สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>618 เทียนกวาน Part.89
.
.
.
.
.
ถึงที่อุดหูจะช่วยจัดการปีศาจร้ายไม่ได้ แต่อย่างน้อยซือชิงเสวียนก็จะไม่ได้ยินเสียงของมัน เวลาอยากคุยกันก็ให้คุยในห้องดิสคอร์ดโทรจิตที่สร้างขึ้นใหม่ เหลียนแอบโทรจิตกับฮวาเฉิงสองคนว่าเขาอยากให้อีกฝ่ายช่วยเขาพิสูจน์ว่าหมิงอี้คือผู้อาวุโสแห่งวัจนะว่างเปล่าหรือไม่ พอกลับมาถึงอารามของเทพแห่งน้ำและเทพแห่งลมพวกเขาก็ก่อกองไฟ หลังจากเอารูปปั้นของพี่ชายมาซ่อมต่อหัวแล้วซือชิงเสวียนก็เสนอให้ทุกคนหาอะไรเล่นแก้เบื่อ เซี่ยเหลียนเลยบอกให้แบ่งเป็นสองทีมโดยที่เขาจะอยู่กับฮวาเฉิง ส่วนซือชิงเสวียนอยู่กับหมิงอี้ ให้ทุนคนทอยลูกเต๋า ทีมไหนที่มีคะแนนรวมมากกว่าจะสามารถสั่งทีมผู้แพ้ให้ทำอะไรก็ได้ และด้วยสกิล Luck S ของอ๋องผีก็จะทำให้พวกเขาควบคุมเกมได้ไม่ยาก
ตอนแรกหมิงอี้ปฏิเสธที่จะเล่นด้วย แต่สุดท้ายก็ถูกซือชิงเสวียนมัดมือชก รอบแรกทีมของเทพแห่งลมเป็นผู้ชนะ สิ่งที่เขาสั่งคือให้พวกฌซี่ยเหลียนถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย 1 ชั้น ทำเอาทั้ง 3 ถึงกับอึ้ง แต่สุดท้ายเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงก็ต้องถอดเสื้อคลุมของอีกฝ่ายออก แต่รอบที่สองทีมของเทพแห่งลมก็ชนะอีกไม่เหมือนที่เซี่ยเหลียนตกลงกับฮวาเฉิงไว้ เขาเลยรีบขัดซือชิงเสวียนว่ารอบนี้ให้เป็นคำถามแทน คำถามของเทพแห่งลมอะไรที่ทำให้อ๋องผีรู้สึกทรมานที่สุด รอยยิ้มของฮวาเฉิงหายไปทันที แต่สุดท้ายเขาก็ตอบว่าการได้เห็นคนที่ตนรักถูกเหยียบย่ำเยาะเย้ยต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวเองไม่สามารถททำอะไรได้เลย คำตอบนั้นทำให้ทุกคนตกในความเงียบ ก่อนที่หมิงอี้จะบอกให้เล่นต่อ คราวนี้เทพแห่งดินเลยถามเซี่ยเหลียนว่าอะไรที่ทำให้เซี่ยเหลียนรู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต ซึ่งเซี่ยเหลียนก็ใช้เวลาเพียงครู่เดียวในการตอบว่าสิ่งนั้นคือการขึ้นสวรรค์ครั้งที่ 2 ของเขา
รอบต่อมาพวกเซี่ยเหลียนเป็นฝ่ายชนะ เซี่ยเหลียนเลยถามหมิงอี้ว่าเขาคือใคร ใครคือคนที่นั่งอยู่ข้างเขา และคนที่นั่งอยู่ข้างเทพแห่งดินคือใคร เมื่อตอนที่เขาถูกผู้อาวุโสแห่งวัจนะว่างเปล่าตามติด เขาค้นพบว่าเวลาที่มันพูด 3 ประโยค จะต้องมีประโยคหนึ่งเป็นคำโกหกเสมอ ในเมื่อหมิงอี้ตอบ 2 ข้อแรกตามจริงแล้ว หากเขาคือผู้อาวุโสแห่งวัจนะว่างเปล่าจริงประโยคต่อไปจะต้องพูดโกหก เทพแห่งดินคือคนที่วาดคาถาจึงน่าสงสัยที่สุด ถึงความสัมพันธ์ของหมิงอี้กับซือชิงเสวียนจะดี แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะถูกสิง หลังจากเงียบไปพักใหญ่เทพแห่งดินก็ตอบคำตอบที่ถูกต้องออกมา ทว่าครู่ต่อมาเขาก็ยื่นมือมาคว้าคอของเซี่ยเหลียนซึ่งหลบอย่างรวดเร็ว พอถูกทเพแห่งลมถามด้วยความตกใจ หมิงอี้ก็บอกอธิบายว่าก่อนหน้าเขาถามแค่คำถามเดียว แต่เซี่ยเหลียนกลับขี้โกงถามตั้ง 3 ก่อนถามว่าทำไมถึงจงใจให้พวกตนเล่นเกม แล้วถามคำถามแปลกๆ เช่นนั้น ท่าทางอีกฝ่ายจะสงสัยพวกเซี่ยเหลียนเช่นกัน
ตอนนั้นเองจู่ๆ ก็มีสายลมพัดเข้ามาในอารามพร้อมบรรยากาศชวนขนหัวลุก แล้วรูปปั้นของเทพแห่งน้ำและลมก็มีเลือดไหลออกมาจากดวงตา ก่อนที่เลือดที่ไหลลงพื้นจะเริ่มขยับเขียนเป็นตัวอักษร เซี่ยเหลียนที่เข้าไปดูจึงหันมาห้ามไม่ให้ซือชิงเสวียนมอง จากนั้นเทพแห่งดินก็ใช้พลังระบิดใส่พื้นและรูปปั้นจนแหลกละเอียดโดยไม่สนว่าจะเป็นความผิดร้ายแรงกว่าทำลายป้ายอาราม ทว่าที่ป้ายอารามที่หักนั้นตัวอักษรกลับเริ่มบิดเบี้ยวกลายเป็นคำว่า “ตาย” เซี่ยเหลียนเลยสั่งให้เทพแห่งลมหลับตา ในเมื่อซือชิงเสวียนไม่อาจได้ยินเสียง ผู้อาวุโสแห่งวัจนะว่างเปล่าจึงเปลี่ยนมาใช้อักษรให้เหยื่อเห็นแทน เทพแห่งลมที่ไม่อาจมองหรือฟังอะไรได้ยิ่งตื่นตระหนก แต่ในช่วงที่กำลังวุ่นวายนั้นเอง เมื่อกลุ่มชาวเมืองที่แต่งกายเป็นผีออกหลอกนักท่องเที่ยวเพื่อบีบให้อีกฝ่ายต้องจ่ายเงินให้พวกตนเห็นทั้ง 4 คนก็พากันพุ่งเข้ามาในอาราม แถมยังไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาออกไปข้างนอกด้วย แล้วในกลุ่มชาวเมืองนั่นเอง เซี่ยเหลียนก็สังเกตเห็นความผิดปรกติของผีตนหนึ่งจึงซัดรั่วเย่ใส่ ทันทีที่ถูกโจมตีร่างนั้นก็เปลี่ยนเป็นควันสีดำแทรกซึมไปกับรอบแตกบนพื้น แล้วเขาก็หันไปขอยืมพลังทิพย์จากฮวาเฉิง เมื่ออ๋องผีจับตัวของเขา พลังมากมายก็ไหลเข้ามาให้ตัวของเซี่ยเหลียนจนเขาสามารถยิงพลังออกจากฝ่ามือใส่ผีอีกตัวที่แฝงในกลุ่มคนได้
.
.
.
.
.