เบรกเนี่ยยังเข้าใจผิดกันอยู่เยอะ ความเสียหายตอนเบรกมันมี 2 แบบคือ Break DMG ที่เป็นเลขตัวใหญ่ตอนเบรกแตก กับดีบัพที่เกิดขึ้นหลังเบรก แล้วเกมนี้มันดันมีคำนวนแต่ละธาตุคนละแบบอีก แต่ทุกอันใช้สแตต Break Effect คำนวนด้วย
ถ้าเป็น Break DMG ตอนแตก ความแรงมันจะเรียงจากมากไปน้อยแบบนี้
1. กายภาพ/ไฟ (ตัวคูณ 2)
2. ลม (ตัวคูณ 1.5)
3. น้ำแข็ง/สายฟ้า (ตัวคูณ 1)
4. ควอนตัม/จินตภาพ (ตัวคูณ 0.5)
พอเบรกแล้วมันจะแจกดีบัพประจำธาตุ ซึ่งความแรงเวลาส่งผลครบเต็มประสิทธิภาพจะเรียงจากมากไปน้อยตามนี้
1. ลม/ควอนตัม
2. น้ำแข็ง/สายฟ้า/ไฟ
3. กายภาพ
4. จินตภาพ (ไม่มีแดเมจเลย)
แต่ แต่ แต่ ดีบัพมันจะมีรายละเอียดปลีกย่อย
- ดีบัพกายภาพ ไม่ใช้ Break Effect ในการคำนวนเลยดูเหมือนอันดับต่ำ แต่มันคำนวนโดยอิงจากเลือดสูงสุดของเป้าหมายและคูณกับค่าคงที่แทน 7% สำหรับบอส/เอลีท และ 16% สำหรับศัตรูทั่วไป ดังนั้นสำหรับบอสแล้วดีบัพกายภาพแทบจะทำความเสียหายเต็มความแรงสูงสุด เพราะเลือดบอสปกติเยอะมาก แต่มันก็จะมีแคปอยู่
- ดีบัพน้ำแข็งไม่ใช่ dot และอยู่แค่ 1 เทิร์น จะทำความเสียหายเมื่อเข้าเทิร์นศัตรู (ตัวคูณ 1) เมื่อหายจะเร่งเทิร์นศัตรูถัดไปขึ้นมา 50% ด้วย ดังนั้นแม้จะหยุดศัตรูดี แต่ต้องระวังเรื่องรอบถัดไปด้วย กรณีเราโดนก็เหมือนกันตอนหายเทิร์นเราจะกลับมาเร็วขึ้นทำให้ลำดับที่วางแผนไว้เปลี่ยนได้สำหรับทีมที่เน้นเรียงลำดับแบบเคร่ง
- ดีบัพสายฟ้า (ตัวคูณ 2) กับไฟ (ตัวคูณ 1) จะอยู่ 2 เทิร์น มันก็เลยกลายเป็นว่าไฟตอนเบรกแรงแต่ dot เบากว่าสายฟ้าที่เบรกเบากว่าแต่ dot แรงกว่า ทำให้ในภาพรวมผลมันเลยออกมาพอๆ กัน
- ดีบัพลม มีตัวคูณ 1 และอยู่ 2 เทิร์นเหมือนกลุ่มบน แต่ส่วนทำให้มันแรงคือมันสามารถสแต็กรวมดีบัพมากกว่า 1 อัน และคิดรวมทั้งสแต็กเข้าไปในการคำนวนได้ ดังนั้นยิ่งสแต็กได้เยอะ เวลาเข้าเทิร์นศัตรูก็ยิ่งทำความเสียหายเยอะ โดยศัตรูทั่วไปจะติด 1 สแต็ก ส่วนบอส 3 สแต็ก สะสมได้สูงสุดถึง 5
- ดีบัพควอนตัมไม่ใช่ dot แต่สามารถทำความเสียหายเวลาหายได้เหมือนน้ำแข็งและอยู่ได้ 1 เทิร์น สาเหตุที่แรงเนื่องมาจากแม้ตัวคูณจะน้อยแค่ 0.6 แต่สามารถสแต็กได้เหมือนลม แล้วยังคำนวนจากแต้มขาวของศัตรูด้วย ยิ่งศัตรูแต้มขาวก็ยิ่งแรง สแต็กเพิ่มได้ด้วยการตีตัวที่ติดเบรก สูงสุด 5 สแต็ก แล้วยังมีผลดีเลย์ที่ตัวคูณ 20% คูณกับ Break Effect
- ดีบัพจินตภาพไม่ใช่ dot และไม่ทำความเสียหายค่า Break Effect จะใช้คำนวนผลดีเลย์แบบเดียวกับควอนตัมแต่ตัวคูณจะอยู่ที่ 30% และลดสปีดเป้าหมายอีก 10% ดังนั้นจินตภาพจะเป็นธาตุที่ทำความเสียหายตอน Break แย่สุดทั้ง Break DMG และดีบัพ แต่การดีเลย์ศัตรูก็จะนานสุด
กรณีที่เป็นดีบัพจากสกิลมีพื้นฐานคำนวนเหมือนกันแต่ไม่คิดค่า Break Effect และคิดความเสียหายกับแคปจากรายละเอียดของสกิลเอง และจะแยกแสดงผลกับดีบัพที่เกิดจากการเบรก