>>606 wrpg ส่วนใหญ่เด่นที่ทุกการกระทำของมึงจะส่งผลกับเหตุการณ์หลังจากนั้นแทบทั้งหมด
เช่น Witcher 3 มันจะมีเควสช่วยศัตรูเก่าจากภาค 2 (ถ้ามึงเลือกให้มันยังไม่ตายจากภาค 2 อะนะ) ถ้ามึงช่วยไว้ได้ ในเนื้อเรื่องก็จะมีมันโผล่มาช่วยตอนหลัง แล้วก็มีทำนองนี้อีกเยอะ เช่นใน side quest เลือกช่วยหรือฆ่าคนนั้นคนนี้มันจะส่งผลในฉากจบเนื้อเรื่องหลัก รวมทั้งการพูดคุยตอบคำถามของกับ npc ล้วนมีความสำคัญกันหมด
การที่มึงเลือกไปสำรวจสถานที่นึงแล้วทำบาง side quest ก่อนที่ main quest มึงจะไปถึง บทพูด npc มันก็จะเปลี่ยนไปก็มี
แล้วก็เควสที่ไม่ส่งผลกับเนื้อเรื่องหลักก็มี แต่ส่งผลกับ event เช่นมึงเลือกปล่อยโจรไป ซักพักมันตามมาล้างแค้น มาตอบแทนบุญคุณ
อย่าง skyrim หรือ dragon age ก็เป็นแนวๆนี้เหมือนกัน
เอาง่ายๆ คือเกม wrpg มันมีอิสระมาก อยากทำอะไรก่อนก็ทำ หรือไม่ทำก็ได้ อยากลุยที่ไหนก็ได้ เดินไปได้เลย ไม่ค่อยเน้นการ grinding หาอาวุธลับบอสลับเท่าไหร่ ซึ่งมันก็คือเสน่ของมัน คอ jrpg เดนตายอาจจะไม่ค่อยชอบ เพราะมันดูไร้แก่นสาร แล้วก็เนื้อเรื่องหลักเกมพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยน่าติดตาม เน้นไปที่เควสรายทางมากกว่า
ส่วน jrpg จุดเด่นคือ เนื้อเรื่องมักจะทำได้น่าติดตามกว่า มีความลับให้เก็บ สู้บอสลับสุดโหด ข้อเสียคือส่วนใหญ่เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรง เควสย่อยน่าเบื่อแล้วก็ฉากเบียวๆเยอะไปหน่อย
ส่วนกูชอบทั้ง 2 ฝั่งนั่นแหละ