เคสของหมอบุญมีคนที่ผมรู้จักโดนกันเยอะ แต่ละคนที่โดนไปไม่น้อย มีตั้งแต่ 5 ล้าน 20 ล้าน 60 ล้าน 100 ล้าน
แต่คนที่โดนหนักสุดคือ 2,000 ล้าน ตามที่ข่าวปรากฏ
คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มีฐานะและฉลาด แต่ก็ยังมีโอกาสโดน จากที่ผมวิเคราะห์มาเพราะ
1. หมอบุญมีเครดิตทางสังคมที่ดีมาก่อน เนื่องจากเป็นเจ้าของโรงพยาบาลชั้นนำ บริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์
2. โครงการที่จะไปทำเป็นโครงการที่ดูดี มีอนาคต และมี story telling
3. มีการค้ำประกัน ทั้งในส่วนของใบหุ้นและเช็คการันตี โดยมีอดีตภรรยาและบุตรเป็นผู้ค้ำ
4. ไม่มีใครคิดว่าคนระดับนี้จะทำ
5. ให้ผลตอบแทนที่แน่นอน มีการจ่ายดอกเบี้ยให้ในช่วงแรก
6. มีความรู้สึกปลอดภัยกว่าการซื้อหุ้นสามัญ เพราะหุ้นมีขึ้นมีลง แต่การปล่อยกู้โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันมีดอกเบี้ยซึ่งให้ผลตอบแทนที่แน่นอนกว่า
จากเดิมผมคิดว่าเคสนี้เป็นการกู้ยืมเงินธรรมดา เพียงแต่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ความผิดคือ พรบ.เช็คที่เป็นอาญา และคดีแพ่งที่เป็นการกู้เงิน
แต่ถ้าโครงการทั้งหมดที่โฆษณามา 5 แห่ง ไม่มีจริง คดีนี้จะกลายเป็นคดี ฉ้อโกงประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยเทียบเท่ากับคดี STARK ทันที เพราะมูลค่าความเสียหายอาจพุ่งสูงถึง 20,000 ล้านบาท
ล่าสุดตามข่าว หมอบุญออกจากประเทศไทยไปฮ่องกงและไปต่อที่จีนแล้ว ในขณะที่อายุ 86 ปี สำรวจทรัพย์สินทั้งบ้านทั้งรถที่ดิน ถูกโอนออกจากขื่อหมอบุญหมดแล้ว
คดีที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง ผมมองว่า บางคนตกกระไดพลอยโจน อย่างแซม ยุรนันท์ ถ้าดูเจตนา ผมว่าเขาไม่มีเจตนาฉ้อโกง แต่โชคร้ายเพราะอยู่ในขบวนการที่กำลังเจอกระแสสังคมกดดันหนัก
เพราะถ้าคนที่มันจะโกงตั้งแต่แรก มันจะผ่องถ่ายทรัพย์สินออกจากตัวเองจนหมด ไม่ให้ทางการตามได้
แสดงว่าเคสนี้เจตนาชัด
สิ่งที่จะปกป้องเราจากเรื่องพวกนี้
1. ต่อให้รวยขนาดไหน อย่าไปเชื่อ เพราะคนรวยก็มีทั้งคนดีและคนเลว แต่ให้พิจารณาผลตอบแทนและความเสี่ยงจากข้อเท็จจริง
2. อะไรที่ too good to be true มักไม่จริง
3. ก่อนจะลงทุนอะไร ให้เขียน worst case scenario เสมอว่ารับได้หรือไม่ ถ้าไม่ อย่าลงทุน
4. Scuttlebutt ในทุกสิ่งที่เข้าไปลงทุน ทำการบ้านให้หนัก
5. ใครที่อวดรวย อ้างนามสกุลดัง ไอ้พวกนี้ให้ระวังเป็นพิเศษ เพราะของจริงเขาจะไม่พูดเยอะ
6. อย่าโลภ เพราะความโลภอาจบังตาเราทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้
7. มีการทำ asset allocation ให้ชัดเจน โดยการแบ่ง portion ตาม risk management
8. เงียบ นิ่ง มีสติ หยุดคิด ก่อนจะตัดสินใจ
9. ศึกษาหาความรู้ให้แตกฉาน จะได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น และเห็นทางเลือกอีกมากมาย ที่ไม่ใช่การปล่อยกู้ได้ดอกเบี้ยสูง