[Part 2]
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า เรื่องราวในคราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อทีมของ Ela ได้เดินทางไปยัง Magnethill-2 เพื่อตามหาทีมของ Ash ที่หายตัวไป และได้ประสบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ระหว่างทำการสำรวจ ในตอนแรกพวกเธอคิดว่าจะถูกฝังอยู่ใต้ภูเขาซะแล้ว แต่พอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าทีมของเธอได้ทะลุฝ้าเพดานลงยังห้องแห่งหนึ่ง และได้พบกับกลุ่มคนประหลาดที่มีใบหูของสัตว์อยู่บนศีรษะ และกำลังเตรียมทำอะไรบางอย่างกัน
ตรงนี้ย้อนกลับไปเล็กน้อยก็คือ Reynell กำลังยืนคุยอยู่กับเลขาของเขาชื่อ Miłosz แต่จู่ๆ ก็ถูกกลุ่มกองกำลังติดอาวุธบุกเข้ามาเพื่อที่จะจับกุมตัวเขาโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทาง Miłosz ก็พยายามคุ้มกันแต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีอาวุธจึงได้แต่ยอมจำนน และนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ทีมของ Ela ตกลงมาจากเพดาน และได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวก
ภายใต้ความสับสนของสถานการณ์ กลุ่มคนติดอาวุธคิดว่าพวก Ela คือลูกน้องของ Reynell จึงได้เริ่มโจมตี ส่วนทีมของ Ela เห็นพวก Reynell ไม่มีอาวุธก็เข้าใจได้ทันทีว่ากำลังถูกปองร้าย เลยรีบรุดหน้าเข้าไปปะทะด้วยทันที และก็ต้องประหลาดใจว่าทำไมศัตรูถึงใช้แต่อาวุธจำพวกหน้าไม้ ทางศัตรูเองก็ประหลาดใจเช่นกันว่าทำไมพวก Ela ถึงใช้อาวุธปืนได้ทั้งที่ไม่ใช่ Sankta แถมพวกเธอยังดูไม่เหมือน BlackSteel ด้วย
การปะทะกันกินเวลาอยู่พักหนึ่ง ด้วยความสามารถที่เหนือกว่าของทีม R6S จึงสามารถต้อนศัตรูให้ถอยกลับไปได้ หลังจบศึก "Doc" Gustave Kateb ได้ตั้งคำถามว่าคนพวกนี้เป็นใคร เพราะใบหูที่อยู่บนหัวนั้นเป็นของจริง ส่วน "Iana" Nienke Meijer ก็ได้สงสัยเช่นกันว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน เพราะสถานที่รอบๆ ช่างดูสวยงามผิดหูผิดตา ก่อน Ela จะตอบว่าบางทีนี่อาจจะเป็น มัลดีฟส์ ก่อนจะโดนค้านว่าไม่มีทาง
ตอนนั้นเอง Reynell ได้เข้ามาขอบคุณและแนะนำตัว และคุยกับ Ela ถูกคอเพราะเขาเองก็มาจาก Kazimierz ที่ใช้ภาษาเหมือนภาษาโปแลนด์ของ Ela จึงทำการต้อนรับพวกเธอ และรับตัวเอาไว้ดูแลเป็นการชั่วคราว โดยแลกกับการแต่งตั้งให้เป็นบอดี้การ์ดในระหว่างที่พวก Ela ยังไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ พวกเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับข้อเสนอนั้นเอาไว้ ยอมทำงานให้กับ Reynell ไปก่อนชั่วคราว
ส่วนกองกำลังติดอาวุธที่เข้าโจมตีนั้นกองกำลังของ Mateo ผู้ดูแลกองกำลังป้องกันตัวเองที่ถูกส่งโดยรัฐบาล Bolivar และตอนนี้กำลังมีปัญหาพิพาทกับ Reynell เรื่องการขยายพื้นที่ดูแล
[Part 3]
หลายวันผ่านไปเหล่าทีมของ Ela ยังคงทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้ Reynell ได้เริ่มเรียนรู้อะไรต่างๆ เกี่ยวกับโลกนี้ขึ้นทีละน้อยๆ แถม Ela ยังได้รับรู้ว่า Reynell เป็นชายที่ยุ่งยากพอสมควร ถึงเขาจะชื่อชอบงานศิลป์ในระดับที่จัดสร้างชุมชนศิลปิน รวบรวมเหล่าช่างศิลป์ทั้งหลายมาเอาไว้เพื่อผลิตผลงานก็เถอะ แต่การดูแลของเขาก็ค่อนข้างจะขอไปทีจนชุมชนนั้นกลายเป็นสลัม ทั้งนี้เป็นเพราะ Reynell นับถือคนที่ผลงานเท่านั้น เขาจะให้การสนับสนุนคนที่ผลงานเข้าตาเขาอย่างเต็มที่ แต่ก็จะเมินไม่สนใจเลยศิลปินคนนั้นมีแค่งานดาษๆ
อีกอย่าง Reynell เป็นคนที่เอาแต่ใจมากจน Ela เหนื่อยใจ ขนาดสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้พี่แกยังไปกระโดดบันจี้จัมป์ลงจากตึกอีก แถมยังประมาทใส่สายรัดไม่แน่นจนสายหลุด ทำเอาพี่แกตกลงไปในทะเลอีก ยังดีที่ไม่ตายแต่ก็ทำให้ Ela รู้ว่าตนไม่อยากทำงานร่วมกับคนๆ นี้เลยซักนิด
แต่ถึงอย่างนั้น Ela ก็เลิกไม่ได้ เพราะติดสัญญากับ Reynell เอาไว้แล้วว่าจะทำงานให้จนกว่างานเปิดตัว Galería Krysztauowa หอศิปล์ของ Reynell จะจบลง
ทางด้านเหล่าลูกทีมของ Ela อย่าง "Fuze" Shuhrat Kessikbayev ได้ทำการใช้เวลาว่างในการฝึกฝนบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ส่วน Doc กับ Iana นั้นพากันไปเดินลาดตระเวนในเมืองพร้อมหาเบาะแสที่จะกลับบ้าน และทั้งคู่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าพื้นเพของชาว Terra นั้นแตกต่างจากพวกเขาพอสมควร โดยเฉพาะสามัญสำนึก หลังจากได้เห็นชาว Terra ซื้อของใช้ที่ไม่น่ามีใครเอาอย่างเช่นหินลับเขา หรือน้ำมันทาขนหาง ฯลฯ
ในระหว่างที่ Ela ทำการคุ้มกัน Reynell นั่นเอง Miłosz ได้เข้าไปคุยกับ Mateo เพื่อเจรจาสงบศึก โดยเขาบอกว่าทาง Reynell ไม่ได้ตั้งใจจะสร้างปัญหาให้เขา และจะถอนตัวเมื่องานเปิดตัวหอศิลป์นี้สิ้นสุด ทำให้ Mateo ได้ยินก็ดูเหมือนจะพอใจและตกลงยอมร่วมมือด้วย ก่อนจะยอมปล่อย Miłosz กลับมาอย่างปลอดภัย โดยหารู้ไม่ว่าพวก Mateo นั้นคือกลุ่มฝักใฝ่สงครามหัวรุนแรงที่ถูกส่งมาโดยฝ่ายรัฐบาล Bolivar เพื่อทำอะไรบางอย่างกับเมือง Dossoles และข้อตกลงนั้นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย
ในขณะเดียวกัน Ernesto “Tequila” Salas และ Arleta Aka. Catapult ได้เดินทางมายัง Dossoles เพื่อนำยาจาก RhodeIsland มาส่ง ตามคำร้องขอ Candela Sanchez นายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน