#ภาวุฒิเล่าให้ฟัง
ช่วงนี้เงียบหายไร้ข่าวใด ฉะนั้นเนื่องในคริสมาสต์ เรามาดูสิ่งที่น่าสนใจดีกว่าครับ
°°°°°°°°°°°°°°°°°°
Seelie คือสิ่งมีชีวิตโบราณกาลที่อาศัยในทะเลดำ ผู้มีหน้าที่ชี้นำมวลมนุษยชาติให้ไปในทางที่ถูกต้อง ว่ากันว่าแต่เดิมก่อนจะผันเปลี่ยนเป็นเพียงดวงไฟภูติ Seelie เคยมีรูปลักษณ์ที่งดงามเหนือบรรยาย
อนิจจา แต่ด้วยคำสาปร้าย "เมื่อใดเจ้าพบรักกับมนุษย์ เมื่อนั้นจักสูญสิ้นทุกสิ่งสรรพ์" ราวกับเป็นคำสาปที่สืบทอดต่อจากบรรพบุรุษแห่ง Seelie ทั้งปวง ภูติที่ตกหลุมรักและแต่งงานกับมนุษย์จนนำพาซึ่งความวิบัติมาสู่ทุกสิ่งรอบตัวที่ตนรักภายในสามสิบวัน
อรัญนราโบราณตนนึงที่ชื่อ "รามา" เคยบอกเล่าเอาไว้ ว่าในผืนทรายสีทองแต่เดิมนั้น เคยมีผู้รอดชีวิตแห่ง Seelie ตนหนึ่งได้หลบลี้มาอาศัยในทะเลทรายนั้น และภายหลังเธอผู้นั้นได้ผูกสัมพันธ์กับ "นายหญิงแห่งมวลพฤกษา" และ "ราชาแห่งทรายสีแดง" ก่อนจะถูกเรียกขานต่อมาในชื่อ "นายหญิงแห่งมวลบุปผา" เทพีผู้มีรูปโฉมงดงามจนเหล่าญินยังเป็นได้แค่กลีบประดับ เทพีผู้มีรัญจวนราวกลิ่นหอมทั้งมวลถือกำเนิดจากตัวเธอ เทพีผู้มีนัยตาอันมืดมิดไร้ขอบเขต ราวเหวลึกที่แค่เพียงจ้องมองก็อาจชักพาผู้สบตาลงสู่ห้วงลึกเหวนรก
ตามตำนานกล่าวไว้ เทพีแห่งมวลบุปผานั้น มีเขาคู่หนึ่งเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนั่นคือรูปลักษณ์แห่ง Seelie ที่แม้จะกลายเป็นร่างลูกไฟภูติ เขาดังกล่าวก็ยังคงอยู่ แต่สิ่งแปลกกลับเป็นว่า...
ย้อนคืนจากทะเลทรายสีทองมาสู่แดนแห่งเหมันต์ กล่าวถึงผู้บริหารอันดับ 3 ที่น่าพรั่นพรึง "Columbina, The Damselette" หญิงสาวลึกลับ ผู้ที่ "ใสซื่อบริสุทธิ์" หญิงสาวผู้ที่จะทำ "สิ่งใด" ก็เรียบเฉยชินชา หญิงสาวผู้ถูกเล่าขาน (ในคอมมู) ว่าเธอคือ Seelie ที่คงสภาพดั้งเดิมได้ ทั้งจากรูปลักษณ์ที่ชวนให้นึกถึง และเครื่องประดับที่คล้ายคลึงกับที่สถิตย์แห่งเหล่า Seelie กระทั่งบทเพลงที่เธอขับขานยังไพเราะราวกับว่าเธอคือ "หญิงสาวผู้ขับขาน" ในนิทานนายพรานก็มิปาน
สิ่งที่น่าแปลกหากเธอคือ Seelie นั่นคือรูปลักษณ์พิเศษของเหล่าภูติ ซึ่งก็คือ "เขา" ตัวเธอปราศจากเขาบนหัว ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดจากเหตุใด ไม่แน่ว่า "สีแดง" บนเส้นผมของเธอ อาจถือกำเนิดจากสาเหตุที่เธอทำให้เธอเป็น "Seelie ไร้เขา" หรืออาจจะเพราะ...
...เธอคือลูกสาวของบรรพบุรุษแห่ง Seelie และนักเดินทางผู้นั้น...