลาด ลืมนู่นลืมนี่ เหม่อ ไม่รอบคอบ ปากไว เวลาหัวหน้าถามงาน ยังไม่ทันเช็คเลย กุก้ปากไวตอบไปละ ซึ่งมันผิดไง คือมันหลายรอบมาก เขาเหมือนจะเริ่มหมดความอดทนกับกุแล้วอะ กุสงสัยว่าตัวเองน่าจะเป็นโรค adhd และกำลังจะไปหาหมอ แล้วถ้าสมมติมันเป็นจริงๆ เราควรบอกหัวหน้าไหม หรือเก็บเงียบๆ แล้วกินยาปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้น ก่อนถึงเวลาประเมิน เชี่ยเอ้ยยยกลัวไม่ผ่านโปรโว้ยยย
ไม่ได้อึมา4วัน กินโพรไบโอติกตอนนี้ดีขึ้นละ
อยากตายอ่ะ ทำไมต้องพยายามมีชีวิตอยู่ มีชีวิตที่ดีให้ได้ ทุกวันนี้ ไม่มีหนี้ มีเงินเดือน 7 หมื่น การงานดี มีบ้าน มีรถไม่ได้ผ่อน มีพ่อแม่ที่พร้อมซัพพอร์ตไม่เคยขอเงิน มีครอบครัวที่รักดูแลเราทุกอย่าง แต่เราก็ยังอยากตาย สนุก เอนจอยกับชีวิต แต่รู้สึกเบื่อ อยากตาย เบื่อแล้วขีวิต เหนือยแล้ว อยากตายให้หลุดพ้นจากตรงนี้ อยากไปที่อื่นแล้ว
ไปผ่อนรถ หรือออกคอนโดให้มีหนี้ เอาแบบเหลือเงินใช้อยู่นิดเดียว แล้วจะรู้สึกอยากมีชีวิตไปทำงาน
อยากตายแบบไม่เจ็บไง ส่งเมลล์ไปถามเรื่องการการุณยฆาตที่สวิสแล้ว เขาไม่ตอบ คนเราควรเลือกได้ป่าวว่ะ ว่า ยากจบชีวิตตอนไหน ทำไมต้องรอแก่ รอป่วยตาย อยากตอนตอนสภาพร่างกายยังดีแล้วบริจาคอวัยวะให้คนอื่นได้อ่ะ
กฎหมายแม่งควรรองรับให้คนเลือกตายได้ตามใจชอบ เลือกเกิดไม่ได้ก็ควรเลือกตายได้
เอาแบบก่อนตายตรวจเช็ค ไม่ติดบูโร ไม่หนีหนี้ก็ได้
ไหนบอกทุกคนมีสิทธิในตัวเอง กูอยากตายดีๆ อวัยวะใช้ต่อให้คนอื่นได้ ยังไม่เห็นมีสิทธิเลยอ่ะ
อยากให้ซอมบี้บุกโลกว้อยยยย
>>945 สังคมมนุษย์ยังคงติดกับกับคำว่า "ตาย = เรื่องที่แย่" อยู่
สังคมดัดจริตไม่ได้มองว่าการตายมันคือธรรมชาติของสรรพสิ่งที่วนเวียนไปตามวัฏจักร ขนาดมีคนบ่นว่าอยากตาย เพราะหมดแพสชั่น ยังมีไอ้โง่มาบอกให้สร้างหนี้จะได้มีแรงผลักดัน แค่นี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่ายังมีคนอีกไม่น้อยที่มองความตายในทางลบ เพราะงั้นเรื่องที่มึงพูดมา คงยากจะเกิดขึ้นในเร็ววัน
>>941 เมิงก็ยกตัวอย่างพวกมีหนี้แต่ไม่มีกำลังที่จะใช้หนี้ แต่ที่มันแนะนำคืออีคนอยากตายแต่มีพร้อมทุกอย่าง ถ้ามันมีหนี้มันก็จ่ายหนี้ไหว ต่อให้มันออกจากงาน
มีคนโง่แบบเมิงนี่ มันไม่มีทางเข้าใจว่ามันมีหนี้ดีด้วย กุต้องอธิบายไหมว่ากู้เงินมาผ่อนบ้าน อีก30ปีผ่านไปบ้านจะราคาเท่าเดิมปะ หรือโม่งยังอยู่ในโลกอุดมคติ
บางทีกูก็คิดว่ากุคงเป็น psychopath ไม่ก็ Sociopath แหละ เหมือนจะไรความรู้สึกและโง่ทางความรู้สึกมาก
>>950 จ่ายไหวแน่นอน คำถามคือจะจ่ายหรือเปล่า ?
พวกที่หมดแพสชั่นกับชีวิต มันคิดไม่เหมือนไพร่สามัญชนแบบมึงหรอกนะ
ต่อให้มีเงินจ่ายไหว แต่ถ้าขี้เกียจรำคาญมากๆ ก็ปล่อยแม่ง ไม่จ่าย เครดิตเสียแล้วไง ช่างแม่ง ยึดก็ยึดไปดิ ต้อให้ฟ้องล้มละลาย ก็ล้มบนฟูกอ่ะน้อง
บ้านปัจจุบันก็มีอยู่แล้ว รถปัจจุบันก็มีอยู่แล้ว เงินก็มี ไม่เดือดร้อน
อธิบายไปไพร่แบบมึงคงไม่เข้าใจหรอก เพราะมึงยังคงติดลูปชีวิตหนี้อยู่ ถ้าไม่จ่ายชีวิตมึงล่มจม โดนยึดบ้าน ยึดรถไม่มีที่ซุกหัวนอน
แต่ไอ้คนที่หมดแพสชั่นที่มีพร้อมทุกอย่างมันไม่ใช่แบบมึง ซื้อเพิ่ม ถ้าขี้เกียจก็ปล่อยทิ้ง ไม่เดือดร้อน
กูขอให้ไอ้เอี้ยที่คิดค้นรีลมันตายห่าอย่างทุกข์ทรมานแลวต้องดูรีลควายๆไม่หยุดตลอดเวลาไปชั่วชีวิต ไอ้เปรต
ไม่ต้องมาบ่น ไม่ดูแลตัวเอง ทำตัวหัวฟรวยเองแล้วจะบ่นทพไม พยายามข่วยจนไม่ร฿่จะช่วยยังไงก้ไม่เอาไม่สน
ก้ตายๆไป รำคานชิบหาย
เอาเวลาที่มาปรึกษาโม่งไปปรึกษาหมอนะ มีตังมีทุกอย่างครบ หาหมอหรือหาที่ปรึกษาด้านนี้น่าจะไม่มีปัญหา ยกเว้นไม่มีใครแล้ว มีโม่งเป็นที่พึ่งสุดท้าย
กุกำลังยอมเหนื่อย ยอมเสียความเป็นตัวเองเพื่อทำงาต ยอมลืมการคอนเนคกับทุก ๆ คน แค่เพื่อเซฟแรงไว้ทำงาน ยอมทุกอย่างเพื่อเงินเดือนอันน้อยนิด สัสเอ้ย
>>964 อส คล้ายๆไอดอลเลยวะ
ว่าแต่การคอนเนค กับ เพื่อน มันสำคัญด้วยหรอวะ แล้วเสียความเป็นตัวเอง เมิงก็หยุดที่จะทำเมื่อไรก็ได้ มีใครบังคับเมิงหรอ? ไม่พอใจก็หางานใหม่แค่นั้น ดูท่าเมิงจะมีปัญญาในการเข้าสังคมนะ ถึงต้องฝืนตัวเองตลอด ถ้าเมิงทำเป็นปกติทุกลมหายใจ ความเป็นตัวเองตัวตนเดิม เมิงจะถูกลบได้ยังไง
ให้เดา เมิงคงทำงานบริการ เช่น แอร์ เด็กเสิร์ฟ ไลฟ์แม่ค้าขายของสินะ
เออ แล้วก็กุไม่ได้ปรัชญาอะไรหรอก
ยดตัวอย่างนะ เวลา คนเราจะตัดสินใจอะไร
เราก็มักหาเหตุผล มาเข้าข้างตัวเอง เช่น อยากไปงานไอดอล อยากไปเสพความโมเอะ นั่นคือเหตุผล
ในทางกลับกัน เหตุผล ก็ทำให้เกิดอารมณ์ เช่น ของหาย หาของไม่เจอ ก็จะเกิดความหงุดหงิด
ดังนั้น อารมณ์ ทำให้เกิดเหตุผล
และเหตุผลทำให้เกิดอารมณ์
ไอ้เอ๋อแยกร่างคุยกันเองเหรอวะ
กลับคอกได้แล้วไอ้เอ๋อ
เอาเวลาที่เป็นมีปัญหาสุขภาพจิต พอให้เก็บเงินได้หลาย ๆ แสน
แล้วเอาไปเทรด Forex ได้แล้ว
ผมเทรดไม่กี่วันได้มาแล้ว 450,000
มีใครเป็นไหม เวลาระบายเรื่องอะไรสักอย่างให้คนอื่นฟัง ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจะมีความรู้สึกว่าไม่น่าพูดออกไปเลย กลายเป็นว่ายิ่งเครียดกว่าเดิม เข้าข่ายของอาการอะไรไหมอะ
อยากถามความเห็นของแต่ละคน
มันจำเป็นมั้ยถ้าอยากเข้าหาใครหรืออยากสนิทกับใคร
ต้องใช้เงินเพื่อเข้าถึงคนนั้นได้
เราไม่ได้พาดพิงใครนะ รู้สึกตัวเองสถานะปานกลางแต่แบกรับค่าใช้จ่ายที่รายจ่ายมากกว่ารายได้ไม่ไหวครับ
“พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาตให้เราผู้เป็นประชากรที่ได้รับการคัดสรรแล้วจากพระองค์ ได้สร้างพรสวรรค์ อันเกิดจากการต้องอยู่กันอย่างกระจัดกระจายซึ่งดูคล้ายเป็นความอ่อนแอของเรา แต่ที่จริงกลับเป็นพละกำลังของเราซึ่งกำลังนำเราไปสู่ความมีอำนาจสูงสุดเหนือโลกทั้งโลก...”
อำนาจเช่นนี้ถูกอธิบายเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า...
“อำนาจของเราจะมีอยู่ท่ามกลางสภาพอันง่อนแง่นของอำนาจทุกรูปแบบ และเป็นอำนาจที่เหนียวแน่นมากกว่าอำนาจอื่นใด เพราะยังคงเป็นอำนาจที่ไม่มีใครมองเห็น จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาที่มันมีพลังสูงสุด ก็จะไม่มีอำนาจหรือเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ สามารถทำลายมันลงได้อีกเลย” และ “นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมเราถึงต้องทำลายความศรัทธาทั้งมวลลงไปให้หมด ต้องยึดเอาหลักความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าออกไปเสียจากจิตใจของพวกกอยยิม แล้วเอาการคำนวณทางคณิตศาสตร์ และความต้องการทางวัตถุใส่เข้าไปแทนที่ เพื่อไม่ให้พวกมันมีเวลาคิดและสังเกตสังกา
เราจะต้องเบี่ยงเบนความสนใจพวกมันไปยังการค้าและอุตสาหกรรม เพื่อให้ชาติทุกชาติ ถูกดูดกลืนเข้าไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์และการแข่งขันเพื่อผลกำไร และพวกมันจะมองไม่เห็นศัตรูที่แท้จริงของมันได้ และเพื่อจะขจัดอิสรภาพออกไปจากชุมชนของพวกมันให้หมด เราจะต้องเอาอุตสาหกรรมมาวางไว้บนพื้นฐานแห่งการเสี่ยงโชค เพื่อให้ผลของมันลื่นหลุดไปจากมือผ่านเข้าไปสู่ระบบแห่งการเสี่ยงโชค นั่นก็คือ ผ่านเข้ามาสู่มือของเรา อุตสาหกรรมจะสูบเอาแรงงานและเงินทุนออกไปจากที่ดิน และถ่ายโอนเงินทั้งโลกเข้ามาสู่มือเราด้วยระบบการเสี่ยงโชคหากำไร และมันจะทำให้พวกกอยยิมทั้งหลายล้วนแล้วแต่ต้องกลายเป็นคนชั้นต่ำในแต่ละชุมชน...”
“การต่อสู้แข่งขันเพื่อความวิเศษกว่ากันในทางเศรษฐกิจเช่นนี้นี่แหละ ย่อมจะสร้างชุมชนที่แล้งน้ำใจ เย็นชา และปราศจากหัวใจขึ้นมา ชุมชนเหล่านั้นจะหล่อเลี้ยงความเกลียดชังต่อชนชั้นที่สูงกว่า และกระทั่งต่อศาสนาอื่นใด ผู้นำทางอย่างเดียวของพวกเขาก็คือ ผลกำไร นั่นก็คือ ทองคำอันสามารถตอบสนองความยินดีปรีดาทางวัตถุให้กับเขาได้ กงล้อทุกอัน และเครื่องจักรของกลไกแห่งรัฐต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่หมุนไปได้ด้วยเครื่องยนต์ซึ่งอยู่ในมือของเรา ซึ่งก็คือเจ้าแม่แห่งทองคำนั่นเอง พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานอัจฉริยภาพให้เรา ถ้ามีคนเป็นอัจฉริยะอยู่ในฝ่ายตรงกันข้ามแม้นว่ามันคิดจะสู้กับเรา แต่คนมาใหม่น่ะหรือจะสู้กับคนที่ตั้งรกรากมาแล้วเก่าแก่
ศาสตร์แห่งเศรษฐกิจการเมืองซึ่งนักปราชญ์อาวุโสของเราได้ประดิษฐ์มานานแล้ว มือหนึ่งซึ่งมองไม่เห็นในทุก ๆ ส่วนของโลกนี่แหละ ที่จะให้พลังทางการเมืองที่เป็นอิสระแก่เงินทุน การค้า อุตสาหกรรม อำนาจในการที่จะใช้กิเลสตัณหาของพวกเขาระเบิดออกมาเป็นเปลวไฟ ครั้นแล้ว ก็จะถึงเวลาที่พวกชนชั้นต่ำเหล่านี้จะเดินตามการนำทางของเราไปต่อสู้กับอำนาจที่เป็นคู่แข่งขันของเรามิใช่เพื่อการบรรลุถึงสิ่งที่ดีงาม หรือแม้กระทั่งในท้ายที่สุดก็มิใช่เพื่อทรัพย์สินเงินทองด้วยซ้ำ แต่เพราะความเกลียดชังที่มีต่อบรรดาชนชั้นสูงต่างหาก
เมื่อใดก็ตามที่ถึงเวลา ซึ่งเราได้สร้างวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อนั้นเราจะโยนฝูงกรรมกรลงไปในท้องถนน ฝูงชนเหล่านี้จะวิ่งไปวิ่งมาอย่างยินดีปรีดา เพื่อที่จะหลั่งเลือดบรรดาผู้ที่เขาอิจฉาริษยามาตั้งแต่ยังนอนเปล และพวกที่เขาจะปล้นยึดทรัพย์กลับมาเป็นของเขาได้ ส่วนสมบัติของเราพวกเขาจะไม่แตะต้อง และไม่มีวันแตะต้องได้เลย เพราะเราย่อมรู้เวลาที่พวกเขาจะเข้าโจมตีเนื่องจากเป็นเวลาที่เราจะกำหนดเอาไว้ให้ และเราย่อมสามารถหามาตรการป้องกันเอาไว้ได้ก่อนล่วงหน้า”
“ทุกประเทศจะต้องจำไว้ในใจว่า ใครก็ตามที่พยายามทำข้อตกลงใด ๆ เพื่อต่อต้านอำนาจของเรานั้น จะไม่ได้ก่อให้เกิดผลกำไรแก่พวกมันเลย เรานั้นแข็งแกร่งเกินไปกว่าที่ใครจะต่อต้านได้ อำนาจของเราจะไม่มีวันหายไป ชาติไหน ๆ ก็จะไม่มีวันทำความตกลงอะไรกันได้โดยที่เราไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างลับ ๆ หรอก Per Me reges regnant กษัตริย์ของเราจะครองราชย์ได้ด้วยข้า”
>>975 ถ้าเรามองในเชิงการเชื่อมโยงของพลังงานระหว่างบุคคล การใช้เงินอาจเป็นเพียงตัวกลางที่เรานำมาใช้เพื่อขยายสนามพลังให้สามารถเข้าถึงจิตใจของอีกฝ่าย แต่ในทางทฤษฎีของพลังงานเชิงบวก-ลบ การเข้าหาของคนหนึ่งโดยผ่านสื่อวัตถุไม่ใช่การสะท้อนที่แท้จริงของพลังงานระหว่างบุคคล เงินอาจแค่เป็นคลื่นที่ทำให้สนามพลังงานสั่นไหวในชั้นผิวของมิติที่หนึ่ง แต่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนอาจต้องการการเข้าถึงในระดับที่ลึกกว่า คล้ายการทะลุผ่านชั้นบรรยากาศของความรู้สึกอย่างไรก็ตาม การใช้เงินในกรณีนี้อาจเป็นการเร่งฟลักซ์ของความสัมพันธ์ ทำให้เกิดการขยับใกล้เข้าหากันในอัตราที่เร็วกว่าปกติ แต่มันก็เป็นเพียงพลังงานชั่วคราวที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา หากปราศจากการสร้างสนามพลังที่สมดุลในเชิงความเข้าใจและอารมณ์ การใช้เงินอย่างเดียวอาจไม่ได้ทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่แท้จริงในมิติที่ซ้อนกันอยู่ภายในจิตใจของแต่ละบุคคล
อยากถามความเห็นของแต่ละคน
มันจำเป็นมั้ยถ้าอยากเข้าหาใครหรืออยากสนิทกับใคร
ต้องใช้เงินเพื่อเข้าถึงคนนั้นได้
เราไม่ได้พาดพิงใครนะ รู้สึกตัวเองสถานะปานกลางแต่แบกรับค่าใช้จ่ายที่รายจ่ายมากกว่ารายได้ไม่ไหวครับ
.
.
.
.
ช่วง 1เดือนที่ผ่านมากับรักแรกที่เจ็บปวด
โดยรวมตอนนี้ไม่รู้ว่านับว่ามูฟได้มั้ย เราไม่ได้รู้สึกอะไรกับอีกฝ่ายแล้ว ไม่รู้สึกเสียดาย หรือโกรธแค้นกับสิ่งที่เขาทำกับเรา เรารู้สึกนิ่งมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งนึกถึงคนที่อยู่ข้างเราซัพพอร์ตเรา ให้กำลังใจเรา เราเองก็ดีใจนะคะที่ยังมีทุกคนอยู่
.
ช่วงนั้นเราโพสบ่นเยอะมากด้วย อยากจะขออภัยที่บ่นเยอะนะครับ แล้วก็อยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจหรือเข้ามาให้คำแนะนำและรับฟังเรา เราเองอาจยังไม่เข้าใจการรักตัวเองมากว่าตอนนี้เรารักตัวเองรึยัง แต่เราจะรักตัวเองให้มากขึ้นเพราะตัวเราก็เป็นคนสำคัญคนนึงครับ
.
ขอบคุณทุกคนที่อยู่ข้างกันเสมอนะครับ🙏
ถ้าจะเทียบราคารถยนต์ไฟฟ้าในไทยว่าต่างจากต่างประเทศยังไง ต้องเทียบกับรถยนต์พวงมาลัยขวาในต่างประเทศเท่านั้น
การเทียบราคาในจีน ทำได้แค่ดูว่าเค้าวางราคาระดับรถรุ่นไหน ไม่ใช่ว่าจะขายราคาไหน แล้วบวกเท่าไหร่ แบบนี้ #คิดน้อยไปหน่อย
เหนื่อยว่ะ เป็นสัปดาห์ที่แบบ เหนื่อยสัดๆๆ ทำไมต้องมาเจอคนเหี้ยทำเหี้ยใส่แบบนี้ด้วยวะ
กูเป็นโรคแบบ กลัวคนอื่นมองว่ากูไม่สวย ดูไม่ดี ดูไม่เฟรนลี่เป็นคนแปลก หรือชวนคนคุย ยิ้มให้ใครแล้วเขาไม่มีท่าทางตอบรับกลับ แล้วหลังๆมันเริ่มกระทบต่อชีวิตประจำวัน กุเริ่มติดนิสัยสังเกตท่าทางน้ำเสียงของผู้สนทนาด้วย แล้วก็ไม่กล้าพูดดังๆในที่สาธารณะ แล้วในใจกุมันรู้สึกแปลกๆอะ เหมือนความรู้สึกมันไม่คอมพลีส กูควรไปพบแพทย์ไหม😭
>>983 เมิงเป็นโรคอ่อนแอทางกายและจิตใจ
หัดออกกำลังกาย ก็จะหายเอง
อย่างกุโกนผม หัวเกรียนเบอร์ 1.7 ก็ไม่ต้องแคร์ใคร คนก็ขำ ตลก หัวเราะแล้วไง มันก็แค่ไม่มีผม
ร่างกายกุแข็งแรง ก็ไม่ต้องกลัวใคร
ตอนนี้กุวิ่ง 5 กิโล กินเวย์ เพื่อให้ต้วเองแข็งแกร่งขึ้น เมิงต้องเริ่มตั้งแต่โกนผม ตัวเองแบบกุก่อน
มันจะเรียกความมั่นใจได้ โกนผมด้วยตนเอง
ถ้าเมิงไม่กล้า เมิงต้องอยู่กับควาทหวาดกลัวไปตลอดชีวิตนั้นละ
ถ้ามีปัญหาทางจิต ให้ลองออกกำลังกายดูก่อน สุขภาพกายดี จิตก็ดี
ผญ ส่วนใหญ่90% ออกกำลังกายไม่เป็น ไม่เคยเรียนกีฬา พื้นฐาน แบทมินตัน ปิงปอง ว่ายน้ำ
สมัยนี้ต้อง พิลาทิส ปะวะ
โรคระบาด ตามมาด้วย เศรษฐกิจ ล้มและจากนั้นก็ปิดท้ายด้วย สงคราม เสมอ สูตรสำเร็จตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1
>>990 ขออนุญาติตอบนะ ส่วนตัวเล่นกีฬาพื้นฐานที่กล่าวมา และอื่นๆ ต่อให้สภาพร่างกายเราจะดีแค่ไหน
แต่เรื่องความวิตกกังวลกูคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์อะ ยิ่งช่วงวัยรุ่น อาจจะเป็นเพราะฮอร์โมน เราแค่ต้องรู้จักที่จะควบคุมอารมณ์หรือความรู้สึกประหม่า ต้องไปแก้ไขที่ความรู้สึกล่ะมั้ง
เพื่อนโม่งมีใครกินยาตัว sertraline 50 mg มั้ย คือกูน้ำหนักเพิ่มตลอดเลย กูกินมา 6-7 ปี จากกูหนักประมาณ 50 ตอนนี้หนัก 70
กูพยายามออกกำลังกายบ้างและลดกินของจุกจิกไปบ้าง แต่ไม่มีท่าทีจะลดเลย มันเป็นที่ตัวยาที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มใช่มั้ย กูเครียด 😢😢
999 ต่อติดตาย
1000 ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.