Last posted
Total of 1000 posts
เดี๋ยวนี้ม่านฮวากับมังฮวาเริ่มแมสขึ้นมามากรึเปล่าวะ กุเห็นหลายสนพ.เริ่มซื้อlcมาพิมพ์เป็นเล่ม จากที่เคยเห็นแค่lcในแอพ
วิจารณ์แรงๆที่กูเจอแล้วรู้สึกว่าดีจริงก็ประเด็นที่นข.ชอบให้พอ.สักแต่เสียบ
พอมีคนฉอดในทวิตว่าในทางปฏิบัติมันไม่ได้เสียบง่ายขนาดนั้น ต้องมีหล่อลื่นมีอะไร
หลังจากนั้นกูเห็นเทรนด์การเขียนเปลี่ยนไป มีใช้ถุงยาง เมื่อเทียบกับสักเมื่อสามสี่ปีก่อนอ่ะ เปลี่ยนไปเยอะจิง
ดันจ้าาา
https://www.ฟบ.com/groups/ybooks4share/posts/3913714825407012 นทก โดนแหกแล้วหรอ
พวกมึงไปดูในเพจนนทกรได้นะ เขาแถลงแล้ว กูไม่าีปัญหาอะไรกับคำแถลง แต่ค่อนข้างรังเกียจลูกหาบเขา ระดับคุณนทก ไม่ต้องลอกใคนหรอกค่ะ เหอะๆ
พูดถึงเรื่องวิจารณ์ นิยายกูเคยมีนักอ่านสายฉอดมาเม้นวิจารณ์ แต่กูอ่านยังไงก็รู้สึกว่าด่า กูเลยเป็นโรคจิตตามติดไปดูชีวิตของนาง ถึงได้เห็นว่านางเป็นนักเขียนโนเนมเหมือนกัน เขียนแย่กว่ากูไม่ว่าในทวิตเอานักอ่านไปด่าเสียๆหายๆเวลานางอัพแล้วนักอ่านไม่สนใจนางไม่เม้นให้กำลังใจนางหรือมาวิจารณ์พล็อตนาง นางบอกนางทำขนาดนี้นักอ่านยังไม่สนใจวันไหนนางไม่ทำจะมาร่ำร้องไม่ได้ 55555 และอีกมากมายคำหยาบสัส ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้นางเพิ่งรีทวิตเกี่ยวกับประเด็นนข.สมัยนี้อ่อนไหวกับคำวิจารณ์ กูประสาทแดกเลยแทนเลิกส่องแม่ง เหมือนเจอคนบ้า555555 นางไม่ดังการที่นางด่านักอ่านในทวิตเลยไม่มีใครมาเผาผีนาง แต่ถ้ามีฐานคนอ่านขึ้นมาหน่อย กูว่าคงโดนแขวนแล้วล่ะ ไอ่พวกที่ปากบอกวิจารณ์ๆๆคนอื่น แต่พอตัวเองโดนบ้างกูว่าดิ้นชิบหายเลย
>>75 วันดีวิทยา
คือนายเอกแกล้งให้เพื่อนดูดคอเพื่อให้พระเอกหึง <<< แค่นี้แหละ - - กูไม่ได้อวยอะไรนะวันดีอะไรนี่ไม่ได้ซื้ออ่านอ่านแค่ใน RAW
กูอยากบอกแค่ว่า โอ้ยยยย ทำแบบนี้อ่ะไม่ต้องการ์ตูนหรอกในชีวิตจริงกูก็เคยเจอจ้าาา แถมพล๊อตชายหญิงที่กูเคยอ่านมาแม่งก็แนวนี้โครตตตจะเยอะ
Ky จะคุยนอกเรื่องที่พวกมึงคุยกันอยู่มันพิมพ์งี้ป่ะวะ กูไม่ได้เข้าฟุนานละ;-; พวกมึง กูเพิ่งมีโอกาสได้ดูซีรีส์นิทานพันดาวอะ จำได้ว่าเคยอ่านแบบนิยายน้านนานมาละ ตอนนั้นยังอินกับคนบนฟ้าแต่ตอนนี้ไม่กูก็เลยขายไปละ ทีนี้กูชอบซีรีส์มาก กูรู้สึกว่าเขาทำได้ดีกว่าตอนกูอ่านนิยายอีก(อย่างน้อยก็ไม่ได้พยายามยัดเยียดให้กูเลิฟคนบนฟ้าเหมือนในนิยาย… ซึ่งกูขอโทษแฟนนิยายมาณ ที่นี้ด้วย) ทีนี้พอกูชอบซีรีส์ก็เลยนึกขึ้นได้ว่านข.เขาแต่งตอนพิเศษออกมาด้วย กูเลยไปสรรหามากะจะอ่าน แต่พอเห็นรีวิวว่าเขียนถึงราชกิจบลาบลาไปยี่สิบกว่าหน้า เขียนถึงผู้กองกับคุณครูแค่กระจิ๊บกระจ๊อย กูเลยจ๋อยจอดทั้งที่ไม่ทันได้แจว กูเสียดายว่ะ นข.เขาเป็นสลอ่อวะ(ขอโทษอีกเรื่องถ้าแฟนนข.ไม่พอใจมู้กู) คือกูเคยชอบงานเขามากอ่ะ อยากอุดหนุนแต่อุดมการณ์เราต่างกันกูเลยขอจากลาอย่างสงบสุข ปล.ถ้าผิดมู้ต้องขออภัย กูไม่ได้เข้าฟุนานละ โลกภายนอกกูก็ไม่มีที่ให้พูดคุยได้เล้ย
ky กูนั่งย้อนอ่านกระทู้เก่าตั้งแต่ปีมะโว้ที่พวกมึงเม้าส์เซเลป ป.ปลากันว่าเคยเอาแฟนอาร์ตงานคนอื่นมาโมเมว่าตัวเองวาดเองนี่เรื่องจริงเหรอวะ กูเงิบ เขาทำกับด้อมอะไรอ่ะ ใช่วายจีนป่ะ
>>87 ถ้าไม่รอด1-2กูไม่ค่อยแนะนำเลย เพราะสำหรับกูเล่ม3-4แผ่วเข็นยากกว่า ตอนนี้กูยังเข็นเล่ม4 ไม่รอดเลย นิสัยนายเอกก็ประมาณเล่มหนึ่งนั้นเเหละไม่เปลี่ยนไปมากหรอกกว่านี้หรอก ทั้งความซูทั้งการอวยจีน ที่สำคัญที่ทำให้กูอคติเลยคือการแอบคบกันที่ทำงาน กูอึดอัดกูไม่ชอบสไตล์นี้อยู่แล้ว กูอ่านถึงเล่ม3ที่นางเเอบคบกันแล้วไม่มีการเล่นประเด็นนี้ว่าไม่เหมาะสมหรือสมควรกูก็ไม่ค่อยอยากอ่านต่อล่ะ กูค่อนข้างคอนเซินเรื่องนี้ส่วนตัว ใดๆมันคือความรู้สึกส่วนตัวกูล้วนๆกูเห็นหลายคนก็ชอบอยู่ มึงอาจจะชอบเล่ม 3-4 มากกว่า 1-2 ก็ได้
>>87 ลองอ่านเล่ม1ก่อน ถ้าโอเคก็ไปต่อ สำหรับกูกูชอบ เป็นSoLที่ดีอันดับต้นๆในใจเลย พาร์ททำงานสนุกดี แต่ตัวละครอวยทัศนคติแบบจีนมาก อวยความproductive ชีวิตต้องมีสาระตลอดงี้ แล้วกูก็ไม่ชอบนายเอกด้วย รู้สึกว่าเป็นพวกลูกคนรวยมีพรีวิเลจแต่ก็ยังมาเย้วๆว่าต่อให้เทียบกับลูกคนธรรมดา(ที่หาบ้านจนไม่ได้มีเส้นสายข้าราชการให้ไปเรียนต่อเมืองนอกแบบตัวเอง)ก็ยังลำบากน้าาา ซึ่งกูว่ามันไม่ใช่อะ5555 นายเอกชีวิตดีกว่าใครหลายคนเยอะ ที่ผ่านมาก็ได้ฐานะครอบครัวอุ้มไว้หลายอย่าง แต่ก็ดูไม่ตระหนักถึงตรงนี้เลย แต่ทั้งนี้ กูยังพอรับได้ ทำเบลอๆข้ามๆไปได้บ้าง
unpopular opinion เบื่อเวลาเห็นสายนิยายจีนบ่นรำคาญความชาตินิยมจีน ก็มันนิยายจีนอะ มึงคาดหวังอะไร อยากให้คนจีนฉอดรัฐบาลจีนหรือไง ถ้ารำคาญทัศนคติคนจีนก็ไม่ต้องอ่านนิยายที่คนจีนเขียนก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องฝืนใจอ่าน
แค่บอกว่ารำคาญนายเอก รำคาญความซูของนายเอกก็โดนไล่แล้ว5555 กูไม่ไป กูจะอ่านนิยายจีนและรีวิวต่อ เรื่องไหนสนุกกูก็บอก เรื่องไหนน่ารำคาญกูก็พูดตรงๆ
>>93 อ่าม คือกูก็นึกว่าคนเขียนยุคใหม่ๆจะมีความmodernizeกว่านี้อ่าค่าา กูบ่นเรื่องความอวยจีนก็คือไปขวางหูขวางตาคนอื่นเนอะ555555555
หยอกๆนะพส ก็เข้าใจอยู่ว่านิยายคนจีนจะเอาไรมาก แต่ในฐานะคนซื้อ กูก็มีสิทธิ์บ่นอ่า เข้าใจก็จริงแต่ชอบไม่ชอบมันอีกเรื่องนะ แล้วนิยายเรื่องนึงมันก็มีดีกว่าโฟกัสแค่เรื่องชาตินิยมอ่า จุดที่ชอบไม่ชอบก็มีหลายอย่าง ถ้าตัดเรื่องชาตินิยมออก อย่างอื่นมันก็มีดีเยอะอะ จะให้กูเลิกซื้อเลยก็ยากนะคะ555555
เอาจริงกูว่าผู้ช่วยสถาปนิก overated อะ คนอ่านแล้วชอบจะอวยกันเว่อวังมาก แต่ก็เข้าใจแหละเพราะมันไม่แมสเท่านิยายจีนเรื่องอื่นๆ ก็เลยอยากโฆษณาเว่อๆให้มาอ่านกัน
>>100 กูว่านิยายจีนปกติก็ถูกอวยเว่อร์เกินในไทยหลายเรื่องนะไม่ใช่เรื่องนี้ เห็นเวลาคนขายเรื่องนี้ชอบเน้นชีวิตทำงานแนว Slice of life เป็นจุดขายกูเลยเดาว่าสาเหตุมันเป็นวายปจบที่เน้นชีวิตทำงานหนักกว่าเรื่องอื่น เล่นเรื่องงานในออฟฟิศเป็นพ้อย คนไม่ค่อยเจอ เลยถูกไฮป์หนักไป ตอนเเรกกูก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับเรื่องนี้นะ มันใหม่ในสายวายหน่อยๆ แต่หลังจากนั้นกูเจอเรื่องแนวนี้ที่กูชอบ/ถูกใจมากกว่าพอกลับมาอ่านเล่ม 3,4 ความรู้สึกดรอปไปเยอะเลย
>>104 ยุคนี้มันวิจารณ์สายผลิตไม่ได้อ่ะมึง ว่านิดหน่อยก็หาว่าตัดกำลังใจเสี่ยงโดนคนด่าอีก รีวิวแนววิเคราะห์ติเตียนลงลึกเลยไม่ค่อยมี มีแต่รีวิวเน้นอวยข้ามจุดด้อยจุดเสียไป ทั้งที่สายผลิตควรรับฟีดแบคและดูว่าควรแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเพื่อพัฒนา แต่ยุคนี้ผู้เสพงานกลายเป็นเลี้ยงสายผลิตเหมือนไข่ในหินเกินไป กูเลยไม่ค่อยเชื่อรีวิวบนบกเท่าไร
>>105 ค่อยๆรัก เจ๋งพัท วายไทย กูเคยขายในมู้ชั้นหนังสือมู้68 ลองไปเสิชคีย์เวิร์ด เจ๋งพัท อ่านได้ ถ้ามึงอยากอ่านแนวเน้นทำงานออฟฟิศ Slice of life,Slow burn สต.กูชอบอันนี้มากกว่า ชีวิตทำงานละเอียดยิบเหมือนกัน ที่สำคัญกูชอบทัศนคตินักเขียนที่กูสัมผัสได้จากงานเขียนของเขาด้วย ถูกจริตกูมาก อันนี้คหสต.ย้ำอีกที คนอ่านวายจีนไม่มองวายไทยกูก็เข้าใจได้ แต่เรื่องนี้เป็นวายไทยที่กูยอมรับเรื่องหนึ่ง ขออนุญาตตั้งแผงขายของ กันยากำลังจะออก 3 เล่มจบ ไปลองอ่านกันได้
>>112 กูแต่งขึ้นมาใหม่เองนะ เช่นขึ้นย่อหน้าใหม่ว่า “เดินลงบันไดแล้วเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบนมออกมา”
หรือไม่ก็มีบทพูดมาก่อน เช่น
“บ้าน่า!” สบถอย่างหัวเสีย “เป็นไปไม่ได้!” เดินปึงปังออกไป
อะไรแบบนี้อะมึง เดี๋ยวนี้วายไทยเป็นกันเยอะมาก แต่วายแปลแทบไม่มีประโยคแบบนี้เลย
>>114 กูเจอประโยคแบบนี้บ่อยๆตามคอมมู/บอทอ พวกเล่นเป็นตัวละครแล้วมาโรลคุยกันตามโซเชียล มันจะคุยกันในลักษณะละประธานเพราะรู้กันอยู่แล้วว่าคนที่พูดเป็นคนทำกริยานั้นๆกูเลยสันนิษฐานว่าอาจจะเริ่มมาจากพวกนี้แหละ แล้วคนที่เล่นอะไรพวกนี้บ่อยๆก็จะไม่รู้สึกขัดเวลาเจอประโยคละประธานในนิยาย
กูอ่านวายไทย เจอประโยคพวกนี้ไม่บ่อยนะ แต่ตัวละครพูดภาษาทวิตนี่เจอบ่อยชิบ
กูไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกเพราะมันเป็นการบรรยายแบบบุรุษที่หนึ่งมั้ง มองในมุมมองพัทไม่ใช่บรรยายมุมมองพระเจ้าที่จะต้องมีประธานหมด กูเลยรู้สึกว่าแบบนี้โอเคแล้ว เพราะก็รู้ว่าเป็นพัทพูดอยู่ เป็นพัททำ พัทคิด เป็นสไตล์เขียนของเขามันไม่ได้แปลกในใจกูเลย หรือเพราะตอนเด็กๆก็อ่านจสลูกกวาดที่เป็นการบรรยายบุรุษที่ 1 บ่อยวะ กูชินกับการคิดในใจโวยวายในใจไรงี้ 555555555 ถ้ามึงไม่ทักกูก็ไม่รู้สึกเลยว่ามันล่ะประธานเเบบนั้นอยู่
เอออีกอย่าง ละไม่งั้นทำไมนิยายแปลญป.ถึงไม่แปลแบบละประธานแบบมึงว่าบ้าง กูอ่านมาก็เห็นเขาใส่ประธานกันทั้งนั้น มันน่าตั้งคำถามมั้ยว่าหรือจริงๆมันจะไม่ถูก คนแค่ชินกับการที่นักเขียนไทยทำสิ่งที่ผิด?
กูเจอบ่อยสมัยอ่านฟิค แบบบทพูดมาก่อนนี่เจอเป็นปกติเลย
บันเทิงคดีค่อนข้างอิสระทางภาษา ดังนั้นไม่ต้องเขียนถูกหลักไวยากรณ์ประธาน+กริยาก็ได้ แปลตปท.คนละไวยากรณ์กับไทย คนยังอ่านแล้วโอเคได้เลย ดังนั้นตราบเท่าที่สื่อความรู้เรื่อง ทำให้อารมณ์ของเรื่องไปเร็วทันใจตามที่คนเขียนต้องการก็ปล่อยให้ละประธานไปเถอะ
>>119 คือกูมองว่าการบรรยายบุรุษที่หนึ่ง ทุกคนทราบกันดีว่าเรากำลังอยู่ในมุมมองของพัท ดังนั้นทุกประโยคที่พูดหรือสิ่งที่กำลังกระทำอยู่มี พัท=ประธาน อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ไว้ในทุกประโยค สามารถสื่อความหมายให้เข้าใจได้ ไม่ผิด และคิดว่ามันสามารถปรับเปลี่ยนภาษาให้เป็นไปตามยุคสมัยได้โดนไม่ระบุชัดว่าเป็นเรื่องที่ผิดนะ
กูว่าพวกมึงแค่หาข้ออ้างให้นิยายไทยที่มึงชอบกับนขไทยที่เขียนแบบนี้อ่ะ5555 หรือพวกมึงไม่เคยรู้ว่ามันมีคนที่เขียนนิยายแบบเปิดมาทั้งย่อหน้าหาประธานไม่เจอเลย ส่วนเรื่องเอาคำพูดขึ้นก่อนนี่ปกติมากแล้วไม่จำเป็นต้องละประธานเวลาเขียนเลย คนที่เขียนแบบเอาคำพูดขึ้นก่อนแล้วหลังจากนั้นก็มีคำนามสรรพนามบอกว่าใครพูดมีเยอะแยะ มันไม่ได้ทำให้ประโยคยืดเยื้ออะไรด้วย(“เอาจริงดิ” ผมพูดพลางเกาคอ กูยกตัวอย่าง) กูเคยอ่านนิยายสมัยJLSบูมเหมือนกันนะแต่ก็เพิ่งมาเจอคนละประธานกันเยอะขนาดนี้กับวงการวายนี่แหละ
>>119 แต่คิดในชีวิตประจำวัน คนไทยก็ละประธานเป็นเรื่องปกตินะ
"จะไปไหนอ่ะ"
"กินข้าว"
"วันนี้ทำงานเป็นไงบ้าง"
"บัดซบมาก"
ในทางปฏิบัติยังพูดละประธานเลย ไม่ต้องมีประธานทุกครั้งคนก็เข้าใจ ถ้าเข้าใจได้ก็ถือว่าการสื่อสารประสบความสำเร็จแล้วแหละ นึกภาพเวลาเจอคนพูดแบบละประธานแล้วไปบอกว่าไม่ได้นะๆ ต้องมีประธานสิ มีกริยาอย่างเดียวไม่ได้ คนฟังคงอีหยังวะ
>>125 เรื่องกูชอบเจ๋งพัทเป็นเรื่องจริง กูว่าไม่ได้พยายามหาข้ออ้างให้ยอมรับวิธีบรรยายแบบนี้ ก่อนที่กูจะอ่านเรื่องนี้จนกูชอบได้ กูก็ต้องยอมรับวิธีการบรรยายแบบนี้ได้ก่อน เพราะถ้ากูยอมรับที่เขาเเต่งเเบบนี้ไม่ได้แต่เเรกมองว่ามันแปลก กูก็คงปิดตั้งแต่ตอนเเรก (ซึ่งก็มีกลายเรื่องที่คนรีวิวว่าดีบลาๆ แต่กูไม่รอดเพราะสำนวน+การบรรยายเขาแล้วก็ปิดตั้งแต่ตอนแรกหรือตอนตัวอย่างแรก ทั้งวายไทยและวายแปล) และกูก็ไม่รู้ด้วยว่ามีคนละเยอะอย่างที่มึงว่า ไม่รู้มึงเคยลองอ่านเจ๋งพัทไหม แต่กูว่านขไม่ได้ละทั้งหมดถ้ายังไม่ก็ลองอ่านดูก่อนได้จะได้ตัดสินได้ว่ามันละประธานเยอะอย่างที่ว่าไหม หรือถ้ามึงอ่านแล้วยังรู้สึกว่าเป็นอย่างนี้กูก็โอเคยอมรับความคิดเห็นของมึง
กูว่าการละประธาน มันผิดหลักภาษาไทย
คือถ้าเขียนเรียงความ แล้วละประธาน ครูภาษาไทยคงให้สอบตก หรือเขียนรายงาน ทำวิทยานิพนธ์ อ.มหาลัยก็จะให้แก้ไข เพราะมันผิดหลักภาษา
แต่พอดีนิยายมันเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ เลยอนุโลมได้
วัยรุ่นคงจะชินกับการละประธาน แต่ถ้าให้รุ่นป้าอายุ 40-50 มาอ่าน คงจะรับไม่ได้แน่ๆ
แต่อย่างว่าแหละ ภาษามันดิ้นได้
นิยายแจ่มใสยุคนึงยังมีการพิมพ์อีโมติคอนลงไปในนิยายได้เลย เพราะเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ
Ky เวลาผญจิ้นเพื่อนชายที่สนิทกันมากๆ หรือทำอะไรน่ารักๆ ว่าเค้าชอบกันแหละตัวเอง กรี๊ด
ผชเค้าจะรังเกียจที่เราคิดแบบนี้กันป่าววะ
อันนี้กูขอถามเป็นความรู้หน่อย แล้วถ้าการบรรยายบุรุษที่หนึ่ง แล้วเป็นการบรรยายความคิดของตัวละครบุรุษที่หนึ่งนั้นๆ สามารถละประธานได้ไหมอ่ะ
>>133 เขียนนิยายไม่ใช่เรียงความ ดังนั้นไม่ต้องเคร่งหลักภาษามากก็ได้ ภาษามันดิ้นได้ ครูภาษาไทยไม่มาแหกอกมึงหรอก
ตัวอย่างภาษาดิ้นได้ก็บทพูดนั่นแหละ ต่อให้อยู่ในเครื่องหมาย " " ก็เป็นการเขียนอยู่ดี ที่คนยอมรับเพราะความเคยชิน ตอนนี้การเขียนบรรยายแล้วละประธานคนส่วนหนึ่งก็ชินกันแล้วตามที่เห็นที่มีคนเขียนคนอ่านในเว็บ คนอีกส่วนไม่ชินก็ไม่ผิดถ้าไม่ไปก้าวก่ายชี้หน้าเขา ทางใครทางมัน
อยากอ่านแบบไหนก็อ่าน อยากเขียนแบบไหนก็เขียน จะถูกผิดหลักอะไรทุกคนรู้ ใครยอมรับได้ก็ตามนั้น ส่วนตัวกุตามไม่ทันเรื่องการละประธาน อ่านไม่ค่อยได้ งานเขียนคืองานเขียน การพูดคือการพูดคนละความหมายส่วนกัน ต่อให้ใครบรรยายมันก็คืองานเขียน ตรงนี้ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ แต่อย่างว่าการใช้ภาษาพูดในงานเขียนก็มีเยอะแยะ ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปคงต้องปรับตัวให้ได้ แม้กระทั่งกูเอง
ส่วนเรื่องเจ๋งพัท ส่วนตัวกุชอบงานเขียนเค้านะ แต่อ่านงานเค้าเรื่องนี้ไม่ได้ หนึ่งเพราะแต่ละตอนมันยาวไป กูอ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย สอง ที่พูดว่างานแน่น ก็คงปฏิเสธไม่ได้มั้งว่าแน่น แต่ถามสมเหตุสมผลมั้ย ก็มีจุดให้กูกังขาและมีความคิดตลคที่กูงง ๆ พอสมควรในเรื่องงาน ทำให้กูหยุดอ่าน แต่มันก็อาจเกิดขึ้นได้จริงๆ มั้ง แค่กูกับคนที่อ่านงานเค้าเอ๊ะจุดเดียวกัน เรื่องมันดีตามที่ทุกคนอวยแหละ แต่มันก็พ่วงมาด้วยความคาดหวังทำให้กูอ่านเลยอ่านแบบจริงจังมากไปหน่อย
>>131 อันนี้แล้วแต่คน กูเจอมาทั้งทำหน้าขยะแขยง ทำหน้าไม่เข้าใจ ทำหน้าแบบมองหน้ากูแล้วแบบกูเป็นประสาท เป็นผีบ้า หรือมีทำหน้าแบบน่ารักดี คือมันแล้วแต่ทัศนคติคนมากๆ แต่ส่วนใหญ่ที่เจอคือยังรับไม่ค่อยได้
เหมือนพวกมึงยังแยกแยะไม่ได้เลยว่ะว่า “บทสนทนา” กับ “บทบรรยาย” มันคนละอย่างกัน
>>142 ต่อนะ ไม่ว่ามึงจะรู้สึกว่าตลค.มันบรรยายเป็นบุคคลที่1แล้วมันเหมือนตลค.กำลังเล่าความคิดตัวเองขนาดไหน มันก็ยังคงเป็นบทบรรยายอยู่วันยังค่ำ มึงจะเอาหลักการแบบเดียวกับที่มึงใช้กับบทสนทนามาใช้กับบทบรรยายมันคนละเรื่องกันมั้ยอ่ะ ละที่พวกมึงเถียงๆมาว่ามันใช้ได้คือมันย้อนแย้งลักหลั่นกันไปหมดเลยอ่ะ มึงจะมาบอกว่านิยายแปลใช้ไม่ได้มันก็ปกติแต่นิยายไทยใช้ได้มันก็ปกติ ทั้งๆที่แม่งใช้ภาษาไทยภาษาเดียวกันในการบรรยายทั้งงานเขียนงานแปล อะไรคือมาตรฐานของพวกมึงวะ
>>144 ใจเย็นพวก กูอยู่ฝั่งมึงนะ กูมองว่ามันผิดหลักภาษา แต่ถ้าอ่านเพื่อความบันเทิง มันก็มีคนอ่านได้
กูมองว่ามันเป็นนิยายที่วัยรุ่นแต่งไงมึง วัยรุ่นอาจจะชินกับการเขียนที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย 100%
วัยอย่างกู กูก็ไม่ชิน แต่กูเข้าใจคนที่ชินนะ แบบว่า เวลามันเปลี่ยน ภาษามันเลยเปลี่ยน แต่มันก็ไม่ได้ถูกต้องตามหลักทฤษฎีนะ แต่วัยรุ่นคงจะชอบกัน
>>142 เหมือนมึงยังแยกไม่ได้ว่า บทสนทนาในงานเขียน กับ บทสนาในการพูดมันคนละเรื่องกัน
>>143 มันยาวไปมึง อันนี้ บก แนะนำเลยว่ามันไม่ควรยาว ถ้ายาวควรจะมีการพัก เพราะตอนอ่านจะรู้สึกว่าเหนื่อยและทรมาน มันไม่จบสักที ไถเท่าไรก็ไม่หมดอะ ส่วนบรรยากาศทำงานก็จริงจังแต่มันจริงจังแบบแปลก ๆ สำหรับกุเองนะ เช่นฉาก ที่เจ๋งถามพัทเรื่องงานลูกค้า แต่พัทไม่ตอบ และไม่ได้ถามครั้งเดียวจนเกิดความผิดพลาด คือในชีวิตจริง ทำงานจริงมึงไม่ตอบเจ้านายไม่ได้ ใช้สิทธิพิเศษอะไร คนจีบกันเหรอ ไรงี้เหรอ มันไม่ใช่นะ เสียงานเสียการหมด อายุก็ไม่ได้น้อยแล้วอะ ย้ำอันนี้แค่ครส กู หน้างานจริงๆ อาจมีมั้ง แต่ส่วนตัวกุไม่เคยทำ
>>146 อันนี้ฉากไหนวะที่นางถามเรื่องงานแล้วพัทไม่ตอบ คือกูอยากย้อนกลับไปอ่านเอง เพราะระหว่างที่อ่านกูไม่รู้สึกว่าคุณเจ๋งให้เบเนฟิตอะไรกับการเป็นเจ้านายที่ชอบพัทเลย ออกจะระวังตัวมากด้วย กูชอบพ้อยนี้ พอมึงบอกว่าคุณเจ๋งใช้สิทธิคนจีบกันกูอยากย้อนกลับไปอ่านว่ากูพลาดตรงไหนไป
กูว่าเจ๋งพัทก็สนุกดี กูชอบภาษากับจังหวะการดำเนินเรื่องของเขานะ แต่ถ้ามีคนไม่ชอบก็ไม่แปลก รสนิยมมันต่างกันอะ
ปล. แต่สารภาพตามตรงว่ากูไม่ชอบวายออฟฟิศที่หัวหน้ากับลูกน้องหรือคนในที่ทำงานคบกันเลย5555555555 แม่งหลอนอะ ในชีวิตจริงคืออึดอัดชิบหาย โดนคนนินทาด้วย แต่วายทำงานส่วนใหญ่ที่เจอแม่งก็ให้พระนายอยู่บริษัทเดียวกันอีก กูอ่านละทริกเกอร์ตลอด555555555555
เพื่อนกูอ่านวายไทยมันพูดเหมือน >>117 เด๊ะ เวลามันมาป้ายยากู กูจะถามก่อนว่าละประธานมั้น มันบอกไม่นะ แต่พอกูลองตามไปอ่านจริงๆ เจอเพียบ 5555555 กูว่าคนที่ชินและไม่รู้สึกอะไรจะไม่ทันสังเกตน่ะ เลยไม่คิดว่ามีเยอะ แต่กูลองอ่านวายไทยกี่เรื่องๆเจอทุกเรื่อง กูเลยยอมรับว่ามันคงเป็นเทรนด์ใหม่แหละ เป็นการเปลี่ยนแปลง ใครรับได้ก็อ่านไป ใครรับไม่ได้ก็แค่เลิกอ่าน กูอ่านวายแปลดีกว่า ใช้ภาษาถูกหลักกว่าวายไทยเยอะ มันก็แค่นี้แหละ
>>149 จริง กูว่ามันเป็นเทรนด์ใหม่ คนที่ชินคือคนอายุน้อย คนที่ไม่ชินคือพวกมีอายุนิดหน่อย อ่านนิยายสมัยก่อนเยอะ เลยมีตัวเปรียบเทียบกับสมัยปัจจุบัน
กูเป็นครู (ที่ไม่ใช่ครูภาษาไทย) นิยายที่กูชอบอ่าน กับนิยายที่เด็กนักเรียนชอบอ่าน เป็นคนละแนวกันอะ ภาษาที่ใช้ในการเขียนก็คนละแบบ
กูอ่านนิยายหลายภาษา ไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ กูว่าภาษาไทยเนี่ยดิ้นได้มากสุดละ ดิ้นยันไวยากรณ์ วันดีคืนดีประโยคละประธานกลายเป็นเรื่องปกติไปเฉยเลย 55555555 กูเคยเจอคนบอกว่าไม่รู้สึกแปลกกับการละประธานเพราะชินมาจากภาษาอังกฤษ กูนี่ยกตีนก่ายหน้าผาก ภาษาอังกฤษไม่ละประธานกันโว้ยยยย ไม่มีหรอกนะไอ้ประโยคแบบขึ้นด้วยกริยามาลอยๆแบบที่บนๆยกตัวอย่างกันอะ ถ้าบอกชินจากภาษาญี่ปุ่นยังว่าไปอย่าง แต่นิยายญี่ปุ่นแปลไทยก็ไม่ได้ละประธานกันนะ ถ้าต้นฉบับละมา แปลไทยจะเติมประธานลงไปให้กันหมดแหละ เพราะประโยคละประธานมันผิดไวยากรณ์ไทยไง แต่นิยายไทยดันฮิตเขียนแบบละประธานกันซะงั้น ก็แปลกดีว่ะ 5555555 กูไม่ได้ว่าอะไรคนเขียนละประธานนะ กูอเมซิ่งเฉยๆ กลายเป็นว่าสมัยนี้นิยายแปลดันใช้ภาษาถูกไวยากรณ์มากกว่านิยายคนไทยเขียนซะอีก แต่วายจีนบางเรื่องกูก็เห็นเริ่มแปลแบบละประธานกันแล้ว คาดว่าคนแปลน่าจะอายุยังน้อย
>>151 555555 ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวกูรอซื้อรวมเล่มแล้วมาอ่านเก็บให้ละเอียดอีกรอบดู คือกูไม่ชอบเจ้านายลูกน้องรักกันแล้วแอบคบกันอยู่แล้ว เหมือนเอาอำนาจที่มีอยู่มาบีบเอามาใช้ประโยชน์ทำตัวไม่สมกับตำแหน่งเจ้านาย แล้วหลายๆเรื่องที่เป็นรักในออฟฟิศชอบข้ามพ้อยนี้ไม่ตระหนักหรือไม่ทำลืมไป กูเลยไม่รอด แต่เรื่องนี้กูลองเปิดใจอ่านเพราะเป็น slow burn และนขเเจ้งไว้ตั้งแต่ตอนเเรกเลยว่ารักในออฟฟิศเป็นพื้นที่สีเทา กูเลยลองเพราะอยากรู้ว่าเขาจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้ยังไง มีเล่นเรื่องนี้เยอะไหม ซึ่งพอลองอ่านกูก็ชอบมาก ทั้งเรื่องที่หลังจากคุณเจ๋งรู้ตัวว่าชอบแล้ววางแผนที่จะลาออกหรือที่พอพัทรู้ว่าคุณเจ๋งชอบก็คิดทันที่ว่ามันไม่เหมาะสมเพราะเขาเป็นเจ้านาย และผิดหวังจากคำชมที่เคยได้รับจากคุณเจ๋งเพราะคิดว่าคำชมนั้นอาจจะมาเพราะคุณเจ๋งชอบตัวเองไม่ไช่พัททำงานดีจริงๆก็ได้ และการเริ่มคุยเริ่มจีบกันหลังจากคุณเจ๋งลาออกแล้ว การที่พัทลาออกจากที่ทำงานเจียนกรุ๊ปเพราะไม่อยากให้บ้านคุณเจ๋งมองตัวเองไม่ดี นขใส่จุดนี้มาทำให้กูรู้สึกดีกับนิยายรักในออฟฟิศขึ้นมาหน่อยที่ยังมีคนเล่นพ้อยนี้ และตระหนักถึงอยู่ แต่คนที่ไม่ชอบกูเข้าใจพวกมึงหมดเลยนะ ทุกอยากมันก็มีข้อติได้อยู่แล้ว
>>141 ขอบคุณมึงที่ไปลองอ่านมามาก ร๊ากกกกก
กูว่าเป็นกลวิธีการเขียนอย่างนึง เคยอ่านนิยายฝรั่ง POV1 แล้วพระเอกแทนทุก I ด้วย me ยังมีเลย ดิ้นทางไวยากรณ์กูอ่านหลายภาษา นักเขียนคนไหนเปรี้ยวๆไม่สนหลักไวยากรณ์เอาสนุกก็มีหมดนั่นแล
ส่วนแปลถูกหลักกว่าแต่ง ก็ถูกแล้ว ถ้าต้นทางไม่ได้กะมีลูกเล่นทางภาษาอะไรก็แปลตามหลักไป ทะลึ่งทำไรแปลกๆโดนจวกดิ นักแปลไม่ได้มีอิสระขนาดนั้น
ไวยกรณ์ผิด,บิดไป กูรับได้
แต่เขียนผิดไม่เลิก กูไม่โอเค ค้นกูเกิ้ลหน่อยก็ดีว่าคำนั้นเขียนยังไง
>>152 มีสิประโยคที่ละประธานน่ะในภาษาอังกฤษน่ะ ทำไมถึงไม่มีล่ะ กูแย้งเรื่องหลักการเขียนนะ ภาษาอังกฤษสามารถละประธานได้ แต่ต้องมีการปูพื้นที่ refer ประธานไว้ คนอ่านเข้าใจเองได้ พบเห็นประโยคแบบนี้ได้เยอะแยะเลย Imperative sentence, relative pronoun อย่างประโยคง่ายๆ ที่ละประธานก่อนก็ getting fully vaccinated, I had a high fever. อันนี้ละแม้กระทั่ง (after) getting ..., ... ด้วย ขึ้นประโยคลอยๆ มาเลย แล้วค่อยหาประธานทีหลัง มันทำให้การอ่านซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด แต่เวลาอ่านงานเขียนที่มีรูปแบบภาษาหลากหลายมันก็ไม่จำเจอะ ไม่งั้นมาเรียง ประธาน กิริยา กรรม / กรรม passive อย่างเดียวมันก็ทื่อๆ
ปล.ในส่วนของหลักการเขียนจริงๆ เพื่อให้ภาษาสละสลวย มีการเล่นคำแปลกๆ เรียงประโยคแปลกๆ แบบ >>156 ว่า มันเหมือนกิมมิคของงานเขียนเขา อันนี้พบเห็นไม่บ่อยหรอก แต่ขึ้นชื่อว่าภาษามันดิ้นได้หมดอะ
แต่ถ้าจะวัดด้วยเรื่องไวยากรณ์ตรงหลักเป๊ะๆ ชี้นิ้วเล่มไหน ทั้งงานเขียนงานแปลคงเจอผิดร้อยละ 90 เลยมั้ง 5555 แต่ภาษาดิ้นได้จริงๆ นะ บางครั้งนอกจากเข้าใจแล้วความสละสลวยมันมีผล แบบตราตรึงใจ กับแค้นฝังหุ่น 5555555
>>156 ที่กูจะสื่อคือตอนนี้มันกลายเป็นว่านิยายแปลดันมีความใส่ใจให้ภาษามันออกมาตรงหลักภาษาไทยมากกว่า ทั้งๆที่ภาษาต้นฉบับมันอาจจะไม่ใช่ อย่างเช่นนิยายญี่ปุ่นที่ต้นฉบับแม่งละประธานกันเป็นปกติ แต่พอแปลไทยกลับไม่มีประโยคละประธานเลย ส่วนภาษาอื่นๆดิ้นได้ที่มึงบอก ถ้านิยายเน็ตกูเจอบ้างนะ แต่นิยายเล่มๆนี่ไม่เจอเลยมึง กูว่าโดนสนพ.แก้หมด แต่สนพ.ไทยไม่ค่อยแก้สำนวนนักเขียน พอตีพิมพ์ก็เลยยังมีประโยคพวกนี้หลุดมาอยู่ สุดท้ายพอเขียนแบบนี้กันเยอะๆมันเลยกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนรุ่นใหม่ๆยอมรับได้ไปเอง คนรุ่นเก่าๆก็ทำใจ
>>159 อ้าวพิมพ์ไปแล้วเพิ่งเห็น ประโยคอย่างที่มึงบอกมันไม่ใช่การละประธานแบบของไทยนะ มันยังมี I ตามมาด้านหลังไง ตอนแรกกูก็จะยกตัวอย่างประโยคแบบนี้เหมือนกันแต่ขี้เกียจ 555555 หรือถ้าประโยคที่มาเป็น v.ing (gerund) หรือ to+v1 (infinitive) มันก็คือประโยคที่กริยานั้นทำหน้าที่ Subject ในประโยคแล้ว มันจะไม่มีมาแบบ Walk to the sea and smile. Then go to the boat. อะไรแบบนี้ (หรือต่อให้มีมันก็จะมีประธานตามมาในประโยคหลัง ไม่เหมือนนิยายไทยที่ทั้งย่อหน้าอาจจะขึ้นต้นด้วยกริยาทุกประโยคโดยไม่มีประธานเลย) มันยังเป็นประโยคที่ "ถูกไวยากรณ์" อยู่ ไม่เหมือนประโยคละประธานในภาษาไทยแบบที่ฮิตเขียนๆกันตอนนี้ ถ้าไปอ่านนิยายไทยสมัยสิบยี่สิบปีก่อนมึงจะไม่เจอประโยคละประธานแบบนี้เลย
กูไม่รู้จะอธิบายเรื่องประธานในภาษาอังกฤษยังไงให้ >>159 เก็ทสิ่งที่กูจะสื่อ เอาเป็นว่ามึงลองอ่านอันนี้ดูนะ https://www.septembercfawkes.com/2019/05/how-to-use-ellipsis-properly-in-fiction.html ลืมไป ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน กูหมายถึงการละประธานใน "บทบรรยาย" ที่อธิบายการกระทำของตัวละครเด้อ เพราะงั้น imperative ไม่นับ
>>160 กูท้วงว่าการที่เขียนไม่ถูกหลักภาษาไม่ใช่เพราะเรื่องความใส่ใจหรือไม่ใส่ใจ แต่เป็นความอิสระในการผลิตน่ะ เพราะนักเขียนอิสระที่จะเขียนนิยายตัวเองให้มีลูกเล่นแปลกๆยังไงก็ได้ แต่นักแปลคือคนที่ต้องถ่ายทอดภาษาต้นทางไปเป็นอีกภาษา ไม่มีสิทธิ์ทำ
แบบนิยายอังกฤษเล่นคำแปลกแบบ me love you. แทน I love you. คนเขียนเขียนได้ตั้งใจเป็นลูกเล่นนิยายตัวเอง(ตอนตีพิมพ์ก็เป็นงี้แหละ บก.ไม่ได้แก้)
แต่คนแปลนิยายไทยเป็นอังกฤษ แปลฉากสารภาพรัก ฉันรักเธอ เป็น Me love you. ไม่ได้ เพราะคนเขียนต้นทางไม่ได้หวังให้แปลผิดหลัก
กูว่าหลักภาษาไม่ใช่อะไรที่มาวัดตัวนิยายว่าต้องเป็นงั้นงี้แต่ต้นอ่ะนะ จะเขียนผิดหลักภาษายังไงก็ไม่ได้ทำให้ตัวนิยายผิด จะเขียนอัศเจรีย์ต่อท้ายสักสามตัวแสดงความตกใจแบบโอเวอร์ก็ได้ จุดไข่ปลาสามจุดไม่แสดงความเงียบมากพอใส่ไปเลยหกตัวก็ได้ การเขียนผิดหลักภาษาไม่ได้หมายความว่ามึงไม่ใส่ใจกับนิยายหรือทำให้นิยายมึงแย่ตราบที่มีคนชอบ
>>166 ถ้านิยายผิดหลักภาษาเพราะจงใจใช้เป็นลูกเล่นกูรับได้นะ แบบเจเคเขียนภาษาเอลฟ์หรือภาษาของแฮกริดผิดหลักเพื่อเสริมมิติให้ตัวละคร กูว่าแบบนี้ลึกซึ้งดี แต่การละประธานที่พูดถึงกันกูว่ามันกำลังกลายเป็นรูปแบบภาษาแบบใหม่ไปแล้ว บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบบนี้มันผิดหลักภาษา ซึ่งกูก็ไม่ได้คิดว่ามันทำให้นิยายดูไม่ดีหรือผิดนะ กูแค่ไม่ชอบ เจอเรื่องไหนมีประโยคละประธานแบบแปลกๆปุ๊บกูปิดทันที ไม่อ่านต่อเลย สรุปกูอ่านวายไทยไม่รอดสักเรื่อง
อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ แต่มีประโยคอีกแบบที่กูเจอในนิยายไทยแล้วรู้สึกแปลกๆคือพวกประโยคนมเนย แบบที่เห็นปุ๊บในหัวแปลเป็นภาษาอังกฤษได้เลย อย่างวันก่อนกูเจอ "เป็นผมเองที่โทรไป" หรือไม่ก็อย่างเช่น "มันเป็นฤดูร้อนที่สวยงาม" อ่านแล้วรู้สึกแปลกมาก ภาษาเหมือนเวลากูดูสารคดีฝรั่งแปลไทยตามช่องเคเบิ้ล 5555555 แต่กูไม่ได้จะว่าคนเขียนนะ เขาอาจจะชอบแบบนี้ กูแค่อ่านเจอแล้วสะดุดเป็นการส่วนตัว
กูเอง 159 กูจับแค่คำว่าที่ว่าภาษาอังกฤษไม่มีหรอกนะที่ยกกิริยามาลอยๆ คือมันมีอยู่นะ ละที่กูบอกกูอาจจะพิมพ์เร็วไปหน่อย บางประโยค มันละประธานได้ กูไม่ได้หมายถึงของไทยไง ซอรี่นะตรงนี้ อาจจะพูดคนละประเด็นกับพวกมึง ละกูไม่ได้อ่านเรื่องที่โม่งถกเป็นประเด็นกันด้วย ไอ้เรื่องที่ว่าไม่มีทั้ง I we she they บลาๆ กูไม่รู้ว่ามัน 'หาย' ถ้าไม่มีเลยมันไม่น่าเรียกว่าละแล้ว
ประโยคที่กูยกมา งั้นเรียก sub clause ละกันเนอะจะได้เข้าใจตรงกัน ประโยคเต็มๆ ที่กูยก after I've got fully vaccinated I had a high fever ต้องบอกมันลดรูป ละประธาน เพราะมีประธานอยู่ใน main clause อยู่แล้ว >> getting fully vaccinated, I had a high fever งี้อะ จะอธิบายยังไงดีหว่า 555 คือกูรู้แค่ว่ามันต้องมีประธานอยู่ใน main clause ไม่ก็เป็นพวก gerund / to + v1 (การ/ความ) ไม่ก็มีการ refer to ... ไว้อะ คือกูไม่รู้จริงๆ ว่านิยายที่เขียนและถกกันอยู่ไม่มีประธานในการบรรยายเลย กูพูดคนละเรื่องเองแหละ กราบขออภัย
เออกูวิเคราะห์นิด ที่นิยายไทยมันมาแนวนี้กันเพราะเมื่อก่อนชอบใช้ร่างบางร่างหนาร่างโปร่ง แล้วมันดันมีคนเอาไปขำคิกคักปะ 555555 เคยเห็นนักเขียนบ่นๆกันว่าไม่ชอบใช้ชื่อตัวละครเป็นประธานในประโยคบ่อยๆด้วย กูว่าคนไทยชอบหลากคำอะ แต่พอหลากคำไปใบ้ร่างบางร่างหนาก็โดนล้อเลียนอีก สุดท้ายเลยตัดปัญหา ไม่ใส่ประธานแม่ม บวกกับติดมาจากภาษาตามโซเชียลที่ชอบบอกกริยาของตัวเองโดยไม่ใส่ประธานด้วย มันเลยกลายเป็นเทรนด์ใหม่ไปในที่สุด
ขัดไม่ขัดก็เรื่องนึง แต่หลักภาษาไทยมันมีกำหนดอยู่ชัดเจนว่าสำนวนแบบไหนคือสำนวนต่างประเทศ ไม่รุ้สมัยนี้ยังมีสอนกันอยู่มั้ย แต่สมัยนี้กุรุ้สึกเหมือนเจอคนไม่เก็ทคำว่าสำนวนต่างประเทศบ่อยขึ้น
สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของความคุ้นชินแหละ
คนที่ชินแล้ว ก็บอกว่าการละประธานเป็นเรื่องไม่แปลก
คนที่ไม่ชิน ก็บอกว่าการละประธานเป็นเรื่องแปลก
ส่วนกูไม่ชิน เพราะกูชอบแบบสมัยเก่ามากกว่า
กูคือคนที่อ่านละประธานได้นะ ไม่ติดขัดอะไร
แต่มาเจอร่างสูงในทุกย่อหน้าคือขำและรู้สึกว่ามันล้าสมัย นานทีใช้ไม่เท่าไร นี่มีทุกย่อหน้า
ใดๆ คือกูพูดถึงนิยายของพัฟพี่ที่พวกในห้องเขียนนิยายบอกว่าขายดีนะ สิ่งที่กูต้องการจะสื่อคือเขียนดีถูกไวยกรณ์ไม่เท่าเขียนให้ขายได้และมีคนชอบว่ะ
กูมองว่าภาษาพูดในชีวิตจริงกับภาษานิยายเป็นคนละอย่างกันแฮะ อย่างในชีวิตจริงกูติดคำว่า แบบ มากๆ ขึ้นต้นปยด้วยคำว่าแบบ กลางประโยคก็แบบ แบบๆๆๆทั้งเวลาพูดและเวลาแชท แต่ถ้าเจอนิยายใช้คำว่าแบบเยอะๆ กูคงรำคาญ คำที่ติดรองลงมาคือคำว่า คือ บางทีก็ใช้พร้อมกันว่าคือแบบ 5555555 และกูจะไม่สามารถยอมรับการใช้คำพวกนี้ในนิยายพร่ำเพรื่อได้เพียงเพราะว่าตัวกูเองก็ใช้ในชีวิตจริงอะ 5555555 แต่ของแบบนี้มันแล้วแต่คนจริงๆแหละ
>>172 ถ้ากูตีความตามมึงว่าก็คือนอ.ไทยต้องการงานที่รู้จักใช้คำหลากหลายมากขึ้น แต่นข.ไทยไม่ได้พัฒนาตัวเองให้ใช้คำหลากหลาย เจือกเลือกวิธีตัดคำนามสรรพนามไปเลย5555
ใครที่บอกว่ามันเป็นการเล่นคำ เป็นสไตล์ของแต่ละคน จากที่กูเคยอ่านพวกวายไทยที่มันตีพิมพ์กับสนพ.มา กูจะบอกว่ามันเขียนงี้กันไปครึ่งวงการ หยั่งงี้เขาไม่เรียกสไตล์ 555555
ใจกูก็อยากมองข้ามไอ้เรื่องพวกนี้ไปนะ แต่แม่งไม่ได้ว่ะ ประโยคประธานหายมีแทบทุกหน้า กูซื้องานมาแต่ทนอ่านไม่ได้นี่แม่งก็...
ถ้าลองไปอ่านนิยายไทยเก่าๆ (ไม่วาย) อย่างพวกนิยาย ณ บ้านวรรณกรรม เค้าก็มีวิธีเขียนหลากประธานโดยไม่ดูแปลกอยู่นะ หญิงสาว ชายหนุ่ม อะไรก็ว่าไป มันไม่จำเป็นต้องร่างหนาร่างบางตลอด จริงๆใช้ชื่อตัวละครไปเลยก็ไม่แปลก นิยายแปลเติมประธานลงไปเป็นชื่อตัวละครก็ไม่เห็นคนอ่านรู้สึกขัดหรือรำคาญอะไรนี่ ไม่รู้ทำไมนักเขียนไทยถึงไม่ชอบใช้ชื่อตัวละครเป็นประธานของประโยค ใครเป็นนักเขียนอธิบายที กูอยากเข้าใจ 5555555
ลิ่วเหยาขวัญใจโม่งอ่ะ ละประธานอย่างเยอะ 555555555
เออ พูดถึงเรื่องละประธาน มันจะมีไอ้พวกแบบ “เขาสาวเท้าตรงไป ตัดสินใจเอ่ยทักคนข้างหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ” (กูยกตัวอย่างปย.) แบบนี้เรียกละประธานมั้ยวะ มันเว้นวรรคตรงกลางคือถือว่าขึ้นประโยคใหม่ป้ะ? กูเริ่มสับสน 555555
จากผู้ช่วยสถาปนิกสู่เจ๋งพัทและดิสคัสชั่นเรื่องการละประธาน กูรักโม่งว่ะ หนุกจัง 5555555555
วันหยุดมันเหงา เลยต้องหาเพื่อนคุย
มันละประธานได้ ถ้าประโยคข้างเคียงมีประธานอยู่แล้ว (สมมติ ห่างไปไม่เกิน 4-5 ประโยคอะ)
พวกประโยคความรวม หรือความซ้อนไรงี้ไง
แต่กูเข้าใจว่าขนบนิยายวายไทยที่ตอนนี้มีปัญหาคือ ประธานมันอยู่ห่างไกลมาก หรือบางทีทั้งย่อหน้านั้นไม่มีเลย
อันนี้เป็นกูก็ขมวดคิ้วนะ
กูลองไปสุ่มอ่านเรื่องท็อปรอรตอนนี้ไม่ค่อยเจอประโยคละประธาน แต่ลองเปิดเจ๋งพัทดูแล้วก็เออ เยอะจริง เยอะมาก มีทุกตอน ตอนละหลายประโยค กูอ่านแล้วมัวแต่สนใจรูปประโยคจนเนื้อหาไม่เข้าสมอง 55555555555 แต่กูเข้าใจโม่งที่บอกว่าอ่านได้ไม่ขัดเพราะมองว่าเป็นมุมมองของพัทนะ กูอ่านแล้วก็เก็ทว่าใครเป็นคนทำกริยา แต่กูเจอประโยคแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนมันเป็นวิธีการเล่าแบบไดอารี่อะ กูนึกถึงเรื่องบริดเจทโจนส์ไดอารี่ เรื่องนั้นเขียนละประธานเยอะมากเพราะรูปแบบการเล่าคือไดอารี่ กูอ่านแล้วไม่ขัดเลย แต่อย่างเจ๋งพัทนี่มันคือการใช้ pov แบบ limited omniscient third person ผสมกับ first person บางทีการละประธานมันเลยทำให้ประโยคดูแหว่งๆไปหน่อย
>>200 กูก็เอาประโยคมาจากเจ๋งพัทแหละ
ตอนแรกไม่เคยอ่าน พอโม่งบ่นเลยเข้าไปดู
แล้วก็เลยเข้าใจว่าทำไมบางคนไม่ชิน เพราะกูก็ไม่ชิน 55555 เหมือนกูทำข้อสอบ error ภาษาอังกฤษ แล้ว อ. จะสอนให้หาประธาน กับกริยาก่อน
กูเปิดเจ๋งพัท กูก็หาประธาน แล้วก็เอ๊ะ ประธานหายไปไหนวะ 5555 คืออ่านแล้วเข้าใจนะ แต่มันแปลกจริงๆ บางย่อหน้ามีประธาน บางย่อหน้าไม่มี แล้วก็งงว่าทำไมไม่ใส่ประธานให้ครบทั้งย่อหน้า
แต่ก็นะ อาจจะเป็นสไตล์ของนักเขียน
ถ้ามีคนบอกว่านักเขียนหลายคนก็แต่งแบบนี้ งั้นคงเป็นที่กูเองที่เป็นนักอ่านสมัยเก่า ตามนักเขียนสมัยใหม่ไม่ทัน 555
ตัดปัญหาด้วยการอ่านนิยายภาษาต่างประเทศ แบบไม่แปลไทย จบ 555555
กูงงพวกคนที่ชี้กูแล้วบอกว่า มึงไม่กินข้าวเหรอ
ทั้งๆที่กูก็ว่ากูพิมพ์ว่า กูกินข้าว นะ
โม่งเจ๋งพัทมึงประสบความสำเร็จแล้ว กูว่ามีโม่งตามไปดูประโยคกันเพียบ 5555555555
>>207 มึงงงง กูเองที่มาขายตอนเเรก ไม่ค่อยสันทัดเรื่องโคตรสร้างภาษาเลยหลบมุมอ่านพวกมึงถถกัน 55555555555555555555 ก้มกราบขอบพระคุณรอบวงที่ให้โอกาสได้ทดลองอ่านน้อง แค่นี้กูพอใจแล้ว ได้อ่านความคิดเห็นมุมมุมติเตียนบ้างเพราะอยู่ในนกฟ้ามีแต่คนอวยจนบ้างทีกูก็เอียน เผลออวยเกินจริงตามไปแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน ถือว่าประสบความสำเร็จในการขาย ม้วนเสื่อเก็บแผงกลับบ้าน
กูแถมเกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาอีกเรื่อง ตอนแรกนึกว่าสนพนี้เลือกเรื่องเก่งขึ้น สำนวนแปลก็ดีขึ้น พออ่านๆไปแม่งแปลลูกผีลูกคนชิบหาย พิมพ์ผิดจนอ่านแล้วงงเต็มไปหมด
Ky กูถามหน่อย เห็นคุยกันเรื่องสำนวนภาษาในนิยาย กูเจอคำว่า พยักพเยิดหน้า ในนิยายหลายเรื่องมากๆ ตามความเข้าใจกูคือ พยักพเยิดใช้กับหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องใส่คำว่าหน้าลงไปด้วย พอเจอใส่คำว่าหน้าลงไปเลยรู้สึกแปลกๆ หรือจริงๆมันต้องใส่อวัยวะด้วย อย่างพยักพเยิดมือ พยักพเยิดไหล่ แบบนี้เหรอวะ
โทษ พิมพ์ตก บอกทิศทางหรือบอกว่าเห็นด้วย
ปกติกูเห็นไหล่เขาใช้แค่ยักไหล่แบบโนสนโนแคร์กันนะ ภาษากายพื้นฐานน่ะ
นิยายไทยมันมีฐานมาจากในเน็ต บก.ไปเกลาสำนวนมาก ฐานเดิมเขาจะด่าเอา ว่าเปลี่ยนสำนวนสุดปังอลังการของนักเขียนที่เขาร้ากกก แต่พอเป็นนิยายจีนมันเกลาภาษาได้เต็มที่ ภาษานิยายแปลเลยมีแนวโน้มสวยกว่านิยายไทย ยังจำเคสเลียแผลได้อยู่เลย มันใช้ผิดตรงไหนวะ
>>220 กูอ่านชญก็เห็นบกเเก้สำนวนนักเขียนไทยนะ เรื่องที่ดังในเน็ตแล้วตีพิมพ์นี่แหละ กูอ่านวนก่อนตีพิมพ์หลายรอบแล้วมีท่อนหนึ่งที่กูติดอยู่ว่ามันแปลก พอได้เล่มมากูเลยเช็คท่อนนี้ก่อนเลย สรุปในเล่มแก้ให้มันสมูทขึ้น แต่หลังๆเวลากูอ่านนิยายในเว็บติดนิสัยอ่านผ่านๆเพราะอยากรอซื้อเล่ม เลยไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นไง
ทำไมนิยายท้อปชาร์ตในเน็ตมันภาษาแปลกเยอะจังวะ เหมือนแต่งเอามันส์
พวกนิยายดีๆ ไม่เคยเห็นติดท้อปบ้าง
กูว่านิยามความสวยของแต่ละคนแม่งไม่เหมือนกัน
บางเรื่อง บางคนบอกภาษาสวย บางคนบอกไม่เห็นสวย ลางเนื้อชอบลางยา
แต่บางเรื่องแม่งภาษาแย่จนอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ใจความ คนก็ยังอวยว่าภาษาสวยนะ 55555555
>>231 ขึ้นกับประสบการณ์การอ่าน อ่านแบบไหนมาชินเจอที่แตกต่างแล้วรู้สึกว่าดีกว่าที่เคยอ่าน
ยังจำได้สมัยเด็กไม่เคยเล่นเกม ไม่เคยอ่านแฮรี่พอตเตอร์ก่อนที่จะได้แปลไทย ก็คิดว่าไวท์โรด หรือบารามอส พล็อตแฟนตาซีเยี่ยมยอด นักเขียนเก่งมาก ยังเด็กด้วย คิดได้ยังไงเนี่ย สุดยอดจริงๆ
กูว่าภาษามันมีเกณฑ์ของมันอยู่นะว่าภาษาที่ดีเป็นยังไง อย่างน้อยคือต้องอ่านรู้เรื่อง เห็นภาพอะ ถ้าคำหรูแต่อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ใจความ ก็อาจจะเรียกคำสวยได้ แต่เรียกภาษาสวยไม่ได้หรอกนะ
>>230 มึงอย่าเอา “นิยามความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน” มาใช้กับการอ่านดิเพื่อน 555555 การเขียนมันคือทักษะที่ต้องพัฒนามาตามกาลเวลา ไม่เหมือนหน้าตาที่เป็นสิ่งตามธรรมชาติ สิ่งที่เป็นทักษะมันเลยจะมีมาตรฐานของมันอยู่ การเขียนให้สวยอย่างน้อยๆเลยคือต้องอ่านลื่น ใช้คำเป็น ถ้าเปิดมายังเขียนให้ลื่นไหลไม่ได้จะกล้าบอกว่าภาษาสวยเหรอ
ภาษาสวยของกูคือมีความบทกวีนิดๆ ได้จังหวะจะโคน แต่ก็อ่านแล้วเห็นภาพ ไม่เวิ่นเว้อเกินไป ซึ่งกูไม่ค่อยเจอในนิยายวายอะ เจอในแนวอื่นมากกว่า
อ่ะขอยกเรื่องโปรดกูตอนนี้ ==> นานาวลี ผ่านตาโม่งมาบ้างยังวะ คนนี้กูว่าภาษาสวยนะแต่ไม่กล้าหยิบมาขายกลัวโดนสับแบบเจ๋งพัท
ลืมบอกเจ๋งพัทกูไปลองอ่าน สำนวนเขียนมองรวมๆดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานมาตรฐานสำหรับกูนะ ภาษาไม่สก็อย ไม่วกวนไม่ใช้ศัพท์ซ้ำๆ แต่กูไม่ได้อ่านจนจบเพราะกูแหยงแนวเจ้านายลูกน้อง มองยังไงก็โรแมนติกไม่ไหว รอตามเรื่องอื่นของนักเขียนคนนี้แทน
>>242 เขากำลังจะเปิดเรื่องใหม่ กูเฟบรอแล้ว แต่น่าจะรอเป็นปีเลยมั้งกว่าจะจบ เจ๋งพัทก็แต่งมาปีกว่าเลย
กูอยากให้ลองเอามาแนะนำดูนะ ถึงจะโดนวิจารณ์โดนคอมเม้นต์แต่กูว่ามันทำให้เกิดการคิดกับบางจุดที่เราพลาดไปตอนไปเวลาขายหรือแนะนำคนอื่นได้ไม่อวยเกินจนงานมันถูกคาดหวังสูงแล้วทำให้คนที่เราไปแนะนำต้องผิดหวังตอนอ่านอ่ะ อันนี้ในมุมกูที่เป็นนักขายนะ แต่ถ้าคนที่เป็นนักเขียนกูอยากให้เขาได้ลองอ่านแบบจุดที่โม่งวิจารณ์เหมือนกัน เพราะมันยังเป็นการวิจารณ์ที่สร้างสรรค์อยู่ จะได้ลองเอาไปคิดว่าอยากปรับไม่ปรับไหม ปรับแล้วมันจะดีขึ้นไหมให้พัฒนามือให้ดีขี้นไปอีก
กูสงสัยว่าในฐานะคนอ่านคนนึง พวกมึงทำใจรับความเห็นด้านลบของนิยายที่ชอบไม่ค่อยได้กันเหรอวะ? เวลากูชอบอะไรสักอย่าง กูจะชอบอ่านความเห็นด้านลบมากเลยรู้ปะ 555555555 ไม่ใช่แค่นิยายนะ หนัง อนิเมะ ทุกอย่างเลย กูชอบอ่านเวลามีคนพูดถึงไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบน่ะ หรือว่ามึงกลัวคนเขียนมาเห็นแล้วจะเสียกำลังใจ?
>>244 กูอาจจะไม่เชิงว่าชอบคห.ด้านลบเหมือนมึง กูแค่ชอบเวลาเห็นคนมาเล่าครส.กับคห.ในมุมที่มันแตกต่างออกไปน่ะ ทำให้กูฉุกคิดดีว่าไอ้เรื่องที่เราอวยๆหรือเรื่องที่กูชอบมากๆมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย จุดไหนที่มันเอ๊ะๆกูก็ยอมรับว่าเอ๊ะ กูเจออะไรแบบนี้มานานแล้วกับการอ่านนิยายฝรั่ง ปกติฝรั่งเขาก็รีวิวกันดีด้วยไม่ฉอดไม่ด่าหยาบๆคายๆ คนไทยนี่ไม่รู้เป็นไร80%ต้องฉอดต้องด่าเอามัน
ถ้าฉอดหยาบๆกูก็ไม่ชอบนะ แต่ถ้าวิจารณ์ข้อเสียแบบใน goodreads อะกูชอบอ่าน ซึ่งคนไทยดูไม่ค่อยเขียนแบบนั้นกันปะ
บางทีแนะนำอะไรขึ้นมาแล้วมีคนติหรือคอมเมนท์ คนแนะนำก็อาจจะเขินรู้สึกเหมือนเรานี่ชิทเทสต์จัง ยกอะไรมาอวยเนี่ย ทั้งที่คนคอมเมนท์ก็พูดถึงนิยายไม่ได้หมายถึงคนแนะนำ แต่มันก็จะเขินๆมั้ง
>>247 ในมุมมองของกู shit taste ไม่มีจริงว่ะ อย่างมากที่สุดก็คือยังไม่รู้ว่าแบบไหนคือการเขียนที่ผ่านมาตรฐาน แล้วแบบไหนคือการเขียนที่สูงกว่ามาตรฐาน มึงดูอย่างที่ข้างบนๆเขาคุยกันก็ได้ นักอ่านเด็กๆเขายังคิดว่าพิมพ์เยอะๆ=สวยอยู่เลย บางคนเจอแค่คำว่าคร่ำครึยังถามว่ามันแปลว่าอะไร ถ้าลามไปถึงเรื่องความสมเหตุสมผลสมจริงมึงยิ่งไม่ต้องพูดถึง ซึ่งพวกนี้กูไม่เรียกว่า shit taste นะ กูเรียกว่ายังไม่เปิดโลก อาจจะยังอ่านมาไม่เยอะพอ ไม่ได้ว่าเลือกที่จะเสพนิยายตาม taste แบบนั้น
กูมองว่าสิ่งที่เราชอบมันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอะ มันแค่มีบางจุดที่โดนใจเรา แต่มันก็ไม่ได้ flawless เวลากูอวยอะไรสักอย่างกูก็จะบอกว่ากูชอบตรงนี้ๆนะ แต่จะไม่อวยเวอร์อะไรมากมาย เพราะงั้นถ้ากูอวยแล้วมีคนตำหนิ กูจะไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย 555555555 บางทีจุดที่คนอื่นตำหนิก็อาจจะเป็นจุดที่กูขัดใจเหมือนกัน แค่กูไม่ได้ซีเรียสกับมัน และจุดที่กูชอบมันชดเชยส่วนนั้นได้ ก็เท่านั้นเอง
กูโอเคกับความคิดเห็นด้านลบนะถึงจะรู้สึกไม่ดีหรือแย้งในใจยังไงกูก็ต้องยอมรับคำตินั้นได้ให้ได้ถ้ามันเป็นเรื่องจริงอ่ะ แต่ที่กูจะไม่อยากอ่านหรือไม่ชอบเลยคือพวกคำติคำว่าที่ไม่ได้เช็คข้อมูลก่อน อาศัยคุ้นๆหรือมโนไปเองทั้งที่มันไม่ถูกต้องแล้วมาว่าไปก่อน,พวกที่ยังไม่ทันลองก็ว่านำไปก่อนเพราะตามๆคนอื่น อันนี้กูไม่โอเค กูถือว่าข้อมูลยังไม่ถูกต้องถือสิทธิอะไรมาติมาว่าไปก่อน หรือพวกคำติที่ใช้คำแรงๆด่าเหมือนจะเคยฆ่ากันมาก่อนซึ่งกูเข้าใจว่าได้อิทธิพลมาจากที่ยุคนี้ต้องด่าไว้ก่อนถึงจะได้คอนเท้นเสียงด่ามีคนสนใจมากกว่า เลยเน้นแรงไว้ก่อน และอีกประเภทหนึ่งที่กูไม่ชอบคืออวยเว่อร์เกินอันนี้กูโรคจิตเอง กูคิดว่ามันต้องมีสิ่งที่ดีกว่านี้ที่เรายังไม่เคยเจอหรืออาจจะได้เจอในอนาคต และในผลงานมันไม่มีคำว่าสมบูรณ์ทั้งหมดมันยังมีจุดบกพร่องบางอยู่แล้ว กูเลยมองว่าการอวยเว่อร์เกินมันน่าอึดอัดไป มันไม่จริงใจเท่าไรโดยส่วนตัว
>>250 +1 เห็นด้วยกับมึงทั้งหมด โดยเฉพาะพวกอวยเว่อร์วังนี่อยากพูดมากจริงๆว่าไม่ชอบ พวกนิยายในดวงใจกูที่เป็นระดับตำนานกูก็รู้อยู่เสมอว่ามันก็มีข้อเสียไม่ได้เพอร์เฟกต์ ละคนธรรมดาทั่วไปใครก็วิจารณ์ได้ ไม่ใช่ว่างานระดับตำนานมึงต้องยกสูงให้เป็นงานของพระเจ้า อารมณ์มึงมีสิทธิ์บอกว่าไม่ชอบตรงจุดนั้นจุดนี้ได้แต่กองอวยมันไม่รับประกันว่ามันจะไม่ด่ามึง เบาๆก็ไม่ชอบไม่ต้องอ่านค่ะ กูก็กำเล่มตาปริบๆไปดิ เงินกูซื้อมาเสือกไล่ไม่ให้กูอ่าน
กูว่าบางคนก็ take นิยาย personal เกินไป แบบพอชอบแล้วก็ถือเอานิยายมาเป็นส่วนนึงของตัวเอง พอมีคนตำหนินิยายที่ตัวเองไม่ชอบก็เลยรู้สึก offend ไปด้วย นิยายหลายๆเรื่องมันเลยเกิดสิ่งที่เรียกว่าลูกหาบขึ้นมาไง คือการปกป้องนิยายมันเหมือนปกป้องอีโก้ตัวเองไปในตัว กูไม่ได้จะว่าอะไรคนที่ offend นะ แต่บางคนก็เป็นแบบนี้โดยไม่รู้ตัวอะ
กูเข้ามาเห็นด้วยเรื่องคนไทยชอบฉอดมากกว่าวิจารณ์
คือติดค่านิยมด่าแรงๆไว้ก่อน จะได้ดูเฟี้ยส
บางทีที่กูเห็นคนที่ชอบนิยายออกมา defend คือมาจากการที่นิยายโดนฉอดแรงๆ เลยต้องด่ากลับ อันนั้นกูเข้าใจ
แต่ถ้าเป็นคนอวย ที่ออกมาปกป้องนิยายทุกย่างก้าว แม้จะมาคนมาตินิดหน่อย อันนั้นก็รำคาญเหมือนกัน
เวลาแนะนำอะไรแล้วโดนติมันจะมีความหน้าแห้งนิดๆปะ 555555 กูเป็นเวลาแนะนำเพื่อนเพราะชอบอะไรสักอย่างมากๆ แล้วเพื่อนมาถามว่าสนุกตรงไหนวะ ไรงี้อะ มันจะเป็นฟีล แหะๆ ขอโทษที่แนะนำละกัน แต่กูเป็นเฉพาะเวลาไปแนะนำกะใครสักคนโดยตรงนะ ถ้ามาป้ายยาในโม่งแล้วโม่งคนอื่นไม่ชอบกูก็คงเฉยๆอะ
กุกับเพื่อนอ่านคนละแนวเลย เรื่องที่กุว่าดีมากชอบมากเพื่อนจะไม่อินเพราะมันเนือยๆ ออกแนวจริงจัง ชวนขบคิด ส่วนเพื่อนกุอ่ะชอบแนวน้ำเน่าละครหลังข่าวซึ่งกุไม่อิน ต่างคนต่างป้ายยากันแล้วไม่ชอบ ช่วงแรกๆผลัดกันหน้าแห้งบ่อยอยู่ แต่หลังๆเลิกป้ายยากันไปละ 5555555
แปลทับศัพท์ : https://youtu.be/YvNxgHTWIlo
KY คิดไงกับของแถมร้านหนังสือ พวกการ์ดแถม แสตนดี้ อื่นๆ ที่ใช้ภาพ(จ้าง)วาดเองแต่จากเรื่องนิยายลิขสิทธิ์ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีเยอะมากและกำลังเฟื่องฟู เค้าขอจากสนพ.ที่ถือ LC มาหรือเปล่าว่าจะทำภาพจากเรื่องนี้ๆเอาไปแจกนะ หรือไม่ต้องขอเพราะทำแจก แต่มันเป็นการส่งเสริมการขายนะ แจกฟรีให้ลูกค้า แล้วลูกค้าก็เอามาขายต่อคนที่สะสม บางทีตั้งราคาขายไม่ใช่น้อยเลย เข้าใจว่าห้ามกันไม่ได้หรอก เทรนด์คนชอบสะสมอะเนอะ ส่วนตัวกูก็ชอบเก็บ ได้มาก็เก็บดูเล่น ไม่เคยคิดขายต่อ แต่เห็นคนขายกันเป็นเรื่องเป็นราวมาก หรือกูควรขายตอนที่ยังมีกระแสคนชอบสะสม
เอาจริงๆกูก็ชอบที่ร้านแถมโน่นนี่ แต่ก็อยากให้ทำเป็นลายออริจินอลอะไรไปเลยมากกว่า มันไม่แมส แต่ก็ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์แน่นอน คนได้มาจะเอามาขายต่อให้คนที่อยากได้ก็ยังดูน่ารักกว่า ไม่เหมือนขบวนการซื้อขายของเถื่อน
ของพรีเมียมนิยายที่แถม(ขายพ่วง)จากสนพ.โดยตรง ถ้าเอามาขายต่อกูยังโอเคนะ กูหลายมาตรฐานหรือเปล่า
>>261 สนพ.ส่วนใหญ่ซื้อลิขสิทธิ์แค่’เนื้อหานิยาย’ ห้ามได้แค่พวกแชร์ไฟล์เถื่อน ทำกู้ดขายเขาไปห้ามไม่ได้ แต่ส่งเรื่องไปเจ้าของอะได้ เพราะมันผิดลิขสิทธิ์เจ้าของที่อยู่ตปท.นู้น ประมาณของแฟนเมด แต่เอามาส่งเสริมการขายร้านตัวเองโดยไม่ได้ขออนุญาตคือเหี้ยจริงๆ
ควรแบนนักวาดที่วาดให้ด้วย หลายคนรู้ตัวกันเพราะเขาก็บอกอยู่แล้ว รับงานละเมิดลิขสิทธิ์ก็ยังจะรับ เห็นแก่เงิน
>>264 ถ้ามึงหมายของแถมตามร้านรับพรีอะ รู้ นักวาดตัวเบ้งทั้งนั้น บางคนยังรับวาดให้สนพ.มาหลายงานแล้ว กูก็งงเงินไม่พอเหรอถึงไปวาดให้ร้าน คนเข้าใจผิดว่าเป็นของออฟก็มี กรณีจิบิสวนสัตว์กูไม่แน่ใจว่านักวาดตปท.ไหมอะแต่อันนั้นผิดนักวาดไม่ได้ ทีมงานที่ดูแลจะไม่ตรวจสอบเลยเหรอ ไม่ก็คนดูแลสั่งให้วาดไป กูไม่ฟันธงนะเดี๋ยวโดนฟ้อง แต่กรณีนี้เอามาเทียบไม่ได้
งืม แสดงว่า เรื่องของแถมร้านหนังสือ/รับพรี คือมันไม่ถูก มันไม่ควรทำ แต่ใครๆเค้าก็ทำกันอะเนอะ ใช้โปรโมทเพิ่มยอดให้ร้านได้ ลูกค้าก็ชอบสะสมด้วย สนพ.ไทยก็ทำไรไม่ได้เพราะการทำกู้ดส์ไม่ได้ละเมิดสนพ.ไทยโดยตรงสินะ
จิบิสวนสัตว์มันคนละกรณีกับที่กูถามอะนะ อันนี้กูว่าสนพ.ทำพลาดเองก็แก้ไขไปตามหน้างาน แต่รายละเอียดเป็นไง ผิดตรงขั้นตอนไหนฝ่ายไหน กูก็ไม่รู้หรอกนะ
เรื่องนักวาดมันควรเป็นวงการที่เคารพลิขสิทธิ์ผลงาน ควรใส่ใจอย่างยิ่งนะ แต่เห็นให้ความสำคัญแต่ผลงานตัวเองทั้งนั้นแหละ 555
กูไม่ได้ติดตามนักวาดเลย แต่ก็เห็นอยู่ว่าลายเส้นของแถมสนพ.บางเจ้า เหมือนกับของแถมร้านพรีบางเจ้า นักวาดก็รับทั้งงานหลักงานเถื่อนเนอะ ลิขสิทธิ์สำคัญก็จริงแต่เงินและปากท้องสำคัญกว่า นักวาดเล็กๆไม่เท่าไร (ก็ไม่ควรทำแหละ) แต่นักวาดดังๆ นี่คงตัวดีเลยมั้ง ขับเคลื่อนวงการ
กูมาบ่นขิงข่าตามประสาผู้บริโภคแหละ คิดว่ามันก็คงเป็นไปแบบนี้ไม่เปลี่ยน จนกว่ามันจะหมดกระแสไปเอง
แต่มึงอย่าลืมนะ ร้านบ้างร้านก็ของสนพ...คนซื้อบ่อยๆก็รู้กันอะ5555 แม่งงั้นงี้แหละ ตัวนักวาดเองแม่งก็ดีลกับสนพ
คนไม่รู้กูไม่เท่าไหร่ คนรู้สั่งสอนคนอื่นแต่ตัวเองก็ทำนี่มันก็นะ คิดไปคิดมาก็คล้ายกับเคสจิบลิเลย แต่แค่คนละพวก
KY ในนี้มรโม่งอยู่กลุ่มคนรักนิยายวายของป้าส้มเยอะไหมวะ กูเพิ่งเข้าได้สักพักเพราะเพื่อนโม่งบอกให้ตามๆ ไว้เผือก ตรรกะคนในกลุ่มนี้มันพังพินาศขนาดนี้เลยเหรอวะ ยิ่งแอดมินกลุ่มยิ่งอาการหนัก
กูเพิ่งเข้าไปกดออกจากกลุ่มป้า ส สงสัยว่าแอดมินเป็นไรวะ ดราม่ากันเป็นทอดๆ
กูกำลังจะมาบ่นเรื่องกลุ่มป้า ส เลย กูไม่ได้อ่านโพสคนที่ออกมาพ่นๆ กันนะ รำคาญ ถ้ามันเกิดจากคนเหยียดรสนิยมคนอื่นหนึ่งคน แค่อิกนอร์มันไปคนนึง ก็ทำไม่ได้เลย จะออกมาโพสดราม่าอะไรกันนักหนา
บางคนมีปัญหากับนิยายที่มีการกดข่มเพศรองหรือใช้ความรุนแรงแม้จะtriggerไว้แล้ว แต่กูว่ามันควรมีนิยายแบบนี้ว่ะเพราะแม่งยังเกิดขึ้นจริงในยุคนี้อยู่เลย หลายประเทศก็ยังมีปัญหาแบบนี้อยู่อย่างข่าวตาลีบันที่กดผู้หญิงไม่ให้มีฐานะทางสังคม สังคมมันบ้าได้กว่านิยายเยอะ
>>281 มีคนในกลุ่มป้าส. ไปโพสต์เชิงไม่ชอบคล้ายเหยียดนิยายแนว 3P ขึ้นไป ไม่มีศีลธรรม อะไรประมาณนี้ นิยายบางเรื่องไม่เมคเซนส์ รักเขียนไม่หาข้อมูล แล้วก็ดราม่าลากยาว แอดมินน้อยใจเครียดอยากปิดกลุ่ม คนในกลุ่มก็ออกมาดราม่ากัน
กูไม่มีปัญหาอะไรกับ 3P หรือ 4P อยู่ที่รสนิยมคนอ่าน แต่ประเด็นนิยายก็คือนิยายไม่ต้องไปจริงจังกับมันนักที่คนส่วนมากในกลุ่มนี้เก็นคล้อยตามกันนี่กูไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ นิยายทุกวันนี้หาอ่านได้ง่ายมาก นขควรหาข้อมูลและทำการบ้านดีๆ ไม่ใช่จะนั่งยางเขียนได้ มันจะกลายเป็นการสื่อความที่ผิด และตรรกะที่กูเกลียดที่สุดของคนส่วนมากในกลุ่มนี้คือ นิยายคือนิยาย นิยายที่แปลงมาจาคฟิคก็คือนิยาย แอดมินขึ้นโพสต์ว่าไม่สนใจดราม่าอ่านกันอย่างสงบสุข แต่ประเด็นคือมันละเมิดลิขสิทธ์ไง แล้วนขที่แอดมินกลุ่มนี้สนิทด้วยก็ตัวท็อปๆ เรื่องแปลงฟิคทั้งน้านนน หรือไม่ก็นข.กลุ่มฉลามอะ แต่พอมีประเด็นทีแอดมินก็ดราม่า คนเดียวดูแลเพจ 60,000 เหนื่อยมากเลย ทำด้วยใจ
กลุ่มปสด แต่มีเรื่องให้เผือกบ่อย อยู่ไว้เพื่อความบันเทิง
เพิ่งเข้าไปอ่านในกลุ่มมา โอ้โห มหากาพย์มาก มันส์กว่าอ่านนิยายอีก 55555555
กรุ๊ปนี้กูชอบมาก เวลาไม่ทีไรทำก็ไปนั่งจ๊กป็อปคอร์นดูความคิดคนสูงวัยหาเพื่อนคุย
กูเพิ่งขอเข้ากลุ่มไป รอการอนุมัติอยู่
KY
https://twitter.com/kyokazuu/status/1427897949141409800
ก็ดูนิยายแต่งที่สนพ.เลือกมาแต่ละเรื่อง...
ส่วนใหญ่พวกนข.ก็ไม่ค่อยจะรู้ตัวกันแหละ งานไทยจริงๆก็มีออกเยอะแยะแล้วก็ไม่ได้มีแค่แนวมหาลัยเต็มตลาดแล้วด้วย แต่พวกสนพ.มันก็เลือกเอาตามยอดวิวกับอันที่ดูแล้วน่าจะขายตลาดใหญ่ได้ งานนข.ไทยหลายๆคนก็เลยตกหล่นไป ยังไม่พอคือนักอ่านก็มีส่วนทำให้งานไทยโดนมองข้าม เพราะนักอ่านมีแนวโน้มจะทุ่มเงินให้งานแปลมากกว่า ส่วนงานไทยก็อ่านฟรีเอาตามเว็บ มึงจะมาโทษสนพ.ว่าไม่รับงานไทยอย่างเดียวคือคิดตื้นเกินไป มันเอียงไปทางงานแปลกันมากกว่าทั้งระบบเลย มึงดูเอาว่ามีสักกี่คนที่ประกาศว่าอ่านแต่ไทยไม่อ่านแปล ก็มีแต่อ่านแปลไม่อ่านไทยกันทั้งนั้น
อะ รวมๆ ที่เคยเจอมา
- เด็กมีเวลาอ่าน และอวยเก่ง ปั่นเรตติ้งเก่ง
- เรื่องที่เด็กชอบก็คือเด็กชอบ บางทีก็บ้ง
- ออกมาเป็นหนังสือก็คือบ้งตั้งแต่พลอต แก้อะไรไปก็ยาก แต่มันทำเงินได้ งานที่ทำเงิน ใช่ว่าจะเป็นงานที่ดี
- ใครจะลงทุนกับนิยายที่บก.คิดว่าดี แต่ทำขายจริงแล้วไม่มีคนซื้อ
- คนที่ไม่หานิยายในเน็ตอ่านก็ตัดสินว่านิยายไทยมีอยู่แค่นี้
- นักเขียนบางคนที่ตั้งท่าดีอาจจะปั่นได้ ก็มีอีโก้ หรือปากหมา หรือสันดานเสีย ลูกหาบเยอะ น่าเบื่อ
- พอไม่ลงให้อ่านก็จะมีคนประเภทเสียดายคนจ่ายไม่ได้อ่านก่อนซื้อเกิดขึ้นมา
- พอลงให้อ่านครึ่งเดียวก็ว่านักเขียนหน้าเงิน
- บางเรื่องปกสวยดูดคนแต่เนื้อหาส้นตีน อาศัยแค่มีเงิน
- นักเขียนที่รวย มีเงินดันตัวเอง แต่เนื้อหาไม่มีเหี้ยห่าอะไรเลยก็มีอยู่
- ได้ทำซีรีส์ด้วยนะมึง
ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่อย่าไปโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลย ทุกคนแม่งก็มีส่วนทำให้เป็นแบบนี้
>>294 +++ ครบถ้วนทุกปัญหา555555
กูขอพูดไรหน่อยนะว่าวงการวายไทยเป็นอะไรที่คุณภาพแม่งต่ำมากกก มากถึงมากที่สุด จนแค่งานที่มันทำได้ถึงมาตรฐานหรือเลยมาตรฐานนิดๆหน่อยๆคนก็อวยกันฉิบหายตายห่า งานพล็อตเข้มข้นจริงๆขายไม่ออก ไม่มีฉากเยขายไม่ออก อ่านฟรีจนจบเรื่องแล้วมีจุดไม่พอใจจุดนึงอ้ะไม่ซื้อเก็บดีกว่า จนกูเองก็คิดละว่าหรือคนอ่านวายไทย80%มันต้องการแต่อะไรน้ำเน่าๆยั่วเยกันจริงๆวะ เห็นอ่านวายจีนกันก็ยังไม่ได้อะไรนอกจากเรื่องความรัก ขนาดปรมจ.กูยังกลายเป็นนิยายรักโรแมนติกไปซะฉิบ
>>299 ตามนั้น
แต่ว่าก็ว่า ไอ้ที่ว่าเนื้อหาไม่มีเหี้ยห่าไรเลยนี่มันก็ขึ้นอยู่กับคนอ่านเหมือนกันนะ เจอกันจีบกันเยกันแล้วก็จบก็คงนับเป็นเนื้อหาได้แล้วมั้ง ถ้าไปตั้งธงซะสูงให้มันเล่นประเด็นลึกๆแบบที่ไม่ไปจับเอาคำคมมายัดปากตลค.ก็คงหาอะไรอ่านได้ยากหน่อย ส่วนใหญ่พวกที่เขียนแบบนั้นในไทยก็ไม่ดังอ่ะ ถ้าประชากรคนอ่านเว็บส่วนใหญ่ซึ่งเป็นเด็กไม่ชอบอ่าน อัลกอริทึ่มเว็บมันก็ไม่ดันให้ขึ้นหน้าแรก สุดท้ายก็วนๆกันอยู่งี้แหละ นิยายเบียวๆแป๊บเดียวก็ดัง ต่อให้จะมีนิยายBLโคตรเข้มข้นมาทรงเกมออฟโทรนอยู่จริงๆแม่งก็หมกอยู่ใต้โคลนตม
>>301 captive prince ของฮูกที่เป็นนิยายแปลไปเล่นเซ็ตติ้งตะวันตก+การเมือง ยังเจ๊งบ๊งไม่เป็นท่าเลย แนวไหนไม่มีคนอุดหนุนก็ล้มหายตายจากไป ไม่ใช่คนเขียนมีศักยภาพไม่พอแต่ไม่มีใครอ่านต่อให้เป็นกลุ่มซื้อเล่มไม่ใช่วายเว็บก็ไม่มี55555
เนื้อเรื่องดีคนอ่านไทยไม่ต้องการหรอก สุดท้ายก็อวยฉากเรทแซ่บ ทุกวันคือทุกวันแค่นั้น
ระหว่างนิยายแปลจีนคลั่งรักบ้งๆนอนคอนดับคอนกระจายกับนิยายแปลฝรั่งตัวละครต้องฝ่าฟันอคติทางสังคม การคัมมิ่งเอาท์ต่างๆ มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าแบบแรกแมสจนสนพ.งอกเป็นดอกเห็ด ส่วนแบบหลังรวมทั้งประเทศแทบจะออกปีละเล่ม
กูว่านิยายวายฝรั่งขายไม่ออกเพราะสายนี้ปกติก็อ่านภาษาอังกฤษกันอยู่แล้ว พอแปลไทยออกก็ไม่ซื้อ กูเห็นมีตั้งหลายคนที่ชอบ captive prince แต่บ่นว่าเล่มไทยแปลไม่ดี ปกไม่สวย แล้วก็ไม่ซื้อกัน พอมี mm เรื่องอื่นๆมา สายนี้ก็จะบอกว่าเคยอ่านแล้ว ไม่ซื้อ ส่วนนักอ่านที่ปกติไม่อ่านสายนี้ก็ไม่คิดจะอ่านกัน เพราะมันไม่มีใครรีวิวหรือไฮป์ให้เห็นอะ นิยายวายในตลาดปีนึงมีเป็นร้อยๆเรื่อง ถ้าไม่มีใครพูดถึงให้เห็น นักอ่านที่ปกติไม่ตามแนวนี้จะไปรู้จักได้ไง
กูที่เพิ่งหันมาอ่านแนวแปลฝรั่งแปลเกา T_T โดนดองไปหลายเรื่องเลยวะ บ้างเรื่องเห็นว่าเท เพราะขายไม่ออก อุแง
กูแอบคิดเล่นๆ วายแปลจีนในไทย ส่วนใหญ่เด็กๆอ่าน ไม่ก็ 20 - 30 ส่วนใหญ่สายติ่ง ไม่ก็สายการ์ตูนอนิเมะไลท์โนเวล คนอ่านวัย 40-50 มีบ้างแต่คงน้อย
Mm ฝรั่ง ป้าๆก็ยังอ่านว่ะ 30-40-50 ก็เยอะแยะ กูดูตามรีวิวในกู้ดรี้ดนะ ส่วนใหญ่สายนิยายโรแมนซ์ผันมาอ่านแนวนี้เยอะด้วย
โทนเนื้อหาแนวเนื้อเรื่อง ก็ค่อนข้างตามวัยเลยอะ ไม่ใช่ว่าแบบนี้ๆ อีกฝั่งจะไม่มี แต่เทียบสัดส่วนเอา
Captive Prince จะเจ๊งในไทยก็ไม่แปลก เจอปกกับการแปลเข้าไปด้วย เลยดันไม่รุ่ง
Captive Prince ไม่ได้แปลแย่ขนาดนั้นนะ แค่แปลติดสำนวนนมเนยไปหน่อย แต่การเรียบเรียงประโยคต่างๆโอเคเลย แปลดีกว่าวายจีนหลายๆเรื่องที่ออกปีนี้อีกมึง แปลดีกว่า mm ค่ายกุหลาบด้วย
กูว่าประเด็นปัญหาหลักมันอยู่ที่คนซื้อ
คนซื้อชอบซื้อนิยายแบบไหน สนพมันก็จะวางขายนิยายแบบนั้นแหละ
ผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดตลาด
เหมือนคนดูละครอะ กูเห็นมีคนดูละครออกมาบ่นเยอะแยะ ว่าทำไมละครไทยทำแต่ละครน้ำเน่า ไม่ทำละครแบบเมืองนอกบ้าง
ผู้จัดเค้าก็ออกมาบอกว่า ทำเลียนแบบเมืองนอกแล้วคนดูน้อยกว่าละครน้ำเน่า
ก็เลยทำละครน้ำเน่าต่อ
อยู่ที่กระแสและการเลี้ยงกระแสด้วยอ่ะ แบบตอน wolfsong เล่มแรกก็ดัง พอมา2-3แม่งกริบ
แปลเกาตอน kill the light, shooting star ก็เหมือนจะมา แล้วก็กริบไปอีก
สายวายฝรั่งแปลไทยมึงรอ the song of achilles แปลไทยนะ สนพ.บอกว่าออกปีหน้า นิยายวายตำนานกรีก ภาษาต้นฉบับหรูหราไฮโซปานบทกวี แต่จะแปลไทยออกมาดีมั้ยกูไม่รู้ละ 55555555555
Mm กูอยากอ่าน p.s. i spook you เล่มต่อออออ
อืมมม กุไม่ค่อยเข้าใจละว่านิยายวายหมายถึงอะไร เพราะสำหรับกุนิยายวายก็คือนิยายเกย์ เพราะงั้น tsoa ก็คือนิยายวายนะ 555555 แต่สายวรรณกรรมอาจจะไม่ชอบคำนี้มั้ง เห็นบางคนยี้คำว่านิยายวาย ตอนเน็ตฟลิกพูดถึงซีรีส์เกย์เรื่องนึงโดยใช้คำว่าซีรีส์วายก็มีคนโควทไปด่าว่าอย่าใช้คำว่าวาย เพราะซีรีส์เรื่องนี้อยู่สูงกว่านั้นมาก คือบางคนเหมือนมองคำว่าวายเป็นของต่ำของแสลงไปเฉยเลย
>>324 เพื่อความเคลียร์กูเล่าในมุมมองกูด้วยดีกว่า วายสำหรับกูก็คือวาย กูไม่ได้ยี้วายนะแต่กูแค่มองว่าวายมันมีแพทเทิร์นบางอย่างเฉพาะตัวที่ทำให้รู้สึกต่างจากพวกวรรณกรรมเก่าๆที่มีกลิ่นอายผช.รักกันผูกพันกัน (ไม่ได้หมายถึงเควียร์ลิทนะ) หรือเรื่องเกย์ๆในตำนานปรัมปราอ่ะ มันจะมีจุดที่ใส่มาเพื่อให้กรี๊ดกร๊าดให้ผู้หญิงหรือคนที่ชอบอ่านกระชุ่มกระชวยเอาง่ายๆก็คือขายฟิน ซึ่งกูอ่านไอ้พวกนี้มากๆแล้วแทนที่กูจะฟินกูดันเหี่ยวกว่าเดิม เพราะมันเรียลเกินไปไม่มีจุดให้ชิป
ยังไงต้องขอบคุณมึงที่เอามาแปะด้วย ของชอบกูเลยอันนี้
>>325 กูเข้าใจๆ กูว่านิยามคำว่านิยายวายมันไม่ได้มีการกำหนดให้ตรงกันมาแต่แรกด้วยอะ พอแนวชชเริ่มแมส ทั้งสนพทั้งซีรีส์ก็ใช้คำว่าวายกันไปหมด จนกูรู้สึกว่านิยามคำว่าวายตอนนี้มันกว้างมากกกกก แต่มันจะมีคนบางกลุ่มที่เหมือน look down คำว่าวาย บางคนก็แอนตี้คำว่านายเอกไปอีก ซึ่งกูก็งงว่าแล้วถ้างั้นจะให้ใช้คำว่าไรวะ 5555555 จะเรียกนิยายเกย์ บางคนมันก็เป็นไบเซ็กชวลปะ จะเรียกชช เดี๋ยวก็มีคนบ่นอีกว่าปิตาธิปไตย คำว่านายเอกก็เหมือนกัน เคยเห็นคนบอกจะให้เรียกพระเอกกับพระเอก เอ้า ก็ถ้าเรียกแบบนั้นมันไม่รู้โพอ่า ให้ทำไงวะ
the song of achilles นี่ของดีเลย โมเมนต์เขินมีไม่เยอะ แต่เขินทีจิกตีนนิ้วหงิก ไปออกกับสนพ.หนังสือทั่วไปแบบนั้นสายวายคงไม่สนใจอ่านกัน ยกเว้นจะมีเซเลปช่วยไฮป์
tsoa มันถึงไปออกกับสนพวรรณกรรมไง สายวายอ่านเอาฟินไม่นิยม 555555555
จะว่าไปสาววายส่วนใหญ่ไม่ชอบแบดเอนด์ป้ะ แบบพอเป็นวายยังไงคนก็จะชอบให้จบแฮปปี้ๆมากกว่าอ่ะ เท่าที่กุสังเกตมานะ
Captive prince ไม่ได้แปลแย่เลย คุณภาพการแปลดีกว่าวายจีนเรื่องดังหลายๆเรื่องอีก พิมพ์ผิดพิมพ์ตกแทบไม่มี การเรียบเรียงก็ใช้ได้ ไม่มีประโยคไหนที่ต้องอ่านซ้ำเพื่อทำความเข้าใจ คนที่บ่นคือคนที่อ่านอิ๊งมาแล้วแปลไทยมันได้อรรถรสไม่เท่าต้นฉบับ ถ้ามึงอ่านไทยเลยมึงจะไม่รู้สึกหรอกว่ามันแปลแย่
captive แปลแย่ เรียบเรียงแย่ มึงอ่านกันยังไงว่ามันดีวะ หรือไม่เคยอ่านงานที่แปลออกมาดีกว่านี้?
กูเบื่อมากได้ประเภทบอกว่าแปลแย่ แต่ไม่ยกตัวอย่างว่าแย่ยังไง เหมือนเคสปรมจอ่ะ บอกแปลแย่ๆๆๆๆๆๆ แล้วยกตัวอย่างมาคือคำว่า เลียแผล ขำกันหมด 55555555555555555
กูไปพลิกหนังสือแบบผ่านๆมา กูว่ามันก็ไม่แย่อยู่ดีแฮะ การเรียบเรียงก็โอเคลื่นไหล ไม่สะดุด (ย้ำ กูเทียบกับวายจีนทั่วไป วายจีนอ่านแล้วสะดุดบ่อยมากกกกก) แต่การใช้คำศัพท์มันทำให้โบราณกว่านี้ได้ แบบสพพนามเธอ น่าจะใช้ว่านางมากกว่า
เล่ม1 หน้า 51 การสร้างความอัปยศอดสูต่อหน้าธารกำนัลเรื่องหนึ่งแทนที่ด้วยอีกเรื่องหนึ่ง >> มันน่าจะมีคำที่เข้าใจง่ายกว่านี้มั้ย?
หน้า52 การต่อสู้เยี่ยงนั้นช่างวิเศษอย่างแท้จริง แต่ยังขาดจุดสูงสุด>>คือยังไง คิดว่าต้นทางเป็น climax/peak ไม่ก็อะไรซักอย่าง แต่แปลแบบนี้เลยเหรอ
เล่ม 1 หน้า53 พักใหญ่กว่าที่ลอเรนต์จะหันไปทางออดินในที่สุด
ขี้เกียจใส่หน้าละ
-ในที่สุดก็จบลงได้ จบโดยเด็ดขาดแบบที่ไม่ได้คาดหวัง
-เหล่าข้าราชสำนักพากันกลับไปเพลิดเพลินกับการฆ่าเวลาโดยแทบจะไม่มีอะไรมาขัดจังหวะแม้แต่น้อย
-ถ้าจะมีอะไรบางอย่างที่ดูแล้วเห็นได้ชัด ก็น่าจะเป็นการขาดหายของความปรารถนาทั้งหลายที่เขาควรจะมี
ลองไปเปิดดูเอง กูว่ามันควรจะดีได้กว่านี้และถามว่ากูอ่านรู้เรื่องมั้ย อ่านเข้าใจมั้ย คำตอบคือก็เข้าใจ กูเข้าใจจากบริบทและเรียงคำในหัวใหม่ได้ แต่ถามว่าในการอ่านงานแปลเรื่องหนึ่ง กูจำเป็นต้องทำขนาดนี้มั้ย? สงสัยอะ เรื่องนึงก็ไม่ใช่ถูกๆนะ
งานแปลที่ดีของกูคือเรื่องที่แปลออกมาครบ เรียบเรียงแบบที่เหมาะสมกับรูปประโยคภาษาไทย ไม่จำเป็นต้องหาตัวอย่างเรื่องไหนเลยนะ แค่การเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายเรื่องนี้ก็ทำไม่ได้แล้วอะ จะให้กูบอกว่าเป็นงานที่โอเคได้ยังไง?
>>343 ไม่ขาย ด่ายังไงกูก็เก็บไว้อ่านต่อเพราะเนื้อหามันสนุก
>>344 แล้วทำไมกูต้องเทียบกับเรื่องอื่นวะ555555 ทำไมกูต้องพยายามหาอะไรมาเทียบแล้วบอกแปลแบบนี้ยังดีกว่า รอบลิ่วเหยากูก็ด่าว่าเรียบเรียงไม่โอเค แปลไม่รู้เรื่องเหมือนกัน และมันก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้กูจะพูดว่าเออ ช่างมันเหอะ เรื่องนี้ก็ยังโอเคกว่าเรื่องอื่น เสียเงินซื้อมานะมึง ไม่ว่างานจะออกมาดีกว่าเรื่องอื่นหรือแย่กว่าเรื่องอื่นยังไงกูว่ามันควรวิจารณ์หมด เราควรได้สิ่งที่ดีที่สุดและอยู่ในระดับมาตรฐานเดียวกันมั้ย?
กุว่าพออ่านนิยายแปลไม่ดีมาเยอะๆมันทำให้บาร์ต่ำลงได้จริงนะ แบบเมื่อก่อนกุไม่โอเคเลยเวลาเจอคำผิดในนิยาย ตอนนี้กลายเป็นถ้าไม่ถึงขั้นมีทุกหน้ากุก็รับได้ไปละ 555555 พอชินกับการแปลแย่ๆมาเยอะแล้วไปเจออันที่มันไม่ได้แปลแย่เท่าไหร่ ก็จะเริ่มรู้สึกว่าเอออันนี้ถือว่าโอเคนะ เก็ทปะ 5555555
>>342 บางจุดกุว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไรมั้ย แค่มึงไม่ชอบสำนวนแบบนี้ เหมือนการสลับ ไปไหนมา ไปที่ไหนมา ไปไหนมาหรือ ไปหนใดมา อะไรพวกนี้อ่ะ คือใจความเดิมแค่เปลี่ยนวิธีพูด
คือในครส.กูนะ ถ้างานเขียนฟิคตายตัวเลย อะไรใหม่ๆมันจะไม่ได้เกิดอ่ะมึง สำนวนใหม่ๆ การเล่าแบบใหม่ๆ (บางครั้งก็ผิดหลักแต่สื่อสารได้ใจความอยู่) อะไรเงี้ยอ่ะ ดังนั้นถ้าตรงจุดนั้นมันยังสื่อความให้ผู้อ่านเข้าใจได้ตรงตามใจความกูยังหยวนอยู่อ่ะ อย่างบางคนไม่ชอบสำนวนที่เหมือนถอดจากญป หรือ eng มา แต่กูกลับรู้สึกว่ามันก็เป็นกลิ่นอายของมันอีกแบบนึง
กุไม่ได้มาม่ากะมึงนะ อย่าเข้าใจผิด กุผู้อ่านธรรมดาเดินถนน ไม่มีดีกรีทางภาษาใดๆทั้งสิ้น บอกพื้นกูไว้ก่อนเลย แค่คห.กูเท่านั้น
>>343 มันกำลังจะมีพิมพ์ใหม่จนจบไม่ใช่เหรอ เวอร์เก่าพิมพ์แค่เล่ม 1 ป่าววะ ซื้อเวอร์ใหม่เลยไม่ดีกว่าเหรอมึง สนพไหนวะฮูกมั้ยกูจำไม่ได้
>>348 สำหรับกูคือมันไม่ได้55555 กูอาจจะจุกจิกไปก็ได้มั้ง ถ้าพวกมึงอ่านแล้วโอเคก็แล้วแต่อะ(ไม่ได้ประชดนะ) แต่กูรู้สึกว่ากูเป็นคนอ่านคนนึง กูก็มีสิทธิ์วิจารณ์งานว่ามันไม่โอเคสำหรับกูอะ เสียงกูอาจจะเป็นส่วนน้อยในนี้ก็ได้มั้ง ย้ำอีกทีว่าถ้าพวกมึงอ่านรู้เรื่องก็แล้วแต่ แต่กูก็คงวิจารณ์ต่อเพราะกูอยากให้มันเกลาคำได้ดีกว่านี้ สำนวนติดนมเนยน้อยกว่านี้
กูไม่เข้าใจว่าทำไมการได้นิยายที่แปลโอเค แปลรู้เรื่องมันถึงยากแบบนี้ ไหนๆแล้วกูยกตัวอย่างเรื่องที่แปลโอเคสำหรับกูแล้วกัน
ถ้าทางตะวันตก กูให้ Cloud Atlas ส่วนทางตะวันออก ถ้าหมวดนิยาย BL กูให้ฆ่าหมาป่า บาร์กูประมาณนี้แหละ กูว่ามันก็ไม่ได้สูงไปเลยนะ
แปลจีนมั่วๆผิดความหมายไปไกลมีเยอะแยะ เสือกมีคนอวยว่าแปลดี ศัพท์สูง สวย ไฮโซ
แปลฝรั่งแม่งหายากจะตายห่า พอแปลออกมาสำนวนนมเนยนิดหน่อย แต่ยังอ่านรู้เรื่อง และไม่ผิดความหมาย โดนด่าว่าแปลห่วย เออ สงสารนะ
>>352 กูเข้าใจมึงๆ กูก็มีจุดที่กูจุกจิกนะ แต่เรื่องนี้มันไม่มีจุดขัดใจกูอ่ะ กูเลยคิดว่าคำว่า แปลแย่ แปลห่วย มันแรงเกินไป จุดที่แปลผิดความหมายก็ไม่น่ามีด้วยปะ? แต่ถ้าบอกว่ามันยังตบให้ดีกว่านี้ได้นี่กูเห็นด้วย
คลาวด์แอทลาสกับฆมปกูไม่เคยอ่าน แต่แปลโอเคสำหรับกูถ้า mm กูว่าค่ายไพรด์แปลดีสุดละ
>>355 แง ขอบคุณมึงที่เข้าใจ กูคงจะใช้คำแรงไปจริงๆแหละ เอาเป็นว่ามันยังไม่ใช่งานที่บอกว่าแปลดีเรียบเรียงดีขนาดนั้นอะ
(เรื่องแรกไม่ใช่นิยาย BL นะมึง แต่มันก็มีตัวละครที่เป็นชายรักชายอยู่ ลองได้ สนุก เรื่องนี้ที่กูยกให้เป็นบาร์กูเพราะในเรื่องมีการใช้ภาษาจากหลายๆยุคสมัยอะ ตั้งแต่โบราณจนถึงยุคปัจจุบัน เวอร์อังกฤษก็อ่านยากด้วย กูเลยรู้สึกว่าแปลไทยแล้วมันโอเคมากๆ)
เห็นด้วยเรื่องไพรด์แปลดีสุด กูเซ็งกับไทเซย์
>>342 กูอ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังเรียบเรียงให้ดีกว่านี้ได้แฮะ กูลองปรับๆดูมันก็จะประมาณ...
การต่อสู้เยี่ยงนั้นช่างวิเศษอย่างแท้จริง แต่ยังขาดจุดสูงสุด >>> การต่อสู้เช่นนั้นช่างวิเศษแท้จริงแต่ยังทำได้ไม่ถึงจุดสูงสุด
ถ้าจะมีอะไรบางอย่างที่ดูแล้วเห็นได้ชัด ก็น่าจะเป็นการขาดหายของความปรารถนาทั้งหลายที่เขาควรจะมี >>> ถ้าจะมีบางสิ่งที่เห็นชัดก็คงเป็นการที่เขาไร้ซึ่งความปรารถนาที่เขาควรมี
รู้สึกเขาว่ายังใส่คำเชื่อมมากเกินไปแล้วก็ทำประโยคให้ยืดเกินความจำเป็นอ่ะ ที่สำคัญคือแปลตรงตัวมาก กูพอจะแปลกลับเป็นengในหัวได้นิดๆเลย
ตกลงสำนวนนมเนยนี่ดีหรือไม่ดีอะ กูเห็นบางเรื่องปรับเยอะเกินคนก็ด่าว่ากะปิน้ำปลา บางคนก็บอกชอบสำนวนนมเนยในนิยายตะวันตกเลยชอบอ่านตะวันตกมากกว่าเอเชีย สรุปมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกใจกันแน่ นี่ไม่ได้ถามกวนตีนนะ ถามเพราะอยากรู้
>>361 สำนวนแบบตะวันตกอ่ะ พวกรูปถูกกระทำ ขึ้นต้นด้วยการ/ความ มันเป็น มันคือ เป็น ฯลฯ อ่านแล้วรู้เลยว่าเป็นสำนวนแปลภาษาอังกฤษ
เหมือนกูเพิ่งอ่านในโม่งไปไม่นานเองที่มีคนมาบ่นว่าอ่านฟิคคนไทยแล้วเจอประโยค เป็นฉันเองที่... อะไรประมาณนี้ แบบนี้อ่ะคือนมเนย มันไม่ใช่โครงสร้างแบบภาษาไทย แต่ตอนนั้นเห็นโม่งโอเคกันนะ
กูรู้สึกว่าคนแปลบางทีกลัวแปลตก แปลไม่ครบจากภาษาต้นทาง หรือกลัวคนคิดว่าเขาแปลจุดไหนไม่ออก เลยพยายามแปลใส่มาทุกคำ มันเลยมองออกว่ามีกลิ่นภาษาต้นทาง ทั้งที่บางทีมันไม่ใช่อะ มันควรเรียบเรียงออกมาเป็นสิ่งที่ภาษาปลายทางอ่านได้คล่องปากโดยไม่ผิดความหมายสิ
พูดง่ายๆ คนแปลต้องย่อยก่อนว่าสิ่งที่แปลสื่ออะไร ไม่ใช่หลับหูหลับตาแปลตามที่เห็น
อันนี้กูไม่ได้พูดถึงเรื่องไหนเจาะจงนะ
สำหรับกูนะ เกณฑ์คือ อ่านรู้เรื่อง อ่านรอบเดียวเก็ทและเห็นภาพโดยไม่ต้องอ่านประโยคเดิมซ้ำ ไม่แปลตกหรือแปลผิดความหมาย ไม่ละประธานจนประโยคดูประหลาด ไม่แปลเวิ่นเว้อใช้คำฟุ่มเฟือยแบบยัดคำความหมายเดียวกันลงมาหลายๆคำให้มันดูหรูหรา ซึ่ง captive prince ผ่านเกณฑ์กูหมดง่ะ กูเลยบอกว่ามันไม่แย่
บางทีกูเห็นนักอ่านใช้คำว่า สำนวนต่างประเทศ เป็นคำชมเหมือนกันนะ แบบชมไรท์ว่า นิยายเตงสำนวนดีจังเลยค่า สำนวนเหมือนนิยายต่างประเทศเลยยย ไรงี้อ่ะ แต่พอเป็นนิยายต่างประเทศจริงๆแปลออกมาติดกลิ่นภาษาเดิมดันกลายเป็นเรื่องไม่ดี ยกเว้นวายจีนที่เอะอะก็จะให้ทับศัพท์เอาอรรถรสกันยันเลย 5555555
>>370 กูก็โตมากับวรรณกรรมนะ กูทันยุคที่เชอร์ลอคโฮมส์เรียกตัวเองว่ากัน 555555 แต่อย่าง captive prince นี่กูเทียบกับสายวายด้วยกันอ่ะ ยังยืนยันคำเดิมนะว่าเรื่องนี้แปลดีกว่าวายจีนหลายๆเรื่อง แต่ถ้าเอาไปเทียบกับวรรณกรรมตะวันตกทั่วไปก็สู้ไม่ได้หรอก นั่นงานชั้นครูทั้งนั้น
หลักการแปล มันควรเป็นแปลให้ถูกต้อง
ถอดความออกมาอ่านแล้วลื่นไหลตรงกับภาษาปลายทางอย่างเป็นธรรมชาติ
>>342 ขอบคุณสำหรับตัวอย่าง กูเป็นสายเดียวกับมึงนะ
ถ้าให้พูดแรงๆ ก็คือ เจอสำนวนอย่างนี้ กูเลิกอ่านฉบับแปล ไปอ่านต้นฉบับดีกว่า
เท่าที่กูอ่านประโยคแปลไทย กูนึกประโยคอังกฤษในหัวออกเลยอะ สามารถหามาเทียบถูก
และจะบอกว่าจากที่เพื่อนโม่งช่วยยกตัวอย่างมาให้ มีประโยคแปลผิดด้วย
การสร้างความอัปยศอดสูต่อหน้าธารกำนัลเรื่องหนึ่งแทนที่ด้วยอีกเรื่องหนึ่ง
One public humiliation substituted for another. (But it was easier to kiss a foot than be raped in front of a crowd . . . wasn’t it?)
อันนี้กูว่ามันเรียบเรียงหรือถอดความให้ดีกว่านี้ได้
เช่น ต้องยอมทำเรื่องน่าอัปยศอดสูต่อหน้าธารกำนัลอย่างหนึ่งแทนอีกอย่าง
‘A fight like that—truly magnificent—but with no climax—
การต่อสู้เยี่ยงนั้นช่างวิเศษอย่างแท้จริง แต่ยังขาดจุดสูงสุด
=> กูว่า climax อันนี้อารมณ์ประมาณ การต่อสู้ก็โอเค แต่ยังไม่พีค
เหมือนเวลาดูหนังแล้วมันยังขาดอะไรบางอย่าง มันยังไม่ถึงใจ มันทำได้มากกว่านี้อีก
การต่อสู้เช่นนี้ช่างวิเศษยิ่งนัก แต่ยังไม่ถึงใจ
Laurent turned to him eventually. พักใหญ่กว่าที่ลอเรนต์จะหันไปทางออดินในที่สุด
ผ่านไปพักใหญ่ สุดท้าย ลอเรนต์จึง/ก็เบือนหน้ามาหาออดิน
And then it was over—finally, and unexpectedly ในที่สุดก็จบลงได้ จบโดยเด็ดขาดแบบที่ไม่ได้คาดหวัง
อันนี้ กูว่าคาดหวัง กับคาดคิดต่างกันนะ อันนี้กูว่าใช้ไม่คาดคิด หรือผิดคาด อาจจะเหมาะกว่าไม่คาดหวัง
เพราะมันแบบ จู่ๆ ก็จบแล้วหรือ อ้าว กระทันหันจัง ไม่คิดเลย เป็นความประหลาดใจอะ
และแล้วในที่สุด มันก็จบลงโดยไม่คาดคิด
เหล่าข้าราชสำนักพากันกลับไปเพลิดเพลินกับการฆ่าเวลาโดยแทบจะไม่มีอะไรมาขัดจังหวะแม้แต่น้อย
the courtiers returned, with almost no ripple of interruption, to their afternoon pastime.
เหล่าข้าราชสำนักหันกลับไปทำกิจกรรมฆ่าเวลายามบ่ายดังเดิม ราวกับเมื่อครู่ไม่มีเหตุการณ์ขัดจังหวะเกิดขึ้น
ถ้าจะมีอะไรบางอย่างที่ดูแล้วเห็นได้ชัด ก็น่าจะเป็นการขาดหายของความปรารถนาทั้งหลายที่เขาควรจะมี
Damen doubted he would be able to come for the pleasure of an audience.
If there was anything explicit on view, it must be the absence of all desire to be where he was.
=> อันเนี้ย กูว่าแปลคลาดเคลื่อนนะ ต้นฉบับมันคือ desire to be where he was.
ถ้าดูจากบริบทคร่าวๆ ก็คือ มันมีคนอื่นนั่งดูอยู่อะ แต่ตัว Damen ไม่ได้อยากมานั่งโชว์ให้ชาวบ้านดูตรงนี้ ไม่ใช่ปรารถนาอย่างที่ควรจะมี
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจน น่าจะเป็นการที่เขาไม่อยาก/ปรารถนาจะมานั่งอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่นิด
หรือ หากจะมีสิ่งไหนที่เห็นได้ชัดเจน นั่นก็คงเป็นเรื่อง/การที่เขาไม่ต้องการนั่งอยู่ที่ตรงนี้สักนิดเดียว
นอกเรื่องนิด กูอยากให้วายจีนมีทีมจับผิดแบบนี้มั่งอ่ะ 55555555 เห็นสายญี่ปุ่นกับสายฝรั่งแหกทียกประโยคมาเทียบกันจะๆแล้วฟาดฉัวะๆเลยว่าผิดตรงไหนยังไง แต่วายจีนเหมือนไม่มีคนภาษาแข็งพอจะทำแบบนี้ พวกที่ภาษาแข็งก็ดันเป็นคนเกี่ยวข้องกับสนพ (คนเสนอลิขสิทธิ์ คนแปล) เลยไม่มีใครออกมาแหกกันเอง กูเคยเจอแค่ของพีต้าเองมั้งที่มีคนมาแหกว่าผิดเยอะมากกก (กาเดี้ยนกับลิ่วเหยา) ซึ่งกูว่าถ้าทั้งวายญปวายฝรั่งมันมีแปลผิดแบบนี้ วายจีนแม่งไม่รอดแน่ๆอ่ะ มันต้องมีกรณีที่แปลผิดโดยไม่มีใครจับได้อยู่แน่ๆ
ปล กูใช้คำว่าทีมจับผิดนี่กูไม่ได้ว่านะ กูชม อยากให้สายวายจีนมีคนภาษาแข็งๆคอยเช็กความถูกต้องบ้าง
>>374 อิ้งอ่านง่ายกว่าจริงๆนะเนี่ย กูอ่านแปลไทยที่ยกมา สามรอบสี่รอบ บางทียังไม่เข้าใจ ทั้งที่เป็นภาษาแม่
อ่านประโยคอิ้ง เข้าใจกว่า นี่ขนาดกูไม่ได้เก่งภาษาอังกิดอะไรเลย บางทีกูอยากอ่านนิยายตต.สบายๆเป็นภาษาไทย แต่ติดโรคระแวงว่าเค้าแปลมาให้กูถูกไหม ก็หนีไปอ่านอังกิดแทน ยอมรับว่าอ่านไม่ได้เข้าใจ 100% แต่ยังสบายใจกว่า แต่มันก็เหนื่อยสมอง บางทีเลยไม่ค่อยมีโอกาสได้อ่านนิยายฝรั่ง
นึกถึงเคส cmbyn เป็นนิยายที่เคยอยากอ่าน แต่แรงบันดาลใจให้กูตะลุยอ่านเป็นภาษาอังกฤษมันไม่ได้มากขนาดนั้นสำหรับเรื่องนี้ จะไปอ่านเล่มแปลไทยก็ได้ยินว่าห่วยเหลือเกิน เลยกลายเป็นนิยายดี(ดีไหม? เขาว่าดี)อีกเรื่องที่กูคงไม่ได้อ่าน
>>377 มึงควรทิ้งความคิดที่ว่านิยายตต.แปลผิดเยอะกว่าชาติอื่นไปก่อน ถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆ นิยายตต.มีคนแหกบ่อยเพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใครๆก็รู้ มันเทียบกันง่าย แต่ไม่ได้แปลว่านิยายตต.แปลผิดเยอะกว่านิยายแปลภาษาอื่น อย่างนิยายจีนที่ไม่ค่อยมีคนแหกมันเป็นเพราะคนรู้ภาษาจีนมีไม่เยอะต่างหาก พอมีเคสคนออกมาแหกก็แหกยับเลย เจิ้นหุนคือตัวอย่าง
จริงๆคือนิยาย mm แปลห่วยทุกคนก็ยังไปอ่านอิ๊งเองได้ป้ะ แต่นิยายจีนแปลห่วยยังไงก็ต้องง้อสนพ.ไทยอ่ะ เพราะอ่านจีนกันไม่ออก
>>380 +1 กูว่านี่แหละคือเหตุผลที่วายฝรั่งไม่แมสในไทย เพราะสายนี้อ่านภาษาต้นทางเองอยู่แล้ว พอมีเรื่องดังๆแปลมาก็ดันแปลไม่ดี ขาจรที่ตอนแรกจะอ่านแปลไทยเลยไม่ซื้อแล้วไปอ่านต้นฉบับแทนหรือไม่ก็ไม่ซื้อไปเลย สุดท้ายแม้แต่เรื่องที่ดังเพราะทำหนังก็ยังขายไม่ออก เรื่องไม่ดังยิ่งกริบสนิท มันเลยไม่มีใครอยากทำวายฝรั่งขาย ส่วนวายจีนมันขายดีเพราะคนไทยรู้จีนมีไม่มาก ยังไงก็ต้องพึ่งแปลไทย เหมือนกับที่นิยายเกาหลีเริ่มมาแรงเพราะกระแสเว็บตูนต่างๆ ทำให้คนสนใจนิยายเกาหลีมากขึ้น แต่ไปอ่านภาษาต้นทางเองไม่ออก ส่วนญี่ปุ่นไม่แมสเพราะไม่มี media mix เลยสู้จีนกับเกาหลีที่ชอบเอาวายมาดัดแปลงเป็นม่านฮวา/เว็บตูนต่างๆให้คนรู้จักมากขึ้นไม่ได้ (สังเกตดูวายญี่ปุ่นแมสๆคือเรื่องที่ทำอนิเมะทั้งนั้น และต้นฉบับพวกนี้มันคือมังงะ ไม่ใช่นิยาย)
>>379 "มึงควรทิ้งความคิดที่ว่านิยายตต.แปลผิดเยอะกว่าชาติอื่นไปก่อน"
มึงทักมากูเลยนั่งคิดว่าใช่เหรอ กูคิดแบบนั้นเหรอ
ไม่ใช่นะมึง ที่กูระแวงนิยายอังกิดเพราะถ้ามันมีแปลผิดกูจะเทียบได้
ซึ่งถ้าเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นปุ๊บ กูไม่มีความรู้ กูก็ไม่ระแวงไง เดินดุ่มๆไปเลย
ความไม่รู้ทำให้กูยังไงก็ได้ แต่ถ้าพอรู้บ้างกูก็จะหยิ่งขึ้นมาหน่อย แบบว่าทางเลือกกูก็มีนะ
ขซ ดราม่าไรหว่า
กูไปเผือกมาละ ต้นทางบอกว่าไถเฟซเจอแล้วก็แปะรูปสเตตัสที่ไม่ได้บอกว่าโพสในกรุ้ปไหน เลยคิดว่าเป็นเฟซส่วนตัว เพราะถ้าโพสในกรุ้ป ไม่ต้องรอคนแคปด่าหรอก น่าจะเป็นโพสร้อนแรงไปด้วยตัวเอง
>>397 เอ้ยโทษทีเพิ่งเห็นข้างบนบอกว่าบ่นในเฟซ น่าจะเฟซส่วนตัวด้วย คนแฉนี่เพื่อนขซมั้ยแบบนี้ กูตามทวิตเขามาตั้งนานยังไม่รู้เฟซส่วนตัวเขาเลย ไปไถเฟซนิยายเขาก็ไม่มีเรื่องนี้
มองอีกแง่คือนางบ่นในที่ส่วนตัวนางนะ คนตามแต่นิยายนางคือไม่รู้เรื่อง ไอ้คนแฉเนี่ยใคร เจตนายังไง
ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม อยากเผือกว่ะ โอ้ย 555555
ขซ บ่นในเฟซส่วนตัว ตอนนี้ลบไปละ เมื่อวานมีคนเอาไปลงโอเพ่นแชทโม่ง แล้วก็ลบไป ซักพักก็มีคนเอาไปลงกลุ่มในเฟซ คิดว่าเซฟจากโอเพ่นแชท เพราะเซนเซ่อแบบเดียวกันเด๊ะ จากที่กูตีความคือแซะจล.ว่าทำไมต้องเทียบกับเมกาโลดอน แค่เพราะจู๋พอ.ใหญ่ แค่นั้นหรอ กับดูสารคดีวาฬเพชฌฆาต แต่ทำไมตั้งชื่อลูก+ปกเล่มพิเศษ? เป็นวาฬคนละสายพันธุ์ เหมือนมึงคุยกับเพื่อนว่ามันไม่สมเหตุสมผล แต่ก็นะนิยาย... ที่เพื่อนเม้นว่าทำไมฮุบคือเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวกับสัตว์ทะเล แต่ทำไมเอาทุกอย่างมายำในจักรวาลเดียวขนาดนี้ไรงี้มั้ง แต่คอมเม้นในรีวิวตามรมก็แรงเกิ๊น มีทั้งแส่ ทั้งสร้างกระแส ทั้งหวงของทะเล คือเค้าก็โพสในเฟสส่วนตัวมั้ยวะ ถถถถถ มีไล่ให้นางเอาเวลาไปพัฒนางานเขียนตัวเองด้วย
ทำไมวงการนิยายวายมันดุจังวะ
ทั้งนักเขียน ทั้งนักอ่าน
มีดราม่าตลอดเวลา
ไปมุงในกลุ่มรีวิวตามรมมาละ กูอ่ะไม่เคยอ่านงานเจเล่อเลยนะ แต่กูรู้สึกว่ายิ่งเขาโดนนักเขียนคนอื่นๆรุมแซะบ่อยๆแบบนี้ เขายิ่งดูนางเอกอะ ทวีตที่เขาออกมาบ่นว่านอยด์ที่โดนง้างหมัดใส่ตลอดแม่งดูน่าสงสารมาก อีพวกนักเขียนคนอื่นๆควรรู้ตัวได้แล้วนะว่ากำลังส่งบทสวยๆให้เจเล่อ 55555555
กุรู้สึกว่าจริงๆแล้วนักเขียนที่ในทวิตชอบทำตัวสวยๆ ทุ่งดอกไม้ ทวีตพูดจาจ๊ะจ๋าต่างๆอะสร้างภาพทั้งนั้น 5555555555 ลับหลังแม่งขี้แซะคนในวงการกันทุกคนแหละ วงการนี้มันต้องชิงดีชิงเด่นแย่งคนอ่านกันอ่าเนอะ หลายๆคนเจอคนเขียนนิยายคล้ายๆตัวเองเข้าหน่อยก็ไปชี้หน้าด่าเขาว่าอีนี่ก๊อป ไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีเคสขปไป สร้างภาพกันทั้งนั้นแหละวงการนี้
จริงดิ แก๊งค์จล. มีวีรกรรมอะไรบ้างวะอยากใส่ใจ
>>410 เคสนี้กูว่าจลไม่เสียไรเลยนะ คนรุมด่าขซอย่างเดียว กลายเป็นคนที่มิอาจแปดเปื้อนไปแล้ว
มองในแง่ขซเขาคงมองว่ามันยำมั่ว แม่ดูสารคดีวาฬเพชรฆาต ตั้งชื่อลูกว่าวาฬ(เพชรฆาต) แต่ตรงปกเป็นวาฬหลังค่อม แถมฉายาเมกาโลดอนดันเป็นเป็นวาฬสีน้ำเงิน เหมือนแค่อยากเอาวาฬมายำๆกัน
สรุปคือใครมายุ่งจลก็ซวยไป ถึงพ้อยที่เมิงชี้จะถูกแต่ก็โดนคนด่าอยู่ดี แต่เป็นกูกูก็เล่นบทนางเอก 5555
อ้าว กูก็นึกว่ารู้สึกอยู่คนเดียว เล่นบทนางเอกบ่อยเกิน นิยายบ้งกูอ่านไม่รอดเช่นกัน แม่งดันซื้อเพราะปก
มึง ขซออกมาแล้ว มีคนแคปไปจากเฟซส่วนตัวจริงๆ และขอโทษที่ด่าลงเฟซตัวเอง
https://twitter.com/jaylerqz/status/1429001704091963393?s=21 ซีนนางเอ๊กกก นางเอกกกกก กุรำคาญที่ต้อง . ท้ายปย.ด้วยได้มั้ย 55555
52hz วาฬสีน้ำเงินคือนางไปเอารูปมาจากพิเทอเรส หาปุ้บเจอเลย แต่นางเข้าใจว่าเป็นหลังค่อมเลยเอามาทำปก ไม่รู้ขอมาเปล่า ใครสนิทช่วยถามที
https://www.pinterest.com/pin/562105597236222277/
จลน่าสงสารจริงว่ะ อะไรๆ ก็จลหมด
เห็นว่าขซ.มีประเด็นขี้แซะหลายคน เขานิสัยงี้เหรอวะ กูไม่ตามทั้งในเฟสและในทวิต แต่เคยอ่านนิยายเขานานแล้วปกรณัมสมุทรอะ เพิ่งรู้ว่าของนข.คนนี้ ขอถามเลยบ่ะกันอาจทำให้ฟค.เขาในโม่งไม่พอใจ เขาดังเหรอวะ? เพราะไม่เคยได้ยินชื่อจริงๆ เสิร์ชใน meb ก็ไม่เห็นป้ายแดง แล้วก็เห็นด้วยกับคนในกลุ่มสปอยล์นิดหน่อย ภาษาเขาเขียนนิยายจีนแล้วแปลกมาก
>>424 ก็ดังเฉพาะกลุ่มมั้ง เพราะพล็อตไม่ใช่แนวตลาดอ่ะ
เรื่องขี้แซะกุว่าเป็นกันหมด ตามสันดานมนุดขี้เสือก 5555 แต่แค่จะเอาลงกลุ่มเฉพาะ หรือแชทส่วนตัว หรือลงหน้าเฟสเฉพาะเพื่อนแบบเคสขซ.รอบนี้ หรือลงแอคทวิตหลัก แซะลอยๆแบบแก๊งหมา หรือลงทวิตหลักแบบไม่ลอยแบบขป. มันก็มีหมดแหละ
ป่านนี้นางนั่งระแวงเพื่อนสองร้อยกว่าคนล้ะ 555555555
กุตลกตรรกะพส.โม่ง/ทวิตเตี้ยน/ลูกหาบจล./คนในกรุ๊ปวายบางคนอยู่นะ เวลานิยายคนอื่นบ้ง หรือซีรี่ส์บ้ง แคปมาแซะ มาคิกคักกันเต้ม ไม่เห็นมีใครอยากหลังไมค์ไปหาก่อนเลย มหาลัยไม่มีเข้าแถว8โมง หรือเอมเพร้ก/อมกว.ไม่สมจริงอะไรบ้าง แต่พอเป็นจล.โดนปุ๊บ จล=ทักกี้บ้างล่ะ หรือคนแซะ=โทษประหารบ้างล่ะ ต้องมีมารยาทหลังไมค์ไปก่อนกันขึ้นมาทันที ล่าสุดไปดูโควททวิตขซ. ลูกหาบจล.สอนมารยาทขซ.อีกกรุบ
>>407 กูเลิกอ่านวายไทยแล้ว นขไทยเน่าจริง อย่างมม เห็นนางพยายามตีซี้แก๊งซ505 จล คือนางจะรู้ไหมว่าลับหลังถูก ซ505เม้าตัวเองกับแก๊งเพื่อนนางมาก่อน กูเห็นแล้วตลกดี 5555 สังคมนข.ด่านักอ่านด่าสนพ.แล้วก็ออกกับสนพ.ที่ตัวเองด่าอีกที งงไปหมด เป็นกูชอบนิยายแม่งไม่ลงถ้ามารู่ว่าลับหลังแม่งเคยด่าตัวเองกับเพื่อนตัวเอง แล้วเสือกไม่รู้ไปพยายามตี้ซี้แก๊งมาเฟียอีก 5555 ขซกูยังผิดหวังเลย ทำเอาอยากลบอีบุ๊กที่อุดหนุนแม่งให้หมด ไม่คิดว่าจะเป็นคนยังงี้
>>436 ขปนางแซะลอย แต่ขซนางแซะในโลกของนางไง
นางก็ผิดจริงแหละ แต่เพื่อนที่ลากนางมาแขวนก็พอกัน เพื่อนกันเหม็นกันเอง ตอนแรกคนเห็น234คน เอามาหย่อนในโม่ง โม่งก็งับคาบไปแปะกลางกลุ่มสาธารณะที่มีคน2+6หมื่นคน ถ้าหวังดีจริงโม่งคนนั้นแค้ปให้จลดูเลยยังได้คนเห็นแค่234คน จะเอาไปปล่อยให้มันกระจายไปถึงคน80000คนทำไม มันมีคนจงใจเสี้ยมให้ขซนางโดนแขวนอยู่
กูประหลาดไหมเนี่ย 555 ทั้งเคสขป ทั้งขซ ถามว่าผิดหวังไหม ก็นิดนึง แต่กูปลงแล้วว่าทุกคนทำผิดได้ เวลาทำงานพลาด กูยังอยากได้โอกาสเลย ไม่ใช่ไล่ออก กูก็เลยคิดว่า ในเมื่อเขาขอโทษแล้วก็ต้องให้โอกาส และดูกันต่อไป เรายังอยากให้นักโทษในคุกสำนึกกลับตัวเลย (อันนี้โลกสวยมากกู) ไม่ชอบ cancel culture กับตัวเองยังไง ก็ควรไม่ใช่วิธีการนี้กับคนอื่นเหมือนกัน
ถ้าอยากแซะ มาแซะในโม่งก็จบแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าคนพิมพ์เป็นใคร
ไม่น่าแซะลงเฟซเลย
ขซ.นางขี้แซะจริง แซะตรงๆ โต้งๆ แซะแบบถ้าคู่กรณีมาเห็นคงมีเรื่องอีกหลายคน เพราะชอบเอามาแซะในเฟซแบบแขวนจล.จนเจอตอนี่แหละ หลายคนมากมึงที่โดนนางแขวนลับหลังแบบนี้ทั้งที่ไม่ได้ไปเหยียบตีนนาง
ใดๆคือดราม่านี้ทำให้กูรู้ว่ากลุ่มป้าส้มใหญ่มาก 5555555 กูจอยไว้แต่ไม่ค่อยเข้าไปเพราะคุยกันแต่วายไทย กูไม่ได้อ่าน เพิ่งมารู้จากแถลงขซนี่แหละว่ากลุ่มใหญ่กว่าหมกมุ่นสามเท่า
ขซ.ผิดจริงที่แซะชาวบ้านแต่กูเข้าใจเขาอยู่ นางดูหมกมุ่นเรื่องสัตว์ทะเลพอสมควรพอมาเจอนักเขียนเรื่องสัตว์ทะเลเหมือนกันแต่ดันจับแพะชนแกะ ไอนู่นมั่วไอนี่ผิด กูคงอยากแซะเหมือนกัน นางบ่นในเฟสตัวเองอีเพื่อนก็ดันมือดีแคปมาอีกซวยเป็นบ้า
ขซ ดังในทวิตนะ แต่ไม่ได้ดังในฐานะนิยาย ดังเพราะชอบรณรงค์ให้ข้อมูลเรื่องสัตว์ทะเล สายอนุรักษ์ ยอดรีก็เยอะ ส่วนนิยายก็คงดังในกลุ่มเฉพาะ แต่ไม่แมส
ได้ข่าวว่าเพื่อนที่ไปเม้นว่า ขี้ฮุบ ก็เป็นนักเขียนหนิ ลอยตัวเลยน้าา
ขึ้นชื่อว่าโลกโซเชียลมันก็ไม่มีอะไรส่วนตัว 100% ละงับ
กูตามอ่านม่านี้แล้วเริ่มไม่อยากสนับสนุนนข.ที่กดหัวนข.ด้วยกันเองแล้วว่ะ แม่งจะขี้ฉอดขี้แซะอะไรก็แล้วแต่อ่ะแต่มาเหยียบเพื่อนร่วมวงการกันทำไมวะ แค่เขียนงานตัวเองออกมาให้ดีอย่างเดียวไม่ได้เหรอ
>>456 กูว่าความน่ากลัวของการเป็นนักเขียนคือมึงจะได้รับฟีดแบ็กโดยตรงตลอดอะ แล้วทีนี้พอมึงเป็นนักเขียนมีชื่อในระดับนึง มึงก็จะมีคนคอยอวย คอยโอ๋ คอยซัพพอร์ต ซึ่งจริงๆมันเป็นเรื่องดีนะที่คนพร้อมจะสนับสนุนนักเขียนที่ชอบ แต่ปัญหาคือบางทีมันทำให้นักเขียนเหลิงอะ คล้ายๆกับพวกดาราที่พอมีแฟนคลับก็จะเริ่มเหลิง เริ่มมีอีโก้ ทีนี้ถ้ามึงเป็นนักเขียนสายที่คิดว่าตัวเองมีคุณภาพกว่าคนอื่น พอเห็นนักเขียนที่ตัวเองรู้สึกว่า ข้อมูลแม่งมั่วนี่หว่า ชั้นรีเสิร์ชมาดีกว่าทำไมอีนั่นดังกว่าวะ งานชั้นก็ดีมีคนอวยทำไมไม่แมสบ้างวะ มึงก็จะเริ่มมีความเหม็นและอยากแซะอีนั่นของมึง จุดนี้กูว่ามันก็เรื่องธรรมดาของมนุษย์อะ 555555 ฟีลแบบ ทำไมเราทำดีกว่าแต่อีนั่นมันได้ดีกว่าวะ มันเกิดขึ้นได้แหละ แต่นักเขียนหลายๆคนดันหัวร้อนไปหน่อย เผลอแซะในที่สาธารณะ แซะลงทวิตบ้าง แซะลงเฟซปิดเพราะคิดว่าปลอดภัยบ้าง มันเลยเป็นเรื่องกันบ่อยๆ จริงๆถ้าแค่นัดเพื่อนนักเขียนไปตั้งโต๊ะเมาท์กันเองตามโต๊ะชาบูก็ไม่เป็นเรื่องหรอก แต่ยุคนี้จะนัดกินข้าวด้วยกันยังลำบากเลย นักเขียนต่างคนต่างก็อยู่บ้านอ่านะ พอคันปากยุบยิบก็คงไม่รู้จะเมาท์กะใคร แซะลงโซเชียลแม่งเลยนี่แน่ะ 5555555555
>>456 เป็นเหตุผลว่าทำไมควรตามแต่ผลงาน เพราะมันจะสนุกกว่า กูเชื่อว่านักเขียนชาติอื่นก็มี แค่ดราม่าไม่ถึงหูเรา ไม่งั้นขายหนังสือไม่ออก
>>457 สำหรับเคสขซนี่กูว่าเขาซวยจริง 5555555555 แต่คงระวังตัวมากขึ้น ถ้าไม่เกินเยียวยาโนสนโนแคร์อะนะ
>>458 ใช่เลยมึง ทุกคนมีอารมณ์ได้ แต่ต้องควบคุมตัวเอง ยิ่งเป็นการพูดในที่สาธารณะ
>>440 มม นี่ไม่แน่ใจว่าหมายถึง นขวิศวะที่ได้ทำซีรีย์หรือ นขอีโก้สูงเสียดฟ้า ทำเล่มเอง ทำผิดบานตะไท ใครแนะ ใครติ ประจาน จนไม่นานมานี้ต้องออกมายอมรับว่าตัวเองผิดเพราะคนอ่านน้อยลงมาหรือเปล่า
>>445 ไม่ใหญ่ได้ยังไง ตั้ง 60000 กว่าเลยนะมึง เป็นกลุ่มนิยายวายที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ แอดมินดูแลคนเดียวนะ อย่าดราม่าเยอะ กระทบจิตใจแอดมิน
>>458 จริงมึง หลายคนแต่ก่อนกับตอนนี้ต่างกันมากจริงๆ
>>462 มีอยู่สองสามรอบมั้ง แค่เฉพาะปีนี้นะ รอบแรกดราม่าเรื่องแปลงฟิคเป็นออริ แอดมินบอกกลุ่มนี้ไม่สนใจ ขอเป็นนักอ่านก็พอ มีคนบอกว่ามันผิดลข. นะแอดมินไม่ควรส่งเสริมอะไรพวกนี้ แต่ก็ถูกลบไป เรื่องสองก็ที่มีคนบอกว่าแอดมินดังแล้วเหลิง แอดทินออกมาดราม่าน้ำตาไหล ดูแลกลุ่มคนเดียว ทำกลุ่มแล้วไม่ได้อะไร อย่าใจร้ายกันเลย เรื่องสามก็ที่ดราม่านิยาย 3p 4p นิยายผิดศีลธรรม แอดมินก็หวั่นไหวเกือบเลิกทำกลุ่มอะ โดยส่วนตัวกูไม่เชื่อว่าไม่ได้ผลประโยชน์ อย่างน้อยต้องมีนข.ส่งนิยายให้นางอ่านฟรีแน่นอน
>>464 ไม่มั้งมึงเขาบอกว่าเป็นผญ. มีครอบครัวแล้ว มีลูก น่าจะเป็นผจก. ตำแหน่งใหญ่ด้วยนี่นา
>>459 จะว่าซวยก็ไม่เชิงว่ะ ได้ยินมาจากหนึ่งในเฟรนด์นางว่านางชอบแซะในเฟซส่วนตัวเป็นปกติอยู่แล้ว ทำมาแล้วหลายครั้งอะ เพิ่งมาครั้งนี้ที่โดนมือดีแคปมาเผยแพร่ต่อ ควรเรียกว่าประมาทเพราะนึกว่าแซะในเฟซส่วนตัวแล้วจะปลอดภัยมากกว่า ส่วนเพื่อนนักเขียนที่ไปผสมโรงแซะด้วยนั่นโชคดีที่ไม่มีใครชี้เป้าเลยรอดไป สร้างภาพนักเขียนคุณภาพดีที่ไม่แมสแต่ก็จะพยายามค่ะ!ต่อไปแบบสวยๆ
>>437 น่ากลัวสัส ชอบงานใครนี่ไม่รู้เลยว่าลับหลังแม่งแอบด่ากุมาก่อนงี้ เผลอไปเลียตีนสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เลยนะ ใครจะรู้ว่าลับหลังแม่งเคยเม้าอะไรไว้ แต่ดูท่านางคงยอมเพราะเกาะได้ ได้ยอดรีงานได้กลุ่มใหม่ นข.กลุ่มเดิมนางแป๊กกันหมดแล้ว ต่อให้ซ505ด่าลับหลังยังไงก็คงทำมึนได้แหละ
>>440 กูเผือกมาละ น่าจะเป็น มม ที่ตอนนี้เปลี่ยนนามปากกาเป็น บร นขเฟียสๆสมัยเด็กดีรุ่งๆ เคยด่านักอ่านกับ ซายซี่อ เพื่อนรักสมัยเฟียสๆ ท็อปเด็กติดลมบนเพราะปั้มวิว
KY กูพึ่งเห็นว่าสมัยนี้กระดาษยับในเล่มถือเป็นตำหนิร้ายแรงที่ต้องเคลมให้ได้ไปแล้ว ต่อไปกูอ่านเรื่องไหนกูต้องหากระดาษมาจดทุกหน้าไหมวะว่าตรงไหนมีรอยอะไรบ้าง 5555555
กูว่าสนพ.ก็สปอยล์คนอ่านจนเคยตัวด้วยอะ มีตำหนินิดหน่อยก็ยอมให้เคลม ความปสดของคนอ่านเลยลุกลามขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสนพไม่ให้เคลมแต่แรกยกเว้นเคสร้ายแรงจริงๆแบบกระดาษขาดหรือหน้าหาย พิมพ์เคลื่อน คนอ่านก็ไม่ปสดกันขนาดนี้ ลองไปดูพวกสนพ.ทั่วไปที่ไม่ใช่วายสิ กูว่าไม่ค่อยมีใครเค้าใจดีแบบนี้หรอก
คนที่มาดราม่าสภาพเนื้อใน พวกรอยยับกระดาษ หมึกซึมหรือเปื้อนเป็นบางจุดอะไรงี้ ล่าสุดรอยข่วนๆ(แต่ลักษณะนี้กุก็ไม่ค่อยเจอเท่าไหร่)นี่กูก็สงสัยคือเพิ่งเคยซื้อหนังสือครั้งแรกก็คือกลุ่มหนังสือวายเลยเหรอ คือถ้าเคยซื้อมาเยอะ มานานมันน่าจะรู้มั้ยว่าของพวกนี้มันพบได้บ่อย แล้วสนพ.ไม่ถือว่าเป็นตำหนิ แล้วทำไมเพิ่งมารุมดราม่าจะเคลมตามๆกันในช่วงนี้ ที่ผ่านมากุซื้อก็เจอพวกนี้ประปรายมาตลอดนะ
กูว่าคนมันเครียด พยายามระบายด้วยการมีพาวเวอร์เหนืออะไรสักอย่างที่ทำให้หายเครียด เช่นการช้อปปิ้ง หรือการเคลมหนังสือที่ผู้ผลิตแม่งก็ยอมเขาง่ายๆ เพราะกลัวจะเสียลูกค้า กลายเป็นสันดานเสียกันไปหมด คนนี้เคลมได้ คนนั้นก็ต้องเคลมได้ ขาดก็ไม่สนเพราะเธอผลิตมาห่วยแตกเอง
KY ทำไมเรื่องฉลามของ L ล่าสุดถึงได้ยกเลิกการขายใน meb วะ วันนี้กูเผลอปัดไปเจอพอดีเลยเข้าไปส่องหน่อย
พอ.นอ.ที่เหี้ยกับคนทั้งโลกดีกับเธอคนเดียว พอมองจากมุมตลค.ในเรื่องนิดูน่าตบเหมือนกับเนอะ แนวๆแบบโลกที่ไม่มีเธอก็ไม่มีค่าควรอยู่ ไรงี้ แต่ถ้ามองจากมุมนักอ่านก็น่ากรี๊ดล่ะ 555
>>478 กูก็ชอบแบบที่มึงว่า พระเอกที่มีสมองอะ ไม่เหี้ยกับคนทั้งโลกต้องรู้จักปฏิบัติกับคนทั่วไปแบบปกติมีมารยาทแล้วคลั่งรักนายเอกเป็นพิเศษ ไม่ใช่หลงหลับหูหลับตาแบบบางเรื่อง ยิ่งเป็นบทมาเฟียไรงี้ ยังไงต้องมีผลประโยชน์บลาๆถึงจะมีอำนาจแค่ไหนก็ต้องระวังไปล่วงเกินใคร กูอ่านแล้วเจอขำเหมือนนักเลงวางอำนาจมากกว่ามาเฟีย
กูขอสรุปเรื่องที่กำลังคุยกันในมู้ชั้นมามู้นี้ตามที่กูเข้าใจผิดตรงไหนแก้ให้กูด้วยกูเผือกเท่าที่เผือกได้
เริ่มจากมีโม่งมาเปิดประเด็นสนพที่พึ่งประกาศแอลซีเรื่องใหม่ เหมือนจะอาศัยแปลเถื่อนมากระตุ้นกระแสเรื่อง มีสนพเป็นเบื้องหลังการแปลเถื่อน ประกาศปิดเพราะได้ LC เรื่องสักพักเปิดพรีได้เลยเป็นเรื่องแปลก น่าจะมีการแปลการจัดหน้าทำปกต้องใช้เวลา อันนี้เป็นการตลาดของสนพนั้นมั้ยที่ใช้แปลเถื่อนมากระตุ้นนักอ่าน เลยมีโม่งที่ไม่พอใจกับการตลาดนี้เพราะก็ไปดอยงานนักเขียนที่ลงเว็บมาใช้ฟรีสร้างมาร์เก็ตติ้งก่อน กับโม่งที่โอเคเพราะเป็นวิถีช่องทางของสนพเล็กๆที่ใช้ปั่นกระแส อีกประเด็นมีคนยกเรื่องของสนพนี้ที่นักเขียนไปดอยรูปแฟนอาร์ตญ.มา แล้วไม่ยอมเปลี่ยนปกพอมีคนไปทัก สุดท้ายสนพก็ให้ออกงานเหมือนเดิม ไม่จัดการไรกับนักเขียนเรื่องนี้
ส่วนตัวกูว่าเรื่องการตลาดแปลเถื่อนมีมูล กูยกตัวอย่างพี่อวี้ สนพได้แอลซีในเว็บจจ.เดือน 4 บอกให้หยุดแปลเดือน 5 เปิดพรีเดือน 7 กูไม่เชื่อว่ามาเริ่มแปลหลังได้แอลซี ไม่มีทางแปลงาน ดีลปก จัดหน้า คิวโรงพิมพ์ได้ในระยะเวลาเท่านี้กูเชื่อว่ามีการเตรียมการล่วงหน้ามากก่อนวันที่เว็บจจ.บอกว่าได้แอลซีแน่นอน น่าจะมีการแปลล่วงหน้าอยู่แล้วด้วย
กูว่าทำได้ถ้ามีคนแปลรอแสตนบายอยู่แล้ว เมิงดูสยามทำกลอรี่แล้วจะรู้ว่าถ้าสนพมันเอาจริงเดือนเดียวมันก็ทำได้ แถมควเป็นสนพเล็กไม่ได้มีลขในมือหลายเรื่อง ถ้ารวมคนมาทำเรื่องนี้เรื่องเดียวช่วยกันพรูฟช่วยกันจัดรูปเล่มเดี๋ยวก็เสร็จ
ต้องไปดูว่าใครแปล ถ้านักแปลดังๆก็ตัดทิ้งได้เลย
>>484 ถ้าคนแปลคนเดียวไม่ทันนะมึง ยกเว้นมึงจะเป็นท่าน ว ที่แปลเดือนละเล่ม อย่างกลอรี่ ที่มึงยกตัวอย่าง นป เคยบอกว่าแปลสต็อคไปแล้วเกือบครึ่งถึงจะเริ่มขาย และยังต้องมีระยะเว้นช่วงอีก 2-3 เดือนด้วย แต่ นป ไม่ได้มีแค่แบบแปลคนเดียว ชญ ที่กูรู้จัก (คิดว่ามึงก็รู้จักและเป็นที่รักของชาวโม่ง) ก็จ้างเป็นตอนๆ 5-10 ตอน แล้วตามตบๆ เอา ทีนี้มันก็อยุ่ที่คุณภาพงานละ กะปิน้ำปลาเติมได้เต็มที่แล้วแต่ สนพ จะสะดวก
>>484 กูไม่รู้ว่ามันสยามมันประกาศแอลซีกลอรี่แล้วสองเดือนต่อมามันออกได้เลยมั้ยนะ กูได้ยินข่าวว่าสยามได้แอลซีเรื่องนี้ก่อนมันประกาศสักพักหนึ่ง กูไม่รู้ว่ามันแปลสต็อกไว้ก่อนแล้วค่อยออกหรือป่าวเพราะกูไม่ได้ตามกูไม่รู้ไทม์ไลน์ แต่สยามมีโรงพิมพ์เป็นของตัวเองและนักแปลก็มีประสบการณ์อยู่แล้วก็มั่นใจว่าได้งานแน่ๆ แต่คว.ถ้าไม่ทีแปลสต็อกไว้กูว่าไม่เร็วขนาดนี้หรอก ได้เดือนสี่ เดือนเจ็ดเปิดพรีเลย มึงว่าสามเดือนกับสองเล่มหนานี่นักแปลต้องเทพขนาดไหนวะถึงจะแปลทัน จะบอกว่ายังแปลไม่เสร็จก็เปิดพรีได้ งั้นสนพต้องมั่นใจในตัวนักแปลคนนั้นแค่ไหนถึงมั่นใจว่านักแปลจะส่งงานทันตามระยะเวลาที่กำหนด ไม่เบี้ยวงาน ไม่เรทแน่นอน เพราะเปิดพรีแล้วมีเวลาส่ง อันนี้ในมุมกู
เอาแบบมองโลกในแง่ดีสุดๆ สนพ.อาจะได้lc มาซักพัก อาจอยู่ในขั้นตอนการแปลดิลปกดิลโรงพิมพ์แล้ว แล้วมีคนเอามาแปลเถื่อนพอดี กรณี1.ปล่อยคนแปลเถื่อนแปลไปเลี้ยงกระแส พอสนพ.แปลใกล้เสร็จก็มาแสดงตัวกับคนแปลเถื่อนให้หยุดแปล กรณี2.ได้lc มาเวลาใกล้เคียงกับที่คนเอามาแปลเถื่อน แสดงตัวว่าได้lcให้เถื่อนหยุดแปล เร่งแปลให้เสร็จก่อนกระแสหาย(อาจเป็นสนพ.เล็กที่มีlcในมือไม่กี่เรื่อง ไม่ได้ใช่ใช้นักแปลดังหรือดังแต่ดิลคิวแปลไว้ล่วงหน้าแล้ว ปกใช้นักวาดไม่ได้ดังมากคิวไม่ยาวหรือถ้าดังก็เป็นคนทำงานไว หรือซื้อปกของver.จีนมาด้วยเลย)
>>487 อ่านอยู่ มันแปลเดือนละเล่ม เว้นช่วงที่ไปแปลเรื่องอื่นก็เป๋ไปพักใหญ่ๆ
ทำไมเมิงมั่นใจจังวะว่าควบมันต้องแปลตุนแน่ๆต้องจับมือคปเถื่อนแน่ๆ อ่านทฤษฎีสมคบคิดมากไปมั้ย ถึงมันได้ลขมานานแล้วฮุบไว้ก็ไม่ต่างจากโรสอมฮัสกี้เปล่าวะ ค่ายไหนๆก็เก็บเงียบทั้งนั้น นิยายหลายเรื่องก็มีแปลเถื่อนทั้งนั้น มาเป็นประเด็นที่ควบ
กูไม่ฟันธงว่าควมีส่วนกับแปลเถื่อนไหม แต่คนก็มีสิทธิสงสัยได้นะว่าเกิดกรณีไหมถ้ามีข้อสงสัยอ่ะ
>>493 กูว่ายังไงก็เห็น พี่อวี้แปลมาสักพัก ก่อนจะซื้อแอลซียังไงสนพก็ต้องรีเสิชข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช็คกระแสเป็นไงอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะไม่เห็นแปลเถื่อนในรอรเรื่องนี้เด็ดขาด
>>495 กูไม่ได้อคติ กูมองตามความจริง ก่อนจะซื้อแอลซีสนพต้องเช็คหลายอย่าง เช็คตลาดเช็คพล็อตบลาๆ เพราะเสียเงินเป็นแสน พอมึงบอกว่าสนพไม่เห็นเลยกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในสายตากู กูตัดความน่าจะเป็นนี้ออกอย่างแรก จะเชื่อหรือไม่ก็ไม่ค้องเชื่อ ไม่ต้องมาอคติกับคนที่เถียงมึงก็ได้ว่าว่าเขาอคติกับคว.
>>497 อ่ะ ตั้งแต่กูพูดมา กูบอกแค่ว่าเรื่องแปลไว้ก่อนและใช้กระแสแปลเถื่อนอาจจะจริง แต่เรื่องเบื้องหลังเกี่ยวข้องไหมกูไม่รู้ และกูไม่เคยมาอ้างอิงทฤษฎีสมคบคิดอะไรอย่างที่มึงพูด กูบอกว่าเรามีสิทธิสงสัยได้ มึงนี่เป็นนักอ่านจริงไหมนิ ทำไมตกการคิดวิเคราะห์อ่านจับใจความไปได้ และที่กูบอกว่าตามความเป็นจริงคือกูใช้ตรรกะในการคิดอ่ะ การที่เงินจะจ่ายออกไปได้ในมูลค่าที่สูง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือบริษัทต้องมีการพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนอนุมัติโปรเจ็กจ่ายเงิน และกูเห็นสนพอื่นเขามีรีพอตรีเสิชแบบนี้จริงๆ กูอาจจะผิดอย่างที่มึงว่าก็ได้ว่าไปตัดสินว่าคว.มี โทษๆน้า ก็ว่าอยู่ว่าคว.อาจจะไม่มี เพราะไม่งั้นเรื่องที่ซื้อมาคงไม่มีจุดบ้งอยู่หลายเรื่องอ่ะเลยไม่แมสสักที กูลืมคิดเรื่องนี้อ่ะ ซอรี่น้า
กูถามพวกมึงจริงๆนะ พวกมึงไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าการอนุมาน การพยายามหาข้อสรุปจากการเอาจุดเล็กๆมาประกอบเป็นจุดใหญ่มาก่อนเลย หรือพวกมึงแค่เป็นลูกหาบสนพ.
ถ้าพวกมึงไม่เคยคิดจะตั้งคำถาม ไม่เคยสงสัยว่าไอ้สิ่งนั้นสิ่งนี้มันมีอะไรอยู่เบื้องหลังรึเปล่า กูว่าพวกมึงควรไปเช็กตัวเองก่อนค่อยออกมาดีเฟนด์ให้ใคร การสงสัยแล้วพยายามหาคำตอบไม่ได้เท่ากับการสร้างทฤษฎีสมคบคิดไปซะทุกอย่างนะสาส เวลาคนเขาวิเคราะห์การตลาดวิเคราะห์ธุรกิจเขาก็เอาจุดเล็กจุดน้อยแบบนี้แหละมาวิเคราะห์กัน
>>500 เมิงรู้ได้ยังไงว่าไอ้ข้อสงสัยที่เมิงสงสัยเหล่านี้มันเป็นความจริง เมิงมีหลักฐานอะไร มีใครเล่ามาพยานบุคคลที่123 นอกจากการมโนจับแพะชนแกะแล้วมั่นใจว่ากูถูกแน่ๆ มีใครมาแย้งก็ไม่ฟัง ทั้งๆที่เมิงพิสูจน์ไม่ได้ด้วยซ้ำว่าส่วนไหนจริงไม่จริง การที่เมิงเอามาวิเคราะห์กันในนี้บางส่วนก็ตีความไปแล้วว่าจริงแน่นอน100% ถ้าสุดท้ายแล้วสรุปคือการตลาดโง่ไม่ได้รีเสิร์ชไรเลย เมิงจะแก้ไขยังไงกับไอ้คนที่มันเข้ามาอ่านแว้บเดียวแล้วสรุปว่าควบสมคบแปลเถื่อนว่ะ
ที่เมิงคุยๆในนี้จะไปต่างอะไรจากการนั่งนินทาเจ๊ข้างบ้านว่าเป็นหรี่ อาจจะเป็น เป็นแน่ๆกูสงสัย จากการวิเคราะห์ของกู กูเชื่อแบบนั้นกูวิเคราะห์ตามหลักหรี่ศาสตร์ กูสรุปแล้วกูอนุมานว่าอีนี่เป็นหรี่แน่นอน
ทำไมทีเรื่องห้าร้อยหยวนไม่เห็นมีใครด่าหรือตั้งข้อสงสัยอะไรเลย เรื่องนั้นให้คนแปลเถื่อนแปลเล่มเลยด้วยนะ ทั้งๆที่คนแปลเถื่อนแปลจากอิ้ง
ใครมีซีรียส์วายๆมาแนะนำนี่ทีพึ่งดูปรมจจบชอบมากกอยากได้แนวๆนี้ ถ้าผิดมู้บอกนะปกติกุเล่นแต่มู้เกม ขอบคุณมากๆ
ปจบ.กุคงไม่มีโอกาสได้เห็นปกวายทำแบบอื่นนอกจากปกตลค.แล้วมั้ง
กูอะ ชอบปกตัวละครมากกว่า แต่ปกแบบผชสปนก็สวยดี พอถึงเวลาจะซื้อจริงๆถ้าเป็นเรื่องที่อยากอ่านกูไม่แคร์นะว่าปกมันจะเป็นยังไง นิยายในบ้านกูมีปกไม่ตัวละครเยอะแยะ แต่สายชอบปกไม่ตัวละคร (มันเรียกว่าไรวะ ปกกราฟฟิก? ปกทิวทัศน์?) ชอบออกมาตัดพ้อน้อยใจ ปกตัวละครแมสกว่า ปกเรียบๆไม่แมส บลาๆๆ เหมือนคนชอบปกตัวละครผิดที่ชอบปกตัวละครอะ เก็ทปะ 555555555 บางทีกูเห็นแล้วก็อิหยังวะนิดนึง แค่นี้แหละกูบ่นเฉยๆ
มันมีเรื่องของพาวเวอร์ในการดึงคนมาซื้อด้วย ถ้ามีฟค.อยู่แล้ว มึงจะออกปกอะไรมาคนก็ซื้อ แต่ถ้าจะดึงคนนอกมาสนใจ มันต้องใช้พาวเวอร์ของปก มันทำให้นักวาดค่าตัวแพงไง ปกใครมีพาวเวอร์ในการดูดคนมากๆ นั่นเป็นค่าตัวเขาด้วย แล้วส่วนมากยังคลั่งปกตัวละครว่ะ
นิยายวายแปลไม่ทำอีบุ๊คอีกแล้ว orz
ปกโอตาคุนี่แสดงให้เห็นว่าคนปสดเยอะจริง กูสงสารลล เลย เขาอ่านมาก่อนแล้ววาด ไอ้คนที่บอกไม่ตรงคาร์นี่อ่านยังวะหรือแค่ยึดปกไต้หวันเฉยๆ
จะชอบปกแบบไหนก็ไม่ผิดทั้งนั้นกุว่าที่บางคนบ่นปกตัวละครกัน คงเพราะพฤติกรรมคนบางกลุ่มในนกฟ้ามากกว่า
นกฟ้าเรื่องไหนแมสจะไม่มีโอกาสได้เห็นปกอื่นนอกจากปกตัวละครที่ต้องมีปกคู่เกินหนึ่งปกต่อหนึ่งเรื่อง ติดปกคู่สร้างคู่สมมากันเหรอค้าาาาาา
ดราม่าปกโอตาคุจากสีผมพระเอกมาสีเสื้อนายเอกละ มาถึงจุดที่เถียงกันว่านายเอกเป็นคนสดใสรึป่าวด้วย เอากันเข้าไป
>>519 ขอบ่นหน่อย สนพไม่ถูกใจทำไรก็ผิด ส่วนมากก็อ่านอิ้งเถื่อนกัน แล้วมาบอกว่าเราอ่านมาเราตีความงี้ ชี้ว่านั่นนี่ผิด นักวาดที่อ่านต้นฉบับจีนโดนด่าต่อ พออิกุหลาบมันเปลี่ยนให้ด่าก็ยังด่ามันอีก ถ้ามันไม่เปลี่ยนมันก็โดนด่า ทุกคนจะเอาแต่ใจกันไปไหมวะ มันเรื่องความชอบไม่ชอบการตีความ มึงก็ด่าแบบจะฆ่ากันตายแล้ว พอกระแสตีกลับก็ออกมาบอกว่าไม่มีใครว่าเรื่องผมพระเอก เอาจริงทวิตเสิชง่ายมากนะ ลองเสิชเเท็ก+คำว่าผม ก็เจอเเล้วว่ามีคนว่าปกมันสีผมผิด พอซื้อปกไต้หวันตามใจก็บอกว่าทำงานมักง่าย ชุ่ยขี้เกียจ ทำไมไม่จ้างวาดปกใหม่ ก็ตอนนั้นพวกมึงเรียกร้องว่าปกไต้หวันสวยกว่าจะเอาปกไต้หวันกันไม่ใช่หรอไปๆมาๆกระแสตีกลับ นักวาดก็อ่านนิยายก่อนวาดก็มาด่าว่าที่ไม่ซื้อเพราะไม่ชอบสนพทำงานให้ดีแต่เเรกไม่ได้หรอ คือไง ปกแรกมันก็ดีแล้วไง สรุปไม่ชอบอิกุหลาบแต่พองานมันออกนี่ตามด่าคนแรก กูตามเผือกจนรู้อย่างหนึ่งคือคนมันยอมรับไม่ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันผิดไม่ได้ มันต้องเป็นความเห็นที่ถูกต้องที่สุดและชั้นต้องได้ อีกอย่างคืออ่านอิ้งเถื่อนสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าเราแปลอิ้งมาว่ะ ว่าซั่น กูควรโซเชียลดีท็อก ปสดตาม
มีเยอะนะเมิงพวกคนที่ปสดหนักขนาดว่างานไม่ซื้อแต่ตามด่า แถมเชิญชวนคนอื่นให้มาด่าด้วย ไม่ต้องในทวิตหรอกในโม่งเนี่ยแหละ โผล่มาทุกอาทิตย์ เจ้ากรรมนายเวรชิบหาย
ไปมุงมาละงง เห็นบางคนบอกไม่ใช่เพราะสีผมแต่เพราะไม่ตรงคาร์
งานไม่ซื้อแต่ตามด่ามีจริง ดราม่าขนมหวานเลย
>>520 สนพไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด
สนามอารมณ์ต่อจากสนพขนมหวาน
พอกูออกมาแก้ต่างให้ ก็ด่ากูกันต่อ
ถ้าดราม่าเรื่องแปลผิด+คำผิด คงไม่มีคนออกมาแก้ต่างให้หรอก เพราะมันผิดจริงๆ
แต่ที่กูเห็นปัจจุบันคือดราม่าหน้าปกไม่ถูกใจ
ต้องใช้คำว่าไม่ถูกใจนะ ไม่ใช่หน้าปกผิด
บางทีพวกไม่พอใจ มันแค้นมาจากเรื่องเก่า ไม่ใช่เรื่องปัจจุบันหรอก บางทีก็ต้องแยกแยะเป็นเรื่องๆนะ บางเรื่องสนพผิด อันนี้ด่าได้
แต่บางเรื่องสนพไม่ผิด จะเอาเรื่องเก่ามาด่าไม่ได้ แบบนี้กูเรียกว่าไม่แยกแยะ
ผิดที่คนบรีฟด่าลามไปคนวาด ถุย ปกเลล่าวาดไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่ปกที่บรีฟมาแบบนี้เก็ตปะ บางคนก็กล้าเนอะบอกคนส่วนใหญ่ไม่ชอบเลล่า เขาชอบแต่ไม่ชอบที่บรีฟออกมาแบบนี้ มึงไปเอาความมั่นใจมากจากไหน สายเนียนด่าสองสามคนกูเห็นนะ
+1 คือพักหลังเรื่องที่เอามาม่ามันแบบไม่เข้าท่าอ่ะ มีแต่ประเภทไม่ถูกใจ ปกไม่คู่ สีไม่โดน แบ่งเล่มไม่ถูกใจ หนังสือไม่กริบทุกตารางนิ้ว แปลเหี้ยแบบสำนวนไม่ถูกใจ ใช้คำที่กูไม่รู้จักไม่ชิน ของแถมไม่กริบไม่ยอมให้เปลี่ยนแย่มาก และอีกสารพัดที่มันดูแบบแดกจุด ถ้าติมาเป็นฉากๆว่าแปลผิดแบบผิดความหมายไปเลย คำผิดเยอะ คือติที่เนื้องานด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ครส.ส่วนตัวจะมีใครมาดีเฟนซ์สนพ.ล่ะ นอกจากนั้นสนพ.แม่งก็ดิ้นไม่หลุดด้วยเพราะมันคือข้อเท็จจริง
กูไม่เห็นด้วยเรื่องด่าคนบรีฟปก ทำไมพอด่าคนวาดไม่ได้เลยลามไปด่าคนบรีฟ นักวาดก็อ่านมาเหมือนกันก็ตีความได้แบบนี้เขาก็ออกมาบอกแล้ว ก็ไปด่าว่าบรีฟแย่ฟรีฟผิดพลาด ความจริงมันก็แค่บรีฟไม่ถูกใจ คนไม่ชอบก็หาทางจัดการกับอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยหาคนมารับกรรมเป็นสนามอารมณ์เรื่องนี้ต้องมีคนผิดต้องมีคนตาย
>>531 ไม่เป็นไรกูก็งง แต่คือมีคนด่าแล้วไงจนเลล่าออกมาพูดอะ แต่กูไม่ใช่แฟนคลับนะ555 จำชื่อได้เฉยๆ
เรื่องที่สนพ.ควรรับฟังคือพวกแปลเรื่องจัดอะไรเกี่ยวกับเนื้อหา ปกไม่ถูกใจมันไม่ใช่อะ จะมาอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้ มันไม่ได้แย่แบบบูดเบี้ยว พอไม่พอใจก็ลามไปด่าจนได้ ที่กูว่าคนบรีฟเพราะมีหลายความเห็นเขาไม่ตะงิดอะไรกับสีบลาๆ เขาแค่ว่าโพสมันเหมือนเรื่องทะลุมิติซึ่งมันผิดที่คนบรีฟไง
>>530 สำหรับกูเรื่องนี้กูเลยเรื่องนี้กูไม่เห็นด้วยที่จะให้ด่าใคร ไม่ต้องหาใครมารับผิดชอบ กูไม่มีปัญหาเรื่องคอมโพสต่างๆด้วย เห็นคนด่าว่าเลล่าวาดหน้าเดียวเหมือนวาดปกทะลุมิติเล่มพิเศษ แต่กูมองว่าปกโอเคและไม่เหมือนทะลุมิติ เหมือนที่เคยคุยกันในโม่งมาล้านแปดรอบได้ ว่ามันเป็นเรื่องรสนิยมจะเอาอะไรมาวัดความถูกผิด แค่บรีฟไม่ถูกใจต้องตัดสินว่านี่บรีฟผิดบรีฟแย่ห้ามบรีฟแบบนี้เลยหรอ
>>533 กูไม่ด่าฝั่งสนพ ไม่ด่าเลล่า กูด่าไอพวกปสดเรื่องหน้าปกนี่แหละ
เอาตรงๆเจอพวกนี้บ่อยๆเข้า กูรู้สึกว่าวงการนักอ่านนี่ ไม่ค่อยพกสมองมาด้วยสักเท่าไหร่เลยนะ
เอะอะก็โทษฝั่งสนพ ไม่ได้มองดูตัวเองเล้ยย ว่าปสดไปรึเปล่า
ไม่ยักรู้ว่าในวงการนักอ่านวาย จะมีคนพวกนี้อยู่เยอะ
วันหลังก็ปกแบบจีนแผ่นดินใหญ่ สีเรียบๆ ตัวอักษรชื่อเรื่องพอ กูชอบนะมึง 5555 ถือไปไหนมาไหนก็อุ่นใจดี สายอ่าน = จินตนาการเป็นเลิศอยู่แล้ว ราคาหนังสือจะถูกลงมะ? 🤣
กูอยากคุยเรื่องห่อปกหนังสือ คุยมู้นี้ได้มะ
ปกติกูห่อด้วยพลาสติกแบบม้วนๆ ห่อเอง ไม่ติดสก็อตเทปนานแล้ว บางเล่มเก็บนาน ปกมีหดมีย่นเป็นลอนๆบ้าง เพราะอากาศร้อน
ทีนี้ช่วงนี้เทรนด์ปกขุ่นกำลังมา ปกม้วนขุ่น น่าจะขุ่น pvc มั้ง กูอยากรู้มันดีกว่าปกใส pvc ไหม กูลองห่อแล้วมันจะหนาหน่อย ค่อนข้างบดบังภาพบนปกพอสมควร แต่ก็ถือว่าห่อง่ายกรีดพับง่าย ไม่ต่างกับแต่ก่อน แต่กูไม่มั่นใจตรงที่มันก็ยังเป็น pvc อยู่ดี
ไหนๆเปลี่ยนแล้ว ทีนี้เอาชัวร์อีกทีก็ปกม้วน pp ถนอมหนังสือ มีทั้งแบบขุ่นแบบใส แบบขุ่นก็บางกว่าปกม้วนขุ่นร้านที่คนชอบซื้อกัน ไม่ถึงกับบังภาพปกมากนัก แบบใสก็ใสกิ๊งเลย ไม่ใสอมเทาอมฟ้า ห่อแล้วสวยดี
แต่กูเจอปัญหาปก pp ห่อยากมาก กูว่ากูห่อเก่งแล้วนะ ปกติกรรไกรอันเดียวอยู่ อุปกรณ์อื่นไม่ต้อง แต่นี่ไม่ได้เลย ยิ่งpp แบบใส ดิ้นมาก พร้อมที่จะม้วนกลับหลอดเสมอ สองมือแทบไม่พอจับ แล้วพอห่อเสร็จ ปกมันไม่ค่อยดูดกันเองแบบปกพลาสติก pvc ด้วย มันจะเด้งหลุดจากหนังสือง่าย ทำให้ถ้าไม่ติดเทปแล้วมันจะไม่ค่อยอยู่
สุดท้ายกูเลยห่อปก pp ติดเทปเขียว 3M ยังหาโซลูชั่นอื่นไม่ได้ แล้วก็ห่อยากจริง ดิ้นมาก กรีดพับไม่ค่อยอยู่ ใช้เวลาห่อนานกว่าเดิมเยอะ แต่ด้วยความที่มันไม่ดูดกันเอง เวลาวางหนังสือซ้อนกัน มันก็ไม่ดูดติดกันหลายเล่ม เป็นข้อดี
ข้อเสียของแบบใส pp คือรอยขนแมวบ้าคลั่งมาก จับนิดวางหน่อยรอยขีดข่วนเต็มทุกพื้นที่ แต่ก็โอเค รอยบนปกพลาสติก ไม่ใช่รอยบนปกหนังสือ
ใครห่อแบบไหนยังไง แลกเปลี่ยนปสก.หน่อย
>>539 ถ้าอยากใช้ปก pp ซื้อสำเร็จรูปเลยก็ดี มันขึ้นรูปมาแล้วพับรีดมุมเดียวก็เอาอยู่ แต่ถึงยังงั้นกูยังรู้สึกเลยว่ามันลื่นไม่ค่อยเกาะหนังสือเหมือนปกใสแบบเก่า คนเอามาห่อแบบไม่ติดเทปน่าจะไม่ไหว
เอาจริงๆกุโดนพิษยุคลดพลาสติก ที่ทำให้กูหาปกสำเร็จยากเย็น ทุกวันนี้เปลี่ยนพฤติกรรมเรียบร้อย มีปกไว้ใส่แค่ตอนอ่าน ใส่สลับกับปกกระดาษน้ำตาลพับเอง อ่านจบถอดเอาขึ้นชั้น ปกสำเร็จ 1 ใบ คือพับแล้วพับอีกจนเยิน
>>539 กุใช้กระดาษไขห่อ แต่เป็นกระดาษไขลอกลายที่หนาๆนะ ฟีลลิ่งดีมาก กูชอบลูบ แต่ข้อเสียคือต้องมานั่งพับกระดาษเอง บางทีพับแล้วมันเล็กไป มันจะขูดขอบหนังสือ กันเปียกไม่ได้ กันได้ระดับนึงแหละแต่ก็ไม่ได้เช็ดออกง่ายเหมือนพลาสติก เวลาอ่านจะกรอบแกรบ คิดในใจมาตัวปกมันจะยับไปด้วยมั้ยน้า อีกอย่างคือมันทำให้มองปกไม่ชัด ถ้าใครชอบชื่นชมปกบ่อยๆอาจจะไม่เหมาะ
บ่นหน่อยละกัน คือแม่งจะงดแจกปกทำไมวะ 555 ไม่ได้ใช้แล้วทิ้งนะ แล้วพอกุนึกครึ้มอยากจะใช้กระดาษไขห่อกุก็ขกมานั่งพับอีก เพราะซื้อหนังสือแต่ละทีก็เยอะอะ พับกระดาษสำหรับกูมันเป็นงานฝีมือ ใช้เวลา 55 ตอนนี้เลยปล่อยน้องโป๊เปลือยเป็นส่วนใหญ่ พอเริ่มโตขึ้นก็เลิกสนใจความกริบละ มีเรื่องให้กูกังวลมากกว่าเรื่องหนังสือกริบไม่กริบ 55
>>543 แต่ก่อนเคยกังวล คิดจะเอาซองเอาอะไรมาห่อตามกระแสกับเค้าเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมามันน่ารำคาญมากเลยนะ ที่เวลาจะเอาออกมาอ่านทีต้องบรรจงค่อยๆดึงๆออกมาจากซองซิปก่อน เอามาใส่ปกอีก ซองเล็กก็ใส่เข้าออกยากซองใหญ่ก็ไปกรอบแกรบในชั้น ต้องมานั่งหาหลายไซส์อีกบางทีบ๊อกซ์ใหญ่ กุขี้รำคาญสรุปสุดท้ายเลยไม่เอาอะไรห่อทั้งสิ้น ชั้นหนังสือกูไม่ใหญ่มาก เลยวางเปลือยๆงั้นแหละ ซองซิปซื้อใหญ่สุดเอาไว้ระเห็ดนส.ที่นานๆอ่านทีคือจะเอาลงลังค่อยใส่ซอง
>>545 แต่ก่อนกูวางเปลือยๆ วางทิ้งวางขว้างยัดใส่ตู้ แต่ห่อปกพลาสติกแบบห่อเองนะ
เพิ่งมาลองตามกระแสถุงซิปกะเค้าไม่นาน เพราะพอหยิบบางเล่มที่ซุกไว้ตามตู้มาดู มันมีขอบมุมดำฝุ่น กระดาษกระดำกระด่าง บางเล่มก็เหลืองเลย แล้วแต่คุณภาพ/ประเภทของกระดาษด้วย มีการ์ตูนญี่ปุ่นกระดาษๆดีเล่มนึง ใส่ซองพลาสติกที่ซื้อมากลับเข้าไป มันก็เหลืองด้านเดียวด้านที่เปิดโล่งโดนอากาศน่ะ นิยายพ็อกเก็ตบุ๊กภาษาอังกฤษบางเล่มไม่รู้ทำไมเหลืองมาก เหมือนหนังสือตามร้านเก่า ขลังๆวินเทจไงไม่รู้ กูไม่ค่อยถนอมหนังสือแต่ก็ไม่ได้ขายทิ้งนอกจากชั่งกิโลทิ้งไปเลย มาเห็นหนังสือเก่าหลายปีที่ไม่เคยดูแลก็สะเทือนใจนิดหน่อย เคยเห็นกันตอนสวยๆอะนะ555
>>544 เรียกกระดาษไขลอกลายใช่มะ
ปกแจกสำหรับกู ไม่ค่อยใช้อะ เพราะกูชอบห่อเองมากกว่า สั่งหนังสือกับแจ่มใสยังชอบแจกปก กูยังคิดเลย ไม่อยากได้ 555
มาขอความรู้ด้วย ตกลงปกขุ่นดีกว่าปกใสยังไง? ว่าจะสั่งแบบปกขุ่นมาห่อนิยายแต่ราคาแพงกว่าแบบปกใสเยอะอยู่ เลยอยากรู้ข้อดีอ่ะ ทำไมมันแพงกว่า หรือเพราะดูสวย??
>>547 ที่ไม่ดีคือปกพลาสติก pvc มันทำลายหนังสือได้ รายละเอียดทางวิชาการลองหาอ่านดูนะ กูไม่ได้จำอะ มันเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมี
แล้วปกพลาสติกพวกนี้ บางทีเก็บแล้วมันดูดปก ปกลอกเสียหาย อากาศร้อนก็มีหด ย่น งอ กรอบ
เขาเลยหันมาใช้ปกขุ่น เพราะคิดว่าดีกว่าปกใส เพราะไม่ดูดปกหนังสือ กูเคยอ่านเจอคนบอกว่าเก็บหนังสือห่อปกขุ่นนานๆ เวลาปกพลาสติกเสื่อมมันพังแต่ตัวปกพลาสติก ไม่กินไปโดนตัวหนังสือเละ แต่กูยังสงสัย ปกขุ่นบางอันมันก็ยังเป็น pvc (หรือเปล่า ไม่แน่ใจ เพราะบางทีร้านที่ขายไม่ได้บอกไว้) เลยไม่แน่ใจว่าถ้าเก็บนานหรือเจออากาศร้อนๆ จะเป็นยังไง
ส่วนตัวกูกำลังหันมาใช้ปกพลาสติก pp ห่อหนังสือ ซึ่งมันมีทั้งแบบใสแบบขุ่น เลือกได้ตามชอบเลย ซึ่งพลาสติก PP มันดีกว่า pvc เหมือนมันจะไม่ปล่อยสารอะไรที่ทำลายหนังสือนี่แหละ
ข้อเสียคือ ปก PP ห่อยากมาก ใครห่อปกเองแบบม้วนพลาสติก pvc แล้วบ่นห่อยาก มาเจอปก PP ซะก่อน
เรื่องราคากูไม่รู้นะ แต่เรื่องความสวยงาม ส่วนตัวกูว่าปกใสสวยกว่า กูชอบเห็นหน้าปกชัดๆ แต่ปกขุ่นก็สวยไปอีกแบบ ถ้ามันดีต่อหนังสือทั้งคู่ กูเลือกปกใสว่ะ
ช่วงหลังกุไม่สนปกล่ะ ช่างมันเรื่องความกริบแล้ว ขก.พับกระดาษห่อ 555555
>>549 เดิมกูห่อแบบไม่ติดเทป ใช้ะลาสติกม้วนทั่วไป ซึ่งน่าจะเป็นแบบ pvc เอาอยู่นะ ทับหนักๆไว้สักวัน อยู่เลย
พอมาใช้เป็นปกพลาสติก pp เอาไม่อยู่อะ ทับแล้วก็ไม่อยู่ แบบขุ่นยังพออยู่ได้บ้าง คงเพราะผิวส้มสากๆ แต่แบบใสมันลื่นมันดิ้นง่าย มันไม่เกาะกันเอง เวลาถืออ่านจะหลุดไงไม่รู้ ห่อ pp ใส กูต้องติดเทป ใช้เทปกาวกล่องสีเขียวของ 3M ลอกง่าย กาวไม่เยิ้ม เขาว่างั้นนะ เพราะกูเพิ่งลอง
อยากไม่ติดเทปนะ แต่ pp ใส กูทำไม่รอดจริงๆ มันไม่อยู่ว่ะ กูอยากรู้ข้อมูล/เทคนิคของคนอื่นเหมือนกัน
กูหากระดาษมาห่อปกแทนอยู่เพราะกูซื้อปกppขุ่นมาห่อแล้วไม่รอด เสียดายเศษปกเพราะความสามารถกูที่ไม่ถึงเอง ใครเลยลองปกกระดาษไหม ควรซื้อแบบไหนดี เห็นโม่งข้างบนบอกว่าต้องเป็นกระดาษไขนี่คือแบบไหนอ่ะ
กระดาษไขคือกระดาษใช้ลอกลายอ่ะ บางๆขุ่นๆไม่ก็เกือบใส มีหลายเกรด ตอนเด็กๆน่าจะเคยเล่นกัน
กระดาษรองอบก็คล้ายๆกันจะขุ่นกว่า มีแบบเคลือบมันกับไม่เคลือบมัน ขายเป็นม้วน ลองเลือกดูว่าขุ่นขนาดไหนรับได้
>>552 กูก็กำลังลองหาข้อมูล ว่างๆจะลองห่อกระดาษดูบ้าง ลองดูอันนี้มึง มีแนะนำกระดาษหลายแบบ มีวิธีห่อกระดาษด้วย อันไหนเวิร์คหรือไม่ไปลองดู
https://unkhowman.wordpress.com/2020/07/31/bookwrapping/
กูใช้กระดาษคราฟน้ำตาลพับแบบญป.ห่อปกอ่ะ ทึบดี หน้าปกเรทขนาดไหนก็มั่นใจ 555
เคยได้กระดาษจากห่อพัสดุมามันมีแบบที่มันข้างนึง ด้านข้างนึงด้วย กุอยากได้มาก เวลาห่อเอาด้านมันออกแล้วสัมผัสเวลาอ่านคือดีย์กว่าคราฟที่ด้านๆ รู้สึกว่ากันน้ำได้ดีกว่าด้วย แต่กุไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร หามานานแล้ว
กู 552 นะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำกับข้อมูลของพวกมึงมากกกกก เดี๋ยวกูลองไปศึกษาตาม link 554 ดู ดีเทลแน่นมาก 👍
ขอบใจเพื่อนโม่งทั้งหลายสำหรับการป้ายยา ไปสั่งปกขุ่นแบบม้วนเรียบร้อยแต่สั่งเป็นแบบpvcนะ เพราะแบบppนี่คงไม่สู้ แต่มีใครเคยห่อจนหมดม้วนมั้ย อยากรู้ว่าได้ประมาณกี่เล่ม เห็นในรูปม้วนดูไม่หนาเท่าไหร่ เพราะถ้าได้ประมาณ20เล่ม ราคาก็พอๆกับปกสำเร็จรูปเลยนะ
>>557 ใช่ของร้านที่ยาว 22 หลาไหม อันนี้ห่อง่ายมึง ไม่ต้องติดเทปก็เอาอยู่ กูก็มีใช้อยู่ เพิ่งมีม้วนแรก กูห่อไปสิบกว่าเล่ม ยังเหลืออีกเยอะนะ
กูคำนวณเล่นๆ ยาว 22 หลา เท่ากัย 792 นิ้ว ห่อปกนิยาย 1 เล่ม ใช้ประมาณ 20 นิ้ว บวกลบตามความหนาหนังสือ 792/20 หารแล้ว มึงจะห่อได้ประมาณ 39.6 เล่ม เอาเป็นว่าน่าจะได้เกิน 30 เล่มแหละ
ky กุจกป็อปคอนรอ มีใครใช้ภาษาเกาได้ปะ ตอบเจ้าของเรื่องหน่อย เขามาถามคนแปลเถื่อนเกาหลีอะ(เรื่องที่นังแปลติดท็อปด้วย) แล้วนังคนแปลเถื่อนก็บล็อกเขา5555ร้อนตัวชิบหาย
นักเขียนเกานักวาดเกาเขาด่าแรงแถมจำนานนะ อย่าไปยุ่งเขาเลยเคลียร์กันเองดีกว่า กูเคยเห็นมันนินทาคนชาติอื่นเรื่องขโมยรูปอยู่
>>563 กูเคยเห็นคนเข้าไปถามว่ารูปนี้มาจากเรื่องอะไร มันไม่ตอบเขาแต่นินทาในเทรดเดียวกันเนี่ยแหละว่ารำคาญพวกต่างชาติ บอกไปก็ไปอ่านเถื่อนอยู่ดี (แต่ก็ถูกของมัน) อีกคนก็ จริงช่วงนี้เห็นต่างชาติเยอะน่ารำคาญ (เมิงก็ล็อคแอคไปสิอีดอก)
นวเกานี่ถ้าตามคือดูแต่รูปอ่ะ ถ้ากดอ่านแม่งต้องมีนินทาไม่ก็ด่าใครสักหน่อยอ่ะ อันนี้ยกเว้นนักวาดจิบิสัตว์ของเทียนกวานนะ พวกนั้นดีจนงงเลย พวกที่ด่าๆคือพวกที่พิมพ์แต่เกาหลีเป็นพรืด
แปลว่าดอกไม้หานักแปลจากคนแปลเถื่อน???
ได้เทสต์บ้างมั้ย เดี๋ยวก็ออกมาแบบคนแปลญี่ปุ่นนั่นหรอก (ไม่อยากเรียกว่านักแปล กระดาก)
>>560 อยากให้เรื่องนี้แมสมาก จะได้เลิกอวยเถิดถูนพวกแปลเถื่อนสักที ยิ่งพวกแปลเถื่อนจากอิ้งแล้วบอกขออนุญาตนักแปลอิ้งแล้ว นักแปลอิ้งเป็นเจ้าของเรื่องรึไง สติ
>>570 อ้อ ไม่ใช่แค่ดอกไม้หรอกที่หานักแปลมาจากแปลเถื่อน ในวงการวายนักแปลแม่งก็ชุบตัวมาจากแปลเถื่อนกันหนุบหนับ 5555
กูงงกับเรื่องนี้นิดนึงตรงที่บอกว่าปีหน้าออกได้ ถ้าดอกไม้สีแดงได้ไปจริงกูมองว่าไม่น่า คิวออกของนางน่าจะยาวไปสองปีแล้ว ถ้าพึ่งซื้อLC ปีนี้จริงกูว่าโอกาสยากมากที่จะออกปีถัดไป ใดๆคือกูเดา อะไรก็เกิดขึ้นได้
แปลกใจอะไรกับค่ายที่ไปคว้าเซเลบรีวิวมาแปลจนงานออกมาพังยับล่ะ 5555555
บางทีก็งง ไม่สนับสนุนแปลเถื่อนไทยแต่ดันรีวิวเถื่อนอิ้ง
ขอนอกเรื่องและขอความช่วยเหลือหน่อย มีใครสั่งนิยายนาบูไหม กูอยากรู้ว่าแอดมินมันพูดจาดีขึ้นยังวะ กูไม่ได้สั่งมาหลายปีเพราะความปากหมาของแอดมิน แต่ตอนนี้มีเรื่องที่กูอยากได้เลยลังเล เผื่อมีปัญหาได้ทักข้อความไป กูไม่อยากปวดประสาทอีก ถ้าแอดมินนิสัยดีขึ้นเเล้วกูจะได้กล้ากดสั่ง
>>578 ตอบสุภาพก็ใช่จะช่วยอะไรนะมึง กูเจอแอดมินมนว. ทักไปถามบางทีไม่ตอบ เวลาตอบก็สุภาพดีแต่ตอบมั่วชิบหาย ออเดอร์กูหายก็ตอบว่าเจอออเดอร์ที่ตกหล่นแล้วค่ะ อีกสองวันจะจัดส่ง (ช่วงนั้นยังไม่ปิดล็อกดาวน์) อีกสามวันไปตามไม่ตอบ อีกอาทิตย์หนึ่งบอกว่ากำลังจะจัดส่งแล้ว รอไปอีกก็ยังไม่ส่ง สุภาพแต่ห่วยแตก
KY เห็นแล้วเครียดเลยกูว่าประเด็นไม่ใช่เรื่องท้องหรอกแต่เป็นเรื่องที่เชื่อว่าอมกว.มีจริงนี่แหละ
https://twitter.com/workhardd8i/status/1431512826074447874?s=19
อุ๊ย ขนาดนี้เลยเหรอ ไม่จริงมั้ง
ปัญหาจากอายุไม่ถึงแล้วเข้าไปอ่านเพราะคิดว่าตัวเองโตพอรึเปล่า
มาไม่ทัน
น่าจะแค้ปเก็บไว้แปะใส่หน้าพวกที่บอกว่าไม่อยากโดนแปะป้ายเพศชายหญิง อีดอกเขาพูดถึงเพศกำเนิดไม่ใช่เพศที่ใจเป็น กูถามว่าตอนเกิดเมิงมีจู๋หรือมีจิ๋ม
ก็เหมือนพวกเบียวอนิเมนั้นแหละ แค่เปลี่ยนมาเป็นนิยาย
ถ้าอ่านแฮร์รี่แล้วแยกออกว่าเวทมนตร์ไม่มีจริง ทำไมแยกไม่ออกวะว่า ABO มันเรื่องแต่ง
คนแปลเถื่อนนิยายเกาหลีระเบิดแอคทวิตไปแล้วเหรอวะ ว้ายยยไม่แน่จริงนี่หว่า
เกาหลีนี่มองพวกต่างชาติที่อ่านเถื่อนเป็นเห็บเลย ด่ากันหน้าทามไลน์นิ่มๆ แต่ตอนตัวเองอ่านเถื่อนจีนชิลๆวาดแฟนอาร์ตรัวๆ เรื่องนี้ไม่มีแปลเกานี่นาาาา
แต่คนแปลม่านฮวาจีนยังอยู่นะ แปลหลายเรื่องเลยไม่ปลิว
คนเกาก็คงมีหลายแบบแหละ คนเกาหลีมีเป็นล้าน ก็เหมือนคนไทยอ่ะ มีทั้งกลุ่มที่แอนตี้อ่านเถื่อน กับกลุ่มที่อ่านเถื่อนกันเป็นปกติ
คนอ่านเถื่อนมีทุกที่ ญป.กับฝรั่งก็มีให้พรึ่บ มึงเหมารวมทั้งหมดไม่ได้หรอก
Ky ขอเสียงรีวิวหน่อย พี่อวี้สามีคุณ สนุกไหม ใกล้ปิดพรีละ
ช่วยตามหาโดหน่อย คือหาอันนี้นานมาก โดแนวรุนแรงหน่อย ภาพสีส่วนมาก https://www.picz.in.th/image/CNxCP2
>>601 ส่วนตัวกูไม่พรีว่ะ ลังเลอยู่นานเหมือนกันนะเพราะกูชอบอาร์ต แต่กูอ่านตัวอย่างแล้วไม่สนุกเท่าไรสำหรับกู หรือไม่อินวัยเรียนไม่รู้ แต่กูก็ลังเลทุกรอบที่สนพ.ลงรูปโปรโมท
ชอบความบอกจำนวนหน้าและ "จำนวนบรรทัด" กูเอ็นดูอยากอุดหนุนเลย ไว้โอกาสหน้าเรื่องอื่นละกัน กูอยากให้มันเป็นมาตรฐานใหม่จริงๆ
ความจริงจัดหน้าได้สัก 23-25 บรรทัด กูก็ก้มกราบดีใจแล้ว แต่อย่าปรับช่องไฟเยอะเกิน หรือขยายความอวบด้านข้างของตัวอักษรเยอะนักเลย
กูยังแค้นนิยายบางเรื่องบางสนพ.อยู่ เรื่องดังคนเขียนดัง อยากอ่านก็อยากอ่าน แต่ทำเล่มหนาควายๆ แล้วจัดหน้ากลวงๆ ดูถูกสติปัญญาและสามัญสำนึกของคนอ่านอย่างกูมาก กูทำใจเปิดอ่านไม่ได้จริงๆ รู้สึกเหมือนถูกสนพ.เอารัดเอาเปรียบ ชี้หน้าด่าว่าโง่ผ่านทางการจัดหน้าหนังสือ แล้วไม่ใช่ด่าแค่ 3-400 หน้า แต่ 7-800 หน้าขึ้น ใจกูจะไหวเหรอ
แค่กูอ่านนิยายวาย ตามข่าวตามเฟสกลุ่มคนอ่านนิยายวาย สมองกูก็ด้อยลงทีละนิดอยู่แล้ว ยังต้องระวังตัวเองไม่ให้ตรรกะเพี้ยนตามกลุ่มอีก รอยไสกาวไม่เรียบเอย ยิงสปอตปั๊มนูนเบี้ยวเอย ฝุ่นในซีลเอย แค่เรื่องพื้นฐานอย่างจัดหน้าหนังสือให้ได้มาตรฐาน กูขอ ทำได้ไหม ช่วยทำให้ที
เรื่องจัดหน้ากูเห็นมีคนด่ามด แต่กูชอบนะ อ่านทีกูไม่ปวดตาแถมมีสมาธิมากกว่าเดิม อ่านได้นานมาขึ้น กูหยิบของมดมาอ่านทวนบ่อยมากเก็บรายละเอียดได้มากกว่า กลับกันอย่างแจ่มที่อัดแน่นๆกูปวดตามากไม่ค่อยอยากอ่าน และกูเก็บรายละเอียดไม่ค่อยครบเพราะกูปวดตาเวลาอ่านนานๆนี่แหละอ่านข้ามบ่อย สงสัยกูแก่แล้วตาไม่ค่อยดี มดน่าจะใช้แพทเทินเดียวกันทั้งเครือมั้ง เครือนี้คนสูงวัยอ่านกันเยอะแพทเทินจัดหน้าเลยเป็นแบบนี้ เรื่องจัดหน้าที่กูเห็นว่าแย่จริงๆคือวายไทยเรื่องคินพอชอ่ะ อันนั้นเห็นเลยว่าเจตนาไม่ดี แต่วงการวายทำให้กูอเมซิ่งได้ตลอดเลย คนออกมาจี้เรื่องฟอนต์เรื่องบรรทัดต่อหน้า เรื่องแบบนี้กูคงไม่เจอในหนังสืออื่นนอกจากแนววายอ่ะ กูค่อนข้างสยองนิดนึงที่สนพยอมออกมาตามใจนักอ่านขนาดนี้จนอนาคตมันจะมาเป็นมาตรฐานของนิยายวายไหมที่ต้องชี้แจ้งลึกขนาดนี้ ตามใจนักอ่านทุกอย่าง แล้วจะไม่ให้นักอ่านปสดได้ไง มีคนเลี้ยงไข้ตามใจขนาด
กูว่าเรื่องการจัดหน้านี่ควรวิจารณ์กว่าเรื่องอาร์ตอีกนะ แต่แต่ละคนก็รสนิยมหลากหลายดี ส่วนตัวกูชอบแบบบรรทัดแน่นๆอัดกันเยอะๆ รู้สึกคุ้มดี+ทำให้กูรู้สึกว่ากูไม่จำเป็นต้องรีบอ่านยิงยาวจนจบเล่มในรอบอ่านเดียวเงี้ย อาจเพราะเวลากูน้อยด้วย
>>606 กูก็โอเคกับมด แต่กับแจ่มกูก็โอเคนะ ไม่เคยเจอเรื่องที่รู้สึกว่าจัดแย่จริงๆ
แต่เคยเจอนิยายในเมบที่จัดตัวใหญ่ชิบห่นอยู่ จำนวนหน้าเยอะมากแต่พอนับคำแม่งน้อยกว่าเรื่องอื่นครึ่งนึง หลังจากนั้นก่อนซื้ออีบุ๊ค(เฉพาะของนขทำมือ ปกติกูชิบไถหานิยายใหม่ๆอ่านในเมบ)กูเอาจำนวนคำหารหน้าตลอด ปสดไปเลย
>>604 เขาไม่ให้แปะลิงค์แสกนเถื่อนไม่ใช่เหรอ ไปดูpolicyบ้าง https://fanboi.ch/pages/policy/
"ผู้ใช้ต้องไม่โพสข้อความหรือลิงค์ไปยังเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์"
>>606 กูมายันว่าไม่ทุกเรื่อง ไม่ทั้งเครือ หัวสยามเล่มที่กูมีก็จัดไม่เหมือนมด. หรือเฉพาะในมด.แต่ละเรื่องก็จัดหน้าไม่เหมือนกันอีก ส่วนใหญ่ถึงจะโล่ง ฟอนท์ใหญ่บ้างเล็กบ้าง กูก็ไม่เคยบ่น เพราะยังพอรับได้ แต่เรื่องที่กูทนไม่ไหวจริงๆ ก็มด. อีกนั่นแหละ เรื่องอื่นทำมาพอประมาณ พอมาเรื่องนี้ เป็นเหี้ยไร ขยายทุกอย่างที่ทำได้เหรอ
เรื่องการจัดหน้าจะบอกว่าสาววายไม่ได้มีแต่วัยรุ่น กูแก่แล้วยอมรับเลยสังขารเริ่มออกฤทธิ์แล้ว กูบอกเลยกูไม่ชอบตัวเล็กๆ แน่นๆ อ่านนานไม่ไหว ขอให้คิดถึงพวกกูบ้างเท่านั้นแหละ ขอร้องมึงอย่าไปเต้นให้ สนพ. ทำแบบนั้นเป็นมาตรฐานเลยกูกราบบบ
กูมากราบขออีกคน อายุเยอะแล้วสายตาไม่ดี เห็นตัวหนังสือเล็กๆบรรทัดเยอะๆอัดแน่นเต็มหน้าแล้วกูตาลาย เหมือนเห็นมดเรียงเป็นพันๆตัวในกระดาษ สนพไหนเมตตาใช้ฟ้อนต์ตัวใหญ่หน่อยกูซาบซึ้ง
>>611 กูก็แก่แล้ว กูไม่ได้เรียกร้องว่าทุกสนพ. ต้องกี่บรรทัดเป๊ะ ต้องฟอนท์เท่าไรเป๊ะ ช่องไฟเท่าไร (ช่องไฟห่างก็อ่านยากนะมึง) แต่มันควรมีขอบเขตที่เหมาะสมอยู่ สนพ.จะทำแบบค่อนไปทางใหญ่หรือค่อนไปทางเล็ก ก็ยังโอเคหมด แต่อย่าหลุดกรอบที่ควรเป็นหรืออย่าน่าเกลียดเกินไปเท่านั้นพอ อย่างคินพอร์ชนี่คือกรณีน่าเกลียดเกินไป มด.เล่มหนาๆ บางเรื่อง ก็เข้าใกล้ขอบเขตที่กูรับไม่ได้ ขุนนาง คู่จิ้นกูยังโอเค ทำไมสารบัญกูไม่โอเควะ หรือว่ายิ่งเล่มหนายิ่งเห็นความเอาเปรียบ
แล้วนิยายเล่ม A5 กูก็ยังไม่เคยเห็นฟอนท์มดแบบไลท์โนเวล เช่นสไตน์เกท มาก่อน กูว่ามึงไม่ต้องกลัวว่ามันจะอีโวไปทางเล็กเกินไปหรอก กลัวมันอีโวไปทางใหญ่เกินไปจะดีกว่า
แล้วสนพ.หันมาใส่ใจรายละเอียดจำนวนบรรทัด กูก็ว่าดีแล้ว ดีกว่าบอกแค่จำนวนหน้า ไม่ใช่ให้มาแข่งกันว่าใครบรรทัดเยอะกว่านะ แต่มันทำให้เห็นว่าสนพ.ใส่ใจเรื่องจัดหน้าด้วย ไม่ใช่โปรโมทแต่ความหนา นึกว่าอ่านจุใจ มันไม่ใช่
การที่สนพ.แจงรายละเอียดจำนวนบรรทัด มันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำ เหมือนการบอกจำนวนหน้าเลย แต่เพราะมันมีเคสจัดหน้าอุบาทว์ผุดขึ้นมาในวงการนี่ไง
Ky ขอกูบ่นหน่อย เบื่อเวลาต้องเลื่อนส่งนิยายเพราะของพรีเมี่ยมเสร็จไม่ทัน คือกูอยากอ่านนิยายไม่ได้อยากได้ของพรีเมียม เหตุผลอื่นบลาๆกูเข้าใจพอเหตุผลนี้กูมองบนทุกที
ควจัดหน้าหน้าห่วยกว่ามีดีอีกมึงคนถึงด่ากัน มันต่างกันนะจัดหน้าห่าง "พอสมควร" เพราะตั้งใจให้อ่านง่ายสบายตา กับจัดหน้าห่างเพราะตั้งใจจะเพิ่มจำนวนหน้าอัพราคาอย่างที่สนพ.เล็กๆชอบทำกันอ่ะ โม่งก็เคยบ่นนะถ้ากูจำไม่ผิด คว ไอริส เป็นตัวอย่างที่ดี
อรอีกเจ้าไงที่จัดหน้าไม่โอเค เรื่องกวางล่าสุดดูดีขึ้นมาละ เดี๋ยวได้นกอ้วนจะลองดู แต่แอบเห็นขนาดที่ครถ่ายลงในกลุ่มละ รู้สึกแพงว่ะ ปกติกูไม่ค่อยอะไรกับราคาเพราะชินกับวงการนี้นะ แต่ไม่รู้ทำไมสามเล่มนกอ้วน มันไม่หนานะเหยียบพนสี่กูว่าแพงไปหน่อย
ปล. เอาจริงจะทำเล่มหนาๆ กันทำไมนะ ปวดมือมาก บางเจ้ามันจัดหน้าให้สวยกว่านั้นเพื่อลดขนาดลงได้ แต่เรื่องตัวหนังสือนานาจิตตังแฮะ กูก็แก่ละนะ 5555 แต่ชอบขนาดตัวอักษรของแจ่ม มกร สุดละ แต่เดี๋ยวนี้หนังสือแจ่มก็โคตรหนา ท้อเวลาอ่านมาก
ที่ว่าจัดหน้าไม่ดีนี่ มีตัวอย่างปะวะ กูอยากเห็นเลย
ตัวอย่างการจัดหน้าขั้นเทพ เสิร์ชหาคินพอชเลยมึง
ของคว.กูมีถ่ายไว้หน้าเดียวอะ ถ่ายแบบกากๆเลย ขายทิ้งไปแล้วด้วยเลยมีแค่นี้ ยังไงก็มองข้ามการเซนเซอร์พื้นพลังแบบง่อยๆของกูไปนะ https://www.picz.in.th/image/CBw0Cy
จากที่อ่านๆมากูว่าที่สุดแห่งความถ่างบรรทัดคืออร.กับกลรักพิมพ์1ของแม่ง ถ่างจนนอ.ต้องมาร้องเรียนขอให้แก้ใหม่ในพิมพ์2คิดเอา
เว้นขอบห่างๆยังพอทนนะมึง กูไปเจอนิยายยูริเว้นระหว่างบรรทัดห่างเป็นโยชน์ ช็อกสัด 555555 กูไม่เคยเจอแนวชชเว้นแบบนี้มาก่อนเลยอะ เห็นแล้วไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเว้นแบบนั้น https://youtu.be/7iVAyD3OmlI?t=506
>>616 โทดทีกูด่าไม่ทั่วถึง พอดีกูซื้อมด.เยอะ แต่ไม่ค่อยได้ซื้อคว.
กูไปเปิดดูมาละ หวนคู่มี 22 บรรทัดต่อหน้า ตามโม่งบนลงรูป ช่องไฟตัวอักษรขนาดอะไรโอเคแหละ แต่เว้นหัวกระดาษมีรูปกิ่งไม้เหี้ย กินที่ไปนิ้วครึ่ง (กูวัด) เยอะเกินงาม ไม่สวย ไม่ดี ไม่สนุกด้วย กูอ่านไม่จบ ไม่อ่านต่อ ไม่จดจำ ไม่มีตัวตน
ผีหลอก มี 24 บรรทัดต่อหน้า หัวกระดาษบรรทัดแรกเกือบหนึ่งนิ้วเท่านั้น (กูวัด) เรื่องนี้กูว่าจัดหน้าโอเคนะ ไม่ได้รู้สึกลบตอนเปิดอ่าน เรื่องนี้กูชอบด้วย อ่านสนุกดี
ถ้าพี่อวี้เขาระบุมาแบบนั้น อย่างน้อยแสดงว่ารับฟังฟีดแบ็ค แต่กูรอเรื่องหน้าละกัน พี่อวี้กูขอผ่าน
มด.มาตราฐานอยู่ที่ 23 บรรทัดต่อหน้า กูให้มด.อยู่ชายขอบ เกือบหลุดขนาดที่เหมาะสมแล้ว ซึ่งถ้าสนพ.เล็กจะยึดตย. สนพ.ใหญ่อย่างมด.เป็นหลัก แล้วคิดว่าปรับเพิ่มนิดลดบรรทัดน้อยกว่าหน่อย แหม แค่เพิ่มนิดลดหน่อยเอง นั่นแหละๆๆๆ
ปล.กูไม่มีสารบัญชุมนุมในมือ จำไม่ได้แล้วว่าจัดหน้ายังไง ทำไมกูด่ายิ่งกว่าเรื่องอื่นของมด. แต่กูเงาแค้นจัดหน้าเรื่องนี้มาก จำได้ว่าตอนที่ถือก่อนเปิดกับหลังเปิด คนละอารมณ์มาก ประมาณก่อนเปิด ดูภาพปก ดูสีปก ดูความหนา โห น่าจะอีปิค พอเปิดพลิกดูข้างใน อาราเล่นี่หว่า
ถ้าด่าเรื่องจัดหน้าเว้นข้างเว้นขอบ ยังไงเมิงก็หนีมด.ไม่พ้น เพียงแต่มันเปิดราคามาถูกเลยยัดข้อหาเพิ่มหน้าอัพราคาไม่ได้ แต่ถึงอย่างงั้นหนังสือมันอ่านง่ายอยู่นะ เพียงแต่ถ้าลดหน้าแล้วราคาลดกุก็ยอมให้ราคาลดมากกว่า
จริงๆซบก็ชอบเอาอาร์ตมาตบเนื้อหนังสือ กินที่ขอบบนบ้างขอบล่างบ้างเพียงแต่แต่ละเล่มมันอาร์ตไม่เหมือนกันแถมตัวอักษรวางค่อนข้างชิดเลยดูแน่นๆ พ้นข้อหาไป แต่ราคานส.ก็ไม่ได้ถูกลงเลยนะ
ทำไมดูแต่ละสนพต้องพยายามใช้กลเม็ดเคล็ดลับเพื่อให้ขายหนังสือให้แพงขึ้นด้วยวะ
Lc วายจีนมันแพงขึ้นหรอ
เพราะหลายคนคิดว่าราคาขึ้นอยู่กับจำนวนหน้าป่ะ เอาหน้าหารราคา หามาตรฐาน พอเห็นเขาจัดหน้าขยายหน่อยก็มองไปว่าเพื่ออัพเงินแน่ๆแล้วหนึ่ง กูไม่เห็นด้วยกับไม่ชอบวิธีนี้แต่ทุกคนก็ใช้กันบ่อยมาก แม่งกดดันสนพกันเกิน ต้นทุนไม่ได้เท่ากันทุกเรื่องทำไมต้องมาตีค่าราคางานหามาตราฐานโดยอาศัยแต่ปริมาณด้วยวะ กูเบื่อวิธีนี้ รู้ว่ามันมีคนทำเเบบนั้นเพื่อเงินจริงๆเช่นเรื่องคินพอช แต่หลายเรื่องก็ไม่ได้ทำเพื่ออัพเงินแต่คนฝังใจไปแล้ว
อันนี้ตัวอย่างการจัดหน้าที่กูว่าแย่และหวังขยายเล่มเพื่อเงินแน่นอน นอกนั้นที่กูเคยเจอกูเฉยๆ : https://www.picz.in.th/image/CBUsj8
>>632 กูรู้เพราะเคยทำอ่ะ เป็นนักเขียน อยากให้มันหน้าเยอะๆหน่อยจะได้ไม่เข้าเนื้อ ก็พยายามจัดหน้าให้มันได้จำนวนหน้าเยอะขึ้นแต่ยังดูไม่น่าเกลียด พูดแล้วดูเหี้ยแต่กูว่านักเขียนทำมือทำกันเยอะแทบเป็นปกติ 5555555 เวลาเห็นพวกสนพ.วายเล็กๆจัดหน้าแบบนี้กูเลยดูออกเลย ผีเห็นผีอ่ะมึง ถ้าไม่ทุเรศมากกูก็เลยไม่ได้ว่าอะไร อย่างนกอ้วนของไอริสนี่ก็รู้สึกแอบตั้งใจถ่างแต่ไม่น่าเกลียด ที่เริ่มแตะคำว่าน่าเกลียดคือคุณลุงของคว. กับมีดีเนี่ย สารบัญชุมนุมถ้าจัดหน้าประมาณกุหลาบ 400 หน้าก็น่าจะได้อ่ะ ไม่เปลืองกระดาษ ไม่เปลืองที่เก็บ อ่านสะดวกกว่า ถูกขึ้นด้วย
กูว่าถ้าสนพเล็กๆแอบทำนิดหน่อย กูพอหยวนๆให้นะ
แต่ถ้าสมมติสนพใหญ่ๆทำบ้าง กูจะแอบไม่พอใจนิดหน่อย
แต่กูว่าถ้าใครรับไม่ได้ ก็ไปซื้อกับสนพที่จัดหน้าตามมาตรฐานปกติแทน
>>633 ฟังดูแย่กว่าเดิม จากหวังขยายเล่มกลายเป็นไม่รู้ ทำไม่เป็นซะงั้น
>>632 ใช่ มาจากไหนไม่รู้ที่คิดเทียบราคาขายกับจำนวนหน้า เลยคิดว่าทำเล่มหนาๆ จำนวนหน้าเยอะ ต้องขายให้ได้ราคาแพงกว่า
สำหรับกู ถึงจะขายแพงเกินมาตราฐานจำนวนหน้า(ที่มาจากไหนไม่รู้) แต่ถ้างานมันเป็นของดี ทำดีในจุดที่ควรทำ (เช่นจัดหน้ารูปเล่ม คุณภาพกระดาษ การแปล การพิสูจน์อักษร ความดังความฮิตความสนุก ค่าตัวต้นฉบับ) มันจะแพงมันก็สมคุณค่าของมันแล้ว
>>629 มด.กูบ่นเยอะ แต่ไม่ได้มองว่าอัพราคาอยู่แล้วอย่างมึงว่า คงเพราะราคาโอเคอยู่ แต่ถ้าเล่มไหนยิ่งหนา จะยิ่งเห็นจุดด่างพร้อยการจัดหน้าชัดเลย
>>641 กูเทียบจากกูละกันนะเรื่องจำนวนหน้ากับราคา อาจจะเพราะกูตามซื้อหนังสือมาหลายปีแล้ว เลยเห็นว่าหนังสือเมื่อก่อนจะขายราคาต่ำกว่าจำนวนหน้า เช่น 300 บาท จะมีหน้าอยู่ในราวๆ 400 ปลายๆ-600 อันนี้ชายหญิงนะ เลยเหมือนจะคุ้นกับแบบนี้มากกว่า แต่ถึงเดี๋ยวนี้จะหน้าน้อยกว่าราคากูก็เข้าใจ เพราะเวลาผ่านไป ราคากระดาษหรือค่าต่างๆมันก็ต้องเพิ่มขึ้น แต่มาบอกเฉยๆ ว่าบางคนอาจจะคุ้นกับการซื้อที่ว่าราคาจะต้องน้อยกว่าหน้ากระดาษอะ เพิ่มเติมสำหรับกูเองอีกอย่างคือถ้าเป็นนักเขียนที่ชอบก็ไม่เกี่ยงที่จะซื้อเลย หน้าน้อยหน้ามากก็ซื้อหมด
มนวแกล้งตายอีกแล้ว ไม่ชอบเวลาสัญญาแล้วทำตามไม่ได้
กูว่ายุคนี้ถ้าทำอะไรผิดวิธีแกล้งตายเผลอๆ ดีกว่าออกมาแถลงรับผิดซะอีก แบบไหนก็โดนด่าทั้งนั้น ถ้าแกล้งตายบางคนที่นานๆตามข่าวทีอาจจะไม่รู้เรื่อง เก็บพวกนี้ไว้กินนานๆดีกว่า
มันดูไร้ความรับผิดชอบเกินไปอะ ไม่ควรสัญญาถ้าทำตามไม่ได้ ไม่ได้ออกหนังสือเล่มแรกไหมนะ เป็นที่ตัวบุคคลไหมเห็นผ่านตาบ่อยว่าร้านหนังสือของเจ้าของสนพ.ก็มีปัญหาเรื่องตามตัวยาก ตีมือตัวเองกูก็ไม่เข็ดเนอะ รอบไหนที่พรีกับเจ้านี้มีปัญหาทุกรอบ ไม่เคยเข็ด รอบหน้าไม่เอาแล้ว เหนื่อย ^^' กูยอมแพ้แล้วจริง
จริงๆมันควรเป็นดราม่าได้แล้วมั้ยวะแบบนี้555 แต่คนไทยลืมง่ายเนาะ เดี๋ยวเปิดพรีเล่มใหม่ก็แห่มาจองใหม่ มันน่าทำโพสต์ประจานเอาสนพ.นี้ขึ้นHall of shameไว้ในกลุ่มซื้อขายวายเลยว่ามีคดีเลื่อนส่งแล้วแกล้งตายแทบทุกรอบ คนมาหลังๆจะได้ไม่ลืมง่ายอีก
ky ถามในนี้ถูกมั้ยวะ มีใครดูพวกรีวิวนิยายตามยูทูปมั่งมะ กูสงสัยว่าทำไมพวกคลิปรีวิวนิยายชอบทำเสียงไร้ชีวิตเหมือนเล่านิทานวะ หมายถึงพวกคลิปที่ไม่โชว์หน้าแล้วมาแต่เสียง+เน้นเล่าเนื้อเรื่องนะ กูฟังแล้วรู้สึกแปลกๆไงไม่รู้ มันฟังดูเฟค แต่คอมเมนต์ชอบอวยกันว่าเล่าดี เล่าสนุก มันเป็นเทรนด์ของชาวยูทูปอ่อ
มนว แม่งทีม LC แข็งแกร่งถูกจริตกูได้แต่แปลจีนเรื่องที่กูชอบ อาร์ตสวยของแถมเยอะ แต่กูเกลียดที่มันมีปัญหาการจัดการตลอด ตั้งแต่ตู้เจ๋อแล้ว กูก็ไม่หลาบจำแม่ง
>>650 เคยดูช่วงนึงแล้วเลิกดูไป กูชอบดูพวก booktuber ฝรั่งมากกว่า มันดูมีชีวิตชีวา ดูอินไปกับหนังสือมากกว่า ชอบก็อวยจัดๆ เกลียดก็ด่าเช็ดเม็ด แต่คนไทยจะชอบมาเล่าเรื่องย่อทั้งเรื่องแล้วก็ตบท้ายว่าไปตำกันได้ แค่นี้ เข้าใจว่าคงเป็นเพราะคนไทยไม่ค่อยกล้าฉอดด้วย กลัวไปเหยียบตีนคนชอบหนังสือเล่มนั้นๆ รีวิวเล่าเรื่องแล้วอวยนิดๆหน่อยๆมันเพลย์เซฟกว่า แต่แบบนี้กูหารีวิวเป็น text อ่านก็ได้ นั่งฟังไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
>>650 รีวิวตามยูทูบมันมีสองแบบนะ แบบนึงคือเล่าเรื่องเหมือนเล่านิทานแบบที่มึงบอก กับอีกแบบจะเป็นฟีลนั่งเมาท์ เล่าเรื่องย่อเหมือนกันแต่ไม่ละเอียดเท่า แบบหลังจะสมเป็นรีวิวมากกว่า กูว่าแบบแรกอะไม่ควรใช้คำว่ารีวิว เพราะมันเหมือนมาเล่าเรื่องให้คนที่ขี้เกียจอ่านหนังสือฟังเฉยๆ เหมือนพวกคลิปเล่าหนังที่>>654 บอกแหละ เน้นเล่าให้คนฟังรู้เรื่องต้นยันจบแล้วไม่ต้องไปอ่าน แต่สายนั่งเมาท์จะเหมือนมาป้ายยาให้คนตามไปอ่านกัน มึงคงไปเจอแต่แบบแรกเข้าน่ะ แต่แบบที่เป็นรีวิวจริงๆมันก็มี แค่ต้องขยันหาหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้คนทำคลิปรีวิวนิยายกันเยอะ ช่องเล็กๆแต่ทำเนื้อหาดีก็มีเยอะ
สมัยนี้มีคลิปสรุปทุกวงการแหละ คลิปสรุปหนัง สรุปอนิเมะ สรุปนิยาย สรุปซีรีส์ เป็นเนื้อหาแบบแดกด่วน คนติดตามมันไม่สนหรอกว่าน้ำเสียงเป็นไง เพราะมาฟังเอาเนื้อเรื่องแบบรวบรัดเฉยๆ
เพิ่งอ่านโพสต์คลิปสปอยไยบะ 29 ล้านวิวบินเพราะละเมิดลิขสิทธิ์มาตะกี้เลย 555555555 พวกหนังอนิเมะนี่กูสงสัยนานละว่ามันไม่ละเมิดลิขสิทธิ์เรอะ เพราะมันเอาคลิปในเรื่องมาใช้ แต่นิยายนี่เล่ากันเฉยๆเลยไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์สินะ
ในที่สุดวันนี้ด็มาถึง วันที่ซบ. โดนแหกขึ้นเทรนด์ พวกอวยซบ ที่ตีบกรไว้น่าจะมาตีอันนี้มากกว่าอีกนะ
กูปรับเป็นเทรนด์ไทยแล้วไม่เห็นแท็กติดเทรนด์เลย ไหนวะ? เออใครไปคอมเม้นต์ในรอร.อย่าคอมเม้นต์ใหม่นะเอาแบบสรุปๆไม่ก็คอมเม้นต์ตอบ ถ้าคอมเม้นต์เยอะๆรัวๆกันวันทีเดียวเรื่องมันจะติดใหม่มาแรงได้ ขายดราม่าเปล่าวะ
ปรากฎว่าชียอมขาดทุน ไปดีลเวอร์วายมาใหม่ ออกมาเอาหน้าสวยๆ ลูกหาบชาบูต่อ ตึ่งโป๊ะ!
กูนึกว่าวันที่ซบโดนแหกโม่งจะคึกคักกว่านี้ สงสัยตอนนี้คงด่าอยู่บนบกกันหมดเพราะไม่มีลูกหาบมารุมแล้ว 5555555555
>>666 จริง กูว่าก็รวยอยู่นะ ยอดพรีเทียนกวานเท่าไร เทียนหยาเคอพิมพ์เท่าไรแล้ว ตัวร้ายอย่างข้าในนายอินทร์ก็ติดอันดับตลอด ส่วนต่างค่าส่งอีก กำไรเหลือๆเอาไปดีลเเอลซีใหม่ได้ ติดที่นักแปลนี่แหละ ถ้ารอแปลใหม่ก็รอไปต่ำสุดหนึ่งปี
>>668 แต่กูว่านักแปลนี่ก็มีคดีเหมือนกัน ไหนๆแล้วล้างให้หมด กูว่ากองอวยคือลุกจากหลุมอ่ะ คือถ้าเป็นกุก็รอได้แหละเพราะยังไงก็ไม่เปย์เวอร์มิตตะพาบตัดเหี้ยนอยู่แล้ว (กุยังจำรักหลังเลนส์ ตย.การตัดแบบอิสีหมีพูได้ ตัดแบบนี่กุมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?)
คือคิดยังไงถ้ายอมขาดทุนลอตนี้กุว่าคุ้ม แต่กุนี่แหละจะเสียใจหน่อยๆถ้าลูกหาบกลับไปชาบูอีก แม่ง กว่าความนิสัยเสียสนพ.จะแสดงชัดขนาดนี้ งานทำผิดแก้ได้ ปรับปรุงได้ แต่ทัศนคติแย่แก้ไม่ได้นะ
กูด่าบนบกไปเยอะแล้ว ในที่สุดวันที่กุรอคอยก็มาถึง
ฆมป พลาดไปแล้วนะ ไม่ใช่เรื่องงานแปล แต่เป็นอิเรื่องปกเล่ม 2ที่เหมือนลิ่วเหยาทุกมุมทุกองศาไง เสียดายไม่มีคนมาขยี้+เจอซบ.กับลูกหาบช่วยกันแถ เรื่องเลยเงียบไป
เอาจริงถ้ามาขุดๆดูวีรเวรซบ.ก็ไม่น้อยหน้าสนพ.อื่นนะ แต่หาบเยอะจัด ที่พลาดๆมาก็พร้อมใจกันปล่อยเบลอ ไม่ก็ช่วยแถให้ อย่างสวรรค์นิชัดเลย พลาดขนาดนี้คนตามเยอะขนาดนี้เป็นบกร.ติดเทรนด่ายับไปเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ซบ.คนมองเบลอขั้นสุดแถมมีช่วยแถให้อีก
>>676 อันนี้จะโทษไม่รู้ฝั่งไหน
เอาตรงๆ ดอกไม้ ไม่บรีพปกให้นักวาดจีนคิดเองหมด มึงอ่านนิยายจะไม่คิดปกคือพระนาย เป็นคู่อาจารย์บรรยายทุกอย่าง ท่าทางจับมือ ฉาก ตรงตามนิยายหมด มึงเข้าใจปะ ถ้าซัดปกซบ. กูว่าโรสจะโดนเล่นมากกว่า และนักวาดโดนด้วยที่ดราฟภาพตัวเองขี้เกียจวาด
ปัญหาแม่งเกิดจากการอวยสนพนึง เพื่อไปกดอีกสนพนึง
ทุกวันนี้เงาแค้นมันเลยเยอะ
ถ้าเริ่มแรก วิจารณ์การโดยไม่พาดพิงสนพอื่น คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
รวมถึงตัวสนพเองด้วย
ตอนแรกคนอ่านทะเลาะกับสนพ ดันมีซบเสนอหน้ามาแซะเพื่อนร่วมอาชีพ
จำไว้เป็นบทเรียนนะซบ
>>681 อ้าว มึงแน่ใจได้ไงว่าดอกไม้ไม่บรีฟปกวะ กูงง อยู่เฉยๆยังโดนโยงมาด่า ทั้งที่งานก็เห็นอยู่ว่าดอกไม้ออกลิ่วเหยาก่อนหนึ่งปี และถึงไม่บรีฟจริงทำไมดอกไม้ต้องโดนด่าอ่ะ ในเมื่อเป็นความผิดคนวาด ที่คนวาดคนนั้นไม่เตือนซ.และซ.เห็นก็ไม่ได้บอกให้แก้อะไรทั้งที่นางก็น่าจะรู้ว่ามันซ้ำกับลิ่วเหยา นางควรจะรู้ว่าไม่โอเคและหาวิธีแก้ดีกว่าออกมาโต้งๆแล้วบอกบรีฟไว้นานแล้ว
หรือหาวิธีแก้ปัญหาอื่นก่อนไม่ให้ลูกค้าได้ออกมาเห็นสภาพงานนี้ บวกกลับลูกหาบโอเค มึงลองมองกลับกัน ถ้าเป็นซ.ออกก่อนตอนนี้ดอกไม้โดนด่ายับเเละไปซื้อปกอื่นเพิ่มให้แล้ว เหมือนโอตาคุอ่ะ สรุปที่ด่าว่าปกผิดคาร์มีคนมาแย้งเถียงไปมาเลยสรุปว่าปกไม่สวยบรรยากาศเหมือนทะลุมิติ เรื่องแค่นี้เลยที่ทำให้ดอกไม้ต้องมาเปลี่ยนปก คนด่าก็แค่อยากได้ปกสวยกว่านี้แต่ปั่นเป็นปกผิดคาร์ไม่เข้ากับเนื้อเรื่อง บรีฟผิด ไม่ต้องลากเรื่องปกดอกไม้มาด่าทุกรอบก็ได้มั้ง
เมื่อวานเพื่อนกูเข้าไปในห้องนกฟ้าที่คุยกันเรื่องแบนซบ คนพูดยังบอกว่าไม่ต้องซื้อโม่ตู๋ แต่ไปซื้อฆมปเยอะๆ นะ สนุกมาก สาววายมันแบนอะไรได้จริงจังสักอย่างปะวะ 555555555
>>684 อันนี้ที่กูมองว่าผิดเพราะคอมโพสมันคล้ายกันมาก ตอนร่างจะไม่รู้สึกเดจาวูเหรอ ส่วนตัวกูเลยมองว่าเขาน่าจะจำได้ แต่ถ้าจำไม่ได้จริงๆ กูก็ขอโทษนักวาดด้วย อีกอย่างคือนักวาดมีหน้าที่วาดตามที่ได้รับบรีฟมาแต่นักวาดก็เป็นคนนะ การที่ได้รับงานที่คล้ายกันขนาดนี้และออกในประเทศเดียวกัน ในมุมมองของกูที่อาจไม่ใช่สายวาดแต่ก็เสพงานมาตลอด คิดว่านักวาดควรระวังมากกว่านี้และแจ้งกลับไปมากกว่าที่จะไม่แย้งอะไรเลย เพราะเป็นผลงานที่ออกมาจากเขาทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าบรีฟอะไรมาแล้วนักวาดเป็นเครื่องจักรที่ต้องออกมาเป๊ะทุกอย่าง ไม่มีสิทธิบอกเขาเลยว่าเราเคยวาดประมาณนี้มาแล้ว และในกรณีที่นักวาดรู้และเตือนซ.แล้วอันนี้ก็ผิดที่ ซ แล้วล่ะ
กระแส แบน ไม่เท่าตอนอีกเรื่อง เพราะเรื่องนี้ยังไม่ดังในวงกว้าง สนพ.จะปล่อยเบลอขายต่อไหมนี่เงียบเลย
อีกอย่างที่ได้จากสเปซคือมีเวอร์ชั่นlc แปลอิงของจจ.เองขายแบบebookด้วยราคาไม่แพงและรายได้ถึงนักเขียนด้วย
ถามหน่อย ตกข่าว สนพ.ไหนที่ได้วายมาแล้วบอกเป็นมิตรภาพวะ
เรื่องซบ นี่ถ้าจะไปตามใส่ใจต้องค้นหาคำว่าอะไรอะ
คนตั้งสเปซเมื่อวานเขาไม่ได้เป็นคนตั้งแท็คแบน กุว่าเขากะจะมาระบายในด้อมพีต้ามากกว่าและบังเอิญแอคดังคือด้อมพีต้าคนเลยเห็นเลยเข้าไปฟังกันเยอะ
สเปซเมื่อวาน กูเพิ่งรู้เลยว่าทั้งพั่วอวิ๋น ทั้งนักรบมีแปลผิดทั้งคู่ เบิกเนตรเหี้ย
(กดส่งไปก่อน โทษที)
พาร์ทที่เค้าเม้าเรื่องคำแปลเค้าพูดกันเร็วๆมาก จนกูอยากให้คนพูดเขียนลงทวิตอีกว่ะ แหกอีนสพ.นี้ต่อได้มั้ยกูขอ
ที่จำได้คือ นักรบมีแปลผิดความหมายทั้งรูปประโยค แปลศัพท์ตก หรือมีแปลแล้วหลุดจากบริบทแบบไม่ทำการบ้านจากภาคก่อน
พั่วอวิ๋นก็ไม่ใช่แค่ถอดเสียงผิด แต่แปลศัพท์บางตัวความหมายเพี้ยน ที่คนพูดจับได้เพราะไปอ่านทุนไห่ต่อแล้วมันขัด แล้วมีอีกอะไรว่ะ กูจำไม่ได้555
>>687 แค่คอมโพสพื้นๆนะมึง รายละเอียดต่างๆไม่ได้เหมือนกันเลยแล้วอีกอย่างถ้าคนดีลบอกมาว่าจะเอาท่านักวาดจะทำอะไรได้ มึงอาจจะมองในมุมเสพแต่กูอยู่ในมุมที่เคยวาดงานที่คนจ้างต้องการแบบนี้ๆ ถึงวาดเป็นฉากแบบอื่นสุดท้ายก็ต้องโดนแก้อยู่ดี เรื่องคอมโพสเหมือนโทษนักวาดไม่ได้เลยมึง ในสายงานวาดรูปไม่มีใครนักวาดคนไหนเตือนหรอกว่าเคยวาดแบบนี้มาแล้วขอไม่วาดมุมเดิมได้มั้ย
ตอนเคสปกฆมป. กูงงอย่างเดียวเลยคือทำไมเรื่องมันเงียบได้ขนาดนี้ เคสนี้แม่งหนักกว่าอุปทานหมู่ปกคาร์ผิดอีก แต่ไม่มีใครทวงสักคนบอกให้รอฟังเหตุผลบลาๆ พอสนพ.ว่าแถก็เออออพร้อมใจกันให้อภัย แต่พอเป็นสนพ.อื่นพลาดบ้างไม่มีใครคิดจะฟังเหตุผลออกมาด่าซ้ำเหยียบลูกเดียว จะวิจารณ์ก็ต้องยุติธรรมหน่อยป่าว เคสคล้ายกันแต่คนด่าต่างกันลิบ
กูสังเกตมาหลายเรื่องละ หลังจากคำแถลงในตำนานของลวด.พลิกวงการนิยายวายจีนเสิ่นเจิ้นจริงว่ะ ทุกวันนี้กุเข้าไปอ่านเรื่องไหน ก็เจอทับศัพท์คำง่อยๆเต็มไปหมด หลังๆยิ่งเจอคนทับเกอเกอเยอะขึ้นจน กุอยากบอก “มรึงต้องใจเย็นๆกันหน่า เกอเกอมันไม่ได้ออดอ้อนกว่าพี่ชาย ไม่ต้องกระเสือกกระสนจะทับกันขนาดนั้นก็ได้” กูเครียดกับผลกระทบคำแถลงแบบสร้างทัศนคติผิดๆของนางจิงๆ
ตอนนี้เหลือสนพไหนคุณภาพโอเคบ้างเนี่ย เละเทะกันหมดทั้งวงการแล้ว พิมพ์ผิดแปลผิดกันระนาว
>>702 ถ้าด้านการแปลอ่านง่าย+แทบไม่มีคำพิมพ์ผิดเลย กูยกให้อววกับบลาย แต่อววเคยโดนแหกเรื่องเจิ้นหุนกับพันสารท ส่วนบลายช่วงแรกๆแปลจีนยังแปลขัดใจบ้าง แต่หลังๆแปลดีขึ้นเยอะ พรูฟแทบไม่หลุดเลย ราคาก็ไม่แพง ขายนิยายเน้นๆ ไม่ทำพรีเมี่ยม แต่ดันทำแต่เรื่องสั้นๆที่ไม่ใช่เรื่องดังก็เลยไม่แมส พอมีเรื่องนึงได้ไปทำซีรีส์ คนก็ติดเรียกชื่อสมัยแปลเถื่อนมากกว่าจะเรียกชื่อที่บลายใช้ เป็นค่ายดีที่คนไม่สนใจอะ บลายทำให้กูรู้สึกว่าเพราะอย่างนี้แหละสนพมันเลยไปเน้นทำเรื่องดัง+ขายพรีเมี่ยมกันมากกว่า เพราะขายคุณภาพไปมันก็ไม่มีใครสนใจอยู่ดี 5555555
อววถ้าจำไม่ผิดเครือแจ่มใสที่ก่อนหน้านั้นยังบอกว่าไม่รับงานแนววายเพราะเป็นเรื่องผิดศีลธรรมใช่ปะ
>>707 ใช่ ประเด็นนี้กูก็มองบน แต่ที่แจ่มพูดนั่นมันก็หลายปีมากๆแล้ว คนพูดอาจจะไม่ได้กุมอำนาจในสนพแล้ว หรืออาจจะไม่ได้อยู่ในสนพแล้วด้วยซ้ำ และถ้าสนพมีทัศนคติไม่ดี แต่ผลงานดันออกมาดีกว่าค่ายอื่น กูก็รับได้นะ 55555 กูซื้อที่ผลงานอะ สมมติมีสนพทัศนคติดีม๊ากก แต่งานออกมาห่วยแตก พิมพ์ผิดแปลผิดยับ กูก็ไม่ซื้ออะ กูไม่ได้จ่ายเงินซื้อทัศนคติ
เห็นร้านเจ้ไฝพาลยัง บ้งเองอีกต่างหาก นี่อยากรู้อีกประเด็นมากเลยเวลาพิมพ์กำหนดการหนังสือเข้าร้านของสนพ.ตัวเองเจ้แกกระดากใจบ้างไหมวะ กูอ่านยังแบบ เห้อ รอบก่อนตอนตู้เจ๋อ/นายท่านแมว ก็แบบ เจ้าของไงคะเจ้าของ!
Canon ควรแปลว่าแคนอนหรือแคนนอน -0-
canon มี n ตัวเดียว มันก็ควรจะ แคนอน มั้ยวะ มึงไปเห็นโพสต์ในกลุ่มมาอะดิ 555555 กูงงว่าทำไมนางถึงมั่นมากว่ามันต้องเป็น แคนนอน
ยี่ห้อกล้องก็อ่านแคนอนปะ
>>720 เห้ย แคนนอนว่ะ 5555
https://th.m.wikipedia.org/wiki/แคนนอน
มึงมีใครเข้าเว็บจิ้นเจียงได้มั้งมั้ย ทำไมกูเข้าไม่ได้ กลัวมันบล็อคไอพีประเทศจัง
ky ขนาดแทคแบนซบ. ยังมีลูกหาบไปกดบกรอีก เจ้าของ 2 แบรนด์นี้เขาไม่กินเส้นกันเป็นการส่วนตัวนอกจากธุรกิจไหมกูนี่อยากเผือกเลย
เจอดราม่าซบ.แล้ว อยากให้วายจีนเรื่องดังๆ มีเวอร์ชั่น eng ให้หมดซะเลย ทีนี้จะได้อ่านเองไม่ต้องกลัวดราม่าการแปล
เวลาคนมีคนแนะนำว่าอ่านเถื่อนอิ้งเก็บเล่มจีน/ไต้หวันแทนกูนี่งงๆ จะมั่นใจได้ไงว่าแปลเถื่อนอิ้งมันแปลถูกอ่ะ 55555 ผลสุดท้ายก็ทำร้ายวงการหนังสือในไทยเหมือนกันอยู่ดี
เท่าที่ตามอย่างน้อยๆ งานโม่เซียงทั้งสามเล่มที่จะออกกับ Seven Seas ไม่ได้ localise นะ
อย่างน้อยๆ ใช้ er-gege (พี่รอง) กับ shizun (อาจารย์) แน่ๆ r + เน้นใส่เชิงอรรถมากกว่า
ไม่ใช่ second young master หรือ master/teacher
แปลอิ๊งอย่าคิดว่าจะดี วงการไลท์โนเวลแม่งแหกแปลอิ๊งกันมาแล้วนักต่อนัก
ชัวร์สุดคือต้นฉบับอะ กูว่า
ชอบนิยายชาติไหน ก็เรียนภาษาชาตินั้น
เผลอๆเรียนไป อาจจะทำเงินได้ด้วย
>>738 กุคงใช้คำไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ แต่กุหมายถึงคล้ายๆกับที่ 739 บอก คือวัฒนธรรมจีนกับบ้านเรามันยังพอใกล้กันบ้าง แต่พอไปฝั่งโน้นมันห่างกันมาก อย่างคำเรียกนายท่านสามสี่ห้าหกอะไรเงี้ยมึง ตำแหน่ง คำเคารพ อี๋เหนียง อนุ ภรรยารอง ซึ่งมันบรรยายออกมาในภาษาเค้าลำบากมาก หลายๆครั้งเค้าก็รวบหรือแทนคำที่พอใกล้เคียงในบ้านเค้าจนvibe มันเปลี่ยน แต่พอเค้าใช้ทับศัพท์ มันก็มึนได้ง่ายอ่านยาก กุผู้ไม่เก่ง eng แค่พออ่านเข้าใจบอกตรงๆว่าไม่เคยสะกดชื่อตลค.จีนภาษาอังกฤษถูกเลย พอไปเจออิงค์ทับศัพท์จีนเป็นพรืด แม่งก็งงอีก ใครด่าลวดกะปีนั้น ไปอ่านเวอร์อิงค์ท่เน้นทับกูว่าน่าจะหนักหน่วงกว่ามาก
เวียดนามไม่ก็เกาหลีไงมึง นิยายแปลจีนฉบับสองประเทศนี้เยอะดีๆทั้งนั้น
Ky ทำไมถึงตัดสินใจมาอ่านงานวาย ช-ช กันล่ะ สำหรับพวกมึงงานวายมีกลิ่นอายต่างจาก ช-ญ ยังไง
อันนี้อยากรู้จากโม่งที่ไม่เคยอ่านวาย
>>747 จริงๆ เพราะไม่ต่างเลยอ่านได้มากกว่ามั้ง? เพราะมองว่าเป็นเพศไหนก็อ่านได้ เลยไม่ตะขิดตะขวงใจว่าเป็นชช ญญ หรือชญ ดูจากพลอตกะสำนวนเป็นหลัก แต่ถ้าสมัยวายเมื่อก่อนเลยจริงๆ รู้สึกว่าตลค ผู้หญิงสมัยนั้นข้อจำกัดเยอะ พอเป็นผู้ชายมันมีอะไรที่ทำได้เยอะกว่า ตอนอ่านเลยรู้สึกว่าน่าสนใจมั้ง
>>747 สำหรับกุพลอตมันหลากหลายกว่า กุชอบอ่านจีนโบราณสมัยก่อนตัวละครหญิงชีวิตก็วนๆอยู่กับคุณหนู สนม องค์หญิง เมียเอก อนุ ตอนจบนิยายก็ไม่พ้นกำจัดนางร้ายสำเร็จมีผัวดีๆตำแหน่งสูงๆซักคน อาชีพที่ทำได้ก็จำกัด ที่หลากหลายขึ้นหน่อยก็จอมยุทธ์หญิง หมอหญิง เทพเซียน แม่ค้า แต่ส่วนใหญ่พลอตเรื่องจะเน้นไปที่ความรักมากกว่าปมอื่นๆ กุเลยหันไปวายเพราะมันมีทั้งแนวที่เน้นความรัก กับแนวที่เน้นปมเรื่องมากความรัก ให้กุเลือกเสพได้เยอะขึ้น อีกอย่างกุชอบแนวองค์ชายชิงบัลลังก์ แนวขุนนางตบตีในราชสำนัก ซึ่งแนวชญ.มันให้สิ่งนี้กับกุไม่ได้ มุมมองอารมณ์ที่ได้ตอนอ่านมันต่างกัน
ky กูพึ่งดูพันสารทจบนิยายแปลดีมั้ย กูควรเก็บมั้ยมึง
>>755 กูรู้สึกว่าพลอตที่แมสๆ หรือเรื่องดังๆ นี่มันซ้อนทับกับชญ เยอะมาก แทบไม่ได้ต่างกันเลย น่าจะบูมเพราะอยากเห็นผช รักกันจริงๆ แหละ 55555
วัยเบียวนี่กูเริ่มจากชิปชช ในการ์ตูน หนัง นิยายไรงั้นอะ ฟีลมันได้ ใจมันรัก 55555 ช่วงนั้นที่เป็นชช ก็จะเป็นงานแฟนฟิคซะเยอะ พอหลังๆ มันก็ค่อยขยับมาเป็นออริชช อีกที
>>756 นอกจากที่พิมพ์แรกถอดเสียงชื่อผิด กับเนื้อหาตกหาย แปลอยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับกุนะ แต่ตอนนี้เป็นพิมพ์2แล้ว ชื่อที่ถอดเสียงผิดก็แก้แล้ว เนื้อหาที่หายก็มาครบแล้ว
กุเชียร์ให้ซื้อให้นะเพราะนิยายมันดีมาก มีลายละเอียดเสริมในส่วนที่เมะไม่ได้เล่า บรรยายความคิดตัวละคร และความเชี่ยของอิลุงในนิยายที่หาไม่ได้ในเมะ
เห็นอรประกาศ lc แล้วมีแจ้งว่าได้ฉบับรีไรท์ ฉากรัก 100% 🤣 แอบคิดว่ามันควรเป็นเรื่องไหนได้ฉบับแผ่นดินใหญ่มาถึงควรแจ้งไหมนะ เพราะเป็นเรื่องปกติที่สนพ.ซื้อฉบับไต้หวัน ไม่ตัดมาอยู่แล้วไหมนะ
พันสารท กูอ่านรอดนะ ใครมีพื้นฐานการอ่านแนวกำลังภายในมาก่อน กูว่าอ่านรอด
เพราะเรื่องนี้ สำนวนค่อนข้างไปทางแนวกำลังภายใน
ไม่ว่าฉบับไหนก็ควรแจ้งอยู่แล้ว คนซื้อเขาจะได้รู้ว่าฉบับไหนแล้วเลือกซื้อถูก ไม่ได้มีแต่คนอยากอ่านncอย่างเดียว พวกมึงแบ่งแบบนี้เดี๋ยวก็โดนด่าว่าเห็นแก่เอาแต่เย
>>771 ก่อนหน้านี้ก็แทบไม่เห็นเจ้าไหนประกาศนะว่าเอาเวอร์ไหนมา มันเลยกลายเป็นคนเข้าใจโดยปริยายว่าซื้อฉบับเต็มไม่ตัดมาไง กูถึงคิดว่าที่ควรแจ้งคือถ้าซื้อเวอร์ผดญมามากกว่า แบบแปะโน้ตว่าเอาเวอร์ผดญมานะ คนอ่านก็มีสิทธิ์เลือก กูว่าไม่เยอะนะที่ต้องอ่านแต่เยๆ อย่างรอบก่อนหมีก็ตายด้วยการคิดว่าคนอ่านรอแต่เรื่องเย ฉบับไต้หวันไม่มี nc หลายคนก็อ่านเพราะมันจัดในหมวดวาย ความสัมพันธ์พระนายมันต้องชัดเจน แค่ชัดเจนก็พอละ เยไม่เยไม่ใช่พ้อยด์
ปล. ทำไมคนมองสาววายว่าชอบแต่ฉากเยเย้วะ เศร้าใจ
>>768 กุรู้สึกมีความแซะเล็กๆว่ะ 555 แต่คิดว่าไม่ได้ตั้งใจหรอกน่าจะกลัวโดนถามรัวๆเพราะคนกะลังดราม่าเรื่องนี้มากกว่าเลยระบุซะเลย
แต่กุนี่เจอไปเยอะๆชักงง มีทั้งรีไรท์จากเวบโนเวล /แบบuncutเอาnc ออกเฉยๆ /แบบหมีพูห์ที่ตัดทิ้งเฉยๆเนื้อหาแหว่งช่างมัน/ รีไรท์ให้แอบวายรักนะแต่จีบกันออกสื่อไม่ได้
ชีวิตบนดินแม่งไม่ง่ายเลย
>>772 กูเลยอยากให้มีประกาศชัดๆไปเลยทุกเจ้าต่อไปนี้ ไม่ได้เข้าใจโดนปริยายนะ เห็นหลายเรื่องเวลารีวิวก็ต้องมีคนถามมิตรภาพไหม มีฉากจูบไหม มีฉากncไหมเงี้ย ตัดเข้าโคมไหม เห็นถามเยอะแยะก็แจ้งไปเลยจบๆ ก็เพราะคนเขามองแบบนั้นไงละมึงตามที่กูบอกไปแต่ละคนถามมีฉากนี่ๆไหมตลอด จะให้คนอื่นมองแบบนี้ก็ไม่แปลก
ที่จริงกูว่าประกาศแค่ LC ฉบับไต้หวันมาก็จบไม่ต้องบอกว่ามีฉากเยหรือไม่มีนะ เพราะกูเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านวายแต่ไม่ได้ชอบอ่านฉาก nc ขนาดนั้น อีกอย่างคนจะได้ไม่ด่าว่าสาววายชอบอ่านแต่ผู้ชายเอาตูดกัน
>>772 คนจะมองแบบนั้นก็ไม่แปลกอะ เพราะเห็นเวลานิยายมีรูปฉากเยก็ถ่ายมาวี้ดว้ายกัน อนิเมวายมีฉากเยก็แคปรูปฉากเยมาวี้ดว้ายกัน มันฮวามีฉากเยก็แคปมาหวีดว่าพระเอกเยดุๆๆๆ นิยายมีฉากบรรยายเสาค้ำสวรรค์ สาววายก็เอามาหวีดว่าอรุ่มมม คนนอกเห็นซีนแบบนี้บ่อยๆก็เข้าใจว่าสาววายหมกมุ่นกับการเย กูเป็นสาววายยังรู้สึกเลยว่าบางคนมันก็สนใจแต่ฉากเยจริงๆ 555555555 แต่ประเด็นคือถึงจะสนใจแต่ฉากเยมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอ่ะมึง เยเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่กุก็ไม่ชอบอ่านผดญนะ แบบไม่ใช่อยากอ่านฉากเย แต่ไม่ชอบอ่านฉบับเซนเซอร์อะ แบบวายก็วายดิ มามิตรภาพมันรู้สึกแบบทำไมกุต้องมาอ่านผลพวงจากการคอนเซอเวทีฟของผดญด้วยวะ
>>776 ทุกคนทุกสายก็สนฉากเยแหละมึง แค่มันแบ่งที่หวีดเป็นมุมพรกับมุมปกติ แต่สายวายหวีดรวมกันออกสื่อมันเลยชัดเจนไปหน่อย
กุในฐานะสายสนับสนุนฉากเรท ซึ่งอยากให้มีในงานทุกงานเพราะมันรู้สึกมิชชั่นคอมพลีต อยากบอกว่ากุไม่ได้อยากได้ฉากเยแบบพร ที่มีทุกสามสี่ย่อหน้า บรรยายลูคลำทุกวินาทีจนน้ำกระฉูดเลยนะ กุขอแค่ซีนสองซีนจะบรรยาย 5 บรรทัดกุก็ไม่ว่าขอให้กุได้รู้ว่าใครเสียบใครในคืนนี้ก็พออ่ะมึง ความโรมานซ์ในค่ำคืนนั้นต่างหากที่สำคัญ
กูสายวายญป บอกตรงๆกูเบื่อฉากเยมาก เรื่องไหนเยเยอะๆกูข้ามเลย เพราะวายญปเขียนฉากเยยาวเป็นสิบหน้ากันทุกเรื่อง
กุว่าต่อไปการบอกว่าได้เวอร์ชั่นไหนมาจะเป็น new normal ซึ่งก็ดีนะ แฟร์ๆดี
>>782 มันไม่สมควรเรียกเวอร์ไต้หวันหรอก กูเองก็ขออภัยมันเป็นคำที่รวบรัดไปหน่อย เวอร์ไต้หวันก็ซื้อ lc มาจากจจ ซึ่งมันเป็นเวอร์เว็บเหมือนกัน ไม่ใช่รูปเล่มตีพิมพ์ผดญ กูเพิ่งฉุกใจคิดเหมือนกันว่าใช้ว่าไต้หวันมันรวบรัดไป เห็นเม้นต์มึงละนึกขึ้นได้
ปล. คนแปลเล่ห์กลเพิ่งทวิตด้วย เขาอธิบายแบบละเอียดเลย ลองอ่านเพิ่มได้ เลยว่าน่าจะหลายคนที่เข้าใจว่าเราซื้อ lc จากไต้หวันน่ะ จริงๆ ไม่ใช่ซื้อจากจจ คือกันทั้งนั้น ไต้หวันเหมือนเรียกเพื่อให้เข้าใจว่าได้ฉบับไม่มิตรภาพเท่านั้น
งั้นวันหลังควรเรียกว่าฉบับวายหรือมิตรภาพดีมะ แบบนี้ระบุแน่ชัดกว่าอีกว่าได้อันไหนมา 🤣
กูงง สรุปมันมีกี่เวอร์ชั่นกันแน่วะ ใช่ 2 เวอร์ชั่นปะ
1. จากเว็บจจ = ไต้หวัน
2. จากจีนแผ่นดินใหญ่
>>785 ปกติก็มี
- เวอร์จจ
- เวอร์แผ่นดินใหญ่ (ผ่านการเซนเซอร์)
- เวอร์ไต้หวัน เอาจจมาพิมพ์ แต่อาจมีแก้จากเว็บนิดหน่อย (กูเข้าใจว่าเทียนกวานที่กำลังรีไรท์น่าจะรีไรท์ให้ไต้หวัน ใช่มะ?)
ของไทยปกติซื้อจากจจ ไม่ได้ซื้อจากไต้หวัน ดังนั้นปกติที่ไทยเรียกกันว่าเวอร์ไต้หวันๆๆ=เวอร์จจ
ฉบับไต้หวันก็ของที่พิมพ์ขายในไต้หวัน=จีนตัวเต็ม? มีทั้งมิตรภาพและรักกัน
ฉบับตีพิมพ์จีนแผ่นดินใหญ่=จีนตัวย่อ มิตรภาพขนานแท้ ตัดฉากกอดหอม เหมือนแค่นิยายจิ้นๆแค่นั้น
สองอันบนไว้แบ่งภาษาเวลาอ่าน แต่ถ้าถามเรื่องฉาก
เวอร์จจ.ตัวเต็มตัวย่อมีหมดภาษาญปก็มีกูงงมากอันนี้ มีรักกันได้แต่ตัดฉากบนเตียง บางเรื่องไม่ดังอาจมีฉาก แต่ระวังมีคนแจ้งแบนเหมือนเด็กดีสำหรับคนไทยนั้นแหละมึง555 บางคนที่ลงในจจ.ก็ให้ไปตามฉากที่อื่น บางครั้งก็ทักคนแต่งไป
แต่เรื่องชาลานี่อะ กูเห็นทวิตหนึ่งบอกมีเวอร์เกาหลีไม่ตัดฉาก ทำไมซบถึงซื้อมาไม่ได้วะ? ไม่เห็นคนคุยเรื่องนี้กันต่อตกลงว่าไง
เคสซบมันเป็นได้ทุกกรณีแหละมึง ทั้งสนพ.ตั้งใจซื้อ/สะเพร่า/ทางนู้นส่งผิดฉบับ/นักแปลไม่รู้ รู้แค่รับงานมาแปล/พอแปลไม่ได้ติดใจอะไร/มารู้เมื่อแปลเสร็จ เกือบจะเสร็จ กลับลำไม่ทัน เป็นได้ทุกกรณีแหละ ผิดอะไม่เท่าไรหรอกแต่การเทคแอคชั่นเป็นตัวตัดสินได้อย่างดีเลย อยากให้เคารพคนเขียน พิมพ์มาได้ อิ๋บอ๋ายเถอะ! รอบนี้ดูศพไม่สวยเท่าไร แต่ก็ยังลอยลำอยู่นะ ไม่ได้โดนถล่มแบบตอนทัวร์ลงสนพ.อื่น ก็รอดูแถลงการณ์ต่อไปของนางละ
เป็นไปได้ป่ะวะว่ามันลามมาถึงวายที่จะขายออกนอกประเทศแล้ว ไม่ใช่แค่ซบที่เอาเวอร์จีนผดญมาขาย
>>795 เห็นเหมือนกันยิ่งทางฝั่งเกาน่ะได้ฉบับเต็มมาทั้งนั้น หรือในประเทศส่วนใหญ่ก็ฉบับเต็ม กูว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของราคาดีลมากกว่าที่เขาจะส่งผิดไฟล์มาให้ เรื่องสิ่งพิมพ์ของต่างประเทศไม่ค่อยเจอที่สะเพร่าเหมือนไทยหรอก ส่วนเรื่องนักแปลกูว่าส่วนใหญ่คนแปลก็คงไม่เคยอ่านหลายๆเรื่องที่ตัวเองแปลมาก่อนหรอก
ในใจกูเดาว่านางได้จากฝั่นจีนมาผิดเป็นผดญใหญ่แล้วไม่ได้เช็ค นักแปลไม่รู้เรื่องว่าต้นฉบับเป็นไงเเปลอย่างเดียว พึ่งมารู้ตอนคนมาทัก เพราะนางได้lcมา3ปีแล้วน่าจะรู้กระแสตลาดและไม่น่าออกมาเเถลงการแถๆแบบนี้ ยิ่งฝั่นจีนพลาดบ่อยสารบัญก็ดี แฟนปลอมๆที่ลืมตอนพิเศษก็มาจากจีนส่งให้ไม่ครบ แต่กูสงสัยตอนนางประกาศlc ไม่แจ้งเวอร์ทั้งที่ตอนนั้นประกาศละเอียดยันการแบ่งเล่ม (เล่มจีนผดญแบ่ง 3 เล่มจบ แล้วนางไปเอา 6 เล่มมาจากไหนกูก็สงสัย) ซึ่งตอนนั้นกูเห็นเวลาสนพประกาศ lc ก็เริ่มมีแจ้งว่าได้เวอร์ไหนนะทเช่นฮัสกี้ นางจะพลาดไม่แจ้งอ่อวะ มันก็ดูตั้งใจปิดบังอยู่ กูเลยฟันธงไม่ถูก แต่ที่ซบผิดเละก็เพราะเเถลงการ์ณที่เหมือนไม่ได้คิดก่อนของนางนี่แหละ แย่มาห
>>796 เอ้าสามปีเลยเหรอ นึกว่าได้มาเร็วๆนี้
กูคิดว่านักแปลไม่น่าพลาดหนักขนาดนั้นนะ มันน่าจะรู้ว่าเป็นเวอร์ผดญ คนพรูฟเอยคนจัดหน้าเอยยิ่งไม่น่าพลาดซบมันชอบเรื่องหื่นๆจะตายน่าจะรู้ตัวว่าฉากมันหายไป
แถมถ้ารู้ตัวว่าดีลผิดเวอร์ชั่นก็น่าจะติดต่อไปที่เจ้าของลิขสิทธิไปขอแก้อ่ะ(วายยังไงก็ขายดีกว่า) เพราะดูก็น่าจะคุยกันเยอะอยู่ มีดีลตอนพิเศษมาด้วย แต่ไม่แก้เลยคิดว่ามันน่าจะตั้งใจขายเวอร์ชั่นนี้นั่นแหละ แต่เนียนโปรโมทเป็นวาย
เวลาจจมันส่งไฟล์ให้มันไม่พูดอะไรหรอกมึง มันไล่ให้ไปเทียบในเว็บเอาเองนู้น ซึ่งคนเทียบมันก็ต้องเป็นคนแปลหรือบ.ก. อันนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันจงใจแต่แรกหรือไม่ได้ดูเทียบจริงๆ
แต่ที่ซบมันเหี้ยคือแม่งพอรู้ตัวแล้วยังเนียนแถอ้างนขโทษคนอ่าน
>>797 อย่างสารบัญต้นทางก็สะเพร่าที่ให้เวอร์ผดญมา สนพ.บ้านเราต้องตรวจเช็คเองมากนี้อะ เจอแต่ละเคส ต้องมาทำลายหนังสือ สงสารต้นไม้ T^T นับๆ ดูแล้วเห็นหลายเคสที่ทางฝั่งเราไม่ค่อยเช็คจนเป็นประเด็น ทั้งแปลไม่ครบ ตอนพิเศษหาย ถ้าปล่อยเล่มออกมาแล้วไม่เช็คงานให้ดีๆ ก่อนมันยิ่งแย่นะ พอเจอเคสสารบัญเลยคิดว่าเป็นได้ที่ทางต้นทางเองก็สะเพร่า แต่ทั้งนี้ทางซบดูไม่จริงใจอะ แถได้แถ 5555 กูแค่ลิสความน่าจะเป็นว่าเป็นทางไหนได้บ้าง มันเป็นได้หลายทางเลย แต่ไม่ชอบจริงกับการอ้างว่าให้เคารพงานกับการตัดสินใจของคนแต่ง
ถ้าเป็นกู กูพับโครงการ ไม่วางขายแล้ว
กูเพิ่งเห็นคนออกมาด่าซบ เรื่องตั้งราคาขายแพงกว่าจำนวนหน้าตั้ง 30-40 บาท
329 หน้า 360 บาท
353 หน้า 380 บาท
กูตกใจ ดีนะ กูไม่ซื้อซบ 5555
เดี๋ยวนี้แพงยังกับทำมือ
ซบ.ท็อปฟอร์มจริงว่ะ โทษนักแปล โทษนักวาด ล่าสุดเอานักเขียนมาอ้างโทษนักอ่านไปอีกกก ตอนกูอ่านคำแถ-ลงจบ แทบลุกขึ้นมาปรบมือ สุดยอดไปสุดมาก อิสนพ.นี้
กูหมั่นไส้ความมั่นที่บอกว่า หวังว่านักอ่านจะเคารพการตัดสินใจของนักเขียนแบบเดียวกับที่สนพ.ทำและตั้งใจผลิตงานออกมาให้ดีที่สุด
มึงอ่านงานแปลที่มึงลงตัวอย่างให้รู้เรื่องก่อน นี่คือดีที่สุดของมึงแล้วเหรอ
การที่ซบอออกมาอ้างนักวาดนักแปลมันแสดงถึงวางแผนงานที่ผิดพลาดของตัวซบเองด้วย ทั้งการเลือกนักวาดหรือการให้เวลานักแปลที่ประเมินเวลาพลาดแล้วยกมาเป็นข้ออ้าง เป็นเด็กน้อยชอบอ้างไม่เหมือนทำงานบริษัท ถ้ากูเป็นคนทำงานกับในซบกูคงไม่อยากทำให้แล้วอ่ะ ไม่มีการปกป้องเพื่อนร่วมงานเลยสักนิด โยนทุกอย่างมาให้กูรับผิดชอบหมด เรื่องภายในก็เอามากาง ปัญหาเรื่องค่าคอชมิชนักวาดเพิ่มก็เอามาให้ลูกค้ารู้ บริษัทดีๆเขาไม่ทำกันนะ โคตรจะไม่มืออาชีพ
>>870 กูล่ะขำ ก่อนหน้านี้ยังมีคนยกราคาสวรรค์ประทานพรมากดฮัสกี้อยู่เลย มาตอนนี้โดนด่าแล้ว ค่าส่งแม่งก็แพงกว่าชาวบ้าน
ไม่ใช่ว่าซบ.มันพลาดวางแผนงานผิดพลาดเองตั้งแต่ต้นหรอ? งานมันถึงเสร็จไม่ตรงกำหนดจนต้องเอานักแปลนักวาดมาอ้าง กูเห็นทุกครั้งที่ชีพลาดชีจะออกตัวก่อนตลอดว่า เออ เพราะนักวาดวาดปกไม่ทันนะ นักแปลแปลงานไม่เสร็จนะ ทั้งที่ถ้ามองกันจริงๆมันเป็นมันเป็นที่ระบบจัดการของสนพ.เองรึป่าวหลายๆเคสถึงได้มีจุดใดจุดหนึ่งผิดพลาด ทั้งปกไม่ทัน งานแปลไม่เสร็จ อันนี้กูสงสัยนะเพราะมันไม่ใช่เคสเดียวอะที่สนพ.มันอ้างแนวๆนี้
>>812 เรื่องโทษนักวาดถ้ากุจำไม่ผิด ซบ.นางโทษตอนที่มีคนไปถามว่าทำไมเทียนกวานเล่ม2ออกช้าจัง(คุ้นๆว่าซบ.เคยโม้กับคนอ่านเรื่องกำหนดการออกเล่มของเทียนกวาน) นางก็ว่าตัวเล่มแปลเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ปกจากนักวาด
เอาจริงฆ่าหมาป่าออกช้ามันโทษคนแปลไม่ได้ lc ก็ซื้อไว้ตั้งหลายปี(กุจำได้ว่าประกาศlc หลังตัวร้ายแปปเดียว) จนเรื่องอื่นที่ประกาศlcทีหลังแปลจบออกเล่มครบหมดเล้ว ฆ่าหมาป่าพึ่งจะออกเล่มแรก มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าดองไว้แล้วพึ่งมาแปล
โบ้ยว่าช้าเพราะนักแปลนี่น่าเกลียดมากๆอะ ถึงนักแปลจะเป็นฟรีแลนซ์ก็ไม่ควรโบ้ยกันแบบนั้นมั้ยวะ โคตรไม่โปรเฟสชันนอล
กูอยากรู้ว่าซบ.เวลาคัดคนเข้าไปทำงานนี่ต้องศีลเสมอกันมั้ย แลดูบ้งทั้งสนพ.ตั้งแต่แอดมินยันพวกบ.ก.อะไรตั่งต่าง5555555555
กุว่าการที่บริษัทโบ้ยลูกจ้างเป็นเรื่องที่โคตรน่าเกลียด สนพ.อื่นที่โดนนักแปลคนเดียวกันดองงานเค้ายังไม่ออกมาพูดเลย อย่างมนวนี่โดนนานกว่าอีกมั้ย
โทษกันงี้ นักแปลไม่ออกมาแฉกลับเหรอวะ
>>799 …………………...„„-~^^~„-„„
………………„-^*'' : : „'' : : : : -„
…………..„- : : :„„--/ : : : : : : : '\
…………./ : : „-* . .| : : : : : : : : '|
……….../ : „-* . . . | : : : : : : : : |
………...„-* . . . . .| : : : : : : : :'|
……….../ . . . . . . '| : : : : : : : :|
……..../ . . . . . . . .'\ : : : : : : : |
……../ . . . . . . . . . .\ : : : : : : :|
……./ . . . . . . . . . . . '\ : : : : : /
….../ . . . . . . . . . . . . . -„„„„-'
….'/ . . . . . . . . . . . . . . '|
…/ . . . . . . . ./ . . . . . . .|
../ . . . . . . . .'/ . . . . . . .'|
./ . . . . . . . . / . . . . . . .'|
'/ . . . . . . . . . . . . . . . .'|
'| . . . . . \ . . . . . . . . . .|
'| . . . . . . „^- „ . . . . .'|
'| . . . . . . . . .'\ .\ ./ '/ . |
| .\ . . . . . . . . . \ .'' / . '|
| . . . . . . . . . . / .'/ . . .|
| . . . . . . .| . . / ./ ./ . .|
'| . . . . . \ . . . . . . . . . .|
'| . . . . . . „^- „ . . . . .'|
'| . . . . . . . . .'\ .\ ./ '/ . |
| .\ . . . . . . . . . \ .'' / . '|
| . . . . . . . . . . / .'/ . . .|
| . . . . . . .| . . / ./ ./ . .|
'| . . . . . \ . . . . . . . . . .|
'| . . . . . . „^- „ . . . . .'|
'| . . . . . . . . .'\ .\ ./ '/ . |
| .\ . . . . . . . . . \ .'' / . '|
| . . . . . . . . . . / .'/ . . .|
| . . . . . . .| . . / ./ ./ . .|
'| . . . . . \ . . . . . . . . . .|
'| . . . . . . „^- „ . . . . .'|
'| . . . . . . . . .'\ .\ ./ '/ . |
| .\ . . . . . . . . . \ .'' / . '|
| . . . . . . . . . . / .'/ . . .|
| . . . . . . .| . . / ./ ./ . .|
'| . . . . . \ . . . . . . . . . .|
'| . . . . . . „^- „ . . . . .'|
'| . . . . . . . . .'\ .\ ./ '/ . |
| .\ . . . . . . . . . \ .'' / . '|
| . . . . . . . . . . / .'/ . . .|
| . . . . . . .| . . / ./ ./ . .|
'| . . . . . . . . .'\ .\ ./ '/ . |
| .\ . . . . . . . . . \ .'' / . '|
'| . . . . . \ . . . . ;. . . . .|
เอา ปสก กูละกัน ทำงานมา นักแปลเลท นักวาดเลท มีจ้า เเม้ในสัญญาระบุเวลาส่งงานตามกำหนด เเต่ส่วนใหญ่เขาก็ไม่ค่อยเอารื่องเอาราว หรือหักเงินกัน เพราะคนแปลไปสักพักเเล้ว ถ้าเปลี่ยนคนแปลก็ต้องเริ่ม 1 ใหม่ นักวาดซีรีส์ต่อๆกัน จะเปลี่ยนก็โดนนักอ่านเเหกอีก
นักวาดบางคนจ้างไปเป็นปี สุดท้ายก็ส่งงานไม่ทัน เยอะเเยะ
ไม่ได้ดีเฟนด์ให้ซ. เเต่มันมีคนไม่ทำงานทันตามกำหนดอยู่นะ
ไม่งั้นมึงสังเกตดิทุกที่เเทบจะไม่ประกาศอะไรล่วงหน้าเลย นอกจากใกล้ๆ ออกถึงจะมาบอก
ทำไมบางสนพออกตรงเวลาได้ แต่ซบออกตรงเวลาไม่ได้
เพราะสนพอื่นนักแปลกับนักวาดไม่ทำงานเลทเหรอ
อันนี้กูถามเฉยๆนะ
กูเคยเห็นกรณีเล่ห์กลจักรพรรดิ กุหลายดีเลย์แล้วดีเลย์อีกจนคนด่า หลายครั้งมากจนคนแปลต้องออกมาขอโทษที่เป็นฝ่ายล่าช้าเอง และขอโทษกอง ที่ต้องรับเสียงด่าแทนเค้า น่าจะเรื่องเล่ห์กลฯนะถ้าจำไม่พลาด
งานสนพ.ไหนมันก็มีความชิท ยิ่งประสานงานเยอะยิ่งมีแต่ชิท ขึ้นอยู่กับว่าสนพ.จะรับมือยังไงหรือโยนขี้โบ้ยความผิดให้ใครหรือเปล่าเท่านั้น
ข้อดีของการตามซบ. ก็คือพวกมึงจะได้รู้ว่ากระบวนการทำงานหนังสือมีขั้นมากมาย
สนพ.อื่นช้าก็คือช้า ความผิดสนพ. ข่ะ จบ
แต่ซบ. จะบอกมึงว่าช้าเพราะคนแปลส่งงานเลทข่ะ ช้าเพราะคนวาดปกคิวยาว(จองช้าเอง)ข่ะ ช้าเพราะตั้งใจเปิดพรีฯไม่พร้อมกันจะได้แดกเงินทอนค่าส่งข่ะ ไม่มีมาบอกมึงหรอกว่าช้าเพราะกองบก.เองเพราะจะเป็นการปิดหูปิดตา มึงจะไม่มีวันรู้ว่าหนังสือต้องมีหลายกระบวนการที่อ้างให้ช้าได้
แสดงว่าถ้ากูตามข่าวไปเรื่อยๆ
เดี๋ยวจะได้เจอข้ออ้างใหม่ที่ซบจะเอามาอ้างเวลาเกิดปัญหาอีกสินะ
นี่ซบมันยังมีบุญอยู่นะ ถ้าย้อมแมวแล้ววางขายเรียบร้อย แล้วค่อยความแตก มันจะบันเทิงขนาดไหน
>>825 >>827 นักแปลเค้าแปลดีมากจริงเว้ย แต่รับงานซ้อนเยอะหลายสนพ. กิตติศัพท์ความดองและหายตัวก็ของจริง แต่สนพ.ก็ยอมรอกันเพราะแปลดี
ที่คิวซ้อนใกล้ๆกันมีฆมปประกาศสิงหา 2018 ออกมา 2 เล่ม รคอลประกาศกุมภา 2019 เพิ่งออกครบ 3 เล่ม Absolute ประกาศตุลา 2018 ออกมาแล้ว 2 เล่ม ไม่รู้เรื่องไหนก่อนหลัง ทวงกันมาหนักหน่วงแต่ที่เหี้ยโบ้ยนักแปลตรงๆมีแค่ซบที่เดียว สนพ.อื่นเค้าก็รับหน้าลูกค้าไปเองทั้งนั้น
>>842 เออ กูอยากให้มันโดนแฉตอนออกเล่มแล้ว ขาดทุนยับๆ ความเชื่อมั่นหายกว่านี้อีก ย้อมเเมวขายลูกค้า
>>843 กูยังจำเคสที่กุหลาบโดนด่าเพราะคนเข้าใจว่ากุหลาบให้เขามาแปลโอตาคุใหม่ บอกกุหลาบแซงคิวเป็นต้นเหตุให้ฆมปออกช้า กุหลาบเกาหัวแกรกๆต้องออกมาแถลง คนกล่าวหาแม่งก็ไม่ขอโทษอะไรบอกกุหลาบผิดที่ลงข้อมูลในisbn ผิดเอง ทั้งที่กุหลาบมันแค่ย่อชือนักแปลโอตาคุเป็น MW เฉยๆ ข้อมูลก็ยังไม่ได้ประกาศ แต่ลูกค้านี่มโนกันเก่งล่ะ ด่าเอาด่าเอากับสนพอื่น ความผิดไม่เคยจะเข้าซบเลยว่าจองคิวนักแปลไว้ไง ทำไมเลือกคนนี้แปลหรือให้เวลานักแปลประมาณไหน กูอิหยังวะกับเคสนั้นมาก
มีหลายคนอัดอั้นกับซบเยอะนะ เงาแค้นเพียบเลย คิดเหมือนกูว่านิยายไทยของซบมีดีแค่ปก ได้นักวาดคู่บุญ ได้ยินเขาบอกว่านักวาดคนนี้ไม่วาดให้ที่อื่นด้วยนะ ซบผูกขาด ส่วนนิยายแปล มีปัญหาทุกเรื่อง
นว.คนไทยปะ กูสงสารเขานะได้วาดปกแหลายเรื่องคือบ้งยิ่งเซตรีด กูละเสียดายจริงๆ55555555เฮ่อ หรือจริงๆแล้วนิยายของสนพ.นี้ไม่ค่อยดีสักเรื่องเลยวะ555
เขาฝีมือดีวาดปกสวยจริง อยากให้เขาได้วาดปกให้นิยายที่ดีๆบ้าง
สิ่งที่ทำให้กูอึดอัดยิ่งกว่าซบ. คือลูกหาบมัน กูส่องแท็คเห็นความช่วยแถธิบายในนกฟ้า‘บางอัน’แล้วคลื่นไส้ บางแอคที่ช่วยแถให้ซบ.คือคนที่เหยียดนักอ่านคนอื่นตอนเคสงานแปลสวรรค์แท้ๆ แหม..ทำเป็นลืมวีรกรรมเก่าตัวเอง แค่เปลี่ยนปกอย่าคิดว่าคนอื่นจะลืมนะ
Ky เห็นโม่งบอกมาตราฐานอวว.สูงกว่าสนพ.อื่น งั้นกูสงสัยอย่าง ทำไมอวว.ถึงไม่ดีลวายเรื่องดังๆมาทำมั่งอ่ะ เห็นส่วนใหญ่มีแต่เรื่องเพชรในตม(ดีแต่ไม่แมส)ทั้งนั้นเลย มีอยู่ไม่กี่เรื่องเองที่ดังๆแล้วซื้อมาแปล
>>860 ช่วยแถในแท็คใช่ม่ะเหมือนกูจะรู้ว่ามึงพูดถึงใคร ถ้าใช่คนเดียวกับที่กูคิด ก็ปล่อยนางไปเถอะพิมพ์เหมือนเป็นกลางแต่ไบแอสซบ.หนักขนาดนั้น กู่ไม่กลับแล้วล่ะ
Ky อู๋ชวง ที่ไหนได้ไปเหรอ ไม่ใช่ซบใช่มะ
>>855 ไม่รับอะไรเลยมึงนอกจากของซบ ไม่รู้ติดอะไร กูเคยเห็นกลุ่มนขคุยกันว่าคนนี้ยาก
>>856 >>857 V อะมึง ที่วาดปกของซบ เกือบทุกเรื่องโดยเฉพาะของนักเขียนไทย งานไทยซบ.เรื่องที่โดนด่าที่สุดก็นาคอะไรสักอย่าง งานห่วยมาก มีดีแค่ปก บก.ปล่อยให้ผ่านตามาได้ยังไงไม่รู้
>>858 พูดยากว่ะ เขาต้องเลิกผูกขาดกับ ซบ.ก่อนอะ บางทีสนพ.อื่น นักเขียนทำมือเรื่องดังๆ ก็เยอะ เห็นมีคนติดต่อไปเขาก็โนๆ
ชื่อนักวาดบนปกมันก็เขียนไว้ เบาๆหน่อยนางฟ้องเก่ง
พวกมึง มีเรื่องอยากขอความเห็นนิดนึง
พอดีกูสั่งรอคุณออนไลน์เล่มจบกะสนพ. bod** ไปใน lnw เค้า โอนเงินไปตั้งแต่วันที่5แล้วยังไม่ตรวจสอบยอดเงินเลยนี่ปกติเป่าวะ กูจะตามเค้าได้งัยเนี่ยะ หรือว่าเค้าเจ๊งแล้ว
ไม่เคยสั่งแบบพร้อมส่งกับสนพ. เลยตอบเรื่องปกติมั้ยไม่ได้ แต่ถ้าเกิดมีปัญหาจะตาม ลองโพสต์ลงกลุ่มใหญ่ๆ อย่างกลุ่มสปอยล์ดูแล้วกัน วันก่อนเห็นมีคนมาโพสต์ถามหาก็ดูเทคแอคชั่นไวกว่าส่งเมล ส่งข้อความเฉยๆ อยู่นะ
ดันนนนน
Ky กูเพิ่งอ่านการ์ตูนของสยั่มเรื่องนึง เห็นมีเชิงอรรถเล็กๆใต้ช่องเขียนอธิบายคำว่า บานปลาย กูสงสัยว่าคำนี้จำเป็นต้องอธิบายความหมายด้วยเหรอ แล้วเดี๋ยวนี้คำศัพท์แบบไหนถึงต้องอธิบาย เพราะกูคิดว่าบานปลายก็น่าจะทายได้ตามบริบทอยู่แล้วหรือเปล่า คือในนิยายวายเองก็เห็นบางเรื่องที่มีเชิงอรรถอธิบายคำที่ไม่คิดว่าจะต้องอธิบาย
ซาราวาเซไน คิมิวะโชโจนาโน๊
>>883 ว่าไป ไอ้ที่พวกปสดบอกว่าเลียแผลต้องใส่เชิงอรรถนี่ปัญหามันมาจากการที่พวกแม่งขาดความรู้รอบตัวป่าววะ คือไอ้การเลียแผลนี่มันมาจากการที่พวกสัตว์เวลาบาดเจ็บแล้วมันจะเลียแผลตัวเองมั้ย แบบหมาแมวเลียแผลอ่ะ ถ้ามึงเก็ตตรงจุดนี้สำนวนนี้ก็ไม่มีอะๆรนอกจากใช้คอมมอนเซนส์อ่ะ
พอคนอ่านปสดเยอะๆ สนพก็พลอยระแวง ใส่ฟุตโน้ตเลอะเทอะไปหมด บางคำแม่งเบสิคมากยังจะใส่มา รำคาญสัสๆ หลักการแปลที่ดีจริงๆแล้วมันคือใส่ฟุตโน้ตให้น้อยที่สุดโว้ยยย
ใส่เยอะไม่พอบ้างอันแม่งอธิบายความหมายเดียว7-8บรรทัดกุละเพลีย พอคำเดียวกันอีกเรื่องอธิบายแค่3บรรทัด
จะใส่พร่ำเพรื่อก็ไม่แปลกหรอ ดูปรมจ.เป็นกรณีศึกษาซะก่อน ที่บอกแปลผิดๆๆส่วนใหญ่อ่ะมาจากคลังศัพท์น้อยเองล้วนๆ ต่อไปนี้เวลากูเจออะไรบ้งๆในนิยาย กูจะไม่แปลใจละว่าทำไมสนพ.ทำแบบนี้
มึงจะอ่านหวังอะไรกับนักอ่านปสด.ที่เวลาเจอคำไทยไม่รู้เอาไปฉอดแทนที่จะเปิดหา สนพ.คงเซ็งแหละเลยอัดๆเชิงอรรถไป แต่คนซวยสุดคือนักอ่านปกติที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่นี่แหละเจอราคาหนังสืออัปแบบงง
Ky กูสงสัยสรุปพวกอ่านแปลจีนวายกับชญมันคนละกลุ่มกันใช่ม่ะ กูอ่านชญแล้วค่อยอ่านวายเจอคำที่นักอ่านวายฉอดๆกันอย่าง ดูเบา อิหลักอิเหลื่อ อาดูร บลาๆ ก็ไม่รู้สึกแปลกอะไรแต่แปลกใจตรงวายทับศัพท์วายปวงมากกว่า ตั้งแต่กูเริ่มอ่านวายมาไม่รู้ทำไมไม่ค่อยเจอแปลคำแทนตัวเหมือนชญกันเลย ฮา
สายวายมันเน้นด่าก่อน ทุกอย่างได้ดีเพราะคำด่า ด่าง่ายกว่าเสิช ท๊อกซิกสุด
กูว่าที่มีม่าเยอะๆเพราะสายวายส่วนใหญ่ที่เล่นทวิตกันก็มีแต่เด็กๆมั้ย กูเห็นเพื่อนวัยทำงานเหมือนกันอ่านก็ไม่อะไรกับความหมายของคำ หรือบางคำไม่รู้เลยก็เปิดหาเพิ่มเอง ไม่ได้มาฉอดเหมือนเด็กๆ
อันนี้บ่งบอกนิสัยคนนะ
คนที่ไม่รู้ศัพท์แล้วออกมาฉอดเนี่ย
คนที่มีสติหน่อย จะออกมาเช็คความหมายของคำ
คนไม่มีสติ ออกมาด่าก่อน มึงกล้าดียังไงเลือกใช้คำที่กูไม่รู้จัก
เฉลย มึงรู้ศัพท์น้อยเองค่ะ แล้วโทษคนอื่น
>>896 กูเห็นบางคนพอโดนแหกว่าจริงๆตัวเองคลังศัพท์น้อย นางก็แถต่อว่าการเหยียดว่าคนอื่นคลังศัพท์น้อยหรือการใช้คำยากคือclassism พวกมึงกล้าดียังไงมาบอกว่าคนอื่นคลังศัพท์น้อย บางทีมันอาจจะมีปัจจัยทางฐานะมาทำให้นางคลังศัพท์น้อยก็ได้ แบบว่าไม่ค่อยมีโอกาสหรือเงินให้ซื้อหนังสืออ่านเยอะๆอ่ะจ้า
นักอ่านบางคนมันเป็นกันได้ขนาดนี้เลยเนอะ ไม่รู้อะไรด่า หน้าแหกแล้วแถไปเรื่อย มีเน็ตไว้ใช้ฉอดแต่ไม่มีเน็ตไว้ใช้เปิดหาคำศัพท์ กูงงตรรกะ
แต่กูขออย่างหนึ่ง'สนเท่ห์'มึงเลิกใช้เถอะนะขัดมู้ดมากแม่ ใช้ฉงนก็ได้ปะ เจอมาสองเรื่องนิยายแปลอีกเรื่องฉากncกูแบบ(...) พักอารมณ์แปปขอเปิดพจนานุกรมก่อน
>>903 มันก็แล้วแต่เรื่องนะ มึงไม่ได้บอกนี่ว่าเรื่องอะไร
ส่วนตัวกูว่า word choice ของนักแปลอะ กูไม่ค่อยมีปัญหาหรอกถ้าไม่ได้ใช้ผิดๆ (ยกตยเช่น ร่างของเขาสั่นเครือ ไรงี้อะไม่ได้) อย่างสนเท่ห์ที่มึงยกมา คนอื่นๆก็อาจจะไม่รู้สึกแปลกหรือสะดุดก็ได้ มันไม่ใช่คำยากอะไรเลยนะ
>>903 ถ้ามึงไม่เอาบทบรรยายมาให้ดูว่ามันใช้คำนี้ตรงไหน เข้ากับบริบทมั้ยหรือโทนเรื่องเป็นยังไง คนอื่นเขาก็ไม่รู้กับมึงหรอกว่าจริงๆแล้วมันเข้าหรือไม่เข้า แต่คำว่าสนเท่ห์ถ้าเอามาใช้เดี่ยวๆในเรื่องแนวปัจจุบันมันก็คงตลกมากๆ ขนาดใช้แค่ฉงนสนเท่ห์ยังรู้สึกว่าตลก ยิ่งพล็อตเรื่องมันโมเดิร์นคำสละสลวยที่ใช้ได้ยิ่งจำกัดอ่ะ
สนเท่ห์ = ความฉงน, ความสงสัย, ความไม่แน่ใจ
ฉงน = สนเท่ห์, สงสัย, ไม่แน่ใจ, เคลือบแคลง
มึงอ่านแนวไหนล่ะ ทำไมขัดมู้ด
เห็นในนกฟ้ามีประเด็นเรื่องวายจีนคำผิดเยอะอีกละ เอ่า ก็สนพ.พรูฟดีๆแทบไม่มีคำผิดก็มีแต่พวกมึงไม่ซื้อกันเองอ่ะ 555555555
>>911 +1 เวลาคนเราจะซื้อนิยายต้องเริ่มจากอยากอ่านเรื่องนั้นก่อนแล้วค่อยซื้ออะ มันไม่มีหรอกคนที่คิดว่า อุ๊ย สนพนี้พิสูจน์อักษรดีจังเลย อุดหนุนหน่อยดีกว่า เพราะงั้นคนเลยยังอุดหนุนพวกสนพ.ใหญ่ๆที่ได้เรื่องดังๆไปแต่งานออกมาพังแล้วพังอีกกันอยู่
ส่วนตัวกูว่าค่ายที่พรูฟดีสุดคือบลาย อ่านมาหลายเล่มแทบไม่เจอคำผิดเลย ต่อให้เจอก็เจอ 2-3 จุด งานพิสูจน์อักษรเนี้ยบมาก เนี้ยบแบบกูให้ยืนหนึ่งตอนนี้เลย แต่บลายทำวายญี่ปุ่นเป็นหลัก วายจีนก็ไม่มีเรื่องดัง เรื่องที่ดังก็เคยมีไพเรททำไปก่อนแล้ว หน้าปกไม่ค่อยดึงดูดอีก ไม่ทำพรีเมี่ยมด้วย ขายหนังสือแบบเน้นๆ สายวายเลยไม่ค่อยนึกถึงสนพ.นี้กันเท่าไหร่ ถ้านึกถึงก็จะนึกถึงมังงะมากกว่า เป็นค่ายดีๆที่กูอยากให้ได้วายจีนดังๆไปสักครั้ง
กูชอบดอกบัวตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านวายโชโจมังงะนางทำดีสุดในใจกูจากบรรดาทุกค่าย เรื่องดีราคาดี พอมาอ่านวายนางก็ทำดีเหมือนเดิม แต่สายจีนนางอาจจะไม่สันทัดเท่าไรที่หันมาทำเพราะน่าจะเพราะเห็นโอกาสพอตอดๆส่วนแบ่งของตลาดวายจีนที่แมสมากตอนนี้ได้ วันไหนนิยายวายญี่ปุ่นแมสขึ้นมาตอนนั้นอาจจะเป็นยุคทองของนางเลย แล้วนางก็ไม่ได้เน้นโปรโมทอลังๆอะไรมาตั้งนานแล้ว เลยอาจจะปรับตัวตามยุคนี้ไม่ทันเเทน
ดอกบัวคนชอบเยอะนะ เพราะราคาถูก แปลดี ปรู๊ฟดี ส่งของไว ของหมดก็รีปรินท์เรื่อยๆ แต่นางเป็นที่ชื่นชอบของสายมังงะ บางทีเวลาค่ายอื่นได้มังงะโชโจไป มีคนบ่นกันด้วยซ้ำว่าไปแย่งดอกบัวทำไม กูเห็นสายวายจีนซื้อมังงะบลายกันก็เยอะแยะ แต่นิยายนางกริบจริงแหละ ส่วนนึงคงเพราะไม่มีเซเลปคอยอวยด้วยมั้ง
>>918 >>920 ดูดีในสายตาคนซื้อแต่ภายในแม่งเน่ามากมึง คือยากที่เค้าจะหลุดจากกรอบเก่าๆตราบใดที่เค้ายังไม่พร้อมจะลงทุนและเปลี่ยนแปลงจริงจัง ราคาที่ถูกแลกมาด้วยการกดราคางานแปลและเงินเดือนลูกจ้าง โรงพิมพ์มีของตัวเองอยู่แล้วไม่ลำบากอะไร แต่ผลลัพธ์มันออกมาดีสำหรับลูกค้าแบบเราๆ 555+
>>919 ส่วนตัวกุว่ามันไม่ใช่แค่การทำซีรี่ส์ว่ะ แต่ไหนแต่ไรตั้งแต่ยุคก่อนหลุมดำ นิยายญี่ปุ่นไม่เคยแมสเท่านิยายจีนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะนอร์มอลหรือวาย กุว่านิยาย-ซีรี่ส์จีนมันถูกจริตคนไทยมากกว่า ในทางกลับกัน กุว่ามังงะถูกจริตกว่าม่านฮวา แต่ด้วยการขอลิขสิทธิ์ที่โคตรจำกัดคู่ค้าทำให้หลายๆผู้จัดทำต้องถอย
กูว่าที่นิยายญี่ปุ่นไม่แมสเหมือนจีนหลักๆคงจะเป็นที่เนื้อเรื่องไม่ถูดจริตมากกว่า กูเห็นญปก็หยิบวายมาทำซร. มังงะ อนิเมะ เกมหรืออื่นๆอีกมากนะ มากกว่าทางจีนอีกแต่คนก็ไม่ค่อยตามกันเพราะเนื้อเรื่องที่ได้ทำแต่ละอันอาจจะเน้นรักมากเกินไปคนเลยเอียนเร็ว
>>922 +1 อีกอย่างที่กูสังเกตคือ สำนวน หรือรูปประโยคที่แปลจากจีนกับแปลจากญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกต่างกันด้วยนะ จากประสบการณ์การอ่านของกูเอง กูชอบแบบจีนมากกว่า นิยายแปลญี่ปุ่นสำนวนค่อนข้างต้องปรับตัวเข้าหามันพอสมควร แต่ก็อาจจะมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น สำนวนแปลที่นักแปลเลือกใช้ แต่ใดใดคือนิยายแปลจีนนี่อ่านสบายกว่าแปลญี่ปุ่น
ลองให้ญป.ทำวายแฟนตาซีแบบมีเนื้อเรื่องแน่นๆออกมาดูดิ เอาลายเส้นโหดๆแบบมังงะโชเน็นจัมป์หรือทำอนิเมกับสตูโหดๆเลย ถ้าทำออกมาได้ยังไงก็แมส ตลาดอนิเมะญป.internationalกว่าจีนมาก แค่ถ้ามึงอยากขายให้ได้ทุกเพศทุกวัยมึงอาจจะต้องปรับบทลดความหื่นหรือตัดเข้าโคมรัวๆแล้วค่อยไปเติมในBDเอา
และกูเชื่อว่าญป.ทำได้แน่ แต่ประเด็นอยู่ที่จะเอางานชิ้นไหนมาทำ มึงดูBLบ้านเขาดิ แต่ละเรื่องมันก็ทำได้แต่แนวรักสโลว์ๆหรือเน้นเส้นรักมากกว่าพล็อตทั้งนั้นอ่ะ เหมือนBLที่นั่นยังติดภาพจำแบบเมื่อสมัยที่เรียกกันว่าYaoiอยู่เลยสัส ขนาดกูชอบสื่อบันเทิงแทบทุกอย่างที่เป็นของญป.และไม่อยากอ่านจีนเลยเพราะเหม็นขี้หน้าอีสีและความเหยียดชาติอื่นในนิยายจีน แต่BLญป.ก็ยังไม่ตอบโจทย์กู ความว้าวความปังมันสู้ฝั่งจีนไม่ได้เลยเว้ย
และเอาจริงๆนะ ที่มึงพูดๆกันว่าไม่ชอบเนี่ย มึงอ่าน bl ญี่ปุ่นใหม่ๆกันสักกี่คนวะ 5555555
กูว่าวายญี่ปุ่นน่าอ่านเยอะเเต่ไทยมันไม่ค่อยเอาเข้ามาแปล เอาแต่แบบเรทๆมา ถ้าเลือกเรื่องดีๆอาจจะมีเทรนใหม่เกิดขึ้นเลยก็ได้
ประเด็นวายญี่ปุ่นวนมารอบที่ร้อยก็ยังพูดแต่เรื่องเดิมๆ วายญี่ปุ่นไม่สนุก กล่าวโดยโม่งที่ไม่อ่านวายญี่ปุ่น 555555555
>>922 ยืนยันอีกเสียงว่าญปทำซีรีย์/อนิเมะวายจาก "มังงะ" ทั้งนั้นมึง และมังงะที่ได้ทำอ่ะแมสจนแปลไทยขายหมดเอาๆทุกเรื่อง ยกตย.ให้ทะเลโอบใจ คลาสเมท กิฟเว่น พวกนี้ก่อนมีอนิเมกับซีรีย์ยังหาซื้อได้ตามปกติ เล่มแปลไทยออกมาก่อนอนิเมตั้งเป็นปีๆ แต่พอมีอนิเมปุ๊บ ขายหมดบ่อยเห้ๆ กิฟเว่นก็อัพราคากันกระฉูด หรือเชอรี่มาโฮก่อนทำซีรีย์ก็ไม่มีใครสนใจเพราะลายเส้นไม่ดึงดูด แต่พอซีรีย์ทำออกมาดีปุ๊บ มังงะแปลอิ๊งที่คิโนะขายหมดทันทีเลย media mix มันช่วยให้แมสขึ้นได้จริง มึงบอกทำแล้วคนไม่ตามนี่กูว่าไม่ใช่ละ เพราะตัวอย่างที่เห็นได้ชัดแม่งมาเยอะมากๆ แค่มันเป็นมังงะเท่านั้นเอง
>>928 ทำไมกูเห็นหลายเรื่องที่ทำมาจากนิยายว่ะ มึงกับกูอยู่กันคนละเซิร์ฟหรอ แล้วมังงะหลายๆเรื่องมันก็ทำมาจากนิยายกันทั้งนั้นเผื่อพวกมึงไม่รู้ ส่วนตัวกูอ่านทั้งญี่ปุ่นและจีน แต่กูเห็นว่าที่ญี่ปุ่นไม่ปังเพราะที่กูว่ามา ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีแต่ฉากหลายองค์ประกอบต่างๆมันเน้นไปที่ความรักซึ่งสายวายหลายๆคนไม่ได้ต้องการมากขนาดนั้นไงมึงอย่างที่ >>924 ว่ามา
อันนี้พูดถึงซรชายหญิงที่ดัดแปลงจากมังงะนะ
กูว่ามังงะญปสนุก แต่ซรใส่ความเบียวที่ทำให้หนังไปไม่สุดอยู่ กั๊กๆ รักกันไม่สุด ไปไม่สุด ส่วนนึงน่าจะเพราะแปลงมาจากการ์ตูนด้วยเลย คงคิดว่าคนดูเป็นกลุ่มเด็กกลุ่มวัยรุ่น ใส่ฉากพลอดรักมากไม่ได้ไปเน้นชีวิตวัยรุ่นแทน เลยกลายเป็นว่าซรสนุกก็จริงแต่ยังสู้มังงะไม่ได้สักที ไม่ก็สู้ซรเรื่องเดียวกันที่ประเทศอื่นซื้อไปทำไม่ได้
>>926 มันไม่เกี่ยวกับใหม่หรือไม่ใหม่ มันเกี่ยวกับแนวทางการนำเสนอของวงการในปท.นั้นๆ กูก็อ่านใหม่ๆนะ แต่ถามหน่อยมันมีเรื่องแมสๆเรื่องไหนมีพล็อตจริงจังเข้มๆมั้ย กูก็เห็นส่วนใหญ่แม่งขายแต่คสพ.กับดราม่าตลค.กับไดนามิกเมะเคะ ขอแบบสืบสวนสอบสวนเทพๆหรือแฟนตาซีเน้นพล็อตไม่ขายเรทบ้างดิ ประมาณงานพีต้าหรือโม่เซียงเงี้ย ถ้ามีก็ช่วยแนะนำกูด้วย กูเบื่อความน้อยแต่มากของBLญป.แล้ว อยากเห็นวันที่มันทำมีเดียออกมาอลังการได้เท่าอนิเมะแนวอื่นๆซักที
>>929 เท่าที่กูนึกออก นิยายวายที่ทำซีรีย์มีเรื่องเดียวคือทาคุมิคุงซึ่งเก่ามากๆ คนยุคนี้ไม่น่าจะรู้จักกันแล้ว มึงนึกออกหลายเรื่องลองลิสท์มาทีเผื่อกูพลาด
ส่วนมังงะทำจากนิยายมีจริง แต่มีน้อยมากกก ในตลาดมังงะ bl น่าจะมีพวกดัดแปลงจากนิยายเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% อ่ะ ส่วนใหญ่เป็นมังงะออริจินอล พวกที่ดัดแปลงจากนิยายมักจะลายเส้นไม่ค่อยสวยเลยไม่ดัง
มะ กูขอแปะเรื่องใหม่ๆที่กูชอบไว้ละกัน จำได้ว่ามีโม่งญี่ปุ่นซุ่มอยู่หลายคน
背中を預けるには แนวโลกแฟนตาซี การเมือง
花降る王子の婚礼 แนวโลกแฟนตาซีเวทมนตร์ การเมือง
烈火の血族 แนวโรงเรียนเวทมนตร์ วางปริศนาซ้อนปริศนา ยิ่งเดินเรื่องยิ่งปริศนางอก
ไม่มีแปลไทยสักเรื่อง 55555555 แต่แปลไทยไปก็ไม่มีทางแมสหรอก ไม่ต้องแปลอะดีละ 555555555
https://booklive.jp/bkmr/boyslove-media2 กุลองหาดู เรื่องที่สร้างจากนิยายมีทาคุมิคุงเรื่องเดียว นอกนั้นสร้างจากมังงะหมดเลย แต่ดูลิสต์แบบนี้แล้วรู้สึกว่าญปก็ทำหนังคนแสดงเยอะนะ แต่แป้กไปซะเยอะ เพราะทำแต่หนังทุนต่ำ นานๆจะมีงานดีๆแบบเชอรี่มาโฮโผล่มาสักเรื่อง
>>931 ใหม่ไม่ใหม่มันก็มีผลกับ impression นะ กูอ่านวายญปมาตั้งแต่ยุคไพเรท จนตอนนี้อ่านภาษาญี่ปุ่นออกแล้วก็เลยอ่านเองได้ไม่ต้องง้อแปลไทย กูว่านิยายวายญปมันก็มีเทรนด์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆอะ คนอ่านวายญปยุคไพเรทจะติดภาพเนื้อหาแบบยุคนั้นแล้วก็มองว่าวายญปยั่วเย เน้น nc แต่วายญปมันไม่ได้มีแค่นั้น มันมีหลากหลายแนวมาก อย่างวายญปยุคนี้เทรนด์มันคืออมกวกับพวกคนครึ่งสัตว์ อมกวมันก็หลากหลายดี อย่างวันก่อนกูอ่านเรื่องนึง เป็นแนวอมกวที่เริ่มต้นมาเป็นโลกอมกว แต่จู่ๆนายเอกก็ตื่นมาในโลกที่ไม่ใช่อมกว พวกฟีโรโมนต่างๆหายไป นายเอกเลยเริ่มหวั่นใจกับความสัมพันธ์ กูว่านิยายที่ไอเดียน่าสนใจแบบนี้มีเยอะขึ้นอะ สมัยก่อนไม่ค่อยมี (หรือเพราะสมัยก่อนกูอ่านไพเรทไม่รู้ มันเลยมีแต่แนวเดิมๆ 5555555) แต่เอาจริงๆกูว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบงานจริตญี่ปุ่นอยู่แล้วอะ อย่างพวกวรรณกรรมทั่วไปมันก็แมสในกลุ่มชนชั้นกลางพยายามฮิปสเตอร์มากกว่า ไม่ได้แมสใสนหมู่คนทุกกลุ่มแบบนิยายจีน ใดๆคือกูว่าวายจีนวายญปมันไม่ได้มีอันไหนดีกว่ากันหรอก มันเป็นจริตกับรสนิยมอะ
กุอยากให้วายญป.ทำเนื้อเรื่องให้มีอะไรมากกว่าแค่รักๆ ทะเลาะๆ ไม่พูดไม่คุย เข้าใจผิด แล้วก็ดีแล้วก็เข้าใจผิดอีกเพราะความไม่พูด เกรงใจ กุอยากได้แบบมีสืบสวนสอบสวน มีคดีไรบ้างแต่ก็มีรักปนอยู่ เพราะสำหรับกุพวกสืบสวนสอบสวนญป.ทำได้ดีกว่าเกากะจีน
>>933 กุอ่านๆๆๆ กุอ่านชุด 血族 อยู่ แต่ยังไม่ได้อ่านเล่ม 4 เลย แต่เรื่องนี้กูชอบฝ่ายร้ายมากกว่าพระเอก 555555
>>939 แนวสืบสวนมีเยอะมากกกกกกกกก แค่มันไม่ค่อยมีแปลไทยอะมึง ที่มีแปลก็มี double bind ถ้ามึงชอบแนวสืบสวนลองอ่านดู กูไม่เคยอ่านนะ ไม่รู้เป็นไง จริงๆวายญปมันมีอะไรมากกว่าที่มึงว่ามา แต่ก็อย่างที่บอกอะ มันมีแต่มันไม่มีแปลไง กูเลยต้องกระเสือกกระสนไปเรียนภาษาเพื่อมาอ่านเอง 555555555
>>948 https://www.alphapolis.co.jp/novel/index/119000?sort=24hpt
https://mnlt.syosetu.com/rank/bllist/type/daily_total/
กุเตือนอย่าง ฝึกอ่านฟรีในเว็บมึงจะเจอแต่นิยายแนวต่างโลก ศัพท์ยากแน่นอน 55555555 ถ้าลงทุนหน่อยแนะนำให้ลองหานิยาย 凪良ゆう หรือ 月村奎 อ่าน สองคนนี้ภาษาง่าย แนวเรื่องเป็นยุคปัจจุบัน N2 อ่านได้อยู่แล้ว
มึงกูถามนิดนึงดิ คำว่า “เป็นไร” มันเป็นภาษาโบราณปะวะ กูเห็นจีนโบวายใช้กันแต่ “เป็นอันใด” กูเลยคิดว่าต้องใช้คำนี้ แต่พอไปอ่านงานแปลเก่าๆแบบสามสิบปีที่แล้วเขาก็ใช้คำว่า “เป็นไร” นะ หรือกูอ่านน้อยไปเอง เลยไม่รู้ว่าเขาใช้กันได้
กูคือคนที่บ่นๆว่าสั่งรอคุณออนไลน์กะสนพ.ใน lnw แล้วเค้าไม่ตอบตอนแจ้งยอดนะ หลังจากผ่านไปอาทิตย์นึงได้ เค้ามาตอบและกูได้หนังสือละ
>>951 กูไม่ใช่สายสืบสวนนี่สิ 555555 มึงลองดูใน ちるちる ง่ายกว่า
https://www.chil-chil.net/goodsList/category_id[]/2/type/9/?token=613c817d64cf3
https://www.chil-chil.net/goodsList/category_id[]/2/type/9/?token=613c82919ea84
แนะนำว่าอย่าดูจากจำนวน 神 แต่ให้ดูตรง 神率 ยิ่งเปอร์เซนต์สูงยิ่งเป็นไปได้ว่าจะสนุก
ky ตั้งแต่เมื่อไรที่เกือบทุกสนพ.ที่พิมพ์นิยายหันมาใช้กระดาษกรีนรีดกันหมด มันเริ่มมาจากไหนนะ
วายเน้นเนื้อหาเน้นพลอตกูนึกไปถึง ลำนำต่างพิภพ โน้นเลยว่ะ 55555 ได้มั้ยวะ
>>957 ไม่ได้เริ่มแต่แรกหรอ? จำได้ว่าเปิดหัววายมาแต่ละที่ก็ Green read หมดเลยนะ อ่านแบบนี้ไม่ปวดตาเท่าแบบกระดาษขาวนะ ช่วงแรกๆ ที่เครืออมรินทร์ทั้งหลายใช้กระดาษขาวปวดตามากจริง กูว่ามันสะท้อน อ่อ แต่เพราะแต่ก่อนกูถือหนังสือออกไปอ่านนอกบ้านด้วย ไม่รู้เกี่ยวกันไหมนะ
งานเจเล่อปกติเวลาตีพิมพ์มีคนพิสูจน์อักษรให้ป่ะ ไปอ่านรัตติจันทร์ที่พึ่งเปิดตอนให้อ่านในรี้ดมา คำผิด คำแปลกๆเต็มเลยอ่ะ แบบใช้คำว่า กระทำชำเรา ทอธิบายตอนที่เข้าด้ายเข้าเข็มแบบเต็มใจเงี้ย งงอยู่นะ หรือคนอ่านเค้าคิดว่า ภาษาสวยจังเลยค่า หรอ…
กูคือโม่งที่ถามเรื่องกระดาษกรีนนะ กูสงสัยไงใช้กรีนกันจนกูเกือบลืมไปละว่าแต่ก่อนใช้กระดาษขาวนะ ว่าแต่สนพ.มันเริ่มใช้กรีนว่ะ
>>971 //ยกมือแบบกลัวๆเกร็งๆ
กูก็แก่แล้วและเห็นด้วยกันมึง เห็นในนี้สนับสนุนกัน(ที่เรียกกันว่าลูกสาวโม่งอะ) กูก็ลองเข้าไปอ่านสองสามเรื่อง ยอดสูงจนคาดหวังว่าของมันต้องมีต้องอ่าน แต่เฟลและแปลกใจเพราะกูก็เคยส่งนกฟ้าของนข.ตอนเป็นประเด็นสองสามครั้งนะ ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้วแต่ทำไมงานเขียนมันบ้งบอกไม่ถูก
จล จะโดนโม่งหยิกกีแล้วเหรอ /จกปอปคอนรอ
>>971 กูที่อ่านรัตติจันทร์นะ มันขับเคลื่อนเรื่องด่าเผด็จการ ตำรวจ แล้วสุดท้ายอิพอ.ที่เป็นนักเลงก็ไปชดใช้กรรม มันเลยดูดีในมุมมองว่าสนับสนุนระบอบปชต. ทำชั่วสุดท้ายก็ต้องใช้กรรมอะไรงี้มั้ง แต่ส่วนบ้งๆก็มีอ่ะ โรแมนติไส้นักเลง โรแมนติไส้พฤติกรรมพอ.ที่ตอนยังไม่ได้นอ.เป็นเมีย พฤติกรรมพอ.นอ.ที่เหมือนจะกรูมมิ่ง/สตอล์กโฮล์มซินโดรมอะไรด้วย
>>973 มาลงโม่งเพราะลงนกฟ้าแร้วหาบลงแน่ๆค่า จัว
รัตติฯกูก็อ่านไม่รอด อย่างที่พูดๆกันเลย กูไม่ชอบรักแบบเหมือนเลี้ยงๆมา มีอำนาจข่มนายเอกไม่รู้เพราะรักหรือเพราะกลัวกันแน่เลยยอมเป็นแฟนด้วย หรือเรื่องอื่นจบกูก็อ่านไม่รอดแต่กูเปิดได้เเค่ตอนสองตอนก็ปิด เรื่องภาษาเขาไม่ถูกจริตกับกูมั้งเลยเลิกได้ไว แต่ไมาใช่แค่กับเฉพาะจลหรอก หลายๆเรื่องที่ขี้นท็อปชาร์ตนักเขียนมีชื่อ สมมุติมี 30 เรื่องกูจะอ่านแล้วถูกใจแค่ 1 เรื่องเป็นอย่างมาก เพื่อนกูก็บ่นว่ากูเลือกกินเลือกอ่านมากเกินไป แนวสมัยนี้มันไม่เหมาะกับกูมั้ง
เนตวอชมู้นักวาดนักเขียนกำลังแหกนักเขียนค.กันอย่างเมามันส์ ตามไปเผือกกันได้ 55555555
หลายๆ คนทำให้กูคิดว่าแบบนี้ติด top chart ได้ไง แต่เข้าใจว่าสมัยนี้คนชอบความรวดเร็วกัน นิยายเขียนดีๆ แต่นานๆ มาทีมันก็ไม่ต่อเนื่อง
ของกู การที่จะสนใจหรือคิดจะอ่านนิยายสักเรื่อง คือพล็อต หมายถึงพล็อตโดยรวมอะนะ เช่นแนวไหน เซ็ตติ้งแบบไหน โทนเรื่องแบบไหน ไม่ได้มองไปถึงว่าต้องพล็อตแน่น ไร้ช่องโหว่
ส่วนจะอ่านจบได้ ไม่เทกลางทาง ไม่เบื่อกลางคัน คือสำนวนและการดำเนินเรื่อง
แต่อ่านจบแล้วจะชอบหรือรักเรื่องนั้นเป็นพิเศษไหมอยู่ที่คาแรกเตอร์
ล่าสุด ดราม่า ห่อบับ3เลเยอร์ 7 ชั้น กล่อง 5 ชั้น แล้วบุบ ด่าสนพ.เสียงเดียวกันหมดว่าห่อไม่ดี ห่อบาง 😱
กุในฐานะคนปล่อยมือสอง สะพรึงมาก ออกอีบุคมาเยอะๆ สนพ. ชั้นกุไม่เต็มกุก็ไม่ต้องขาย
มันผิดตั้งแต่คิดว่าห่อดี ห่อหนาแล้วจะไม่บุบ 100%แน่นอน แล้วไง
ถ้าแรงกระแทกมันหนัก โยนกันเตะกันแบบในคลิปที่ชอบหลุดออกมา ถึงมึงอัดกล่องข้างในแน่นๆ แรงมันก็ส่งกดไปถึงอยู่ดี ถ้าแรงอัดมากพอแรงพอมันก็บุบ
ที่บอกๆกันทำแบบนั้นแบบนี้รอด คือแค่มันโชคดีไม่เจอความรุนแรงที่เข้าสไตรค์โซนเท่านั้นแหละ
กุอ่านแล้วก็คือ ความเสี่ยงจากขนส่งสนพ.ต้องรับ กุต้องได้กริบแค่นั้นแหละ ถ้าไม่ได้ตามนี้ก็เบลมทุกสิ่งอันไปเรื่อยๆตราบใดที่ไม่โดนแรงต้าน
นโยบายสนพ.กุไม่พูดถึงนะ เฮอร์มิทกุก็ได้บุบนิดบุบหน่อยบ่อย ทั้งๆที่ดูก็ห่อโอเค แต่ถ้าเจ็ดชั้นบอกบาง ไม่ดีพอมันเลยบุบนี่กูกุมขมับจริงๆ
บับที่สนพ.ใช้ห่อไม่ใช่แบบบางนะ แต่ต้องดูวิธีการห่อจริงๆ ว่ะ ถ้าแบบตรงมุมไม่ห่อดีๆ เจอแรงกระแทกก็ไม่รอดนะ โชคร้ายของคนแกะด้วยที่ไม่อัดวิดีโอไว้ แต่เหนื่อยมากมึง เดี๋ยวนี้ต้องมานั่งอัดวิดีโอเพื่อเอาไว้ใช้เช็คของครบไม่ครบ กินเวลาชีวิตชิบ แต่เห็นหลายคนบอกเจ้านี้ห่อไม่ดีใช่ไหมวะ แต่จากบับที่กูเห็นเขาลงมันถือว่าเยอะนะ 7 ชั้น แถมกล่องลูกฟูก 5 ชั้นอีก มันแบบหนาเลยนะมึง
ปล. กูว่าที่ดราม่าควรเป็น 233 แฮมมากกว่าที่สีไม่เหมือนกัน ดูปสอะ
กูเป็นอีกคนหนึ่งที่สั่งกับเฮอร์มิทห่อเจ็ดชั้นแล้วบุบ แต่ขกไปตามเครมอะไร กูว่ามันเป็นเพราะหนังสือมันหนักมาก 12 เล่ม บับมันช่วยไม่ไหวจริง อันนี้ความจริงถ้าอยากให้รอดเเบบมั่นใจแน่ๆคงต้องใส่โฟมแบบอร. ให้แน่นไม่ขยับเลยเพราะขนส่งบ้านกูก็ไม่ได้โหดร้ายอะไรปกติบ็อกอื่นมี่สั่งมาก็สภาพสวยตลอด พึ่งเคยโดนครั้งนี้
>>994 ขอเล่าเพิ่ม สนพมาเห็นก็อย่าแหกโม่งนะ 555555555 กูเป็นคนที่กลัวมันบุบเพราะเห็นมันหนักเลยไปขอสนพเพิ่มบับและเปลี่ยนเป็นส่ง ems ทีหลังสรุปค่าส่ง ems จากที่ตอนแรกรอบพรี 80 แต่ถ้าเพิ่มบับสนพถือจะถือว่าไม่ได้สั่งแค่ชุดบล็อกเซตนั้นแล้วต้องจ่ายส่วนค่านน.บับที่เพิ่มมาด้วย กูลองคำนวนแล้วเท่ากับต้องเพิ่มเงินเกือบ 200 ก็เลยปล่อยตามยถากรรม ไม่เพิ่มพิเศษ ซวยเอง
>>994 กุว่าถ้าอยากเพิ่มบับใช้ส่งฟรีธรรมดาดีกว่าช้ากว่ากันแค่สองสามวัน ไม่งั้นรอบพรีหลายๆครั้งกุกดกับแดทวายในช้อปปี้แทนเพราะค่าส่งมันถูกกว่าจริงๆ(emsเรทปกติคือแพงไม่ไหว) อีกอย่างกุว่าแดทคัดหนังสือละเอียดมากอ่ะมึง คือกุไปรับเองที่ร้านบ่อยโดยเฉพาะช่วงที่ออกรัวๆ รวบไปรับเองเลยมันประหยัดกว่า กุก็ว่าดูดีแล้วนะ แต่พอกลับมาบ้านดันเจอเพิ่มประจำ ไอ้ที่สั่งให้ส่งไปรฯร้านคัดคือดีกว่ากูคัดเอง(กุไม่คลั่งกริบนะ แต่เลือกได้ก็เลือกดีๆว่ะ)
>>996 ตอนแรกกูก็ว่าจะสั่งร้านนอกแต่กูสั่ง Set C ตอนช่วงพรีมันไม่มีร้านนอกไหนเปิดเลย ต้องสั่งกับสนพอย่างเดียว (แต่พอปิดพรีบอฮได้โควต้าไปมั้งกูเห็นเอามาขายอยู่หลังปิดพรี อันนี้กูก็ตงิดใจเพราะสนพแจ้งว่า Set C ต้องสั่งตรงเท่านั้นถึงได้ราคานี้ พอบอฮเอามาขายก็ได้ราคาเท่ากับที่สั่งกับสนพ ทั้งที่ถ้าปกติร้านไปซื้อในนามลูกค้าปลีกจะไม่ได้ราคาร้านต้องบวกอัพขึ้นอยู่แล้ว )พอดีกูกลับบ้านตจวมันช้ากว่าปกติก็เลยเลือกเป็น Ems แทนเพราะกลัวของหายอย่างน้อยก็ได้ประกันเยอะกว่าลงทะเบียน
อยากบอกว่าหลายสนพ.หลายร้านที่คัดหนังสือสวยส่งออก คงไม่อยากเจอกรณีต้องเคลมกันอะ ที่มีให้คนเลือกเองส่วนมากผ่านการคัดส่งออกไปแล้ว มันเลยไม่เป๊ะ เอาจริงอย่างในงานหนังสือก็เอาที่คัดเคลมมาวางกองๆ ไว้ คนไม่สนสภาพเยอะนะ ก็หยิบๆ กันไป แค่มุมยับ กระดาษปกพับมันไม่ใช่ตำหนิสำหรับคนขายนี่หน่า มีให้เลือกเท่าไหนก็เลือกกันไปตามสภาพ จากคนเคยคลั่งกริบตั้งแต่สมัยค่ายส้มไม่ซีลปกมา หนังสือสภาพเละเทะมาก จนทุกวันนี้โคตรปล่อยวาง เพราะเอาแบบกริบมาเก็บ กาลเวลาก็ทำลายหนังสือกูอยู่ดี กูอ่านถนอมมาก บางเจ้ามีจุดน้ำตาลขึ้นมา 10 ปี+ นะ ปลงซะมากกว่า แต่ใดๆ คลั่งของกูคนละเลเวลกับค่ายวายเลย กูว่ามันมากเกิน 55555 ของกูคือสมัยส้มไม่ซีลแล้วหนังสือมันดำเป็นปื้นๆ ขนาดวางให้เลือกในงานหนังสือกูยังหาเล่มเนี้ยบๆ ไม่ค่อยได้เลย แต่ตอนนี้ช่างกูเถอะ เอามาแค่อ่านเก็บๆ เป็นพอ
>>998 กุก็บรรลุสัจธรรมเพราะหนังสือเหลืองตามกาลนี่แหละมึง เข้าใจถ่องแท้ว่าเนื้อหาต่างหากที่สำคัญ สอยอีบุคแม่ม คงทนถาวร สมัยก่อนคนที่ซื้อตามร้านที่ปล่อยคนยืนอ่านและไม่ซีลนส.จะเข้าใจ ทั้งกองที่ร้านมีคือโดนคนยืนอ่านเปิดจนเยินทุกเล่ม กุจะซื้อคือเหมือได้มือสองในราคามือหนึ่ง
เอาล่ะความฝันกุเป็นจริงแล้ว กุหลาบยอมแปลลิ่วเหยาใหม่ กุจะได้อ่านเรื่องนี้ซักที
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.