ขณะนี้ยูเครนมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เครื่องจากทั้งหมด 9 เครื่อง ที่ยังคงทำงาน 100% ส่วนที่เหลืออีก 7 เครื่อง อยู่ภายใต้การควบคุมการทำงานที่ระดับ 40-90% สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างหนักเมื่อคืนที่้ผ่านมา
• ยูเครนมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 4 แห่ง มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 15 เครื่อง โดยที่ 6 เครื่องอยู่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporozhye NPP และมีจำนวน 9 เครื่องเท่านั้นที่สามารถเดินเครื่องได้
• ขณะนี้การผลิตไฟ้าจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 9 เครื่อง มีเพียง 2 เครื่องเท่านั้นที่ผลิต 100% ส่วนที่เหลืออีก 7 เครื่อง การผลิตไฟฟ้าลดลงอยู่ระหว่าง 40% ถึง 90%
• เจ้าหน้าที่ประจำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Khmelnytskyy รายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณสถานีไฟ้าย่อยในพื้นที่โรงไฟฟ้าระหว่างการโจมตีของรัสเซียวันนี้
• ขณะที่ทีมงานที่ประจำการอยู่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Rivne รายงานว่า ระบบสายไฟฟ้าแรงสูงไม่สามารถใช้งานได้ หลังจากถูกโจมตีที่สถานีไฟฟ้าย่อย(Substation) ขนาด 330 kV.
• สถานีไฟฟ้าย่อย(Substation) จะทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพของระบบแรงดันไฟฟ้า โดยควบคุมการส่งไฟฟ้าแรงสูงบนโครงข่ายไฟฟ้า และการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องการกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องและคงที่เพื่อให้ระบบมีความปลอดภัย หากไม่มีการจ่ายไฟฟ้า (ผลิตอย่างเดียว) เชื้อเพลิงภายในแกนของเครื่องปฏิกรณ์อาจเสี่ยงต่อความร้อนสูงเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการปลดปล่อยกัมมันตภาพรังสีที่เป็นอันตรายได้ และนั่นทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องเข้าสู่สถานะ cool down ซึ่งขณะนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดของยูเครนจำเป็นต้องรับไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยรักษาระดับให้คงที่
• "ยูเครนมีสถานีไฟฟ้าหลายพันแห่ง แต่สิ่งที่เสี่ยงคือสถานีไฟฟ้าที่0สำคัญ 10 แห่ง ซึ่งเชื่อมโยงกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การทำลายสถานีไฟฟ้าเหล่านี้อาจทำให้ประเทศตกอยู่ในความมืดมิดและก่อให้เกิดภาวะฉุกเฉินด้านกัมมันตภาพรังสีได้" German Galushchenko รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของยูเครนกล่าวในวันนี้