ปิ๊ป ๆๆๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกครับ ดังอีกแล้ว เลยเอื้อมมือไปปิดคับ แล้วนอนต่อ (-“-)
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมองนาฬิกานั่นแหละครับเลยเวลาปลุกมาเกือบชั่งโมง ตอนนั้นลนลานมากคับทำอะไรไม่ถูก รีบอาบน้ำแต่งตัว แล้ววิ่งสุดแรงเกิดเลยคับมารอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าคอนโด วันนี้เป็นอะไรไม่รู้คับ รถคันไหน ๆ ก็เต็มขึ้นไม่ได้เลย สงสัยคนตื่นสายกันหมด ( หรือว่าแบ๊งค์ไม่ชินเองกับการขึ้นรถเมล์ ) ไม่รู้จะไปไงคับ จะขึ้นแท็กซี่ รถแท็กซี่เจ้ากรรมก็ดันหาย บางคันก็มีลูกค้า วันนี้ต้องไปสายแน่เลยคับ คิดแล้วก็นั่งปลงตกที่ ป้ายรถเมล์อยู่คนเดียว แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีรถสปอร์ต สีดำติดฟิล์มทึบเข้ามาจอดหน้าป้ายรถเมลล์คับ จากนั้นกระจกก็ค่อย ๆ เลื่อนลง
“นี่ ๆ น้องคนนั้นอ่ะ ชื่อแบ๊งค์ที่เป็นน้องรหัสพี่ใช่มั้ย” แบ๊งค์ก็เลยหันไปมองต้นเสียงคับ พี่อาร์ทคับ คนขับรถคันนั้นคือพี่อาร์ทพี่รหัสของแบ๊งค์เอง
“ค...คับ....” แบ๊งค์ตอบ
“ขึ้นมาเร็วเดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่อาร์ทเรียก แต่แบ๊งค์ยังคงเงอะงะอย
“ขึ้นมาเหอะ สายขนาดนี้อ่ะรถหมดแล้ว” พี่อาร์ทเร่ง แบ๊งค์เลยขึ้นรถพี่อาร์ทไป ระหว่างทางบนรถนั้นมีแต่ความเงียบ พี่อาร์ทคงสังเกตเห็นว่าแบ๊งค์นั่งเกร็ง ๆ ก็เลยพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ ว่าแต่...เราไม่ใช่คนกรุงเทพฯใช่มั้ย” พี่อาร์ทถาม
“ค...คับ...เป็นคนเชียงใหม่” แบ๊งค์ยังคงเกร็งอยู่
“ก็ว่า....สายขนาดนี้ยังมานั่งรอรถอีก คนกรุงเทพฯอ่ะเค้าไม่มานั่งรอกันแล้วเวลาขนาดนี้อ่ะ
“พี่อาร์ทพูดแล้วหัวเราะแหะ ๆ
“คับ.....พอดีขึ้นรถเมล์คนเดียวไม่เป็นอ่ะคับ มีคนพาขึ้นตลอด” แบ๊งค์ตอบไป
“แล้วปกติมามหาลัยยังไงล่ะ?” พี่อาร์ทถาม
“มีเพื่อนมาส่งครับ แต่ตอนนี้เค้าไปรับน้องคณะวิทย์อ่ะคับ”
แบ๊งค์อธิบายไป พี่อาร์ทก็ผงกหัวงึก ๆ รับคำตอบไป แบ๊งค์ยังคงเกร็งต่อไป ก็แบ๊งค์กับพี่อาร์ทเคยคุยซะที่ไหนล่ะ เดินสวนกันยังไม่ทักกันเลยต่างฝ่ายต่างไม่ยอมทักไม่รู้เป็นอะไร ไม่เหมือนพี่รหัส-น้องรหัสคู่อื่น ๆ แค่เจอหน้ากันระยะ 100 เมตร ต่างฝ่ายก็ต่างเดินเข้าหา ถามกันต่าง ๆ นานา คงเป็นเพราะแบ๊งค์ไม่ค่อยไปไหนด้วยมั้ง ว่าง ๆ ก็เอาแต่นั่งหน้าตึก ส่วนพี่อาร์ทก็เอาแต่เล่นบาส ต่างฝ่ายต่างทำกิจกรรมของตัวเองไป เลยไม่ค่อยได้เจอและสนิทกันเหมือนพี่รหัส-น้องรหัสคู่อื่น ๆ
“ขอบคุณมากนะคับ” แบ๊งค์พูดหลังจากที่รถของพี่อาร์ทเข้าจอดที่ลานจอดรถ
“อืม ไม่เป็นไร ทีหลังอย่านอนตื่นสายอีกล่ะ” พี่อาร์ทพูดและยิ้มให้ก่อนแบ๊งค์จะลงจากรถ
เมื่อลงจากรถก็ได้เรื่องเลยคับ คิดไว้อยู่แล้ว มีสายตาจากคนรอบข้างมองมาที่แบ๊งค์เป็นตาเดียว ยิ่งสายตาของพวกผู้หญิงที่จ้องมานะ ประมาณแกเป็นใคร? มากับพี่อาร์ทได้ยังไง? เห็นแล้วน่ากลัวจัง เห็นแค่นั้นก็รีบเลยคับ ไปนั่งที่เดิมด่วน ไม่สนใจใครแล้ว
“มาสายนะไอ้ตัวเล็ก” พี่ตั้มครับนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวประจำของแบ๊งค์แล้วทักขึ้น ผมก็เดินเข้าไปนั่งดิคับ โต๊ะตัวอื่นมีคนนั่งหมดแล้ว
“นี่ ๆๆ มีมารยาทหน่อยดิ คนอื่นเค้านั่งอยู่ จะขอซักคำมีมั้ยอ่ะ” พี่ตั้มพูดขึ้นมา
“ก็แบ๊งค์เห็นว่า ที่โต๊ะตรงนี้มีแค่นาย...เอ้ยพี่ตั้มนั่งอยู่คนเดียวไม่เห็นมีคนอื่นมานั่ง”
ในเมื่อมันว่างอยู่ แบ๊งค์ก็มีสิทธิ์นั่ง หรือว่ามันจะมีใครบางคนจะใช้อำนาจเผด็จการ และไร้ซึ่งน้ำใจไม่ให้แบ๊งค์นั่งหรอคับ” แบ๊งค์แย้งออกไป ทำเอาพี่ตั้มทำหน้าแหยเก
“เออ ๆๆๆ มึงอยากนั่งก็นั่ง” พี่ตั้มพูดดูท่าไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่
วันนั้นก็ผ่านมาได้โดยที่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกคับ ตอนเย็นแบ๊งค์ยังคงกลับบ้านกับนายกาวเหมือนเดิมเพราะยังไม่ค่อยชินในการขึ้นรถเมล์เท่าไหร่ กาวมันก็เลยอาสา กลายเป็นว่าตลอด 7 วันนี้แบ๊งค์ต้องกลับบ้านกับนายกาวทุกวัน โดยที่กาวจะพาขึ้นรถและสอนเส้นทางต่าง ๆ ที่จำเป็นให้ นี่ถ้าเป็นเชียงใหม่นะแบ๊งค์คงไม่ต้องลำบากเพื่อนขนาดนี้หรอก โบกรถได้อย่างเซียนต่อรถไปได้ทั่วเชียงใหม่
แต่พอมากรุงเทพฯแล้ว เอ๋อ.. รับประทานเลยคับ สายไหนเป็นสายไหนไม่รู้จริง ๆ วันนี้ยังคงเล่นเกมเหมือนเดิมครับ แต่ไม่เล่นเหมือนเมื่อวานอีกแล้วนะ เข็ดแล้วเดี๋ยวไปเรียนสายอีก มันคงไม่โชคดีแบบนี้ทุกวันหรอก
วันนี้ตื่นเช้าครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะไปสายอีก ตอนนี้กำลังจะไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ครับ คนเยอะกันจริง ๆ ระหว่างที่กำลังเดินก็มีรถคันหนึ่งบีบแตรขึ้นมาครับ เล่นเอาตกใจเลยก็เลยหันไปมองว่าเกิดอะไร