นักประวัติศาสตร์จากสถาบันแห่งปัญญามองว่า สาธารณรัฐ Glamoth ล่มสลายเพราะหายนะมวลแมลง แต่ในอีกมุมมองหนึ่งก็ได้กล่าวว่า สาธารณรัฐ Glamoth ล่มสลายเพราะวิธีการ ที่พวกเขาใช้เอาชนะศัตรูทรงพลังอย่างเบ็ดเสร็จ
เพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาจากการรุกรานอันน่าสะพรึงของ Swarm สภาการปกครองจึงทุ่มหมดหน้าตัก และตัดสินใจสั่นสะเทือนแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ ดังนั้นเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสงคราม... พวกเขาจึงสร้างอาวุธ "ที่เกิดมาเพื่อสู้รบ" ออกมา
ผลลัพธ์ของทั้งหมดนี้คือ "Titania" จักรพรรดินีผู้ไร้อำนาจ ที่สามารถสั่งการและควบคุมอัศวินที่เชื่อมโยงกับเธอได้ด้วยกระแสจิต ในความฝันที่ถักทอโดยนักรบเหล่านี้ ความหมายของการดำรงอยู่ของพวกเขา คือการคุ้มครอง Titania และ "จักรวรรดิ" ของเธอ ในช่วงชีวิตอันแสนสั้น พวกเขาได้เรียนรู้ ต่อสู้ และรับคำบัญชาจากองค์จักรพรรดินี เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างไม่เกรงกลัว และสู้รบจนตัวตายอย่างมีเกียรติ
ไม่มีใครรู้ว่าการหลอกลวงนี้ ถูกเปิดโปงออกมาเมื่อใด ใช่เริ่มตั้งแต่วันที่มนุษย์เก่าแก่ในอาณาเขตของ Glamoth ลดลงต่ำกว่าอัตราส่วนจำนวนหนึ่งหรือไม่? หรือเริ่มตั้งแต่วันที่พวกนักวิทยาศาสตร์ ค้นพบว่าจักรพรรดินีเริ่มต่อต้านการถูกกักขังหรือเปล่า? หรือว่า... เริ่มตั้งแต่วันที่การโจมตีของ Swarm มลายหายไป?
ผู้คนรู้เพียงแค่ว่า กองทหารเหล็กได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อ "จักรวรรดิ" ที่ไม่มีอยู่จริง หลังจากสู้รบนองเลือดมาหลายทศวรรษ เศษซากจักรกลและเนื้อหนังของแมลงก็กลายเป็นชิ้นส่วนกองเต็มฟ้า และกระจัดกระจายไปทั่วทุกแห่งของเขตดวงดาว Glamoth จนเชื่อมต่อกันเป็น "แม่น้ำแห่งความตาย" เมื่อ Swarm ที่เหลือไม่สามารถสร้างภัยคุกคามได้อีก ผู้นำของสภาจึงสั่นระฆังแห่งความสงบ พร้อมประกาศให้ทุกคนทราบว่า พวกเขาได้ขับไล่ภัยพิบัติที่บดบังท้องฟ้าออกไปแล้ว และจะได้ต้อนรับรุ่งอรุณอันแสนสดใสกันอีกครั้ง... แต่สิ่งที่มาเยือนกลับไม่ใช่แสงอรุณ ทว่าเป็นจุดเริ่มต้นของค่ำคืนอันมืดมิดอีกคืนหนึ่ง
หลังจากนั้น อารยธรรมที่ชื่อ Glamoth ก็ล่มสลายไป ในที่สุดสันติสุขที่ผู้คนปรารถนามาเนิ่นนาน ก็มาเยือนยังเขตดวงดาวที่ไร้เจ้าของแห่งนี้ ละอองดาวและเศษซากรวมตัวกันเป็นแม่น้ำสายยาว และไหลอย่างเงียบๆ อยู่ท่ามกลางหมู่ดาวไปด้วยกัน