Fanboi Channel

สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์ ยกที่ 87

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:ZVNHYbpiap

ยกที่ 01 >>>/801/2253/
ยกที่ 02 >>>/801/2374/
ยกที่ 03 >>>/801/2498/
ยกที่ 04 >>>/801/2736/
ยกที่ 05 >>>/801/2860/
ยกที่ 06 >>>/801/2956/
ยกที่ 07 >>>/801/3025/
ยกที่ 08 >>>/801/3119/
ยกที่ 09 >>>/801/3197/
ยกที่ 10 >>>/801/3241/
ยกที่ 11 >>>/801/3287/
ยกที่ 12 >>>/801/3381/
ยกที่ 13 >>>/801/3495/
ยกที่ 14 >>>/801/3626/
ยกที่ 15 >>>/801/3705/
ยกที่ 16 >>>/801/3926/
ยกที่ 17 >>>/801/4012/
ยกที่ 18 >>>/801/4097/
ยกที่ 19 >>>/801/4199/
ยกที่ 20 >>>/801/4290/
ยกที่ 21 >>>/801/4406/ **(วาระ ภกด แห่งมู้)**
ยกที่ 22 >>>/801/4451/
ยกที่ 23 >>>/801/4488/
ยกที่ 24 >>>/801/4539/
ยกที่ 25 >>>/801/4606/
ยกที่ 26 >>>/801/4640/
ยกที่ 27 >>>/801/4731/
ยกที่ 28 >>>/801/4832/
ยกที่ 29 >>>/801/4920/
ยกที่ 30 >>>/801/5011/
ยกที่ 31 >>>/801/5115/
ยกที่ 32 >>>/801/5323/ (ชื่อเป็น 31)
ยกที่ 33 >>>/801/5436/
ยกที่ 34 >>>/801/5612/
ยกที่ 35 >>>/801/5704/
ยกที่ 36 >>>/801/5731/
ยกที่ 37 >>>/801/5749/
ยกที่ 38 >>>/801/5764/
ยกที่ 39 >>>/801/5788/
ยกที่ 40 >>>/801/5825/
ยกที่ 41 >>>/801/5887/
ยกที่ 42 >>>/801/5950/
ยกที่ 43 >>>/801/6027/
ยกที่ 44 >>>/801/6071/
ยกที่ 45 >>>/801/6147/ **(วาระตัวร้ายฯแห่งชาติ)**
ยกที่ 46 >>>/801/6179/
ยกที่ 47 >>>/801/6271/
ยกที่ 48 >>>/801/6324/
ยกที่ 49 >>>/801/6410/
ยกที่ 50 >>>/801/6464/
ยกที่ 51 >>>/801/6500/
ยกที่ 52 >>>/801/6538/
ยกที่ 53 >>>/801/6635/
ยกที่ 54 >>>/801/6726/
ยกที่ 55 >>>/801/6822/
ยกที่ 56 >>>/801/6880/
ยกที่ 57 >>>/801/6963/
ยกที่ 58 >>>/801/7058/
ยกที่ 59 >>>/801/7127/
ยกที่ 60 >>>/801/7254/
ยกที่ 61 >>>/801/7760/
ยกที่ 62 >>>/801/8148/
ยกที่ 63 >>>/801/8348/
ยกที่ 64 >>>/801/8452/
ยกที่ 65 >>>/801/9043/
ยกที่ 66 >>>/801/9298/
ยกที่ 67 >>>/801/9901/
ยกที่ 68 >>>/801/10239/
ยกที่ 69 >>>/801/10413/
ยกที่ 70 >>>/801/10725/
ยกที่ 71 >>>/801/10806/
ยกที่ 72 >>>/801/10877/ **(วาระกุ้งม่วง & LGBT+)**
ยกที่ 73 >>>/801/10929/ **(วาระ Minikikaboo)**
ยกที่ 74 >>>/801/10980/
ยกที่ 75 >>>/801/11125/ **(วาระ ละ-ล่ะ)**
ยกที่ 76 >>>/801/11312/
ยกที่ 77 >>>/801/11591/ (ชื่อเป็น 76)
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**
ยกที่ 80 >>>/801/11739/
ยกที่ 81 >>>/801/11796/
ยกที่ 82 >>>/801/12157/
ยกที่ 83 >>>/801/12315/
ยกที่ 84 >>>/801/12585/
ยกที่ 85 >>>/801/12792/
ยกที่ 86 >>>/801/13072/

Hall of shame
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1IXpef-npDJdoj427b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik
Hall of shame 2
https://docs.google.com/document/d/1A0T0jr1Kt9mYtcIr4ECK2LRVmaqkCBtpOUYdDwLIb3k/edit?usp=drivesdk27b04gY6GsDqyJWw38QagqNXVkLik

2 Nameless Fanboi Posted ID:81RBeADtZ7

กูถามหน่อย พวกเมิงว่าสาเหตุหลักที่ทำให้นิยายวายคุณภาพการแปลห่วยกว่านิยายนม.คืออะไรว่ะ

3 Nameless Fanboi Posted ID:81RBeADtZ7

มือลื่น เพิ่มอย่างบางค่ายเงี้ยนม.คือแปลดีมากๆแต่พอเป็นวายปึบ เหมือนคุณภาพอยู่ๆก็ดรอปลงเฉย

4 Nameless Fanboi Posted ID:N7MwchUZAZ

>>2 นักแปลที่เก่งๆไม่แปลวายมั้ง ไม่ก็เป็นไลน์แตกใหม่ ไม่มีบอกอเจ๋งๆมาคุม

5 Nameless Fanboi Posted ID:8gXPhIraLi

>>2 เพราะเอานักแปลเถื่อนมาแปล และคนพิสูจน์อักษร&บกไม่มีคุณภาพ นักแปลใช้คำผิดยังไง แต่ถ้าส่งตรวจแล้วหลุดมานี่ยังประจำ สรุปไม่ใส่ใจนั้นแหละ ทำไงขายได้

6 Nameless Fanboi Posted ID:23IuwXA8Yh

บางทีกูก็คิด เอ หรือว่าคุณภาพนักอ่านสายวายอาจจะต่ำกว่านักอ่านหนังสือแนวอื่น ของห่วยก็ยังซื้อกัน ทำยังไงก็ขายได้ ก็ไม่ต้องทำให้ถึงมาตรฐานก็ได้
ส่วนสนพ.เล็กๆที่มาทำวายอย่างเดียว บางแห่งก็คล้ายจะเป็นนักอ่านสายวายมาก่อน คุณภาพบางทีก็เลยได้แค่นั้น

7 Nameless Fanboi Posted ID:Kldlsb0V5G

>>6 มันเชื่อมโยงกันหมดแหละ ถ้าสนพ.ออกงานคุณภาพห่วยแล้วนักอ่านยังยอมรับได้เขาทำอะไรมาก็ซื้อ มันจะแปลความหมายว่ายังไงได้ล่า ผู้บริโภคคือคนกำหนดตลาดและคุณภาพโดยภาพรวมของสินค้าในตลาด ถ้าผู้บริโภคเรียกร้องขอนิยายแปลดีเขียนดีมีคุณภาพกันทั้งวงการ สนพ.ก็ต้องทำตามดีมานด์ของผู้บริโภคเพื่อให้ขายได้

8 Nameless Fanboi Posted ID:c.s1ihz8P5

กูว่าคุณภาพนักอ่านมีส่วนมาก มีเล่มนึงคนชมกันว่าแปลดี แต่กูอ่านตัวอย่างแล้วเจอท่อนนึงบอกว่า "(มีการประลองกัน) ท่านอาจารย์จะรุดหน้าไปมองดูหรือไม่" กูงงมาก รุดหน้า กับ มองดู เนี่ยมันไม่ค่อยถูกบริบทปะวะ คือถ้าใช้ว่า "รุดไปชมดู" มันยังโอเค เป็นกำลังภายในกำลังดี แต่คนชมกันเยอะ กูก็ลังเลว่าควรซื้อมั้ย ส่วนตัวกูเองอ่านแล้วก็รู้เรื่องแหละ แต่รู้สึกลอยมาก จับประเด็นไม่ค่อยติด ก็ไม่รู้เชื่อคนที่ชมได้ขนาดไหน

9 Nameless Fanboi Posted ID:3/YVXkMIMe

>>2 ตลาดมันโตไวกว่าบุคลากร ไม่ใช่แค่วาย ชญก็มีปัญหา ค่ายเปิดใหม่เยอะ นักแปลเก่งๆก็ผูกปิ่นโตกับค่ายเก่าแล้ว เลยต้องไปงมนักแปลหน้าใหม่จากดด รอร เอา
บก.ดีๆมีปสกก็หายากตาม ขนาดชญยังหายากต้องยอมใช้บก.ที่ไม่รู้ภาษาจีน บางสนพมีบก.ก็เหมือนไม่มี

10 Nameless Fanboi Posted ID:6IiKaao4XL

>>8 เคสนี้ถ้าเป็นกุ กุคงอ่านผ่านเลยไม่รู้สึกอะไรแฮะ ความหมายไม่ได้เปลี่ยน แค่อาจใช้คำที่บางคนอ่านแล้วรู้สึกไม่สละสลวยเท่านั้นเองรึป่าว
กุคงง่ายๆไป มิน่าไม่ค่อยมีปัญหากับใครเขา เรื่องไหนใครบอกว่าแปลเหี้ย กุก็ยังอ่านได้นะ 555 กุจะมีปัญหากับแค่คำผิด กับประโยคที่อ่านแล้วใจความเพี้ยนได้ หรือเนื้อความงงๆไปเลย กับคำเชื่อมไม่สอดคล้องหน้าหลังอะไรพวกนี้มากกว่า

11 Nameless Fanboi Posted ID:DvvsZ0iTj.

กูดูค่านิยมนิยายวายคุณภาพจากคนส่วนใหญ่ที่อวยๆกันแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่งานวายมันจะออกมาสภาพนี้ อวยปกสวย อวยของพรี อวยแปลนมเนย อวยแปลทับศัพท์ เอิ่ม เป็นวงการนิยายที่แหวกแนวสุดๆ

12 Nameless Fanboi Posted ID:UoM3NPmdTd

>>11 มึงอย่าว่าแต่วายเลย ทุกวงการที่คนอวยเยอะๆอะ ยูทูปเบอร์ก็ด้วย คอนเท้นคุณภาพทั้งนั้น(ประชด) คนไทยแม่งชิทเทสจริงว่ะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:dFIwfosL7w

พวกมึง ช่วงนี้เห็นนักเขียนโดนคอมเม้นด่าแปลกๆ หรือดีเอ็มไปด่าเรื่องงานเขียนเยอะๆในทวิตมะ ตอนแรกกูก็อยากฟาดอีคนไปด่านะ แต่ไปๆมาๆ กูว่าดูปลอมไงไม่รู้ว่ะ บางคนอาจจะโดนจริง แต่มีคนที่กุเห็นโดนซ้ำๆผิดสังเกต แล้วภาษาดูปลอมๆ เหมือนนข ทำร่างทิพย์ด่าตัวเอง หรือกูมองโลกในแง่ร้ายวะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:ByqtdbiLMT

>>13 กุคิดว่ามันแย่เกินไปอะ แบบเกินกว่าที่คนปกติจะทำ แต่ช่วงนี้คนอยู่บ้านนาน อาจจะเครียดเลยด่าคนอื่นหรือสร้างเรื่องด่าตัวเอง มองในแง่ร้ายคือสร้างเรื่องเรียกเอนเกจเมนท์ให้งานตัวเอง ดังไวดี 55

15 Nameless Fanboi Posted ID:I6qQsKUTtB

>>13 เกินครึ่งคือคอนเทนต์​แหละกูว่า

16 Nameless Fanboi Posted ID:dFIwfosL7w

>>14 เออ กูก็ว่ามันดูแย่แบบพิกลๆ ไล่ให้ไปเลิกเขียนงี้ เขียนไม่สนุกกล้าติดเหรียญได้ไงงี้ มันแปลก คนอ่านปกติมันจะไม่ด่าแนวๆนี้
>>15 แต่มีคนรีคนปลอบเพียบจนกุงงว่าทำไมเชื่อวะ ยิ่งคนที่โดนซ้ำๆสี่ห้ารอบ ภาษาคนด่าเหมือนก๊อปกันมา

17 Nameless Fanboi Posted ID:8jLxm9NPwU

>>11 ไม่ค่อยเจอคนอวยว่าเนื้อเรื่องสนุกเลยนะ วงการวายมันเลยเน้นอาร์ต แต่ไม่เน้นเนื้อเรื่อง

18 Nameless Fanboi Posted ID:ByqtdbiLMT

>>16 แบบ ขอใช้คำว่าห่วยนะคะ ใครแม่งจะว่างขนาดนักด่านักเขียนยาวๆวะ เสียเวลา เสียทั้งสุขภาพจิตตัวเองและผู้อื่น คนบ้าอะมึง เหนือขอบเขตวิสัยปุถุชน ปกติไม่สนุกก็กดออก กูอยากจะอยู่ข้างนขนะ แต่บางอย่างแหม่งๆเกิน ใจร้ายเกินไปอะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:uQOULx5Ylg

สมัยก่อนมีพวกนักเขียนอวตารมาเม้นฟิคตัวเองเยอะ ตอนนี้มีเทรนด์ใหม่ เดมด่าตัวเอง 5555555555

20 Nameless Fanboi Posted ID:Wjcg30sMbD

>>17 พูดไปก็จริง ไม่ค่อยเห็นคนอวยเนื้อเรื่อง หลักๆอวยความรักพระนายแล้วก็อาร์ตสวย ที่เหลือก็ไม่มีไรละ
อันนี้หมายถึงพวกวายไทยนะ เพราะงี้รึเปล่าวะวายไทยมันเลยไปได้ไม่ไกล พอเล่นเรื่องอะไรที่มันซับซ้อนหรืออลังๆหน่อยคนก็เข้าไม่ถึง ต้องตลกโปกฮาไปวันๆไม่ก็เล่าเรื่องแบบจีบกันคบกันเป็นหลัก แล้วคนก็จะอินมาช่วยกันอวยเรื่องความรักฟินๆ เรื่องอื่นช่างหัวมัน

21 Nameless Fanboi Posted ID:2.Fg0.kK0n

>>20 ไทยถ้าไม่เขียนให้คลั่งรักหรือเปิดมาด้วยเยแทบขายไม่ได้อะมึง หลายเรื่องที่กูอ่านเนื้อเรื่องดีไม่ได้เน้นรักแทบไม่มีคนอ่าน เศร้ามาก ดูได้จากเวลาถามบ่อยๆให้แนะนำเรื่อง อย่างแปลจีนหลายเรื่องมันมีเนื้อเรื่องซับซ้อนก่อนที่จะมารักกันก็ยังขายได้ กูเพิ่มให้หน่อยถ้าอยากอ่านชช.แนวเน้นเนื้อเรื่องดีๆส่วนใหญ่มันจะไม่อยู่ในหมวดBLเว้ย5555 กูก็เพิ่งรู้ว่าเขาแบ่งกันแบบนี้ ถ้าอยากรักก็ไปBL

22 Nameless Fanboi Posted ID:y5Fo1u1I1F

>>21 ไม่อยู่หมวดบีแอลแล้วไปอยู่หมวดอะไร? หมวดนิยายทั่วไปเหรอ?

23 Nameless Fanboi Posted ID:F07RI37L47

>>8 แต่รุดหน้ามันเท่ากับล่วงหน้าไม่ใช่เหรอวะ เหมือนถามว่าจะล่วงหน้าไปชมก่อนหรือไม่

24 Nameless Fanboi Posted ID:SjOaP6XoX7

รุดหน้ามันแปลว่าคืบหน้า ก้าวหน้า ถ้าจะใช้ว่ารีบไป มันต้องใช้ว่า รีบรุด ไม่ใช่ รุดหน้า
รุดหน้าไปมองดู นี่โคตรแปลกเลย มองดูการประลองนี่โคตรรรแปลก
มันควรจะเป็น รุดไปชม รุดไปดู มากกว่านะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:2.Fg0.kK0n

>>22 หมวดแฟนซี​ สยองขวัญ​ จีนโบราณอะไรพวกนี้​ ถ้าไม่อยากอ่านแนวรักๆ​

26 Nameless Fanboi Posted ID:5zl7SFqZDJ

>>25 ไม่โดนเขาไล่กลับมาหมวดวายเหรอ

27 Nameless Fanboi Posted ID:oq0RchCwi2

>>26 ทำไมต้องไล่​ หมวดพวกนี้ไม่แบ่งอยู่แล้ว​ ติดท็อปเป็นชช.ก็มีของแฟนซี

28 Nameless Fanboi Posted ID:5zl7SFqZDJ

>>27 เมื่อก่อนเขาไล่กัน ด่ากันก็บ่อย ไม่ใช่ทุกคนที่อ่านวายได้ บางทีโดนเขามาล้อนิยายอัดตูดๆ

29 Nameless Fanboi Posted ID:fvKgR.McqJ

>>28 กูเคยโดน ต่อให้เขียนแฟนซี แต่พอเป็นวายก็มีคอมเนต์อัดตูดๆ กูก็เลยต้องเป็นแฟนซีในดงวายรักๆ เหงาๆ

30 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>23 รุดหน้าไม่เท่ากับล่วงหน้านะ อย่างที่ >>24 บอก รุดหน้าจะใช้กับ พลังฝีมือรุดหน้ารวดเร็ว โปรเจกท์นี้รุดหน้าเกินคาด เมืองเจริญรุดหน้ากว่าเมืองอื่นๆ อะไรแบบนี้ มันก็ไม่ถึงกับอ่านไม่รู้เรื่องหรอก แต่กูคงลังเลแหละว่าถ้านี่เป็นตัวอย่างของเรื่องที่ได้รับคำชมว่าแปลดี แล้วที่เหลืออีกทั้งเรื่องจะยังไง ดูพึ่งพารีวิวไม่ค่อยได้

31 Nameless Fanboi Posted ID:.s9PC3q8FQ

>>27 ลองแห่ไปติดชาร์ตเขาบ่อยๆ เดี๋ยวเขาก็ไล่กลับมาเอง

32 Nameless Fanboi Posted ID:CTNt9S6+Tz

KY รส.ว่าเดี๋ยวนี้วายไทยเงียบไปเลยรึเปล่ามีแต่ ด. ที่ยังแอคทีฟออกวายไทยนอกนั้นขนาด ลวด. ยังเพลาๆลงบ้าง พวกนข.ก็หน้าเดิมๆ หน้าใหม่ไม่เห็นมีแล้ว

33 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>30 คิดแล้วเครียด กูเคยเจอพวกนิยายแฟนตาซีเบียวๆในรอร.ใช้คำผิดบริบทแบบนี้เยอะมาก ทั้งวายไทยวายแปล แต่คนอ่านแม่งก็ไม่สนไม่ทักท้วง ทั้งที่บางคำแม่งโคตรจะไม่ได้ ตัวอย่างก็ทุ่งหญ้ากลิ่นเขียวขจี เงี้ย เขียวขจีห่าไรใช้กับกลิ่นวะ มีแต่เหม็นเขียว ทำไมไม่ใช้คำว่าส่งกลิ่นสดชื่น เหมือนนขนักแปลไม่มีการครอสเช็กอะไรใดๆกันเลย คนอ่านก็ไม่รู้หรือไม่สนว่ามันผิด เดี๋ยวพอไปทักดีไม่ดีมันด่ากลับมาอีกว่านิยายมันมันจะใช้คำยังไงก็เรื่องของมัน

34 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>32 ไม่เงียบหรอก แค่พวกนขแห่กันไปออกงานทำมือเอง แม้แต่นขดัง 55555

35 Nameless Fanboi Posted ID:6Uv++hBOT1

Ky ช่วงนี้พวกมึงเพลาการซื้อนส.กันลงเนอะมั้ยวะ เหมือนสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยไม่ค่อยมีทั้งอารมณ์จะอ่านและเงินจะเปย์ หนังสือก็เหมือนจะออกไม่มากไม่น้อย แต่กุกลับรู้สึกไม่มีเรื่องที่ทำให้อยากเปย์

36 Nameless Fanboi Posted ID:fEuqFSTNnH

>>35 กูซื้อเหมือนเดิมเลย ออกจะมากขึ้นด้วย เพราะไม่ได้ออกจากบ้านกูเลยมีเวลาอ่านมากกว่าเดิม เอาหนังสือไว้เบรคเรื่องเศร้าๆจากข่าว แล้วตัดงบอื่น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า คสอ มาใส่งบหนังสือแทน

37 Nameless Fanboi Posted ID:BpoItMogKL

>>35 กูเพลาเพราะไม่ค่อยมีเรื่องที่ถูกใจนี่แหละฟฟฟฟ ช่วงนี้กุเอียนแนวจีน,ระบบ วายไทยกูก็ไม่อ่าน กุชอบพวกอวกาศ,วันสิ้นโลกที่มันมีให้เสพแบบนานๆมาสักเรื่อง

38 Nameless Fanboi Posted ID:oq0RchCwi2

>>35 เงินมี แต่กลัวโควิด หลายคนที่เทขายก็เพราะติดโควิดหาเงินไปรักษา กูอยากให้มีกฎจริงๆว่าใครป่วยก็บอก แต่ก็คงไม่ทำหรอกกลัวขายไม่ออก นอกจากนี้ขนส่งอีกติดเยอะแยะ ที่กูสั่งมาล่าสุดยังวาดทิ้งไว้อยู่เลยเพลาๆไม่ซื้อละ อดใจไว้ ส่วนตัวไม่ชอบอ่านEbook ถ้าเรื่องไหนหายากจริงๆก็ซื้อมาทิ้งไว้

39 Nameless Fanboi Posted ID:wqtG/yWhJ2

>>35 ซื้อนะ แต่เลือกมากขึ้น อะไรเล่มยาวไปก็ตัด มันออกเยอะมาก

40 Nameless Fanboi Posted ID:ldU7/mN8Q7

>>35 กูซื้อเท่าเดิม สนพ.ที่ยังแบนกูก็ยังแบนเหมือนเดิม ช่วงโควิดอาจจะมีแบนนักเขียนไทยมากขึ้น เพราะไม่รู้เป็นบ้าอะไร โผล่ความบ้งให้กูเอือมเลยยัดเข้าแบล็คลิสต์ แต่นอกนั้นกูออกเล่มมากูก็ยังซื้อเหมือนเดิม

41 Nameless Fanboi Posted ID:3MXJ0KWrTV

>>33 อ่านนิยายอินเตอร์เน็ตต้องทำใจจุดนี้ว่ะมึง ถ้าอ่านในเน็ตกูยังพอกัดฟันทนได้เพราะถือว่าไม่ผ่านมือบก. แต่ถ้าเป็นงานตีพิมพ์แล้วเจอใช้คำผิดความหมายหรือผิดบริบทมานี่กูรับไม่ได้

42 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>33 >>41 กูรู้สึกว่านิยายอินเตอร์เน็ตนี่เขียนโดยนักอยากเขียนของแท้เลยมึง อยากเขียนอย่างเดียว ไม่ได้ชอบอ่าน แทบไม่เคยอ่านงานเขียนที่เป็นงานที่ดีจริงๆ อย่างมากก็อ่านแต่งานที่อยู่ในเน็ตเหมือนกัน ส่วนใหญ่เด็กม.ต้น ม.ปลายเขียน สำนวนมันก็วนๆผิดๆอยู่แบบนั้น มันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น แต่ปัญหาคือ เดี๋ยวนี้นักแปลกับบก.ที่ออกงานกับสนพ.ดังๆดันสำนวนแค่นี้ด้วยเนี่ยสิ แล้วดันมีคนชื่นชมว่าแปลดีด้วยนะ นี่มันดีแล้วเหรอวะ คือแปลดีไม่ใช่การแปลชื่อเฉพาะออกมาได้อลังการวิลิศมาหรา แต่เป็นการเขียนให้รู้เรื่องสละสลวยปะวะ กูสงสัยมาตรฐานคำว่าแปลดีของหลายๆคนมาก

43 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

>>42 มันน่าเศร้าตรงนี้แหละ พอนักเขียนรุ่นใหม่ๆเป็นคนที่โตมากับงานเขียนในเน็ตที่ใช้คำผิดความหมายมั่วกันไปหมด สกิลภาษาของนักเขียนเจเนอเรชั่นนี้มันก็จะต่ำลง ทำให้งานเขียนใหม่ๆคุณภาพด้อยลงไปด้วยในแง่การใช้ภาษาให้ถูกต้อง พอคนพวกนี้ไปทำงานสำนักพิมพ์มันก็จะคุณภาพเท่านิยายเน็ตไปด้วย ซึ่งตอนนี้กูก็ว่าใกล้เคียงละนะ 555555 นิยายวายจีนอะ การแปลแย่มากๆเมื่อเทียบกับนิยายแปลแนวอื่นๆ รู้เลยว่าบก.มือไม่ถึง

44 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>43 เท่าที่กูรู้คือคนแปลมีไม่พอด้วยแหละ รายที่แปลดีๆนี่โดนจองตัวยาวเป็นปีเลยมั้ง แถมค่าจ้างยังแพงด้วย รายย่อยบางเจ้าจ่ายไม่ไหว แต่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว เดี๋ยวของหมดอายุ นักแปลที่ไหนว่างก็ต้องขุดๆมาแปลขายๆไปก่อน หวังให้บก.มาช่วยตบๆเอา แต่อนิจจาหมาหอน บก.ดีๆก็ยุ่งพอกัน เอวังฉิบหาย

45 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

>>44 อยากได้คนแปลดีๆก็ต้องเพิ่มค่าแปลไปจ้างคนเก่งๆอะ แต่ถ้าไปจ้างคนเก่งๆที่เขามีงานประจำอยู่แล้ว งานมันก็จะช้า ซึ่งหนังสือก็จะออกช้าไปด้วย คนอ่านสมัยนี้รอกันไม่เป็น ออกช้านิดหน่อยก็ด่าแล้ว สนพ.ก็เลยต้องเน้นออกเร็วมากกว่าเน้นความพิถีพิถันในการแปลไปด้วย

46 Nameless Fanboi Posted ID:i5Drq5.VZu

จะว่าไปหลายวันก่อนกูเห็นทวีตประมาณว่า ถ้าช่วงนี้เจอนักเขียนหน้าใหม่ลงนิยายแล้วเขียนไม่ดีก็อย่าเพิ่งไปว่าไปตำหนิอะไรเลย อาจเป็นคนตกงานเพราะโควิดมาหารายได้จากนิยายแทนก็ได้ กูแบบ เอ่อออ มึงไม่ให้คุณค่างานเขียนกันเลยเหรอ ใครเขียนไม่ดีห้ามวิจารณ์เลยเพราะชีวิตเขาน่าสงสาร??? ทำเป็นรายการทีวีขายความดราม่าชีวิตต้องสู้ไปได้ งานเขียนงานแปลสมัยนี้ทำไมตำหนิไม่ได้เลยวะ งง

47 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>46 มันหาจุดลงตัวกันไม่ได้ด้วยแหละ บางคนวิจารณ์นิยายเหมือนนักเขียนไปยืมเงินป้ามันห้าร้อยแล้วไม่ยอมคืนน่ะ แล้วก็อ้างว่าติเพื่อก่อ ก่ออะไรล่ะ กระทืบด่าจนเขาจมไปถึงแกนโลกแล้วมั้ง จะเอาอะไรมาก่อ แต่ถ้าวิจารณ์ดีๆ ถนอมน้ำใจกันบ้าง มันไม่น่าเป็นไรนะ แล้วถ้าจะเอาไปเสนอสนพ. คนเขียนเขาก็น่าจะอยากได้ฟีดแบคจริงๆจังๆด้วยแหละกูว่า

48 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>46 วงการนักอ่านวายไทยแม่งอย่างแปลก 5555 เป็นกูถ้าเสียเงินอ่านแล้วเจออะไรแย่ๆเห่ยๆกูก็วิจารณ์หมดอะ แล้วถ้าไม่วิจารณ์วาามันควรปรับปรุงอะไรตรงไหนยังไง มันจะรู้มั้ยอ่ะว่างานตัวเองยังต้องพัฒนา เมื่อก่อนกูไถบอร์ดเด็กดีมีแต่ไอ้พวกนข.มือใหม่เบียวๆเท่านั้นแหละที่รับคำวิจารณ์กันไม่ได้ ไม่งอแงบอกคนวิจารณ์ใจร้ายก็เถียงหัวชนฝา เดี๋ยวนี้เหมือนนข.วายไทยเป็นมือใหม่หัวใจเบียวกันทั้งวงการ แตะมันทีเดียวมันเอาไปดราม่ากระซิกๆกับลูกหาบมัน3วัน

49 Nameless Fanboi Posted ID:CAJ7BSZNp6

บางคนด่าแรงจริง แต่บอกตรงๆหลังจากเจอคอนเทนต์ดีเอ็มทิพย์ในทวิตเตอร์บ่อยๆ กูก็ไม่ค่อยเชื่อพวกเม้นด่าแรงๆละ 555555 ยิ่งพวก anonymous นี่เผลอๆบางเม้นเป็นนักเขียนมาด่าตัวเองเรียกคะแนนสงสาร

50 Nameless Fanboi Posted ID:yXdYZDn8+k

>>47 กูว่าถ้านข.จะกลัวเจอคนวิจารณ์เหี้ยๆขนาดนั้น มึงอย่าโพสต์งานมึงลงเน็ตเลยดีกว่า คือมึงจะดังเบอร์ไหนมึงก็ไม่รอดคำวิจารณ์จากคนเหี้ยอ่ะพูดจริง ตราบใดที่งานมึงถูกเผยแพร่เป็นสาธารณะ มันก็ต้องมีคนหลากหลายมาเจองานมึงเสมอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอคนเหี้ย ทางที่ดีที่สุดคือนข.ทุกคนควรฝึกสกิลยุบหนอพองหนอ ทำใจให้เย็นๆไว้ แล้วก็ตัดบทอีปากแจ๋วที่มาด่างานมึงเหมือนมึงไปฆ่าพ่อมันเลย จบ เอามาลงหาดราม่าก็เหมือนมาหาซีน นข.คนอื่นเขาช่างหัวแม่งแล้วไปหาทางพัฒนางานตัวเองเอา

51 Nameless Fanboi Posted ID:8yOxzxtOqk

>>50 ถ้าวิจารณ์แบบไร้เหตุผลนี่กูว่านักเขียนไม่กลัวหรอก คือคงหงุดหงิดและด่าแม่ไอ้คนเหี้ยที่มาปากหมาแหละ แต่ไม่น่าจะเสียใจอะไรมากมาย เพราะอ่านดูก็รู้ว่าอันไหนวิจารณ์จริงๆ อันไหนมาหาเรื่อง แต่กูว่ามันก็เป็นหน้าที่ของคนอื่นๆในสังคมด้วยว่ะ ถ้าเจออะไรแบบนั้นก็ควรจะช่วยกันส่งเสียงว่าวิจารณ์เหี้ยๆนี่ไม่โอเค มันส่งพลังลบเกินไป และถ้ามีมากๆเข้าแล้วไม่มีใครท้วง เดี๋ยวนักเขียนทั้งหลายงง ตกลงงานที่เขียนไปมันดีหรือไม่ดี ส่วนพวกคำด่าทิพย์เนี่ย ถ้าโดนจับได้ซักทีคงดูไม่จืดเลยนะ ใครอยากเสี่ยงก็เอาเลย แต่กูจะไม่จัดจ์ก่อนเห็นหลักฐาน เพราะบางทีคนเราก็เจอเรื่องเหี้ยที่เหี้ยมากจนอัศจรรย์เหมือนนิยายได้

52 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

หรือว่ามันเป็นเพราะนักเขียนไทยไม่ค่อยเปิดรับคำวิจารณ์วะ คนอ่านวายแปลเลยไม่ค่อยกล้าวิจารณ์งานแปลกันไปด้วย อาจจะกลัวไปเหยียบตีนแฟนคลับเข้าไรงี้

53 Nameless Fanboi Posted ID:oXJXu4ZjqA

>>52 คนไทยไม่ชินกับการวิจารณ์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถนัดอวยมากกว่า ซึ่งกูเดาว่าคงเพราะการศึกษาไทยมันไม่ได้สอนให้คนไทยกล้าคิดกล้าวิเคราะห์วิจารณ์อ่ะ พวกวิชาวิเคราะห์วิจารณ์วรรณกรรมที่ตปท.เขามีเรียนกันตั้งแต่มัธยม เมืองไทยยังไม่มีเลย มีแต่ท่องวรรณคดีเอาไปสอบให้ผ่าน คงามหมายของบทกลอนที่ท่องยังไม่เก็ต พวกที่มันออกมาวิเคราะห์วิจารณ์กันตอนนี้มันเลยกลายเป็นขาดๆเกินๆ อันนี้ไม่กล้าพูด อันนี้แรงไป กูมองว่านิสัยกับการถูกปลูกฝังมาแบบนี้ของคนไทยคือส่งผลต่อวงการการเขียนอย่างแรงเลย

54 Nameless Fanboi Posted ID:8xMBdkq+5D

เมื่อก่อนเคยมีเพจที่ตั้งมาวิจารณ์นิยายแบบแรงๆด้วยนี่ เสียดายๆอะไรสักอย่าง แต่เหมือนเลิกแอคทีฟไปแล้วปะ

55 Nameless Fanboi Posted ID:.Lad6j1Vn1

>>54 อันนั้นวิจารณ์ไม่เชิงสร้างสรรค์ว่ะ มาด่าสั้นๆแล้วจากไป

56 Nameless Fanboi Posted ID:OivS7YU6v5

กูว่ารีวิวในโม่งนี่แหละตรงไปตรงมาสุดละ ไม่ชอบตรงไหนก็ด่า ไม่ต้องรักษาหน้าตัวเองหรือเกรงใจติ่งนิยาย แต่เคยเห็นนักเขียนเอาคห.ในโม่งไปอู๊ดอี๊ดน้อยใจอยู่เหมือนกัน กูเลยแบบ แล้วจะให้กูบ่นที่หนายยยยยย ก็ไม่ได้ไปบ่นใส่นิยายมึงแล้วงายยยยยยยยย โวะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:boKkjZQGMF

>>53 เห็นด้วย มาตอนนี้คนรุ่นใหม่ที่พยายามจะฝึกวิจารณ์ก็ย่อยงานเขียนไม่เป็นกันแล้ว ตีค่างานวรรณกรรมได้แค่ว่าอันไหนมีเนื้อหาเปโด อินเซสต์ แล้วก็ยี้ๆแบนๆอย่างเดียว มันเรียกว่าวิจารณ์งานตรงไหนวะ ส่วนฝั่งคนเขียนเองก็มีแต่กองอวยมาแต่แรก แตะอะไรไม่ได้สักนิด

58 Nameless Fanboi Posted ID:zPJaomywuX

>>57 เออสมัยนี้วิจารณ์สไตล์ฉอด แบบท่องต่อๆกันมาอีกที ไม่ได้ช่วยให้นักเขียนพัฒนางานได้เล้ย

59 Nameless Fanboi Posted ID:9I3cIaVzEw

กูสนับสนุนให้วิจารณ์ แต่อยากให้วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์
อยากให้แก้ไขตรงไหนก็บอก ถ้าจะให้ดี อยากให้เสนอแนะวิธีการแก้ไขมาด้วย
เหมือนดูรายการประกวดร้องเพลง หรือรายการทำอาหารอะ
คือวิจารณ์ได้ แต่ให้ตรงจุด บอกวิธีแก้ไข ไม่ใช่สักแต่ว่าด่า

60 Nameless Fanboi Posted ID:qrTYAzTUFu

>>59 +1 ควรติเพื่อก่อ จะได้พัฒนา แต่คนติก็เดาไม่ถูกเหมือนกันมั้งว่านักเขียนคนไหนจะใจบางบ้าง บางคนติอย่างสุภาพก็ยังรับไม่ได้อ่ะมึง

61 Nameless Fanboi Posted ID:mIUyKqQ8k/

KY กูไม่รู้ว่ามาถูกมู้รึเปล่า แต่คำว่า โพ นี่ตปท.เค้าใช้คำว่าอะไรกันอ่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:9I3cIaVzEw

>>60 ถ้าติแบบสุภาพแล้วยังรับไม่ได้ กูว่าปัญหาก็อยู่ที่คนเขียน
แต่ส่วนใหญ่ที่เจอในนกฟ้าคือ ด่ากราด 55555

63 Nameless Fanboi Posted ID:sQaI0LyCDu

>>61 positionมั้งนะ

64 Nameless Fanboi Posted ID:uPUogrVV8B

>>61 role? position นึกถึงท่าเยมากกว่า

65 Nameless Fanboi Posted ID:9QUHDH6+f1

เดี๋ยวนี้ม่านฮวากับมังฮวาเริ่มแมสขึ้นมามากรึเปล่าวะ กุเห็นหลายสนพ.เริ่มซื้อlcมาพิมพ์เป็นเล่ม จากที่เคยเห็นแค่lcในแอพ

66 Nameless Fanboi Posted ID:AmucMCNPj6

วิจารณ์แรงๆ​ที่กูเจอแล้วรู้สึกว่าดีจริงก็ประเด็นที่นข.ชอบให้พอ.สักแต่เสียบ
พอมีคนฉอดในทวิ​ตว่าในทางปฏิบัติ​มันไม่ได้เสียบง่ายขนาดนั้น ต้องมีหล่อลื่นมีอะไร
หลังจากนั้นกูเห็นเทรนด์การเขียนเปลี่ยนไป มีใช้ถุงยาง เมื่อเทียบกับสักเมื่อสามสี่ปีก่อนอ่ะ เปลี่ยนไปเยอะจิง

67 Nameless Fanboi Posted ID:kWo+qQKVE0

>>65 แมสขึ้นนะ ครส.กูมันเริ่มแมสจากช่วงเรื่องเจ้าหญิงๆอะไรนั่นแล้วคนก็กลับมาอ่านไรพวกนี้เยอะขึ้นอะ

68 Nameless Fanboi Posted ID:FkRvQXf/Us

ดันจ้าาา

69 Nameless Fanboi Posted ID:1V2UJTf3TJ

>>61 ไม่รู้แฮะ เห็นเจอแต่ top / bottom เหมือนเวลาถามโพก็ถามใครบนใครล่างไปเลย ตวต.เค้าไม่ฟิกโพนินะ แต่เดี๋ยวนี้เสพนิยายฝั่งเราแล้วชักจะหลากหลายไปหมด ทั้งเมะเคะ กองโชว ของเกาหลีใช้อะไรวะ กุไม่ค่อยได้เข้าไปย่างกรายสายเกาเลยไม่รู้

70 Nameless Fanboi Posted ID:OhjvOh+R4x

https://www.ฟบ.com/groups/ybooks4share/posts/3913714825407012 นทก โดนแหกแล้วหรอ

71 Nameless Fanboi Posted ID:U4Wo.2xHS3

>>70 ทำไรไม่ได้หรอกมึง ลูกหาบเยอะ ใต้โพสนี้ก็มีคนไปแก้ต่างแทนแล้ว เห็นว่ามังงะก็คือมังงะนิยายก็คือนิยาย ต่อให้ลอกจริงก็แค่ตอนเดียวเอง ที่เหลือไรท์นทก คิดเองหมดเลยนะ โครงเรื่องแบบรี้มีเยอะจะคล้ายกันบ้างก็ไม่แปลก บลาๆๆ เหอะๆ อวยกันสุดๆ ไม่สนใดๆ

72 Nameless Fanboi Posted ID:R+UzPJDcyc

>>70 ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแต่อยากรู้อ่ะ มีประเด็นอะไรเหรอ

73 Nameless Fanboi Posted ID:OhjvOh+R4x

>>72 เนื้อหาตอนพิเศษไปคล้ายๆกับมังงะวายญี่ปุ่นเรื่องนึง เลยมีคนเอาถามในกลุ่มว่าก็อปมั้ยยังไง ตอนกูเห็นโพสต์ยังไม่มีเม้น แต่ตอนนี้ไปดูอีกที โพสต์ปลิวไปละ

74 Nameless Fanboi Posted ID:+QzLp.D7Jc

อ้าว มาไม่ทัน ทำไมลบอะ >>71 กูว่าไม่ใช่ตอนเดียวหรอก เคยเจอเรื่องอื่นไปคล้ายนิยายญี่ปุ่นเก่าๆเหมือนกัน แต่คงไม่มีใครจับได้เพราะมันเก่าเป็นสิบปีแล้ว

75 Nameless Fanboi Posted ID:KIQEYYAGML

>>70 กูมาเผือกไม่ทัน ตอนพิเศษเรื่องไหนไปลอกเรื่องไหนมาวะ
>>74 เรื่องไหนอ่ะที่ว่าคล้าย กูว่านางแต่งนิยายได้เร็ว แต่เรื่องลอกพล็อตนี่เพิ่งรู้ว่ะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:U4Wo.2xHS3

พวกมึงไปดูในเพจนนทกรได้นะ เขาแถลงแล้ว กูไม่าีปัญหาอะไรกับคำแถลง แต่ค่อนข้างรังเกียจลูกหาบเขา ระดับคุณนทก ไม่ต้องลอกใคนหรอกค่ะ เหอะๆ

77 Nameless Fanboi Posted ID:3oJSvzIFnS

>>76 ให้กำลังใจกันปกติก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องมายกยอ อ่านคอมเม้นลูกหาบทีไรกูละพะอืดพะอม

78 Nameless Fanboi Posted ID:aJHFLyB17S

พูดถึงเรื่องวิจารณ์ นิยายกูเคยมีนักอ่านสายฉอดมาเม้นวิจารณ์ แต่กูอ่านยังไงก็รู้สึกว่าด่า กูเลยเป็นโรคจิตตามติดไปดูชีวิตของนาง ถึงได้เห็นว่านางเป็นนักเขียนโนเนมเหมือนกัน เขียนแย่กว่ากูไม่ว่าในทวิตเอานักอ่านไปด่าเสียๆหายๆเวลานางอัพแล้วนักอ่านไม่สนใจนางไม่เม้นให้กำลังใจนางหรือมาวิจารณ์พล็อตนาง นางบอกนางทำขนาดนี้นักอ่านยังไม่สนใจวันไหนนางไม่ทำจะมาร่ำร้องไม่ได้ 55555 และอีกมากมายคำหยาบสัส ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้นางเพิ่งรีทวิตเกี่ยวกับประเด็นนข.สมัยนี้อ่อนไหวกับคำวิจารณ์ กูประสาทแดกเลยแทนเลิกส่องแม่ง เหมือนเจอคนบ้า555555 นางไม่ดังการที่นางด่านักอ่านในทวิตเลยไม่มีใครมาเผาผีนาง แต่ถ้ามีฐานคนอ่านขึ้นมาหน่อย กูว่าคงโดนแขวนแล้วล่ะ ไอ่พวกที่ปากบอกวิจารณ์ๆๆคนอื่น แต่พอตัวเองโดนบ้างกูว่าดิ้นชิบหายเลย

79 Nameless Fanboi Posted ID:ip9uvphFbU

>>75 วันดีวิทยา
คือนายเอกแกล้งให้เพื่อนดูดคอเพื่อให้พระเอกหึง <<< แค่นี้แหละ - - กูไม่ได้อวยอะไรนะวันดีอะไรนี่ไม่ได้ซื้ออ่านอ่านแค่ใน RAW
กูอยากบอกแค่ว่า โอ้ยยยย ทำแบบนี้อ่ะไม่ต้องการ์ตูนหรอกในชีวิตจริงกูก็เคยเจอจ้าาา แถมพล๊อตชายหญิงที่กูเคยอ่านมาแม่งก็แนวนี้โครตตตจะเยอะ

80 Nameless Fanboi Posted ID:TVlu0CAvsq

Ky จะคุยนอกเรื่องที่พวกมึงคุยกันอยู่มันพิมพ์งี้ป่ะวะ กูไม่ได้เข้าฟุนานละ;-; พวกมึง กูเพิ่งมีโอกาสได้ดูซีรีส์นิทานพันดาวอะ จำได้ว่าเคยอ่านแบบนิยายน้านนานมาละ ตอนนั้นยังอินกับคนบนฟ้าแต่ตอนนี้ไม่กูก็เลยขายไปละ ทีนี้กูชอบซีรีส์มาก กูรู้สึกว่าเขาทำได้ดีกว่าตอนกูอ่านนิยายอีก(อย่างน้อยก็ไม่ได้พยายามยัดเยียดให้กูเลิฟคนบนฟ้าเหมือนในนิยาย… ซึ่งกูขอโทษแฟนนิยายมาณ ที่นี้ด้วย) ทีนี้พอกูชอบซีรีส์ก็เลยนึกขึ้นได้ว่านข.เขาแต่งตอนพิเศษออกมาด้วย กูเลยไปสรรหามากะจะอ่าน แต่พอเห็นรีวิวว่าเขียนถึงราชกิจบลาบลาไปยี่สิบกว่าหน้า เขียนถึงผู้กองกับคุณครูแค่กระจิ๊บกระจ๊อย กูเลยจ๋อยจอดทั้งที่ไม่ทันได้แจว กูเสียดายว่ะ นข.เขาเป็นสลอ่อวะ(ขอโทษอีกเรื่องถ้าแฟนนข.ไม่พอใจมู้กู) คือกูเคยชอบงานเขามากอ่ะ อยากอุดหนุนแต่อุดมการณ์เราต่างกันกูเลยขอจากลาอย่างสงบสุข ปล.ถ้าผิดมู้ต้องขออภัย กูไม่ได้เข้าฟุนานละ โลกภายนอกกูก็ไม่มีที่ให้พูดคุยได้เล้ย

81 Nameless Fanboi Posted ID:jzwpeaohZb

>>80 เขียนนานแล้วไง เมิงเองยังเคยอินกับคนบนฟ้าเลย ถ้าเมิงเป็นนขเมิงอาจจะเขียนนิยายแนวนี้ออกมาเหมือนกันก็ได้

82 Nameless Fanboi Posted ID:PQjVDLh4OR

>>81 แต่ตอนมีคนไปวิจารณ์ประเด็นนี้ในทวิต นข.มีการแซะคนที่ไปวิจารณ์ด้วยน้า

83 Nameless Fanboi Posted ID:Rm3mqU5skv

>>81 พูดถึงในมุมคนอ่านถ้าจะซื้อ เขาไม่ได้ซื้อเพราะอยากอ่านชีวประวัติฉบับย่อป่ะวะ

84 Nameless Fanboi Posted ID:Rm3mqU5skv

>>82 อื้อหือ มีแซะกลับด้วยอ่อวะ กูไม่ได้ติดตามเขาอ่ะ จริงๆไม่ได้ตามวายไทยมาได้สักพักแล้วด้วยซ้ำ ตอนแรกกูกะจะไม่ดูซีรีส์เพราะจำได้แม่นว่าในนิยายมีฉากอภินิหารคนบนฟ้าอยู่ เกือบพลาดละกู

85 Nameless Fanboi Posted ID:SdHR9hfSLI

ky กูนั่งย้อนอ่านกระทู้เก่าตั้งแต่ปีมะโว้ที่พวกมึงเม้าส์เซเลป ป.ปลากันว่าเคยเอาแฟนอาร์ตงานคนอื่นมาโมเมว่าตัวเองวาดเองนี่เรื่องจริงเหรอวะ กูเงิบ เขาทำกับด้อมอะไรอ่ะ ใช่วายจีนป่ะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:YoS01/xrjI

>>85 มู้ไหนสมัยไหนวะ แปะวาร์ปมาซิ

87 Nameless Fanboi Posted ID:noirV2Z7VM

>>85 กลรี่?? ตั้งแต่ตอนเค้าอยู่ป.4-5มั้งมึงนานมากล่ะนะ​ กูทันดราม่าเค้ายอมรับที่แปลกับขอโทษก็จบเรื่อง​ หลังๆไม่ได้ทำอีก

ky มีใครอ่าน​คุณผู้ช่วยสถาปนิกบ้างมั้ยว่ะ​ กูอยากรู้นายเอกจะทำตัวเปิ่นโกหกโดนจับได้ละหัวเราะแห้งๆจนจบเล่มมั้ย​ กูจะได้ไม่ไปต่อ

88 Nameless Fanboi Posted ID:jzwpeaohZb

>>83 ไม่รู้ว่ะไม่เคยอ่าน แต่ถ้าสมัยก่อนมันเคยยัดเข้าไปได้ขนาดนั้นแล้วไม่โดนด่าแปลว่ามันเองก็เขียนได้ดีพอตัว เมื่อก่อนกูเห็นมีแต่คนอวยเรื่องนี้
>>82 เออคุ้นๆเหมือนมีในมู้ก่อนๆ จำไม่ได้ละว่าแซะกลับยังไง แต่นางไม่ได้ออกมาปกป้องใครแน่ๆล่ะ นางปกป้องตัวเอง

89 Nameless Fanboi Posted ID:OCFfdwQzeI

>>87 อ่านเถอะมึง สนุก เป็นวายจีนที่ดีที่สุดในช่วงสองสามปีนี้เลย คหสตนะ

90 Nameless Fanboi Posted ID:eDSg2bBWgu

>>87 ผู้ช่วยสถาปนิก กุจอดตั้งอต่เล่มแรก รำคาญทั้งนายเอก รำคาญทั้งความซูจีน

91 Nameless Fanboi Posted ID:PCzCw.PRKb

>>87 ถ้าไม่รอด1-2กูไม่ค่อยแนะนำเลย เพราะสำหรับกูเล่ม3-4แผ่วเข็นยากกว่า ตอนนี้กูยังเข็นเล่ม4 ไม่รอดเลย นิสัยนายเอกก็ประมาณเล่มหนึ่งนั้นเเหละไม่เปลี่ยนไปมากหรอกกว่านี้หรอก ทั้งความซูทั้งการอวยจีน ที่สำคัญที่ทำให้กูอคติเลยคือการแอบคบกันที่ทำงาน กูอึดอัดกูไม่ชอบสไตล์นี้อยู่แล้ว กูอ่านถึงเล่ม3ที่นางเเอบคบกันแล้วไม่มีการเล่นประเด็นนี้ว่าไม่เหมาะสมหรือสมควรกูก็ไม่ค่อยอยากอ่านต่อล่ะ กูค่อนข้างคอนเซินเรื่องนี้ส่วนตัว ใดๆมันคือความรู้สึกส่วนตัวกูล้วนๆกูเห็นหลายคนก็ชอบอยู่ มึงอาจจะชอบเล่ม 3-4 มากกว่า 1-2 ก็ได้

92 Nameless Fanboi Posted ID:RrTTubBPSu

>>87 ลองอ่านเล่ม1ก่อน ถ้าโอเคก็ไปต่อ สำหรับกูกูชอบ เป็นSoLที่ดีอันดับต้นๆในใจเลย พาร์ททำงานสนุกดี แต่ตัวละครอวยทัศนคติแบบจีนมาก อวยความproductive ชีวิตต้องมีสาระตลอดงี้ แล้วกูก็ไม่ชอบนายเอกด้วย รู้สึกว่าเป็นพวกลูกคนรวยมีพรีวิเลจแต่ก็ยังมาเย้วๆว่าต่อให้เทียบกับลูกคนธรรมดา(ที่หาบ้านจนไม่ได้มีเส้นสายข้าราชการให้ไปเรียนต่อเมืองนอกแบบตัวเอง)ก็ยังลำบากน้าาา ซึ่งกูว่ามันไม่ใช่อะ5555 นายเอกชีวิตดีกว่าใครหลายคนเยอะ ที่ผ่านมาก็ได้ฐานะครอบครัวอุ้มไว้หลายอย่าง แต่ก็ดูไม่ตระหนักถึงตรงนี้เลย แต่ทั้งนี้ กูยังพอรับได้ ทำเบลอๆข้ามๆไปได้บ้าง

93 Nameless Fanboi Posted ID:GaBL47vYgf

unpopular opinion เบื่อเวลาเห็นสายนิยายจีนบ่นรำคาญความชาตินิยมจีน ก็มันนิยายจีนอะ มึงคาดหวังอะไร อยากให้คนจีนฉอดรัฐบาลจีนหรือไง ถ้ารำคาญทัศนคติคนจีนก็ไม่ต้องอ่านนิยายที่คนจีนเขียนก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องฝืนใจอ่าน

94 Nameless Fanboi Posted ID:dUFKrba.Tr

นี่รู้สึกคล้ายๆ >>91 คือตอนอ่านเล่มแรกจบแล้วอยากอ่านต่อมาก แต่เล่ม 3-4 ค่อนข้างเนือย อ่านจบแล้วก็จบแล้วคงไม่หยิบมาอ่านซ้ำบ่อยเท่าไหรหลักๆ คือรำคาญนิสัยนายเอกหลายอย่าง รู้สึกคิดน้อย เอาแต่ใจ ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่

95 Nameless Fanboi Posted ID:eDSg2bBWgu

แค่บอกว่ารำคาญนายเอก รำคาญความซูของนายเอกก็โดนไล่แล้ว5555 กูไม่ไป กูจะอ่านนิยายจีนและรีวิวต่อ เรื่องไหนสนุกกูก็บอก เรื่องไหนน่ารำคาญกูก็พูดตรงๆ

96 Nameless Fanboi Posted ID:RrTTubBPSu

>>93 อ่าม คือกูก็นึกว่าคนเขียนยุคใหม่ๆจะมีความmodernizeกว่านี้อ่าค่าา กูบ่นเรื่องความอวยจีนก็คือไปขวางหูขวางตาคนอื่นเนอะ555555555

หยอกๆนะพส ก็เข้าใจอยู่ว่านิยายคนจีนจะเอาไรมาก แต่ในฐานะคนซื้อ กูก็มีสิทธิ์บ่นอ่า เข้าใจก็จริงแต่ชอบไม่ชอบมันอีกเรื่องนะ แล้วนิยายเรื่องนึงมันก็มีดีกว่าโฟกัสแค่เรื่องชาตินิยมอ่า จุดที่ชอบไม่ชอบก็มีหลายอย่าง ถ้าตัดเรื่องชาตินิยมออก อย่างอื่นมันก็มีดีเยอะอะ จะให้กูเลิกซื้อเลยก็ยากนะคะ555555

97 Nameless Fanboi Posted ID:9Ri4LZjwzj

>>93 please stay unpopular kaaa

98 Nameless Fanboi Posted ID:QWYcnOps5z

>>96 กลับกันเลย คนเขียนรุ่นใหม่ๆนี่แหละคือรุ่นที่โดนล้างสมองมาตั้งแต่เกิด คนจีนรุ่นใหม่จะอินวันไชน่ายิ่งกว่าคนรุ่นเก่าๆอีก มันโดนโพรพากันด้ามาหนักมากอะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:OCFfdwQzeI

>>90 >>91 >>92 กูรักผู้ช่วยสถามากกกกก แต่ก็เข้าใจพวกมึง ฮือ ตอนอ่านกูก็ขัดใจบางจุด แต่อ่านจบแล้วกูอิ่มเอมอ่ะ ช่วงนี้ยังไม่เจอเรื่องอื่นที่อ่านจบแล้วพึงพอใจมากเท่าเรื่องนี้

100 Nameless Fanboi Posted ID:dfHYCXSZ8d

เอาจริงกูว่าผู้ช่วยสถาปนิก overated อะ คนอ่านแล้วชอบจะอวยกันเว่อวังมาก แต่ก็เข้าใจแหละเพราะมันไม่แมสเท่านิยายจีนเรื่องอื่นๆ ก็เลยอยากโฆษณาเว่อๆให้มาอ่านกัน

101 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>100 ลางเนื้อชอบลางยาไงมึง ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันนน
เหมือนสเปคผู้ชายในฝันไง

102 Nameless Fanboi Posted ID:dfHYCXSZ8d

>>101 กูเข้าใจนะว่าคนเราชอบไม่เหมือนกัน แต่เวลาพูดถึงหนังสือที่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องอวยอย่างเดียวไงมึง 555555 เวลากูอวยหนังสือที่กูชอบกูจะไม่ค่อยอวยเว่อๆนะ กูกลัวคนอ่านคาดหวังแล้วผิดหวังอะ 5555555

103 Nameless Fanboi Posted ID:rh2sx3tZsR

>>100 กูว่านิยายจีนปกติก็ถูกอวยเว่อร์เกินในไทยหลายเรื่องนะไม่ใช่เรื่องนี้ เห็นเวลาคนขายเรื่องนี้ชอบเน้นชีวิตทำงานแนว Slice of life เป็นจุดขายกูเลยเดาว่าสาเหตุมันเป็นวายปจบที่เน้นชีวิตทำงานหนักกว่าเรื่องอื่น เล่นเรื่องงานในออฟฟิศเป็นพ้อย คนไม่ค่อยเจอ เลยถูกไฮป์หนักไป ตอนเเรกกูก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับเรื่องนี้นะ มันใหม่ในสายวายหน่อยๆ แต่หลังจากนั้นกูเจอเรื่องแนวนี้ที่กูชอบ/ถูกใจมากกว่าพอกลับมาอ่านเล่ม 3,4 ความรู้สึกดรอปไปเยอะเลย

104 Nameless Fanboi Posted ID:NcRkOve5oe

>>103 จริง กุนึกถึงที่ในโม่งเคยคุยกัน (โม่งปะวะ ไม่แน่ใจ) ว่าคนไทยจะไม่ค่อยตำหนินิยาย บางคนก็ไม่ชอบติเพราะอยากอวยมากกว่า บางคนก็ไม่กล้าติเพราะกลัวลูกหาบ ส่วนใหญ่รีวิวเลยออกมาในสภาพอวยเว่อเกินเหตุ

105 Nameless Fanboi Posted ID:dfHYCXSZ8d

>>103 เรื่องที่ถูกใจกว่าคือเรื่องอะไรรึเพื่อนโม่ง ป้ายยาซิ

106 Nameless Fanboi Posted ID:rh2sx3tZsR

>>104 ยุคนี้มันวิจารณ์สายผลิตไม่ได้อ่ะมึง ว่านิดหน่อยก็หาว่าตัดกำลังใจเสี่ยงโดนคนด่าอีก รีวิวแนววิเคราะห์ติเตียนลงลึกเลยไม่ค่อยมี มีแต่รีวิวเน้นอวยข้ามจุดด้อยจุดเสียไป ทั้งที่สายผลิตควรรับฟีดแบคและดูว่าควรแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเพื่อพัฒนา แต่ยุคนี้ผู้เสพงานกลายเป็นเลี้ยงสายผลิตเหมือนไข่ในหินเกินไป กูเลยไม่ค่อยเชื่อรีวิวบนบกเท่าไร

107 Nameless Fanboi Posted ID:L1xC8ka/QF

>>106 ส่วนรีวิวในโม่งก็มีโม่งคอยขัดขากันเองว่าม้า เลยไม่ค่อยมีใครมารีวิวกันแล้ว 555555555

108 Nameless Fanboi Posted ID:2VpuGXDXUq

>>105 ค่อยๆรัก เจ๋งพัท วายไทย กูเคยขายในมู้ชั้นหนังสือมู้68 ลองไปเสิชคีย์เวิร์ด เจ๋งพัท อ่านได้ ถ้ามึงอยากอ่านแนวเน้นทำงานออฟฟิศ Slice of life,Slow burn สต.กูชอบอันนี้มากกว่า ชีวิตทำงานละเอียดยิบเหมือนกัน ที่สำคัญกูชอบทัศนคตินักเขียนที่กูสัมผัสได้จากงานเขียนของเขาด้วย ถูกจริตกูมาก อันนี้คหสต.ย้ำอีกที คนอ่านวายจีนไม่มองวายไทยกูก็เข้าใจได้ แต่เรื่องนี้เป็นวายไทยที่กูยอมรับเรื่องหนึ่ง ขออนุญาตตั้งแผงขายของ กันยากำลังจะออก 3 เล่มจบ ไปลองอ่านกันได้

109 Nameless Fanboi Posted ID:2VpuGXDXUq

>>107 อันนี้จริงมึง บางที่กูก็อินไปหน่อย ชอบขาย แต่ต้องระวังโคตรว่าเยอะเกินไปไหม กลัวจะโดนว่าเป็นม้า

110 Nameless Fanboi Posted ID:V.xx+ixomz

>>108 เจ๋งพัทนี่ได้ยินกิตติศัพท์มานาน กูเคยไปลองอ่านอยู่สามสี่ตอน แต่กูไม่ได้อ่านวายไทยมานานมาก มาอ่านเรื่องนี้เจอประโยคขึ้นต้นด้วยคำกริยาแบบไม่มีประธานรัวๆแล้วกูคัลเจอร์ช็อกนิดนึง กูเลยเลิกอ่านไป

111 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>110 เดี๋ยวนี้วายไทยฮิตเขียนแบบนี้กันหมด กูอ่านแล้วรู้สึกแปลกมากกก แต่เคยเห็นคนถกกันในทวิต หลายๆคนบอกไม่แปลก กูคงปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของภาษาไม่ทันเอง

112 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>111 มีประโยคตัวอย่างปะ ที่ว่าเอาคำกริยาขึ้นก่อน
กูนึกภาพไม่ออก

113 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>112 กูแต่งขึ้นมาใหม่เองนะ เช่นขึ้นย่อหน้าใหม่ว่า “เดินลงบันไดแล้วเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบนมออกมา”
หรือไม่ก็มีบทพูดมาก่อน เช่น
“บ้าน่า!” สบถอย่างหัวเสีย “เป็นไปไม่ได้!” เดินปึงปังออกไป
อะไรแบบนี้อะมึง เดี๋ยวนี้วายไทยเป็นกันเยอะมาก แต่วายแปลแทบไม่มีประโยคแบบนี้เลย

114 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>113 เทรนภาษาญี่ปุ่นเหรอมึง 5555
ภาษาญี่ปุ่นชอบละประธานที่เป็นบุรุษที่ 1 นะ
แต่กูไม่เคยเจอในประโยคไทย
นิยายวายไทยสมัยเก่าก็ไม่เป็นนะ ละประธานเนี่ย
งงเลย วายไทยปัจจุบันมันมาเทรนนี้ได้ไง

115 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>114 กูเจอประโยคแบบนี้บ่อยๆตามคอมมู/บอทอ พวกเล่นเป็นตัวละครแล้วมาโรลคุยกันตามโซเชียล มันจะคุยกันในลักษณะละประธานเพราะรู้กันอยู่แล้วว่าคนที่พูดเป็นคนทำกริยานั้นๆกูเลยสันนิษฐานว่าอาจจะเริ่มมาจากพวกนี้แหละ แล้วคนที่เล่นอะไรพวกนี้บ่อยๆก็จะไม่รู้สึกขัดเวลาเจอประโยคละประธานในนิยาย

116 Nameless Fanboi Posted ID:O.gi4BVS9z

>>115 *คอมมู/บอท เดี๋ยวงงว่าบอทอคืออะไร 55555

117 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

กูอ่านวายไทย เจอประโยคพวกนี้ไม่บ่อยนะ แต่ตัวละครพูดภาษาทวิตนี่เจอบ่อยชิบ

118 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

กูไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกเพราะมันเป็นการบรรยายแบบบุรุษที่หนึ่งมั้ง มองในมุมมองพัทไม่ใช่บรรยายมุมมองพระเจ้าที่จะต้องมีประธานหมด กูเลยรู้สึกว่าแบบนี้โอเคแล้ว เพราะก็รู้ว่าเป็นพัทพูดอยู่ เป็นพัททำ พัทคิด เป็นสไตล์เขียนของเขามันไม่ได้แปลกในใจกูเลย หรือเพราะตอนเด็กๆก็อ่านจสลูกกวาดที่เป็นการบรรยายบุรุษที่ 1 บ่อยวะ กูชินกับการคิดในใจโวยวายในใจไรงี้ 555555555 ถ้ามึงไม่ทักกูก็ไม่รู้สึกเลยว่ามันล่ะประธานเเบบนั้นอยู่

119 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

>>118 ไม่มึง จริงๆคือมันเป็นการเขียนที่แหกหลักภาษาไทยเลยไง ประโยคต้องมีประธาน+กริยา อันนี้คือเบสิกมากๆ มึงอยากจับประธานไปไว้ตรงไหนของประโยคก็ได้ แต่อย่างน้อยต้องมีประธาน ไม่งั้นมันก็ไม่ใช่ประโยค นี่ไม่ใช่ภาษาญป.

120 Nameless Fanboi Posted ID:LcLvGuzJo6

เอออีกอย่าง ละไม่งั้นทำไมนิยายแปลญป.ถึงไม่แปลแบบละประธานแบบมึงว่าบ้าง กูอ่านมาก็เห็นเขาใส่ประธานกันทั้งนั้น มันน่าตั้งคำถามมั้ยว่าหรือจริงๆมันจะไม่ถูก คนแค่ชินกับการที่นักเขียนไทยทำสิ่งที่ผิด?

121 Nameless Fanboi Posted ID:+1VSHPpphS

กูเจอบ่อยสมัยอ่านฟิค แบบบทพูดมาก่อนนี่เจอเป็นปกติเลย

122 Nameless Fanboi Posted ID:Hc.nan9Dbq

บันเทิงคดีค่อนข้างอิสระทางภาษา ดังนั้นไม่ต้องเขียนถูกหลักไวยากรณ์ประธาน+กริยาก็ได้ แปลตปท.คนละไวยากรณ์กับไทย คนยังอ่านแล้วโอเคได้เลย ดังนั้นตราบเท่าที่สื่อความรู้เรื่อง ทำให้อารมณ์ของเรื่องไปเร็วทันใจตามที่คนเขียนต้องการก็ปล่อยให้ละประธานไปเถอะ

123 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>119 คือกูมองว่าการบรรยายบุรุษที่หนึ่ง ทุกคนทราบกันดีว่าเรากำลังอยู่ในมุมมองของพัท ดังนั้นทุกประโยคที่พูดหรือสิ่งที่กำลังกระทำอยู่มี พัท=ประธาน อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ไว้ในทุกประโยค สามารถสื่อความหมายให้เข้าใจได้ ไม่ผิด และคิดว่ามันสามารถปรับเปลี่ยนภาษาให้เป็นไปตามยุคสมัยได้โดนไม่ระบุชัดว่าเป็นเรื่องที่ผิดนะ

124 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>120 กูเข้าใจที่มึงสื่อนะ แต่กูไม่อยากให้มึงขี้ชัดไปเลยว่าผิดไม่สามารถทำได้ทั้งที่วิธีนี้มันก็สื่อใจว่าให้ผู้อ่านได้เข้าใจเหมือนกัน

125 Nameless Fanboi Posted ID:xA8575fXB1

กูว่าพวกมึงแค่หาข้ออ้างให้นิยายไทยที่มึงชอบกับนขไทยที่เขียนแบบนี้อ่ะ5555 หรือพวกมึงไม่เคยรู้ว่ามันมีคนที่เขียนนิยายแบบเปิดมาทั้งย่อหน้าหาประธานไม่เจอเลย ส่วนเรื่องเอาคำพูดขึ้นก่อนนี่ปกติมากแล้วไม่จำเป็นต้องละประธานเวลาเขียนเลย คนที่เขียนแบบเอาคำพูดขึ้นก่อนแล้วหลังจากนั้นก็มีคำนามสรรพนามบอกว่าใครพูดมีเยอะแยะ มันไม่ได้ทำให้ประโยคยืดเยื้ออะไรด้วย(“เอาจริงดิ” ผมพูดพลางเกาคอ กูยกตัวอย่าง) กูเคยอ่านนิยายสมัยJLSบูมเหมือนกันนะแต่ก็เพิ่งมาเจอคนละประธานกันเยอะขนาดนี้กับวงการวายนี่แหละ

126 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

>>119 แต่คิดในชีวิตประจำวัน คนไทยก็ละประธานเป็นเรื่องปกตินะ
"จะไปไหนอ่ะ"
"กินข้าว"

"วันนี้ทำงานเป็นไงบ้าง"
"บัดซบมาก"
ในทางปฏิบัติยังพูดละประธานเลย ไม่ต้องมีประธานทุกครั้งคนก็เข้าใจ ถ้าเข้าใจได้ก็ถือว่าการสื่อสารประสบความสำเร็จแล้วแหละ นึกภาพเวลาเจอคนพูดแบบละประธานแล้วไปบอกว่าไม่ได้นะๆ ต้องมีประธานสิ มีกริยาอย่างเดียวไม่ได้ คนฟังคงอีหยังวะ

127 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>125 เรื่องกูชอบเจ๋งพัทเป็นเรื่องจริง กูว่าไม่ได้พยายามหาข้ออ้างให้ยอมรับวิธีบรรยายแบบนี้ ก่อนที่กูจะอ่านเรื่องนี้จนกูชอบได้ กูก็ต้องยอมรับวิธีการบรรยายแบบนี้ได้ก่อน เพราะถ้ากูยอมรับที่เขาเเต่งเเบบนี้ไม่ได้แต่เเรกมองว่ามันแปลก กูก็คงปิดตั้งแต่ตอนเเรก (ซึ่งก็มีกลายเรื่องที่คนรีวิวว่าดีบลาๆ แต่กูไม่รอดเพราะสำนวน+การบรรยายเขาแล้วก็ปิดตั้งแต่ตอนแรกหรือตอนตัวอย่างแรก ทั้งวายไทยและวายแปล) และกูก็ไม่รู้ด้วยว่ามีคนละเยอะอย่างที่มึงว่า ไม่รู้มึงเคยลองอ่านเจ๋งพัทไหม แต่กูว่านขไม่ได้ละทั้งหมดถ้ายังไม่ก็ลองอ่านดูก่อนได้จะได้ตัดสินได้ว่ามันละประธานเยอะอย่างที่ว่าไหม หรือถ้ามึงอ่านแล้วยังรู้สึกว่าเป็นอย่างนี้กูก็โอเคยอมรับความคิดเห็นของมึง

128 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

กูว่าการละประธาน มันผิดหลักภาษาไทย
คือถ้าเขียนเรียงความ แล้วละประธาน ครูภาษาไทยคงให้สอบตก หรือเขียนรายงาน ทำวิทยานิพนธ์ อ.มหาลัยก็จะให้แก้ไข เพราะมันผิดหลักภาษา
แต่พอดีนิยายมันเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ เลยอนุโลมได้
วัยรุ่นคงจะชินกับการละประธาน แต่ถ้าให้รุ่นป้าอายุ 40-50 มาอ่าน คงจะรับไม่ได้แน่ๆ
แต่อย่างว่าแหละ ภาษามันดิ้นได้
นิยายแจ่มใสยุคนึงยังมีการพิมพ์อีโมติคอนลงไปในนิยายได้เลย เพราะเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ

129 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>128 ต่อ
แต่ส่วนตัวกูไม่ชิน และคงไม่อ่าน สงสัยเพราะกูอายุเยอะ 5555

130 Nameless Fanboi Posted ID:6CkSx4kXMO

>>126 มันคือ คิด กับพูด ไม่ใช่เขียนนี่มึง ไม่เหมือนกันหรอก เทียบทำไม

131 Nameless Fanboi Posted ID:t1CL57ma+F

Ky เวลาผญจิ้นเพื่อนชายที่สนิทกันมากๆ หรือทำอะไรน่ารักๆ ว่าเค้าชอบกันแหละตัวเอง กรี๊ด
ผชเค้าจะรังเกียจที่เราคิดแบบนี้กันป่าววะ

132 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

>>130 มึงคิดแบบมีประธานเหรอ กูคิดแบบละประธานนะ

133 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

อันนี้กูขอถามเป็นความรู้หน่อย แล้วถ้าการบรรยายบุรุษที่หนึ่ง แล้วเป็นการบรรยายความคิดของตัวละครบุรุษที่หนึ่งนั้นๆ สามารถละประธานได้ไหมอ่ะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>130 เวลาพูดมันละประธาน
แต่นิยายมันเป็นการเขียนไง
ปกติการเขียน มันต้องมีประธาน ถึงจะถูกต้องตามหลักภาษา
มึงลองเขียนเรียงความวันแม่แบบละประธานแล้วส่งครูภาษาไทยดิ
กูให้ 5/10 คะแนน

135 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>133 ขนาดมึงเขียน มึงยังใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 เลย
อันนี้"กู"ขอถามเป็นความรู้หน่อย
กูเลยคิดว่าตามหลักภาษามันต้องมีประธาน
แต่นิยายมันเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ เลยละประธานได้ เพราะไม่เอาความถูกต้อง

136 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>135 ไม่ๆ ที่กูต้องการจะถามคือการบรรยายสิ่งที่ตัวละครนั้นคิดสามารถละประธานได้ไหม อันนี้ใช้กูเพราะ’กู’ถามเหมือนกูพูดออกมา แต่ถ้าเป็นความคิดของตัวละครนั้นๆจะละได้ไหม หรือกูอ่านที่มึงตอบไม่เข้าใจเอง กูงง

137 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

>>133 เขียนนิยายไม่ใช่เรียงความ ดังนั้นไม่ต้องเคร่งหลักภาษามากก็ได้ ภาษามันดิ้นได้ ครูภาษาไทยไม่มาแหกอกมึงหรอก

ตัวอย่างภาษาดิ้นได้ก็บทพูดนั่นแหละ ต่อให้อยู่ในเครื่องหมาย " " ก็เป็นการเขียนอยู่ดี ที่คนยอมรับเพราะความเคยชิน ตอนนี้การเขียนบรรยายแล้วละประธานคนส่วนหนึ่งก็ชินกันแล้วตามที่เห็นที่มีคนเขียนคนอ่านในเว็บ คนอีกส่วนไม่ชินก็ไม่ผิดถ้าไม่ไปก้าวก่ายชี้หน้าเขา ทางใครทางมัน

138 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>137 ก็กูบอกตั้งแต่แรกแล้วไง ว่านิยายมันเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการ เลยละได้
แต่ถ้าเอาตามทฤษฎีหลักภาษาไทย การละประธานมันผิดไวยากรณ์

139 Nameless Fanboi Posted ID:gK1dvT/JsW

อยากอ่านแบบไหนก็อ่าน อยากเขียนแบบไหนก็เขียน จะถูกผิดหลักอะไรทุกคนรู้ ใครยอมรับได้ก็ตามนั้น ส่วนตัวกุตามไม่ทันเรื่องการละประธาน อ่านไม่ค่อยได้ งานเขียนคืองานเขียน การพูดคือการพูดคนละความหมายส่วนกัน ต่อให้ใครบรรยายมันก็คืองานเขียน ตรงนี้ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ แต่อย่างว่าการใช้ภาษาพูดในงานเขียนก็มีเยอะแยะ ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปคงต้องปรับตัวให้ได้ แม้กระทั่งกูเอง

ส่วนเรื่องเจ๋งพัท ส่วนตัวกุชอบงานเขียนเค้านะ แต่อ่านงานเค้าเรื่องนี้ไม่ได้ หนึ่งเพราะแต่ละตอนมันยาวไป กูอ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย สอง ที่พูดว่างานแน่น ก็คงปฏิเสธไม่ได้มั้งว่าแน่น แต่ถามสมเหตุสมผลมั้ย ก็มีจุดให้กูกังขาและมีความคิดตลคที่กูงง ๆ พอสมควรในเรื่องงาน ทำให้กูหยุดอ่าน แต่มันก็อาจเกิดขึ้นได้จริงๆ มั้ง แค่กูกับคนที่อ่านงานเค้าเอ๊ะจุดเดียวกัน เรื่องมันดีตามที่ทุกคนอวยแหละ แต่มันก็พ่วงมาด้วยความคาดหวังทำให้กูอ่านเลยอ่านแบบจริงจังมากไปหน่อย

>>131 อันนี้แล้วแต่คน กูเจอมาทั้งทำหน้าขยะแขยง ทำหน้าไม่เข้าใจ ทำหน้าแบบมองหน้ากูแล้วแบบกูเป็นประสาท เป็นผีบ้า หรือมีทำหน้าแบบน่ารักดี คือมันแล้วแต่ทัศนคติคนมากๆ แต่ส่วนใหญ่ที่เจอคือยังรับไม่ค่อยได้

140 Nameless Fanboi Posted ID:Jolbm4Pou3

>>139 +1 ทฤษฎีหลักภาษาไทยก็เรื่องนึง นิยายที่อ่านตามความบันเทิงก็อีกเรื่องนึง ภาษามันดิ้นได้ นิยายสมัย 10 ปีที่แล้วไม่มีการละประธาน ปัจจุบันละประธานไป อีก 10 ปีข้างหน้า งานเขียนนิยายอาจจะเปลี่ยนรูปแบบไปอีกก็ได้ แต่ส่วนตัวกูชินกับงานสมัยก่อนมากกว่า

141 Nameless Fanboi Posted ID:SROPLdLvXF

>>127 กุลองข้ามไปอ่านตอน 7 สำนวนบรรยายคนนี้กูอ่านไม่รอดว่ะ

142 Nameless Fanboi Posted ID:TEPyR5mdTV

เหมือนพวกมึงยังแยกแยะไม่ได้เลยว่ะว่า “บทสนทนา” กับ “บทบรรยาย” มันคนละอย่างกัน

143 Nameless Fanboi Posted ID:PuqkHucQtY

>>139 กูก็อ่านเจ๋งพัทไม่ได้ เพราะอ่านแล้วกูรู้สึกเครียดยังไงไม่รู้ว่ะเป็นเพราะไม่ชินกับแนวเจ้านายลูกน้องหรือว่าเพราะบรรยากาศในเรื่องมันจริงจังไม่รู้ว่ะ ยาวก็ส่วนหนึ่งด้วยคิดว่ากูคิดแบบนี้คนเดียวอ่านแล้วเหนื่อย

144 Nameless Fanboi Posted ID:9Xn9MM+ROT

>>142 ต่อนะ ไม่ว่ามึงจะรู้สึกว่าตลค.มันบรรยายเป็นบุคคลที่1แล้วมันเหมือนตลค.กำลังเล่าความคิดตัวเองขนาดไหน มันก็ยังคงเป็นบทบรรยายอยู่วันยังค่ำ มึงจะเอาหลักการแบบเดียวกับที่มึงใช้กับบทสนทนามาใช้กับบทบรรยายมันคนละเรื่องกันมั้ยอ่ะ ละที่พวกมึงเถียงๆมาว่ามันใช้ได้คือมันย้อนแย้งลักหลั่นกันไปหมดเลยอ่ะ มึงจะมาบอกว่านิยายแปลใช้ไม่ได้มันก็ปกติแต่นิยายไทยใช้ได้มันก็ปกติ ทั้งๆที่แม่งใช้ภาษาไทยภาษาเดียวกันในการบรรยายทั้งงานเขียนงานแปล อะไรคือมาตรฐานของพวกมึงวะ

145 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>144 ใจเย็นพวก กูอยู่ฝั่งมึงนะ กูมองว่ามันผิดหลักภาษา แต่ถ้าอ่านเพื่อความบันเทิง มันก็มีคนอ่านได้
กูมองว่ามันเป็นนิยายที่วัยรุ่นแต่งไงมึง วัยรุ่นอาจจะชินกับการเขียนที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย 100%
วัยอย่างกู กูก็ไม่ชิน แต่กูเข้าใจคนที่ชินนะ แบบว่า เวลามันเปลี่ยน ภาษามันเลยเปลี่ยน แต่มันก็ไม่ได้ถูกต้องตามหลักทฤษฎีนะ แต่วัยรุ่นคงจะชอบกัน

146 Nameless Fanboi Posted ID:gK1dvT/JsW

>>142 เหมือนมึงยังแยกไม่ได้ว่า บทสนทนาในงานเขียน กับ บทสนาในการพูดมันคนละเรื่องกัน

>>143 มันยาวไปมึง อันนี้ บก แนะนำเลยว่ามันไม่ควรยาว ถ้ายาวควรจะมีการพัก เพราะตอนอ่านจะรู้สึกว่าเหนื่อยและทรมาน มันไม่จบสักที ไถเท่าไรก็ไม่หมดอะ ส่วนบรรยากาศทำงานก็จริงจังแต่มันจริงจังแบบแปลก ๆ สำหรับกุเองนะ เช่นฉาก ที่เจ๋งถามพัทเรื่องงานลูกค้า แต่พัทไม่ตอบ และไม่ได้ถามครั้งเดียวจนเกิดความผิดพลาด คือในชีวิตจริง ทำงานจริงมึงไม่ตอบเจ้านายไม่ได้ ใช้สิทธิพิเศษอะไร คนจีบกันเหรอ ไรงี้เหรอ มันไม่ใช่นะ เสียงานเสียการหมด อายุก็ไม่ได้น้อยแล้วอะ ย้ำอันนี้แค่ครส กู หน้างานจริงๆ อาจมีมั้ง แต่ส่วนตัวกุไม่เคยทำ

147 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>146 อันนี้ฉากไหนวะที่นางถามเรื่องงานแล้วพัทไม่ตอบ คือกูอยากย้อนกลับไปอ่านเอง เพราะระหว่างที่อ่านกูไม่รู้สึกว่าคุณเจ๋งให้เบเนฟิตอะไรกับการเป็นเจ้านายที่ชอบพัทเลย ออกจะระวังตัวมากด้วย กูชอบพ้อยนี้ พอมึงบอกว่าคุณเจ๋งใช้สิทธิคนจีบกันกูอยากย้อนกลับไปอ่านว่ากูพลาดตรงไหนไป

148 Nameless Fanboi Posted ID:ReU8KOj42p

กูว่าเจ๋งพัทก็สนุกดี กูชอบภาษากับจังหวะการดำเนินเรื่องของเขานะ แต่ถ้ามีคนไม่ชอบก็ไม่แปลก รสนิยมมันต่างกันอะ

ปล. แต่สารภาพตามตรงว่ากูไม่ชอบวายออฟฟิศที่หัวหน้ากับลูกน้องหรือคนในที่ทำงานคบกันเลย5555555555 แม่งหลอนอะ ในชีวิตจริงคืออึดอัดชิบหาย โดนคนนินทาด้วย แต่วายทำงานส่วนใหญ่ที่เจอแม่งก็ให้พระนายอยู่บริษัทเดียวกันอีก กูอ่านละทริกเกอร์ตลอด555555555555

149 Nameless Fanboi Posted ID:S3/57bvpOV

เพื่อนกูอ่านวายไทยมันพูดเหมือน >>117 เด๊ะ เวลามันมาป้ายยากู กูจะถามก่อนว่าละประธานมั้น มันบอกไม่นะ แต่พอกูลองตามไปอ่านจริงๆ เจอเพียบ 5555555 กูว่าคนที่ชินและไม่รู้สึกอะไรจะไม่ทันสังเกตน่ะ เลยไม่คิดว่ามีเยอะ แต่กูลองอ่านวายไทยกี่เรื่องๆเจอทุกเรื่อง กูเลยยอมรับว่ามันคงเป็นเทรนด์ใหม่แหละ เป็นการเปลี่ยนแปลง ใครรับได้ก็อ่านไป ใครรับไม่ได้ก็แค่เลิกอ่าน กูอ่านวายแปลดีกว่า ใช้ภาษาถูกหลักกว่าวายไทยเยอะ มันก็แค่นี้แหละ

150 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>149 จริง กูว่ามันเป็นเทรนด์ใหม่ คนที่ชินคือคนอายุน้อย คนที่ไม่ชินคือพวกมีอายุนิดหน่อย อ่านนิยายสมัยก่อนเยอะ เลยมีตัวเปรียบเทียบกับสมัยปัจจุบัน
กูเป็นครู (ที่ไม่ใช่ครูภาษาไทย) นิยายที่กูชอบอ่าน กับนิยายที่เด็กนักเรียนชอบอ่าน เป็นคนละแนวกันอะ ภาษาที่ใช้ในการเขียนก็คนละแบบ

151 Nameless Fanboi Posted ID:gK1dvT/JsW

>>147 ไม่ๆ มึง กูหมายถึงพัท ที่ไม่ตอบเจ้านาย แง กูขออำภัยจำตอนไม่ได้

>>150 กูว่าติดจากการอ่านแชท เหมือนเราเล่นไลน์อะแหละ มันชิน

152 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

กูอ่านนิยายหลายภาษา ไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ กูว่าภาษาไทยเนี่ยดิ้นได้มากสุดละ ดิ้นยันไวยากรณ์ วันดีคืนดีประโยคละประธานกลายเป็นเรื่องปกติไปเฉยเลย 55555555 กูเคยเจอคนบอกว่าไม่รู้สึกแปลกกับการละประธานเพราะชินมาจากภาษาอังกฤษ กูนี่ยกตีนก่ายหน้าผาก ภาษาอังกฤษไม่ละประธานกันโว้ยยยย ไม่มีหรอกนะไอ้ประโยคแบบขึ้นด้วยกริยามาลอยๆแบบที่บนๆยกตัวอย่างกันอะ ถ้าบอกชินจากภาษาญี่ปุ่นยังว่าไปอย่าง แต่นิยายญี่ปุ่นแปลไทยก็ไม่ได้ละประธานกันนะ ถ้าต้นฉบับละมา แปลไทยจะเติมประธานลงไปให้กันหมดแหละ เพราะประโยคละประธานมันผิดไวยากรณ์ไทยไง แต่นิยายไทยดันฮิตเขียนแบบละประธานกันซะงั้น ก็แปลกดีว่ะ 5555555 กูไม่ได้ว่าอะไรคนเขียนละประธานนะ กูอเมซิ่งเฉยๆ กลายเป็นว่าสมัยนี้นิยายแปลดันใช้ภาษาถูกไวยากรณ์มากกว่านิยายคนไทยเขียนซะอีก แต่วายจีนบางเรื่องกูก็เห็นเริ่มแปลแบบละประธานกันแล้ว คาดว่าคนแปลน่าจะอายุยังน้อย

153 Nameless Fanboi Posted ID:dpDr3D13kb

>>138 หลักภาษามีข้อยกเว้นไม่ใช่เหรอมึง

154 Nameless Fanboi Posted ID:2DaBc+upE/

>>151 555555 ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวกูรอซื้อรวมเล่มแล้วมาอ่านเก็บให้ละเอียดอีกรอบดู คือกูไม่ชอบเจ้านายลูกน้องรักกันแล้วแอบคบกันอยู่แล้ว เหมือนเอาอำนาจที่มีอยู่มาบีบเอามาใช้ประโยชน์ทำตัวไม่สมกับตำแหน่งเจ้านาย แล้วหลายๆเรื่องที่เป็นรักในออฟฟิศชอบข้ามพ้อยนี้ไม่ตระหนักหรือไม่ทำลืมไป กูเลยไม่รอด แต่เรื่องนี้กูลองเปิดใจอ่านเพราะเป็น slow burn และนขเเจ้งไว้ตั้งแต่ตอนเเรกเลยว่ารักในออฟฟิศเป็นพื้นที่สีเทา กูเลยลองเพราะอยากรู้ว่าเขาจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้ยังไง มีเล่นเรื่องนี้เยอะไหม ซึ่งพอลองอ่านกูก็ชอบมาก ทั้งเรื่องที่หลังจากคุณเจ๋งรู้ตัวว่าชอบแล้ววางแผนที่จะลาออกหรือที่พอพัทรู้ว่าคุณเจ๋งชอบก็คิดทันที่ว่ามันไม่เหมาะสมเพราะเขาเป็นเจ้านาย และผิดหวังจากคำชมที่เคยได้รับจากคุณเจ๋งเพราะคิดว่าคำชมนั้นอาจจะมาเพราะคุณเจ๋งชอบตัวเองไม่ไช่พัททำงานดีจริงๆก็ได้ และการเริ่มคุยเริ่มจีบกันหลังจากคุณเจ๋งลาออกแล้ว การที่พัทลาออกจากที่ทำงานเจียนกรุ๊ปเพราะไม่อยากให้บ้านคุณเจ๋งมองตัวเองไม่ดี นขใส่จุดนี้มาทำให้กูรู้สึกดีกับนิยายรักในออฟฟิศขึ้นมาหน่อยที่ยังมีคนเล่นพ้อยนี้ และตระหนักถึงอยู่ แต่คนที่ไม่ชอบกูเข้าใจพวกมึงหมดเลยนะ ทุกอยากมันก็มีข้อติได้อยู่แล้ว
>>141 ขอบคุณมึงที่ไปลองอ่านมามาก ร๊ากกกกก

155 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

>>153 ผิดไวยากรณ์ก็คือผิดไวยากรณ์อะมึง ไวยากรณ์มันมีหลักของมัน ผิดก็คือผิด เหมือน นะค่ะ=ผิดหลัก แต่การผิดไวยากรณ์เป็นเรื่องที่รับได้หรือไม่ได้มันแล้วแต่คน บางคนก็รับได้กับการที่นิยายจะใช้ภาษาผิดหลักไปบ้าง แต่บางคนอ่านแล้วขัดใจ ลางเนื้อชอบลางยา

156 Nameless Fanboi Posted ID:O9CwT0xsi5

กูว่าเป็นกลวิธีการเขียนอย่างนึง เคยอ่านนิยายฝรั่ง POV1 แล้วพระเอกแทนทุก I ด้วย me ยังมีเลย ดิ้นทางไวยากรณ์กูอ่านหลายภาษา นักเขียนคนไหนเปรี้ยวๆไม่สนหลักไวยากรณ์เอาสนุกก็มีหมดนั่นแล

ส่วนแปลถูกหลักกว่าแต่ง ก็ถูกแล้ว ถ้าต้นทางไม่ได้กะมีลูกเล่นทางภาษาอะไรก็แปลตามหลักไป ทะลึ่งทำไรแปลกๆโดนจวกดิ นักแปลไม่ได้มีอิสระขนาดนั้น

157 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

ไวยกรณ์ผิด,บิดไป กูรับได้
แต่เขียนผิดไม่เลิก กูไม่โอเค ค้นกูเกิ้ลหน่อยก็ดีว่าคำนั้นเขียนยังไง

158 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>154 5555555 จริงมึง
กูเรียนภาษาญี่ปุ่น ประโยคละประธานสรรพนามบุรุษที่ 1 เวลาแปลเป็นไทย คนไทยเติมประธานให้ทุกรอบเลย
君が好きです รักเธอ ก็แปลเป็น ฉันรักเธอ
พอมาเจอนิยายไทยละประธาน ก็เลยอึ้งไป แต่ไม่เป็นไร ภาษาไทยดิ้นได้ 5555

159 Nameless Fanboi Posted ID:+Q5eTNDczj

>>152 มีสิประโยคที่ละประธานน่ะในภาษาอังกฤษน่ะ ทำไมถึงไม่มีล่ะ กูแย้งเรื่องหลักการเขียนนะ ภาษาอังกฤษสามารถละประธานได้ แต่ต้องมีการปูพื้นที่ refer ประธานไว้ คนอ่านเข้าใจเองได้ พบเห็นประโยคแบบนี้ได้เยอะแยะเลย Imperative sentence, relative pronoun อย่างประโยคง่ายๆ ที่ละประธานก่อนก็ getting fully vaccinated, I had a high fever. อันนี้ละแม้กระทั่ง (after) getting ..., ... ด้วย ขึ้นประโยคลอยๆ มาเลย แล้วค่อยหาประธานทีหลัง มันทำให้การอ่านซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด แต่เวลาอ่านงานเขียนที่มีรูปแบบภาษาหลากหลายมันก็ไม่จำเจอะ ไม่งั้นมาเรียง ประธาน กิริยา กรรม / กรรม passive อย่างเดียวมันก็ทื่อๆ

ปล.ในส่วนของหลักการเขียนจริงๆ เพื่อให้ภาษาสละสลวย มีการเล่นคำแปลกๆ เรียงประโยคแปลกๆ แบบ >>156 ว่า มันเหมือนกิมมิคของงานเขียนเขา อันนี้พบเห็นไม่บ่อยหรอก แต่ขึ้นชื่อว่าภาษามันดิ้นได้หมดอะ

แต่ถ้าจะวัดด้วยเรื่องไวยากรณ์ตรงหลักเป๊ะๆ ชี้นิ้วเล่มไหน ทั้งงานเขียนงานแปลคงเจอผิดร้อยละ 90 เลยมั้ง 5555 แต่ภาษาดิ้นได้จริงๆ นะ บางครั้งนอกจากเข้าใจแล้วความสละสลวยมันมีผล แบบตราตรึงใจ กับแค้นฝังหุ่น 5555555

160 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

>>156 ที่กูจะสื่อคือตอนนี้มันกลายเป็นว่านิยายแปลดันมีความใส่ใจให้ภาษามันออกมาตรงหลักภาษาไทยมากกว่า ทั้งๆที่ภาษาต้นฉบับมันอาจจะไม่ใช่ อย่างเช่นนิยายญี่ปุ่นที่ต้นฉบับแม่งละประธานกันเป็นปกติ แต่พอแปลไทยกลับไม่มีประโยคละประธานเลย ส่วนภาษาอื่นๆดิ้นได้ที่มึงบอก ถ้านิยายเน็ตกูเจอบ้างนะ แต่นิยายเล่มๆนี่ไม่เจอเลยมึง กูว่าโดนสนพ.แก้หมด แต่สนพ.ไทยไม่ค่อยแก้สำนวนนักเขียน พอตีพิมพ์ก็เลยยังมีประโยคพวกนี้หลุดมาอยู่ สุดท้ายพอเขียนแบบนี้กันเยอะๆมันเลยกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนรุ่นใหม่ๆยอมรับได้ไปเอง คนรุ่นเก่าๆก็ทำใจ

161 Nameless Fanboi Posted ID:.EU2Hy0AJ6

>>159 มึงคะ ที่เขาพูดถึงกันคือมันไม่มี I you we they ในประโยคเลยค่ะ มึงเคยเจอเหรอคะ นิยายภาษาอังกฤษที่บรรยายประโยคแบบไม่มี I you we they มันไม่มี

162 Nameless Fanboi Posted ID:T.1fOiHukE

>>160 นิยายแปลมันละประธานไม่ได้ เพราะเสี่ยงจะโดนด่าปะวะ
ทุกวันนี้นักแปลนิยายวายจีน ก็โดนคนไทยด่าเยอะอยู่แล้ว
กูว่าคนอ่านนิยายแปล ค่อนข้างเคร่งเรื่องภาษา
แต่นิยายวายไทย บางทีคนอ่านเป็นวัยรุ่นไทย เลยอาจจะไม่ค่อยเคร่งเรื่องหลักไวยากรณ์
อันนี้กูคิดเองนะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

>>159 อ้าวพิมพ์ไปแล้วเพิ่งเห็น ประโยคอย่างที่มึงบอกมันไม่ใช่การละประธานแบบของไทยนะ มันยังมี I ตามมาด้านหลังไง ตอนแรกกูก็จะยกตัวอย่างประโยคแบบนี้เหมือนกันแต่ขี้เกียจ 555555 หรือถ้าประโยคที่มาเป็น v.ing (gerund) หรือ to+v1 (infinitive) มันก็คือประโยคที่กริยานั้นทำหน้าที่ Subject ในประโยคแล้ว มันจะไม่มีมาแบบ Walk to the sea and smile. Then go to the boat. อะไรแบบนี้ (หรือต่อให้มีมันก็จะมีประธานตามมาในประโยคหลัง ไม่เหมือนนิยายไทยที่ทั้งย่อหน้าอาจจะขึ้นต้นด้วยกริยาทุกประโยคโดยไม่มีประธานเลย) มันยังเป็นประโยคที่ "ถูกไวยากรณ์" อยู่ ไม่เหมือนประโยคละประธานในภาษาไทยแบบที่ฮิตเขียนๆกันตอนนี้ ถ้าไปอ่านนิยายไทยสมัยสิบยี่สิบปีก่อนมึงจะไม่เจอประโยคละประธานแบบนี้เลย

164 Nameless Fanboi Posted ID:MQY3lBWi0m

>>159 กูว่ามึงเข้าใจคำว่าประธานของประโยคผิด ประธานมันไม่จำเป็นต้องเป็น noun/pronoun เสมอไป ส่วนประโยคที่มึงยกมาก็มีประธานในตัวนะ มึงลองยกตัวอย่างประโยคละประธานที่เป็นธรรมชาติมาใหม่ได้ไหม

165 Nameless Fanboi Posted ID:rFbaltlV/W

กูไม่รู้จะอธิบายเรื่องประธานในภาษาอังกฤษยังไงให้ >>159 เก็ทสิ่งที่กูจะสื่อ เอาเป็นว่ามึงลองอ่านอันนี้ดูนะ https://www.septembercfawkes.com/2019/05/how-to-use-ellipsis-properly-in-fiction.html ลืมไป ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน กูหมายถึงการละประธานใน "บทบรรยาย" ที่อธิบายการกระทำของตัวละครเด้อ เพราะงั้น imperative ไม่นับ

166 Nameless Fanboi Posted ID:Hc.nan9Dbq

>>160 กูท้วงว่าการที่เขียนไม่ถูกหลักภาษาไม่ใช่เพราะเรื่องความใส่ใจหรือไม่ใส่ใจ แต่เป็นความอิสระในการผลิตน่ะ เพราะนักเขียนอิสระที่จะเขียนนิยายตัวเองให้มีลูกเล่นแปลกๆยังไงก็ได้ แต่นักแปลคือคนที่ต้องถ่ายทอดภาษาต้นทางไปเป็นอีกภาษา ไม่มีสิทธิ์ทำ

แบบนิยายอังกฤษเล่นคำแปลกแบบ me love you. แทน I love you. คนเขียนเขียนได้ตั้งใจเป็นลูกเล่นนิยายตัวเอง(ตอนตีพิมพ์ก็เป็นงี้แหละ บก.ไม่ได้แก้)
แต่คนแปลนิยายไทยเป็นอังกฤษ แปลฉากสารภาพรัก ฉันรักเธอ เป็น Me love you. ไม่ได้ เพราะคนเขียนต้นทางไม่ได้หวังให้แปลผิดหลัก

กูว่าหลักภาษาไม่ใช่อะไรที่มาวัดตัวนิยายว่าต้องเป็นงั้นงี้แต่ต้นอ่ะนะ จะเขียนผิดหลักภาษายังไงก็ไม่ได้ทำให้ตัวนิยายผิด จะเขียนอัศเจรีย์ต่อท้ายสักสามตัวแสดงความตกใจแบบโอเวอร์ก็ได้ จุดไข่ปลาสามจุดไม่แสดงความเงียบมากพอใส่ไปเลยหกตัวก็ได้ การเขียนผิดหลักภาษาไม่ได้หมายความว่ามึงไม่ใส่ใจกับนิยายหรือทำให้นิยายมึงแย่ตราบที่มีคนชอบ

167 Nameless Fanboi Posted ID:Hc.nan9Dbq

>>166 ปล. นิยายที่กูเจอก็เล่นกันในบทบรรยายนี่แหละ แต่เป็นPOV1

168 Nameless Fanboi Posted ID:ONPlo6Los/

>>166 ถ้านิยายผิดหลักภาษาเพราะจงใจใช้เป็นลูกเล่นกูรับได้นะ แบบเจเคเขียนภาษาเอลฟ์หรือภาษาของแฮกริดผิดหลักเพื่อเสริมมิติให้ตัวละคร กูว่าแบบนี้ลึกซึ้งดี แต่การละประธานที่พูดถึงกันกูว่ามันกำลังกลายเป็นรูปแบบภาษาแบบใหม่ไปแล้ว บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบบนี้มันผิดหลักภาษา ซึ่งกูก็ไม่ได้คิดว่ามันทำให้นิยายดูไม่ดีหรือผิดนะ กูแค่ไม่ชอบ เจอเรื่องไหนมีประโยคละประธานแบบแปลกๆปุ๊บกูปิดทันที ไม่อ่านต่อเลย สรุปกูอ่านวายไทยไม่รอดสักเรื่อง

169 Nameless Fanboi Posted ID:0gyXOs7kak

อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ แต่มีประโยคอีกแบบที่กูเจอในนิยายไทยแล้วรู้สึกแปลกๆคือพวกประโยคนมเนย แบบที่เห็นปุ๊บในหัวแปลเป็นภาษาอังกฤษได้เลย อย่างวันก่อนกูเจอ "เป็นผมเองที่โทรไป" หรือไม่ก็อย่างเช่น "มันเป็นฤดูร้อนที่สวยงาม" อ่านแล้วรู้สึกแปลกมาก ภาษาเหมือนเวลากูดูสารคดีฝรั่งแปลไทยตามช่องเคเบิ้ล 5555555 แต่กูไม่ได้จะว่าคนเขียนนะ เขาอาจจะชอบแบบนี้ กูแค่อ่านเจอแล้วสะดุดเป็นการส่วนตัว

170 Nameless Fanboi Posted ID:+Q5eTNDczj

กูเอง 159 กูจับแค่คำว่าที่ว่าภาษาอังกฤษไม่มีหรอกนะที่ยกกิริยามาลอยๆ คือมันมีอยู่นะ ละที่กูบอกกูอาจจะพิมพ์เร็วไปหน่อย บางประโยค มันละประธานได้ กูไม่ได้หมายถึงของไทยไง ซอรี่นะตรงนี้ อาจจะพูดคนละประเด็นกับพวกมึง ละกูไม่ได้อ่านเรื่องที่โม่งถกเป็นประเด็นกันด้วย ไอ้เรื่องที่ว่าไม่มีทั้ง I we she they บลาๆ กูไม่รู้ว่ามัน 'หาย' ถ้าไม่มีเลยมันไม่น่าเรียกว่าละแล้ว

ประโยคที่กูยกมา งั้นเรียก sub clause ละกันเนอะจะได้เข้าใจตรงกัน ประโยคเต็มๆ ที่กูยก after I've got fully vaccinated I had a high fever ต้องบอกมันลดรูป ละประธาน เพราะมีประธานอยู่ใน main clause อยู่แล้ว >> getting fully vaccinated, I had a high fever งี้อะ จะอธิบายยังไงดีหว่า 555 คือกูรู้แค่ว่ามันต้องมีประธานอยู่ใน main clause ไม่ก็เป็นพวก gerund / to + v1 (การ/ความ) ไม่ก็มีการ refer to ... ไว้อะ คือกูไม่รู้จริงๆ ว่านิยายที่เขียนและถกกันอยู่ไม่มีประธานในการบรรยายเลย กูพูดคนละเรื่องเองแหละ กราบขออภัย

171 Nameless Fanboi Posted ID:De+WD4iDPq

>>170 อยากให้มึงลองไปสุ่มๆอ่านวายไทยดู แล้วมึงจะเข้าใจที่บ่นๆกัน มันไม่เหมือนภาษาอังกฤษที่มึงบอกง่ะ มึงต้องลองไปอ่านแล้วจะเก็ทความต่างทันที

172 Nameless Fanboi Posted ID:De+WD4iDPq

เออกูวิเคราะห์นิด ที่นิยายไทยมันมาแนวนี้กันเพราะเมื่อก่อนชอบใช้ร่างบางร่างหนาร่างโปร่ง แล้วมันดันมีคนเอาไปขำคิกคักปะ 555555 เคยเห็นนักเขียนบ่นๆกันว่าไม่ชอบใช้ชื่อตัวละครเป็นประธานในประโยคบ่อยๆด้วย กูว่าคนไทยชอบหลากคำอะ แต่พอหลากคำไปใบ้ร่างบางร่างหนาก็โดนล้อเลียนอีก สุดท้ายเลยตัดปัญหา ไม่ใส่ประธานแม่ม บวกกับติดมาจากภาษาตามโซเชียลที่ชอบบอกกริยาของตัวเองโดยไม่ใส่ประธานด้วย มันเลยกลายเป็นเทรนด์ใหม่ไปในที่สุด

173 Nameless Fanboi Posted ID:6.74fjoCJI

>>169 ไม่เห็นรู้สึกขัดเลย ชีวิตจริงกูก็ใช้ กูเรียงประโยคกลับไปกลับมาแล้วแต่สถานการณ์

174 Nameless Fanboi Posted ID:QgOWWYQZIE

ขัดไม่ขัดก็เรื่องนึง แต่หลักภาษาไทยมันมีกำหนดอยู่ชัดเจนว่าสำนวนแบบไหนคือสำนวนต่างประเทศ ไม่รุ้สมัยนี้ยังมีสอนกันอยู่มั้ย แต่สมัยนี้กุรุ้สึกเหมือนเจอคนไม่เก็ทคำว่าสำนวนต่างประเทศบ่อยขึ้น

175 Nameless Fanboi Posted ID:p5KrM+jVM2

>>173 มึงไม่ขัดแต่มันไม่ใช่ประโยคภาษาไทยนะ เป็นผมเองที่โทรไปนี่ภาษาต่างประเทศชัดเจนมากกกก ในแง่หลักการแล้วมันผิดหลักภาษาไทย โครงสร้างภาษาไทยไม่ใช่แบบนี้ แต่ในแง่การใช้งาน ใครจะสะดุดไม่สะดุดมันแล้วแต่คนน่ะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.