Fanboi Channel

สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์ ยกที่ 87

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:ZVNHYbpiap

ยกที่ 01 >>>/801/2253/
ยกที่ 02 >>>/801/2374/
ยกที่ 03 >>>/801/2498/
ยกที่ 04 >>>/801/2736/
ยกที่ 05 >>>/801/2860/
ยกที่ 06 >>>/801/2956/
ยกที่ 07 >>>/801/3025/
ยกที่ 08 >>>/801/3119/
ยกที่ 09 >>>/801/3197/
ยกที่ 10 >>>/801/3241/
ยกที่ 11 >>>/801/3287/
ยกที่ 12 >>>/801/3381/
ยกที่ 13 >>>/801/3495/
ยกที่ 14 >>>/801/3626/
ยกที่ 15 >>>/801/3705/
ยกที่ 16 >>>/801/3926/
ยกที่ 17 >>>/801/4012/
ยกที่ 18 >>>/801/4097/
ยกที่ 19 >>>/801/4199/
ยกที่ 20 >>>/801/4290/
ยกที่ 21 >>>/801/4406/ **(วาระ ภกด แห่งมู้)**
ยกที่ 22 >>>/801/4451/
ยกที่ 23 >>>/801/4488/
ยกที่ 24 >>>/801/4539/
ยกที่ 25 >>>/801/4606/
ยกที่ 26 >>>/801/4640/
ยกที่ 27 >>>/801/4731/
ยกที่ 28 >>>/801/4832/
ยกที่ 29 >>>/801/4920/
ยกที่ 30 >>>/801/5011/
ยกที่ 31 >>>/801/5115/
ยกที่ 32 >>>/801/5323/ (ชื่อเป็น 31)
ยกที่ 33 >>>/801/5436/
ยกที่ 34 >>>/801/5612/
ยกที่ 35 >>>/801/5704/
ยกที่ 36 >>>/801/5731/
ยกที่ 37 >>>/801/5749/
ยกที่ 38 >>>/801/5764/
ยกที่ 39 >>>/801/5788/
ยกที่ 40 >>>/801/5825/
ยกที่ 41 >>>/801/5887/
ยกที่ 42 >>>/801/5950/
ยกที่ 43 >>>/801/6027/
ยกที่ 44 >>>/801/6071/
ยกที่ 45 >>>/801/6147/ **(วาระตัวร้ายฯแห่งชาติ)**
ยกที่ 46 >>>/801/6179/
ยกที่ 47 >>>/801/6271/
ยกที่ 48 >>>/801/6324/
ยกที่ 49 >>>/801/6410/
ยกที่ 50 >>>/801/6464/
ยกที่ 51 >>>/801/6500/
ยกที่ 52 >>>/801/6538/
ยกที่ 53 >>>/801/6635/
ยกที่ 54 >>>/801/6726/
ยกที่ 55 >>>/801/6822/
ยกที่ 56 >>>/801/6880/
ยกที่ 57 >>>/801/6963/
ยกที่ 58 >>>/801/7058/
ยกที่ 59 >>>/801/7127/
ยกที่ 60 >>>/801/7254/
ยกที่ 61 >>>/801/7760/
ยกที่ 62 >>>/801/8148/
ยกที่ 63 >>>/801/8348/
ยกที่ 64 >>>/801/8452/
ยกที่ 65 >>>/801/9043/
ยกที่ 66 >>>/801/9298/
ยกที่ 67 >>>/801/9901/
ยกที่ 68 >>>/801/10239/
ยกที่ 69 >>>/801/10413/
ยกที่ 70 >>>/801/10725/
ยกที่ 71 >>>/801/10806/
ยกที่ 72 >>>/801/10877/ **(วาระกุ้งม่วง & LGBT+)**
ยกที่ 73 >>>/801/10929/ **(วาระ Minikikaboo)**
ยกที่ 74 >>>/801/10980/
ยกที่ 75 >>>/801/11125/ **(วาระ ละ-ล่ะ)**
ยกที่ 76 >>>/801/11312/
ยกที่ 77 >>>/801/11591/ (ชื่อเป็น 76)
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
ยกที่ 80 >>>/801/11739/
ยกที่ 81 >>>/801/11796/
ยกที่ 82 >>>/801/12157/
ยกที่ 83 >>>/801/12315/
ยกที่ 84 >>>/801/12585/
ยกที่ 85 >>>/801/12792/
ยกที่ 86 >>>/801/13072/

Hall of shame
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1IXpef-npDJdoj427b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik
Hall of shame 2
https://docs.google.com/document/d/1A0T0jr1Kt9mYtcIr4ECK2LRVmaqkCBtpOUYdDwLIb3k/edit?usp=drivesdk27b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik

2 Nameless Fanboi Posted ID:81RBeADtZ7

กูถามหน่อย พวกเมิงว่าสาเหตุหลักที่ทำให้นิยายวายคุณภาพการแปลห่วยกว่านิยายนม.คืออะไรว่ะ

3 Nameless Fanboi Posted ID:81RBeADtZ7

มือลื่น เพิ่มอย่างบางค่ายเงี้ยนม.คือแปลดีมากๆแต่พอเป็นวายปึบ เหมือนคุณภาพอยู่ๆก็ดรอปลงเฉย

4 Nameless Fanboi Posted ID:N7MwchUZAZ

>>2 นักแปลที่เก่งๆไม่แปลวายมั้ง ไม่ก็เป็นไลน์แตกใหม่ ไม่มีบอกอเจ๋งๆมาคุม

5 Nameless Fanboi Posted ID:8gXPhIraLi

>>2 เพราะเอานักแปลเถื่อนมาแปล และคนพิสูจน์อักษร&บกไม่มีคุณภาพ นักแปลใช้คำผิดยังไง แต่ถ้าส่งตรวจแล้วหลุดมานี่ยังประจำ สรุปไม่ใส่ใจนั้นแหละ ทำไงขายได้

6 Nameless Fanboi Posted ID:23IuwXA8Yh

บางทีกูก็คิด เอ หรือว่าคุณภาพนักอ่านสายวายอาจจะต่ำกว่านักอ่านหนังสือแนวอื่น ของห่วยก็ยังซื้อกัน ทำยังไงก็ขายได้ ก็ไม่ต้องทำให้ถึงมาตรฐานก็ได้
ส่วนสนพ.เล็กๆที่มาทำวายอย่างเดียว บางแห่งก็คล้ายจะเป็นนักอ่านสายวายมาก่อน คุณภาพบางทีก็เลยได้แค่นั้น

7 Nameless Fanboi Posted ID:Kldlsb0V5G

>>6 มันเชื่อมโยงกันหมดแหละ ถ้าสนพ.ออกงานคุณภาพห่วยแล้วนักอ่านยังยอมรับได้เขาทำอะไรมาก็ซื้อ มันจะแปลความหมายว่ายังไงได้ล่า ผู้บริโภคคือคนกำหนดตลาดและคุณภาพโดยภาพรวมของสินค้าในตลาด ถ้าผู้บริโภคเรียกร้องขอนิยายแปลดีเขียนดีมีคุณภาพกันทั้งวงการ สนพ.ก็ต้องทำตามดีมานด์ของผู้บริโภคเพื่อให้ขายได้

8 Nameless Fanboi Posted ID:c.s1ihz8P5

กูว่าคุณภาพนักอ่านมีส่วนมาก มีเล่มนึงคนชมกันว่าแปลดี แต่กูอ่านตัวอย่างแล้วเจอท่อนนึงบอกว่า "(มีการประลองกัน) ท่านอาจารย์จะรุดหน้าไปมองดูหรือไม่" กูงงมาก รุดหน้า กับ มองดู เนี่ยมันไม่ค่อยถูกบริบทปะวะ คือถ้าใช้ว่า "รุดไปชมดู" มันยังโอเค เป็นกำลังภายในกำลังดี แต่คนชมกันเยอะ กูก็ลังเลว่าควรซื้อมั้ย ส่วนตัวกูเองอ่านแล้วก็รู้เรื่องแหละ แต่รู้สึกลอยมาก จับประเด็นไม่ค่อยติด ก็ไม่รู้เชื่อคนที่ชมได้ขนาดไหน

9 Nameless Fanboi Posted ID:3/YVXkMIMe

>>2 ตลาดมันโตไวกว่าบุคลากร ไม่ใช่แค่วาย ชญก็มีปัญหา ค่ายเปิดใหม่เยอะ นักแปลเก่งๆก็ผูกปิ่นโตกับค่ายเก่าแล้ว เลยต้องไปงมนักแปลหน้าใหม่จากดด รอร เอา
บก.ดีๆมีปสกก็หายากตาม ขนาดชญยังหายากต้องยอมใช้บก.ที่ไม่รู้ภาษาจีน บางสนพมีบก.ก็เหมือนไม่มี

10 Nameless Fanboi Posted ID:6IiKaao4XL

>>8 เคสนี้ถ้าเป็นกุ กุคงอ่านผ่านเลยไม่รู้สึกอะไรแฮะ ความหมายไม่ได้เปลี่ยน แค่อาจใช้คำที่บางคนอ่านแล้วรู้สึกไม่สละสลวยเท่านั้นเองรึป่าว
กุคงง่ายๆไป มิน่าไม่ค่อยมีปัญหากับใครเขา เรื่องไหนใครบอกว่าแปลเหี้ย กุก็ยังอ่านได้นะ 555 กุจะมีปัญหากับแค่คำผิด กับประโยคที่อ่านแล้วใจความเพี้ยนได้ หรือเนื้อความงงๆไปเลย กับคำเชื่อมไม่สอดคล้องหน้าหลังอะไรพวกนี้มากกว่า

11 Nameless Fanboi Posted ID:DvvsZ0iTj.

กูดูค่านิยมนิยายวายคุณภาพจากคนส่วนใหญ่ที่อวยๆกันแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่งานวายมันจะออกมาสภาพนี้ อวยปกสวย อวยของพรี อวยแปลนมเนย อวยแปลทับศัพท์ เอิ่ม เป็นวงการนิยายที่แหวกแนวสุดๆ

12 Nameless Fanboi Posted ID:UoM3NPmdTd

>>11 มึงอย่าว่าแต่วายเลย ทุกวงการที่คนอวยเยอะๆอะ ยูทูปเบอร์ก็ด้วย คอนเท้นคุณภาพทั้งนั้น(ประชด) คนไทยแม่งชิทเทสจริงว่ะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:dFIwfosL7w

พวกมึง ช่วงนี้เห็นนักเขียนโดนคอมเม้นด่าแปลกๆ หรือดีเอ็มไปด่าเรื่องงานเขียนเยอะๆในทวิตมะ ตอนแรกกูก็อยากฟาดอีคนไปด่านะ แต่ไปๆมาๆ กูว่าดูปลอมไงไม่รู้ว่ะ บางคนอาจจะโดนจริง แต่มีคนที่กุเห็นโดนซ้ำๆผิดสังเกต แล้วภาษาดูปลอมๆ เหมือนนข ทำร่างทิพย์ด่าตัวเอง หรือกูมองโลกในแง่ร้ายวะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:ByqtdbiLMT

>>13 กุคิดว่ามันแย่เกินไปอะ แบบเกินกว่าที่คนปกติจะทำ แต่ช่วงนี้คนอยู่บ้านนาน อาจจะเครียดเลยด่าคนอื่นหรือสร้างเรื่องด่าตัวเอง มองในแง่ร้ายคือสร้างเรื่องเรียกเอนเกจเมนท์ให้งานตัวเอง ดังไวดี 55

15 Nameless Fanboi Posted ID:I6qQsKUTtB

>>13 เกินครึ่งคือคอนเทนต์​แหละกูว่า

16 Nameless Fanboi Posted ID:dFIwfosL7w

>>14 เออ กูก็ว่ามันดูแย่แบบพิกลๆ ไล่ให้ไปเลิกเขียนงี้ เขียนไม่สนุกกล้าติดเหรียญได้ไงงี้ มันแปลก คนอ่านปกติมันจะไม่ด่าแนวๆนี้
>>15 แต่มีคนรีคนปลอบเพียบจนกุงงว่าทำไมเชื่อวะ ยิ่งคนที่โดนซ้ำๆสี่ห้ารอบ ภาษาคนด่าเหมือนก๊อปกันมา

17 Nameless Fanboi Posted ID:8jLxm9NPwU

>>11 ไม่ค่อยเจอคนอวยว่าเนื้อเรื่องสนุกเลยนะ วงการวายมันเลยเน้นอาร์ต แต่ไม่เน้นเนื้อเรื่อง

18 Nameless Fanboi Posted ID:ByqtdbiLMT

>>16 แบบ ขอใช้คำว่าห่วยนะคะ ใครแม่งจะว่างขนาดนักด่านักเขียนยาวๆวะ เสียเวลา เสียทั้งสุขภาพจิตตัวเองและผู้อื่น คนบ้าอะมึง เหนือขอบเขตวิสัยปุถุชน ปกติไม่สนุกก็กดออก กูอยากจะอยู่ข้างนขนะ แต่บางอย่างแหม่งๆเกิน ใจร้ายเกินไปอะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:uQOULx5Ylg

สมัยก่อนมีพวกนักเขียนอวตารมาเม้นฟิคตัวเองเยอะ ตอนนี้มีเทรนด์ใหม่ เดมด่าตัวเอง 5555555555

20 Nameless Fanboi Posted ID:Wjcg30sMbD

>>17 พูดไปก็จริง ไม่ค่อยเห็นคนอวยเนื้อเรื่อง หลักๆอวยความรักพระนายแล้วก็อาร์ตสวย ที่เหลือก็ไม่มีไรละ
อันนี้หมายถึงพวกวายไทยนะ เพราะงี้รึเปล่าวะวายไทยมันเลยไปได้ไม่ไกล พอเล่นเรื่องอะไรที่มันซับซ้อนหรืออลังๆหน่อยคนก็เข้าไม่ถึง ต้องตลกโปกฮาไปวันๆไม่ก็เล่าเรื่องแบบจีบกันคบกันเป็นหลัก แล้วคนก็จะอินมาช่วยกันอวยเรื่องความรักฟินๆ เรื่องอื่นช่างหัวมัน

21 Nameless Fanboi Posted ID:2.Fg0.kK0n

>>20 ไทยถ้าไม่เขียนให้คลั่งรักหรือเปิดมาด้วยเยแทบขายไม่ได้อะมึง หลายเรื่องที่กูอ่านเนื้อเรื่องดีไม่ได้เน้นรักแทบไม่มีคนอ่าน เศร้ามาก ดูได้จากเวลาถามบ่อยๆให้แนะนำเรื่อง อย่างแปลจีนหลายเรื่องมันมีเนื้อเรื่องซับซ้อนก่อนที่จะมารักกันก็ยังขายได้ กูเพิ่มให้หน่อยถ้าอยากอ่านชช.แนวเน้นเนื้อเรื่องดีๆส่วนใหญ่มันจะไม่อยู่ในหมวดBLเว้ย5555 กูก็เพิ่งรู้ว่าเขาแบ่งกันแบบนี้ ถ้าอยากรักก็ไปBL

22 Nameless Fanboi Posted ID:y5Fo1u1I1F

>>21 ไม่อยู่หมวดบีแอลแล้วไปอยู่หมวดอะไร? หมวดนิยายทั่วไปเหรอ?

23 Nameless Fanboi Posted ID:F07RI37L47

>>8 แต่รุดหน้ามันเท่ากับล่วงหน้าไม่ใช่เหรอวะ เหมือนถามว่าจะล่วงหน้าไปชมก่อนหรือไม่

24 Nameless Fanboi Posted ID:SjOaP6XoX7

รุดหน้ามันแปลว่าคืบหน้า ก้าวหน้า ถ้าจะใช้ว่ารีบไป มันต้องใช้ว่า รีบรุด ไม่ใช่ รุดหน้า
รุดหน้าไปมองดู นี่โคตรแปลกเลย มองดูการประลองนี่โคตรรรแปลก
มันควรจะเป็น รุดไปชม รุดไปดู มากกว่านะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:2.Fg0.kK0n

>>22 หมวดแฟนซี​ สยองขวัญ​ จีนโบราณอะไรพวกนี้​ ถ้าไม่อยากอ่านแนวรักๆ​

26 Nameless Fanboi Posted ID:5zl7SFqZDJ

>>25 ไม่โดนเขาไล่กลับมาหมวดวายเหรอ

27 Nameless Fanboi Posted ID:oq0RchCwi2

>>26 ทำไมต้องไล่​ หมวดพวกนี้ไม่แบ่งอยู่แล้ว​ ติดท็อปเป็นชช.ก็มีของแฟนซี

28 Nameless Fanboi Posted ID:5zl7SFqZDJ

>>27 เมื่อก่อนเขาไล่กัน ด่ากันก็บ่อย ไม่ใช่ทุกคนที่อ่านวายได้ บางทีโดนเขามาล้อนิยายอัดตูดๆ

29 Nameless Fanboi Posted ID:fvKgR.McqJ

>>28 กูเคยโดน ต่อให้เขียนแฟนซี แต่พอเป็นวายก็มีคอมเนต์อัดตูดๆ กูก็เลยต้องเป็นแฟนซีในดงวายรักๆ เหงาๆ

30 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>23 รุดหน้าไม่เท่ากับล่วงหน้านะ อย่างที่ >>24 บอก รุดหน้าจะใช้กับ พลังฝีมือรุดหน้ารวดเร็ว โปรเจกท์นี้รุดหน้าเกินคาด เมืองเจริญรุดหน้ากว่าเมืองอื่นๆ อะไรแบบนี้ มันก็ไม่ถึงกับอ่านไม่รู้เรื่องหรอก แต่กูคงลังเลแหละว่าถ้านี่เป็นตัวอย่างของเรื่องที่ได้รับคำชมว่าแปลดี แล้วที่เหลืออีกทั้งเรื่องจะยังไง ดูพึ่งพารีวิวไม่ค่อยได้

31 Nameless Fanboi Posted ID:.s9PC3q8FQ

>>27 ลองแห่ไปติดชาร์ตเขาบ่อยๆ เดี๋ยวเขาก็ไล่กลับมาเอง

32 Nameless Fanboi Posted ID:CTNt9S6+Tz

KY รส.ว่าเดี๋ยวนี้วายไทยเงียบไปเลยรึเปล่ามีแต่ ด. ที่ยังแอคทีฟออกวายไทยนอกนั้นขนาด ลวด. ยังเพลาๆลงบ้าง พวกนข.ก็หน้าเดิมๆ หน้าใหม่ไม่เห็นมีแล้ว

33 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>30 คิดแล้วเครียด กูเคยเจอพวกนิยายแฟนตาซีเบียวๆในรอร.ใช้คำผิดบริบทแบบนี้เยอะมาก ทั้งวายไทยวายแปล แต่คนอ่านแม่งก็ไม่สนไม่ทักท้วง ทั้งที่บางคำแม่งโคตรจะไม่ได้ ตัวอย่างก็ทุ่งหญ้ากลิ่นเขียวขจี เงี้ย เขียวขจีห่าไรใช้กับกลิ่นวะ มีแต่เหม็นเขียว ทำไมไม่ใช้คำว่าส่งกลิ่นสดชื่น เหมือนนขนักแปลไม่มีการครอสเช็กอะไรใดๆกันเลย คนอ่านก็ไม่รู้หรือไม่สนว่ามันผิด เดี๋ยวพอไปทักดีไม่ดีมันด่ากลับมาอีกว่านิยายมันมันจะใช้คำยังไงก็เรื่องของมัน

34 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>32 ไม่เงียบหรอก แค่พวกนขแห่กันไปออกงานทำมือเอง แม้แต่นขดัง 55555

35 Nameless Fanboi Posted ID:6Uv++hBOT1

Ky ช่วงนี้พวกมึงเพลาการซื้อนส.กันลงเนอะมั้ยวะ เหมือนสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยไม่ค่อยมีทั้งอารมณ์จะอ่านและเงินจะเปย์ หนังสือก็เหมือนจะออกไม่มากไม่น้อย แต่กุกลับรู้สึกไม่มีเรื่องที่ทำให้อยากเปย์

36 Nameless Fanboi Posted ID:fEuqFSTNnH

>>35 กูซื้อเหมือนเดิมเลย ออกจะมากขึ้นด้วย เพราะไม่ได้ออกจากบ้านกูเลยมีเวลาอ่านมากกว่าเดิม เอาหนังสือไว้เบรคเรื่องเศร้าๆจากข่าว แล้วตัดงบอื่น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า คสอ มาใส่งบหนังสือแทน

37 Nameless Fanboi Posted ID:BpoItMogKL

>>35 กูเพลาเพราะไม่ค่อยมีเรื่องที่ถูกใจนี่แหละฟฟฟฟ ช่วงนี้กุเอียนแนวจีน,ระบบ วายไทยกูก็ไม่อ่าน กุชอบพวกอวกาศ,วันสิ้นโลกที่มันมีให้เสพแบบนานๆมาสักเรื่อง

38 Nameless Fanboi Posted ID:oq0RchCwi2

>>35 เงินมี แต่กลัวโควิด หลายคนที่เทขายก็เพราะติดโควิดหาเงินไปรักษา กูอยากให้มีกฎจริงๆว่าใครป่วยก็บอก แต่ก็คงไม่ทำหรอกกลัวขายไม่ออก นอกจากนี้ขนส่งอีกติดเยอะแยะ ที่กูสั่งมาล่าสุดยังวาดทิ้งไว้อยู่เลยเพลาๆไม่ซื้อละ อดใจไว้ ส่วนตัวไม่ชอบอ่านEbook ถ้าเรื่องไหนหายากจริงๆก็ซื้อมาทิ้งไว้

39 Nameless Fanboi Posted ID:wqtG/yWhJ2

>>35 ซื้อนะ แต่เลือกมากขึ้น อะไรเล่มยาวไปก็ตัด มันออกเยอะมาก

40 Nameless Fanboi Posted ID:ldU7/mN8Q7

>>35 กูซื้อเท่าเดิม สนพ.ที่ยังแบนกูก็ยังแบนเหมือนเดิม ช่วงโควิดอาจจะมีแบนนักเขียนไทยมากขึ้น เพราะไม่รู้เป็นบ้าอะไร โผล่ความบ้งให้กูเอือมเลยยัดเข้าแบล็คลิสต์ แต่นอกนั้นกูออกเล่มมากูก็ยังซื้อเหมือนเดิม

41 Nameless Fanboi Posted ID:3MXJ0KWrTV

>>33 อ่านนิยายอินเตอร์เน็ตต้องทำใจจุดนี้ว่ะมึง ถ้าอ่านในเน็ตกูยังพอกัดฟันทนได้เพราะถือว่าไม่ผ่านมือบก. แต่ถ้าเป็นงานตีพิมพ์แล้วเจอใช้คำผิดความหมายหรือผิดบริบทมานี่กูรับไม่ได้

42 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>33 >>41 กูรู้สึกว่านิยายอินเตอร์เน็ตนี่เขียนโดยนักอยากเขียนของแท้เลยมึง อยากเขียนอย่างเดียว ไม่ได้ชอบอ่าน แทบไม่เคยอ่านงานเขียนที่เป็นงานที่ดีจริงๆ อย่างมากก็อ่านแต่งานที่อยู่ในเน็ตเหมือนกัน ส่วนใหญ่เด็กม.ต้น ม.ปลายเขียน สำนวนมันก็วนๆผิดๆอยู่แบบนั้น มันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น แต่ปัญหาคือ เดี๋ยวนี้นักแปลกับบก.ที่ออกงานกับสนพ.ดังๆดันสำนวนแค่นี้ด้วยเนี่ยสิ แล้วดันมีคนชื่นชมว่าแปลดีด้วยนะ นี่มันดีแล้วเหรอวะ คือแปลดีไม่ใช่การแปลชื่อเฉพาะออกมาได้อลังการวิลิศมาหรา แต่เป็นการเขียนให้รู้เรื่องสละสลวยปะวะ กูสงสัยมาตรฐานคำว่าแปลดีของหลายๆคนมาก

43 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

>>42 มันน่าเศร้าตรงนี้แหละ พอนักเขียนรุ่นใหม่ๆเป็นคนที่โตมากับงานเขียนในเน็ตที่ใช้คำผิดความหมายมั่วกันไปหมด สกิลภาษาของนักเขียนเจเนอเรชั่นนี้มันก็จะต่ำลง ทำให้งานเขียนใหม่ๆคุณภาพด้อยลงไปด้วยในแง่การใช้ภาษาให้ถูกต้อง พอคนพวกนี้ไปทำงานสำนักพิมพ์มันก็จะคุณภาพเท่านิยายเน็ตไปด้วย ซึ่งตอนนี้กูก็ว่าใกล้เคียงละนะ 555555 นิยายวายจีนอะ การแปลแย่มากๆเมื่อเทียบกับนิยายแปลแนวอื่นๆ รู้เลยว่าบก.มือไม่ถึง

44 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>43 เท่าที่กูรู้คือคนแปลมีไม่พอด้วยแหละ รายที่แปลดีๆนี่โดนจองตัวยาวเป็นปีเลยมั้ง แถมค่าจ้างยังแพงด้วย รายย่อยบางเจ้าจ่ายไม่ไหว แต่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว เดี๋ยวของหมดอายุ นักแปลที่ไหนว่างก็ต้องขุดๆมาแปลขายๆไปก่อน หวังให้บก.มาช่วยตบๆเอา แต่อนิจจาหมาหอน บก.ดีๆก็ยุ่งพอกัน เอวังฉิบหาย

45 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

>>44 อยากได้คนแปลดีๆก็ต้องเพิ่มค่าแปลไปจ้างคนเก่งๆอะ แต่ถ้าไปจ้างคนเก่งๆที่เขามีงานประจำอยู่แล้ว งานมันก็จะช้า ซึ่งหนังสือก็จะออกช้าไปด้วย คนอ่านสมัยนี้รอกันไม่เป็น ออกช้านิดหน่อยก็ด่าแล้ว สนพ.ก็เลยต้องเน้นออกเร็วมากกว่าเน้นความพิถีพิถันในการแปลไปด้วย

46 Nameless Fanboi Posted ID:i5Drq5.VZu

จะว่าไปหลายวันก่อนกูเห็นทวีตประมาณว่า ถ้าช่วงนี้เจอนักเขียนหน้าใหม่ลงนิยายแล้วเขียนไม่ดีก็อย่าเพิ่งไปว่าไปตำหนิอะไรเลย อาจเป็นคนตกงานเพราะโควิดมาหารายได้จากนิยายแทนก็ได้ กูแบบ เอ่อออ มึงไม่ให้คุณค่างานเขียนกันเลยเหรอ ใครเขียนไม่ดีห้ามวิจารณ์เลยเพราะชีวิตเขาน่าสงสาร??? ทำเป็นรายการทีวีขายความดราม่าชีวิตต้องสู้ไปได้ งานเขียนงานแปลสมัยนี้ทำไมตำหนิไม่ได้เลยวะ งง

47 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>46 มันหาจุดลงตัวกันไม่ได้ด้วยแหละ บางคนวิจารณ์นิยายเหมือนนักเขียนไปยืมเงินป้ามันห้าร้อยแล้วไม่ยอมคืนน่ะ แล้วก็อ้างว่าติเพื่อก่อ ก่ออะไรล่ะ กระทืบด่าจนเขาจมไปถึงแกนโลกแล้วมั้ง จะเอาอะไรมาก่อ แต่ถ้าวิจารณ์ดีๆ ถนอมน้ำใจกันบ้าง มันไม่น่าเป็นไรนะ แล้วถ้าจะเอาไปเสนอสนพ. คนเขียนเขาก็น่าจะอยากได้ฟีดแบคจริงๆจังๆด้วยแหละกูว่า

48 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>46 วงการนักอ่านวายไทยแม่งอย่างแปลก 5555 เป็นกูถ้าเสียเงินอ่านแล้วเจออะไรแย่ๆเห่ยๆกูก็วิจารณ์หมดอะ แล้วถ้าไม่วิจารณ์วาามันควรปรับปรุงอะไรตรงไหนยังไง มันจะรู้มั้ยอ่ะว่างานตัวเองยังต้องพัฒนา เมื่อก่อนกูไถบอร์ดเด็กดีมีแต่ไอ้พวกนข.มือใหม่เบียวๆเท่านั้นแหละที่รับคำวิจารณ์กันไม่ได้ ไม่งอแงบอกคนวิจารณ์ใจร้ายก็เถียงหัวชนฝา เดี๋ยวนี้เหมือนนข.วายไทยเป็นมือใหม่หัวใจเบียวกันทั้งวงการ แตะมันทีเดียวมันเอาไปดราม่ากระซิกๆกับลูกหาบมัน3วัน

49 Nameless Fanboi Posted ID:CAJ7BSZNp6

บางคนด่าแรงจริง แต่บอกตรงๆหลังจากเจอคอนเทนต์ดีเอ็มทิพย์ในทวิตเตอร์บ่อยๆ กูก็ไม่ค่อยเชื่อพวกเม้นด่าแรงๆละ 555555 ยิ่งพวก anonymous นี่เผลอๆบางเม้นเป็นนักเขียนมาด่าตัวเองเรียกคะแนนสงสาร

50 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>47 กูว่าถ้านข.จะกลัวเจอคนวิจารณ์เหี้ยๆขนาดนั้น มึงอย่าโพสต์งานมึงลงเน็ตเลยดีกว่า คือมึงจะดังเบอร์ไหนมึงก็ไม่รอดคำวิจารณ์จากคนเหี้ยอ่ะพูดจริง ตราบใดที่งานมึงถูกเผยแพร่เป็นสาธารณะ มันก็ต้องมีคนหลากหลายมาเจองานมึงเสมอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอคนเหี้ย ทางที่ดีที่สุดคือนข.ทุกคนควรฝึกสกิลยุบหนอพองหนอ ทำใจให้เย็นๆไว้ แล้วก็ตัดบทอีปากแจ๋วที่มาด่างานมึงเหมือนมึงไปฆ่าพ่อมันเลย จบ เอามาลงหาดราม่าก็เหมือนมาหาซีน นข.คนอื่นเขาช่างหัวแม่งแล้วไปหาทางพัฒนางานตัวเองเอา

51 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>50 ถ้าวิจารณ์แบบไร้เหตุผลนี่กูว่านักเขียนไม่กลัวหรอก คือคงหงุดหงิดและด่าแม่ไอ้คนเหี้ยที่มาปากหมาแหละ แต่ไม่น่าจะเสียใจอะไรมากมาย เพราะอ่านดูก็รู้ว่าอันไหนวิจารณ์จริงๆ อันไหนมาหาเรื่อง แต่กูว่ามันก็เป็นหน้าที่ของคนอื่นๆในสังคมด้วยว่ะ ถ้าเจออะไรแบบนั้นก็ควรจะช่วยกันส่งเสียงว่าวิจารณ์เหี้ยๆนี่ไม่โอเค มันส่งพลังลบเกินไป และถ้ามีมากๆเข้าแล้วไม่มีใครท้วง เดี๋ยวนักเขียนทั้งหลายงง ตกลงงานที่เขียนไปมันดีหรือไม่ดี ส่วนพวกคำด่าทิพย์เนี่ย ถ้าโดนจับได้ซักทีคงดูไม่จืดเลยนะ ใครอยากเสี่ยงก็เอาเลย แต่กูจะไม่จัดจ์ก่อนเห็นหลักฐาน เพราะบางทีคนเราก็เจอเรื่องเหี้ยที่เหี้ยมากจนอัศจรรย์เหมือนนิยายได้

52 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

หรือว่ามันเป็นเพราะนักเขียนไทยไม่ค่อยเปิดรับคำวิจารณ์วะ คนอ่านวายแปลเลยไม่ค่อยกล้าวิจารณ์งานแปลกันไปด้วย อาจจะกลัวไปเหยียบตีนแฟนคลับเข้าไรงี้

53 Nameless Fanboi Posted ID:oXJXu4ZjqA

>>52 คนไทยไม่ชินกับการวิจารณ์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถนัดอวยมากกว่า ซึ่งกูเดาว่าคงเพราะการศึกษาไทยมันไม่ได้สอนให้คนไทยกล้าคิดกล้าวิเคราะห์วิจารณ์อ่ะ พวกวิชาวิเคราะห์วิจารณ์วรรณกรรมที่ตปท.เขามีเรียนกันตั้งแต่มัธยม เมืองไทยยังไม่มีเลย มีแต่ท่องวรรณคดีเอาไปสอบให้ผ่าน คงามหมายของบทกลอนที่ท่องยังไม่เก็ต พวกที่มันออกมาวิเคราะห์วิจารณ์กันตอนนี้มันเลยกลายเป็นขาดๆเกินๆ อันนี้ไม่กล้าพูด อันนี้แรงไป กูมองว่านิสัยกับการถูกปลูกฝังมาแบบนี้ของคนไทยคือส่งผลต่อวงการการเขียนอย่างแรงเลย

54 Nameless Fanboi Posted ID:8xMBdkq+5D

เมื่อก่อนเคยมีเพจที่ตั้งมาวิจารณ์นิยายแบบแรงๆด้วยนี่ เสียดายๆอะไรสักอย่าง แต่เหมือนเลิกแอคทีฟไปแล้วปะ

55 Nameless Fanboi Posted ID:.Lad6j1Vn1

>>54 อันนั้นวิจารณ์ไม่เชิงสร้างสรรค์ว่ะ มาด่าสั้นๆแล้วจากไป

56 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

กูว่ารีวิวในโม่งนี่แหละตรงไปตรงมาสุดละ ไม่ชอบตรงไหนก็ด่า ไม่ต้องรักษาหน้าตัวเองหรือเกรงใจติ่งนิยาย แต่เคยเห็นนักเขียนเอาคห.ในโม่งไปอู๊ดอี๊ดน้อยใจอยู่เหมือนกัน กูเลยแบบ แล้วจะให้กูบ่นที่หนายยยยยย ก็ไม่ได้ไปบ่นใส่นิยายมึงแล้วงายยยยยยยยย โวะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:boKkjZQGMF

>>53 เห็นด้วย มาตอนนี้คนรุ่นใหม่ที่พยายามจะฝึกวิจารณ์ก็ย่อยงานเขียนไม่เป็นกันแล้ว ตีค่างานวรรณกรรมได้แค่ว่าอันไหนมีเนื้อหาเปโด อินเซสต์ แล้วก็ยี้ๆแบนๆอย่างเดียว มันเรียกว่าวิจารณ์งานตรงไหนวะ ส่วนฝั่งคนเขียนเองก็มีแต่กองอวยมาแต่แรก แตะอะไรไม่ได้สักนิด

58 Nameless Fanboi Posted ID:zPJaomywuX

>>57 เออสมัยนี้วิจารณ์สไตล์ฉอด แบบท่องต่อๆกันมาอีกที ไม่ได้ช่วยให้นักเขียนพัฒนางานได้เล้ย

59 Nameless Fanboi Posted ID:9I3cIaVzEw

กูสนับสนุนให้วิจารณ์ แต่อยากให้วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์
อยากให้แก้ไขตรงไหนก็บอก ถ้าจะให้ดี อยากให้เสนอแนะวิธีการแก้ไขมาด้วย
เหมือนดูรายการประกวดร้องเพลง หรือรายการทำอาหารอะ
คือวิจารณ์ได้ แต่ให้ตรงจุด บอกวิธีแก้ไข ไม่ใช่สักแต่ว่าด่า

60 Nameless Fanboi Posted ID:qrTYAzTUFu

>>59 +1 ควรติเพื่อก่อ จะได้พัฒนา แต่คนติก็เดาไม่ถูกเหมือนกันมั้งว่านักเขียนคนไหนจะใจบางบ้าง บางคนติอย่างสุภาพก็ยังรับไม่ได้อ่ะมึง

61 Nameless Fanboi Posted ID:mIUyKqQ8k/

KY กูไม่รู้ว่ามาถูกมู้รึเปล่า แต่คำว่า โพ นี่ตปท.เค้าใช้คำว่าอะไรกันอ่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:9I3cIaVzEw

>>60 ถ้าติแบบสุภาพแล้วยังรับไม่ได้ กูว่าปัญหาก็อยู่ที่คนเขียน
แต่ส่วนใหญ่ที่เจอในนกฟ้าคือ ด่ากราด 55555

63 Nameless Fanboi Posted ID:sQaI0LyCDu

>>61 positionมั้งนะ

64 Nameless Fanboi Posted ID:uPUogrVV8B

>>61 role? position นึกถึงท่าเยมากกว่า

65 Nameless Fanboi Posted ID:9QUHDH6+f1

เดี๋ยวนี้ม่านฮวากับมังฮวาเริ่มแมสขึ้นมามากรึเปล่าวะ กุเห็นหลายสนพ.เริ่มซื้อlcมาพิมพ์เป็นเล่ม จากที่เคยเห็นแค่lcในแอพ

66 Nameless Fanboi Posted ID:AmucMCNPj6

วิจารณ์แรงๆ​ที่กูเจอแล้วรู้สึกว่าดีจริงก็ประเด็นที่นข.ชอบให้พอ.สักแต่เสียบ
พอมีคนฉอดในทวิ​ตว่าในทางปฏิบัติ​มันไม่ได้เสียบง่ายขนาดนั้น ต้องมีหล่อลื่นมีอะไร
หลังจากนั้นกูเห็นเทรนด์การเขียนเปลี่ยนไป มีใช้ถุงยาง เมื่อเทียบกับสักเมื่อสามสี่ปีก่อนอ่ะ เปลี่ยนไปเยอะจิง

67 Nameless Fanboi Posted ID:kWo+qQKVE0

>>65 แมสขึ้นนะ ครส.กูมันเริ่มแมสจากช่วงเรื่องเจ้าหญิงๆอะไรนั่นแล้วคนก็กลับมาอ่านไรพวกนี้เยอะขึ้นอะ

68 Nameless Fanboi Posted ID:FkRvQXf/Us

ดันจ้าาา

69 Nameless Fanboi Posted ID:1V2UJTf3TJ

>>61 ไม่รู้แฮะ เห็นเจอแต่ top / bottom เหมือนเวลาถามโพก็ถามใครบนใครล่างไปเลย ตวต.เค้าไม่ฟิกโพนินะ แต่เดี๋ยวนี้เสพนิยายฝั่งเราแล้วชักจะหลากหลายไปหมด ทั้งเมะเคะ กองโชว ของเกาหลีใช้อะไรวะ กุไม่ค่อยได้เข้าไปย่างกรายสายเกาเลยไม่รู้

70 Nameless Fanboi Posted ID:OhjvOh+R4x

https://www.ฟบ.com/groups/ybooks4share/posts/3913714825407012 นทก โดนแหกแล้วหรอ

71 Nameless Fanboi Posted ID:U4Wo.2xHS3

>>70 ทำไรไม่ได้หรอกมึง ลูกหาบเยอะ ใต้โพสนี้ก็มีคนไปแก้ต่างแทนแล้ว เห็นว่ามังงะก็คือมังงะนิยายก็คือนิยาย ต่อให้ลอกจริงก็แค่ตอนเดียวเอง ที่เหลือไรท์นทก คิดเองหมดเลยนะ โครงเรื่องแบบรี้มีเยอะจะคล้ายกันบ้างก็ไม่แปลก บลาๆๆ เหอะๆ อวยกันสุดๆ ไม่สนใดๆ

72 Nameless Fanboi Posted ID:R+UzPJDcyc

>>70 ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแต่อยากรู้อ่ะ มีประเด็นอะไรเหรอ

73 Nameless Fanboi Posted ID:OhjvOh+R4x

>>72 เนื้อหาตอนพิเศษไปคล้ายๆกับมังงะวายญี่ปุ่นเรื่องนึง เลยมีคนเอาถามในกลุ่มว่าก็อปมั้ยยังไง ตอนกูเห็นโพสต์ยังไม่มีเม้น แต่ตอนนี้ไปดูอีกที โพสต์ปลิวไปละ

74 Nameless Fanboi Posted ID:+QzLp.D7Jc

อ้าว มาไม่ทัน ทำไมลบอะ >>71 กูว่าไม่ใช่ตอนเดียวหรอก เคยเจอเรื่องอื่นไปคล้ายนิยายญี่ปุ่นเก่าๆเหมือนกัน แต่คงไม่มีใครจับได้เพราะมันเก่าเป็นสิบปีแล้ว

75 Nameless Fanboi Posted ID:KIQEYYAGML

>>70 กูมาเผือกไม่ทัน ตอนพิเศษเรื่องไหนไปลอกเรื่องไหนมาวะ
>>74 เรื่องไหนอ่ะที่ว่าคล้าย กูว่านางแต่งนิยายได้เร็ว แต่เรื่องลอกพล็อตนี่เพิ่งรู้ว่ะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:U4Wo.2xHS3

พวกมึงไปดูในเพจนนทกรได้นะ เขาแถลงแล้ว กูไม่าีปัญหาอะไรกับคำแถลง แต่ค่อนข้างรังเกียจลูกหาบเขา ระดับคุณนทก ไม่ต้องลอกใคนหรอกค่ะ เหอะๆ

77 Nameless Fanboi Posted ID:3oJSvzIFnS

>>76 ให้กำลังใจกันปกติก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องมายกยอ อ่านคอมเม้นลูกหาบทีไรกูละพะอืดพะอม

78 Nameless Fanboi Posted ID:aJHFLyB17S

พูดถึงเรื่องวิจารณ์ นิยายกูเคยมีนักอ่านสายฉอดมาเม้นวิจารณ์ แต่กูอ่านยังไงก็รู้สึกว่าด่า กูเลยเป็นโรคจิตตามติดไปดูชีวิตของนาง ถึงได้เห็นว่านางเป็นนักเขียนโนเนมเหมือนกัน เขียนแย่กว่ากูไม่ว่าในทวิตเอานักอ่านไปด่าเสียๆหายๆเวลานางอัพแล้วนักอ่านไม่สนใจนางไม่เม้นให้กำลังใจนางหรือมาวิจารณ์พล็อตนาง นางบอกนางทำขนาดนี้นักอ่านยังไม่สนใจวันไหนนางไม่ทำจะมาร่ำร้องไม่ได้ 55555 และอีกมากมายคำหยาบสัส ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้นางเพิ่งรีทวิตเกี่ยวกับประเด็นนข.สมัยนี้อ่อนไหวกับคำวิจารณ์ กูประสาทแดกเลยแทนเลิกส่องแม่ง เหมือนเจอคนบ้า555555 นางไม่ดังการที่นางด่านักอ่านในทวิตเลยไม่มีใครมาเผาผีนาง แต่ถ้ามีฐานคนอ่านขึ้นมาหน่อย กูว่าคงโดนแขวนแล้วล่ะ ไอ่พวกที่ปากบอกวิจารณ์ๆๆคนอื่น แต่พอตัวเองโดนบ้างกูว่าดิ้นชิบหายเลย

79 Nameless Fanboi Posted ID:ip9uvphFbU

>>75 วันดีวิทยา
คือนายเอกแกล้งให้เพื่อนดูดคอเพื่อให้พระเอกหึง <<< แค่นี้แหละ - - กูไม่ได้อวยอะไรนะวันดีอะไรนี่ไม่ได้ซื้ออ่านอ่านแค่ใน RAW
กูอยากบอกแค่ว่า โอ้ยยยย ทำแบบนี้อ่ะไม่ต้องการ์ตูนหรอกในชีวิตจริงกูก็เคยเจอจ้าาา แถมพล๊อตชายหญิงที่กูเคยอ่านมาแม่งก็แนวนี้โครตตตจะเยอะ

80 Nameless Fanboi Posted ID:TVlu0CAvsq

Ky จะคุยนอกเรื่องที่พวกมึงคุยกันอยู่มันพิมพ์งี้ป่ะวะ กูไม่ได้เข้าฟุนานละ;-; พวกมึง กูเพิ่งมีโอกาสได้ดูซีรีส์นิทานพันดาวอะ จำได้ว่าเคยอ่านแบบนิยายน้านนานมาละ ตอนนั้นยังอินกับคนบนฟ้าแต่ตอนนี้ไม่กูก็เลยขายไปละ ทีนี้กูชอบซีรีส์มาก กูรู้สึกว่าเขาทำได้ดีกว่าตอนกูอ่านนิยายอีก(อย่างน้อยก็ไม่ได้พยายามยัดเยียดให้กูเลิฟคนบนฟ้าเหมือนในนิยาย… ซึ่งกูขอโทษแฟนนิยายมาณ ที่นี้ด้วย) ทีนี้พอกูชอบซีรีส์ก็เลยนึกขึ้นได้ว่านข.เขาแต่งตอนพิเศษออกมาด้วย กูเลยไปสรรหามากะจะอ่าน แต่พอเห็นรีวิวว่าเขียนถึงราชกิจบลาบลาไปยี่สิบกว่าหน้า เขียนถึงผู้กองกับคุณครูแค่กระจิ๊บกระจ๊อย กูเลยจ๋อยจอดทั้งที่ไม่ทันได้แจว กูเสียดายว่ะ นข.เขาเป็นสลอ่อวะ(ขอโทษอีกเรื่องถ้าแฟนนข.ไม่พอใจมู้กู) คือกูเคยชอบงานเขามากอ่ะ อยากอุดหนุนแต่อุดมการณ์เราต่างกันกูเลยขอจากลาอย่างสงบสุข ปล.ถ้าผิดมู้ต้องขออภัย กูไม่ได้เข้าฟุนานละ โลกภายนอกกูก็ไม่มีที่ให้พูดคุยได้เล้ย

81 Nameless Fanboi Posted ID:jzwpeaohZb

>>80 เขียนนานแล้วไง เมิงเองยังเคยอินกับคนบนฟ้าเลย ถ้าเมิงเป็นนขเมิงอาจจะเขียนนิยายแนวนี้ออกมาเหมือนกันก็ได้

82 Nameless Fanboi Posted ID:PQjVDLh4OR

>>81 แต่ตอนมีคนไปวิจารณ์ประเด็นนี้ในทวิต นข.มีการแซะคนที่ไปวิจารณ์ด้วยน้า

83 Nameless Fanboi Posted ID:Rm3mqU5skv

>>81 พูดถึงในมุมคนอ่านถ้าจะซื้อ เขาไม่ได้ซื้อเพราะอยากอ่านชีวประวัติฉบับย่อป่ะวะ

84 Nameless Fanboi Posted ID:Rm3mqU5skv

>>82 อื้อหือ มีแซะกลับด้วยอ่อวะ กูไม่ได้ติดตามเขาอ่ะ จริงๆไม่ได้ตามวายไทยมาได้สักพักแล้วด้วยซ้ำ ตอนแรกกูกะจะไม่ดูซีรีส์เพราะจำได้แม่นว่าในนิยายมีฉากอภินิหารคนบนฟ้าอยู่ เกือบพลาดละกู

85 Nameless Fanboi Posted ID:SdHR9hfSLI

ky กูนั่งย้อนอ่านกระทู้เก่าตั้งแต่ปีมะโว้ที่พวกมึงเม้าส์เซเลป ป.ปลากันว่าเคยเอาแฟนอาร์ตงานคนอื่นมาโมเมว่าตัวเองวาดเองนี่เรื่องจริงเหรอวะ กูเงิบ เขาทำกับด้อมอะไรอ่ะ ใช่วายจีนป่ะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:YoS01/xrjI

>>85 มู้ไหนสมัยไหนวะ แปะวาร์ปมาซิ

87 Nameless Fanboi Posted ID:noirV2Z7VM

>>85 กลรี่?? ตั้งแต่ตอนเค้าอยู่ป.4-5มั้งมึงนานมากล่ะนะ​ กูทันดราม่าเค้ายอมรับที่แปลกับขอโทษก็จบเรื่อง​ หลังๆไม่ได้ทำอีก

ky มีใครอ่าน​คุณผู้ช่วยสถาปนิกบ้างมั้ยว่ะ​ กูอยากรู้นายเอกจะทำตัวเปิ่นโกหกโดนจับได้ละหัวเราะแห้งๆจนจบเล่มมั้ย​ กูจะได้ไม่ไปต่อ

88 Nameless Fanboi Posted ID:jzwpeaohZb

>>83 ไม่รู้ว่ะไม่เคยอ่าน แต่ถ้าสมัยก่อนมันเคยยัดเข้าไปได้ขนาดนั้นแล้วไม่โดนด่าแปลว่ามันเองก็เขียนได้ดีพอตัว เมื่อก่อนกูเห็นมีแต่คนอวยเรื่องนี้
>>82 เออคุ้นๆเหมือนมีในมู้ก่อนๆ จำไม่ได้ละว่าแซะกลับยังไง แต่นางไม่ได้ออกมาปกป้องใครแน่ๆล่ะ นางปกป้องตัวเอง

89 Nameless Fanboi Posted ID:OCFfdwQzeI

>>87 อ่านเถอะมึง สนุก เป็นวายจีนที่ดีที่สุดในช่วงสองสามปีนี้เลย คหสตนะ

90 Nameless Fanboi Posted ID:eDSg2bBWgu

>>87 ผู้ช่วยสถาปนิก กุจอดตั้งอต่เล่มแรก รำคาญทั้งนายเอก รำคาญทั้งความซูจีน

91 Nameless Fanboi Posted ID:PCzCw.PRKb

>>87 ถ้าไม่รอด1-2กูไม่ค่อยแนะนำเลย เพราะสำหรับกูเล่ม3-4แผ่วเข็นยากกว่า ตอนนี้กูยังเข็นเล่ม4 ไม่รอดเลย นิสัยนายเอกก็ประมาณเล่มหนึ่งนั้นเเหละไม่เปลี่ยนไปมากหรอกกว่านี้หรอก ทั้งความซูทั้งการอวยจีน ที่สำคัญที่ทำให้กูอคติเลยคือการแอบคบกันที่ทำงาน กูอึดอัดกูไม่ชอบสไตล์นี้อยู่แล้ว กูอ่านถึงเล่ม3ที่นางเเอบคบกันแล้วไม่มีการเล่นประเด็นนี้ว่าไม่เหมาะสมหรือสมควรกูก็ไม่ค่อยอยากอ่านต่อล่ะ กูค่อนข้างคอนเซินเรื่องนี้ส่วนตัว ใดๆมันคือความรู้สึกส่วนตัวกูล้วนๆกูเห็นหลายคนก็ชอบอยู่ มึงอาจจะชอบเล่ม 3-4 มากกว่า 1-2 ก็ได้

92 Nameless Fanboi Posted ID:RrTTubBPSu

>>87 ลองอ่านเล่ม1ก่อน ถ้าโอเคก็ไปต่อ สำหรับกูกูชอบ เป็นSoLที่ดีอันดับต้นๆในใจเลย พาร์ททำงานสนุกดี แต่ตัวละครอวยทัศนคติแบบจีนมาก อวยความproductive ชีวิตต้องมีสาระตลอดงี้ แล้วกูก็ไม่ชอบนายเอกด้วย รู้สึกว่าเป็นพวกลูกคนรวยมีพรีวิเลจแต่ก็ยังมาเย้วๆว่าต่อให้เทียบกับลูกคนธรรมดา(ที่หาบ้านจนไม่ได้มีเส้นสายข้าราชการให้ไปเรียนต่อเมืองนอกแบบตัวเอง)ก็ยังลำบากน้าาา ซึ่งกูว่ามันไม่ใช่อะ5555 นายเอกชีวิตดีกว่าใครหลายคนเยอะ ที่ผ่านมาก็ได้ฐานะครอบครัวอุ้มไว้หลายอย่าง แต่ก็ดูไม่ตระหนักถึงตรงนี้เลย แต่ทั้งนี้ กูยังพอรับได้ ทำเบลอๆข้ามๆไปได้บ้าง

93 Nameless Fanboi Posted ID:GaBL47vYgf

unpopular opinion เบื่อเวลาเห็นสายนิยายจีนบ่นรำคาญความชาตินิยมจีน ก็มันนิยายจีนอะ มึงคาดหวังอะไร อยากให้คนจีนฉอดรัฐบาลจีนหรือไง ถ้ารำคาญทัศนคติคนจีนก็ไม่ต้องอ่านนิยายที่คนจีนเขียนก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องฝืนใจอ่าน

94 Nameless Fanboi Posted ID:dUFKrba.Tr

นี่รู้สึกคล้ายๆ >>91 คือตอนอ่านเล่มแรกจบแล้วอยากอ่านต่อมาก แต่เล่ม 3-4 ค่อนข้างเนือย อ่านจบแล้วก็จบแล้วคงไม่หยิบมาอ่านซ้ำบ่อยเท่าไหรหลักๆ คือรำคาญนิสัยนายเอกหลายอย่าง รู้สึกคิดน้อย เอาแต่ใจ ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่

95 Nameless Fanboi Posted ID:eDSg2bBWgu

แค่บอกว่ารำคาญนายเอก รำคาญความซูของนายเอกก็โดนไล่แล้ว5555 กูไม่ไป กูจะอ่านนิยายจีนและรีวิวต่อ เรื่องไหนสนุกกูก็บอก เรื่องไหนน่ารำคาญกูก็พูดตรงๆ

96 Nameless Fanboi Posted ID:RrTTubBPSu

>>93 อ่าม คือกูก็นึกว่าคนเขียนยุคใหม่ๆจะมีความmodernizeกว่านี้อ่าค่าา กูบ่นเรื่องความอวยจีนก็คือไปขวางหูขวางตาคนอื่นเนอะ555555555

หยอกๆนะพส ก็เข้าใจอยู่ว่านิยายคนจีนจะเอาไรมาก แต่ในฐานะคนซื้อ กูก็มีสิทธิ์บ่นอ่า เข้าใจก็จริงแต่ชอบไม่ชอบมันอีกเรื่องนะ แล้วนิยายเรื่องนึงมันก็มีดีกว่าโฟกัสแค่เรื่องชาตินิยมอ่า จุดที่ชอบไม่ชอบก็มีหลายอย่าง ถ้าตัดเรื่องชาตินิยมออก อย่างอื่นมันก็มีดีเยอะอะ จะให้กูเลิกซื้อเลยก็ยากนะคะ555555

97 Nameless Fanboi Posted ID:9Ri4LZjwzj

>>93 please stay unpopular kaaa

98 Nameless Fanboi Posted ID:QWYcnOps5z

>>96 กลับกันเลย คนเขียนรุ่นใหม่ๆนี่แหละคือรุ่นที่โดนล้างสมองมาตั้งแต่เกิด คนจีนรุ่นใหม่จะอินวันไชน่ายิ่งกว่าคนรุ่นเก่าๆอีก มันโดนโพรพากันด้ามาหนักมากอะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:OCFfdwQzeI

>>90 >>91 >>92 กูรักผู้ช่วยสถามากกกกก แต่ก็เข้าใจพวกมึง ฮือ ตอนอ่านกูก็ขัดใจบางจุด แต่อ่านจบแล้วกูอิ่มเอมอ่ะ ช่วงนี้ยังไม่เจอเรื่องอื่นที่อ่านจบแล้วพึงพอใจมากเท่าเรื่องนี้

100 Nameless Fanboi Posted ID:dfHYCXSZ8d

เอาจริงกูว่าผู้ช่วยสถาปนิก overated อะ คนอ่านแล้วชอบจะอวยกันเว่อวังมาก แต่ก็เข้าใจแหละเพราะมันไม่แมสเท่านิยายจีนเรื่องอื่นๆ ก็เลยอยากโฆษณาเว่อๆให้มาอ่านกัน

101 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>100 ลางเนื้อชอบลางยาไงมึง ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันนน
เหมือนสเปคผู้ชายในฝันไง

102 Nameless Fanboi Posted ID:dfHYCXSZ8d

>>101 กูเข้าใจนะว่าคนเราชอบไม่เหมือนกัน แต่เวลาพูดถึงหนังสือที่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องอวยอย่างเดียวไงมึง 555555 เวลากูอวยหนังสือที่กูชอบกูจะไม่ค่อยอวยเว่อๆนะ กูกลัวคนอ่านคาดหวังแล้วผิดหวังอะ 5555555

103 Nameless Fanboi Posted ID:rh2sx3tZsR

>>100 กูว่านิยายจีนปกติก็ถูกอวยเว่อร์เกินในไทยหลายเรื่องนะไม่ใช่เรื่องนี้ เห็นเวลาคนขายเรื่องนี้ชอบเน้นชีวิตทำงานแนว Slice of life เป็นจุดขายกูเลยเดาว่าสาเหตุมันเป็นวายปจบที่เน้นชีวิตทำงานหนักกว่าเรื่องอื่น เล่นเรื่องงานในออฟฟิศเป็นพ้อย คนไม่ค่อยเจอ เลยถูกไฮป์หนักไป ตอนเเรกกูก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับเรื่องนี้นะ มันใหม่ในสายวายหน่อยๆ แต่หลังจากนั้นกูเจอเรื่องแนวนี้ที่กูชอบ/ถูกใจมากกว่าพอกลับมาอ่านเล่ม 3,4 ความรู้สึกดรอปไปเยอะเลย

104 Nameless Fanboi Posted ID:NcRkOve5oe

>>103 จริง กุนึกถึงที่ในโม่งเคยคุยกัน (โม่งปะวะ ไม่แน่ใจ) ว่าคนไทยจะไม่ค่อยตำหนินิยาย บางคนก็ไม่ชอบติเพราะอยากอวยมากกว่า บางคนก็ไม่กล้าติเพราะกลัวลูกหาบ ส่วนใหญ่รีวิวเลยออกมาในสภาพอวยเว่อเกินเหตุ

105 Nameless Fanboi Posted ID:dfHYCXSZ8d

>>103 เรื่องที่ถูกใจกว่าคือเรื่องอะไรรึเพื่อนโม่ง ป้ายยาซิ

106 Nameless Fanboi Posted ID:rh2sx3tZsR

>>104 ยุคนี้มันวิจารณ์สายผลิตไม่ได้อ่ะมึง ว่านิดหน่อยก็หาว่าตัดกำลังใจเสี่ยงโดนคนด่าอีก รีวิวแนววิเคราะห์ติเตียนลงลึกเลยไม่ค่อยมี มีแต่รีวิวเน้นอวยข้ามจุดด้อยจุดเสียไป ทั้งที่สายผลิตควรรับฟีดแบคและดูว่าควรแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเพื่อพัฒนา แต่ยุคนี้ผู้เสพงานกลายเป็นเลี้ยงสายผลิตเหมือนไข่ในหินเกินไป กูเลยไม่ค่อยเชื่อรีวิวบนบกเท่าไร

107 Nameless Fanboi Posted ID:L1xC8ka/QF

>>106 ส่วนรีวิวในโม่งก็มีโม่งคอยขัดขากันเองว่าม้า เลยไม่ค่อยมีใครมารีวิวกันแล้ว 555555555

108 Nameless Fanboi Posted ID:2VpuGXDXUq

>>105 ค่อยๆรัก เจ๋งพัท วายไทย กูเคยขายในมู้ชั้นหนังสือมู้68 ลองไปเสิชคีย์เวิร์ด เจ๋งพัท อ่านได้ ถ้ามึงอยากอ่านแนวเน้นทำงานออฟฟิศ Slice of life,Slow burn สต.กูชอบอันนี้มากกว่า ชีวิตทำงานละเอียดยิบเหมือนกัน ที่สำคัญกูชอบทัศนคตินักเขียนที่กูสัมผัสได้จากงานเขียนของเขาด้วย ถูกจริตกูมาก อันนี้คหสต.ย้ำอีกที คนอ่านวายจีนไม่มองวายไทยกูก็เข้าใจได้ แต่เรื่องนี้เป็นวายไทยที่กูยอมรับเรื่องหนึ่ง ขออนุญาตตั้งแผงขายของ กันยากำลังจะออก 3 เล่มจบ ไปลองอ่านกันได้

109 Nameless Fanboi Posted ID:2VpuGXDXUq

>>107 อันนี้จริงมึง บางที่กูก็อินไปหน่อย ชอบขาย แต่ต้องระวังโคตรว่าเยอะเกินไปไหม กลัวจะโดนว่าเป็นม้า

110 Nameless Fanboi Posted ID:V.xx+ixomz

>>108 เจ๋งพัทนี่ได้ยินกิตติศัพท์มานาน กูเคยไปลองอ่านอยู่สามสี่ตอน แต่กูไม่ได้อ่านวายไทยมานานมาก มาอ่านเรื่องนี้เจอประโยคขึ้นต้นด้วยคำกริยาแบบไม่มีประธานรัวๆแล้วกูคัลเจอร์ช็อกนิดนึง กูเลยเลิกอ่านไป

111 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>110 เดี๋ยวนี้วายไทยฮิตเขียนแบบนี้กันหมด กูอ่านแล้วรู้สึกแปลกมากกก แต่เคยเห็นคนถกกันในทวิต หลายๆคนบอกไม่แปลก กูคงปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของภาษาไม่ทันเอง

112 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>111 มีประโยคตัวอย่างปะ ที่ว่าเอาคำกริยาขึ้นก่อน
กูนึกภาพไม่ออก

113 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>112 กูแต่งขึ้นมาใหม่เองนะ เช่นขึ้นย่อหน้าใหม่ว่า “เดินลงบันไดแล้วเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบนมออกมา”
หรือไม่ก็มีบทพูดมาก่อน เช่น
“บ้าน่า!” สบถอย่างหัวเสีย “เป็นไปไม่ได้!” เดินปึงปังออกไป
อะไรแบบนี้อะมึง เดี๋ยวนี้วายไทยเป็นกันเยอะมาก แต่วายแปลแทบไม่มีประโยคแบบนี้เลย

114 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>113 เทรนภาษาญี่ปุ่นเหรอมึง 5555
ภาษาญี่ปุ่นชอบละประธานที่เป็นบุรุษที่ 1 นะ
แต่กูไม่เคยเจอในประโยคไทย
นิยายวายไทยสมัยเก่าก็ไม่เป็นนะ ละประธานเนี่ย
งงเลย วายไทยปัจจุบันมันมาเทรนนี้ได้ไง

115 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>114 กูเจอประโยคแบบนี้บ่อยๆตามคอมมู/บอทอ พวกเล่นเป็นตัวละครแล้วมาโรลคุยกันตามโซเชียล มันจะคุยกันในลักษณะละประธานเพราะรู้กันอยู่แล้วว่าคนที่พูดเป็นคนทำกริยานั้นๆกูเลยสันนิษฐานว่าอาจจะเริ่มมาจากพวกนี้แหละ แล้วคนที่เล่นอะไรพวกนี้บ่อยๆก็จะไม่รู้สึกขัดเวลาเจอประโยคละประธานในนิยาย

116 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>115 *คอมมู/บอท เดี๋ยวงงว่าบอทอคืออะไร 55555

117 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

กูอ่านวายไทย เจอประโยคพวกนี้ไม่บ่อยนะ แต่ตัวละครพูดภาษาทวิตนี่เจอบ่อยชิบ

118 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

กูไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกเพราะมันเป็นการบรรยายแบบบุรุษที่หนึ่งมั้ง มองในมุมมองพัทไม่ใช่บรรยายมุมมองพระเจ้าที่จะต้องมีประธานหมด กูเลยรู้สึกว่าแบบนี้โอเคแล้ว เพราะก็รู้ว่าเป็นพัทพูดอยู่ เป็นพัททำ พัทคิด เป็นสไตล์เขียนของเขามันไม่ได้แปลกในใจกูเลย หรือเพราะตอนเด็กๆก็อ่านจสลูกกวาดที่เป็นการบรรยายบุรุษที่ 1 บ่อยวะ กูชินกับการคิดในใจโวยวายในใจไรงี้ 555555555 ถ้ามึงไม่ทักกูก็ไม่รู้สึกเลยว่ามันล่ะประธานเเบบนั้นอยู่

119 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

>>118 ไม่มึง จริงๆคือมันเป็นการเขียนที่แหกหลักภาษาไทยเลยไง ประโยคต้องมีประธาน+กริยา อันนี้คือเบสิกมากๆ มึงอยากจับประธานไปไว้ตรงไหนของประโยคก็ได้ แต่อย่างน้อยต้องมีประธาน ไม่งั้นมันก็ไม่ใช่ประโยค นี่ไม่ใช่ภาษาญป.

120 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

เอออีกอย่าง ละไม่งั้นทำไมนิยายแปลญป.ถึงไม่แปลแบบละประธานแบบมึงว่าบ้าง กูอ่านมาก็เห็นเขาใส่ประธานกันทั้งนั้น มันน่าตั้งคำถามมั้ยว่าหรือจริงๆมันจะไม่ถูก คนแค่ชินกับการที่นักเขียนไทยทำสิ่งที่ผิด?

121 Nameless Fanboi Posted ID:+1VSHPpphS

กูเจอบ่อยสมัยอ่านฟิค แบบบทพูดมาก่อนนี่เจอเป็นปกติเลย

122 Nameless Fanboi Posted ID:Hc.nan9Dbq

บันเทิงคดีค่อนข้างอิสระทางภาษา ดังนั้นไม่ต้องเขียนถูกหลักไวยากรณ์ประธาน+กริยาก็ได้ แปลตปท.คนละไวยากรณ์กับไทย คนยังอ่านแล้วโอเคได้เลย ดังนั้นตราบเท่าที่สื่อความรู้เรื่อง ทำให้อารมณ์ของเรื่องไปเร็วทันใจตามที่คนเขียนต้องการก็ปล่อยให้ละประธานไปเถอะ

123 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>119 คือกูมองว่าการบรรยายบุรุษที่หนึ่ง ทุกคนทราบกันดีว่าเรากำลังอยู่ในมุมมองของพัท ดังนั้นทุกประโยคที่พูดหรือสิ่งที่กำลังกระทำอยู่มี พัท=ประธาน อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ไว้ในทุกประโยค สามารถสื่อความหมายให้เข้าใจได้ ไม่ผิด และคิดว่ามันสามารถปรับเปลี่ยนภาษาให้เป็นไปตามยุคสมัยได้โดนไม่ระบุชัดว่าเป็นเรื่องที่ผิดนะ

124 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>120 กูเข้าใจที่มึงสื่อนะ แต่กูไม่อยากให้มึงขี้ชัดไปเลยว่าผิดไม่สามารถทำได้ทั้งที่วิธีนี้มันก็สื่อใจว่าให้ผู้อ่านได้เข้าใจเหมือนกัน

125 Nameless Fanboi Posted ID:xA8575fXB1

กูว่าพวกมึงแค่หาข้ออ้างให้นิยายไทยที่มึงชอบกับนขไทยที่เขียนแบบนี้อ่ะ5555 หรือพวกมึงไม่เคยรู้ว่ามันมีคนที่เขียนนิยายแบบเปิดมาทั้งย่อหน้าหาประธานไม่เจอเลย ส่วนเรื่องเอาคำพูดขึ้นก่อนนี่ปกติมากแล้วไม่จำเป็นต้องละประธานเวลาเขียนเลย คนที่เขียนแบบเอาคำพูดขึ้นก่อนแล้วหลังจากนั้นก็มีคำนามสรรพนามบอกว่าใครพูดมีเยอะแยะ มันไม่ได้ทำให้ประโยคยืดเยื้ออะไรด้วย(“เอาจริงดิ” ผมพูดพลางเกาคอ กูยกตัวอย่าง) กูเคยอ่านนิยายสมัยJLSบูมเหมือนกันนะแต่ก็เพิ่งมาเจอคนละประธานกันเยอะขนาดนี้กับวงการวายนี่แหละ

126 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

>>119 แต่คิดในชีวิตประจำวัน คนไทยก็ละประธานเป็นเรื่องปกตินะ
"จะไปไหนอ่ะ"
"กินข้าว"

"วันนี้ทำงานเป็นไงบ้าง"
"บัดซบมาก"
ในทางปฏิบัติยังพูดละประธานเลย ไม่ต้องมีประธานทุกครั้งคนก็เข้าใจ ถ้าเข้าใจได้ก็ถือว่าการสื่อสารประสบความสำเร็จแล้วแหละ นึกภาพเวลาเจอคนพูดแบบละประธานแล้วไปบอกว่าไม่ได้นะๆ ต้องมีประธานสิ มีกริยาอย่างเดียวไม่ได้ คนฟังคงอีหยังวะ

127 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>125 เรื่องกูชอบเจ๋งพัทเป็นเรื่องจริง กูว่าไม่ได้พยายามหาข้ออ้างให้ยอมรับวิธีบรรยายแบบนี้ ก่อนที่กูจะอ่านเรื่องนี้จนกูชอบได้ กูก็ต้องยอมรับวิธีการบรรยายแบบนี้ได้ก่อน เพราะถ้ากูยอมรับที่เขาเเต่งเเบบนี้ไม่ได้แต่เเรกมองว่ามันแปลก กูก็คงปิดตั้งแต่ตอนเเรก (ซึ่งก็มีกลายเรื่องที่คนรีวิวว่าดีบลาๆ แต่กูไม่รอดเพราะสำนวน+การบรรยายเขาแล้วก็ปิดตั้งแต่ตอนแรกหรือตอนตัวอย่างแรก ทั้งวายไทยและวายแปล) และกูก็ไม่รู้ด้วยว่ามีคนละเยอะอย่างที่มึงว่า ไม่รู้มึงเคยลองอ่านเจ๋งพัทไหม แต่กูว่านขไม่ได้ละทั้งหมดถ้ายังไม่ก็ลองอ่านดูก่อนได้จะได้ตัดสินได้ว่ามันละประธานเยอะอย่างที่ว่าไหม หรือถ้ามึงอ่านแล้วยังรู้สึกว่าเป็นอย่างนี้กูก็โอเคยอมรับความคิดเห็นของมึง

128 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

กูว่าการละประธาน มันผิดหลักภาษาไทย
คือถ้าเขียนเรียงความ แล้วละประธาน ครูภาษาไทยคงให้สอบตก หรือเขียนรายงาน ทำวิทยานิพนธ์ อ.มหาลัยก็จะให้แก้ไข เพราะมันผิดหลักภาษา
แต่พอดีนิยายมันเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ เลยอนุโลมได้
วัยรุ่นคงจะชินกับการละประธาน แต่ถ้าให้รุ่นป้าอายุ 40-50 มาอ่าน คงจะรับไม่ได้แน่ๆ
แต่อย่างว่าแหละ ภาษามันดิ้นได้
นิยายแจ่มใสยุคนึงยังมีการพิมพ์อีโมติคอนลงไปในนิยายได้เลย เพราะเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ

129 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>128 ต่อ
แต่ส่วนตัวกูไม่ชิน และคงไม่อ่าน สงสัยเพราะกูอายุเยอะ 5555

130 Nameless Fanboi Posted ID:6CkSx4kXMO

>>126 มันคือ คิด กับพูด ไม่ใช่เขียนนี่มึง ไม่เหมือนกันหรอก เทียบทำไม

131 Nameless Fanboi Posted ID:t1CL57ma+F

Ky เวลาผญจิ้นเพื่อนชายที่สนิทกันมากๆ หรือทำอะไรน่ารักๆ ว่าเค้าชอบกันแหละตัวเอง กรี๊ด
ผชเค้าจะรังเกียจที่เราคิดแบบนี้กันป่าววะ

132 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

>>130 มึงคิดแบบมีประธานเหรอ กูคิดแบบละประธานนะ

133 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

อันนี้กูขอถามเป็นความรู้หน่อย แล้วถ้าการบรรยายบุรุษที่หนึ่ง แล้วเป็นการบรรยายความคิดของตัวละครบุรุษที่หนึ่งนั้นๆ สามารถละประธานได้ไหมอ่ะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>130 เวลาพูดมันละประธาน
แต่นิยายมันเป็นการเขียนไง
ปกติการเขียน มันต้องมีประธาน ถึงจะถูกต้องตามหลักภาษา
มึงลองเขียนเรียงความวันแม่แบบละประธานแล้วส่งครูภาษาไทยดิ
กูให้ 5/10 คะแนน

135 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>133 ขนาดมึงเขียน มึงยังใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 เลย
อันนี้"กู"ขอถามเป็นความรู้หน่อย
กูเลยคิดว่าตามหลักภาษามันต้องมีประธาน
แต่นิยายมันเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ เลยละประธานได้ เพราะไม่เอาความถูกต้อง

136 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>135 ไม่ๆ ที่กูต้องการจะถามคือการบรรยายสิ่งที่ตัวละครนั้นคิดสามารถละประธานได้ไหม อันนี้ใช้กูเพราะ’กู’ถามเหมือนกูพูดออกมา แต่ถ้าเป็นความคิดของตัวละครนั้นๆจะละได้ไหม หรือกูอ่านที่มึงตอบไม่เข้าใจเอง กูงง

137 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

>>133 เขียนนิยายไม่ใช่เรียงความ ดังนั้นไม่ต้องเคร่งหลักภาษามากก็ได้ ภาษามันดิ้นได้ ครูภาษาไทยไม่มาแหกอกมึงหรอก

ตัวอย่างภาษาดิ้นได้ก็บทพูดนั่นแหละ ต่อให้อยู่ในเครื่องหมาย " " ก็เป็นการเขียนอยู่ดี ที่คนยอมรับเพราะความเคยชิน ตอนนี้การเขียนบรรยายแล้วละประธานคนส่วนหนึ่งก็ชินกันแล้วตามที่เห็นที่มีคนเขียนคนอ่านในเว็บ คนอีกส่วนไม่ชินก็ไม่ผิดถ้าไม่ไปก้าวก่ายชี้หน้าเขา ทางใครทางมัน

138 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>137 ก็กูบอกตั้งแต่แรกแล้วไง ว่านิยายมันเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ เลยละได้
แต่ถ้าเอาตามทฤษฎีหลักภาษาไทย การละประธานมันผิดไวยากรณ์

139 Nameless Fanboi Posted ID:gK1dvT/JsW

อยากอ่านแบบไหนก็อ่าน อยากเขียนแบบไหนก็เขียน จะถูกผิดหลักอะไรทุกคนรู้ ใครยอมรับได้ก็ตามนั้น ส่วนตัวกุตามไม่ทันเรื่องการละประธาน อ่านไม่ค่อยได้ งานเขียนคืองานเขียน การพูดคือการพูดคนละความหมายส่วนกัน ต่อให้ใครบรรยายมันก็คืองานเขียน ตรงนี้ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ แต่อย่างว่าการใช้ภาษาพูดในงานเขียนก็มีเยอะแยะ ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปคงต้องปรับตัวให้ได้ แม้กระทั่งกูเอง

ส่วนเรื่องเจ๋งพัท ส่วนตัวกุชอบงานเขียนเค้านะ แต่อ่านงานเค้าเรื่องนี้ไม่ได้ หนึ่งเพราะแต่ละตอนมันยาวไป กูอ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย สอง ที่พูดว่างานแน่น ก็คงปฏิเสธไม่ได้มั้งว่าแน่น แต่ถามสมเหตุสมผลมั้ย ก็มีจุดให้กูกังขาและมีความคิดตลคที่กูงง ๆ พอสมควรในเรื่องงาน ทำให้กูหยุดอ่าน แต่มันก็อาจเกิดขึ้นได้จริงๆ มั้ง แค่กูกับคนที่อ่านงานเค้าเอ๊ะจุดเดียวกัน เรื่องมันดีตามที่ทุกคนอวยแหละ แต่มันก็พ่วงมาด้วยความคาดหวังทำให้กูอ่านเลยอ่านแบบจริงจังมากไปหน่อย

>>131 อันนี้แล้วแต่คน กูเจอมาทั้งทำหน้าขยะแขยง ทำหน้าไม่เข้าใจ ทำหน้าแบบมองหน้ากูแล้วแบบกูเป็นประสาท เป็นผีบ้า หรือมีทำหน้าแบบน่ารักดี คือมันแล้วแต่ทัศนคติคนมากๆ แต่ส่วนใหญ่ที่เจอคือยังรับไม่ค่อยได้

140 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>139 +1 ทฤษฎีหลักภาษาไทยก็เรื่องนึง นิยายที่อ่านตามความบันเทิงก็อีกเรื่องนึง ภาษามันดิ้นได้ นิยายสมัย 10 ปีที่แล้วไม่มีการละประธาน ปัจจุบันละประธานไป อีก 10 ปีข้างหน้า งานเขียนนิยายอาจจะเปลี่ยนรูปแบบไปอีกก็ได้ แต่ส่วนตัวกูชินกับงานสมัยก่อนมากกว่า

141 Nameless Fanboi Posted ID:SROPLdLvXF

>>127 กุลองข้ามไปอ่านตอน 7 สำนวนบรรยายคนนี้กูอ่านไม่รอดว่ะ

142 Nameless Fanboi Posted ID:TEPyR5mdTV

เหมือนพวกมึงยังแยกแยะไม่ได้เลยว่ะว่า “บทสนทนา” กับ “บทบรรยาย” มันคนละอย่างกัน

143 Nameless Fanboi Posted ID:PuqkHucQtY

>>139 กูก็อ่านเจ๋งพัทไม่ได้ เพราะอ่านแล้วกูรู้สึกเครียดยังไงไม่รู้ว่ะเป็นเพราะไม่ชินกับแนวเจ้านายลูกน้องหรือว่าเพราะบรรยากาศในเรื่องมันจริงจังไม่รู้ว่ะ ยาวก็ส่วนหนึ่งด้วยคิดว่ากูคิดแบบนี้คนเดียวอ่านแล้วเหนื่อย

144 Nameless Fanboi Posted ID:9Xn9MM+ROT

>>142 ต่อนะ ไม่ว่ามึงจะรู้สึกว่าตลค.มันบรรยายเป็นบุคคลที่1แล้วมันเหมือนตลค.กำลังเล่าความคิดตัวเองขนาดไหน มันก็ยังคงเป็นบทบรรยายอยู่วันยังค่ำ มึงจะเอาหลักการแบบเดียวกับที่มึงใช้กับบทสนทนามาใช้กับบทบรรยายมันคนละเรื่องกันมั้ยอ่ะ ละที่พวกมึงเถียงๆมาว่ามันใช้ได้คือมันย้อนแย้งลักหลั่นกันไปหมดเลยอ่ะ มึงจะมาบอกว่านิยายแปลใช้ไม่ได้มันก็ปกติแต่นิยายไทยใช้ได้มันก็ปกติ ทั้งๆที่แม่งใช้ภาษาไทยภาษาเดียวกันในการบรรยายทั้งงานเขียนงานแปล อะไรคือมาตรฐานของพวกมึงวะ

145 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>144 ใจเย็นพวก กูอยู่ฝั่งมึงนะ กูมองว่ามันผิดหลักภาษา แต่ถ้าอ่านเพื่อความบันเทิง มันก็มีคนอ่านได้
กูมองว่ามันเป็นนิยายที่วัยรุ่นแต่งไงมึง วัยรุ่นอาจจะชินกับการเขียนที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย 100%
วัยอย่างกู กูก็ไม่ชิน แต่กูเข้าใจคนที่ชินนะ แบบว่า เวลามันเปลี่ยน ภาษามันเลยเปลี่ยน แต่มันก็ไม่ได้ถูกต้องตามหลักทฤษฎีนะ แต่วัยรุ่นคงจะชอบกัน

146 Nameless Fanboi Posted ID:gK1dvT/JsW

>>142 เหมือนมึงยังแยกไม่ได้ว่า บทสนทนาในงานเขียน กับ บทสนาในการพูดมันคนละเรื่องกัน

>>143 มันยาวไปมึง อันนี้ บก แนะนำเลยว่ามันไม่ควรยาว ถ้ายาวควรจะมีการพัก เพราะตอนอ่านจะรู้สึกว่าเหนื่อยและทรมาน มันไม่จบสักที ไถเท่าไรก็ไม่หมดอะ ส่วนบรรยากาศทำงานก็จริงจังแต่มันจริงจังแบบแปลก ๆ สำหรับกุเองนะ เช่นฉาก ที่เจ๋งถามพัทเรื่องงานลูกค้า แต่พัทไม่ตอบ และไม่ได้ถามครั้งเดียวจนเกิดความผิดพลาด คือในชีวิตจริง ทำงานจริงมึงไม่ตอบเจ้านายไม่ได้ ใช้สิทธิพิเศษอะไร คนจีบกันเหรอ ไรงี้เหรอ มันไม่ใช่นะ เสียงานเสียการหมด อายุก็ไม่ได้น้อยแล้วอะ ย้ำอันนี้แค่ครส กู หน้างานจริงๆ อาจมีมั้ง แต่ส่วนตัวกุไม่เคยทำ

147 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>146 อันนี้ฉากไหนวะที่นางถามเรื่องงานแล้วพัทไม่ตอบ คือกูอยากย้อนกลับไปอ่านเอง เพราะระหว่างที่อ่านกูไม่รู้สึกว่าคุณเจ๋งให้เบเนฟิตอะไรกับการเป็นเจ้านายที่ชอบพัทเลย ออกจะระวังตัวมากด้วย กูชอบพ้อยนี้ พอมึงบอกว่าคุณเจ๋งใช้สิทธิคนจีบกันกูอยากย้อนกลับไปอ่านว่ากูพลาดตรงไหนไป

148 Nameless Fanboi Posted ID:ReU8KOj42p

กูว่าเจ๋งพัทก็สนุกดี กูชอบภาษากับจังหวะการดำเนินเรื่องของเขานะ แต่ถ้ามีคนไม่ชอบก็ไม่แปลก รสนิยมมันต่างกันอะ

ปล. แต่สารภาพตามตรงว่ากูไม่ชอบวายออฟฟิศที่หัวหน้ากับลูกน้องหรือคนในที่ทำงานคบกันเลย5555555555 แม่งหลอนอะ ในชีวิตจริงคืออึดอัดชิบหาย โดนคนนินทาด้วย แต่วายทำงานส่วนใหญ่ที่เจอแม่งก็ให้พระนายอยู่บริษัทเดียวกันอีก กูอ่านละทริกเกอร์ตลอด555555555555

149 Nameless Fanboi Posted ID:S3/57bvpOV

เพื่อนกูอ่านวายไทยมันพูดเหมือน >>117 เด๊ะ เวลามันมาป้ายยากู กูจะถามก่อนว่าละประธานมั้น มันบอกไม่นะ แต่พอกูลองตามไปอ่านจริงๆ เจอเพียบ 5555555 กูว่าคนที่ชินและไม่รู้สึกอะไรจะไม่ทันสังเกตน่ะ เลยไม่คิดว่ามีเยอะ แต่กูลองอ่านวายไทยกี่เรื่องๆเจอทุกเรื่อง กูเลยยอมรับว่ามันคงเป็นเทรนด์ใหม่แหละ เป็นการเปลี่ยนแปลง ใครรับได้ก็อ่านไป ใครรับไม่ได้ก็แค่เลิกอ่าน กูอ่านวายแปลดีกว่า ใช้ภาษาถูกหลักกว่าวายไทยเยอะ มันก็แค่นี้แหละ

150 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>149 จริง กูว่ามันเป็นเทรนด์ใหม่ คนที่ชินคือคนอายุน้อย คนที่ไม่ชินคือพวกมีอายุนิดหน่อย อ่านนิยายสมัยก่อนเยอะ เลยมีตัวเปรียบเทียบกับสมัยปัจจุบัน
กูเป็นครู (ที่ไม่ใช่ครูภาษาไทย) นิยายที่กูชอบอ่าน กับนิยายที่เด็กนักเรียนชอบอ่าน เป็นคนละแนวกันอะ ภาษาที่ใช้ในการเขียนก็คนละแบบ

151 Nameless Fanboi Posted ID:gK1dvT/JsW

>>147 ไม่ๆ มึง กูหมายถึงพัท ที่ไม่ตอบเจ้านาย แง กูขออำภัยจำตอนไม่ได้

>>150 กูว่าติดจากการอ่านแชท เหมือนเราเล่นไลน์อะแหละ มันชิน

152 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

กูอ่านนิยายหลายภาษา ไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ กูว่าภาษาไทยเนี่ยดิ้นได้มากสุดละ ดิ้นยันไวยากรณ์ วันดีคืนดีประโยคละประธานกลายเป็นเรื่องปกติไปเฉยเลย 55555555 กูเคยเจอคนบอกว่าไม่รู้สึกแปลกกับการละประธานเพราะชินมาจากภาษาอังกฤษ กูนี่ยกตีนก่ายหน้าผาก ภาษาอังกฤษไม่ละประธานกันโว้ยยยย ไม่มีหรอกนะไอ้ประโยคแบบขึ้นด้วยกริยามาลอยๆแบบที่บนๆยกตัวอย่างกันอะ ถ้าบอกชินจากภาษาญี่ปุ่นยังว่าไปอย่าง แต่นิยายญี่ปุ่นแปลไทยก็ไม่ได้ละประธานกันนะ ถ้าต้นฉบับละมา แปลไทยจะเติมประธานลงไปให้กันหมดแหละ เพราะประโยคละประธานมันผิดไวยากรณ์ไทยไง แต่นิยายไทยดันฮิตเขียนแบบละประธานกันซะงั้น ก็แปลกดีว่ะ 5555555 กูไม่ได้ว่าอะไรคนเขียนละประธานนะ กูอเมซิ่งเฉยๆ กลายเป็นว่าสมัยนี้นิยายแปลดันใช้ภาษาถูกไวยากรณ์มากกว่านิยายคนไทยเขียนซะอีก แต่วายจีนบางเรื่องกูก็เห็นเริ่มแปลแบบละประธานกันแล้ว คาดว่าคนแปลน่าจะอายุยังน้อย

153 Nameless Fanboi Posted ID:dpDr3D13kb

>>138 หลักภาษามีข้อยกเว้นไม่ใช่เหรอมึง

154 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>151 555555 ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวกูรอซื้อรวมเล่มแล้วมาอ่านเก็บให้ละเอียดอีกรอบดู คือกูไม่ชอบเจ้านายลูกน้องรักกันแล้วแอบคบกันอยู่แล้ว เหมือนเอาอำนาจที่มีอยู่มาบีบเอามาใช้ประโยชน์ทำตัวไม่สมกับตำแหน่งเจ้านาย แล้วหลายๆเรื่องที่เป็นรักในออฟฟิศชอบข้ามพ้อยนี้ไม่ตระหนักหรือไม่ทำลืมไป กูเลยไม่รอด แต่เรื่องนี้กูลองเปิดใจอ่านเพราะเป็น slow burn และนขเเจ้งไว้ตั้งแต่ตอนเเรกเลยว่ารักในออฟฟิศเป็นพื้นที่สีเทา กูเลยลองเพราะอยากรู้ว่าเขาจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้ยังไง มีเล่นเรื่องนี้เยอะไหม ซึ่งพอลองอ่านกูก็ชอบมาก ทั้งเรื่องที่หลังจากคุณเจ๋งรู้ตัวว่าชอบแล้ววางแผนที่จะลาออกหรือที่พอพัทรู้ว่าคุณเจ๋งชอบก็คิดทันที่ว่ามันไม่เหมาะสมเพราะเขาเป็นเจ้านาย และผิดหวังจากคำชมที่เคยได้รับจากคุณเจ๋งเพราะคิดว่าคำชมนั้นอาจจะมาเพราะคุณเจ๋งชอบตัวเองไม่ไช่พัททำงานดีจริงๆก็ได้ และการเริ่มคุยเริ่มจีบกันหลังจากคุณเจ๋งลาออกแล้ว การที่พัทลาออกจากที่ทำงานเจียนกรุ๊ปเพราะไม่อยากให้บ้านคุณเจ๋งมองตัวเองไม่ดี นขใส่จุดนี้มาทำให้กูรู้สึกดีกับนิยายรักในออฟฟิศขึ้นมาหน่อยที่ยังมีคนเล่นพ้อยนี้ และตระหนักถึงอยู่ แต่คนที่ไม่ชอบกูเข้าใจพวกมึงหมดเลยนะ ทุกอยากมันก็มีข้อติได้อยู่แล้ว
>>141 ขอบคุณมึงที่ไปลองอ่านมามาก ร๊ากกกกก

155 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

>>153 ผิดไวยากรณ์ก็คือผิดไวยากรณ์อะมึง ไวยากรณ์มันมีหลักของมัน ผิดก็คือผิด เหมือน นะค่ะ=ผิดหลัก แต่การผิดไวยากรณ์เป็นเรื่องที่รับได้หรือไม่ได้มันแล้วแต่คน บางคนก็รับได้กับการที่นิยายจะใช้ภาษาผิดหลักไปบ้าง แต่บางคนอ่านแล้วขัดใจ ลางเนื้อชอบลางยา

156 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

กูว่าเป็นกลวิธีการเขียนอย่างนึง เคยอ่านนิยายฝรั่ง POV1 แล้วพระเอกแทนทุก I ด้วย me ยังมีเลย ดิ้นทางไวยากรณ์กูอ่านหลายภาษา นักเขียนคนไหนเปรี้ยวๆไม่สนหลักไวยากรณ์เอาสนุกก็มีหมดนั่นแล

ส่วนแปลถูกหลักกว่าแต่ง ก็ถูกแล้ว ถ้าต้นทางไม่ได้กะมีลูกเล่นทางภาษาอะไรก็แปลตามหลักไป ทะลึ่งทำไรแปลกๆโดนจวกดิ นักแปลไม่ได้มีอิสระขนาดนั้น

157 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

ไวยกรณ์ผิด,บิดไป กูรับได้
แต่เขียนผิดไม่เลิก กูไม่โอเค ค้นกูเกิ้ลหน่อยก็ดีว่าคำนั้นเขียนยังไง

158 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>154 5555555 จริงมึง
กูเรียนภาษาญี่ปุ่น ประโยคละประธานสรรพนามบุรุษที่ 1 เวลาแปลเป็นไทย คนไทยเติมประธานให้ทุกรอบเลย
君が好きです รักเธอ ก็แปลเป็น ฉันรักเธอ
พอมาเจอนิยายไทยละประธาน ก็เลยอึ้งไป แต่ไม่เป็นไร ภาษาไทยดิ้นได้ 5555

159 Nameless Fanboi Posted ID:+Q5eTNDczj

>>152 มีสิประโยคที่ละประธานน่ะในภาษาอังกฤษน่ะ ทำไมถึงไม่มีล่ะ กูแย้งเรื่องหลักการเขียนนะ ภาษาอังกฤษสามารถละประธานได้ แต่ต้องมีการปูพื้นที่ refer ประธานไว้ คนอ่านเข้าใจเองได้ พบเห็นประโยคแบบนี้ได้เยอะแยะเลย Imperative sentence, relative pronoun อย่างประโยคง่ายๆ ที่ละประธานก่อนก็ getting fully vaccinated, I had a high fever. อันนี้ละแม้กระทั่ง (after) getting ..., ... ด้วย ขึ้นประโยคลอยๆ มาเลย แล้วค่อยหาประธานทีหลัง มันทำให้การอ่านซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด แต่เวลาอ่านงานเขียนที่มีรูปแบบภาษาหลากหลายมันก็ไม่จำเจอะ ไม่งั้นมาเรียง ประธาน กิริยา กรรม / กรรม passive อย่างเดียวมันก็ทื่อๆ

ปล.ในส่วนของหลักการเขียนจริงๆ เพื่อให้ภาษาสละสลวย มีการเล่นคำแปลกๆ เรียงประโยคแปลกๆ แบบ >>156 ว่า มันเหมือนกิมมิคของงานเขียนเขา อันนี้พบเห็นไม่บ่อยหรอก แต่ขึ้นชื่อว่าภาษามันดิ้นได้หมดอะ

แต่ถ้าจะวัดด้วยเรื่องไวยากรณ์ตรงหลักเป๊ะๆ ชี้นิ้วเล่มไหน ทั้งงานเขียนงานแปลคงเจอผิดร้อยละ 90 เลยมั้ง 5555 แต่ภาษาดิ้นได้จริงๆ นะ บางครั้งนอกจากเข้าใจแล้วความสละสลวยมันมีผล แบบตราตรึงใจ กับแค้นฝังหุ่น 5555555

160 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

>>156 ที่กูจะสื่อคือตอนนี้มันกลายเป็นว่านิยายแปลดันมีความใส่ใจให้ภาษามันออกมาตรงหลักภาษาไทยมากกว่า ทั้งๆที่ภาษาต้นฉบับมันอาจจะไม่ใช่ อย่างเช่นนิยายญี่ปุ่นที่ต้นฉบับแม่งละประธานกันเป็นปกติ แต่พอแปลไทยกลับไม่มีประโยคละประธานเลย ส่วนภาษาอื่นๆดิ้นได้ที่มึงบอก ถ้านิยายเน็ตกูเจอบ้างนะ แต่นิยายเล่มๆนี่ไม่เจอเลยมึง กูว่าโดนสนพ.แก้หมด แต่สนพ.ไทยไม่ค่อยแก้สำนวนนักเขียน พอตีพิมพ์ก็เลยยังมีประโยคพวกนี้หลุดมาอยู่ สุดท้ายพอเขียนแบบนี้กันเยอะๆมันเลยกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนรุ่นใหม่ๆยอมรับได้ไปเอง คนรุ่นเก่าๆก็ทำใจ

161 Nameless Fanboi Posted ID:.EU2Hy0AJ6

>>159 มึงคะ ที่เขาพูดถึงกันคือมันไม่มี I you we they ในประโยคเลยค่ะ มึงเคยเจอเหรอคะ นิยายภาษาอังกฤษที่บรรยายประโยคแบบไม่มี I you we they มันไม่มี

162 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>160 นิยายแปลมันละประธานไม่ได้ เพราะเสี่ยงจะโดนด่าปะวะ
ทุกวันนี้นักแปลนิยายวายจีน ก็โดนคนไทยด่าเยอะอยู่แล้ว
กูว่าคนอ่านนิยายแปล ค่อนข้างเคร่งเรื่องภาษา
แต่นิยายวายไทย บางทีคนอ่านเป็นวัยรุ่นไทย เลยอาจจะไม่ค่อยเคร่งเรื่องหลักไวยากรณ์
อันนี้กูคิดเองนะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

>>159 อ้าวพิมพ์ไปแล้วเพิ่งเห็น ประโยคอย่างที่มึงบอกมันไม่ใช่การละประธานแบบของไทยนะ มันยังมี I ตามมาด้านหลังไง ตอนแรกกูก็จะยกตัวอย่างประโยคแบบนี้เหมือนกันแต่ขี้เกียจ 555555 หรือถ้าประโยคที่มาเป็น v.ing (gerund) หรือ to+v1 (infinitive) มันก็คือประโยคที่กริยานั้นทำหน้าที่ Subject ในประโยคแล้ว มันจะไม่มีมาแบบ Walk to the sea and smile. Then go to the boat. อะไรแบบนี้ (หรือต่อให้มีมันก็จะมีประธานตามมาในประโยคหลัง ไม่เหมือนนิยายไทยที่ทั้งย่อหน้าอาจจะขึ้นต้นด้วยกริยาทุกประโยคโดยไม่มีประธานเลย) มันยังเป็นประโยคที่ "ถูกไวยากรณ์" อยู่ ไม่เหมือนประโยคละประธานในภาษาไทยแบบที่ฮิตเขียนๆกันตอนนี้ ถ้าไปอ่านนิยายไทยสมัยสิบยี่สิบปีก่อนมึงจะไม่เจอประโยคละประธานแบบนี้เลย

164 Nameless Fanboi Posted ID:MQY3lBWi0m

>>159 กูว่ามึงเข้าใจคำว่าประธานของประโยคผิด ประธานมันไม่จำเป็นต้องเป็น noun/pronoun เสมอไป ส่วนประโยคที่มึงยกมาก็มีประธานในตัวนะ มึงลองยกตัวอย่างประโยคละประธานที่เป็นธรรมชาติมาใหม่ได้ไหม

165 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

กูไม่รู้จะอธิบายเรื่องประธานในภาษาอังกฤษยังไงให้ >>159 เก็ทสิ่งที่กูจะสื่อ เอาเป็นว่ามึงลองอ่านอันนี้ดูนะ https://www.septembercfawkes.com/2019/05/how-to-use-ellipsis-properly-in-fiction.html ลืมไป ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน กูหมายถึงการละประธานใน "บทบรรยาย" ที่อธิบายการกระทำของตัวละครเด้อ เพราะงั้น imperative ไม่นับ

166 Nameless Fanboi Posted ID:Hc.nan9Dbq

>>160 กูท้วงว่าการที่เขียนไม่ถูกหลักภาษาไม่ใช่เพราะเรื่องความใส่ใจหรือไม่ใส่ใจ แต่เป็นความอิสระในการผลิตน่ะ เพราะนักเขียนอิสระที่จะเขียนนิยายตัวเองให้มีลูกเล่นแปลกๆยังไงก็ได้ แต่นักแปลคือคนที่ต้องถ่ายทอดภาษาต้นทางไปเป็นอีกภาษา ไม่มีสิทธิ์ทำ

แบบนิยายอังกฤษเล่นคำแปลกแบบ me love you. แทน I love you. คนเขียนเขียนได้ตั้งใจเป็นลูกเล่นนิยายตัวเอง(ตอนตีพิมพ์ก็เป็นงี้แหละ บก.ไม่ได้แก้)
แต่คนแปลนิยายไทยเป็นอังกฤษ แปลฉากสารภาพรัก ฉันรักเธอ เป็น Me love you. ไม่ได้ เพราะคนเขียนต้นทางไม่ได้หวังให้แปลผิดหลัก

กูว่าหลักภาษาไม่ใช่อะไรที่มาวัดตัวนิยายว่าต้องเป็นงั้นงี้แต่ต้นอ่ะนะ จะเขียนผิดหลักภาษายังไงก็ไม่ได้ทำให้ตัวนิยายผิด จะเขียนอัศเจรีย์ต่อท้ายสักสามตัวแสดงความตกใจแบบโอเวอร์ก็ได้ จุดไข่ปลาสามจุดไม่แสดงความเงียบมากพอใส่ไปเลยหกตัวก็ได้ การเขียนผิดหลักภาษาไม่ได้หมายความว่ามึงไม่ใส่ใจกับนิยายหรือทำให้นิยายมึงแย่ตราบที่มีคนชอบ

167 Nameless Fanboi Posted ID:Hc.nan9Dbq

>>166 ปล. นิยายที่กูเจอก็เล่นกันในบทบรรยายนี่แหละ แต่เป็นPOV1

168 Nameless Fanboi Posted ID:ONPlo6Los/

>>166 ถ้านิยายผิดหลักภาษาเพราะจงใจใช้เป็นลูกเล่นกูรับได้นะ แบบเจเคเขียนภาษาเอลฟ์หรือภาษาของแฮกริดผิดหลักเพื่อเสริมมิติให้ตัวละคร กูว่าแบบนี้ลึกซึ้งดี แต่การละประธานที่พูดถึงกันกูว่ามันกำลังกลายเป็นรูปแบบภาษาแบบใหม่ไปแล้ว บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบบนี้มันผิดหลักภาษา ซึ่งกูก็ไม่ได้คิดว่ามันทำให้นิยายดูไม่ดีหรือผิดนะ กูแค่ไม่ชอบ เจอเรื่องไหนมีประโยคละประธานแบบแปลกๆปุ๊บกูปิดทันที ไม่อ่านต่อเลย สรุปกูอ่านวายไทยไม่รอดสักเรื่อง

169 Nameless Fanboi Posted ID:0gyXOs7kak

อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ แต่มีประโยคอีกแบบที่กูเจอในนิยายไทยแล้วรู้สึกแปลกๆคือพวกประโยคนมเนย แบบที่เห็นปุ๊บในหัวแปลเป็นภาษาอังกฤษได้เลย อย่างวันก่อนกูเจอ "เป็นผมเองที่โทรไป" หรือไม่ก็อย่างเช่น "มันเป็นฤดูร้อนที่สวยงาม" อ่านแล้วรู้สึกแปลกมาก ภาษาเหมือนเวลากูดูสารคดีฝรั่งแปลไทยตามช่องเคเบิ้ล 5555555 แต่กูไม่ได้จะว่าคนเขียนนะ เขาอาจจะชอบแบบนี้ กูแค่อ่านเจอแล้วสะดุดเป็นการส่วนตัว

170 Nameless Fanboi Posted ID:+Q5eTNDczj

กูเอง 159 กูจับแค่คำว่าที่ว่าภาษาอังกฤษไม่มีหรอกนะที่ยกกิริยามาลอยๆ คือมันมีอยู่นะ ละที่กูบอกกูอาจจะพิมพ์เร็วไปหน่อย บางประโยค มันละประธานได้ กูไม่ได้หมายถึงของไทยไง ซอรี่นะตรงนี้ อาจจะพูดคนละประเด็นกับพวกมึง ละกูไม่ได้อ่านเรื่องที่โม่งถกเป็นประเด็นกันด้วย ไอ้เรื่องที่ว่าไม่มีทั้ง I we she they บลาๆ กูไม่รู้ว่ามัน 'หาย' ถ้าไม่มีเลยมันไม่น่าเรียกว่าละแล้ว

ประโยคที่กูยกมา งั้นเรียก sub clause ละกันเนอะจะได้เข้าใจตรงกัน ประโยคเต็มๆ ที่กูยก after I've got fully vaccinated I had a high fever ต้องบอกมันลดรูป ละประธาน เพราะมีประธานอยู่ใน main clause อยู่แล้ว >> getting fully vaccinated, I had a high fever งี้อะ จะอธิบายยังไงดีหว่า 555 คือกูรู้แค่ว่ามันต้องมีประธานอยู่ใน main clause ไม่ก็เป็นพวก gerund / to + v1 (การ/ความ) ไม่ก็มีการ refer to ... ไว้อะ คือกูไม่รู้จริงๆ ว่านิยายที่เขียนและถกกันอยู่ไม่มีประธานในการบรรยายเลย กูพูดคนละเรื่องเองแหละ กราบขออภัย

171 Nameless Fanboi Posted ID:De+WD4iDPq

>>170 อยากให้มึงลองไปสุ่มๆอ่านวายไทยดู แล้วมึงจะเข้าใจที่บ่นๆกัน มันไม่เหมือนภาษาอังกฤษที่มึงบอกง่ะ มึงต้องลองไปอ่านแล้วจะเก็ทความต่างทันที

172 Nameless Fanboi Posted ID:De+WD4iDPq

เออกูวิเคราะห์นิด ที่นิยายไทยมันมาแนวนี้กันเพราะเมื่อก่อนชอบใช้ร่างบางร่างหนาร่างโปร่ง แล้วมันดันมีคนเอาไปขำคิกคักปะ 555555 เคยเห็นนักเขียนบ่นๆกันว่าไม่ชอบใช้ชื่อตัวละครเป็นประธานในประโยคบ่อยๆด้วย กูว่าคนไทยชอบหลากคำอะ แต่พอหลากคำไปใบ้ร่างบางร่างหนาก็โดนล้อเลียนอีก สุดท้ายเลยตัดปัญหา ไม่ใส่ประธานแม่ม บวกกับติดมาจากภาษาตามโซเชียลที่ชอบบอกกริยาของตัวเองโดยไม่ใส่ประธานด้วย มันเลยกลายเป็นเทรนด์ใหม่ไปในที่สุด

173 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

>>169 ไม่เห็นรู้สึกขัดเลย ชีวิตจริงกูก็ใช้ กูเรียงประโยคกลับไปกลับมาแล้วแต่สถานการณ์

174 Nameless Fanboi Posted ID:QgOWWYQZIE

ขัดไม่ขัดก็เรื่องนึง แต่หลักภาษาไทยมันมีกำหนดอยู่ชัดเจนว่าสำนวนแบบไหนคือสำนวนต่างประเทศ ไม่รุ้สมัยนี้ยังมีสอนกันอยู่มั้ย แต่สมัยนี้กุรุ้สึกเหมือนเจอคนไม่เก็ทคำว่าสำนวนต่างประเทศบ่อยขึ้น

175 Nameless Fanboi Posted ID:p5KrM+jVM2

>>173 มึงไม่ขัดแต่มันไม่ใช่ประโยคภาษาไทยนะ เป็นผมเองที่โทรไปนี่ภาษาต่างประเทศชัดเจนมากกกก ในแง่หลักการแล้วมันผิดหลักภาษาไทย โครงสร้างภาษาไทยไม่ใช่แบบนี้ แต่ในแง่การใช้งาน ใครจะสะดุดไม่สะดุดมันแล้วแต่คนน่ะ

176 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

>>174 ใช่ กูเก็ทว่ามันไม่ถูกหลักภาษาไทย แต่เดี๋ยวนี้คนไทยเริ่มรับวัฒนธรรมเมืองนอกมาเลยเลียนแบบมาต่อๆกันนั่นแหละ แล้วก็เริ่มใช้ปนจนไม่รู้สึกอะไร นิยายวายมันจะใช้ภาษาแบบไม่ทางการหรือผิดไวยกรณ์ก็ไม่แปลกในเมื่อชีวิตจริงเขาก็ใช้กัน มันเป็นแค่นิยายวายด้วย

177 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>176 มึงว่าไม่แปลก แต่กูว่าแปลก เพราะชีวิตจริงกูพิมพ์ประโยคที่มีประธาน

178 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของความคุ้นชินแหละ
คนที่ชินแล้ว ก็บอกว่าการละประธานเป็นเรื่องไม่แปลก
คนที่ไม่ชิน ก็บอกว่าการละประธานเป็นเรื่องแปลก
ส่วนกูไม่ชิน เพราะกูชอบแบบสมัยเก่ามากกว่า

179 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

>>177 ก็ส่วนของมึงไง มึงอาจไม่ทำแต่คนอื่นทำ พูดสลับตามสถานการณ์ มันก็ไม่ได้เรียง1 2 3 4ตลอดทุกตำพูด เข้าใจมะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:cc.BHNgQmd

กูคือคนที่อ่านละประธานได้นะ ไม่ติดขัดอะไร
แต่มาเจอร่างสูงในทุกย่อหน้าคือขำและรู้สึกว่ามันล้าสมัย นานทีใช้ไม่เท่าไร นี่มีทุกย่อหน้า
ใดๆ คือกูพูดถึงนิยายของพัฟพี่ที่พวกในห้องเขียนนิยายบอกว่าขายดีนะ สิ่งที่กูต้องการจะสื่อคือเขียนดีถูกไวยกรณ์ไม่เท่าเขียนให้ขายได้และมีคนชอบว่ะ

181 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>179 พูดสลับเหตุการณ์เนี่ย กูพูด
แต่ละประธาน กูไม่พิมพ์

182 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>180 เพราะงั้นกูถึงได้ชอบนิยายแปลมากกว่า เพราะสนุกและถูกหลักไวยากรณ์

183 Nameless Fanboi Posted ID:jalYBIz+bq

>>175 กูเป็นคนที่ใช้ประโยคแบบที่มึงบอก พี่กูก็ทักว่ามันออกสำนวนต่างประเทศซึ่งกูก็ไม่รู้ตัว มันน่าจะเกี่ยวจากตอนเด็กกูอ่านหนังสือแปลเยอะเลยติดมา

184 Nameless Fanboi Posted ID:Jfs.29dKi0

กูมองว่าภาษาพูดในชีวิตจริงกับภาษานิยายเป็นคนละอย่างกันแฮะ อย่างในชีวิตจริงกูติดคำว่า แบบ มากๆ ขึ้นต้นปยด้วยคำว่าแบบ กลางประโยคก็แบบ แบบๆๆๆทั้งเวลาพูดและเวลาแชท แต่ถ้าเจอนิยายใช้คำว่าแบบเยอะๆ กูคงรำคาญ คำที่ติดรองลงมาคือคำว่า คือ บางทีก็ใช้พร้อมกันว่าคือแบบ 5555555 และกูจะไม่สามารถยอมรับการใช้คำพวกนี้ในนิยายพร่ำเพรื่อได้เพียงเพราะว่าตัวกูเองก็ใช้ในชีวิตจริงอะ 5555555 แต่ของแบบนี้มันแล้วแต่คนจริงๆแหละ

185 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

>>172 ถ้ากูตีความตามมึงว่าก็คือนอ.ไทยต้องการงานที่รู้จักใช้คำหลากหลายมากขึ้น แต่นข.ไทยไม่ได้พัฒนาตัวเองให้ใช้คำหลากหลาย เจือกเลือกวิธีตัดคำนามสรรพนามไปเลย5555
ใครที่บอกว่ามันเป็นการเล่นคำ เป็นสไตล์ของแต่ละคน จากที่กูเคยอ่านพวกวายไทยที่มันตีพิมพ์กับสนพ.มา กูจะบอกว่ามันเขียนงี้กันไปครึ่งวงการ หยั่งงี้เขาไม่เรียกสไตล์ 555555
ใจกูก็อยากมองข้ามไอ้เรื่องพวกนี้ไปนะ แต่แม่งไม่ได้ว่ะ ประโยคประธานหายมีแทบทุกหน้า กูซื้องานมาแต่ทนอ่านไม่ได้นี่แม่งก็...

186 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>185 กูว่าต้องตัดปัญหาโดยการไปอ่านงานแปลแทนวายไทย
เพราะงานแปล ไม่เจอประโยคตัดประธาน ขืนตัด จะโดนคนอ่านด่าทันที ว่าแปลไม่ดี

187 Nameless Fanboi Posted ID:QgOWWYQZIE

ถ้าลองไปอ่านนิยายไทยเก่าๆ (ไม่วาย) อย่างพวกนิยาย ณ บ้านวรรณกรรม เค้าก็มีวิธีเขียนหลากประธานโดยไม่ดูแปลกอยู่นะ หญิงสาว ชายหนุ่ม อะไรก็ว่าไป มันไม่จำเป็นต้องร่างหนาร่างบางตลอด จริงๆใช้ชื่อตัวละครไปเลยก็ไม่แปลก นิยายแปลเติมประธานลงไปเป็นชื่อตัวละครก็ไม่เห็นคนอ่านรู้สึกขัดหรือรำคาญอะไรนี่ ไม่รู้ทำไมนักเขียนไทยถึงไม่ชอบใช้ชื่อตัวละครเป็นประธานของประโยค ใครเป็นนักเขียนอธิบายที กูอยากเข้าใจ 5555555

188 Nameless Fanboi Posted ID:QgOWWYQZIE

>>186 งานแปลละประธานก็มีมึง กูเคยเจอวายจีนแปลแบบละประธานรัวๆเหมือนกัน

189 Nameless Fanboi Posted ID:AGUp+zihUU

>>188 ตีพิมพ์เป็นเล่มหรือแปลเถื่อนวะ ใส่ใจอยากรู้ชื่อ5555

190 Nameless Fanboi Posted ID:2aMeMuX4gy

ลิ่วเหยาขวัญใจโม่งอ่ะ ละประธานอย่างเยอะ 555555555

191 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

เออ พูดถึงเรื่องละประธาน มันจะมีไอ้พวกแบบ “เขาสาวเท้าตรงไป ตัดสินใจเอ่ยทักคนข้างหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ” (กูยกตัวอย่างปย.) แบบนี้เรียกละประธานมั้ยวะ มันเว้นวรรคตรงกลางคือถือว่าขึ้นประโยคใหม่ป้ะ? กูเริ่มสับสน 555555

192 Nameless Fanboi Posted ID:17Ml7E/WX5

>>191 แบบนี้กูไม่นับนะเพราะถือว่ามีเขาเป็นประธานในประโยคแรกแล้ว แต่ถ้าทั้งย่อหน้ามีประโยคขึ้นต้นด้วยกริยาเยอะๆแบบไม่มีคำเชื่อมหรือเชื่อมไม่สละสลวยก็อาจจะรู้สึกสะดุดนิดนึง ลักษณะมันจะไปเหมือนการเขียนข่าวมากกว่า

193 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>191 ละประธานของกูคือ
ถอนหายใจเสียงดัง พลางยกชายเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนมาคาบไว้ ก่อนจะใช้มือบีบพุงตัวเองที่เริ่มยื่นออกมานิดๆ แล้วก็ได้แต่เบ้ปากใส่มัน

ประมาณนี้อะ

194 Nameless Fanboi Posted ID:eEcq1Yu4Ag

>>191 ประโยคแบบที่พูดถึงกันอยู่คือ "สาวเท้าตรงไป ตัดสินใจเอ่ยทักคนข้างหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ" โดยไม่มีคำว่า เขา น่ะ

195 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>194 ประโยคนี้สำหรับกูก็ละประธานเหมือนกัน
ตัวอย่างอีกประโยค

กลับมานั่งหน้าคอม ได้รับอีเมลจากนายคนนั้นว่าด้วยเรื่องหัวข้อสำหรับทำการบ้าน

196 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>193 >>195 อันนี้คือตัวอย่างประโยคที่กูพูดถึงว่า ละประธาน
สำหรับกู กูไม่ชิน กูชินกับนิยายสมัยก่อน ที่มีประธานขึ้นต้นประโยคทั้งหมด
ตัวอย่างที่ให้มา คือเป็นประโยคแรกของย่อหน้านะ คือขึ้นย่อหน้าใหม่ด้วยคำกริยา

197 Nameless Fanboi Posted ID:Jfs.29dKi0

จากผู้ช่วยสถาปนิกสู่เจ๋งพัทและดิสคัสชั่นเรื่องการละประธาน กูรักโม่งว่ะ หนุกจัง 5555555555

198 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

วันหยุดมันเหงา เลยต้องหาเพื่อนคุย

199 Nameless Fanboi Posted ID:Hp8q2pwWKF

มันละประธานได้ ถ้าประโยคข้างเคียงมีประธานอยู่แล้ว (สมมติ ห่างไปไม่เกิน 4-5 ประโยคอะ)
พวกประโยคความรวม หรือความซ้อนไรงี้ไง
แต่กูเข้าใจว่าขนบนิยายวายไทยที่ตอนนี้มีปัญหาคือ ประธานมันอยู่ห่างไกลมาก หรือบางทีทั้งย่อหน้านั้นไม่มีเลย
อันนี้เป็นกูก็ขมวดคิ้วนะ

200 Nameless Fanboi Posted ID:oR+NT0MSJt

กูลองไปสุ่มอ่านเรื่องท็อปรอรตอนนี้ไม่ค่อยเจอประโยคละประธาน แต่ลองเปิดเจ๋งพัทดูแล้วก็เออ เยอะจริง เยอะมาก มีทุกตอน ตอนละหลายประโยค กูอ่านแล้วมัวแต่สนใจรูปประโยคจนเนื้อหาไม่เข้าสมอง 55555555555 แต่กูเข้าใจโม่งที่บอกว่าอ่านได้ไม่ขัดเพราะมองว่าเป็นมุมมองของพัทนะ กูอ่านแล้วก็เก็ทว่าใครเป็นคนทำกริยา แต่กูเจอประโยคแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนมันเป็นวิธีการเล่าแบบไดอารี่อะ กูนึกถึงเรื่องบริดเจทโจนส์ไดอารี่ เรื่องนั้นเขียนละประธานเยอะมากเพราะรูปแบบการเล่าคือไดอารี่ กูอ่านแล้วไม่ขัดเลย แต่อย่างเจ๋งพัทนี่มันคือการใช้ pov แบบ limited omniscient third person ผสมกับ first person บางทีการละประธานมันเลยทำให้ประโยคดูแหว่งๆไปหน่อย

201 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>200 กูก็เอาประโยคมาจากเจ๋งพัทแหละ
ตอนแรกไม่เคยอ่าน พอโม่งบ่นเลยเข้าไปดู
แล้วก็เลยเข้าใจว่าทำไมบางคนไม่ชิน เพราะกูก็ไม่ชิน 55555 เหมือนกูทำข้อสอบ error ภาษาอังกฤษ แล้ว อ. จะสอนให้หาประธาน กับกริยาก่อน
กูเปิดเจ๋งพัท กูก็หาประธาน แล้วก็เอ๊ะ ประธานหายไปไหนวะ 5555 คืออ่านแล้วเข้าใจนะ แต่มันแปลกจริงๆ บางย่อหน้ามีประธาน บางย่อหน้าไม่มี แล้วก็งงว่าทำไมไม่ใส่ประธานให้ครบทั้งย่อหน้า
แต่ก็นะ อาจจะเป็นสไตล์ของนักเขียน
ถ้ามีคนบอกว่านักเขียนหลายคนก็แต่งแบบนี้ งั้นคงเป็นที่กูเองที่เป็นนักอ่านสมัยเก่า ตามนักเขียนสมัยใหม่ไม่ทัน 555

202 Nameless Fanboi Posted ID:p5KrM+jVM2

ตัดปัญหาด้วยการอ่านนิยายภาษาต่างประเทศ แบบไม่แปลไทย จบ 555555

203 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

>>201 กูนักอ่านสมัยใหม่เจอแบบนั้นตลอด สงสัยชินแล้วมั้ง

204 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>203 กูว่าปัญหาคือช่วงวัยแน่ๆ กูแก่แล้วสินะ 5555

205 Nameless Fanboi Posted ID:6CkSx4kXMO

กูงงพวกคนที่ชี้กูแล้วบอกว่า มึงไม่กินข้าวเหรอ
ทั้งๆที่กูก็ว่ากูพิมพ์ว่า กูกินข้าว นะ

206 Nameless Fanboi Posted ID:SROPLdLvXF

>>201 บางย่อหน้า ประธานก็เต็มไปหมด 555555

207 Nameless Fanboi Posted ID:xPN2DEH/VW

โม่งเจ๋งพัทมึงประสบความสำเร็จแล้ว กูว่ามีโม่งตามไปดูประโยคกันเพียบ 5555555555

208 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>207 มึงงงง กูเองที่มาขายตอนเเรก ไม่ค่อยสันทัดเรื่องโคตรสร้างภาษาเลยหลบมุมอ่านพวกมึงถถกัน 55555555555555555555 ก้มกราบขอบพระคุณรอบวงที่ให้โอกาสได้ทดลองอ่านน้อง แค่นี้กูพอใจแล้ว ได้อ่านความคิดเห็นมุมมุมติเตียนบ้างเพราะอยู่ในนกฟ้ามีแต่คนอวยจนบ้างทีกูก็เอียน เผลออวยเกินจริงตามไปแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน ถือว่าประสบความสำเร็จในการขาย ม้วนเสื่อเก็บแผงกลับบ้าน

209 Nameless Fanboi Posted ID:yjjCcvwduW

>>208 ดีใจกะมึงด้วย มึงคือแฟนคลับดีเด่น ทำให้คนรู้จักและตามไปอ่านเยอะเลย 5555 เอาจริงอ่านโม่งวันนี้แล้วกูรู้สึกว่าถ้ากูเขียนนิยายกูคงอยากตีเนียนมาขายในโม่งให้โม่งช่วยวิจารณ์ กูจะได้ปรับปรุงถูกจุด 5555555555

210 Nameless Fanboi Posted ID:a7SOgOUHjZ

กูแถมเกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาอีกเรื่อง ตอนแรกนึกว่าสนพนี้เลือกเรื่องเก่งขึ้น สำนวนแปลก็ดีขึ้น พออ่านๆไปแม่งแปลลูกผีลูกคนชิบหาย พิมพ์ผิดจนอ่านแล้วงงเต็มไปหมด

211 Nameless Fanboi Posted ID:baP9xXfYma

Ky กูถามหน่อย เห็นคุยกันเรื่องสำนวนภาษาในนิยาย กูเจอคำว่า พยักพเยิดหน้า ในนิยายหลายเรื่องมากๆ ตามความเข้าใจกูคือ พยักพเยิดใช้กับหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องใส่คำว่าหน้าลงไปด้วย พอเจอใส่คำว่าหน้าลงไปเลยรู้สึกแปลกๆ หรือจริงๆมันต้องใส่อวัยวะด้วย อย่างพยักพเยิดมือ พยักพเยิดไหล่ แบบนี้เหรอวะ

212 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

>>211 ปกติมึงใช้ไหล่มึงในการบอกทิศทางมั้ยล่ะ ถ้าไม่ก็ใช้ไม่ได้ เพราะความหมายของคำว่าพยักพเยิดคือ แสดงกิริยาหน้าตาพลอยรับรู้เห็นกับเขาด้วย, ไม่แสดงอาการให้ชัดเจนเป็นแต่พยักหน้า หรือทำบุ้ยใบ้ไม้มือเพื่อให้รู้ อันนี้กูเอามาจากรบฑ.โดยตรง

213 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

โทษ พิมพ์ตก บอกทิศทางหรือบอกว่าเห็นด้วย
ปกติกูเห็นไหล่เขาใช้แค่ยักไหล่แบบโนสนโนแคร์กันนะ ภาษากายพื้นฐานน่ะ

214 Nameless Fanboi Posted ID:wrV13hbHJI

>>211 พยักพเยิดหน้านี่น่าจะใช้ผิดนะ ปกติเวลาเช็กว่าคำไหนใช้ผิดมั้ยกูจะเช็กจาก 1.รบฑ 2.คลังข้อมูลภาษา (corpus) กูลองเสิร์ชพยักพเยิดหน้าในคอร์ปัสแล้วไม่เจอคนใช้เลย น่าจะเพิ่งมาใช้กันไม่นาน

215 Nameless Fanboi Posted ID:baP9xXfYma

>>214 กูเจอในนิยายวายของ อวว ที่ใช้ นขใหม่ๆใช้กันเลยสงสัยว่าผิดหรือถูก

216 Nameless Fanboi Posted ID:dbObd+92y0

>>215 หืมมม ปกติกูว่ากองบก.ค่ายนี้ทำงานดีนะ ไม่ค่อยมีหลุดใช้คำผิด แต่หลังๆไม่รู้เป็นไงแฮะ

217 Nameless Fanboi Posted ID:zh+GhnaJz7

>>216 นิยายแปลทำดีนะ อาจเพราะนักแปลเก่งด้วย มาทางนิยายไทยเรื่องสำนวนกับการใช้คำไม่ไหวเลย แล้วก็เลือกมาแต่งานมักเกิ้ลๆด้วย น่าเบื่อมากจนกูไม่รู้จะตามเก็บเรื่องไร ชอบนิยายไทยที่นี่อยู่อย่างเดียวตรงคำผิดแทบไม่มี

218 Nameless Fanboi Posted ID:gW.Z61PY8z

>>217 นักแปลบางคนออกกับแจ่มสำนวนอ่านลื่นรู้เรื่อง พอไปออกกับสำนักอื่นเท่านั้นแหละ..

219 Nameless Fanboi Posted ID:pA9QIW+fhq

>>218 อันนั้นให้เป็นข้อยกเว้น มีสไตล์เป็นของตัวเอง 555555555555

220 Nameless Fanboi Posted ID:B3PNEpiZjp

นิยายไทยมันมีฐานมาจากในเน็ต บก.ไปเกลาสำนวนมาก ฐานเดิมเขาจะด่าเอา ว่าเปลี่ยนสำนวนสุดปังอลังการของนักเขียนที่เขาร้ากกก แต่พอเป็นนิยายจีนมันเกลาภาษาได้เต็มที่ ภาษานิยายแปลเลยมีแนวโน้มสวยกว่านิยายไทย ยังจำเคสเลียแผลได้อยู่เลย มันใช้ผิดตรงไหนวะ

221 Nameless Fanboi Posted ID:K/+et1+zXb

>>220 กูอ่านชญก็เห็นบกเเก้สำนวนนักเขียนไทยนะ เรื่องที่ดังในเน็ตแล้วตีพิมพ์นี่แหละ กูอ่านวนก่อนตีพิมพ์หลายรอบแล้วมีท่อนหนึ่งที่กูติดอยู่ว่ามันแปลก พอได้เล่มมากูเลยเช็คท่อนนี้ก่อนเลย สรุปในเล่มแก้ให้มันสมูทขึ้น แต่หลังๆเวลากูอ่านนิยายในเว็บติดนิสัยอ่านผ่านๆเพราะอยากรอซื้อเล่ม เลยไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นไง

222 Nameless Fanboi Posted ID:B3PNEpiZjp

>>221 เหมือนชชจะไม่แก้เลยอะ บ้งก็บ้ง

223 Nameless Fanboi Posted ID:AX+VMbZPWB

>>221 มีหลายสาเหตุ หลาย สนพ บก ไม่แก้เลย เพราะ นข อีโก้ โวยวายไม่ยอมให้แก้ไม่ให้ปรับ เหม็นหน้ากันไป และ บาง สนพ เน้นเร็ว ไม่ปรับ ตรวจพอไม่ให้มีคำผิด

224 Nameless Fanboi Posted ID:hGQKsvH48a

ทำไมนิยายท้อปชาร์ตในเน็ตมันภาษาแปลกเยอะจังวะ เหมือนแต่งเอามันส์
พวกนิยายดีๆ ไม่เคยเห็นติดท้อปบ้าง

225 Nameless Fanboi Posted ID:iETaD9eIJ7

>>224 คนอ่านส่วนใหญ่เป็นเด็ก เด็กมันไม่รู้อะไรเรื่องภาษามากหรอก บรรยายยืดเยื้อชิบหายมีแต่น้ำเน้นหาคำสละสลวยมายัดๆเข้าว่ามันยังว่าภาษาสวย เจอมาเองกับตา

226 Nameless Fanboi Posted ID:iETaD9eIJ7

>>225 พิมพ์ตก จะบอกว่าสำนวนไม่ลื่นด้วย อ่านแล้วสะดุดเป็นวรรคๆฟีลเหมือนขับผ่านถนนลูกรัง

227 Nameless Fanboi Posted ID:2WVsr6UBTb

>>221 นิยายวายไม่ค่อยแก้&เกลากันเพราะ 1 นักเขียน (not all) อีโก้จัด 2 แก้แล้วแฟนคลับที่ชอบเวอร์ชั่นเว็บจะบ่น 3 ไม่ต้องแก้ก็ขายได้ จะแก้ทำไม

228 Nameless Fanboi Posted ID:bKmY29ylr2

>>225 กูไม่เชื่อคำว่าภาษาสวยของคนสมัยนี้ละ ไปอ่านเรื่องที่อวยๆกันว่าภาษาสวยแล้วแม่ง รุงรังทุกเรื่อง บางเรื่องสักแต่จะยัดคำหรูๆ แต่เรียบเรียงห่วยแตก เอาอะไรมาสวยวะ

229 Nameless Fanboi Posted ID:MN2fDrmAp9

>>228 อยากรู้ว่าเรื่องที่มึงว่าภาษาสวยเป็นยังไงเลยว่ะ

230 Nameless Fanboi Posted ID:Oj7Xkas3+v

กูว่านิยามความสวยของแต่ละคนแม่งไม่เหมือนกัน
บางเรื่อง บางคนบอกภาษาสวย บางคนบอกไม่เห็นสวย ลางเนื้อชอบลางยา

231 Nameless Fanboi Posted ID:fNiP.EoGgO

แต่บางเรื่องแม่งภาษาแย่จนอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ใจความ คนก็ยังอวยว่าภาษาสวยนะ 55555555

232 Nameless Fanboi Posted ID:3J+VeKRp3x

>>231 ขึ้นกับประสบการณ์การอ่าน อ่านแบบไหนมาชินเจอที่แตกต่างแล้วรู้สึกว่าดีกว่าที่เคยอ่าน
ยังจำได้สมัยเด็กไม่เคยเล่นเกม ไม่เคยอ่านแฮรี่พอตเตอร์ก่อนที่จะได้แปลไทย ก็คิดว่าไวท์โรด หรือบารามอส พล็อตแฟนตาซีเยี่ยมยอด นักเขียนเก่งมาก ยังเด็กด้วย คิดได้ยังไงเนี่ย สุดยอดจริงๆ

233 Nameless Fanboi Posted ID:px/XfQWd9c

กูว่าภาษามันมีเกณฑ์ของมันอยู่นะว่าภาษาที่ดีเป็นยังไง อย่างน้อยคือต้องอ่านรู้เรื่อง เห็นภาพอะ ถ้าคำหรูแต่อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ใจความ ก็อาจจะเรียกคำสวยได้ แต่เรียกภาษาสวยไม่ได้หรอกนะ

234 Nameless Fanboi Posted ID:dbui+uxj9Y

>>230 มึงอย่าเอา “นิยามความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน” มาใช้กับการอ่านดิเพื่อน 555555 การเขียนมันคือทักษะที่ต้องพัฒนามาตามกาลเวลา ไม่เหมือนหน้าตาที่เป็นสิ่งตามธรรมชาติ สิ่งที่เป็นทักษะมันเลยจะมีมาตรฐานของมันอยู่ การเขียนให้สวยอย่างน้อยๆเลยคือต้องอ่านลื่น ใช้คำเป็น ถ้าเปิดมายังเขียนให้ลื่นไหลไม่ได้จะกล้าบอกว่าภาษาสวยเหรอ

235 Nameless Fanboi Posted ID:IiZqJ0R.YF

>>234 +1 ถ้าเป็นพล็อต แนวเรื่อง เซ็ตติ้ง ยังพูดได้ว่าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน แต่ภาษามันพูดแบบนี้ยากว่ะ ยกตัวอย่างเช่นบางคนอาจจะชอบภาษาฟุ่มเฟือย ใช้คำซ้ำซ้อนเยอะๆก็จริง แต่ในทางภาษาแล้วถือกันว่าเป็นภาษาที่ไม่ดี ข้อสอบ error ยังให้กาคำซ้ำทิ้งเลยมึง

236 Nameless Fanboi Posted ID:GIvvf0JWeN

ภาษาสวยของกูคือมีความบทกวีนิดๆ ได้จังหวะจะโคน แต่ก็อ่านแล้วเห็นภาพ ไม่เวิ่นเว้อเกินไป ซึ่งกูไม่ค่อยเจอในนิยายวายอะ เจอในแนวอื่นมากกว่า

237 Nameless Fanboi Posted ID:f3NgZvYENg

อ่ะขอยกเรื่องโปรดกูตอนนี้ ==> นานาวลี ผ่านตาโม่งมาบ้างยังวะ คนนี้กูว่าภาษาสวยนะแต่ไม่กล้าหยิบมาขายกลัวโดนสับแบบเจ๋งพัท

238 Nameless Fanboi Posted ID:mFWZC1Kut+

>>237 ไม่กล้าหยิบมาขายแต่มึงก็บอกชื่อมาแล้วนะ 55555555555 กูว่าที่คุยเรื่องเจ๋งพัทวันก่อนก็ไม่ได้ถึงขั้น "สับ" นะ แค่หยิบภาษามาถกกันว่าสไตล์การเขียนแบบนี้ใหม่เกิน คนแก่ไม่ชิน 555555555

239 Nameless Fanboi Posted ID:q3Izw4+c1G

>>238 มันก็มีนะมึงที่โม่งสับว่าอ่านแล้วเหนื่อย บรรยากาศจริงจังแบบแปลกๆ บลาๆ

240 Nameless Fanboi Posted ID:f3NgZvYENg

>>238 กูอยากให้คนไปอ่านนักเขียนจะได้มีกำลังใจมั่ง ยอดอ่านยอดทวิตแผ่วกูแป้วไปด้วยเลย แต่ก็กลัวอย่างที่ว่าไปนั่นแหละ 5555555 โอย

241 Nameless Fanboi Posted ID:mFWZC1Kut+

นิยามคำว่าสับของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันอีกแล้วปะงานนี้ 5555555 สำหรับกูถ้าแค่วิจารณ์ข้อเสียแบบ >>239 กูไม่เรียกสับอะ

242 Nameless Fanboi Posted ID:f3NgZvYENg

ลืมบอกเจ๋งพัทกูไปลองอ่าน สำนวนเขียนมองรวมๆดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานมาตรฐานสำหรับกูนะ ภาษาไม่สก็อย ไม่วกวนไม่ใช้ศัพท์ซ้ำๆ แต่กูไม่ได้อ่านจนจบเพราะกูแหยงแนวเจ้านายลูกน้อง มองยังไงก็โรแมนติกไม่ไหว รอตามเรื่องอื่นของนักเขียนคนนี้แทน

243 Nameless Fanboi Posted ID:Gmz69ZcAhG

>>242 เขากำลังจะเปิดเรื่องใหม่ กูเฟบรอแล้ว แต่น่าจะรอเป็นปีเลยมั้งกว่าจะจบ เจ๋งพัทก็แต่งมาปีกว่าเลย

กูอยากให้ลองเอามาแนะนำดูนะ ถึงจะโดนวิจารณ์โดนคอมเม้นต์แต่กูว่ามันทำให้เกิดการคิดกับบางจุดที่เราพลาดไปตอนไปเวลาขายหรือแนะนำคนอื่นได้ไม่อวยเกินจนงานมันถูกคาดหวังสูงแล้วทำให้คนที่เราไปแนะนำต้องผิดหวังตอนอ่านอ่ะ อันนี้ในมุมกูที่เป็นนักขายนะ แต่ถ้าคนที่เป็นนักเขียนกูอยากให้เขาได้ลองอ่านแบบจุดที่โม่งวิจารณ์เหมือนกัน เพราะมันยังเป็นการวิจารณ์ที่สร้างสรรค์อยู่ จะได้ลองเอาไปคิดว่าอยากปรับไม่ปรับไหม ปรับแล้วมันจะดีขึ้นไหมให้พัฒนามือให้ดีขี้นไปอีก

244 Nameless Fanboi Posted ID:I9auOkg767

กูสงสัยว่าในฐานะคนอ่านคนนึง พวกมึงทำใจรับความเห็นด้านลบของนิยายที่ชอบไม่ค่อยได้กันเหรอวะ? เวลากูชอบอะไรสักอย่าง กูจะชอบอ่านความเห็นด้านลบมากเลยรู้ปะ 555555555 ไม่ใช่แค่นิยายนะ หนัง อนิเมะ ทุกอย่างเลย กูชอบอ่านเวลามีคนพูดถึงไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบน่ะ หรือว่ามึงกลัวคนเขียนมาเห็นแล้วจะเสียกำลังใจ?

245 Nameless Fanboi Posted ID:iETaD9eIJ7

>>244 กูอาจจะไม่เชิงว่าชอบคห.ด้านลบเหมือนมึง กูแค่ชอบเวลาเห็นคนมาเล่าครส.กับคห.ในมุมที่มันแตกต่างออกไปน่ะ ทำให้กูฉุกคิดดีว่าไอ้เรื่องที่เราอวยๆหรือเรื่องที่กูชอบมากๆมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย จุดไหนที่มันเอ๊ะๆกูก็ยอมรับว่าเอ๊ะ กูเจออะไรแบบนี้มานานแล้วกับการอ่านนิยายฝรั่ง ปกติฝรั่งเขาก็รีวิวกันดีด้วยไม่ฉอดไม่ด่าหยาบๆคายๆ คนไทยนี่ไม่รู้เป็นไร80%ต้องฉอดต้องด่าเอามัน

246 Nameless Fanboi Posted ID:C9kzkNM08U

ถ้าฉอดหยาบๆกูก็ไม่ชอบนะ แต่ถ้าวิจารณ์ข้อเสียแบบใน goodreads อะกูชอบอ่าน ซึ่งคนไทยดูไม่ค่อยเขียนแบบนั้นกันปะ

247 Nameless Fanboi Posted ID:gU+sStkNoH

บางทีแนะนำอะไรขึ้นมาแล้วมีคนติหรือคอมเมนท์​ คนแนะนำก็อาจจะเขินรู้สึกเหมือนเรานี่ชิทเทสต์จัง ยกอะไรมาอวยเนี่ย ทั้งที่คนคอมเมนท์​ก็พูดถึงนิยายไม่ได้หมายถึงคนแนะนำ แต่มันก็จะเขินๆมั้ง

248 Nameless Fanboi Posted ID:iETaD9eIJ7

>>247 ในมุมมองของกู shit taste ไม่มีจริงว่ะ อย่างมากที่สุดก็คือยังไม่รู้ว่าแบบไหนคือการเขียนที่ผ่านมาตรฐาน แล้วแบบไหนคือการเขียนที่สูงกว่ามาตรฐาน มึงดูอย่างที่ข้างบนๆเขาคุยกันก็ได้ นักอ่านเด็กๆเขายังคิดว่าพิมพ์เยอะๆ=สวยอยู่เลย บางคนเจอแค่คำว่าคร่ำครึยังถามว่ามันแปลว่าอะไร ถ้าลามไปถึงเรื่องความสมเหตุสมผลสมจริงมึงยิ่งไม่ต้องพูดถึง ซึ่งพวกนี้กูไม่เรียกว่า shit taste นะ กูเรียกว่ายังไม่เปิดโลก อาจจะยังอ่านมาไม่เยอะพอ ไม่ได้ว่าเลือกที่จะเสพนิยายตาม taste แบบนั้น

249 Nameless Fanboi Posted ID:HdJz81ywiz

กูมองว่าสิ่งที่เราชอบมันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอะ มันแค่มีบางจุดที่โดนใจเรา แต่มันก็ไม่ได้ flawless เวลากูอวยอะไรสักอย่างกูก็จะบอกว่ากูชอบตรงนี้ๆนะ แต่จะไม่อวยเวอร์อะไรมากมาย เพราะงั้นถ้ากูอวยแล้วมีคนตำหนิ กูจะไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย 555555555 บางทีจุดที่คนอื่นตำหนิก็อาจจะเป็นจุดที่กูขัดใจเหมือนกัน แค่กูไม่ได้ซีเรียสกับมัน และจุดที่กูชอบมันชดเชยส่วนนั้นได้ ก็เท่านั้นเอง

250 Nameless Fanboi Posted ID:Pm1NwbLV6x

กูโอเคกับความคิดเห็นด้านลบนะถึงจะรู้สึกไม่ดีหรือแย้งในใจยังไงกูก็ต้องยอมรับคำตินั้นได้ให้ได้ถ้ามันเป็นเรื่องจริงอ่ะ แต่ที่กูจะไม่อยากอ่านหรือไม่ชอบเลยคือพวกคำติคำว่าที่ไม่ได้เช็คข้อมูลก่อน อาศัยคุ้นๆหรือมโนไปเองทั้งที่มันไม่ถูกต้องแล้วมาว่าไปก่อน,พวกที่ยังไม่ทันลองก็ว่านำไปก่อนเพราะตามๆคนอื่น อันนี้กูไม่โอเค กูถือว่าข้อมูลยังไม่ถูกต้องถือสิทธิอะไรมาติมาว่าไปก่อน หรือพวกคำติที่ใช้คำแรงๆด่าเหมือนจะเคยฆ่ากันมาก่อนซึ่งกูเข้าใจว่าได้อิทธิพลมาจากที่ยุคนี้ต้องด่าไว้ก่อนถึงจะได้คอนเท้นเสียงด่ามีคนสนใจมากกว่า เลยเน้นแรงไว้ก่อน และอีกประเภทหนึ่งที่กูไม่ชอบคืออวยเว่อร์เกินอันนี้กูโรคจิตเอง กูคิดว่ามันต้องมีสิ่งที่ดีกว่านี้ที่เรายังไม่เคยเจอหรืออาจจะได้เจอในอนาคต และในผลงานมันไม่มีคำว่าสมบูรณ์ทั้งหมดมันยังมีจุดบกพร่องบางอยู่แล้ว กูเลยมองว่าการอวยเว่อร์เกินมันน่าอึดอัดไป มันไม่จริงใจเท่าไรโดยส่วนตัว

251 Nameless Fanboi Posted ID:Pm1NwbLV6x

>>250 กูตกไป ขอต่อในนี้ คำติที่ใช้คำแรงๆคำหยาบกูอ่านแล้วกูท็อกซิก ทั้งที่เขาไม่ได้ด่ากูพอเจอบ่อยกูเหนื่อยปวดหัวไปหมด นอกจากความสะใจของคนติแล้ว กูไม่ค่อยเห็นประโยชน์จากการติแบบนี้เท่าไร แต่ยุคนี้ดันมีเยอะมาก กูเอาเท้าก่ายหน้าผากเลย

252 Nameless Fanboi Posted ID:V489aa+C8d

>>250 +1 เห็นด้วยกับมึงทั้งหมด โดยเฉพาะพวกอวยเว่อร์วังนี่อยากพูดมากจริงๆว่าไม่ชอบ พวกนิยายในดวงใจกูที่เป็นระดับตำนานกูก็รู้อยู่เสมอว่ามันก็มีข้อเสียไม่ได้เพอร์เฟกต์ ละคนธรรมดาทั่วไปใครก็วิจารณ์ได้ ไม่ใช่ว่างานระดับตำนานมึงต้องยกสูงให้เป็นงานของพระเจ้า อารมณ์มึงมีสิทธิ์บอกว่าไม่ชอบตรงจุดนั้นจุดนี้ได้แต่กองอวยมันไม่รับประกันว่ามันจะไม่ด่ามึง เบาๆก็ไม่ชอบไม่ต้องอ่านค่ะ กูก็กำเล่มตาปริบๆไปดิ เงินกูซื้อมาเสือกไล่ไม่ให้กูอ่าน

253 Nameless Fanboi Posted ID:HUWiD5HaGq

กูว่าบางคนก็ take นิยาย personal เกินไป แบบพอชอบแล้วก็ถือเอานิยายมาเป็นส่วนนึงของตัวเอง พอมีคนตำหนินิยายที่ตัวเองไม่ชอบก็เลยรู้สึก offend ไปด้วย นิยายหลายๆเรื่องมันเลยเกิดสิ่งที่เรียกว่าลูกหาบขึ้นมาไง คือการปกป้องนิยายมันเหมือนปกป้องอีโก้ตัวเองไปในตัว กูไม่ได้จะว่าอะไรคนที่ offend นะ แต่บางคนก็เป็นแบบนี้โดยไม่รู้ตัวอะ

254 Nameless Fanboi Posted ID:reYF9e5Y7m

กูเข้ามาเห็นด้วยเรื่องคนไทยชอบฉอดมากกว่าวิจารณ์
คือติดค่านิยมด่าแรงๆไว้ก่อน จะได้ดูเฟี้ยส
บางทีที่กูเห็นคนที่ชอบนิยายออกมา defend คือมาจากการที่นิยายโดนฉอดแรงๆ เลยต้องด่ากลับ อันนั้นกูเข้าใจ
แต่ถ้าเป็นคนอวย ที่ออกมาปกป้องนิยายทุกย่างก้าว แม้จะมาคนมาตินิดหน่อย อันนั้นก็รำคาญเหมือนกัน

255 Nameless Fanboi Posted ID:icfoxGzFKN

>>254 กุว่าเพราะด่าแรงๆมันมีคนสนใจมากกว่าด้วยแหละ สังคมตอนนี้มันเป็นงั้นอะ ให้แสงคนเฟียสๆมากกว่า

256 Nameless Fanboi Posted ID:lvtgoRAAgv

เวลาแนะนำอะไรแล้วโดนติมันจะมีความหน้าแห้งนิดๆปะ 555555 กูเป็นเวลาแนะนำเพื่อนเพราะชอบอะไรสักอย่างมากๆ แล้วเพื่อนมาถามว่าสนุกตรงไหนวะ ไรงี้อะ มันจะเป็นฟีล แหะๆ ขอโทษที่แนะนำละกัน แต่กูเป็นเฉพาะเวลาไปแนะนำกะใครสักคนโดยตรงนะ ถ้ามาป้ายยาในโม่งแล้วโม่งคนอื่นไม่ชอบกูก็คงเฉยๆอะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:aTzFiTHBU4

>>253 พักหลังคนเยอะมากที่เป็นแบบนี้กับทุกเรื่องอ่ะมึง ดราม่าเลยหนัก เหตุผลอ่านไปก็จะ wf มีคนมาถ่วงบ้างก็ดีไป แต่ถ้าเจอสไตล์เดียวกันมาสุมไฟ กลายเป็น social bully ไปง่ายๆ
กุเห็นบ.ประกันออกประกันการถูก social bully มาด้วยนะมึง แต่ไม่รู้วางเงื่อนไขเคลมกันยังไง

258 Nameless Fanboi Posted ID:B5X0bmSB28

>>256 เห็นด้วย กุไม่กล้าแนะนำนิยายที่ชอบมาก ๆ ให้เพื่อนเพราะกลัวเขาบอกว่าไม่สนุก 5555 เลยแนะนำเรื่องที่คิดว่าสนุกดี อ่านเพลิน ๆ แต่ไม่ได้สุดยอดในความคิดตัวเองไป เอากลาง ๆ ไว้ก่อน

259 Nameless Fanboi Posted ID:XEvIuOXzRn

กุกับเพื่อนอ่านคนละแนวเลย เรื่องที่กุว่าดีมากชอบมากเพื่อนจะไม่อินเพราะมันเนือยๆ ออกแนวจริงจัง ชวนขบคิด ส่วนเพื่อนกุอ่ะชอบแนวน้ำเน่าละครหลังข่าวซึ่งกุไม่อิน ต่างคนต่างป้ายยากันแล้วไม่ชอบ ช่วงแรกๆผลัดกันหน้าแห้งบ่อยอยู่ แต่หลังๆเลิกป้ายยากันไปละ 5555555

260 Nameless Fanboi Posted ID:tDGwjVg9Fs

แปลทับศัพท์ : https://youtu.be/YvNxgHTWIlo

261 Nameless Fanboi Posted ID:jxx431wTTd

KY คิดไงกับของแถมร้านหนังสือ พวกการ์ดแถม แสตนดี้ อื่นๆ ที่ใช้ภาพ(จ้าง)วาดเองแต่จากเรื่องนิยายลิขสิทธิ์ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีเยอะมากและกำลังเฟื่องฟู เค้าขอจากสนพ.ที่ถือ LC มาหรือเปล่าว่าจะทำภาพจากเรื่องนี้ๆเอาไปแจกนะ หรือไม่ต้องขอเพราะทำแจก แต่มันเป็นการส่งเสริมการขายนะ แจกฟรีให้ลูกค้า แล้วลูกค้าก็เอามาขายต่อคนที่สะสม บางทีตั้งราคาขายไม่ใช่น้อยเลย เข้าใจว่าห้ามกันไม่ได้หรอก เทรนด์คนชอบสะสมอะเนอะ ส่วนตัวกูก็ชอบเก็บ ได้มาก็เก็บดูเล่น ไม่เคยคิดขายต่อ แต่เห็นคนขายกันเป็นเรื่องเป็นราวมาก หรือกูควรขายตอนที่ยังมีกระแสคนชอบสะสม
เอาจริงๆกูก็ชอบที่ร้านแถมโน่นนี่ แต่ก็อยากให้ทำเป็นลายออริจินอลอะไรไปเลยมากกว่า มันไม่แมส แต่ก็ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์แน่นอน คนได้มาจะเอามาขายต่อให้คนที่อยากได้ก็ยังดูน่ารักกว่า ไม่เหมือนขบวนการซื้อขายของเถื่อน
ของพรีเมียมนิยายที่แถม(ขายพ่วง)จากสนพ.โดยตรง ถ้าเอามาขายต่อกูยังโอเคนะ กูหลายมาตรฐานหรือเปล่า

262 Nameless Fanboi Posted ID:pb5DvYVeYL

>>261 จริงๆแล้วมันทำไม่ได้นะ แต่ถ้าสนพเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ว่าอะไรก็คงต้องปล่อยให้ทำกันไป

263 Nameless Fanboi Posted ID:lt5N8lxmtg

>>261 สนพ.ส่วนใหญ่ซื้อลิขสิทธิ์แค่’เนื้อหานิยาย’ ห้ามได้แค่พวกแชร์ไฟล์เถื่อน ทำกู้ดขายเขาไปห้ามไม่ได้ แต่ส่งเรื่องไปเจ้าของอะได้ เพราะมันผิดลิขสิทธิ์เจ้าของที่อยู่ตปท.นู้น ประมาณของแฟนเมด แต่เอามาส่งเสริมการขายร้านตัวเองโดยไม่ได้ขออนุญาตคือเหี้ยจริงๆ
ควรแบนนักวาดที่วาดให้ด้วย หลายคนรู้ตัวกันเพราะเขาก็บอกอยู่แล้ว รับงานละเมิดลิขสิทธิ์ก็ยังจะรับ เห็นแก่เงิน

264 Nameless Fanboi Posted ID:O0fzPmE2ye

>>263 กุว่านักวาดบางคนอาจจะไม่รู้ปะ พอร้านมาคอมมิชก็อาจจะนึกว่าทำได้ เหมือนคนวาดจิบิสวนสัตว์อะ กุว่าเคสนั้นบรีฟตามสนพ.แหละ แต่พอมีปัญหาลิขสิทธิ์กลายเป็นคนวาดโดนด่าซะงั้น

265 Nameless Fanboi Posted ID:lt5N8lxmtg

>>264 ถ้ามึงหมายของแถมตามร้านรับพรีอะ รู้ นักวาดตัวเบ้งทั้งนั้น บางคนยังรับวาดให้สนพ.มาหลายงานแล้ว กูก็งงเงินไม่พอเหรอถึงไปวาดให้ร้าน คนเข้าใจผิดว่าเป็นของออฟก็มี กรณีจิบิสวนสัตว์กูไม่แน่ใจว่านักวาดตปท.ไหมอะแต่อันนั้นผิดนักวาดไม่ได้ ทีมงานที่ดูแลจะไม่ตรวจสอบเลยเหรอ ไม่ก็คนดูแลสั่งให้วาดไป กูไม่ฟันธงนะเดี๋ยวโดนฟ้อง แต่กรณีนี้เอามาเทียบไม่ได้

266 Nameless Fanboi Posted ID:YYFrvqpqQl

>>264 กูเห็นคนด่าแต่สนพ พึ่งรู้ว่ามีคนด่านักวาดด้วย ก็ถือเป็นบทเรียนของกุหลาบไป โดนสาปไม่หยุด

267 Nameless Fanboi Posted ID:oMJkEhGQ1W

>>265 มึงหวังอะไรกับนักวาดไทยวะ ล่าสุดที่เห็นเคสจิบลิห้ามทำแฟนอาร์ตขาย ก็เป็นไอ้พวกตัวเบ้งๆนั่นแหละขายกันมันเลย จะไปสนใจอะไรล่ะ รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องที่ตัวเองได้เงิน

268 Nameless Fanboi Posted ID:lt5N8lxmtg

>>267 กูรู้ไงเลยมาอธิบายให้ข้างบนฟัง แต่ไอพวกนี้ไม่โดนลากไปด้วยนะ ทำตัวเงียบดราม่าล่าสุด ไม่ขอออกความเห็น แต่ถ้าขุดแม่งเละแน่ อย่างมด เอาแอคทวิตไปพิมพ์ต่อท้ายด้วยคำว่าลิขสิทธิ์ รู้ตัวก็ยังทำ

269 Nameless Fanboi Posted ID:884Og7p9mM

>>267 จิบลินี่รู้เลยใคร 5555
นักวาดนี่ตัวละเมิดลขเลยเมิงเอ้ย นิยายยังไม่เข้าไทยนางทำกู้ดขายละ การ์ตูนในไทยช้ากว่าของญป แต่นางวาดแฟนอาร์ทต่อละ

270 Nameless Fanboi Posted ID:jxx431wTTd

งืม แสดงว่า เรื่องของแถมร้านหนังสือ/รับพรี คือมันไม่ถูก มันไม่ควรทำ แต่ใครๆเค้าก็ทำกันอะเนอะ ใช้โปรโมทเพิ่มยอดให้ร้านได้ ลูกค้าก็ชอบสะสมด้วย สนพ.ไทยก็ทำไรไม่ได้เพราะการทำกู้ดส์ไม่ได้ละเมิดสนพ.ไทยโดยตรงสินะ

จิบิสวนสัตว์มันคนละกรณีกับที่กูถามอะนะ อันนี้กูว่าสนพ.ทำพลาดเองก็แก้ไขไปตามหน้างาน แต่รายละเอียดเป็นไง ผิดตรงขั้นตอนไหนฝ่ายไหน กูก็ไม่รู้หรอกนะ

เรื่องนักวาดมันควรเป็นวงการที่เคารพลิขสิทธิ์ผลงาน ควรใส่ใจอย่างยิ่งนะ แต่เห็นให้ความสำคัญแต่ผลงานตัวเองทั้งนั้นแหละ 555
กูไม่ได้ติดตามนักวาดเลย แต่ก็เห็นอยู่ว่าลายเส้นของแถมสนพ.บางเจ้า เหมือนกับของแถมร้านพรีบางเจ้า นักวาดก็รับทั้งงานหลักงานเถื่อนเนอะ ลิขสิทธิ์สำคัญก็จริงแต่เงินและปากท้องสำคัญกว่า นักวาดเล็กๆไม่เท่าไร (ก็ไม่ควรทำแหละ) แต่นักวาดดังๆ นี่คงตัวดีเลยมั้ง ขับเคลื่อนวงการ

กูมาบ่นขิงข่าตามประสาผู้บริโภคแหละ คิดว่ามันก็คงเป็นไปแบบนี้ไม่เปลี่ยน จนกว่ามันจะหมดกระแสไปเอง

271 Nameless Fanboi Posted ID:lt5N8lxmtg

แต่มึงอย่าลืมนะ ร้านบ้างร้านก็ของสนพ...คนซื้อบ่อยๆก็รู้กันอะ5555 แม่งงั้นงี้แหละ ตัวนักวาดเองแม่งก็ดีลกับสนพ
คนไม่รู้กูไม่เท่าไหร่ คนรู้สั่งสอนคนอื่นแต่ตัวเองก็ทำนี่มันก็นะ คิดไปคิดมาก็คล้ายกับเคสจิบลิเลย แต่แค่คนละพวก

272 Nameless Fanboi Posted ID:XD++57J6GC

KY ในนี้มรโม่งอยู่กลุ่มคนรักนิยายวายของป้าส้มเยอะไหมวะ กูเพิ่งเข้าได้สักพักเพราะเพื่อนโม่งบอกให้ตามๆ ไว้เผือก ตรรกะคนในกลุ่มนี้มันพังพินาศขนาดนี้เลยเหรอวะ ยิ่งแอดมินกลุ่มยิ่งอาการหนัก

273 Nameless Fanboi Posted ID:UDlghPest.

>>272 กูอยู่แต่ไม่ได้เข้าไปอ่านเป็นชาติละ จนกูลืมไปแล้วเนี่ยว่าอยู่ 555555555

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.