เรื่องย้ายไปอยู่ก็ยินดีด้วยนะ แต่เขาคงไม่ได้ถึงกับเอาทรัพยากรมาดันน้องรัวๆหรอก วีในค่ายก็เริ่มเยอะแล้ว แถมโปรเจคด้านEsportของเสี่ยดูไบก็ต่อแถวรออีก นี่มองว่าเขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับน้องนั้นละว่าถ้าทำผลงานเป็นที่น่าพอใจจะทำเรื่องวีซ่าให้
ส่วนเรื่องย้าย ไปอยู่ที่แปลกตาแปลกไปถึงจะพูดได้แต่คงต้องปรับตัวอีกเยอะ ก็รอดูกันว่าน้องจะปรับตัวยังไงบ้างเพราะถ้าต้องอยู่ระยะยาวเป็นปีๆเนี่ยมันไม่เหมือนไปเที่ยวแค่ไม่กี่วันอยู่แล้ว ค่าครองชีพก็สูงขึ้น บริการสั่งข้าวเข้าบ้านก็ไม่ได้เหมือนที่ไทยละ คงต้องมีไปช็อปจ่ายหาของกินมาตุนเอยอะไรเอยอีก ไหนจะเรื่องระเบียบวินัยต่างๆที่ทางฝั่งนั้นเขาไม่เหมือนเรา ส่วนเรื่องความประสาทแดรกของคนญี่ปุ่นก็มีไม่ซ้ำบ้านเราด้วยต้องเตรียมตัวรับมือตลอดนั้นละ
พูดก็พูดเถอะหลายคนอาจจะแซวน้องเบลว่าอายุเยอะ(จริงๆยังไม่30 20ปลายๆมันก็ไม่ได้ถึงกับเยอะนะอายุยังน้อยด้วย โม่งบางคนอาจจะ 50 แล้วมั่งนี่กูนี่ละคนหนึ่ง) แต่การออกไปอยู่คนเดียวต่างบ้านต่างเมืองเนี่ยต้องดูแลชีวิตเยอะมาก นี่เคยไปอยู่ฝั่งยุโรปมา 5 ปี ด้วยสภาพอากาศและอะไรบอกเลยปรับตัวเยอะ ป่วยก็หาหมอลำบากด้วย ข้าวนี่ก็ต้องแดรกเป็นเวลากลางค่ำกลางคืนร้านปิดหมด วันหยุดร้านปิดหมดทำข้าวกินเอง
แต่ถ้าเราเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมแล้ว เราก็พร้อมจะปรับตัวได้ ก็หวังว่าน้องเบลจะเตรียมอะไรหลายๆอย่างให้พร้อมสำหรับจุดเปลี่ยนของชีวิตอะนะ