>>407 กูระแวงคำว่าตลกสัดของมึงชิบหายเลยค่ะ นี่กูมีแผลใจนะเนี่ย ไอ้คำว่าตลกเนี่ย
>>408 อ่ะที่มักมาคู่กับการแทนตัวด้วยชื่อใช่มั้ย ถ้าต่ำกว่า ป.6 กูยอมให้พ้อยโมเอ้ มากกว่านั้นให้ 2 รูท ระหว่างตอแหลแอ๊บแบ๊วกับสมองกระทบกระเทือน
จริงๆ ตอแหลอาจจะแซ่บนะมึง ทำเป็นใสข้างในร้ายกาจเงี้ย
"อ่อ แกล้งทำน่ะ คุณคงไม่คิดว่าผมปัญญาอ่อนแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย? นั่นน่ะแค่ทำให้เขาเอ็นดูตายใจ ถ้าให้ผมแทนตัวว่าน้องเออย่างนู้นน้องเออย่างนี้เวลาคุยกับคุณด้วยก็ออกจะน่าขนลุกเกินไปนะ" เอกรินทร์เบะปาก ต่อให้ย้อนกลับไปสมัยเขาใช้คำว่าเด็กชายนำหน้าชื่อก็ไม่มีทางพูดประโยคทำนอง 'น้องเอหิวแล้วอ่ะ' 'น้องเอชอบคุณหมีมากเลย!' 'น้องเอยากกอดจัง' ออกมาแน่ ต่อให้ในมุมมองของคนบางคงจะเห็นว่ารูปร่างหน้าตาเขาสอดคล้องกับการพูดจาแบบนี้แล้วดูน่ารักก็ตาม
แน่นอนว่าเด็กหนุ่มทำลืมๆ ไปชั่วคราวว่าตนเองเพิ่งพูดประโยคเหล่านี้เมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ตอนที่เจ้าของบ้านยังอยู่ในห้อง
เด็กหนุ่มมองคู่สนทนาที่ดูอึ้งค้างไปไม่น้อย ขยับยิ้มบางพร้อมโยนตุ๊กตาหมีที่เคยทำเป็นติดนักหนาไปไว้อีกฝั่งของโซฟา
"ไม่เอาน่า โควต้ารอยยิ้มโง่ๆออดอ้อนของวันนี้หมดแล้ว เขาไม่อยู่ก็ขอผมแบบพูดจาแบบปัญญาชนบ้างเถอะ เมื่อกี้คุณเล่าถึงไหนนะ? บอกว่าเขานอกใจผมใช่มั้ย"
"เอ่อ..."
"ความจริงเรื่องเล่าคุณออกจะช่องโหว่เยอะไปหน่อย พล็อตน้ำเน่าไปนิด แต่ไม่เป็นไรนะ ผมเป็นเด็กหนุ่มใสซื่อผู้จิตใจเปราะบางและเชื่อคนง่าย ดังนั้นจึงตัดสินใจจะเชื่อคุณ เอาล่ะ... คุณมาช่วยผมคิดสิว่าระหว่างงอนตุ๊บป่องไม่ยอมคุยด้วยกับหนีออกจากบ้านไปเลยอะไรดูสะเทือนใจกว่า อืม... ความจริงก็ต้องอย่างหลังล่ะนะ มุกแรกเคยเล่นไปแล้ว ผมไม่ค่อยอยากออกไปลำบากเท่าไหร่ แต่คาแรกเตอร์ผมไม่น่าจะฉลาดพอจะฉุกใจคิดว่าควรหยิบเงินไปด้วยนี่สิ น้องเอผู้ใสซื่อจะไปกล้าขโมยเงินได้ยังไง!? ”
เขาเท้าคางใช้ปลายนิ้วอีกข้างเคาะที่เท้าแขน ความจริงท่าทางที่ถูกต้องของน้องเอตอนใช้ความคิดคือกุมแก้มสองข้างแล้วเหม่อ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ใครสนกันล่ะ
"อ้อ คิดดูอีกทีคุณเป็นศัตรูของเขานี่นา สนใจลักพาตัวผมมั้ย สักอาทิตย์เป็นไง คุณต้องการแค่ถ่วงให้เขาพะวงจนไม่มีสมาธิกับเรื่องสำคัญสุดสัปดาห์นี้ใช่มั้ย ผมจะให้ความร่วมมืออย่างดีทำเสียงร้องไห้ใส่โทรศัพท์ให้ด้วย มีข้อแม้ว่าจะต้องดูแลผมอย่างดี เตียงห้ามแข็ง อาหารทุกมื้อต้องอร่อย และรบกวนหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่พร้อมโปรอินเตอร์เน็ตให้ด้วย ผมเป็นโมโบโฟเบีย ติดมือถือน่ะ แต่เครื่องที่ใช้อยู่โดนเล่นลูกไม้ เอาไปด้วยไม่ได้หรอก"
ชายหนุ่มที่ฟังเขาอย่างตกตะลึงอยู่พักใหญ่เริ่มตั้งสติได้ หรี่ตามองพลางยิ้มเยาะ "ไม่วางใจไปหน่อยรึไง มาเฟียที่ไหนจะดูแลดีปานนั้น"
"แหม พูดอะไรแบบนั้น ผมเป็นคนสำคัญของเขานะ ไม่ดูแลดีๆได้ยังไง อีกอย่างผมน่ารักขนาดนี้ คุณต้องเอ็นดูสิ" เอกรินทร์ยิ้มแย้ม
กร๊อบ
เสียงอะไรบางอย่างแตกหัก
"เนอะ?" รอยยิ้มหยีไปไม่ถึงแววตา ศรีษะเอียงน้อยๆด้วยองศาที่เขาคิดมาดีแล้วว่าน่าเอ็นดู
ซากสมาร์ทโฟนยับยู่ยี่ร่วงลงสู่พื้น ด้วยมือเปล่าของคนที่ดูบอบบาง
"แย่จัง ไอ้นี่ช่วยนับเป็นผลงานคุณด้วยได้มั้ย คุณเอายาสลบกับผ้าเช็ดหน้าติดมาด้วยรึเปล่า ทิ้งไว้ข้างๆ แล้วเราไปกันเถอะ ใกล้หมดเวลาแล้ว"
ไม่นานที่แห่งนั้นก็เหลือเพียงโซฟาที่ว่างเปล่า แก้วที่จงใจทำตกแตก และซากมือถือ พร้อมกับคนที่กลับมาพบเห็นด้วยอาการคลุ้มคลั่ง
พล็อตงอก.... กูขอโทษ ตอนแรกจะยกบทพูดมาสัก 2 ประโยค ยาวเลย แต่พิมพ์ไปพิมพ์มากูแอบมันส์แฮะ คิดว่ากูเขียนฟิคสั้นนิยายโหลเวอร์ชันนายเอกหลุดคาร์ฯให้อ่านเล่นแล้วกันนะ 555