ผมเพิ่งเคลียร์งานต้นเดือนเสร็จ ตอนแรกอยากเขียนตั้งแต่ช่วงที่มีประเด็นหละ แต่มันไม่ว่างๆ แต่ตอนนี้ว่างหละ เผื่อใครมาอ่านนะครับ ผมรู้คุณอ่านอยู่แล้วหละ ไม่งั้นไอ้โพส Majority ผมคงไม่ไปโผล่เร็วขนาดนั้น (ฮา) เห็นมีน้องๆบอกว่า
"คุณกันๆ.....ยืนตายคืออะไรว่ะ..."
ผมก็นั่งงงอยู่พักนึง แล้วก็ถึงบางอ้ออออ ว่าน่าจะหมายถึง Death Stranding หละมั้ง แต่มันต้องเป็นคำว่าตายเกยตื้นไม่ใช่หรอว่ะ ทำไมมันใช้เป็นยืนตาย (Death Standing) ไปซะงั้น
เพราะ Stranding มันคือปรากฎการณ์โลมาที่มาตายเกยตื้น...แล้วมันทำไมว่ะ พอรู้ที่มาที่ไปก็เข้าใจว่า เขาแซวว่า
"ผมชอบ Open World มากๆ ความลำบากในการเดินทางทำให้มีคุณค่า แต่ผมดันเล่น DS ไม่จบ ไอ้คำพูดของผมมันโครตย้อนแย้ง ไหนว่าชอบนักไง"
ผมนี่นั่งขำก๊ากเลยนะ แหมอะไรๆก็ฮาจริงๆ ไม่ได้เจอกันนานพี่ก็ยังทำให้ขำได้ตลอด การที่ผมจะชอบ Open World มากๆ มันไปโยงกับการที่ผมเล่น DS ไม่จบได้ไงหละ ตีความผิดในที่เคยคุยกันสมัยก่อนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แค่เพราะบอกว่าเล่นไม่จบ แต่ชอบเกมนี้ นี่คือย้อนแย้ง 555555
แต่ผมก็เข้าใจได้แหละครับ น่าจะเพราะพิมพ์ยาวไปหน่อย เลยหมดโควต้าอ่านกัน ก็เลยจะเขียนไว้สักนิดหละกัน แต่ดูทรงแล้วก็ไม่น่าอ่านหรอก โควต้าหมดก่อนอีกนั่นหละ แต่ช่างมันสำหรับคนที่อ่านหละกัน
การเล่นเกมจบไม่จบ ไม่เกี่ยวกับมันสนุกหรือไม่สนุกครับแค่เพียงปัจจัยเดียวครับ บางคนซื้อเกมมาเล่นและก็ดองยาวๆมันก็มี ตอนผมซื้อ PS4 มาผมซื้อมา 20 กว่าเกม แต่ผมเล่นจบจริงๆแค่ 5-6 เกมเอง
ขนาด Final Fantasy VII Rebirth ผมซื้อ PS5 มาเพื่อเล่นเกมนี้เกมเดียวก็ถือว่าผมคุ้มแล้ว อยากเล่นนักเล่นหนา สุดท้ายกว่าผมจะจบก็เกือบประกาศ Game Award ทั้งที่สนุกมากเลยนะ แต่บางทีเราก็ไม่ได้เล่นจนจบในแปปๆ
เพราะเรามีงานด้วยหละครับ มันเลยไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นแล้ว แค่ทำเพจ ทำช่องก็วุ่นพอหละ แต่ถามว่า DS สนุกไหม มันเป็นเกมที่ผมให้นิยามว่า
"เกมที่ควรเล่นครั้งนึงในชีวิต"
มันคือครั้งนึงจริงๆ ที่คุณจะได้สัมผัสความยากลำบากในการเดินทาง มันยากจริงๆนะ แค่ทรงตัวเดินถือของเอง แถมเป็นโลกล่มสลายด้วย โดนใจผมมาก
แต่ก็ต่อให้โดนใจแต่ก็ยังไม่ได้ถูกใจขนาดนั้น เพราะมันมีพวก BT เข้ามา มีเรื่องการต่อสู้ที่มันไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้น แต่มันสนุกในตอนวางแผนว่าจะไปถึงจุดหมายยังไงจริงๆหละนะ
ในขณะที่เกมที่พี่เอามาแซวๆผมว่า ผมชอบความยากลำบากแบบ Genshin นั้น น่าจะตีความหมายของ First Impression ในการที่ผมได้เห็นความสวยงามและความลำบากในการเดินทางไปถึงจุดสูงสุดของ Liyue ผิดนะครับ
เพราะ G ที่ผมยกตัวอย่าง นั้นคือการบอกว่า การที่มันไม่ได้ไปง่ายๆ (มันก็ไม่ง่ายจริงๆ) มันทำให้เราต้องวางแผน แล้วเวลาเราเหนื่อยมากๆ จากการเดินทางแล้วได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม มันจะทำให้เรารู้สึกเดินทางมาคุ้มค่าจริงๆ
ซึ่ง DS ผมก็มีฟีลแบบนั้นเหมือนกันนะ แต่เนื่องจากโลกมันล่มสลายนี่สิ มันเลยเป็นความหม่นซึ่งอาจจะไม่ได้ถูกใจผมทั้งหมดขนาดนั้น สรุปเลย
มันเป็นเกม Open World การเดินทางที่ยากลำบากที่ถูกใจผมมากๆ แต่เกมที่ผมถูกใจ ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะเล่นจบ เราก็แค่ซื้อมาเล่นเพื่อสนับสนุนผู้พัฒนาที่ทำอะไรใหม่ๆ แตกต่าง ผลงานชิ้นแรกอย่างเป็นทางการของเทพโคจิม่า แต่จบไม่จบนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วมันถูกใจผมถึงท้ายสุดให้ผมอยากเล่นจนจบไหม
แต่ผมแนะนำให้พี่ๆลองหามาเล่นดูก็ดีนะครับ เกมดีจริงๆนะ ในด้าน Open World ผมซื้อมาตั้งแต่วันแรกๆที่เกมออกเลย เกมดีที่จะได้สนุกกับการเดินทางที่ยากลำบากไปในโลกที่ล่มสลายจริงๆ ภัยพิบัติน่ากลัวจริงๆ สมกับคำว่า "โลกล่มสลาย" ครับ