วันนี้เล่นครบ 120 ชั่วโมงครับ เลยอยากเขียนรีวิวไว้ ไม่ได้อวยไม่ได้เป็น Fanboy อะไรทั้งนั้น ผมรู้สึกว่าเกมนี้คือโคตรคุ้มค่าที่รอคอย คุ้มค่าที่ได้เป็นเจ้าของ และพอเล่นแล้วรู้สึกเลยว่านี่แหละคือเกมของ CD Projekt Red จริงๆ
ผมติดตามเกมนี้มาตลอดตั้งแต่ Teaser ปี 2012 พูดด้วยความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ CDPR ไม่เคยให้สัญญาว่าจะมีอะไรในเกมบ้าง ไม่ว่าจะ Gameplay ปี 2018 Deep Dive เค้าจะย้ำเสมอว่า Does not represent the final look ซึ่งเป็น Disclaimer ว่าเค้าจะปรับเปลี่ยนหรือถอดอะไรก็ได้ในตัวเกมจนกว่าจะวางจำหน่าย บางคนชอบเอาไปเปรียบเทียบกับเกมที่ไม่ได้เป็นแนวเดียวกันเช่น Red Dead 2 หรือ GTA 5 และคิดไปเองว่าจะต้องมีอย่างนั้นอย่างนี้ พอผิดหวังเองแล้วมาบอกว่า CDPR "โม้" ซึ่งไม่ยุติธรรมกับ Developer เลย
Gameplay: ถ้าเทียบกับเกมที่มี Elements ใกล้ๆกันอย่าง Borderlands ทุกภาคผมว่า CP 2077 ทำได้ดีมาก สามารถ Build ตัวละครได้หลากหลาย มีการเคลื่อนไหวที่เยอะกว่า สามารถเลือกวิธีทำภารกิจได้ทั้ง Stealth ทั้ง Hack หรือ Solo ถ้าเทียบกับ Witcher 3 ที่ต้องเตรียมน้ำมันกับ Potion ใน CP 2077 ก็ต้องเตรียมพวก Perks และ Cyberware ที่เหมาะกับวิธีการเล่นของเรา ผมติดตรงที่ความหลากหลายและลูกเล่นของอาวุธน้อยกว่า Borderlands แต่มันไม่ใช่ Shoot and Loot เหมือนกันแน่นอน
เกมนี้คือ RPG ที่ทุกตัวเลือกมีความหมาย และส่งผลให้ตัวละครเจอ Reactions ต่างๆกันในเนื้อเรื่อง คนที่คิดว่ามันจะเป็นแบบ GTA หรือ Red Dead เปิดมายิงๆๆ นี่ไม่ใช่เกมที่เหมาะสำหรับคุณนะครับ ไม่แปลกหรอกครับที่ผิดหวัง
Open World: สวยงามอลังการ อาจจะเพราะผมอินกับนิยายและหนังแนวนี้แบบพวก Blade Runner ทำให้ลำเอียงบ้าง ผมคิดว่าเมืองมันจะต้องดีระดับหนึ่งแต่ไม่คิดว่ามันจะละเอียดขนาดนี้ เดินไปตามซอกซอยตึกจะมีอะไรให้ดูให้ชมตลอด หลายคนตำหนิว่า AI เหมือนตัวละครประกอบฉาก ไม่มี Routine ไม่มีชีวิต พอผมแล้วอ่านยิ่งงงเลยว่าได้เล่นเกมรึปล่าว เพราะที่ผมเจอ AI บางทีก็มีสามีภรรยาทะเลาะกันจะเลิกกัน เดินไปอีกนิดเจอคนบ่นเรื่องเพื่อนหักหลัง เดินไปตามถนนเจออีกกลุ่มคุยว่าใคร Rap เก่งที่สุด ตอนจีบ Panam ผมเห็น Nomad คนนึงมานั่งฟังเพื่อนเล่นกีตาร์สักพักเดินไปซ่อมรถ คือสำหรับผมทุกอย่างมันดูหลากหลายมาก แต่อย่าคาดหวังว่ามันจะ Antagonize หรือ Greet ได้เหมือน Red Dead 2 เพราะมันคนละเกมกันเลย แต่ถ้าเทียบกับ Witcher 3 มันดีกว่าครับ ร้านค้าไม่ได้เปิดให้ซื้อทุกร้านก็จริงแต่ก็มีให้เลือกชมเยอะกว่า GTA 5 อันนี้ยืนยันเพราะผมพยายามเล่นสลับสองเกมเปรียบเทียบ Open World สุดท้ายข้อสรุปคือเกมมันต่างกันเกินไปที่จะเอามาเทียบกัน
Story: ดีมากๆๆๆ สมแล้วที่เนื้อเรื่องเป็นจุดขายของเกมนี้ ใครที่เล่นแต่ Main Quests แล้วบ่นว่าเนื้อเรื่องสั้น บอกเลยว่าพลาดมาก พลาดไม่รู้จะพลาดยังไง ผมว่า Side Quests นี่แหละที่ช่วยเติมเต็มเรื่องเล่าของ Main Quests ให้ลึกล้ำมากขึ้น ซึ่งหาไม่ค่อยได้จากเกมประเภทนี้ ถ้าไม่ใช้เกมพวก Story Driven จริงๆ ในส่วนของ Life Path ซึ่งบางคนบอกว่าไม่เห็นจะต่างกันเลยทั้งสามสาย สุดท้ายก็ได้เนื้องเรื่องเหมือนกัน แต่ถ้าลองเทียบกับ Gameplay ปี 2018 ตอนสร้างตัวละครมันมีให้เลือกแค่ Background เท่านั้น ผมว่าการที่มีเรื่องเล่าตอนแรกก่อนเข้าเนื้อเรื่องหลัก มันทำให้การตอบสนองของตัวละครตามบทบาทที่เคยมีไม่ว่าจะเป็น Corpo Street Kid หรือว่า nomad ดูน่าเชื่อถือขึ้นมากๆ เหมือนเราเคยผ่านชีวิตแบบนั้นมาจริงๆ
Bugs และ Performance: ยอมรับเลยครับว่าบัคเยอะและไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ เข้าเมืองคือกระตุกโหลดช้า แต่ไม่เจอดินน้ำมันเหมือน PS 4 หรือ Xbox แต่ให้อภัยได้เมื่อเห็นว่ามันลดลงหลังการอัพเดทแต่ละครั้ง และไม่เคยเห็นทีมงานไหนพร้อมที่จะยอมรับความผิดตัวเองเท่า CDPR เพราะผมเคยซื้อเกมหรือ Preorder มาหมดทั้ง Skyrim Fallout Watchdogs AC แทบทุกภาค CDPR เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ออกมายอมรับ ช่วยคืนเงินแม้แต่บน PS Store (ผมเข้าใจว่าขอคืนเงินยากมากถ้าโหลดเกมไปเล่นแล้ว) ทำให้ผมยังมีความหวังรอให้ผู้พัฒนาแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง และทำให้มันเป็นเกมที่สมบูรณ์ที่ทุกๆคนรอคอยจะได้เล่น
ปล. ผมเล่นบน PC i7-7850 การ์ด 1080 ปรับ High แพทช์ 1.04 ล่าสุดเพิ่งโหลดเป็น 1.05 ครับ ไม่เคยเล่นซับไทยนะครับ ไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องการแปลได้