>>841 โอเคได้ฟังแชร์จากมุมมาเยอะล่ะ กูเคยไปเรียนที่นั่นมาปีนึง ยอมรับว่า ปสก การทำงานเลยไม่เยอะ
ส่วนสาเหตุกูกลับไทยคือหมดเงินเรียนต่อ กูเลยกลับมาทำงานที่ไทยก่อนเพราะภาษาตอนนั้นกูอ่อนมาก
ไม่ใช่ไรกูยังใช้เงินพ่อแม่ แล้วกูก็ไม่เก่งพอเอง กูเลยกลับมาเริ่มทำงานที่ไทยกับภาษา N3 แรกที่ๆทำงานกูก็แฮปปี้มากล่ะ เพราะเจอเจ้านายใจดีให้โอกาส แบบกูไม่ได้เริ่มเรียนภาษาตั้งแต่มปลาย กูมาเรียนเอาตอนจบมหาลัย กูเป็นพวกไม่ตรงสายแล้วเพิ่งเจอว่ากูชอบญี่ปุ่นกูเลยอยากไปเปิดโลกก็สมัครเรียนไปนั่นล่ะ
แต่ยอมรับกูไม่ได้เก่งพอจะหางานที่ญปได้ เลยสมัครมาเป็นล่ามโรงงานที่ไทย แบบโรงงานเพิ่งเปิด ซึ่งช่วงสองสามปีแรกก็มีความสุขกับการทำงานดี แต่มันเริ่มนรกแตกตอนเจ้านายคนแรกของกูเกษียรกลับไป พอมาเจอกับเจ้านายคนที่สองที่เขาแบบ เออติดหญิง แล้วกูพูดไรไปเขาก็ไม่เชื่อกู เพราะสังคมโรงงานมึงคงรู้เรื่องระบบเล่นพรรคเล่นพวก พอเราไม่ใช่พวกเขา แบบเพื่อนแทงกัน เพื่อขึ้นไป แล้วนายคนที่สองก็ดันไม่เชื่อใจกูเพราะกูก็ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานไปพูดอะไร แต่กูสัมผัสได้ว่า เขายิ้มต่อหน้านะ แต่ภายในคือเขาไม่เชื่อใจอะไรกูเลย แล้วกูก็ไม่เข้มแข๊งพอที่จะทนบรรยากาศสังคมแบ่งพวก แบบกูเป็นพวกที่อยากทำให้ทุกคนเข้าใจกัน แต่กูทำไม่สำเร็จเองล่ะ เพราะกูไม่ทันคนจริงๆ จนกูท็อคซิกเองเลยลาออกมา ตอนนี้กูทำงานเปลี่ยนบไปก็หลายที่เหมือนกัน แต่ใจกูคงแบบไม่เคยเจอเจ้านายจริงใจเหมือนคนแรก
แล้วคนญปที่มาทำที่ไทยก็มีทั้งดีและร้ายต่างๆกันไปนั่นล่ะ เลยเป็นเหตุที่มากุเลยว่าสังคมในตู้ปลามันโคตรดีมาก กูคงไม่มีวันกลับไปสัมผัสการทำงานแบบนั้น เพราะพอกูลาออกจากที่ทำงานที่แรก กูก็ยังหาบ.ที่เข้ากับกูไม่ได้จริงๆ จนตอนนี้กูมาทำฟรีแลนซ์เป็นจ๊อบๆไปก็สบายใจดีถึงเงินไม่ดีเท่ากับการทำงานประจำก็เถอะ
ทีนี้ส่วนรุ่นน้องกูทำงานกฏหมายจ๊ะ แต่นางมีสามีเป็นญี่ปุ่นแล้ว บ.ที่ทำก็แนวๆพวกมาต่อวีซ่า ไกล่เกลี่ย ว่าความ ซึ่งมันจะเจอผู้หญิงไทยมาแต่งงานกับคนญปเยอะ แล้วปัญหามันก็แล้วแต่กรณีด้วย แต่ที่น้องกูมีปัญหาคือ มันรู้สึกว่า อะไรที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยงานมันจะโหลดมาที่มันคนเดียว แล้วหัวหน้าที่เป็นทนายความเจ้าของบ.ก็ทรีตกับมันไม่ค่อยดีในช่วงหลังๆ อย่างเรื่องสัญญาการขึ้นเงิน ช่วงนี้มันก็ติดโควิดเนอะ น้องกูเลยโดนลดเงินเดือนค่าเดินทาง เพราะเจ้านายจะให้เวิร์คฟอร์มโฮมเยอะ แต่มันก็ติดเรื่องไปทำเอกสาร สุดท้ายก็ต้องนั่งรถมาทำงาน แต่ทีนี้ก็ไม่มีค่าเดินทางให้ตามแบบที่คุย แต่น้องกูก็แบบอยู่มาตั้งแต่บ.ไม่มีอะไรจนมาหลายปี มันเลยฟีลแบบเหมือนคนอยากจะเลิกแต่ติดกับการผูกพัน แต่นั่นล่ะ มันก็ชีวิตน้องเขา กูก็เชียร์ให้ลาออกหาที่ใหม่ในญป.ไป เพราะยังไงมีบ้านที่ซื้อไว้และน้องกูก็ไม่อยากกลับไทยเพราะหลายๆเรื่องที่มันเฮงซวยอยู่แล้ว
ทั้งนี้ที่กูว่ามันไม่เหมาะกับการไปอยู่ ก็เพราะไอ้เรื่องปรับตัวไม่ได้ ซึ่งกูก็เห็นด้วยกับจุดนี้ของมึง กูก็ไม่ได้บอกนะว่าไทยเป็นที่ๆดีที่จะอยู่ แต่คือ ที่กูอยากสื่อคือ บ.ญี่ปุ่นมันไม่ได้ดีทุกที่ แต่มันอาจจะมีบริษัทที่ดี ซึ่งจะหาเจอไหมก็แล้วแต่คนด้วย แต่คือเรื่องเงินอ่ะ ปัจจัยหลักเลย ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนจะเจอสิ่งที่อยากทำ อย่างกูก็มีรุ่นน้องอีกคนที่เจ้านายท็อคซิคชิบหาย แต่ทนอยู่เพราะเงินมันดีนั่นล่ะ กับหัวหน้าบางแผนกยังดีกับเขาอยู่มันเลยทำให้ทนอยู่กันไป
เอาจริงๆกูไม่ใช่ว่าไม่อยากหางานไปอยู่ที่ญปนะ แต่อย่างที่บอก กูยังหาบที่มันเข้ากับกูไม่เจอ ตอนนี้เลยแบบเออกูพอมีเงินหาเลี้ยงตัวเองได้ตอนนี้ กูเลยยังไม่ขยับไปไหน แต่ถ้าประเทศกูมันจะตกต่ำลงไปกว่านี้กูก็มองหาทางหนีทีไล่อยู่ แต่เงินที่กูหาได้ตอนนี้กูก็ยังสบายดี กูเลยว่ามันก็แล้วแต่คนล่ะ สุดท้ายมึงก็ต้องหาที่ๆเหมาะกับตัวเองให้เจอ