แว่วเสียงมีดสับกระทบเขียงมาแต่ไกล ในครัวสำหรับฝึกสอนทำอาหารตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เหล่านิสิตชายหญิงภาควิชาคหกรรมศาสตร์กำลังเดินสวนกันบริเวณทางเดินตรงกลางให้วุ่น สองข้างทางคือเคาน์เตอร์บาร์ขนาดย่อมฝั่งละหกเคาน์เตอร์ที่ถูกกั้นเป็นสัดส่วน ในเคาน์เตอร์หมายเลขหนึ่ง เด็กหนุ่มตัวสูงกำลังก้มตัวแล่ปลาอย่างตั้งใจ
เนื้อปลาทับทิมสดทั้งสองด้านถูกแล่ออกจากโครงปลาอย่างประณีต นายเปมทัตในชุดเชฟสีขาวกระดุมดำวางเนื้อปลาลงบนเขียงก่อนจะแบ่งเป็นหกส่วนเท่าๆ กัน เขาหยิบผ้าเช็ดมือสีขาวออกมาจากผ้ากันเปื้อนสีดำแบบครึ่งตัวที่สวมอยู่เพื่อเช็ดมือ รอจนน้ำมันในกระทะร้อนได้ที่เด็กหนุ่มก็หย่อนโครงปลาลงไปจนเกิดเสียง มือหนาจับตะหลิวพลิกโครงปลาอย่างชำนาญ พักกระทะไว้ ก่อนจะหันมาเทแป้งสาลีใส่ถุงร้อนปริมาณหนึ่งในสี่ของถุง
“เปรมจ๋า ข้าวสุกแล้วนะ”
เปมทัตหันไปพยักหน้า เส้นผมสีดำประบ่าถูกรวบเก็บเข้าไปในหมวกเชฟสีขาวเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ขึ้นเงาเพราะอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน “ไอมาทำปลาคลุกแป้งที เดี๋ยวเค้าไปเอากะทิ” เด็กหนุ่มหย่อนเนื้อปลาทับทิมสองชิ้นลงถุงไป ใช้นิ้วปิดปากถุงไว้ เขย่าให้ดูแล้วพูดว่า “ทำแบบนี้นะ”
ไอริณขานรับ เด็กสาวอยู่ในชุดเชฟแบบเดียวกับพาร์ทเนอร์ เธอเห็นเพื่อนหันไปมองโครงปลาในกระทะจึงพูดว่า “เดี๋ยวไอเอาขึ้นให้เอง เปรมไปทำต้มข่าไก่เถอะ”
เปมทัตเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ เครื่องปรุงทั้งหมดวางอยู่บนรถเข็นแสตนเลสหน้าห้อง เขาตวงกะทิตามปริมาณที่ต้องการ แบ่งเครื่องปรุงที่จำเป็นใส่ถ้วยเล็ก ก่อนจะเรียงทุกอย่างลงบนถาดแล้วถือกลับเข้ามา โดยไม่ลืมที่จะหยุดหน้าเคาน์เตอร์ตัวเองเพื่อหยิบเนื้อไก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและวัตถุดิบอื่นๆ ที่ต้องใช้มาจากโต๊ะยาวกลางห้องด้วย
“เอ้าห้าโมงกว่าแล้วนะเด็กๆ เร่งมือเข้า” อาจารย์สาวประจำวิชาเดินตบมือเข้ามาเรียกความสนใจ “วันนี้เคาน์เตอร์หมายเลขหนึ่งเป็นเวรเก็บกวาดใช่ไหม ทำเสร็จแล้วมาเช็ดรถเข็นกับเอาผ้าขี้ริ้วไปต้มด้วยนะลูก”
“ค่า” ไอริณขานรับ เธอคลุกเนื้อปลากับแป้งเสร็จแล้ว กำลังเตรียมทอด
เปรมพูดว่า “เดี๋ยวเค้าจัดการต้มข่าไก่เอง ไอริณทำปลาสามรสไปนะ” เด็กสาวหันขวับ เธอพูดตาถลน “ไอทอดปลาให้ได้ แต่น้ำจิ้มสามรสเปรมทำนะ!”
เปรมทำท่าจะท้วง แต่พอเห็นสายตาอ้อนวอนจากอีกฝ่ายเขาก็ยอมพยักหน้าให้
“เย้! เค้าอยากกินปลาสามรสฝีมือเปรมมานานแล้ว” ไอริณร้องอย่างร่าเริง เปรมล้างตะไคร้กับข่าพลางพยักหน้าหงึกหงัก เมื่อเด็กสาวหันไปทอดปลาต่อ เขาก็เอาผักมาสะเด็ดน้ำแล้วเริ่มทุบตะไคร้ก่อนจะหั่นเฉียง มือหนาหั่นข่าเป็นแว่น ฉีกใบมะกรูด ตามด้วยนำหางกะทิใส่หม้อ ขึ้นตั้งเตาที่ไฟแรงปานกลาง
ไอริณทอดปลาเสร็จแล้ว เด็กสาวช่วยหั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำระหว่างรอเปรมทำน้ำจิ้มสามรส
“หม้อเดือดได้ที่แล้ว ไอใส่เครื่องได้เลย แต่อย่าเพิ่งใส่ไก่นะ” เปรมกำชับ ไอริณทำตามอย่างว่าง่าย เด็กหนุ่มเทน้ำจิ้มสามรสที่ปรุงเสร็จใส่ถ้วยแสตนเลส เด็กสาวเดินมายืนข้างกัน
“ให้ไอจัดจานเสิร์ฟแล้วเปรมไปเคี่ยวเถอะ ไอไม่โปรว่ะ” ไอริณพูดเสียงอ่อน เปรมหันไปมอง “ไม่เห็นเป็นไร ใครๆ ก็ทำได้ ไอไม่ลองเคี่ยวดูล่ะ” เด็กสาวส่ายหน้าก่อนจะยิ้มแป้น “ไม่เอาอะ รอกินฝีมือเปรมดีกว่า เปรมทำอร่อย”
เด็กหนุ่มมองแล้วยิ้มตาม เขาเดินไปเคี่ยวต้มข่าในหม้อ ระวังไม่ให้กะทิแตกมัน ช่วงเวลานี้เองที่เปรมได้ยืนนิ่งๆ บ้างเสียที ดวงตาสีนิลกวาดมองรอบตัว เพื่อนๆ เองก็ดูวุ่นวายกับเมนูที่ได้รับไม่แพ้กัน
แต่ละคู่จะได้รับสองเมนูที่แตกต่างกันออกไป เคาน์เตอร์ที่ทำเสร็จก็เริ่มยกอาหารของตัวเองมาวางบนโต๊ะกลางกันบ้างแล้ว ในท้ายชั่วโมงพวกเขาทั้ง 19 คนจะรับประทานอาหารที่แต่ละกลุ่มปรุงร่วมกันเหมือนทุกที
“เฮ้ยไอ้เปรม!” เด็กหนุ่มผมโกรกสีทองเดินมาหา เปรมเรียกชื่อเขา “ไงไอ้ได หมูต้มเค็มถึงไหนแล้วมึง”
ไดนาไมต์ทำหน้าเหยเก “โคตรเค็มอะ ใครแดกหมดมึงมาเอาไตกูไปได้เลย กูให้” เปรมหัวเราะเพื่อนสนิท ก่อนจะชะเง้อหาอีกคน “ครัวไอ้สามทำไรวะ”
“ไอ้สามมันทำไอ้นี่...แกงจืดหมูสับกับไข่พะโล้ แม่งโคตรน่าแดกอะ” ไดนาไมต์ตาวาว เปรมพ่นลมหายใจกลั้วขำ ตอนนี้เขาใส่ไก่ลงไปในหม้อแล้ว เป็นจังหวะที่ไอริณเอาจานปลาทับทิมสามรสที่ตกแต่งสวยงามไปวางเรียบร้อย