ป้าแก่เมต้าแน่นอน ภารโรง hg ไลน์มาบอกกูเมื่อหัวค่ำก่อนฝนตก
ป้าแก่เมต้าแน่นอน ภารโรง hg ไลน์มาบอกกูเมื่อหัวค่ำก่อนฝนตก
คนที่เล่นตั้งแต่akมู้1ยังอยู่กันอีกปะหรือเลิกไปหมดละ
กุมาเล่นช่วง code of brawl ไม่รู้มู้แรกมันตั้งตอนไหนตั้งแต่เบต้าเลยมะ
day เกือบๆ 1 เพราะรีหาเอจ้าอยู่หลายวัน
กูเล่น Week 1 มั้ง แต่เลิกเล่นไปตอน Code of Brawl มาพอดี เพราะตอนนั้นรู้สึกว่าตู้มัน + ตัวใหม่มาถี่เหลือเกิน 2 อาทิตย์มาทีแล้วงี้ เลยเลิกไปเพราะไม่มีปัญญาเติม
กลับมาเล่นอีกครั้งตอนก่อน CC 6 มาซักพักมั้ง ราวๆ รีรันคุกพี่เสือ แล้วก็ยาวมาจนถึงทุกวันนี้เลย orz
แต่ตอนนี้ชักอยากเลิกเล่นเหมือนกัน มันไม่มีจุดหมายจะเล่นเท่าไรแล้วอะ ตัวเทพๆ มีเกือบหมดละ ทรัพยากรและโรงงานล้นจนขี้เกียจเข้าไปเช็ค
ส่วนเนื้อเรื่องอีเว้นท์... สารภาพเลยว่าที่เอามาเขียนสรุปให้อ่านนี่ กูอ่านจากเว็ป Story reader ล้วนๆ แทบไม่ได้อ่านในเกมละ
>>459 ส่วนกรานี่ เนื้อเรื่องหลักไม่มี แต่ชอบโผล่ในเนื้อเรื่องเสริมของตัวละครอื่นๆ
ที่รู้คือปัจจุบันกลับไปเป็นตำรวจแถบบ้านนอกของ Victoria ห่างไกลสงครามในช่วงเรื่อง Ch 9-14 แล้วพักร้อนก็จะแวะไปเยี่ยม RI เป็นครั้งคราว มีโผล่มาเยี่ยม Mudrock บ้างแค่นั้น
ไอ้คู่ขากรานี่ + สกาดี้ นี่กูว่าน่าจะมาจากยุคนั้นตัวละครน้อยเลยจิ้นกันไปเองนั่นล่ะ ทั้งที่ในเรื่องแม่งไม่มีโมเม้นท์อะไรกันเลย
เหมือนซาเรีย + ไซเลนท์ ที่คอมมูชิปกันซะเป็นเรื่องเป็นราวระดับพ่อบ้านใจกล้า ที่ไหนได้ซาเรียติดหมาโกลเด้นมากกว่าอีก
กูจำได้ว่าตอนเกมนี้มาแรกๆโคตรเป็นกระแส พวกทำช่องแห่มาเล่นกันเพียบ แต่ไม่ถึงเดือนเลิกหมดเพราะเกมไม่มีไรทำ
ส่วนตัวตอนนี้กูอยากให้ cc กับ dos มาบ่อยๆกว่านี้หน่อย
cc แบบใหม่ที่ไม่ต้องลงทุกวันนี้แบบนี้กูโคตรชอบเลย
กูย้อนกลับไปอ่านตอนมู้1ตอนนี้14ละ วีที่เล่นakเมื่อ2ปีก่อนเลิกเล่นกันเยอะเลยแหะ
>>473 https://www.youtube.com/results?search_query=アークナイツ&sp=CAI%3D
เย ดเข้ 555555 กุคิดว่ามายคราฟ
กูนึกว่าพวกวีจะเล่นเกมค่ายหมีซะอีก
ตู้ของ ascalon นับเป็นตู้ standard ไหม
https://www.youtube.com/results?search_query=アークナイツ&sp=EgJAAQ%3D%3D
แข่ง is4 กันอยู่นี่หว่า
คอมมูยุ่นนี่แม่งแข็งแรงจริงนะ จำได้ว่าตอนปีใหม่แม่งมารวมกันก๊งเหล้าเมาเละเทะคาสตรีม อย่างฮา
ชิ่วๆ
หิวก็ไปมู่มึงนู่น
ควายสัสเอาฐานแฟนเกม 4 ปีมาเทียบกับเกมที่เกิดมายังไม่ถึงปีดี
กุว่าคอมมูakมันพิเศษตรงที่ไอ้พวกสตรีมเมอร์มันเล่นเพราะชอบเกมจริงๆไม่ได้หาตังทีนี้มันเลยมีแต่คนที่ชอบจริงๆมารวมกันไม่ต้องตีหัวสร้างดราม่าแย่งแสงกัน แล้วพวกตัวโตๆมันช่วยตัวเล็กๆตลอดด้วยมีจัดกิจกรรมนู่นนี่กันเองตลอด ตัวเล็กตัวน้อยที่มาใหม่มันก็ได้โอกาสโปรโมทตัวเองให้เป็นที่รู้จัก
อย่างที่มันจัดแข่งกันล่าสุดนี่คือเอาตัวโตๆมาเป็นโฮสแล้วให้หน้าใหม่แข่งกันเอง
ของเขาแรงจริงว่ะ พูดถึงนิดหน่อยไม่ได้เลยกัดเป็นหมาบ้าทันที
ถ้าเกมมันดีจริงต่อให้เริ่มต้นมาแย่ก็เรียกคนกลับมาได้อยู่ดีเหอะดู ba nikke เอาก็ได้ หรือไม่มั่นใจว่าเกมตัวเองดีกว่าไอ้พวกนั้น ทั้งที่เห็นคอมมูโม้ว่าดีกว่าเกนชินอย่างงั้นอย่างงี้
https://x.com/rxr_jp/status/1842822101063061544?s=46&t=MbLe2s6MiKkSoUOvZqWJiA โอ้โห้ ไถทวิตผ่านนึกตัวAKที่ไม่รู้จัก
ขยะที่ไหนหลงมาดิ้นอีกวะ5555 กลับไปกัดกันในบ่อชี้พวกมึงเหอะ
ไปกัดกันที่อื่นไป ชิ่วๆ
ซีจสวยว่ะ
เชี่ย Youtube หลายช่องเริ่มทำการขาย Ascalon แล้วว่ะ
กูโรลแน่แหละ ชอบสายนี้เป็นการส่วนตัว หวังว่าคงไม่แดกเกลือนะ
กุก็คงกดให้ออกหกดาวตัวนึงถ้าหลุดก็คงไปปั้นริมุรุที่หลุดมาตอนตู้แมวเศร้า
skipๆ ไปเหอะโซโล่ไม่ไหวซักด่าน
https://www.youtube.com/watch?v=Yiba4Je2m7Y
เปิดมา 5 ปีรายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหมือนบางเกมแถวนี้เปิดได้ 5 เดือนยอดลงเหวลงทุกเดือน
เกมไรวะ ptn กับโค้ดกีอัสเหรอ
ว่าแต่กราฟเป็นแบบนี้แม่่งยาวๆ มา5ปี พูดได้เต็มปากแล้วมั้งว่าเกมคุณภาพ
skip มันสำหรับพวกจน ไม่ชอบเติมก็ไม่ต้องไปหวังจะได้ 10 โรลฟรีแบบเซิฟยุ่นมัน
CC มันหมด 6 โมงวันไหนอ่ะพี่โม่ง
พวกมึงว่าendfieldจะเพิ่มโมเดลตัวละครอีกปะเพราะตอนนี้มีแค่มีสองแบบเองอะผู้ชายตัวสูงกับผู้หญิงวัยรุ่น
ยังไงก็อาจมีเฟอรี่อ่ะ พี่เสือสุดเข้มภาคนี้อาจจะมาเป็นสิงโตหนุ่ม เมียไอ้หนุ่มแล่ปลา(ลืมชื่อ)ภาคนี้อาจจะมาเป็นแมวหน้าขนก็ได้ ไหนจะพวกหุ่นกระป๋อง 3* เอามาเป็นตัวแจกบัพในทีมสำหรับสายฟรี
ตลกดี
Clovisia จริงๆเป็นยูนิคอนอมตะอยู่ในวิคตอเรียมาหลายรุ่นล่ะ แต่มาทำเนียนในกลุ่มต่อต้าน
แสดงว่าตอนเจอกับลา ลาก็รู้ แค่ไม่บอกคนอื่น
ท่าทางตัวละครอมตะในเรื่องเริ่มทยอยออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ แฮะ
ในเพจมีคนจับไต๋ได้อีกว่าอีโคลวิเซียนี่แหละที่เป็นคนปล่อยข่าวว่าพ่อปลาทูน่าไปตีหม้อน้องสาวเหว่ย
>>523 ตอนนี้ที่รู้แน่ๆ คือ
1. งูดำ รู้ๆ กันอยู่แล้ว
2. Nowell เผ่าแมว คนเร่ร่อนที่เข้าร่วม Reunion ช่วง Ch.13 ก่อนจะถอนตัวออกมาตอนจบบท
3. Old Tianshi หรือยัยโทรโข่ง ปรากฏตัวช่วงอีเว้นท์ Shu ตอนนี้คอมมูเดาว่านางน่าจะเป็นครุฑ
4. กวาง 9 สี เดิมทีเป็นตัวละครโคแลป แต่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในตัวละคร Arknights ไปละ
ถ้าไม่นับหมอแมวด้วย ตัวที่ 5 ก็ Clovisia นี่ล่ะ
อมตะที่ไม่มีวันตายเลยมั้ยหรือแค่สามารถอยู่ไปได้เรื่อยๆสามารถตายจากอย่างอื่นได้
ยูนิคอร์นเป็นเชื้อพระวงศ์ฝ่ายที่สาม มันมีบอกตั้งแต่ช่วงแรกๆว่ายูนิคอร์นเป็นพวกผู้ปกครองดั่งเดิมของวิกเตอเรียก่อนจะโดนพวก draco โค่น
จากนั้นก็อยู่ในเงามาตลอด
ตัวถือเคียวคือใครอ่ะ เหนละจิตหงุดเงี้ยว
ว่าไปถ้าเอาไฟไปชาร์จให้แพเทรียทมันจะกลับมามีชีวิตได้ไหม?
ขอลูก kamamesi ที่วาด utage อีกสักคนเถอะตอนนี้ขยันออกแบบวีทูบเบอร์เหลือเกินแถมอีเว้นท์ยุ่นไม่แวะไปสักที
A reveal in Ending a Grand Overture (CN Spoilers)
**Source: GO-9 AFTER**
Vina: ......Should I ask why you're here-
*Behind the throne, a white figure emerged from the shadows.*
*"In the many legends of Victoria, we can always catch a glimpse of that fairy."*
*"Power, intrigue, destiny, dreams come true, and just like the fairy tales that have been passed down through the centuries, she seems to have different powers, yet no one can pinpoint which one is the real her."*
*"Vina, what did you see?"*
*"I see a Unicorn."*
???: Vina, you have greatly exceeded my expectations and you have opened my eyes to new possibilities.
"Unicorn": Lay down your weapon, I am not your enemy.
"Unicorn": We have fought side by side before, haven't we?
Vina: Who are you anyway, Unicorn?
"Unicorn": Daughter of a tailor, leader of the Self-Salvation Corps, and Victoria's witness...
"Unicorn": Of course, there are still many poor old people who, even on their deathbeds, still wishfully call me "Lord Protector" just like in the history books they wrote.
"Unicorn": During the hundreds of years I've lived in Victoria, I've shed way too many identities, but right now, I am Clovisia-
"Unicorn": A friend who is sincerely pleased with your accomplishments. Does that answer satisfy you, Vina?
Vina: Huh, another immortal? You deceived all of your comrades in the Self-Salvation Corps and Rhodes Island.
"Unicorn": Deceive? I've never deceived anyone. People had a wish, and I have fulfilled it.
"Unicorn": Commoners troubled by the Sarkaz wished to live, so I created the Self-Salvation Corps to find a way to survive.
"Unicorn": The ancient family caught in the power struggle did not want to be consumed in the maelstrom of the Empire, so I took care of all the threats that would endanger the continuation of the Duke's bloodline.
"Unicorn": Frederick III hoped that Victoria would not be thrown into chaos by the Red Dragons, so I've fulfilled that wish of his as well.
Vina: ...So now you've come to me as well?
"Unicorn": Alexandrina, daughter of Alistair, how could you think that only now I noticed you?
"Unicorn": Vina, history is a sailing ship, and it's you who decides its course.
"Unicorn": Since you want to change Victoria, I can help you. How do you want to achieve your vision?
"Unicorn": King. Speaker of the Parliament, or even the sole leader of the Exemplars. The choice is yours.
"Vina, your stories are always lacking in originality. I've read too many like them in those old books."
"It always ends with the hero accepting the fairy's gift. So, you choose to be the Speaker...?"
"No, I didn't choose anything, Diane."
"Centuries of ups and downs have accustomed the Unicorn to choosing who the hero is, and the heroes only have to pick what rewards they want."
"But why?"
"Why?"
"Yes, why do I have to choose?"
"Unicorn": Why are you laughing, Vina?
Vina: Do you hear the voices outside?
Vina: They were cheering for our victory, but also for Victoria itself.
Vina: Many of them only care about themselves, and don't have the heart to protect anyone. Sometimes, they are so stingy they are unwilling to share a morsel with the famished.
Vina: Yet, even so, they are willing to put their lives on the line. They are my Victoria.
Vina: I like the bastards, and and I'm willing to protect those fools.
Vina: You have no right to make me choose what I've been already doing for a long time, Clovisia.
Vina: Ha, I'm afraid you'll have to go, unless you're willing to be embarrassed.
"Unicorn": ....
???: Siege!
"Unicorn": You are a fool, Alexandrina, just like your father.
"Unicorn": Tell them that the tailor's daughter is dead.
"Unicorn": Their wish, I have fulfilled it.
Ageless ยูนิคอร์นนี่อันตรายกว่างูดำอีก
มาแบบใครขอพรอะไรก็จะประทานพรให้แบบแปลกๆ
เกลียดมังกร อยากให้มังกรหายไปจากวิคตอเรียก็ทำให้มังกรแดงตีกัน
Duke อยากมีกองกำลังของตัวเองเป็นอิสระ ก็เดินการเมืองให้เกิดระบบเพี้ยนๆแบบนี้ขึ้นมา
พ่อวิน่าขึ้นภาษีขุนนาง ขุนนางเลยอยากให้ราชาตาย ก็สร้างเรื่องซะเลย สุดท้ายราชวงศ์อัสรัสก็ล่มสลาย
ชาวบ้านอยากรอดจากมารบุก ก็ให้พรโดยการสร้างกลุ่มต่อต้านขึ้นมา (self salvation corp)
แม่มโคตรติสก์เลยอีนี่ บรรลัยกว่างูดำอีก
แอสคาลอนลองใช้หลังหมุนสดๆ แรงเบียดมิซึกิยับเลย ขนาดยังไม่ได้ทำ m3 หรือเก็บ trust นะเนี่ย
ascalon50โรล เยี่มสุดๆ
เพิ่งสังเกตอีเว้น 3 อาทิตย์เลยว่ะ ใครบ่นเก็บเพชรไม่ทันมึงได้เวลาเก็บสมใจละ
เนื้อเรื่องเศร้าชิบหายยยยยยย
ด่าน 9 บังคับให้เราปิดทางให้นักฆ่าไปหาเทเรซ่าด้วยสัส
กัดลิ้นตายแป๊บ เปิดไปมาโดนการันตี Ascalon ซะงั้น orz
คือ 6 ดาวออกรัวๆ นะ ออกมาตั้ง 5 ตัว แต่คือหลุดเรตหมดเลยหงุดหงิดจนลามไปเรื่อย ท้ายที่สุดจบที่การันตี แถมตัวซ้ำล้วนๆ มี Ray ตัวเดียวที่ไม่ซ้ำนี่ล่ะ
สงสัยอีเว้นท์แมลงสาปคงต้องเติมเพิ่มตามที่คาด เอาวะ! เติมปีละหนคงไม่เป็นไร
80 ไขได้ป้าแต่ Lutonada 4* แท้ๆแม่งไม่ออกสัสเอ้ย แฟ้ม 4* ร้านตั๋วเขียวจะมีให้ไหมวะ
เนื้อเรื่อง babel นี่บอกตรงๆอ่านจบกูเหวอไปเลย โดยเฉพาะไอ้หมอ... ปล.น้องลาตัวจิ๋วน่าร๊าก
เหลาที กู skip ตลอดเพราะง่วง
มีเรื่องอะไรเหนือธรรมชาติเปล่าวะ
น่ารักดีจังวะ ถถ+ ใหญ่แค่ไหนก็ต้องเจอเอกสาร
https://imgur.com/a/W7GVOXE
อีเวนท์นี้ชอบหลายๆอย่างเลยว่ะ อย่างโลโก้บาเบลแตกเป็นโลโก้โร้ดส์ ภาพกระจกแตกตรงหัวชมพู เอาแปลกใจเหมือนกันที่ w กับหมอแคลมันไม่สติขาดแล้วเชือด doc ทิ้ง
อีเว้นท์นี้เนื้อเรื่องปวดใจชิบหาย แต่อ่านไปได้ยังไม่ถึงครึ่งเลยฮืออออ
บทเนื้อเรื่องย้อนหลังของตัวละครเรานี่มีปีละบทใช่ปะวะหรือสองปีบท รอบที่แล้วนี่ vigilo เลยปะ
อ่านแล้วงงตรงเทเรซ่าตายเพราะอะไรกันแน่ ภาษากูไม่แข็งแรง
โดนฆ่าไง
เทเรซ่าไม่ได้ดีอย่างที่คิด
โอ้ยยยย กูจะอ่านให้จบๆ จะได้มาเขียนสรุป แต่เวลาไม่มีเลยวุ้ย
ตอนนี้หยุดไว้ที่ด่าน 8 เหลือ 9-10 แต่ต้องออกไปธุระก่อนอีก
ถ้าเอาสรุปสั้นๆ มันก็คือเรื่องทั้งหมดเกิดจากความเห็นไม่ลงรอยกันสองพี่น้อง + กระแสสังคมของ Kazdel ด้วย
Theresa อยากจะสร้างโลกที่สวยงาม พัฒนา Originium หยุดความเจ็บปวดจากการติดเชื้อไม่เกี่ยวเผ่าพันธุ์เลยสร้าง Babel ขึ้นเพื่อเป็นบ้านให้หมอแมว ในขณะที่ Theresis เน้นนโยบาย Sarkaz first ทุกอย่างเพื่อรวม Kazdel กลับมาให้ยิ่งใหญ่แต่ติดปัญหาคือตัวเองเป็นน้องชาย ตำแหน่ง King of Sarkaz อยู่กับพี่สาวเลยทำอะไรไม่ได้สะดวก
และจุดเริ่มต้นความแตกหักระหว่างทั้งสองอยู่ช่วงสงครามกับ Leithanian ที่ทหารผ่านศึกโกรธแค้นหมอชาว Leithanian ของ Babel จนเกิดคดีฆาตกรรมขึ้น และกระเพื่อมกลายเป็นวงกว้างจนหลายปีต่อมาชาว Kazdel บางส่วนเริ่มไม่ต้อนรับ Babel และเผ่าพันธุ์อื่น ในขณะที่บางส่วนก็ชื่อว่า Babel จะนำอนาคตที่ดีมาได้ สองอุดมการณ์ขัดแย้งกันกลายเป็นสงครามกลางเมืองทำให้ Babel ต้องถอนตัวออกจาก Kazdel ไปพร้อมกับ Theresa ซึ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะโอเคไปซักพัก จนกระทั่ง Theresis เกณฑ์ชาว Kazdel เพื่อเริ่มแผนการบุกยึด Victoria ทำให้ความสัมพันธ์กับ Theresa พังทลายในที่สุด
ส่วนปัจจัยสำคัญที่เร่งการล่มสลายของ Babel คือตัวเรา doctor นี่ล่ะ ซึ่งกูยังอ่านไม่ถึงว่าสาเหตุอะไรทำไม doctor ถึงทำงี้ แต่ช่วง BB-8 Theresis เปรยๆ มาว่า Doctor เลือกที่จะจมอยู่กับอดีตอันรุ่งเรืองของเผ่ามนุษย์ แทนที่จะเลือกอนาคตที่ Theresa ปูเอาไว้ ซึ่งเดี๋ยวขอย้อนอ่านแบบละเอียดอีกรอบแล้วค่อยมาเขียนสรุปดีกว่า เพราะตรงนี้มีประเด็นเยอะพอตัวแถมยังโยงไปดาว Talos-II ใน Endfield (อีกละ) ด้วย
น้องรูตูดน่าเด้า4ดาวตู้นี้เก่งน่าปั้นไหมวะ
อ่านเนื้อหาจบละเฮ้อออออ อ่านในเกมนี่มันเหนื่อยชะมัด
เดี๋ยวเปิด Story reader อ่านย้อนอีกรอบค่อนเขียนสรุปดีกว่า orz
กุเปิด yt ค้นหาข้อมูล Witch-king of Angmar แต่มาเจอคลิป Witch King of Arknight เห็นว่าเท่ดี
ถามหน่อยตัวนี้มีให้เปิดหาเปล่าดูในคลิปเหมือนจะเป็นบอส
วิชคิง : "กูอยู่ของกูดีๆแล้วแท้ๆ"
โหยสรุปงานนี้โคตรยาวเลยว่ะ เขียนไป 10 กว่า part ละเพิ่งได้ครึ่งเรื่องเอง
ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้อะถึงจะเขียนเสร็จ อาจจะต้องใช้เวลาตรวจเยอะหน่อยด้วย คงลงช้าอะนะรอบนี้
อ่านแล้วรู้สึกว่ายาวแค่โหนดแรกๆที่มันปูเรื่อง พอพ้นช่วงด่าน3ไปนี่คือติดหนึบ อ่านโคตรมัน
เพชร 120k ตั๋วประปราย รอแพ็คครบรอบน่าจะพอ 300 ทัน
โหนดสุดท้ายเป็นโหนดสตอรี่ไม่มีเสียงพากย์แต่แรกแล้ว โทรลขยะจะโทรลทั้งทีไม่เล่นเลยอ่ะครับ
ขะ... เขียนสรุปจบแล้วว 6800 คำ ความยาว 18 หน้ากระดาษ A4
เดี๋ยวขอเวลาตรวจสอบเนื้อหาให้มันตกตะกอนก่อนแล้วค่อยแก้ จากนั้นค่อยเอามาลง + อัพขึ้น drive ให้เช่นเคย
ตอนนี้ขอตัวนอนตุยก่อนละ นั่งอ่านย้อนตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ พร้อมเขียนไปด้วยนี่กินเวลาไปครึ่งวันเลย
ทำไมงานอดิเรกมันกินเวลากว่างานจริงวะเนี่ยยยยยยย
โทรลในโม่งคุณภาพมันตกไปเยอะจากสี่ห้าปีที่แล้วนะเนี่ย
ระดับแต่โทรลขยะก๊อบวางอ่ะ มึงดูไอ้โทรลยูริกับโทรลกำพลก็ได้ ดางรุ่งในอดีตอย่างไอ้เอ๋อดาบแช่เยี่ยวก็โดนทุบตายห่ารัวๆไปพรัอกับเกมมันละ
สรุปเนื้อหา AK Event - Babel
[Part -1]
และแล้วก็กลับมาอีกครั้งกับการสรุปเนื้อหาอีเว้นท์เกม Arknights สำหรับคราวนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของอีเว้นท์ Babel หนึ่งใน Intermezzi ที่จะมาเสริมเรื่องราวในอดีตของ Arknights โดยในคราวนี้เนื้อหาก็ได้มุ่งเน้นไปที่องค์กร Babel ก่อนที่จะมา Rhode Island อย่างทุกวันนี้ เรื่องราวทั้งหมดในอีเว้นท์นี้จะเป็นการเล่าแบบย้อนอดีต จึงมีเวลาและ Timeline แน่นอนทำให้มีการจัดเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ง่าย งานนี้จึงค่อนข้างบอกได้เลยว่าเข้าใจง่าย เมื่อพร้อมกันแล้วก็มารับชมเรื่องราวของอีเว้นท์นี้กันได้เลย
แน่นอนว่าก่อนจะขึ้นเรื่องก็ต้องมาเกริ่นนำเช่นเคย
สำหรับอีเว้นท์นี้เรื่องราวเริ่มเล่าตั้งแต่ช่วงปี 1030 ไปจนถึงช่วงปี 1094 4 ปีก่อนเนื้อหาหลักเริ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นยุคสมัยที่ Kazdel เมืองหลวงของเผ่า Sarkaz ยังไม่ค่อยเป็นปึกแผ่นนัก (และทุกวันนี้ก็ยังไม่เป็น) แถมยังเผชิญกับปัญหาภายนอกด้วย เพราะช่วงเวลาปี 1030 นั่นเหตุเกิดขึ้นระหว่างสงคราม Gallo-Leithanian ส่งผลทำให้อาชีพธุรกิจทหารรับจ้างของ Sarkaz รุ่งเรืองอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีการจับชาว Sarkaz ส่งขายเป็นทาสเช่นกัน Theresis และ Theresa จึงได้เดินทางมายัง Scar Market ตลาดค้าทาสขนาดใหญ่ของ Kazdel เพื่อเจรจากับ Scareye เจ้าของตลาดแห่งนี้ เพื่อให้ยุติการส่งทหารรับจ้างและทาสชาว Sarkaz เป็นสินค้าส่งออก แล้วเปลี่ยนให้พวกเขามาทำงานให้กับ Kazdel แทน
Scareye นั้นเป็น Sarkaz เผ่า Cyclops ร่างใหญ่สามารถทำนายอนาคตได้
และตอนที่เขาเผชิญหน้ากับ Theresa ก็ได้เห็นอนาคตที่เป็นจุดจบของตัวเอง จึงได้ยอมตกลงยุติการส่งออกทหาร ซึ่งนี่คือหมากตัวแรกที่สองพี่น้องราชาปิศาจได้เริ่มเดินเกม เพื่อปฏิรูป Kazdel จากระบอบเก่าๆ
ผลจากการเลิกทาสในคราวนี้เองได้มี Sarkaz หนุ่มคนหนึ่งได้ถูกปล่อยตัวกลับบ้าน และเขาก็ได้เริ่มใช้ชีวิตใหม่ใน Kazdel และตั้งชื่อใหม่ว่า Goodluck เพราะเขาเชื่อว่าตัวเองโชคดีที่โดนปล่อยตัวมาได้ถูกจังหวะ
[Part – 2]
นอกจากการปฏิรูปเลิกทาสแล้วสองพี่น้องยังทำการปฏิรูป Royal court ใหม่ โดยการกำจัดผู้นำเก่าๆ ให้พ้นไปจากตำแหน่ง และแต่งตั้งคนใหม่ๆ ขึ้นมา พร้อมกับปฏิรูประบอบทหารที่เคยใช้ระบบเกณฑ์กำลังคนจาก Royal court เพียงอย่างเดียวมารบ เหมือนกับขุนนางสมัยก่อนๆ ให้กลายเป็นระบบ Military Commission ทำหน้าที่คล้ายๆ กับกองทหารที่ขึ้นตรงกับ Kazdel ไปเลยด้วย
ซึ่งในตอนแรก Duq'arael ราชาแวมไพร์ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร เพราะเขาคิดว่านี่คือการกดหัว Royal Court และท้าว่าถ้าจะเอาแบบนี้ทำไมถึงไม่สั่งกวาดล้างเขาและเหล่าแวมไพร์ไปให้หมดเลย ยังดีที่ราชากูล Nezzsalem เตือนว่าสิ่งที่สองพี่น้องต้องการไม่ใช่แบบนี้ และบอกให้ Theresa แสดงนิมิตให้เห็นว่า ถ้าหาก Kazdel ยังคงเดินอยู่วิถีเดิมก็คงไม่พ้นประสบชะตากรรมเดียวแบบ Gaul ฉะนั้นเพื่อความมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการปฏิรูป Kazdel ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น การก่อตั้ง Miliraty Commission จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ผลลัพธ์การประชุมสรุปออกมาก็คือ Military Commission จะถูกก่อตั้งขึ้น โดยมี Nachzehrer และ Vampire เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสายบัญชาการ พร้อมกับ Damazti Cluster ที่ให้ความร่วมมือ ส่วน Lich นั้น Fremont บ่ายเบี่ยงบอกว่ายังติดพันกับ Leithanian จึงเข้าร่วมไม่ได้ และ Banshee ที่ยังไม่สามารถฟื้นฟูความเสียหายจากสงครามครั้งก่อน ก็ยังไม่เข้าร่วมเช่นกันแต่ Laqeramaline (แม่ของ Logos) ยืนกรานว่าถ้า Theresa ต้องการความช่วยเหลือเธอก็พร้อมที่จะช่วยในฐานะเพื่อน
แต่ดูเหมือน Lich จะคาดการณ์ว่าอนาคตของแผ่นนี้คงไปได้ไม่สวยนัก และได้ส่งจดเหมือนเตือนมา
ซึ่ง Theresis ได้อ่านแล้วก็ไม่ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นแค่คำพยากรณ์
นอกจาก Military Commission ที่เพิ่งก่อตั้งแล้ว Kazdel ยังมีอีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นขุมอำนาจอยู่ด้วย ซึ่งนั่นก็คือ Babel ที่ก่อตั้งโดย Theresa และมีหมอแมว Kal’tsit เป็นคนคอยดูแล ในช่วงปีนี้ Babel ยังเป็นแค่องค์กรทางการแพทย์เล็กๆ คอยช่วยเหลือผู้ติดเชื้อไปพร้อมกับเป็นโรงเรียนสอนเด็กๆ ด้วย
ซึ่งช่วงเวลานี้ Sarkaz หนุ่มนาม Goodluck ได้ตกหลุมรักกับหญิงสาวจาก Babel เข้า
และทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันให้กำเนิดเด็กชาว Sarkaz คนหนึ่งขึ้นมา
[Part – 3]
Time skip มาปี 1068 ขุนนาง Wasserland Leithanien ได้เล็งเห็นถึงโอกาส และวางแผนที่จะบุกโจมตีเพื่อยึดครอง Kazdel ขึ้นโดยขอความร่วมมือจาก Laterano และกลุ่มมาเฟียจาก Siracusa ส่งผลทำให้สถานการณ์ระหว่าง Kazdel กับ Leithanien นั้นค่อนไปทางตึงเครียด เพราะทาง Leithanien นั้นมีทั้งเทคโนโลยีและกำลังทหารที่เหนือกว่าแม้แต่ Kazdel ก็ไม่สามารถเทียบได้ แถมทาง Leithanien ยังมีการไปเจรจากับ Scareye ให้ส่งกองกำลังทหารรับจ้างไปก่อวินาศกรรมใน Kazdel ด้วย
ผลจากการเดินเกมเช่นนี้เอง ทำให้ชาว Kazdel ส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกรังเกียจคนนอก โดยเฉพาะชาว Leithanian มากขึ้น ซึ่งก็โชคร้ายที่สมาชิกของ Babel หลายส่วนเองก็ดันเป็นชาว Liethanian เลยโดยหางเลขเข้าไปเต็มๆ Theresis กับ Theresa เองก็พยายามคิดหาทางออกให้กับสถานการณ์นี้ โชคดีที่ Scareye มาเข้าพบทั้งสองพร้อมกับเขาของขุนนาง Leithanien ก่อนจะเผยให้รู้ว่าเขาเลือกที่จะเข้าร่วมกับฝ่าย Kazdel และในตอนนี้เขามีกองกำลังทหารรับจ้างที่พร้อมจะสละชีวิตให้ใช้งานอยู่ ขอเพียงแค่ออกคำสั่งเท่านั้น
ซึ่งการร่วมมือของ Scareye ในครั้งนี้ส่งผลทำให้ Kazdel รอดพ้นวิกฤต สามารถไล่ขับเรือรบของ Leithanien กลับไปได้ แม้ว่าจะต้องเสียสละทหารเป็นจำนวนมากก็ตาม โดยใช้กลยุทธ์พาหน่วยรบทหารรับจ้างเดินฝ่าเข้าไปใจกลางพายุภัยพิบัติ ซ่อนตัวจากการถูกตรวจจับและเข้าโจมตียานรบโดยไม่ให้เวลาตั้งตัว
หลังจบศึก Theresa รู้สึกไม่ค่อยยินดีนัก เพราะการสูญเสียเยอะส่วน Theresis มองว่าพวกเขาเองก็ควรจะมีอะไรแบบนี้บ้าง แต่ในระหว่างคุยกันนั่นเองทั้งสองก็ได้เห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งเดินฝ่าพายุออกมา ในสภาพโรยราแม้แต่จะพูดให้เป็นภาษาก็ยังทำไม่ได้ ซึ่งเด็กคนนั้นก็คือ Ascalon นั่นเอง
ทั้งสองจึงรับตัวเอาไว้ดูแล
[Part – 4]
หลังจากการต่อสู้จบก็เหมือนว่าเรื่องจะจบ แต่อันที่จริงแล้วนี่คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ความแตกแยก เมื่อ Sarkaz ทหารผ่านศึกคนหนึ่งกลับมายัง Kazdel ในสภาพไม่เต็มนัก และบุกเข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ของ Babel คนหนึ่งเข้าจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ดันเป็นชาว Leithanian พอดี
การสืบสวนเบื้องต้นพบว่าชายคนนี้โดน Originium Art เล่นงานเข้าที่จิตใจ ทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ และลงมือก่อคดีลงไปโดยไม่รู้สึกผิด ซึ่งผลลัพธ์มาจากความเกลียดชังชาวต่างชาติ ประกอบกับเพิ่งผ่านสงครามกับ Leithanien มา ทำให้รับรู้ได้ว่าใน Kazdel นั้น ประชาชนส่วนใหญ่มอง Babel ในทางที่ไม่ค่อยดีนัก โดย Theresis ย้ำเตือนกับ Theresa ว่าควรต้องรีบแก้ปัญหานี้ ซึ่ง Theresa เองก็รู้ แต่ทำอะไรไม่ได้
ตอนนั้นเองทั้งสองพี่น้องได้แวะมารับตัว Ascalon ที่ถูกส่งให้ Babel นำไปรักษาตัว
สิ่งแรกที่ Theresa ทำก็ได้คือพาเธอไปยังโรงเรียนที่เธอสร้างขึ้น เพื่อสอนสิ่งต่างๆ โดยหวังว่าเด็กที่ได้รับการศึกษาที่ดี จะกลายเป็นอนาคตของ Kazdel ได้ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มหน้าสวยร่างผอมคนหนึ่งมาขอเข้าเรียนด้วย เด็กหนุ่มคนนั้นแนะนำตัวเองว่าชื่อ Manfred เป็นเด็กกำพร้าที่ทาง Military Commission รับตัวมาดูแล
ในขณะเดียวกันทาง Goodluck หลังจากปักหลักอยู่ใน Kazdel มาหลายปี เขาก็มีลูกชายคนหนึ่งเช่นกัน แต่หลังจากภรรยาของซึ่งเป็นสมาชิกของ Babel เสียชีวิตไป เขาก็เศร้าใจจนอยู่บ้านไม่ได้ และเลือกที่จะออกเดินทางไปทำงานนอกเมืองโดยทิ้งลูกให้อยู่บ้านเพียงลำพัง
ก่อนจะจากไปเขาได้ตั้งชื่อลูกชายว่า Odda เช่นเดียวกับชื่อภรรยาของเขา พร้อมกับให้สัญญาว่าซักวันเขาจะกลับมา ซึ่ง Odda ก็รับสัญญานั้นและรอวันที่พ่อของเขาจะกลับมา แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องที่ไม่มีวันได้เกิดขึ้นก็ตาม
[Part – 5]
Time Skip ไปยังปี 1086 ความเกลียดชังต่อคนนอกเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้สถานการณ์ของ Babel ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แม้ว่า Babel จะพยายามเปิดโรงเรียนสอนเด็กๆ และให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชาว Kazdel มองพวกเขาในทางที่ดีขึ้นแม้แต่น้อย ซึ่ง Goodluck ที่ยังคงทำงานเป็นทหารรับจ้างให้กับ Scareye ก็ได้รับคำว่าจ้างจากใครบางคน ให้มากำจัดครูของ Babel ที่สอนหนังสืออยู่ใน Kazdel ทิ้ง ซึ่งเขาก็รับงานในฐานะทหารรับจ้างคนหนึ่ง
แต่คาดไม่ถึงเลยว่าสถานที่ที่เขาต้องมาทำงานนั้น ก็คือบ้านของเขานั่นเอง
ครูที่เป็นเป้าหมายนั้น ใช้บ้านของ Goodluck เป็นสถานที่สอนหนังสือ โดยมี Odda ที่โตเป็นหนุ่มแล้วให้ความร่วมมือแม้ว่าเขาจะยังไม่ใช่คนของ Babel ก็ตาม ทำให้ Goodluck ที่ไม่ได้กลับบ้านมาถึง 18 ปีก็สับสนในสถานการณ์ แต่เขาก็พึงบอกตัวเองว่านี่เป็นงานต้องตัดเรื่องส่วนตัวออกและตั้งใจจะลงมือ
แต่ก่อนได้เริ่มลงมือนั่นเองเขาก็ถูกแทงจากด้านหลังโดยใครบางคน และล้มลงไปสิ้นลมทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไร ด้วยฝีมือของ Ascalon ที่โตเป็นสาวแล้ว ก่อนที่ Manfred จะเผยตัวออกมาและตำหนิการกระทำของเธอ
Ascalon กับ Manfred เข้าปะทะกันเล็กน้อย และได้เฉลยว่านั้นเป็นศิษย์ร่วมสำนักกัน โดยทั้งคู่ได้รับการสั่งสอนจาก Theresis และ Theresa มาด้วยกัน แต่ทาง Ascalon ศรัทธาในตัว Theresa ในขณะที่ Manfred เลื่อมใสในตัว Theresis ทำให้ทั้งสองมีอุดมการณ์แตกต่างกัน และทำให้ทั้งสองยืนอยู่คนละฝ่ายในสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ ซึ่งในงานนี้ Ascalon นั้นทำหน้าที่คุ้มกันคนของ Babel ที่ถูกปองร้าย โดยไม่สนใจว่าคนที่หมายหัวนั้นจะเป็นชาว Sarkaz ด้วยกันหรือไม่ ทำให้ Manfred ไม่ชอบใจอย่างมาก
ตรงนี้เองมีการเผยว่า Manfred นั้น แม้จะติดตาม Theresis แต่ก็ไม่ใช่คนไร้หัวใจ กลับกันเขายังมีความเป็นสุภาพบุรุษสูงมาก หลังจากปะทะกับ Ascalon เสร็จ เขาก็ได้นำทรัพย์สินที่เหลือของ Goodluck นำไปคืนให้กับ Odda พร้อมกับแสดงความเสียใจที่พ่อของเขาไม่กลับมาแล้วด้วย Manfred พยายามชวนเขาเข้าร่วมเป็นพวกถ้าหากต้องการความช่วยเหลือ แต่ Odda ที่ยังไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการเมืองก็ปฏิเสธไปทำให้ Manfred ต้องกลับออกมามือเปล่า
[Part – 6]
แต่นอกจากการสูญเสียพ่อแล้ว Odda ยังต้องได้รับข่าวร้ายอีกอย่างก็คือ ครู ที่เขาได้ให้ร่วมมือด้วยนั้นได้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่าง ครู คนนั้นได้มีปากเสียงกับพ่อของเด็กนักเรียนที่ไม่อยากให้ลูกไปโรงเรียนจนเกิดเป็นการต่อสู้ขึ้น ทางพ่อเด็กเสียชีวิตทันที ส่วนครูก็บาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย แย่กว่านั้นคือเด็กก็เจ็บด้วย Odda ที่มาเห็นสถานการณ์ก็รีบพาเด็กไปโรงพยาบาลของ Babel ทันที
ตรงนี้เอง Logos ตอนที่ยังเป็นเด็ก ได้ใช้ Art พรางตัวเองมาขอบคุณครูคนนั้นที่สละชีวิตช่วยเด็ก
ก่อนจะอวยพรขอให้เขาหลับอย่างสบถ
ตัดมาทาง Theresa ได้รับรู้ถึงเหตุความวุ่นวายในสถานการณ์ก็สลดใจ แม้ว่า Laqeramaline จะพยายามปลอบ Theresa แต่เธอก็มองเห็นว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา Babel ไม่เป็นที่ต้อนรับใน Kazdel อีกต่อไปแล้ว และตั้งใจที่จะถอน Babel ออกจาก Kazdel โดยเธอเองก็พร้อมที่จะเนรเทศตัวเองตามออกไปด้วย
เธอบอกว่านี่คือกระแสของสังคม และสังคมก็ได้เลือกแล้วว่า Babel ต้องไปเธอจึงต้องตอบรับ
ตรงนี้มีอธิบายหน่อยก็คือ จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้ Kazdel แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน ฝ่ายแรกคือพวกหัวอนุรักษ์ ยึดถือวิถีชีวิตเดิมๆ ทำตัวเป็นนักรบห้าวหาญ ในขณะที่อีกฝ่ายคือหัวก้าวหน้าที่อยากจะพัฒนาหา Kazdel ให้ดีขึ้น ซึ่งสองฝ่ายนี้ได้ขัดแย้งกันอยู่และ Theresa นั้นให้การสนับสนุนฝ่ายหลัง ในขณะที่ Theresis นั้นพยายามที่จะทำให้ Kazdel ไม่แตกแยก แต่ก็เป็นไปไม่ได้
Theresis บอกว่าหากเป็นเช่นนี้ ไม่นานก็จะบังเกิดกลายเป็นสงครามกลางเมือง
และถ้าถึงเวลานั้น เขาเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นแม้ว่าจะต้องจบชีวิตน้องสาวตัวเองเช่นกัน
ซึ่ง Theresa เองก็บอกว่าถ้า Theresis จะมาขวาง เธอก็พร้อมจะกำจัดเขาเช่นกัน และนี่คือข้อตกลงระหว่างพี่น้องทั้งสอง ซึ่งได้ทำกันเอาไว้ตั้งแต่ในวันที่ Theresa รับมงกุฎ Black Crown แล้ว
ท้ายที่สุด Babel ก็ต้องพาคนออกจาก Kazdel ตามกระแสสังคมที่ขับไล่
นับว่ายังโชคดีที่หมอแมวได้ส่งจดหมายติดต่อมาว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเร่รอนไปไหน เพราะเธอได้ขุดพบยานในระหว่างสำรวจ Rim Billiton แล้ว และนั่นก็จะเป็นฐานที่มั่นใหม่ให้กับ Babel
[Part – 7]
Time Skip มายังปี 1090
ยานลำใหม่ที่หมอแมวหามานั้นก็คือ Rhode Island นั่นเอง และในตอนนี้ยานก็ได้ทำการซ่อมแซมจนใช้งานได้บางส่วนแล้ว โดย Closure ได้ถูกชวนมาร่วมงานเป็นหัวหน้าวิศวกร และมี Odda ที่เข้าร่วมกับ RI เป็นลูกมือ ซึ่งแผนการของ RI ในตอนนี้ก็คือการหาทางรักษาโรค Oripathy ให้ได้ แต่การศึกษา Originium นั้นยังไปได้ไม่ถึงไหนเพราะขาดผู้เชี่ยวชาญ หมอแมวเลยเสนอ Theresa ถึงแผนการหนึ่ง
แผนการที่ว่านั่นก็คือปลุกตัวเรา Doctor ขึ้นมาจากการจำศีลใน Sarcophagus นั่นเอง
ตัว Doctor นั้นถูกเคลมว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Originium มือหนึ่งในยุคบรรพกาล และน่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ Originium อยู่จึงอยากจะปลุกขึ้นมาให้ช่วย ซึ่งหลังจาก Doctor ถูกปลุกขึ้นมาเขาได้รับข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับโลกใบนี้ผ่านทาง Log PRTS เว้นอย่างเดียวที่ไม่ได้รับก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ Originium สิ่งแรกที่ตัว Doctor ถามนั้นก็คือเกิดอะไรขึ้น Originium ก่อนหมอแมวจะอธิบายไปว่าโลกตอนนี้เป็นยังไงแบบคร่าวๆ
ระหว่างนั้นเอง Doctor ได้รู้จักกับ Theresa เขาเรียกเธอว่า Devil บ่งชี้ให้เห็นว่าชาว Sarkaz มีตัวตนมาตั้งแต่ยุค First Civilization แล้ว แถมยังรับรู้ด้วยว่า Theresa ครอบครอง Civilight Eterna อยู่ด้วย จากการพิจารณาเพียงครู่เดียว Doctor ก็เข้าใจได้ว่าเผ่า Sarkaz ถูกหลอมรวมเข้ากับ Originium ไปแล้ว Doctor จึงได้ถามสถานการณ์แบบละเอียด ก่อน Theresa จะใช้พลังของ Civilight Eterna ฉายภาพสถานการณ์ในโลกใบนี้ให้ Doctor เห็นว่ากำลังเป็นอย่างไร
ตรงนี้มีอธิบายเพิ่มคือสาเหตุที่ชาว Kazdel ทั้งหมดนั้นติดเชื้อ เป็นเพราะพวกเขาอาศัยอยู่ใน Kazdel ที่มี Soul Furnace ทำงานอยู่ตลอด ซึ่งเจ้าเตาวิญญาณนี้พวก Sarkaz เชื่อว่าเมื่อตายวิญญาณจะถูกส่งเข้าเตา และหลอมรวมไปอยู่กับบรรพชน แต่ความเป็นจริงแล้วคือมันเป็นการเผาไหม้ Originium และพ่นขี้เถ้าออกมาแพร่ไปทั่ว ทำให้ชาว Kazdel และ Sarkaz กลายเป็นผู้ติดเชื้อไปโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่า Theresa จะรู้อยู่แล้ว แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมันเป็นความเชื่อของสังคม Kazdel
สิ่งที่เธอพยายามจะทำคือมอบความรู้ให้กับเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่จะตระหนักถึงความอันตรายนี้
แต่ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะห่างไกลไปจากสิ่งที่เธอหวังอย่างมาก แถมสังคมใน Terra ยังขับเคลื่อนด้วยพลัง Originium เป็นหลักด้วย เธอจึงอยากจะให้ Doctor ช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ วิจัยเกี่ยวกับ Originium และหาทางรักษา เพื่อไม่ให้คนทั้งโลกต้องทรมานกับโรคนี้อีกต่อไป
[Part – 8]
Doctor รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นและสงสัยว่าทำไม Originium ถึงเป็นแบบนี้ เพราะเดิมทีแล้ว Originium นั้นเดิมทีแล้วมันไม่ควรเป็นแบบนี้ Doctor จึงตัดสินใจออกเดินทางไปสำรวจรอบๆ Terra เพียงลำพังโดย Theresa กำชับให้ Ascalon ตามเขาไปแบบห่างๆ คอยคุ้มกันด้วย
ใช้เวลาหลายเดือน การเดินทางของ Doctor ได้พาเขาไปพบกับผู้คนมากมาย แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเขาได้พบกับ Amiya ที่ยังเป็นเด็กรอดชีวิตจากการปล้นชิงของพวกโจรด้วย เธอติดเชื้ออาการหนักมากจึงรับตัวมาดูแล และพยายามหาทางเดินทางกลับไปยัง RI โดยมี Chalotte (Savage) ตามมาคอยคุ้มกันด้วย
ตรงนี้ขอสรุปสั้นๆ เลยก็คือ ระหว่างเดินทางความสดใสของ Amiya และความหวังของเธอ ทำให้ Doctor เริ่มเกิดความไขว้เขวในใจขึ้น ก่อนจะพาตัวเธอกลับไปยัง Babel โดยที่มี Theresa ลงมาต้อนรับด้วยตัวเอง การตรวจร่างกายของ Amiya ได้พบว่าเธอติดเชื้อหนักมาก ทำให้ Doctor จึงเริ่มมีความคิดที่อยากจะหาทางช่วยเด็กคนนี้ ทำให้ Theresa เริ่มเปิดใจให้กับ Doctor และพาไปยังสถานที่ลับตาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ทดลอง Originium ส่วนตัวของเธอนั่นเอง
สถานที่ที่พาไปนั้นคือสวนดอกไม้สีขาวที่เธอสร้างขึ้น โดยการดัดแปลง Originium
เธอบอกว่าความฝันของเธอนั้น คือการทำให้ Originium เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตบน Terra แบบไม่เป็นภัย และอยากจะให้ดอกไม้เหล่านี้ปกคลุมไปทั่วดวงดาว สร้างความตื่นใจให้กับ Doctor อย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ Doctor รู้สึกเอะใจว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่เขาก็เก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจไม่พูดออกไป
ตอนนั้นเองมีการติดต่อมาจากหมอแมวบอกว่าเป็นข่าวด่วน
เพราะ Theresis ได้เริ่มวางแผนเคลื่อนกองกำลังทหารไปยัง Londinium ในฐานะทหารรับจ้างจาก Military Commission ซึ่งนั่นก็เป็นแผนการบางอย่างที่คาดไม่ถึงนั่นเอง
[Part – 9]
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Duke of Cavendish ได้ส่งเทียบเชิญ Military Commission เข้าไปยัง Londinium ในฐานะทหารรับจ้าง โดยหารู้ไม่ว่า Theresis มีแผนการอยู่คือการขยายเขตอำนาจของ Sarkaz ให้ไกลออกไปนอก Kazdel ซึ่งนั่นก็ทำให้ Theresa ที่ดำรงตำแหน่งราชาปิศาจต้องไปแสดงจุดยืนด้วยตัวเอง เพราะว่านี่มันมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้
Theresa ได้เดินทางมายัง Scar Market ที่เป็นศูนย์รวมของทหารรับจ้าง และเข้าไปคุยกับ Scareye ซึ่งตรงนี้เองเธอได้ก็รับรู้ว่านี่ไม่ใช่การตัดสินใจของ Theresis เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่มันคือกระแสสังคมที่ชาว Sarkaz เริ่มกระหายสงคราม Military Commission กำลังรุ่งเรือง แถมความขัดแย้งทางการเมืองยังออกมาไม่สู้ดีด้วย Theresis จึงต้องหาทางทำอะไรซักอย่างให้ Kazdel เป็นปึกแผ่นจึงเริ่มแผนการนี้ขึ้นมา โดยอ้างว่า Londinium คือจุดเริ่มต้นใหม่ของ Sarkaz ในที่สุด
แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมันทำให้ Theresa ปวดใจมาก
เธอไม่สามารถต้านกระแสสังคมได้ และได้แต่ยินยอมพร้อมอวยพรให้เหล่านักรบโชคดี แม้ว่าเหล่าประชาชนนั้น จะได้ละทิ้งเธอที่เป็นราชาปิศาจไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม
นี่คือจุดแตกหักระหว่าง Theresa และ Theresis ที่อุดมการณ์ของทั้งสองไปด้วยกันไม่ได้
Theresa เป็นสายพิราบต้องการสันติและพยายามดูแลประชาชนด้วยความนีประนอม แต่ Theresis เป็นสายเหยี่ยว ที่สนองความต้องการของชาว Kazdel แม้ว่าหนทางนั่นจะพาไปซึ่งสงครามก็ตาม
และนี่คือจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมือง Kazdel อย่างเป็นทางการ
ท้ายที่สุดแล้ว Theresa ก็ต้องคอตกกลับบ้านพร้อมกับ Ascalon
แต่ตอนนั้นเองก็ได้มีกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งที่เบื่อหน่ายสงครามแล้วมาขอเข้าเป็นพวกด้วย โดยหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเหล่านั้นแนะนำว่าตัวเองชื่อ Julie และฝากตัวเป็นศิษย์ของ Ascalon
ตัดมาทาง Doctor และ Rhode Island ในจังหวะที่ Theresa ออกไปประชุมนั่นเองก็เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
มีกลุ่มคนปริศนาบุกเข้าโจมตี RI ในจังหวะที่ RI ได้ส่งกำลังคนส่วนหนึ่งไปคุ้มกัน Theresa ทำให้ไม่มีกำลังคนมากพอรับมือการโจมตีนี้ โชคดีไปที่ Doctor เสนอตัวขึ้นมาบัญชาการรบให้ ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ผลลัพธ์ออกมาด้วยดี มีการสูญเสียน้อยกว่าที่คาดเอาอย่างมากและเป็นจุดที่ทำให้ Doctor เริ่มกลายเป็นที่เคารพนับถือของเหล่า Babel ในเวลาอันสั้น
[Part – 10]
ปี 1092 การสู้รบระหว่าง Kazdel กับ Babel ดำเนินขึ้นอยู่เนื่องๆ ซึ่งทาง Babel ถูกโจมตีโดยกลุ่มกบฏเป็นหลัก ไม่ใช่จากกองกำลังทหาร Military Commission ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน ไม่ก็ทหารรับจ้างที่ถูกความเกลียดชังเข้าครอบงำซะเป็นส่วนใหญ่ ยังดีที่ Doctor คอยบัญชาการทำให้การต่อสู้ออกมาเป็นไปได้อย่างดีมาตลอด จน Doctor ได้รับฉายาจากพวก Sarkaz ว่า Evil Spirit กันเลยทีเดียว
แต่แล้ววันหนึ่งปฏิบัติการช่วยเหลือก็เริ่มขึ้น เมื่อทาง RI ทราบข่าวว่ามีคนของ Babel กว่า 2500 คนติดอยู่ในเขตพื้นที่ภัยพิบัติ โดยมีกองกำลังทหารรับจ้างและ Military Commission ปิดทางหลบหนีเอาไว้ Babel จึงต้องส่งกำลังเข้าไปช่วยเหลือคนออกมา โดยที่ Theresa และ Doctor จะไปอยู่ในภาคสนามด้วย
ตรงนี้ขอสรุปสั้นๆ เลยว่าปฏิบัติการช่วยเหลือเป็นไปได้ด้วยดี สามารถพาคนกลับมายัง RI ได้สำเร็จ แต่ตอนที่กลับมานั่นเอง Doctor เราได้เริ่มตั้งคำถามว่า Originium มันเป็นอะไรกันแน่ ถึงกับลองเอาหินดำแทงแขนตัวเองดู แต่ก็ไม่พบว่าเขาจะติดเชื้อเหมือนชาว Terra อื่นๆ แต่อย่างใด แถมยิ่งพอเห็น Amiya ที่ติดเชื้อแล้ว เขาก็ยิ่งคิดว่าโรค Oripathy นี่สมควรจะถูกรักษาให้ได้ด้วย
แต่ในขณะเดียวกัน ในหัวของ Doctor ก็คิดถึงจุดประสงค์ดั้งเดิมของ Originium
ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์อย่างเขาเสียสละ และคาดหวังเอาไว้มาตั้งแต่อดีตกาลด้วย
ตอนนั้นเองที่ Doctor คิดมากไปจนเป็นลมหมดสติ
หมอแมวกับ Theresa ได้พาเขามายังห้องพยาบาลเพื่อพักฟื้น แต่ในตอนนั้นเอง Theresa ได้แอบใช้ Civilight Eterna แอบส่องดูความทรงจำของ Doctor และได้เห็นว่าแผน Originium แบบดั้งเดิมนั้นเป็นอย่างไร ก่อนจะได้เห็นภาพทุ่งดอกไม้แบบเดียวกับที่เธอเคยให้ Doctor เห็น
Theresa สรุปว่าในหัวของ Doctor ตอนนี้เกิดความขัดแย้งบางอย่างขึ้น
หนึ่งคือเขาเห็นด้วยกับแผนการของเธอที่จะพัฒนา Originium ให้ปลอดภัย
แต่อีกหนึ่งก็เหมือนเป็นอีกจิตสำนึก ที่บอกเขาให้ดำเนินตามแผนการเดิมให้สำเร็จ
[Part – 11]
หลายวันหลังจาก Doctor ฟื้นขึ้นมาเขาก็ได้ทำการอัดวิดีโอบันทึก Log ของตัวเองขึ้น โดยใน Log นี้มีระบุ Lore เอาไว้เช่น ชาว Terra นั้นน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตจาก Talos-II (ดาวใน Endfield) ที่วิวัฒนาการโดยมี Originium เป็นตัวกระตุ้น ทำให้มีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์ และในตอนนี้พวกเขาก็กำลังทุกข์ทรมานกับ Originium ที่เติบโตขึ้นและกำลังกลืนกินโลกนี้อย่างช้าๆ
ซึ่งนั่นก็เป็นจุดประสงค์ดั้งเดิมของ Originium แม้จะผิดไปจากที่คาดนิดหน่อย
Doctor บอกว่าตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเขาหลอกตัวเองมานานแล้วว่าตัวเองเป็นพวกเดียวกับชาว Terra แม้ว่าเขาจะเห็นใจกับความทุกข์ทรมานและความตายของผู้ติดเชื้อ แต่เขาก็ไม่สามารถทำใจเห็นด้วยได้ เพราะเดิมทีแล้วทุกชีวิตบนโลกใบนี้ควรถูกหลอมรวมไปกับ Originium การดิ้นรนของ Theresa นั้นเป็นแค่การขัดขืนที่ทำให้แผนการดั้งเดิมของ First Civilization ที่สละคนเป็นล้านๆ เพื่อการนี้ล่าช้าลงเท่านั้น
ว่าง่ายๆ ก็คือ Doctor มีความคิดอยากจะให้ Theresa ล้มเลิกที่จะหาทางรักษา
แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกกับ Theresa Amiya และ Kal’tsit ยังไงดีก็เท่านั้น
และด้วยความคิดเช่นนั้นเอง มันก็ได้ทำให้เขาตัดสินใจทำอะไรบางอย่างขึ้นมา
Time skip มาในปี 1093
Doctor ได้เดินทางมายัง Kazdel โดยลำพัง และเรียกให้คนคน หนึ่งเข้ามาพบเป็นการส่วนตัว ซึ่งคนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น Theresis นั่นเอง เป็นการนัดพบกันที่แม้แต่ Theresis เองก็คาดไม่ถึงว่าผู้บัญชาการทางทหารของ Babel จะมาคุยด้วยเป็นการส่วนตัว
เนื้อหาหลักของ Doctor นั้นก็คืออยากจะให้ Theresis ทำลาย Babel ทิ้งซะ
เขาพูดออกไปเช่นนั้นด้วยความรู้สึกโล่งใจด้วย
Theresis ไม่เข้าใจว่าทำไม ส่วน Doctor ก็แค่เปรยๆ ไปว่าการขยายตัวของ Originium คือสิ่งที่มันควรจะเป็นเท่านั้น และ Babel ก็กำลังขวางทางมันอยู่ พร้อมกับบอกว่าสิ่งที่ Doctor แบกรับเอาไว้ไม่ใช่แค่อนาคตของ Sarkaz เท่านั้น แต่รวมถึงชีวิตของผู้คนนับล้านๆ ในยุคของ First Civilization ด้วย
ฉะนั้นการเสียสละทำลาย Babel ทิ้งเพื่อให้แผนการเดิมดำเนินต่อไปได้ ถือเป็นราคาที่ถูกมาก
Theresis อยากจะคล้อยตามแต่เขารู้จักน้องสาวตัวเองดี
Theresa ไม่ยอมร่วมมือกับเขาแน่ตราบใดที่ Babel ยังอยู่ และ Babel ก็จะไม่มีวันล่มสลายถ้าหาก Theresa ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงไม่สามารถทำให้สำเร็จพร้อมกันได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือต้องสังหาร Theresa ลงเท่านั้น แล้ว Babel จะอ่อนแอลงจนไม่เป็นภัย
นั่นคือการยื่นคำขาดของ Theresis ก่อนที่เขาจะจากไปโดยไร้ซึ่งความลังเล
[Part – 12]
Timeskip มายังปี 1094
ข่าว Military Commission จะเดินทางไปยัง Londinium รู้ถึงหู Theresa ทาง Babel จึงได้มีการวางแผนที่จะส่งกองกำลังบุกเข้ายึด Kadzel คืนโดยอาศัยจังหวะที่กองกำลังคุ้มกันมีน้อย โดยผู้นำการโจมตีคือ Kal’tist และเหล่า Elite รวมถึง Ascalon ซึ่งก่อนเริ่มปฏิบัติการ Ascalon ได้ไปคุยกับ Julie และได้รับรู้ว่าทางหน่วยของ Julie ได้รับหน้าที่บุกไปยัง Londinium เพื่อจัดการ Theresis หรือถ่วงเวลาเอาไว้จนกว่า Kazdel จะถูกยึด นี่จึงเป็นการบอกลาครั้งสุดท้ายระหว่างศิษย์กับอาจารย์
ทุกอย่างเตรียมพร้อมและไปด้วยดี กองกำลังของ Babel เคลื่อนพลเข้า Kazdel
Ascalon ได้ปะทะกับ Scareye ที่เป็นทหารรับจ้างป้องกัน Kazdel
ส่วนทาง Manfred รับมือกับ Julie ที่บุกมายัง Londinium คุ้มกัน Theresis
ทุกอย่างเหมือนว่าจะไปด้วยสวย แต่ระหว่างนั้นเอง Logos นั้นรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เพราะเวทมนต์ของ Banshee ที่แม่ของเขาร่ายเอาไว้มันกำลังส่งเสียงเตือน ซึ่งมันเป็นเวทมนต์ที่ร่ายแบบระบุตัวให้กับคนที่แม่ของเขารัก และจะทำงานเมื่อมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับคนคนนั้น
และคนที่ว่านั่นก็คือ Theresa ที่กำลังรอทุกคนอยู่ที่ Babel นั่นเอง
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะตัว Doctor นั้นได้หักหลัง Babel เข้าซะแล้ว
เขาปิดระบบการป้องกันภัยทั้งหมดของ RI เปิดทางให้มือสังหารของ Theresis บุกขึ้นมาบนยาน RI ได้สำเร็จ โดยให้เหตุผลว่า Sarkaz ที่นำโดย Theresis จะเป็นตัวเร่งทำให้แผนการดั้งเดิมของ First Civilization สำเร็จเร็วขึ้น จากการทำสงครามและใช้อาวุธ Originium ให้แพร่กระจายไปทั่ว
สิ่งที่ Doctor ต้องการในตอนนี้คือทำให้ Originium กลับไปยังสถานะที่มันควรจะเป็น ซึ่งนั่นก็คือการแพร่กระจายและกลืนกินโลกใบนี้ เพื่อที่จะได้เป็นอนุสรณ์แก่อารยธรรมรุ่นหลังที่บังเอิญเข้ามาพบ
Theresa รับรู้ได้แล้วว่านี่คือปลายทางของชีวิตเธอ และเธอก็พร้อมที่จะรับมือ
แต่ตอนนั้นเองเป็นจังหวะเดียวกับ Amiya ที่รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ไม่น่าสบายใจนัก เธอจึงได้ออกเดินมาหา Theresa ด้วยความไร้เดียงสา สร้างความตกใจให้ Theresa อย่างมากก่อนเธอจะตัดสินใจใช้ Art สร้างเป็นฟองสบู่สีดำขึ้นมาคลุมตัว Amiya เอาไว้ปิดกั้นทุกสิ่งไม่ให้รับรู้สถานการณ์
จากนั้นเธอก็เริ่มรับมือกับมือสังหารที่บุกขึ้นมาทีละคน ทีละคน ทั้งน้ำตา
เพราะเธอสามารถรับรู้ได้ว่าคนที่บุกเข้ามาสังหารเธอนั้นเป็นใคร มีประวัติอย่างไรและเจ็บปวดแค่ไหน แม้ว่าคนคนนั้นจะได้ทำลายอัตตาลักษณ์บ่งชี้ตัวเองไปสิ้นแล้วก็ตาม
[Part – 13]
การต่อสู้สร้างทั้งบาดแผลและความเหนื่อยให้กับ Theresa จนเธออ่อนแรงและเผลอปลด Amiya ออกมาจากฟองอากาศ โชคดีที่ตอนนี้มือสังหารถูกจัดการจนสิ้นแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของเธอก็สาหัสอย่างมากจนขนาดทำให้ Amiya ที่เห็นถึงกับช็อคจนพูดไม่ออก แต่ Theresa ก็ยังพยายามยิ้มฝืนเข้าไปกอด Amiya และเล่านิทานก่อนนอนแสนเศร้าที่เล่าให้เธอฟังประจำ ซึ่งเป็นเรื่องราวของตุ๊กตาที่พยายามต่อสู้กับเงาดำที่กำลังทำร้าย แต่สุดท้ายก็จมน้ำหายไปในตอนจบ
นิทานนี้มันคือการเปรียบเทียบกับ Kazdel ที่ถูกทำลายมาครั้งไม่ถ้วนในประวัติศาสตร์
Theresa ถามว่าอยากให้เรื่องราวตอนจบนี้เปลี่ยนไปหรือไม่ ซึ่ง Amiya ตอบว่าอยาก
ได้ยินเช่นนั้น Theresa จึงตั้งมั่นรวมกำลัง ส่งมอบ Civilight Eterna ให้กับ Amiya และฝากฝังให้เธอเชื่อฟัง Kal’tsit ที่จะคอยสอนเธอในเรื่องต่างๆ หลังจากนี้ ก่อนที่ Amiya จะหมดสติไป
ระหว่างส่งมอบมงกุฎ Doctor ก็ได้เข้ามาในห้องตามหา Amiya ด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้มาด้วยความเป็นมิตร เพราะมีมือสังหารอีกกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา Theresa จึงต้องจัดการพวกนั้นทั้งหมด เพื่อคุ้มครอง Amiya ในระหว่างที่มงกุฎกำลังทำการส่งต่อไปยังกระต่ายน้อย
Theresa เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว รวมถึงสาเหตุที่ Doctor ได้ทำการทรยศเธอโดยร่วมมือกับ Theresis เพื่อเอาชีวิตตัวเธอแลกกับการปล่อยสมาชิก Babel ที่เหลือให้อยู่รอดต่อไป ซึ่ง Theresa ก็ได้ถามกลับไปว่านี่มันคุ้มแล้วใช่มั้ยที่ทำลายความรู้สึกของ Kal’tsit กับ Amiya และพรรคพวกที่ไว้ใจ Doctor ซึ่งทาง Doctor ก็ตอบไปว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
Doctor ไม่คิดจะเปลี่ยนความคิดและยืนกรานกับแผนการเดิม
แม้ว่าลึกๆ แล้วเขาอยากจะหาทางรักษาโรคให้กับ Amiya จนเผลอร้องไห้ออกมาก็ตาม
ตอนนั้นเองที่ Doctor เปิดช่องว่างให้ Theresa รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายเข้าไปใกล้
เธอใช้พลังเฮือกสุดท้ายเข้าไปในหัวของ Doctor และมุ่งเข้าสู่ส่วนลึกที่สุดพร้อมกับทำลายความทรงจำทั้งหมดทิ้ง เหลือเพียงแค่ความทรงจำเดียวเท่านั้นที่เธอไม่ได้ลบทิ้ง
ก่อนที่เธอจะทิ้งข้อความสุดท้ายเอาไว้ให้กับ Doctor เช่นเดียวกับที่เขาเคยให้กับ Kal’tsit
“จงตามหาตัวเอง”
นั่นคือข้อความสุดท้ายก่อนที่เธอจะจับมือ Doctor ที่ไร้ซึ่งสติ โดยที่รู้ว่าเวลาของตัวเองกำลังจะหมด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังพยายามประคองสติเอาไว้ เพื่อพบกับคนสำคัญคนสุดท้ายที่กลับยังมาไม่ถึง
Kal’tsit
[Part – 14]
Kal’tsit กลับมาถึง Babel กับถึงกับช็อกในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะ Theresa สิ้นลมไปแล้วโดยนอนกอด Amiya เอาไว้และมี Doctor นอนอยู่ใกล้ๆ เธอพยายามทำตัวเยือกเย็นยืนยันการเสียชีวิตของ Theresa แต่ก็ไม่สามารถระงับความโกรธที่อยากจะล้างแค้นได้เช่นกัน
ตอนนั้นเองที่เธอได้ยินเสียงคุ้นหูเรียกขึ้นมา และนั่นก็มาจาก Amiya ที่นอนอยู่
แต่คนที่พูดนั้นไม่ใช่ Amiya ดวงตาของเธอผันเปลี่ยนเป็นสีชมพู
หมอแมวจึงรู้ได้ทันทีว่านั่นคือ Theresa ที่ยืมร่างของ Amiya มาคุยกับเธอต่างหาก
Theresa บอกว่าเธอนั้นตายไปแล้ว แต่นี่คือการถ่ายจิตสำนึกสุดท้ายของเธอเข้าไปในมงกุฎดำ และยืมร่างของ Amiya ที่ไม่ได้สติขึ้นมาร่ำลาเท่านั้น เธอบอกว่าเธอได้สังหาร Doctor คนเดิมไปแล้วเช่นกัน แต่ถ้าหากเขาสามารถตื่นกลับมาได้ เขาก็อาจจะกลายเป็นกุญแจใหม่ที่นำพาพวกเธอไปยังอนาคตก็ได้
Theresa ขอให้พา Doctor กลับไปยัง Sarcophagus เพื่อรอวันที่เขาจะตื่นอีกครั้ง
แต่หมอแมวบอกว่า Sarcophagus ใน RI นั้นน่าจะอันตรายเกินไป เธอจึงจะส่งเขาไปยัง Ursus ณ Chernoborg พร้อมสาบานว่าจะอยู่เคียงข้าง Babel และ Amiya จนวาระสุดท้าย ซึ่ง Theresa ก็ฝากฝังทุกอย่างเอาไว้เป็นครั้งสุดท้ายกับหมอแมว
ด้วยเจตจำนงของดวงวิญญาณ การจากไปของ Theresa ได้กลายเป็นที่รับรู้ในหมู่ Sarkaz เป็นวงกว้าง Theresis จึงอาศัยจังหวะนี้ป้ายสีว่า Theresa ถูกศัตรูลอบสังหาร ปลุกระดมชาว Sarkaz ที่แตกแยกจากสงครามกลางเมือง ให้กลับมารวมกันเป็นหนึ่งได้สำเร็จ และตั้งมั่นที่จะพิชิต Terra ให้จงได้
Ascalon ที่กลับมาไม่ทันได้แต่กรีดร้องด้วยความเสียใจและสาบานว่าจะล้างแค้น
ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นอาจารย์ของเธออย่าง Theresis ก็ตาม
เหล่า Elite RI เองก็รับรู้ได้จากปฏิกิริยาของ Logos และ Scout ว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับ Theresa ขึ้นแล้ว แม้ว่า Babel จะเข้ายึด Kazdel ได้สำเร็จ แต่ก็เพียงเท่านั้น ผู้นำของพวกเขาได้จากไปแล้ว พวกเขาจึงไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากถอนกำลังทั้งหมดกลับไปยัง Babel เพื่อหารือกันว่าหลังจากนี้จะเอายังไงกันต่อ
การตายของ Theresa ทำให้แม้แต่อสูรสงครามอย่าง Nezzsalem กับแวมไพร์เลือดเย็น Duq'arael ที่ดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ ยังสามารถรู้สึกเศร้าสะท้านได้ แต่คนที่รับรู้เรื่องนี้แล้วเสียสติไปเลยก็คงเป็น W ที่เปลี่ยนไปกลายเป็นเอาแน่เอานอนไม่ได้หลังจากนี้
[Part – 15]
ย้อนความกลับไปตอนที่ Theresa กำลังลบความทรงจำเล็กน้อย
Theresa ได้ทำลายความทรงจำทั้งหมดของ Doctor ทิ้งไป เหลือเพียงแค่ความทรงจำเดียวเท่านั้น คือความทรงจำที่เขาได้เอาตัวเองไปเสี่ยงเพื่อช่วย Amiya จากซากรถเอาไว้เท่านั้น แต่ระหว่างนั้นเองเขาก็ได้พบกับจิตใต้สำนึก Doctor มาคุยกับเธอในลักษณะที่แปลกไปจากเดิม เพราะ Doctor คนนี้ไม่ได้ทำอะไรเหมือนกับเครื่องจักรใช้หลักเหตุและผลตัดสินไปทั้งหมด แต่กลับดูมีอารมณ์มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป
Doctor คนนี้เรียกตัวเองว่า Oracle และเป็นคนที่ Kal’tsit ไว้ใจ
น่าเสียดายที่ Oracle เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของ Doctor ทำให้ Theresa ไม่สามารถอ่านความรู้สึกได้ แต่เธอรับรู้ว่าเขาคนนี้ต่างออกไปจาก Doctor คนที่เธอเคยรู้จัก เธอจึงไม่ได้ทำลายเขาทิ้งและหลงเหลือเอาไว้ในความทรงจำ เธอทักทายด้วยความเป็นมิตรก่อนที่ Doctor คนนั้นจะหายตัวไปต่อหน้า
และนั่นคือสายใยสุดท้ายระหว่างเธอกับโลกใบนี้
เธอได้ก้าวออกไปข้างหน้า เดินทางสู่ความหวัง
สู่ความตายอันเป็นนิรันดร์ของเด็กสาวทอผ้าที่บังเอิญได้รับเลือกจากมงกุฎทมิฬ
ส่วนทางด้าน Theresis ที่กำลังถูก Julie ลอบสังหารนั้นก็เรียกได้ว่าย่ำแย่ แต่พอ Julie รับรู้ได้ว่า Theresa ได้จากไปแล้วก็วางมือยอมจำนนต่อ Theresis เพราะเธอรู้ว่าการตายของเธอในครั้งนี้ คือเจตนาที่ Theresa ยอมรับเอาไว้แล้ว และ Kazdel ต้องมีผู้นำต่อไป จึงต้องหยุดการลอบสังหาร Theresis เอาไว้แค่นี้
Julie บอกว่าภารกิจของเธอจบสิ้นแล้ว และพร้อมที่จะรับโทษตายทุกเมื่อ
ได้ยินเช่นนั้น Theresis ก็ชอบพอ ในฐานะที่พวกเขาเป็นทหารกล้าผู้ภักดีต่อ Kazdel และบอกให้ Julie และพรรคพวกลุกขึ้นพร้อมกับส่งมอบภารกิจสุดท้ายให้แก่พวกเธอ
ซึ่งภารกิจนั้นก็คือไปกำจัด Stream Knight ทั้งหมดทิ้งซะ
และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ Julie ได้ทำหน้าที่ในฐานะมือสังหารแห่ง Kazdel
ส่วน Scareye …หลังสู้กับ Ascalon เสร็จก็หนีรอดมาได้ในสภาพย่ำแย่
แต่สุดท้ายก็ตายอนาถเพราะถูกลูกน้องหักหลังซะงั้น จบกันพ่อไซคลอปกล้ามโต
[Part – 16]
เอาล่ะ! เนื้อเรื่องทั้งหมดจบลงเพียงเท่านั้น หลังจากนี้เป็นการวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ในเรื่องของผู้เขียนเอง โดยนำข้อมูล Research และจาก Community หลายๆ แห่งมาตีความ ซึ่งถ้าถูกผิดตรงไหนก็สามารถแย้งได้เลยนะ
อันดับแรกเลยก็คือสงครามกลางเมืองของ Kazdel ความขัดแย้งของสองพี่น้อง
ตรงนี้เองทางผู้เขียนมองว่า Theresis เองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายในเหี้ยมอะไร แต่เขาเน้นถือนโยบายทำเพื่อเผ่า Sarkaz เป็นอันดับแรก และความแตกแยกของเผ่า Sarkaz นั้นก็อาจจะนำมาซึ่งความล่มสลาย เพื่อกำจัดภัยนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องหยุดน้องสาวของตัวเอง ทำลาย Babel ที่เป็นชนวนให้เกิดการแบ่งแยก ไปพร้อมกับพยายามผลักดันให้ Sarkaz กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง แม้ว่านั่นอาจจะลากให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยก็ตาม
ส่วน Theresa นั้นเธออยากจะสร้างโลกที่ทุกคนสามารถอยู่อาศัยด้วยกันได้ ไม่มีการแบ่งแยก และไม่ต้องหวาดกลัวการติดเชื้อ จึงได้ร่วมมือกับหมอแมวสร้าง Babel ขึ้นเพื่อวิจัยหนทางรักษา + พัฒนา Originium พร้อมกับมอบความรู้ให้กับ Sarkaz รุ่นใหม่ๆ เพื่อให้โตมากลายเป็นอนาคตของชาติที่ดี แทนที่จะเป็นพวกฝักใฝ่ความรุนแรง เรียกได้ว่าเป็นสายสันติวิธีอย่างเต็มตัว ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายที่คลั่งไคล้สงครามอย่างสิ้นเชิง
โดยส่วนตัวแล้ว Theresis กับ Theresa ไม่ได้บาดหมางอะไรกัน
แต่ทั้งสองมีจุดยืนของตัวเอง และมีประชาชนที่ฝักใฝ่ฝ่ายตัวเองต้องดูแล เมื่อกระแสสังคม Kazdel ไม่ยอมรับ Babel Theresa ก็ต้องยอมใจถอนตัวแทนที่จะใช้อำนาจเข้าข่ม และเมื่อความกระหายสงครามเริ่มก่อตัวขึ้น Theresis ก็ต้องส่งกองกำลังบุก Londinium เพื่อสนองความต้องการนั้น เกิดกลายเป็นการปะทะกันระหว่างสองอุดมการณ์ขั้วตรงข้าม เป็นสงครามกลางเมืองที่กินเวลากันหลายปี
และตัวเร่งปฏิกิริยานั้นก็ไม่มีใครอื่นนอกจาก Doctor ตัวเรานั่นล่ะ
ถ้าอิงจากเนื้อเรื่องนี้จะพบว่า Doctor นั้นเป็นตัวสองบุคลิกโดยชัดเจน คือเป็น Doctor ที่คิดวิเคราะห์ราวกับเครื่องจักร ชั่งน้ำหนักเหตุและผลเพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุด ซึ่งบุคลิกนี้ได้ถูก Theresa ลบทิ้งไปแล้ว และอีกบุคลิกคือ Oracle หรือตัวเราที่เราเล่นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
Doctor คนเดิมนั้นพยายามที่จะทำตามเจตจำนงเดิมของ First Civilization แม้ว่านั่นจะเป็นการปล่อยให้ Originium กลืนโลกทั้งใบก็ตาม กลับกัน Oracle นั้นมีความเห็นอกเห็นใจและสงสารชาว Terra ที่ต้องทนทุกข์กับสิ่งที่เขาสร้าง จึงพยายามหาทางแก้ปัญหาจนกลายเป็นการต่อสู้กันในหัวของ Doctor เองอย่างที่เห็น
แม้ท้ายที่สุด Doctor จะชนะ แต่ Oracle นั้นคือคนที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย
[Part – 17]
ตรงนี้จะเป็นช่วงคุยเล่นหน่อยก็คือ รู้สึกได้เลยว่า Originium นี่มัน = Tiberium ในซีรีย์ CnC ชัดๆ ที่มันจะคอยเติบโตและกลืนกินดวงดาวไปอย่างช้าๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นแร่ที่ให้พลังงานจนกลายเป็นสิ่งมีค่าที่คนต่างไปขุดมันมาใช้งาน ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันอันตรายขนาดไหนซะงั้น
ที่ต่างกันคือมันไม่ใช่การ Terraforming (นั่นมันงานของพวก Ferramuts กับ Seaborn) แต่จะคล้ายๆ ELS ใน Gundam OO ที่หลอมรวมกันสิ่งมีชีวิตอื่นและกลายเป็นเสาสัญญาณส่งกระแสจิตข้ามดวงดาว เปลี่ยน Terra ให้กลายเป็นเสาสัญญาณ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นการคาดเดาล้วนๆ เพราะข้อมูลในเกมมันมีบอกแค่นี้ เจตนาในการสร้างขึ้นมานั้นเพื่ออะไรก็คงมีแต่ต้องรอเนื้อเรื่องในอนาคตเท่านั้น
ในเรื่องมีปล่อย Lore ออกมาก็คือ ชาว Terra เป็นเอเลี่ยน ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตดั้งเดิมบนดาวดวงนี้ แต่เป็นสัตว์จาก Talos-II และวิวัฒนาการจนมีสภาพใกล้เคียงกับมนุษย์ สถานะทางร่างกายแข็งแรงกว่าแต่ได้รับผลกระทบจาก Originium ในขณะที่มนุษย์ยุคโบราณไม่ได้รับผลอะไรเลย
ตรงนี้ยืนยันจากอีเว้นท์ R6S ที่ชาว Terra ตกจากตึกสูงได้สบายๆ โดนระเบิดแค่คันๆ
ว่าไปพอลองเอา Timeline มาเรียงๆ กันดูแล้ว หมอแมวนี่ก็ไม่ได้ไหนไกลเลยแฮะ
ช่วงปี 30 กับ 68 ก็มี Babel แล้ว แต่ในเรื่อง Walk in the Dust ปี 1075 80 และ 84 พูดเหมือนตัวเองเป็นคนจรไม่มีที่ไป ที่ไหนได้ล่ะมี Babel คอยต้อนรับกลับอยู่แล้วนี่หว่า
เอาล่ะสรุปอีเว้นท์ก็คงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ถ้าชอบการสรุปก็ฝากส่ง Ko-fi เลี้ยง Coke zero ผู้เขียนหน่อย อีเว้นท์หน้า Wis’adle ถ้ามันไม่ยาวเกินไปก็คงจะมาต่อให้ หวังว่ามันจะยาวไม่เท่ากับอีเว้นท์นี้นะ...
ไม่ได้ตาม lore ตั้งนานด็อกเตอร์มันอายุยืนขนาดนั้นเลยเหรอวะ แถมไม่แก่อีก
>>586 Sarcophagus คืออุปกรณ์จำศีลระยะยาว ที่แหล่งพลังงานยังเป็นปริศนา แต่แค่ลองดึงพลังงานจาก Sarcophagus เครื่องเดียวมาใช้ก็สามารถจ่ายไฟเลี้ยง Chernoborg ทั้งเมืองได้เลย
ตัว Doctor เองก็จำศีลอยู่ใน Sarcophagus นี่มาราวๆ หมื่นกว่าปี (น่าจะมากกว่า 13000 ปี) จนกระทั่งหมอแมวมาปลุกนี่ล่ะ ก่อนจะโดนจับยัดลงโลงอีกทีหลังโดนลบความทรงจำ แล้ว Amiya จึงค่อยมาปลุกอีกทีในเนื้อเรื่องหลัก
Sarcophagus ถ้ามนุษย์ใช้จะเป็นแค่เครื่องจำศีล + รักษา แต่ถ้าชาว Terra ใช้จะทำการย้อนวิวัฒนาการให้กลับกลายเป็นร่าง Primal ที่รูปร่างแบบสัตว์ ซึ่งเด็กเปรต Mephisto ได้ใช้เครื่องนี้ทำให้ตัวเองกลายเป็นบอส The Singer นั่นล่ะ
>>585 ถ้าอิงตาม CnC Tiberium นี่อันตรายพอกันเลยแหละ
มันโดนเอาไปเป็นทั้งอาวุธ ทั้งพลังงาน แค่ไม่รู้ว่าได้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันรึเปล่า (น่าจะไม่มี) แต่ Tiberium โดนนับว่าเป็นแร่มีค่าเช่นกัน
มันมีคุณสมบัติเป็นยังเป็นพิษกับ Carbon base lifeform ทำให้มนุษย์กลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาด และถ้ามันรวมตัวกันมากๆ ก็จะเกิดพายุ Ion storm หนำซ้ำยังทำลายความอุดมสมบูรณ์ในดิน จนมนุษย์ต้องหลบกันไปกระจุกอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ที่มีการควบคุมเข้มงวดแทน
และจุดประสงค์ของ Tiberium ก็คือมา Terraforming ดาวโลกโดยพวก Scrin ที่เป็นเอเลี่ยนจากต่างดาว
I kneel โม่งสรุป ว่าไปคุ้นๆว่ามันมี seaborn ที่เรียกเราว่า oracle ด้วยใช่ไหมวะ?
เทเรซิสนี่โดนัลทรัมป์แห่งโลก ak รึวะ
ถามโม่งสาย lore หน่อย W ทำไมมันจงรักภักดีกับเทเรซ่าจัง เห็นมีแฟนอาร์ต W แนวอวยเทเรซ่าเยอะเลย
อนาคตแม่งมีเล่นประเด็นเรื่องไอ้หมอสองบุคลิคแน่นอน
ไปเล่นpopucomกันได้นะตอนนี้มีให้ลองdemoอยู่
>>601 https://youtu.be/wHMNQzLG_Jg?si=5zwf5OJjSgKee2m1
เกมนี้หรอ🇨🇳🇨🇳🇨🇳
วันนี้เพิ่งสังเกต Rope นี่เปลี่ยนเสียงคนพากย์เหรอวะ? โทนเสียงตอนเปิดได้ไม่เหมือนเดิมเลย
ไหวถึงเปลี่ยนวะ คนเดิมไปโดนคดีอะไรมาอีกรึไง
ได้คนพากย์นมนมมิเกมน้องมาแทน
ตั๋วเลือกตู้wมีเจ๊ดีเจนให้เลือกไหมวะ
>>605 คนพายก์ขอพักงาน แต่จริงๆก็น่าจะออกจากวงการไปแล้ว เพราะพักมาตั้งแต่ปี 2019 ak คืองานพายก์สุดท้ายก่อนหายไป
ที่เปลี่ยนเสียงเพราะมันจะมี voice lines สวัสดีปีใหม่ กับ อวยพรวันเกิดผู้เล่นเข้ามาตอน ch 14 เลยต้องเปลี่ยนคนพากย์ใหม่
จริงๆก็น่าจะเก็บเสียงเก่าให้เลือกใช้เหมือนเกมพี่สาว
ว่าไปอีเว้นท์ถัดไปนี่ตกลงเป็น Ch 14 หรืออีเว้นท์แยกวะเนี่ย เพราะเป็นตู้ลิมิตด้วย
หรือว่าเป็นแบบตอน Ch.8 มาพร้อมแมวขาว?
โถนี่คือเนื้อเรื่องสุดเทพที่เขาร่ำลือกันเหรอวะ ก็งั้นๆอ่ะไอ้สัส ยอดก็อยู่ใต้ตีNเขาตลอดแต่เสือกบอกเจ๋งสมเพจมาก
ไลฟ์จีนวันไหนนะ
https://www.facebook.com/share/p/wJbHXmsgvZoBojMA/? โพสนี้เค้าคุยเนื้อเรื่องกันเผื่อใครอยากไปอ่าน
นอกจาก gamepress มีพวก wiki อื่นอีกไหม
เมื่อไรกุจะได้อินกับประเทศเราในเกมนี้ซักทีวะ แม่งไม่เห็นหัวพวกเราเลย
>>620 ถ้าญี่ปุ่นกูใช้อันนี้ https://arknights.wikiru.jp/
ประเทศแถบเรามันจะไปยัดไว้ไหนวะ เซียสต้าเรอะแถบเขตร้อนริมทะเล
ยึดติดอะไรกับประเทศเล็กๆของตัวเองกันขนาดนั้นวะโม่ง จะใส่ประเทศที่คนไม่รู้จักอย่างไทยมันน่าจะมีตัวเลือกอื่นๆที่ดีกว่าอีกหลายตัวให้มันเลือกนะ
เทเรซ่าแม่งโลกสวยเกินไม่แปลกที่เผ่ามันจะไม่ค่อยเอา คนแม่งอยู่ลำบากจนถึงขั้นไม่มีชื่อเพราะมีชื่อไปเดี๊ยวก็ตายเนี่ยใครมันจะรอความฝันแบบนั้นเป็นจริงไหววะ
>>629 ไม่ใช่โลกสวยหรอก นางมี Civilight Eterna ติดตัวเลยเห็นประวัติศาสตร์จากความทรงจำของราชาปิศาจตนอื่นๆ ซึ่งความทะเยอทะยานของ Sarkaz แล้วจบด้วยการล่มสลายมาหลายครั้ง นางเลยไม่อยากให้เรื่องมันซ้ำรอย
แถมยังพยายามแก้ปัญหา มอบการศึกษา ปลูกฝังคนรุ่นใหม่ๆ อีกทั้งยังพยายามหาทางรักษาโรคหินดำที่เป็นภัยหลักอีก ซึ่งทั้งหมดเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวทั้งนั้น แต่เสียดายที่สังคมชาว Sarkaz มันไม่เปลี่ยนง่ายๆ พวกหัวเก่ามีอยู่เยอะท้ายที่สุดก็แพ้กระแสสังคมไปนั่นล่ะ
>>631 เออ ควรจะทำแบบนี้ได้นะ Greater India
อินเดียก็พี่ถอนไง
พี่ถอน : กูเป็นคนสเปนครับ
เออ 5.5
เก็งแลปแลนด์อัลเตอร์ 1
ตัวไม่ลิมิต 1
Sussurro 1
5 * อีก 1
กูแก้ผ้ารอแลปปี้คนดีศรีภรรยาเลยครับแบบบ
แลปอัลเตอร์นี่ยังไงก็ต้องมาแหละ
ส่วน Dimitri นี่เก็งมาตั้งแต่อีเว้นท์ก่อนละ เพราะใส่กำไล RI
แต่ Sussuro alt นี่ อุกรี๊ดดดด
กูรอดูรินขี่คอเทนนินก้ารวมร่างเป็นคารา 6* อยู่นะ hg ถถ+
ไม่มีหลุดไม่มีลีคซักนิดหรอวะรอบนี้
มันใบ้ในPVเลยไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่
ตู้แลปปี้มันช่วงครบรอบพอดีนิ ไม่ลิมิตเดี๋ยวเขาจะแซวเอาว่าเจ๋งไม่เท่าเท็กซัส
สรุปเนื้อเรื่องบาเบล กุเห็นคนมันว่าจริงๆด๊อกเตอร์มันโดน priestess ล้างสมอง เลยทำให้ด๊อกมันเลยตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นไป
มันจริงหรือคนมันแค่ copenium ไปเองวะ?
>>646 ไม่ๆ ที่โพสต์นั้นมันเข้าใจก็คือ สาเหตุที่ Doctor ยอมหักหลัง Theresa อาจจะเป็นเพราะโดน Priestess ล้างสมองมาก่อนหน้านั่นต่างหาก
ตรงนี้ก็น่าคิดเหมือนกัน เพราะ Doctor กับ Oracle เหมือนจะมีจุดต่างกันอยู่เยอะพอตัว แต่เรื่องมันก็ไม่ได้มีบอกอะฉะนั้นตอนนี้ก็คงนับว่าเป็นแค่การมโนไปเองนั่นล่ะ
>>647 นั่นแหละ มีคนหลายคนที่อ่านเนื้อเรื่องแล้วมองการดีเบตของตัวละครไม่เข้าใจแล้วกลายเป็นมองว่าคือการล้างสมอง
ยิ่งในกิจนี้ชัดมาก ไอ้หมอฉากหลังดำกับฉากหลังขาวคือไอ้หมอมันดีเบตกับตัวเองแล้วสุดท้ายมันเลือกตัวเลือกเพื่ออนาคตและเพื่อเผ่าของมันเอง
โปรเจคออริจิเนียมยังไงก็ต้องไปต่อเพราะไม่งั้นถ้าออฟเซิฟมาเจอเมื่อไหร่ก็ตายหมดแบบไม่มีทางสู้แล้วจะไม่เหลืออะไรเลย
เทเรซ่าตายแล้ว ใครจะเป็นศพต่อไป
มีคนบอกมีหลุดมาบ้างละไปหาดูที่ AK info Dump ในtwitterไม่รู้ว่าของจริงป่าว
อีกสองวันก็รู้แล้วจะดิ้นรนไปใย แต่อี w มันคงไม่ตายง่ายๆหรอกมั้งตามฉายาแมลงสาบ(?)นั่นแหละ
มีตัวไหนเข้าตู้แล้วตายตามเนื้อเรื่องบ้างล่ะ
ไม่ใจไง ดู fgo ดิ ตายเป็นว่าเล่นยังออกกาช่ามาได้ ตัวที่ขายได้เสือกไม่เอามาลง
ใจส้นตีนเถอะตายไปก็ซัมมอนออกมาได้อยู่ดีต่างอะไรกับตายปลอมๆไม่รู้จักจบจักสิ้นแบบhsrวะ กุเจอแบบนั้นรัวๆกุลบเกมทิ้งเลยอีเวร
เจสตั้นก็ออกจะเท่ กูยังอยากให้มันลงตู้กาชาเลย
ไลฟ์เจ้ควันนี้กูกำดอรอเท็กซัสคนหล่อแล้ว
กุยังเสียดาย ดีไซน วิชคิงอยู่เลย น่าจะให้ไอ้คนที่เป็นร่างเอาไว้ใส่วิญญานแม่ง อัพเป็นร่าง Alter ซักที
วิชคิงบอกปล่อยกูไปเถอะ ลูกน้องก็ทีแล้วมึงจะยังเอากูออกไปอีกเหรอ
w alter มาช่วงไหน ?
แม่ซูซูรันว่ะ
มาเท่เหมือน degen ด้วย
ไอ้สัสลุดมิล่า
GGกูตกงานล่ะป่ะ 555555
แม่ลิซ่าอายุเท่าไรวะนั่น หน้าโคตรเด็ก
กูแค่อยากได้ดิมิทรี...
ลุดมิล่าขึ้น e2 อาร์ตแม่งอย่างเท่
น้องแว่นนี่อะไรวะ ตัวใหม่รึตัวแจก?
หมาดำที่โผล่มาใหม่นี่ไม่น่าจะใช่ซาโร่
เสียงหญิงแก่ อย่าบอกนะว่า "คุณยาย"
>>681 แต้วกิ้วเพื่อน
ปล.ภาพนี้แม่งอย่างฮา
https://i.imgur.com/PTcTx2D.jpeg
>>673 ตกงานในเกมแต่ได้ออกฟิกนะ
https://x.com/nambarimasu/status/1850164185298354554
ว่าแต่รอยยิ้มคุณแม่แม่งเท่ชิบหาย
งุ้ยยยย ตัวอื่นนี่ตามคาด แต่มีผิดคาดตรงที่แม่ลิซ่าเข้าตู้เนี่ยล่ะ
ส่วนลุลมิร่า... นึกว่าจะโดน bully ติดคุก NPC ต่อซะแล้วสิ ถถถถ
รออ่านบทอยู่ เพราะจำได้ว่าเรดไปเชือดอาจารย์ลุดมิล่าทิ้ง ไม่น่าจะญาติดีให้กันได้ มาเข้าโร้ดส์เลยรู้สึกแปลกๆ
GG มันเก่งเพราะเป็น afk lord อ่ะ ถ้าเท็กซัสมีแต่ manual skill ถึงเก่งก็ไม่ได้เอามาแทนกันอยู่ดี
ขุ่นแม่แจ่มมาก ต่อไปขอขุ่นแม่โลกอสนะ
แลปแลนด์S1เป็นแบบเปิดปิดโหมด ถ้าเปิดโดรนจะบินไปยิงตัวที่ยืนนิ่งๆแบบสุ่มได้ทั่วแม๊พ ดูมีประโยชน์ถ้าเจอด่านที่ศัตรูมันมายืนสแตนด์บายกันตั้งแต่เริ่ม
ด้อมฝรั่งสังเกตุรูปสัตว์ตอนแนะนำ beast lord
รูปแมวตัวเดียวกับ e2 Mousse ......
ลุดมิร่าไม่ใช่หมาป่า ก็ว่าทำไมเรดถึงเคยพูดแบบนี้ตอนเจอครั้งแรก
ที่แท้นางเป็น Rebbah เป็นไฮยีน่านี่เอง
ไฮยีน่าลายแถบตัวเมีย ไม่มีดุ้นนะ แค่ไฮยีน่าลายจุด
ส่วน Beastlord ว่ากันว่าคือพวกชาว Terra สมัยยังเป็นสัตว์อยู่นั่นล่ะ ที่โดน Originium ตุยไปแล้ว แต่วิญญาณดันยังอยู่แล้วยังสัมผัสกับวัตถุได้ด้วย เลือกปรากฏตัวให้คนเห็นได้อีก ในขณะที่ชาวบ้านทั่วไปวิวัฒนาการกลายเป็นคนไปแล้ว
สรุป Beastlord = ผีบรรพบุรุษ ว่ะถถถถถ
ไอ้ผีแกะว่าป่วน ผีแมวจะไม่ยิ่งกว่าอีกเหรอวะ
ว่าไปกูเพิ่งสังเกตแฮะว่าปัจจุบันเขานับว่า Durin นี่คือ Sarkaz กลายพันธุ์เหมือน Oni กับ Anasa ด้วย
มึงเจอดูรินร่างจริง 6* แน่ มาแบบเป็นสาวทรงโต
ว่าไปแม่ลิซ่าดูสวยเฉียบแบบนี้ แต่ลูกกลับออกมาน่ารักสดใสปานดวงตะวัน
แสดงว่าฝั่งพ่อต้องเป็นโชตะไร้เดียงสาแล้วโดนขุ่นแม่ลากไปกินตับแหงเลยว่ะ
ว่าไปพูดถึงลิซ่ากับแลปปี้แล้วคู่นี้ยังไม่เคยเจอกันตรงๆเลยใช่ไหมอ่ะ คุ้นๆเคยอ่านเจอว่าโร้ดส์เหมือนพยายามกันไม่ให้คู่นี้เจอกัน
ไอเทมทำโมดูลหร่อยหรอชิบหาย แพทช์หน้ามาทำของตูดเงิน ทอน วีซาเดลก็หมดพอดี ทำไงดีวะ
อยากมีโมดูลพอ ใช้ทางลัด(เงิน)สิ แพ็คมีขายอยู่บ่อยๆ
แม่suzurunคนชอบเยอะนะเนี่ยfaแต่ละอันในxคนกดไลค์เยอะจัด
มีsub classอะไรที่ยังไม่เคยออกหกดาวป่ะ
เพิ่มอีกสาย เพราะข้อมูลพึ่งปล่อย
Primal Protector Defender, defender ที่ทำ elemental damage
เอ้ย ดีเฟนเดอร์
กิจมันมาวันไหนนะ พรุ่งนี้หรือคืนนี้
ขอพื้นที่มโนหน่อย พอดีลองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Beast Lord เพิ่มแล้ว กูว่า Originium มันชักใกล้เคียง Lifestream หรือ Aether ในไฟนอลเข้าไปทุกทีแฮะ
หากต้นกำเนิด Beast Lord มาจากสัตว์ยุคบรรพกาลที่โดนอุกกาบาต Originium ตุย กลายเป็นสัมภเวสีอยู่บน Terra เพราะโดนฤทธิ์ของ Originium สมัยที่ยังสดใหม่เข้าไปเต็มๆ ซึ่งถ้าอ้างอิงจากอีเว้นท์แกะ พ่อ/แม่ของเอจาก็ตุยบนภูเขาไฟที่น่าจะมี Originium เข้มข้นพอควร ทำให้เศษความทรงจำยังหลงเหลือกลายเป็นแกะมาเล่นกับลูกสาวงี้ แสดงว่า Originium ต้องสามารถบันทึกและทำสำเนาความทรงจำแล้วสร้างผีได้แหงๆ
ถ้าให้มโนเพิ่ม พวก Sarkaz ที่ส่วนใหญ่ติดเชื้อเข้าขั้นสาหัสอยู่แล้ว มีระบุชัดเจนว่าหลังตุยจะกลับไปร่วมกับ Myriads of Souls กลายเป็นผีหลอกหลอน Sarkaz รุ่นใหม่ๆ ปลูกฝังความแค้นและความเกลียดเผ่าพันธุ์อื่นอย่างช้าๆ จน Theresa ต้องพยายามปรับทัศนคติของชาว Sarkaz กันใหม่ ก็น่าจะเป็นผลมาจากที่พวก Sarkaz อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มี Originium เข้มข้นเช่นกันนี่ล่ะ
อย่าบอกนะว่าการที่ Doctor คนเดิมมันอยากจะให้ Originium กลืนโลก ก็เพื่อให้ทุกคนรวมถึงพวก First Civilization ไปเจอกันอีกทีในโลกหลังความตาย ทำนองเดียวกับ Aetherical Sea ใน FFXIV
>>726 เผ่ามารมันเป็นเนทีฟของดาวดวงนี้ สัมผัสหินดำมากกว่าเผ่าอื่นเลยเรียนรู้วิธีถ่ายข้อมูลวิญญาณตัวเองหลังตายไปกองรวมกันในเตาไฟ หรือเร่ร่อนไปสถิตในวัตถุ แบบทินแมนได้ (หินดำมีความสามารถพิเศษในการส่งต่อข้อมูล ตามที่มึงรู้มานั่นแหละ แค่การส่งข้อมูลคนละรูปแบบ)
บีสลอร์ด กับเนทีฟทีคาซ (myriads soul) อายุอาจจะไล่เลี่ยกัน
ทีคาซ(ซาคาส) ทรงพลังหน่อย ตายแล้วย้ายเข้าไปเตาหลอม เป็นแกนพลังงานเอามาใช้ขับเคลื่อนเรือบิน หรือพิธีกรรมอื่นๆที่ต้องใช้วิญญาณ
บีสลอร์ดคือพวกสัตว์ทั่วไปในยุคเรานี่แหละ ที่ถูกหินดำตกใส่ตายห่า แต่แทนที่ตายแล้วจะไปเกิดใหม่ วิญญาณดันโดนหินดำบล็อควังวนไว้ ทำให้วิญญาณสัตว์รอบๆมารวมตัวกันกลายเป็นบีสลอร์ดแบบที่เราเห็น (วิญญาณสัตว์อมตะ)
ที่เอ็มเพอเรอร์ตายแล้วยังคืนชีพเป็นว่าเล่นได้ก็เพราะมันคือก้อนพลังงานจากวิญญาณสัตว์นั่นแหละ
อีเว้นท์คอลแลป r6 มัน canon ป่าววะ จะมีคอนเฟิร์มป่าวว่าเผ่าด็อคคือมนุษย์ในอนาคตเพราะคนอิเซไคก็กันหินดำเหมือนกับด็อค
แล้วสรุป collab กับ dungeon meshi นี่ canon ไหมอ่า ขอบใจนะ
Lappland the taxi driver!!
ลองอ่านมังงะอันใหม่แล้ว พ่อหมาแลปนี่โคตรเหลี่ยมเลยจริงๆ ว่ะ
เพราะรู้ว่าลูกสาวเชี่ย เลยวางแผนหลายตลบหลอกใช้งานเพื่อให้ตระกูลไปถึงจุดหมาย แล้วพอได้ตามเป้าก็ตัดหางทิ้งแบบไม่ใยดีซะงั้น
เอาไปเลยที่นั่งตำแหน่งพ่อเชี่ย รอดูเดะว่าในอีเว้นท์เรื่องราวจะออกมาเป็นยังไง
https://i.imgur.com/dvsosDA.png
หยิบตัวไรดีอะโม่ง ใจกูไปมิซุกิแต่โดนครีปไปแล้วเนี่ยดิ
qiubai เห็นว่าได้โมดูลแล้วดูดีขึ้นแต่กุใช้แต่ afk คงไม่เห็นผล พรี่ ex ก็ดีแต่ต้องอัพเต็มถึงจะยืนเลนคนเดียวได้ ที่เหลือกุไม่มีแค่แมวเศร้าไม่ได้ปั้นเลย
รอบนี้ jp ต้องแข่งกับ pokemon tcg น่าจะชวดตั๋วฟรีแน่เลยว่ะ
90 โรลได้logos+specter+w คุ้มโคตรๆ
โล่งหน่อยไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ ครบที่100กว่าๆ
W โกงจังวะ นึกไงออกตัวแบบนี้มา ถอดสมองเล่น
กูโดนไป 220 โรลละอีแมลงสาปยังไม่ออก สงสัยโดนการันตี 300 แหง
เดี๋ยวรอพรุ่งนี้เอาโรลฟรี 50 โรลก่อน ถ้ายังไม่ออกอีกคงต้องเติมเพิ่มสถานเดียวแล้วล่ะ
แมงสาปร่างล้อรถบัสนี่ยังเมต้าอยู่มะได้ครบหน้าตู้ละถ้ายังเก่งอยู่จะไป 200 โรล
วิส 5 ตัว Ntr 1 ตัว ไซรัชหรือไซอีสวะอีก 1 ตัว 220 roll แต่บักลูลูซไม่รอกดไปเรื่อยๆ ละกันนนน
60 ออกครบ 🤓😚
190 ไขพึ่งได้ w แต่โลกอสออกมา 4 ถือว่าโอเคพอรับได้ แต่ที่แอบเคืองคือฟาง 5* แม่งออกมาตัวเดียวเอง
10 โรลแรกออก W เลย แต่ต้องไปต่ออีก 20 โรลถึงได้ Logos
น่าจะเป็นตู้ที่กูดวงดีที่สุดเท่าที่เคยกดมาแล้ว T^T
กุเลิกไปตอนยังอยู่ช่วงฟอตโนว่า เห็น w ร่างใหม่เลยอยากกลับมาเล่นถ้ากุวิ่งควายตอนนี้ยังพอเก็บ ทันไหมว่ะ
W ไอ่นุ๊กเฉยๆยังพอว่า พอมีเสกซัมมอนมาด้วยอย่างโกง
แต่อย่างว่านี่เกม single player เกมมันไม่ได้จ่อหัวให้มึงใช้ แค่อย่าดีไซน์ด่านเอาอีนี่เป็นศูนย์กลางแบบกูต้องดีไซน์ด่านให้มันยากๆเพื่อที่มากดจะได้ไม่อีซี่เกิน ถือซะว่าเป็น easy mode กับทางเลือกให้พวกผู้เล่นใหม่ละกัน
(แต่จุดอ่อนก็ยังมีหน่อยคือซัมมอนกับอี w ตีอากาศไม่ได้ยกเว้นตอนกดใช้สกิล)
อี W มันตัวอวยเนื้อเรื่องเลยมั้งบทแม่งอย่างเยอะแยะไม่พอมีอีเวนท์ของตัวเองอีก จากทหารรับจ้างมาเป็นนักรบเลี้ยงผี(ป้อมปืน) ได้เจ้ลิดุควาดให้อีก หมาแลปปี้เอาไรมาเทียบ
อี w กับ แม่มึงเด็ดว่ะโลกอส ตัวไหนน่าทำ pot 5-6 สุดวะ
จะ300แล้วโลกอสยังไม่ออกเลยว้อย🙏
แม่โลกอสมันมาเป็น 3* ให้ด้วยนะมึง ถถ+
>>759 ลองแล้วดิมันก็แรงนั้นแหละแต่สุดท้ายเกมแม่งก็ไม่ต้องการความแรงระดับนี้อยู่ดี
เซิฟจีนมันบ่นทุกอย่างอะมึงจำดราม่าที่มันพยายามปั่นตอนอีเฉินว่ายน้ำลงตู้ไม่ได้หรอ ปั่นซะใหญ่โตสรุปเป็นไงไม่มีไรเปลี่ยนคนตัวเก่าๆกันเหมือนเดิมดีไม่ดีใช้ตัวเก่าๆกันมากกว่าอีเฉินอีก
ทุ่มหมดหน้าตักไป170หมุนได้หน้าตู้หมดละ แต่อยากเปิดต่อเก็บตัวลิมิทที่พลาดไปด้วย
ถ้าเอาชัวร์ก็ต้องถึง300แลกเอา จะเป็นไปได้ไหมวะ555555
วันนี้ขึ้นเดือนใหม่เอาแต้มทองแลกตั๋วได้อีกรอบแต่ตอนนี้มีแค่120ยังขาดอีกร้อยกว่าๆ
โลกอสน่ากดแค่ไหนวะ
เกมนี้ไม่จำเป็นต้องอัพขั้น ตลค ใช่ไหม
สกาดิ แดง ตู้หลุดเรทจะมาอีกทีตอนไหน รอบนี้เก็บ 300 ไม่ทัน
>>772 อัพขั้นที่ว่าหมายถึงขึ้น E2 หรือว่าขึ้น PoT ล่ะนั่น
PoT มันเพิ่มความเก่งในระดับการเล่นสูงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่จำเป็นอะ จะมีแค่บางตัวนั่นล่ะที่มีเต็มแล้วมีประโยชน์ขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย อย่าง Mostima หรือ April Bagpipe อะไรพวกนั้น แต่ส่วนใหญ่ไม่มีมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร
โดนครีปเรียบร้อย
https://youtu.be/mg6odNG1Bb8?si=8RBeZYXKJA33U9Hf
ขุ่นแม่อิงกริด (แม่ลิซ่า) โดนขุ่นผัวสต๊อกตั้งแต่แรกพบว่ะ
เอิ่มมม Alberto พ่อหมาแลปนี่คือคนที่ส่งตุ๊กตาติดระเบิด Originium ให้ลิซ่างั้นเหรอวะเนี่ย
ถ้าจริงนี่ตำแหน่งพ่อเชี่ยไม่พอละ เอาไปเลยคนที่เชี่ยที่สุดใน Terra
>>777 พ่อน่าจะโดนแม่เล็งมากกว่าวะ5555
https://www.facebook.com/share/p/gAg585X7BEosxrpE/?
หลายคนคงจะสงสัยว่าแม่กับพ่อซูซูรันพบเจอกันได้ยังไง คนหนึ่งเป็นนักฆ่าจากซีรากูซา ส่วนอีกคนก็เป็นนักบวชจากศาลเจ้าแห่งหนึ่งในฮิกาชิ เป็นคู่ที่ไม่มีภาพเลยว่ามาเจอกันได้ยังไง แต่ในโปรไฟล์ของแม่ซูซูรันก็มีเล่าถึงเรื่องนี้อยู่ในไฟล์ที่สาม
เรื่องการพบเจอกันระหว่างทั้งคนนี่เรียกได้ว่ามีหลายเวอร์ชั่นมาก แต่อันนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ซูซูรันเป็นคนเล่าเองในโปรไฟล์:
"กลุ่มติดอาวุธได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ที่ศาลเจ้าที่พ่อซูซูรันเป็นนักบวชอยู่ ทำให้เกิดปัญหาบ่อยครั้ง เพื่อปกป้องพลเรือนผู้บริสุทธิ์ เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะไปที่ฐานของอีกฝ่ายเพียงลำพังเพื่อเจรจาเป็นครั้งสุดท้าย ที่เชิงเขา เขาเดินผ่านผู้หญิงชาวต่างชาติคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมและมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าขวาของเธอ เมื่อไปถึงฐานของกลุ่ม หัวหน้าอีกฝ่ายก็ตายไปแล้วท่ามกลางหิมะและสมาชิกคนอื่นก็กระจัดกระจายหนีกันไป หนึ่งสัปดาห์ต่อมา นักบวชคนนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าลำลองและเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อชิกูวาสำหรับ 'เทพเจ้า' องค์หนึ่งที่บูชา ที่แผงขายของริมถนนประจำของเขา ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาได้ซื้อชิกูวาพิเศษสองชิ้นสุดท้ายไป เขาจึงถามอย่างสุภาพว่าจะช่วยขายชิ้นหนึ่งให้ตนเองหน่อยได้ไหม หญิงชาวซีรากูซาที่น่าเกรงขามหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มในขณะที่ยื่นชิกูวาหนึ่งอันให้เขา เขาโค้งคำนับด้วยความขอบคุณทั้งสำหรับชิกูวาและการพบกันครั้งที่สองของพวกเขา....สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็เป็นไปตามธรรมชาติ"
ทั้งหมดอาจเป็นแผนของแม่ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ มาเก็บกวาดจัดการปัญหาให้เผื่อไว้ก่อน (ฮา) แต่ที่ซูซูรันเล่ามาจะเป็นเรื่องจริงไหม หรือมีเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอีกไหม ตอนนี้ก็ยังบอกอะไรมากไม่ได้ รู้แค่ว่าแม่ร้ายไม่เบา (มีคดีฆาตกรรมติดตัวจากศาลเมืองต่าง ๆ ในซีรากูซาทั้งหมด 27 คดี และมีอย่างน้อย 10 ตระกูลที่ตั้งค่าหัว ที่ครึ่งหนึ่งก็ยังมีรางวัลให้อยู่จนถึงปัจจุบัน) 🤣
>>781 กูอ่านแล้วจินตนาการตามไปไกลเลย
วันในที่หนาวเหน็บหิมะโปรยปราย ชายหนุ่มอ้อนแอ้นหน้าตาอ่อนโยนผู้หนึ่งกำลังสั่นเทิ้มเม้มปากแน่นไปด้วยหัวใจที่เต้นรัวด้วยความตื่นกลัว เพราะตรงหน้าของเขานั้นคือหญิงสาวร่างเล็กแต่กลับมีแววตาเฉียบคมที่มาพร้อมกับรอยแผลเป็นบนแก้มขวา กำลังจับจ้องเขาด้วยสายตาเย็นเฉียบราวกับคมมีดที่กรีดลงบนแผ่นหลังจนสะท้าน
ใจหนึ่งก็กลัวจนไม่กล้า แต่ด้วยภาระหน้าที่ทำได้เขาจำต้องเอ่ยออกไปว่า “ได้โปรดช่วยแบ่งเจ้าสิ่งสำคัญ (ชิกุวะ) มันให้ผมด้วยได้มั้ย“
เตรียมใจเอาไว้แล้วว่าจะถูกปฏิเสธ แต่สิ่งที่บังเกิดขึ้นกลับเป็นเสียงพ่นลมออกมา ก่อนจะตามด้วยการยกมือป้องปากและเสียงหัวเราะขบขันเล็กๆ ที่ดูเข้ากับร่างบางๆ นั่น
และแล้วชิกุวะชิ้นหนึ่งก็ถูกยื่นออกมา….
พอเถอะ กูเตลิดไปไกลแล้วโว้ยยย
ภาษาดอกไม้กูพอรู้จัก
แต่ยื่นชิกุวะให้กันคืออะไร
เรทแมงสาบระยำใจมาก
มึงหาตังทำ enfield เหรอวะ
เดี๋ยวกลางปีหน้าก็ได้เล่นendfieldละ คงเสียเงินเยอะกว่าเดิมอีก55555
300 โรล w กับ logos pot5 ไปละ หลังจากนี้มีตัวไรน่ากดบ้างป่าววะ จะได้เติมแพ็คเพชรเผื่อ
>>788 มี Nymph ที่โหดๆ แต่ต้องคอมโบกับตัวที่ยิง Necrotic ได้
Ulpianus ต้องใช่กับทีม AH ถ้าไม่อวยจะข้ามก็ได้
Pepe นี่ธรรมดาไม่หวือหวา แต่ตู้นี้มี Narantuya ที่ได้ชื่อว่าเป็น Lane holder สาย range
ดันเมชินี่ตู้ลิมิตเต็ดแต่ใช้งานจริงไม่ค่อยดี ส่วน Vina นี่ก็จืดๆ อยู่ ไม่ได้เก่งระดับครีปชาวบ้าน
เรียบร้อยโดน 300 โรลเพื่อเอาแมงสาป
มีเหรียญแลกได้อีกตัวเอาอะไรดีวะ ตอนนี้ขาดม้าแสง แมวขาว และแมลงสาปร่างระเบิด
Lappland alter เป็นยังไงบ้างวะโม่งขอรีวิวจากผู้ใช้งานจริงหน่อย
Mostima กุจะมี Alter กับเขาบ้างไหม
อีมอสนี่มันมีถือของดีติดตัว เดี๋ยวใช้พลังได้ก็คงได้ร่างใหม่แหละ
ด่าน h14-1 มาวันไหนวะ อยากปลดซีวิลไลท์โพเต็มแล้ว
14-12 ไม่เปิดไกด์ใครมันจะผ่านวะสัส ไอ้เหี้ยแมงมุม 90 ตัว+ ด่านอื่นกูยังคิดเองได้ เจอด่านเหี้ยนี่ถึงกับผงะ
แก้งค์บาเบล + แมงสาบMK2 รับจบ เหมือนด่านมันออกมาอวยเลยว่ะ อิเนส S3 โฮก็เลือดเยอะบวกได้ ส่วนแมงสาบร่างสองไม่ต้องพูดมาก โกงชิบหายโบรคเค่นโซโล่ยังได้
เล่นเซิฟโกบอล จะดูไทม์ไลน์ตู้กาชาได้ที่ไหนเหรอ เทเรซ่าจะเข้าตู้หลังwisadelรึป่าว จำไม่ได้
>>802 https://arknights.wiki.gg/wiki/Headhunting/Banners/Upcoming
>>800 ไม่มีพี่ฮอดอ่ะ แอบเสียดายเหมือนกัน ตอนนั้นโม่งแม่งถ่มถุยว่าโดนหมากัดตายกูเลยข้าม(หลักๆคือดองเพชรไว้ไขตู้อีนี่เนี่ยแหละ)
ทอน ยังใช้งานได้ดีอยู่ไหม
ชักไม่แปลกใจแฮะที่ลิซ่าโตมาสดใสราวดวงตะวัน
เจ้าพ่อมาเฟียตระกูลของขุ่นแม่เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ได้ครอบครัวอบอุ่น การศึกษาดีๆ เลี้ยงแบบปู่เลี้ยงหลานแท้ๆ ไม่ให้ยุ่งกับโลกมืดของ Siracusa เลย ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือปู่แกไม่อยากโดนเด็กกลัว
Meanwhile หันไปมองดูทางพ่อหมาแลป….
ลองฝืนไม่ใช้ทรูดาเมจกับบอสepนี้ บอกได้เลยว่าไม่ทันหวดกันยันพื้นหมด ตามเมคานิคนั่นแหละดีแล้ว
เหี้ยจริงๆ (ชม)
https://www.youtube.com/watch?v=1zmjgcVZRts
กูสาย skip ไอ้วงหมุนๆสีแดงในอีเว้นนี้คืออะไรวะ
ฆ่าเร็วๆนั่นแหละดีแล้ว ตัดปัญหาไปก่อน เจอสตั้นช่วงหลังอย่าหวังจะได้เล่นมอนเดินเข้าเหมือนเดิม
บอสเทเรซ่าฆ่าบอสได้ก็จบด่านแล้ว กูเอาแมลงสาบอัลเตอร์,รีดอัลเตอร์,เท็กซัสอัลเตอร์นุ๊กแป๊ปเดียวตายห่าละ มอนยังไม่ทันเดินเข้าบ้านแต่ต้องมือไวหลบไอ่ท่าสตั้นตอนแรกๆหน่อย
เชี่ยลองดูตาราง Tier list โมดูลแพทนี้ ทุกตัวต้องอัพขั้น 3 หมดเลย
แล้วกูดันไม่ได้ลง SSS มานานแล้วด้วยสิ
ลงตอนนี้ไปเจอไอ้หุ่นกระป๋องที่เขวี้ยงโอ่งครอบกับระเบิดสตั้นมั้ง sss ตอนนี้
เชี่ยลงแบบคลำทางไม่ดูไกด์ลงถึงด่าน 14-10 กูต้องใช้ Logos + อาทูเรีย ทุกด่านเลยวุ้ย ไม่งั้นจัดการตัวถือโล่ไม่ได้
แต่พอถึง 14-10 แล้วเจอ Stream knight ลงมาช่วยนี่ขนลุกเลย ไว้ว่างค่อยมานั่งอ่านเนื้อเรื่องละกัน ตอนนี้ Skip ไปก่อนละ
หนุ่มหน้าสวยชอบแต่งหญิง เป็นอีลิตโอเปอเรเตอร์ของโร้ดส์และเป็นแชมป์ซิ่งเก้าอี้ล้อเลื่อน(จริงจัง)
พวกอีลิตมันเลเวลห่างกันจังวะ พรี่เอซโดนรียูเนี่ยนรุมตาย โลกอสตบกับระดับพวกตัวหัวหน้าชิลๆ
>>821 ตามตำแหน่งพี่แกเป็นถึงราชาแบนชีคนปัจจุบันเลยนะ แบนชีนผู้ชายเป็นของแรร์หายากมาก แม้อายุจะน้อยแต่ความเทพนี่บทส่งมาตั้งแต่ตอนไปช่วย Mudrock โน้นละ
พี่แกเป็นหนุ่มหน้าสวย เสียงคูล มาดนิ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับความเอ๋อลึกๆ มีศักดิ์เป็นแชมป์แข่งไถเก้าอี้ประจำ RI
>>823 พวก Elite สเป็คมันเทพทุกคนอะ อย่างแมวขาวนี่ถ้าเอาจริงจะโหดที่สุดละ หรือจะเอาเป็น Pitch ที่หยุดเวลาได้ แต่ในเกมไม่ได้เทพขนาดนั้น
แต่ลูกพี่ Ace นี่ล่ะที่ไม่ทันได้โชว์กันตุยก่อน
มี Scout อีกคนที่ว่าเทพมากระดับโดนล้อมก็ไม่แคร์เพราะลำพังพี่แกหนีได้แน่ๆ แต่เพื่อช่วย Guard และ RI คนอื่นๆ หนีรอดไปได้ เลยไปสังเวยตัวเองกับ W เพื่อหลอกให้หน่วยของ W อยู่รียูเนียนต่อไปได้ซะงั้น ซึ่งมองยังไงก็ไม่คุ้มว่ะ เพราะหากอิงตามที่ W บอกนี่ Scout คือระดับตำนานเลยนะนั่น
เอาตามตรงคือก่อนหน้านั้นยังไม่ได้คิดเนื่้อเรื่องให้สเกลใหญ่แบบปัจจุบัน กูจำได้ตอนนั้นเคาน์เตอร์ศัตรูยังเป็นรูปสัญลักษณ์รียูเนี่ยนอยู่เลย
แพทช์มาถึงวีซาเดลแล้ว ISกับด่านหาไอเทมอัพเวลโมดูลมีอัพเดทเมต้าอะไรบ้างไหมมั้ย
>>826 เหตุผลเดียวกับที่แชงค์เสียแขนให้ลูฟี่เป็นแรงผลักดันให้เป็นโจรสลัด doctor ตื่นมาก็เอ๋อๆจะยัดเยียดยังไงให้ได้สติ ก็เชื่อดตัวละครสำคัญชักตัวก็เหลือคนเดียวที่เข้าเกณฑ์ว่าตัวละครที่เล่นได้ต้องไม่ตาย
ว่าแต่ 14-20 จำได้ว่าฆ่าแวมไพร์กับลุงแพทติออดไปแล้วไหงโผล่หัวออกมาได้
ไอ้ Trilby มันก็ดูเป็นสปายที่ทำงานดีนี่หว่า ทำไมบทตอนไปบ้านตูดเงินมันดูย่ำแย่จังวะ
มินิเกมบท 14 ทำกูขนลุก น้ำตาไหล
ให้กูเล่นเป็นหน่วยแพทย์ไปช่วยคนในสงคราม
มีแต่ตัวหนังสือแต่ทำได้กดดันดี อินจากสงครามโลกจริงที่คนไม่รู้เรื่องตายเยอะ สงสารชิบหาย
ขอสรุปเนื้อเรื่องบท 14 หน่อย
Hidden Frontline เป็นรูปแบบการเล่นที่น่าประทับใจที่สุดที่ฉันเคยพบมาในเกมนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โหมดนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังสั่งการหน่วยไปข้างหน้า คุณไม่มีทางรู้สถานการณ์จริงของทีมได้ ผู้ปฏิบัติการอาจสูญเสียชีวิตด้วยเหตุผลต่างๆ ระหว่างทาง สิ่งที่เราทำได้คือเลือกการตัดสินใจที่มีอัตราความสำเร็จสูงกว่าสำหรับพวกเขา เบื้องหลังวลีสั้นๆ ที่ว่า "ทีมสูญเสียการติดต่อ"
ใครจะรู้ว่ามีชีวิตอีกกี่ชีวิตที่ต้องเสียไป แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะเรียบง่าย แต่บรรยากาศนั้นสมจริงมาก เมื่อมองไปที่ไอคอนทีมที่หายไป บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนกำลังส่งเจ้าหน้าที่ด้านโลจิสติกส์ของ Rhodes Island ไปพบความตาย แต่พวกเขายังคงขอบคุณฉันสำหรับคำแนะนำของฉัน ในความเป็นจริง ฉันถือว่าชีวิตของพวกเขาเป็นเหมือนหมาก และความน่าจะเป็น
ในตอนแรก ฉันไม่ได้สนใจ BGM นี้ แต่เมื่อฉันเล่น Hidden Frontline และเผชิญกับความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันก็ตระหนักว่าชัยชนะได้มาจากการพยายามนับครั้งไม่ถ้วนของผู้คนมากมาย ทำนองที่เศร้าโศกแต่สร้างกำลังใจนี้ดูเหมือนบทเพลงสรรเสริญความกล้าหาญของผู้ที่เสียสละ และฉันตกหลุมรัก BGM ผืนผ้าใบอันยิ่งใหญ่ถูกทอขึ้นจากเส้นใยเล็กๆ นับไม่ถ้วนเสมอ
เมื่อเส้นทางของทีมเข้าสู่เขตสงครามตัดกัน ความเสื่อมโทรมและความตายก็เลือนหายไปจากดินแดนแห่งนี้ รุ่งอรุณได้ปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดมิด เผยให้เห็นเงาที่ขอบฟ้า สะท้อนให้เห็นใบหน้าของผู้รอดชีวิตทุกคน
ฉันเชื่อว่าหลังจากได้เล่นมินิเกมนี้แล้ว คุณจะเข้าใจเพลง "Merciful Broken Sun" มากขึ้น
เห็นป้าแคทเธอรีนลงตู้แล้วกูหวังป้า Duke Caster ด้วยได้ไหม
ช่วงอีเว้นท์มันเพิ่มดรอปเรต หรือมันดรอปดีอยู่แล้วหว่า ฟาร์ม 14-19 ดรอปโคตคดีเลย
เล่นโหมด Hidden Frontline จบทุกรูทละ
แม่งเป็นเกมแนว Point and Click but Strategy แบบชัดเจนเลยวุ้ย ต้องทั้งเก็บทรัพยากร สร้างชื่อเสียง และเจรจากับคนในท้องถิ่น เพื่อให้สามารถเปิดทางไปยังส่วนลึกได้มากขึ้นเรื่อยๆ แถมแอบดาร์กก็คือถ้าเก็บทรัพยากรจนไปถึง Requirement ไม่ได้จะแพ้โดยขึ้นว่าทีมขาดการติดต่อไปเฉยๆ ซึ่งก็ต้องไปจินตนาการเอาเองว่าจะตุยยกทีมหรือว่าแค่หายตัวไปเท่านั้นอีก
แล้วทรัพยากรที่เราเก็บๆ มานี่คือแม่งมีผลต่อเนื้อเรื่องที่เราเล่นเต็มๆ ยกตัวอย่างค่า Intel ในโหมดนี้เสมือนชื่อเสียงของ RI เลย ถ้าต่ำชาวบ้านจะไม่รู้จักเราและคิดว่าเราเป็นโจรไม่ให้ความร่วมมือ โอกาสทำภารกิจจะต่ำลง แต่ถ้ามีเยอะชาวบ้านก็จะรู้จักเรา แค่เดินออกไปแสดงตัวว่าเป็นคนจาก RI เขาก็อ้าแขนรับแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องบาลานท์ค่าอื่นๆ ด้วย ไม่งั้นมือไม่ถึงทำงานไม่ได้อะไรทำนองนี้
ส่วนศัตรูในมินิเกม เท่าที่อ่านส่วนใหญ่ก็โจรรายทาง แต่ถ้าจากอีเว้นท์ต่อเนื่องก็จะมีพวก Confessarius กับ Nachzehrer ที่เรานัดกับคนในพื้นที่กับพวกทหารรับจ้างไปตบเอาทรัพยากรมา
https://x.com/DriveShot10/status/1853798213943173192?t=Ij__i86S2g3R8rC54kNmfg&s=19
ทำไมแม่ลูกคู่นี้สีตาไม่เหมือนกันวะ
Timeline ลืมๆ ไปเยอะ แต่คือ Horn กับ Bagpipe เพิ่งกลับมาเจอกันตอน Ch 14 นี่เองเหรอวะเนี่ย?
ลืมไป Horn นี่หลังช่วยออกมาจากคุกก็ยังไม่ได้ออกไปไหนนอก Victoria เลยนี่หว่า
อ่านเนื้อเรื่อง Ch 14. แล้วเจอช็อตนึงเนื้อหาโคตรซีเรียส แต่ก็แอบขำว่ะ
หมอแมวกำลังสู้กับ Damazti Cluster แล้วดีเบตกันเรื่องความเป็นอมตะ ซึ่งทั้งคู่ก็มีเหมือนๆ กัน ที่ต่างคือ Damazti ไม่อาจรักษาตัวตนดั้งเดิมของตนเองเอาไว้ได้และต้องไหลไปตามสถานการณ์ ส่วนหมอแมวนั้นยังคงเป็นหมอแมวแม้เวลาจะผ่านมาหมื่นปีแล้วก็ตาม
Damazti ถามว่าหมอแมวทำได้ยังไง ก่อนหมอแมวจะขิงกลับมาว่า เพราะเธอชื่อ Kal'tsit แค่นั้นเลย
สรุปก็คือจะบอกว่าชื่อนั้นช่วยบ่งบอกตัวตนและเอกลักษณ์ของคน ทำให้คนไม่หลงลืมหรือเลือนหายอะไรทำนองนั้น ซึ่งบังเอิญว่าการตั้งชื่อนั้นไม่ใช่ธรรมเนียมตามปกติของพวก Sarkaz หมอแมวเลยขิงได้สินะว่าพ่อตั้งชื่อให้!?
รีวิว logos หน่อยโม่ง
>>848 S1 AFK ได้ S3 แรง + หมู่แถมหยุดกระสุนได้
https://youtu.be/UXFtlSvtrLA?si=eMJqheidVWl4j8jf&t=75
ทำไมเกมนี้มันไม่ต้องพึ่งกระแสอะไรเลยแล้วรวยมาได้ขนาดนี้วะ 5 ปีแล้วนะเห้ย
ว่าแต่ w pot4->5 (ถ้าเอาเหรียญจาก cc มาอัพก็จะขึ้น pot6 ได้) กับ logos เลือกไรดีวะ
ตอนนี้ใจกูไป w pot6 มาก เอาไว้ตั้งอวดชาวบ้าน ถถถ ส่วน logos เดี๋ยวค่อยไปใช้ตั๋วเลือกปีหน้า
คอมมูดี เกมไม่ครีปเร็วยกเว้นช่วงหลังๆ เนื้อเรื่องloreมีอะไรให้ตามได้เยอะทำให้คนคุยกันได้ ตัวละครดีไซนดี เพลงประกอบเพราะ พากษ์JPดี
เกมนี้มีเจนAI ไหมครับ? ถ้าไม่จะลองเล่น
หมอแมวนี่แม่งฟอสซิลเดินได้อ่ะ ไอ้ทินแมนยังยอมรับ ว่าแต่เคสหมอแมวนี่ไอ้ด๊อคเรียกพ่อ แบบนี้พาสเซนเจอร์เรียกหมอแมวว่าแม่ได้ไหมวะ
>>857 ในฐานะตัวเก่าตั้งแต่เปิดเกมก็ถือว่าเก่งเกินพอ ตัวเก่าที่ยังเห็นคนใช้อยู่ในปัจจุบันก็มีแค่ไม่กี่ตัว
ได้ยินว่าเอฟี่เพิ่งจะโดนครีปตู้ล่าสุดนี้เอง เซเรียเพิ่งโดนเบียดไปไม่นาน ตูดเงินกับเอ็กเซียโดนเบียดไปนานแล้ว
ที่ตลกมากคือ ตัวที่นึกว่าน่าจะโดนครีปสุดแต่ยังเห็นคนใช้บ่อยอยู่คือโฮชิกุมะ แต่สเตตัสเพียวๆก็พอใช้แล้วสินะ
ตูดเงินถ้าทีมไม่รู้จะลงไรก็เอาติดไปใช้พาซซีฟได้นะ
ว่าแต่ ifrit (ถึงจะไม่ใช่ตัว fix ตู้แรกก็เถอะ แต่ตัวล็อตแรกเหมือนกัน) รู้สึกหลังๆได้ใช้บ่อยขึ้นแฮะ เหมือนด่านมันทำมาเข้าทางพอดีเยอะขึ้น
ส่วนเปิดล่องหนนี่กูว่าหลังๆใช้ ines สะดวกกว่า
เอจ้ากูยืนหัวเราะอยู่บนบัลลังก์ afk ตู้ฟ้าล่าสุดไม่มีด้วยเหยดแหม่
ตูดเงินเมื่อก่อนนี่ตัวแบกเลยล่ะ ยุคนั้นมันไม่มีตัวไหน Atk ทะลุ 2000 ได้แบบทุกวันนี้นะ
แต่ทุกวันนี้ Atk 2000 คือกากตด ยุคอีเฉินบาลานท์มายิง 2500x2 ก็ร้องว่าแรงแล้ว พอลุงม้ามาฟันที 3000 แถมมีส่วน True Damage อีกก็ยิ่งโดนเบียด และมายุคนี้อีแมลงสาปยิงอัด 5000+3000 = 8000 ชิลๆ ก็กลายเป็นว่าตกยุคไปเลยสำหรับป๋าตูดเงิน
แต่ถ้าจำไม่ผิดโมดูล 3 ป๋าตูดเงินดัน Atk ขึ้น 3500 มั้ง ทำให้ไปเทียบเคียงกับลุงม้าพอได้อยู่ สกิล SP ให้มาเยอะเลยน่าทำหน้าที่ Helidrop ไปได้
ส่วนเอ็กซ์เซีย มันมียุคนึงที่ตกยุคไปน่าจะช่วง Ch 7 นี่ล่ะที่ Shield-bro แม่งหนาเกินจนนางยิงไม่ได้ จากนั้นมาก็ไม่ค่อยมีศัตรู Def เกิน 1000 ออกมาเป็นตัวหลักเท่าไร มีโผล่แค่ประปรายนางเลยอยู่ได้เรื่อยๆ นี่ล่ะ
อีกอย่าง HG มันไม่ค่อยทำตัว 6 ดาวสายซ้ำกันมาด้วยล่ะ นานๆ ทีจะมีตัวที่ออกมาซ้ำหน้าที่เดียวกันจนโดนครีพ (ที่เห็นชัดๆ มี Phantom-Texas กับ Carnelian-Lin) ส่วนใหญ่จะเจอแบบหากตัวนั้นไม่เก่งก็จะไม่เก่งเลยซะมากกว่า
กูว่าที่น่าสงสารสุดคือพวกตัว 5 ดาวนี่ล่ะ นอกจากเก่งไม่เท่าพวก 6 ดาวแล้ว ยังใช้ทรัพยากรปั้นเยอะพอๆ กันอีก กลายเป็นว่าถ้ามีตัว 6 ดาวสายเดียวกันก็ไม่ต้องปั้น 5 ดาวก็ได้ กลับกันพวก 4 ดาวกลับน่าปั้นกว่า เพราะมันมีความเฉพาะทางเด่นชัดกว่าและราคาถูกกว่าเยอะ
อี W แม่งแรงโม้ม้าเย้ดจริงๆนั่นแหละ มิซุกิใน is4 ปกติกูเล่นอย่างหอบ ได้อีนี่มาอัพตันเลยไปลองของดู อัลติสองชุดอยู่เลย ถ้าอัพโมดูลเผลอๆชุดเดียว
อีกเรื่องที่เกมขายดี ขนาดเอาตัวละครหญิงที่แต่งงานมีลูกสาวมาขาย พวกคุยังกดมาเล่นไม่มีดราม่าปัญญาอ่อน ก็ถือว่าเกมมีผู้เล่นคุณภาพดี
ก็ขุ่นแม่/สาวมีอายุ เกมนี้มันแซ่บ
ถ้าพ่อมันออกมาสภาพfemboy ก็ทั้งครอบครัว
ตัวละครหญิงเกมนี้ส่วนมากมันไม่ได้อ่อยแรงแบบแสดงความอยากเป็นเจ้าของนะกูว่า อีกอย่างที่ชัดเจนคือสาวๆเกมนี้แม่งมีผู้มาแสดงตัวอยากเป็นผัวชัดมาก อย่างป้าอิลเนสก็มีพี่ฮอดแอบหยอดจีบบ่อยๆไม่รู้พ่อหนุ่มแกรู้ตัวไหม เรดที่น่าจะแอบชอบนุ้งแมวโกลเด้นโกลว์ รึมีผัวชัดเจนแล้วแบบป้าอิงกริด(แม่ลิซ่า)
>>876 แอบหยอดเชี่ยอะไร คู่นั้นเขาแต่งกันอยู่บ้านเดียวกันแล้ว หลังจบ Victoria act Manfred ส่งคนไปหา Hoederer ที่บ้านเพื่อเชิญไปกินข้าว แต่ดันเจอ Ines ออกมาต้อนรับซะงั้น
เกมนี่้เรียกว่าตัว doctor ไม่ใช่ศูนย์กลางของเรื่องราวทั่งหมด ทุกตัวละครมีเส้นทางของตัวเอง แค่ทำงานร่วมกับ RI เท่านั้นอะ
พูดถึงตัวละครที่ชอบ Doctor แล้ว
Platinum 6 ดาวจะมีโอกาสกับเขามั้ยหนา
SA มันเทพที่ทาเล้นด้วยว่ะ เล่นอะไรยากๆที่ต้องสลับตัวขึ้นลงบ่อยๆนี่ SA โคตรสำคัญ
มึงจะไสหัวไปไหนก็ไป้ถ้าต้องรอให้คนหามาป้อน
อยากได้สรุปบท 14
ไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียงกะมันก็ได้มั้ง กุได้กลิ่นตุๆทั้งแต่คำถามแรกแล้วเลยข้ามไปเลย
โทรลมันหิว
โทรลขยะรีไอดีสนุกเลยนะแต่ไม่เนียน
งับกันใหญ่เลยนะพวกมึง
ช่วงนี้ว่างๆ รออัลปีปี้เข้าตู้
Endfield มึงลอกเกมไรมาบ้างเนี่ย
กูมารอดูพวกมึงงับอยู่นะ เร็วรีบงับหน่อย มันป้อนซะขนาดนี้
กุอยากเล่นแนวendfieldอยู่
แล้วถ้าทำแอนิเมชั่นได้เท่าzzzนี่โคตรโบนัสของแถมเลย
เปลี่ยนมุขบ้างเหอะกูอย่างเบื่อ กูว่างๆก็หิวนะแต่เบทกากสัสแถมซ้ำซาก
น่าจะตัวเดียวกับที่ไป bait มู้บลูอาไคฟ์แล้วโดนเมินจนต้องไป bait ต่อที่มู้เกมมือถือ แม่งดูน่าอนาถจัดๆ
ฮาขุ่นแม่นอิงกริดคุยโม้ว่าเมื่อก่อนต้องแปรงขนหางให้ครอบครัวถึง 19 หาง
ก็คือลูกสาว 9 ผัว 9 และตัวเองอีก 1 สินะ
แม่งไม่ออกตัวเก่งไปยาวๆเกือบ6เดือนเลยเหรอวะ แถมไม่มี cc ให้เล่นอีก
https://www.youtube.com/watch?v=DjWKPX44Bg0
teresa ยังอยู่ไหมวะ
แล้วทำไมตัวที่เราได้มา ไม่ใช้ชื่อ teresa แต่หน้าเหมือนกันเปี๊ยบเลย??
ปล.พึ่งเห็นว่า exalter มันเก่งขนาดนั้นเลยเหรอวะน่ะ เคลียร์ฝูงโล่ไวกว่า wisadel อีก
ปล.2 คือกูก็อยากจะดูมโพสว่าเดดเกม คนหายหมดแน่ไรงี้นะ แต่รายได้ที่จีนแม่มไม่ตกเลยนี่ดิ
>>907 ตัวจริงตายไปแล้วในอีเว้นท์ Babel และโดนชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีของ Confessarii เพื่อเป็นเครื่องมือให้ Theresis รวม Sarkaz ให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง
ตอนจบ Ch 14 Theresa ตุยอีกครั้ง แต่มุงกุฎดำของอามิยะ Civilight Eterna ที่เป็น Artifact ยุคโบราณ ได้เอารูปลักษณ์ของ Theresa มายืมใช้ เพราะ Amiya ต้องการแบบนั้น เลยกลายเป็นไวฟุโฮโลแกรมที่ชอบย้ำว่าตัวเองไม่ใช่ Theresa แบบที่เราเห็นนี่ล่ะ
เสียดายชิบ นั่นมันแค่ภาพโฮโลแกรม ทำไม่ได้แม้กระทั่งแตะตัว
สรุปความสัมพันธ์ ดอคต้ากับ pristess teresa kalsit อามิยะเด็กที ใครเมีย1 เมีย2
เหมือนกุเคยเห็นแวบๆว่าแคลซิทเป็นลูกเลี้ยงดอค 555
พรีสเทสคือเมียหลวงแต่ไปทำงานต่างประเทศ
เนื้อเรื่องมีลอกป่าววะ ถ้าคนต่างเผ่าแต่งงานมีลูก ลูกที่เกิดมาจะไปเหมือนพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง หรือผสมเผ่าอะ เห็นsuzuran ไม่เหมือนแม่เลย
priestess เมียเก่าที่ไม่อยู่บ้านแล้ว
kalsit ลูกของเมียเก่า พาผัว(teresa)กลับมาบ้าน แต่พ่อเลี้ยงทะเลาะกับผัว สุดท้ายผัวตายพ่อเลี้ยงความจำเสื่อม
อามิยะ ลูกเลี้ยงของkalsitกับteresa
>>915 Priestess = เมียหลวง ไม่รู้ปัจจุบันหายไปไหน
Kal’tsit = ลูกสาว นอกจากให้กำเนิดแล้ว ด๊อคเตอร์ยังสอนเรื่องต่างๆ พื้นฐานด้วย ก่อนจะปล่อยทิ้งเอาไว้ให้เรียนรู้หาหนทางเอง
Theresa = กิ๊กของ Kal’tsit (?) เป็นเพื่อนร่วมงานและมีอุดมการณ์เดียวกัน
Amiya = ลูกเลี้ยง Theresa ที่รับเลี้ยงมาด้วยความสงสาร โดยมี Kal’tsit เป็นอาจารย์คอยสอน
>>917 พวก Terrans ไม่มีบอกว่าต่างเผ่าผสมกันออกมาจะเป็นยังไง แต่ Sankta เป็นยีนด้อย ผสมกับต่างเผ่าลูกจะไม่ออกมาเป็น Sankta
เว้นแต่ Sankta ผสมกับ Sarkaz ที่จะออกมาเป็นลูกครึ่ง เพราะพื้นเพเดิมของ Sankta คือ Teekaz เหมือนกัน
คือเทเรซ่าเกกับแคลซิส ไม่ได้มีซัมติงกับดอคแบบfaที่แล้วๆมาเลยใช่มะ
อ่าน Ch. 14 จบแล้ว แต่ขี้เกียจเขียนสรุปจังโว้ยยยยย
เอาสรุปสั้นๆ แบบด่วนจี๋ไปก่อนละกัน ส่วนแบบเต็มขอพักสมองเรียบเรียงก่อน
สรุปสั้นๆ ก็คือสงครามทั้งหมดนี้เกิดจาก Theresis ต้องการทำพิธีอัญเชิญ Amnannam ออกมาเพื่ออะไรซักอย่างเกี่ยวกับ First Originium (ในเรื่องไม่เฉลย) ส่วน Theresa เองก็ต้องการปลดปล่อยเหล่า Myriad Soul ที่ถูกขังอยู่ใน Assimilated universe ให้เป็นอิสระจะได้เลิกหลอกหลอนพวก Sarkaz รุ่นใหม่ๆ ซะที ซึ่งสุดท้ายพวก Doctor ที่ตามเข้าไปใน Assimilated universe ก็ได้เคลียร์ปมกับ Theresa สำเร็จ ในวาระสุดท้าย Theresa ได้พาพวก Myriad Soul ไปสู่สุขคติพร้อมกับตัวเอง ส่วน Theresis ได้ First Originium ไปครองและหายตัวไป
พวก Sarkaz โดยรุมยำจนแพ้สงคราม Wis'adel เลยส่งเสียงตามสายประกาศคำสั่งเสียของ Theresa มาว่าให้ Sarkaz ทุกคนยอมแพ้และมุ่งหน้ากลับ Kazdel ทันที ซึ่งเรื่องราวของพวก Sarkaz ก็ไปต่อในอีเว้นท์ของ Nymph และ IS5 และเรื่องราวของ Victoria ก็ไปต่อในอีเว้นท์ของ SiegeAlter
ฆ่าเทเรซิสคิดเท่าไหร่
งี้แปลว่าเนื้อเรื่องของ arc นี้ก็น่าจะจบแล้วใช่ปะ ที่เหลือไปตามต่อในอีเว้น
https://youtu.be/_H4zpZTAtzk?si=uAcG5QxM4iV2gUJj ในนี้มีใครทันfictionjunction yuuka ไหม กดฟังแบบไม่คิดอะไร แต่แม่งเซอร์ไพรส์มาก
ถึงcomposeจะไม่รู้จักแต่ก็พยายามใส่แนวเจ๊คาจิอุระมา อย่างน้อยก็เสียงที่คุ้นเคย
ป่านนี้เป็นรุ่นป้าไปหมดแล้วมั้ง โคตรเก่าอ่ะ คิดถึงเหมือนกันนะเนี่ย
เขียนสรุปบท 14 เสร็จแล้ว อะเฮือก!
เดี๋ยวรอตกตะกอนแล้วนั่งแก้พรุ่งนี้ละกัน วันนี้ขอตุยก่อนละ ขนาดเขียนแบบสรุปย่อๆ ยังปาไป 15 หน้า A4 เลย
>>938 ขอกราบอนุโมทนาสาธุมึงล่วงหน้าเลยละกัน กูก็เพิ่งอ่านจบ แม่งทรมานสังขารชิบหายยย ขนาดกดข้ามไปบ้างแล้วด้วยนะ กูเริ่มอ่านเมื่อ 4-5 วันก่อน เพิ่งจบเมื่อเช้า
โดยเฉพาะอีฉากสั่งลาเจ๊เทเรซ่าแม่งอย่างยาว โคตรรรรยาว เจ๊แม่งไล่ถอดจิตวนไปบอกลาชาวบ้านเค้าไปทั่วเลย นานชิบหายกว่าจะลากันจบ จากตอนแรกกูกะลังเศร้าๆหน่วงๆ กลายเป็นแบบ เออๆเจ๊ครับรีบๆไปสู่สุขติซะทีเหอะ ครับ ด๊กต้านอกจอง่วงชิบหายจะสัปหงกคาจอหลายรอบละเนี่ย 55555
>>939 พอกันแหละ ตอนกูอ่านนี่คือเอาเวลาก่อนนอนมาอ่าน อ่านไปอ่านมาสัปหงกสติหลุด แต่นิ้วยังจิ้มจอค้างอยู่ กลายเป็นว่า speed up เนื้อเรื่องซะงั้น พอตั้งสติได้ก็ไม่รู้แล้วว่าเนื้อเรื่องมันไปถึงไหน
แต่สรุปที่เขียนนี่ หลักๆ ก็แค่ย่อว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครทำอะไรบ้างแหละนะ ไม่ได้เอาละเอียดระดับว่าใครว่ายังไงเพราะมันยาวเกิ้นนนนนน
กูเจอละที่โม่งบอกป้าอิงกริดแปรงหาง 19 หางแต่หาต้นฉบับไม่เจอว่ะ ปล.อันที่สองแม่งฮาสัส ศัตรูดวงแม่งอย่างกุด
https://i.imgur.com/CT7iTXl.jpeg
https://i.imgur.com/YHrV1pA.jpeg
[สรุปเนื้อหา AK Ch.14]
[Part 1]
สำหรับรอบนี้จะเป็นการสรุปเนื้อเรื่องหลักของ Ch.14 ซึ่งคงต้องเรียกว่าเป็นการสรุปนอกรอบ เพราะปกติแล้วทางผู้เขียนไม่ค่อยได้ทำสรุปเนื้อเรื่องหลักเท่าไรเนื่องจากเนื้อหามันยาว จึงนับได้ว่ารอบนี้เป็นรอบพิเศษแล้วกัน แต่ก็คงไม่ขอลงรายละเอียดลึกแบบสรุปอีเว้นท์ แต่ขอเอาแค่เนื้อหาหลักๆ เพื่อไม่ให้มันยาวเกินไป เพราะอย่างที่รู้กันดีนั่นล่ะว่าเนื้อหาหลักนั้นเรื่องมันยาวขนาดไหน
เนื้อหาใน Ch.14 นี้จะต่อเนื่องจาก Ch.13 เลยคือหลังจากเหล่า RI ได้บุกเข้ายึดโครงกระดูกยักษ์ได้สำเร็จ และตกลงกันที่จะใช้โครงกระดูกยักษ์นี้ พาพรรคพวกและกองกำลังเดินทางเข้าไปยัง Londinium เพื่อทำศึกครั้งสุดท้ายกับเหล่า Sarkaz โดยที่ Hoederer รับหน้าที่เป็นคนขับ
ระหว่างนั้นเองเรื่องราวจะตัดมาทาง Theresis และ Theresa
Theresa กำลังจะก้าวขึ้นไปบนยานบินของ Sarkaz เพียงลำพัง โดยมีเพียงแค่ Theresis มายืนส่งเท่านั้น Theresa บอกว่าภาพนี้ช่างน่าคิดถึงช่วงเวลาเก่าๆ ในตอนที่เธอและเขาร่วมกันปกครอง Kazdel และครั้งนี้เองทั้งสองก็จะยังทำเหมือนเดิม ทั้งหมดก็เพื่อ Kazdel
Theresis บอกว่านี่คงเป็นการร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
Theresa ได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้าเศร้า แต่ก็ไม่ตอบอะไรกลับนอกจากคำว่า ลาก่อน เท่านั้น
ตัดมาทางพวก RI ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ Londinium ด้วยโครงกระดูกยักษ์ ในตอนแรกก็เหมือนเส้นทางราบรื่นดี แต่พอออกจากเทเลพอตมาก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อจู่ๆ โครงกระดูกยักษ์ก็สูญเสียการควบคุมจากการถูกแทรกแซงด้วยพิธีกรรมของพวก Sarkaz และค่อยๆ ร่อนตกลงสู่พื้น สร้างความโกลาหลให้แก่พวก RI อย่างหนัก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับพวก RI ได้สังเกตว่าท้องฟ้านั้นได้ผันกลายเป็นสีแดงฉานราวกับเปลวเพลิงกำลังลุกโชน
[Part 2]
ในจังหวะเดียวกับที่โครงกระดูกยักษ์ที่ RI นั่งมานั้นตกลงมานั้น นอกจากเหล่า RI แล้ว กองกำลังอื่นๆ อาทิเช่นพวก Duke Caster, Duke Wellington และกองกำลัง Dublin เองก็กำลังเคลื่อนพลเข้าสู่ Silverrock Bluffs ที่ตั้งอยู่ชานเมือง Londinium เช่นกัน โดยทุกฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกันคือทำสงครามและขับไล่พวก Sarkaz ออกไป แต่พอมาถึง Silverrock Bluffs แล้วพวกเขารับรู้ได้ทันทีเลยว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าเหล่า Sarkaz ที่รออยู่นั้นได้เตรียมการต้อนรับพวกเขาเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย
ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงฉาน ในขณะเดียวกันที่หอคอย The Shard ณ ใจกลาง Londinium กำลังปล่อยละออง Originium ออกมา ปกคลุมพื้นที่ทุกซอกทุกมุมให้ถูกกลืนไปด้วยหินสีดำของ Originium ที่งอกแหลมขึ้นมา และแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างสุดลูกหูลูกตา โดยที่มีกองทัพของเหล่า Sarkaz ตั้งรับรอพวกเขาอย่างนิ่งเงียบราวกับว่านั่นเป็นร่างไร้วิญญาณของเหล่านักรบ
Nezzsalem คือราชาแห่งซากศพคือแม่ทัพผู้นำการต่อสู้ในครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ถูกกับราชาแวมไพร์ Duq'arael เท่าไรนัก แต่เขาก็ยังยืนไว้อาลัยให้แก่สหายผู้ล่วงลับ พร้อมกับกล่าวขอบคุณแก่ของขวัญที่ทิ้งเอาไว้ให้ (แท่นพิธีกรรม) โดยกองทัพของเขาจะขอรับมันเอาไว้เพื่อกำราบศัตรูแทนให้เอง
อธิบายเพิ่มหน่อย The Shard เป็นหอคอยที่พวก Sarkaz สร้างขึ้นมาเพื่อประกอบพิธีกรรมอัญเชิญ Amnannam the first Catasthrophe ภัยพิบัติแรกที่เหล่า Teekaz อัญเชิญเรียกมันมาโดยใช้พิธีกรรม Blood of Teekaz และเทคโนโลยีของพวก Confessarii ซึ่งถ้าหากไม่หยุดเอาไว้ Amnannam ก็จะถูกอัญเชิญออกมาแล้วอาจจะสร้างภัยพิบัติระดับหายนะกับ Terra อีกครั้งเหมือนกับที่มันเคยทำให้ Terra ปนเปื้อนไปด้วย Originium แบบทุกวันนี้ เหล่า RI จึงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องเข้าร่วมสงครามครั้งนี้เพื่อหยุดยั้งความทะเยอทะยานของ Theresis
ตรงนี้เองเหล่า RI ได้มีการแบ่งทีมกัน
Siege และกองกำลังผสม The Exemplars จะบุกไปที่ Silverrock Bluffs เป็นแนวหน้าให้ พร้อมกับให้พยายามนำดาบศิลาไปปักบนแท่น เพราะเชื่อว่ามันมีพลังในการขจัดพลังชั่วร้ายได้
พวก Doctor, Amiya, Logos และ Kal’tsit จะบุกไปที่ Redmane Mountains เพื่อตลบหลังพวก Sarkaz พร้อมกับพยายามทำลาย Blood of Teekaz เพื่อหยุดพิธีอัญเชิญ
ส่วนพวก W, Ines, Hoederer และ Ascalon ให้ทำการอยู่เฝ้าโครงกระดูก
[Part 3]
หลังจากตกลงได้กันแล้วทั้ง 3 ทีมก็ได้ต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
เริ่มด้วยทีมของ Siege ที่บุกเข้าเมืองพร้อมกับ Closure ที่ตามไปเป็นเจ้าหน้าที่สื่อสาร (Closure ร่าง Vanguard Flagbarer มาแน่) ได้พยายามค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ และนั่นก็ได้ทำให้ Horn ได้พบกับ Bagpipe อีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันตั้งนาน (ตั้งแต่ Ch.9) และได้พาไปทำความรู้จักกับ Duke of Gododdin ที่ดูแลแถบนี้อยู่ ซึ่ง Siege ก็ได้เข้าไปเจรจาเพื่อขอกำลังมาช่วย
แต่ Duke of Gododdin นั้นกลับเลือกปฏิเสธและพาตัวเองหนีไป โดยบอก Siege เป็นนัยๆ ว่าถ้าอยากจะขอความร่วมมือจาก Duke ก็จงขึ้นไปนั่งบนบัลลังค์ซะสิ
ดูเผินๆ เหมือนการเจรจาจะล้มเหลวนะ แต่ในขณะเดียวกันก็มีเหล่าทหารของ Duke ที่ภักดีต่อ Victoria ยอมถอดเครื่องแบบและเข้าร่วมกับกองกำลัง The Exemplars ซะงั้น
แต่นั่นก็เป็นจังหวะนรกพอดี เพราะกองกำลังของ Nachzehrer ได้เริ่มบุกโจมตี
พวก Closure และเหล่า RI ที่รออยู่ข้างหน้าถูกโจมตีอย่างหนักจนสูญเสียกำลังจนแทบสิ้น Closure สาปแช่งตัวเองที่เป็นถึงแวมไพร์แท้ๆ แต่กลับอ่อนแอไร้พรสวรรค์ซะงั้น ก่อนที่จะโดนศัตรูบุกเข้าประชิดตัว ทว่าในตอนนั้นเองก็มีกลุ่มคนปริศนาบุกเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันทำให้เธอรอดพ้นจากความตายไปได้อย่างหวุดหวิด
ครั้นพอลืมตาขึ้นมานั้นสิ่งที่เธอเห็นก็คือสัญลักษณ์รูปหอคอย
ใช่แล้วพวกเขาคือเจ้าหน้าที่จาก RI โดยมี Fang (ร่างโต) และ Misery เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันนั่นเอง
พวกเขาจะทำการสู้กับศัตรูให้ และให้ Closure ใช้จังหวะนี้ทำภารกิจของตนเองให้สำเร็จ ซึ่ง Closure ก็ไม่รอช้าชูธงของเธอขึ้น (Elysium – เสาสัญญาณเฟ้ย!) ทำให้การสื่อสารถูกเปิดทำการ กลายเป็น Beacon ให้เหล่า RI และกองทัพอื่นๆ สามารถส่งกองกำลังเสริมเข้ามายังจุดปะทะนี้ได้ และนำชัยชนะในคืนแรกของศึกนี้มาได้สำเร็จ
ส่วนเนื้อหาที่เหลือ ...ไปเล่นใน Hidden Front เอานะ
แต่หลังจากได้รับชัยชนะ ตอนนั้นเอง Horn ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติ เธอจำได้ถึงชายที่สังหารหน่วยรบของเธอช่วง Ch.9 และชายคนนั้นก็ควรจะตายไปแล้ว แต่เธอกลับเห็นเขาปรากฏตัวขึ้นอยู่หลัดๆ ในสภาพไร้วิญญาณและมีเปลวไฟสีม่วงลุกโชนอยู่ในดวงตา
และนั่นก็เป็นสัญญาณที่ว่ากองกำลัง Dublin ได้เดินทางมาถึงแล้วนั่นเอง
[Part 4]
วันถัดมากองกำลังผสมได้เข้าปะทะกับพวก Sarkaz อีกหน แต่ในคราวนี้การสู้รบดุเดือดขึ้นมาก เพราะกองกำลังของเหล่า Duke และ Dublin ได้เข้าร่วมด้วยเป็นที่เรียบร้อย โดย Duke Caster บัญชาการอยู่บนยาน Gloriana ส่วน Duke Wellington พากองยานบุกทะลวงแนวรับอย่างหนักหน่วง และ Elbana ที่ปลุกชีพคนตายขึ้นมาเป็นทหาร ทำให้ Nezzsalem ต้องเริ่มเอาจริงกับสถานการณ์นี้แล้วลงมาบัญชาการด้วยตัวเอง
ระหว่างสู้รบนั่นเอง หมวกเทา Trilby Asher ได้พยายามเข้ามาเจรจากับ Siege ว่าอยากจะให้ส่งมอบดาบศิลาให้แก่ Duke Caster ทำเอา Siege นั้นโกรธพอตัว แต่เธอก็ประเมินสถานการณ์แล้วว่าเป็นมิตรกันไว้ก่อนน่าจะดีกว่าจึงยอมมอบดาบให้ไป แต่ในจังหวะที่กำลังจะเอาไปส่งนั่นเอง Nezzsalem ได้ร่ายมหาเวทย์ขึ้นมาสร้างพายุ Originium ที่รุนแรงมากโจมตีกองกำลังจนเกิดความเสียหายหนักหน่วง
เรือธงของ Duke Wellington เสียหายหนักและต้องถอยออกจากสนามรบ ตัว Duke Wellington เองก็บาดเจ็บสาหัส ยังโชคดีที่ Elbana มาช่วยเอาไว้ทันและพากันถอย โดยที่ยังให้ลูกน้องคอยบุกทะลวงต่อไปแบบไม่กลัวความตาย ส่วนเรือธงของ Duke Caster นั้นพังเสียหายยับเยินจากการพยายามบุกเข้าไปยังแท่นศิลา เพราะหวังจะเอาดาบไปเสียบ ทำให้สถานการณ์ในสนามรบเริ่มเปลี่ยน
Duke Caster จำใจต้องเปลี่ยนแผนกลางคัน และบอกให้ Siege และกองกำลังผสมปกป้องดาบเอาไว้
ตอนนั้นเองที่ Siege ได้รู้ว่าเธอต้องเป็นคนนำดาบไปปักบนศิลาซะแล้ว
Siege พยายามที่จะบุกเข้าไปเอาดาบศิลาที่อยู่บนยาน โดยมีพวก Glasgow Horn และ Bagpipe คอยคุ้มกัน แต่พวก Sarkaz นั้นบุกเข้ามาเยอะเกินไปจนพวกเธอเริ่มรับมือไม่ไหวและทำท่าเหมือนจะแพ้ ทว่านั่นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เงาสีดำพุ่งทะยานลงมาจากบนฟ้าและขวางหน้าพวกเธอกับ Sarkaz เอาไว้
ร่างกายสูงใหญ่ห่อหุ้มด้วยโลหะ ที่มาพร้อมกับไอน้ำพวยพุ่ง และเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง
มันคือ The Last Steam Knight ที่หายไปในช่วง Ch.11 นั่นเอง
การปรากฎตัวของ Steam Knight ได้สร้างขวัญกำลังใจให้แก่เหล่าทหาร เปิดโอกาสให้ขับไล่พวก Sarkaz ออกไปได้สำเร็จอีกครั้ง และเปิดทางให้ Siege นำดาบกลับมาได้สำเร็จพร้อมนำมันไปปักบนแท่นศิลา ตอนนั้นเองก็ได้บังเกิดแสงสีทองแผ่ออร่ากว้างออกไปทั่ว ทำให้พายุ Originium อ่อนกำลังลงในที่สุด
ตอนนี้เอง Duke Caster ตระหนักได้แล้วว่าเธอนั้นไม่ใช่คนที่จะปกป้อง Victoria ได้
แต่เป็น Aslan สาวที่อยู่ตรงหน้าคนนั้นต่างหาก
[Part 5]
ตัดมาทางพวกทีม W อยู่เฝ้าโครงกระดูกได้ซักพักก็รู้สึกไม่ดี เพราะการสื่อสารจากหน่วยลาดตระเวนหายไป W จึงพาหน่วยของเธอออกไปดูลาดเลาด้วยตัวเอง ปล่อยให้พวก Ines เฝ้ายานไป
ซึ่งในระหว่างนั้นเอง Hoederer ก็พยายามเจรจาขอความร่วมมือจากเพื่อนเก่าอย่าง Ulšulah ให้ช่วยคุยกับเจ้าโครงกระดูกนี่ให้หน่อย โดยหารู้ไม่ว่า Ulšulah นั้นวางแผนที่จะหนีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น โดยเธอได้ฉวยโอกาสจากความใจของดี Hoederer ใช้พลังของโครงกระดูกพาตัวเองหนีออกมาได้สำเร็จ และรีบมุ่งหน้าไปหา Manfred ส่งข่าวทั้งหมดที่เธอรู้ให้ ทำให้ Manfred ตัดสินใจส่งกองกำลังทั้งหมดบุกเข้าโจมตี เพื่อทำการชิงโครงกระดูกยักษ์กลับมาทันที
พอได้รู้เช่นนั้นพวก Hoederer ก็ไม่ได้นิ่งเฉยและเตรียมการรับมือ
แต่ W ยังไม่กลับมา การปะทะกันซึ่งๆ หน้าก็มีแต่เสียเปรียบ จึงมีการเสนอไอเดียขึ้นมาว่า Ascalon จะทำการบุกเข้าไปลอบสังหาร Manfred ซะ เพราะยังไงซะเขาก็ต้องสั่งการอยู่ข้างหลัง โดยขอให้พวก Ines และ Hoederer คอยถ่วงเวลาพวกที่บุกเข้ามาให้หน่อย แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง
ทว่าแผนของ Ascalon นั้นก็ถูกตลบหลัง เพราะ Manfred ที่สั่งการอยู่นั้นไม่ใช่ตัวจริง
แต่เป็น Damazti Cluster ที่ปลอมตัวมา ส่วน Manfred ตัวจริงนั้นบุกไปที่แนวหน้าพร้อมกับคนอื่น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Hoederer โดน Manfred ตบคว่ำแบบไร้ทางสู้ และโครงกระดูกกำลังถูกบุกเข้ายึด
แต่ในตอนนั้นเอง W เองก็ได้กลับมาพร้อมกับชุดและอาวุธใหม่มาช่วยเอาไว้ทัน
ทั้งนี้เป็นเพราะระหว่างที่เธอได้ไปลาดตระเวนนั้น เธอบังเอิญได้พบกับสุสานโบราณของวีรชน Kazdel (ที่ไม่รู้ทำไมมาอยู่ที่นี่!?) จึงได้ชิงเอาอาวุธนั้นมาใช้ซะเลย และใช้อาวุธนั้นขับไล่กองกำลังของ Manfred ออกไปจากโครงกระดูก ก่อนที่ W ได้เข้าขับโครงกระดูกแทน Hoederer ที่หมดสติไป และพาพวกเขาบินหนี
ส่วน Ascalon ที่ตามมาทีหลังก็ได้คว้าคอ Manfred ไปสู้กัน 1v1 และพากันตกจากยานทั้งคู่ (หมดบท)
[Part 6]
พวกทีมของ Doctor พยายามลอบเร้นเข้าไปยัง Redmane Mountains ระหว่างทางได้พบกับเหล่า Sarkaz หนีทัพที่พวก Doctor เคยช่วยเอาไว้อยู่จึงพาเข้าร่วมทีม เพราะคนพวกนี้เคารพในตัว Logos แต่ระหว่างทางก็พบว่าพวกเขาถูกซุ่มโจมตีโดย Sudaram ที่เป็นกองกำลังระดับสูงของพวก Nachzehrer ซึ่งพวกเขาก็พยายามที่จะสู้และหนีไปพลาง โดยหารู้ไม่ว่านี่มันคือแผนการไล่ต้อน
และนั่นก็ได้ทำให้พวกเขาต้องมาเผชิญหน้ากับ Nezzsalem ตัวเป็นๆ
Nezzsalem เป็นราชา Nachzehrer และเทพแห่งสงครามของพวก Sarkaz โชกโชนประสบการณ์ต่อสู้มานับพันๆ ปี บัดนี้ได้มายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว Logos จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าสู้กับอีกฝ่ายแบบตัวต่อตัวในฐานะที่ตนเป็นราชาของ Banshee เปิดช่องว่างให้ Doctor ไปทำลายแท่นบูชา
การต่อสู้ระหว่าง Nezzsalem และ Logos ดำเนินไปอย่างดุเดือด
ในช่วงแรกนั้น ชัยชนะเป็นของ Nezzsalem เพราะ Logos พยายามใช้พลังสุดความสามารถจนกระทั่งอาวุธของเขาพัง และพลาดท่าโดนสวนกลับ แต่ตอนนั้นเอง ราชาแวมไพร์ ได้ส่งพลังของเขาแบ่งมาให้ Logos ซึ่งเขาก็จำใจต้องรับเอาไว้เพื่อใช้มันสู้กับ Nezzsalem ทำให้ผลลัพธ์การต่อสู้เปลี่ยนออกมาเป็นสูสี และ Logos สามารถตัดแขนของ Nezzsalem ได้สำเร็จ
แต่ถึงอย่างนั้น Nezzsalem ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ และได้ใช้พลังของเขายิงใส่ Logos
Logos รับพลังนั้นเอาไว้ได้สำเร็จ แต่เขาก็หมดสติและปลิวลอยตกเหวลึกไป
Nezzsalem รู้สึกเสียดายที่ต้องสังหาร Logos พลันนึงย้อนอดีตถึง Patriots ที่เป็นลูกศิษย์ของเขา ก่อนที่จะพาตัวเองกลับสู่สนามรบในสภาพบาดเจ็บสาหัส
โดยหารู้ไม่ว่า Logos นั้นยังไม่ตาย
[Part 7]
ทางด้าน Doctor ที่บุกมายังแท่นบูชา ได้พบกับกองกำลังของ Confessarius และได้เข้าปะทะกับ Salus อีกครั้งหลังจากโดนเธอยำเละในช่วง Ch.13 แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่จะเอาไว้เล่าที่หลัง
ตัดมาทาง Shining ที่เข้ามาพบกับ Qui'sartuštaj เป็นการส่วนตัว
Qui'sartuštaj กำลังประกอบพิธีกรรมเตรียมร่างของ Liz ให้กลายเป็นภาชนะเพื่อรองรับมงกุฎดำ โดยการลบตัวตนและความทรงจำของเธอให้กลายเป็นเพียงแค่หุ่นว่างเปล่าเท่านั้น ซึ่ง Shining ยอมไม่ได้และพยายามเข้ามาขัดขวางด้วยวิชาดาบของเธอ
และไม่ใช่แค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่มา แต่ผัวมหาชนอย่าง Nearl the Radiant Knight เองก็มาด้วย
การปรากฏตัวของ Nearl ทำให้สถานการณ์นั้นเปลี่ยนไป จากที่ Shining ถูก Qui'sartuštaj ล้อมด้วยลูกน้องจำนวนมาก กลับถูกรัศมีของ Nearl ที่สว่างเกินไปอัดจนน่วม ล้มกันเรียบ และพากันช่วย Liz ออกมาได้สำเร็จ ก่อนที่ Shining จะทำการปลิดชีพ Qui'sartuštaj ผู้เป็นบิดาทิ้งซะ
แต่ก่อนจะได้ลงดาบนั่นเอง ก็มีใครบางคนมาขวางเอาไว้
คนที่มาขวางนั้นคือ Qalid'čoa เป็นโฮมุนครุสที่ Qui'sartuštaj สร้างขึ้นมาโดยพยายามจำลองร่างและวิญญาณวีรชน Sarkaz แต่เพราะล้มเหลวเลยทิ้งเอาไว้ให้เฝ้าสุสานวีรชน (ที่ W ไปเจออาวุธ) แล้วตอนนี้มันก็กลับมาเพื่อช่วย Qui'sartuštaj จากคมดาบของ Shining ก่อนที่มันจะพาเขาหนีไป
Shining และ Nearl พยายามที่จะไล่ตามไปจบเรื่อง
แต่ Liz เกิดอาการแย่ลง เพราะร่างกายและวิญญาณของเธอยังคงไม่เสถียร์เช่นเคย ท้ายที่สุดแล้วทั้งสามก็จำใจต้องยุติการตามล่า และถอนกำลังกลับไป โดยทิ้งให้ Qui'sartuštaj ยังคงลอยนวลต่อไปเป็นบอสในอีเว้นท์ไหนซักอันในอนาคตเป็นแน่
[Part 8]
ย้อนกลับมาทาง Doctor ที่ได้เข้าปะทะกับ Salus อย่างดุเดือด
Salus บาดเจ็บหนักจากการถูกรุม แต่เธอก็ยังฝืนสู้เพื่อปกป้อง Blood of Teekaz เอาไว้ แม้ว่าสุดท้ายและ Amiya จะใช้พลังทำโดนัทใส่ร่างของเธอเข้าอย่างจังก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พิธีกรรมยุติลงแต่อย่างใด Salus ใช้ช่วงเวลาเฮือกสุดท้ายอัญเชิญ Amnannam ลงมาบนโลกได้สำเร็จ ทำเอาหมอแมวนั้นได้ถึงแต่ชักสีหน้าเพราะรู้ว่าเรื่องวุ่นวายหลังจากนี้กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ก่อนจะรีบสั่งถอนทัพ เพราะ Redmane Mountains กำลังจะถล่มลงมา
นับว่าเป็นโชคดีที่ W ได้ขับเจ้าโครงกระดูกบินขึ้นมาพอดี
และก็เป็นโชคดีอีกต่อที่ Logos ได้ฟื้นสติและกลับมาช่วยพวกเขาเอาไว้ได้ทัน
Logos ได้ใช้เวทของเขาร่ายให้พวก Doctor กลับเข้าไปในโครงกระดูกได้สำเร็จ
แต่หลังหลบหนีมาได้ไม่นาน โครงกระดูกก็ถูกปืนเลเซอร์ยักษ์ยิงใส่มาจากบนฟ้า แม้ว่า Logos จะร่ายเวทป้องกันเอาไว้ได้ทันก็ตาม แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะรับอีกครั้งได้เหมือนกัน เพราะเลเซอร์ที่ยิงมานั้นมาจากยานบินของพวก Sarkaz ที่สามารถหลอมกองยาน Battleship ได้โดยการโจมตีเพียงนัดเดียวนั่นเอง
Doctor พยายามถามหมอแมวว่าควรจะเอายังไงดีกับสถานการณ์นี้
หมอแมวอ้ำอึ้งตอบก่อน W จะแฉว่าหมอแมวจะบอกให้พวกเธอขับยานชนกับมันตรงๆ ทำลายยานบินของอีกฝ่ายก่อน แล้วค่อยไปจัดกับการ Amnannam ทีหลัง ทำเอาหมอแมวหน้ามุ่ยกันเลยทีเดียว
แน่นอนว่าพอตัดสินใจได้แบบนั้นแล้ว W ก็ไม่รอช้า
เธอขับเจ้าโครงกระดูกยักษ์นั่น และพุ่งชนเข้าใส่ยานบินของ Sarkaz เข้าอย่างจัง เปิดโอกาสให้ Doctor, Amiya,Kal’tsit และ W บุกเข้าเรือของอีกฝ่ายได้สำเร็จ โดยที่ Ines และ Hoderer ทำการเฝ้าโครงกระดูกกันต่อไป
[Part 9]
หลังจากบุกขึ้นยานมาได้พวกเธอก็ต้องประหลาดใจ เพราะพบว่ายานลำนี้ไม่มีลูกเรือ
แต่กลับมีสิ่งที่ดูคล้ายเงาดำๆ ทำงานแทนลูกเรือและไล่ล่าพวกเธอแทนซะงั้น ซึ่งหมอแมวก็เฉลยให้ฟังทันทีว่าพวกมันคือ Revenant Husk ที่เกิดมาจากแกนกลางของยานที่มี Revenant อยู่ข้างใน การที่จะหยุดมันได้ก็มีแต่ต้องทำลายแกนกลางของมันเท่านั้น แต่ปัญหาก็คือพวกเธอไม่รู้ว่าแกนกลางของมันอยู่ที่ไหนนี่ล่ะ
ระหว่างนั้นเองพวก Doctor ก็ถูก Revenant โจมตีจนต้องแยกกลุ่มกัน โดย Amiya โดนแยกไปคนเดียว หมอแมวโดนขังเอาไว้โดยไม่มี Monster และ Doctor กับ W และ Monster ไปด้วยกัน ซึ่งทั้ง 2 คน 1 ตัวก็พยายามหนีไปด้วยหาทางไปด้วย จนกระทั่งบังเอิญมาพบกับห้องๆ หนึ่งที่มีคนกลุ่มหนึ่งรออยู่
คนที่รออยู่นั้นคือพวกมือสังหารไร้ลักษณ์ ที่ถูกส่งไปลอบสังหาร Theresa เมื่อก่อนนั่นเอง
W จำได้แม่น เพราะตอนนั้นเธอไม่ได้สังหารเขา แต่ตั้งใจปล่อยเขาเอาไว้ให้รับรู้ถึงความเจ็บปวด แต่ก็ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ เลยเกิดเป็นการปะทะเล็กๆ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง Doctor กับ W เริ่มเข้ากันได้ ทว่าพอหลังสู้จบ W ก็ได้รับรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร Theresa ที่เธอรักนั้นก็คือ Doctor ที่อยู่ข้างๆ เธอในตอนนี้นี่เอง ทำให้ W เสียเวลามีปากเสียงกับ Doctor ไปพักใหญ่
ในที่สุดพวก Doctor ก็มาถึงแกนกลางของยานได้สำเร็จ โดย Amiya ตามมาทีหลัง
แน่นอนว่าพวกเขาตั้งใจที่จะทำลายมัน เพื่อหยุดการทำงานของยาน แต่เจ้า Revenant นั้นก็ไม่ได้ยอมอยู่เฉย รวมควันที่อยู่รอบๆ รวมตัวกันกลายเป็น Avatar ออกมาสู้ ซึ่งตรงนี้มีเฉลยว่านั่นคือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวก Teekaz ก่อนที่ Farchasher ราชา Sarkaz องค์แรกจะทำการอัญเชิญ Amnamnam ออกมาและเปลี่ยนให้พวก Sarkaz มีรูปลักษณ์แบบมนุษย์อย่างทุกวันนี้ จึงนับได้ว่าเจ้า Revenant นั้นเป็นอสูรยุคโบราณที่ถูกสังเวยและเปี่ยมล้นไปด้วยความเคียดแค้นนั่นเอง
Amiya เห็นว่าอารมณ์และความรู้สึกนี้ไม่ควรถูกส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัก เธอจึงใช้พลังพยายามปลอบมันให้หยุดคลั่ง พร้อมกับเปิดโอกาสให้พวก W ไปทำลายแกนกลางของมันด้วย
แม้ W จะต้องรับพายุความคลั่งของเจ้า Revenent เธอก็หาได้แคร์ไม่
กลับกันเจ้า Revenant นั้นกลับเข้าไปสิงอยู่ในอาวุธใหม่ของ W ด้วยซะงั้น!?
[Part 10]
หลังจากทำลายแกนกลางของยานได้แล้ว ยานที่สูญเสียพลังงานก็เริ่มทำท่าเหมือนจะร่วง ซึ่งพวก Doctor ก็เตรียมที่จะอพยพหลบหนีออกมา โดยติดต่อหา Logos ให้ใช้เวทมาช่วยพวกเขาเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ตอนนั้นเองทุกคนต่างเห็นภาพของ Theresa แว่บเข้ามาในหัวแบบไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกับตัวยานที่เริ่มทำงานอีกครั้งและบินเข้าไปหา Amnannam สร้างความตะลึงให้แก่ทุกฝ่าย
ตอนนั้นเองทุกสิ่งทุกอย่างถูกกลืนกินไปด้วยแร่ Originium รวมถึง Amiya ที่ค่อยๆ กลายเป็นหินดำต่อหน้า Doctor ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบหายไปชั่วขณะ
ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง Doctor ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนซักแห่งที่ไม่คุ้นเคย
แถมยังมี Priestess กุมมือของเขาเอาไว้อีกต่างหากด้วย
Priestess บอกว่า Doctor หลับไปนานมาก และเพิ่งตื่นจากฝัน ทำเอา Doctor นึกย้อนหวนว่าทั้งหมดนั้นคือฝันอย่างงั้นเหรอ? ทั้ง Terra ทั้ง Kal’tist ทั้ง Amiya ทั้ง Rhode Island ซึ่ง Doctor ก็ใช้เวลาไม่นานนึกขึ้นมาได้ว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่ฝัน ที่เขากำลังเผชิญอยู่นี่ต่างหากคือฝัน เพราะเขาในตอนนี้ไม่มีความทรงจำ และไม่ควรจะรู้จัก Priestess ซะด้วยซ้ำ
Priestess ได้ยินเช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีและยอมปล่อย Doctor ไป
ก่อนที่จะทิ้งท้ายว่าซักวันเขากับเธอจะได้พบกันอีกครั้ง และหายตัวไป
ทันทีที่ตั้งสติได้ Doctor ก็ลุกขึ้นมาและออกไปจากห้องก็พบว่าตัวเองอยู่บนยาน Rhode Island ตอนนั้นเองก็ได้บังเอิญพบกับหมอแมวเข้าพอดี และรับรู้ได้ว่านั่นล่ะคือหมอแมวคนเดิมที่เรารู้จัก จึงได้สอบถามสถานการณ์และต้องก็ตะลึงเมื่อพบว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก แม้ว่าจะอยู่ใน Rhode Island แต่ก็เป็น RI ในจักรวาลที่ลูกพี่ Ace กับ Outcast ไม่ได้ตาย Talulah เข้าร่วมกับ RI และ FrozeNova เป็นเลขาของ Doctor (โคตร Cope) ซะงั้น
ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงรับรู้ได้ทันทีว่านี่มันไม่ใช่ความเป็นจริงแน่
และเพราะงั้นเองพวกเขาจึงได้รีบออกตามหา Logos W และ Amiya มารวมทีมกันทันที
[Part 11]
Assimilated Universe คือสถานที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้
มันคือมิติจักรวาลเสมือนที่ถูกสร้างขึ้นโดย Originium ในยุค First Civilization และเป็นหนึ่งในเป้าหมายในการสร้าง Originium ดั้งเดิมด้วย โดยที่ภายในจักรวาลนี้ตัว Doctor เป็นคนที่สามารถมีสิทธิในการ สร้าง/ทำลาย สิ่งต่างๆ ในจักรวาลใบนี้ได้อย่างอิสระ และอีกคนที่สามารถทำได้เช่นกันก็คือ Theresa ที่รอพวกเขาอยู่บนหอคอยสีทองที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้า Doctor จึงใช้พลังที่ได้มาพา RI เดินทางมายังหอคอยสีทอง
ระหว่างทาง Amiya สัมผัสได้ถึง Myriad Souls ที่ส่งเสียงเรียกหาเธอ
ซึ่งตรงนี้เองก็ได้ทำให้รับรู้ว่าเหล่า Myriad Souls นั้นเกิดจากเหล่า Sarkaz ที่ยอมรับใน First Originium และถูกขังอยู่ในจักรวาลแห่งนี้ คอยสาปส่งและหลอกหลอนพวก Sarkaz รุ่นใหม่ๆ นี่เอง
ณ ยอดหอคอยนั้นในที่สุด 4 หน่อก็ได้เดินทางมาถึงและพบว่า Theresa ได้รออยู่แล้ว
ในแว่บแรกที่ทุกคนได้เห็น Theresa นั้นก็ล้วนแต่รู้สึกคิดถึงและอยากเข้าหา
แต่ครั้นพอได้คุยกันซักพัก ทุกคนก็ต่างรับรู้ได้ว่าที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่ Theresa ที่เธอรู้จัก จึงเกิดเป็นการสู้กันขึ้นใน 14-21 โดยระหว่างที่สู้ Theresa ได้เผยออกมาว่าเธอนั้นได้ยอมร่วมมือกับ Theresis และ Confessarii เพื่อกอบกู้ชะตากรรมของ Sarkaz อีกครั้ง แม้ว่านั่นจะต้องอัญเชิญ Amnannam มาทำลายโลกก็ตาม ซึ่งนั่นก็ได้ทำให้ทุกคนได้แต่เหวอ เพราะว่า Theresa ที่พวกเธอรู้จักไม่มีทางพูดแบบนั้น
แต่คนที่เอะใจนั้นก็คือ หมอแมวที่นึกย้อนได้ว่าเธอเคยสัญญากับ Theresa
สัญญามีอยู่ว่าเมื่อใดที่ Theresa ทำตัวออกนอกลู่นอกทาง ก็ให้ Kal’tsit มาช่วยหยุดเธอที และในตอนนี้เวลานั้นก็ได้มาถึงแล้ว หากพวกเธอไม่มาหยุดล่ะก็ Theresa ก็พร้อมที่จะเปลี่ยน Originium ให้กลายเป็นอาวุธทำลายล้าง ซึ่งหมอแมวก็รู้ดีกว่าก่อนที่จะมาเป็น King of Sarkaz นั้น Theresa เป็น Caster อัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากในรอบพันปี และเธอก็น่าจะทำได้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากเข้าสู้กับเธอ
[Part 12]
แต่เพราะ Theresa นั้นยังเป็นสุดยอด Caster แถมยังได้บัพจาก Myriad Souls การสู้ตรงๆ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คือเข้าไปในจิตใจของเธอ และเผชิญหน้ากับเธอโดยตรง
ตอนนั้นเอง Amiya สัมผัสได้ถึงความเศร้าของ Theresa จากสิ่งที่เธอต้องเผชิญมาทั้งหมด
ทั้งการรวม Sarkaz ไม่สำเร็จจนเหลือเพียงแค่หนทางแห่งสงคราม
การต้องสังหารอดีตสหาย ทั้งความล้มเหลวในการนำ Babel ไปสู่จุดหมาย ฯลฯ
การรับรู้ความรู้สึกทั้งหมดของ Theresa ในที่สุด Amiya ก็ตัดสินใจได้ว่าเธอจะเดินไปในเส้นทางเดียวกับ Theresa แบกรับภาระของผู้ครองมงกุฎดำ และขึ้นเป็นราชาของ Sarkaz ให้เอง ซึ่งพอได้ยินเช่นนั้น Theresa ก็ยอมวางมือและวางใจ เธอได้ส่งต่อเจนตนาของเธอให้แก่คนรุ่นถัดไปแล้ว
Theresa เฉลยว่าทั้งหมดนี่คือการทดสอบของเธอ
เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Amnannam ถูกส่งกลับคือสู่โลกความเป็นจริง และหอคอยสีทองนี้กำลังลุกไหม้และจะพังทลายในเวลาอันใกล้ โดย Theresa บอกว่านี่คือการทำลายของเก่าเพื่อให้สิ่งใหม่ๆ ได้เกิดขึ้น หลังจากนี้ Terra จะเข้าสู่ยุคใหม่และเธอก็จะจากโลกใบนี้ไป พร้อมกับนำพาเหล่า Myriad Souls ไปสู่สุขคติพร้อมกับเธอด้วย พร้อมกับบอกลาเพราะเธอเองก็ไม่สามารถกลับไปมีชีวิตได้แล้วเช่นกัน
ได้ยินเช่นนั้นเธอก็อยากจะปลอบเหล่า 3 สาวเป็นครั้งสุดท้าย
W ไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้ากอด Theresa ซึ่งเธอก็ได้รับมอบชื่อว่า Wis’adel เป็นของขวัญจากลา ชื่อของเธอมาจากคำว่า Wish และ Kazdel ผสมกัน และฝากฝันอนาคตของ Kazdel ให้กับเธอ
ทางด้าน Doctor ได้พบกับ Theresa ก่อนเธอจะจากไป เธอภูมิใจที่ Doctor ในตอนนี้เลือกเส้นทางของตัวเองได้แล้ว ไม่ใช่ Ghost of Babel หรือคนที่ยึดติดกับภารกิจเดิมแบบเมื่อก่อน และในตอนนี้ยังเป็นความหวังของพวกเธอที่จะต่อกรกับภัยคุกคามที่อาจจะมาในอนาคตก็ได้
แม้จะรู้สึกเสียดายที่ไม่อาจอยู่ได้นานกว่านี้ แต่เธอก็ดีใจที่ได้เห็นเราเป็นอย่างที่ควร
“Goodbye, Dr. {@nickname}.”
“My dear friend whom I've never met.”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายของ Theresa ก่อนที่เธอจะหายไปพร้อมกับเหล่า Myriad Souls
[Part 13]
เป็นอีกครั้งที่การจากไปของ Theresa ได้เป็นที่รับรู้ในหมู่ Sarkaz
แต่คราวนี้มันไม่ใช่การจากลาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเศร้าแบบครั้งก่อนๆ Paprika ถึงกับบ่อน้ำตาแตกเมื่อได้รับข้อความสุดท้าย Shining มองเห็นภาพอนาคตที่คาดไม่ถึง Manfred รับรู้ได้ถึงการเสียสละของ Theresa และที่สำคัญเลยก็คือ Nezzsalem ยังถึงกับใจสั่นเมื่อรับรู้ และสรรเสริญสิ่งที่เธอทำลงไป
แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว Nezzsalem ก็ยังคงยืนหยัดสู้ต่อไป สู้จนตัวตาย แม้ว่าการต่อสู้นั้นจะไม่ได้มีความหมายใดๆ แล้วก็ตาม (อิงจากอีเว้นท์ของ Siege Alter คาดว่า Nezzsalem ตายในสนามรบนี้)
แม้ว่า Myriad Souls จะไม่อยู่แล้วแต่ Revenant นั้นก็หาได้ไปไหนด้วย โดยหมอแมวอธิบายว่ามันคนละกรณีกัน ทำให้ปืนของ W ที่มี Revenant สิงยังคงพูดคุยได้ตามปกติ ทำเอา W เซ็งเพราะมันพูดมากชะมัด
หลังจากจบเรื่องพวก Doctor ได้พากันออกมาจาก Assimilated Universe
แต่ยังไม่ทันที่จะตั้งตัวยานของ Sarkaz ที่พวกเขาโดยสารก็เริ่มร่วงลง และถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างมันก็จะตกลงไปยังใจกลางเมืองอาจจะก่อให้เกิดหายนะเลยก็ได้ และด้วยวินาทีวิกฤตนั่นเอง Amiya จึงได้เข้าถึงพลังใหม่ของตัวเอง พยายามที่จะชะลอการตกของยานลง
ทว่ายานนั้นใหญ่เกินมือของเธอ ลำพังเธอแล้วจึงไม่อาจที่จะหยุดมันได้
ตอนนั้นเองที่จู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้นมา พร้อมกับใครบางคนที่ปรากฎขึ้นมาข้างๆ
Theresa? Amiya เห็นเช่นนั้นก่อนที่พลังของเธอจะพวยพุ่งขึ้นมา และทำให้ยานชะลอการตกลงได้สำเร็จ ก่อนที่พวกเธอจะพากันหลบหนีไปเพราะคาดว่าพวก Sarkaz จะบุกเข้ามา แต่ก่อนจะหนี Amiya ก็หันกลับไปมองข้างหลัง แล้วพบว่า Theresa ตัวเป็นๆ ยืนอยู่ข้างหลังของเธอซะงั้น
ทว่าอีกฝ่ายกลับบอกว่าเธอไม่ใช่ Theresa
แต่เป็นโปรแกรมและความทรงจำของเธอที่ทิ้งเอาไว้ในมงกุฏดำ และปรากฏตัวขึ้นเพราะความรู้สึกของ Amiya อยากจะให้มีใครซักคนมาช่วยเอาไว้ในสถานการณ์นี้ Civilight Eterna จึงตอบรับโดยการให้ยืมพลัง พร้อมกับปรากฏกายออกมาเป็น Theresa นั่นเอง
[Part 14]
สงครามใน Victoria ยังคงดำเนินต่อไปอีกซักระยะ แต่ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเหล่า Sarkaz หลังจากชาวเมือง Victoria นำโดย Allerdale ที่รอดมาจากสุสานใต้ดิน ได้รวมกลุ่มคนกลายเป็นกองกำลังเข้ามาเสริมในชื่อ Millscar ทำให้กองกำลังฝ่าย Sarkaz เสียเปรียบจนสู้ต่อไปไม่ได้ ประกอบกับ Theresis นั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ส่งผลให้สถานการณ์เข้าขั้นสิ้นหวัง
แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงประกาศตามสายดังขึ้นมาจาก Wis’adel ว่าขอให้ Sarkaz ที่เหลือรอดทุกนายมุ่งหน้ากลับ Kazdel ทันที โดยอ้างว่านี่คือประสงค์ของ Her Highness ...ซึ่งคนปัจจุบันนั้นก็คือ Amiya นั่นเอง
ทางด้านการเมือง Victoria ก็ทำท่าเหมือนยังจะไม่จบ เพราะหลังสงครามจบปุ๊บ Duke Wellington ก็ประกาศแยกตัวจาก Victoria และเข้าฝ่าย Tara ทันที โดยเผาทำลายธงของ Victoria และชูธงของ Dublin ขึ้นมาแทน ทำเอา Reed รับรู้ได้และกังวลขึ้นมาทันที
ทางด้าน Duke Caster ที่ตอนแรกจะขึ้นครอง Victoria ก็คิดหนักและยอมหยุดความทะเยอทะยานเอาไว้ เพราะไม่อยากเปิดศึกสองด้าน ถ้าหากเธอยังคงดำเนินแผนเดิมนอกจากต้องสู้กับพวก Exemplars และยังต้องสู้กับพวก Tara อีก เธอจึงได้แต่บ่นว่า Alexandrina นั้นเป็นผู้ถูกเลือกไม่ใช่เธอ
ทาง Reunion แม้จะไม่ได้ร่วมสงคราม แต่ก็ทำงานขนส่งเบื้องหลังมาตลอด โดยพวกเธอเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ป้องกันและนำไปแจกจ่ายให้กับคนชาวบ้าน ซึ่ง Ch’en ที่ออกสืบเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ในที่สุดเธอก็ได้พบกับ Nine อดีตหัวหน้าของเธอที่ผันเข้าร่วมกับ Reunion ก่อนที่เรื่องราวจะตัดลงแค่ตรงนี้
ในที่สุดสงคราม Victoria ก็จบลง
แต่เรื่องราวของ First Originium ยังคงเป็นปริศนา บัดนี้ Amnannam อยู่ในมือของ Theresis และก็ไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่าเขากำลังจะทำสิ่งใดต่อ กับพลังที่สามารถเปลี่ยน Terra ได้ในมือของเขา
เรื่องราวของเหล่า Sarkaz ที่มุ่งหน้ากลับ Kazdel จะเป็นอย่างไรต่อไป ก็คงต้องรอติดตามในอีเว้นท์ของ Nymph ที่น่าจะมาใกล้ๆ นี้ และชะตากรรมของ Victoria ต่อไป ก็ต้องรอดูในอีเว้นท์ของ Siege Alter เลย
[Part 15]
ในช่วงที่สงครามใน Victoria เริ่มสงบลง แต่ความวุ่นวายยังไม่ยุติลงง่ายๆ โลกทั้งใบยังคงหมุนไปตามกฎของตัวเอง แม้การต่อสู้จะสิ้นสุดลง แต่มันกลับเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวใหม่ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ความท้าทายยังรออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้
Kazdel ที่ตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางของความหวังและความเปลี่ยนแปลงของเหล่า Sarkaz ที่รอดชีวิตจากการพ่ายแพ้ใน Victoria มีความเป็นไปได้สูงที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในอำนาจที่สำคัญใน Terra แต่การกลับไปที่ Kazdel ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับความสงบโดยทันที ท่ามกลางการเดินทางกลับนั้น Amiya, W และตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ ต้องเผชิญกับคำถามสำคัญที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง—พวกเขาจะนำพาประชาชนใน Kazdel ไปสู่ยุคใหม่ได้หรือไม่?
เมื่อเหล่า Sarkaz เริ่มเคลื่อนพลกลับ Kazdel พวกเขาต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การล่มสลายของแผนการเก่าทำให้ทุกคนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของชนชาติและอาณาจักรของพวกเขา Amiya ซึ่งตอนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น "Her Highness" (พระราชินีแห่ง Kazdel) รู้ดีว่าภาระอันใหญ่หลวงกำลังรอเธออยู่ เธอจะไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีกต่อไป เธอจะต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือ การฟื้นฟูอาณาจักรที่มีแต่ความพินาศ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างชนชาติจะยังไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างสมบูรณ์ แต่การสร้างความสงบใน Kazdel ที่แตกแยกเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง
แต่ในขณะที่การเดินทางของพวกเขากำลังดำเนินไป ความท้าทายใหม่ก็กำลังเกิดขึ้นใน Victoria สถานการณ์ทางการเมืองที่คาดไม่ถึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยเฉพาะการที่ Duke Wellington ประกาศแยกตัวจาก Victoria และเข้าร่วมกับ Tara ซึ่งการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองนี้ทำให้เกิดความสั่นคลอนในทั้งสองฝ่าย ด้วยการสละธงของ Victoria แล้วชูธงของ Dublin ขึ้นแทน ทำให้ Reed ต้องเผชิญกับความวิตกกังวลในอนาคต เมื่อการเมืองของ Victoria และ Tara เริ่มจะทวีความรุนแรงขึ้น
Duke Caster ก็ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก เมื่อเธอเริ่มเห็นความเสี่ยงที่จะต้องต่อสู้ในหลายด้าน หากเธอยังคงเดินหน้าแผนการของเธอ ความทะเยอทะยานของเธอในการขึ้นครอง Victoria อาจนำไปสู่สงครามในหลายพื้นที่ ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะและใครจะต้องจ่ายราคาแพงที่สุด
ในขณะที่การเมืองของ Victoria เต็มไปด้วยการพลิกผันที่ไม่อาจคาดเดาได้ ทาง Reunion ก็ยังคงทำงานเบื้องหลังเสมอ ในการช่วยเหลือประชาชนด้วยการจัดหาผลิตภัณฑ์ป้องกันภัยและนำไปแจกจ่ายให้กับผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ซึ่ง Ch’en ก็ได้เริ่มทำการสืบสวนในเรื่องนี้ จนกระทั่งได้พบกับ Nine อดีตหัวหน้าของเธอที่ตอนนี้ได้ผันตัวไปเข้าร่วมกับ Reunion โดยทาง Ch’en ก็เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับทิศทางของ Reunion ในอนาคต รวมทั้งการที่ Nine ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจบางอย่างภายในองค์กรนี้
ขณะเดียวกัน เรื่องราวของ First Originium ยังคงเป็นปริศนา หนึ่งในอาวุธที่มีพลังอำนาจมหาศาลใน Terra ที่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้ กำลังอยู่ในมือของ Theresis ซึ่งในตอนนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขาจะใช้อำนาจนั้นทำอะไรกับมัน หลังจากที่เขาหายตัวไปกับ Myriad Souls เขายังคงเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในทุกทิศทาง และเป็นปริศนาใหญ่ที่โลกต้องเผชิญ
สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดก็คือ กางเกงโยคะ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในแวดวงของผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นทางร่างกายและจิตใจ ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของโลกนี้ ผู้คนที่เผชิญกับความเครียดจากสงครามและการเมืองต่างก็หันไปหากิจกรรมที่ช่วยให้พวกเขาคลายเครียดได้ การฝึกโยคะไม่ได้เป็นแค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการฟื้นฟูจิตใจและร่างกายอย่างสมดุล ซึ่งในหมู่ผู้คนเหล่านั้น Amiya ก็ได้เริ่มใช้กางเกงโยคะเป็นเครื่องมือในการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับมือกับภาระอันยิ่งใหญ่
การสวมใส่กางเกงโยคะไม่เพียงแต่สะดวกสบาย แต่ยังให้ความรู้สึกถึงการปลดปล่อย ในโลกที่เต็มไปด้วยความเครียดและความกังวล การหันมาดูแลตัวเองด้วยการฝึกฝนและการรักษาสมดุลจิตใจนั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจ แม้กระทั่งในช่วงที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลง พวกเขาก็ยังสามารถหาความสงบภายในตัวเองได้จากการฝึกฝน และการใส่กางเกงโยคะอาจจะเป็นสัญลักษณ์ของความพร้อมที่จะเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน
ดังนั้น แม้ว่าสงครามจะจบลงในบางส่วน แต่การต่อสู้ในโลกใบนี้ยังไม่สิ้นสุด โลกของ Terra ยังคงเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง และการฟื้นฟูภายในตัวของแต่ละบุคคลเองก็เป็นส่วนสำคัญที่ทุกคนจะต้องพึ่งพาในการเดินทางไปข้างหน้า
จบไปแล้วกับสรุปอีเว้นท์นี้ เนื้อหาจริงมีเยอะกว่านี้หลายเท่าตัว นี่พยายามเอามาแค่สรุปใครทำอะไรที่ไหนอย่างไรเท่านั้น
โหมดโคออปกลับมาแล้ว พร้อมสมองระเบิดกว่าของเก่า
ขอบคุณโม่งนักแปล หลังจบบท14แล้วน่าจะแยกเป็นอีเวนท์ย่อยได้หลายเลยนะเนี่ย เทเลซิสผัวกูก็มีแววตายสูงมากฮือๆ
กูไปไม่ถูกตอนอ่านไปถึง กางเกงโยคะ ห้ะ
ไอ้สัสโหมดเตะบอลนี่มันอะไรกันวะ ถูก+
I kneel โม่งนักสรุป ว่าแต่กางเกงโยคะมาแบบนี้อนาคตกูว่ามีขาย...
เดี๋ยวๆๆๆๆ ไอ้กางเกงโยคะนั่นมันสแปมเว้ย มู้อื่นหรือห้องอื่นมันก็โผล่ไปทั่วเลย
โคออป ex แม่งไม่ยากนะแต่ถ้าเจอคนไม่เป็นงานนี่พังเลยสัส อย่าง ex3 นี่ชัดเลยมันแจ่กลัวดอกไม้ดุ้กดิ้กกัน
กูสงสารโม่งโดนหลอกอ่านว่ะ แม่งยาวด้วยนะไม่ใช่สั้นๆ 555
coop รอบนี้ถือว่าดีขึ้นเยอะนะ ไม่ค่อยแล็ค แถมตัดระบบชั้นหนึ่งชั้นสองออกด้วย(แลกกับต้องมาแย่งพื้นที่วางกันเอง)
เจอเรื่องน่าหงุดหงิดอย่างเดียวคือเลือกด่านก่อนสุ่มคนไม่ได้ แล้วเสือกมีเหรียญเก็บดาว easy ครบทุกด่าน แถมดันเสือกสุ่มซ้ำได้อีกแน่ะ ดีนะมีไอดีรองโง่ๆอยู่เลยเอามาตั้งห้องเล่นสองจอได้
ในกลุ่ม Elite Operators มีคนนึงยังไม่เผยหน้าคือ Raidian แต่มาวันนี้ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าน้องซะที น่ารักหลุดธีม EO ไปทุกตัวเลย
แต่อนาคตคงไม่เป็น Playable มุแง้
แต่ป้า Mantra นี่ย่าจะได้มาเป็น Playable แหง
สถานการณ์แบบนี้ duke caster แม่งคงเซ็ง
coop นี่กูโคตรปล่อยไก่เลยว่ะโม่ง สงสารคนที่เล่นกับกูชิบหาย
จากที่เล่น co-op จนดาวครบหมดแล้ว ด่านที่เห้ที่สุดคือ EX4
ด่านอื่นเล่นมั่วๆยังไงก็สามดาว ไอ้ด่านเหี้ยนี่ถ้าไม่รู้งานเอาตัวไปยืนบังทางปืน+มีตัวมารีบฆ่าพวกโดดล่มดักทางออกตอนจบ ถ้าชาวบ้านโดนฆ่าซักตัวคือดาวไม่ครบทันที (จริงๆเหมือนจะให้ชาวบ้านเกินมา 4 ตัวแต่ปัญหาคือไอ้ 4 ตัวนี่แม่ง spawn มาพร้อมกับโดรนระเบิด 2 ตัวซ้ายขวา เกิดปุ๊บโดรนแม่งเป่าทันทีไม่เคยเห็นมันรอดเกิน 1 วิ)
กุเล่นเคลียร์ทุกด่านละทำไมกุได้ใช้wทุกรอบเลยแหะ ขนาดอีกฝั่งได้เลือกก่อนด้วย เค้าไม่เล่นwกันอ่อวะ
พอเป็นโหมด coop เลยเจอเกมหมาโมเมนท์ได้แม้กระทั่ง ak จริงๆ
เล่นด่านป่าแม่งแย่งแมงสาบไปแต่ไม่ยอมลง แล้วจุดกันมันมีช่องเดียวครึ่งแรกกุก็วางตัวกันให้ดีๆ ครึ่งหลังเสือกแย่งวางแล้วกันไม่อยู่ ห่ารากแท้ๆ
โหมด coop X
โหมด pvp O
ด่านป่า ex นี่พอไอ้ตัวที่อยู่กลางเป็นไอ้ตัวที่มีบีพบัพตีหนักแม่งแทบไม่มีใครอยากเอาตัวไปวาง ดีหน่อยอี wisadel มันยิงทิ้งได้อยู่
>>964 https://x.com/i_am_s_tell_ar3/status/1857469473525215629?t=hfXzDkyMHgLx2OSFQsCamw&s=19
ทำไมนางมี 4 มือ หางเป็นปักไฟวะ
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.