>>341 >>331 เชี่ยเอ้ย กุเป็นผู้หญิงนะ แต่กุคิดว่ากุเข้าใจพวกมึงว่ะ และกุก็คิดว่ากุเข้าใจเมียของพวกมึงด้วย อยากจะตอบแบบจริงจัง
กุไม่รู้ว่าเมียมึงมองยังไงเพราะกุฟังแค่จากพวกมึงฝ่ายเดียว แต่เท่าที่กุผ่านตาปัญหานี้มาบ้างจากคนอื่นๆ กุคิดว่าตอนนี้ทุกคนกำลังมองจากมุมของตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้มองจากมุมของคนเป็นครอบครัวเดียวกันอ่ะ ทั้งตัวมึง และเมียมึง ต่างคนก็อาจจะมองในมุมของตัวเองมันเลยเกิดความรู้สึกที่ว่า กูยอมเสียสละชีวิตกุไปมากมายแต่ทำไมพวกมึงไม่ยอมเสียสละเพื่อกูบ้าง สุดท้ายผลลัพธ์เลยเกิดเป็นความรู้สึกเสียเปรียบอยู่ตลอด
จริงๆอาจต้องมองย้อนกลับไปว่า definition ของการเป็นครอบครัวคืออะไร มันไม่ใช่แค่คนสองคนย้านเข้ามาอยู่ด้วยกัน ปั๊มลูกแล้วยังจะมีชีวิตเบาหวิวเหมือนเดิม มันมีเรื่องของความรับผิดชอบที่บังคับให้มึงแทบจะสละชีวิต 80% เพื่อครอบครัว กูหมายถึงทั้งผัวและเมียเลยนะ resource ต่างๆที่หามาได้มันจะถูกวาปไปกองกลางหมดเพื่อทำให้ครอบครัวมึงมีเงินทุนเดินต่อ เพราะงั้นหลังจากที่มึงตัดสินใจสร้างครอบครัว ความสุขของมึงมันต้องเปลี่ยนจากความสุขส่วนตัวเป็นความสุขของครอบครัวไปแล้ว มันเหมือนกับว่ามึงและเมียมึงกลายเป็นคนเดียวกันที่ถ้าทุกข์ก็ทุกข์เหมือนกัน สุขก็สุขร่วมกันอ่ะ
ปัญหาที่กุเห็นคือหลายคนไม่ได้มองว่าความสุขของครอบครัวเป็น first priority แต่ยังยึดติดกับความสุขส่วนตัวเหมือนตอนก่อนแต่ง ทำให้มึงเกิดความรู้สึกว่ากุทุ่มเทขนาดนี้กุควรได้รับบางสิ่งบางอย่างจากเมียให้เท่ากับที่กุจ่ายสิ เหมือนซื้อของอ่ะ แต่ในฝั่งเมียก็อาจจะมองแบบเดียวกันเพราะมึงก็ไม่รู้หรอกว่าเบื้อหลังเมียมึงรับมือกับอะไรอยู่ เมียเลยอาจมองว่ากุเองก็เสียสละขนาดนี้ ผัวก็ต้องเปย์กุสิ ไรงี้
ซึ่งไม่ผิดนะที่จะรู้สึกแบบนั้น แต่กุมองว่ามึงยังไม่พร้อมรับมือกับสิ่งที่ต้องเสียไปหลังจากสร้างครอบครัวมากกว่า หรือบางทีมึงอาจจะพร้อมแล้ว แต่ตัวเมียมึงเองก็ไม่พร้อม เลยทำพฤติกรรมแบบเป็นเจ้าของเงินมึง ทั้งๆที่ความจริงแล้วพวกมึงคือเจ้าของร่วมกัน มึงสามารถซื้อของไร้สาระได้ตราบใดที่ไม่กระทบกับครอบครัวทั้งทรัพยากรและความรู้สึก แต่พอทั้งคู่รู้สึกแบบที่มึงเป็นอยู่ก็เลยมักจะรู้สึกว่าต่างคนต่างถูกเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลาจนพอเห็นว่าอีกคนเอาเงินไปใช้กับความสุขบางอย่างก็จะเปรียบเทียบว่าทำไมกุทำไม่ได้ หรือไร้สาระชิบหายทำไมไม่เอามาให้กู ทั้งๆที่ความจริงแล้วมึงสามารถยินดีที่คนในครอบครัวมึงมีความสุขได้อ่ะ
ที่พูดนี่ไม่ได้ว่าใครนะ กุมองแค่ว่าสังคมเราบางทีอาจจะไม่ได้ประเมินเพียงพอว่าเพื่อสร้างครอบครัวเราต้องแลกอะไรไปบ้าง แล้ว worst case เป็นไง คิดแค่ว่ารักก็แต่ง อยากอยู่ด้วยก็แต่ง หรือถึงเวลาก็แต่ง อาจจะประเมินไม่ลงลึกพอว่ามึงสามารถทำให้ครอบครัวกลายเป็นความสุขของมึงแทนเรื่องอื่นๆได้มั้ย มันเลยเกิดเป็นความไม่แฟร์ในครอบครัวขึ้นมา