ควำ่บาตรห่าไรของแม่วะ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยกระดับสถานะของรัสเซียก้าวมาเป็นเศษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลก บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity หรือ PPP)
PPP เป็นการเปรียบเทียบผลิตภาพทางเศรษฐกิจและมาตรฐานการครองชีพระหว่างประเทศต่างๆ โดยมันเกี่ยวข้องกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่เปรียบเทียบสกุลเงินของประเทศต่างๆ ผ่านแนวทาง "ตะกร้าสินค้า" กล่าวคือ PPP คืออัตราแลกเปลี่ยนที่สกุลเงินของประเทศหนึ่งจะถูกแปลงเป็นสกุลเงินของอีกประเทศหนึ่งเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจำนวนมากในปริมาณเท่ากัน
ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก World Economic Outlook ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ไอเอ็มเอฟระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของรัสเซียในปี 2024 เทียบเท่ากับ 3.55% ของจีดีพีโลก ในแง่ของ PPP แซงหน้าญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ที่ 3.38%
อ้างอิงรายงานดังกล่าว รัสเซียก้าวขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของโลก ในแง่ของ PPP รองจาก จีน (18.8%) สหรัฐฯ (15%) และอินเดีย (7.9%)
ข้อมูลล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่าในบรรดาเศรษฐกิจชั้นนำของโลกในแง่ของ PPP มีประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS รวมอยู่ด้วยถึง 3 ชาติ ได้แก่ จีน อินเดีย และรัสเซีย รายงานระบุ พร้อมชี้ด้วยว่าการยกระดับขึ้นของรัสเซียส่วนหนึ่งได้แรงขับเคลื่อนจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก
"ทุกวันนี้เราจำเป็นต้องดำเนินการทดแทนการนำเข้าเชิงรุกและวางรากฐานการผลิตของตนเอง เพราะฉะนั้นการก้าวมาเป็นอันดับ 4 เป็นสิ่งที่คาดหมายไว้อยู่แล้ว" เอฟเกนีย์ บาลัตสกี หัวหน้าศูนย์วิจัยเศรษฐกิจมหภาคแห่งมหาวิทยาลัยไฟแนลเชียลกล่าว "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่นมา รัสเซียแซงหน้าบรรดาคู่แข่งจากยุโรปชาติแล้วชาติเล่า ทั้งสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และตอนนี้ก็ญี่ปุ่น" เขากล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน อันทอน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซียบอกว่าสัดส่วนของบรรดาประเทศกลุ่ม BRICS ในจีดีพีโลก เมื่อวัดโดย PPP กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แตะระดับ 36.7% ในปัจจุบัน
ข้อมูลของไอเอ็มเอฟแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนในจีดีพีโลกของบรรดาประเทศในกลุ่มจี 7 (แคนาดา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อิตาลี สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และอียู) ในแง่ของ PPP ได้ลดลงมาแล้ว โดยลดลงจากระดับ 50.42% ในปี 1982 เหลือแค่ 29% ในปี 2024
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของรัสเซียในปี 2024 และตอนนี้คาดหมายว่าจีดีพีของประเทศแห่งนี้จะขยายตัว 3.6% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดประมาณการไว้ว่าจะเติบโตราว 3.2% อย่างไรก็ตาม สถาบันที่มีสำนักงานในวอชิงตันแห่งนี้ปรับลดคาดการณ์สำหรับปีหน้า โดยประมาณการว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะขยายตัวเพียง 1.3% จากเดิมที่คาดการณ์ขยายตัว 1.5%