Last posted
Total of 1000 posts
เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ทำกับข้าวไม่เป็น ไม่ค่อยได้ทำงานบ้านอื่นๆไม่เป็นไรนะ แต่ขออย่างเดียว แดกข้าวแล้วช่วยล้างจนาทันทีให้เป็นนิสัยด้วย แดกแล้วเอามาแช่ไว้รอคนมาล้าง อันนี้รับไม่ได้ กูไม่ใช่คนใช้ของมึง
การอยู่กับคนที่ไม่ได้รักกันแล้วมันมีประโยชน์ยังไงวะ ทำไมไม่เลิกกันให้แล้วๆไป เสียเวลาว่ะ กูหมดรักมึงแล้ว ไม่ได้รักแล้ว ทำไมต้องยังอยู่กับกู ต้องยกข้ออ้างเรื่องมนุษยธรรมมาให้กูซึ่งถ้ากูไม่ทำกูก็จะกลายเป็นคนเหี้ยอีกคน เช่น พาไปหาหมอตอนดาวน์หนักๆ พาไปถอนยาตอนแพ้โดสใกล้ตาย แล้วไปอวดลงสตอรี่ว่า แฟนพามา แฟนเป็นห่วง ถุยเหอะ กูไม่ได้อยากให้มีคนตายในบ้านกูโว้ย
นึกถึงตัวเอง กูเคยลืมล้างจานนานสุด1เทอมการศึกษาด้วย เพราะกูลืมว่ากูใส่ไว้ในกะลามังแล้วกูเอาไปไว้ที่ระเบียงหอ มีเมทด้วย กูอายชิบหัยเพิ่งมารู้ว่าลืมล้าง5555555 ลืมแบบลืมเลยแล้วแม่งขึ้นลาด้วยเหี้ยสัส มารู้อีกทีตอนย้ายออกหอ นั่นแหละกูทิ้งหมดเลยทั้งกะลามัง กูขอโทษนะเมทที่ลืมชื่อไปแล้ว แม่งแล้วมันก็ทนไม่กล้าบอกกูว่ากูลืมล้าง ส้าส
ให้ล้างจานทันทีกูนี่ว้าวมากเลยนะ ต่างคนต่างอยู่ ขนาดเป็นแฟนตัวเองยังไม่คุยเลยจะไปกันรอดยังไง
กูแบ่งเป็นสองเคสนะ ถ้ามันมีเศษข้าวติดแห้งๆ กูจะไม่ชอบล้างเลยทันที แช่น้ำไว้สักพักมันจะล้างง่ายกว่า ไม่ต้องขัดแบบเอาเป็นเอาตาย แต่ถ้าไม่ใช่ก็ชอบล้างทันทีเลย
ดีนะกูชอบล้างจาน เป็นงานบ้านชนิดเดียวที่กูชอบที่สุดละ และชอบล้างเองมากกว่าให้คนอื่นล้างด้วยเพราะคนอื่นล้างกูไม่มั่นใจ แต่กูล้างเองมั่นใจว่าสะอาด
ผู้ชายที่ทักมาทุกวันไม่ได้ทักมาวันนี้ =?
1. เบื่อกูแล้ว
2. ยุ่ง
3. รอกูทักไป
>>923 จานข้าวน่ะพอเข้าใจว่าต้องมีแช่ไว้ แต่มึงจะมาแช่ไว้รอจนกว่าจะมีจานอื่นมาล้างแล้วบอก ฝากด้วยๆ ทุกครั้งนี่ก็ไม่ไหวป่าววะ หรืออย่างเคสแฟนกู เลิกงานกลับมาบ้านก่อน แต่ก็ไม่ทำอะไรนั่งๆนอนๆเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย จนกูกลับมาซึ่งก็ดึกแล้วแต่อยู่ๆมันก็ลุกมากินข้าวเฉย แล้วก็แช่ไว้ให้กูล้างตามเดิม(กูรู้เพราะกูซื้อข้าวกล่องมากิน จานไม่ได้ใช้สักมบ แต่เช้ามาในอ่างก็ยังแช่ไว้เหมือนเดิม)
>>911 กูก็พึ่งโดนมาแบบมึงเลย เคว้งเหี้ยๆ เลยสัส ตอนนี้กูเป็นแค่ไอ้ตัวอิจฉานั่งแช่งให้มันชิบหายรายวันทั้งคู่อยู่เนี่ย เข้ามาทำให้กูเสพติดการคุยทุกวัน อยู่ๆ วันนึงก็หายไปเลย กลับไปคบกับคนเก่าเฉย พร้อมสี้กัน(แบบอ้อมๆ แต่กูรู้ว่าเยกันแล้ว)ลงไอจีด้วยไอ้เหี้ย จะให้กูแสดงความยินดีหรอ ทำกับกูขนาดนี้ เหมือนกูเป็นตัวคั่นเวลาคลายเหงาให้แม่งอ่ะ ห่า ขอให้บ้านเกิดอัคคีภัยอีสัส
ฉันจะยินดีถ้าหากรักเธอฉิบหาย
ยินดีถ้ามันตายพร้อมเธอ
อีชะนี มันเข้ามาวุ่นวายเรื่องเธอ
และเธอเลือกมันแทนที่ฉัน (ใฝ่ต่ำ~)
ฉันหวังจะยืนที่ตรงนั้นข้างๆเธอ
ในมือของฉันจะถือปืน
ก็ทั้งรู้ เอาของกูแล้วแม่งไม่คืน
ก็ดีแล้วตายไปพร้อมกัน
ในวันนี้ มีเพียงถ้อยคำชั่วร้าย
ขอให้รักของเธอเลวทราม
อยู่ๆก็เทกู จะหวังคำยินดี จะเอาจากผีที่ไหนให้เธอ
ขอให้ความรักมีแต่ความจัญไร
ข้าวของฉิบหายจนบรรลัยทุกอย่าง
คาดหวังสิ่งไหนมีแต่คนขัดขวาง
ขอให้จิ๋มเมียเธอกว้างกว่าผู้ใด
ขอให้นกเขาเธอไม่มีวันขัน
บ้านของเธอนั้นประสบอัคคีภัย
ขอให้เมียของเธอยังติดอยู่ในกองไฟ
ถึงแม้เวลาจะผ่านไป แต่ฉันจะแช่งให้ตายอยู่เหมือนเดิม
ไอ้เลวชาติหมาไอ้ระยำไอ้คนจัญไรไอ้ชั่วไอ้เลวไอ้ควาย
ขอให้มึงต้องตายอย่างหมาเลย~
แล้วแม่งที่ทำให้กูรู้สึกเหี้ยกว่าเดิมคือ อะไรที่กูเคยขอแม่งไปแต่ละอย่าง แล้วแม่งไม่ให้ กับคนใหม่แม่งให้ทุกอย่างที่กูเคยขอเลยสัสหน้าหี
>>931 กูไม่ได้หวังอะไรที่แม่งติดเรทด้วยซ้ำ กูแค่อยากกอดเอง เพราะกูเหงา แล้วกูก็คิดว่าคนนี้แหละ คือใช่แล้ว กูก็เล่าเรื่องราวดราม่าในชีวิตกูตั้งแต่เกิดยันปัจจุบันให้แม่งฟังเพลินๆ เพราะชีวิตกูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ตอนนี้คือชีวิตกูดีสัสๆ เพราะกูขยันทำงานเหี้ยๆ หลังเรียนจบ แถมมีเงินมาประเคนให้ด้วยซ้ำ ถึงเขาจะไม่เคยขอกูเลยสักบาทก็เถอะ แต่นั่นแหละ กูต้องการแค่กอดเอง กอดเฉยๆ แม่งไม่ให้ มากสุดได้แค่จับมือ กินชาบู เดินเที่ยว ดูหนังด้วยกัน กูก็เรื่อยๆ ในความสัมพันธ์แบบนี้ อยู่ๆ วันนึงแม่งเงียบหายไปเลย ทั้งๆ ที่เมื่อคืนยังโทรหากันอยู่ หายแม่งไป 3 เดือน เปิดตัวคนใหม่พร้อมคบเรียบร้อยเฉยเลยสัส เหี้ยไรวะะะะะ แล้วตลอดที่เขาไปหาย กูก็นั่งโทษตัวเอง นั่งคิดว่ากูผิดตรงไหน จนกระทั่งกูตรัสรู้แล้ว กูไม่ได้ทำเหี้ยไรผิดเลยนี่หว่า ทำไมกูต้องขอโทษวะ ความผิดแม่งล้วนๆ เลย กูนี่ผู้ถูกกระทำไอ้สัส ไอ้ความคิดที่ว่าถ้าจริงใจ และเคารพการตัดสินใจของเขาทุกเรื่อง ไม่ว่าอะไรกูก็จะสนับสนุนเขา ตอนนี้แม่งไม่มีในหัวกูแล้ว และคนใหม่ในอนาคตกูด้วย กูเบื่อการเป็นคนดีแล้วสัส กูอยากเหี้ยบ้าง
อย่างน้อยเลยนะ ถ้าจะไปอ่ะ บอกกันหน่อย บอกมาเลยว่ามีคนคุยใหม่แล้วนะ เจอคนที่ใช่แล้วนะ กูจะได้รีบมูฟออน ไปใช้ชีวิต ไปหารักใหม่ ไม่ใช่มึงทำให้กูติดแล้วก็เทกูไว้กลางทางไม่บอกเหี้ยไรเลยจนกูต้องไปพบจิตแพทย์เนี่ยไอ้เหี้ย แม่งเสียเวลาตั้ง 3 เดือนไอ้สัส
ค่ายาแม่งก็แพงชิบหาย ค่าน้ำมันไปหาหมอก็แพงสัส น้ำก็ท่วม รถก็ติด อีเหี้ยย กูขอให้มึงชิบหายยยย
>>933 กุอยากให้มึงยึดหลักการแบบ มาก็รับไว้ ไปก็ไม่รั้งว่ะ การคาดหวังความแคร์จากมนุษย์คนอื่นมันเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงนะ มันคาดการณ์อะไรไม่ได้ ควบคุมตัวแปรก็ไม่ได้ เราทำได้มากสุดแค่รนณรงค์ให้เป็นบรรทัดฐาน แต่สุดท้ายถ้าคนจะไม่แคร์ มันก็ไม่แคร์
เพราะงั้นมึงควรโฟกัสกับปัจจัยที่มึงควบคุมได้นั่นคือตัวมึงเองมากกว่า รักอย่างฉลาดอ่ะเพื่อน มึงจะไม่ผิดหวังถ้ามึงไม่คาดหวัง และมึงจะมีความสุขที่ได้ทำดีกับคนข้างหน้าโดยไม่ต้องรู้สึกกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิม รักตัวเองก่อน เป็นกำลังใจให้มึงนะไอสัส
กูจะเลิกรักจริงๆละ กูจะไม่วาดฝันอนาคตกูกับเขาอีก แค่คำพูดปลอบใจน่ารักๆในวันที่กูเครียดแบบนี้มึงยังให้กันไม่ได้ ถ้ามันเป็นอะไรที่ฝืนใจมึงขนาดนั้นกูยอมละ กูพอละ
มึงคงไม่มีวันเป็นเด็กหนุ่มที่รักกูมากแบบแต่ก่อนได้แล้ว กูทำทั้งหมดพังไปเองกูขอโทษนะ และกูขอโทษอีกทีที่ทนประคองทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ความอดทนกูมีแค่นี้ กูก็ขอจบตรงนี้แหละ กูจะเอาความสุขทั้งหมดของกูที่ห้อยไว้ที่มึงออกมาให้หมด ต่อไปนี้กูจะมีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ อนาคตที่จะอยู่ห้องด้วยกัน ซื้อคอมให้ ช่วยหางานให้ ทำเรซูเม่ให้ ทุกอย่างที่วาเฝันว่าจะทำให้เพื่อแลกกับการที่มึงต้องฮีลลิ่งความรู้สึกกูในวันแย่ๆ ถ้ามึงให้กูไม่ได้ กูก็ไม่ขอทำอะไรให้มึงแล้วละ กูเจ็บ กูเจ็บเหี้ยๆ ให้แม่งจบลงตรงนี้แหละนะ
มึงไม่มีทางมาอ่านความรู้สึกกูในนี้หรอกกูรู้ดี มึงไม่รู้จักเว็บเหี้ยนี่ด้วยซ้ำ และต่อให้บังเอิญมาอ่านเจอ มึงคงไม่มีทางรู้ว่ากูหมายถึงมึง เพราะกูไม่เคยพูด/พิมคำหยาบกับมึงเลยสักครั้ง หวังว่ามึงอาจจะผ่านมาอ่านเจอในสักวันที่กูมูฟออนได้แล้ว และกูจะเริ่มมันตั้งแต่ตอนนี้ มันจบแล้วละ ขอบคุณนะ ลาก่อน
ปีนี้กูกับแฟนจะครบรอบ 10ปีด้วยกัน รวมช่วงจีบกันอีก 2 ปี เป็น 12ปีพอดี แต่กูกับแฟนเป็นรักทางไกล เพิ่งมาได้เจอกันบ่อย ๆ ก็ตอนเรียนมหาลัย แถมไม่ได้อยู่ด้วยกัน แยกบ้านใครบ้านมันอีก แต่2-3ปีหลังมานี้มีแต่ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน เพราะรักกันตั้งแต่ยังเด็ก เลยมองว่าความรักในตอนนั้นจะต้องมั่นคงและเหมือนเดิมไปไม่มีเปลี่ยนแปลง จนลืมไปว่าเมื่อเราเติบโตขึ้น เราสองคนต่างก็เรียนรู้โลกกันคนละแบบ ความชอบ ความคิด ทัศนคติในการใช้ชีวิตจากตอนเด็กเมื่อ10ปีก่อนมันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามวัย กูชอบเที่ยวธรรมชาติ ชอบเที่ยวทะเล ภูเขา แต่เขาชอบอยู่บ้าน ทัศนคติในการใช้ชีวิตก็ค่อนข้างแตกต่างกันมาก หาจุดร่วมกันหรือลงตัวแทบไม่ได้เลย เวลาทะเลาะกันกูที่เป็นฝ่ายยอม ฝ่ายขอโทษก่อนเป็นส่วนใหญ่มาตลอด อดทนความประสาทแดก ความอารมณ์ร้ายเวลาโมโหมาเป็น 10ปี
พอมาตอนนี้กูทนไม่ไหวแล้วก็หาว่ากูเปลี่ยนไป ตลอด10ปีที่ผ่านมากูไม่เคยนอกใจเลย จนมาตอนนี้ที่ใกล้จะ30 กูเข้าใจคำว่ายิ่งรักยิ่งห่างแล้ว โลกที่ต่างเติบโตมาคนละแบบหล่อหลอมให้ความคิดเราสองคนไปกันไม่ได้เลย กูรู้สึกเหนื่อยมากกับอะไรหลาย ๆ อย่างที่กูต้องทนมาตลอด กูก็ผิดด้วยที่เป็นคนไม่เอาไหนทำตามสิ่งที่ฝันกันเอาไว้ไม่สำเร็จไม่ได้เลยซักที แถมโควิดมากูก็ตกงานยาว ๆ ไม่มีรายได้มั่นคงอะไรเลย กูก็พยายามสู้แล้วอะ แต่แทบไม่มีคำปลอบใจอะไรเลย มีแต่เอาอารมณ์เอาเหตุผลตัวเองความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้ง จนไม่แคร์ความรู้สึกกูเลย เวลาทะเลาะกันก็เอาไปดราม่าลงโซเชียลให้กูดูเหรี้ยตลอดซึ่ง10ปีที่ผ่านมาเวลาทะเลาะกันกูไม่เคยทำแบบนี้เลย ได้แต่อยู่เงียบ ๆ เสียใจคนเดียว
เวลาทะเลาะกันกูเลือกจะเงียบเพื่อให้ใจเย็นลงแม่งกลายเป็นว่าได้ใจ เอาชนะกูได้ พยายามจี้ๆๆๆๆให้กูยอมรับให้ได้ว่ากูผิด กูเหนื่อยจนไม่อยากพูด พอทะเลาะกันเลยเลือกที่จะเงียบ พอเงียบบ่อยๆก็ด่ากูไม่พอใจกูอีกว่าเงียบทำไม ทำไมไม่พูดออกมาว่ารู้สึกอะไรคิดอะไร เงียบทำไม พอกูระบายออกมาบ้างก็ทะเลาะกันหนักกว่าเดิมจนกูต้องยอมง้อยอมขอโทษอีกทั้ง ๆ ที่กูไม่ผิดเลย เหนื่อยว่ะ เสียใจนะ ที่ความฝันที่เคยสร้างกันมามันจะจบลงแล้ว ถ้าครั้งนี้ทะเลาะกันอีก กูคงพอแล้ว ไม่เอาแล้ว ต่างคนต่างไปเถอะ ถ้ามีบุญวาสนากัน หรือเติบโดกันขึ้นแล้วคงได้กลับมาเจอกันอีก กูเหนื่อยกับการที่ต้องอยู่ใต้คำสั่ง ความบังคับ การเอาแต่ใจตัวเองของมึงมามากพอแล้ว แยกย้ายเถอะ ต่างคนต่างไปทำตามความฝันตัวเอง ถ้าวันนึงเจอคนใหม่ ก็ขอให้เจอคนที่ดีนะ
อยากระบายปรึกษาหน่อยครับ ผมรูปร่างหน้าตาดีสูง ผิวดี เลิกกับแฟนไปสองปี ยังไม่มีไหม่ แฟนเก่าก็ดูดีเหมาะกัน พึ่งเปลี่ยนที่ทำงาน มาจะมีแก๊งเจ้าถิ่นเก๋าๆกวนๆ แล้วผมไม่ค่อยสุงสิงกับพวกเขา แต่พวกนี้รู้ผมโสด แล้วชอบจับคู่ผมกับคนขี้เหล่ไม่สวย ไห้ผมอับอายตลอด (ผมขอพูดตรงๆนะครับ ไม่โลกสวย ไม่ปรุงแต่ง) แล้วคนที่ดูดีก็มีเยอะอยู่ โสดด้วยแต่พวกนี้ไม่เคยแนะนำไห้เลยทั้งที่รู้จักกับพวกนั้น เคลียดมากตอนนี้เสียเซลฟ์
กูโม่งชาย คิดอยากจะเลิกกับแฟน แต่ตัดใจไม่ลง
กูรักข้างเดียวเกือบ10ปี ชีวิตรักติดหล่ม พอถึงเวลาที่คิดว่าต้องตัดใจ ก็เลยสารภาพรักไปให้มันปฏิเสธ จะได้จบ ปรากฏว่าได้คบเป็นแฟนเฉยเลย
แต่คบกันแล้วก็มีปัญหา กูเป็นคนเอ๋อๆที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเพราะแอบรักเขาอยู่คนเดียว แล้วก็ซื้อสัตย์แบบเอ๋อๆอยู่คนเดียว คาดหวังจินตนาการไปเอง ส่วนแฟนกูก็นิสัยไม่เข้ากับกูเท่าไหร่ พอคบกันจริงๆก็ผิดหวัง ยิ่งรู้จักกันนานก็ยิ่งเซงมากขึ้นเรื่อยๆ เคยทะเลาะกันหนักๆ3ครั้ง จนมันบอกเลิกกูไปแล้ว แต่ก็กลับมาหากูใหม่ ซึ่งหนักหน่วงหน่อย แต่เรื่องดีๆก็ยังมี กูก็โอเค
แต่ตอนนี้แม่งมีปัญหาใหญ่สัสที่รอวันระเบิด เหี้ยกว่าเรื่องนิสัยอีก คือแผนการในอนาคตไม่ตรงกันเลย ไปด้วยกันยากสัส รายละเอียดถ้าเล่าแม่งยาว แต่สรุปคือถ้าเขายังทำตามความฝันตัวเองต่อไปจนสำเร็จ แล้วกูทำตามความฝันกูจนสำเร็จ นั้นก็คือต้องเลิกกัน99% เพราะจะมาอยู่บ้านเดียวกันก็ยาก เผลอๆแค่มาเจอกันให้ได้บ่อยๆก็น่าจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วกูไม่โอเคกับการแยกบ้านอะ เพราะงานกูมันเยอะสัสอะ ไปไหนมาไหนยากอะ แต่รายได้ดีสัสนะ ก็เลยอยากได้เมียมาช่วยงานที่บ้านอะ ทำไมคนเราถึงอยากจะไปเป็นลูกจ้างรายได้กลางๆ ในสายงานที่ตัวเองก็ไม่ได้เก่งมาก มีคู่แข่งตัวท๊อปๆเยอะแยะที่เหนือกว่าทั้งความสามารถและประสบการณ์? มาช่วยดูแลงานที่บ้านผัวแล้วคอยเก็บเงินมันไม่ดีหรอวะ?
ทำไมมันเป็นงี้วะ ทั้งๆที่ช่วงหลังๆทะเลาะกันน้อยลงแล้วแท้ๆ ทำตัวงี่เง่าน้อยลงแล้วแท้ๆ เคยบอกให้มันหยุดทำงานของมันแล้วมาช่วยงานบ้านกูแล้วมันก็ดูไม่เข้าใจ ยิ่งหลังๆเห็นมันตั้งใจทำงานก็อยากเอาใจช่วยอะ, กลายเป็นว่ากูต้องมามานั่งกังวลว่าอยากเลิกแทน มานั่งกลุ้มใจคิดว่าอีก 2 ปีข้างหน้า แทนที่จะได้แต่งงานแล้วลงรากปักฐานด้วยกัน กูต้องนั่งเหงาในบ้านที่เมียหนีไปทำงานที่อื่น หรือไม่กูก็ต้องเลิกกับมันแล้วให้มันไปมีผัวใหม่ที่ไม่เอ๋อแบบกูให้กูปวดใจเล่น
เฮ้อ
>>949 กูก็เป็นแบบมึง กูตอบไม่ได้นะว่าอนาคตเป็นไง เพราะกรณีของกูมันล่มไปแล้วว่ะ แบบมึงเลย รักเขาข้างเดียวมา 10 ปี อึดอัดทั้งชีวิตเลยสารภาพให้จบๆ ไป เสือกได้คบเฉย แล้วก็เอ๋อแบบมึง ซื่อสัตย์แบบมึงด้วย แล้วสายงานแม่งไม่ตรงกัน เขามีแพลนจะไปทำงานที่ ตปท อ่ะ แต่สายงานกูอยู่ไทย สุดท้ายพอเขาไปจริงๆ ห่างกันมากๆ แม่งไม่รอดว่ะ ล่ม ก็ขอให้มึงโชคดีไม่เป็นแบบกูแล้วกันนะเพื่อนโม่ง แต่ถ้าโชคร้ายล่มขึ้นมา ก็แค่มานั่งซึมเป็นเพื่อนกูแค่นั้นเอง
ความมั่นคงที่ผู้หญิงเขาชอบพูดกันมันเป็นแบบไหน แล้วมีอะไรบ้างวะ
>>949 อ่านเท่านี้กูคิดว่ามันไม่จรงกันว่ะ ต้องเลิกแน่นอนเว้นแต่จะมีใครซักคนมองว่าอีกคนสำคัญกว่าความฝันตัวเองมึงถึงจะไปต่อได้
แต่กุเข้าใจแฟนมึงนะ ถ้ามองในเรื่องของเงินการทำงานบ้านมึงอาจได้เยอะกว่า แต่มันไม่ใช่ไลฟสไตล์ที่เค้าต้องการอ่ะ ถึงจะเป็นลูกจ้างเงินเดือนกลางๆ แต่ก็พึ่งพาตัวเอง 100% การไปดูธุรกิจบ้านมึงเค้าต้องมาเรียนรู้งานใหม่หมด learning curve สูงมาก แถมต้องทิ้งความถนัดของตัวเองไว้ข้างหลัง แล้วไม่รู้ว่าอนาคตถ้ามีปัญหากัน เค้าจะโดนมึงเฉดหัวไล่ออกจากบ้าน ไล่ออกจากงานรึเปล่า ถ้าเป็นงั้นชีวิตผู้หญิงแม่งเสียทุกอย่างเลยนะ งานที่ถนัดก็ห่างมานานจนสู้คนอื่นไม่ได้ งานที่ทำก็ไม่ใช่ของตัวเองโดนเขี่ยทิ้งก็จบ เป็นกุ ถึงสบายกว่า กูก็ไม่อยากทำว่ะ ถ้าทำก็จะทำเป็นงานเสริมและตัวเองต้องได้สิทธิ์ในทางกฎหมายด้วย และกุก็ยังทำงานประจำอยู่ ใจคนเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ผู้หญิงไม่ควรพึ่งพาคนอื่น
แต่กุสงสัยว่าเค้าก็ทำงานเค้า มึงก็ทำงานมึง แต่ก็แต่งงานย้ายเข้าบ้านเดียวกันมันก็ได้ไม่ใช่หรอวะ ไม่เห้นต้องแยกกันอยู่
>>951 สำหรับกุคือความมั่นคงทางการใช้ชีวิตอ่ะ มีการวางแผนอนาคต มีการเก็บเงิน มี career path ที่ดูไปต่อได้ไม่ใช่แบบเด๋วรอด เด๋วไม่รอด เอะอะลาอออก ว่างงาน ไม่ไร้ความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่นอ่ะ ดูแลตัวเองได้ดี รวมๆคือไม่มีสัญญาณว่าจะมาฉุดกูลงต่ำกว่าเดิม หรือหาเรื่องเดือดร้อนมาให้กุรับผิดชอบอ่ะ เป็นแนวๆพากันไปที่ดีๆ ไม่ใช่พากันลงเหวไรงี้
อยากมีแฟนกับเขาบ้าง
กูก็อยากมีแฟน แต่แม่งเพื่อนกูแต่ละคนบอกอย่ามีกันหมด ไรแว๊
เหมือนกันเลย จริงๆมันก็ชินกับการอยู่คนเดียวแล้วแหละ แต่บางอารมณ์มันก็อยากมีแฟนแวบๆขึ้นมาบ้างเหมือนกันนะ
แต่พวกสังคมน้อยอย่างกุสมัยนี้มันจะไปเจอคนใหม่ๆจากไหนได้วะ แล้วถึงเจอก็คงเข้าหาไม่เป็นอีก คงต้องอยู่คนเดียวไปตลอดละมั้งกุ
เกย์รุกหาคู่ครับ ถ้าอยากเป็นรับหลังไมค์มาได้เลย
คิดว่ามันบั่นทอนใจกูขนาดไหนล่ะที่พอกลับมาบ้านก็เห็นมึงนั่งทำหน้าเหม็นขี้อยู่ตรงนั้น แล้วก็เอาแต่บ่นๆใส่กู คิดว่ากูไม่รู้เหรอที่ช่วงนี้กูทำตัวแย่ๆไม่ค่อยจัดการอะไรต่างๆในบ้านเท่าที่ควร แต่บางทีถ้ามึงไม่อยู่กูคงจัดการเองแหละ ก็เคยบอกไปหลายรอบแล้วว่าไม่อยากคบต่อแล้ว อยากให้แยกย้ายกันไป แต่มึงก็ทำเป็นเบลอไม่สน ไม่ฟัง ยังนั่งหน้าเหม็นขี้อยู่อย่างนั้น มึงเคยพูดว่าไม่อยากอยู่แล้วก็ต้องทนอยู่ แต่เคยถามกูบ้างสักครั้งมั้ยว่าอยากให้อยู่รึเปล่า
มึงจะรู้ได้ไงวะว่าเค้าจีบไม่ใช่คุยแบบเพื่อน คือคนนึงที่กูเพิ่งรู้จักเค้าทักมาบ่อยๆ (แต่ก็คุยเรื่องทั่วไปนะ) ละคือบางเรื่องแบบใช้ common sense ก็น่าจะรู้ ไม่ต้องถามกูก็ได้มั้ย คือกูไม่รู้ว่าเค้าแปลกหรือเค้าอยากเข้าหาอะ กูถามเพื่อนที่รู้จักคนนี้แม่งก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นคนยังไง บอกแค่เป็นคนดีละก็เลี่ยงคำถามกู งงมาก
ถามความเห็นเพื่อนโม่งหน่อยครับ
ปัจจุบันผมมีแฟน รักกันดีมาประมาณ 2 ปีแล้ว
ทีนี้ปัญหาคือผมเดิมทีเป็นมาโซคิส คือชอบโดนฟาดตูดแล้วจะฟิน เคยคุยกับแฟนแล้ว แฟนบอกว่าเขารับไม่ได้ ไม่ใช่แนวเขาจริงๆเขาทำให้ไม่ได้ ก็เลยพับเก็บโปรเจคนี้ไปแล้วก็ยังคบกันต่อไปแบบวานิลาปกติ ซึ่งกุก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเขาก็ดีกับกูทุกเรื่องเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าจริงๆในใจกุก็ยังมีความต้องการแบบนี้อยู่ตลอด
คำถามก็คือถ้ากุแอบไปใช้บริการฟาดตูดคนเดียว ไม่บอกแฟน จะถือว่ากุนอกใจไม่ซื่อสัตย์รึเปล่า ถ้ากุจะลิมิตให้ที่ไปใช้บริการมีแค่การเล่น sm ล้วนๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเซ็กเลย ห้ามโดนจู๋ด้วย
>>965 ก็ไม่นะ กุคิดว่าทำได้ แต่กุคิดว่าถ้าแฟนมึงรู้เด๋วก็มีปัญหา ไม่มช่เรื่องของความนอกใจหรอก แต่แฟนมึงน่าจะไม่โอเคกับพฤติกรรมนั้นมากกว่า
>>964 ถ้าเป็นเรื่องทั่วๆไปแล้วมาถามมึง กุคิดว่าเค้าอยากคุยกับมึงนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าชอบมึงนะ แค่รูสึกเป็นบวกกับมึงเลยอยากทำความรู้จัก อยากสนิทด้วยไรงี้ จีบไม่จีบนี่อีกเรื่อง
อยู่ๆกุก็อยากมีแฟน แต่ไม่อยากไปจีบใครก่อนเลยว่ะ ทำไงให้ผู้ชายอยากจีบเราวะ ทำตัวเองให้สวยหรอ แต่มันเปลือกไปมั้ยวะ กุอยากได้คนที่กุทำตัวสบายได้อ่ะ
>>965 เห็นใจมึงว่ะ
แต่ถ้าไปให้คนอื่นฟาด มันก็อาจจะมีโอกาสที่ฟาดไปฟาดมามึงสองคนอาจจะรู้สึกสปาร์คจนเลยเถิดกันไปได้นะถ้าเกิดเคมีมันเข้ากัน ส่วนตัวกุคิดว่าถ้าเป็นคนนอกวงการแบบแฟนมึง ควรจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปก่อน ไม่ใช่จู่ๆขอให้ฟาดมาเลยคงยาก เป็นกุกุก็ทำใจไม่ลง ยกเว้นตีตูดแบบแหย่เล่นกัน
อันนี้กุแนะนำให้ลองไปดู Love and Leashes ในเน็ตฟลิกซ์อะ กุว่าเรื่อง SM มันเป็นเรื่องซับซ้อนต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจดีๆ ถึงมึงจะเอนจอยกับการโดนตียังไง ก็ต้องทำให้คู่ของมึงรู้สึกดีกับการได้ตีมึงด้วยเพราะ ภาพจำในสังคมคือ SM = โรคจิต ดังนั้นคนที่ไม่เข้าใจจะรู้สึกต่อต้านก็ไม่แปลก ค่อยๆเรียนรู้กันดู ถ้าเรียนไม่รอดกุว่าค่อยหาคนที่รสนิยมตรงกันจะดีที่สุด
ถ้าชอบแค่โดนฟาดตูดแม่งไม่ใช่SM แค่เฟทิซของมัน แยกแยะหน่อย
กับอีแค่เรื่องง่วงแล้วก็ควรไปอาบน้ำ จะได้ขึ้นนอนดีๆ แต่ตัวเองดันเลือกนอนทิ้งตัวอยู่ที่โซฟาแล้วบอกกูให้ปลุกในอีก 30 นาที เสื้อผ้า กางเกง ก็ถอดกองๆไว้ไม่เก็บ กูคงจะอยากได้มึงเป็นเมียหรอกเนอะ ขนาดตัวเองยังดูแลไม่ได้เลย
สัส กูต้องเลิกกระดิกหางตอนเค้าทักมาได้แล้ว 5555
ถ้ารู้สึกเบื่อหรือไม่เหมือนเดิมมึงก็บอกให้อีกคนเขารู้ด้วยเถอะ เขาอาจจะคิดเหมือนมึงก็ได้ มั่นหน้าอะไรมาคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์เลือกคนเดียว ตัวเองทำใจเตรียมเลิกมานาา ส่วนกูไม่รู้อีโหน่อีเหน่อยู่ๆก็โดนทิ้งแบบไม่ตั้งตัว เหี้ยมาก อีเหี้ย เห็นแก่ตัวชิบหาย ทำมาบอกไม่กล้าสู้หน้า กลัวเห็นกูร้องไห้ สันดานหมามาก คบมาหลายปี มายิ้มแย้มกินข้าวกับกู ทำเหมือนปกติแล้วค่อยโทรมาบอกเลิกแม่งโคตรเหี้ย ค่าข้าวก็ไม่จ่าย อีสัส
ยุคwfhแบบนี้หาแผนได้ที่ไหนกันวะ
*แฟน เห้ออ แค่นี้ยังพิมผิดชาตินี้กูน่าจะไม่มี
คนอะไรมันขี้เกียจขนาดจะแดกน้ำยังต้องยกเอามาทั้งขวดมาตั้งไว้ตามพื้นใกล้ๆที่ตัวเองนอนแผ่อยู่แล้วขวดน้ำเย็นๆมันก็มีหยดน้ำเต็มพื้น ตรงไหนที่มึงนอนแผ่คือจะมีน้ำหกเลอะแถวๆนั้นเสมอ ทำไม่ไม่เอาไปแช่ตู้เย็นดีๆถ้าจะดื่มก็ลุกไปเอามาดื่มมันไม่ได้เดินไกลมึงขาดน้ำตายหรอก คนแบบนี้กูคงอยากได้เป็นเมียหรอกนะ
>>982 กูก็ไม่ชอบเหมือนกันนะ ให้เดาคือเมียมันคงทำหกแล้วไม่เช็ดรอให้มันมาเช็ดแน่เลยว่ะ แถมไม่รู้ด้วยว่าวัสดุพื้นเป็นอะไร ถ้าเป็นลามิเนตหรือกระเบื้องยางที่มันพองได้ ทำน้ำหกแบบตั้งใจบ่อยๆแบบนี้กูโกรธนะ แล้วการที่เอาขวดน้ำออกมาตั้งยาวๆ จากน้ำเย็นมันก็จะไม่เย็นสิ แล้วถ้าคนอื่นอยากกินน้ำเย็นต้องทำไงอ่ะ ถ้าขี้เกียจเดินบ่อยกูว่าซื้อแก้วสุญญากาศแล้วใส่น้ำมานั่งกินยาวๆก็จบละ ดันเลือกไปเอาขวดน้ำที่กินร่วมกันออกมา ไม่เห็นแก่คนอื่นเลย
เคสเดียวที่กูจะเอาขวดน้ำออกมาตั้งแบบนี้คือตอนกินข้าวทั้งครอบครัวน่ะแหละ เพราะเติมบ่อยมาก นอกนั้นไม่ทำ มันก็ต้องเห็นแก่ผู้ร่วมอาศัยด้วยนิดนึง ไม่ได้อยู่คนเดียว
>>983 เดาทำไมมันก็บอกอยู่แค่น้ำที่หยดรอบขวดน้ำเย็น แล้วหลังจากนั้นมึงก็บอกว่าขวดน้ำเย็นเออก็เข้าใจนิ มึงไม่คิดเหรอว่าจะกินขวดใครขวดมัน ขวดใหญ่ยกกินคนเดียวได้เป็นไรวะ มึงคิดว่าทุกบ้านต้องกินน้ำขวดเดียวกัน? อะ มันยังอธิบายไม่หมดกูก็ตอบมันตามที่มันบอกแค่นั้น มึงทำยังกับเป็นคนเดียวกัน
>>984 มึงลื่นกับน้ำหย่อมเล็กๆจากขวดอะนะ???
สรุปพวกมึงคนเดียวกันไหม ถึงคิดแทนกันได้ว่าบ้านคนอื่นอาจเป็นเหมือนกัน เออวะไปอยู่ด้วยกันน่าจะดี
นอกจากนี้ยังมีไปคิดแทนผู้หญิงอีกว่าเอาออกมาตั้งถ้าจะกินน้ำเย็นมันก็ไม่เย็นดิ่??? กูอาคเรียล คิดได้แค่นี้
ถ้ามึงเป็นแฟนกันมึงก็บอกหาเอาจานรองแก้วกรณีที่มันวางขวดเป็นไม้ ส่วนพื้นอื่นมันไม่บวมหรอก นี่สมัยไหนละ ส่วนไม่เช็ดทิชชู่สองแผ่นก็เช็ดได้แล้วแฟนมึงไม่ทำ มึงไม่คิดมากจะบ้าตายกับเรื่องแค่นี้ยังไม่รอด ยังหวังจะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างอื่นอีกเหรอ
กูว่ามึงต้องคุยกันว่ะ จริงๆ นะ มันดูน่าจะต้องคุย คือ ถ้าจะเลิกก็เลิกไป ไม่ได้เลิกเพราะหยดน้ำ แต่เลิกเพราะไม่ปรับตัวกัน
กูก็ปากดีไปงั้น โสดว้อย 555
>>985 >>986 หยดรอบขวดน้ำเย็นไรวะ มันบอกอยู่ว่าหยดเต็มพื้น คิดดิว่าพอเอาขวดน้ำเย็นออกมาตั้งมันก็ต้องไหลลงพื้น มันก็เลอะ มึงอ่านไม่แตกแล้วมาตีโพยตีพายมากกว่า แล้วมันก็ไม่ได้บอกว่าเป็นขวดน้ำรวมหรือกินคนเดียวเพราะงั้นแม่งก็เป็นได้ทั้งสองน่ะแหละ แต่กุยกให้เห็นว่าถ้าเป็นขวดน้ำรวม ทำแบบนี้คนอื่นก็ไม่ได้กินน้ำเย็นดิ ซึ่งถ้าเป็นขวดน่ำส่วนตัวปัญหาเรื่องทำน้ำหยดแม่งก็ยังอยู่ป่ะ คือพอเป็นขวดน้ำตัวเองจะเอาไปตั้งไหน ยังไง เลอะเทอะขนาดไหนก็ช่างแม่งว่างั้น
แล้วแม่งไม่ใช่แค่ลื่นล้ม เวลาน้ำกองถ้าสมมติมึงจะกวาดบ้านมึงก็กวาดไม่ได้ต้องมาเช็ดพื้นให้แห้งก่อน หรือถ้าฝุ่นไปลงพอมันแห้งก็เป็นคราบอีก หรือเดินเท้าแห้งมาเหยียบพื้นเปียก พอเดินย่ำไปที่อื่นมันก็เลอะบ้าน ต้องมาคอยระวังคอยเช็ดตีนเพราะแค่คนๆเดียวไม่มีปัญญารักษาความสะอาดหรอวะ ถึงได้บอกไงว่าอยู่กับคนอื่นก็ต้องคิดถึงคนอื่นด้วย ไม่งั้นก็ไปอยู่คนเดียว แล้วมึงจะนอนดูดขวดน้ำตั้งแต่หน้าประตูบ้านก็ไม่มีใครด่ามึง
แล้วเรื่องจานรอง คือถ้าคนมันจะไม่สนใจว่าน้ำหยดลงพื้นมั้ย มันคงจะไปหาจานรองหรอก หรือมึงกำลังบอกให้ไอ้ต้นเรื่องต้องคอยรับใช้เอาจานรองให้ทุกครั้งที่เห็นเมียเอาขวดน้ำออกมาวางหรอ ถ้าไม่ยอมทำให้แล้วมาบ่นกลายเป็นต้นเรื่องแม่งประสาทแดกเฉย สันดานเสียมาก บ้านอยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกันดูแลดิวะ
ซึ่งต้นเรื่องกับเมียมันก็แค่มีมุมมองการใช้ชีวิตต่างกัน การที่มันจะซีเรียสกับเรื่องเล็กน้อยแม่งผิดอะไร คนที่ไม่ชอบก็คือไม่ชอบป่ะ แล้วมึงพูดเองว่ามันยังเล่าไม่หมด แต่เสือกไปด่ามันว่าประสาทแดก กุแค่มาแจงว่ากุก็ไม่ชอบแบบนี้เหมือนกัน ก็มาหาว่ากุเป็นคนเดียวกับมัน กุว่ามึงก็แค่คนสันดานโสโครก ผลักภาระให้ผู้อื่น พอเจอข้อความแทงเข้าตัวเองก็รีบออกมาด่ามากกว่า
ส่วนต้นเรื่อง การที่มึงจะไม่พอใจแม่งปกติ กุก็ไม่พอใจถ้าเจองี้ แต่มันคุยกันได้ ถ้าสุดท้ายเมียมึงไม่เอาด้วยก็แค่ศีลไม่เสมอกันเท่านั้นแหละ
>>989 ปัญหาเดียวกับบ้านกูเลย 555 พ่อชอบเอาขวดน้ำเย็นมาวางบนโต๊ะ ไอน้ำก็ควบแน่นทำให้โต๊ะเปียก แม่ก็บ่น กูเลยไปซื้อที่รองแก้วที่มันเป็นหินซับน้ำมาวางไว้บนโต๊ะให้ แต่พ่อกูก็ไม่วางบนที่รองอยู่ดี 555 กูก็พยายามแก้ปัญหาอีกโดยการซื้อกระติกน้ำเก็บความเย็นมาให้ใช้ ไอน้ำไม่ควบแน่น โต๊ะไม่เปียก แต่พ่อก็ไม่ใช้เพราะมันยุ่งยาก (เพราะมันต้องเทน้ำจากตู้เย็นมาใส่อีกที เอาขวดนั้นแช่เข้าไปในตู้เย็นเลยไม่ได้) สรุปกูก็ต้องเจอกับปัญหาโต๊ะเปียก แม่บ่น พ่อแม่ทะเลาะกันวนไปจนกว่าจะตายกันไปข้าง 555
บางทีกูก็ตลกบ้านตัวเองนะ เป็นบ้านที่ไม่ได้มีปัญหาใหญ่โตอะไรหรอก แต่มันจะมีปัญหาพฤติกรรมจุกจิกของคนในบ้านที่ไม่ว่าใครก็ไม่ยอมแก้ อย่าว่าแต่ให้เอาขวดน้ำเก็บเข้าตู้เย็นเลย ถังขยะอยู่ห่างไปเมตรเดียว พ่อกูยังวางขยะไว้บนโต๊ะแบบนั้น กูต้องรีบตามเก็บก่อนที่แม่จะมาเจอ เพราะพอแม่เจอก็จะบ่น แล้วก็จะทะเลาะกันบ้านแตกวนลูปไป แต่ละคนอายุปูนนี้แก้ไม่ได้แล้วล่ะนิสัย 5555 กูพยายามหาทาง Kaizen ทุกอย่างก็ทำไม่สำเร็จ 555555 เวลาอยู่ที่ทำงานกูคือเจ้าแม่ Kaizen ใครวิ่งมาขอให้แก้ปัญหาอะไรให้แก้ได้ทุกอย่าง แต่กับบ้านตัวเองแก้อะไรไม่ได้เรยจ้า 555 ทำใจอย่างเดียวว่าเดี๋ยวก็ตายห่าจากกันหมดละ ทนๆ เอา
พวกเลือกผัวเลือกเมียแบบไม่พอใจพฤติกรรมกันแต่ก็ยังเลือกมาเป็นคู่ชีวิตเนี่ย สุดท้ายก็มาทะเลาะกัน รู้ไว้เลยนะ สุดท้ายคนที่รับกรรมคือลูกๆ ของมึงนี่แหละไม่ใช่ใครอื่น 555 กูคิดในใจตลอด จะบ่นกันทำเหี้ยอะไรวะ สันดานแต่ละคนก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ใช่เพิ่งมาเป็น ก็เลือกกันมาเอง แล้วก็เสือกมาทะเลาะกัน กูนี่สิเลือกเกิดไม่ได้ เลือกพ่อเลือกแม่ไม่ได้ ความจริงคนที่ควรบ่นที่สุดคือกูมั้ย???? ตำหนิพ่อแม่ก็ไม่ได้เพราะเป็นลูกที่เกิดในเมืองไทย มีระบบอาวุโสค้ำคอ
สมควรประสาทจริงๆ คนที่ด่าอยู่ไก็คือแฟนมึง แล้วยังมีหน้ากล้าว่าคนอื่นอีก มึงก็เลิกไปสิลังเลห่าไร ทำอวดเก่งในโม่งแต่ใจกากไม่กล้าเลิก
กู 981 เองนะ กูไม่ได้ ปสด แต่มึงลอกนึกดูถ้าเดินๆอยู่แล้วเกือบลื่นเพราะมีน้ำจากใหนไม่รู้บนพื้น หรือ กวาดๆบ้านอยู่แล้วมาติดตรงน้ำๆก็ต้องเอาไม้มาถูใหม่แล้วค่อยกวาดเพิ่ม ส่วนใครที่บอกว่าทำไมไม่เลิกๆกันไป กูบอกเลิกมันแล้ว แต่มันตีมึนทำเป็นเหมือนปกติ ไม่ยอมย้ายออกจากบ้านกู กูไปฟ้องตำรวจจะเอาข้อหาบุกรุก แม่งก็ไม่รับเรื่องบอกแฟนกันคุยกันดีๆก่อน
พอกูอ่านมู้นี้กูรู้สึก เออ ไม่มีแฟนดีแล้ว555555555555555
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.