กูขรรมความแซะ “ไม่ใส่ใจในการบรีฟปก” ถ้าแขวะตรงๆ ว่างกค่าวาดก็จะรู้สึกว่ามีเหตุผลนะ คาร์ 1 ตัวกับคาร์ 2 ตัวราคาต่างกัน ระยะเวลาทำงานก็ไม่เท่ากัน ความดังนักวาดก็ทำให้ราคาไม่เท่ากัน คิวยาวไม่เท่ากัน ปัจจัยเยอะมากๆ แต่ดันแซะแค่เรื่อง “ไม่ใส่ใจการบรีฟ”
Last posted
Total of 1000 posts
กูขรรมความแซะ “ไม่ใส่ใจในการบรีฟปก” ถ้าแขวะตรงๆ ว่างกค่าวาดก็จะรู้สึกว่ามีเหตุผลนะ คาร์ 1 ตัวกับคาร์ 2 ตัวราคาต่างกัน ระยะเวลาทำงานก็ไม่เท่ากัน ความดังนักวาดก็ทำให้ราคาไม่เท่ากัน คิวยาวไม่เท่ากัน ปัจจัยเยอะมากๆ แต่ดันแซะแค่เรื่อง “ไม่ใส่ใจการบรีฟ”
สำหรับกู วิจารณ์ปกได้ แต่ไม่ควรเอามาเทียบกัน
บอกปกไม่สวย ก็บอกไม่สวย
ไม่ใช่บอกปกไม่สวย ไม่เหมือนอีกเรื่อง สวยกว่าตั้งเยอะ แบบนี้มันโพสล่อตีน
ทีทวิตอวยการแปลฮัสกี้
คนโพสอวยการแปลฮัสกี้ ยังไม่เหยียดเทียนกวานเลย
เขาไม่โพสเหยียดเทียนกวาน ว่าเทียนกวานแปลห่วย ไม่เหมือนฮัสกี้ แปลดีกว่าทั้งเยอะ
จะโพสแบบนี้ก็ได้ แต่ไม่โพสอะ ้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ เข้าใจปะ
จะชมก็ชม จะด่าก็ด่า แต่อย่าเปรียบเทียบ
มันจะทำให้ด้อมทะเลาะกัน
อารมณ์มันเหมือนมึงตามไอดอล
ชม bts ว่าเพลงดีกว่า exo ไรงี้
เปรียบเทียบกัน มันก็ทะเลาะกันดิ
กูคนนึงอะ เจอแบบนี้แล้วจะไม่เก็บเทียนกวาน
>>478 สำนวนบางคนก็เหมาะจะทับศัพท์ บางคนไม่เหมาะ บางเรื่องบริบทควรทับ บางเรื่องไม่ควร กูว่าถ้าซัดกันอย่างมึงบอก แทนที่จะสร้างสรรค์มันจะกลายเป็นการตีกรอบการใช้คำมากกว่านะ นอกจากหัวร้อนด่ากันแล้วไม่เห็นจะได้อะไร
แล้วว่าก็ว่า บางคำนี่กูคิดว่าควรทับศัพท์นะ อย่างกั๋วซือเงี้ย เห็นแปลออกมาทีไรก็ได้ว่าราชครูเกือบทุกที ซึ่งกูเข้าใจว่ากั๋วแปลว่าประเทศ ซือคืออาจารย์ แต่จริงๆแล้วกั๋วซือไม่ใช่ราชครูไง ออกแนวปุโรหิตมากกว่า แต่จะใช้ปุโรหิตก็โคตรพราหมณ์ พอนักแปลจะแก้ปัญหาด้วยการทับศัพท์แล้วอธิบาย ก็มีคนออกมากรีดร้องว่าไม่เอาทับศัพท์นะ นักแปลก็ต้องแปลตามใจคนอ่าน ทั้งๆที่อาจจะเห็นภาพผิดไปก็ได้ จากนักบวชกลายเป็นราชครูผังอะไรงี้ กูว่านักอ่านบางคนทำตัวเก่งเกินนักแปลว่ะ ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้ภาษาจีนสักหน่อย
>>479 ถ้าทับศัพท์แล้วมีเหตุผลฟังขึ้นมันก็โอเค แต่หลักการแปลที่ดีจริงๆตามที่สอนกันคืออะไรแปลได้ก็ควรแปล บางคำมันไม่มีทางได้ตรงตามต้นฉบับเป๊ะๆขนาดนั้นอยู่แล้วไง ถ้าอยากอ่านเป๊ะขนาดนั้นมึงก็ต้องไปอ่านต้นฉบับอ่ะ "คนอ่านไม่ได้รู้ภาษาจีน" ก็นั่นแหละเหตุผลสำคัญเลยว่าทำไมถึงควรแปลเป็นภาษาไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
>>479 แล้วยังไง จะบอกว่าเพราะนักอ่านโง่ภาษาจีนงานมันเลยต้องทับศัพท์? เพื่อที่ความหมายจะได้ไม่ตกหล่น? กูบอกแค่นี้เลยนะอยากทับมึงทับไป แต่ขอให้มันมีลิมิตหน่อย ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ทับหมด เกอเกอไท่จื่อยังทับนี่มันบ้าบอ ตัวอย่างที่มึงยกมามันไม่ได้ใกล้เคียงกับระดับความบ้าทับศัพท์ของลวด.เลย
ถ้าวงการการ์ตูน ใช้คำว่า โอนี่จังบ้าง
แม่งคงโดนด่าว่า เบียว อะ
แต่อย่างว่า สนพนี้ ลูกหาบไร้สมองมันเยอะ คุณภาพต่ำ
เรื่องทับศัพท์นี่โม่งคุยกันไปหลายรอบละ กูเห็นหลายๆคนก็คิดเหมือนกันนะว่าถ้าเป็นพวกตำแหน่งที่มันไม่มีในไทย จะทับศัพท์ไปก็ไม่มีใครว่าหรอก ญี่ปุ่นยังมีคำทับศัพท์พวกซามูไร เกอิชา โชกุน นินจาไรงี้เลย แต่ที่ทับศัพท์กันในวายจีนตอนนี้แม่งไม่ใช่แค่คำที่จำเป็นไง แม่งทับยันคำเรียกพ่อแม่พี่น้อง ทั้งๆที่มันมีคำไทยให้ใช้ได้เลย แบบนี้มันมากไป
>>464 อห 55555555 มึงให้เกียรติพี่เว่ยที่ปลุกผีมาฆ่าคนด้วยค่ะ 5555555
>>477 กูก็ว่าจะไม่ละ หมั่นไส้ 5555555
>>479 อันนี้กูเห็นต่าง กูว่าแปลแล้วมีเชิงอรรถดีกว่า ว่าราชครูในที่นี้มันคือท่านราชครูแบบอาจารย์กษัตริย์ หรือราชครูที่เป็นนักบวช สับสนกับตำแหน่งมาก บางทีนึกว่าทั้งพืดนั่นคือชื่อคน แต่ที่จริงคือแซ่+ตำแหน่ง (ไอห่า) คำมันไม่ได้ well known แบบอ๋อง ฮองเฮา ไทเฮา ที่นึกออกว่าเป็นตำแหน่งอะไรอะ แล้วแต่เซนส์มั้ง ถ้าให้กูแปลเอง กูก็คงแปลออกมาแล้วมีคนด่า กูจะทับแต้จิ๋วบ้าง จีนกลาง และแปลไทย แล้วแต่เซนส์ของกู 555
+หนึ่ง่ไม่แปลชื่อตำแหน่งยากๆที่ไม่มีให้เทียบใกล้เคียงได้หรือชื่ออาวุธอันนี้ไม่ว่า แต่พวกสรรพนามหรือคำเรียกที่ในไทยมีก็อยากให้แปลเป็นไทยดีกว่า อยากให้คนไม่คิดว่านิยายจีนอ่านยากเพราะชื่อต่างๆ ไม่อยากให้ต้องมาฟีลว่าเราชั้นสูงเลยใช้ทับศัพท์จีนพวกที่ไม่อ่านคือเข้าไม่ถึง(มันมีคนที่คิดงี้) หนังสือควรเข้าถึงง่ายสิจะมาแบ่งแยกทำไม แปลเป็นไทยแล้วก็ต้องขจัดกำเเพงด้านภาษาออกไปให้หมดไม่งั้นเรียกว่านิยายแปลได้ยังไง เห็นด้วกับเพื่อนโม่งที่เคยบอกว่าการทับศัพท์จีนของล.เป็นการโยนภาระให้นักอ่าน
โยนภาระให้นักอ่าน และสำเร็จความใคร่ทางตัวอักษร เพราะคำว่าเกอมันฟินและออดอ้อนกว่ามากกกกกกค่ะ
งงใจ รับค่าแปลเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่งานออกมาเหมือนแปลแค่ครึ่งเดียว
ทำไมหลายคนเหมือนเกลียดลวดจนหน้ามืดอะ กูว่ากูยกตัวอย่างดีแล้วนะ คือบางคำมีคนอวดรู้จะให้แปล แต่ความหมายไม่ใช่ กูไม่ได้พูดถึงกรณีคำที่มีในภาษาไทยอย่างเกอเกอห่าอะไรเลยจ้า
ว่าแต่อันนี้สงสัยจริง คนที่แอนตี้ทับศัพท์จีน มึงเจอคำว่ามิสซิส มิสเตอร์ ด็อกเตอร์ ในนิยายฝรั่งแล้วรู้สึกไงมั่ง ชินหรือคิดว่าใช้คำว่าคุณ คุณนาย คุณหมอก็ได้
เพิ่มเติมอีกนิดนึง กูว่าทับศัพท์จีนกับทับศัพท์ฝรั่งเทียบกันยากนะ เพราะภาษาอังกฤษมันอยู่ในการศึกษาพื้นฐานนะมึง แต่ภาษาจีนมันไม่ใช่ไง ความรู้สึกเวลาเจอทับศัพท์จีนกับทับศัพท์อิ๊งมันก็ไม่เหมือนกัน
>>489 กุว่าคนไม่ได้แอนตี้การทับเลยนะ ที่ลวด.โดนโม่งรุมเพราะมันทับเรี่ยราดมากกว่า ทับจนคนไม่เคยอ่านจีนงุนงงนั่นล่ะ ซึ่งมันก็ผิดจุดหลักของงานแปลที่ต้องสื่อความให้คนปลายทางที่ไม่รู้ภาษาต้นทางอ่านเข้าใจ อ่านลื่นไหลมั้ยวะ แล้วชีเองก็ดันคิดว่าตัวเองถูกที่แปลทับเยอะแบบนั้นด้วยคิดว่าสื่ออรรถรสแบบจีนได้ดีกว่า
ส่วนความหมั่นลูกหาบนางนั่นอีกประเด็นนะ แต่ที่ดูแรงเพราะโดนเอาไปรวมกันนั่นล่ะ เพราะชีกับลูกหาบคิดตรงกัน แต่โม่งไม่เห็นด้วยก็ด่า+ถกกันไป
จนบัดนี้กูยังสงสัย talkหรือว่าอ้างอิงที่ถามโม่เซียงนั้นมันของจริงป่าว??
เกอเกอ
เกอเกอ
เกอเกอ
กูว่าในนี้หลายคนก็ด่าเกินไปอ่ะ ตามอ่านมาแทบไม่ต่างอะไรกับนกฟ้ากลับด้าน เอาแต่พอสมควรเถอะ กูไม่ใช่ลูกหาบซบ ไม่ชอบทับศัพท์ ไม่ชอบที่ลวด.อ้างแบบนั้นในการแปลทับศัพท์ด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะทำออกมาไม่มีอะไรดีเลยอ่ะ ลวด.เรียงประโยคโอเค ถึงกูจะติดขัดเยอะไปหน่อยตอนทดลองอ่านแต่พออ่านในเล่มก็ลื่นดี พอเทียบทดลองอ่านกับเล่มจริงก็เห็นว่าบก.ช่วยตบเยอะเลย เข้าใจว่าซบมันน่าหมั่นไส้จริงๆ โดยเฉพาะพอมีลูกหาบเสริมทัพเข้าไปด้วย แต่กูว่าเขาก็ทำเทียนกวานออกมาค่อนไปทางดีสำหรับกูอ่ะ ใครจะชมว่าซบใส่ใจมันก็ไม่ผิดหรอก
>>497 +1 กูก็ไม่ได้ชอบแบบทับศัพท์อลังการ แต่กูเก็ตที่ >>479 บอกนะ ยิ่งตีกันเรื่องทับศัพท์มันก็ยิ่งลามไปไกล แทนที่จะวิจารณ์เป็นคำๆก็เหมารวมหมดว่าทับศัพท์แปลว่าชุ่ย ผลักภาระให้คนอ่าน แล้วบางคนไม่ได้ดูเลยว่าบางคำไม่เหมาะกับการแปล คนที่ชอบทับศัพท์เขาก็แค่ชอบแบบนั้นปะวะ คนไม่ชอบก็แค่ไม่ชอบ บางทีคนแปลก็ไม่ได้ผิดอะไร อาจจะแค่ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวเขา เขาคิดว่ามันเข้ากับอารมณ์ของเรื่องมากกว่า ใครไม่เห็นด้วยแค่บอกว่าไม่ชอบก็ได้ แต่ทุกวันนี้แม่งด่าซะเหมือนเขาโกงนักอ่าน เกินไป๊
ทำผิดก็ว่าผิด
แปลไร้วิจารณญาณเอาอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาใส่ในงานแปล แล้วจะให้ชมได้ไง? งง
เกอเกอนี่คือน่าชมชิบหาย?
เกอเกอคือถูกแล้ว พวกมึงเลิกเถียงเห้อ กูรำคาญ
เวลาทำงานแปล ไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวมาใส่จ้า
ถึงเผลอทำ คนตรวจควรปัดตกให้มาแก้
นั่นคือสิ่งที่กูเรียกว่าวิจารณญาณในการทำงานของคนแปลและสำนักพิมพ์
จะบอกว่าปสก.หล่อหลอมให้มาทางนี้ เลยจะขอใส่เกอได้ไง อห.
แต่ก็นั่นแหละ ลวด.ดีที่หนึ่ง กูขี้เกียจกับพวกมึงแระ อวยต่อตามสบาย
กูว่ามันก็ต้องมีความพอดีว่ะ กูก็เห็นว่าคนอื่นแปลทับศัพท์บ้างก็ไม่เห็นเพื่อนโม่งบ่นอะไร มันต้องรู้จังหวะและเหมาะสม ไม่ใช่เอ๊ะอ่ะอยากใส่อยากสร้างคัจเจอร์ขี้นมาในนิยายแปลจีน ก็เคสเหมือนตอนบ.ก็โดนด่าเพราะใช้ศัพท์ยากไป สำนวนยากก็โดนด่าโดนว่าจนบก.หรือไม่ก็ตัวบ.เองต้องปรับปรุง แล้วทำไมจะมีเพื่อนโม่งที่ออกมาบอกว่าไม่ชอบที่ล.ทับศัพท์เยอะขนาดนี้ไม่ได้
ใช่ ส่วนพวกมึงคือลวด. ถูกเทสมึง เกอคือดีย์ จอบอ
>>489 กูก็ว่ามึงยกตัวอย่างไม่ดีอะ ไม่ขัดว่าบางคำทับได้หรือทับเหมาะกว่า แต่บางคำก็แปลแล้วใส่เชิงอรรถขยายดีกว่า ถ้าคิดว่าถอดมาเป็นไทยแล้วความหมายหดจากจีน
แล้วจะทับไม่ทับ กูว่านอกจากประเด็นว่าเป็นคำไหนแล้ว ต้องพิจารณาว่าคำนั้นมีความสำคัญในเรื่องที่แปลระดับไหนด้วย แบบใช้บ่อยมีผลต่อความเข้าใจพล็อตหลัก หรือแค่เอ่ยถึงไม่กี่ครั้ง แต่ถ้าจะทับศัพท์ทั้งเรื่องเพื่อสะดวกต่อการเล่นมุกภาษาหนึ่งครั้ง มันไม่ใช่
ตรงนี้แหละ การแปลถึงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างโม่งบนว่า ว่าแค่ไหนถึงกำลังดี
>>506 อารมณ์ของเรื่อง ตามโทนเรื่องน่ะใช่ แต่อารมณ์ส่วนตัวน่ะไม่ใช่ กูยังจำคำว่า"สำหรับผู้แปล"ของลวด.ได้อยู่นะ กับอะไรหลายๆอย่าง เหมือนเค้าใส่ใจคนอ่านน้อยกว่าใส่ใจความพอใจตัวเองอะ คนอ่านไหนเข้าทางกับเค้าได้ก็ไปกะเค้าได้ แค่นั้นแหละ
สำนวนมันก็มีหลายแบบนะ สำหรับกู อะไรที่ไม่ได้แปลผิดกูรับได้ทั้งนั้น กูอ่านได้ตั้งแต่กำลังภายในยันนิยายลูกกวาดนั่นแหละ ถ้าไม่ชอบก็วิจารณ์ไปดิว่าไม่ชอบ ชอบแบบไหนก็ว่าไป แต่จะบอกว่าคนแปลมักง่าย กูว่าเกินเบอร์ ความชอบหรือไม่ชอบมันไม่ใช่มาตรฐานอะมึง มึงไม่ชอบ คนอื่นอาจชอบ ไม่เหมาะของมึง คนอื่นเค้าอาจเห็นว่าเหมาะ กูว่าเถียงกันไปก็ไม่ได้ประโยชน์ปะ แค่ชอบไม่เหมือนกันแค่เนี้ย
>>510 กูเห็นด้วยการแปลคือดึงอารมณ์ของผู้เขียนสื่ออกมาให้นักอ่านได้รับสารที่ถูกต้อง ไม่ควรเอาอารมณ์ของนักแปลมาเกี่ยวด้วย อยากยึดตัวนักเเปลเป็นมาตราต้องคำนึงถึงสิ่งที่นักอ่านส่วนใหญ่ บอกว่าล.เติบโตมาแบบนั้นเลยแปลออกมาแบบนี้ แล้วทำไมล.ไม่คิดถึงคนอื่นวะว่าเติบโตมาแบบตัวเองไหม มีประสบการณ์แบบตัวเองไหม ถึงมาตัดสินว่าแปลแบบที่โดยส่วนตัวนักแปลคิดแบบนี้เลยคิดว่าต้องแปลแบบนี้หรอ ยึดเอาตัวเองเป็นใหญ่มากไปป่าว
กู 497 นั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่ลูกหาบลวด.แน่นอน มึงจะปัดใครก็ตามที่เห็นต่างเป็นลูกหาบหมดก็ไม่ได้ดิ กูแค่บอกว่ามึงด่าเกินไปไม่ใช่ห้ามมึงด่า เพราะส่วนตัวกูไม่ชอบทับศัพท์ แต่ก็มองว่าทับศัพท์มันสามารถเรียกว่ารสนิยมได้จริง คือบางคนเขาก็ชอบอ่านแบบนี้จริงๆนะ แล้วนิยายจีนแปลช่วงแรกๆในไทยแม่งก็ทับศัพท์แต้จิ๋วล้วนเลยไม่ใช่เหรอ แต่พอเวลาผ่านไปก็กำเนิดหลักการอะไรแปลได้ก็ควรจะแปลขึ้นมา ซึ่งส่วนตัวกูชอบแบบนี้มากกว่าแหละ แต่ใครจะชอบทัพศัพท์ก็ไม่มีปัญหา แค่ไม่มาเหยียดว่าต้องทับศัพท์ถึงจะรสนิยมดี หรือต้องแปลเท่านั้นถึงจะโดน ที่โม่งกับนกฟ้าแม่งใช้หลักเกณฑ์นี้กันอ่ะ ในนกฟ้าใครด่าลวด.โดนจวกแน่นอน มาในโม่งยังไม่ทันอวยลวด.แค่เห็นต่างนิดหน่อยก็โดนจวกละ อะไรกันวะ
>>511 มันควรจะถกกันได้รึป่าว เรื่องที่หาข้อสรุปไม่ได้แล้วคนยังถกเรื่อยๆมีเยอะแยะ
แล้วมีคนบ่นหรือแซะติ่งกะลูกหาบปสด.ก็ไม่แปลก คุณอ.กะขนมยังมีพวกติ่งที่ไม่หยุดอยู่เลย
แต่กูเข้าใจคนที่บอกว่าด่าเกินไปเหมือนกัน พาลแซะโม่งกันเองทะเลาะกันเอง แค่นี้กูว่ามันไม่สั่นคลอนคนบ่นทับศัพท์หรอก บางคนก็ประชดเกินไป
ถ้าเเปลแบบล.แล้วนักอ่านส่วนเข้าใจสื่อถึงอารมณ์ของผู้เขียน จะไม่มีกรณีที่นั่งคลุมโม่งมาบ่นกันอยู่แบบนี้หรอก จะมีนักอ่านมาด่าๆแบบนี้ไหม ล.เลือกที่จะยึดตัวเองเป็นหลักก็ควรที่จะรับคำวิจาร์ณจากคนที่ไม่โอเคด้วย และคนที่คิดว่ามันไม่เหมาะสมคือคนที่ไม่ได้เติบโตมาแบบล.ไง เขาจะยึดและมุมมองแบบนี้มันจะทำไมล่ะ มันต่างจากล. ที่เอาตัวเองเปฺง็นที่ตั้งตรงไหน
>>506 อันนี้กูของพูดหน่อย มันไม่เรียกว่าเอาอารมณ์นักแปลเข้าไปเอี่ยวเรียกว่าปรับให้เข้ากับบริบทภาษาของประเทศนั้นๆเพราะต้องรักษาอารมณ์ของผู้เขียนให้ได้มากที่สุดและคิดว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ที่ล.ทำคือยึดถือปสกของตัวเองเป็นหลัก เก็ทไหม
กูอยากให้คิดว่างานนักแปลคือแปลสิ่งที่นักเขียนและอารมณ์ของนักเขียนออกมาให้มากที่สุด ไม่เอาอารมณ์ตัวเองใส่เข้าไปด้วยเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เป็นการให้เกียรติในงานเขียนของนักเขียนที่เป็นผู้สร้าง นักแปลก็คือนักแปลจะมาเพิ่มตำแหน่งให้นักแปลเป็นนักเขียนร่วมด้วยหรอ กูถึงคิดว่าการแปลเป็นงานที่ยาก นักแปลที่เก่งจะต้องรู้ว่าตรงไหนควรสื่อยังไง ใช้คำอย่างเหมาะสมยังไงให้คนในประเทศนี้เข้าใจได้คนเก่ง
จากใจคนอ่านสายชิลไม่แปลผิดไม่แปลตกก็พอที่เจอแต่วอร์ดราม่าจนหมดอารมณ์หาเพื่อนคุยเนื้อเรื่องแล้ว
ทับศัพท์ไม่ทับศัพท์ต่อให้เถียงกันข้ามชาติก็ไม่จบไม่สิ้นหรอก ชนวนความไม่พอใจจริงๆ มันก็มาจากจุดเริ่มต้นเดียวคือ "รสนิยมกู" แค่นั้น เหตุผลอื่นแค่มาเสริมทีหลัง ต่อให้ทับศัพท์หรือไม่ทับศัพท์ยังไงนักแปลแต่ละคนก็มีทั้งคนชมคนด่าว่ะ
ลวดเขาอาจจะ “นึก” ว่าแบบนี้มันดึงอารมณ์ของคนเขียนออกมาได้มากกว่าไง เขาอาจจะอ่านงานทับศัพท์เป็นปกติแล้วคิดว่า เออ มันอินดีนะ แปลแบบนี้น่าจะดี มันอาจจะไม่ใช่เขาไม่ใส่ใจเสียงนักอ่าน คนแปลก็ต้องอยากแปลให้ออกมาดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ดีที่สุดของเขาดันไม่ตรงรสนิยมคนไม่ชอบทับศัพท์เท่านั้นเอง ประเด็นของกูคือ ไม่ชอบทับศัพท์ อ่านไม่รู้เรื่องใช่ไหม เออ งั้นวิจารณ์แค่นั้น ไม่ใช่ไปบอกว่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่นึกถึงคนอื่น ใช้อารมณ์ส่วนตัวทำงาน รับค่าแปลเต็มเม็ดเต็มหน่วยแต่งานออกมาครึ่งเดียว เฮ้ย มึงเป็นใคร สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหรอถึงได้อ่านใจเขาได้ เขาอาจจะคิดมาแล้ว มันแค่ไม่ตรงใจมึงแค่นั้นเอง
55555 ลวด.มีสิทธิ์ "นึก"
แต่คนอ่านไม่ชอบ ไม่มีสิทธิ์นึกจ้า อย่าไปนึกว่าลวด.คิดไง เพราะเค้าทำมาดีย์แล้ว
จากใจลูกค้านิยายคนนึงขอระบายในฐานะผู้บริโภค แปลองค์ไท่จื่อกุยังพอหยวนๆให้ได้ว่ารสนิยมบางคนชอบให้ทับตำแหน่งบางคนชอบให้แปล แต่ไอ้ เกอเกอ นี้ทำกุหมดอารมณ์อ่านจริงๆ ปกอ.ฉางหยางสวยตาแตกแค่ไหน คนแม่งจะอวยบรีฟดีบรีฟเลิศยังไง กุแม่งก็ทำใจซื้อไม่ได้ทุกที วายจีนออกทุกวันแต่เงินกุมีน้อย เทียนกวานจากเป็นอันดับหนึ่งที่กุต้องรีบซื้อแน่ๆ ตอนนี้กุให้เป็นอยู่ก๊กเดียวกับลิ่วเหยาแล้วไว้รวยใช้เงินทิ้งๆขว้างๆได้เมื่อไหร่ค่อยซื้อ
>>518 กูอยากให้มึงคิดนะว่าพวกกูเป็นผู้บริโภคที่ผ่านการคิดวิเคราห์จากผลงานของลวด.ที่ออกมาเป็นรูปธรรมแล้วเหมือนกันถึงได้มีความคิดแบบนี้
ทำไมกูไม่มีสิทธิตัดสินว่างานเขาเป็นยังไงทั้งที่มีผลงานให้จับต้องได้ ไม่มีสิทธิว่าหรือไม่มีสิทธิด่าเลยหรอ กูรู้ว่ามึงไม่พอใจที่คนด่รว่าแบบนั้น แต่มึงก็
ต้องเข้าใจด้วยว่ามันออกมาได้เพราะผลงานของลวด.ทำให้รู้สึกแบบนั้นจริง ผลงานลวดดีจะมีคำวิจาร์ณที่ทำให้นักอ่านรู้สึกแบบนั้นอ่อ ถ้าเขาใส่ใจนัก
อ่านตั้งใจทำงานเต็มที่แล้วทำไมยังมีนักอ่านที่รู้สึกแบบกูที่ออกมารู้สึกแบบตามคำด่าที่ว่าได้ๆ กูอยากให้มึง "นึก"ดูเอาเองนะ
เกอเกอมันทับตามด้อมตปทมั้ง กูเฉยๆ พอเดาได้อยู่ละว่าต้องทับแน่ๆ
แปลภาษาอื่นๆเขามีปัญหาเรื่องทับศัพท์กันมั้ยวะ หรือแค่ในไทย 555
กูก็ขอยืนยันนั่งยันนอนยัน อะไรแปลได้ก็ควรแปล ยกเว้นตำแหน่ง ยศต่างๆ หรืออะไรที่ไม่สามารถแปลไทยได้ถึงจะเหมาะที่สุด
รวบรวมรายชื่อส่งเมลไปบอกสนพ.ดิ บ่นในนี้ก็ได้แต่บ่น ไม่เปลี่ยนอะไรหรอก
>>525 เมิงขุดอันนี้ขึ้นมากูเลยนึกได้ว่าอ.นี่โดนด่าไร้สาระเยอะจนน่าสงสาร แต่ที่นางพลาดแปล “ลืมอิจฉา” แค่อันเดียวคำเดียวแต่ชวนกำหมัดแถมด่าได้ยาวๆ เหมือนเป็นตัวอย่างของคนคลังศัพท์ไม่เยอะแต่ดิ้นรนแปลให้หมดทุกอย่างเพื่อเอาใจกลุ่มคนอยากให้แปลให้หมด
ขนาดมือเก๋ายังพลาด ก็ไม่แปลกที่คนคลังศัพท์ไม่เยอะจะเลี่ยงไปทับศัพท์ว่ะ พลาดทีก็โดนยาวๆ
>>274 จริงๆมือเก๋ามีรับแปลวายเหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่เปลี่ยนนามปากกา แล้วพอแปลมาไม่ตรงกับที่แปลเถื่อนก็โดนด่ายับหาว่าเป็นเด็กหัดแปลก็มี ทั้งที่ความจริงก็แปลดีนะ แค่คนอ่านเถื่อนมาก่อนไม่ชิน แต่เจอโดนวิจารณ์แบบประสาทแดกแบบนั้นนักแปลมือเก๋าหลายคนก็ถอยแหละ ส่วนใหญ่เลยเหลือแต่สำนวนเลเวลเดียวกับแปลเถื่อน
>>518 กุเข้าใจประเด็นวิจารณ์ผลงานโดยไม่ยุ่งกับตัวคนของมึง และเห็นด้วยตรงจุดนี้
แต่ก็เพราะคำอธิบายที่ลวด.มีให้นักอ่านกลุ่มนี้ ในลักษณะว่ายังยืนยันจะทำต่อไป ขอให้นักอ่านไปฝึกคำทับศัพท์ให้ชินเองแล้วจะได้ได้รับอรรสรสที่เหมือนกับคนแปล ซึ่งมันเหมือนทิ้งนักอ่านกลุ่มนึงไปเลย โดยลืมว่าอรรสรสนั้นแต่ละคนเซนท์ต่างกันไม่ใช่ว่าจะได้รับเหมือนกันหมด จะไม่ให้นักอ่านกลุ่มนั้นเกลียดตัวตนคนแปลจากจุดนี้อาจจะเป็นไปไม่ได้ว่ะ จากจุดนี้เลยลามไปถึงการวิจารณ์ตัวตนและอีโก้ต่อ เพราะลงมาคลุกวงด้านความรู้สึกไปแล้วอ่ะมึง
จากกระแสจริงๆกุค่อนข้างหมดหวังนะมึง ถ้าคนเสพรุ่นเก่าๆหดไปแล้วเหลือแต่ลูกค้าเด็กที่ชินคำแบบแปลเถื่อน ทับจนเป็นสารานุกรม เอาแต่สำนวนอ่านง่าย แต่เรียกร้องเสียงดัง สุดท้ายตลาดมันจะเทไปทางนั้นแหละ
อยากบอกว่าสริ่มนักแปลหยุดดิ้นก่อน ทีตอนวิจารณ์บ.กันยาวเป็นพรืดไม่เห็นพวกมึงมากทงปีกปกป้อง ส่วนเรื่องวิจารณ์นิสัยนี่มึงอย่าโลกสวยได้มั้ย ลวด.นางออกมาแถลง+แสดงคห.ของนางในที่สาธารณะแบบนั้นอล้ว ไม่เท่ากับนางแสดงนิสัยออกมาให้คนเห็นละเหรอ คนจะวิเคราะห์ความเป็นตัวนางหรือมายเซ็ตของนางออกมาจากตรงนั้นไม่ได้เหรอ ถามมม
เป็นบุคคลสาธารณะไม่อยากโดนคนวิจารณ์มุมมองความคิดก็อยู่เงียบๆไป รอไปแก้ตัวงานหน้าหรือไม่ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าลงมาคลุกวงในกับดราม่าแล้วมันก็เป็นแบบนี้เรื่องปกติ เหยดแหม่
งานกับนิสัยมันแยกไม่ได้ป่ะ กูทำงานกูส่งงานไปจุดเล็กกูชอบลืมแก้จุดประจิ๋ว แต่จุดใหญ่ๆจุดสำคัญกูไม่พลาดงี้ เมเนเจอร์เห็นงานกูก็คิดไปแล้วส่วนหนึ่งว่ากูเป็นคนสะเพร่าไม่ระวัง แค่นี้ก็บอกนิสัยกูได้เยอะแล้ว
งานแปลเป็นรสนิยม งานปกก็เป็นรสนิยมเหมือนกัน
คนอื่นวิจารณ์ปกห่วยได้ ทำไมกูจะวิจารณ์แปลห่วยไม่ได้
ทำไมคนอื่นวิจารณ์ปก ด่าเหมือนไปฆ่าคนตาย
พอกูจะวิจารณ์งานแปล บอกให้กูด่าเบาๆหน่อย
2 มาตรฐานจริงๆว่ะ
อย่างว่า ติ่งมันไร้สมอง
>>540 มันไม่ได้เกี่ยวกันว่าเถียงกันเข้มข้นขนาดไหนเพราะปัจจัยของนักแปล2คนนึ้ก็ไม่เหมือนกันด้วย บ.มันไม่ได้ลงมาคลุกวงดราม่า ไม่เห็นไดเมาแถลงห่าเหวยืดยาวให้ตัวเองถูก แล้วกูจะบอกให้เฉยๆนะว่าบ.เคยยอมรับในทวิตตัวเองด้วยยังไม่เก่ง อยากให้ทุกคนให้โอกาสแล้วจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ
ละมึงหันมาดูทางลวด.กับสิ่งที่นางแถลงค่ะ
มาทรงนึ้จะเอาฟี้ดแบ็คแบบไหนคะ?
พิจารณาเอาก่อนนะเพื่อน
กูอ่านๆคนด่าลวดแล้วได้ขอสรุปว่าเกลียดเขาแหละ ไม่เกี่ยวกับทับศัพท์อะไรหรอก ที่ผ่านๆมานี่แทบไม่เห็นด่าเรื่องอ่านไม่รู้เรื่องเลยนะ เห็นแต่แบบ เอาตัวเองเป็นใหญ่ สริ่มนักแปล เกอเกออออออ
แล้วกูไม่เคยด่าคุณบ. หรืออ. หรือใครเลยนะ ตอนคุณบ.กับอ.โดนว่า กูก็แย้งให้เขาเหมือนกัน ถึงกูจะชอบคำว่าเสือซุ่มมังกรซ่อนมากกว่าพยัคฆ์หมอบมังกรขนดของเขาก็เหอะ ที่จริงในสามคนนี้ กูชอบลวดน้อยสุดด้วยซ้ำที่เคยแปลเถื่อน ไม่ต้องมาว่ากูสองมาตรฐาน แต่กูมองว่าการวิจารณ์เกินเบอร์นี่แหละ มันจะส่งผลกับนักแปลคนอื่นๆด้วย บางคนเขาจะแปลอะไรก็เกร็งไปหมดไม่รู้จะโดนด่าไหม นักอ่านบางคนก็นึกว่าตัวเองจะด่าอะไรก็ได้ ไม่ต้องเป็นความจริงก็ได้ มโนเอาเองก็ได้ กูอ่านที่ลวดเขาออกมาตอบ เขาก็ตอบในส่วนของเขา เขาคิดว่าแบบที่เขาแปลมันดีกว่า ซึ่งเขามีสิทธิ์ตัดสินนะ เขาเป็นคนเลือกสำนวน และก็ต้องยอมรับว่ามีคนชอบ ถ้ามึงด่าสาดเสียเทเสียจะให้เปลี่ยนเป็นแบบที่มึงชอบให้ได้ โดยไม่สนคนที่เขาชอบแบบทับศัพท์ ไม่สนเหตุผลนักแปลเลย อันนี้ใครกันแน่ที่ยึดตัวเองเป็นหลัก ก่อนจะบอกให้คนอื่นพิจารณา ลองพิจารณาตัวเองดูก่อน
>>542 555555555555444444455555 ตลกอ่ะ มึงได้อ่านที่กูพยายามอธิบายเรื่องทับศัพท์ไม่ทับศัพท์จริงหรอวะ กูงง เหมือนมึงอ่านแค่พวกสองสามบรรทัด กูไม่ได้เกลียดลวด. มึงอ่านยังไงถึง’นึก’ว่ามีแต่พวกเกลียดลวด.เข้าเส้นมาวิจารณ์การแปล ถ้าการวิจารณ์ไปทำให้เขาเกร็งไม่กล้าแปลไม่เป็นตัวของตัวเองก็ไม่ต้องทำงานเถอะ มึงเคยทำงานไหม ถ้ามึงเคย มึงต้องรู้ว่าเวลาทำงานยังไงก็ต้องมีจุดให้วิจารณ์จุดให้เเก้ไขอยู่ดี และมันก็ต้องปรับปรุงพัฒนากันไป มึงต้องนำคำวิจารณ์มาคิดวิเคราะห์แยกแยะว่าควรปรับปรุงตรงไหน และนะวังมากขึ้น กูเคยพบหมอ หมอบอกกูว่ามีไม่กี่คนหรอกที่กล้าฟังฟีดแบคตัวเองแล้วเอากลับมาคิดวิเคราะห์ให้ดี กูเลยชอบขอฟีดแบคจากเพื่อนว่าตอนนี้กูเป็นไง โอเคไหม ถ้ากูปรับได้กูก็จะปรับนิสัยที่กูเห็นด้วยกับเพื่อนว่ามันไม่ดี ถ้ากูคิดว่ามันโอเคอยู่แล้วและไม่เป็นป้ญหากับเพื่แนมากหนักกูก็จะไม่ปรับ และกูก็พยายามพิจารณาตัวเองอยู่ว่าตรงไหนที่ควรปรับปรุง เนี่ยกูอยากจะให้มึงเห็นว่าคนเรามันวิจารณ์ได้ คนรับคำวิจารณ์ก็ต้องคิดดูเองอีกทีว่าจะเอาไง ไม่ใช่ทุกคนรับคอมเม้นต์จากโม่งแล้วจะไม่กล้าทำอะไร ดูอยากบ. สมัยก่อนก็แบบหนึ่ง แก้ไขแล้วก็แบบหนึ่ง
กูอยากบอกว่ารู้จักนักแปลคนนึง แปลชญมีชื่อเสียงพอควร มาแปลวายแล้วเจอวิจารณ์สาดเสียเทเสียนี่แหละ โดนด่าว่าสะกดผิด ทำไมใช้ ราศี ต้องเป็น ราศรี ต่างหาก ทำไมใช้คำว่าปัสสาวะอุจจาระ ทำไมไม่ใช้ขี้เยี่ยว สมัยโบราณใช้ขี้เยี่ยวนี่ แปลไม่สมจริงนี่หว่า แล้วทำไมใช้คำว่ากุ้ยเฟย ไม่ใช้พระสนมเอก ทำไมใช้คำว่าไท่ไท่ ไม่ใช้คุณนาย (นิยายโบราณนะเออ) ฯลฯ ถึงสุดท้ายงานจะออกมาดีไม่มีดราม่า มีแค่คนพยายามแซะแล้วเงียบหายไปไม่กี่คน แต่นักแปลเซ็ง เลิกแปลวายไปแล้ว ซึ่งผลเสียไม่ได้ตกอยู่กับนักแปลเลยนะ เขามีงานชญกับนักอ่านที่ชอบสำนวนเขารองรับอยู่แล้ว แต่วงการวายนี่แหละที่หมดตัวเลือกไปหนึ่ง ขอบคุณจริงๆ
"กูอ่านๆคนด่าลวดแล้วได้ขอสรุปว่าเกลียดเขาแหละ ไม่เกี่ยวกับทับศัพท์อะไรหรอก"
สุดติ่ง ติ่งสุดๆ
>>542 ใช่ ลวด.เป็นคนแปล ลวด.มีสิทธิ์ตัดสินว่าจะแปลยังไงก็ได้ และคนอ่านที่เสียเงินซื้องานแปลของลวด.มาก็มีสิทธิ์วิจารณ์เหมือนกัน
ส่วนตรงที่มึงบอกว่า "ส่งผลกับนักแปลคนอื่นๆด้วย" อยากให้ลองคิดเรื่องที่ลวด.เคยแปลเถื่อนจนทำให้คนติดสไตล์การแปลเถื่อนของนางแล้วด่าของลิขสิทธิ์ กับการเซ็ตเทรนด์ทับศัพท์ว่าได้อรรถรสกว่าด้วย ตรงนี้ส่งผลกับนักแปลคนอื่นๆยิ่งกว่าที่โม่งวิจารณ์งานแปลของนางอีกจ้า
>>543 มึงต่างหากได้อ่านที่กูเขียนไหม กูไม่ว่าอะไรเลยถ้าวิจารณ์ "งาน" แต่นี่จินตนาการไปเองไงว่านักแปลเป็นยังไงแล้ว "ด่า" ตัวตนนักแปล เท่าที่อ่านดูนี่มึงน่าจะเป็นนักเขียนใช่ไหม หรือว่านักวาด กูเดาไปทางนักเขียนแล้วกัน กูอยากบอกว่าการรับฟังฟีดแบคเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามึงเป็นมืออาชีพแล้ว มันจะมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ "ลายเซ็น" ในงานของมึง ซึ่งมึงต้องพยายามบาลานซ์ให้ดี งานน่ะต้องพัฒนาจริง แต่สิ่งที่เป็นตัวตนก็ขาดไม่ได้ บางคนก็หาไม่เจอหรอกว่าสิ่งนี้ควรเก็บไว้หรือเปลี่ยนแปลง กูว่าลวดก็อาจจะเป็นแบบนี้ คืออาจจะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ แต่กูจะไม่ตัดสินน่ะ กูไม่รู้จักเขา ยิ่งมึงเป็นสายผลิต ถ้ามึงกระเหี้ยนกระหือรือในการตัดสินคนมากๆ แล้ววันนึงถูกด่วนตัดสินเหมือนกัน กูว่าเจ็บเป็นสองเท่า เชื่อกู ผ่านมาแล้ว
>>549 ไม่ไหวว่ะ ขอโทษน่ะกูรู้ว่านิสัยนี้ของกูอาจจะทำให้มึงหงุดหงิดมากขึ้น แต่กูกวนตีนเอง กูขำ 55555555555555 ไม่ต้องรอวันหนึ่งหรอกวันนี้มึงก็ด่วนตัดสินกูว่าเป็นสายผลิตแล้ว มึงคิดหรอว่ามีแต่สายผลิตที่จะต้องรับฟีดแบค สายอื่นๆก็ต้องรับความฟีดแบคเหมือนกันเด้อ สาบานเลยว่าตั้งแต่เกิดมากูไม่เคยผลิตอะไรแต่กูเคารพคนที่ผลิตงานเสมอ กูชื่นชมคนพวกนั้นมาก แต่นักแปลไม่เหมือนสายผลิตอื่น พวกเขาเป็นตัวกลางระหว่างสารนั้นจะให้ใส่คำว่าลายเซ็นเหมือนสายผลิตอื่นมันทำไม่ได้ ไม่ตำเป็นต้องสร้างเอกลักษณ์ในผลงานตัวเอง นิยายเป็นของนักเขียน มึงต้องพยายามใส่ลายเซ็นต์ของตัวเองเขาไปในผลงานของคนอื่นขนาดนั้นเลยอ่อ มันควรมีความพอดี มีบาลานซ์อย่างที่มึงบอก แต่ตอนนี้มันบาลานไม่ไง คนเลยออกมาวิจารณ์และกูยังย้ำคำเดิมว่างานที่ออกมาบ่งบอกนิสัยแล้วความคิด ทัศนคติของคนทำได้ส่วนหนึ่ง ถึงจะไม่ทั้งหมด คำวิจารณ์ในโม่งที่ลามไปถึงนิสัยเพราะเขาสัมผัสได้จากลายเซ็นของนักแปลท่านนั้นไง ไม่รู้มึงเคยอ่านงานฝูไหม กูว่าแบบนั้นเป็นลายเซ็นต์ของฝู ไม่รู้สึกพยายามเกินไป เข้าถึงอารมณ์ที่รู้สึกเจ็บไปกับตัวละครจริงๆ
>>549 และถ้าเขารับคำวิจารณ์ได้เขาต้องทำได้อยู่แล้วการปรับลายเซ็นเขาให้เข้ากับคำวิจารณ์ที่ได้รับมา มันถึงจะเรียกว่าเหมาะสม กูรอวันที่ลวด.พัฒนาเหมือนบ.อยู่ กูรักนิยายกูก็อยากให้มันดีขึ้น อยากให้มีคนอ่านเยอะๆ อยากให้มีคนรักเหมือนกูมากขึ้น ไม่ใช่คนยี้นิยายจีนเพราะมันอ่านยาก จำชื่อยาก
>>549 ลายเซ็นนึกถึงจงหยวนเลย5555 การใส่ลายเซ็นต้องเป็นคนเขียนไม่ใช่เหรอ คนแปลจะใส่ทำเพื่อ? การใส่ลายเซ็นอาจไปกระทบความหมายที่คนเขียนต้องการสื่อได้ ดูอย่างจงหยวนมีลายเซ็นเป็นของตนเอง การใส่กะปิน้ำปลาทำให้ต้นฉบับมันผิดเพี้ยน หรือลิ่วเหยาที่บ.แปลใส่สำนวนอ่านยาก300% มันทำให้ผลงานแปลเขามันอ่านยากจนคนเข้าไม่ถึงทั้งที่คนเขียนสำนวนก็ไม่ยาก หรือจะเอาคนดังอย่างหลินโหม่ว ทับศัพท์แบบบรรลัยซึ่งเป็นลายเซ็นเด่นของเขาเลยอะ มึงลองไปถามดิว่าป่าท้อมีคนอ่านแล้วรู้เรื่องซักกี่คน เนี่ยแค่ใส่ลายเซ็นคนแปลก็ทำให้คนอ่านเข้าใจคนเขียนผิดเพื้ยน แล้วยังจะใส่ทำไมอะ
ว่าแต่ไม่มีใครพูดถึงกองบก.เซ้นเลยเหรอ ปกติงานแปลมันต้องมีบก.คุมอีกขั้น สนพ.ดีๆนี่บก.เค้าแก้งานนักแปลกันยับเลยนะ งานแปลมันควรผ่านหลายๆสายตา หลายๆคนแก้ก่อนถึงจะออกมาดีและเป็นมิตรกับคนอ่านที่สุด แต่สนพ.วายสมัยนี้ (อิเซ้นและอื่นๆ) ดูเหมือนให้นักแปลฉายเดี่ยว อยากแปลยังไงแม่งก็แปลๆมา กองบก.ตรวจการสะกดคำอย่างเดียว บางกองแม่งไม่พรูฟด้วยซ้ำ เหมือนเอาคำแปลมาจัดหน้าเฉยๆแล้วโยนเข้าแท่นพิมพ์เลย เพราะอย่างนี้แหละแต่ละเรื่องมันเลยต้องมาลุ้นกันเอาเองว่าจะแปลออกมาอีท่าไหนวะ ในเมื่อสนพ.แม่งไม่มีนโยบายกลางให้นักแปลทุกคนยึดถือ
>>542 "เสือซุ่มมังกรซ่อน" กับ "มังกรขนดพยัคฆ์หมอบ" เป็นคนละสำนวน มีความหมายต่างกัน
卧虎藏龙 อันนี้คือเสือซุ่มมังกรซ่อน แปลว่าคนมีวิชา หรือคนเก่งที่เก็บตัว หรือเร้นกาย ไม่แสดงความเก่งกาจออกมาให้เห็น ณ ตอนนี้
สำนวนไทยที่ใกล้เคียงอาจจะเป็น คมในฝัก
龙盘虎踞 อันนี้มังกรขนดพยัคฆ์หมอบ ที่มีตบันใช้ในต้นฉบับตอนแรก แปลว่าอันนี้แดนคนเถื่อน ระวังอันตรายให้ดี มีคนซุ่มรอจังหวะทำร้ายเราได้เสมอ
เอกลักษณ์ของคนแปลไม่มีหรอกนะ อยากมีเอกลักษณ์ก็เขียนเองอย่าไปเอางานคนอื่นมาแปล
>>555 ถ้าเชื่อตามที่เพื่อนโม่งเม้าๆ กันข้างบนก็คือ บก. ซบ. ค่อนข้างเอียงไปทางให้ทับศัพท์มากกว่า ก็อาจจะเป็นแนวทางการทำงานของสนพ. ส่วนตัวเลยด้วย เอาจริงๆ อ่านงานลวด. มา 2 เรื่อง (ตัวร้ายกับสวรรค์ฯ ) ก็ยังไม่รู้สึกว่าหนักหรืออ่านยากเท่าปีนั้นฯ ที่คนอื่นแปล แต่ของซบ. เหมือนกัน
>>558 กูก็ว่าเป็นไปได้สูงที่จะเป็นนโยบายสนพ. แต่ปัญหาคือถ้าจะมีนโยบายทับศัพท์ก็ควรมีหลักการให้นักแปลทุกคนยึดถือให้ตรงกันว่าอะไรทับได้ อะไรทับไม่ได้ แบบทำเป็นอภิธานศัพท์แจกนักแปลไปเลย แต่สิ่งที่เซ้นเป็นอยู่ตอนนี้คือมันทับแบบไม่มีหลักการ หลักขึ้นอยู่กับนักแปลล้วนๆ บางคนทับเยอะ บางคนทับน้อย แม้แต่ในเรื่องเดียวกันยังทับศัพท์แบบไม่มีหลักการในตัวเองเลย คำเรียกญาติพี่น้องเหมือนกันแท้ๆแต่ดันมีทั้งทับและไม่ทับในเรื่องเดียวงี้อะ มันยุ่งเหยิงนะ
>>556 โอ้วววว อันนี้เพิ่งรู้ ขอบคุณที่บอกค่ะ ถ้างั้นกูเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงใช้คำนี้ ขอโทษคุณนักแปลด้วยที่เข้าใจผิด
ส่วนคนที่เข้าใจว่าสนพ.ดีๆ บก.แก้งานนักแปลยับ มึงเข้าใจผิดแล้วล่ะ พิสูจน์อักษรแล้วแก้เยอะน่ะใช่ แต่สนพ.ใหญ่ๆหลายแห่งค่อนข้างเปิดให้นักแปลใช้สำนวนแปลของตัวเอง ส่วนเรื่องลายเซ็นนักแปล มึงลองอ่านเรื่องที่แปลกันหลายสำนวนดูก่อน อย่างมังกรหยกก็ได้ ของคุณจำลอง พิศนาคะ คุณ ว ณ เมืองลุง กับคุณ น นพรัตน์ ไม่เหมือนกันสักเวอร์ชั่นเลย หรือไม่ก็ลองอ่านงานแปลของคุณแดนอรัญ แสงทอง ดู งานแปลก็มีลายเซ็นได้โดยที่ไม่ต้องทำลายใจความและอารมณ์ของต้นฉบับ กูบอกไม่ได้ว่าที่ลวดทำอยู่ถูกหรือผิด แต่บางทีการยืนกรานของนักแปลที่จะใช้ทับศัพท์หรือคำอะไรก็ตาม มันอาจจะมาจากความพยายามรักษาลายเซ็นของเขาหรือสาเหตุอื่นๆ ถ้าไม่ชอบงานก็บอกว่าไม่ชอบงาน ไม่ใช่บอกว่านักแปลนิสัยไม่ดีสิ การอ่านแถลงของเขาแล้วคิดว่าเขาเอิด ไม่เห็นหัวคนอ่าน เป็นการตีความไปเอง ไม่ควรเอามาด่าประหนึ่งเป็นข้อเท็จจริง
>>554 ยกมือคนนึงกูอ่านป่าท้อไม่ไหว อ่านแล้วท้อมากยอมแพ้
แต่ก็อยากให้ลวด.ลองเอาอย่างหลินโหม่วบ้างเหมือนกันนะ จะได้รู้กันไปเลยว่าพวกอยากให้ทับศัพท์เจอทับขนาดนั้นจะไหวมั้ย ทับจนนส.หนาแบบปาหัวหมาแตก55555 หรือว่าปีนั้นพอๆกับหลินโหม่วแล้วแต่ก็ยังไม่มีคนด่าวะ? พอดีกูลองอ่านไปแค่ไม่กี่บท
>>561 เห็นคำว่า "มีคนมาแซะแล้วเงียบหายไป 'ไม่กี่คน'" ไหม นักอ่านส่วนใหญ่จะปสดไหมกูไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือคนปสดน่ะมาด่า มันบั่นทอนกำลังใจ ทำคนเขาเสียใจ ชักจูงบรรยากาศไปทางลบหมดเลย แต่กูสงสัย กูยกตัวอย่างขนาดนี้ สิ่งที่มึงได้คือความคิดแง่ลบแค่ประโยคเดียวเนี่ยเหรอ อย่างอื่นคือมองไม่เห็นเลยใช่มั้ย
>>562 กูไม่ได้พูดถึงนิยายจีนอย่างเดียว แต่พูดถึงนิยายทั่วๆไปทั้งหมดเลย นิยายฝรั่ง นิยายญี่ปุ่น วายไม่วายรวมหมด กูเคยคุยกับกองบก.หลายๆคน (ไม่ใช่สายวาย) ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านักแปลชื่อดังหลายๆคนเนี่ย ถ้ามึงได้เห็นงานดิบรับรองมีช็อกตาตั้งกันไปข้าง ซึ่งกูว่านิยายวายไม่ใช่แบบนี้น่ะ งานที่เห็นมันน่าจะไม่ต่างจากงานดิบสักเท่าไร
แต่อย่างว่าแหละ ที่นี่โม่งอะเนอะ ใครจะพูดอะไรก็ได้ จะอ้างตัวเป็นนักเขียนนักแปลเป็นกองบก.ยังได้เลย 555555 ฝากถึงหลายๆคนที่มุงอยู่ละกันว่าอ่านแล้วก็อย่าไปเชื่อมาก สนพ.ที่แก้ยับมันมีจริง สนพ.ที่ให้อิสระนักแปลเยอะก็มีแหละ สนพ.มีเป็นร้อยๆแห่งน่ะ ในฐานะผู้บริโภคแล้วมึงชอบไม่ชอบการแปลแบบไหนก็มาถกกัน กูว่าเป็นเรื่องดีนะ
ลวด. เรื่องหน้ากูจะรอดูผลงานแปล ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปทิศทางไหน ถ้าเปลี่ยนไปทางทิศที่กูไม่ชอบมากยิ่งขึ้น กูคงเทจริงจังไม่ลังเล ยกเว้นเขาจะได้แปลเรื่องที่ดังกว่าเทียนกวาน กูอาจจะมีลังเล
กุมีเพื่อนคนนึงมันไม่อ่านวายจีนเลย มันดูเมะเทียนกวานแล้วชอบ กุเลยเอาเล่มแรกไปให้มันยืม ผลคือมันบอกว่าขอดูเมะอย่างเดียวก็แล้วกัน เจอทับศัพท์เยอะๆแล้วมึน การทับศัพท์แม่ง exclude คนกลุ่มนี้ไปจริงๆอะ เป็นข้อเสียที่หลายคนนึกไม่ถึง แต่คนที่ชอบทับศัพท์บางคนจะเหยียดว่าไม่รู้จักจำเอง ก็เอาที่ชอบๆละกัน ใครใคร่อ่านก็อ่าน
>>570 ที่ทำให้ออกมาแถลงก็คำวิจารณ์แต่ตัวผลงานนั่นแหละ ว่าทับส่วนที่ไม่ควรทับ ส่วนที่แปลได้ที่น่าแปลก็ยังทับ จนทำให้คนอ่านที่ไม่ชินจีนรู้สึกอ่านลำบาก
คำตอบก็แนว เราทำดีคิดมาดีแล้วค่ะ คนอ่านพยายามหน่อยน้าจะได้เข้าถึง~
ระเบิดถึงลงคนแปลไงมึง
ส่วนคนดีๆที่โดนระเบิดลงทั้งๆที่ไม่ผิด มึงไปดู อ. กับขนมนั่น อันนั้นเหยื่อของจริง คำวิจารณ์ผลงานคือ ไม่เข้าถึงความรักวั่งเชียนก็อย่าสะเออะมาทำำ เล่นเอากุอเมซซิ่งการวิจารณ์ของผู้บริโภคยุคนี้จริงๆ
วายจีน ปสด ที่สุดแล้วจ้าาา
คงได้ใจแฟนๆเพราะบอกว่าคุยกับนักเขียนด้วย ถ้าจะให้ส่งผลจริงๆเสียงข้างแปลไม่ทับต้องมากกว่านี้อีก
มึงก็ตีกันไปเรื่อยเนอะ แรกๆก็เห็นยังดีๆอยู่แต่หลังๆเริ่มประสาทขึ้นเรื่อยๆ อีดอก ไม่มีไรกูแค่จะบอกว่าตีกันต่อไปนะ อ่านแล้วสนุก 555555555555555 ให้ตายกูก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่โม่งจิกหัวด่าลวด.แล้วอวยบ.ได้ สรรพสิ่งล้วนไม่จีรังจริงๆ
โอ้ กูหายไปวันเดียวขึ้นเป็นสิบเม้นซบ.ทำให้มู้นี้คึกคักดีเหมือนกัน5555
เข้าเรื่องทับไม่ทับจะมองว่าเป็นรสนิยมอย่างเดียวส่วนตัวกูว่าก็ไม่เชิงซะที่เดียวนะมึง ถ้างานแปลคือการถ่ายทอดภาษาหนึ่งมาอีกเป็นอีกภาษาหนึ่งในวงกว้างโดยให้ผู้อ่านแต่ละที่มีพื้นฐานไม่เท่ากันเข้าใจตรงกัน การที่มึงทับศัพท์เยอะๆนิมันเป็นการตัดกลุ่มผู้อ่านกลุ่มหนึ่งออกไปเลยนะเว้ย คือมึงภาษาจีนมันไม่ใช่ภาษาพื้นฐานที่ทุกคนจะรู้ทุกคนจะได้เรียนนะ ในนกฟ้าที่ด่าๆคนไม่ชอบทับศัพท์ว่าคำจีนแค่นี้สมัยเรียนก็มีสอนคือมโนไปเองทั้งนั้น อีกอย่างที่กูว่าลวด.ไม่ใช่เรื่องมันทับศัพท์เรี่ยราดอย่างเดียว กูบอกเลยกูไม่เคยว่าที่ตอนแรกลวด.มันจะเลือกทับศัพท์ไร้สาระอะไรของมัน ที่กูมาว่าคือตอนหลังคำแถลงของนางล้วนๆคือ มันไม่ได้ปะ อะไรคืออ่านผ่านมาเยอะๆเดี๋ยวก็จำได้เอง/นักอ่านส่วนใหญ่น่าจะพอคุ้นตาจำคำพวกนี้ได้ โห นี่คือความคิดของนักแปลหรอ? นี่คือความคิดที่ว่าการแปลคือการถ่ายทอดภาษาเป็นอีกภาษาให้ผู้อ่านเข้าใจในวงกว้างที่สุดหรอ? นี่คือความเอาใจใส่นักอ่านของนักแปลหรอ? นี่คือนักแปลที่ดีที่ควรค่าแก่การชื่นชมหรอ?
เควายแถมท้ายจงหยวนมีวีรกรรมอะไรทำไมคนบอกซบ.เหมือนจงหยวน2
>>578 ในฐานะอดีตกวางน้องกูเห็นคำว่าจงหยวนปั๊ป เลือดขึ้นหน้าปุ๊ป หลักๆก็ไม่มีอะไรแค่สมัยก่อนจบหยวนก็เเบบนี้ลูกหาบเยอะ ใครสงสัยอะไรนิดหน่อยไม่ได้โดนไล่ออกจากเเก๊งกวาง ชอบสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเองบอกว่าตามใจนักอ่านแต่ความจริงก็แอบเติมกะปิน้ำปลา ตัวเองสนพ.ชอบออกมาพูดทำให้พาดพิงไปถึงสนพอื่นๆ ลูกหาบตัวใหญ่ชอบเอางานจงหยวนมาเปรียบเทียบแล้วไปกดคนอื่น บอกว่าที่อื่นสู้ที่นี่ไม่ได้ เท่าที่กูคิดว่ามันเกี่ยวคล้ายๆซบ.นะ
กูยอมรับนะว่าปกซบ.มันสวยจริง ถูกจริตกูจัดๆ แต่…นั่นละ สวยแต่รูป
เทียบลวดกับจงหยวนก็เกินไปเมิง อย่างน้อยลวดก็ไม่กะปิน้ำปลา จงหยวนเมื่อก่อนคนชอบก็เพราะภาษาแปลง่ายๆ ราชาศัพท์อะไรก็ไม่ต้องใช้ เชิงอรรถไม่ต้อง มาคนละทางเลย มีนิสัยยกตนข่มท่านของลูกหาบเนี่ยแหละที่คล้ายๆกัน
ลวดแปลอ่านรู้เรื่องนะ การเรียบเรียงไม่มีปัญหาเลย ตรงที่แปลเป็นภาษาไทยสวยๆก็มี "กายอยู่โลกันตร์ ใจอยู่ธารท้อ" นี่ไพเราะน่าจดจำเลยแหละ ติดแค่เรื่องทับศัพท์เรี่ยราดเท่านั้นจริงๆ ถ้าแก้จุดนี้ได้จะเป็นนักแปลชั้นดีคนนึงเลย
กูว่าลวดแปลดี ติดที่ชอบทับศัพท์นี่แหละ แต่กูก็หมั่นไส้นะที่นางบอกเกอเกอออดอ้อนกว่า งง ไท่จื่องี้ บอกว่าคนไทยคุ้นเคย คุ้นกับศาลเจ้านาจาไท้จื่อหรือเปล่า 5555 กูแค่เกลียดเทรนด์ทับศัพท์โดยไม่จำเป็นอะ ดัดจริต
>>585 เรื่องสำนวนดีจริง แต่ถ้าลดอีโก้ลงหน่อย รับฟังความเห็น ไม่เน้นแปลเฉพาะกลุ่ม ไม่เอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่มโนว่าทุกคนมีศัพท์จีนในหัว(กูวิเคราะห์จากบทแถลง) คงจะเป็นนักแปลที่ดีคนหนึ่ง
ดักคนที่จะด่ากูว่าเงาแค้นลวด.ติ่งบ.หรืออะไรก็ตาม
.
.
กูไม่ได้อคติ กูเขียนแบบนี้เพราะสิ่งที่กูได้เห็น ได้อ่าน ได้รู้มา ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นติ่งใคร หรือเงาแค้นใคร ไม่ต้องพยายามยัดเยียดฐานะแปลกๆให้กู กูด่าคนทำงานเหี้ยแล้วไม่รู้จักแก้ไขจบนะ
>>589 >>569 เห็นพวกมึงเล่ามางี้ กูก็กำลังคิดอยู่เลยว่าคนแปลน่ะ ควรมีความกระตือรือร้นและความติ่งให้มาก(จะติ่งภาษา ติ่งเนื้อเรื่อง ติ่งคนเขียนอะไรก็ตามแต่) เพื่อเข้าถึงและเก็บรายละเอียดของเรื่องและด้อมได้ แต่งานที่แปลออกมา ถ้าจะให้ดูเป็นมืออาชีพก็ควรวางความติ่งลงให้เยอะที่สุด เพื่อที่งานแปลจะได้ถ่ายทอดเข้าถึงผู้อ่านที่หลากหลายได้มาก
เสียดายแทนตัวนิยายที่เพื่อนพวกมึงเลือกไม่อ่าน แต่ก็นะ มันก็เหมือนพวกหนังซีรีส์ บางคนดูอย่างเดียวไม่อ่าน บางคนอ่านไม่ดู
เอาจริงอย่างฮัสกี้ที่โม่งอวยว่าแปลดีนี่ก็ทับศัพท์เยอะ แต่ไม่โดนด่าเพราะไร เพราะไม่ได้ตะบี้ตะบันทับแม่งทุกคำที่ทับได้ แล้วอ้างชื่อคนแต่ง และบอกว่าตามความคิดของผู้แปลคำนี้มันให้ความรู้สึกแบบนี้มากกว่าไง
>>593 จริงๆฮัสกี้ กูว่าก็ทับเยอะ กูอยากให้หาคำไทยสวยๆมาแปลมากกว่า แต่ช่างมัน ขอแค่ไม่ใช้คำว่า ซือจุน เกอเกอ โม่หรานเกอเกอ กูก็ดีใจน้ำตาไหลล่ะ ไม่กล้าขอมาก
อย่างน้อยก็ไม่แย่เท่าของลวด
ไอคำว่า ซือจุน เกอเกอ อะไรพวกนี้ สำหรับกูมันเหมาะกับพวกแฟนคลับมาคุยกันเล่นๆขำๆ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาแปลลงหนังสือ
ในหนังสือ สำหรับกู มันควรจะเป็นทางการระดับนึงอะ ไม่ควรนำภาษาพูดมาใช้ ซือจุน เกอเกอ สำหรับกูมันเหมือนภาษาพูด เป็นภาษาของคนที่รู้ภาษาจีน หรืออ่านเวอร์ชั่นอังกฤษมา
เหมือนคำว่า เซนเซ (เซนเซย์) เซมไป ชิโช โอนี่จัง โอโต้ซัง โอก้าซัง มันคือคำที่เอาไว้คุยกันเล่นๆในเว็บบอร์ด เอาไว้พวกรู้ญี่ปุ่น พวกโอตาคุ คุยกัน
แต่ไม่ควรเอามาใส่ในหนังสือการ์ตูน เพราะคำในหนังสือการ์ตูน สำหรับกูมันควรจะใช้คำที่เป็นทางการนิดนึง
เดี๋ยวนี้วายไทยที่แนวแฟนซี สิ้นโลก ไซไฟ ไม่มีเขียนยาวๆบ้างเหรอ
เอาจริงๆเลยนะ กูเสียดายพล็อตนิยายวายจีนหลายๆเรื่องมากเลย ที่เพราะงานแปลดันเป็นปัญหาทำให้หลายๆเรื่องคนเลือกที่จะเท อันนี้กูพูดรวมๆทุกเคสนะ ทั้งลวด. บ.สมัยก่อน หรืออิคุณปป. ที่แปลออกมาตามใจฉัน ไม่คิดถึงพื้นฐานของกลุ่มคนอ่านเอาที่ฉันสบายใจ ฉันชอบแบบนี้ ใครจะทำไม บลาๆ บ.นิกว่าจะปรับปรุงตัวได้ก็เสียนิยายดีๆไปหลายเรื่องเหมือนกันเพราะความเวิ่นเว้อของสำนวนนี้แหละ ส่วนลวด.คือกูพูดตรงๆนะเหมือนงานแปลตามใจติ่ง คนที่อ่านนิยายจีนมาเยอะอาจไม่ได้รู้สึกอะไรกับสำนวนของนาง แต่คนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นติ่งจีนเหนียวแน่น ไม่ได้ตามงานจีนตลอด การแปลแบบลวดคืองานแปลเฉพาะกลุ่มที่ขัดกับคำว่างานแปลที่ทำให้คนเข้าใจในวงกว้างสุดๆ อยากที่กูเคยบอกภาษาจีนไม่ใช่ภาษาพื้นฐานที่ทุกคนได้เรียน ไม่เกี่ยวกับรสนิยมการทับศัพท์มากๆโดยไม่จำเป็นคือการผลักภาระให้ผู้อ่านอะถูกแล้ว ส่วนอิคุณปป.นิยิ่งหนักเลย อันนี้ทับแบบไม่กะแปลเลยมั้ง อีกนิดคือนิยายภาษาคาราโอเกะทั้งเล่มละ
เรื่องทับศัพท์อันนี้โม่งลองคิดดูนะถ้าเจอทับศัพท์แบบนิยายจีนในภาษาอื่นจะโอเคกันไหม ถ้าเจองานแปลแบบนี้แต่ไม่ใช่นิยายจีนจะยังได้อรรถรสกันอยู่รึป่าว
เพิ่มเติมอีกอย่าง คือ ไม่อยากว่านะ แต่ติ่งมีอิทธิพลต่องานแปลจริงๆแหละ กูไม่รู้นะว่ามันเริ่มมาจากไอ้อีเซเลปคนไหนเป็นคนจุดประกายแนวคิดนี้ แต่กูเห็นด้วยที่ทำให้วงการงานแปลมันตกต่ำลง ในอนาคตกูคงไม่มีโอกาศเจองานแปลประเภทคำแทนตัวแล้วมั้งคงทับศัพท์หมด เฮ้อ คิดถึง ตัวข้าผู้เป็น… กระหม่อม หม่อมฉัน บ่าว เรา ผู้แซ่… บลาๆ
เรื่องงานแปล กูขอนอกเรื่อง ไปชมฝั่งการ์ตูนญี่ปุ่นนิดนึง
กูว่าฝั่งการ์ตูนญี่ปุ่น ทำเรื่องแปลได้มาตรฐานดีมากระดับหนึ่งเลยนะ (ไม่นับ jujutsu ที่เค้าว่ามีปัญหา)
ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนสมัยเก่า หรือสมัยใหม่ เช่น ดาบพิฆาตอสูร (kimetsu) คือ คำไหนที่แปลได้ ก็จะแปลเป็นไทยอะ ไม่ใช้คำญี่ปุ่นพร่ำเพรื่อ
อย่างคำว่า เสาหลัก ปราณวารี ปราณอัคคี ไรงี้
พอใช้คำไทย มันก็ทำให้คนไทย ที่อยู่นอกวงการการ์ตูนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
กูอ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก เลยชินกับการแปลไทย
พอเจอวงการนิยายวายจีนขึ้นมา เงิบเลย
>>598 อันนี้จริง กูเริ่มอ่านแปลจีนมาจากชายหญิง กูเริ่มที่ป่าท้อ แล้วมันทรมานสำหรับกูมากในการกระดื้บๆไป กูรู้ว่ามันสนุกนะ แต่ศัพท์ที่มันทำทำกูไม่เข้าใจบางฉากจนกูเสียดาย หลังจากนั้นจนวันนี้กูก็ไม่ค่อยแตะนิยายจีนแนวเทพเซียนเท่าไร ถ้าเทียบเปอร์เซ็นต์แนวนิยายที่อ่านต่อปีแนวนี้น้อยสุด มันฝั่งใจกูมั้งว่ามันอ่านยากต้องใช้เวลาเข้าใจ แต่ถามว่านอลมอลยึดป่าท้ออวยป่าท้อเป็นต้นเเบบไหมก็ไม่ ทั้งที่ก็มีนักอ่านหลายคนอวยว่าเป็นแปลชั้นสูง และกูว่าที่นอลมอบจีนแมสขึ้นจนครองเซลฟ์ในร้านหนังสือได้ขนาดนี้ส่วนหนึ่งเพราะจงหยวน การแปลแบบบ้านๆของนางที่โฆษณาทำให้คนหันมาอ่านแปลจีนมากขึ้นและคิดว่ามันเข้าถึงได้มากกว่าหลังจากนั้นก็ค่อยๆขยับขยายไปอ่านเรื่องอื่น กูก็อยากให้นิยายวายแมสขึ้น คนอ่านกว้างขึ้นไม่จำกัดกลุ่มเฉพาะ คิดไหมว่าทำไมวายจีนถึงแพงกว่านอลมอลจีน ฐานคนอ่านแคบ มันดูแมสนะตอนออกมาใหม่ๆแต่ผ่านไปก็เริ่มไม่คุ้มแล้วที่จะตีพิมพ์เพราะdemand อาจน้อยกว่าขั้นต่ำในการผลิตให้คุ้มทุนแล้ว แต่เทียบกับนอลมอลเรื่องที่ออกมาแล้วห้าปีวันนี้ก็ยังขายได้อยู่ เพราะมันมีการตีพิมพ์ใหม่ตลอดมียอดขายเรื่อยๆ อยากให้ตลาดขยายไหม อยากให้มีวายแปลจีนเรื่องใหม่เข้ามาอีกเยอะ อยากให้มีคนอ่านมากขึ้นไหม บ้างทีก็ต้องทำให้คนเข้ามาในวงการนี้ง่ายก่อน
>>603 ฝั่งการ์ตูน เรื่องการแปล กูว่าดีกว่าฝั่งนิยายวายจีนเยอะ ไม่ค่อยปสด (แต่ฝั่งการ์ตูนมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์แทน)
คือฝั่งการ์ตูน แม่งจะน่ารักอย่างหนึ่งคือ ถ้านักแปล แปลศัพท์ภาษาไทยอะไรในการ์ตูน ทุกคนจะพร้อมใจกันยึดศัพท์นั้นเป็นศัพท์หลักอะ
ไม่มางอแง ทำไมไม่ใช้ทับศัพท์ญี่ปุ่น คือใครจะใช้ก็ใช้ไป ใช้เวลาคุยกับเพื่อนเล่นๆงี้ แต่ไม่มาปสด ทำไมไม่ทับญี่ปุ่นลงหนังสือ
ก็หนังสือ มันควรจะทางการปะ? กูว่าการแปลลงหนังสือ มันคล้ายๆเวลาเขียนเรียงความอะ ควรจะใช้ศัพท์ทางการ ที่คนอ่านทุกคนอ่านแล้วเข้าใจ
>>605 เออ กูว่าวงการนิยายจีนแม่งแปลกมากเรื่องทับศัพท์ คือใครจะชอบทับศัพท์กูไม่ว่านะ ลางเนื้อชอบลางยา แต่อีพวกชอบทับศัพท์แล้วบ่นว่าแปลไทยดูสะเหล่อๆ ไม่ได้อรรถรสนี่มึงไหวบ่??? กูเห็นคนบอกว่าแปลเกอเกอเป็นพี่ชายแล้วนึกถึงพี่ชายชั้นหนาวมันเลยดูตลก เอ้า เรื้องมึงดิ 55555555555
กูเพิ่งมาตามอ่าน จริงๆก็ไม่ได้ชอบพวกทับศัพท์เกลื่อนกลาดนะ แต่คนอ่านวายจีนบางคนปสดจริงว่ะ ต้องยอมรับ
>>609 อาจเพราะแปลเถื่อนมันระบาดหนัก มีหลายสำนักหลายค่ายหลายซับ ขึ้นชื่อกันว่าซับนรกก็รู้กันอยู่ และก็เข้าใจดีว่าแปลเถื่อนคือแปลเถื่อน ลูกหาบเลยฟอร์มกองกำลังให้เสียงดังไม่ได้ป่าว แต่เคสวายนี่คนน้อยเสียงดัง แปลเถื่อนมีแค่เจ้าเดียวได้อ่านฟรีก็รู้สึกชื่นชมดีงามเห็นเป็นแบบอย่างไปแล้วต้องเป็นหาบเค้า กุอยู่ในวงการเองยังรู้สึกเลยว่ามันดูเป็นวงการที่คนเรียกร้องอย่างไร้สมองในหลายๆเรื่อง
>>609 ก็ฝั่งการ์ตูนมันแปลแล้วดีไงเลยไม่มีคนบ่น แสงอุสา เนตรวงแหวน ลูกเตะจักรผัน แปลเหมือนเรียนแต่งกลอนมา
ฝั่งไทยที่แปลๆกูว่าก็ไม่ได้โดนด่านะ มาโดนด่าที่แปลแล้วไม่สวยแปลแล้วบ้ง กับคำแทนตัวที่ทับศัพท์ตามเทรนตปทอย่างซือจุน เกอเกอ ขนาดแปลผิดอย่างพระฉันกระจายแต่แปลแล้วตลกยังไม่มีคนด่าเลย ถึงจะมีคนแหกก็เถอะ กลับกันลืมอิจฉานี่โดนด่ายับ ทั้งๆที่แปลถูกแต่แปลไม่สวย
เวทมาก นักอ่านสมัยนี้ ไม่เข้าใจแม้แต่การ localize
>>624 ถ้ามีเวลานั่งรีเฟรชโม่งทั้งวันก็ลองไปอ่านนี่ดู http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2015/TU_2015_5306034124_2634_3717.pdf เผื่อฉลาดขึ้น
เบื่อเรื่องเขาพระฉันกระจายมาก อ.ไม่ได้แปลผิดโว้ยยย https://twitter.com/meemee31525394/status/1348988714819538947?s=19
ที่งงยิ่งกว่ามีคนเข้าใจว่าความหมายเป็นพระกินมูมมาม
อีกอย่างเทวะนารีไม่เกี่ยวอะไรกับเขาต้าฟ่านเลย ที่เรียกว่าเขาต้าฟ่านเพราะรูปทรงเขาด้านนอกมันเหมือนเทพจีน แล้วเทพจีนอันนี้ก็คือเทพที่เรียกว่าพระสังกัจจายน์
พอมีคนแย้งตัวเองหลายๆคนก็บอกรีไอพีมาตอบ เอ้อ 555555555
กระทู้โม่เซียงเต็มแล้วทำไมไม่มีใครตั้ง ใครก็ได้ตั้งที แล้วมึงก็ไปเถียงกันในนั้นนะ
ในบางครั้งอาจจะมีแปลไม่ตรงบ้างเพื่อให้เข้ากับสังคมวัฒนธรรมของประเทศที่ฉาย เช่นมุขตลกที่กล่าวถึงดารา ตปท. คนดูอาจจะไม่อินเลยต้องดัดแปลงแปลเป็นดาราไทยเป็นต้น หรือบางบริบทหรือบางแสลงอาจจะต้องบิดนิดนึงเพื่อทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ตราบใดที่มันไม่ได้เปลี่ยนบริบทหลักมันไม่จำเป็นต้องแปลเป๊ะๆขนาดค่ะ คนดูเขาเข้าใจค่ะไม่ได้ ปสด.ที่ไม่แปลให้เป๊ะทุกคำ
ก็บอกแต่แรกว่าไม่มีใครด่าเพราะแปลตลก พวกเมิงดิ้นกันเองแท้ๆ มุแง กูก็ดิ้นตามเถียงกับพวกเมิง สุดท้ายมาหาว่ากูปสด ดิ้นเหนื่อยเลย มุแง้
นี่หาเรื่องเปลี่ยนประเด็นจากที่ด่าลวด.จะมาให้ด่าอ.แทนทั้งๆที่อ.แปลถูกต้องตามหลักแล้วหรอ มุแง้
>>640 เอ้า โทษกูเปลี่ยนเรื่องเฉย เมิงกลับไปอ่านของกูตอนแรกก็ได้>>611 กูแค่มาบอกว่ามันต่างจากเคสการ์ตูนญปที่คนไม่มีปัญหากับการแปลเพราะเขาแปลดีกว่า คล้องจ้อง มีสัมผัส ฯลฯ
ฝั่งไทยที่แปลๆกูว่าก็ไม่ได้โดนด่านะ มาโดนด่าที่แปลแล้วไม่สวยแปลแล้วบ้ง กับคำแทนตัวที่ทับศัพท์ตามเทรนตปทอย่างซือจุน เกอเกอ ขนาดแปลผิดอย่างพระฉันกระจายแต่แปลแล้วตลกยังไม่มีคนด่าเลย ถึงจะมีคนแหกก็เถอะ กลับกันลืมอิจฉานี่โดนด่ายับ ทั้งๆที่แปลถูกแต่แปลไม่สวย
กูว่าที่กูเถียงๆไปก็ไม่ได้ลากออกทะเล เมิงเถียงไรมากูก็เอาที่กูคิดมาเถียงกลับ ยังยืนยันคำเดิมว่าถ้าแปลแล้ว "แปลดี" ก็ไม่มีคนด่าหรอก เขาพระฉันกระจายยังไม่มีคนด่าเลย พวกเมิงปกป้องกันชิบหาย
แล้วพวกเมิงก็มาปกป้องเขาพระฉันกระจายกันกระจายเองนะ สรุปกูผิดอีก 55555
ไม่ได้ปกป้องลวดไรเลยด้วย เมิงเองที่ลากลวดมา เถียงเบื่อแล้วอยากกลับไปด่าลวดต่อก็หาว่ากูเป็นหาบลวดมาเปลี่ยนประเด็น
โอ้ พวกมึงเถียงกันดุเดือดจริงๆ
กูขอออกคห.บางนะ อ.พลาดจริงตรงลืมอิจฉา แต่ชื่อที่เหลือกูว่าไม่บ้งถึงขนาดต้องด่าอะ(จบประเด็น อ.แปลชื่อเฉพาะ)
เรื่องลวด.ยืดยัดคำเดิมไม่ถือว่าแปลแย่แต่แปลตามใจฉัน ฟิวส์เหมือนตอนอ่านเถื่อนที่นักแปลมันชอบติดคำทับศัพท์หรือเหมือนตอนคุยบอร์ดที่เรียกทับศัพท์/ตั้งฉายาตลค.ซึ่งมันเป็นอะไรที่เฉพาะกลุ่มมากๆคนไม่ได้ตามเขาไม่รู้หรอว่ามันให้ความละเอียดอ่อนต่างกันยังไงเขาแค่เห็นว่ามันยุ่งยากในการจะอ่านเท่านั้นละ มันเลยไม่เหมาะสำหรับการจะแปลออกเป็นรูปเล่มหนังสือให้คนทั่วไปได้อ่าน กูเห็นด้วยนะกับโม่งที่บอกว่าจะออกหนังสือภาษาต้องทางการนิดนึง มันไม่ควรจะเอาคำที่ฮิตแค่ยุคใดยุคหนึ่งหรือคำทับศัพท์ที่ไม่ใช่ภาษาพื้นฐานที่คนเรียนกันมาใช่ในงานแปลหนังสือจริงๆ
จะว่าไปนะมึง กูเศร้าใจจริงๆที่เดียวนี้เห็นงานจีนสจ.ทะลึ่งเชื่อคติลวด. ทับศัพท์เกอเกอกันระนาว(รู้สึกอยากเอาตีนก่ายหน้าผาก) บางคนทับมากระทั้ง ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยน กูเห็นแล้วเครียดเลย ภาษาไทยไม่ใช่ภาษาที่เวิ่นเว้อนะมึง
>>611 พระฉันกระจายไม่ได้แปลผิดนะ การแปลมันมีแปลเพื่อเอาความหมายน่ะ ถ้าอ่านการ์ตูนก็น่าจะเห็นหลายเคสสิพวกมุกเล่นคำ คำออกเสียงคล้ายกัน ก็จะมีการแปลงคำบ้างไม่ตรงตัวให้มันเล่นมุกได้อย่างต้นฉบับ
ส่วนที่ด่าก็มีพวกคำแทนตัวแมสๆ ชื่อกระบี่ ชื่อสถานที่ ที่คนไปอ่านจากที่อื่นมาแล้วติดทับศัพท์ พอเจอแปลไทยแล้วไม่ทับเลยด่า ไม่ว่าจะแปลดีหรือไม่ ส่วนนารูโตะไม่ด่าเพราะคนอ่านส่วนใหญ่คุ้นเคยหลังจากไทยได้ลิขสิทธิ์แล้ว แล้วใช้คำแปลเหมือนกันหมด จนสั่งสมไปเรื่อยๆว่างานแปลก็แปลได้ไม่จำเป็นต้องทับศัพท์ ส่วนลืมอิจฉามันเล่นคำกับวั่งเซี่ยนแหละ ก็เหมือนกระบี่แล้วแต่ แต่คราวนี้นักแปลหาคำไม่ได้เลยติดโน้ตแทน ก็เหมือนกับที่ฝั่งทับศัพท์ ทับแล้วไม่สามารถรักษามุกได้ก็จะไปเล่ามุกคำแปลในเชิงอรรถแทน
สำหรับกูที่ปรมจโดนด่าเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ใช่สายเน้นเสพนิยายจีนมาก่อน ไปเสพสื่ออื่นเยอะและสื่อพวกนั้นทับศัพท์หมด แถมตอนแปลเถื่อนคนแปลทับศัพท์ไม่พอยังวางยาว่าการทับเป็นการรักษามู้ดจีน ไม่รู้สนพ.จะรักนิยายเรื่องนี้เหมือนที่เขารักไหม พอแปลไทยเลยบึ้ม คนปสด.กันหมด ขนาดบอกว่าใครที่ไหนแปลกระทั่งชื่อสถานที่ ชื่อกระบี่ ทั้งที่สายจีนนอมอลส่วนใหญ่ก็แปลกัน
บวกเรื่องงง ตอนกุพึ่งเริ่มอ่านนิยายจีนแรกๆดันไปอ่านเรื่องที่ทับศัพท์เยอะสัด ช่วงแรกๆจนถึงกลางเรื่องกุงงตลอดว่าพูดถึงใครอะไรกันอยู่ 555555
เรื่องเปลี่ยนมุกนี่ที่กูทับใจในการ์ตูนของเมืองยิ้มเก่าแล้ว เรื่องคือพระเอกบอกว่าแหวนหายไป แหวนทำมาจาก’โครเมียม’ นางเอกมันไม่รู้จักโครเมียมก็จินตนาการว่าทำมาจากพวก’โคตรเหี้ยม’ ซื่งภาพที่นางเอกคิดในการ์ตูนมันเป็นพวกนักเลงเป็นคนทำเเหวนนี้ กูทับใจที่มันพอดีเป๊ะเลยทั้งที่ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่น่าจะใช้คำนี้หรอก โคตรเหี้ยมน่ะ กูอยากหาภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นมาเทียบดูมาเลยว่ามุกมันจริงๆคืออะไร แต่กูหาไม่ได้มันเก่ามากแล้ว และกูก็คิดว่านักแปลเก่งมากที่แปลงมุกนี้ออกมาตามประเทศเก็ทหัวเราะไปกับมุกนั้นๆได้
ถ้าการแปลกุประทับใจกินทามะสุดล่ะ แม่งแปลยังไงให้แม่งฮาตลอดวะ 5555555
>>645 พูดถึงนารูโตะ หรือการ์ตูนต่อสู้ต่างๆ
กูแทบไม่รู้จักชื่อท่าไม้ตายภาษาญี่ปุ่นเลยนะ
กูรู้จักแต่ชื่อท่าไม้ตายภาษาไทย คนอ่านก็เรียกชื่อท่าไม้ตายภาษาไทย
หรือนักแปลการ์ตูน เลือกใช้คำได้เก่งกว่านักแปลนิยาย ไม่มั้ง กูว่านักแปลนิยายสมัยก่อนก็น่าจะแปลชื่อไทยเก่งๆได้ปะ
แค่สมัยนี้ไม่แปลกัน
กูอยากให้เป็นแบบการ์ตูนนะ ที่แปลแล้วสวยๆ แล้วทุกคนก็พากันอ่านชื่อไทย
เริ่มมีทับศัพท์อย่าง jujutsu ล่ะ คนด่ากันระนาว ซึ่งกูว่ามันดีนะ อย่าให้มาตรฐานตกต่ำเหมือนวายจีนเลย
เออ พูดถึงการ์ตูนแปลชื่อท่าไม้ตาย จู่ๆกุดันแวบ inazuma11 มาเฉย เรื่องนี้พิเศษกว่าชาวบ้านหน่อยตรงLCไทยมีทั้งแปลชื่อท่าและทับศัพท์(เหมือนเขาพากษ์2เวอร์ ตามแชนแนลฉายมั้ง) ยุคนั้นกุก็เห็นเด็กเอาไปคุยทั้งสองชื่อนะ แปลกดี5555
>>650 นักแปลสมัยก่อนก็เก่งมึง สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร มหาเวทย์ดูดดาว เอกะดรรชนีสุริยัน กระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร จักรวาลในแขนเสื้อ มาพร้อมทับศัพท์แต้จิ๋ว ใช้สลับๆกันไปในเรื่อง ส่วนใหญ่ทับแล้ววงเล็บเอา แต่กูก็ไม่เห็นนักอ่านรุ่นนี้อ่านกันเท่าไหร่ สาววายยิ่งแทบจะไม่เห็นอ่านแนวนี้เลยมั้ง
กูชอบฝั่งการ์ตูนที่แปลชื่อท่าไม้ตายเป็นภาษาไทย มันทำให้ต่อให้ผ่านไป10-20ปีมึงก็ยังจำชื่อท่าไม้ตายการ์ตูนในวัยเด็กได้อะ55555
จะว่าไปเรื่องทับศัพท์เยอะนิ ภาษาอื่นเขาดูไม่โอกันหมดเลยปะ ไม่ได้มองด้วยว่าพอแปลไทยแล้วเสียอรรถรส(แล้วอิจีนมันเป็นอะไรรรร5555) กูส่องนกฟ้า ฝั่งญป.มหาเวทคนก็ด่าเรื่องทับศัพท์ ฝั่งเกาก็มีเรื่องนึงในวต.ที่ทะลึ่งทับชื่อท่ามาเป็นภาษาเกา คนก็ออกมาด่าว่าทับเพื่อ ตัดภาพมาที่ของอิจีน ด่าเพราะนักแปลไม่ยอมทับศัพท์(คำที่ไม่จำเป็นต้องทับ/คำที่แปลก็ได้)
>>645 “ไม่รู้สนพ. จะรักนิยายเรื่องนี้เหมือนที่เขารักไหม” เชี่ยประโยคล่อตีนให้สนพ.สุดๆ มึงแปลเถื่อนแล้วก็ควรเงียบๆแล้วหุบปากไปนะไม่ใช่มาล่อตีนให้สนพ. ยังงี้มันเรียกว่ารักตรงไหน มึงรักนิยายหรือมึงรักตัวมึงเองเอาดีๆ ถ้ารักนิยายมึงควรบอกให้คนช่วยอุดหนุนของถูกลิขสิทธิ์สิถึงจะถูก เอาของเถื่อนมาแปลแบบนี้แม่โม่ไม่ได้ตังนาจา
>>650 อยากให้เป็นแบบมึงเหมือนกัน แต่ดูท่าแล้วคงยาก การทับศัพท์แม่งมีแต่จะแอดวานซ์ขึ้นเรื่อยๆ สักพักในอนาคตมึงอาจเจอทับศัพท์ หว่อในนิยายแปลจีนก็ได้
พูดถึงคำแปลสวยๆ กูคิดถึงคำแปลเรื่อง ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง ที่มี2ชื่อเลยอ่ะ ชื่อมังงะเป็น ‘ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง’ ส่วนคนแปลเมะแปลเป็น ‘แว่วเสียงเรไร’อ่ะ เรไร=ชื่อจักจั่นชนิดหนึ่ง กูหวีดมาก ชื่อมังงะก็ดีนะแต่กูส่วนตัวกูหวีดชื่อเมะมากกว่า มันตรงตัวอยู่นะมึง
>>646 บวกมึง กูชอบแบบแปลไทยแล้วค่อยอรรถรสศัพท์จีนข้างใต้มากกว่า อย่าว่าอย่างงี้อย่างงั้งเลย ทุกวันนี้ปีนั้นฯกูยังเข็นไม่จบเลยด้วยซ้ำ55 หนทางยาวไกลมาก กว่าจะถึงเล่ม2อย่างที่โม่งบนๆบอกทับศัพท์น้อยลง กูว่ากูคงขายทิ้งก่อนเพราะกูจำศัพย์ไรไม่ได้เลยตอนอ่าน
>>656 เอาจริงคือกูว่าคนที่ออกมาดิ้นเลยทับศัพท์ไม่น่าใช่ติ่งนิยายนะ น่าจะเสพสื่ออย่างอื่นแล้วเก็บนิยายเป็นของสะสมมากกว่า ส่องๆจากทวิตคนพวกนี้เห็นหวีดแต่ซีรี่ส์นิยายถ่ายโชว์ว่าซื้อมาขึ้นหิ้งเก็บไว้ชาบูอย่างเดียว
>>659 แว่วเสียงเรไรมันมีตั้งแต่เป็นมังงะไพเรท ตรงตัวอยู่ แต่สำหรับกุ แว่วเสียงเรไรให้อารมณ์ when they cry แต่ยามเมื่อเหล่าฯ = higurashi no naku koro ni ชอบความแปลมาทั้งดุ้นของยามเมื่อเหล่าฯ แคปเจอร์การกรีดร้อง(แบบส่งเสียงและร้องไห้)ของจักจั่นฤดูร้อนที่มีช่วงชีวิตสั้นๆ 55
เออสนพ.กับนักแปลนิสัยเดียวกันจริงคู่ผีเน่าโลงผุในตำนาน555
กูว่าคำพูดลวด.ไม่ว่านางจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่ใช่ประโยคที่ควรจะพูดอยู่ดีอะ เหมือนไปกดดันสนพ.ให้แปลให้เหมือนตัวเองทั้งที่จริงๆสำนวนที่นางใช้แปลก็ไม่ได้ดีเว่อร์ขนาดนั้น การพูดแบบนี้นอกจากทำร้ายสนพ.แล้วยังทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ(อ.)ทางอ้อมด้วย
กูอยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้ อ เป็นไงบ้าง ต้องเปลี่ยนนามปากกามั้ยวะ มีติ่งจองเวรเยอะเหี้ยๆ ซวยชห
กูเริ่มอ่านวายช่วงยุครีบอนเลย จำได้ว่าช่วงนั้นแปลเถื่อนบูมมาก ถึงขนาดที่ตั้งลัทธิแปลขึ้นมาแล้วถ้าพวกมึงอยากอ่านต้องสมัครเข้า จำได้คร่าวๆว่ามีตั้งกฎในการร่วมลัทธิด้วย ทำตัวยิ่งใหญ่ยิ่งกว่ายุคนี้อีก อีพวกสาวกอาการหนักกว่า
>>672 บางคนก็ได้ดิบได้ดีมีสนพ.จ้างไปแปล LC เลยนะ ใช้งานเก่าตอนแปลเถื่อน ทำงานเดียวได้ตังค์สองเด้ง แถมพอโดนแหกว่าแปลผิดก็มีลูกหาบออกมาบอกว่าเพราะสนพ.ไม่มีบก. แย่จุง ตัวนักแปลก็บอกว่าผมสู้มืออาชีพไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วนะ!!! มาอ่านกันสิ!!!! ขอพิสูจน์ฝีมือ!!!!! ก็ไม่รู้จะพิสูจน์อะไร แค่ความซื่อสัตย์ยังไม่มี
น่าจะมีรายชื่อหนังสือที่ใช้คนแปลเดียวกันกับคนแปลเถื่อนนะ กูรู้ไม่กี่เรื่องเอง เดี๋ยวจะมีคนมาบอกว่าสนพ.จ้างทำให้เขาไม่แปลเถื่อนก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ 555555นางยังบอกเลยรายได้กับสนพ.ไม่พอ ก็ไปเถื่อนเรื่องอื่นหารายได้ในกลุ่มต่อ
กุเกลียดพวกสำนักพิมพ์ที่มักง่ายเอาคนแปลเถื่อนไปแปลเล่มมากๆ บางเรื่องแปลจากอิ๊งรึเปล่าก็ไม่รู้ นักแปลดีๆมีเยอะแยะมึงไม่รู้จักหาวะ ไปให้โอกาสพวกลักขโมยนิยายคนอื่นมาแปลซะงั้น (ไม่นับคนที่ขออนุญาตคนเขียนแล้วนะ)
>>670 สงสาร อ เหมือนกันนะ
เป็นเหยื่อของนกฟ้าที่แท้ทรู คือ อ อาจจะทำผิดไปบ้าง ทำไม่ถูกใจบ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรจะถูกด่าแรงขนาดนั้น
กูว่า วายจีนเนี่ย นักอ่านไม่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกับฝั่งผู้ผลิตบ้างเลยว่ะ
ทำผิดก็วิจารณ์ได้ ทำไม่ถูกใจก็วิจารณ์ได้ แต่ไม่ควรจะไปด่าแรงๆ เหมือนคนเขาไม่เคยทำอะไรดีๆให้เลย
สมัย LN ญป.เฟื่องฟู กูเคยได้ค่าแปลหลักแสนต่อเล่ม เพราะตอนนั้นปากไว+ด้านหน้าขอค่าตอบแทนเป็น%ไม่ใช่ฟิกซ์เรต มันไม่ได้มาตูมเดียวนะ แบบกินเรื่อยๆทุกครั้งที่รีพรินต์ ฟลุ๊กอีกอย่างที่มันหลายเล่มจบด้วย เล่มแรกแตะแสนเร็วมาก เล่มหลังแผ่วลง แต่เฉพาะปีนั้นโดนภาษีอานเลน
ขอต่อเรื่องนิยายแปลเถื่อนในนี้นะ กูงงกับวงการนิยายวายอยู่อย่างนึง คือพอเป็นแปลเถื่อนแล้วทำไมไม่ค่อยสนใจเรื่องความถูกต้องกันเลยวะ ทั้งๆที่แปลเถื่อนแทบทั้งหมดแปลจากอิ๊งซึ่งเป็นการแปลสองต่อ แล้วบางทีอิ๊งแม่งใช้กูเกิลทรานสเลทแปลเอา ส่วนพวกแปลตรงจากจีนก็ใช้วิธีเดียวกันคือกูเกิ้ลทรานแล้วค่อยมาเกลาภาษาอีกทีนึง แต่คนอ่านกลับไม่ค่อยแคร์เลยว่าจะถูกต้องแค่ไหน เพราะอ่านฟรีเหรอ? แล้วพอมีแอลซีก็เย้วๆจะเอาคนแปลเดิมกันเพราะติดสำนวนคนแปลเดิมแล้ว ทั้งๆที่ของที่แปลลงเว็บถูกต้องมากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้เนี่ยนะ
แปลเถื่อนจีนถ้าเป็นเรื่องที่จีนเปิดให้อ่านฟรีทั้งหมดกุไม่อะไรนะ พวกเอานิยายที่คนจีนต้องเสียเงินอ่านมาแปลฟรีนี่ไม่ใช่เรื่องละ แต่คนอ่านไทยก็คงไม่รู้แหละว่าเรื่องไหนมันฟรีหรือไม่ฟรีที่จีนบ้าง มีคนแปลให้อ่านก็อ่านหมด ถูกผิดมั้ยไม่แคร์ ยังไงก็อ่านฟรีอยู่แล้วนี่
>>689 ช่ายย บ้างคนไปขอก็ไม่ได้ว่าอะไร กูก็อยากรู้ทำไม่ขอดิ้นจะแปลขนาดนั้น บอกหวังดีก็ไปขอสิคะ เปิดให้อ่านฟรีมีตั้งเยอะเรื่องดีๆ อย่างว่าละมันเอาจากแปลอิ้งเถื่อนมาส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ แต่กูก็เห็นในรีดแปลเถื่อนคนหนึ่งเขาก็ไม่ลงเกินตอนที่ติดเหรียญ พอถึงตอนก็ไปเปิดเรื่องใหม่
ถ้าเจอนิยายที่แปลจากนิยายติดเหรียญของจีนน่าจะรีพอร์ตไปทางรอร.ได้นะ กูเคยเจอนิยายญปเถื่อนแปลจากนิยายเล่มๆที่คนญปต้องเสียเงินซื้อ แม่งเอาสแกนมังงะมาแปะในหน้านิยายด้วย กูเลยลองรีพอร์ตดู ไม่กี่วันก็ปลิวแล้ว
>>692 ไม่ได้มึง หลายคนรีพอร์ตแล้ว แท็กทีมงานแล้วก็มี ทางเว็บก็อนุญาตอยู่ดีถึงจะติดเหรียญติดVIP ถ้าเอาแปลไม่ติดเหรียญก็พอเขาตอบมาแบบนี้ ขนาดแปลญปที่ทางเว็บต้นฉบับเขียนว่าห้ามไปโพสต์ต่อกรณีใดๆรีพอร์ตแล้วปลิวบ้างไม่ปลิวบ้าง ไปๆมาๆทางเว็บก็อนุญาตเหตุผลเดิม ก็มันได้ยอดอะเนอะมึงใครจะตัดประโยชน์ตัวเอง เคยมีความหวังไอดีเถื่อนที่ติดท็อปทุกเรื่องโดนปิดค้นไม่เจอ สุดท้ายก็แก้ไขให้ได้ กูก็ว่ามีทีมงานไม่เห็นด้วยอยู่แหละ แต่ทางต้นบริษัทน่าจะเห็นดีด้วย
>>694 ต้องให้สังไทยมันดีขึ้นแหละ อย่างยูทูปกูก็รีพอทบ่อยๆ ไอ้ช่องที่ตัดคลิปยูทูปเบอร์คนอื่นไปลงช่องตัวเอง แม้แต่คลิปที่เขาต้องจ้างคนตัดต่อจ้างอนิเมเตอร์ก็ยังไปลอกมาลงช่องตัวเอง แต่มีคนดูเป็นหมื่นเป็นแสนเฉยเลยอะมึง กูก็ได้แต่ปลง คนไทยชอบเสพอะไรมักง่ายแบบนี้เยอะนะ ขนาดยูทูปที้เคร่งเรื่องลิขสิทธิ์นะมึงกูยังช่วยไรไม่ได้เลย ต้องให้เจ้าของมาจัดการเองง่ายกว่า
>>695 จริง ยูทูบละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเยอะ พวกคลิปนิยายเสียงกับคลิปสรุปนิยายชอบเอาแฟนอาร์ทไปใช้ ทั้งๆที่รูปไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนิยายสักกะติ๊ด กูเจอคนเอาแฟนอาร์ทจุงฮยอก-ดกจาไปประกอบคลิปเล่านิยายหลายทีละ รีพอร์ตก็ไม่ได้เพราะยูทูบมันใช้ระบบคนโดนละเมิดต้องไปรีพอร์ตเอง แล้วคลิปพวกนี้แม่งคนดูเยอะซะด้วย คนทำคลิปดีๆไม่ละเมิดคนอื่นมีเยอะแยะแม่งไม่รู้จักดูกัน
เห็นชื่อม.แห่งวอฮ แล้วก็เอามือทาบอก ยังหากินแบบเดิมๆ อยู่อีกเหรอนั่น
https://twitter.com/404_novel/status/1418514101903392768?s=19 ได้กลิ่นหมายศาลลอยมาจากจล. ว่ะ ใครน้า แก๊งเดิมหรือเปล่า ที่รุมด่าเค้าวันนั้นหรือเปล่า 555555
คิดยังไงกับคนที่ด่าจีนเรื่องโควิด ด่ารัฐบาลจีน สนับสนุนฮ่องกงไต้หวัน แต่ก็ยังอ่านนิยายจีนอวยชาติ ติ่งดาราจีนที่เป็นเครื่องมือโพรพากันด้าให้รัฐบาลจีนและสนับสนุนความรุนแรงของตำรวจในการปราบม็อบฮ่องกง ไม่ได้ปั่นนะ แต่อยากรู้ความคิดเห็น เพราะส่วนตัวกูไม่อ่านนิยายจีน ไม่เสพสื่อจีนเลย กูแบนหมด (ยกเว้นของใช้ที่ยังต้องใช้เมดอินไชน่าบ้าง มันเลี่ยงยาก) เวลาเห็นคนด่าจีนสลับกับหวีดดาราจีนวันไชน่ากูก็งงๆหน่อยว่าจุดยืนคือยังไงนะ?
เพิ่มเติมอีกนิด กูเห็นเซเลบด้อมปรมจ.คนนึงหวีดเซียวจ้าน (ซึ่งวันไชน่า) แต่ทวีตแซะญาญ่าว่าไร้มนุษยธรรมเพราะไม่คอลเอาท์ กูงงเลย เซียวจ้านแย่กว่าญาญ่าอีกนะ เพราะญาญ่าอยู่เฉยๆไม่ได้พูดอะไร แต่เซียวจ้านโพสต์สนับสนุนรัฐบาลจีนเลยนะ กูสงสัยว่าแบบนี้มันไม่ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดเหรอ?
>>701 เรื่องนี้เคยเป็นประเด็นร้อนในทวิตเตอร์เมื่อนานมาแล้ว เรื่องอี้ป๋อเซียวจ้านวันไชน่านี่ละ กูจะลิสต์ข้ออ้างให้นะว่าตอนนั้นติ่งป๋อจ้านอ้างว่าอะไรกันบ้าง (มึงไปเสิร์ชในทวิตเตอร์ว่า ป๋อ จ้าน วันไชน่า เดี๋ยวก็เจอเอง)
- ป๋อจ้านเป็นคนจีน ต้องทำตามที่รัฐบาลจีนสั่ง ไม่งั้นจะโดนแบบฟ่านปิงปิง เขาจำใจทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ใจจริงเขาอาจจะไม่ได้สนับสนุนรัฐบาลจีนก็ได้ (มโนเข้าข้างตัวเองสัดๆ)
- ป๋อจ้านโตมากับ propaganda จีน เขาจะศรัทธาในรัฐบาลจีนก็ไม่แปลก เขาถูกปลูกฝังมาอย่างนั้น เขาก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน (ดาราไทยที่พวกมึงด่าๆก็เหมือนกันจ้า ถูกปลูกฝังให้รักพ่อจ้า)
- ติ่งไปด่าไปได้ค่ะ ถ้ามีคนด่าก็จะไม่ปกป้อง แต่ขอสนับสนุนต่อไปเพราะเขาหล่อ ตัดใจไม่ได้จริงๆ
- ถึงเขาจะสนับสนุนรัฐบาลจีน แต่เนื้อแท้เขาก็เป็นคนดี ทัศนคติดี เรารู้จักนิสัยเขา ส่วนใหญ่คนที่พูดแบบนี้คือติ่งจ้าน (แต่จ้านของมึงโพสต์สนับสนุนตำรวจให้ทำร้ายประชาชน.....)
- รักไปแล้วจะให้ทำยังไง
- สนับสนุนวันไชน่าเปนสิทธิส่วนบุคคล
- สนับสนุนป๋อจ้านไม่ได้แปลว่าสนับสนุนวันไชน่า ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่จะขอสนับสนุนต่อไป (แค่มึงสนับสนุนดาราวันไชน่า มันก็เท่ากับมึงสนับสนุนวันไชน่าทางอ้อมแล้วจ้า)
ฯลฯ
ซึ่งทั้งหมดนี้กูไม่อะไรกับคนที่จะชอบป๋อจ้านหรือดาราจีนวันไชน่านะ แต่แม่งดับเบิลสแตนดาร์ดจริงแหละ เพราะตอนนั้นอี้เฟยโดนคนไทยด่าหนักมากกกกกกกกก แบนมู่หลานกันจริงจัง แต่ป๋อจ้านทวีตรูปเดียวกับอี้เฟยเป๊ะๆกลับไม่โดนดราม่าหนักเท่า โลกนี้แม่งแปลกประหลาดสัด มึงแค่เป็นคนหล่อ ติ่งก็พร้อมจะมีข้ออ้างให้มึงมากมาย ปล่อยให้ผู้หญิงโดนด่าอยู่คนเดียว แล้วติ่งป๋อจ้านก็ด่าดาราไทยอิ๊กนอกันเยอะด้วย ด่าดาราไทยกันแบบไม่ดูป๋อจ้านของพวกมึงกันเลย ถ้ายังสนับสนุนดาราวันไชน่ากันอยู่ มึงก็ไม่ต้องด่าดาราไทยที่เป็นพรีเซนเตอร์ให้เจ้าสัวก็ได้จ้าา วันก่อนกูเห็นติ่งป๋อจ้านด่าอิไบ๊ที่รับโฆษณาให้เจ้าสัวกันเพียบ แหม พอไม่ใช่เมนตัวเองละมึงชี้หน้าด่ากันใหญ่เลยน้าาา
ขอโทษที่ยาว กูอัดอั้น 555555555 เบื่อพวกขยันหาข้ออ้าง แล้วพอเรื่องซาๆไปแม่งก็กลับมาติ่งป๋อจ้านกันออกหน้าออกตาเหมือนเดิม เหอๆ
นิยายวายไทย: บ้ง, พล็อตละครไทย, ยึดติด het norm, วันดีคืนดีก็มีเคสนักเขียนลอกงานคนอื่น, แปลงงานชญเป็นชชหน้าตาเฉย
นิยายวายจีน: สนับสนุนรัดบานจีน วันไชน่า ชาตินิยมจ๋า กดหัวชาติอื่น
นิยายจิ้นเกาหลี: ขอให้ได้ด่าญี่ปุ่นไว้ก่อน
นิยายวายญี่ปุ่น: ไม่มีใครแปลให้อ่าน
แล้วกูเลือกอะไรได้บ้าง
เอาตรงๆนะกูเบื่อความชาตินิยมในวายจีนมากกกกก มากกกกกกกกกกก มากกกกกกกกกกกกก แม่งมีแทบทุกเรื่อง ล่าสุดกูอ่านแนววันสิ้นโลกแม่งยังเจอเคลมว่าหมู่เกาะสแปรตลีเป็นของจีน มึงไม่ต้องมาการเมืองกันในนิยายวายตลอดเวลาก็ได้ เสียอารมณ์ฉิบ แต่ถ้าถามว่าทำไมยังอ่านอยู่ เป็นเพราะตอนนี้ตลาดหนังสือวายมันมีแต่วายจีนเป็นหลักแล้ว วายไทยยังมีรวมเล่มน้อยกว่า และวายจีนมันก็มีหลายๆองค์ประกอบที่สนุก (แถมวายไทยแม่งก็มาแนวจีนเสิ่นเจิ้นกันรัวๆอีก งี้กูอ่านวายจีนไปเลยดีกว่าไหม) เอาจริงกูอ่านวายไทยเจอฉอดการเมืองยังไม่รำคาญเท่านิยายจีนยัดเยียดแนวคิดจีนดีที่สุดในโลกหล้ามาใส่หน้ากูเลย
>>702 มึงอย่าเอาอะไรกับคนในนกฟ้ามาก
คนในนกฟ้า ตรรกะเป็นภัยพิบัติกันหลายคน
ให้อารมณ์เหมือนเด็กผู้หญิง ม.ต้น ยังไม่โตอะ
ไม่ค่อยมีสติสตางค์เท่าไร ชอบก็หวีด ไม่ชอบก็ด่า
หาเหตุผลอะไรไม่ค่อยได้ เอาอารมณ์เข้าว่า
พวกนี้ 2 มาตรฐานมาก ขอแค่เป็นคนที่ตัวเองชอบ
ก็พร้อมที่จะอวยสุดลิ่มทิ่มประตู ขนาดฆ่าคนตายยังไม่ผิดเลยมั้ง
ส่วนคนที่ไม่ชอบ ก็พร้อมจะด่าๆๆๆๆๆๆ ให้คนนั้นเขาไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว
เพราะงั้นมึงอย่าใส่ใจ มึงมันคนปกติ
พวกนกฟ้ามันไม่ปกติ
>>711 ส่องนกฟ้าไปนานๆกูก็รู้สึกแบบนั้น ยังมีพวกio การเมืองอีก สรุปกุก็อยู่เงียบๆเลือกเสพข่าว ไม่เอาดราม่า ไม่เอาhate speed สุขสงบในทางของกู
>>708 พยายามเข้า จากกูผู้ไม่มีหัวทางภาษาT T
กูเรียนอยู่ 4ปี ได้ n3 ยุคที่มันมี 4n พอจบมากุไปทำงานหามรุ่งหามค่ำในบ.ไทยอยู่ 5 ปี เวลานอนแทบไม่มี ตอนนี้กูลืมหมดแล้ว ตอนเรียนก็ยังอ่านนิยายไม่ออก ตอนนี้คันจิกูลงไหหมดแล้ว ยังดียังอ่านอักษรได้อยู่
>>701 เอาตรงๆนะ การด่าการแบนการเรียกให้คนในออกมาcall outในนกฟ้าอะ มันคือการระบายความเครียดจนหาที่ลงไม่ได้ในประเทศนี้ ส่วนมากคือคนเกลียดอีก อาจจะมีคนอยากให้ออกมาพูดเพื่อเป็นเสียงจริงๆแต่ส่วนน้อยมาก ทุกคนก็มีข้ออ้างกับเมนตัวเองทั้งนั้นล่ะ อย่างติ่งเกาหลีเรียกร้องให้แทกุกไลน์ ไทกั๋วไลน์จากต่างประเทศออกมาเรียกร้อง แต่เมนตัวเองเพิกเฉยต่อCA PA SHA BLM lgbtqi+ ล้อเลียนสำเนียง เหยียดคนเยอะมาก แต่พอมีเรื่องมีเอเนอจี้ด่ายังไม่เทียบเท่ากับตอนด่าคนไทยในต่างแดนเลย เผลอๆไม่ด่าเลยด้วยซ้ำ สรุปทุกคนก็มีข้ออ้างให้แต่สิ่งที่ตัวเองอิน ตัวเองชอบเป็นสิ่งเป็นพิเศษแค่นั้น
ช่วงนี้กูคงอ่านนิยายซอมบี้+เครียดข่าววัคซีนมากไป แม่งถึงกับเอาไปฝัน ว่ามีคนฉีดวัคซีนผสมแล้วตายกลายเป็นซอมบี้อาละวาดในไทย
วัดว่าวายชาติไหนสนุกกว่ากันนี่ยากนะ เพราะมึงอาจจะเคยอ่านนิยายญี่ปุ่นที่ห่วยจนแม้แต่คนญี่ปุ่นยังไม่ชอบ แล้วมึงเอาไปเทียบกับวายจีนเรื่องดังจิ้นเจียงงี้อ่ะ 55555555 แต่กูว่าจริตวายจีนมันถูกใจคนไทยมากกว่าแหละ แนวผัวหล่อรวยเก่ง ขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างหมา วายญี่ปุ่นเท่าที่กูอ่านมามันมักจะเป็นพวกคนธรรมดาเดินดิน คนไทยดูไม่นิยมพระเอกแนวนี้
งานหวายซ่างที่อยู่กับจงหยวนนี่ไม่ทำต่อแล้วเหรอวะ กูเห็นไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย หรือพอประกาศ LC แล้วคนเทเลยเงียบ กูสงสัย
>>700 คราวนี้จล.จะร่อนหมายศาลหรอ ถ้าห้องจริงนี่ไม่รู้เลยนะว่าฟ้องใคร 555555555 แต่ก็ไม่แน่นะ เพราะคนที่เอาครัฑมาปล่อยคือคนเดียวกับที่ทำเรื่องห้องให้บนฟพ. ถือว่าจล.มีที่ปรึกษาที่ดีนะ โดนไป 5คนหรอ คราวนี้จะรวมตัวเขียนนิยายหาเงินมาสู้คดีที่โดนฟ้องเพราะด่าเค้าอีกรอบมั้ยนะ กุรอสมน้ำหน้ารอซ้ำอยู่นะ 555555555555555555
Ky
อันนี้กูบ่นส่วนตัว เดี๋ยวนี้มันเน้นปกป้องสายผลิตกันจัง
ปกไม่สวยไม่ถูกใจ >> คนบรีฟแย่ บกแย่
แปลแย่ >> บกแย่ ทำไมไม่เช็ค
กูเข้าใจนะว่าเพราะบกเป็นคนอนุมัติให้มันออกมาก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบไปทั้งหมด แต่บางคนทั้งในนกฟ้าหรือในนี้ก็ว่าบก.หรือเบื้องหลังอื่นนอกจาก สายผลิตเกินไปอ่ะ บางคนก็มองทุกอย่างผิดที่บก.100% ไม่มองว่านักวาดหรือนักแปลเองที่หลุดเหมือนกัน บกก็เมเนจทุกอยากที่พลาดไม่หมดหรอก คนก็เร่งๆจะให้ออก ออกช้าก็โดนด่าว่าไม่ใส่ใจ ดองทำไม เข้าใจว่ายุคนี้คนซื้อมันต้องรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคให้มากที่สุด เลยจะคอมเพลนยังไงก็ได้ อยากพูดอะไรก็พูดเลย ไม่เคยเข้าใจอีกฝั่งที่ทำงานและต้องรับคำด่าพวกนี้เลย เข้าใจแค่ตัวเองสุดๆ กูเห็นใจกองเบื้องหลัง มันเป็นงานในฝันกู มันก็ต้องสร้างผลงานไม่ต่างจากสายผลิตคนอื่น (แต่กูไม่ได้ทำนะ กลัวคนคิดว่ากูเนียน ตอนนี้กูว่ากูคิดถูกแล้วที่ไม่ทำ กูต้องทนฟังคนด่าบางเรื่องก็มโนเกินไปขนาดนี้กูเสียใจตาย ) เวลากูเห็นคนออกมาว่ากองบกแต่ละคำแล้วใจอ่อนสงสารทุกที
>>725 มันช่วยไม่ได้อะมึง บก.คือคนคุม qc โดยรวม ถ้าบก.ดีจริงๆ จะไม่มีงานแปลห่วยๆหลุดมาได้เลย เพราะบก.ที่ดีจะเข้มตั้งแต่ขั้นตอนคัดนักแปลแล้ว แต่อาชีพบก.มันก็เงินน้อย คนเก่งๆก็คงไม่ค่อยอยากทำกันหรอก แถมค่ายใหญ่ๆแม่งกว้านซื้อแอลซีกันซะเยอะ แต่บก.มีไม่กี่คน งานมันจะสุกเอาเผากินกันมากขึ้นทุกวันก็ไม่น่าแปลกใจ
แต่บ.แปลดีผิดผีนี่ไม่มีชมบก.เลยนะ
กูเคยเห็นคนชมอยู่ว่าบก.กุหลาบใส่ใจฮัสกี้ดีมาก ตามด้วยแซะว่า ช่วยเอาเวลาไปใส่ใจเรื่องอื่นให้เท่าฮัสกี้บ้างก็ดีนะ ซึ่งกูเห็นด้วย 55555555 ใส่ใจแต่เรื่องดัง ส่วนเรื่องอื่นตามมีตามเกิดมันก็ไม่ไหวนะ
>>726 กูเข้าใจๆ เพราะเงินเดือนน้อยนี่แหละกูเลยไม่ทำ 55555555
พอดีวันนี้กูไปเห็นดราม่าโอตาคุที่ออกมาแถลงขอเลื่อนเพราะบกอยากเช็คใหม่ คนด่าว่าให้เวลาสองปีทำไมช้าขนาดนี้ ไม่ใส่ใจ ( สองปีสำหรับหนังสือเล่มหนึ่งที่แปลจนจบพร้อมออกทุกเล่มนี่ความจริงไม่นานเลยนะ ) ถ้ามองมันก็เหมือนนักแปลมีปัญหายังออกมาแถลงขอเวลาเพิ่มได้ ทุกคนเห็นใจ แต่เห็นกองบก.ออกมาขอเวลาเช็คบ้างมีแต่คนด่า อยากได้งานคุณภาพ งานคุณภาพก็ต้องมาพร้อมเวลานะ พอมีคนเข้าใจก็มีคนมาด้าอีกว่าไอคนเข้าใจรอได้เป็นสาริ่มกุหลาบ โยงโอตาคุไปด่าอีกว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ฆมปช้า เพราะไปเสิชไอเอสบีเอ็นแล้วเห็นชื่อคนแปลเป็นmw ก็เข้าใจว่าคุณมิรามาแปลใหม่ คนก็ด่ากุหลาบว่ามาแทรกคิวคุณมิรา ฆมปออกช้าเพราะกุหลาบ ด่ากุหลาบยับเลย จนกุหลาบต้องออกมาแถลงว่า mw เป็นชื่อย่อของนักแปลโอตาคุเหมือนกัน เอาจริง Isbn มันไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นทางการขนาดนั้นอ่ะ คนจะไปยึดมาใช้ไม่ได้จริง บางคนมโนเองแล้วก็ด่ากันเกินไปคิดเอาเองเก่ง แล้วก็ใช้คำแรงๆออกตัวไว้ก่อนอ้างว่าสิทธิผู้บริโภค กูว่าถ้ามันจริงก็ด่าได้นะ จะได้เอาไปพัฒนา แต่พอเป็นเรื่องไม่จริงนี่จะออกมาแย้งแต่ละที่ยากมากเลย คนทำงานเบื้องหลังอย่างบกก็ไม่มีสิทธิมาอธิบายเหมือนพวกนักวาดนักแปล
>>731 อืมมมม กูว่าถ้าเป็นเรื่องคุณภาพงาน แปลไม่ดี แปลตก พิมพ์ผิดเยอะ จัดหน้าแปลก พวกนี้คนอ่านวิจารณ์กองบก.ได้เต็มที่เลย แต่เคสที่มึงว่ามันคือการมโนแล้วดราม่าไปเองน่ะ อันนี้เห็นใจกองบก.เหมือนกัน และต่อให้คนแปลรับงานหลายสำนักพร้อมกันจริงๆมันก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ
ในทวิตมันมีดราม่าเรื่องนิยายด้วยหรอวะ ว้าว แม่งเอาไปดราม่าได้ทุกเรื่องจริงๆ กูอ่านนิยายไปวันๆ เนื้อเรื่องดีก็หยิบมาอ่านซ้ำ ไม่ดีก็อ่านรอบเดียวแล้วเลิก ส่วนเรื่องภาษาห่วยจนทนอ่านไม่ได้ก็เคยเจอแต่ในนิยายเว็ปว่ะ พอมันผ่านสนพมาแล้วต่อให้ทับศัพท์-แปลไม่สวยแค่ไหนก็อ่านรู้เรื่อง ไม่ได้ขี้เหร่จนอ่านไม่รู้เรื่อง
>>725 กูว่านักอ่านอะ ด่ามากเกินไป ด่าเกินเบอร์ เหมือนกูเป็นลูกค้า กูเป็นพระเจ้า กูจ่ายเงิน 300-400 บาทซื้อหนังสือมึง เพราะงั้นกูจะด่ามึงยังไงก็ได้
ตลกมะ อย่างเรื่องหน้าปกฮัสกี้เนี่ย ด่าแต่กับฮัสกี้กับปรมจ เรื่องอื่นก็แนวๆนี้ไม่เห็นด่า พันสารทก็ไม่ด่า อาชญากรรมรักในม่านเมฆ พระเอกหน้าไม่เหมือนเดิมก็ไม่เห็นด่า
คือ 2 มาตรฐานมากอะ แล้วเหมือนด่าแบบไหลตามน้ำ ใครเริ่มด่าก่อน พวกไร้สมองที่เหลือจะด่าตามๆกัน
ด่าแบบไม่ไว้หน้าสนพเลย ถ้ามันแย่จริงจะด่าก็ได้ แต่ปัจจุบันกูว่ามันเป็นแค่ความผิดเล็กๆน้อยๆ จะมองข้ามไปก็ได้อะ
คือถ้ามึงจะเอางานเพอร์เฟค 100% มึงคงต้องรอหนังสือเล่มละ 6 เดือน ราคาเล่มละ 1000 เลยมั้ง
นิยายแนวอื่น หรือนิยายชายหญิง กูว่าคนอ่านก็ไม่เรื่องมากขนาดนี้นะ
เร่งๆให้รีบออก สนพ เผามาให้ยังไงก็พอใจเหรอ ไม่สนคุณภาพกันเลยเหรอ ไอ้เรื่องที่แปลเผาแปลส่งๆเพราะเร่งออกให้ทันกระแสเนี่ย(ค่ายอื่นนะไม่ใช่กุหลาบ) กูยังทำใจอ่านต่อไม่ได้เลย กระแสจบ หนังสือออกมาจนเกินสองปีแล้วแน่ๆเนี่ย จะขายทิ้งกูยังคิดเยอะเลย ใจนึงเพราะชอบซีรีส์ เล่มแรกๆก็อ่านสนุก ยังหวังอ่านจบคอมพลีทอยู่ อีกใจก็คิดว่าคงขายยาก นอกจากปล่อยเทถูกๆ เพราะขึ้นชื่อลือชาไปแล้วว่าเล่มสุดท้ายแปลกาก
คือ จะด่า จะติ ก็ทำได้ กูไม่ว่า
แต่ใช้คำให้มันเป็นสุภาพชนนิดนึง
เข้าไปอ่านในนกฟ้าแล้วกุมขมับ ด่าแบบแม่ค้าปากตลาด เพราะไม่ได้เปิดเผยตัวตน เลยจะด่าหยาบคายยังไงก็ได้?
เท่าที่กูเห็น สนพทำผิด 1 อย่าง นักฉอดก็ด่าซะเหมือน สนพทำผิดทุกอย่าง
ของแบบนี้มันตักเตือนกันได้ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้ ไม่ใช่ฉอดอย่างเดียว
ทำแบบนี้เหมือนคนไม่มีมารยาท (หมายถึงในนกฟ้านะ)
>>732 เพราะเรื่องนี้กูเลยเห็นใจบก. จะด่าคุณมร.ก็กะไรอยู่ ความจริงถ้าคิดตามที่เขามโนไว้ว่าคุณมรรับงานแทรกทำให้ฆมปออกช้า มันก็น่าจะผิดที่คุณมร.ไหม ที่รับงานจนคุมเวลาไม่ได้ แต่นี่ด่าคุณมรไม่ได้ไง เลยโยนไปหากุหลาบด่าบกกุหลาบแทน ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องหาคนร้าย100%ให้ได้ในทุกเรื่อง อย่างเคสฆมปออกช้านี้โยนนักแปลไม่ได้โยนบก.สนพ.ตรงข้ามแทน 55555555555555555 พอคุณมรออกมาแถลงว่าไม่ใช่เขา ก็ด่ากุหลาบว่าให้ข้อมูลไม่ถูกแทน ไม่ยอมรับว่าตัวเองเข้าใจผิดคิดไปก่อนเลยสักนิด
กูหลาบแบบโยนมาที่กูได้เลยจ่ะ กูรับผิดชอบทุกเรื่องยันเรื่องของที่อื่นด้วย กูมันแย่กูมันเลวในสายตาของพวกนกฟ้าหนักนิ แต่ล่ะคำที่ใช้ติดแท็กหรือวิจารณ์ทั้งที่ก็ยังไม่ได้อ่าน คิดไปเองทั้งนั้นก็เยอะ มันเป็นเทรนหรอที่คิดว่าการใช้คำแรงๆการออกมาวิจารณ์ทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลให้ดี มันเท่ดีเนอะ และคนที่เชื่อบ้าเชื่อทุกสิ่งที่อยู่บนนกฟ้าแล้วเเห่ตามกันโดยไม่ได้คิดวิเคราะห์กูก็อยากจะถามว่าพวกมึงเป็นนักอ่านกันจริงไหมนิ การอ่านไม่ได้ช่วยให้เกิดความคิดอะไรบ้างหรอ หรือแค่อ่าน 480 ตัวอักษรในทวิตไปวันๆ คนพูดไรก็เชื่อ มีคนมาเคี้ยวป้อนใส่ปากไว้ให้ไม่มีกระบวนการคิดเองใดๆ ส่วนหนังสือที่ซื้อมาก็เก็บไว้ เห้อ
นี่กูเป็นคนเดียวรึเปล่าที่เฉยๆกับการรอฆ่าหมาป่านานเป็นปี คือกูอ่านนิยายมาทั้งชีวิตอะ รอนิยายข้ามปีมาก็บ่อยๆ เพิ่งมาเจอยุคนี้แหละที่ออกนิยายเว้นช่วงแค่ไม่กี่เดือนก็กลายเป็นออกช้าไปแล้ว
ปีละเล่มสำหรับกูนานไปอ่ะ แต่ถ้าสามสี่เดือนเล่มนี่ไม่มีปัญหา อย่างสปีดปรมจกูรู้สึกปกติมาก ขำพวกเงาแค้นขนมหาบซบที่น้ำท่วมปากกับฆ่าหมาป่า ไม่กล้าออกมาบ่นออกช้าซักราย แต่ตอนปรมจนี่ดิ้นกันพรวดๆ ถถถถถ มาตรฐานพวกมึงอยู่ตรงไหน
>>744 ปีละเล่มกูก็รู้สึกช้านั่นแหละ อยากให้ออกเร็วแต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้ดราม่าด่าสนพ.คาดโทษคาดทัณฑ์อะไร
ส่วนมากในโม่งและคนทั่วไปกุว่าตาม >>745 คือหมั่นไส้พวกลูกหาบที่เคยไปอาละวาดสนพ.อื่นแต่พอถึงคราวสนพ.ที่ตัวเองหาบอยู่ออกช้าเหมือนกันและอาจจะหนักกว่า แต่กลับเงียบ เลือกที่รักมักที่ชังสองมาตรฐานสุดๆ นิสัยแบบนี้คนเอือมน่ะ
ฆมปออกช้า อีลูกหาบมึงเงียบเลยนะ อด ด่าสนพมึงบ้างสิ
เงียบเป็นเป่าสากเลย สมน้ำหน้า
กูว่านิสัยคนเปลี่ยนไปจริงๆว่ะ ล่าสุดด่า บ ว่าแปลหยาบมาก เพราะน้องเหมิงไม่เรียกโม่หรานว่าศิษย์พี่ เรียกว่าพี่ชาย กูงงเลย แทนที่จะสงสัยก่อนว่าต้นฉบับมันเรียกพี่จริงๆหรือเปล่า แต่ด่านักแปลก่อนอันดับแรก สมงสมอง สังคมนกฟ้ามันหล่อหลอมให้คนเป็นแบบนี้เหรอวะ
>>757 อันนี้กูงง ต้นฉบับเรียกพี่ชายไม่ใช่เหรอวะ โม่หรานกับเหมิงเหมิงก็ถูกเลี้ยงมาให้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน น้องเหมิงจะเรียกน้องโม่ว่าพี่ชายไม่ได้รึไง พวกบ่นนี่กูว่าขั้นหนักล่ะ
นักแปลฮัสกี้นี่กูว่าแปลดีนะ กูชอบ คุณอลิซที่แปลปรมจ กูก็ชอบ พวกคนที่ชอบบ่นนั่นบ่นนี่ บ่นเล็กๆ น้อยเข้าใจนะ เพราะไม่มีอะไรตรงรสนิยมไปเสียหมดหรอก แต่พวกที่ toxic เกินไปนี่รับไม่ไหว
ตอนนี้ไม่ว่าจะเข้าแท็กเรื่องไหนดังนี่ toxic หมด ด่ากันไว้ก่อนค่อยอ่าน เหมือนเห็นแค่หน้าตาอาหารก็วิจารณ์รสชาติ แค่อยากจะหาคนรีวิวอะไรไม่ได้เลย มีแต่คนด่าทุกเรื่องจุดเล็กๆคิดลบเอาเองไปก่อนกันหมด ปวดหัว
เสียง พิมพ์ตก
ขอเมาท์เรื่องอีนี่หน่อยนะ ดีออก
https://www.youtube.com/watch?v=owvQv6cQYCI
นั่นอะไร
ปกฮัสกี้เล่ม 4 ออกแล้ว พี่เยี่ยหน้าตาดีจัง
ไอพวกด่าปก 3 กลับคำพูดหมดยังวะ ??
แหม่ ด่าไปหมด หนังสือมี 10 เล่ม รีบด่าจัง
เขาก็ด่าเป็นปกๆไหมวะ อันไหนดีก็ชมอันไหนไม่พอใจก็บ่น บ่นมากก็ด่า แยกแยะ เกลียดพวกขี้แซะจังเลย แซะกันไปมาแค่สองเรื่องเนี่ย สมองมีปัญหาอะไรวะ รำคาญ
หันข้างเลยดูดีเหมือนปกแรกเปล่าวะ พอหันตรงเลยไม่รู้ว่าควรจะจัดคอมโพสยังไงให้ดูดี จิบิก็นะ อยากพูดแทนหลายๆคน มึงเลิกจ้างเหอะคนนี้ อะไรนะพูดไม่ได้เดี๋ยวมีลูกหาบมาด่ากุอีก
>>773 ก็ปกเล่มสามมันอย่างโล่งกูก็มีสิทธิ์วิจารณ์ได้มั้ยว่างานมันไม่สม่ำเสมอ ต้องรอให้ครบวาระเหรอถึงจะวิจารณ์ได้ สุดท้ายพี่เยี่ยก็แค่มายืนเก๊กหล่อแบกธนูไม่ใช่เหรอ
แปลกประหลาดนะมึง ให้รอจนถึงออกครบ 10 เล่มค่อยด่า งั้นมึงก็เก็บปากไว้ด่านายกทีเดียวตอนมันลงจากตำแหน่งสิ
จิบิแบบนี้ดีแล้วโว้ย อย่าเปลี่ยนคนวาด กูจะได้ไม่ต้องรีบซื้อพิมพ์หนึ่ง รอมันออกครบค่อยเหมาเซ็ต พิมพ์ครั้งที่สองสามไม่แถมจิบิไม่แคร์
ถ้าจิบิสวยเดือดร้อนกูต้องรีบซื้ออีก
ปกเล่มสี่ ดีเทลชุดเยี่ยวั่งซีละเอียดขึ้นจริง แต่นอกนั้น กูก็เห็นด้วยกับเพื่อนโม่ง มันมีท่าให้ยืนเก๊กได้อีกกี่ท่าวะ อีกเรื่อวคือเสียดายดีเทลธนูเพราะมันหายไปกับขอบพอดีอะ รู้สึกว่ามันเล่นได้มากกว่านี้
แถมถ้าไปดูโปสการ์ดก็คือแทบจะหายไปทั้งคัน
ที่คั่นก็เว้นพื้นที่ข้างบนไว้เยอะเกิ๊น น่าจะขยับขึ้นไปอีกหน่อย
ส่วนจิบลิ เฮ้อออออออออ
กูว่าสวยดีนะ ชอบกว่าทุกเล่มที่ผ่านมา สงสัยเพราะเล่มแรกแขนยาวผิดอนาโตมี่ เล่มสองตาแข็งชิบหาย ส่วนเล่มสามก็โล่งเหมือนป่าช้า กูเลยรู้สึกพอใจกับปกนี้มั้ง 55555
ภาพปกฮัสกี้แม่งให้เด่นแค่ตัวละครว่ะ แบ็คกราวปล่อยว่างไว้เลยดูโล่งๆ แต่คิดๆไปกูก็คิดไม่ออกว่าจะให้เพิ่มอะไรหลังแบ็คกราวให้ดูไม่รกมากดี กลัวแบบเพิ่มไปเพิ่มมาดันดูรกซะงั้น555 เรื่องภาพปกกูไม่กล้าเรียกร้องมากกลัวเรียกร้องให้เพิ่มนั่นเพิ่มนี่เยอะๆแล้วจะออกมาพังแบบปกปรมจ.เล่มพิเศษ(ซึ่งในสายตากูดูพังมาก)
กูที่มองพวกมึงด่าปกวายว่าไม่สวยกัน แล้วหันไปมองปกนอร์มอลที่คนชมว่าสวยกัน…
รสนิยม แหละ รสนิยม
ปกนอร์มอลสวยๆก็มีเยอะแยะอย่างคุณvr... ที่วาดให้วายหลายๆอันปกนอร์มอลก็สวยhi.. ก็สวย นักวาดจีนหลายคนที่วาดชญแล้วเขาไม่ยอมวาดชช.ก็มีดูโคตรเสียดาย แล้วแต่มึงจะไปเจอแบบไหนสังคมแบบไหน แต่อย่างมึงน่าจะโทรลแล้วแหละ คอยแซะอยู่ได้ โยงไปทั่วต้องการคำตอบยังไงวะถึงจะพอใจ พอมีคนไม่เห็นด้วยกับมึงเยอะก็โยงไปเรื่องอื่น มึงอ่านชชน่าจะเลิกเรียกนอร์มอลได้แล้วนะ ชช.ไม่นอร์มอลเหรอ? สมัยนี้แล้วยังจำกัดความนอร์มอลแค่ชญ.ทั้งที่ตัวมึงอ่านชช.
กูกลับชอบปก eno ภาพสีน้ำฟุ้งๆ เห็นปกชญของเครือกุหลาบชอบซื้อมา ปกของส้มสมัยใหม่กูก็ชอบ ชอบความเรียบๆ ถือไปไหนมาไหนสบายใจดี บางเล่มเป็นแค่ภาพวิว บางเล่มมีตลคตัวเล็กกระจิด 5555 ไม่มีภาพบนปก เป็นแค่พื้นหลังกับตัวหนังสือตวัดสวยๆ กูยังโอเคเลย (จริงๆ กูชอบปกมินิมอลของแมวล้นวังมาก ที่ด้านในสีขาวปั๊มฟรอยด์เฉยๆ อะ)
เรื่องปกนานาจิตตังว่ะ เอาจริงแดนวายค่อนข้างเรื่องเยอะ กูเห็นม่ากันได้แทบทุกเรื่องเลย ตามม่าเยอะไม่ไหวเพราะมันยิบย่อยมาก 555 กูเคยม่าหนักสุดคือเคสตรยขเล่มแรกกับตู้เจ๋อที่แบบสมควรม่าจริงๆ แล้วปกฮัสกี้ที่ว่ากันถ้าตัดสินตามรสนิยมกูว่ามันยังได้มากกว่านี้อีก ตอนเปิดปกเล่มแรกถูกจริตมาก เล่มต่อมาดับฝันอ.เหมียวกูมาก เจอเล่มสองไปสามมาหน้าสไตล์เดียวกันสองเล่ม ก็ไม่คิดอะไรละ 5555 แต่หนังสือกูให้ค่าที่ตัวเนื้อหา งานอาร์ตไปซื้ออาร์ตบุ๊คเสพเอาดีกว่า กูคิดงี้ แต่เข้าใจหลายคนเลยเพราะเพื่อนรอบตัวกูก็ซื้อเพราะเอามาลูบๆ คลำๆ ซื้อตามกระแสอีกด้วย มันเพิ่งเข้าวงการมาตอนซรปรมจ 🤣 หลังจากนั้นคือซื้อดะ ยุควายจีนแปลเฟื่องฟูสุดๆ
โทษนะวันนี้ทั้งวัน กูพึ่งมาแสดงความเห็นนี้ความเห็นแรกแต่ดันโดนด่าว่าโทรลเฉย?! กูไปพูดจี้ใจดำมึงเหรอหรือมึงเมาแอดเค้าท์ แล้วอีกอย่างกูแค่แสดงความเห็นจากที่พวกมึงด่าๆกันลากยาวเป็นสิบเม้นเรื่องปก เอาจริงกูหรือมึงที่เป็นโทรลไล่ด่าไล่แซะคนอื่น
อีกอย่างจะดูว่าปกสวยไม่สวยทั้งของวายและนอร์มอลกูก็บอกอยู่ว่า “รสนิยม” อิสัส อ่านไม่ได้ศัพท์ อย่าจับไปกระเดียด
>>785 กูก็ให้ค่าที่ตัวเนื้อหามากกว่า แต่จะดีสักแค่ไหนถ้าปกงาม เนื้อหาเริ่ด กูเป็นพวกชอบมองของสวยๆอะ ปกสวยๆกูมองแม่งทั้งวัน 555 ดูแล้วน้ำตาซึม สวย ฮือออ 55555 แต่เป็นปกพวกสิ่งของ วิวนะ แบบรายละเอียดมันดูแล้วไม่เบื่ออะ ปกอิโนถ้าเป็นพวกวิว ดอกไม้ใบหญ้าสวยนะ สวยมากกก แต่คนนี่เฉยๆว่ะ ตลคหน้าเหมือนกันหมด
กูสงสัยนะ นักอ่านตลาดวายกับนอร์มอลบางคนมันเปลี่ยนวิญญาณตอนอ่านกันหรอว่ะ กูเห็นบางคนพอเป็นนอร์มอลปกคือได้หมดไม่ต้องสวยมากก็ได้ แต่พอเป็นวายเรื่องปกคือเดือดสัดๆจะเอาแบบนั้นแบบนี้
ปล.นี่ประโยคคำถามน่ะ
กูลืมพิมพ์กันงง ในกรณีที่นักอ่านคนนั้นอ่านทั้งวายทั้งนอร์มอลอ่ะ
ถ้าจะเทียบกัน ปกช-ญ กูว่ามีน้อยนะที่เป็นตัวละครมายืนเฉยๆ อะ
แต่อย่างปกใบไม้ใบหญ้า สิ่งของต่างๆ นานาของแจ่มนี่ กูชอบมาก เพราะเขาค่อนข้างจะตีความให้เข้ากับเนื้อเรื่อง กูชอบปกตำนานรักเหนือภพ
ปกตัวละครตอนนี้ที่นึกออกก็คือเสน่ห์รักขุนนางหญิงของอรุณ (เครือเดียวกับโรส)
ซึ่งเล่ม 3 ห้องจีนก็แซะ แสดงความไม่พอใจกันอยู่นะ
ปกกูกูก็มีคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่สวย
อะ แต่อย่างแสนชังของแจ่มที่เป็นนางเอก กูก็ว่าสวย
ชญกูชอบปกหงส์ขังรัก เดอะเบสในใจทั้งเนื้อเรื่องและนางเอกพระเอกในกู ไบแอสแหละ ไม่มีคนแถมเปลี่ยนสีหลากหลายแต่มันมีกิมมิคอยู่ ปกสวยว๊ากกกกกก ตอนออกยังเรียนอยู่ไม่ค่อยมีตังยังต้องเจียดมาซื้อบ็อก วันนี้เวลามองยังมรความสุขเลย มาฝั่งวายสงสัยเรื่องนี้โดนสับเละเรื่องปกขอหาเหมือนหนังสือเรียนแแล้วมั้ง 55555555555
>>791 มึงร่างแยกกูหรือเปล่า ตำนานรักเหนือภพคือตีความดีมาก ทุกอย่างคือสิ่งที่มีผลต่อใจนางเอกอะ แล้วใดๆคือ ราคาดีงาม กูว่าคนบรีฟปกมากกว่ารักใส่ใจงานทำงานดีนะ กูชอบที่เค้ามีเหตุผลว่าทำไมเลือกปกแบบนี้ๆๆ กุอวยส้มอีกละ เกลียดตัวเอง 5555 แต่ว่าไม่ได้งานดีจริง ขนาดปกเงาเพลิงที่ไม่มีอะไรยังดูไม่ค่อยน่าเกลียด
>>789 เป็นพวกนอร์มอลอ่านกันตาย วายอ่านประดับบารมีหรือเปล่า 555 กูอ่านทั้งสองแบบ แต่กูก็บ่นปกนอร์มอลนะ เช่น ปกกูกู ปกยามเช้า กูกูนี่กูไม่เข้าใจความ perfectionist ของนาง งานออกช้ามาก ราคายอดดอย ปกก้นเหว จุดต่ำสุดของวงการปกแปลจีนหรือยัง ส่วนยามเช้าเครือเดียวกับกุหลาบ น่าจะเลิกจ้างคนนั้นละมั้ง กูผิดห้องแหละ เออ ขอโทษ 555
>>791 แปลจีนสมัยก่อนของส้มเล่มบางๆ ไง นางเอกตาหวานยืมแป๋วแหวว หน้าเหมือนกันทุกเล่ม 555 พอเปลี่ยนเป็นปกวิว ปกสีน้ำปาดๆ กูเลยปลื้มเลย มันไม่ใช่ว่าไม่ชอบปกตัวละคร มันแค่ไม่ตรงจริตเท่านั้นเอง แบบได้มากกว่านี้ก็ดีสิอะไรแบบนี้ แต่จริงๆ กูก็ยังให้ค่าเนื้อหามากอยู่ดี พอผ่านมาหลายยุคมันเลยแบบ เออ อันไหนก็ได้ ถ้าสวย/ตรงจริตก็ยิ่งถูกใจงี้
กูเลยว่าฝั่งวายมันปัญหายิบย่อยมาก หยิบยกเรื่องไหนก็ม่ากันได้ รึเพราะโควิดเลยยิ่งหาที่ระบายหว่า อีกปัญหาที่เห็นชัดและกระทบวงการหนังสือคือพวกพรีเมี่ยมเว่อร์วังที่เริ่มเทไปทางชญและเครืออววของส้มแล้ว ทำกูเจ็บช้ำละเกิน มันโดนอินฟลูมาจริงๆ นะมึง แต่ก่อน ปีที่แล้วก็ยังได้ที่ส้มยังออกแค่หนังสือ ตอนนี้การตลาดพรีเมี่ยมทั้งนั้น ช้ำ! กูอยากได้หนังสือ แค่หนังสือเลย พวกอาร์ตกูหาซื้อตามอาร์ตบุ๊คของคนวาดที่กูชอบเอาได้ ไม่อยากได้ของพรีเมี่ยมบวกราคา มันเปลืองทรัพยากรโลกด้วยอะ แรกๆ ก็เห่อ ชอบมากเวลารวมยอดแลกของในงานหนังสือ กระเป๋านอ เต็มบ้าน ของกระจุกกระจิกหลังๆ คือโคตรรก
ปล.ยืนยันว่าปกดูตรมจริตจริงๆ แต่ไม่ได้กระทบการซื้อของกูเลย กูสาย ‘ตัวหนังสือ’ มาแต่ไหนแต่ไรยังไงก็เน้นเนื้อเป็นหลักอยู่ดี ของสวยๆ งามๆ บนปกได้ตรงใจคือกำไร
ปกหงส์ขังนิคือ ถ้ามาฟังวายโดนสับเละแน่นอน คงเจอฟิลสนพ.ไม่เข้าใจความรักหรงจื่อกับฉู่อวี่555 เอาจริงวายส่วนใหญ่คือปกตัวละครอะ เดี่ยว กลุ่ม คู่ คือมาหมดจริง กูเห็นไม่กี่เรื่องเองที่เอาอย่างอื่นขึ้น ส่วนนอร์มอลคือ กูชอบปกมกร.เกือบทุกเรื่องเลยอ่ะรู้สึกดีมีนัยยะ
เอาจริงกูเห็นปกฮัสกี้ครั้งแรกทำเอากูคิดถึงปกทรราชตื้อรักยังไงไม่รู้555
เออ อีกอย่างนอกเรื่องใครพอจะแนะนำพระเอกแบบเฮียหรง(หรงจื่อ)ให้กูได้บ้าง ได้ทั้งนิยายวายทั้งนอร์มอล ตำนานมากพระเอกทำกูลืมฮีไม่ลงจริงๆ
ปกวายดีสุดแย่สุดในใจกูคือ ผู้ช่วยทั้งคู่555 ผู้ช่วยสถาปัตร ชอบความไม่มีตัวละครแต่ภาพสถานที่โดนใจกูสุด ส่วนผู้ช่วยหท.กูคงเข้าไม่ถึงรสนิยมมึงจริงๆ
ฝั่งชญไม่ค่อยมีที่ไม่ชอบแต่เทใจให้ปกแจ่มมากสุด
>>795 ฮีเป็นผชแบบไหนนะ นิ่งๆ ดูไซโค รักจริงแต่ก็ร้ายปนเลวป้ะ นึกออกแต่คนละไวบ์อะ จันทร์พรายเหนือสายน้ำ มาแนวเจนเทิลแมน แต่แผนสูง วิธีการแบบงงๆว่ารักจริงเหรอ อีกเรื่องก็น่าจะลุงเยี่ยน แต่แนวพระเอกประสาท อย่าไปคุยกับมันลูก บ่วงเล่ห์ด้วยมั้ยวะ ไอ้ลูกหมาเลี้ยงไม่เชื่อง
ส่วนตัวกูมองว่าเฮียหรงเป็นพระเอกฉลาดยันและไซโคพาส ที่แผนสูงสัดๆกูชอบความทำทุกอย่าง(ทุกอย่างจริงๆ)เพื่อเป้าหมายของฮีอะ แต่ส่วนใหญ่ทั้งวายแปลจีนหรือเสิ่นกูยังไม่เห็นพระเอกแบบฮีเลย
เออ ใช่กูลืมจันทร์พรายไปได้ไงแต่นึกออกอยู่เรื่องเดียวอะ พระเอกแบบนี้ขนาดฝั่งนอร์มอลยังหายากเลย แล้วดันกูมาหาฝั่งวาย55 เศร้าวะ
>>792 หงส์ขังรัก มันก็มีกิมมิคด้านฤดูกาลของมันนะ กูว่าก็ไม่แย่ แค่คนละแนว ไม่สาปอะ
>>793 ใช่ไหม มึงงงงง มปร กูเข้าใจ กูก็อวยส้ม มันแบบแปลดีเป็นมาตรฐาน ปกก็ค่อนข้างสวย ถูกจริตกู 555
>>794 อ๋อ เออ กูก็ลืมนึกไปไกลขนาดนั้น ยุคนั้นก็ด่าเหมือนกัน
หรือปกพวกเหมือนเอารูปคนจริง/ดารามาโฟโต้ช้อปแต่งรูปของทั้งแปลและไทยสมัยก่อนตามร้านหนังสืออะ อันนั้นก็เกลียด
>>796 ปกผู้ช่วยเหรียญทองคือ กูนึกถึงยุคสมัยสัก 10 ปี+ เลยที่ฝ่ายชญเคยฮิตปกแบบนั้นเลยอะ
ก็คือกูไม่ติดเรื่องปกแบบไหนอะ ไม่ใช่ชอบตัวละครมากกว่าวิว หรือกลับกันเลยด่างี้
เอาตามแนวที่คุณทำก็ได้ ขอแค่ทำให้ดี 5555
อย่างปกฮัสกี้ตัวเต็มของไต้หวันก็คือเป็นสถานที่หมดเลย กูก็โอเค
ปกตัวละครวายยืนเก๊กอย่างปรมจ. กูก็ชอบ
แต่ปกไทยฮัสกี้มันมีแค่ตัวละคร แต่ยังดึงคาร์ไม่ชัด ดูทื่อๆ ไม่โดดเด่น กูก็เลยขัดใจเล็กๆ แค่นั้น
(บางที ถ้าไม่ดูโพยเป็นคำโปรย กูก็อาจจะงงๆ เหมือนกันว่าเอ๊ะ นี่ใครนะ
แอบเศร้ามีคนเห็นปกเล่ม 3 เป็นโม่หราน 1.0 ปก 4 เป็นโม่หราน 1.0 หรือซือเม่ยบ้างแล้ว)
แต่ก็เป็นเหมือนจุดติจุดเดียวของเนื้อเรื่องที่ดี สำนวนแปลและอีดิตที่งดงาม เท่านั้นแหละ
พระเอกแบบเฮียหรงใครอ่านแล้วคงลืมฮีไม่ลงจริงๆ กูรักฮีนะแต่กูก็หมั่นไส้ฮีด้วย เป็นพระเอกยันที่สวนทางกับพระเอกวายยันสมัยนี้มากก ส่วนใหญ่เหมือนสมัยนี้ยันแบบไทป์ลูกหมา แต่ฮีคือยันแบบร้ายอ่ะร้ายเลย แถมขี้ทอแหลเป็นที่หนึ่งด้วย ไม่รู้มาฝั่งวายคนจะด่าหรือจะกรี๊ดมากกว่ากัน วายนอกจากจันทร์ที่มึงแนะนำกูนึกถึงคนอื่นไม่ออกจริงๆอ่านแล้วแต่ละเรื่องไม่มีเรื่องไหนไทป์นี้แล้วมั้ง(รักแต่ดูไม่ออกว่ารัก ไม่ค่อยคลั่งรัก แผนสูง ฉลาดเป็นกรด ไซโคพาส จิต mตัวแม่ sตัวพ่อ) ตามที่มึงบอกกูว่า
ลุงเยี่ยน-นางกวนทีนไปนะ เป็นคนแก่ที่ดูไม่นิ่งด้วย55
บ่วงเล่ห์- ลูกหมายัน คลั่งรัก
พอ.จันทร์พราย-คนนี้ตรงสุดละ
กูว่าเฮียหรงไม่ค่อยคลั่งรักนะ(หรือมันคลั่งรักแต่กูดูไม่ออกว่ะ) พระเอกวายส่วนใหญ่คือคลั่งรักหนักมากก ยิ่งฟิลทั้งโลกกับเธอคนเดียวนิแทบเป็นทุกเรื่อง
ของม่านๆกูยังไม่อ่านอ่ะแต่เห็นมึงว่าเหมือนเดี๋ยวกูไปตำจากกองดองก่อน
>>806 เหมือนแค่ คาร์ฉลาด เจ้าแผนการ ใช้วิธีต้อนนายเอกเข้ามือ แต่ความคลั่งรัก/นายเอกหลงผัวแต่แรกนี่ กลบฟีลไปเยอะนะ ระดับทำนายเอกพังเพื่อต้อนเข้ามือนี่หายากจริงๆ คนอ่านคงไม่เอาด้วยแหละ (อย่างพวกซี่รีย์ทาสรักนี่นายเอกพังแต่ไม่รู้สึกถึงความฉลาดของพระเอกเลย)
เอาจริงๆถ้าไม่ติดว่าต้องธีมพีเรียด กูว่ากู้เซียวก็ได้อยู่สำหรับพระเอกสายmanipulate
หรงจื่อนางคลั่งนางเอกมากกว่า แพลนทุกอย่างเพื่อให้นางเอกอยู่กับตัวเองตลอดไปไม่ว่าจะทำร้ายจิตใจนางเอกเเค่ไหนก็ตาม กูจำไม่ผิดเมื่อตอนพิเศษในเล่มสิ่งที่นางกลัวที่สุดคือนางเอกจะหนีกลับปัจจุบัน
>>802 เป็นไปได้ว่าตะโดนสาปนะมึงถ้ามาฝั่งวาย กูเห็นมีคนว่าปกฮัสกี้แบบนี้คงประหยัดต้นทุน ค่าปกคงถูกแหละ กูแบบ ห้ะ นี่เราให้ค่างานจากจำนวนขีดหรอ กูงงเลย งานมินิมอลบางที่แพงสุดเลยนะ กูท้อ งานศิลปะโดนวัดค่าแบบนี้ได้หรอ นักวาดร้องแล้วน้า
เออว่ะ ที่ฮีทำไปทุกอย่างคือเพื่อขังนางเอกไว้กับตัวนิหว่า เป็นความคลั่ง(รัก)ที่ทำกุสะพรึงมากๆ รักฮีว่าซวยแล้วโดนฮีรักกลับแม่งซวยกว่าอีก
เห็นด้วยที่พระเอกวายคือรักนายเอกแบบถนอมประคองไว้กลางฝ่ามือคือคงไม่ได้เห็นฟิลไล่ต้อนจนพัง คลั่ง(รัก)แบบน่าสะพรึง ฉลาดร้ายกับทุกคน(ร่วมทั้งคนที่ตัวเองรัก) กูว่าที่เด่นของเฮียหรงคือจุดนี้ซึ่งกูคงหาไม่ได้จากพระเอกวายอ่ะ
>>795 ยังนึกฝั่งวายไม่ออก แต่มึงอ่านพี่ชายของแจ่มยังนะ (นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน) กูว่าอันนั้นก็พอไหวอยู่
กูลองไปอ่านสปอยล์จันทร์พรายมา กูว่าอันนั้นเกินเลเวลกูไปหน่อย มันไม่ใช่รักแล้ว
>>808 ไม่ๆ กูหมายถึงกูเอง กูไม่สาป 555 แต่เห็นด้วยกับมึงว่าเป็นไปได้ เพราะตลาดวายโดยรวมชอบปกตัวละคร โดยเฉพาะปกคู่
แต่มันก็ต้องคำนึงถึงยุคสมัยด้วยแหละ สิ่งที่ฮิตยุคนึง อาจจะไม่ฮิตแล้ว
นึกถึงที่มีคนบอกปกพันสารท ถ้ามองตอนนี้ก็คงไม่สวยแล้ว แต่สมัยออกมาคือว้าวมาก (ไม่รู้เหมือนกัน กูไม่ทัน)
และพอมึงยกประเด็นต้นทุนมาก็ทำให้นึกคิดได้ว่าเออ หลายๆ คนบอกว่าชญไม่ค่อยเรื่องมากเท่าวาย
แต่ก็อย่าลืมด้วยนะว่าวายโดยเฉลี่ยแพงกว่าชญอะ (ไม่นับกูกูเพราะตั้งราคาโดดจากตลาด)
หงส์ขังรักคือถัวเฉลี่ยตกเล่มละ 250-300 บาท 400 หน้า แต่โอเค มันเก่าแล้ว
ยุคใหม่แจ่มใส แสนชังงี้ 400 หน้า ขาย 350
ฮัสกี้เล่ม 1 เกือบ 400 แต่ราคาพุ่งไป 425 งี้
จะอ้างว่าเป็นเพราะวายแปลดีกว่าชญ กูก็คันปากอยากจะแย้ง
>>809 กูว่ามึงอาจจะยังหาแหล่งไม่เจอ นึกคีย์เวิร์ดไม่ออก (กูก็ยังนึกไม่ออก)
เพราะมีความรู้สึกว่าคาร์แรกเตอร์แบบนี้ คนน่าจะยอมรับกรณีกระทำกับตัวเอกที่เป็นชาย มากกว่าผู้หญิง
แต่อาจจะเฉพาะกลุ่มหน่อย มีคนเขียน แต่ไม่มีคน LC เข้ามางี้
หรือมึงจะลองอ่านงานของลิลิธ ถ้าไม่ติดว่าเน้น PWP กูว่าหลายเรื่องก็เข้าเค้านะ 555
แบบ toxic relationship manipulative สุดๆ โรคจิตให้เต็มขั้น
>>810 ตลาดวายมันแคบกว่าชญมึง ต้องแพงกว่าเป็นปกติอยู่แล้ว ไหนจะต้นทุนของเเถม ไหนจะค่าประมาณการ perfectionist ของนักอ่านสายวาย เทียบกับชญที่ไม่เห็นแมสในออนไลน์ แต่พอออกปุ๊ปซื้อเลย งานหนังสือซื้อเป็นหมื่นๆ ไม่สนหน้าปก ออกซื้อจ่ายจบ ออกมาถูกใจเนื้อเรื่องก็ซื้อ ออกมาห้าปีคนยังซื้ออ่านอยู่เลย ขายได้เรื่อยๆ ถ้าเป็นวายหนึ่งปีเรื่องไม่ค่อยดังก็ตลาดวายแล้ว และส่วนมากของชญคือซื้อมาอ่านไม่ซื้อมาเก็บเหมือนสายวาย และสายวายที่ตลาดน่าจะมีวัยรุ่นเยอะกว่า เวลาซื้อต้องคิดหน่อย
งานลิลิธในไหนว่ะกูค้นไม่เจอ ในรอร. จอย ดด. ธัญ หรือเล้า ช่วยปาวาร์ปมาให้กุที ไม่ก็ยกตัวอย่างซักเรื่องที่เขาแต่งให้กูไปค้นต่อก็ได้ ขอบคุณมากเพื่อนโม่ง
นอร์มอล นิยายข้าไม่ได้เขียน รหัสลับที่โม่งตำหนักจีนเคยว่าๆไว้ว่าร่างทรงหรงจื่อกูตามหมดล่ะ ถึงมานั่งกอดเข่าหาพระเอกแบบนี้จากฝั่งวายบ้าง แต่ถ้าฝั่งนอร์มอลยังเหลือพอ.แนวๆนี้อยู่ก็ปามาได้ กูพร้อมรับ
>>810 โทษทีมือกูเผลอไปกดส่งก่อน ต่อในนี้เเทน จากที่กูเล่ามาข้างต้น จะทำให้ต้นทุนคงที่(ค่าเสื่อมเครื่องจักร เงินเดือน ค่าแปล ค่าปก ค่าไฟ เป็นต้น) มันจะตัวหารน้อยลงมากๆ ซึ่งต้นทุนพวกนี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากของสนพ. พอยอดพิมพ์น้อยยอดขายน้อย ต้นทุนพวกนี้ก็จะถูกกระจายเข้าไปในแต่ล่ะเล่ม ต้นทุนต่อเล่มก็จะสูงขึ้น และสนพ.ก็ต้องเผื่อราคาสำหรับนิยายวายที่ไม่ได้ขายได้ตลอดๆแต่ขายดีช่วงแรก ไม่เหมือนชญที่รีปริ้นแล้วขายได้ตลอดๆ ซึ่งพิมพ์แรกเนี่ยต้นทุนจะสูง เพราะค่าLC ส่วนที่เป็นฟิกคอสจะอยู่ในรอบนี้ (กูไม่รับประกันว่าเป็นทุกเรื่อง แต่ส่วนใหญ่เป็นเเบบนี้ ) พิม2,3ก็ถึงจะค่อยเป็นเปอร์เซ็นตามราคาปก
กูง่วงมากสมองไม่ไหวแล้ว ถ้ามึงงงกูก็ขอโทษด้วย
>>812 + 815 ไม่เป็นไร มึง กูเข้าใจ ขอบคุณมากๆ ที่มาอธิบายให้กูฟัง ฝันดีนะ เพื่อนโม่ง
กูเพิ่งอ่านวายได้ไม่นานอะ และถึงแม้ตลาดอาจจะแคบกว่าในแง่จำนวนผู้บริโภคจริงอย่างที่มึงเล่า
กูก็มีภาพจำ (อาจเเป็นความเข้าใจผิด) มาตลอดเลยว่าตลาดฝั่งนี้ดูค่อนข้างคึกคัก
เมื่อเทียบกับแฟนตาซี หรือนิยายแปลฝรั่งอะ (ล้มหายตายจากไปเยอะแล้ว)
อย่างเวลาไปร้านหนังสือ หรืออันดับนิยายขายดี เดี๋ยวนี้ก็เห็นวายครองอันดับเยอะ
มหากาพย์ยอดออเดอร์ของปรมจ. กับสวรรค์งี้ หรือทุกครั้งที่มีเปิดประกาศลิขสิทธิ์ เปิดพรี
ทุกคนคือพร้อมจ่าย พร้อมเปย์มากๆ
แต่มึงก็อาจจะพูดถูกว่ามันแค่เพราะผู้บริโภคค่อนข้างส่งเสียงเยอะกว่า ดังกว่า
ในขณะที่ชญไม่เน้นส่งเสียง แต่เน้นซื้อเลย
แต่จริงๆ ถ้าพูดให้ถูกคงต้องบอกว่าที่คึกคักจริงๆ คือตลาดจีน ทั้งวาย และชญล่ะมั้ง
อ๋อ นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่พอ กูเพิ่งมาตามและอยากเก็บบางเล่มก็กลายเป็นของหายากสินะ
>>814 DarkQueenLiLith ใน RAW มึงลองไปเปิดๆ และอ่าน tw เขาเอาว่าพอใช่สิ่งที่มึงตามหาไหม เขาเขียนละเอียดอยู่ แต่ PWP นะ ย้ำ 555
หรือถ้าไม่มีปัญหากับการอ่านอิ้งค์ ลองค้นๆ tag พวก manipulative charaters หรือ psychopath ใน novelupdate มะ
อาจจะมีเรื่องที่น่าสนใจ คิดไปคิดมา นึกถึงด้อมซีรีส์อย่าง Hannibal ด้วย อันนี้พอเข้าที่มึงต้องการไหมวะ
>>809 องค์ชายอัปลักษณ์ก็เข้าข่ายมั้ยวะ พอเรื่องนี้ก็ออกแนวป่วยจิต ที่กูอ่านมาคือวางแผนครองบัลลังก์เพราะอยากปกป้องนอ แต่ระหว่างทางก็มีเหตุการณ์ให้ทำร้ายร่างกาย&จิตใจนอ พอนอจะไป ออกแนวไม่อยู่ด้วยก็เริ่มป่วยจิตทำสารพัดวิธีรั้งนอไว้
คนเลี้ยงม้าก็เข้าข่าย มึงเคยอ่านงานอี้เหรินเป่ยยัง? แนวtoxicแบบhate-loveวายแปลกับวายไทยก็น่าจะเยอะอยู่นะ แต่ไม่ค่อยมีใครรีวิว
องค์ชายพอ.จิตป่วยแน่นอนกูคอนเฟิร์ม กูชอบนะพอ.ยันจิตๆฉลาดๆ งานอหป.กูตามงานพีเรียดแกครบหมดทุกเรื่องล่ะ ฮา ทั้งลู่เหริน องค์ชาย ฤาบุรุษ คนเลี้ยม้า แนวผิดศีลธรรมอย่าง พี่น้องกินกันเองกูก็ชอบแบบ รัชทายาทของฟน.เงี่ยถึงพล็อตจะบ้งบางช่วงก็ตาม ไม่ก็รอร.ใครจะรู้แม่ทัพอย่างข้า คู่หลักก็ดีแต่กูดันชอบคู่รองที่เป็นอช.สามกับอช.รองกินกันเองมากกว่า ของอาเจวี๋ยก็ดีกูชอบความซึนยันแตกของนางยิ่งตอนพิเศษที่ลามโซ่นอ.แล้วขังไว้ในห้องตัวเองคือกูว้าวมาก แต่ใดๆกูชอบพระเอกยันจิตแต่ไม่โง่เหี้ยนะอย่างอิพระเอกเร้นใจนิตั้งแต่ตนจนจบกูไม่รู้สึกถึงความฉลาดของนางเลย แต่จริงๆกูชอบแนวจิตแต่ไม่แสดงออกมามากกว่า หลอกกูให้ตายใจ แล้วตลบหลังกูทีหลัง แบบตบหน้าคนอ่านว่าอย่าตัดสินใครที่หน้าตาเพราะแม่งไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไป ไม่ก็หลอกคนอ่านให้เชื่อใจแล้วค่อยตลบหลังกันตอนสุดท้าย มันเลยออกมาเป็นแนวคุณชายหน้าสวย บัณฑิตชุดขาว ดูอ่อนแอไม่น่าสู้ใครได้ แต่ก็ดูมีลับลมคมในที่ไม่ธรรมดาให้รู้สึกระแวงเล่น แนวๆจันทร์พราย หงส์ขัง
เขียนๆไปอิห่านี่กูชอบพระเอกจิตป่วยหรอเนี่ย555 รึกูเป็น m ว่ะ
>>816 กูตื่นเเล้วมึ๊งงงงงงงง สวัสดี ยินดีต้อนรับมึงเขาสู่ฝั่งนี้ กูก็ย้ายมาเหมือนกันมึง จับมือ กอดๆ ตอนมาแรกๆกูเค้าเจอร์ช็อกกับหลายอย่างเลย ตั้งแต่
-ปกสำคัญกว่านิยายด่ากันจะเป็นตายเพราะเรื่องปก
-ให้รอเกิน 2 ปีในการออกครบทุกเล่มถือว่าดอง สนพ.ก็ดัดนิสัย ไม่ยอมบอกว่าLC ไรมาบ้าง แปลเสร็จครบค่อยออก ก็บ่นกันอีกว่าทำไมไม่บอก บอกมาซิว่าที่ไหนได้ จะได้ไปตามทวงยิกๆ (นี่แหละจ่ะสนพเลยไม่บอกไงงงงง สำนึกบ้าง)
-แปลเถื่อนคือเป็นเรื่องปกติ เซเลปอ่านแปลเถื่อนอิ้งยังเอามาบอกกันง่ายๆว่าอ่านแปลเถื่อนมานะคะ แถมยังต้องสำนึกบุญคุณเพราะเเปลเถื่อนทำให้มี lc นี่เรากำลังย้อนไปเหมือนยุคมังงะแรกๆหรอคะ //เอามือทาบอก
-อ่านแปลเถื่อนมา สปอยจนจบเรื่อง ลงแท็ก ลงเฟส คนเห็นเยอะแยอะ หรือซื้อมาอ่านเล่มสปอยหรือแล้วถ่ายหน้าหนังสือลงแท็ก เป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครว่า ไม่รู้สมัยนี้ชญเป็นไง แต่กูยังทันเคสที่นักเขียนขายดีรุ่นใหญ่ของชญไทยคนหนึ่ง ได้อ่านพร่างพราวบุปผาก่อนวันขาย แล้วมาสปอยหรือเม้าส์กับเพื่อนที่แหละกูไม่แน่ใจ จนคนด่ายับ ทั้งนักเขียนและสนพ ข้อหาเส้นใหญ่มาจากไหนได้อ่านก่อนสนพส่งให่ และ มาสปอยแบบนี้มันได้หรอ แล้วคนที่รอคนอื่นล่ะ ตอนนั้นฝั่งชญค่อยข้างคอนเซินเรื่องสปอยมากๆ ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนยัง กูจำได้ว่าไม่สามารถหาสปอยทั้งเรื่องที่รู้ปมทุกอย่างได้เหมือนในนิยายวายอ่ะ ถ้าหาได้คือเพื่อนโม่งห้องตำหนักจีนไปดำมาสปอย5จุดอ่านกันเงียบๆไม่เอาขึ้นดิน
-การที่ต้องรีบซื้อตอนที่มันออกมาไม่งั้นจะหายาก จนเกิดเป็นอาชีพใหม่คือนักลงทุนนิยาย ซื้อมาก่อนค่อยขายแบบบวกอัพ100%200%300% จากราคาปก
-ทุกคนเเย่งซื้อรอบพรีเพราะพรีเมี่ยม ส่วนหนึ่งคืออยากสะสม กับส่วนหนึ่งคือเอาไว้กั๊กขายต่อนั้นแหละ
-ถ้าอยากขายต่อได้ราคาต้องเป็นรอบพรีเท่านั้น ราคามือสองวายเกือบเท่ามือหนึ่ง ถ้าไม่ใช่รอบพรีลดเกิน 50%แล้วก็ยังออกยากเลยสำหรับวายไทยที่ออกมาไม่เกินปี ถ้าเป็นชญไทยราคานี้เเยกกันแล้ว
-ซื้อนิยายร้านไหนแถมการ์ดเอาการ์ดใสมาขายต่ออีกสองสามร้อย พรีเมี่ยมจงจะเจริญ
-แปลทับศัพท์เยอะแยะเหมือนกูกูได้รับความนิยมที่นี่ กูแสนท้อ
ข้างต้นที่บ่นมาถ้าใครจะมาบอกว่าถ้างั้นก็ไม่ต้องอ่าน ออกจากแก๊งเลาไป กูก็จะขอบอกตรงนี้ว่า กูจะอยู่ กูไม่อยู่แล้วก็จะอ่านอะไร 5555555555555 รสนิยมกูสวนกับตลาดชญอยู่ กูไม่ชอบยุทธภพ พีเรียด เทพเซียน ในรั้วในวัง ตลาดใหญ่ของชายหญิง กูชอบยุคปจบหรือแฟนตาซี(ระบบ อวกาศ) ที่มีในวายเยอะกว่าและวายมีความเป็นการ์ตูนหรืออนิเมมากว่า ซึ่งกูชอบvibeประมาณนี้ บ่นยังไงก็กัดๆฟันทนเรื่องดราม่าอ่านต่อไป
ถึงพูดงั้นแต่เวลากูจะซื้อนิยานหาซื้อมือสอง50%ไม่จริงจังสภาพไม่เจอเลย หาทั้งทวิต เฟส ไอจี สุดท้ายไปซบอกช็อปปี้ พวกที่ลด50%คือออกเมื่อนานมาแล้วววววว ลด30%อัพพอมีบ้างแต่คนจองอย่างเร็วไม่เคยเหลือมาถึงกู
วายมันไม่ใช่เพราะขายได้น้อยกว่าชายหญิงเลยราคาแพง ตลาดวายอันดับสองรองจากนิยายรักชายหญิง ขณะอันดับรองลงมาแบบผี แฟนตาซี สืบสวนราคาก็ยังไม่ห่างจากรักชายหญิงมากทั้งที่ยอดคนอ่านคนละโลก สาเหตุที่อันดับสองอย่างวายแพงเพราะถึงแพงคนก็ยอมซื้อ หลายสนพ.เห็นกำไรงามจัดๆเลยลงมาเล่นเป็นดอกเห็ดเจริญเติบโตเร็วมาก
>>820 อย่าลืมเรื่องวิจารณ์การแปลประหนึ่งตัวเองเป็นอาจารย์สอนการแปลที่ชูล่า แต่ความจริงแล้วยังไม่ได้อ่านเบย แค่เห็นรูปจากคนอื่นเฉยๆแล้วขอฉอดก่อน อันนี้กูงงมาก ทำไมไม่อ่าน บางทีดึงศัพท์มาตัวเดียวแล้วแซะว่าว้าย ขำ ใครเขาแปลงี้ แต่มันอาจจะเข้ากับบริบทก็ได้ หลังๆนี่กูเห็นเริ่มๆลามไปชญละด้วยนะ ดีหน่อยฝั่งชญยังไม่ค่อยมีใครเขาบ้าตาม อย่างมากก็คิกคักกับเพื่อนตัวเองเหงาๆแค่สองสามคนไรงี้
>>822 แต่พวกนั้นมันขายได้ตลอดๆอ่ะมึง ฐานแน่นเป็นคนวัยทำงาน ถ้ามันอยู่ยาวมันรีปริ้นแล้วขายอีก คนก็ซื้อเรื่อยๆจะเด็กจะเเก่พ่อแม่ซื้อให้ลูกยังไงก็อ่านวนไปๆ วายมาดูแรงและแรงมากขึ้นในปีนี้ แต่เกิดแล้วก็ดับเร็วมากเช่นกัน ออกมาเกินปีคนก็ไม่ค่อยสนใจแล้ว ยกตัวอย่าง ระบบพลีชีพงี้ ตอนนั้นแมสชิบหาย ตอนนี้หายไปในกลีบเมฆกระแสไม่หายเร็ว เขาก็ต้องรีบตกกำไรเท่าที่ทำได้ก่อน แต่กูก็พอรู้ว่าก็มีที่ราคาสูงยอดก็ไม่ได้ต่ำอยู่ เหมือนกัน อันนั้นก็คิดว่ามันอาจจะมีคอสเยอะกว่า
พระเอกสาย manipulate รัชทายาทบัญชาก็ใช่นะ แต่ว่าสู้หรงจื่อไม่ได้อะ รัชทายาทนางมีความใจอ่อน มีความเปนคนดีอยู่ ไม่ได้ร้ายเบอร์นั้น
มาจนถึงตอนนี้ไม่ว่าจะวายหรือนอร์มอลเรื่องความร้าย โหด จิต กูก็ยังไม่เห็นมีใครโค่นตำแหน่งนี้ของพี่ท่านลงได้เลยนะ ท็อปฟอร์มมากฮีเกาะตำแหน่งเหนียวแน่นจริง
>>820 ยินดีต้อนรับ จากกูผู้คลุกคลีสายนี้มากว่า 20 ปี ขอให้คงความปกติของมึงไว้อย่าปสดตามไป สายนี้ต้องการคนเสพปกติมาถ่วงดุลความปสดแดกที่ทุกวันนี้ชักจะเลยเถิดไปเรื่อยๆ กุไม่โทษสนพ.เลยที่จะขึ้นราคาหนังสือเพราะคชจในการจัดการ ทุกความต้องการมีราคาและต้นทุนที่ต้องจ่ายในตัวมันเอง ตัวกูผู้อยากได้แค่เนื้อหาดีๆมีมาตรฐานและรูปเล่มที่สวยประมาณหนึ่งเท่านั้นก็ต้องจ่ายตามไปด้วย อีกหน่อยถ้า ebook โตมากๆกูหวังแค่ว่าสนพ.จะไม่เอาคชจพวกนี้ไปบวกกับราคาอีบุค
ตลาดวายส้วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหญิงด้วยมั้ง กุไม่ค่อยเห็นคนอายุ30-40ขึ้นไปอ่าน ชายหญิงต่อให้แต่งแนววัยรุ่นก็มีคนอายุเยอะๆอ่าน คนที่ทำงานแล้วอายุเยอะแล้วเขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่ทะเลาะกันเรื่องแบบที่>>820บอก คนอายุเยอะอ่านวายก็พอมีอยู่บ้างนะแต่เขาก็ไม่ได้เล่นโซเชียลเก่งอย่างมากก็เล่นแค่ไลน์-เฟสบุคเพราะงั้นจึงไม่ใช่ตัวตั้งตัวตี
ตลาดวายเหมือนใหญ่แต่ถ้าเทียบยอดพิมพ์กับช-ญไม่ได้เลยมึง งานวายคืองานอ่านฟรีเป็นหลักกลุ่มลูกค้าที่เรียกร้องเพราะมองว่าเป็นของสะสมมากกว่าอ่าน แต่ถามว่าทำไมหลายสนพเริ่มแตกหน่อมาขายวายเพราะกลุ่มวายเป็นกลุ่มลูกค้าที่ออกอะไรมาก็ยอมจ่ายแม้ราคาจะแพง แพงเพราะจำนวนที่พิมพ์ทำน้อย แต่ก็ยอมจ่าย ทำให้ราคาเฉลี่ยกับยอดมันพอไปได้เรื่อยๆ
ในขณะกลุ่มช-ญยอดพิมพ์เยอะก็จริงแต่ราคาหนังสือจะถูกมากถ้าเทียบราคาทางฝั่งวายแต่ตลาดโคตรใหญ่ แต่กำไรต่อเล่มน้อยกว่าวายมาก ส่วนมากเน้นพิมพ์เยอะเพื่อยอดขายดี และเป็นกลุ่มที่ซื้ออ่านเป็นหนัง เป็นวัยทำงาน วันอยู่บ้าน มีเงินเหลือ สายตาไม่ดีอ่านในเน็ตไม่ค่อยได้เลยซื้อเล่มกันเยอะอีก
สาวๆ วัยเยาว์ - 35 ปีนี่แหละตัวเก็งเลย คนอายุเยอะกว่านี้อ่านวายน้อยมากส่วนมากถ้าแปลจีนก็อยู่ค่ายแจ่มกับ หสม(เบะปากแปป) ซะเยอะ อย่างแจ่มอยู่คู่กับนิยายมานานมากๆ ตั้งแต่ปกขาวภาพสีน้ำมัน แปลจีน คุกกี้ แฟนซี เวลาไปงานหนังสือคือเห็นชัดเลยว่ากลุ่มไหนซื้อนิยายแนวไหน บูธวายมีแต่วัยรุ่น อัตราการซื้อไม่สูงเท่าเหล่าแม่ๆ ป้าๆ ที่หยิบแนวอื่นทีเป็นตั้งๆ แต่ตอนนี้การตลาดก็เปลี่ยนด้วยอะ วายมาในยุคที่การซื้อออนไลน์บูม และไม่ต้องรอไปซื้อตูมเดียวในงานเหมือนแต่ก่อน จริงๆ ปรมจเล่มแรก บูธสนพ.อย่างโล่ง ^^'
ส่วนราคาหนังสือกูว่ามีผล ไม่เข้าใจทำไมวายถึงได้แพงกว่ามาก เรื่องที่ไม่ได้ดังมากราคาก็ยังแพงกว่าชญอยู่ดี กูยังรับราคาของแจ่ม/อววได้ ยังชอบที่มันไม่โดดสูงมาก ขอแค่เพลาๆ พรีเมี่ยมและกลับไปออกตัวเล่มเหมือนเดิม เบื่อพรีเมี่ยม ไม่ซื้อมาก็รู้สึกไม่คุ้มกับพรีแรกที่อย่างน้อยก็มีส่วนลด ส่งฟรี จะขายต่อก็ง่ายกว่า หนังสืออย่างเดียวเทียบราคากับรอบพรีแรกแล้วพรีก็คุ้มมากกว่าในหลายๆ ด้านอยู่ดี ทั้งกว่าจะวางร้านนอให้ซื้อ คนขายมือสองรอบพรีกันพรึ่บละ ไม่รู้ว่าต้องตกบ่วงการตลาดแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เง้อ
>>829 ตอนเเรกกูไม่ค่อยอยากเอาเรื่องอายุมาเล่นว่าที่มันปสดเพราะวัยรุ่นเด็กอยู่กันเยอะ แต่กูว่าเป็นปัจจัยใหญ่ล่ะนะ เพราวัยรุ่นสมัยนี้ทั้งในนกฟ้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับสายผลิตที่เป็นนักวาดมากกว่าสายเขียน (จากเรื่องที่มีคนด่าเเฟนฟิคให้ทุกคนหยุดเขียนแต่เเฟนอาร์ตขายกันล่ำซ่ำกว่าสายเขียนลอยตัวเหนือไม่โดนอะไร)จนมันลามมาเรื่องอื่นที่มีการใช้งานวาดต้องเป็นศิลปะต้องมีสตอรี่ ต้องดี ต้องเพอร์เฟค กูเป็นงง นี่เราซื้อหนังสือนะ ไม่ได้ซื้อโฟโต้บุ๊ค ต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหาหน่อยนะ กูเห็นเวลาคนวีดมีแต่ปกสวย พรีเมี่ยมดี กูจะรอดูว่ากระเเสนี้จะอยู่ไปได้ตลอดจริงไหม และกูเข้าใจว่าเด็กๆหรือวัยรุ่นหลายคนพึ่งตระหนักถึงสิทธิที่ตัวเองมี เลยใช้กันอย่างไม่บันยะบันยัง คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้ายิ่งใหญ่กว่าสนพ. แค่จ่ายเงินไม่เท่าไรก็ใช้คำแรงวิจารณ์แค่ไหนก็ได้ ชั้นมีสิทธิ แพงหน่อยก็บอกว่าเอาเปรียบผู้บริโภค นายทุนมันแย่ ขอโทษนะคะ เป็นนายทุนก็มีต้องต้นทุนเหมือนกัน (ยุคโควิดกูยังเชื่อเลยว่านายทุนใหญ่ของวงการสิ่งพิมพ์ก็ยังเเย่เพราะรายได้หลักมันส่วนหนึ่งมาจากงานแฟร์ที่จัดไม่ได้แต่ฟิกคอสมันเท่าเดิม ) กูรำคาญบทผู้ร้ายนายทุนมากเลย มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอวะ แค่คนจะหากำไรถูกโยนรับบทนายทุนหมด ทั้งที่มันก็ไม่ได้มาผูกขาดราคาอะไรในวงการนี้เลย ถ้างั้นก็หารเงินซื้อค่าเเอลซี ค่าแปล ค่าปกที่ถูกใจกันเองเถอะ จะได้ไม่ต้องมามีปัญหาเรื่องนี้ ตอนกูเด็กๆถ้าอยากได้แต่ตังไม่ถึงกูก็ได้เเค่เก็บตังค์อ่ะ แบบนี้เรียกว่ากูโดนนายทุนเหยียบไม่เรียกร้องหรอ กูมันโง่หรอ 555555 เห้อ ถ้างั้นไม่พอใจก็ไม่ต้องซื้อเป็นฟีดเเบคที่ดีที่สุด ยอดขายไม่ดีเขาก็ปรับปรุงเอง ไม่ใช่มาแว๊ดๆใส่เขาให้ลงราคาลงมาให้พอดีกับเงินที่ตัวเองมี จะมาอ้างเรียกร้องเพื่อสิทธิผู้บริโภคของตัวเองแต่ไม่เเคร์ฝั่งคนที่รับคำพวกนี้
เด็กๆก็งี้แหละมึง
ดูแต่อะไรฉาบฉวย หน้าปกต้องดี ต้องสวย ต้องเริศ ของแถมต้องดี
สำหรับกู กูมองแค่เนื้อใน แต่เนื้อหามันดี หน้าปกจะไม่สวยยังไง กูก็ซื้อ
เพราะกูสนใจเนื้อหา 300+หน้าข้างใน มากกว่าหน้าปกแค่หน้าเดียว
>>830 ถูกเลยมึง คนที่อยู่แต่ในทวิตหรือในเฟสก็จะมองว่าวายใหญ่โต แต่เอาจริงชญนี่กว่าใหญ่มาก สมัยก่อนมีเรื่องหมอหญิงเทวดาของเเจ่มออกเล่มใหม่นี่แมสเซนเจอร์ต่อคิวรอซื้อที่แจ่มคลับอย่างยาว
>>831 เพราะยอดเรื่องที่ไม่แมสมันยอดพิมพ์ต่ำกว่าเล่มที่แมนๆ ต้นทุนต่อเล่มเลยสูงขึ้น ราคาก็ต้องบวกขึ้นไปอีก มึงลองอ่านที่กูพิมพ์อธิบายไว้ข้างบนก็ได้
>>828 กูก็ไม่มีปัญหาเรื่องราคาเลย กูเข้าใจเรื่องต้นทุนๆมาก มันมีอะไรเยอะกว่าที่นักอ่านคิด จะเอามาหารหน้าเปรียบเทียบไม่ได้ ยิ่งเทียบที่ไม่ใช่พีเรียดเดียวกันนี่ยิ่งเทียบไม่ได้เลย แต่ล่ะสนพก็มีการตลาดที่ต่างกันเงินฟงเงินเฟ้ออีก กูเลยคิดว่าหรือเพราะวัยรุ่นยังไม่เคยทำงานเลยมองไม่ออกว่าในบริษัทหนึ่งมีอะไรที่ต้องจ่ายมากกว่านั้น
กูไม่มีปัญหาเรื่องราคาเหมือนกัน ราคาก็สมเหตุสมผลอยู่ไม่ได้แพงมากจนขมวดคิ้ว แต่กรณีพวกซื้อกั้กไว้แล้วขึ้นราคาแพงๆคือแม่งขายแพงเวอร์ๆแถมเป็นอาชีพที่ไม่น่ารักด้วย คนที่เขาอ่านอยากสะสมจริงๆก็อดซื้อ
ky กุอ่านบนๆแล้วอยากรู้ขนาดตลาดชญเทียบกับวาย กุจะไปหาได้จากไหน เพื่อนโม่งมีใครรู้ช่วยชี้ทางให้หน่อย
กูรู้สึกว่าตลาดชญเงียบๆแต่ขายได้เพียบจริงก็ตอนบริดเจอร์ตันแมสอะมึง แทบไม่มีคนพูดถึงหนังสือเลย แต่ขายหมดเอาๆ
>>835 กูก็ไม่ชอบพวกแม่ค้าซื้อกั๊ก กว้านซื้อกันไปหลักหลายสิบหลักร้อย ก็เข้าใจว่าสิทธิเขา ช่องทางหาเงินเขา เงินเขา แล้วคนที่อยากอ่านอยากซื้อจริงๆก็แย่งซื้อกับแม่ค้าพวกนี้ไม่ทัน ไปซื้อต่อจากแม่ค้าก็โดนอัพราคามากบ้างน้อยบ้าง กูก็ว่าอะไรพวกแม่ค้าไม่ได้หรอก ได้แต่คิดอย่างมึงว่า เป็นอาชีพที่ไม่น่ารัก
เวลากูเห็นแม่ค้าแทงหวยผิด ปล่อยขายไม่หมดสักที บอกเหลือเป็นสิบๆ ชุด กูก็ได้แต่ดีใจแทนสนพ. ได้ยอดขายเยอะดี
คนชอบมองว่าตลาดวายใหญ่ แต่จริงๆไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น แค่มีคนพูดถึงเยอะเฉยๆเพราะคนอ่านส่วนใหญ่เป็นสายโซเชียล ยอดพิมพ์ของวายนี่โดยรวมเทียบกับนิยายชายหญิงไม่ได้เลย ที่มันตลาดใหญ่รองจากชญเพราะบางคนเล่นแบ่งประเภทนิยายแบบ 1. ชญ 2. วาย 3,4,5...N. อื่นๆที่ไม่มีพล็อตโรแมนติก วายมันก็ต้องที่สองอยู่แล้วแหละ แต่ก็ยังคุ้มที่จะลงทุนอยู่นะ
ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ถ้าวายตลาดใหญ่จะไม่มีการโซเอ้าท์ไม่พิมพ์เพิ่มแล้วกลายเป็นของหายากให้แม่ค้าเอาช่องว่างตรงนี้มากินกำไรหรอก
ปัญหาการกดกั๊กอัพราคามันเป็นปัญหาสืบเนื่องจากเทคนิคการตลาดจริงๆ ขนาดตลาดก็มีส่วนแต่กุว่าไม่ใช่จุดหลัก ไม่งั้นสายชญก็ไม่มีปัญหานี้ ซึ่งกุเห็นมีกันทุกสาย หากอยากให้ได้ผลทางการตลาดสนพ.ต้องกำหนดจำนวนทำให้มันขาดตลาดอ่ะมึง ตามหลักดีมานซัพพลาย และกูก็คิดว่าสนพ.ยินดีให้มันขาดตลาดมากกว่าเหลือสต๊อกบาน
ดูอย่างฮัสกี้ได้ เล่ม 1 กูว่าแม่ค้ากดมากะฟันกำไรกันบาน แต่กุหลาบดันพิมพ์เยอะจริง สุดท้ายราคาก็ไม่ขึ้น ส่วนตัวกูเองก็ไม่รีบกดแล้ว รอกดทีเดียวตอนใกล้ครบ แน่นอนว่าสนพ.ได้เงินช้าขึ้น พอกระแสซาก็เสี่ยงสต๊อกจมแล้ว จะเร่งยอดก็ต้องเล่นกัยความรู้สึกหวาดกลัวว่าจะไม่ได้ของของลูกค้านี่แหละ
สงสัยอะ โม่งชอบพูดกันว่าตลาดวายไม่ใหญ่ขนาดนั้นๆๆ แต่ปีสองปีนี้สนพ.ใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด มาถึงก็พิมพ์วายจีนกันรัวๆ ถ้าตลาดมันไม่ใหญ่ขนาดนั้นจริง ทำไมสนพ.วายมันผุดมาเยอะกว่าชญอะ?? ถ้าชญแมสกว่าจริง สนพ.ใหม่มันก็น่าจะอยากไปจับตลาดนั้นกันมากกว่าป่าว??
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวกูนะ กูว่าฮัสกี้พิมพ์เยอะอยู่และกระเเสมันยังไม่สุดอ่ะ ต้องรอซีรีย์ด้วย ที่สนพ.ตัดสินใจพิมพ์เยอะเพราะยิ่งเยอะฟิกคอสของค่าแอลซีก็เฉลี่ยต่ำลงอีก ยังก็ขายได้อยู่แล้ว รอซีรีย์มาก็พีคอีกรอบ สู้พิมเยอะเเต่เเรกไปดีกว่าตัดปัญหาแม่ค้ากั๊กราคา กำไรเข้าสนพ.ให้หมด แต่วายทุกเรื่องไม่ได้โชคดีแบบนี้ที่มีซีรีย์มาฉุดกระแส หลายเรื่องที่พอขาดตลาดปั๊ปอัพราคาปุ๊ปแล้ว เพราะไม่รู้ว่าสนพจะพิมพ์ใหม่ไหมเพราะถ้าเป็นสนพเล็กๆมารอบเดียวก็ไป พิมพ์สองจน.เริ่มไม่คุ้มคอสแล้ว วายมันค่อยข้างเน้นสะสมมากกว่า คนซื้อก็เร่งซื้อตั้งแต่รอบแรก พอคนมาตามที่หลังก็หายาก จะพิมพ์ใหม่จน.ขั้นต่ำที่จะพิมพ์และขายได้ก็ไม่พ้นต้นทุนคงที่อยู่ดี สนพเลยเลือกที่จะปล่อยมันหายากต่อไป รอดีมานมากพอแล้วรีปริ้นรวดเดียวแบบให้พรี ต่างจากนอลมอลที่สนพตีพิมพ์เรื่อยๆไม่ต้องรอรีปริ้นอยู่ บางเรื่องออกมานานแล้วสนพยังต่ออายุสัญญาต่ออีก แต่กับวายกูเห็นพ้นปีแรกกระแสก็เริ่มดับไป กูเชื่อว่าระหว่างของค้างสต็อกกับของขาด สนพต้องประมาณการค่าเผื่อเสียโอกาสของทั้งสองฝั่งอยู่แล้วอยู่ที่ว่าจะเลือกฝั่งไหนให้เหมาะสมแล้วมีค่าประมาณการตัวนี้น้อยที่สุด ซึ่งถ้าอิงว่าตลาดไหนใหญ่กว่สโดยดูจากตรงนี้ ก็จะเห็นว่าชญที่มีการพิมอยู่เรื่อยๆอยากซื้อเมื่อไรก็ได้น่าจะใหญ่กว่าวายที่ต้องรอการรวมกลุ่มดีมานที่มากพอสนพถึงจะรับพิจารณาพิมพ์เพิ่ม
>>844 ไม่ใช่แบบนั้นหรอกมึง การที่สต็อกหมดหมายความว่าพิมพ์เพิ่มแล้วไม่คุ้มต่างหาก พิมพ์ออกมายอดอย่างต่ำพันเล่ม คนซื้อแค่สองร้อย แล้วใครจะพิมพ์ล่ะ พิมพ์แค่พอดีๆสองร้อยเล่มเหรอ ต้นทุนต่อเล่มก็เบิกบานสิ ไม่มีใครเล่นกระแสการตลาดด้วยการกะให้สินค้าตัวเองขาดตลาดหรอก นอกจากจะทำให้ได้กำไรน้อยลงแล้วยังทำให้ลูกค้าหงุดหงิดอีก ใครมันจะเสี่ยง เรื่องไหนที่ดูแมสๆเขาก็พิมพ์เผื่อเหลือเอาไว้ทั้งนั้นแหละ สต็อกบานยังไงเอาไปเลหลังขอแค่ต้นทุนคืนก็ยังได้ แต่ถ้าของขาดแล้วพิมพ์เพิ่มไม่คุ้มนี่สิช้ำจริง
ชญ ตลาดมันใหญ่กว่าเพราะขายผู้ชายได้ด้วยปะ แล้วก็ขายผู้หญิงอายุเยอะได้ด้วย
วายมันส่วนมากเป็นผู้หญิงวัยรุ่น
>>845 เพราะตลาดชญมีเจ้าตลาดอยู่แล้ว ลูกค้าที่อ่านชญส่วนมากอ่านกันมาเป็นสิบๆปี กลุ่มที่จ่ายหนักสุดคือวัยเกษียณ เขามีสนพ. มีนักเขียนที่ตามๆกันอยู่ หน้าใหม่ก็เลยเจาะเข้าไปลำบากหน่อย แต่วายไม่ใช่ เพราะส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มอายุน้อยลงมาที่เล่นโซเชียล มันมีพื้นที่ให้โฆษณามากกว่า แต่กำลังซื้อก็สู้วัยเกษียณหรือกำลังจะเกษียณไม่ได้
>>845 อันนี้กูเดา จากที่กูเห็นคือวายเปิดใหม่จะมาสายพรี สายหาทุนไปพิมพ์ก่อน สายออนไลน์ บ้างที่ก็ไม่เข้าร้านหนังสือ ต้องซื้อตรงสนพไม่ก็ชป.อย่างเดียว ถ้าชญมาเปิดเเบบนี้กูว่าไม่รอด รูปเเบบกลุ่มเป้าต่างกัน ชญชอบไปเดินเจอแล้วซื้อหรือซื้อเยอะๆที่งานหนังสือมากกว่า แล้วก็ไม่ชอบต้องมานั่งรอสองสามเดือน(ยกเว้นของกูกูรอสามปีแฟนคลับก็รอได้) ต้องเปิดพร้อมขายเลย จุดนี้ที่ต่างจากวาย ดังนั้นถ้าทุนไม่ถึงต้องมาระดมเงินจากการเปิดพรี ชญน่าจะไปไม่รอดกับรูปเเบบนี้ ซึ่งถ้ากูจำไม่ผิดตอนชญแมสใหม่ๆก็มีสนพเปิดเยอะอยู่แต่ไปไม่รอดเหมือนกัน(ถ้ากูจำไม่ผิดนะหลายปีแล้ว ) สนพวายที่เปิดใหม่ช่วงสองสามปีนี้กูไม่เห็นที่ไหนจะใหญ่ขึ้นมาจากการขายวายเลย ร่างแยกเป็นไฮดร้าก็มี ขายเรื่องเดียวแล้วก็ไปก็มี กูจะรอดูว่ามันจะไปสุดเหมือนชญที่สุดท้ายก็เหลือแต่หน้าเก่า
ตลาดวายมันดูใหญ่ เพราะสาววายมันขี้ฉอดขี้โวยวาย มันเลยดูยิ่งใหญ่
พวกชญ กูว่าเขาไม่ได้โวยวายเยอะ มันเลยดูเงียบๆ คนรู้จักกูเป็นผู้ชาย ตามอ่านจีนกำลังภายใน ก็ซื้อนิยายอ่านอยู่เรื่อยๆ แบบเงียบๆไม่บอกใคร
แต่กูเห็นหนังสือที่เขาซื้อเอง
>>845 เค้กใหญ่กว่าแต่คนแบ่งเยอะแล้วไง จะไปตัดมามันก็ยาก อันนี้ตลาดเล็กกว่า แบ่งมาได้ง่ายกว่าก้อนใหญ่กว่า ประมาณนี้มั้ย
>>846-847 กุหลาบอาจจะหวังซี่รีย์จริงกุก็ลืมไปว่ามันยังไม่ออนแอร์ ตอนนั้นน่าจะมีกระแสดึงติ่งนสดมาเพิ่มด้วย เลยพิมพ์หนักไว้ก่อนเพราะคุ้มทุนกว่าเจ้าใหญ่ไม่กลัวเรื่องสตอกอยู่แล้วนิ
แต่กระแสพิมพ์น้อยเอาการตลาดกุดูตัวอย่างจากมังงะง่ะ (อีลพ.นั่นล่ะ) กุว่าสนพก็คงคำนวนจุดคุ้มทุนมาละเอียดแล้วว่าแค่ไหนถึงบาลานซ์กับความเสี่ยง แต่กุก็ยังคิดว่าสนพ.ไม่น่าจะอยากเลหลัง คงจะยอมให้ขาดเล็กน้อยแต่ขายราคาเต็มได้มากกว่า ดังนั้นกุว่าถ้าไม่ติดfix costต่อลอต ก็ยังน่าจะกำหนดให้ขาดนิดๆมากกว่าป่าววะ
>>848 ใช่ๆ พ่อกูอ่านชญจีนแต่ไม่ยอมอ่านวายไม่ว่าจะเชียร์แค่ไหน พ่อกูชญจีนกับกำลังภายใน สมัยกูอ่านชญเชียร์พ่อได้หลายเรื่องเลย
>>853 เอาจริงกูว่านังใบไม้นางไม่มีกำลังผลิตไม่เพียงพอเองมากกว่าว่ะ มันเลยขาดตลาด กูแอบคิดว่ามันขี้โม้ที่มาอ้างสนพญปจำกัดจำนวน ต้องเชียร์ให้มันขยายโรงพิมพ์มันแล้ว มันเสียกำไรไปเยอะมากนะสำหรับคนที่หาแล้วท้อ คนการที่ขายมือสองราคาสูงตัดหน้ามัน จากที่มันจะได้เงินจากสองคนกลายเป็นคนเดียวกูว่าคนคำนวนจน.เล่มในการตีพิมพ์หนึ่งครั้งของมันน่าจะมีปัญหานะ เปลี่ยนคนเถอะ เพราะไม่ได้มีปัญหาแค่เล่มแรกๆของซีรีย์นั่นแต่เป็นทุกเล่มเลย หรือพอหายากแล้วทำให้มันพูมใจแต่กำไรไม่เข้ามันก็ปล่อยมันไปเถอะ ดูอย่างสนพ.มังงะอื่นยังไม่มีปัญหาเท่ามันเลย แล้วเท่าที่กูรู้สนพ.ตั้งราคาเพื่อสำหรับเลหลังอยู่แล้วมึงไม่ต้องห่วง อีกอย่างพิมพ์ขาดมันใช้กับตลาดชญที่ผู้อ่านอายุเยอะเป็นส่วนมากไม่ได้อ่ะ เขาไม่ได้มีเวลามานั่งหาตามsns นั่งแย่ง มีเวลามานั่งรอรีปริ้น เขาเเค่อยากอ่านเขาก็เเค่เดินเจอเรื่องไรก็ซื้อ ไม่มีไม่อ่านก็ได้ไม่เดือนร้อน ตัวอย่างจากพ่อกูเลย
เคสใบเขียวเคยเห็นคนในวงการที่ทำค่ายอื่นวิเคราะห์ว่าน่าจะอยากขายดิจิตอลมากกว่าเลยพิมพ์เล่มน้อยๆอ่ะ
>>853 ทำไมมึงถึงคิดว่าสนพ.อยากขายได้น้อยแต่ขายเต็มราคามากกว่าล่ะ ในเมื่อ:
ถ้าพิมพ์ 80 มีคนต้องการ 90 สนพ.ขายเล่มละ 100 ได้ 80x100 = 8000 แล้วโดนลูกค้าอีกสิบคนด่า
แต่ถ้าพิมพ์ 100 ขายราคาเต็ม 90 ผ่านไปสามปีขายโปรโมชั่นพร้อมเล่มอื่นลด 50% ไปเลยอีก 10 เล่ม จะได้ (100x90)+(10x50) = 9500 ได้ลูกค้าเรื่องอื่นด้วย
พวกมึงเป็นคนในวงการสนพปะวะ มีคำนวณราคาด้วย ทำไมกูอ่านไม่รู้เรื่องเลย 5555
>>857 ในความจริงมันคงกะตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้หรอก ในความคิดกูคือการประมาณการยอดให้มันขายหมดในเวลาไม่นานนั่นแหละ ให้มีความแรร์หน่อยๆ ไม่เหลือเผื่อไว้ขายนานๆ น่าจะเป็นเทคนิคการตลาดที่ให้ผลดีต่อยอดขายมากกว่าน่ะ ไม่ใช่ว่าตั้งใจให้ขาดตลาดเยอะๆนะ อันนั้นก็ถือว่าเสียโอกาสทางการขายมากกว่าแล้ว
ที่กูคิดคือผลทางอ้อมน่ะ อย่างตัวเลขที่มึงยกมา สิบคนที่ด่า พอเล่มต่อไปออก มันจะไม่รอแล้วมันจะแย่งกันซื้อเลยเพราะรู้ว่ารอแล้วแม่งไม่ได้อ่านต้องซื้อราคาอัพ ตอนนั้นมึงอัพจำนวนพิมพ์สักหน่อยเป็น 120 ก็ยังอาจจะหมดในเวลาไม่นาน เพราะกระแสแย่งชิงมา มึงก็นับเงินสบายๆในเดือนนั้นเลย เอาไปพิมพ์เรื่องใหม่ให้คนแย่งต่อ หมุนเงินได้หลายรอบ กำไรก็มากตาม
และเวลาสต๊อกค้างมันก็มีค่าใช้จ่ายในการจัดการ มีทุนที่จมในระหว่างรอขายสามปีน่ะนะ แต่ก็อย่างที่เพื่อนโม่งถกมา มันก็มีหลายปัจจัยจริงๆ ทั้งเรื่องพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย จำนวนงานที่ออก การประหยัดต่อขนาด ต้นทุนบริษัท ฯลฯ ที่กูคิดก็อาจจะไม่ถูกทั้งหมดนั่นแหละ
>>862 ใช่ กำหนดต่อรอบพิมพ์แรกมีจำกัดอยู่แล้วเเต่สัญญา รอบไหนๆก็ต้องมีการจำกัดจำนวนไว้ แต่คนที่ต่อรองก็สนพ.ในไทยนี่แหละ ใบไม้จะไม่มีอำนาจต่อรองที่จะเลือกจำนวนพิมพ์ที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเลยหรอ กูเลยว่ามันขี้โม้ เพราะพิมพ์ได้น้อยเลยเลือกสัญญาที่พิมพ์จำนวนน้อยมากกว่า
>>861 กูขอถถตรงนี้นิดนึง อันนี้ไม่เอาต้นทุนคงที่ที่เกิดขึ้นต่อรอบมาเป็นตัวแปร ถ้ามึงปล่อยให้แรร์ในระยะเวลาที่ไม่นานและทำเป็นประจำยังไงผู้บริโภคก็ต้องรู้เนเจอร์ของสนพ.มึง เขาก็จะเริ่มชินไหมวะ ทำให้ไม่เร่งซื้อมึงเหมือนเดิม ไม่มีความรู้สึกว่าต้องรีบเพราะผ่านไปไม่นานมึงก็รีปริ้นอยู่ดี กูว่าปัจจัยที่จะทำให้แรร์ได้คือ ไม่รู้ว่าจะรีปริ้นช่วงระยะเวลาไหน หรือไม่รีแล้วจริงๆอันนี้จะทำให้แรร์ นานมากหรือสั้น ถ้าสั้นมากคนก็จะจำมึงในรูปแบบที่เดี๋ยวก็รีไม่ต้องแย่ง ถ้ายาวมากมึงก็จะเสียโอกาสทำกำไรในจุดนี้ กูว่ามันทำได้ยากในตลาดหนังสือ ใช้ได้ไม่บ่อย และค่าเสียโอกาสสูงอยู่
>>861 อย่างแรกคือไม่มีใครคำนวณพฤติกรรมผู้บริโภคได้เป๊ะๆแบบนั้นหรอก ยิ่งวิธีนี้ความเสี่ยงสูงไป ไม่คุ้ม แทนที่นักอ่านจะรีบซื้อของมึงในงวดถัดไป เกิดเขาหงุดหงิดว่าเสือกพิมพ์น้อย คราวนี้ก็คงจะน้อยอีก เดี๋ยวสั่งซื้อไม่ได้จะเสียอารมณ์ เลิกตามแม่งเลย สนพ.อื่นก็มีเยอะแยะ ทีนี้จะทำไงล่ะ
อย่างที่สองคือถ้ามึงเป็นสนพ. ยังไงมึงก็ไม่ได้พิมพ์เล่มเดียว มึงต้องมีค่าสต็อกอยู่แล้ว จะเช่าหรือซื้อโกดังเอาก็ต้องจ่าย จะมีสต็อกหรือไม่มีก็ต้องจ่าย แล้วทำไมจะไม่สต็อกล่ะ
แต่อมรินทร์นี่กูส่องในจิ้นเจียง ปีสองปีที่ผ่านมาแทบจะซื้อแอลซีแค่นิยายวายล้วนๆเลยนะ แบบ วาย:ชญ 80:20 เลยมั้งถ้ากูจำไม่ผิด แอบไปซื้อจากเว็บอื่นด้วยหรือเปล่าไม่รู้ แต่กูว่ากระแสวายมันกำลังมาจริงๆแหละ ถ้าคงกระแสงี้ไปได้อีกซักห้าปี ไอพวกผู้หญิงวัยรุ่นก็จะโตเป็นวัยทำงาน แล้วถ้าได้อีกสิบปีมันก็จะเริ่มกลายเป็นวัยที่ซื้อไม่ยั้งละ กูว่าตอนนี้มันเป็นช่วงเพิ่งเริ่มเองแหละสำหรับสายวาย ต้องดูว่ามันจะไปต่อได้ถึงขนาดไหนว่ะ เพราะเด็กวัยรุ่นเดี๋ยวนี้พอเริ่มเล่นโซเชียลก็แทบไม่อ่านชญกันเลยอ่านแต่วาย กระแสมันพาไปอ่ะ ตลาดฝั่งนี้ยังโตได้อีกเยอะ หรือวันนึงจะหายไปเหมือนนิยายแจ่มใสลูกกวาดเลยก็ไม่มีใครรู้
วายจีนแค่เรื่องมันยังใหม่เยอะอยู่ กูหมายถึงแนวถึงสไตล์น่ะ อย่างที่มึงบอก >>866 พออายุเยอะขึ้นมันก็จะเหมือนกูตอนเด็กที่อ่านชญ/จีนแปล กูเลือกแค่เรื่องที่ชอบอยู่ดี ไม่ได้ซื้อดะเหมือนสมัยเด็ก ตอนนั้นออกอะไรมาก็ซื้อๆ แต่พอมันอิ่มตัว ชญแปลมันพ้นยัคอิ่มตัวมาพักหนึ่งแล้ว เนื้อเรื่องก็วนเวียนกันแต่แบบเดิมๆ มันก็ต้องคัดบ้างอะ กำลังซื้ออะมีแน่ แต่จะให้กว้านมาดองๆ ไว้ ไม่ตรงจริตกูก็ไม่เอา ตอนที่หันมาอ่านวายจีนเพราะพล็อตแปลก ปีสองปีแรกซื้อแทบทุกเรื่องอะ แต่พักหลังมันวนๆ จำเจ กำลังซื้อไม่ได้ลด แต่เรื่องไม่ได้ว้าวถึงขนาดต้องตามเก็บทุกเรื่อง ที่ยังตกกูได้ตอนนี้คือเรื่องที่ตรงจริตจริงๆ กับปกสวยสะดุดตาแบบต้องมี กูว่ากระแสวายมาไวไปไวอะ มันคนละตลาดกับชญจริงๆ ในฐานะที่กูอ่านทั้งคู่กูชอบความสบายใจในการซื้อฝั่งชญ มากกว่า ซื้อง่าย ไม่ต้องว้าวุ่นไม่ชอบใจเหมือนตลาดฝั่งวาย จะหาซื้อเมื่อไรก็ซื้อได้ ในขณะที่วายต้องตามตั้งแต่รอบพรี เปิดเรื่องมายังไม่ทันลงตย. รายละเอียดพรีก็มาแล้ว ยิ่งเจอสนพ.ไหนเปลี่ยนรายละเอียดพรีไปมา/ชื่อเสียงไม่ดี/แปลห่วย คือกูทิ้งเลย ขี้เกียจตาม (อาจจะเพราะความรำคาญส่วนหนึ่งของตัวเองด้วย เรื่องเยอะ = ทิ้ง)
กูว่านิยายวายมันก็มีหลาย genre แยกย่อยอะ นิยายวายน่าจะยังอยู่อีกยาว แต่แนวที่ฮิตคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อีกสิบปีข้างหน้าจีนโบอาจจะเลิกฮิต แล้วไปฮิตวายแนวอื่นแทน แนวมหาลัยอาจจะกลับมาอีกก็ได้ หรืออาจจะไปฮิตวายเกาหลีกันแทนก็ได้ หรือวันนึงแนวแฟนตาซีอาจจะบูมขึ้นมาดื้อๆก็ได้ เทรนด์หนังสือมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆอยู่แล้ว
กูรอเทรนด์แฟนตาซีกลับมาฮิตใหม่เนี่ย คิดถึงยุครุ่งเรือง ไม่ต้องวายก็ได้ T T
จะว่าไปสาววายมันก็มีนิสัยนักฉอดมานายแล้วนะ สตม.ชื่อดังก็เคยทะเลาะกับเพื่อนเพราะสาววายนี่แหละ
>>866 ส่วนตัวกูคิดว่า ตลาดวัยรุ่นถึงจะโตไปเป็นวัยทำงานน่าจะเปลี่ยนไวนะกูว่า เพราะมันมีสื่อบันเทิงอื่นเยอะ ความรอยัลตี้ในการซื้อนิยายไม่ค่อยสูง ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าในอนาคตยังจะอ่านต่อไปไหม แล้วค่าครองชีพสูงยังพุ่งสูงไม่หยุดส่วนทางกับเงินเดือนของเด็กจบใหม่สิ่งที่ต้องตัดออกก่อนก็คือสินค้าที่ไม่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน นิยายนี่ไปก่อนอย่างแรกเลย ยิ่งราคานิยายมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นอีก แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าห้าปีแล้วมันใหญ่มากกว่านี้กูก็ดีใจที่จะได้มีเรื่องใหม่เยอะๆเข้ามาให้กูอ่าน ก็ขอให้มันครองตลาดได้ในระยะยาวอย่างที่มึงบอก
อีกเรื่อง กูสงสัยมานานล่ะ ในจิ้งเจียนนี่ดูได้ทุกเรื่องเลยไหมว่าเรื่องไหนโดนที่ไหนซื้อมา แล้วเช็คยังไงถ้าดูได้ทุกเรื่อง กูเจอเเบบที่เช็คได้แค่ล่าสุดถึงย้อนได้เเค่ปีครึ่งเอง ถ้ามึงบอกได้ช่วงบอกหน่อย
สาววายแม่งโดนดูถูกว่าเป็นประเภทเดียวกันกับเฟมทวิตนี่แหละ ฉอดเก่งปสดกันทั้งนั้น สมัยก่อนโดนมองว่าเป็นประเภทเดียวกับติ่งเกาหลีด้วย ไม่ว่าวายแนวไหนจะดังยังไงมึงก็ต้องเจอความปสดในรูปแบบต่างกัน
ช่วงนี้วายจีนรับกรรมไปว่าเป็นด้อมปสด แต่ถ้าวายแนวอื่นดังบ้างก็เป็นแบบวายจีนแหละ ผู้หญิงแมร่งเรื่องเยอะอะมึง ยิ่งสาววายส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นท่องโลกโซเชียลอีก ว้าว
ม.ปลายน่าจะน้อยนะ เห็นตามกรุ๊ปนิยายวายพวกที่มาคุยๆกันก็มหาลัยขึ้นไปทั้งนั้น ป้าๆวัย 30-40+ก็พบเจอได้ง่ายกว่าม.ปลาย
กูว่าม.ปลายเยอะอยู่นะ เวลาไปงานหนังสืองี้ก็เห็นม.ปลายซื้ออยู่ตามบูธวาย ในนกฟ้าคนไหนที่ดูโตดูมหาลัยสรุปเตรียมสอบเข้ามหาลัยอยู่ก็มีนะ เด็กตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่เร็วขึ้นเยอะเลย ที่สำคัญกูแอบรู้สึกอย่างหนึ่งคือวายมันมาแทนแจ่มใสลูกกวาดอ่ะ
น้องกูอยู่ม.ปลาย มันบอกส่วนใหญ่เพื่อนมันชอบอ่านฟิคมากกว่าว่ะ คนอ่านฟิคแชทเยอะกว่าฟิคบรรยายด้วย
kyนิดนึงได้มั้ยวะ พวกเพจหรือช่องรีวิวที่ทำรีวิวนิยายวายเยอะมากๆนี่เขารีวิวเองหมดหรือรับเงินด้วยวะ กูเห็นเพื่อนแชร์มาบ่อยมาก บางอันก็ก๊อปโพสเก่ามาแปะ กูอยากรู้ว่าถ้าโนเนมจะไปขอให้เขารีวิวให้นี่ต้องจ่ายปะวะ
มึง กระทู้โม่เซียงหายไปไหนวะ??????
แล้วไม่ตั้งเหรอ กูว่าช่วงนี้ยิ่งน่าตั้งเลยนะ นิยายเทียนกวานออกแล้ว ซีรีส์ก็เพิ่งเริ่มถ่าย ดูมีอะไรให้คุยเยอะออก
หลังๆมู้โม่เซียงมีแต่นินทาคนในด้อมด้วย โม่งสปอยก็หายไปเลย คนในมู้เลยเบื่อๆไม่อยากตั้งกันมั้ง
มีแต่ด่าคนนู้นคนนี้ กูก็ไถผ่านๆ
ทำไมกระทู้มันหายไปจากหน้าบอร์ดเลยอะ กูต้องไปกูเกิ้ลว่า fanboi โม่เซียง ถึงจะเจอ
KY มีใครสั่งราชันย์ในม่านอัสดงกับ มนว บ้างวะ มันคืบหน้าบ้างยังวะ กูเพิ่งนึกออกว่าสั่งไว้แต่เหมือนจะยังไม่รู้ความคืบหน้าอะไรเลย แม่ง มนวเล่นแบบนี้อีกแล้ว
Ky ถามในนี้หน่อย กูอยากรู้ความคิดเห็นของพวกมึงกับนายทุนแห่งวงการสิ่งพิมพ์ว่าที่มันเป็นอยู่นี่ถือเป็นการผูกขาดตลาดและเป็นเรื่องแย่ในสายตาพวกมึงไหม
>>894 ตลาดหนังสือทุกวันนี้กูว่าเสรีมากแล้ว เมื่อวานยังมีสนพเปิดใหม่ให้พวกเมิงหลอนอยู่เลย ส่วนเปิดใหม่แล้วเจ๊งนี่กูมองว่าเป็นเรื่องของการบริหาร การจับตลาด การหาจุดยืนตัวเองในตลาด
ตลาดผูกขาดเห็นชัดๆคือพวกสนามบิน พวกที่ต้องขออนุญาตแล้วได้สัมปทานมาทำคนเดียวไม่มีคู่แข่ง ส่วนสนพมันคือเรื่องของลิขสิทธิที่ซื้อมา “มีสิทธิตีพิมพ์ได้คนเดียว” ถ้าตีพิมพ์ได้หลายคนนั้นยุคการ์ตูนไพเรท
>>897 เสรีแต่เจ้าเล็กจะเอาอะไรไปประมูลลิขสิทธิ์สู้เจ้าใหญ่ได้ สุดท้ายเจ้าใหญ่ก็ชนะได้เรื่องดังๆไป เจ้าเล็กทำเรื่องไม่ดังก็ตายกันหมด แต่มีนายทุนทำหนังสือให้อ่านก็ยังดีกว่าให้วงการมันตายไปทั้งหมดนะ ไม่ได้จะบอกว่าเป็นเรื่องดีที่ควรชื่นชม แต่ในฐานะคนอ่านแล้ว ยังมีสำนักพิมพ์ทำหนังสือมาให้อ่านมันก็ดีกว่าไม่มีเลย
>>899 กูไม่ได้พูดถึงแค่นิยายแปลนะ ค่ายก็ต้องหาจุดยืนให้ตัวเอง อย่างค่ายที่ออกตัวว่าขายแต่ยั่วเย ค่ายที่เน้นปกสวยเนื้อในห่วย(เดี๋ยวนี้เริ่มดีขึ้น)
พวกนิยายแปลก็เหมือนกัน นิยายจีนมีเป็นล้านเรื่อง งบน้อยบก.ก็ไปงมหาเพชรเอา นักรีวิวมีเยอะแยะเมิงจะลอกการบ้านเขาแล้วซื้อมาขายก็ยังได้ ไม่ใช่หวังจะว่าจะซื้อนิยายดังระดับแม่โม่ในราคาถูกๆมาขายแล้วรวยในพริบตา
สิ่งที่เมิงคิดว่าเป็นการผูกขาดหนังสือในวงการหนังสือมันคือการซื้อลิขสิทธิ เมิงอยากจะกลับไปยุคไพเรทหรอวะ
>>896 เรื่องผูกขาดลิขสิทธิ์กูไปเจอมาในนกฟ้า
สต กูไม่เห็นด้วยที่ไปว่ามันผูดขาดตลาดโดนอ้างเรื่องนั้นหนึ่งคือจะทำอะไรต้องใช้ทุนต้องมีเงินอยู่แล้ว การที่มันจะซื้อมาก็เป็นสิทธิของมัน ไม่ได้ทำการกุศลนิและการกว้านเเห่ซื้อของมันก็ไม่ได้ส่งผลที่ทำให้รายเล็กรายย่อยไม่ได้เกิดเลย วงการไหนๆมันก็ต้องมีต้นไม้ใหญ่อยู่ในวงการอยู่แล้ว แต่คนจะมาเป็นคู่แข่งให้ใหญ่ได้เท่าอ.ในไทยมันไม่มีเพราะวงการสิ่งพิมพ์ในไทยมันไม่ใหญ่กำไรน้อยอาจจะล้ม Disrupt จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ไงมันเลยไม่มาลงทุนในด้านนี้กัน อีกอย่างอ.ไม่ได้มีอำนาจผูกขาดด้านราคาและหนังสือไม่ได้เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต้องซื้อประจำ ลูกค้ามีสิทธเลือกว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ กูเลยคิดว่าการที่มันกว้านซื้อทำให้เรามีหนังสืออ่านมากขึ้น ทำให้วงการหนังสือมันยังไปได้อยู่ มีคู่แข่งมีปลาเล็กปลาน้อยผุดใหม่มาขอแบ่งส่วนตลาดได้ทุกวัน มันไม่แย่และการที่มันทุนหนาทำให้เราได้อ่านหลายๆเรื่องที่ถ้าไม่มีมันมีแต่รายย่อยเราไม่น่าได้อ่านเนื่องจากค่า LC ที่สูงและมีหนังสือออกใหม่ให้อ่านตลอดๆขนาดนี้
การมีมันก็ช่วยทำให้วงการหนังสือไปต่อได้อยู่อ่ะ จะหาว่ากูเป็นสาริ่มมันก็ได้ แต่กูมองว่ายังไงก็ต้องมีมันอยู่และก็ยังดีที่มันยังทำอยู่ คนอ่านหนังสือคนเข้าร้านก็น้อยลงทุกวัน ไม่เหมือนสมัยก่อน สื่อบรรเทิงมันเยอะ มีตัวเลือกอื่นนอกจากหนังสืออีกมาก กูดูจากงบมัน สองปีนี้มันกำไรหายไปเยอะ เหมือนทำเล่นๆเลย ที่มันอยู่ได้นี่เพราะกำไรจากตัวอื่นแท้ๆไม่ใช่ตัวแม่อ่ะ
>>900 แต่คนอ่านก็เลือกจะอ่านงานนักเขียนดังๆก่อนอยู่ดีรึเปล่า ยิ่งแห่ทำวายจีนกันเยอะๆ คนอ่านก็ยิ่งเลือกกันมากขึ้น ซึ่งเรื่องดังๆที่ค่าลิขสิทธิ์แพงมันก็ดึงนักอ่านได้มากกว่าอยู่แล้วเพราะเป็นงานนักเขียนดัง+มีซีรีส์หรืออนิเมะ
กูเข้าใจพอยท์พวกมึงที่เข้าข้างอมรนะ แต่การมีเจ้าใหญ่คอยกว้านซื้อเรื่องดังไปหมดมันก็ไม่ใช่เรื่องดีที่น่าชื่นชมอ่ะ
>>903 กูเข้าใจๆ กูว่ามันดีที่มีสนพ.ซื้อลิขสิทธิ์มาทำขายเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ให้ไอ้พวกแปลเถื่อนมันไปละเมิดเขาอย่างเดียว
แต่กูว่าโมเดลอมรตอนนี้มันคล้ายๆสีพีตรงที่นักเขียนไหนเริ่มดัง มันก็ไปซื้องานเขามา ทั้งๆที่เรื่องก่อนๆมันดังมาจากสนพ.อื่นอ่ะ จริงอยู่ที่สนพ.ไม่มีผูกขาดสิทธิ์เหนือนิยายของนักเขียนคนใดคนนึง แต่อมรมันเหมือนเอาเงินฟาดๆๆ มาทีหลังแต่รวยกว่า ต่อให้ค่ายเดิมอยากทำงานของนักเขียนคนเดิมต่อ แต่เงินสู้ไม่ได้ก็จบ
>>904 ถ้าอยากให้ผูกกับสนพเดิม สนพก็ต้องทำตัวเป็นป้าหลินเปล่าวะ ได้ป้ายน้ำลายแปะไว้ตั้งแต่ยังไม่เขียน คนเขียนยื่นแก้มให้ป้ายแบบเต็มใจ
ถ้าทำกับเขาแบบคู่ธุรกิจ เขาก็ปฏิบัติกับสนพแบบคู่ธุรกิจแหละ ไม่ใช่ลูกใช่เพื่อนที่จะมาอุ้มชูกัน ฝั่งจีนมันก็ทุนนิยม ใครให้เยอะกว่าก็ขายให้คนนั้น ของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดัง
คสพแบบนี้ฝั่งการ์ตูนญปมีอยู่นะ ค่ายเต่าขายให้วบก ค่ายเดียว แต่มันก็ระบบอุปถัมป์ป่ะ จะหนีจากนายทุนไปหาระบบอุปถัมป์ หนีจากการซื้อลขไปไพเรท?
>>904 มึงมั่นใจได้เเค่ไหนว่ามันไปซื้อที่หลังตามเรื่องอื่นที่ออก มันอาจจะซื้อมาก่อนแล้วออกมาที่หลัง กระบวกการเสนอแอลซี ทำสัญญา ซื้อ แปลเป็นเล่มมะนใช้รัยะเวลาอยู่นะ จะแน่ใจได้ยังไงว่าเรื่องนั้นนข.คนนี้ขายได้มันเลยไปซื้อตาม กูว่าเรื่องซื้อแอลซีของนักเขียนจีนที่ดังในไทยไม่ใช่เเค่มันที่ทำ เจ้าอื่นก็ทำ เป็นปกติในวงการค้าอยู่แล้วที่ต้องมีการเสนอซื้อขาย แล้วการที่มึงอยากให้นข.คนเดิมออกกับสนพ.เดิมไปตลอดนี่ไม่ถือว่าเป็นการผูกขาดนข.หรอไม่ใช่ก็ได้ โมเดลมันไม่เหมือนสีพีและไม่มีทางทำได้เท่าสีพี ที่สีพีที่ทำแล้วโดนด่าคือมันทำให้เจ้าอื่นเจ๋งไปเลย ทำทุกอยาก และเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน แต่อ.นี่ไม่มีวันไปถึงและกินรวบทั้งตลาดได้
>>904 กูว่าตอนนี้อาการยังไม่น่าเป็นห่วงเหมือน cp เพราะกูรู้สึกว่า กุหลาบของค่ายอมร มันไม่ใช่เจ้าเดียวที่เป็นเจ้าใหญ่
เพราะ ซบ เองก็เพิ่งประกาศลิขสิทธิ์เหมือนกัน
กูว่าต้องดูระยะยาวอะ ถ้า 1-2 ปีผ่านไป รายเล็กๆคงค่อยๆหาย แล้วเราจะเห็นชัดขึ้นว่าค่ายไหนบ้าง เป็นค่ายใหญ่
ยอมรับว่านายทุนเป็นนายทุนมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่นะ ยอมรับกันหน่อยก็ได้
ถ้าไม่อยากให้รายใหญ่เติบโต
นักอ่านต้องช่วยกันซื้อนิยายสนุกๆที่ค่ายเล็กๆผลิตออกมาด้วย
กูรู้สึกว่าช่วงนี้ นักอ่านเองก็แห่กันซื้อนิยายของค่ายใหญ่กันเยอะ
นิยายของค่ายเล็กๆดูเหงาๆ
กูว่าธุรกิจหนังสือมันไม่เหมือนอย่างอื่นตรงที่ผู้บริโภคจะซื้อเรื่องที่อยากอ่านอ่ะ ตราบใดที่มันไม่ใช่หนังสือหมดลิขสิทธิ์แล้ว มันก็จะไม่มีคนแปลเรื่องเดียวกันหลายๆเวอร์ชั่นมาให้เลือก ถ้ามึงอยากอ่านเทียนกวานมึงก็ต้องซื้อกับซบ มึงอยากอ่านฮัสกี้ก็ต้องซื้อกับกุหลาบ มึงเลือกได้แค่จะซื้อหรือไม่ซื้อ ถึงจะบอกให้ไปสนับสนุนค่ายเล็กบ้าง ไม่ใช่สักแต่จะซื้อค่ายใหญ่ แต่สุดท้ายผู้บริโภคก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังพอจะเปย์กันทั้งวงการไง เรื่องนึงก็หลักพันแล้ว คนซื้อก็ซื้อเฉพาะเรื่องที่ตัวเองอยากอ่านนั่นแหละ ทีนี้ไอ้พวกเรื่องที่คนอยากอ่านมันมักจะเป็นเรื่องดัง เรื่องฮิต เรื่องค่าตัวแพง ซึ่งค่ายใหญ่มันจะได้เปรียบในการบิทแอลซีเรื่องพวกนี้มากกว่า เพราะทุนมันหนากว่า ต่อให้ค่ายเล็กมันไปงมเพชรน้ำงามมาได้ แต่ดันเป็นนักเขียนโนเนม คนมันก็ไม่รู้จักหรอกมึง ยกเว้นจะฟลุ๊กเกิดกระแสปากต่อปากขึ้นมา ทุกวันนี้เรื่องที่ออกกับค่ายใหญ่ก็ใช่จะขายดีทุกเรื่อง แต่ค่ายใหญ่มันขาดทุนกับบางเรื่องได้ไง ค่ายเล็กมันแบกภาระตรงนี้ลำบากกว่า สุดท้ายมันเลยมีค่ายเล็กๆที่เปิดใหม่มาพิมพ์ได้ไม่กี่เรื่องก็ตายกันไปหมด เพราะมันสู้ค่ายใหญ่ไม่ได้ ค่ายใหญ่ได้เปรียบกว่าก็ต้องยอมรับตรงนี้อะ มันไม่ใช่การแข่งขันกันแบบที่ทุกค่ายเท่าเทียมกันมาแต่แรกแล้ว แต่มันก็เป็นแบบนี้ทุกวงการไง
เพิ่มเติมอีกนิด อมรมันคือนายทุนจริงๆมึง มึงแย้งตรงนี้ไม่ได้หรอกเพราะมันเป็น fact มึงต้องยอมรับก่อนว่ามันคือนายทุน แต่นายทุนมีข้อดีข้อเสียยังไงมันถกกันได้เว้ย
>>911 เห็นด้วยตรงจุดนี้ แต่มันแก้ไขยาก เพราะมันเป็นความจริงที่แก้ไขไม่ได้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
ถ้าอยากช่วย ก็ต้องหานักรีวิวนิยายดังๆ มาคอยรีวิวนิยายค่ายเล็กที่สนุกๆ ให้เกิดกระแส แล้วคนตามซื้อ
เหมือนกระทู้รีวิวหนัง ในเฉลิมไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้วอะ
ทุกวันนี้คนมันแห่ซื้อเรื่องดังๆหมด เรื่องที่ไม่ค่อยดัง คนรีวิวไม่เยอะ คนก็ไม่รู้จัก ไม่ซื้อ
กูว่า อมร ก็ยังไม่ถึงขั้นครองตลาดขนาดนั้นนะ
ยังมี ซบ คอยแย่งซื้อลิขสิทธิ์อยู่อีก
มันคือการซื้อลขเว้ย ตอนแรกก็ว่าผูกขาด พอผูกขาดโดนปัดตกก็ว่านายทุน พวกเมิงเป็นไรกัน จะยัดความผิดให้ได้สักอย่างเลยเหรอ
ป้าหลินงี้ก็เคยเจ้าเล็กแบบเล็กชิบหาย นางยังป้ายน้ำลายนขดังได้เลย เจ้าเล็กก็มีทางของเจ้าเล็ก สักวันมันก็โต
ค่ายเล็กที่ไม่เจ๊งก็มี เมิงไปดูแนวทางเขาสิวะ ค่ายเล็กที่เมิงด่าๆกันสองสามปีก่อน ตอนนี้กูเห็นบางเรื่องพิมพ์2-3พัน ยังเล็กอยู่ไหม ก่อนค่ายใหญ่มันจะโตมาได้ถึงทุกวันนี้มันก็เคยเป็นค่ายเล็กมาก่อนทั้งนั้น เพื่อนรุ่นเดียวกันเจ๊งไปเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ มันเอาตัวรอดมาได้ยังโดนพวกเมิงหมายหัวอีก
รายย่อยเสียเปรียบรายใหญ่อยู่แล้ว ตามหลักความเป็นจริง
เพียงแต่กูเฉยๆกับอมร กูเลยไม่รู้สึกอะไรกับการที่อมรซื้อลิขสิทธิ์มาได้
ประเด็นคือ คนที่รู้สึกไม่ชอบที่รายใหญ่อย่างอมรกว้านซื้อลิขสิทธิ์นิยายดังเนี่ย
เพราะไม่ชอบอมรเหรอ เลยไม่ชอบใจ?
ถ้าสนพเล็กได้ลิขสิทธิ์แทน จะดีใจกว่ารึเปล่า หรือยังไง
กูเฉยๆเรื่องข่าวประกาศลข เพราะกูไม่ได้ไม่ชอบอมร อะ
ไบแอสคนอ่านส่วนใหญ่มันไม่ได้มาจากการเป็นนายทุนหรือเป็นเจ้าใหญ่เจ้าเล็กหรอก มันมาจากคุณภาพล้วนๆ
ถ้าไม่อยากอุดหนุนสนพไทยเพราะคุณภาพห่วย มีวิธีเดียวเลยคือ เรียนภาษาต่างประเทศ
กูขอนิดนึง กูตกใจมากที่มีโม่งคิดว่า อมร=สีพี กูพึ่งรู้ว่ามีคนคิดแบบนี้ด้วย กูไม่ได้จะด่ามึงนะ กูอยากอธิบายกับมึงเพิ่มเฉยๆ สิ่งที่สีพีทำคือพยายามกินปลาให้หมดทั้งตลาด ทำเรื่องผิดจรรยาบรรณ มันเเย่ แต่สิ่งที่มึงกำลังคิดว่าอมรจะเป็นแบบนั้นมันคนล่ะแบบเลย หนึ่ง มึงไม่สามารถตัดสินได้ว่างานของคนที่ออกหลังคือไปซื้อตามหรือตัดหน้าคนอื่นนอกจากมึงจะทำงานอยู่ในสนพส่วนที่เกี่ยวข้อง เราไม่มีทางรู้ว่าเรื่องไหนซื้อก่อนแน่ๆ สอง สิ่งที่มึงคิดว่าเขาแย่งมามันคือการเเข่งขัน มันต้องเกิดการเเข่งขันมันถึงพัฒนาไปเรื่อย ถ้ามึงอยากให้ที่เดียวได้ไปหมดทุกเรื่อง มันจะเกิดการผูกขาด มึงต้องรองานจากที่เดียวไปเรื่อยๆ ไม่มีการเเข่งขัน คุณภาพก็จะคงที่หรือต่ำลงเพราะไม่มีการเปรียบเทียบซึ่งกูคิดว่าไม่ส่งผลดีต่อผู้บริโภคเลย ถ้าบอกว่าอมร.เหมือนสีพีตรงจุดนี้ กูว่าไม่เหมือน เราไม่สามารถใช้นิยายเรื่องหนึ่งทดแทนอีกเรื่องได้ ถึงนางจะได้อีกเรื่องที่นักเขียนคนเดียวกับอีกสนพก็ไม่ใช่ว่าเล่มนี้จะเป็นสินค้าทดเเทนของผู้บริโภคจนคนไม่ซื้อรายย่อยได้
หรือจะเพราะมันออกแต่เรื่องดังคนเลยเทไปซื้อแต่ค่ายมัน อันนี้ไม่ปฏิเสธแต่มันก็คือธุรกิจไม่ได้เป็นแค่เฉพาะตลาดนี้ อย่างงี้สมัยก่อนจส.ออกนิยายลูกกวาดมีแต่คนซื้อจส. บูธแน่นไม่อยากเดินผ่าน อันนี้ถือว่าจสมันแย่ไหมที่มันบังคับให้คนซื้อแต่มัน คนอื่นเขาไปแทรกตลาดแทบไม่ได้ กูว่าอีกอย่างมันเป็นเรื่องของความไว้ใจและความรอยัลตี้ของเเบรนที่สั่งสมมาด้วย
กูเข้าใจว่าหลายไม่พอใจเพราะคุณภาพนิยายมัน เลยเอาเรื่องที่มันเป็นนายทุนใหญ่มาจี้ แต่รายย่อยคุณภาพนิยายก็ไม่ได้ดีเหมือนกัน กูก็เห็นตกสระ หน้าตก เลื่อนจำหน่าย ทำบ็อกผิดขนาด บลาๆ อย่างอื่นที่คนไม่ขุดอีก คงเพราะคนซื้อมันเยอะทั้งฐานลูกค้าที่ตามด่าเลยเยอะกว่าที่อื่น
>>927 กูว่ามันไม่เหมือน สีพี มันจะไปเหมือนสนพการ์ตูนแทน ที่สมัยก่อนมีค่ายใหญ่อยู่ 3 ค่ายอะ วบก นช สยม
การ์ตูนญี่ปุ่นส่วนมาก ลขมันก็ไปวนเวียนแต่ใน 3 ค่ายนั้น ซึ่งก็ถูกใจ ไม่ถูกใจนักอ่านบ้าง ก็ได้แต่ทำใจ
ผู้บริโภคตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว นอกเสียใจเรียนภาษาต้นฉบับ แล้วไปซื้อต้นฉบับมาอ่านเอง
แต่อมรก็ของเจ้าสัวไม่ใช่เหรอ แค่ไม่ใช่เจ้าสัวสีพี ไม่นับเป็นหนึ่งในธุรกิจของนายทุนเหรอ? แบบ one of ธุรกิจของนายทุนอะ อันนี้ถามแบบคนไม่รู้เลยนะ
>>929 กูเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าเป็นของเจ้าสัว ความรู้ใหม่เลย
แต่ถึงจะเป็นของเจ้าสัว หรือไม่เป็นของเจ้าสัว อมร มันก็จะไม่ผูกขาดตลาดแต่เพียงผู้เดียวเหมือน 711 แน่ๆ
มันก็เหมือนค่ายทรูปะ ทรูก็ของเจ้าสัว แต่ทรูก็ผูกขาดตลาดมือถือไม่ได้นะ ทำได้แค่เป็นส่วนหนึ่งของ 3 ค่ายใหญ่
กูว่า อมร ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของค่ายใหญ่ แต่ไม่ใช่ค่ายใหญ่ค่ายเดียวที่ครองตลาด
และถึงแม้อนาคต ถ้า ถ้า ถ้า ถ้าอมรครองตลาดได้จริง
นักอ่านตัวเล็กๆก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี วิธีแก้คือ 1 รับได้ก็ซื้อ 2 รับไม่ได้ก็ไม่ซื้อ 3 เรียนภาษาจีนแล้วไปซื้อต้นฉบับ
คือกูงงว่า ถ้ามันเป็นธุรกิจของเจ้าสัว แล้วปัญหาคืออะไร
ปัญหาคือมันจะทุ่มตลาด ครองตลาดเจ้าเดียว แล้วทำให้เจ้าอื่นเจ๊ง เพราะมันเป็นเจ้าสัวเหรอ
กูว่าโอกาสเกิดน้อยมาก เพราะธุรกิจอื่นก็มีเจ้าสัว แต่เจ้าสัวก็ไม่ได้ครองตลาดทั้งหมด มันจะมีราย 2 ราย 3 ที่ขึ้นมาใกล้เคียงเสมอ (ยกเว้น สีพี)
ปัญหาคือปลาใหญ่กินปลาเล็ก? ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นเป็นเจ้าตลาด แต่สักวันเจ้าเล็กที่สู้ไม่ได้ก็จะตายกันไปหมด?
>>935 จะด่าสีพีเต็มปากก็ไม่ได้อีก แม่งกฎหมายเอื้อนายทุนอะ ควรมีกฎหมายควบคุมไม่ให้แกผูกขาดทางการค้านะ
.
.
ซึ่งตามกฎหมายแข่งขันเยอรมนีกำหนดไม่ให้มีส่วนแบ่งตลาดเกิน 30% หรือแม้แต่คณะกรรมการแข่งขันในสหรัฐก็กำหนดให้ต้องปรับโครงสร้างของกิจการก่อน ป้องกันการผูกขาด แต่ไทยปล่อยให้บริษัทใหญ่มีอำนาจครอบครองตลาดตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง มีส่วนแบ่งในตลาดสูงกว่า 50% โดยไม่ได้มีเงื่อนไขให้ปรับโครงสร้างกิจการ
>>937 สีพีมันเก่งจริง ต้องยอมมัน ธุรกิจอื่นมี เบอร์ 1 เบอร์ 2 เบอร์ 3 นะ แต่สีพี กูเห็นมีเบอร์เดียว
>>936 มึงอาจจะกลัวแบบนั้น แต่กูยังไม่กลัว เพราะกูไม่ได้รู้สึกว่า อมร มันใหญ่เกินหน้าสนพอื่นไปมาก ทุกวันนี้กูยังเห็นคนซื้อนิยาย ซบ ด่า อมร อยู่เลย
กูเลยคิดว่า อนาคต อมร จะไม่ผูกขาดตลาดเจ้าเดียวเหมือน สีพี แต่สิ่งที่กูคิดคือ เจ้าเล็กๆจะตายไป เหลือแต่เจ้าใหญ่ๆ แต่เจ้าใหญ่ๆที่เหลือ มันอาจจะไม่ได้เหลือ อมร แค่เจ้าเดียว มันคงมีเจ้าใหญ่เจ้าอื่นด้วย
กูอยากเห็นสีพีลงมาทำหนังสือเหมือนกันนะ สะเทือนวงการ ท้าทายอุดมการณ์ผู้บริโภคสัสๆ 555555 แต่คงไม่ได้เห็นหรอก ธุรกิจหนังสือมันไม่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเท่าอย่างอื่นที่สีพีทำอยู่ สีพีคงไม่สนใจ
ถ้าใครกลัวอมรจะกินเรียบกูว่าระหว่างอมรกินทั้งวงการกับธุรกิจหนังสือตายกูว่าโอกาสอย่างหลังเกิดก่อน
>>939 เห็นมันใหญ่ขนาดนี้ แต่มันงกกับผู้ถือหุ้นมากนะ หุ้นสีพีไม่ค่อยขึ้นเลย กูเป็นโม่งเล่นหุ้นที่อ่านวายจีน
ที่กูพล่ามๆมาเนี่ย คือเอาความรู้ด้านหุ้นมาพล่าม ซึ่งบางคนก็อาจจะไม่เห็นด้วย
แต่ธุรกิจโดยทั่วไป มันจะมีเจ้าตลาด 2-3 เจ้าแข่งกันเสมอ
เช่น แบงค์ มี 3 แบงค์ใหญ่ = กสก ทพณ กทม
สื่อสาร มี 3 เจ้า = ออส ทร ดท
น้ำมัน+พลาสติก มี 2 เจ้า = ปตท อซจ
รพ มี 2-3 เจ้าใหญ่ = บดอส บฮ
คมนาคม มี 2 เจ้าใหญ่ = บทอ บออ
และอีกมากมาย
เพราะงั้นกูมองว่า มันเป็นเรื่องปกติ ที่สนพเล็กๆจะตายไปในที่สุด มันจะเหลือแต่เจ้าใหญ่ๆ แต่มันจะไม่ได้เหลือเจ้าเดียว
ให้กูเดา อนาคตข้างหน้า มี 2 สนพที่รอดแน่ๆแหละในตอนนี้คือ อมร ซบ มึงอยากให้สนพที่ไหนรอดอีก ก็เติมเอาเอง แต่ความคิดกูคือมันจะไม่เหลือเจ้าเดียว
ผู้บริโภค ทำได้แค่ทำใจยอมรับ ธรรมชาติของธุรกิจมันเป็นแบบนี้
แทบไม่มีวงการไหนที่หนีนายทุนได้หรอก โลกไม่ได้อุดมคติในแบบนั้นเลย ไม่มีสักวงการ สักที่ในโลกหรอก ideal สุดๆอะ ค่ายนายทุนสายป่านยาว ในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ถูไถไปมันก็อยู่รอด ค่ายเล็กโอกาสเฮงยาก แต่ถ้าเฮงแล้วก็พุ่งทะยานอะ ไม่ต้องดูจากที่ไหน ซบ มาในเวลาที่เหมาะ การตลาดของเจ้านี้ลงมาเล่นถูกจุด พอกำไรเยอะก็สามารถไฟต์ลขเรื่องเด่นเรื่องดังมาได้ ก่อนหน้านั้นเล่นแค่ปกสวยเนื้อในแดรกจุดแทบทั้งนั้น หัวเลี้ยวหัวตอก็ผ่านมาแล้ว /// อีกเจ้าบกร.ได้เรื่องดังขนาดไหน ไม่ถูกใจแฟนด้อม…ก็ยังผ่านไปได้สวยๆ ขอแค่มีทุนหมุนเวียนยังไงก็ยังรอด เคยคุยกับคนในบกร.เขาบอกวายจีนแปลยังไงก็ขายได้ ‘ด้วยตัวมันเอง’ อยู่แล้ว ที่ทุนจมคือพวกนิยายไทย ต้องยอมรับจริงๆ ว่าวายแปลมันฮิตมาก ออกมายังไง เนื้อเรื่องจะดีแย่ขนาดไหน เล่นการตลาดถูกก็ยังมีคนซื้ออยู่ดี ยิ่งทำดีถูกใจก็ยิ่งเพิ่มรอยัลให้แบรนด์ตัวเอง ตอนนี้กูสะท้อนใจตัวเองมากกว่า กูชอบจส โตมากับนิยายลูกกวาดเลยแหละ กับแปลจีนมกร นิยายปกขาวสมัยอชลกูก็ติ่ง 555 พอเจอเคสไม่เอาวายแล้วมากลับลำทีหลังกูก็รู้แล้วว่าเขาต้องเพิ่มทางหากำไรให้ธุรกิจเขา แต่แปลจีนของอววถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับค่ายอื่นไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ที่เปิดตัวมาอะ สัดส่วนอววถือว่าไม่เยอะเลยนะ จะบอกว่าอววมาตราฐานสูง คัดเรื่องพิถีพิถันก็แปลกๆ เงินทุนเจ้านี้ก็ไม่น้อยนะ แต่นิยายไม่ค่อยดังเปรี้ยง แต่กูยังซื้อแปลจีนอววทุกเรื่อง กูเดนตายโทนการแปล/พิสูจน์อักษรของเจ้านี้ทั้งชญ ชช แม้ อวว จะเจอปัญหายิบย่อยแทบทุกเรื่องก็เถอะ 5555 แต่หลุมดำอววคือการ์เดี้ยน จนบัดนี้กูยังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่เลย
นายทุนก็ยังทำให้วงการรันได้ กูยอมรับว่ามันเอื้อประโยชน์ให้กับคนซื้อนิดๆด้วยซ้ำเพราะราคามันต่ำกว่าในการตีพิมพ์ 1 ครั้ง เจ้าเล็กพิมพ์น้อย 1 ผู้บริโภคต้องเอาเงินไปโปะให้สนพ.ก่อน 2 ต้องมาว้าวุ่นใจกับการจัดการ คนน้อย/เริ่มใหม่ ไม่ค่อยมีมาตราฐานการทำงาน การจัดการที่ดี ซื้อกับค่ายใหญ่ ค่ายนายทุนมันสบายใจกว่าในหลายจุดอะ ทั้งนี้กูไม่ชอบงานของอมร เลยทั้งแปลจีนชญ และวาย กูให้ผ่านแบบนับเรื่องได้อะ กูอ่านงานแปล กูอยากได้การแปลที่แปลรู้เรื่อง สละสลวย ค่ายเล็กเจ้าไหนแปลดีกูก็อุดหนุน ถ้าอยากให้ไปรอดจริงๆ อย่าทำอะไรฉาบฉวยเลย หลายเจ้าที่ไม่ได้ตายเพราะทุนน้อยค่ายเล็กหรอก แม่งตายเพราะปากต่อปากของนักอ่านด้วย แปลแย่ พิมพ์ผิด ยังเรียกตัวเองว่าทำงานเกี่ยวกับตัวอักษรได้อีกหรอวะ ต้องยอมรับอีกอย่างว่างานวายคุณภาพค่อนข้างสวนทางกับราคาอะ ไม่สมเหตุสมผลเท่าไร ไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
สรุปพ้อยด์กูเลย กูซื้อตามเนื้อผ้า ไม่ได้ดูว่าเจ้าไหนนายทุน นายทุนทำไม่ดีกูก็ไม่ซื้อ ทำดีกูก็ซื้อ ค่ายเล็กก็เหมือนกัน มีนายทุนคนเจ็บหนักคือปลาตัวน้อยอย่างที่พวกโม่งว่ากันแหละ หืดขึ้นคอกว่าในหลายๆ ด้าน มันคือการได้เปรียบ/เสียเปรียบอะ กูไม่ได้
งไปคลุกคลีในวงการธุรกิจ กูมองจากมุมมองของนักอ่าน ผู้บริโภค ถ้าในอีกบริบทที่กูอยู่ในวงการธุรกิจ มุมมองกูต่อนายทุนก็เปลี่ยนแน่ๆ
กุไม่เข้าใจที่พวกมึงเถียงกันเท่าไหร่ การที่เรื่องที่มันดังมันฮิตในบ้านเขาอยู่แล้วต้นทางเขาจะขายแพง จนมีแต่ทุนใหญ่ที่ซื้อได้มันก็ปกติไม่ใช่เหรอวะ ถ้าสนพ.เล็กมีทุนจะบิทสู้เพราะคิดว่าขายแล้วคุ้มมันก็ทำได้ ไม่ใช่ว่าอมรเอาอะไรไปบีบให้ขายลิขให้เฉพาะบริษัทกุบ.เดียว แล้วมันผูกขาดตรงไหนอ่ะ มันก็เรื่องของราคาป่าว
แล้วนิยายคือมันเยอะมากนะ บางเรื่องดังทางนู้นมาทางนี้ดับก็มี กูยังไม่รู้สึกว่ามันเป็นการผูกขาด แต่ความได้เปรียบทางความมีทุน มีเครือใหญ่ที่พร้อมซัพทั้งการขายและโปรโมทเป็นเรื่องจริง ซึ่งตลาดมันก็เป็นงี้อยู่แล้วอ่ะ
>>946 ก็เรื่องของราคาแหละ แต่ประเด็นคือรายใหญ่มันใช้เงินฟาดได้ง่ายกว่า ไม่ต้องกลัวขาดทุน อยากได้เรื่องไหนก็ชี้นิ้วเปย์เอาเลย ธุรกิจขาดทุนก็เอากำไรจากส่วนอื่นมาโปะเพราะมีบริษัทในเครือมากมาย รายเล็กจะเอาอะไรไปสู้ สุดท้ายรายเล็กตายหมด แต่ก็อย่างที่พูดๆกันมาข้างบน มันเป็นแบบนี้ทุกวงการอยู่แล้ว โลกทุนนิยมอ่านะ
บ่นเรื่องธุรกิจต่อ
กูเข้าใจว่าหลายคนไม่ชอบระบบนายทุน เพราะสีพีมันทำภาพลักษณ์เอาไว้ไม่ดี
และประเทศไทยก็มีปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำจริงๆ
แต่กูไม่คิดว่า ปัญหาเรื่องนายทุนครองตลาดแต่เพียงผู้เดียว มันจะไปเกิดกับวงการนิยายวายจีน
เพราะวงการนี้กำไรมันไม่ได้มากพอจะทำให้นายทุนผู้หิวเงินจะลงมาเล่นเต็มตัว
ถ้ากำไรมันดีจริง ป่านนี้นายทุนใหญ่ๆลงมาเล่นธุรกิจนิยายกันหมดแล้ว
เอาจริงๆนะมึง กูว่าถ้านิยายจีนมันฮิตและกำไรดีขนาดนั้น อีกหน่อยมึงอาจไม่ต้องแบนใครแล้ว รอให้ประชากรยุคอีบุคเฟื่องฟู กูว่าจีนจะมาจ้างคนแปลแล้วขายผ่านออนไลน์ให้มึงแทน ทีนี้ไม่ต้องมีไทยคนไหนกำไรแล้ว จ่ายตรงให้จีนหมดจบ
พูดถึง อมร มันเป็นยักษ์ใหญ่ครบวงจร น่าจะเจ้าเดียวที่ค่อนข้างมีบทบาทในตลาดปะ
ทั้งมีโรงพิมพ์ เป็นสนพ. และสายส่ง ซีเอ็ดก็เงียบ คิโนกับเอเชียบุ๊คก็นำเข้าหนังสือขายเฉยๆ (ไม่นับว่ามีธุรกิจช่องทีวีอีก)
กูเลยว่านอกจากจะเป็นนายทุนแล้ว เทียบสเกลกับสนพ. อื่นก็ค่อนข้างมีความมวยคนละรุ่นนิดนึง
แต่โอเค สนพ. ใหญ่ๆ รองลงมา เดี๋ยวนี้ก็น่าจะมีโรงพิมพ์ของตัวเองแล้วมั้ง แจ่ม ซบ. บกร เงี้ย
อมร. ก็ได้เปรียบหลายทางนะ สายป่านยาว จะไปซอยมากี่เรื่องก็ได้ ล่าสุดก็มีให้เปิดเสนอลิขสิทธิ์นี้
ก็น่าศึกษาเพิ่มนะ กูเชื่อว่ามีคนทำลิสต์แล้วด้วยซ้ำว่าหนังสือดังๆ ติดท๊อปแค่ในจินเจียงเนี่ยมีค่ายไหนได้ไปกี่เรื่องบ้าง
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไร
อมร. เองก็จัดพิมพ์ จัดส่ง กระจายของได้เองง่ายด้วย
อย่างซบ. ยังพยายามแก้เกมด้วยการเปิดให้ไปรับของที่สนพ. + จัดส่งไปรฯ
แต่อมร. สามารถกระจายออกทั่วกรุงและต่างจังหวัดให้ซื้อตามร้านของตัวเองได้เลย (ล่าช้าก็วันสองวัน)
อันนี้ก็ธุรกิจ กูอาจจะไม่ค่อยชอบใจ แต่ทำอะไรไม่ได้
ที่เกลียดมากกว่าคือรู้สึกนิยายวายแม่งไม่ค่อยมีมาตรฐาน มีความขาดๆ เกินๆ ไม่เรียบร้อย
เน้นขายอย่างเดียว แบบรีบๆ คุณภาพยังไม่ผ่าน ทั้งเรื่องการแปล บก.
หรืออย่างฮัสกี้ ดูมีหลายเคสที่หนังสือตก QC ด้วยซ้ำ แบบ ปั๋มฟอยล์ลอก ตกจากตัวนูนไปเป็นวาเงี้ย
ที่น่าสนใจและอาจจะเห็นชัดกว่าวายตอนนี้ คือการกระโดดเข้าตลาดใหม่ของฝั่งเกาหลี
ที่เปิดตัวหัวใหม่ พคล. สำหรับแปลเกาหลี ญี่ปุ่นกับไต้หวัน ซึ่งมีการออกตัวมาว่าเป็นสนพ. เล็กๆ กูขำ
แต่อมร. ซอยดกจาไปแล้ว ก็น่าจะเอามาออกกับหัว. นี้มะ
แถมเล่มที่ออกแล้วๆ มาก็มีความคล้ายบิบลิที่กรุยตลาดฝั่งนี้มาก่อน (ทั้งโทนการออกแบบปก ขนาดไซส์หนังสือ)
แต่ทั้งนี้ บิบลิก็คือนายทุนเจ้าใหญ่อีกคนที่กระโดดมาเล่นวงการหนังสือนะ 5555
อีกจุดที่ไม่ชอบคือการจัดโปรลดราคา 15-20 เปอทุกเดือนในเว็บด้วย
อันนี้คนในวงการเคยพูดๆ กันว่า ทางอมร./นอ. จัดโปรเองนะ
แต่มาหักคอให้สนพ. ต้องเป็นคนแบกรับ cost ตรงนี้ นอกเหนือจากหักค่าสายส่ง แถมส่งเงินสนพ. ช้าอีก
อันนี้ก็แล้วแต่คน แต่กูเลยพยายามไปซื้อตรงจากสนพ. หรือร้านนอกมากกว่า
เก็บโปรพวกนี้ไว้ซื้อแค่กับหนังสือในเครือนี้อย่างเดียว
ร้าน นอ เป็นของ อมร เหรอวะ
เห้ย กูเพิ่งรู้
>>957 กูว่าเรื่องเรื่องที่มาให้ลด 15-20% และให้สนพ.รับcost ต้องอยู่ในสัญญาฝากขายแล้วไหม ถ้าสนพรับไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝากร้านนอ.หรือบอกว่าไม่เข้าโปรลดก็ได้นิ กูก็เห็นสนพเล็กพึ่งเปิดก็ไม่เข้าโปรได้ เขาดูไม่ได้บังคับ ถ้าเลือกว่าจะเข้าโปรนี้ สนพก็ต้องยอมรับเรื่องเขาหักคอสกับตัวเองเพิ่มอยู่แล้ว เป็นค่าใช้จ่ายในการขายอย่างหนึ่ง กูมองว่ามันคือธุรกิจ เวลาหน้าหักค่าวาง สมมุตินิยายเล่มล่ะ 100 นายหักไป 50 ก็ไม่ได้หมายความว่านอได้กำไร 50 เลย มันยังมีต้นทุนอื่นๆอีกนะ ร้านนางที่แล้วที่ยังเป็นร้านใหญ่ไม่กี่ร้านที่ยังอยู่รอด (อันนี้เห็นชัดเลยว่าธุรกิจนี้กำลังเป็นไง) ว่าแต่ พคลคือหัวไหนอ่ะ
อมก คุยกับพวกมึงแล้วเปิดโลกกูมาก
กูโง่มาก ที่ไม่เคยรู้เลยว่า นอ เป็นของ อมร
เพราะกูซื้อนิยายกี่เรื่องต่อกี่เรื่อง กูก็ซื้อที่ นอ หมดเลย
นอ มันอยู่ตรงข้ามบ้านกูเอง
แบบนี้ถึงกูจะซื้อของสนพไหน ก็เหมือนแบ่งรายได้ให้ อมร ส่วนนึงปะ
มันร้าย นังนี่มันร้าย 5555
ใครไม่ชอบมัน ต้องภาวนาให้นายทุนที่รวยกว่ามันเข้ามาทำตลาดแข่งแล้วแหละ
แต่กูก็ยังจะซื้อที่ร้าน นอ อยู่ดีนะ เพราะมันใกล้บ้าน
นอ เป็นหนึ่งในเครืออมร แต่เห็นว่าคนละบอร์ดบริหารอะนะ แต่ยังไงก็เครืออยู่ดี ในบรรดาร้านหนังสือทั้งหมดที่เปิดเป็นร้านจริงๆ กูผูกพันกับนอ มาตลอด ซื้อง่าย ชอบฟิลได้หยิบจับหนังสือเองในร้านด้วย เจ้าอื่นที่พอจะโอเคมากน่อยก็บทอ แต่เจ้านี้อยู่ในห้าง ไม่เหมือนนอที่ปลีกย่อยอยู่ในชุมชนมากกว่าอะ พอคิโนะเปิดตัวก็สิงคิโนะ ซื้อหลักๆ เลยมีแค่คิโนะกับนอ ไม่จัดโปรก็ไม่รอด เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครยอมซื้อราคาเต็มแล้ว ราคาปกเองก็บวกโอเวอร์กะลดอย่างน้อย 10-15% แบบที่ตัวเองยังมีกำไรอยู่แล้ว แต่พอสนพ.เล็กวางกับนอเท่ากับทำธุรกิจกันแล้ว รับได้ก็วาง ไม่ได้ก็ไม่เอาเข้าร้านนอไง หลายสนพ.ก็ทำแบบนั้น หลายที่ก็กว่าจะเอาเข้าก็หลังรอบพรีหลายเดือนมากๆ อาจจะเอาสต็อกพิมพ์เกินเข้าด้วยซ้ำ มีโอกาสวาง ได้กำไรส่วนนั้นไป น้อยหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ โลกเรามันเทาทุกอย่างเลย 5555 ได้นั่นเสียนี่เป็นเรื่องปกติว่ะ ขอแค่มันไม่เหลื่อมล้ำหรือบีบกันมากเกินไป กับวงการหนังสือกูว่ามันยังไม่กระทบถึงขนาดนั้น นอ/สนพ.ในเครืออมร จะทำเงินได้สักเท่าไร ขาดทุนก็เอาส่วนอื่นมาโป๊ะๆ อยู่ดี ตอนนี้ขอแค่วงการหนังสือไม่เจ๊งกูก็พอใจแล้ว กูชอบอ่านแบบเล่ม จับต้องได้ ในอนาคตถึงจะมี ebook มากยิ่งขึ้นกูก็ยังเลือกเล่มอยู่ดี ณ ตอนนี้หนังสือเต็มบ้านเลย กูสะสมมาตั้ง 15-16 ปี ชินและชอบกับการจับเป็นเล่ม ชอบกลิ่นกระดาษอ่อนๆ และกลิ่นสเปรย์ในห้องหนังสือกู ถือติดมือไปอ่านก็ยังได้กลิ่นอะ ความสุขจริงๆ ของกูเลย
ปล.ค่านิยมมันเปลี่ยนด้วย แต่ก่อนเวลาหนังสือออก ที่ไม่ใช่ช่วงงานหนังสือ ราคาเต็มกูก็ซื้อ ซื้อกับนอ นี่แหละแต่หลังๆ มานี่โปรมาตลอด ก็เลยรอสอยตอนโปรออกอยู่ดี หนังสือเดี๋ยวนี้แพงอะ ลด 20% บางทีถูกลงไปเกือบร้อยสำหรับเล่มหนาๆ อะนะ มันก็มีกำลังไปเปย์เล่มอื่นอีก
>>961 เห็นเคยมีคนลือว่าโมโน
>>963 หัวเกาหลี/ญี่ปุ่นที่ไม่สืบสวน กับจีนไต้หวันคือ Piccolo
ไม่รู้อะ อันนี้ก็แล้วแต่คนจะคิด แต่กูว่าบางที มันก็ง่ายไปหน่อยอะ ที่บอกว่าถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องทำสัญญาสิ
มันไม่ได้แปลว่าสัญญานั้นจะเป็นธรรมขึ้นมา บางทีก็ไม่มีทางเหลือ เลยต้องจำใจเปล่าวะ
ถ้าอยากให้หนังสือไปถึงคนอื่นเยอะๆ มีวางหน้าร้านก็ต้องทางนี้อะ และก็อาจจะจริงที่คิดเผื่อแล้ว
แต่กูว่ามันก็แอบน่าเกลียดอะ เหมือนไม่ยอมเสียอะไรเองเลยก็ไม่รู้ ผลักให้สนพ. หมด
แถมโปร มันไม่ได้มาตามเทศกาล แบบ สามเดือนมีครั้งไรงี้ มันมีทุกเดือน
แต่มึงอาจจะเห็นเป็นปกติก็ได้ ก็แล้วแต่
โชคยังดีที่สมัยนี้ขนส่งค่อนข้างสะดวก สั่งซื้อจากสนพ. ช้อปปี้ หรือร้านนอกเองง่ายงี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
แต่ถ้าสมัยก่อนก็คือต้องเพิ่งสายส่งลูกเดียวอะ ยิ่งถ้ากระจายออกขายชนบท
แต่เออ ค่านิยมมันก็เปลี่ยนเยอะแหละ ทั้งเรื่องการซื้อ งานหนังสืออย่างที่ว่าด้วย
อย่างยุคหลังนอกจากเราจะรอหนังสือราคาลดแล้ว บางเจ้าก็แอบรู้สึกว่าตั้งราคาเผื่อลดไว้ล่วงหน้าแล้วด้วย
ซื้อๆไปเถอะเมิง มันหมดยุคสายส่งแล้วสำหรับวงการนิยาย หลายสนพเริ่มดึงยอดมาขายตรงเอง บางสนพก็ไม่ลงร้านหนังสือเลย นิตยสารก็ทยอยตายทีละค่าย อีกหน่อยอาจจะเหลือแต่หนังสือเด็กกับหนังสือฮาวทู หรือไม่ก็ปิดไปเลย เหลือแค่สาขาเล็กๆตามห้างใหญ่
เมิงหนีไปซื้อคิโนะนั่นก็นายทุนอยู่ดี เป็นสายส่งเจ้าใหญ่เจ้าเดียวที่เหลือของญป ใหญ่ขนาดข้ามชาติมาได้ ถ้าซื้อซีเอ็ด อมร มันก็ยังวนๆในประเทศบ้าง
คิดถึงร้าน bookfriend ที่เมื่อก่อนขายการ์ตูน ไม่รู้ตอนนี้ยังอยู่ไหม
>>968 กูไม่ได้บอกว่าไม่ต้องขาย กูบอกว่าสนพต่อรองไม่เอาได้อย่างที่กูพูดข้างบน กูเห็น m ที่เพิ่งออกเรื่องยุทธภพก็ไม่เข้าโปรใด คือมันเป็นช่องทางขายอย่างหนึ่งอ่ะมึง ก็เหมือนมายืมที่เขาขายไหม มึงก็ต้องจ่ายค่าที่ แล้วพอเขาจะลดมึงก็บอกมึงจะลดด้วย แล้วเขาก็เเจ้งมึงก่อนแล้วลดนี่ไม่หักจากค่าที่นะรับได้ไหม มึงต้องออกเอง มึงรับได้ก็จบ กูรู้สึกว่าร้านหนังสือไทยจะตายลงทุกวัน นายก็มีภาระที่ยังต้องคีพสาขาให้ได้แม้จะต้องปิดไปหลายสาขาแล้วก็ตาม ยิ่งโควิดปิดห้างก็ตายไปพร้อมหลายๆร้านในห้างนี่แหละ สมัยก่อนนายมันไม่ทีโปรทุกเดือนนะ (ตามร้านสมัยนี้ก็ไม่ มีแค่วันเกิด งานหนังสือ ) ออนไลน์นี่แหละที่มีตลอด เพราะตลาดออนไลน์มันการแข่งขันด้านส่วนลดมันสูง ถึงต้องมาเล่นโปรออนไลน์แบบนี้แทน คนชอบมอกว่ามันได้กำไรจากการหักเปอร์ไปเต็มๆ แต่กูว่าไม่ หักค่านู่นนี่แล้วเหลือกำไรต่อเล่ม10 บาทนี่ถึงไม่รู้ มันมีอะไรที่ต้องเสียเหมือนกัน คือกูเคยเป็นเด็กที่เขาไปอ่านนายแล้วก็ไม่ซื้ออยู่หลายปี กูไบแอสมั้ง อันนี้กูถือเป็นต้นทุนที่ร้านนายต้องแบกรับมาหลายปีเหมือนกันจนคนเลิกอ่านหนังสือ ไม่มีเด็กมานั่งอ่านเหมือนเดิมอีกต่อไป และหลายๆที่แค่ในวงการวายก็ไม่เอาเข้ามันแล้วเพราะตลาดออนไลน์มันแรงกว่าสำหรับสายวาย ซื้อชป.ถูกกว่าอีก เรื่องราคากูว่ามีน้อยที่ซื้อนิยายอมรแบบราคาเต็มลด 15-25% ที่กูหาได้ ซึ่งกูโอเคที่สั่งกับที่ไหนก็ได้เหมือนกันถ้าเป็นพิมพ์แรก ถ้าเป็นที่อื่นรอบพิมพ์หนึ่งรอบพรีนี่ไม่มีทางลด ถึงลดก็ 20-30b ยังไม่รวมส่งอีก มันก็แล้วเเต่กลยุทธการตั้งราคาของแต่ละที่อีก
>>970 มึงต้องเข้าใจก่อนว่าร้านหนังสือแฟรนไชส์ใหญ่ๆนี่เขามีนายทุนหนุนหลัง สนพ.เล็กๆมีทางเลือกแค่ยอมเขา กับไม่ยอม ยอมเขาก็ได้ขาย ไม่ยอมก็ต้องไปหาทางใหม่ แล้วทางใหม่ทางไหน ตั้งร้านหนังสือเองเหรอ ก็เจอเจ้าแฟรนไชส์ใหญ่มาประกบไง ขายออนไลน์เหรอ งั้นออนไลน์เจ้าใหญ่ก็ลดด้วย ลดทุกเดือนไปเลย! เจ้าใหญ่ต้องรับต้นทุนจริง แต่มันเป็นต้นทุนที่เขาทุ่มตลาดเพื่อกินรวบ ต้นทุนที่เขาทุ่มเพื่อให้เจ้าอื่นๆต้องง้อเขา ถามว่าถ้าไม่มีโควิด รายใหญ่มีเงินมาหมุนแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กได้ตลอด มันยุติธรรมกับเจ้าเล็กไหม ก็ไม่เลยนะ รายย่อยต่อรองแทบไม่ได้ ไม่เอาเหรอ เออ ไม่ต้องขายเนอะ ไปหาทางเอง ถ้าอยากให้หนังสือเป็นสินค้าที่ทุกคนเข้าถึงได้จริงๆ เป็นสังคมการอ่านจริงๆ กูว่ารัฐต้องยื่นมือเข้ามาช่วยรายย่อยด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นทุนนิยมผูกขาด เจ้าเล็กจะตาย
>>971 กูเข้าใจๆ แต่กูก็พยายามจะอธิบายเรื่องไม่เข้าโปรว่าสนพ.เล็กก็เลือกไม่เขาโปรได้ ไม่ใช่บังคับทุกสนพ ไม่ใช่ไม่ยอมเข้าโปรก็ไม่ต้องขาย กูบอกในประโยคบนสุดเลยนะ ทำไมทุหคนเข้าใจกูว่ากูไล่พวกไม่เข้าโปรก็ไม่ต้องขาย การเข้าโปรนายก็ต้องเเบกรับต้นทุนมากขึ้น ถ้าเขาเเบกจนขาดทุน มันก็ไม่คิดโปรนี้ขึ้นมาหรอกถูกไหม พอมันมาหักกับสนพสนพไม่พอใจ ก็ไม่เข้าโปรเป็นจบ และจะไม่มีใครต้องง้อนาย ถ้ามีนายทุนอื่นมาเปิดเเข่งกับนาย เหมือนไปรที่ตอนเเรกเเม่งครองตลาด แต่ตอนนี้มันมีคู่เเข่งเยอะ ลูกค้าก็มีทางเลือกเยอะขึ้น แต่อีธุรกิจหนังสือมันกำไรน้อยไง ต้นทุนหน้าร้านก็สูง ลุ่มๆดอมๆมาหลายปี นายนี่ก็จะไปเมื่อไรไม่รู้ และที่สำคัญกูก็บอกอยู่ว่าธุรกิจออนไลน์นายไม่ได้ผูกขาดทุกที่ สนพมีทางเลือกอื่นนอกจากขายกับนายเยอะ
>>971 อีกอย่าง กูว่าข้างบนคุยกันเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กและมันเป็นนายทุนกันจนไม่มีใครไม่รู้ว่ามันมีทุนเยอะนะ ที่กูกำลังอธิบายใน >>970 กูหมายถึงว่ามันไม่ได้ไม่ให้สิทธิเลือกสนพในการเข้าหรือไม่เข้าโปรเลย ไม่ปิดกั้นสิทธิด้วยซ้ำ และมันก็ไม่มีทางจู่ๆลด ต้องมีข้อตกลงอยู่แล้ว ในจุดนี้มึงมองว่าเป็นการบีบบังคับมากไปจนทำให้สนพเล็กๆหายใจไม่ออกหรอ กูว่าก็ไม่ ยิ่งกูบอกเลยว่ายุคออนไลน์เผลอๆนายต้องง้อสนพเล็กๆบางที่ด้วยซ้ำ มึงจะมาบอกว่านี่คือตลาดผูกขาดเพราะมันกินปลาเล็กจนหมดตลาดได้หรอ ในเมื่อเทรนผู้บริโภคก็เปลี่ยนมาช๊อปออนไลน์ไม่ก็รองานหนังสือกันมากขึ้น มันจะผูดขาดตลาดแบบกำไรตอนนี้แนวโน้มเป็นผูกขาดการขาดทุนแทน เป็นตลาดผูกขาดที่มีแนวโน้มจะขาดทุนต่อเนื่องทุกปีขนาดนี้ก็ให้มันผูกขาดการขาดทุนไปคนเดียวเถอะ อย่าคิดว่ามันเป็นปลาใหญ่แล้วต้องได้กำไรเสมอ เห็นที่มันปิดสาขาลงเรื่อยไหมล่ะ ถ้าวันหนึ่งมันล่มไปเลยก็ไม่แปลกนะใจใดๆสำหรับร้านหนังสือที่เหลืออยู่ไม่กี่ร้านในห้างน่ะ
บุคเฟรนของสยาม ไม่น่าตาย แต่ไม่รู้หลังหมดโควิดยังจะกลับมามั้ย ขนาดใกล้บ้านกูกูยังไม่เคยไปซื้อเลย เพราะมันขายราคาเต็ม คือในเวบตัวเองซูเปอร์เซลล์ลด ตาแหกแล้วแต่หน้าร้านไม่ลดไง
นอ.ปีนี้ลดหนักจริงๆมึง โดนปิดสาขาหน้าร้านเป็นแถว ไม่รู้ดีลค่าเช่ากันยังไง แต่กุว่ายอดขายหายหนักมากถึงลด20% อย่างต่อเนื่อง กุว่านี่ไม่ใช่ทุ่มตลาดแต่ มันคือการดิ้นหนีตายจากโควิด
ส่วนเรื่องโปรกับค่าสายส่งที่ไม่เป็นธรรม ถ้าบีบต้นทางจัดโปรแล้วเลือกได้ไม่บังคับก็ปกติมั้ย แม้กูคิดว่าต้องมีบีบหน่อยๆแหละ แต่กูก็ไม่รู้เค้าคุยกันยังไง
มึงต้องอย่าลืมว่าตลาดสิ่งพิมพ์กำลังแย่และมีแนวโน้มจะแย่ลงเรื่อยๆ จะหาคู่แข่งที่อยากรับความเสี่ยงมาเปิดสาขาที่มีค่าจัดการเดือนละเป็นแสนให้ทั่วถึงแล้วยังคุ้มทุนคุ้มกำไรมันไม่ง่ายนะ อัตรากำไรมากเกินควรไหมกูคงวิจารณ์ไม่ได้ แต่มึงจะมองข้ามต้นทุนและเครือข่ายความสะดวก รวมถึงแบรนด์ที่นายทุนใช้เวลาและทุนสะสมมาไม่ได้ ตรงนี้เป็นจุดที่รายเล็กใช้ประโยชน์ได้ทันทีที่ยอมจ่ายค่าฝากขายในเรทที่เค้ากำหนด
กิน popcorn อ่านโม่งเถียงกัน
โม่งการเมืองขึ้นสมอง ทำเนียนๆชักจูงคนแบนอมร ทั้งๆที่นายทุนในวงการหนังสือมีเยอะแยะ
>>977 ว่าก็ว่านะอมรไม่ต้องแบนมันหรอก แบนไปมันก็ไม่สำเร็จเพราะเดี๋ยวพอมันเอาเรื่องดังๆที่พวกมันรออ่านเข้ามา มันก็ไปแห่ซื้อกันอยู่ดี ละพวกสนพ.เล็กๆมันจะเอาเรื่องดีๆสนุกๆเข้ามาสักกี่เรื่องอ่ะ มีปัญญาซื้อLCกี่เรื่อง บางเจ้านี่ยิ่งร้ายเน้นทำอาร์ตสวยๆเข้าว่าแต่เนื้อข้างในนี่ทำกูอยากปาทิ้ง เสียดายเงินชิบหาย เหมือนไม่มีปัญญาซื้อเรื่องสนุกๆท็อปๆมาเลยซื้อเรื่องกากๆมาขายแล้วแก้ปัญหาด้วยการทำอาร์ตให้สวย แค่อาร์ตอย่างเดียวด้วยนะ แปลให้ดีๆจัดหน้าดีๆยังทำไม่ได้เลย คือไม่ใช่สนพ.เล็กทุกที่นะที่จะเป็นเหมือนฝูที่นส.ออกน้อยก็เลยเอาเวลามาทำแต่ละเรื่องให้เต็มที่ คัดเรื่องอย่างดี 80%แม่งผลิตงานกากแล้วก็จากไปด้วยซ้ำ กูก็ต้องเก็บเงินไว้ให้สิ่งที่กูพอเชื่อมั่นในคุณภาพเนื้อหาได้ก่อนรึเปล่า เหมือนมึงบอกให้กูเลิกใส่ผ้าอนามัยเพราะมันเป็นของโรงงานนายทุนใหญ่ มาใส่กาบมะพร้าวดีกว่าสนับสนุนชาวบ้านตัวเล็กๆที่เขารวมกลุ่มกันผลิตขายเงี้ย
>>977 ทำเนียนชักจูงคนแบนอมร? จะขำตาย จะจูงไปทำไม ขืนทำแบบนั้นเจ้าเล็กเดือดร้อนก่อนอยู่แล้ว เพราะเสียค่าสายส่งไปแต่ไม่ได้เงินจากตรงนั้นเลย อมรต่างหากที่ได้เปรียบเพราะขายหนังสือตัวเองค่าสายส่งวนอยู่ในบริษัทตัวเอง เงินจะไปเปย์ลิขสิทธิ์เล่มดีๆก็มี ที่เขียนไปนี่เพราะเจ้าเล็กต้องการความช่วยเหลือจริงๆต่างหาก
ไม่ใช่นายทุนใหญ่ชั่วร้ายเลวทราม แต่ระบบนี้มันไม่เอื้อให้ตัวเล็กๆได้ต่อรองเท่าไหร่ ควรเปิดช่องให้เขามากกว่านี้ อยากให้เปิดช่องให้ตัวเล็กน่ะ เข้าใจไหม ไม่ใช่ให้ไปปิดช่องตัวใหญ่ ลดภาษีกระดาษ ลดภาษีลิขสิทธิ์ ชักชวนให้ร้านหนังสือจัดโปรโมชั่นช่วยรายย่อย แล้วลดภาษีให้ร้านหนังสืออีกที สนับสนุนงานแปลหลายๆภาษาเพื่อให้คนอ่านมีทางเลือกหลากหลาย ไม่ใช่ปัดให้งานแปลเป็นงานจ้างแล้วเก็บภาษีนักแปลเท่าพนักงานบริษัทที่การเงินมั่นคงมีสวัสดิการ ทั้งหมดนี่กูก็ไม่ได้คิดเอง ลอกมาจากแพทเทิร์นที่ประเทศอื่นเขาใช้กันแล้วผลมันเวิร์คทั้งนั้นแหละ ที่อื่นทำได้ ไทยวิเศษมาจากไหนถึงจะทำไม่ได้ และไม่ได้การเมืองขึ้นสมอง แต่วิธีพวกนี้ ถ้าไม่ใช่หน่วยงานใหญ่ๆของรัฐยื่นมือเข้ามาช่วย มันทำไม่ได้จริงๆ
>>974 มึงเห็นเวลาร้านใหญ่ทำคอนเทนต์ลดออนไลน์ใช่มั้ย ส่วนใหญ่มันลดแบบเป็นขั้นบันได ยิ่งซื้อเยอะ เปอร์เซ็นต์ที่ได้ลดก็จะเพิ่ม วิธีแบบนี้ทำได้เฉพาะร้านหนังสือใหญ่ที่มีหนังสือให้เลือกเยอะเท่านั้นแหละ แล้วสนพ.ที่เข้าร่วมช่วยลดทุกอีเว้นท์ แบบว่าก็รู้ๆกันใช่ปะว่าสนพ.ไหน อันนั้นไม่ใช่สนพ.เล็กนะ นายทุนหนุนหลังเหมือนกัน ใหญ่โตโทรคมนาคม สายป่านยาวเหยียดพันรอบโลกได้ค่ะ เขาลดได้เพราะขายของแมส พิมพ์เยอะต้นทุนต่ำ แต่เจ้าเล็กนี่ถ้าไม่ลดตามอาจขายไม่ออก แต่พอลดราคา กำไรก็ลด สนพ.เล็กอีก มีขายแค่ไม่กี่ปก หวังให้ลดแล้วขายได้เยอะๆก็ยากนะ น้ำหนักต่อรองเขาต่ำมากจริงๆ
ถ้าจะแบนอมรกูไม่แบนเพราะเป็นนายทุนหรอก แบนเพราะคุณภาพดีกว่าจ่ะะะ กุหลาบแปลผิดมากี่เรื่องแล้วล่ะ แปลญี่ปุ่นที่โดนแหกว่าผิดยับก็บอกจะตรวจสอบๆ สุดท้ายไม่เห็นตรวจสอบอะไร พอเรื่องเงียบไปก็เอาหนังสือค้างสต๊อกมาโปรโมตในเพจต่อ ทำหนังสือแบบไม่แคร์ผู้บริโภคเลย สักแต่จะขาย เครืออมรหัวอื่นก็เหมือนกัน สมัยก่อนมีแต่หนังสือคุณภาพดี ทุกวันนี้แม้แต่เรื่องดังระดับหนังบล็อกบัสเตอร์ยังมีแปลบ้ง กูจะบ้า
ไปพ่วงการเมืองซะงั้น ไอ้นโยบายส่งเสริมรายย่อยจากภาครัฐที่มึงบอกอ่ะกุเห็นด้วย ไทยไม่ส่งเสริมตรงนี้จริงจังจริงๆ ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดอมรที่ต้องมาอุ้มคนเดียวเพราะกุทุนใหญ่อ่ะ ถ้ากุเป็นเจ้าของกูก็ไม่เอาอ่ะกำไรไม่ได้จะทำธุรกิจไปทำไมขาดทุนขึ้นมาก็เงินกูล้วนๆอ่ะ
ถ้าจะพ่วงการเมืองกุก็ขอนอกเรื่องว่ากูไม่เห็นด้วยกับการแบนสีผี หรือสารพัดแบนทั้งหลาย รวมถึงไม่เห็นด้วยกับนโยบายส่งเสริมเจ้าสัวรายเดิมๆของภาครัฐด้วย กุมองว่าทุกวันนี้ไม่ใช่เล่นกันอยู่ประเทศเดียวแล้ว โน่น ข้างนอกทุกประเทศรอรุมฉกเงินคนไทยอีกเป็นฝูง คนไทยพออะไรโตก็ช่วยเหยียบกันลงมาเพราะหาว่าผูกขาดไม่ชอบใจอย่างเดียว อีกหน่อยก็ตายหมดไปซื้อของจากนายทุนต่างชาติแทนหมดสิ เพราะไม่มีอะไรโตพอจะไปแข่งสนามระดับโลกแม้แต่อย่างเดียว
สต.กูคิดว่ารัฐบาลควรให้เลิกซัพทุนเก่าสู้ตลาดในประเทศแล้วซัพเฉพาะที่ส่งออกพอ ในประเทศไปสนับสนุนกลุ่มตั้งใหม่ให้ลืมตาอ้าปากได้จะดีกว่า ส่วนพวกมึงก็ต้องช่วยอุดหนุนของแพงที่บริการดีมีมาตรฐานเพราะไม่มีความประหยัดต่อขนาดไปก่อน (ซึ่งเอาจริงๆแม่งก็ยาก เพราะกูจน งกและขี้เกียจ) ช่วยให้มันโตมาแข่งกันได้อีกที แต่ก็นั่นแหละความสามารถก็ต้องมีมากพอด้วยไม่ใช่แค่อาศัยแรงซัพ มันหนีการแข่งกับแชมป์เก่าไม่ได้อยู่แล้ว ความสามารถในการเบียดตลาดด้วยตนเองมันก็ต้องมี
>>981 อย่างงั้นมึงไม่ต้องแบนแค่อมรหรอก มึงแบนทั้งวงการวายเลยดีกว่า มาตรฐานโคตรต่ำ ชุ่ยกันทั้งวงการ ขนาดแจ่มที่ว่าแปลจีนดีๆ วายไทยแม่งยังมาตรฐานต่ำชิบหาย เขียนให้เป็นภาษาไทยยังไม่ได้เลยบางเรื่อง กูไม่สนเรื่องเล็กใหญ่แล้วจริงๆถ้าคุณภาพมันยังทำได้แค่นี้ เรื่องดังๆก็ทำดี เรื่องไม่ดังเท่าก็ชุ่ยไป แต่ขนาดบางเรื่องอย่างดังก็ไม่เห็นมันจะทำดี มึงดูอย่างเมืองยิ้มได้LCเรื่องดังนขดังไปหลายเรื่อง มันทำดีขึ้นแค่ไหน พิสูจน์อักษรทำงานบ้างมั้ย ซบ.ได้เรื่องดีๆมามันแปลออกมายังไง ถ้าแบนกูแบนทั้งวงการวายเลยดีกว่า ไม่อ่ายวายกูก็มีอย่างอื่นให้อ่าน แกล้งๆแบนดูเผื่อมันจะเห็นหัวผู้บริโภคขึ้นบ้าง
>>982 เอ่อ มึง คือมึงจะไม่เห็นด้วยกับการแบนสีผี อันนี้กูโนคอมเมนต์ แต่มันคนละกรณีกัน อมรมันทุนใหญ่จริง แต่มันไม่ได้แดกตลาดเข้าไปคนเดียว มันใช้วิธีเป็นพันธมิตรกับเจ้าอื่น ซึ่งถ้าใครไม่พอใจและใหญ่พอก็ไปล็อบบี้แข่งกับมันได้ ยังมียักษ์ประจำวงการอยู่อีกสามสี่ตัว แต่สีผีซื้อแอสการ์โก้สมควรผิดกฎหมายโมโนโพลีจริงๆนะ แดกส่วนแบ่งตลาดเข้าไปคนเดียวแปดสิบกว่าเปอร์ แต่มติคณะกรรมการดันไฟเขียว ทั้งที่แม่งไม่ควรเขียวอ่ะ ถ้าใครจะมองว่าไม่สมควรสนับสนุนและรณรงค์ให้แบน กูว่าก็ควรเข้าใจเขาด้วยว่ะ
>>980 เรื่องอำนาจต่อลองของสนพเล็กนี่กูเข้าใจว่าน้อย แต่กูเห็นคนว่าเหมือนมันบังคับมัดมือชกไม่มีทางปฏิเสธผูกขาดสุดๆไม่มีทางเลือกเลย กูเลยไม่เห็นด้วยเท่าไร และกูเห็นด้วยกับมึงมากว่าปัญหามันไม่่ได้อยู่ที่นายทุนมันอยู่ที่ประเทศเราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่มีงบที่จะอุ้มชู ไม่เห็นถึงความสำคัญของมัน ซึ่งตอนนี้มันกระทบเป็นวงกว้างกับคนที่อยู่ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ ทั้งเรื่องกระดาษที่หลายโรงพิมพ์เปลี่ยนจากซื้อกระดาษในประเทศเป็นซื้อกระดาษจากจีนแทน คนเก่งๆไม่ค่อยอยากเข้าไปทำเพราะเงินเดือนน้อยทำให้งานไม่มีคุณภาพ หน้าร้านหนังสือที่ถยอยปิดเพราะสู้ค่าที่ค่าแรงที่พุ่งสูงส่วนทางกับยอดขาย มันเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากการที่ภาครัฐไม่สนับสนุนจริงๆ
กุเห็นพวกมึงคุยกันยาวมาก เหมือนคุยเรื่องเดียวกันแต่จับคนละประเด็น สรุปให้กูสั้นๆทีกุโง่
สรุปที่มึงเถียงกันคือเรื่อง
อมรเป็นนายทุนเลยทุนหน้า โปรยเงินซื้อแต่ลิขสิทธิ์เรื่องดังตัดหน้าจนเจ้าเล็กไม่ได้แดรก ถูกปะ
เรื่องดังไม่ดังนี่วัดที่อะไร แปลเถื่อนยอดดีหรอ ถ้างั้นกุไม่นับว่าดังนะ บางเรื่องยอดวิวในจจท็อปในไทยตุ๊บ บางเรื่องกริบในไทยแมส กุว่าการขายนิยายได้เรื่องนึงใช้องค์ประกอบหลายอย่าง
กูว่าแบนเหี้ยไรไม่ได้ทั้งนั้นอะ ไม่ว่าจะเป็นสนพใหญ่หรือเล็กหรือคุณภาพไม่ดี เพราะยังไงถ้าเรื่องมันสนุก แม้คุณภาพจะดรอป ก็จะมีคนซื้ออยู่ดี
เหมือนแบนสีผี เห็นรณรงค์ให้แบนๆ สีผีไม่กระทบเลย คนก็ยังซื้อเยอะเหมือนเดิม
เหมือนพวกขี้แพ้ชวนตีอ่ะ หาคนเกลียดเพิ่มเป็นเพื่อน นายทุนมันก็ตั้งหลายสนพ เจาะจงแค่อมร
นิยายนอกกระแสที่จีนที่มาดังเปรี้ยงๆในไทยก็เยอะแยะ บางเรื่องดังๆมาทำแล้วแป้กเพราะสนพกากก็มี เงินมันไม่ใช่ทุกอย่าง สนพเล็กๆแต่ตั้งใจแปลตั้งใจทำนิยายมันก็ดังได้
>>993 ขี้แพ้ชวนตี 5555555 พูดอย่างกับคนที่มาถกๆกันในนี้เป็นคนสนพ.เล็กงั้นแหละ หลายๆคนก็แค่ผู้บริโภคปะวะ ผู้บริโภคแสดงความเห็นเกี่ยวกับสนพ.ไม่ได้อ่อ?? ที่บ่นๆกันนี่ก็ซื้อของกุหลาบกันทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นจะไปรู้เรอะว่าคุณภาพมันแย่อ่ะ หรือผู้บริโภคต้องซื้ออย่างเดียว แสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวทางของสนพ.ไม่ได้เลย????
>>990 คนอื่นเถียงเรื่องไรกูไม่รู้ ประเด็นกูคือเจ้าเล็กไม่มีพาวเวอร์มากพอจะไปสู้กับทุนใหญ่มากมาย บางครั้งเจ้าเล็กก็ไม่มีทางเลือก ไม่ได้ชักชวนให้แบนทุนใหญ่ เพราะด้วยโครงสร้างนี้ แบนไปเจ้าเล็กก็เสียหายหนักกว่าอยู่ดี ไม่ได้เจาะจงโจมตีอมร แต่เขาคุยเรื่องอมรกันอยู่เฉยๆ กูก็ยกตัวอย่างตามไป
ว่าแต่มีใครชักชวนให้แบนอมรด้วยเหรอ กูไม่เห็น
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.