>>756 เปล่า คือมี Master (นายท่าน) จ่ายอาหารให้ โปรเกม่อน อีกทีถ้าไม่แดกก็หวดด้วยไม้ ผิดๆ
สรุปนะ
1. มีคนไปคุยงานกับลูกค้า ไม่ให้โปรแกรมเมอร์รับงานมึนๆ ตรงกับเซล คือให้เป็นสิ่งสุดท้ายที่ลูกค้าต้องการ แบบลูกค้าต้องการผัดกระเพราใส่ไข่ดาวนะ ไม่ใช่หมูทอดกระเทียมใส่ไข่เจียว
2.จากนั้นไอ้คนที่คุยกับลูกค้าจะส่งงานต่อให้ผู้กำกับ หรือเป็นผู้กำกับเองแล้วแต่กำลังทรัพย์ของบริษัท มาสั่งแบ่งงาน เช่น ลูกกระจ๊อก a ไปหุงข้าว ลูกกระจ๊อก b ไปผัดกระเพรา ลูกกระจ๊อก c ไปทอดไข่ ทำเสร็จให้รายงานด้วย ถ้าทำแล้วติดขัด เช่นลูกกระจ๊อก c เปิดเตาแก๊สไม่เป็น ไอ้ผู้กำกับอ้อมึงเปิดเตาแก๊สไม่เป็นเหรอ งั้นมานี่เปิดก้น (ไม่ใช่ๆ) ก็ไปสอน หรือไม่ก็ให้ไอ้ b ไปช่วยหน่อย
3.จากนั้นก็รวมใส่จานส่งให้ลูกค้า
* วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับทำอาหารตามสั่ง ที่คนครัวคนเดียวผัด 2 จานในเวลาเดียวกัน ไม่งั้นคนทำแม่งอาจจะมึน อาจจะได้กระเพราไข่เยี่ยวม้าใส่ไข่เจียว แทน สุดท้ายลูกค้าบอกกูไม่ได้สั่งแบบนี้ ไล่กลับมาทำใหม่
* ข้อเสียทำทีละ order ถ้าคนเยอะทำหลายๆ order ก็ได้ แต่ลูกกระจ๊อก 1 ตัวมันทำงานได้ทีละอย่าง ดังนั้นถ้าบริษัทมี ไม่กี่คน เช่น เซลขายงาน โปรแกรมเมอร์ ทำงาน ส่งจบแบบนี้เอาระบบ agile มาใช้ไม่ได้แน่นอน เรื่องของเรื่อง เพราะคนเก่งแบบทำได้หลายหน้าที่หายาก แล้วทำงานหลายอย่างยังไงก็มึน สู้ใช้หลายคนหน่อย จัดงานไม่ให้มึน หาคนมาทำงาน งานจะง่ายกว่าแถมเร็วด้วย เพราะโฟกัสทีละงาน แต่เนื่องจากมันใช้หลายคนดังนั้น agile ไม่เหมาะสำหรับทำงานราคาถูกเท่าไหร่