>>166 ช่วงนี้ คือกูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าอ่านอะไรกัน พักนี้กูไม่ค่อยได้ส่องรีวิวหรือเรื่องใหม่ ๆ เท่าไร ส่วนใหญ่กูหลงไปเจออันไหน หรือหยิบอันไหนขึ้นมาอ่าน เมื่อไรก็เมื่อนั้น
>>169 timing นี่กูดองลืมเลย กูไม่ค่อยมีเล่มไหนหยิบมาอ่านซ้ำนะ
ส่วนเรื่องพีค ๆ ของกูที่อ่านไปช่วงปีสองปีนี้
If We Could Go Back ถ้าให้พูดตรง ๆ ก็คือคบชู้ ทั้งสองฝ่ายเลย ตัวเอกทั้งคู่แต่งงานมีเมียมีลูกแล้ว ได้มาเจอกันบนรถไฟเข้าเมือง เจอกันบ่อยก็เริ่มเป็นเพื่อนกัน เริ่มจากเพื่อนแล้วมากกว่า พบกันในจังหวะที่ต่างฝ่ายต่างโหยหาในสิ่งที่ขาด ทั้งที่ชีวิตคนนอกคงมองว่าดีมากทั้งคู่ (หน้าที่การงานดี อายุยังน้อย ครอบครัวดูสมบูรณ์แบบ) แต่ลึก ๆ คงเหงากัน ฝ่ายนึงคือเมียเรียนอยู่ต่างเมือง ไม่ค่อยอยู่กับครอบครัวเท่าไร มีลูกเร็วเพราะจิ้มพลาดสมัยเรียน(มั้ง ลืม) ส่วนอีกฝ่ายเป็นเกย์ เมียก็รู้นะ แต่พ่อแม่พี่น้องไม่รู้ บางคนแอนตี้เลย กูชอบจุดที่มันค่อย ๆ ซึมลึกความสัมพันธ์ หลายปีเหมือนกันกว่าจะถึงจุดชู้ มีการย้ายมาอยู่บ้านติดกัน ลูก ๆ ก็เป็นเพื่อนกัน เลิกงานก่อนกลับบ้านก็ไปแฮงก์เอาท์กัน จนความสัมพันธ์มันเกิดอะ โอย ก็รู้นะว่า cheating แต่ตอนอ่านช่วงที่นอกใจคบหามีอะไรกันแล้ว กูก็เชียร์คู่นี้ มันมีฉากที่เจ็บ เจ็บแบบรักของเรามันไม่ถูกต้อง ต้องแอบคบหา ต้องมองภาพเขาอยู่กับคนของเขา แต่สรุปจบดีไหม บอกเลยว่าดี พอมาถึงจุดหนึ่ง Ben ตัดสินใจที่จะถอยออกมา ไม่อยากแอบคบกันแบบนี้ และรู้ว่าตัวเองไปกับเมียไม่ได้แน่ก็ขอหย่า แล้วก็ขอยุติความสัมพันธ์กับ Kieran ด้วย แต่ Kieran ไม่อยากเลิกกับ Ben เลยไปเคลียร์กับครอบครัว เปิดตัวเคลียร์กับทางบ้าน ถึงกับโดนซ้อม เมียก็ไม่เข้าข้างด้วย สรุปแล้วก็ได้กลับมาคบกันแบบไม่มีชนักติดหลัง จบแบบอบอุ่น ลูก ๆ ก็รักกันดี มาอยู่กับสองตัวเอกหมดเลย เรื่องนี้รีบะ มีฉากน้อยมากเมื่อเทียบกับเนื้อหา
ที่จริงเล่มนี้เป็นเล่ม 6 ของชุด แต่มีตัวละครจากเล่มอื่นมาโผล่บ้าง กูอ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรก ไม่มีปัญหาอินโฟดัมป์ ตัวละครทะลักเลย เพราะสองตัวเอกเล่มนี้ไม่ค่อยมีเพื่อน (ชีวิตคนเหงา) แต่มีตัวละครที่น่าสนใจที่กูลองตามไปอ่านเล่มหลักของเขาแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร แล้วก็ตกใจตอนตัวละครจากเล่มอื่นโผล่มาเยอะจนจำตามไม่ทัน
อีกเรื่อง Infamous - Jenny Holiday นี่ก็เล่มสอง แต่กูอ่านแค่เล่มนี้เพราะเล่มแรกชายหญิง
คู่นี้เจอบนรถไฟเหมือนกันเลย คนนึงเป็นนักร้องนำวงร็อค อีกคนเป็นหมอเด็ก คุยกันถูกคอ เลยแลกเบอร์กันไว้ แต่สองปีผ่านไปค่อยได้ติดต่อกัน เพราะเด็กผู้ป่วยเป็นแฟนเพลง หมอเลยติดต่อนักร้องให้มาเยี่ยมเด็ก เรื่องนี้เริ่มจากเพื่อนเหมือนกัน แต่หมอเป็นเกย์ เลิกกับแฟนเก่าเพราะแฟนเก่าไม่อยากเปิดตัวให้คนรอบตัวรู้ ส่วนนักร้องเคยมีรูปแอบถ่ายนัวเนียกับคนที่ไม่ใช่แฟนสาวดาราคนดัง เลยเลิกกัน พวกเอเย่นต์/ผู้จัดการก็ขายภาพลักษณ์นักร้องเพลงร็อคเสือผู้หญิงอะไรก็ว่าไป เลยต้องปิดว่าตัวเองชอบผู้ชายด้วย ห้ามเป็นเกย์/ไบ ตอนสองปีผ่านไปนั่น วงร็อกกำลังดังได้ที่ กูอ่านแล้วพระเอกแม่งหล่อรวยดี มีความติ่งนักร้อง (แต่ส่วนตัวกูว่ามันเหมือนผิดยุคไปหน่อยในด้านแนวเพลง) มีฉากพระเอกสายเปย์ด้วย รพ.ประมูลหนุ่มสาวโสดเพื่อการกุศล หมอก็โดนประมูลกะเค้าด้วย นักร้องมีหรือจะยอม หวงค่ะดูออก ใจป๋ามากเรื่องจำนวนเงิน แต่เฉไฉบอกว่าเพราะผมคิดจะบริจาคให้รพ.อยู่แล้ว
ในเรื่องมีฉากจี๊ดสำหรับกู คือพระเอก/นักร้องต้องรักษาภาพลักษณ์กับข้อตกลงกับบริษัท เลยต้องให้ข่าวว่าไม่ได้เป็นไรกับหมอ คิดมาก มีการวางสคริปท์แก้ข่าวอย่างดี ฉากนี้เล่าจากมุมมองหมอ เห็นสกู๊ปข่าวในทีวี ซึ่งกูแบบ ใจกู สงสารหมอ หมอเสียใจหนีไปเป็นหมออาสาในแดนสงครามหายไปหลายเดือนเลยจ้า แต่นักร้องง้อได้ดีมาก กูให้อภัย กูชอบ หล่อ กูชอบ คือเขาไม่ได้บรรยายว่าหน้าตานักร้องหล่ออะไรขนาดนั้นหรอก แต่กูอ่านแล้วรู้สึกตัวละครมันหล่อ เวลาเล่าจากมุมมองหมอ ก็หล่อลากสไตล์คนดัง ดูมั่นใจ คนไรทำไรดูดีไปหมด แต่เวลาเล่าจากมุมมองนักร้อง นักร้องก็จะมีฟีลไม่มั่นใจบ้าง รู้สึกเหมือนหลงหมอเป็นลูกหมาเลย แต่หมอดันไม่รู้ตัว/// ถ้ากูจำไม่ผิด เรื่องนี้ไม่รีบะ แต่ดูทรงมันก็สลับได้นะ หมอมีพูดไว้อยู่ แต่หมอชอบรับ