https://www.facebook.com/talkwithphawutv2/posts/pfbid0nLSa3gi79GNmJYpdPUtNAkbYh9mFykrxoRVsXLLekPx7RqHzm1qUaV6LLyjB2t2hl
📝 'Post-Apocalypse' คือ ธีมของสื่อร่วมสมัยที่มักนำมาใช้สร้างเซ็ตติ้งภายในผลงานต่างๆ ด้วยความง่ายในการสร้างโลกที่ล่มสลายไปแล้ว เปิดเส้นทางการออกแบบโลกตามที่ผู้สร้างจินตนาการ แต่ยังมีความยากในการสร้างสรรค์ Lore ที่จะทำให้ผู้เล่น 'อิน' กับความล่มสลายที่ว่า
"Genshin Impact" ก็ถือเป็นหนึ่งในเกมที่มี World Setting เป็นแนว Post-Apocalypse เช่นกัน และไม่ใช่ล่มสลายแค่หนึ่งแต่ล่มมาแล้วอย่างน้อยสามรอบ ทั้งครั้งแรกที่ 'ปฐมราชา' มาเยือน นำไปสู่การพลิกโฉมพิภพแห่งแสงให้กลายเป็นแดนมนุษย์ ครั้งที่สองภายหลังสงครามล้างแค้นของราชานิเบลรุงที่นำหายนะมาสู่ทั่วทุกแห่งของโลก และครั้งล่าสุดคือ 500 ปีก่อนที่เกิดจากความบ้าคลั่งของราชาเออร์มิน นำไปสู่มหาสงครามคานเรียห์ที่ทำลายหน้าประวัติศาสตร์ สร้างความสูญเสียมหาศาล
แม้ Post-Apocalypse ที่เกมชื่อดังอื่นๆ นิยมทำกัน อาทิเช่น Nier Automata ที่มีเซ็ตติ้งเป็นโลกหลังเหตุการณ์ของ Replicant/Gestalt ที่มนุษยชาติอพยพไปอยู่บนดวงจันทร์ทิ้งไว้เพียงโลกเปล่าๆ ที่สิ่งมีชีวิต แอนดรอยด์ และจักรกล ต่างแสวงหาความหมายของชีวิตพวกตน ในโลกล่มสลายที่ไร้ความหวัง มันทั้งหม่นหมองและมืดมัว แต่ Post-Apocalypse ของ Genshin กลับนำเสนอมาในรูปแบบที่สดใส สว่าง และสวยงาม ผิดแปลกจากเกมอื่นในแนวเดียวกันอย่างสิ้นเชิง จนทำให้บางคนอาจคิดว่า "เก็นชินเป็นแค่เกมสดใสให้เด็กเล่น"
ด้วยความสดใสของมัน แม้จะมีข้อดีที่ทำให้การสำรวจโลกกว้างไม่น่าเบื่อ แต่ก็มีข้อเสีย(?)เช่นกัน ที่หากผู้เล่นไม่ได้สนใจที่จะสำรวจและทำความรู้จักกับ 'โลก' ตามที่ฝาแฝดเราเคยบอก เราก็จะไม่มีทางรู้เลยว่า "เทย์วัตคือโลกหลังการล่มสลาย" แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังมีบางพื้นที่ที่คงอยู่จากโบราณกาลสมัยการล่มสลาย ที่จะหลงเหลืออยู่มาถึงปัจจุบัน ซี่งมันก็ทิ้งร่องรอยของหายนะสลักลึกเอาไว้ในผืนดิน ให้คนรุ่นหลังได้พบเห็นและเติอนใจ ถือเป็นชั้นเชิงการนำเสนอโลกล่มสลายที่เป็นรางวัลสำหรับนักสำรวจเกมมิ่งได้ยอดเยี่ยม
ก็ต้องรอดูต่อไปในอนาคตว่าตัวเกมจะเริ่มนำเสนอ 'โลกล่มสลาย' ให้ชัดเจนเด่นขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ มีแค่อนาคตที่จะล่วงรู้ ☄️
#GenshinImpact