วันนี้จะมีเขียนถึงเกี่ยวกับวงการการ์ตูนที่ผมได้ผ่านพบมากันต่อนะครับ
หลังจากพูดถึงร้านมือสอง50%และร้านเช่าผ่านไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงร้านหนังสือใหม่ สายส่ง และสำนักพิมพ์กันต่อนะครับ
โดยผมจะอธิบายคร่าวๆถึงการส่งหรือการขายนะครับ
โดยสำนักพิมพ์เอง จะลดให้ร้านค้าที่เป็นเอเย่นต์ หรือสายส่ง ปกติอยู่ที่30%จากราคาปก(ถ้าเป็นไพเรทจะอยู่ที่ลด30-37%จากปก)
โดยสายส่งหรือเอเย่นต์จะกระจายสินค้าให้กับร้านค้ารายย่อยอื่นๆอีกครั้ง โดยจะลดให้ร้านค้ารายย่อยอยู่ที่20-25%แล้วแต่จำนวนและสัดส่วนการคืนหนังสือ
สัดส่วนการคืนหนังสือนั้น โดยทั่วไป สายส่งหรือเอเย่นต์จะมีโควต้าให้คืนได้30%ของยอดที่ซื้อไป
ซึ่งกติกาเหล่านี้เองที่เป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งที่สำนักพิมพ์และร้านหนังสือใหม่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ แต่จะขอเล่าหลังจากนี้นะครับ
จากตอนที่แล้ว ที่เป็นยุครุ่งเรืองของร้านเช่า ทางสำนักพิมพ์ก็ซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ในส่วนนี้อาจจะอธิบายเพิ่มเติมสักหน่อยว่า ลิขสิทธิ์ที่สำนักพิมพ์โดยมากซื้อมานี่คือไม่ใช่อยากได้เรื่องไหนแล้วจะซื้อเรื่องนั้นๆได้เลยนะครับ หลายครั้งที่จะซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนึงแล้วต้องพ่วงเรื่องอื่นๆมาอีกด้วย
ดังนั้น จำนวนเรื่องที่สำนักพิมพ์ซื้อลิขสิทธิ์มาจึงมีจำนวนเรื่องเยอะมาก และในจำนวนนั้นเรื่องที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมก็มีพอสมควร แต่ด้วยช่วงที่ร้านเช่ารุ่งเรือง หนังสือหลายๆเรื่องที่พิมพ์ออกมาสามารถขายได้ในจำนวนที่ไม่ขาดทุน(ทั้งที่ส่วนใหญ่ที่ซื้อหนังสือที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมคือร้านเช่า และเอาไปก็ไม่ค่อยมีคนเช่า)
ต่อมา เมื่อร้านเช่าทยอยปิดตัวกันลงไป และเข้าสู่ยุคที่รุ่งเรื่องของเว็บแสกน จำนวนหนังสือที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมก็ถูกซื้อน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสำนักพิมพ์ได้ผลิตเรื่องเหล่านี้จำนวนเท่าเดิม แต่ยอดขายได้ลดลงจากเดิม จึงเกิดปัญหาทั้งร้านที่ขายและทางสำนักพิมพ์
โดยร้านที่ขายเองนั้น เมื่อยอดขายได้ลดลง แต่จำนวนที่สั่งกับทางสำนักพิมพ์หรือทางเอเย่นต์ยังสั่งไปเท่าเดิม ดังนั้น หนังสือค้างสต๊อกจากร้านหนังสือใหม่จึงมีเยอะ เพราะจำนวนที่สามารถตีคืนได้ยังเท่าเดิมที่30% ยิ่งช่วงหลังๆนี้เกือบทุกสำนักพิมพ์แก้ปัญหานี้โดยลดจำนวนเรื่องที่พิมพ์ออกมา บางสำนักพิมพ์ออกเดือนนึงไม่ถึง10ปก ทำให้ยอดที่จะคืนได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และปัญหาของร้านหนังสือใหม่นอกจากปัญหาสต๊อกหนังสือและค่าเช่าร้านค่าลูกจ้างแล้ว ปัญหาใหญ่อีกหนึ่งอย่างคือปัญหาการโดนขโมยหนังสือนะครับ อันนี้จะเล่าให้เพื่อนๆฟังตามที่พอจะทราบมานะครับ
การขโมยหนังสือนั้น มีหลากหลายรูปแบบวิธีการก็จะแตกต่างกันไป บางเคสก็ติดต่อโดยตรงเลยกับผู้จัดการสาขา ที่จับได้คราวนั้นสอบสวนแล้วความเสียหายหลักหลายแสน แต่วิธีการโดยมากคือ ให้คนที่ลงมือเป็นเด็กอายุต่ำกว่า18เป็นคนลงมือ เพราะตามกฎหมายแล้วพวกนี้จะได้รับโทษเบากว่า เมื่อเด็กพวกนี้อายุเกินก็จะเปลี่ยนหน้าที่เป็นคนดูต้นทาง โดยร้านที่จะโดนส่วนมากจะเป็นร้านขนาดใหญ่ และปลายทางแห่งแรกของหนังสือที่ขโมยมานี้ก็จะอยู่ที่ร้านหนังสือมือสองบางร้าน
ซึ่งจากปลายทางแรกนั้นจะเห็นได้ว่า ก่อนหน้านี้จะมีบางร้านที่จะขายหนังสือใหม่ในซีลในราคาเพียง50%เท่านั้น มันอาจจะไม่แปลกอะไรเลยถ้ามีเพียงอย่างละ1ชุด แต่บางร้านที่ว่ากลับมีอย่างละ3ชุดขึ้นไป ซึ่งจากตรงนี้เอง ผมเคยได้ข้อมูลมาว่าร้านบางร้านที่ว่าเคยโดนมาแล้ว แต่เสียค่าใช้จ่ายเพียง1-2แสนแล้วแต่จำนวนหนังสือที่รับซื้อของขโมยมา ซึ่งยังทำให้คุ้มที่จะเสี่ยงอยู่......
ตอนหน้าเราจะมาว่ากันถึงสำนักพิมพ์กันบ้างนะครับว่าเค้าโดนอะไรกันบ้าง ทำไมส่วนมากถึงขาดทุนกันอย่างต่อเนื่องในระยะหลังมานี้