กู >>220 นะ
>>223 มึงเล่าแค่สิ่งที่ถนัด ไม่ถนัดก็พอแล้ว เล่ามากคนฟังก็รำมึง คิดง่ายๆอะ ถ้ามึงเป็นคนสัมเด็กใหม่ มึงอยากฟังเรื่องอะไรบ้าง มึงก็พูดตามนั้น
แต่ติดตลกบ้างก็ดี แม่งช่วยเปลี่ยนบรรยากาศเครียดๆให้กันเองจนกรรมการมันเริ่มเปิดใจให้มึงได้ แต่ดูหน้าแม่งด้วยนะ บางคนแม่งก็ไม่ฮาจริงๆ
แล้วถ้ามึงกลัวว่าพูดสั้นนะ มึงเอาโปรเจ็คมึงอะมาบรรยายเลย บอกว่าอะไรจากไหนยังไง ถ้าคนสัมมึงแม่งเป็นนะ มึงก็แต้มบวก ถ้าแม่งไม่เป็นยิ่งหวานเลย
กูเคยไปสัมที่นึง กรรมการทั้งห้องแม่งไม่มีใครรู้เรื่องเขียนโปรแกรมจริงๆเลยไอสัด แบบเอา HR มานั่งอะ กูแม่งก็เล่าไปๆ เล่าแต่ไอเรื่องดีๆ
เรื่องคอนเซ็ปนะ โม้ไปเรื่อยๆอะ แม่งกลายเป็นคิดว่ากูเก่ง รับเฉยเลย แถมต่อรองเงินเดือนได้ด้วยนะ (ตอนนั้นงานที่แรกกูเลย start 23k)
แต่กูก็เขียนได้จริงๆนะ แค่ไม่แม่นทฤษฎีเท่าไหร่
>>223 กูเข้าใจมึงเลย กูเขียนโปรแกรมได้ท็อปๆของรุ่นนะ แต่กูเสือกมีปัญหากับอาจารย์ โดนแม่งแกล้งตอนสอบปลายภาคได้ 0 เลยเย็ดเหี้ย เกรดหายไปเลยอะ 40 คะแนน ซึ่งจาก ปสก กู กูค้นพบเทคนิคทำให้เกรดมึงหมดความหมายเว่ย มึงแค่ยอมไปทำงานกับ บ เล็กๆ เงินเดือนกากๆซักปี แล้วพอมึงมีประสบการณ์ + มีผลงานซักนิดที่โชว์ได้เท่านั้นล่ะ มันจะมีพวก HR โทรหาจีบมึงบ่อยๆแน่นอน ที่สำคัญ เริ่มกับ บ เล็กๆแม่งดีอย่างนะ ยิ่งพวก บ ตั้งใหม่อะ คือมึงไม่ได้ทำแค่เขียนโปรแกรมแน่ๆ มึงอาจต้องดูฐานข้อมูล ทำหน้าเว็บให้เขา หรือแม้แต่ลงวินโด้ด้วย คือมึงจะเป็นรอบด้านกว่าทำ ม ใหญ่ๆที่ทำงานซ้ำๆ พออยู่ไปซักพัก มึงก็เขียนไลบรารี่ใช้เอง จนมึงแทบไม่ต้องทำอะไรใหม่ๆแล้ว จาก ปสก ที่กูอยู่ บ เล็ก แม่งเขียนแทบทุกอย่างเลยสัด php html css c++ obj-c mssql ชงกาแฟ ส่งพัสดุ นวดไหล่หัวหน้า บลาๆๆ
>>225 เขียนแอปแม่งไม่ง่ายนะมึง กูนอนเอาตีนก่ายหน้าผากคิดมาครึ่งปีละ กูยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเขียนแอพไรให้คนโหลดดี
>>227 ไม่แน่เสมอไป เพื่อนกูกากกว่ากูอีก แต่เขาเสือกรับเพราะแม่งตอบคำถามๆนึงได้(ไม่เกี่ยวกับโปรแกรมมิ่ง) ในขณะที่กุตอบผิด
ส่วนเรื่องฝึกงานมันขึ้นอยู่กับ ม แล้วก็ คณะ มั้ง กูเห็นเพื่อนกูเรียนเอกภาษา แม่งก็ไม่ได้ฝึกงานนะ